วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เล่มที่ 14 ตอนที่ 6 : ดินแดนแห่งความฝัน แปลโดย คุณ luke

เล่มที่ 14 ตอนที่ 6 : ดินแดนแห่งความฝัน แปลโดย คุณ luke

ยูนิคอร์น
คำๆนี้ ความจริงแล้วเป็นชื่อของสัตว์ในเทพนิยาย แต่หากผู้คนเกาหลีส่วนใหญ่ได้ยิน สิ่งที่พวกเขาส่วนใหญ่จะนึกถึงก็คือ บริษัทยูนิคอร์น คอร์ปเปอร์เรชั่น
บริษัทหนึ่งเดียวซึ่งเป็นผู้พัฒนาและบริหารเกม Royal Road!
ไม่ใช่เรื่องเกินเลย ที่จะพูดว่า พวกเขากวาดเอาเงินจำนวนมหาศาลจากทั่วโลกด้วยการสร้างโลกใบใหม่อย่าง Royal Road ขึ้นมา ยูนิคอร์นเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของเครือข่ายวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับแคปซูล(เครื่องเล่น VRในนิยาย)และคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา
แม้จะหักค่าต้นทุนที่ใช้ในการดูแลเครื่องเซิร์ฟเวอร์และการพัฒนาของ Royal Road แล้ว กำไรต่อเดือนของบริษัทนี้ก็ยังคงสูงเฉียดฟ้าอยู่ดี
ไม่เพียงเท่านั้น ยูนิคอร์นยังเป็นบริษัทชั้นนำในอีกหลายแขนง อาทิ เครือข่ายการสื่อสาร ธุรกิจการ์ตูน นวัตกรรมรูปถ่ายและวีดิโอ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบันเทิง และอีกมากมายหลายสาขา(Luke:ครองโลกเหอะครับ)
บริษัทยูนิคอร์นซึ่งเป็นผู้พัฒนา และรังสรรค์โลกใบใหม่ขึ้นมาได้ สร้างคลื่นที่สั่นสะเทือนไปทุกวงการทั่วทั้งโลก และยิ่งทำให้บริษัทขยายตัวยิ่งขึ้นไปอีก
โลกเสมือนจริงใบแรกของมนุษยชาติ Royal Road
แทบทุกภาคส่วนธุรกิจของบริษัทยูนิคอร์นอิงอยู่กับ Royal Road และตัวเกมเองเน้นไปที่เสถียรภาพและการดึงดูดผู้เล่นใหม่ๆ
ในช่วงเวลากลางงานประชุมสำคัญระหว่างหัวหน้าแผนกและผู้บริหารของบริษัทยูนิคอร์น
จาง ยุน ซู หัวหน้าหน่วย กุลยุทธ์การตลาดระยะยาว กำลังดำเนินการประชุม
ผู้บริหารคิม เพื่อให้การประชุมนี้ดำเนินไปอย่างราบลื่น พวกเราต้องการข้อมูลอ้างอิงจากคุณด้วยครับ ตอนนี้อัตราการเติบโตของผู้เล่นของเราเป็นยังไงบ้าง?”
ผู้บริหารคิม ฮาน ซอ พลิกหน้ากระดาษผ่านข้อมูลต่างๆ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อออกจากหน้าผาก แล้วใช้สายตาเฉียบคมมองไปที่สมาชิกทุกคนที่อยู่ในการประชุม
แน่นอน ผมเป็นผู้รับผิดชอบ เทพเจ้าแห่งเวอร์เซล นี่นะ
เทพเจ้าแห่งเวอร์เซล
เป็นชื่อของ AI ซึ่งจัดการดูแลทุกๆความเป็นไปในทวีปเวอร์เซลล์



คิม ฮัน ซอ รวบรวมนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ 17 คน เพื่อช่วยกันสร้าง AIตัวนี้ขึ้นมา
AI ซึ่งดูแลการกำเนิดของทวีปเวอร์เซล และทุกๆรายละเอียดในทวีป
มันเป็นผู้สร้างที่แท้จริงของ Royal Road และผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียว!
ตอนนี้ AI จัดการทุกๆอย่างด้วยตัวเอง พวกเขาเพียงแค่เฝ้าดูมันทำงานเท่านั้น รายงานทุกๆอย่างที่มันสร้างขึ้น ถูกจัดเก็บไว้ในที่ที่เดียว นั่นก็คือ แผนกจัดการระบบของ คิม ฮันซอ
พวกคุณคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว ข้อมูลที่ผมกำลังจะเปิดเผยเป็นความลับสูงสุดของบริษัท และไม่ว่าจะด้วยเหตุใดๆก็ตาม คุณไม่มีสิทธิเปิดเผยมันสู่สาธารณะ
ซึ่งรวมถึงครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องของคุณด้วยเช่นกัน หลังจากนี้เป็นต้นไป ทุกๆคนโปรดอยู่ในความสงบด้วย
สมาชิกที่เข้าร่วมประชุมได้สาบานตนว่าจะเก็บความลับไว้แล้วก่อนเข้าร่วมประชุม
ทุกๆคนพยักหน้าเงียบๆ เป็นสัญญาณ
หัวข้อที่กำลังจะสนทนากันสำคัญมาก มันสามารถเปลี่ยนแปลงแก่นฐานของทวีปเวอร์เซลทั้งทวีปได้
คนพวกนี้ไม่โง่ถึงขนาดจะไม่รู้ว่าจะเกิดความโกลาหลขนาดไหน หากข้อมูลนี้ถูกปล่อยออกไป
งั้นเรามาเริ่มกันเลย  ผู้เล่นระดับแนวหน้าส่วนใหญ่มีเลเวลต่ำกว่า 430 เล็กน้อย
พวกเขามีจำนวน 890คน ค่อนข้างใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของเรา

Royal Road นั้นมีกลุ่มเป้าหมายทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพียงเกาหลีเท่านั้น
อัตราการเติบโตของเกมนั้นเป็นไปอย่างราบลื่น ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นส่วนมากเป็นคนเกาหลี
ในทุกๆเกมที่ถูกสร้างขึ้น มักจะมีผู้เล่นกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการเล่นเกมให้จบ
และเพราะมีผู้เล่นกลุ่มนั้นอยู่ ประวัติศาสตร์แห่งทวีปเวอร์เซลก็ถูกเปลี่ยนแปลงอยู่หลายครั้งหลายครา
แผนกความสัมพันธ์กับสาธารณะ และ แผนกปฏิบัติการ ไม่สามารถเพิกเฉยกับความพิเศษของผู้เล่นกลุ่มนี้ได้
รองหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศ ซู อิน เฮ ซึ่งมาแทนหัวหน้าฝ่าย ยกมือ
ดิฉันมีคำถามค่ะ ผู้เล่นต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่ม อเมริกา และจีนไปถึงเลเวลเท่าไหร่กันแล้วคะ
พวกเขายังมีเลเวลค่อนข้างต่ำ เพราะเมื่อตอนที่ Royal Road พึ่งเปิดให้บริการแรกๆ พวกเขามีโอกาสเข้าถึงเกมได้น้อยกว่าคนเกาหลี แต่พวกผู้เล่นต่างประเทศกำลังพัฒนาตัวละครอย่างต่อเนื่องอยู่ในบริเวณเมือง และเกาะต่างๆ
อเมริกา และจีน ต่างแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับ Royal Road อย่างชัดเจน พวกเขาทำใจเชื่อไม่ได้ว่า บริษัทยูนิคอร์นจะสามารถสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมาได้

แม้ว่าทฤษฎีของยูนิคอร์นจะละเอียดถี่ถ้วน และพวกเขาพิสูจน์การมีอยู่ของโลกเสมือนได้แล้วก็ตาม อเมริกากับจีนก็ยังคงมองไปทางด้านลบเพียงอย่างเดียว
- โลกเสมือนจริงแห่งแรก มันยังเร็วเกินไป
บริษัทของเกาหลีงั้นรึ ? ช่างเป็นการประกาศที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างที่สุด

แม้แต่นักวิทยาศาตร์ของเกาหลีเองตอนแรกที่ได้ยินก็ยังคิดว่าพวกเขาล้อเล่นกันขำๆ
แต่ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ
ทุกคนบนโลกสามารถเล่น Royal Road ได้ แต่ผู้เล่นจากต่างประเทศเข้าร่วมทีหลัง ทำให้ผู้เล่นเกาหลีมีเลเวลนำไปก่อน
มีผู้เล่นหลายคนจากต่างประเทศ แต่เพราะพวกเขาเริ่มเกมค่อนข้างช้า จึงตามหลังผู้เล่นเกาหลีอยู่มาก
ผู้เล่นต่างประเทศมักอยู่ในเมืองเล็กๆ และเกาะในภาคกลางของทวีป แต่เพราะโปรแกรมแปลภาษาอัตโนมัติ ทำให้เชื้อชาติของพวกเขาไม่ถูกเปิดเผย
ทุกๆคนพูดภาษาเดียวกันใน Royal Road ดังนั้นเชื้อชาติจึงไม่ค่อยมีความหมายอะไรมากนัก
หัวหน้าฝ่ายจัดการบริหาร ซอน อึล จาง หัวเราะคิกคัก
เป็นเรื่องที่น่าโล่งใจไม่ใช่หรือครับ เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย จะสามารถขึ้นเป็นจักรพรรดิได้
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะครับ
จาง ยุน ซู ยิ้ม
ใน Royal Road นั้น ผู้ที่ได้เป็นจักรพรรดิของทวีปเวอร์เซล จะได้รับส่วนแบ่ง 10%จากกำไรรายเดือนของบริษัทยูนิคอร์นเป็นรางวัล การได้เป็นจักรพรรดินั้นเป็นเป้าหมายสูงสุดของเกม และผู้เล่นที่สามารถทำมันให้เป็นจริงได้ จะได้รับผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงเลยล่ะ
(Luke://ผมคิดว่าพระเอกยังไม่รู้เรื่องนี้)
การแข่งขันอย่างหนักของผู้เล่นส่วนใหญ่ก็เพื่อเงินรางวัลก้อนนี้
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเงินแล้ว ยังมีรางวัลเฉพาะอื่นๆด้วย อาทิ
ได้เป็นหุ้นส่วน 5% ของบริษัทยูนิคอร์น
นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยรับผิดชอบทำโปรเจคนี้ ในขณะที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทคนอื่นๆไม่เห็นด้วย แต่แผนกข้อมูลและยุทธศาสตร์การทำงานผลักดันสนับสนุนข้อเสนอนี้ จนในที่สุดก็ทำให้มันรวมอยู่ในรางวัลได้สำเร็จ
ผู้ที่จะเป็นจักรพรรดิได้ต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จักรพรรดิสามารถทำลายได้ทุกอย่าง เช่นเดียวกัน สามารถสร้างได้ทุกสิ่งตามแต่ความต้องการของตน
แม้แต่บริษัทซึ่งสร้างและปรับปรุงระบบเศรษฐกิจ โดยอิงจากทวีปเวอร์เซล อย่าง ยูนิคอร์น ก็ไม่ปลอดภัยจากเงื้อมมือของจักรพรรดิ
แม้แต่เทพผู้สร้างทวีปเวอร์เซลเองก็ไม่สามารถแตะต้องจักรพรรดิได้(มันมีกฏหมายคุ้มหัว)
จักรพรรดิแห่งโลกเสมือนจริงซึ่งมีผู้เล่นกว่า ร้อยล้านคนทั่วโลก
มันเป็นรางวัลลับที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ สาธารณะชนจะรู้ยิ่งนัก (Luke://อย่าให้วีดรู้ล่ะ)
* * *

การประชุมถูกจัดขึ้นในช่วงเช้า มีเนื้อหาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์กับสาธารณะ ระบบสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ๆ และหุ้นส่วนทางธุรกิจ
แม้กระนั้น สมาชิกที่เข้าร่วมประชุมก็ไม่ได้คุยกันเกี่ยวกับ บาร์ด เรย์ ผู้เล่นเลเวลสูง หรือหัวหน้ากิลด์ต่างๆ  กลับกัน พวกเขาคุยกันเกี่ยวกับหัวข้อสำคัญอื่นๆ
นักกลยุทธ ยุน ยัง ซึล เป็นผู้รับผิดชอบงานนี้ เมื่อเร็วๆนี้ npc จากอาณาจักรแห่งฮอร์ด เริ่มได้รับความนิยมเพราะมีหน้าตาน่ารัก ผมส่งเอกสารวิเคราะห์ข้อมูลตัวละครไปแล้ว คุณได้เปิดอ่านบ้างหรือยัง?”
ดิฉันได้รับเอกสารแล้วค่ะ ทางเรากำลังเร่งผลิต npc ตัวดังกล่าวอยู่”(Luke://คงผลิตตุ๊กตาขายล่ะมั้ง)
มีผู้เล่นที่ใช้ ยานพาหนะเดินเครื่องโดยระบบปิโตรเคมี(น้ำมัน) สำหรับวันหยุดพักผ่อนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้เล่น เพราะ ราคา ความเร็ว และความปลอดภัยของมัน พวกคุณคิดยังไง หากเรานำมันมาติดตั้งในรีสอร์ทของเรา?”
การเดินทางคมนาคมในรีสอร์ทรึ? อืม...ไม่ว่าจะใช้สำหรับปีนเขา เล่นสกี หรือแม้กระทั่งเล่นกอล์ฟ ผมก็เห็นด้วยว่ามันมีแนวโน้มจะให้ผลลัพธ์ที่ดี ผมจะเก็บไว้พิจารณาละกัน
มันเป็นการประชุมสบายๆ
หัวหน้าแผนกต่างๆกินแซนด์วิชไปพลาง คุยกันไปพลาง
แต่ในทันทีที่มื้อเช้าจบลง บรรยากาศรอบๆตัว หัวหน้าแผนกการตลาดระยะยาว จาง ยุน ซู ก็เปลี่ยนไป
เออ....ผมคิดว่า เราควรตรวจสอบ ดุลยภาพภายนอกของพลังใน Royal Road ครับ
หัวหน้าแผนก ซอน อึล จาง ยืนขึ้น แล้วเปิดหน้าจอที่ใจกลางห้องประชุม เส้นแบ่งเขตแดน ปราสาท และเมืองของแต่ละกิลด์ถูกแสดงไว้บนแผนที่
พลังโดยรวมของทวีปเวอร์เซลสามารถแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้ ใจกลางทวีป 66% ตะวันออก 10% ตะวันตก 8% ภาคใต้ 13% และภาคเหนือ 3%”
จาง ยุน ซู ชี้ไปที่ธงซึ่งถูกตั้งไว้ในพื้นที่ต่างๆ
ภาคตะวันออกนั้นใหญ่กว่าที่เราคาดการณ์ไว้ มีกิลด์ กิลด์หนึ่งยึดครองหมู่บ้านไว้อยู่ สมาชิกแต่ละคนก็มีเลเวลสูงมากด้วย
อ้างอิงจากผู้เล่นใหม่ อาณาจักรหลายแห่งที่อยู่เลย ที่ราบแห่งความสิ้นหวัง กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ส ออร์คเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างชัดเจนเช่นนี้
มันเป็นภาพที่หาดูได้ยาก หลายเผ่าพันธุ์มารวมตัวกัน ประกอบไปกับการพัฒนาของออร์ค ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสมดุลของพลัง
มีผู้เล่นหลายคนกำลังโซโลผจญภัย ในอาณาจักรโบราณของภาคใต้ ส่วนภาคเหนือนั้นแม้จะมีผู้เล่นอยู่น้อย แต่เพราะความขัดแย้งทางทรัพยากรที่แผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง นักรบที่แข็งแกร่งกำลังถูกขัดเกลาจากสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายอยู่…..ในส่วนของบริเวณที่ผมคิดว่าเราต้องโฟกัสเป็นพิเศษ ก็คือบริเวณใจกลางทวีปครับ
หัวหน้าแผนก ซอน อึล จาง ผายมือไปทางใจกลางของทวีปเวอร์เซล ที่ซึ่งอาณาจักรคาลามอร์ และอาณาจักรฮาเวนตั้งเบียดเสียดกันอยู่ ทั้ง2เป็นประเทศยักษ์ใหญ่(Luke:ถ้าให้เปรียบก็คง US:Russia)
ด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจของอาณาจักรทั้ง 2แล้ว  พวกเขายังคงสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีก อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 อาณาจักรนี้มีอัตราการเติบโตที่เทียบไม่ได้กับบริเวณอื่นๆเลย กระผมขอเสนอให้จับตามองผู้เล่นจำนวน 149 คนนี้ไว้
จาง ยุน ซู ถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ
ได้สิ แต่ว่าคุณใช้เกณฑ์อะไรในการคัดเลือกผู้เล่นเหล่านี้ครับ?”
อิทธิพล และเลเวลครับ
แสดงว่าผู้เล่นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ต้องเป็นหัวหน้ากิลด์ ขุนนาง หรือไม่ก็ เจ้าเมืองสินะครับ


แม้แต่คนระดับสูงอย่าง จาง ยุน ซู เอง ก็ไม่ได้รับข้อมูลสำคัญก่อนการประชุม แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถนำออกไปจากห้องประชุมได้เช่นกัน ดังนั้น ข้อมูลจะถูกแจกจ่ายเฉพาะระหว่างการประชุมเท่านั้น
ใช่ครับ ถึงแม้จะมีผู้เล่นที่โดดเด่นหลายคนจากการเล่นแบบโซโล แต่ว่าอิทธิพลจากการเล่นคนเดียวนั้นมีจำกัด มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ นี่คือผู้เล่นจากกิลด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีป
สมาชิกในที่ประชุมดูข้อมูลของผู้เล่นทั้ง 149 คนกันเงียบๆ ในห้องประชุมจึงเหลือเพียงเสียงพลิกหน้ากระดาษเท่านั้น
ข้อมูลพวกนี้ต่างจากข้อมูลที่ถูกแชร์ลงในเว็บบอร์ดเกมหรืออินเตอร์เน็ต มันถูกรวบรวมจากแผนกข้อมูลและยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ดังนั้นมันจึงมีความน่าเชื่อถือสูง
หากได้อ่านเอกสารเหล่านี้ จะสามารถรู้ทั้งเชื้อชาติ และเพศของผู้เล่น
ถ้ามีกิลด์ๆหนึ่งที่แข็งแกร่งกว่ากิลด์อื่นอย่างเด่นชัด กิลด์ที่เหลือจะก่อตั้งพันธมิตร 5-6 กิลด์ เพื่อต่อต้าน และในบางโอกาศ กิลด์10กว่ากิลด์ก็สู้กันในประเทศประเทศเดียว
เพราะมีผู้เล่นจำนวนมากในทวีปเวอร์เซล มันจึงเป็นเรื่องปกติ เมื่อไหร่ก็ตามที่ความสมดุลของพลังถูกเปลี่ยน ผู้แพ้สงครามจะถูกดูดกลืนโดยผู้ชนะ และเมื่อมันเกิดขึ้น ผู้ชนะก็จะสร้างศัตรูเพิ่มอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
มีสงครามหลายครั้งที่ทำให้สมดุลอันบางเบานี่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังไม่เคยมีครั้งไหนที่ใหญ่พอจะเปลี่ยนแปลงทวีปเวอร์เซลทั้งทวีปได้
หัวหน้าของแผนกพัฒนา ฮา ยุน-จี เหมือนสงสัยอะไรบางอย่างขณะกำลังอ่านเอกสาร เธอพูดขึ้น
ดูเหมือนอิทธิพลของ บาร์ดเรย์ และกิลด์เฮอร์มีสจะสูงกว่าที่ดิฉันคิดไว้มาก คุณหาข้อมูลพวกนี้มาจากไหนกัน? ”
นั่นเป็นคำถามที่ดี
ตาทุกคู่ในห้องประชุมจับจ้องไปที่ ซอน อึล จาง
การประชุมครั้งนี้เป็นความลับสุดยอด จนถึงตอนนี้ การจัดอันดับผู้เล่นคร่าวๆจากการกระทำของพวกเขา อย่างเช่น การค้าขาย หรือ ความคืบหน้าของเควส ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะอยู่แล้ว แม้กระทั่งในบริษัทยูนิคอร์นเองก็ตาม แต่มีเพียงผู้ที่มีความสำคัญหรือมีหน้าที่เฉพาะ จึงจะสามารถดูรายงานเล่มนี้ได้

ในรายงานเล่มนี้ ความจริงอันน่าตกใจของกิลด์เฮอร์มีสถูกเปิดเผยออกมา ไม่ว่าจะทั้งทางด้านการทหาร การเงิน หรือประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันกับ ทักษะ และ อาณานิคมของพวกเขา มีมากกว่ากิลด์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆในอาณาจักรฮาเว่นมากกว่า 5 เท่า
บาร์ดเรย์เป็นผู้เล่นที่เยี่ยมมาก ตั้งแต่เปิดเกม Royal Road มา เขาก็เป็นอันดับ1 มาตลอด เขาเป็นผู้ก่อตั้งกิลด์เฮอร์มีสด้วย มีครั้งหนึ่งที่อันดับของเขาลดลง เพราะเขาต้องยุ่งอยู่กับการสร้าง และจัดการกิลด์เฮอร์มีส แต่หลังจากทุกอย่างลงตัว เขาก็ผงาดกลับมาเป็นอันดับ 1 อย่างรวดเร็วอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ทุกท่านได้รู้ว่าเลเวลที่แท้จริงของเขามากถึง 447 แล้ว
ทุกคนในห้องประชุมพยักหน้าอย่างสลดใจ
เลเวลของบาร์ดเรย์น่ะสำคัญก็จริง แต่พวกเขาไม่นึกว่าจะมีผู้เล่นที่มีเลเวลมากกว่า 400 เยอะขนาดนี้
สถานีโทรทัศน์และผู้เล่นต่างคาดการณ์เลเวลของบาร์ดเรย์ไว้ที่ 410
อย่างไรก็ตาม  ความจริงคือเลเวลของเขาสูงกว่าที่คนทั่วไป และ คู่แข่งของเขาคาดไว้มาก พวกเขาไม่อยู่ในระดับเลเวลของบาร์ดเรย์ แถมยังโดนทิ้งห่างไปไกลโขจนน่าท้อใจ
แม้แต่สมาชิกในห้องประชุมก็ค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่ตัวเองเห็น
ผู้เล่นแนวหน้านั้นน่ากลัว พลังของพวกเขา ไม่ใช่เพียงแค่เลเวลเท่านั้น แต่เป็นการใช้สกิล เซ้นส์ในการต่อสู้ และความสามารถโดยรวมที่สูงกว่าผู้เล่นทั่วไป
เหตุผลที่คลิบของผู้เล่นระดับสูงได้รับความนิยมเพราะพวกเขามีความพิเศษที่เฉพาะตัว
เหตุผลที่ทำให้ทหารแห่งโชซอน*เอาชนะทหารของโครยอ*ได้ เป็นเพราะความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพของกระบวนทัพการต่อสู้ (Luke://**ราชวงศ์ของเกาหลี**) (Admin: ไปดูจูมงก็ได้นะครับ)
เพื่อแสดงให้เห็นถึง ความแตกต่างระหว่างทักษะของตัวเองกับผู้อื่น พวกเขาจะล่ามอนสเตอร์ด้วยวิธีใหม่ๆ
การได้เฝ้าดูพวกเขาลงดันเจี้ยน หรือ โหมกระหน่ำจู่โจมใส่ป้อมปราการของพวกมอนสเตอร์ เปรียบเสมือนการดูหนังแอคชั่นแฟนตาซีทุ่มทุนสร้างดีๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

มีนักฆ่าคนนึงที่โจมตีป้อมปราการมอนเตอร์ชั่วร้ายในอาณาจักร ไบมาร์ คนเดียว เขาฆ่าพวกมันกว่า10 ตัวทุกๆคืน
หลังจากทำให้พวกมอนสเตอร์กลัว นักฆ่าคนนั้นก็ทำลายปราสาท และชักธงของตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดของปราสาทนั้น มันเป็นการกำเนิดของผู้ครองปราสาทคนใหม่ และผู้คนที่ได้รับชมเรื่องราวนี้ก็มีแรงผลักดันเพิ่มขึ้น
การต่อสู้นั้นไม่ใช่อีเว้นท์ที่สุ่มเกิดขึ้นแน่นอน แต่ก็ไม่ชัดเจนพอที่จะบอกด้วยข้อมูลจากคลิบวีดิโอ ที่ชัดเจนก็คือ การจะพิชิตประสาทได้นั้นต้องเตรียมการมาอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ความกลัวกระจัดกระจายไปทั่วอยู่ทุกหนแห่ง มีผู้เล่นบางกลุ่มชอบผจญภัย และต่อสู้เพียงลำพัง ผู้เล่นส่วนมากเลือกที่จะสร้างกิลด์ เข้ายึดและปกครองหมู่บ้าน แต่ พวกเขาไม่ได้หยุดแค่เพียงการเล่นสงครามการเมืองหรือการเหยียบพันธมิตรของตัวเองเพื่อทำให้อิทธิพลของตัวเองมากขึ้น  พวกเขาทำทุกๆวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ โดยเฉพาะกิลด์เฮอร์มีส พวกเขาใช้วิธีที่โจ่งแจ้งในการขยายอำนาจของตัวเอง กว่าครึ่งของสงครามแย่งชิงอาณาจักรฮาเวนเกิดจากพวกเขา นอกจากนี้พวกเรายังทราบมาจากการสอบถามอีกว่า มีกิล 3-4 กิลที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกิลด์เฮอร์มีส
“...”
เฮอร์มีส สนเพียงแค่อำนาจเท่านั้น หาใช่มิตรภาพไม่!
เพราะมูลค่าอันมหาศาลของทวีปเวอร์เซล  ผู้เล่นหลายคนก็ต้องการเป็นผู้มีอำนาจเหมือนๆกัน
เหล่าหัวหน้าแผนกต่างกุมขมับ
มีผู้เล่นเก่งๆเยอะนะ
เยอะมากพอที่จะทำให้ผมขนลุกเลยล่ะ พวกเขาพัฒนากันไวขนาดนี้ได้ยังไง?”
ผู้อำนวยการ คิม ฮัน ซู กล่าว
ไม่มีอะไรต้องตกใจ เราคาดหวังความก้าวหน้าของผู้เล่นไว้สูงแบบนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มให้บริการ Royal Road”
“...”
พวกคุณไม่ได้คิดไว้อยู่แล้วหรอกหรือว่า โลกเสมือนจริงแห่งนี้จะถูกปกครองด้วยผู้มีพลังอำนาจ?”
แม้ว่าพวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าคงจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ้าง แต่ผู้เล่นเหล่านี้ก็ยังคงทำให้พวกเขาตกใจกับพฤติกรรมสุดโต่งแบบนี้อยู่ดี
บนหน้าจอ แสดงการต่อสู้ของผู้เล่นระดับสูง มันน่าทึ่งมาก มันเต็มไปด้วยฉากการต่อสู้เหมือนกับว่าผู้เล่นกำลังสู้อยู่กับมอนสเตอร์ในโลกแฟนตาซีจริงๆ มันผาดโผน เฉียบขาดดั่งใบมีด แสดงให้เห็นถึงทักษะอันแพรวพราวและความสามารถเฉพาะตัวของพวกเขา
แรกเริ่มเดิมที พวกเขาคิดว่าผู้เล่นเก่งๆ มีความสามารถจะหาตัวได้ยาก แต่ในความจริงแล้ว มีผู้เล่นแบบนั้นอยู่ค่อนข้างมากใน Royal Road
พวกเขาทึ่งจนพูดอะไรไม่ออก
เราต้องมองมันเป็นโลกใบใหม่ มันจะค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆเริ่มจากยุคล่าอาณานิคมก่อน และไม่ว่าผู้ปกครองของเวอร์เซลจะเป็นคนอย่างไร หรือทำอะไรก็ตาม เขาก็จะส่งผลกระทบต่อพวกเราโดยตรง ดังนั้น พวกเราจึงต้องเฝ้าจับตามองว่าที่จักรพรรดิเหล่านี้ไว้ให้ดี และนี่ก็คือจุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้


สมาชิกการประชุมพยักหน้าขณะที่ฟัง คิม ฮัน ซอพูด ซอน อึล จางย้ำอีกครั้ง
บาร์ดเรย์และผู้เล่นระดับสูงไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของพวกเขาทั้งหมดให้กับสถานีโทรทัศน์และสื่อต่างๆ ถ้าคุณติดตามดูจะเห็นได้ว่าพวกเขาพยายามจำกัดเนื้อหาบางส่วนเอาไว้ ผู้เล่นคนอื่นจะได้ไม่รู้สึกกังวลเกินไปถึงกำแพงสูงที่พวกเขาไม่มีวันก้าวข้ามไปได้
จาง ยุน ซู โอดครวญ
อยากได้ตัวพวกเขามาทำโฆษณาให้เกมจัง
ผู้คนต่างประเมินค่าบาร์ดเรย์ไว้สูง เขาเป็นผู้เล่นที่เป็นรากฐานของกิลด์เฮอร์มีส
มาคิดๆดูแล้ว แม้แต่ความจริงเช่นนี้ยังถูกปลอมแปลงขึ้นมาได้
คอของผู้เข้าร่วมประชุมก็แห้งผาก
(Luke://คนอื่นเข้าใจกันว่าบาร์ดเรย์ไม่ใช่หัวหน้ากิลด์เฮอร์มีส......มั้ง)
มีผู้เล่นกว่า 149คน ที่ควบคุมผู้เล่นกว่าหมื่นคนได้ด้วยพลังของตัวเองได้ แต่ว่า ท่ามกลางพวกเขา มี13คนที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เหมือนกับยักษ์ เหมือนคลื่นอัคคี พวกเขาแข็งแกร่งที่สุด และหลักแหลมที่สุด ในอนาคต อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น แต่ตอนนี้ เราสามารถคาดหวังได้ว่า มีโอกาสกว่า70% ที่หนึ่งในพวกเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิ
* * *
การประชุมดำเนินต่อไปจนถึงตอนกลางคืน
การถกกันถึงพลังของกิลด์ที่มีอิทธิพลในทวีปเวอร์เซลนั้นไม่มีจุดสิ้นสุด
ผลงานของผู้เล่นบางคนน่าตกใจ จนทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมถึงกับเหงื่อตก
ในที่สุด การประชุมก็สิ้นสุดลง จาง ยุน ซุ ซอน อึล จาง และคิม ฮาน ซอ อยู่ต่อไปเล็กน้อย
วู้วว! จบซักทีนะครับ คุณทำหน้าที่ดีมาก คุณซอน
ไม่ต้องชมกันหรอก คุณเองก็คงต้องทำงานหนักเหมือนกันถึงพัฒนาได้ขนาดนี้ จาง
อวยกันไปอวยกันมา แล้วก็ดื่มกาแฟกันอย่างอารมณ์ดี
จางยุนซู เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เลยถามออกมา
เอ้อ คุณซอนครับ ขอถามอะไรอย่างได้ไหม
หืม?”
มีผู้เล่นคนหนึ่งที่ผมสนใจ แต่ไม่เห็นประวัติของเขาในแฟ้มงานน่ะสิ
เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเราเลือกคนที่มีโอกาศเป็นจักรพรรดิมาหมดแล้วนะ ผู้เล่นคนนั้นชื่ออะไรล่ะ?”
วีด ครับ
อ้อ วีด คนที่ทำสงครามชนะกองทัพอมตะสินะ

ซอนอึลจาง ดูคลิบของวีดกับ จางยุนซู แล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีข่าวเกี่ยวกับพวกอันเดดปล่อยออกมา
หากอิงจากเลเวล และอิทธิพลของเขา เขาไม่เข้าเกณฑ์ของเราน่ะ
ตามคาด
จางยุนซูทำท่าเสียดาย แต่คิมฮันซอหัวเราะ แล้วพูดขึ้นมา
ถึงแม้เขาจะถูกรวมไว้ในรายชื่อ แต่เขาก็จะเป็นคนที่แข็งแกร่ง และมีอิทธิพลน้อยที่สุดอยู่ดี
จริงเหรอครับ ทำไมล่ะ?”
คิมฮันซอ ตอบอย่างใจเย็น แต่เด็ดขาด
เพราะเขาไม่มีเป้าหมายยังไงล่ะ
จางยุนซูดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจ จึงถามต่อ
คุณบอกว่าเขาไม่มีเป้าหมายเหรอ แต่วีดกำลังทำเควสที่สั่นสะเทือนโลกทั้งใบอยู่นะครับ คุณรู้ใช่ไหมว่าเขาเริ่มเกมช้ากว่าคนอื่น1 ปี?”
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ซอน อึล จาง ก็อยู่ข้างเดียวกับ คิมฮานซอ
ผมก็ไม่คาดหวังในตัววีดเหมือนกับคุณคิมนะ
"?."
ความจริงก็คือ พวกเราซึ่งอยู่ฝ่ายเทคนิคเฝ้ามองดูเขาอย่างใกล้ชิดเลยล่ะ จากการตรวจสอบ เราพบว่าเขาเข้าร่วมในสงคราม ปารังคา สงครามโบราณในหน้าประวัติศาสตร์ เขายังเดินทางไปอาณาจักรแวมไพร์และกลับมาแล้วด้วย
คิมฮานซอ ผงกศรีษะ
ผมก็สนใจเขานะ เพราะครั้งหนึ่งผมก็เคยเล่น continent of magic”
วิศวะกร ทุกคนในแผนกระบบเห็นเขาทำเควส
ซอน อึล จาง พูดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่รู้เลยว่าเขาจะทำเควสที่ส่งผลกระทบต่อโลกแบบนี้ อีกต่อไปเรื่อยๆหรือเปล่า ก็แค่นั้นเอง ถ้าคุณดูรายการเควสที่เขารับ ลักษณะนิสัย สกิล และความสามารถในการต่อสู้ เข้าคล้ายกับเจ้าเมืองโมราต้ามากๆเลย
เดี๋ยวนะ นี่คุณกำลังบอกว่า เทพสงครามวีดเป็นเจ้าเมืองโมราต้า เออไม่สิ…..เป็นประติมากร?”
ข้อมูลนี้เชื่อถือได้ 99%”
จางยุนซู ติดสตั๊น
แม้แต่ในความฝันที่ประหลาดที่สุดของเขาก็ไม่เคยคิดว่าวีดเป็นประติมากร
ในฐานะประติมากร เขาขึ้นสู่หอแห่งเกียรติยศได้โดยใช้เวลาน้อยกว่า 1ปี แล้วยังความจริงที่ว่าเขาทำเควสกองทัพอันเดธสำเร็จอีก นี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!
ถูกแล้วล่ะ พลังป้องกันพื้นฐานและสกิลเวทย์มนต์ที่เขาใช้ เบาเกินกว่าที่จะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ เขาผ่านพวกมันมาได้ด้วยเซ้นในการต่อสู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ล้วนๆ
จาง ยุน ซู แทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน แต่คิมฮานซอ บอกความจริงกับเค้าขณะที่ผงกหัวแสดงสีหน้าจริงจัง จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมัน
เพราะคิมฮานซอเป็นผู้เดียวที่สามารถเข้าถึงทุกๆข้อมูลของบริษัทยูนิคอร์นได้
ผมเข้าใจละ เพราะเขามีอาชีพประติมากรสินะ หัวหน้าคิมถึงไม่คาดหวังกับเค้า
คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ
คิมฮันซอ ปฏิเสธอย่างเหนือความคาดหมาย
แม้ว่าในแผนกดูและระบบจะมีหลายคนที่ชอบเขาเหมือนกับคุณ เทพสงครามวีด ดาร์กเกมเมอร์ในตำนาน ที่พิชิตเควสที่ส่งผลกับทั้งทวีปได้ แต่ก็เช่นกัน เป็นคนที่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง(ตรงไหนฟะ) ผมมองดูเขาด้วยความสนใจก็จริง แต่ก็พบความผิดหวังเหมือนกัน
ทำไมล่ะครับ
เขา….อืม เขาใช้ชีวิตในที่ปลอดสายตาคนตลอด
“...”
เขาออกล่าและทำเควสเฉพาะกับคนที่เขารู้จักเท่านั้น เขาแทบไม่มีตัวตนเลยในสาธารณะ ในขณะที่กินผลไม้ เขาสามารถที่จะทำเกษตรเพื่อให้กินได้มากกว่าแต่เขาก็ไม่ทำ ใช้ชีวิตโดยปราศจากกิเลศ เป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่มักพบในพวกดาร์กเกมเมอร์  เราจะให้อิสระพวกเขาทำไมตั้งแต่ทีแรกล่ะ ถ้าพวกเขาไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์?”
จางยุนซู ตอบเขาขณะเดียวกับการฟื้นความจำเกี่ยวกับแผนริเริ่มตอนที่เกมพึ่งเปิดใหม่
เพราะพวกเขาเป็นประชากรของทวีปเวอร์เซลสินะ พวกเขาต้องเป็นคนสร้างกฎหมายและระบบการปกครองขึ้นมาเอง...”
ใช่แล้ว พวกเราไม่ได้มองผู้เล่นเป็นตัวเลขรายได้ของบริษัททั้งหมดหรอกนะ ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีใดก็ตาม ตราบเท่าที่พวกเขายังคงมีเป้าหมาย เราจะไม่ขัดขวางคนที่มีแรงผลักดันในการปกครอง
Royal Road ได้ปูทางไว้ให้คนได้เป็นผู้ปกครอง เป็นจักรพรรดิแห่งสหพันธ์จักรวรรดิ เกมมอบโอกาสให้ผู้เล่นได้ท้าทายกับความเป็นไปไม่ได้ เพื่อให้พวกเขาทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
อย่างไรก็ตาม เหล่าดาร์กเกมเมอร์นั้นทำธุรกิจ ขายไอเทมต่างๆ หรือรับเป็นนักรบรับจ้างเพื่อเงิน พวกเขามีความสุขดีกับสถานะปัจจุบันของตัวเอง และไม่ได้มีเป้าหมายที่มากไปกว่าเรื่องเงินแล้ว
วีดไม่ได้ขายไอเทมที่เขาหามาได้อย่างเดียวเท่านั้น เขายังทำสัญญากับสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ และหอเกียรติยศ เขาน่าจะได้รับเงินมามากทีเดียว ถือว่าเขาประสบความสำเร็จในการเป็นดาร์กเกมเมอร์อย่างแท้จริง
คิมฮันซอ พูดเหมือนกับว่าเขาเห็นมันเป็นเรื่องปกติ
หากใครได้เห็นประวัติการล่ามอนสเตอร์ การทำเควส และความโด่งดังของวีด ก็จะรู้ได้เลยว่าเขาหาเงินได้มากกว่าหัวหน้าแผนกในบริษัทระดับกลางด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความลับของเขา และผมคงไม่สามารถเฝ้าดูเขาได้ตลอดไป และก็จะไม่เป็นคนแรกที่ทำให้เขาเปิดเผยมันออกมาแน่นอน ความจริงแล้วผมต้องการปิดความลับของเขาไว้นะ แต่ว่าขนาดพนักงานในฝ่ายเทคนิคยังรู้แล้ว ผมว่าอีกไม่นานผู้เล่นคนอื่นก็จะรู้เช่นกัน ว่า เทพสงครามวีด กับ ประติมากรวีด และ เจ้าเมืองโมราต้า เป็นชายคนเดียวกัน
พูดง่ายๆว่า แม้วีดจะหลบอยู่ในมุมมืดแบบนี้ไปตลอด แต่ท้ายที่สุด ตัวตนของเขาก็จะถูกเปิดโปงในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน
จางยุนซู พูดปกป้อง
ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะครับ คุณคิมไม่คิดบ้างเหรอว่ามันน่าเหลือเชื่อ ที่ประติมากรที่จะมาได้ไกลขนาดนี้
คิมฮันซอ แสดงกิริยาหยาบกระด้างทันที
ไม่รู้ว่าคุณจะต้องการอะไรจากคำถามนี้นะ เขาเป็นประติมากรที่ยอดเยี่ยมก็จริง แล้วไงล่ะ? เราต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจศัตรูของเขาเหรอที่ถูกประติมากรจัดการ? ”
ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่ว่า...”
โมราต้า? ใช่ ผมรู้ว่าเมืองนั้นมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วมาก ผมพูดถูกไหม?”
ใช่ครับ มันกำลังจะกลายเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือ มันดึงดูดนักผจญภัยทุกคนที่อยู่ภาคเหนือ แถมเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังมีการลงทุนเงินก้อนใหญ่ไปกับการพัฒนาเมืองด้วย
เมื่อการคุ้มครองจากวิหารแห่งเฟรย่าจบลง และเมืองมีการค้าขายเพิ่มขึ้น มันจะดึงดูดให้พวกโลภมากไปรวมตัวกันที่นั่น คุณคิดเหรอว่า ว่าไอ้พวกนั้นมันจะแคร์เรื่องที่วีดเป็นประติมากร?”
“...”
ชื่อเสียงเรียงนามของเขาในฐานะเทพเจ้าแห่งสงคราม เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรักษามันเอาไว้ หากเพียงแต่หลงระเริงใจแม้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง ความล่มสลายก็จะตามมาทันที
“....”
จางยุนซู ไม่สามารถปกป้องวีดได้อีกแล้ว เพราะที่คิมฮันซอพูดมาถูกทุกอย่าง
ผู้คนมองแค่ว่า ถ้าฉันเดินทางมาที่ภาคเหนือ ความฝันของฉันจะเป็นจริง’ ….ถ้าพวกเขาเอาแต่ป้องกันเมืองและท้าทายเขา พวกเขาก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเลย ถ้าคุณไม่มีความฝัน คุณก็จะโดนคนที่มีเหยียบจนตาย หรือไม่ก็จะจบลงที่การกลายเป็นผู้เล่นธรรมดา ทวีปเวอร์เซลไม่เปิดทางให้คนที่ไร้ความสามารถหรอกนะ!” (Luke://เอาจริงๆ ช่วงแรกที่มันพูดผมแปลไม่ออกครับ นั่งงมตั้งนานก็ยังไม่รู้ว่า ‘They’ หรือ ‘Him’ ที่อีบ้าคิมมันต้องการสื่อคือพวกไหน ยังไง สุดท้ายก็ยอมแพ้ แล้วแปลตรงๆแม่งนีแ่หละ) (Admin: หมายถึงคนทั่วไปแหละครับ)
นั่นเป็นครั้งแรกที่จางยุนซูเห็น คิมฮันซอ อินจัดขนาดนั้น
มากถึงขนาดทำให้ จาง ยุน ซู รู้สึกเหมือนกำลังโดนคุกคาม
เขาเป็นผู้บริหารคนสำคัญของยูนิคอร์น ที่ควบหน้าที่วิศวกรด้วย คนคนนี้มีสมองที่ไม่ธรรมดา
เพราะเขาคือผู้บริหาร คิมฮันซอ คำพูดดั่งนักวิชาการที่ถูกเปล่งดังออกไปทั่วพื้นที่ ผู้คนสามารถเชื่อถือคำพูดของเราได้ในระดับนึงทีเดียว
หัวหน้าแผนก ซันอึลจาง ไม่ใส่ใจกับบทสนทนามากนัก เขา ยิงคำถามออกไปเพื่อหวังให้สภาวะตึงเครียดคลายตัวลง
แล้วถ้าเกิดว่า วีดตั้งใจที่จะครองทวีปเวอร์เซลขึ้นมาล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น?”
เขาถามโดยไม่คิด แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงเช่นกัน
คิมฮันซอหลับตา และเงียบไปสักพักเหมือนกำลังประเมินอะไรซักอย่าง
เขานิ่งไปค่อนข้างนาน ทำให้คนอื่นคิดว่าเขาอาจจะหลับไปแล้วก็ได้
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทวีปเวอร์เซลทั้งหมดก็อาจจะตกอยู่ในกำมือของเขา
“...”
ถ้าวีดเริ่มที่จะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่เหมือนคนอื่น สถานการณ์จะกลับกันเลยล่ะ  นำความสามารถที่ถูกเก็บไว้ของเขาออกมาใช้ ในขณะที่ชื่อเสียงของเขาถูกกล่าวขานออกไป ประกอบกับความฝันอันยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าแห่งสงครามวีด ทวีปเวอร์เซลอาจจะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่เลยก็ได้
* * *
ขณะที่เดย์มอนด์กำลังล่าบอสมอนสเตอร์ในภาคเหนือ เขาก็เก็บรวบรวมชิ้นส่วนแผนที่ ที่จะนำไปสู่วิหารแห่งความตาย
ขณะกำลังเก็บชิ้นส่วนแผนที่อยู่นั้น กิลด์นักล่าแห่งปฐพีได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ถึงพวกเราตายก็ไม่เป็นไร ความหวังสุดท้ายของพวกเราคือการทำเควสนี้ให้สำเร็จ แม้ว่าเราจะต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดของเรา เราก็ต้องทำให้สำเร็จให้ได้!”
ทุกๆคนต่างหัวเราะเยาะพวกเขาที่เลือกจะท้าทายความเป็นไปไม่ได้
เหตุผลที่มอนสเตอร์ระดับบอสอันตรายไม่ใช่เฉพาะพลังของมันเท่านั้น แต่รวมถึงรูปแบบการโจมตีที่ไม่อาจคาดเดาของพวกมันด้วย
การขาดข้อมูลทำให้พวกเขาได้รับความเสียหายหนักมาก!
พวกเขาล้มเหลวในการล่าบอสพวกนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า สมาชิกกิลด์บางคนตายเกิน10ครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ผู้เล่นที่รอดซึ่งได้รับแรงผลักดันจากสมาชิกที่ยอมพลีชีพ ก็สามารถทำเควสสำเร็จได้จากการรวมพลังกันของพวกเขา
อวยชัยให้กับกิลด์ นักล่าแห่งผืนปฐพี ฮูเรย์!”
กิลด์นักล่าที่เก่งที่สุดได้ถือกำเนิดแล้ว!”
กิลด์แห่งนักรบที่เชี่ยวชาญการล่าบอส!”
หลังจากจัดการบอสทั้ง 12 ตัว เสียงของผู้ชื่นชมกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีก็ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม เดย์มอนด์และกิลด์ของเขาเลือกที่จะหลบเลี่ยงผู้คนอย่างไม่ลังเล

ชิ้นส่วนแผนที่ทั้ง 7 ที่พวกเขาทุ่มเทเพื่อให้ได้มา ถูกรวบรวมมาครบแล้ว
ถึงแม้ว่ากิลด์ของเขาจะเป็นกิลด์แรกที่สามารถพิชิตบอสแห่งเขตเหนือลงได้ แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกภูมิใจแม้แต่นิด เพราะพวกเขาตายกันมากเกินไป เกินกว่าที่จะเรียกมันว่า ความสำเร็จได้
เดย์มอนด์และกิลด์ของเขากลับไปที่ชั้นใต้ดินของกิลด์อันมืดมิดและหดหู่
กัปตัน
ว่า?”
ทำไมเราถึงต้องกลับไปที่ชั้นใต้ดินอีก?”
เดย์มอนตอบนาโดด้วยน้ำเสียงสบายๆ
เพราะมันเหมาะสำหรับพวกเราซึ่งกำลังวางแผนทำเรื่องชั่วๆอยู่ยังไงล่ะ
ชิ! ฉันบอกคุณตลอดแหละ ว่าคุณน่ะเป็นพวกตามน้ำเกินไป
เดย์มอนด์ตอบรับคำแดกดันของนาโด ด้วยการยิ้มกว้างและหัวเราะ เขาดึงเอาชิ้นส่วนแผนที่ออกจากกระเป๋าเสื้อ
งั้น ฉันจะพยายามต่อมันล่ะนะ
เดย์มอนด์พูดอย่างตั้งใจ
เขาเอาชิ้นส่วนแผนที่ทั้ง 7 ออกมา และเริ่มต่อมันเหมือนกับจิ๊กซอว์
ฟวูมมมม ฟวูมมม ฟวูมม ซู่!

จู่ๆแผนที่ก็เกิดไฟลุกขึ้น
อ้ะ!”
เดย์มอนด์ และลูกกิลด์ของเขาก็ยืนตัวแข็ง มองสิ่งที่เกิดขึ้น
วิดิโอที่ประกอบกันจากรูปหลายรูปถูกสร้างขึ้นในกองไฟ

ผ่านเมืองที่จมหาย จนถึงสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยซากมอนสเตอร์ เจ้าจักปีนข้ามภูเขา และเดินทางผ่านหน้าผาที่ไร้ซึ่งรอยเท้าแห่งชีวิต เจ้าจะต้องข้ามผ่านป่าแห่งสายหมอก
ต้นไม้ตายที่แห้งกรังจะเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกให้เจ้ารู้
หลังจากเจ้าข้ามผ่านป่าแห่งสายหมอกไปได้แล้ว วิหารแห่งความตายจะปรากฏ มันถูกปิดมาเนิ่นนานหลายร้อยปีแล้ว หลังจากแสดงภาพประตูหนาที่สถานที่แห่งหนึ่งแล้ว รูปภาพก็หยุด
แผนที่ถูกเผาไหม้เหลือเพียงขี้เถ้า
เดย์มอนด์มองไปที่ลูกกิลด์ของเขาด้วยดวงตาลุกโชน
พวกนายจำสิ่งที่เห็นได้ใช่ไหม?”
ครับหัวหน้า พวกเราจำได้ทั้งหมด
เราจะออกเดินทางกันทันที
เดย์มอนด์และกิลด์แห่งผืนปฐพีออกมาข้างนอกทันที สถานที่ที่พวกเขาจะไปอยู่ไม่ไกลจากโมราต้ามากนัก

พวกเขาใช้ม้าเร็วเดินทางไปทางใต้ 3วัน จากนั้นก็ไปทางตะวันตก ข้ามดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง
ดินแดนรกร้างแห้งนี้ส่วนมากมีแต่ดันเจี้ยน นักผจญภัยจึงไม่ค่อยมากัน
ทะเลทรายเดอเรียม ไม่อยากจะคิดว่าราต้องผ่านที่แบบนี้ด้วย
ที่นี่เป็นที่ที่เราล่าบอสนี่นา
ฉันจำได้ว่าเราเจอปัญหาเยอะมากกก กว่าจะหาที่ซ่อนของไอ้บอสเวรนั่นเจอ
นักเดินทางและนักผจญภัยเขตเหนือได้ทำการค้นหาหลายพื้นที่ของภาคเหนือแล้ว แต่พวกเขาทำได้แค่เฉียดกายเข้าใกล้ สถานที่อย่าง ดินแดนที่ถูกทิ้งร้างและป่าแห่งสายหมอก เท่านั้น
ด้วยขนาดที่กว้างใหญ่ของทวีปเวอร์เซล หากคุณไม่รู้สถานที่ที่จะไปแบบเฉพาะเจาะจง คุณอาจจะเผลอผ่านมันไปอย่างไม่รู้ตัวก็ได้
แม้ว่าพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างจะถูกสนับสนุนให้นักผจญภัยมาทำการสำรวจในตอนแรก แต่มีดันเจี้ยนที่มองเห็นได้อยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น เพราะไม่มีทางที่จะสำรวจพื้นที่นี้แบบนี้ได้ทุกซอกทุกมุม
เพื่อที่จะหาสถานที่ในภาพ กิลนักล่าแห่งผืนดินได้เดินทางผ่าน พื้นที่ที่ถูกทิ้งร้าง และหน้าผาแห่งหนึ่ง
พวกเขาเกือบจะหาต้นไม้ตายแห้งกรังในป่าแห่งสายหมอกไม่เจอ แต่แล้วพวกเขาก็ผ่านมันมาได้
เมื่อผ่านทุกอุปสรรคขวากหนาม พวกเขาก็มาถึงสถานที่สักการะของวิหารแห่งความตาย

พวกเขามาถึงสถานที่ที่มีพลังชั่วร้ายแผ่ออกมา สถานที่เดียวกันกับที่เห็นในรูปภาพ
มันเป็นการค้นพบที่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซล
เดย์มอนด์ใช้เวลาสำรวจนานหลายชั่วโมง และในที่สุดเขาก็พบ แท่นสักการะที่ยังอยู่ในสภาพดีแม้จะถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ
บนประตูเขียนไว้ว่าอะไรน่ะ
จอมเวทย์ของกิลด์แปลความหมายของสิ่งที่เขียนไว้
มันเขียนไว้ว่า ประตูแห่งนรกในภาษาโบราณ
นั่นหมายความว่า ประตูนี้ไม่ควรถูกเปิดสินะ
ในช่วงวินาทีนั้นเอง ความคิดของเดย์มอนด์ตีกันอย่างหนัก
พวกเขายังไม่รู้ว่าถ้าเปิดประตูแล้วจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังไม่รู้ว่ามีความน่ากลัวอะไรรอพวกเขาอยู่….
แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากจ้องไปที่ประตู ซึ่งตั้งอยู่พอดีในกรอบ ไร้ซึ่งรอยแตก แต่สิ่งที่พวกเขามั่นใจก็คือ  มันไม่ควรจะถูกเปิด
แต่เราจะมายอมแพ้ ทั้งๆที่มาไกลขนาดนี้แล้วไม่ได้นะ
เดย์มอนด์ ขบฟันคิดอย่างหนัก
เควสไม่หยุดง่ายๆแค่การหาวิหารแห่งความตายแน่ๆ
ไม่ว่าอะไรจะอยู่ที่ปลายทางเส้นนี้ ฉันก็อยากเห็นมันด้วยตาของตัวเอง
เดย์มอนด์เปิดประตูเหล็กออกกว้าง
มีปีศาจน่ากลัวจำนวนมากโผล่ออกมา มันมันน่ากลัวเหมือนหลุดออกมาจากฝันร้าย
พวกบอสที่ เขาล่าก็รวมอยู่ในกลุ่มมอนสเตอร์เช่นกัน
ด ดะ เดย์มอนด์! ระวังตัวด้วย!”
หัวหน้านักรบของกลุ่ม ผู้ซึ่งไม่เคยแสดงความหวาดกลัวออกมาซักครั้งในการต่อสู้ พูดเตือนด้วยเสียงสั่น
นาโด สังเกตุพวกปีศาจ แล้วก็พูดโพล่งขึ้นมา
ดูเหมือนพวกมันจะไม่โจมตีเรานะ
หืม?”
ดูสิ พวกมันแค่มองเราอย่างสงบเท่านั้น
เมื่อนาโดขยับ ดวงตานับพันของพวกปีศาจก็จะตามการเคลื่อนไหวของเธอ
พวกมันไม่ได้ตั้งท่าต่อสู้ เพียงแต่ป้องกันพื้นที่ของตนอย่างเงียบๆ
พวกปีศาจตั้งแถวอยู่ทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวา และเหลือช่องตรงกลางไว้ ให้เพียงพอสำหรับคนเดินผ่าน
พวกเขารู้สึกเหมือนกับ จะถูกขย้ำตายแน่ถ้าหากพยายามจะหนี แต่นาโดกล่าวอย่างมั่นใจว่า
ลองมาทางนี้ดู
ใช่ เหมือนกับพวกมันจะเว้นช่องไว้ให้เราเดิน
เดย์มอนด์และกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีเดินก้าวหนักๆไปตามช่องว่างระหว่างมอนสเตอร์
พวกเขาไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร รู้แค่เพียงว่ากำลังพยายามรวบรวมชิ้นส่วนแผนที่ไปก็เพื่อเควสระดับ S แต่พวกเขาก็เริ่มตงิดใจขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีวิหารแห่งความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว พวกเขากำลังโดนกดดันอย่างหนัก
เดย์มอนด์พยามเดินตัวลีบ ไม่ให้ตัวไปแตะกับพวกมอนสเตอร์
 ‘เราตัดสินใจจะทิ้งชีวิต ตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
หากจำนวนของปีศาจเริ่มมีมากเกินไป ก็จะต้องมีคนเริ่มต่อต้านพวกมันแน่
พวกปีศาจไปรวมตัวกันที่วิหารแห่งความตาย
พวกเขาทั้งหมดไม่เพียงพอจะเป็นอาหารให้ไอ้พวกตัวอัปลักษณ์ ไร้ชื่อพวกนี้ด้วยซ้ำ
 ‘ตั้งแต่ที่เรามาถึงที่นี่ เราก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว นอกจากความตาย
พวกเขาพบประติมากรรมรูปหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่บริเวณทางเข้า มันถูกทำขึ้นมาแบบย้วยๆ และบนแท่นบูชาก็มีสัญลักษณ์แปลกๆที่ถอดความไม่ได้ พร้อมกับข้อความจากโบราณกาล
-ข้าโหยหาสถานที่ซึ่งคนตายยังคงสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
พลังในการชุบชีวิต เป็นพลังพิเศษที่11 ของวิหารเอ็มบินยู
ยิ่งมีความตายมากเท่าไหร่ เหล่าสาวกแห่งวิหารเอ็มบินยูก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
นี่เป็นหน้าที่ของเจ้า: จงฆ่าเพื่อช่วยชีวิตพวกเขาซะ
มันค่อนข้างยากที่จะเข้าใจประโยคย้อนแย้งแบบนั้น
แต่เดย์มอนด์ก็ไม่ได้คิดมาก
วิหารเอ็มบินยู? เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้เลยนะ แต่ถ้ามันเป็นบัตรผ่านทางสำหรับเควส เดี๋ยวเราก็คงคิดออกเองล่ะมั้ง
เพราะพวกเขาอยู่ที่วิหารเอ็มบินยู มีหลายเรื่องที่พวกเขาอยากรู้ ห้องปิดตายหลายห้อง ของตกแต่งแปลกๆ และ ไอเทมที่อยู่ในหีบห่อต่างๆ
เหมือนกับความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง มีหลายอย่างกำลังรอให้พวกเขาไปสำรวจ
อย่างไรก็ตาม เดย์มอนด์และลูกกิลด์ของเขาก็ไม่ได้ชะล่าใจ
ไหนๆเราก็เจอวิหารแห่งความตายแล้ว ต้องศึกษานักบวชของวิหารนี้ซักหน่อย ไปบ้านนักบวชกันเถอะ
เดย์มอนด์และลูกกิลด์เคลื่อนไหว และในขณะที่ตั้งท่าพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา

-บ้านพักนักบวชแห่งการชุบชีวิต

พวกเขารู้ ว่าที่นี้ คือวิหารแห่งความตาย แต่กลับมีคำอย่าง การชุบชีวิตซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกันเองกับความเชื่อของพวกเขาอยู่ด้วยนี่สิ
 “แน่ใจแล้วเหรอว่าไม่มีบ้านพักหลังอื่นอีก?”
 “ฉันไม่เห็นซักหลังเลย ที่นี่เป็นที่เดียวที่เขียนว่า บ้านพัก’*(บ้านพักที่โบสถ์มอบให้นักบวช)”
 “งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ ทุกคนเตรียมตั้งการ์ดป้องกันไว้ด้วย
พวกเขาผลักประประตูเปิดออก ในบ้านเต็มไปด้วยใยแมงมุมและฝุ่น
ไม่มีใครอยู่ในบ้านหลังนั้น มีแต่ศพที่ถูกทำเป็นมัมมี่แห้งกรังอยู่ 1 ศพ และข้างหน้าของศพนั้นเอง ที่พวกเขาเจอหนังสือ ประมวลคัมภีร์อะไรซักอย่างวางอยู่
<<ม้วนคัมภีร์แห่งการชุบชีวิต>>
หนังสือได้รับการตกแต่งจากการเย็บเป็นลวดลายด้วยด้ายสีทอง
เดย์มอนด์ยื่นมือออกไปทางหนังสือ
เขากำลังทำเควสของวิหารแห่งความตายอยู่ จึงจำเป็นจะต้องขุดคุ้ยความลับออกมาให้มากที่สุด(มาอีกแล้ว จู่ๆแม่งก็มีคำว่า priest ออกมาจากความว่างเปล่า,,,ได้ข่าวว่าที่เขาบ้านนี้มามีแค่พวกเดย์มอนกับกิลมันไม่ใช่เหรอวะ นักบวชมายังงายอีกกกกกกกกกกกกกกกก) (Admin: เอาที่สบายใจครับ 555)
ในขณะที่กำลังตรวจสอบศพ เหล่านักบวชก็ขยับไอเทมรอบๆไปๆมาๆ แต่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็อดทนต่อความโลภของตัวเองไว้ในไหว จึงวางมือลงบนของอย่างกระหายใครรู้

 “ตรวจสอบ!”
-หนังสือเวทย์แห่งการชุบชีวิต: ความคงทน 58/60 ม้วนคัมภีร์แห่งส่วนที่11ของวิหารเอ็มบินยู
บรรจุด้วยพื้นฐานแห่งการฟื้นคืนชีพ โรคระบาด และเวทย์มนตร์แห่งความเป็นอมตะ
เวทย์มนต์ชุบชีวิตจัดเป็นมนต์ดำที่เลวร้ายที่สุด มันเป็นการทำบาปชนิดหนึ่ง
หาก เนโครแมนซี่(สกิลของพวกเนโครแมนเซอร์)คือทำให้คนตายกลายเป็นอันเดด
การชุบชีวิตก็คือการบังคับให้คนตายกลับมาจากนรก ด้วยการบูชายัญที่ชั่วร้าย
มันไม่ใช่การคืนชีพอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ใกล้เคียงกับพันธะสัญญาอันเลวทรามที่จะขับไล่เหล่ามอนสเตอร์ออกจากนรก ทำให้พวกมันฟื้นกลับมาอีกครั้ง แล้วควบคุมพวกมัน
มนต์นี้เป็นคาถาต้องห้ามซึ่งมีรากฐานแตกต่างจากศาสตร์เวทย์มนตร์อันเดดของเนโครเมนเซอร์!
หนังสือเล่มนี้ เป็นรากเหง้าของการมีอยู่ของ ภาคีแห่งการคืนชีพ
ข้อจำกัด:สำหรับนักบวชแห่งการฟื้นคืนเท่านั้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้เวทย์มนต์ คุณจะต้องสูบพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิต
คุณสมบัติอื่นๆ:
·         การต่อต้านเวทย์ทุกชนิด +50
·         สถานะทั้งหมด +10
·         อัตราการฟื้นฟูมานา เพิ่มขึ้น 25%
·         เมื่อพลัง ชีวิตอมตะ ถูกใช้งาน พลังชีวิตจะไม่ลดลง
·         สามารถควบคุมสิ่งที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาได้
*ฟื้นคืนชีพ:ต้องการชีวิต 20 ชีวิต ด้วยการแย่งชิงชีวิตจากผู้อื่น ทำให้สามารถชุบชีวิตคนตายและควบคุมพวกมันได้
*โรคระบาด:ต้องการชีวิต 150 ชีวิต ด้วยการใช้มานา จะทำให้เกิดโรคระบาดรุนแรงบนพื้นที่ พื้นที่ระบาดถูกจำกัดในบางบริเวณ ความเร็วในการแพร่ระบาดขึ้นอยู่กับตัวกลาง
*ชีวิตอมตะ:ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่สามารถยกเลิกกลางคันได้ เป็นอมตะ แต่ว่า ถ้าหากผู้เล่นไม่สามารถหาแหล่งพลังงานจากการบูชายัญได้ ชีวิตอมตะจะถูกยกเลิก และคุณจะตายอย่างถาวร(delete ตัวละคร)
วิหารเอ็มบินยู
วิหารเอ็มบินยูนิกายที่ 11 พวกเขาฆ่าอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นเพื่อชุบชีวิต และบงการผู้ที่ถูกทำให้ฟื้นจากความตาย
โลกเรียกพวกเขาว่า เผ่าพันธุ์ แห่งความตาย
*ติ๊ง!*
-คุณสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็น นักบวชแห่งแห่งฟื้นคืืนได้ คุณต้องการที่จะเปลี่ยนอาชีพเดี๋ยวนี้เลยหรือไม่?
หลังจากเปลี่ยนคลาสแล้ว ทักษะของคุณและค่าสถานะต่างๆจะยังคงอยู่เหมือนเดิม
คุณจะสามารถใช้หนังสือเวทย์แห่งการชุบชีวิตได้
นักบวชแห่งการชุบชีวิต มีหน้าที่ที่จะเติมเต็มทวีปเวอร์เซลด้วยชีวิตที่ถูกนำกลับมาจากนรก
หากคุณทำสัญญากับความตาย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎของธรรมชาติแล้ว
เมื่อคุณตาย คุณจะฟื้นคืนชีพกลับมาไม่ได้อีก

เขาสามารถเป็นนักบวชแห่งการฟื้นคืนได้!
ถ้าเขาทำให้พวกมอนสเตอร์ทมิฬและลูกน้องของมันอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาได้ พลังของกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่
พวกมอนสเตอร์ทมิฬนั้นให้สัญญาการเคารพเชื่อฟังที่แน่นอน ไม่เหมือนกลุ่มพันธมิตรขิงกิลต่างๆ และพวกนักรบรับจ้าง
แถมเขายังสามารถใช้เวทย์ชุบชีวิตได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากเดย์มอนตายขึ้นมา เขาจะพบกับจุดจดอันเป็นนิรันด์ มันเป็นเส้นทางแห่งชีวิตที่แสนสั้น แต่ก็ยิ่งใหญ่

เขายืนอยู่บนจุดเปลี่ยน เขาจะทำให้ผู้คนใน Royal Road ต้องจับจ้องมาที่ตัวเอง  หรือจะทำเควสต่อเฉยๆ?
ข้าต้องการเป็นนักบวชแห่งการฟื้นคืนชีพ
เดย์มอนด์เลือกที่จะเปลี่ยนอาชีพ
* * *
เดย์มอนด์และกิลด์ของเขาเข้าควบคุมฝูงมอนสเตอร์ทมิฬ แม้ว่าพวกเขาจะหาสมบัติไม่เจอ แต่ก็เจอลูกแก้วที่ใช้ในเวทย์คำสาบหลายลูก
สมาชิกกิลด์ที่เหลือก็เปลี่ยนอาชีพเป็น นักบวชแห่งการฟื้นคืนชีพ ตามๆกันหมด
นี่อาจจะเป็นความสุขครั้งสุดท้ายของพวกเรา
เดย์มอนด์พูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มบางๆ
นักบวชแห่งการฟื้นคืนชีพจำเป็นต้องฆ่า เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังและความแข็งแกร่ง
ความสามารถในการชุบชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับสิ่งบูชายัญที่พวกเขาฆ่า
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ทวีปเวอร์เซลกำลังจะตกอยู่ในความหายนะ
แต่ตอนนี้ไม่มีหนทางให้หวนกลับแล้ว ซูบัน ที่พึ่งเปลี่ยนอาชีพมาหยกๆ หัวเราะชั่วร้าย
ใส่ทั้งหมดที่พวกเรามีไปเลย!”
นาโด ถอดชุดคลุมนักเวทย์ออก แล้วโยนมันไปข้างๆ แต่เธอกลับกระสับกระส่ายไปมา เมื่อได้สวมชุดของนักบวช ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบใส่ชุดนี้
ไม่มีกฎอะไรบอกไว้ว่าพวกเราจะตายก่อน(said no one fuckign everrr) พี่น้องเอ๋ย พวกเราจะมีชีวิต พวกเราต้องรอด และโบกสะบัดธงของพวกเราในสนามรบ!”
เดย์มอนด์พยักหน้า พลางพูดว่า
เป็นประโยคปลุกใจที่ไม่เลว
เควสเปิดโปงความลับของนักบวชแห่งความตายถูกยกเลิก และแทนที่ด้วย เควสแพร่ขยายนามแห่งวิหารเอ็มบินยู

จบตอน
Translator: luke
Editor: แอดมินเพจ เราอ่านนิยายแปล

5 ความคิดเห็น:

เล่ม 52 บทที่ 8 : มังกรทั้ง 2 แปลโดย Ashy dRagoon

  เล่ม 52 บทที่ 8 : มังกรทั้ง 2 แปลโดย Ashy dRagoon นักดาบและนักรบแห่งทะเลทรายเหวี่ยงดาบของพวกเขาท่ามกลางกองทัพจักรวรรดิฮาเว่น   ...