เล่ม 55 ตอน 5 พาร์ท 1 ความฝันของเหล่าคนแคระ
แปลโดย
Teerawat
ปราสาทบาเวลถูกทำลายจนหมดสิ้นโดยมังกรดำเคย์เบิร์น
ปราสาทของลอร์ดและตัวเมืองพังทลายลงจนกลายเป็นกลุ่มควันสีดำ
แต่เบื้องหลังยังมีเขตที่อยู่อาศัยที่แผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เหล่าสถาปนิกทุ่มเททุกอย่างในการสร้างเมืองที่บกพร่องนี้!
-
กรรรรร!!!
เคย์เบิร์นคำรามและบินต่ำราบมากับพื้นดิน
อาคารที่สร้างอย่างไม่มั่นคงปลิวไปตามแรงลม
แต่เขตที่อยู่อาศัยนั้นกว้างใหญ่มาก!
“เราจะทำแบบลวก ๆ
ไปก็พอ”
“ใช่… ไม่ต้องใช้ความตั้งใจอะไรทั้งนั้น
แค่ทำไปแบบลวกๆก็พอ”
“สร้างด้วยเท้าไปเลยก็ได้
ไม่ต้องทำความสะอาดหรืออะไรทั้งนั้น
เอาขยะมาสร้างด้วยก็ได้
แค่ทำให้เสร็จ”
พวกเขาปล่อยให้เคย์เบิร์นเป็นผู้ทำลายขั้นสุดท้าย
ขณะที่สถาปนิกยังคงสร้างบ้านต่อไป
ผู้เล่นทั่วไปก็ช่วยกันเล็กน้อย
จนสร้างเขตที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มากกว่าปราสาทบาเวลถึง
6 เท่า
อาคารต่าง ๆ
แผ่ขยายจากทุ่งหญ้าไปจนถึงแนวป่าและภูเขา
-
สู่ความชิบหาย!
เคย์เบิร์นทำให้เกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ขนาดใหญ่
ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนราวกับกำลังเต้นระบำอย่างรุนแรงและทำลายอาคารนับพันหลังในคราวเดียว
แต่การที่อาคารหลายๆหลังพังพร้อมกัน
กลับทำให้อาคารบางหลังซ้อนทับกันและค้ำยันกันไว้ได้
เมื่อเห็นแบบนั้น เหล่าสถาปนิกก็ได้ไอเดียใหม่ขึ้นมา
“เคย์เบิร์นเผาและทำลายด้วยเวทมนตร์”
“ใช่
ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น”
“เราไม่สามารถถ่วงเวลาโดยเพิ่มความแข็งแรงของอาคารได้
เพราะแม้แต่ปราสาทหินที่สร้างอย่างดี
ก็ยังถูกทำลายได้ง่าย
ๆ
แม้แต่ปราสาทอาเรน
ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ดีที่สุดในทวีปกลาง
ก็ไม่สามารถต้านทานมันได้”
เคย์เบิร์นนั่งบนยอดปราสาทและคำราม!
โครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักมหาศาลได้และพังทลายจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์
“ถ้าเราเปลี่ยนโครงสร้าง
เราอาจแก้ปัญหาแผ่นดินไหวได้”
สถาปนิกสร้างบ้านที่มีฐานกลม
พวกเขาสร้าง พื้น
ผนัง
และเพดานให้เป็นรูปทรงกลม
เพื่อให้กลิ้งได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว
“อาคารเหล่านั้นว่างอยู่
โครงสร้างนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ”
“ใช่ จุดประสงค์ของเราคือถ่วงเวลา
และให้อาคารเหล่านั้นอยู่รอด”
นอกจากนี้ บ้านเหล่านี้ยังถูกสร้างให้กระจายกันออกไป
“สร้างอาคารหินสักหน่อยไหม”
“แต่คงต้องใช้เวลาสักพักน่ะ”
“อย่าลืมว่าพวกมันต้องทนเวทไฟได้ด้วยนะ
ถึงมันจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีโดยตรงได้
แต่ถ้าโดนเฉียด
ๆ
ก็ยังพอไหวนะ”
สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เขตที่อยู่อาศัยถูกทำลายล้างด้วยเวทวงขนาดใหญ่เพียงครั้งเดียว
และบังคับให้เคย์เบิร์นต้องโจมตีซ้ำหลายๆครั้ง
“มังกรมันต้องหงุดหงิดแน่ๆ”
“ใช่ แบบนี้แหละถึงจะได้ผล”
เพื่อที่จะเพิ่มความต้านทานธาตุไฟ
พวกเขาฉีดน้ำมนต์ไปก่อนที่เคย์เบิร์นจะมาถึง
ถึงแม้อาคารที่สร้างแบบนี้จะมีไม่ถึง
1 ใน 100 แต่ก็ถูกวางอย่างมีกลยุทธ์และกระจายกันออกไปช่วยถ่วงเวลามังกรได้มาก
เคย์เบิร์นใช้เวทวงกว้างโจมตีทั่วเมือง
แต่เกือบครึ่งของบ้านยังคงอยู่
พาโบและสถาปนิกมองจากระยะไกลและยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“พวกมันถ่วงเวลาให้เราได้เยอะมากๆ!”
“จริงด้วย(บอกฉันหน่อยซิ)
ใช้เวลามากกว่าพื้นที่อื่นถึงสามเท่า”
เหล่าสถาปนิกต่างภูมิใจในผลงานของตน
การก่อสร้างที่บกพร่องทำให้มังกรสับสนอย่างสิ้นเชิง!
ถึงแม้มันจะไม่ใช่ภารกิจอย่างเป็นทางการ
แต่ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดต่างก็ยอมรับในผลงานนี้
เคย์เบิร์นบินเหนือเขตที่อยู่อาศัยและทำลายอาคารทีละหลังด้วยเวทมนตร์หรือพละกำลัง
ถึงแม้จะเป็นมังกรดำ
ตัวแทนแห่งความสิ้นหวังและความหวาดกลัว
แต่มันกลับดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด!
ท้ายที่สุด เมืองขนาดใหญ่พร้อมกับปราสาทบาเวลก็ถูกเผาและทำลายจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
เหล่าวิญญาณและภูตต่างก็เตือนอีกครั้งนึงว่ามังกรดำเคย์เบิร์นกำลังเคลื่อนไหวอีกครั้งเพื่อทำลายอารยธรรมของมนุษย์
“เคย์เบิร์นจะมุ่งหน้าไปยังเนฮาเลสในอีกหนึ่งสัปดาห์”
เป้าหมายต่อไปคือเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรเบรนท์
เนฮาเลส
ไพธอนและโอเบรอนกำลังต่อสู้กับผู้บัญชาการบาเดมิกซ์
แต่พละกำลังของเขานั้นมากพอที่จะทำให้ทั้งสองคนลำบาก
โดยเฉพาะโอเบรอนที่ต้องรับการโจมตีจากหอกยาวด้วยโล่ทุกครั้ง
แรงกระแทกทำให้เขากระเด็นไปชนกำแพง
“อั๊กกก!!!”
ทหารมังกรได้รับพลังจากเวทมนตร์ของมังกร
บาเดมิกซ์พุ่งเข้าใส่โอเบรอนด้วยพลังอันน่ากลัว
โอเบรอนเห็นไพธอนตะโกนขณะวิ่งเข้ามาจากด้านหลังของบาเดมิกซ์
ถ้าเขาเข้ามาช้าไปเพียงก้าวเดียวนั่นอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ถึงตาย
“โล่ทะยาน(Rising
Shield)!”
โอเบรอนปักโล่ลงกับพื้นจากมุมหนึ่งและพุ่งตัวขึ้นไป
ตูมมม!
เขาเห็นบาเดมิกซ์ทำลายกำแพงจนแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
แรงกระแทกนั้นรุนแรงจนพื้นดินสั่นสะเทือน
และทหารมังกรใกล้เคียงกระเด็นไป
“เจ้าคนแคระน่ารำคาญ…
ตายซะ!”
โอเบรอนหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดโดยเกาะเพดานไว้
แต่ก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ทันที
-
เจ้าเพื่อนตัวจิ๋ว, โอ้ว…เหยื่อแสนอร่อย
เสียงกระเส่าดังกระซิบที่ต้นคอของเขา
‘ซุลทัน!’
มันคือการปรากฏตัวของนักฆ่าผู้เฝ้ารังมังกร
โอเบรอนเคยได้ยินเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับนักฆ่าคนนี้
ในฐานะนักรบแนวหน้า นักฆ่าคนนี้เป็นนักล่าโดยธรรมชาติ
แต่ในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้
เขาควรเชื่อใจสหายมากกว่า
-
ข้าจะหั่นร่างเล็ก
ๆ
ของเจ้าให้แหลก (I จะขยี้
U
ให้แหลก
555)
ฉัวะ!
เคียวพุ่งมาจากทางไหนไม่รู้และฟันผ่านอากาศ
เขาเกาะอยู่บนเพดาน ด้านล่างคือบาเดมิกซ์และฝูงทหารมังกร
ส่วนข้าง
ๆ
เขาคือนักฆ่า
ซุลทัน!
“ป้องกันแรงกล้า(Zealous
Defense)!”
โอเบรอนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้สกิลและรับการโจมตี
การยื้อเวลาเพียงไม่กี่วินาทีบนเพดานหมายถึงการเบี่ยงเบนความสนใจของบาเดมิกซ์และซุลทันได้มากขึ้น
‘นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำได้ตอนนี้…’
ฉัวะ! ฉึก!
เคียวฟันร่างของโอเบอรอน
ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงทันที
< โจมตีคริติคอล!
>
< การโจมตีมุ่งร้าย!
>
< พลังป้องกันหมดลง
>
< ชีวิตตกอยู่ในอันตราย…
>
< คุณหมดสติ
>
เขาตกอยู่ในอันตรายจากการโจมตีเพียงแค่
3 ครั้ง แม้จะใช้สกิลป้องกันแล้วก็ตาม
ร่างของซุลทันปรากฏให้เห็นชั่วครู่หนึ่งขณะเหวี่ยงเคียวอย่างต่อเนื่อง
มันเป็นสิ่งมีชีวิตโหดเหี้ยมที่สวมหน้ากากที่ทำมาจากกระดูก
<ความหวาดกลัวอย่างรุนแรงทำให้ร่างกายของคุณแข็งทื่อ>
มันมีพลังข่มขวัญแบบบอสประเภทนักฆ่าอย่างแท้จริง
‘ฉันคงตายแน่ แม้ว่าจะไม่โดนโจมตีเพิ่ม…’
ในขณะนั้น โอเบรอนเห็นเงาเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังของซุลทัน
‘นี่ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นสกิล?’
เงานั้นยืดยาวออกไปและคว้ามีดสั้นเอาไว้
จากนั้นก็แทงเข้าที่คอของซุลทัน
-
ใครมันกล้าทำแบบนี้วะ!
ซุลทันได้รับความเสียหายอย่างหนักและถอยออกไป
เงานั้นเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์และคว้าเอวของโอเบรอนไว้ก่อนที่เขาจะะร่วงลงไป
“นี่ฉันมาช้าไปรึเปล่า? โทษทีนะ
หมอนี่มันแอบเก่งเกินไป…
ใช้เวลาตามรอยอยู่นานเลย”
แม้เขาจะสวมเสื้อคลุมสีดำ
แต่เขาก็ดูเรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน
โอเบรอนพอจะเดาได้ว่าเขาเป็นใครแล้วจึงถามขึ้น
“คุณเป็นหนึ่งในพวกของคุณวีดใช่ไหม…”
“ใช่ ฉันก็เป็นนักฆ่าเหมือนกัน”
เขาพูดเร็วราวกับต้องการขัดจังหวะไม่ให้โอเบรอนพูดต่อ
“ซีซั่น…”
“แค๊กๆ(ไอ)…
ตอนนี้เรามาโฟกัสที่การเอาตัวรอดกันก่อนเถอะ”
โอเบรอนคิดว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอดในสภาพที่หมดสติและโดดเดี่ยวแบบนี้
“ทิ้งฉันไว้ที่นี่แล้วหนีไปเถอะ”
“ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก
ฉันเอาตัวรอดได้แล้วฉันก็จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังด้วย”
“มันเป็นไปไม่…”
ฟุบ…พรึบ…!
ทันใดนั้น ลูกธนูควันก็พุ่งเข้ามาและระเบิดออก
“ป่ะ…ไปกันเถอะ
ตอนนี้!”
ซีซั่นแคร็บที่แบกโอเบรอนไว้ข้างตัว
พุ่งกระโจนออกจากเพดานและวิ่งไปตามผนัง
เขาพุ่งด้วยความเร็วมหาศาล
ขณะที่การโจมตีของนักรบมังกรไล่ตามมาติดๆ
“คุณหลบเก่งมากเลย!”
“แน่นอน! ฉันต้องเก่งสิ!
ฉันเป็นนักฆ่าไม่เหมือนนาย
ถ้าหลบไม่ทันก็ตายภายในไม่กี่ที”
“โอ้วววว…”
พวกเขาต้องฝ่าบาเดมิกซ์ออกไป
เพื่อไปยังเขตปลอดภัย
“เราจะรอดไหมเนี่ย?”
“ฉันจะทำให้ได้ มันต้องได้ผล…หวังว่านะ!”
– Pulverizing Slash (ท่าฟันบดขยี้!)
บาเดมิกซ์หมุนหอกยาวกลางอากาศ
ในพื้นที่ที่ไม่มีที่กำบัง
มันกำลังเตรียมการโจมตีที่รุนแรง
ฟู่ววววววววววว ฟิ้ววววววววว
ในพริบตา ลูกธนูกว่า
50 ดอกก็โปรยลงมาพร้อมกัน
ลูกธนูเวทมนตร์หลากหลายชนิด
ทั้งระเบิด
แช่แข็ง
พุ่งผ่าอากาศออกมา
ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และตรึงบาเดมิกซ์ไว้
ซีซั่นแคร็บพุ่งผ่านบาเดมิกซ์ไปได้อย่างเฉียดฉิว
“ป้องกัน!”
“ปกป้องคุณโอเบอรอน!”
ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในรัง(ช่อง)
นักรบคนแคระก็รีบตั้งโล่ขึ้นเป็นแนวป้องกัน
เกราะของพวกเขาเปื้อนและมีรอยบุบมากมาย
แต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ปล่อยพวกนักรบมังกรไว้แล้วสอยพวกจอมเวทก่อน!”
เพลยังคงนำการรบร่วมกับพวกนักธนู
ที่ทางเข้ารัง มีนักรบมังกรและมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลเบียดกันเข้ามาไม่หยุด
เบื้องหลังพวกมันคือกลุ่มมอนสเตอร์ระดับโอเวอร์ลอร์ดที่ใช้เวทมนตร์ได้
พวกมันคือบอสของดันเจี้ยนจากช่องเขาอัลต้า
-ยอมแพ้ซะ!
นั่นคือเจตจำนงของท่านเคย์เบิร์น!
บาเดมิกซ์พุ่งเข้าใส่คนแคระอีกครั้ง
พร้อมปล่อยพลังออร่าของเคย์เบิร์นออกมา
คนแคระที่อยู่ใกล้ๆหมดสติไปในทันที
“เราต้องเสริมกำลังเข้าไป
เพื่อให้คนเจ็บถอยออกมาได้!”
โอเบรอนฟื้นพลังชีวิตจากเวทฟื้นฟูของนักบวช
เขาลากขาที่ยังไม่หายดีเพื่อไปเผชิญหน้ากับบาเดมิกซ์
-ลมหนาสพริ้วไหว: สถานการณ์กำลังแย่ลงเรื่อย
ๆ
มอนสเตอร์จากช่องเขาอัลตร้ากำลังมารวมตัวกัน
พวกมอนสเตอร์เกิดจากทุกดันเจี้ยนเลย
ข้างนอกรังตอนนี้เหมือนวันสิ้นโลก
ต้นไม้ถูกโค่น…
มันคือคลื่นมอนสเตอร์!
ชาววิหคคนหนึ่งส่งข่าวผ่านช่องทางการสื่อสาร
เป็นเพราะมอนสเตอร์กำลังรวมตัวกันตามคำสั่งของบาเดมิกซ์
“ถ้าพวกมันยังโจมตีแบบนี้ต่อไป
พวกเราคงป้องกันเอาไว้ไม่ไหวแล้ว…”
ในขณะนั้นเอง โอเบรอนก็เห็นวีดและเหล่าคนแคระกำลังลากเตาแห่งการเสียสละเข้ามา
จบ part 1 ผู้แปล :
Teerawat
Editor : แอดชิน
เล่ม 55 ตอน
5
พาร์ท
2
ความฝันของเหล่าคนแคระ
แปลโดย
แอดชิน
เพจ
เราอ่านนิยายแปล
“คุณวีด!”
โอเบรอนเกือบจะกลิ้งไปบนพื้นพร้อมวิ่งด้วยเกราะที่แตกละเอียดของเขา
แม้แต่สมบัติจำนวนนับไม่ถ้วนในถ้ำมังกรก็ไม่อาจขัดขวางการมองเห็นของเขาได้
“คุณหาเตาไฟแห่งความเสียสละเจอแล้วใช่ไหม?”
“ถูกต้องแล้ว”
“สถานการณ์เลวร้ายมาก
ฉันสามารถใช้ทันทีได้ไหม”
“ใช้มันเหรอ? สิ่งนี้เหรอ?”
“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดศัตรูได้”
โอเบรอนมีประสบการณ์มากมายในการจัดการกับเตาไฟเนื่องจากเขาเป็นคนแคระ
เขาทุบเกวียนเปล่า โยนไม้ลงในเตาไฟ
และก่อไฟ
ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วกลายเป็นเปลวเพลิงที่ลุกโชน!
อาวุธมีอานุภาพมหาศาลเนื่องจากเป็นสิ่งประดิษฐ์ของคนแคระ
"เตาไฟแห่งการเสียสละ
ข้าจะเผา
30
เลเวลและพลังชีวิต
5,000
แต้ม
จงให้รางวัลข้าด้วยพลัง!"
เปลวไฟอันรุนแรงจากเตาไฟลามไปถึงโอเบรอน
ร่างกายของคนแคระดูเหมือนจะติดอยู่ในเปลวเพลิง
แต่ที่จริงแล้ว
พลังอันน่าเหลือเชื่อกำลังถูกถ่ายโอน
ร่างของโอเบรอนเปลี่ยนเป็นสีแดงสดเหมือนโลหะที่ถูกตีขึ้นในกองไฟ
“เตาไฟแห่งการเสียสละ
ตำนานนั้นเป็นเรื่องจริง
ข้าจะออกไปสู้ที่นั่นอีกครั้ง
ทิ้งทุกอย่างไว้กับข้าแล้วถอยทัพ”
โอเบรอนวิ่งไปหาบาเดมิกซ์เพื่อหยุดเขา
“ไชโย!”
เลเวลและแต้มพลังชีวิตของเขาเพิ่มขึ้น
800
และ
50,000
ตามลำดับ!
“โทสะแห่งเหล็ก!”
ขึ้นอยู่กับพลังของศัตรู
มันจะเพิ่มความเสียหายจากการโจมตีสูงสุดถึง
3
เท่าชั่วคราว
"ไป"
โอเบรอนฟาดขวานและโล่สลับกันไปมาและผลักผู้บัญชาการบาเดมิกซ์กลับไป
เขาชาร์จพลังด้วยร่างกายและผลักด้วยโล่
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ดั้งเดิมของนักรบ!
แม้ว่าเขาจะมีการโจมตีที่ได้รับการปรับปรุง
แต่เขาก็เดินหน้าด้วยการป้องกันที่เหนือชั้น
โอเบรอนส่งเสียงร้องสงครามออกมา
“จากนี้ไป ฉันจะจัดการบาเดมิกซ์เอง
ทุกคนเฝ้าทางเข้า!”
เหล่านักรบและทหารคนแคระที่เหนื่อยล้าต่างสละเวลาพันผ้าพันแผลและถูสมุนไพร
เหล่าคนแคระฟื้นพลังชีวิตด้วยคาถารักษาของเหล่านักบวช
และเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง
ความร้อนของการต่อสู้แผ่ปกคลุมบริเวณทางเข้าถ้ำ
“ให้เขาใช้เตาไฟโดยไม่ลังเล…”
วีดรู้สึกประหลาดใจกับการเสียสละของโอเบรอน
เขามีเลเวลมากกว่า 500 มากแต่ก็ไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อหยุดทหารมังกรและปกป้องสหายของเขา
“ขออภัยให้เราได้ใช้เตาไฟ”
คนแคระที่สูญเสียสติไปชั่วขณะก็ปรากฏตัวขึ้นทีละคนและเปิดใช้งานเตาไฟ
พวกเขาไม่ได้รุนแรงเท่าโอเบรอน
แต่พวกเขาเสนอเลเวลเป็นจำนวน
10,
20 และกลับเข้าสู่การต่อสู้พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ
ความสามารถในการต่อสู้ที่พวกเขาแสดงออกมานั้นน่าทึ่งมาก
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชั่วคราว
แต่พวกเขาก็สามารถต่อสู้ได้ในฐานะผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในเวอร์เซลล์
“มาเลย! ไอ้ตัวประหลาดกิ้งก่า!”
“ฆ่าพวกมันให้หมด
แล้วขโมยทุกอย่างไปเลย
คา-ฮา-ฮา-ฮา!”
เมื่อคนแคระประมาณ 30 คนเปิดใช้งานเตาไฟ
พวกเขาก็ป้องกันการรุกคืบของทหารมังกรได้อย่างง่ายดาย
ซูลตันและสมอลลิ่งร่ายเวทย์มนตร์ของพวกเขาออกมา
แต่ทางเข้าแคบเกินไป
กองกำลังเหล่านี้รวมตัวกันแน่นเกินไป
ทำให้การลอบสังหารทำได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้น
นักรบมังกรยังเป็นอุปสรรคต่อเวทมนตร์วงกว้างอีกด้วย
– มิเฮล: คุณวีด!
ดูเหมือนเคย์เบิร์นจะมุ่งหน้าไปที่ถ้ำแล้ว
เหล่าคนแคระแทบไม่มีเวลาได้หายใจอย่างสงบ
แต่เคย์เบิร์นก็กำลังจะกลับมา
“จริงๆ แล้วไม่มีเวลาพักเลย”
วีดตระหนักอีกครั้งว่านี่คือการต่อสู้กับเวลา
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถลักลอบนำสมบัติเข้าไปได้
แต่พวกเขาก็จะถูกไล่ล่าเว้นแต่ว่าพวกเขาจะหลบหนีไปยังระยะที่ปลอดภัย
“เตาไฟแห่งการเสียสละคือสิ่งสำคัญที่สุด
นายรับสิ่งนี้แล้วหนีออกจากถ้ำก่อน”
“ครับพี่”
วีดทิ้งเตาไฟไว้ที่ไนด์
คนแคระ
4
คนลากเกวียนเข้าด้วยกันแล้วออกไปที่เหมือง
“เราต้องการเวลามากกว่านี้
เราคงใช้เวลามากกว่านี้
ถ้านักรบมังกรไม่ค้นพบเรา…”
วีดมองไปรอบๆ ถ้ำด้วยความผิดหวัง
ไม่มีผู้เล่นคนใดทราบรูปแบบที่แน่นอนของถ้ำมังกร
ก่อนหน้านี้ วีดก็เพิ่งได้เห็นบริเวณใกล้ทางเข้าถ้ำเท่านั้น
‘ฉันเตรียมตัวมามากแล้วแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ’
เขาคิดจะขนสมบัติทั้งหมด
แต่กลับมีทองมากเกินไป
กองทองรองเรืองกระจายอยู่ทั่วทุกที่!
คิดว่าเขาคงลำบากใจที่จะตรวจสอบสมบัติเพราะมีแท่งทองคำขนาดใหญ่ขวางทางอยู่
มรดก โบราณวัตถุ
และเครื่องประดับจากอาณาจักรเก่ามีมากมายเกินกว่าที่จะเคลื่อนย้ายด้วยเกวียนได้
อย่างไรก็ตาม หากพวกเขามีเวลาเพียงพอ
ก็คงไม่มีของเหลืออยู่
แต่ยังมีสมบัติอีกมากมายที่ยังไม่ได้ถูกพบ
– ทุกคนถอยออกไป!
วีดใช้ราชสีห์คำราม
คำว่าถอยกลับยังคงดังก้องอยู่ภายในถ้ำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ออกไปจากที่นี่กันเถอะ”
“คำสั่งของคุณวีด
ออกไปได้แล้ว”
พวกคนแคระที่กำลังคว้าสมบัติจำนวนหนึ่งก็ผลักเกวียนและหลบหนีไปที่เหมือง
“คนเจ็บก็ต้องเคลื่อนไหวเร็วด้วย!”
ผู้เล่นที่ถอยกลับไปด้านหลัง
หลังจากสูญเสียพลังชีวิตจากการป้องกันทหารมังกร
ก็ลากเกวียนสมบัติด้วยเช่นกัน
ต่อหน้าสมบัติอันล้ำค่า
ความแข็งแกร่งก็ผุดขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้
– เจ้า! เจ้าเอาของของท่านเคย์เบิร์นไปไม่ได้หรอก!
บาเดมิกซ์ฟาดหอกและคลุ้มคลั่ง
แต่โอเบรอนก็ป้องกันเขาไว้ได้ในระยะใกล้ด้วยการฟาดโล่ของเขา
“ทุกคนถอยไป เราจะจัดการด้านหลังเอง!”
แม้ว่าโอเบรอนจะพูดอย่างนั้น
แต่วีดก็ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้
เขายืนนิ่งด้วยความตะลึง
มองดูพวกคนแคระ
“คุณวีด! ไม่ต้องห่วงพวกเรา
ไปก่อนเถอะ
รีบหน่อย!
แล้วพวกเราก็จะได้หนีด้วย!”
โอเบรอนกรีดร้อง
เพลและหน่วยจู่โจมเตรียมที่จะล่าถอยเช่นกัน
และนักรบมังกรก็เคลื่อนพลเข้ามาตอบโต้
คนแคระวินเดลวิ่งโดยมีเป้สะพายหลังเต็มใบ
“คุณวีด เราต้องไปแล้ว”
“…..”
“ไม่ต้องห่วงพวกนั้นหรอก
เราฝึกวิธีนี้มาหลายสิบรอบแล้ว
เตรียมม้วนคัมภีร์เวทมนตร์ไว้ด้วย
เร็วเข้า!”
วีดถูกบังคับให้หันหลังกลับอย่างโดดเดี่ยว
“อึก!”
*กระดึบ กระดึบ*
< คุณเกินขีดจำกัดน้ำหนักสูงสุดที่กำหนดแล้ว
ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง
84%
>
การแบกสัมภาระของเขาเกินขีดจำกัดของความแข็งแกร่งและความคล่องตัวของเขา!
"ฮึบ!"
เขาเดินผ่านทางเดินที่เชื่อมระหว่างถ้ำกับเหมืองได้อย่างหวุดหวิด
เขาใช้ดาบโลอาเป็นไม้เท้า
– แกออกไปไม่ได้! ข้าไม่ยอมให้เจ้าไป!
จากทางด้านหลัง โอเบรอนและพวกคนแคระกำลังต่อสู้กับบาเดมิกซ์และทหารมังกรขณะที่พวกเขากำลังถอยหนี
ทางเดินนั้นแคบมาก ทำให้มอนสเตอร์ขนาดกลางไม่สามารถลอดผ่านได้
กระดึบแบบหอยทาก-กระดึบแบบหอยทาก…
วีดเต็มไปด้วยความโลภและความเสียดายขณะที่เขาเดิน
“เฮ้อ”
ยิ่งก้าวไปแต่ละก้าว
ความเศร้าของเขาก็ยิ่งมากขึ้น
เขาอยากจะกลับไปสู่ขุมทรัพย์แต่โชคไม่ดีเขาไม่สามารถทำได้
“รีบไป!”
เนื่องจากโอเบรอนเป็นผู้รับผิดชอบแนวป้องกันสุดท้าย
เขาจึงสามารถป้องกันนักรบมังกรด้วยขวานของเขาได้
หากพวกเขาไม่ได้ใช้เตาไฟแห่งการเสียสละ
นักรบก็คงไม่สามารถยืนหยัดได้
แต่พวกเขาก็ทำหน้าที่ของตนได้อย่างยอดเยี่ยมในขณะนี้
โอเบรอนผลักบาเดมิกซ์ออกไปและตะโกน
“พังมันซะ!”
ทางออกเชื่อมต่อกับถ้ำ!
สถาปนิกคนแคระไม่ได้มีส่วนร่วมในการปล้น
แต่กลับวางกับดักต่างๆ
ไว้แทน
พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะถูกไล่ออกไปแล้ว
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะใช้กับดัก
*พังทลาย!*
เพดานถล่มลงมาในจังหวะที่โอเบรอนเดินผ่านมา
ส่งผลให้ทหารมังกรถูกปกคลุมไว้
บาเดมิกซ์ผู้ทรงพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็หายตัวไปในเศษหินที่ทับถมเส้นทางเหมือง
เหล่าทหารและนักรบคนแคระต่างรู้สึกต้องการหลบหนีจากตำแหน่งของตนเมื่อเห็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางที่ถูกปิดผนึก
“อ่า อย่างน้อยก็จบแล้ว…”
“นั่นเป็นการต่อสู้ที่เหนื่อยล้ามาก”
"ว้าว
สนุกจังเลย
เรามาตั้งใจกันหน่อยเถอะ
เราถล่มเพดานแล้ว
กับดักก็อยู่ตรงนั้น
แต่ทหารจะไล่ตามอีกไม่นาน
เอาล่ะ
ออกไปจากที่นี่กันเถอะ"
คนแคระในสภาพหมดแรงก็เซไปมาขณะที่พวกเขาวิ่ง
โอเบรอนที่ร่างกายท่วมไปด้วยเหงื่อเดินเข้าไปหาวีด
“คุณวีด ไปกันเถอะ”
“คุณทำได้ดีมาก”
“ไม่เป็นไรหรอก ของของคุณดูหนักมากเลย
ฉันช่วยถือหน่อยได้ไหม?”
"ไม่"
"อะไรนะครับ?"
“คุณไม่ต้อง”
“…”
โอเบรอนทำผลงานที่น่าเหลือเชื่อได้สำเร็จ
ถึงแม้ว่ามันจะไม่เพียงพอที่จะทำให้วีดยอมมอบเป้สะพายหลังของเขาให้ก็ตาม!
"คุณวีด
ฉันชื่นชมคุณมากเลยนะที่สามารถทำภารกิจยากๆ
แบบนี้คนเดียวได้ทุกครั้ง
ไม่มีใครทำได้นอกจากคุณ"
โอเบรอนแสดงความเคารพต่อวีดที่สามารถผ่านการต่อสู้อันเข้มข้นเช่นนี้ไปได้
“มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นจริงๆ
มันยังไม่จบแค่นี้
แต่วันนี้จะเป็นวันที่ฉันจะจดจำไปตลอดชีวิต”
วีดคร่ำครวญด้วยความสิ้นหวัง
“ฉันน่าจะกอดมันไว้ทั้งหมด
แม้ว่ามันจะยากกว่าก็ตาม…”
“…”
สมบัติที่ถูกทิ้งไว้ในถ้ำหลอกหลอนเขา
และเขาเกลียดที่จะต้องแบ่งสมบัติเล็กๆ
น้อยๆ
ที่เขามีให้กับคนแคระ
แต่พูดตามตรงแล้ว พวกคนแคระต่อสู้ได้ดีมากจนเขาคิดไม่ออกเลยว่าจะหาข้อแก้ตัวอะไรให้พวกเขาถูกส่งกลับบ้านโดยไม่ได้รับรางวัล
โอเบรอนพูดต่อโดยไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร
“จริงๆ แล้ว
ตั้งแต่เริ่มเตรียมการ
ฉันก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้
คุณคงดีใจมากที่ภารกิจยากๆ
เช่นนี้สำเร็จ”
“มีความสุขบ้าอะไร”
“…”
'ความกตัญญูที่ฉันมีต่อพวกคนแคระจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
แต่สมบัติเหล่านั้นจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์'
พวกเขาใช้เวลาอยู่ภายในถ้ำมังกรไม่มากนัก
แต่ระหว่างที่อยู่ที่นั่น
พวกเขาก็เอาเตาไฟกลับคืนมาและเก็บสมบัติหายากต่างๆ
มากมาย
มีเป้สะพายหลังสองใบซึ่งบรรจุไอเทมที่สำคัญที่สุดที่ได้รับมาจากถ้ำ
'ทั้งตาและมือของฉันต้องเร็วขึ้นในอนาคต
ฉันคิดว่าฉันคงใช้สมาธิไปเกือบอาทิตย์แล้วคราวนี้'
เขาเก็บรวบรวมชุดอุปกรณ์นักรบและนักธนูครบชุดจนถึงเลเวล
900
และยังแยกไม้เท้าและเสื้อคลุมเวทมนตร์ขั้นสูงไว้ด้วย
คุณสมบัติอุปกรณ์บางส่วนได้รับการเสริมแต่งโดยมังกร
เขาไม่ได้มีโอกาสได้ดูของชิ้นเล็กๆ
น้อยๆ
เช่น
เครื่องประดับ
และน่าจะมีของที่มีประโยชน์มากมายจากสิ่งของที่ไนด์
เชส
และคนแคระคนอื่นๆ
เก็บกู้มาได้
'ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์อีกต่อไปแล้ว'
ไม่มีของชิ้นไหนในถ้ำที่ไม่ใช่ของหายากเลย
เขาสามารถเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาสวมใส่ได้
ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าบูท
เข็มขัด
ชุดนักผจญภัย
ปลอกแขน
หรือชุดเกราะหนังของเขาก็สามารถเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่ดีกว่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
'พลังการต่อสู้ของฉันจะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตอนนี้'
อุปกรณ์ที่วีดสวมใส่มีจุดบกพร่องอยู่บ้างเล็กน้อย
ยกเว้นดาบโลอาและชุดเกราะผู้ปกครองท้องฟ้าแล้ว
ไอเทมหลายชิ้นมีคุณภาพต่ำกว่าโดยรวม
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถเปลี่ยนพวกมันให้เป็นอุปกรณ์ที่ดีกว่าได้
เนื่องจากไอเทมเหล่านั้นหายากและมีราคาแพงเกินไปสำหรับเขาที่จะซื้อในการประมูลหรือด้วยทอง
'ความแข็งแกร่ง ความคล่องแคล่ว
ฉันสามารถเพิ่มความเสียหายจากการโจมตีได้มากหากจำเป็น...
ฉันยังสามารถปรับความอดทน
อัตราการฟื้นฟู
ความต้านทานคำสาป
และค่าคุณสมบัติอื่นๆ
เพื่อให้สามารถจัดการพื้นที่ล่าและดันเจี้ยนเฉพาะเจาะจงได้'
เขาไม่รู้สึกอิจฉาอุปกรณ์ที่สมาชิกกิลด์เฮอร์มีสสวมใส่อีกต่อไป
ด้วยอุปกรณ์ที่ดี พลังที่มากขึ้นก็เพิ่มขึ้น
ความเร็วในการล่ามอนสเตอร์ก็เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แม้แต่การฟาร์มเลเวลของเขาก็จะก้าวไปสู่ระดับใหม่
เล่ม 55 ตอน
5
พาร์ท
3
ความฝันของเหล่าคนแคระ
แปลโดย
แอดชิน
เพจ
เราอ่านนิยายแปล
“แฮ่ก แฮ่ก”
“ไปต่อกันเถอะ เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น”
พวกคนแคระผลักเกวียนออกจากอุโมงค์เหมืองที่แคบและมืด
เมื่อออกไปข้างนอก แสงแดดอันอบอุ่นต้อนรับพวกเขา
แต่ไม่มีเวลาที่จะผ่อนคลาย
“รีบขนของแล้วไปกันเลย!”
ภายใต้การบังคับบัญชาของพาดอน
เกวียนบรรทุกที่ลากโดยวัวกระทิงและมีคนแคระเป็นคนขับ
ก็ออกเดินทางอย่างเร่งรีบจากปากถ้ำ
“ฉันจะเลี้ยงแกเยอะๆ
เมื่อเราถึงที่ปลอดภัยแล้ว
รีบไป!”
“มูว์!”
เกวียนบรรทุกหลายร้อยคันแยกย้ายกันลงมาจากภูเขา
มันเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการปล้นที่ถ้ำมังกร
นั่นก็คือการหลบหนี!
วีดยังคงเดินผ่านอุโมงค์เหมืองและฝุ่นหนา
ข้างๆ เขาคือโอเบรอน
นักรบคนแคระ
คอยปกป้องเขาตลอดทาง
“คุณทำเพื่อผมมามากแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณโอเบรอน
เราคงทำไม่สำเร็จหรอก”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ
ฉันแค่ทำตามแผนของคุณวีดเท่านั้น”
โอเบรอนเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีภาวะผู้นำที่โดดเด่น
และเขามีบุคลิกภาพที่ทุ่มเท
วีดยอมรับว่าเขาบรรลุบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเสียสละหลายอย่างเพื่อแผนการปล้นครั้งนี้
‘ความจริงฉันไม่ไว้ใจเขา’
แม้กระทั่งเมื่อพวกเขาออกจากอุโมงค์เหมืองแล้ว
เขาก็ยังคงตั้งการ์ดป้องกันทุกครั้งที่โอเบรอนเข้ามาใกล้
'เขาจะต่อยฉันจากด้านหลังเหรอ? ตอนนี้มันออกอากาศอยู่แล้ว
แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง'
‘คนใจดีอย่างฉันที่โดนตัวร้ายหลอกในท้ายที่สุดก็เป็นเรื่องปกติมาก
ปกติฉันคงไม่กังวลขนาดนี้
แต่ตอนนี้เขาน่าจะเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด
เพราะเขาเปิดใช้งานเตาไฟแห่งการเสียสละ...
ไม่มีทาง!
เขาเปิดใช้งานเตาไฟเพื่อโอกาสนี้งั้นเหรอ? ใช่
มันเป็นไปได้
คนแคระที่น่ารังเกียจจริงๆ...’
ความสงสัยครั้งแล้วครั้งเล่า
ในใจของเขา
โอเบรอนกลายเป็นวายร้ายที่ต้องถูกกำจัดในอนาคต
'ประเด็นคือเขาเป็นนักรบที่พลังโจมตีไม่สูงนัก...
ฉันหยุดเขาได้
ถ้าจำเป็นจริงๆ
ฉันจะใช้การแกะสลักกาลเวลาแล้วโต้กลับ'
การขอแบ่งเบาภาระทำให้เขากลายเป็นหัวขโมยอย่างแน่นอน
ทำให้วีดต้องระวังตัว
ตอนนี้ที่พวกเขาออกจากเหมือง
ความสงสัยของเขาลดลงเหลือประมาณ
50%
ทำให้โอเบรอนกลับมาอยู่ในหมวดหมู่บุคคลดีอีกครั้ง
วีดคงไม่มีวันสามารถละทิ้งความสงสัยที่มีต่อผู้คนได้จนกว่าจะสิ้นใจ
'พวกเขาบอกว่าคนที่คุณไว้ใจได้คือครอบครัวเท่านั้น...
แม้แต่เรื่องนั้นก็ไม่จริงเสมอไป
พวกมิจฉาชีพก่ออาชญากรรมครั้งแรกกับครอบครัวของตัวเอง'
ในโลกนี้แม้แต่คำพูดของผู้เชี่ยวชาญ
เช่น
แพทย์และทนายความ
ก็ต้องผ่านความสงสัย
เช่นเดียวกับการยืนยันจากการค้าขายหรือธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์
ตลาดสินค้ามือสองนั้นอันตรายพอๆ
กับดันเจี้ยน
หรืออาจจะอันตรายกว่าด้วยซ้ำ
“ผมรู้สึกอุ่นใจมากที่มีคุณโอเบรอนอยู่ที่นี่”
“สิ่งที่ฉันทำนั้นเล็กน้อย
ต้องขอบคุณคุณวีด
ทวีปเวอร์เซลล์จึงกลายเป็นดินแดนที่สงบสุข”
วีดแลกเปลี่ยนคำชมเชยอันอบอุ่นถึงแม้จะจ้องมองด้วยสายตาที่จ้องเขม็ง!
– ลมหนาวพริ้วไหว: เคย์เบิร์นจะมาถึงในอีกประมาณ
10
นาที
“เราไปที่หมู่บ้านเดบราโดกันเร็วเข้า”
“ครับ เข้าใจแล้วครับ”
วีดวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากโอเบรอนเป็นเวลานานมากหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจปัจจุบัน
'ในสถานที่ที่เหมาะสม
เขามีศักยภาพที่จะกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่าอย่างแท้จริง'
การต่อสู้ เส้นสาย
และความสำเร็จของเขาในฐานะลอร์ดนั้นดีกว่าเพลมาก
เขาเป็นคนเก่ง ขยันขันแข็ง
และเสียสละ
ถือเป็นพรสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ
‘ฉันคิดว่าฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมนักธุรกิจถึงกระหายคนเก่งๆ
ขนาดนี้
ถ้าสิ่งที่ฉันเห็นเป็นความจริง
คนๆ
นี้อาจถูกเอาเปรียบได้ในระยะยาว’
วีดเลียริมฝีปากอย่างแรง
คราวนี้ไม่ใช่เพื่อโกหก
แต่เพื่อยกย่องโอเบรอนแทน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมสังเกตเห็นความสำเร็จของคุณเป็นประจำเลย”
“คุณก็แค่พูดไปงั้นแหละ
ความสำเร็จของฉันยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของคุณเลยด้วยซ้ำ”
“ผมดูวิดีโอเกี่ยวกับคุณโอเบรอนมากมายนับตั้งแต่เริ่มเล่นรอยัลโร้ด”
"จริงหรือ?"
“มันช่วยผมได้มากจริงๆ”
เขาตรวจสอบเพื่อวิเคราะห์และอ้างอิงอย่างแน่นอน
เขาคิดที่จะเลือกคนแคระเป็นเผ่าพันธุ์ของเขา
เนื่องจากเป็นคลาสที่ดีที่สุดสำหรับการประดิษฐ์และการขาย
การต่อสู้ก็ท้าทายเช่นกัน
แต่มีเหตุผลใหญ่ๆ
ที่ทำให้เขาหันหลังให้
'มันเตี้ยเกินไป
หัวก็ใหญ่ด้วย...'
ปัญหาเรื่องสัดส่วนร่างกาย!
รูปลักษณ์ที่ไม่สวยงามไม่ใช่ปัญหา
แต่เทคนิคดาบก็ผสมผสานได้ดีกับความยาวของแขนและขาที่ยอมรับได้
ดังนั้น
ในท้ายที่สุด
เขาจึงไม่เลือกเผ่าพันธุ์นี้
แม้จะประจบสอพลออย่างเรียบเฉย
แต่ใบหน้าของโอเบรอนกลับแดงก่ำ
“การที่คุณวีดได้ชมวิดีโอของฉัน
ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
“ผมดูคุณเคลียร์ดันเจี้ยนมาลินซ่าไปแล้ว
3
ครั้ง”
“อ้อ วิดีโอพวกนั้นด้วยเหรอ? ตอนนั้นเลเวลฉันยังไม่สูงขนาดนั้น”
“ตอนที่คุณกำลังฝึกทักษะขว้างขวานอยู่น่ะเหรอ? ผมมั่นใจว่ามันช่วยผู้เล่นมือใหม่ได้เยอะเลย”
วีดได้พูดคุยอย่างเป็นมิตรกับโอเบรอนขณะที่เขามาถึงหมู่บ้านเดบราโด
ไนด์และผู้เล่นคนแคระพร้อมด้วยเตาไฟแห่งการเสียสละกำลังรออยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน
“พี่! ดูเหมือนเคย์เบิร์นจะมาถึงถ้ำเร็วๆ
นี้แล้วล่ะ”
“ใช่แล้ว มาส่งภารกิจกันก่อน”
วีดนำคนแคระและเตาไฟไปหาผู้อาวุโส
ผู้อาวุโสคนแคระที่กำลังลับขวานพร้อมกับเบียร์อยู่ข้างๆ
มองเห็นเตาไฟและรีบลุกขึ้นยืน
“นี่คือเตาไฟแห่งการเสียสละที่คุณกล่าวถึง”
“นี่ นี่…
สมบัติของคนแคระ!”
ผู้อาวุโสเช็ดน้ำตาแล้วลูบเตาไฟ
ตริ๊ง!
< ความปรารถนาในการปล้นของคนแคระสำเร็จแล้ว
คนแคระที่มุ่งมั่นได้เอาสมบัติที่ถูกขโมยไปโดยเคย์เบิร์นกลับคืนมา
ความปรารถนาอันยาวนานของพวกเขาได้สำเร็จแล้ว
ผู้อาวุโสคนแคระจะให้รางวัลแก่ฮีโร่ของเผ่าพันธุ์พวกเขา
เกียรติยศเพิ่มขึ้น 32,000
ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับคนแคระได้รับการสร้างขึ้นแล้ว>
“ถึงมันจะเก่ามาก
แต่ข้าก็สัมผัสได้ถึงรัศมีแห่งไฟอันยิ่งใหญ่
อาวุธนับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ล้วนถือกำเนิดขึ้นจากเตาไฟนี้”
“นี่คือของจริงที่เราเก็บกู้มาจากถ้ำของเคย์เบิร์น
มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดที่มังกรซ่อนเอาไว้”
ในการสนทนา การพูดเกินจริงเล็กน้อยถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น
ผู้อาวุโสคนแคระคล้อยตามทันที!
“ใช่แล้ว มังกรจะได้รับความอบอุ่นจากเตาไฟของเรา”
“แน่นอน มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่แม้แต่เคย์เบิร์นยังหวงแหน”
ขณะที่วีดกำลังพูดคุยกับผู้อาวุโส
วีดก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับที่อยู่ของเคย์เบิร์น
– ลมหนาวพริ้วไหว:
เคย์เบิร์นกลับมาที่ถ้ำแล้ว
ในที่สุดเจ้าของก็ถึงบ้านแล้ว
จนถึงตอนนี้ เขาพยายามที่จะไม่คิดถึงปฏิกิริยาของเคย์เบิร์นต่อการปล้นครั้งนี้
– ลมหนาวพริ้วไหว:
เราได้ยินเสียงกรีดร้องของมังกร
'พวกมันกล้าดียังไงมาขโมยสมบัติของข้า...' เขาสาบานว่าจะฆ่าพวกเราทุกคน
มังกรมีจิตใจคับแคบ และปฏิกิริยาตอบสนองของมันก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้
วีดตัดสินใจที่จะกล้าหาญเกี่ยวกับเรื่องนี้
'ไม่ใช่ความผิดของฉันหรอก
มันเป็นภารกิจเกี่ยวกับความปรารถนาอันยาวนานของเหล่าคนแคระ
มันขอให้ฉันช่วยวิชูร์ฮาล์ฟเอลฟ์ด้วย'
สิ่งที่เขาทำก็แค่ทำภารกิจเท่านั้น
แม้จะรวมเตาไฟแห่งการเสียสละไว้ด้วย
แต่เขาก็ขโมยของจากถ้ำได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่ใช่แค่ตัวเขาเองเท่านั้น
แต่เขายังได้ระดมคนแคระหนึ่งพันคนและทีมจู่โจมมาขโมยของอีกด้วย
'ต้องกัดให้เต็มคำที่สุดเท่าที่จะทำได้
การตายหลังจากเลียจานแค่นิดเดียวมันน่าเศร้าเหลือเกิน
ปัญหาอยู่ที่ภารกิจจริงๆ
นะ
การออกมาโดยไม่ได้เก็บสมบัติอะไรเลยจากการเข้าไปในถ้ำน่ะเหรอ? มันเป็นอันตรายต่อสภาพจิตใจของคุณจริงๆ'
ผู้อาวุโสเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อที่เต็มไปด้วยฝุ่นของเขา
“ข้ารู้ว่าถ้ารอ
วันนี้จะต้องมาถึงในที่สุด
เจ้าต้องได้รับรางวัล
เพราะเจ้าได้เตาไฟแห่งการเสียสละคืนมา”
“รางวัล…แบบไหน?”
วีดยิ้ม
เขาคว้าสมบัติมาได้มากมาย
แต่ความโลภของเขาไม่มีที่สิ้นสุด!
“เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเรียนรู้ทักษะของหมู่บ้านของเรา”
“ทักษะ?”
“เทคนิคลับในการทำงานกับไฟและโลหะ
ข้าจะสอนเจ้าเอง
ข้าคิดว่าสิบวันกับเตาไฟแห่งการเสียสละน่าจะพอ”
ตริ๊ง!
< คุณสามารถรับเทคนิคลับของช่างตีเหล็กคนแคระได้
'วิธีจุดไฟและรักษาไฟ'
การฝึกฝนเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์กับไฟ
30%
ทักษะการตีเหล็กได้รับพัฒนาไปพร้อมกับการใช้เวทมนตร์และประสิทธิภาพเวทมนตร์ >
< คุณสามารถรับเทคนิคลับของช่างตีเหล็กคนแคระได้
'การฝึกหลอมเหล็ก'
คุณสามารถรับความลับของคนแคระจากการทำงานกับโลหะได้
คุณยังสามารถหาความรู้เกี่ยวกับโลหะผสมที่จะช่วยคุณในการผลิตโลหะเฉพาะทาง
ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ตีเหล็ก>
วีดมีทักษะการตีเหล็กขั้นสูงเลเวล
3
ดังนั้นเขาจึงรู้คุณค่าของทักษะนี้
'ทักษะนั้นยอดเยี่ยมมาก
ยิ่งฉันสร้างมากเท่าไหร่
ความเร็วในการฝึกฝนทักษะการตีเหล็กก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้ฉันสามารถฝึกฝนการตีเหล็กได้คล่องขึ้นแล้ว'
เขาคาดหวังว่าจะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์บางอย่างที่คนแคระประดิษฐ์ไว้แล้ว
แต่นี่กลับเป็นโอกาสที่จะได้อะไรบางอย่างมากกว่านั้น
“พวกเราคนแคระคือสิ่งมีชีวิตที่สามารถเอาชนะเปลวเพลิงอันรุนแรงได้
ตอนนี้เราได้เตาไฟคืนมาแล้ว
เราก็มีพลังที่จะต้านทานมังกรได้”
“ท่านจะต่อต้านมังกรงั้นเหรอ?”
“อืม อาจจะไม่ได้เป็นอิสระจากอิทธิพลของมังกรโดยสมบูรณ์...
แต่อย่างน้อยที่สุด
เราก็ต้องต่อสู้กับมังกรดำอย่างเคย์เบิร์น
ตราบใดที่มันยังมีชีวิตอยู่
พวกคนแคระก็จะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ”
วีดจับคางของเขาและพยักหน้า
“ท่านพูดถูก เคย์เบิร์นเป็นมังกรชั่วร้ายจริงๆ”
“ข้าจะเปิดการประชุมใหญ่ให้พวกคนแคระ
และประกาศว่าเตาไฟถูกยึดคืนแล้ว
เราจะใช้พลังของมันเพื่อต่อสู้กับเคย์เบิร์น”
“ท่านจะสามารถเอาชนะเคย์เบิร์นได้หรือไม่?”
“ข้ารู้ว่ามันคงยาก
แต่พวกเราคนแคระต้องทำให้ได้
โปรดนำเตาไฟไปที่หมู่บ้านสตัมป์
ในเขตภูเขานอร์นด้วย
“หมู่สตัมป์เหรอ?”
“นี่คือสถานที่ที่คนแคระมารวมตัวกันเพื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญ
พวกเขาทุกคนจะต้อนรับคุณตั้งแต่คุณเอาเตาไฟคืนมา
ข้าจะให้แผนที่
ดังนั้นโปรดนำไปที่นั่นด้วย
เคย์เบิร์นอาจจะพยายามไล่ล่าเจ้า
แต่เราจะเบี่ยงเบนเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เจ้าจะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
ดังนั้นอย่าประมาท”
ตริ๊ง!
< การประชุมใหญ่ของคนแคระ
การประชุมของคนแคระที่จะตัดสินชะตากรรมของเผ่าพันธุ์จะจัดขึ้นที่หมู่บ้านสตัมป์
ในเขตภูเขานอร์น
ในอีกสิบวัน
เหล่าคนแคระนับไม่ถ้วนกำลังรอคุณอยู่
ในทางกลับกัน เคย์เบิร์นอาจติดตามร่องรอยที่นำไปสู่ถ้ำ
แต่คนแคระในหมู่บ้านเดบราโดก็เตรียมพร้อมแล้ว
พวกเขาจะทำลายเหมืองจนหมดสิ้นและลบร่องรอยที่เหลืออยู่บนช่องเขาอัลตา
ระดับความยาก: S
ความต้องการของภารกิจ:
คนแคระ>
< ความปรารถนาอันยาวนานของคนแคระได้สำเร็จแล้ว
ภารกิจสามารถดำเนินการต่อได้
เนื่องจากคุณอยู่ในร่างคนแคระอย่างสมบูรณ์แบบผ่านประติมากรรมจำแลง
หากภารกิจถูกปฏิเสธ ความสัมพันธ์กับคนแคระจะกลายเป็นศัตรู
“ข้าจะไปถึงหมู่บ้านสตัมป์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
< ภารกิจได้รับการยอมรับแล้ว >
< คุณได้รับแผนที่หมู่บ้านกรูเทจี้แล้ว >
เล่ม 55 ตอน
5
ความฝันของเหล่าคนแคระ
แปลโดย Teerawat
และ
แอดชิน
เพจ
เราอ่านนิยายแปล