เล่ม 33 ตอนที่
10 : จุดตัดแห่งชีวิตและความตาย แปลโดย Acid กรด
        "ค๊อกๆ"
        วีดยังไอออกมาเป็นเลือด
        'สถานการณ์นี้ไม่ดีเลยจริงๆ'
        เขาส่งกระซิบถึงซอยูน
                -
กะ..เกิด..อะ..อะไรขึ้น?
                -
ฉันกำลังถูกลากตัวไปพระราชวัง
                -
นะ...หนี..ดะ..ได้ไหม?
                -
ฉันเพิ่งตรวจดูแต่ชื่อของฉันเปลี่ยนเป็นฮิลเดรันและฉันไม่สามารถใช้ทักษะได้อีกต่อไป
        เลเวลและทักษะของเธอก็ลดลงด้วย ดังนั้นเธอไม่สามารถคิดขัดขืน โนดุลและฮิลเดรัน
อาจรู้สึกว่านี่เป็นอารมณ์ไรซึ่งหนทาง
        ตริ๊ง!
| 
                -  การรักษาโรคไข้กาฬ 
                        โรคไข้กาฬกำลังกัดกินร่างกายของคุณอย่างต่อเนื่องถ้าคุณไม่ได้รับการรักษา 
                อย่างรวดเร็วแล้วคุณจะเสียชีวิต
  หากเวลาการรักษายืดเยื้อออกไป อาการแทรกซ้อน 
                สามารถเกิดขึ้นได้ 
                        ระดับความยาก
  : ภารกิจเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย 
                        ข้อจำกัดของภารกิจ
  : เหลือเวลาสามวัน 
                        ภารกิจล้มเหลวเมื่อคุณตาย
  คุณจะกลับสู่ทวีปเวอล์เซลล์ที่แท้จริง | 
        เขาเดินโซซัดโซเซไปรอบหมู่บ้านและมองหาโบสถ์
ถ้ามีนักบวชสักรูปที่โบสถ์แล้วเขาสามารถรักษา
ด้วยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ หมู่บ้านโบเดนเป็นสถานที่เล็กๆดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเจอโบสถ์สักแห่ง
อาจเป็นไปได้ที่จะเจอ
ผู้เฒ่าของหมู่บ้านบนถนน
        "สะ..สวัส.ดี
การทักทายโดยสัญชาติญาณเพื่อเพิ่มความคุ้นเคย!
        "เจ้าเป็นคนนอก(หมู่บ้าน) เกิดอะไรขึ้น?"
        "ตะ...ตัวผม, ต้อง..กะ..การ..รัก..ษา..ไข้..กาฬ"
        มันลำบากกระทั่งการพูด แม้แต่จะเอ่ยคำสักเล็กน้อย, ปฏิกิริยาของผู้เฒ่าเป็นไปอย่างเย็นชา
        "ถ้าเจ้าเป็นโรคไข้กาฬยังไงก็ตาย ไม่มีทางรักษาในหมู่บ้านของเรา"
        "ละ...แล้ว"
        "ถ้าเจ้ามอบเงินมาแล้วข้าจะช่วย"
        ดวงตาของตาเฒ่าเป็นประกาย
วีดรู้ว่าเขาดูดีมากเลยดูเหมือนเป็นเป้าหมายทำเงินได้แยะ
ถ้าเขายังมีความสามารถอยู่แล้วเขาสามารถจัดการตาเฒ่าได้อย่างง่ายดายแต่เวลานี้
เขาไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ
        "ผะ...ผม..มะ..ไม่..มะ..มี..งะ..เงิน"
        "ให้ตายเถอะ อย่างที่คิดไว้เลย"
        ตาเฒ่าชาวบ้านหนีไปจากวีดที่เจ็บป่วย
แน่นอนว่าน้ำใจของชาวบ้านหายากในเวลาสงคราม
        วีดยอมรับว่าโนดุลอยู่ในสถานการณ์ที่โชคร้ายและน่าเศร้าใจ ในโลกนี้,
เขาเป็นคนโชคดีพอที่มีใบหน้า
อันหล่อเหลาและคนรัก
แต่เวลานี้วีดได้พบเจอประสบการณ์ด้วยตัวเอง
        พวกชาวบ้านแค่เดินผ่านไปอย่างไม่ใยดีขณะที่พวกเขาเห็นวีด
จากนั้นผู้คุ้มกันหมู่บ้านที่กำลังถือหอก
เข้ามาใกล้และกล่าว
        "คนเป็นโรคไม่ให้อยู่ในหมู่บ้านนี้"
        เขาไร้ความสามารถในการต่อสู้และร่างกายของเขาอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่ดังนั้น
วีดอาจถูกหมาป่ากัดกินได้
ถ้าเขาออกไปข้างนอก
        "ไม่..มะ.มี..อะ..ไร สะ..เสีย..หะ..หาย..นิ"
        "ถ้าแกตายพวกเราก็ต้องทำลายร่างแก ไปๆออกไปจากหมู่บ้าน"
        "......"
        ผู้คนช่างไร้น้ำใจจริงๆ
        "ฉัน..ตะ..ต้อง..ระ..รอด"
        วีดเดินโซซัดโซเซออกจากหมู่บ้าน วีดรู้สึกหมดหวังทุกครั้งที่เขาเห็นชาวบ้านแต่ไม่มีใครช่วยเขาเลย
        "หวาย..คนป่วย!"
        "ดูนั่นซิ!"
        นอกจากนี้เขายังเจอพวกเด็กซนที่ขว้างก้อนหินใส่
| 
        - คุณถูกหินเขวี้ยงใส่ 
                        พลังชีวิตลดลง
  3 | 
        เขาไม่ได้สวมเกราะดังนั้นพลังชีวิตจึงตกลงทันที
        'ถ้าเป็นแบบนี้เราตายแน่'
        วีดก้มหน้าและรีบออกจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
มันกำลังเจ็บปวดแต่เขายังต้องระวังตอนผ่านสุนัข!
เขายังจำเป็นต้องระมัดระวังหลังจากหลบออกจากหมู่บ้าน
| 
-
  การพักผ่อนได้ฟื้นฟูพลังชีวิต 2 | 
        พละกำลังกำลังฟื้นคืนอย่างช้าๆ คงจะดีกว่าถ้าใช้ผ้าพันแผลแต่เขาไม่มีอะไรเลย
        "ค๊อกๆ อัก!"
| 
        - ไข้กาฬทำให้เกิดอาการชัก 
                พลังชีวิตตกลง 14 
                พละกำลังอ่อนแรงลงทำให้ก้าวเดินยากขึ้น | 
        ร่างกายของวีดสั่นสะท้านจากความเจ็บปวด
        'เรายังคงโชคดีเพราะมันไม่หนาว'
        วิ้ว.ว.ว!
        ทันใดนั้นลมหนาวกรรโชกแรงพัดผ่าน!
        'อย่างที่คิดเลย...ฉันคงหลอกขายแกแล๊คซี่เมื่อชาติก่อนละมั้ง'
        วีดต้องทนทรมานในขณะที่พลังชีวิตและพละกำลังคืนกลับมาอย่างช้าๆ
วีดไม่รู้ว่าเขามีเวลาเหลือ
อยู่เท่าไรก่อนที่ราชาปอร์ตูจะบูชายัญเธอ
ความสามารถของซอยูนก็เพิ่มขึ้นเช่นกันดังนั้นเธอจึงไม่สามารถหนี
ไปคนเดียวได้
        เขาส่งกระซิบถึงเธออีกครั้ง
                -
ตอน..นะ..นี้..อยู่ไหน?
        ไม่ง่ายเลยแม้แต่จะพูดคำสั้นๆ ร่างของเขาหนาวสั่นและอยู่ในความเจ็บปวด
                -
ฉันถูกขังอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนที่ไป
ฉันคิดว่าฉันถูกพาไปที่พระราชวัง
                แต่ดูเหมือนฉันจะโดนขังอยู่ในหอคอย
ฉันฟังจากพวกทหารแล้วดูเหมือนใช้เวลาวันเดียวก็มาถึง
                ฉันจะแจ้งตำแหน่งให้คุณทราบเมื่อฉันถูกขัง 
        ซอยูนตอบแบบไม่ใส่ใจ
                -
ดะ..ได้, ยะ..อย่างแระ..แรก..บอก..มะ..เมือง
ผม..จะปะ..ไป..หาคะ..คุณ..ที..หลัง
                -
ตกลง ค่อยๆมา
        วีดได้ฟื้นคืนพละกำลังและพลังชีวิตของเขาแต่มันยังลำบากอยู่ดี
        'ฉันไม่สามารถอยู่ใกล้ๆหมู่บ้านได้ งั้นจำเป็นต้องหาสถานที่ที่ไม่มีพวกมอนสเตอร์'
        เขาขาดความแข็งแกร่งทางร่างกายและต้องเดินอย่างช้าๆ
วีดสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีมอนสเตอร์ที่อันตรายอยู่ใกล้เคียง
| 
        - พละกำลังลดลงเนื่องจากการเคลื่อนไหวมากเกินไปในร่างกายที่อ่อนแอ 
                การเคลื่อนไหวจะทำให้เกิดความเครียด 
                พลังชีวิตลดลง 6 เนื่องจากโรคไข้กาฬ 
                ควรพักอย่างเต็มที่
  5 ชั่วโมง | 
        เมื่อเขาขยับร่างกาย, โรคไข้กาฬทำให้แย่ลงและพลังชีวิตของเขาก็ลดลง
        ถ้าเขาพยายามเดินให้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วพละกำลังของเขาจะตกลง
พิจารณาจากสถานะปัจจุบันของเขา,
เขาอาจเสียชีวิตจากโรคไข้กาฬก่อนจะถึง 3 วัน
        'มันเดินลำบากจัง คงจะดีกว่าถ้าฉันแค่หมดแรงล้มแล้วตายซะ'
        แม้ว่าเขาจะเคยต่อสู้กับบัลข่าน, เขาไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแบบนี้ขนาดเขาอยากล้มพับลง
มันเป็นอาณาเขตของพวกมอนสเตอร์เมื่อเขาหนีออกจากหมู่บ้าน
วีดจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
เพื่อหลีกเลี่ยงหรือหลบเร้นจากเจ้าพวกมอนสเตอร์
        'ฉันต้องใคร่ครวญเกี่ยวกับมัน การประเมินผิดพลาดเล็กน้อยก็ยอมรับไม่ได้
ฉันจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนและจะทำอะไรได้'
        เรื่องฉุกเฉินคือจะต้องมีชีวิต! ภารกิจของวีดได้ส่งเขาสู่การเดินทางอันยาวนาน
เขาจำเป็นต้องมีชีวิตรอด
ในความเป็นจริง,
ถ้าร่างกายของเขาเจ็บป่วยดังนั้นเขาสามารถสูญเสียได้ทุกๆสิ่ง
สถานการณ์เป็นที่น่าผิดหวังแต่
สามรถดีขึ้นได้ถ้ามีใครสักคนเห็นอกเห็นใจเขา
        ร่างกายที่อ่อนแอของเขาทำให้จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากออกจากหมู่บ้านโบเดน, 
พื้นที่กว้างใหญ่และป่าทอดตัวอยู่เบื้องหน้าของเขา
        'ฉันอยากไปทางแนวต้นไม้'
        ถ้าเขาเข้าไปในป่าซึ่งเป็นทางสูงชันและมีพวกมอนสเตอร์จำนวนมาก
แต่มันก็เป็นอันตรายเมื่ออยู่ในทุ่งหญ้า
เช่นกันโดยเขาจะเป็นเป้าหมายได้ง่าย
วีดเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบขณะที่ทำการตรวจสอบความปลอดภัยของป่า
เขาซ่อนร่างอยู่ในพุ่มไม้ขณะที่พวกโคโบล์(kobold
– ครึ่งสัตว์เผ่าสุนัข)และก๊อบลินผ่านไป
        "ข้าหิวจัง"
        "เร็วๆ ไปล่ากันเถอะ"
        "คิ คิ คิ!"
        ยิ่งกว่านั้นพวกโคโบลเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว
        'พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ฉันต้องหาที่ปลอดภัยเสียก่อน'
        เขาไม่สามารถซ่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพระอาทิตย์ตก, พวกมอนสเตอร์จะกลายเป็นแข็งแกร่งกว่าเดิม
และเริ่มออกเตรดเตร่
แล้วมันจะเป็นอันตรายจริงๆ
        'ร่างนี้....'
        ร่างกายที่สามารถกระโดดลงมาจากไวเวินเวลานี้ไม่สามารถแม้แต่จะปีนต้นไม้
โนดุลอ่อนแอแต่สิ่งที่ต้องรับผิด
ขอบจริงๆฝังอยู่ในโรคไข้กาฬ
วีดใช้ประสบการณ์ทั้งหมดของเขาและเดินอย่างช้าๆ
เขาหวังที่จะเจอบ้านที่เป็นของนายพราน
แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่สามารถเป็นไปได้ยังไงเขาก็ต้องการสถานที่ที่เขาสามารถซ่อนเร้นตัวเอง
        'ถ้ำ'
        วีดเพ่งมองที่ส่วนลึก, ถ้ำมืดมิดและใคร่ครวญว่าจะเข้าไปข้างในหรือไม่
        'เวลาแบบนี้, ฉันจะต้องระมัดระวังเพราะว่าคาดหวังไม่ได้ว่าจะโชคดี'
        เขาซ่อนอยู่ในพุ่มไม้และคอยสังเกตถ้ำ และหลังจากนั้นไม่นาน, หมีตัวหนึ่งออกมาจากถ้ำแล้วมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง
        'เกือบตายแล้วเรา'
        ปรกติแล้วหมีหมายถึงหนังและเนื้อแต่เวลานี้มันเป็นสิ่งมีชีวิดราวกับมังกร!
        'เมื่อกลางคืนมาถึง, ไม่มีที่ปลอดภัยให้ซ่อนตัวในป่าแห่งนี้....'
        สัตว์ร้ายที่กำลังหิวโหยจะเป็นตัวอันตรายอย่างแท้จริงด้วย
        'เราต้องไปยังอาณาเขตพวกโคโบล์'
        วีดเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังไปยังอาณาเขตของโคโบล์ เขากลัวพวกสัตว์ป่าและมอนสเตอร์อ่อนแอมากกว่า
พวกโคโบล์ที่เคลื่อนที่เป็นกลุ่ม
ถ้าเขาอยู่ในอาณาบริเวณของพวกมันแล้วเขาไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์ร้ายอื่นๆ
        "ได้เวลาออกล่าแล้ว"
        "ตามหัวหน้าโคโบล์มา!"
        พวกโคโบล์เคลื่อนที่เป็นกลุ่มประมาณ 20 ตัว
พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่มีการสั่งการเป็นระบบ
และชอบใช้ชีวิตที่เป็นระบบ
วีดสังเกตพวกโคโบล์ในป่าและหลีกเลี่ยงพวกมัน มันไม่มีเหตุผลที่จะเดินหน้า
ต่อไปเนื่องจากพละกำลังและพลังชีวิตของเขา
        'ฉันไม่มีทางเลือกได้แต่มอบชีวิตของฉันให้สวรรค์รับผิดชอบ'
        วีดตื่นอยู่ทั้งคืนขณะที่หมอบตัวต่ำๆ
ข่าวดีคือว่าเขามีเนื้อแดดเดียวมากมายดังนั้นเขาจะไม่ต้องอดอาหาร
                                        *********************
        "ย๊าก..ย่า!"
        "น่าตื่นเต้นแค่ไหน! ทำลายมันทุกสิ่ง!"
        "หุ หุ หุ, ตาฉันบ้าง หลังจากนักดาบ-127!"
        เวลานี้พวกนักดาบกำลังทำภารกิจปรมาจารย์ของพวกเขาให้สำเร็จ
| 
                - ปราบกองทัพกบฏแห่งปาริซา(Pallisar) 
                        พวกกบฏได้ควบคุมป้อมปาริซาพวกเขาถูกปราบอย่างรวดเร็ว 
                        คุณต้องไม่ตายในการต่อสู้และแสดงถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ฝึกศิลปะป้องกันตัว 
                        ระดับความยาก
  : ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ 
                        ข้อจำกัดของภารกิจ
  : ความเชี่ยวชาญอาวุธขั้นสูงระดับ8 หนึ่งปาร์ตี้ประกอบด้วย
  30 คน | 
        จุดที่แข็งแกร่งคือพวกเขาสามารถประสานพวก ดาบ, ค้อนศึก,
ขวาน, ธนู และหอก เข้าด้วยกันในการโจมตี
พวกนักดาบใช้อาวุธทุกประเภทในการโจมตีพวกกบฏที่ยึดครองป้อมปราการ
        แต่ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงสู่พวกเขา
ฝ่ายตรงข้ามในการต่อสู้จำเป็นต้องแข็งแกร่ง
        "ลูกผู้ชายไม่พูดมาก"
        นักดาบ 3!
        เขาถอดเสื้อแจ๊กเก็ตที่หน้าประตูป้อมฯและโชว์กล้ามของเขา
มันไม่สำคัญหรอกว่าการป้องกันของเขาจะตกลง
ความงามแบบเถื่อนๆและความภาคภูมิใจในกล้ามเนื้อของเขาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด!
        เขาตื่นเต้นเรื่องเควสของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้เนื่องจากศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างมาก
        "ลุย!"
        หอกในมือของนักดาบ3เริ่มพุ่งเข้าใส่ด้วยอัตราการเคลื่อนที่อันน่ากลัว
ลูกศรจากพวกกบฏโปรยปรายลงมา
แต่พวกเขาทั้งหมดซัดหอกที่ควงหมุนพุ่งออกมา
มันจะให้ค่าพลังสูงสุดไม่ว่าอาวุธใดก็ตามที่เขาถืออยู่
มันเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้สิ่งนี้กับดาบและหอกได้อย่างดี
        "บดขยี้ คลื่นกระแทก!"
        หอกของนักดาบ 3
ปักลงที่ประตูป้อมฯด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา มีเสียงราวฟ้าผ่าลงมา
ขณะที่ประตูป้อมฯถูกทำลายลง
        "ลุยเลย!"
        นักดาบ3 ร้องเสียงก้องกัมปนาท
        ราวสัตว์ป่าที่หิวกระหาย, เขาวิ่งตรงไปที่ประตูป้อมฯเพื่อกำราบกองทัพกบฎ
        "ภารกิจปรมาจารย์ได้ก้าวหน้าไปมากขนาดนี้แล้ว"
        "ถูกต้องครับ ท่านอาจารย์!"
        อาจารย์นักดาบและนักดาบ 2
ได้เสร็จสิ้นภาระกิจการเอาชนะเหนือพวกกบฏเป็นพวกแรก
ดังนั้น
เวลานี้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ทักษะศาสตร์แห่งอาวุธใหม่ได้
        มีความเป็นไปได้ไม่จบสิ้นที่เกี่ยวข้องกับทักษะศาสตร์แห่งอาวุธ
พวกเขาสามารถจับถืออาวุธได้ทุกชนิด
ดังนั้นจึงสามารถสร้างทักษะอันใดก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ
ไม่เพียงดาบเท่านั้น, ทักษะหอกและธนูก็เกดขึ้นได้,
การผสานพลังสามารถทำให้อาจารย์นักดาบแข็งแกร่งยิ่งกว่าทั้งกองทัพ
        นักดาบ 2
รอคอยอย่างสงบเสงี่ยมเพื่อให้อาจารย์สร้างทักษะก่อนเป็นคนแรก พวกเขาปฏิบัติตามแผน
ที่มีโครงสร้างอย่างดีเพื่ออนาคตของพวกเขาและโดยไม่ชักช้า
รูปแบบของพวกเขาได้สร้างทักษะศาสตร์แห่งอาวุธทันที
        "ข้า...."
        อาจารย์นักดาบตัดสินใจทันที
                                ***************************
        นักดาบ 5 ได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งระหว่าที่ทำภารกิจ
        แม่ครัวสาวถือทัพพีอยู่เหนือหม้อเหล็กที่กำลังเดือด!
เธอกำลังขายซุปให้กับพวกที่กำลังเข้าไปยังดันเจี้ยน
        "ได้โปรดทานซะ อร่อยนะ"
        ผู้เล่นสาวโรเซน(Rosen)ขายซุปเนื้อราคา 2 เหรียญเงิน
ถ้วยซุปทำขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยช่างเครื่องเคลือบมือใหม่โมราต้า
        "ขออีกถ้วยนึง"
        นักดาบ 5 ซดเกลี้ยงชาม
        โรเซนเป็นผู้เล่นใหม่ที่มาถึงเลเวล 60 เท่านั้น
แต่ทักษะนั้นสำคัญกว่าเลเวลเมื่อเป็นการทำอาหาร ซุปเต็มไปด้วยเครื่องเทศหลากหลายชนิด
โรเซนหัวเราะและส่งชามซุปให้เขาอีก
        "อร่อยใช่ไหม?"
        "อะไรๆก็อร่อยเมื่อคุณหิว"
        "......"
        วิธีพูดของนักดาบ 5 ไม่นุ่มนวลเลย 
        "เอามาให้ฉันอีกชาม"
        "อีกเหรอ?"
        "ข้าหิว"
        นักดาบ 5 กินไปเจ็ดชามก่อนที่จะเข้าไปในดันเจี้ยน
นับแต่นั้นมา, เขาปรากฏตัวทุกวันเพื่อดื่มซุป
        "ยินดีต้อนรับค่ะ"
        "ซุป 2 ชาม ได้โปรด"
        "ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะให้เนื้อคุณแยะๆ"
        "อืม.ม."
        ผู้คนมากมายรุมล้อมโรเซนผู้ดำเนินกิจการ
นี่ใกล้กับดันเจี้ยนที่มีชื่อเสียงดังนั้นพวกพ่อค้าและผู้มาเยือน
มาลิ้มลองอาหารที่เธอทำ
        นักดาบ 5 ดื่มซุปทุกวันและทักทายโรเซน
โรเซนมีความประทับใจที่ดีต่อนักดาบ 5 ที่เข้ามากินทุกวัน
        "นี่ต้องเป็นซุปที่คุณชอบที่สุด"
        "มันอร่อย"
        "อาหารจากพ่อครัวคนอื่นก็อร่อยเหมือนกัน...."
        การแสดงออกที่แอบหวังว่าเขาจะบอกว่าการทำอาหารของเธอดีที่สุด!
        เอิก!
        นักดาบ 5 ตอบกลับด้วยเสียงเรอ
        "นี่ราคาถูกมากๆ"
        "มะ-ไม่มีเหตุผลอื่นเหรอ?"
        "ก็, ทุกอย่างก็เหมือนๆกันหมดแหละเวลาลงไปในท้อง"
        โรเซนยังคงเป็นหญิงมีไมตรีจิต การแสดงอกกแบบทื่อๆของนักดาบ 5 ผู้ที่ออกล่าในดันเจี้ยน
และกลับมาอาหารของเขาจนเกลี้ยงนั้นประทับใจเธออย่างลึกล้ำ
นักดาบ5 สวมใส่อุปกรณ์ดีเยี่ยมเลเวล400ด้วย
แขกคนอื่นชื่นชมอุปกรณ์ของเขาเมื่อเขามากินที่ร้านอาหาร
        'บุคคลแบบนั้นมาทุกวันแค่กินซุปราคา 2
เหรียญเงินของฉัน เขาชอบฉันแต่เขาขี้อายที่จะแสดงมันออกมา'
        โรเซนพูดคุยกับคนอื่นๆอย่างอ่อนโยนทุกครั้งที่นักดาบ5มากินอาหาร
        "ฉันชอบอาณาจักรอาร์เพนจริงๆนะ"
        "ทำไมหรือ?"
        "ผู้คนเป็นระเบียบเรียบร้อย ฉันไม่สามรถลืมความอร่อยครั้งแรกของโจ๊กที่ใครบางคนให้ฉันระหว่างการขนหินที่ใช้สร้างวิหาร"
        "ดังนั้นคุณเลยกลายเป็นเชฟอย่างนั้นหรือ?
        "ช่าย, ฉันต้องการทำโจ๊กที่ยอดเยี่ยมให้ผู้คน
ความชำนาญพิเศษของฉันที่โรงเรียนคืออาหาร"
        "คุณต้องเรียนศาสตร์แห่งการหุงข้าว"
        "หือ? ฉันเอกอาหารและโภชนาการ"
        "นั่นไม่ใช่แค่ข้าวใช่ไหม?"
        โรเซ็นตัวสั่นด้วยความโกรธจากความไม่รู้ของนักดาบ5
        "แต่ไม่ใช่ว่าแบ่งเป็นความชำนาญพิเศษในแต่ละส่วนหรือ?"
        "คุณหมายความว่าอย่างไร?"
        "อาหารเกาหลี, ยุโรป, จีน,
ญี่ปุ่น, หรืออะไรเงี้ย"
        "นี่.ๆ."
        มักจะมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับแผนกอาหารโภชนาการ
        พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับสมดุลของอาหาร, การพัฒนาส่วนผสมใหม่ๆของอาหาร,
จุลชีววิทยา, เคมี และอื่นๆ
แต่ผู้คนแค่คิดว่าพวกเขาเรียนการปรุงอาหารที่หลากหลาย
        "คุณมีความรู้ในการทำอาหารไหม?
        "......"
        "คุณควรเรียนรู้อาหารอย่างเป็นระบบ"
        โรเซนอยากฟาดนักดาบ5ด้วยกระทะและตะหลิว
(บังอาจสอนสังฆราช)
        โปรดติดตามตอนต่อไป
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
