เล่มที่ 14 ตอนที่ 3 : รูปแกะสลักกับภารกิจลับ
วีดเดินออกไปจากองค์การบริหารและเดินดูรอบๆคุรุโซ
ช่างตีเหล็กคนแคระและช่างฝีมือคนอื่นๆอยู่บนถนนและกำลังสร้างไอเทมอะไรบางอย่าง
แถวนั้นยังมีร้านของช่างตีเหล็กอย่างฟาบิโอ, แบมบี้, และเอ็กเปอร์
รายชื่อที่กล่าวมาข้างต้นคือช่างตีเหล็กที่สามารถทำเงินได้จำนวนมหาศาลจากการขายไอเทมที่มีลักษณะเฉพาะ,
ที่พวกเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมา เมื่อมีการสนับสนุนหรือการบริจาคให้กับอาณาจักร
เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว, มันมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถกลายมาเป็นอัศวิน,
และเป็นเจ้าของบ้านหรือคฤหาสน์ บ้านพักสุดหรู หรือบ้านพักตากอากาศ
‘ในคุรุโซ, ผู้คนถูกประเมินค่าจากทักษะช่างตีเหล็กของพวกเขา’
มันไม่ได้เหมือนกับทักษะการเย็บปักและทักษะงานฝีมืออื่นๆ, คนแคระ,
โดยธรรมชาติแล้วพวกเขารักและชื่นชอบในการเก็บรวบรวมวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง,
และใช้สุดยอดทักษะและความชำนาญของพวกเขาในด้านการตีเหล็ก,
เปลี่ยนมันให้เป็นอะไรสักอย่างที่แปลกใหม่
“ข้าคือคนแคระ, ไฮส์น กำหนดส่งงานใกล้จะหมดลงแล้ว,
แต่มีใครที่ต้องการอยากจะท้าทายการทำบานหน้าต่าง 100
บานกับข้ามั้ย? มันเป็นคำขอร้องจากร้านของช่างตีเหล็ก”
เพื่อนร่วมงานมีความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความจำเป็นในแต่ละสถานการณ์,
แม้กระทั่งในคุรุโซก็เช่นกัน
“คำขอร้องอะไรกัน ช่างมากมายขนาดนี้ พวกเราต้องทำชุดเกราะ 20 ชิ้น,
แต่เงื่อนไขค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย
พวกเรามองหาผู้เชี่ยวชาญในการหลอมและมีทักษะช่างตีเหล็กอย่างน้อยขั้นต้นระดับ 8
คุณจะต้องเตรียมวัตถุดิบของคุณมาเอง,และค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 300 เหรียญทอง
งานนี้เฉพาะคนแคระที่สนใจจะเพิ่มทักษะเท่านั้น!”
“มอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้นทั้งหมดใน 8 อุโมงค์,
มันทำให้การขุดแร่ทำเหมืองนั้นยากมาก
พวกเราต้องเอาอุโมงค์พวกนี้กลับคืนมาและฟื้นคืนความสงบขึ้นมาอีกครั้ง ค่าแรง 20
เหรียญทองต่อคน”
“ชุดเกราะป้องกันทุกชิ้นต้องถูกทำขึ้นมาอย่างดี
มันเป็นคำขอร้องของเจ้าของร้านชุดเกราะ, แต่ข้าต้องทำและส่งโล่ที่มีพลังป้องกันมากกว่า 30
พวกเราทำมันด้วยกันมั้ย,เจ้าแคระ?”
ในปราสาททุกหลังหรือทุกหมู่บ้าน, จะมีสถานที่ไว้สำหรับประกาศรับสมัครหาเพื่อนร่วมทีมและซื้อ-ขายสินค้าต่างที่จำเป็นสำหรับการทำเควส
และในที่แห่งนี้, พวกเขาสร้างของใช้ต่างๆขึ้นมา,
ดังนั้นมันจึงมีคำขอร้องมากมายเพื่อที่จะให้ได้วัตถุดิบที่จำเป็นเหล่านั้นมาใช้ในการทำเควส
เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับภารกิจ,
มันจะดีกว่าถ้ารวบรวมเพื่อนรวมงานและทำภารกิจไปด้วยกัน
ดีกว่าทำมันให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียว
ต้องขอบคุณภารกิจต่างๆมากมาย ที่ถูกให้มาอย่างต่อเนื่อง,
พวกคนแคระที่มีระดับทักษะต่ำจึงได้รับโอกาสเหล่านี้เพื่อที่จะพัฒนาและเพิ่มระดับทักษะของพวกเขา
คุรุโซ!
ตั้งชื่อตามอาณาจักรโบราณของคนแคระ,
เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองและในอดีตเคยเป็นยุคทองของเหล่าช่างฝีมือคนแคระ!
ประตูทางเข้าบ้านของพวกคนแคระมีขนาดเล็กและคับแคบ,
แต่เพดานสูงเพียงพอที่จะให้พวกมนุษย์สามารถเข้าไปได้
ข้างในร้านต่างๆ, มีอาวุธและชุดเกราะมากมายหลากหลายชิ้นวางเรียงรายจัดแสดงให้แก่ผู้ที่สนใจเลือกซื้อเป็นเจ้าของพวกมัน
นอกจากนั้นแล้ว, ถัดไปจากร้านช่างตีเหล็ก,
เป็นร้านเหล้าที่พวกคนแคระชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
“ตามความคิดเห็นของข้าแล้ว,
อาวุธที่ข้าทำขึ้นมาในครั้งนี้มันออกมาดูดีเลยทีเดียว มันเหมาะที่จะเอาไว้ใช้ฟันหัวพวกออร์คที่สุด”
“ถ้านายเป็นช่างตีเหล็ก, นายต้องมาอยู่ที่คุรุโซแน่นอน”
“ทั่งทั้งทวีปเวอร์แซลล์,
พวกเรามีสุดยอดวิทยาการเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด,
พวกเราภูมิใจมาก”
ข้างนอกร้านเหล้า,
บทสนทนาที่เสียงดังของพวกผู้เล่นคนแคระสามารถได้ยินมาถึงข้างใน
มีคนจำนวนมากที่เข้ามาจากทางด้านหลังถนนของเหมืองที่ถูกทิ้งร้างเช่นเดียวกันกับวีด,
มีทั้งพวกมนุษย์และเอลฟ์
“เฮื้อกกกกก! ทำไมทุกอย่างมันแพงขนาดนี้”
ใบหน้าสวยๆของผู้เล่นเอลฟ์หงุดหงิดขึ้นมาในทันใด
เธอเจอธนูที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบสำหรับเธอ อย่างไรก็ตาม, คนขายที่เป็นคนแคระพูดออกมาตรงๆ
“พวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องขายมันในราคาแพงให้กับพวกเอลฟ์
ถ้าเจ้าไม่ต้องการที่จะซื้อมันล่ะก็, ออกไปซะ!”
“คุณคะ, แต่ฉันต้องการมันจริงๆนะ…”
“งั้นก็เอาเงินมาให้ข้าสิ!”
“พวกเราควรจะทำยังไงดี เธอมีเงินไม่พอเลยเหรอ ลูมิยะ?”
“ไม่อ่ะ, ฉันยังขาดอีก 1,500 เหรียญทอง
ฉันหวังว่าพวกเขาจะลดราคาให้พวกเราสักนิดหน่อยน่ะ
พวกเขาไม่เคยที่จะลดราคาให้พวกเราเลย”
พวกคนแคระหน้าบูด!
ไม่เหมือนกันกับพวกเอลฟ์และมนุษย์, พวกคนแคระไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับพวกเขานัก,
หรือเผ่าอื่นๆ สำหรับเรื่องนั้น
ถึงแม้ว่ามีเอลฟ์แสนสวยอยู่ 5 คน ภายในร้าน ราคาก็ไม่ได้ลดลงเลยสักนิดแม้แต่ 1
เหรียญทองก็ตาม วีดขยับไปด้านข้างอย่างเงียบๆ
เขาขยับไปที่ๆพวกเอลฟ์และคนแคระกำลังต่อรองราคากันอยู่
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะช่วยพวกเอลฟ์ผู้หญิงเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาแค่สงสัยว่าธนูที่ขายอยู่ในคุรุโซนั้นมีคุณภาพขนาดไหน
นอกจากนี้, ร้านค้าแห่งนี้ยังรวบรวมของที่น่าสนใจเอาไว้มากมาย
อีกทั้งยังตั้งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของคุรุโซ
และเป็นที่รู้จักกันดีถึงไอเทมที่มีคุณภาพระดับสูง
วีดชี้ไปที่ธนูที่เอลฟ์ผู้หญิงอยากได้
“ข้าอยากดูของชิ้นนี้”
“ฉันเป็นคนเจอมันก่อนนะ”
เอลฟ์ผู้หญิงพูดพร้อมกับถอนหายใจ อย่างไรก็ตาม,
ท่าทางของวีดก็ยังไม่เปลี่ยน
“อ๋อ เหรอ?”
“ยังไงก็ตาม, ฉันก็ยังมีเงินไม่พออยู่ดี…”
“งั้น ข้าขอดูมันได้มั้ย?”
“แต่…”
หลังจากที่เอลฟ์ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า, เธอถูกเพื่อนๆในกลุ่ม
จ้องมองด้วยสายตาที่แข็งกระด้าง
แววตาของวีดลุกวาวอย่างกับว่าเขาจับเหยื่อได้แล้ว!
เจ้าของร้านคนแคระยื่นธนูให้เขาอย่างรวดเร็ว
“ร้านของเราจะยินดีเป็นอย่างยิ่งหากเพื่อนคนแคระของเราคนนี้สามารถใช้ธนูอันนี้ได้”
วีดหยิบธนูที่เจ้าของร้านยื่นมาให้เขาอย่างระมัดระวัง
“ตรวจสอบ!”
ธนูนักรบของคนแคระเผ่ายูโนบัน:
ความทนทาน: 40/40.
ค่าความเสียหาย: 65.
ระยะการยิง: 14.
ธนูที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการล่า สร้างโดยช่างฝีมือของเผ่ายูโนบัน
ล็อคเป้าอย่างแม่นยำ
อาวุธที่แข็งแกร่งทำด้วยสายธนูที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับความเร็วในการยิง
ข้อจำกัด:
เลเวล 280.
ค่าความแม่นยำ 730.
อาชีพนักธนู, หรือ นักรบขั้นกลาง สามารถใช้ไอเทมนี้ได้
คุณสมบัติเพิ่มเติม: คุณสมบัติเพิ่มเติม
ความเร็วเพิ่ม 20%
เพิ่มค่าความเสียหายในการยิงเจาะเกราะ
การยิงที่รวดเร็วมีความแม่นยำมากขึ้น
ลูกธนูเหล็ก, ลูกธนูไฟ, และลูกธนูพิษ
สามารถใช้ร่วมกันได้
‘ไม่เลว’
เขาได้รับข้อมูลจากทักษะการตรวจสอบขั้นกลางของเขา
เพราะทักษะช่างตีเหล็กขั้นกลางของเขา,
วีดจึงสามารถได้ข้อมูลของไอเทมที่มีรายละเอียดมากขึ้น
- การผลิตอาวุธ
คุณสมบัติอื่นๆของอาวุธสามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ที่เพิ่มระดับช่างตีเหล็กของพวกเขาถึงขั้นกลางแล้วเท่านั้น
ถ้าคุณใช้ลูกธนูเหล็กยิงต่อเนื่องกันมากกว่า 45 ครั้งขึ้นไป,
สายของคันธนูจะยืดออกและเป็นสาเหตุทำให้ระยะการยิงและค่าความแม่นยำลดลง 20%
ค่าความเสียหายของธนูเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 23%
เพราะนี่คือหนึ่งในอาวุธที่ช่างฝีมือของเผ่ายูโนบันทำออกมาไม่ดี,
จุดศูนย์กลางของมันไม่ได้มีการวัดขนาดอย่างถูกต้องและอาจจะมีการเบี่ยงเบนออกนอกทิศทางประมาณ
15 เซนติเมตร เมื่อทำการยิงที่ระยะ 100 เมตร
อย่างไรก็ตาม, ไอเทมชิ้นนี้ถูกทำขึ้นด้วยความเชื่อ ความศรัทธา, มันสามารถเปล่งแสงที่บอกทิศทางลูกธนูให้พุ่งไปตามเส้นทางที่กำหนดได้อย่างเหมาะสม
ถ้าช่างตีเหล็กที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่านี้ทำการเพิ่มประสิทธิภาพของธนู,
มันมีโอกาสเล็กน้อยที่จะเพิ่มระยะกางยิงสูงสุดและเพิ่มค่าความเสียหายสูงสุด
หลังจากที่อารมณ์เสียอยู่กับธนูสักพัก,
วีดส่งมันคืนให้กับเจ้าของร้าน
“อาวุธชิ้นนี้มีราคาเท่าไหร่?”
คนแคระตอบ
“15,500 เหรียญทอง”
“ฮืมมมม”
“เจ้าต้องการที่จะซื้อมันหรือไม่?”
วีดถอยออกมาหนึ่งก้าว
“ไม่ล่ะ, ข้าจะไม่ซื้อมัน”
เขาคือผู้ที่มีธนูของไฮเอลฟ์
เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงมองหาไอเทมเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะซื้อและใช้มัน
แต่เพราะเขาต้องการที่จะตรวจสอบราคาของอุปกรณ์สวมใส่
นั่นคือเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่เขามองผ่านอุปกรณ์สวมใส่ของพวกคนแคระ!
เขาไม่ต้องการที่จะซื้ออาวุธทุกชนิดอย่างแน่นอน
คนแคระเดาะลิ้นของเขา
“นั่นมันแย่หน่อยนะ พอมาคิดดูแล้ว, พวกเราคนแคระ,
ไม่ต้องการธนูเพื่อใช้ในการต่อสู้สักเท่าไหร่”
มันเป็นอาวุธที่เธอชอบ, แล้ววีดพูดว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะซื้อมัน,
เธอจึงรู้สึกว่าโอกาสนั้นมาถึงแล้ว
แล้ววีดก็พูดกับคนเหล่านี้
“อย่าซื้อมันนะ”
“อะไรนะ?”
สายตาของเอลฟ์ผู้หญิงเป็นประกายเจิดจ้าในทันที
ถึงแม้ว่าเอลฟ์มีความงดงามโดยธรรมชาติอยู่แล้ว,
แต่ก็ยังมีคนที่หน้าตาดูดีกว่านี้อีกเมื่อมองออกไปยังโลกภายนอกที่กว้างใหญ่
พวกเขามีดวงตากลมโต, ผิวสะอาดสะอ้าน,
และรูปร่างผอมเพรียวได้สัดส่วน หูแหลมและผมสีเขียว,
มันเป็นธรรมดาที่พวกผู้ชายมักจะคิดเสมอว่าพวกเธอนั้นสวยมากๆ
“มันก็แค่ของถูกๆ”
“อะไรนะ? เจ้าพูดว่า…”
“เจ้าแคระน้อยเพื่อนยาก! เจ้าหมายความว่าอย่างไร!”
มันเป็นเรื่องปกติที่เจ้าของร้านต้องระเบิดออกมา อย่างไรก็ตาม,
วีดเมินเฉยต่อการกระทำของเจ้าของร้านและพูดต่อ
“มันไม่ใช่อาวุธที่ถูกทำขึ้นมาด้วยความระมัดระวังและพิถีพิถันคำนึงถึงคุณภาพของมัน
นอกจากพวกเอลฟ์แล้ว, มันถูกทำขึ้นสำหรับพวกที่ไม่ใช่คนแคระให้สามารถใช้งานได้
ความสมดุลของอาวุธก็ไม่ได้มีดีอะไรมากนัก,
และค่าเฉลี่ยความเสียหายและค่าความทนทานก็อยู่ในระดับแค่ครึ่งๆกลางๆ”
อาวุธไม่ได้ดีพอที่พวกเอลฟ์ควรจะใช้มัน ใบหน้าของเจ้าของร้านคนแคระแดงกำอย่างกับถูกไฟเผาและไม่สามารถที่จะเอ่ยคำใดๆออกมาได้เลย
“เฮอะ?”
“พวกคนแคระมีความภาคภูมิใจสูงมาก ทำไมคุณถึงไม่โกรธล่ะ?”
วีดยังคงพูดต่อไป
“อัตราการยิงค่อนข้างสูง, ซึ่งทำให้มันมีราคามากขึ้น,
แต่อาวุธชิ้นนี้มีจุดศูนย์กลางที่ไม่เหมาะสมและมันก็เป็นการขูดรีดโดยสิ้นเชิง
ถ้าเธอต้องการ, เธอสามารถที่จะลองยิงเพื่อตรวจสอบมันด้วยตัวเธอเองก็ได้”
หลังจากที่เขาพูดถึงเรื่องนี้เสร็จแล้ว,
วีดรีบเดินออกไปจากร้านเพราะมันไม่มีอะไรต้องพูดมากไปกว่านี้อีกแล้ว
เขาให้คำแนะนำบางอย่างกับเอลฟ์พวกนี้เพียงเพราะเธอมีอายุใกล้เคียงกับน้องสาวของเขา
คนแคระคนนั้นหน้าแดงก่ำด้วยความอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
พวกคนแคระเริ่มต้นมาก็มีทักษะช่างฝีมือขั้นพื้นฐานซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นสุดยอดช่างฝีมือ
คนแคระคนนั้นรู้สิ่งที่วีดพูดมากทั้งหมดนั้นถูกต้องและไม่สามารถที่จะโต้เถียงกลับไปได้เลยแม้แต่สักครั้งเดียว
“เอลฟ์, เจ้าต้องการที่จะซื้อมันหรือไม่?”
เอลฟ์วางอาวุธลงด้วยความระมัดระวังและถามอีกครั้งด้วยความหวั่นใจ
“ราคาของธนูนี้เท่าไหร่?”
“12,500 เหรียญทอง”
“แต่ว่าฉันได้ยินมาว่ามันไม่ค่อยสมดุล…”
“งั้นเจ้าก็ไม่ต้องซื้อมัน”
คนแคระอวดดีตอบกลับไปและเก็บแขนของเขาลง
เอลฟ์ผู้หญิงเข้าใจดีว่าวีดกำลังช่วยเธอและเธอวิ่งตามเขาไปด้วยความเร็วเพื่อที่จะไม่ให้คลาดสายตาไปจากเขาและขอเขาเป็นเพื่อน
“ขอเป็นเพื่อน!”
"?."
ในฐานะที่เป็นเอลฟ์ผู้หญิง, เขาเป็นคนแรกที่ปฏิเสธคำขอเป็นเพื่อนกับเธอ
บนสนามรบและการทำเควส, เผ่าเอลฟ์เป็นที่นิยมชมชอบมากที่สุดอยู่เสมอ
เพราะพวกเขามีสเต็ปการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว,
นักธนูมีปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
และเนื่องจากพวกเอลฟ์ผู้หญิงมีใบหน้าที่สวยงามแลรูปร่างที่ผอม เพรียว,
พวกผู้ชายจึงให้ความสนใจดูแลเป็นพิเศษอยู่ตลอด
ในความเป็นจริงแล้ว,
รูปร่างของพวกเขานั้นค่อนข้างธรรมดาและพวกเขาดูเหมือนพวกนางแบบที่เป็นเด็กนักเรียนและมัวแต่หมุกมุ่นอยู่กับกองหนังสือ,
แต่พวกเขาเป็นที่ชื่นชอบในรอยัล โร้ด
เอลฟ์ผู้หญิงละทิ้งความภาคภูมิใจของเธอและพยายามอีกครั้ง
“ขอเป็นเพื่อน!”
“ขอเป็นเพื่อน!”
หลังจากความพยายามในการขอเป็นเพื่อนทั้งสามครั้ง,
ในที่สุดชื่อของเขาคือวีด?
‘ชื่อของคนๆนั้นคือวีด?’
ณ ช่วงเวลานั้น, เอเดลกระซิบไปหาเขา,
และเป็นไปตามที่เธอคิดไว้, คำแรกที่เธอได้ยินนั้นทื่อมาก
- ทักษะของคนแคระและความซื่อสัตย์…
คำกระซิบที่เอเดลได้ยินนั้นเหมือนกันเลย
“มันไม่ใช่ว่าพวกเราเอลฟ์สงสัยในทักษะและคุณภาพของคนแคระ,
แต่ธนูอันนี้มันแพงเกินไปสำหรับเอลฟ์ธรรมดาๆอย่างพวกเราที่จะใช้มันได้
ฉันรู้ว่าปรมาจารย์คนแคระสามารถสร้างธนูแบบเดียวกันนี้ได้อย่างง่ายดาย"
“12,000 เหรียญทอง”
เอลฟ์กำลังพยายามที่จะต่อรองราคากับเจ้าของร้านคนแคระผู้โอ้อวดที่มีคนพูดกันว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะต้องรองราคากับเขา
มันเป็นหัวข้อที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง
- ค่าความเสียหายอยู่ในระดับค่าเฉลี่ย…
เอเดลมองดูปฏิริยาของคนแคระอย่างระมัดระวังและพูด
“มันมีค่าความเสียหายอยู่ในระดับค่าเฉลี่ย ดูไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่
ถ้าความเสียหายที่ธนูสามารถทำได้นั้นไม่คงที่,
มันคงจะเป็นปัญหาใหญ่มากแน่ๆ ฉันต้องล่าพวกออร์คชั่วร้ายก่อนที่พวกมันจะเข้ามาใกล้”
มันรู้กันโดยทั่วไปว่าพวกออร์คคือศัตรูคู่อาฆาตของพวกเอลฟ์และพวกคนแคระ
เป็นที่รู้กันดีว่าพวกคนแคระนั้นเกลียดการมีอยู่ของพวกออร์ค
“11,000 เหรียญทอง ข้าให้ต่ำสุดได้เท่านี้”
“ข้าได้ยินมาว่าความทนทานของมันแย่มากเลยนะ…”
“10,500 เหรียญทอง”
ถ้าราคาของมันประมาณนี้ล่ะก็, เอเดลสามารถซื้อมันได้ด้วยเงินที่เธอมีอยู่
“ว้าว!”
“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเอเดลจะมีความสามารถในการต่อรองราคาได้ขนาดนี้”
พวกเพื่อนๆของเอลฟ์เอเดลกำลังเชียร์เธอที่สามารถต่อรองราคาได้,
อย่างไรก็ตามเอเดลตัดสินใจที่จะเก็บความรู้สึกดีใจเอาไว้ก่อน
เอเดลยังไม่ได้ซื้อธนู
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเธอยังไม่แน่ใจราคาของมันว่าถูกต้องหรือไม่
เอเดลถามอีกครั้งเพื่อยืนยันราคา
“นั่นน่ะ…มันจะเป็นอะไรมั้ยถ้าให้ฉันลองยิงจากระยะไกลเพื่อตรวจดูผลลัพธ์ของมัน?
ถ้ามันเป็นอาวุธที่ปรมาจารย์คนแคระเป็นคนสร้างมันขึ้นมา มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร,
แต่ฉันต้องการที่จะดูว่าธนูอันนี้มันดีพอหรือไม่ ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจซื้อมัน
อย่างไรก็ตาม, ถ้าลูกธนูมันไถลออกไปเล็กน้อยจากเป้าหมายล่ะ,
คุณจะลดราคามันใช้ฉัน,ได้ใช่มั้ย?”
เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของคนแคระเปลี่ยนไป
สีหน้าของเขาตอนนี้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“เอามาให้ข้า 9,000 เหรียญทอง ถึงแม้ว่าธนูอันนี้มีข้อบกพร่องอยู่นิดหน่อย,
แต่มันไม่เลวเลยถ้าหากเจ้าซื้อมันที่ราคา 9,000 เหรียญทอง”
และนั่นคือการตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่เอเดลซื้อธนูที่ราคา 9,000 เหรียญทอง
มันมีข้อเสียอยู่นิดหน่อยเมื่อคุณใช้ธนูเพราะการโจมตีไม่สอดคล้องกับความเสียหายที่ทำได้!
อย่างไรก็ตาม, ทักษะการใช้ธนูเพียงพอที่จะทดแทนข้อบกพร่องของธนู
มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากหากสามารถได้ธนูที่มีค่าความเสียหายสูงพร้อมกับความเร็วในการยิงที่ระดับนี้ในราคาแบบนี้
มนุษย์มองเห็นพวกเอลฟ์นั้นเป็นมิตรกับพวกเขา,
แต่มันเป็นเรื่องที่สุดยอดที่สามารถต่อรองราคากับพวกคนแคระที่เก็บตัวพวกนี้
เอเดลพยายามกระซิบไปหาวีดเพื่อกล่าวคำขอบคุณ
- ขอบคุณมาก เพราะคุณ ฉันจึงสามารถซื้อธนูอันนี้ได้…
***
เควสส่วนใหญ่ในอาณาจักรคุรุโซที่ให้มาทำนั้น
มีแต่เฉพาะเผ่าคนแคระหรือช่างตีเหล็ก
การแกะสลักเป็นอะไรที่หายากมากเหมือนกับการปลูกถั่วบนพื้นที่แห้งแล้ง,
และมันเป็นอะไรที่ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าพวกเขาเชี่ยวชาญในเรื่องนี้
“ไฮโฮ ไฮโฮ,
ข้าไม่สามารถซื้อเบียร์ได้เพราะเงินของข้าที่ใช้ซื้อเบียร์นั้นหมดแล้ว
ถึงแม้ว่านี่เป็นเรื่องที่โชคร้าย, ข้าไม่สามารถที่จะขอร้องได้เนื่องจากศักดิ์ศรีของคนแคระ
ช่างโชคดีที่คุณผู้หญิงเจ้าของร้านเหล้าพูดว่าเธอชอบรูปแกะสลัก;
เจ้าพอที่จะทำมันให้เธอสักชิ้นได้มั้ย? เพื่อเป็นการตอบแทนเจ้า
ข้าจะมอบพลั่วขุดแร่ให้เจ้าเอาไปใช้ เจ้าไม่สามารถขายมันได้,
แต่เจ้าสามารถใช้งานมันได้หลากหลายวช่องทาง”
*ติ๊ง!*
- คำขอร้องของคนงานเหมืองคนแคระ
สร้างรูปแกะสลักของพลั่วขุดแร่
เมื่อคุณทำเสร็จแล้ว, คุณสามารถได้รับพลั่วขุดแร่
ระดับความยากของเควส: F
รางวัลตอบแทน: พลั่วขุดแร่
ข้อจำกัดการทำเควส: เฉพาะช่างแกะสลักเท่านั้น
“ข้าจะแกะสลักมันเดี๋ยวนี้”
“เจ้าพูดว่าเจ้าเป็นช่างแกะสลักงั้นรึ? ช่างแกะสลัก…เมื่อตอนข้ายังเด็ก,
ข้าได้เห็นรูปแกะสลักอันน่าประทับใจ อะไร,
เจ้าพูดว่าข้าไม่เหมือนคนที่จะสนใจอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
“มันไม่ใช่แค่นั้นนะ คนแคระคือศิลปินในตำนาน,
และพวกเขาคือช่างฝีมือที่มีความละเอียดลออและมีความประณีตพิถีพิถัน”
“ถูกต้องแล้ว พวกมนุษย์หยิ่งยโสพวกนั้นพูดว่าคนแคระไม่มีความสนใจในเรื่องของศิลปะเลย;
ไม่เหมือนพวกออร์คสวะพวกนั้น, พวกเราคนแคระผู้ฉลาดเฉลียวรักสิ่งสวยงามและคงทน
ถึงแม้ว่าในเมืองคุรุโซของพวกเรา, พวกเรามีนักรบคนแคระมากมายที่ไม่รู้จักคำว่าถอย
ข้าต้องการที่จะเก็บความทรงจำพวกนั้นไว้ภายในบ้านของข้า
สร้างรูปแกะสลักที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของนักรบคนแคระให้กับข้า”
*ติ๊ง!*
- ความกล้าหาญของนักรบคนแคระ
พวกคนแคระคุยโว
โอ้อวดว่าถ้าหากพวกเขามีชุดเกราะและอาวุธที่พวกเขาทำขึ้นมา,
พวกเขาสามารถที่จะป้องกันได้แม้กระทั่งการโจมตีด้วยลมหายใจและสามารถตัดผ่านได้ทุกสิ่ง,
พวกเขามีความสามารถแม้กระทั่งการจับมังกรปีศาจ, เคย์เบิร์น
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทักษะช่างตีเหล็กของพวกเขาถึงเติบโตมากขนาดนี้,
แต่โอกาสที่มันจะเป็นเรื่องจริงได้นั้นไม่มีเลย!
แม้กระทั่งด้านจิตรกรรม, ตราบใดที่ศัตรูของพวกเขาไม่ใช่มังกร,
พวกคนแคระคงไม่มีทางรู้ถึงความกลัวและการถอยหนี
จงแกะสลักนักรบคนแคระผู้กล้าหาญ
ระดับความยาก: E
รางวัลตอบแทน: ชุดเซ็ทอาวุธที่คนแคระทำขึ้นเพื่อคลายความเบื่อหน่ายที่เขามี
ความต้องการของเควส: ต้องเป็นช่างแกะสลักเท่านั้น
คุณต้องสร้างรูปแกะสลักด้วยสัมฤทธิ์(bronze)
“ข้าจะทำมันตอนนี้เลย”
เขารับเควสนี้โดยที่ไม่ต้องรับเควสที่ความยากระดับ F
อาจจะพูดได้ว่าเขากำลังได้เควสที่ดีขึ้น!
เขามีความหวังอยู่เสมอว่าไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน
มันต้องมีเควสช่างแกะสลักรอคอยเขาอยู่เสมอ
ตามนี้, เขารับเควสทุกอันที่เกี่ยวกับการแกะสลักมาทั้งหมด
‘คุรุโซเป็นสถานที่เล็กๆ’
จำนวนคนแคระที่อาศัยอยู่ที่นี่นั้นมีไม่ถึงพันคน
มีอาคารหลายหลังที่ถูกปล่อยให้ทิ้งว่าง,
และมันก็เงียบเชียบไปตามขนาดของพวกมัน
ถ้าไม่มีพวกนักผจญภัยเอลฟ์หรือมนุษย์,
มันคงจะกลายเป็นสถานที่ ที่เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยวโดยแท้จริง
‘ถ้าเราทำเควสของช่างแกะสลักต่อไป,
เราเดาว่ามันต้องมีเควสอะไรสักอย่างที่ทำให้เราสามารถแกะสลักพวกที่ไม่มีตัวตนได้แน่ๆ’
เขาคิดว่าอย่างน้อย เขาก็สามารถค้นหาเบาะแสได้
อย่างไรก็ตาม, ถึงแม้ว่าเขาจะทำเควสเสร็จไปมากมายเป็นสิบๆเควสแล้วก็ตาม,
คำขอร้องพิเศษยังไม่ปรากฏให้เห็นเลย
ถึงแม้ว่าระดับความยากของคำขอร้องเพิ่มขึ้นถึงระดับค่าเฉลี่ยหลังจากที่เขาพูดถึงหมู่บ้านหัตถ์เหล็กกล้า,
แต่เควสเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเกินระดับ D
เควสต่อเนื่องยากที่จะหาพบ, และ, อย่างมาก, พวกเขาแนะนำให้เขารู้จักกับคนแคระคนอื่นๆที่ต้องการความช่วยเหลือของช่างแกะสลัก
ความคิดบางอย่างที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา!
‘มันคงไม่ใช่ขีดจำกัดของเควสช่างแกะสลักหรอกนะ,
มันคงไม่ใช่หรอก?’
ถ้าเขาเป็นสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้,
เขาก็แค่ต้องออกไปผจญภัยเท่านั้น
มันไม่มีอะไรมากที่ต้องพูดถึงการออกไปผจญภัย
เขาสามารถขุดค้นสำรวจซากโบราณสถาน,
หรือเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของพวกสัตว์และพืชพันธุ์ไม้ในแต่ละท้องถิ่น
เขาสามารถจับพวกมอนสเตอร์ก็ได้
คำขอร้องที่น่าสนใจมักจะเชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้กระทั่งพวกพรีสต์สามารถได้รับประสบการณ์ผ่านทางพิธีกรรมพิเศษที่จัดขึ้นโดยวิหาร
อย่างไรก็ตาม, เขาเริ่มคิดว่าในตอนแรกๆนั้น
เควสพวกนี้คงไม่มีให้สำหรับช่างแกะสลัก
‘ใช่แล้ว
เควสที่สร้างสุสานของกษัตริย์ในอาณาจักรโรเซนไฮม์ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน’
มันเป็นเควสของช่างแกะสลักที่มีความยากระดับ B!
ถ้าระดับความยากสูงกว่าภารกิจอื่นๆ
ค่าประสบการณ์และรางวัลตอบแทนก็จะมากตามไปด้วยและมันอาจจะส่งผลกระทบ
มีอิทธิพลไปทั่วทั้งทวีปเวอร์แซลล์
แต่อุปสรรคความยากลำบากในการก่อสร้างสุสานของกษัตริย์คือพวกใช้แรงงานที่จำเป็นต่อการก่อสร้าง
‘มันเป็นภารกิจที่ง่ายต่อการทำมันให้สำเร็จเพียงแค่มีพวกคนงานเท่านั้น
นอกจากนี้, เมื่อตอนที่แกะสลักรูปปั้นของเทพธิดาเฟรย่าห์,
มันไม่มีความท้าทายที่พิเศษอะไร’
วีดเชี่ยวชาญการใช้แรงงานมาก, และเมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานใหม่ๆปรากฏขึ้น, เขาจะรับมันพร้อมกับมองโลกในแง่ดีไปด้วย
มันเป็นความจริงที่ว่าเขากลัวคำขอร้องการแกะสลักที่ยากๆในชีวิตจริง
แล้วถ้าหากมันเป็นคำข้อร้องที่ต้องการให้เปลี่ยนพวกอัญมณีที่มีมูลค่าเป็นหมื่นๆเหรียญทอง
ให้กลายเป็นสร้อยคอ ผลงานที่โลกต้องจารึกและจดจำไว้ในประวัติศาสตร์นานนับศตวรรษ
มันคงเป็นอะไรที่น่าปวดหัวสุดๆเลยใช่มั้ยล่ะ?
วีดยินดียอมรับการใช้แรงงานแบบง่ายๆ,
และสร้างผลงานการแกะสลักของเขาให้เป็นแบบนี้ต่อไปดีกว่า
อย่างไรก็ตาม, มันดูยากมากในขณะที่เขากำลังทำมันอยู่นั้น,
เขาไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเลยเกี่ยวกับพวกรูปแกะสลัก
‘มันเป็นไปได้ที่เควสที่เรารับผ่านการแกะสลัก คงจะติดแหง็ก
คาอยู่ระดับที่น่าสมเพช เวทนาแบบนี้แน่นอน’
ขณะที่เขาสามารถสร้างรูปปั้นที่มีขนาดใหญ่,
มันสามารถบ่งบอกได้ว่านั่นคือขีดจำกัดของคำขอร้องที่เกี่ยวกับการแกะสลัก
มันไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของช่างแกะสลักในการที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้
เช่น การหาปาร์ตี้, การต่อสู้, หรือ การออกไปผจญภัย!
มันจะดีกว่าถ้าเกิดหาที่นั่งสักที่แล้วมานั่งแกะสลักไปตลอดทั้งวัน
บางคนอาจจะบอกว่าช่างตัดเย็บและช่างตีเหล็กก็มีเหตุการณ์แบบนี้เหมือนๆกัน,
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม, เขาก็มักจะสงสัยเสมอว่า, ในฐานะที่เป็นช่างแกะสลัก,
เขาไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปผจญภัยเลยหรือ
‘ไม่ เวรเอ้ย นี่คือเรื่องจริง มันไม่มีช่างแกะสลักคนไหนที่ออกไปผจญภัยจริงๆหรอก, ใช่มั้ย?’
วีดตกลงสู่ห้วงแห่งความสิ้นหวัง
***
ทุกวันๆ, กิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีและเดย์มอนด์ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนจนเกี่ยวกับเรื่องนี้
นั่นก็เพราะว่าพวกเขากำลังล่าราชากริฟฟอนในหุบเขาฮาเวลิน
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าราชากริฟฟอน!
พวกเขาออกผจญภัยมานับครั้งไม่ถ้วน
จนเดินทางมาถึงดินแดนทางเหนือเพื่อที่จะล่ากริฟฟอนสีเหลือง
กริฟฟอนสามาถบินไปในท้องฟ้าได้อย่างอิสระ,
พวกมันมีความว่องไวและรวดเร็วสูงมาก, และยังฉลาดสุดๆ, ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ
หุบเขาฮาเวลินเป็นสถานที่ๆหลอกล่อพวกนักผจญภัยไปสู่ความตายมาแล้วมากมาย
เดย์มอนด์และกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีเข้าไปยังหุบเขาฮาเวลิน พวกเขาไร้ซึ่งความกลัว
พวกกริฟฟอนแสนรู้ต่างพากันต้อนรับเหล่าผู้บุกรุกด้วยการกลิ้งหินขนาดยักษ์ใส่พวกเขาและ
ในขณะที่พวกมันอยู่กลางอากาศ พวกมันก็โยนกิ่งไม้ลงมาใส่พวกเขา
อย่างไรก็ตาม, พวกกริฟฟอนไม่ได้ใช้วิธีการเข้าโจมตีซึ่งๆหน้า
‘ถ้าพวกแกอยากเข้ามาใกล้กว่านี้, ก็เข้ามาเลย มันไม่มีทางที่พวกสวะอย่างพวกแกจะมีชีวิตอยู่รอดไปได้’
นี่ทำให้พวกเขากลัว, และ ด้วยการจู่โจมตลอดทุกคืน
พวกเขาต้องเฝ้าดูสิ่งที่อยู่รอบๆตัวอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้พวกเขามาได้เกินครึ่งทางของหุบเขาแล้ว,
มันไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับ, การโจมตีของพวกกริฟฟอนจะเริ่มขึ้นในเร็วนี้
กิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีผ่านประสบการณ์ความตายมากนับครั้งไม่ถ้วน คำว่าล้มเหลวถูกหยิบยกขึ้นมาพูด
กิลด์อื่นๆต่างพากันหัวเราะเยาะกิลด์นักล่าแห่งพืนปฐพีในความประมาทของพวกเขา
“ถ้าคุณไม่บ้า, คุณไม่มีทางที่จะท้าทายหุบเขาฮาเวลินได้หรอก”
มีกิลด์อื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่มีกำลังทางทหารใหญ่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพี
แต่,พวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่ที่จะท้าทายสถานที่อันตรายอย่าง หุบเขาฮาเวลิน
แน่นอน รับประกันได้เลยว่าความพ่ายแพ้รอคอยพวกเขาอยู่
เพราะเป็นกิลด์ถึงระดับสูง ย่อมเป็นที่จับตามองของผู้เล่นทั้งหมดบนทวีปเวอร์แซลล์
ถ้าพวกเขาล้มเหลว ผิดพลาดขึ้นมา ชื่อเสียงของพวกเขาต้องป่นปี้ย่อยยับ และนำมาซึ่งความเสียหาย
มาสู่กิลด์ของพวกเขา
อีกอย่าง, ถึงแม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จก็ตาม,
แต่ถ้าพวกผู้เล่นที่เป็นกำลังหลัก เป็นกำลังสำคัญ เกิดต้องมาตายไปเป็นจำนวนมาก,
พวกเขาจะยิ่งสูญเสียไปมากกว่าเดิม
ถึงแม้ว่ากิลด์อื่นๆจะมีกำลังทางทหารที่แข็งแกร่งมากเพียงใด ,
พวกเขาก็ต้องหยุดคิดถึงมันอยู่ดี
ดังนั้นกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีจึงกลายเป็นเหมือนตัวตลกในสายตาของพวกเขา
ที่พยายามท้าทายหุบเขาฮาเวลินโดยไร้ซึ่งความเกรงกลังแต่อย่างใด
“เพราะพวกเขาเดินนำหน้าพากิลด์ไปด้วยความประมาท,
พวกเขาจะต้องล้มเหลวและพบจุดจบอยู่ที่ทางตอนเหนือ”
แต่,
เดย์มอนด์และกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐียังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งถึงแม้พวกเขาจะเสียคนไปเป็นจำนวนมากแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม,
พวกเขาก็ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ดีนั่นก็เพราะพวกกริฟฟอน
เพราะกริฟฟอนเป็นมอนสเตอร์ประเภทบินได้,
มีเพียงแค่ลูกธนูและเวทย์มนต์เท่านั้นที่สามารถฆ่าพวกมันได้
ถึงกระนั้น, มันก็ไม่มีที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา
รังของกริฟฟอนอยู่ตรงใจกลางของหุบเขาฮาเวลิน!
ในรังของพวกมัน,
มีลูกกริฟฟอนที่ยังไม่มีปีกหรือยังไม่รู้วิธีที่จะบิน
หลังจากกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพีที่นำทีมโดยเดย์มอนด์เข้าไปถึงรังของพวกกริฟฟอนแล้ว
และเริ่มการต่อสู้อันแสนโหดร้ายและทารุณจนถึงขั้นเลือดสาดกันเลยทีเดียว
จนในที่สุดพวกเขาก็ได้รับชัยชนะอันน่าเหลือเชื่อ
เพื่อที่จะฆ่าราชากริฟฟอนให้ได้
พวกเขาจำเป็นต้องจับพวกกริฟฟอนตัวเล็กๆ
การที่สามารถจับพวกกริฟฟอนและสามารถใช้มันในการต่อสู้กลางอากาศได้นั้น
คุณค่าความสำเร็จของมันนั้นยิ่งใหญ่มากเกินกว่าที่จะบรรยายได้
มีฉากการต่อสู้ที่หุบเขาฮาเวลินถูกโพสต์ลงในหอแห่งเกียรติยศ
พวกเขาเสียชีวิตในการต่อสู้ไปเป็นจำนวนมาก
แต่กิลด์ก็ยังสู้จนถึงที่สุดและพวกเขาก็สามารถฆ่าราชากริฟฟอนได้
ซึ่งนั่นทำให้คนที่ดูอยู่นั้นเกิดความประทับใจมาก
ผู้คนต่างถูกสะกดเนื่องจากความไม่ยั้งคิดของกิลด์นักล่าแห่งผืนปฐพี
***
วีดยังคงครุ่นคิดต่อไปเกี่ยวกับคุณค่าของการทำเควสแกะสลัก
“เฮ้อ มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ พวกเขาบอกว่าการเรียนก็เหมือนกับการขโมย…”
มันไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากการพัฒนาศิลปะแห่งการแกะสลัก
เขาทำได้เพียงแค่นั่งทำเควสต่อไปให้เสร็จอย่างเงียบๆ!
“เจ้าทำดีมาก”
“ไม่เลย มันไม่ใช่ซะทั้งหมดหรอก”
แม้กระทั่งคนแคระที่ฝากฝังคำขอร้องไว้ที่เขาก็ยังมาหา,
วีดทำได้เพียงแค่ตอบไปแบบห้วนๆสั้นๆ
“โอ้! มันช่างเป็นผลงานที่สุดยอดมาก”
“ข้าก็แค่แกะมันอย่างง่ายๆเท่านั้นเอง”
“เมื่อมาคิดดูแล้วเจ้าสามารถแกะสลักพื้นผิวออกมาได้อย่างเรียบเนียน…และดูส่วนเว้าส่วนโค้งที่ผิวนี่สิ
การที่พวกเราได้มาเห็นจุดสูงสุดของความงดงามในสัดส่วนโค้งเว้าแบบนี้นั้น
มันช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก!”
“เพราะข้าทำมันขึ้นมาด้วยความตั้งใจ,
ได้โปรดหยุดพูดอะไรที่เกินเลยไปกว่านั้นเลยและเอาเงินมาให้ข้า”
ความเหนื่อยล้าถึงขีดสุด!
ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับคำชื่นชมมามากมาย,
คำขอร้องในการแกะสลักนั้นก็ไม่ได้ให้ผลตอบดีเท่าที่ควร
เขาทำได้เพียงแค่รับเงินมาในจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
แน่นอน, ถ้าเขาแกะสลักมันออกมาได้ดีกว่าคำขอร้องล่ะก็, เขาก็จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม,
รางวัลตอบแทนจะไม่เพิ่มขึ้นเลยถ้าเขาทำได้เพียงแค่การแลกเปลี่ยนคำพูดเท่านั้น
คนแคระหัวเราะเบาๆไปที่วีดผู้ซีดเซียว
“ถ้าเจ้าเป็นช่างแกะสลัก, อย่างน้อยเจ้าก็ควรมีความภาคภูมิใจบ้าง”
“อ้า, ก็นะ! คุณควรที่จะพูดอย่างนี้ตั้งนานแล้ว”
“ช่างแกะสลักที่มีทัศนคติอันยอดเยี่ยมเช่นเจ้า
ถ้าหากข้ามีคำขอร้องอื่นอีกล่ะก็ ข้าจะแวะมาหาเจ้าอีกครั้ง”
“ถ้าหากเจอกันครั้งหน้า ได้โปรดให้ค่าตอบแทนที่ดีกว่านี้หน่อยนะ”
ถึงแม้ว่าวีดจะแสดงอาการหงุดหงิดออกมา,
พวกคนแคระก็เอารูปแกะสลักและจากไปอย่างสบายใจ
เขายังต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกเมื่อครั้งที่เขารับคำขอร้องในการแกะสลักให้กับมันโดล!
เขามีเวลามากพอที่จะสร้างผลงานการแกะสลักอย่างสุสานหรือเทพธิดาในทวีปเวอร์แซลล์
อย่างไรก็ตาม,มันมีบางสิ่งที่ช่างฝีมือคนแคระที่อาศัยอยู่ในคุรุโซนั้นไม่มี
มันมีพวกอนุสาวรีย์, อนุสรณ์สถาน, พิพิธภัณฑ์,
และอื่นๆอีกมากมาย, กองรวมกันโดยช่างฝีมือคนแคระมหัศจรรย์,
แต่ภารกิจรูปแกะสลักนั้นหายากมาก
“มันไม่มีแม้กระทั่งร้านค้าแผงลอยเลย”
แต่กระนั้น, วีดก็ยังคงแกะสลักต่อไป
- ข้าบอกว่าแกะสลักพวกเราไงเล่า
- ช่างแกะสลัก, ทำไมเจ้าต้องเดินตามเส้นทางที่ขัดกับความรู้สึกของเจ้าล่ะ?
เขาเริ่มชินกับเสียงกระซิบของพวกที่ไม่มีตัวตน
วีดมักจะทำธุรกิจเฉพาะที่ร้านขายรูปแกะสลัก,
ร้านขายวัตถุดิบแกะสลัก และร้านข้างถนนเป็นบางแห่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม, มีอยู่วันนึง จู่ๆ
เจ้าของร้านก็เอารูปแกะสลักที่เหมือนกับค้างคาวออกมา
“หัตถ์แห่งศิลป์, เจ้าดูนี่สิ”
“ทำไม?”
“เจ้าสามารถอธิบายความประทับใจที่มีต่อผลงานชิ้นนี้ที่ทำขึ้นมาจากหินได้หรือไม่?”
วีดตรวจดูผลงานชิ้นนี้ในขณะที่เขากำลังถือมันอยู่ในมือ
“มันน่ารำคาญนะ, แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าช่างแกะสลักคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีฝีมือในด้านนี้สักเท่าไหร่?”
“ข้ารู้, แต่ข้าจะไม่ถามหากไม่มีเหตุผล ใช่แล้ว,
เจ้าจะไม่ผิดหวังกับค่าตอบแทนในครั้งนี้แน่นอน”
“ถ้างั้นรูปแกะสลักที่ข้าทำขึ้นมาจะขายได้ราคาที่สูงขึ้นงั้นเหรอ?”
“ก็เพิ่มได้อีก 1 เปอร์เซ็นต์ล่ะนะ
ช่างแกะสลักที่โด่งดังและเป็นที่นิยมจะสามารถขายมันได้ที่ราคาสูงๆ,
และช่างแกะสลักคนอื่นๆก็สามารถขายได้ที่ราคาสูงเช่นกันถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่โด่งดัง
มีชื่อเสียง หรือเป็นที่นิยมก็ตาม…”
เนื่องจากการแลกเปลี่ยนด้วยที่สามารถทำให้ราคาของรูปแกะสลักนั้นเพิ่มสูงขึ้น
ถ้ามีพ่อค้าหลายคนต้องการรูปปั้น ราคาของมันก็จะเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน อันที่จริงแล้ว,
มูลค่าของอุปกรณ์ป้องกันในอาณาจักรธอร์และคุรุโซมีราคาแพงมากเนื่องมาจากพวกมันได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
การที่จะตั้งราคาตามสภาพเศรษฐกิจของตลาดนั้นๆ, รูปแกะสลักไม่สามารถที่จะถูกขายออกไปในราคาที่สูงๆได้เลย,
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรูปแกะสลักของวีดก็ตาม มันเป็นรูปแกะสลักที่ถูกทำขึ้นมาอย่างหยาบๆ, ไม่ได้ทำมาจากวัตถุดิบชั้นยอด, และมันยังขาดความเอาใจใส่และระมัดระวังในการทำผลงานออกมา
“ถ้ามันเป็นแค่ความประทับใจเพียงครั้งเดียวล่ะก็, ข้าจะลองดู”
วีดตรวจสอบรูปแกะสลักค้างคาวอย่างใกล้ชิด
“ข้าไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรที่พิเศษตรงไหนเลย…”
เพราะเขาสร้างรูปแกะสลักมาแล้วเป็นจำนวนมาก,
ทักษะการสังเกตของเขาจึงมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น
รูปแกะสลักค้างคาวที่ถูกทำขึ้นด้วยก้อนหินผสมกับดินโคลนที่มีคุณภาพแย่
มันไม่น่าจะเป็นผลงานที่ทำขึ้นมาด้วยทักษะอันยอดเยี่ยม
‘มันไม่ได้แสดงถึงความประณีต บรรจง, และมันมีรอยมีดแบบหยาบๆอยู่เต็มไปหมด
มันแย่กว่าค่าเฉลี่ยซะอีก’
มันเป็นผลงานที่วีดเห็นว่าล้มเหลว
มันเป็นกฎที่ว่าหากคุณใช้เวลาไปกับรูปแกะสลักมากเพียงใด,
ยิ่งมีความผิดพลาดเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ คุณยิ่งสามารถแก้ไขมันได้มากขึ้นเท่านั้น,
แต่รูปแกะสลักชิ้นนี้เต็มไปความผิดพลาด
“ข้าจะรู้มากขึ้นหากข้ามองมันเข้าไปใกล้กว่านี้ ตรวจสอบ!”
มันเป็นรูปแกะสลักค้างคาวที่ไม่มีชื่อ
รูปแกะสลักค้างคาวกำลังคลุมตัวของมันด้วยปีกของมัน
รูปร่างของมันทำให้นึกถึงค้างคาวดูดเลือดแห่งถ้ำเชสปิน
ค่าทางศิลปะ: 3
วีดกำลังจะส่งรูปแกะสลักคืนให้กับเจ้าของร้านและพูด
“มันดูเหมือนจะไม่มีอะไรนะ
มันไม่มีค่าเลยและมันยังเป็นแค่ของที่ทำขึ้นมาง่ายๆ”
“อย่างนั้นเองรึ? ช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก
ข้าคาดหวังมันเอาไว้มากเลยล่ะกับรูปแกะสลักชิ้นนี้,
เพราะมันถูกพบเจอในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว”
แต่ ณ ช่วง เวลา นี้ เอง
วีดมองไปที่ดวงตาของรูปแกะสลัก
ทั้งขนลุกและตื่นเต้น!
ดวงตาของค้างคาวดูดเลือดราวกับมีชีวิต ดูน่ากลัวมาก!
พวกเขาบอกว่าตาของค้างคาวนั้นเสื่อมสภาพ,
แต่มันก็ยังคงมีลูกตาอยู่
ดูราวกับว่าดวงตาที่เจิดจรัสอันน่าประทับใจกำลังเคลื่อนไหวไปมาอยู่ยังไงยังงั้น
ดวงตาของมันไม่ได้ถูกทำขึ้นด้วยหิน,
แต่ถูกทำขึ้นด้วยทับทิมอันเลอค่า
วีดถึงกับต้องกลืนน้ำลายและทำการตรวจสอบผลงานหินชิ้นนี้อีกครั้ง
เขาสัมผัสไปที่ทับทิมด้วยปลายนิ้วของเขา, และสังเกตมันในขณะที่มันกำลังแสงส่องเป็นประกาย
‘มันคือทับทิมที่ยังไม่มีการตัดแต่งหรือเจียระไนและมันค่อนข้างหยาบอีกด้วย เนื่องจากมันเป็นทับทิมที่เราสามารถเอาไปขายได้ราคาหลายพัน
แต่ถ้าเกิดว่าเราสัมผัสมันอีกนิดหน่อย,
ไม่แน่เราอาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากรูปแกะสลักค้างคาวอันนี้’
จากนั้นเขาก็ได้รับข้อความ!
- คุณค้นพบหลักฐานของค้างคาวดูดเลือดเชสปินในผลงานแกะสลักหินชิ้นนี้
วีดรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้น
“ตรวจสอบ!”
ค้างคาวดูดเลือดเชสปิน
ผลงานของกุดอล์ฟช่างฝีมือคนแคระ
มันเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายภายในถ้ำเชสปิน
ค่าทางศิลปะ: 245
ในอาณาจักรคุรุโซ,
พื้นที่ข้างหลังแม่น้ำนั้นเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่มากมาย
มันเป็นที่แน่นอนว่าหากไม่มีคนนำทาง
คนๆนั้นที่เข้าไปจะหลงทางภายในถ้ำที่คดเคี้ยวเหมือนกับรังมด
ต้องขอบคุณการรับรู้ที่มีมาแต่กำเนิดของพวกคนแคระและความสามารถในการอ่านร่องรอยสายแร่
พวกเขาจึงไม่วันหลงทางอยู่ใต้ดิน อย่างไรก็ตาม,
ไม่ว่าใครก็สามารถหลงทางอยู่ภายในถ้ำที่ซับซ้อนแบบนี้ถึงจะมีแผนที่อยู่แล้วก็ตาม,
ถ้ามันไม่ใช่เพราะความกล้าของคนแคระ,
พวกเขาไม่มีทางเสี่ยงอันตรายเข้าไปลึกกว่านี้แน่นอน
กุดอล์ฟคนแคระหนุ่มเดินเข้าไปในถ้ำด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ
‘ครั้งนี้…เราต้องกล้าที่จะเข้าไปยังเหมืองอัญมณี’
กุดอล์ฟเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ช่างฝีมือ,
แต่ที่มากกว่านั้น, เขามีความเข้าใจในเรื่องของสายแร่ที่อยู่ใต้ดินเป็นอย่างดี
“เราควรที่จะให้เข็มกลัดสวยๆเป็นของขวัญกับเธอ”
เขาต้องการที่จะให้เข็มกลัดที่เขาทำขึ้นมาเองกับมือด้วยอัญมณีที่เข้าค้นพบ
ให้กับคนรักของเขาเมื่อตอนที่เขาจะขอเธอแต่งงานด้วย
กุดอล์ฟรีบเร่งเดินหน้าเข้าไปยังถ้ำเชสปิน
“นี่เป็นทางที่จะนำไปยังกลุ่มของสายธารทับทิม”
เชสปินเป็นสถานที่พวกคนแคระไม่กล้าที่จะไป กุดอล์ฟถูกความรักบังตาและเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำอย่างระมัดระวัง
ถ้ำที่ทั้งมืดและแคบ!
เขาเดินผ่านหินงอกหินย้อยและพวกค้างคาวดูดเลือดที่กำลังหลับใหลอยู่
เขาเต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อที่จะไปให้ไกลที่สุดจนถึงในถ้ำที่มีเหมืองอัญมณีอยู่ข้างใน
และจากส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำ,
เขาค้นพบร่องรอยของแสงที่ส่องประกายออกมาจากอัญมณีต่างๆ
“มันอยู่นี่!”
เขาดีใจมากและเริ่มลงมือขุดมันออกมา
เขาค้นพบเหมืองอัญมณีทับทิมสีแดงฉานคุณภาพระดับสูง!
“นี่มันมากพอที่จะทำเข็มกลัดให้เธอ!”
กุดอล์ฟมีความสุขมาก
อย่างไรก็ตาม, เสียงที่ออกมาจากพลั่วขุดแร่ในตอนที่เขากำลังลงมือขุดหาทับทิมอยู่นั้น
ได้ทำให้พวกค้างคาวดูดเลือดที่อยู่ในถ้ำเชสปินทั้งหมดตื่นขึ้นมา
พวกค้างคาวดูดเลือดขยับปีกของพวกมันบินไปหากุดอล์ฟและฝังเขี้ยวของพวกมันลงไปในตัวกุดอล์ฟ
“หยุ, หยุดนะ! ได้โปรดไว้ชีวิตคนแคระคนนี้ด้วย!”
กุดอล์ฟพยายามหนีเข้าไปข้างในถ้ำให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่มีพวกค้างคาวไล่ตามเขามา
เขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะหาว่าเขาอยู่ที่ไหนและได้แต่วิ่งหนีโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
สถานที่ที่เขามาถึงนั้นเป็นโซนที่มีลาวาร้อนระอุ!
พวกค้างคาวบินหนีไปเนื่องจากความร้อน, แต่กุดอล์ฟไม่มีพละกำลังเหลือแล้ว
เขาสูญเสียเลือดในปริมาณมากจนทำให้เขาสะลึมสะลือเห็นภาพลางๆ,
และเขาไม่มีแม้แต่กำลังที่จะเดินออกไปจากถ้ำ ถึงแม้ว่าเขาจะหาทางออกเจอก็ตาม,
มันคือถ้ำเชสปิน, ที่มีพวกค้างคาวดูดเลือดรอคอยเข้าอยู่
“เราไม่มีทางจะกลับไปได้เลย…”
กุดอล์ฟหยิบทับทิมออกมาจากเข็มกลัด
มันคือของที่เขาต้องการใช้ในขณะที่เขากำลังจะขอเจนน่าคนแคระสาวผู้เลอโฉมแต่งงานกับเขา
เขาสลักก้อนหินขนาดเล็กเป็นรูปของค้างคาวดูดเลือดเชสปิน,
และใส่ทับทิมที่เหลืออยู่ลงไปในดวงตาของมัน
“เราหวังว่าใครสักคนจะหามันเจอ…”
กุดอล์ฟรู้สึกว่าตัวเขานั้นมีเวลาที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่มากแล้ว
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เอารูปแกะสลักหินมาพันรอบๆด้วยเสื้อผ้าของเขาและส่งมันไหลผ่านไปกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
มันบรรจุไว้เต็มไปด้วยความหวังของเขาที่ต้องการให้มันไปถึงคุรุโซหลังที่ปล่อยให้มันไหลไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน…!
รูปปั้นค้างคาวที่ถูกมัดรวมกันไหลไปกับกระสน้ำที่อยู่ใต้ดิน
คุลุก คุลุก คุลุก คลุก คลุก คลุก
อูดังทังทังทัง!
มีอยู่หลายครั้งที่มันจมลึกลงไปในแม่น้ำ,
หรือความเร็วของมันลดลง, และไม่มีการปล่อยเวลาที่ผ่านไปให้สูญเปล่า,
เส้นทางหลากหลายและสลับซับซ้อนที่คอยกีดกัน
ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่เส้นทางที่ไหลวนไปเรื่อยๆ
ห่อพัสดุสะสมความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อมันปะทะกับพื้นดินหรือหินงอกหินย้อยที่อยู่ใต้ดิน
ทุกๆครั้งที่มันเกิดขึ้น, รูปแกะสลักก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย, แต่เพราะมันห่อรวมกันในเสื้อผ้าของกุดอล์ฟ,
มันจึงปลอดภัยเหมือนเดิม
จากความคาดหวังของกุดอล์ฟ, ในที่สุดมันก็ลอยไปตามแม่น้ำจนถึงคุรุโซ
ถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปแล้วหลายเดือน,
มันก็ไหลไปถึงคุรุโซได้อย่างปลอดภัยและถูกค้นพบโดยพวกคนแคระ
นั่นคือที่มาของรูปแกะสลักอันนี้ที่อยู่ในร้านของเจ้าของร้านขายรูปแกะสลัก
ณ ช่วงเวลาที่วีดใช้การมองทะลุของเขา,
เขาสามารถมองเห็นต้นกำเนิดของค้างคาวดูดเลือดแห่งถ้ำเชสปิน
*ติ๊ง!*
คุณได้เรียนรู้ทักษะ ‘ประติมากรรมระลึกชาติ’
สามารถรู้เห็นเหตุการณ์และเรื่องราวในอดีต
รวมถึงความลับที่ซ่อนอยู่ภายในรูปแกะสลัก
*ติ๊ง!*
ความปรารถนาของกุดอล์ฟ
กุดอล์ฟช่างฝีมือคนแคระใส่พลังเฮือกสุดท้ายลงไปในรูปแกะสลักอันนี้
มันเต็มไปด้วยความแค้นที่เขามีต่อพวกค้างคาวดูดเลือด จงล้างแค้นให้เขาซะ, และนำเข็มกลัดที่กุดอล์ฟทิ้งไว้เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไป
มอบมันให้กับเจนน่าสาวงามผู้เลอโฉม
ถ้าคุณทำเควสนี้สำเร็จ, คุณจะได้รับเหมืองทับทิมที่กุดอล์ฟเป็นคนค้นพบ
ระดับความยากของเควส: B
รางวัลตอบแทน: เหมืองทับทิมที่ถ้ำเชสปิน
ข้อจำกัดในการทำเควส:
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับค้างคาวดูดเลือดในถ้ำเชสปิน, และ
ทักษะการแกะสลักขั้นกลาง
วีดรู้สึกช็อคเหมือนถูกทุบด้วยฆ้อนอย่างรุนแรง
เขาช็อคจนพูดไม่ออกและนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ไม่ไหวติงราวกับว่าสติของเขาหลุดลอยออกไป
ประติมากรมักถูกเมินและดูเหมือนตัวตลกในสายตาคนอื่น!
แต่เมื่อเขาพยายามและทุ่มเทขยันทำงานหนักในการสร้างรูปแกะสลัก,
มันไม่เคยทรยศเขาเลย
“เราคือประติมากร ประติมากร”
ไม่จำเป็นต้องถามความคิดเห็นของคนอื่น
ไม่จำเป็นต้องร้องขอเควสระดับต่ำๆ,
มันถูกให้มาโดยไม่ต้องถามสักคำ
มันมีเควสลับในรูปแกะสลักที่สามารถหาเจอได้เฉพาะประติมากรเท่านั้น
ด้วยทักษะทางวิชาชีพของประติมากร,
ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้!
นั่นแหละคือความหมายของการเป็นประติมากร
จบตอน
ที่มา: http://japtem.com/lms-volume-14-chapter-3
ไฟล์PDF:
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM
ขอบคุณมากครับที่ช่วยแปลให้อ่าน
ตอบลบขอบคุณครับ ปฏิมากรระลึกชาติ โอ้ สกิวสุดยอด. แต่ละสกิว ไม่แปลก ที่เป็นถึงอาชีพของจักรรพัติ โกงสวดสวด.
ตอบลบขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ตอบลบมาต่อ
ตอบลบขอบคุณมากครับ ยาวมากและสนุกด้วย
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ