เล่มที่ 14 ตอนที่ 1 : หมู่บ้านคนแคระหัตถ์เหล็กกล้า
“ขอโทษนะ,
ทักษะการแกะสลักของนายอยู่ที่ระดับเท่าไหร่?
นายต้องอยู่ในระดับขั้นกลางแน่, ว่าแต่มันมากกว่าขั้นกลางระดับ 6 มั้ย?”
“ถ้าฉันให้รางวัลกับนายเป็นแร่เหล็กล่ะ,
นายจะยอมเปิดเผยความลับสักหน่อยได้มั้ย ความลับที่เกี่ยวกับการสร้างรูปแกะสลักน่ะ?”
มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติสำหรับพวกคนแคระที่ต้องขอร้องคนแคระคนอื่นจนแทบจะหมอบคลานกับพื้นและเกาะขาของเขาเอาไว้แน่นเลย
ช่วงที่ช่างแกะสลักวีดเดินเข้าไปในกิลด์ช่างแกะสลัก,
เหตุการณ์อันน่าตกใจก็เกิดขึ้น
*ติ๊ง!*
- คุณเริ่มต้นหนทางแห่งประติมากรนิรันดร์กาล
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อค่าสถานะบางอย่างเมื่อได้แสดงผลงานรูปแกะสลัก
ยิ่งไปกว่านั้น,
งานศิลป์ที่มีความงดงามเป็นพิเศษจะช่วยยกระดับของทักษะให้สูงขึ้นอีกด้วย
ช่างแกะสลักได้หวนคืนกลับมาสู่โลกใบนี้อย่างแท้จริง
พวกขุนนางและเหล่าราชวงศ์จะได้ยินชื่อเสียงของท่านผ่านกิลด์ช่างแกะสลัก,
และช่างแกะสลักคนอื่นๆจะมีกำลังใจและเกิดจิตวิญญาณอันแรงกล้าพุ่งพล่าน
เป็นการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้น
การจินตนาการอันไม่รู้จบ ยากที่จะหยั่งถึงและการพรรณนาอันพรั่งพรู; ถ้าพวกเขามีความคิดสร้างสรรค์,
พวกเขาก็สามารถที่จะค้นพบวิถีทางการแกะสลักวิธีใหม่
- เนื่องจากแรงบันดาลใจในการแกะสลัก, ค่าศิลปะ
เพิ่มขึ้น 100
- ค่าเสน่ห์ เพิ่มขึ้น 50
- ผลของทักษะที่เกี่ยวข้องกับการแกะสลักเพิ่มขึ้น 20%
- การใช้มานาในแต่ละทักษะนั้นลดลงอย่างถาวร 20%
เขาเสียสละสิทธิประโยชน์มากมายเพื่อเลือกเส้นทางของช่างแกะสลัก
ตอนนี้วีดยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของสายอาชีพช่างแกะสลักแล้ว
ตั้งแต่ที่เขาสร้างรูปแกะสลักขึ้นมาก็ได้รับความสนใจมากขึ้น,
มันทำให้ทั่วทั้งทวีปนั้นประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น;
ในทางกลับกันมันทำให้เขาได้รับชื่อเสียงเกียรติยศมากมาย
ผู้ฝึกสอนคนแคระพูด
“ถึงแม้เจ้าเลือกที่จะอุทิศชีวิตทั้งหมดที่เจ้ามีเพื่อโลกของการแกะสลักอันไร้ขอบเขต
ไม่มีจุดสิ้นสุดนี้, เจ้าจะไม่มีวันได้เห็นถึงจุดจบของมัน
ขณะที่คนอื่นๆเลือกที่จะออกล่าและออกผจญภัยก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของการแกะสลักได้,
มีเรื่องเล่ากันว่า ช่างแกะสลักคนแคระ เค็นเดลฟ์ ชื่นชอบและสนุกไปกับการผจญภัย
เจ้าเคยได้ยินเรื่องราวของเขาหรือไม่?”
คนแคระที่อยู่แถวนั้นพยายามที่จะไขปริศนาเพื่อให้ได้เคล็ดลับของการแกะสลักต่างก็เงียบลงในทันใด
พวกเขาเข้าไปใกล้พอเพื่อที่จะให้ได้ยินเสียงของผู้ฝึกสอนคนแคระ,
ในเมื่อเขาอาจจะกำลังให้ข้อมูลอะไรบางอย่างมาก็เป็นได้
‘ช่างแกะสลักคนแคระ เค็นเดลฟ์?’
‘นั่นคือชื่อของคนแคระที่มาจากเควสที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน’
‘อย่างไรก็ตาม, การเริ่มเรื่องมันแตกต่างไปจากครั้งที่แล้วนะ’
‘เร็วเข้าสิ บอกเขาว่าเจ้าไม่เคยได้ยินมันมาก่อน!’
พวกคนแคระต่างกำลังพากันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่, อย่างไรก็ตาม
พวกเขากระตือรือร้นมากที่จะได้ยินคำพูดของผู้ฝึกสอน,
ดังนั้นพวกขาจึงยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม
ด้วยสัญชาตญาณ, ปากของวีดเริ่มพูดคำสรรเสริญ ยกยอ ปอปั้น ตามมา
“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
นี่คือภารกิจที่น่ายินสำหรับพวกเราเหล่าคนแคระที่ชื่นชอบความท้าทาย
พวกเราช่างแกะสลักคนแคระสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ด้วยขาที่แข็งแรงของพวกเรา”
“อะแฮ่ม นั่นถูกต้องแล้ว,
ถ้ามันเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่มีรากฐานที่อ่อนแอ,
พวกเขาต้องเดินทางด้วยม้า”
“ความโรแมนติคที่สามารถพบเจอได้จากการเดิน
มันถูกกำหนดไว้แล้วว่าการเดินนั้นทำให้ได้รับประสบการณ์อย่างเต็มที่และสามารถสร้างแรงบันดาลได้เป็นอย่างดี”
“มันเป็นอะไรที่เจ้าควรลองนะ”
วีดเริ่มรู้สึกหงุดหงิดพวกคนแคระที่กำลังมองดูอยู่
‘เมื่อไหร่ฉันจะได้คุยกับผู้ฝึกสอนอย่างสงบซะทีวะ’
‘ทุกสิ่งที่ฉันได้ยินมีแต่เสียงคุยกัน หนวกหูชะมัดเลย’
ผู้ฝึกสอนคนแคระพูดต่อ
“ไม่ว่างยังไงก็ตาม,
เขาก็ยังเป็นเพียงคนแคระที่ชื่นชอบการเดินทางคนเดียว,
และไม่มีใครเคยได้สัมผัสเขามาก่อน มีบางคนบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในคนแคระที่พิเศษมากเนื่องจากเขาเป็นที่เคารพอย่างสูงต่อพวกเอลฟ์อวดดีพวกนั้น”
“เขาดูเหมือนว่าจะเป็นช่างแกะสลักที่มีความสามารถมากน่าดู
เขาสามารถดึงดูดความสนใจของเอลฟ์พวกนั้นได้”
ลักษณะของเผ่าพันธุ์เอลฟ์
พวกเขาเกลียดการใช้วัตถุดิบพวกต้นไม้, หิน,
และดินเหนียวที่ใช้ในการแกะสลัก
พวกเขาเกลียดการใช้ส่วนต่างๆของธรรมชาติเพื่อใช้ในการสร้างรูปแกะสลัก,
และใช้ในการติดฉลากหรือโฆษณาเล็กๆน้อยๆ
พวกเอลฟ์เกลียดช่างแกะสลักเพราะพวกเขาเอาชีวิตของต้นไม้ไปและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเนื้อไม้
เพราะเหตุผลนั้น, ป่าที่มีพวกเอลฟ์อาศัยอยู่จึงไม่มีกิลด์ช่างแกะสลัก
“เรื่องนี้ถูกเล่าต่อกันมาตั้งแต่สมัยปู่ของปู่ของปู่ของข้า
มันถูกเล่าว่าทักษะการแกะสลักของเขานั้นใกล้เคียงกับระดับพระเจ้าเลยทีเดียวแต่ช่างโชคร้ายที่ผลงานของเขาไม่มีเหลือให้เห็นเลยสักชิ้นเดียว”
รูปแกะสลักของซาฮับเกือบทั้งหมดถูกทำลายในอาณาจักรโรเซนไฮม์,
มีนักสะสมจำนวนไม่น้อยที่เก็บรูปแกะสลักของเขาเอาไว้แล้วเอามันมาขายทำกำไร
เนื่องจากพวกเทวสถานทางศาสนาและหอคอนนักรบ,
หอคอยนักเวทย์ ต่างก็มีการเก็บรักษาของของพวกปรมาจารย์เอาไว้,
แต่ช่างแกะสลักคนแคระ เค็นเดลฟ์ ไม่ได้ทิ้งผลงานของเขาไว้ให้แก่คนรุ่นหลังเลย
“เนื่องจากเหตุการณ์นี้เอง,
พวกคนแคระที่รู้ถึงทักษะของเขาที่เปรียบเสมือนพระเจ้า พวกเอลฟ์หยิ่งผยองนั่น
ก็ไม่เคยพูดถึงเกี่ยวบรรพบุรุษของพวกเราเลย,
ผู้ที่สร้างรูปแกะสลักอันน่าตื่นตาตื่นใจในจินตนาการของพวกเขา…”
“เขาไม่มีครอบครัวหรือลูกศิษย์เลยเหรอ?”
ถึงจะเป็นเพียงแค่ผู้สืบทอดของเค็นเดลฟ์,
วีดก็ยังต้องการที่จะพบเขาให้ได้
“พวกเขาพูดว่าเขาไม่มีเลยสักคน
เขาชอบเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวมากที่สุดถึงขั้นที่ว่าเขาไม่แต่งงานเลยและอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต
แม้กระทั่งสถานที่สุดท้ายที่เขาหลับใหลอยู่นั้นก็ยังไม่มีใครล่วงรู้เลยแม้แต่คนเดียว
พวกเราคนแคระก็ทำได้เพียงแค่ชื่นชมผลงานที่พวกเราสร้างขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้”
“ถูกต้องที่สุด”
พวกคนแคระนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความภาคภูมิใจมากในผลงานของพวกเขา
ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ, อุปกรณ์ป้องกัน, และ งานศิลปะ
“ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะทำลายผลงานที่ทำมาตลอดทั้งชีวิตของเขาเพื่อที่จะไม่ให้ใครได้เห็นมัน
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การคาดเดาก็ตาม, สถานที่แห่งนั้นยากต่อการค้นหา…ข้าคิดว่าผลงานของเขาต้องถูกซ่อนไว้อยู่ในสถานที่ลับสุดยอดที่มีแต่ช่างฝีมือที่ลำเลิศที่สุด,ในหมู่พวกเราเหล่าคนแคระ,สามารถที่จะเข้าไปได้
ถ้าเกิดว่ามันเป็นช่างแกะสลักที่ได้รับการยกเว้นล่ะ,
เขาหรือเธอคนนั้นอาจจะสามารถค้นพบมันแล้วก็ได้”
วีดพยักหน้า
“นั่นก็อาจจะเป็นไปได้”
“ได้โปรดบอกให้ข้ารู้ หากเจ้าสามารถหาร่องรอยของคนๆนั้นพบ,
เพราะข้าต้องการที่จะเอามันมาถูกับหน้าเจ้าพวกเอลฟ์อวดดีนั่นและพวกมนุษย์”
*ติ๊ง!*
เรื่องเล่าตั้งแต่สมัยโบราณกาลที่เกินกว่าจะเชื่อได้
ถูกเปิดเผยโดยกิลด์ช่างแกะสลักของคนแคระ
พวกคนแคระอ้างว่ามีช่างแกะสลักที่สามารถสร้างไฟและน้ำ,
แสงสว่างและความมืด, ในหมู่ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม,
คนอื่นๆต่างพากันไม่เชื่อถึงการกล่าวอ้างนี้
“ขณะที่คนแคระอาจจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่สามารถผลิตสุดยอดอาวุธคุณภาพเยี่ยม,
ไม่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตาม,
ความสามารถทางด้านศิลปะของพวกเขานั้นเหมือนเด็กน้อยเลย เพราะพวกเขานั้นเตี้ย,
ถึงแม้พวกเขาจะบอกว่าพวกเขาสามารถแกะสลักได้,
พวกเขาจะทำมันได้อย่างไรล่ะ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
คำดูถูกเหยียดหยามของพวกเอลฟ์ดังลั่นไปทั่วทั้งป่า
“พวกคนแคระยังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับความลึกลับและความงดงามของธรรมชาติ”
ถึงแม้ว่าคำพูดของพวกเขานั้นจะทำให้ดูน่าอับอายมากแค่ไหน
แต่พวกคนแคระก็ไม่ได้คิดที่จะต่อต้าน โต้ตอบเลยแม้แต่นิดเดียว
การที่พวกคนแคระจะสามารถกู้คืนศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของพวกเขาคืนมาได้นั้น
พวกเขาจำเป็นที่จะต้องค้นหาร่องรอยผลงานของช่างแกะสลักคนแคระ เค็นเดลฟ์
ระดับความยาก: เควสเผ่าพันธุ์ช่างแกะสลักคนแคระ
รางวัลตอบแทน: เกียรติยศ ชื่อเสียง ในหมู่คนแคระ
ข้อกำหนดการทำเควส: รับได้เฉพาะช่างแกะสลักคนแคระเท่านั้น
ถ้าเควสล้มเหลว,
พวกคนแคระจะได้รับการปฏิบัติจากพวกมนุษย์เหมือนกับที่พวกเอลฟ์ทำ
พวกคนแคระที่ยืนฟังเรื่องราวอยู่รอบๆนั้น
ต่างพากันพยายามที่จะลดความมุ่งมั่นในการทำเควสของเขา
“ผู้ฝึกสอนก็เคยให้ข้าทำเควสแบบเดียวกันนี้มาก่อน”
“อย่าไปรับมันเลย
มันเป็นเควสที่ยากลำบากสำหรับพวกเราเหล่าคนแคระที่เลือกการแกะสลัก
ถ้านายรับเควสนี้แล้วล่ะก็, มันยากมากที่จะยกเลิกเควสนี้ในภายหลัง,
และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเควสนี้ให้สำเร็จ ฉันสาบานได้”
“ข้าเคยรับเควสนี้มาก่อน, แต่ไม่มีใครรู้อะไรเลยเกี่ยวกับเค็นเดลฟ์
มันเป็นเควสที่ข้านั้นต้องยอมแพ้หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานในการที่จะพยายามทำเควสนี้ให้สำเร็จ
ข้าต้องทนทรมานด้วยความยากลำบากกว่าที่จะกู้คืนชื่อเสียงที่เสียไปและความสนิทสนม”
พวกคนแคระพยายามที่จะหยุดคนแคระที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน,
และพยายามพลักดันให้เขาตอบปฏิเสธเควสไปซะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม,
พวกเขาก็สงสัยด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากสุดๆ
‘แต่ครั้งนี้, การอธิบายและรายละเอียดของเควสนั้นแตกต่างออกไปสักเล็กน้อย…’
อันที่จริงแล้ว มันแตกต่างสุดๆไปเลยล่ะ
แต่เพราะเขาและพวกคนแคระคนอื่นๆที่ใคร่อยากรู้เกี่ยวกับเค็นเดลฟ์,
พวกเขาจึงถูกบังคับให้ต้องยอมรับเควสนี้และออกค้นหาเกี่ยวกับเขา
มันเป็นเควสเผ่าพันธุ์;
พวกเขาจึงตอบรับมันไปเพียงเพราะพวกเขาคิดว่ามันต้องได้รางวัลหรือโบนัสอะไรเพิ่มเติมหลังจากที่ทำเควสนี้สำเร็จ, แต่ต้องมีคนแคระมากมายที่เสียใจหลงไปรับมัน
อย่างไรก็ตาม, ไม่เหมือนเมื่อก่อน,
เขาให้รายละเอียดกับวีดค่อนข้างมากอีกทั้งยังใจดีอธิบายให้วีดฟังอย่างนุ่มนวล พวกคนแคระสังเกตเป็นอย่างดีว่าเขามีชื่อเสียงเท่าไหร่และค่าความสนิทสนมมากแค่ไหนกันแน่รวมถึงความแตกต่างของทักษะการแกะสลักของเขาที่ทำให้บทสนทนาของผู้ฝึกสอนนั้นเปลี่ยนไป
และต่อมา วีดพูด
“ข้าเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงที่
ครั้งหนึ่งพวกเราคนแคระมีสุดยอดช่างแกะสลักในหมู่คนแคระด้วยกัน
ข้าจะต้องหาหลักฐานเจออย่างแน่นอนและจะเอามันมาถูหน้าเจ้าพวกเอลฟ์อวดดีพวกนั้น”
“ขอบคุณเจ้ามากนะ ข้าหวังว่าเจ้าจะหามันพบ”
เพื่อแสดงถึงความมีน้ำใจของวีด,
ผู้ฝึกสอนได้มอบรูปแกะสลักของเอลฟ์ให้กับเขา
“โอ้! เขารับเควสนี้แล้ว”
“ถึงแม้ว่าข้าจะขอร้องเขามากแค่ไหนก็ตาม..คุณ,ได้โปรดยกเลิกมันไปเสียเถอะ
ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
พวกคนแคระที่อยู่ข้างเขาไม่สามารถที่จะอดทนอย่างใจเย็นได้
อันที่จริงแล้ว พวกเขากระวนกระวายใจ
ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะเคยเป็นพวกที่เคยล้มเหลวจากการรับเควสนี้,
มันเป็นที่รู้กันว่าเควสนี้นั้นยากเกินกว่าจะทำให้มันสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม
เมื่อวีดปรากฏตัวขึ้นและได้ตอบรับเควสนี้,
พวกคนแคระต่างรู้สึกไม่สบายใจที่ว่าเขาอาจจะทำมันสำเร็จก็ได้
“ผู้ฝึกสอน, ข้าก็เชื่อในเรื่องเล่าของช่างแกะสลักเค็นเดลฟ์ ข้าต้องการที่จะค้นหาร่องรอยของเขา”
“ข้าก็ด้วย…”
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทำมันล้มเหลวไปแล้วไม่ใช้เหรอ? แต่ก็เอาเหอะ
มันจะเป็นการดีกว่า ยิ่งมีคนแคระเข้าร่วมเหตุการณ์ในครั้งนี้มากเท่าไหร่ยิ่งดี”
พวกคนแคระที่ตื่นตัวพากันออกไปพร้อมๆกันหลังจากที่ได้รับเควสจากผู้ฝึกสอนเพราะพวกเขาทั้งหมดสงสัยว่าพวกเขาอาจจะถูกทิ้งไว้เป็นเพียงเบื้องหลัง
วีด,สร้างโอกาสของเขาได้เป็นอย่างมาก,
และออกจากกิลด์ช่างแกะสลักไป
หมู่บ้านคนแคระ,
หัตถ์เหล็กกล้าถูกสร้างขึ้นตามทางที่ขรุขระของยอดเขา
ร้านช่างตีเหล็กและบ้านถูกสร้างขึ้นบนพื้นผิวที่ไม่เรียบสม่ำเสมอ, และจัตุรัสของหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของบันได
มันมีพื้นที่ราบเรียบค่อนข้างน้อย, และพวกมันยังมีราคาที่แพงมากอีกด้วย
ไม่มีที่ไหนที่เหมือนกันจัตุรัสของหมู่บ้านที่ผู้คนต่างพากันขายของที่พวกเขาไม่ต้องและรับสมัครเพื่อนร่วมทีม
วีดเดินไปที่มุมของจัตุรัสและเริ่มการแกะสลัก
*ซึ้ก-ซึ้ก*
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าแคระนั่นมีทักษะการแกะสลักที่สุดยอดมาก,
มันเป็นเรื่องจริงแน่เหรอ?”
“มันเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่รับและทำเควสของเค็นเดลฟ์ได้สำเร็จจะถูกพูดถึงมันไปตลอด”
“งั้นข้าก็คงต้องรอดูมันแล้วล่ะ”
พวกคนแคระจับตามองดูวีดอย่างใกล้ชิด พวกผู้เล่นที่รับเควสของเค็นเดลฟ์ต่างเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ
วีดตั้งใจที่จะแก้ปัญหาของเขาด้วยเควสนี้
วีดกำลังนั่งแกะสลักอยู่ ต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะย้ายไปที่อื่นเลย
ด้วยทักษะอันแสนมหัศจรรย์ของเขา
ทำให้เขาสามารถแกะสลักบล็อกไม้ทรงกลมเพียงแค่หมุนมันเท่านั้น,
เหมือนกับว่ามันเป็นลูกแอปเปิ้ล!
แม้กระทั่งหลังจากที่กลายมาเป็นคนแคระ,
พวกที่ไม่มีตัวตนยังคงกระซิบอยู่ในหูของเขา
- ข้าขอโทษที่เมินเจ้ามาจนถึงตอนนี้ ได้โปรดรีบๆแกะสลักข้าซะทีเถอะ
- มองมาที่ข้าสิ;มองมาที่ข้าและจงแกะสลักข้าซะ
พวกช่างแกะสลักชอบเมินการมีอยู่ของพวกเรา
- อ่อนหัด ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก ไม่ใช่ว่าเจ้าปรารถนาพลังหรอกรึ?
มันอาจจะเป็นเพราะเขาเปลี่ยนรูปร่างเป็นคนแคระด้วยการใช้ทักษะการแกะสลัก,
แต่พวกนั้นที่บ่นพึมพำด้วยเสียงที่มีพยายามดึงดูดใจ กลับสุภาพเรียบร้อยมากขึ้น
พวกมันหยุดร่ายคำสาปใส่เขาหลังจากที่เขาแสดงทักษะของเขาในกิลด์ช่างแกะสลัก, เพราะนั่น,
เขาจึงแกะสลักด้วยความสบายใจ
“ไม่, เดี๋ยวนี้! มันไม่ใช่ว่าข้าต้องการที่จะอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันทั้งคืนแบบนี้
ข้าจะทำรูปแกะสลักให้เจ้า ได้โปรดกรุณาต่อแถวด้วย,
อยู่ในแถวด้วย!”
ท่าทางแบบนี้,
เขาขายของที่ระลึกให้แก่คนแคระหนุ่มสาวเป็นธรุกิจเสริม…
ขณะที่ไม่ค่อยมีคนแคระมากนักที่มีทักษะที่โดดเด่น,
ในหมู่พวกนักรบและนักสู้ ถ้าช่างแกะสลักตัวเล็กมากกว่านี้,
มันจะมีความเป็นไปได้มากที่จะมีประโยชน์ในการต่อสู้
ในกรณีนี้, เขาดำรงชีวิตอยู่ด้วยการขายรูปแกะสลัก,
เขาขายพวกมันให้กับพวกพ่อค้าที่ต้องการซื้อและเขายังขายพวกมันให้กับพวกนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย
“คุณเพิ่มราคาให้อีกแค่ 1 เหรียญทองแดงได้ไม่ได้เหรอ?”
“มันเป็นรูปแกะสลักที่ข้าทำขึ้นด้วยความพยายามอย่างมาก…ได้โปรดเพิ่มให้ข้าอีก
1 เหรียญทองแดงเถอะนะ แล้วข้าจะพาดูรอบๆในราคาที่ถูกสุดๆเลยล่ะ”
“ข้าลดราคาให้พิเศษเลยนะเนี่ย ช่วงเวลาพิเศษแบบนี้เท่านั้น,
รูปแกะสลักทั้งหมดลดราคา 30%! ใครมาก่อนได้ก่อน เฉพาะ 5
คนแรกเท่านั้น”
สำหรับพวกคนแคระ, การลดราคาขายให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างมาก,
ขณะที่คนอื่นๆเดินหนีไปด้วยความมั่นใจที่ถูกบดขยี้ พังทลายลงมา
พวกคนแคระที่มองดูอยู่นั้นสูญเสียความหวังและกำลังใจที่ถูกบดขยี้หายไปในพริบตาและสุดท้ายทำได้เพียงต้องเดินจากไป
ถึงแม้ว่าเขาเริ่มการแกะสลักเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงพวกที่คอยตามเขามา, ตอนนี้วีดเปี่ยมล้นเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการแกะสลักและขายรูปแกะสลักในหมู่บ้านอื่นและอาณาจักรอื่น, ปฏิกิริยาการตอบสนองของลูกค้าที่นี่นั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“รูปแกะสลักของเจ้าช่างแตกต่างจากของพวกคนแคระพวกนั้นที่ทำมันขึ้นมา
ข้าจะจ่ายให้เจ้า 1 เหรียญทอง”
“ขอบคุณมาก มันสวยมากๆเลย”
“เจ้าทำของพวกนี้เป็นที่ระลึกสำหรับพวกที่เดินทางมายังที่หมู่บ้านคนแคระแห่งนี้อย่างนั้นเหรอ? ขอบคุณมาก”
เพื่อที่จะแสดงความเคารพต่อช่างฝีมือปรมาจารย์คนแคระ,
โดยปกติแล้วพวกเขาจะจ่ายในราคาที่พวกเขาถาม
เขาได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากหมู่บ้านของพวกมนุษย์
รูปแกะสลักคนแคระกลายมาเป็นเรื่องที่น่าตลกขบขันในสายตาของแขกผู้มาเยือน,
มันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก, มันขายดีสุดๆไปเลย
และผลงานชั้นเยี่ยมที่เขาบรรจงสร้างมันขึ้นมาจากความรู้สึกที่อยู่ภายในตัวเขาเหนือสิ่งอื่นใดในโลกนี้!
*ติ๊ง!*
- ผลงานชั้นเยี่ยม! คนแคระเด็กผู้ชายสำเร็จแล้ว!
เด็กผู้ชายคนแคระท่าทางดูมีความสุขกำลังสวมหมวก
ถึงแม้ว่ารูปแกะสลักนี้ไม่ได้มีความละม้ายคล้ายคลึงกับรูปลักษณ์ภายนอกของเด็กสักเท่าไหร่,
หนวดเคราของเขาที่ขาดหายไปนั้นบ่งบอกให้คุณได้รู้ถึงความอ่อนเยาว์ของเขา
เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆรูปแกะสลัก,
ลึกๆข้างในนั้นสามารถมองเห็นถึงศิลปะการแกะสลัก
คุณค่าทางศิลปะ:
เพราะมันเป็นผลงานของช่างแกะสลักที่ผ่านการรับรอง, 73
คุณสมบัติพิเศษ: ค่าโชคดีเพิ่มขึ้น 7
ผลงานชั้นเยี่ยมที่สร้างสำเร็จแล้ว: 34
- ผลของทักษะการแกะสลักทำให้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น
- ชื่อเสียง เพิ่มขึ้น 1.
มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยอยู่นิดหน่อยแต่รูปแกะสลักยังคงออกมาเป็นผลงานชั้นเยี่ยมอยู่
ฉันคิดว่ามันออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียวสำหรับมาตรฐานของฉันน่ะนะ, แม้กระทั่งถั่วมันยังงอกออกมาได้เลยถึงแม้มันจะอยู่ในสภาวะท่ามกลางสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
ตั้งแต่ที่เลือกเดินเส้นทางแห่งประติมากรนิรันดร์กาล, ผลงานชั้นเยี่ยมนั้นสามารถทำออกมาได้ค่อนข้างบ่อยขึ้นและมากขึ้น
‘ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาของทักษะของเรา’
วีดรู้สึกพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาในตอนสุดท้าย
ไม่เพียงแต่แค่ทักษะการแกะสลักที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น,
ทักษะที่เกี่ยวข้องกัน ประสิทธิภาพของมันเพิ่มขึ้นอีก 20%
เคล็ดมีดแกะสลักเพิ่มขึ้น 20%,
และประติมากรรมจำแลงสามารถบรรยายและแสดงลักษณะของเผ่าพันธุ์นั้นๆได้ดีขึ้น
วีดสามารถใช้วิธีที่รวดเร็วที่เขาได้เรียนรู้มาจากงานชั่วคราวที่ผิดกฏหมายในตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่นอยู่
รูปแกะสลักผลงานชั้นเยี่ยมประมาณ 45 ชิ้น
ถูกสร้างขึ้น, เขาสามารถทำเงินได้ประมาณ 1,200 เหรียญทอง
มันเป็นอะไรที่จิ๊บจ๊อยหากเปรียบเทียบกับอาชีพอื่น,
แต่ด้วยเงินทั้งหมดที่เขามีอยู่ ได้เอาไปลงทุนในโมราต้า
แม้กระทั่งจำนวนเงินที่เล็กก็ยังมีค่า!
วีดยังคงแกะสลักอยู่ตลอดทั้งคืน
เมื่อรุ่งเช้ามาถึง,
กองกำลังเพื่ออิสรภาพของคนแคระเข้ามายังจัตุรัสกลางเมือง
“หนึ่งวันสำหรับการเก็บภาษีจากพวกนักเดินทางทั้งหมด!”
ทุกคนจำเป็นต้องจ่ายภาษีสำหรับกิจกรรมทางพาณิชย์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจัตุรัสแห่งนี้,
ถ้าหากคุณไม่จ่ายภาษีตามจำนวนที่ต้องการล่ะก็,
คุณจะถูกบังคับให้ต้องออกจากที่แห่งนี้
กองกำลังเพื่ออิสรภาพของคนแคระปกครองกิลด์ทั้งหมดในหัตถ์เหล็กกล้า!
กองกำลังเพื่ออิสรภาพของคนแคระเพิ่มอัตราภาษีของหมู่บ้านมากถึง 35%,
ทำให้มันมีอัตราภาษีที่สูงกว่าหมู่บ้านอื่นๆ
อัตราภาษีมหาโหด!
คนส่วนใหญ่เห็นด้วย,การที่เป็นหนึ่งเดียวกัน,
แต่ชื่อกลุ่มอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับพวกเขาสักเท่าไหร่
‘พวกเขาควรที่จะเปลี่ยนชื่อกลุ่มของพวกเขานะ
กลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์จากคนแคระดูจะเหมาะกว่านะ’
กองกำลังเพื่ออิสรภาพของคนแคระควบคุมอาณาจักรธอร์, รวมอีก 8
กิลด์และหมู่บ้านเล็กหมู่บ้านน้อยตามที่ต่างๆ
ทุกๆเดือนกิลด์ต้องส่งเครื่องบรรณาการไปให้มังกรปีศาจเคย์เบิร์นในรูปแบบของสินค้าต่างๆ
ด้วยเหตุนี้เองพวกคนแคระจึงไม่สามารถกลายมาเป็นเศรษฐีได้ซะที
พวกคนแคระที่มีทักษะช่างตีเหล็กระดับเริ่มต้นไม่เปิดหูเปิดตาออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษีที่สูงลิ่ว
ส่วนพวกที่มีทักษะอยู่ในขั้นกลางพยายามที่จะโกหก เฉไฉไปมาว่า
พวกเขากำลังจะย้ายไปที่หมู่บ้านอื่น
อย่างไรก็ตามกองกำลังเพื่ออิสรภาพของคนแคระนั้นมีอิทธิพลเหนือหมู่บ้าน,
บังคับให้พวกเขาต้องจ่ายภาษีให้ได้อยู่ดี
คนแคระจากกองกำลังเพื่ออิสรภาพเดินตรงไปหาวีด
“หัตถ์แห่งศิลป์, เจ้าต้องจ่ายค่าภาษีด้วย”
“รุ่นพี่, การหาเช้ากินค่ำ อยู่ไปวันๆ เป็นชะตาของคนแคระผู้อับจน”
“ช่างแกะสลักคนอื่นๆเค้าจ่ายภาษีกันหมดแล้ว และจากที่พวกเราได้ยิน,
ดูเหมือนว่าเจ้าหามาได้เยอะพอสมควรนะ”
“ข้าเพิ่งถูกไล่ตามมาจากการแกะสลักและมันเป็นความจริงที่ว่าข้ามีลูกค้าอยู่นิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม, คนอื่นๆอิจฉาข้าและทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง
ช่างแกะสลักจะสามารถทำเงินได้สักเท่าไหร่กันเชียว?”
“ได้โปรดรับมันไว้ที่ 15 เหรียญทอง”
“ข้าไม่สามารลดให้เจ้าได้ 20 เหรียญทอง จ่ายมาซะ
ถ้าเจ้าไม่จ่ายก็เชิญออกไปจากหมู่บ้านนี้”
ด้วยการข่มขู่ของนักรบคนแคระ, วีดจึงไม่มีทางเลือก เขาจำเป็นต้องจ่ายไป 20 เหรียญทอง อย่างไรก็ตาม,
มันเป็นจำนวนที่ต้องจ่ายน้อยมากถ้าคุณเปรียบเทียบกับภาษีที่พวกช่างฝีมือที่ทำอาวุธต้องจ่ายเป็นจำนวนหลายร้อยเหรียญทอง
การเก็บรวบรวมรายได้ของพวกเขาจากเงินภาษี, กองกำลังเพื่ออิสรภาพของคนแคระได้กำไรอย่างมหาศาล
ภายใต้การปกป้องของมังกรปีศาจเคย์เบิร์น,
มันไม่มีความจำเป็นในการก่อตั้งกองทัพขึ้นมาเพราะไม่มีมอนสเตอร์หรืออาณาจักรอื่นๆกล้ามารุกราน มีบางครั้งบางคราวที่พวกคนแคระรวมพลังต่อต้าน
ดิ้นรน แต่นั่นก็คงอยู่ไว้ได้ไม่นาน หรือไม่ก็กลายเป็นหายนะ
พวกคนแคระเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยากต่อการปิดล้อม
เมืองและหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นบนภูมิประเทศที่เลวร้ายของภูเขา,
ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมหาศาลในการเป็นฝ่ายตั้งรับ,และ,ไม่มีทั้งจอมเวทย์หรือนักธนู,
พวกเขาก็ไม่มีทรัพยากรที่จำเป็นในการเป็นฝ่ายโจมตี
อาณาจักรของคนแคระช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก
ถึงแม้มันจะเป็นสถานที่กำเนิดของพวกเขา,
พวกที่มีทักษะพอประมาณได้เตร็ดเตร่ เร่ร่อนไปทั่วทวีปเวอร์แซลล์
“อ้า! รูปแกะสลักมันช่างสวยอะไรขนาดนี้,
เมื่อไม่นานมานี้ฉันสร้างพวกมันขึ้นมาโดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น”
“เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ, พิน? รูปปั้นทองเหลืองที่เธอสร้างขึ้นมาเมื่อวานยังดูน่าภูมิใจกว่าอีก
แล้วรูปปั้น ‘เด็กแคระท่าทางกระวนกระวาย’ นั่น จะดูดีกว่าได้ยังไง?”
“จากมุมมองของผู้หญิงอย่างฉัน, รูปแกะสลักที่คุณสร้างขึ้นมาในวันนี้
ช่างน่าดึงดูดใจมากกว่าอีก”
วีดสร้างรูปแกะสลักของคนสองคนที่กำลังทะเลาะกันและเถียงกันไม่หยุด
เฮอร์แมนมีอาชีพเป็นช่างตีเหล็กคนแคระ
สายตาที่มองวีดกำลังทำรูปแกะสลัก, เขาพูด
“นายดูเหมือนช่างตีเหล็กที่มาพร้อมกับทักษะอันสุดยอด”
วีดมองอย่างช่วยไม่ได้ จึงถามกลับไปที่เขา
“นายรู้ได้ไง”
“ถ้านายมองเข้าไปใกล้ๆนะ มันชัดเจนมากเลย
นายไม่ใช่คนแคระที่มาจากแถวนี้ใช่มั้ย?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“ณ ที่แห่งนี้, คนแคระส่วนใหญ่เป็นกันเองและอาศัยอยู่ร่วมกัน
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่คิดว่าคนแคระทั้งหมดนั้นเหมือนกันหมด,
แต่ถ้ามองเข้าไปใกล้ๆแล้ว, มันมีจุดที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย”
ความยาวของหนวดเครา, สีผม, รูปร่างของเสื้อแจ็คเก็ต,
และกระทั่งขนาดของหัวที่แตกต่างจากรสนิยมของคนแคระ
ถึงแม้คนอื่นจะแยกแยะได้ออกค่อนข้างลำบาก,
แต่ถ้าเริ่มปรับตัวคุ้นเคยให้เข้ากับพวกคนแคระได้,
มันจะกลายเป็นเรื่องง่ายเลยทีเดียวในการที่จะบ่งบอกถึงความแตกต่างในหมู่คนแคระด้วยกัน
ดังนั้นเฮอร์แมนจึงพูดออกไปในขณะที่เขากำลังเอามือลูบหนวดเคราของเขาไปด้วย
“ในขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้น ฉันก็รู้มาค่อนข้างมาก,
ช่างแกะสลักคนแคระส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอาณาจักรธอร์,
ไม่มีใครเลยสักคนในหมู่พวกเขาเหมือนกันกับนายเลย”
“มันชัดเจนว่านายรู้วิธีการแกะสลัก”
“มันเป็นอาชีพที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก พูดถึงการแกะสลักแล้ว, ไม่ใช่ว่านายก็มีทักษะการใช้มือด้วยเหรอ?”
“ถึงแม้ว่าฉันจะฝึกมาเพื่อการแกะสลักโดยเฉพาะ,
มันไม่มีเหตุผลอื่นเลยที่ฉันจำเป็นต้องเรียนทักษะอื่นๆ
อีกอย่างมันค่อนข้างยากลำบากกว่าจะเรียนรู้มันได้
มันจะดีกว่าถ้าฉันเลือกที่เน้นไปที่การแกะสลักเพียงด้านเดียว”
“นายสามารถเห็นพวกคนแคระที่กำลังดิ้นรนอยู่”
“พวกคนแคระที่ทำงานแกะสลักนั้นเป็นพวกมีความฝันและพยายามทำมันให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม, จำนวนจริงๆของพวกคนแคระที่ประสบความสำเร็จนั้นค่อนข้างน้อยมาก
มือของพวกเขาเต็มไปด้วยร่องรอยการฝึกฝนทักษะการแกะสลัก,
แล้วพวกเขาจะไปมีเวลาพัฒนาทักษะอื่นๆได้ยังไงล่ะ?
อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าคนที่มีความสามารถแบบนาย จะทำมันได้สำเร็จ”
“ทำไมการประเมินของนายช่างดูแม่นยำนัก?”
“นายรู้บ้างมั้ยว่า นายนั่งอยู่ที่ตรงนี้และแกะสลักมานานแค่ไหนแล้ว
และยังกินแต่เศษขนมปังอีก?”
วีดไม่ได้รู้เลยว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไหร่ “มันผ่านมาแล้ว
22 ชั่วโมง จากการที่ได้เห็นความสงบเยือกเย็น, ความอดทน, และทักษะการแกะสลักอันโดนเด่น,
ฉันเดาได้เลยว่านายไม่ได้คิดที่จะพัฒนาทักษะอื่นๆเลย”
โดยเฉพาะเผ่าพันธุ์ของพวกคนแคระนั้น
มีผู้เล่นที่มีอายุค่อนข้างมากที่เลือกเล่นเผ่าพันธุ์นี้ค่อนจ้างเยอะเลยทีเดียว
การผลิต,และ โดยเฉพาะอันดับของสายการผลิต,
เป็นอะไรที่น่าเบื่อและน่ารำคาญสุดๆในความคิดของพวกคนหนุ่มสาว
เฮอร์แมนเป็นผู้เล่นอาวุโสที่อยู่ในช่วงวัยกลางคน อายุประมาณกลางๆ 40
ลูกชายและลูกสาวของเขา ทั้งคู่เป็นทหารอยู่ในอาณาจักรอื่น;
อาชีพของเขาคือคนสวน, และเขามักหยุดพักในแต่ละที่เป็นเวลา 3 ถึง 4 เดือน เฮอร์แมนมีชีวิตอยู่อาศัยในขณะที่เขากำลังมีความสุขและสนุกกับการที่ได้ซ่อมแซมและสร้างอาวุธกับชุดเกราะให้กับลูกๆของเขาในระหว่างที่เขาได้มาแวะพักอยู่แถวนั้น
ข้างๆเฮอร์แมน, มีผู้เล่นผู้หญิงชื่อพิน
ผู้หญิงกับชื่อที่น่ารัก เธอเป็นผู้หญิงที่มาจากเผ่าเอลฟ์!
ไม่เหมือนพวกนางฟ้าตัวผอม บอบบาง,
แต่เป็นเอลฟ์ผู้หญิงที่เหมือนกันมนุษย์ผู้ใหญ่ ถึงแม้อาชีพของเธอคือชาแมน,
เมื่อเธอเดินทางมาถึงหมู่บ้านคนแคระ,เธอก็ปักหลักอยู่ที่นี่
เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เธอจึงต้องมีความถนัด;
ไวน์แห่งวิญญาณ
เมื่อทำการบูชาเสนอไวน์แห่งวิญญาณแก่พระแม่ธรณีในอาณาจักรธอร์ผลของมันจะเพิ่มขึ้นสองเท่า
ในการที่จะผลิตไวน์แห่งวิญญาณเพื่อทำให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอนั้น
จำเป็นต้องผ่านระดับขั้นกลางให้ได้ซะก่อน, เธอเลือกดินที่ดีและมีพลังที่แข็งแกร่งมาก, ทำการบูชา,
และอยู่รอในบริเวณนั้น
ตั้งแต่ที่วีดอยู่ในตลาดนัดของหมู่บ้านหัตถ์เหล็กกล้าและแกะสลักติดต่อกันต่อเนื่องนานกว่า
20
ชั่วโมง, เขาคุ้นเคยและสนิทสนมกับผู้คนในหมู่บ้านมากมายนอกจากผู้เล่นสองคนนี้
“หัตถ์แห่งศิลป์,
เจ้าทำรายการตู้ประดับมุกที่ข้าสั่งไว้
เสร็จรึยัง?”
“ใช่ นี่คือผลงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
วีดส่งมอบตู้ประดับมุกที่เขาทำขึ้นมากับมือ
ถึงแม้ว่ามันค่อนข้างเกินกว่าที่จะเรียกได้ว่าพวกมันคือรูปปั้นจริงๆ,
พวกมันเป็นเพียงแค่ของที่ทำขึ้นมาง่ายๆ
ตอนนี้เขาสามารถทำงานฝีมือที่ต้องใช้ทักษะมากขึ้น
ตั้งแต่ งานไม้, งานโลหะ, เทคนิคการตัดแต่งที่หลากหลาย, งานฝีมือ,
และงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความถนัดในการใช้มือ
ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับการแกะสลัก, มันเป็นข้อยกเว้นอย่างหาที่สุดไม่ได้ที่ต้องผ่านการฝึกฝนมากมาย
ตู้ประดับมุกต้องมีรายละเอียดและการใช้งานที่สะดวกสบาย
นั่นจึงจำเป็นต้องการความรู้ความสามารถทางศิลปะและมันไม่ง่ายเลยที่จะทำมันขึ้นมาสักชิ้นนึง
“ยอดเยี่ยมมาก, หัตถ์แห่งศิลป์!
มันต้องเป็นคำขอร้องที่ยากน่าดูเลย, แต่ข้าชอบมันนะ
เจ้าทำมันเสร็จเรียบร้อยด้วยความประณีต ละเอียดลออ
และพิถีพิถันใส่ใจกับงานชิ้นนี้มากเหมือนอย่างกับว่าเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราตระกูลคนแคระ”
คนแคระคนนั้นจ่ายเงินค่าทำตู้ประดับมุกแล้วเดินจากไปพร้อมกับมัน
วีดรู้สึกพึงพอใจกับการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้
ตู้ประดับมุกมีราคาค่อนข้างแพง,
เขาทำมันขึ้นมาให้มีมูลค่ามากกว่าเดิม
“หัตถ์แห่งศิลป์, แล้วปลอกใส่ดาบที่ข้าสั่งไว้ล่ะ เสร็จรึยัง?”
“มันอยู่นี่แล้ว ข้าทำมันเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างเลย”
“ขอบคุณมาก แล้วเรามาทำธุรกิจด้วยกันอีกนะ”
พวกคนแคระยังคงมองเขาต่อไป
“คุณคะ, แล้วรูปปั้นนกกระเรียนที่ฉันทำมันตกแตก
ตอนนี้มันซ่อมเสร็จแล้วรึยังคะ? ถ้าฉันถูกแม่จับได้ล่ะก็,
ฉันต้องมีปัญหาแน่ๆเลย”
“ผมใช้กาวคุณภาพสูงติดส่วนคอให้แล้วล่ะ มันดูดีเหมือนของใหม่เลย”
“คุณไม่เห็นรอยขีดข่วนเลย,ใช่มั้ย”
“แน่นอนค่ะ”
วีดจัดการคำขอร้องทั้งหมดที่มีอยู่ในหมู่บ้าน
ขณะที่มีคำขอร้องของผู้คนมากมายให้สร้างรูปแกะสลักแบบพิเศษ,
คำขอร้องส่วนใหญ่เป็นอะไรที่จิ๊บจ๊อยมาก ถ้าพวกคนแคระยังมีชิ้นส่วนของความโลภอยู่,
พวกเขาจะรีบทำมันด้วยตัวเองทันทีดีกว่าที่จะไว้ใจคนอื่นให้ทำมันแทนพวกเขา
อย่างไรก็ตาม,
งานที่พวกคนแคระในหมู่บ้านร้องขอมานั้นไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีเท่าไหร่นัก, ชื่อเสียง, หรือ
ความสนิทสนมก็เช่นกัน
ด้วยระดับทักษะของเขา, ถ้าเขาตั้งใจเน้นไปที่การทำงานในส่วนที่น่ารำคาญที่สุด
มันก็จะเสร็จโดยง่ายในทันที!
ณ ช่วงเวลานั้นเอง, คนแคระเมาเหล้าสวมเสื้อกั๊กสีแดงเดินลงมาตามทางเดินขณะที่กำลังกวาดสายตามองหาอะไรบางอย่าง
“มันอยู่ไหนน้า? ฉันจะไปหามันได้จากที่ไหนอีก?
ยิ่งไม่ค่อยมีเวลาซะด้วย ต้องรีบซะแล้ว ก่อนที่ชายคนนั้นจะมา”
วีดมองหาสายตาที่ส่องประกายออกมา
‘ฉันเดาว่ามันคงถึงเวลาที่ต้องหยุดการรอคอยอันแสนยาวนานนี้ซะแล้ว’
ไม่มีคนแคระเลยสักคนในหมู่บ้านที่รู้เกี่ยวกับเค็นเดลฟ์ช่างแกะสลักคนแคระ
มันไม่มีทางที่ผู้คนของอาณาจักรธอร์จะสามารถหามันพบ
- พวกเขาคือ…ผู้ที่อยู่ที่นี่มาก่อนแล้วตั้งแต่ต้นและไม่สามารถที่จะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างได้
เจ้า,ผู้ที่รักในการแกะสลัก,
สถานที่ที่เจ้าต้องไปคืออาณาจักรของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก
มีสถานที่หนึ่งที่พวกสิ่งมีชีวิตที่ดื้อรั้นจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจอันมหาศาล
อย่างไรก็ตาม, ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น,
ที่นี่คือสถานที่ ที่เทพธิดาเฟรย่าห์บอกวีดให้ไป
วีดเดินตรงไปที่คนแคระที่เมาเหล้าคนนั้นและพูดกับเขา
“คุณกำลังมองหาแร่เหล็กดีๆอยู่หรือเปล่า?”
“ใช่เลย! ใช่เลย! เจ้ารู้ได้ยังไง? ยังไงก็แล้วแต่,
นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ถ้าเจ้าเกิดมีแร่เหล็กอยู่ละก็,
เจ้ายินดีที่จะขายมันให้กับข้ามั้ย? ข้ารู้มันเป็นคำขอร้องที่ดูค่อนข้างยาก
คนแคระคนอื่นไม่เคยคิดที่จะถามข้าเลย ข้าก็เลยถามเจ้าผู้ที่ไม่เคยปฏิเสธคนอื่นที่กำลังมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
- คำขอร้องของคนแคระเดนแฮนด์
เพราะเดนแฮนด์ทั้งขี้เกียจและขี้เมา
ไม่ยอมคืนแร่เหล็กให้แก่โรงตีเหล็กภายใยระยะเวลาที่กำหนด,
เขาจึงต้องพบกับปัญหาเป็นประจำอยู่เสมอ เมื่อคนแคระมีค่าเกียรติยศที่มากพอสมควร,
เขาจะถามคุณให้จัดหาแร่เหล็กเพื่อที่จะรักษาสัญญาของเขา,
ถึงแม้มันจะเป็นคำขอร้องที่ดูไม่มีเหตุผลสักเท่าไหร่ก็ตาม
ระดับความยาก: F
ค่าตอบแทน: เงินรางวัลจำนวนหนึ่ง
ข้อจำกัดในการทำเควส: ต้องมีแร่เหล็กระดับ 2 มากกว่า 20 ชิ้นขึ้นไป
เมื่อวีดเติมเต็มคำขอร้องของพวกคนแคระ,
เขาจะได้รับแร่จำนวนหนึ่งเป็นรางวัล โดยปกติแล้วพวกคนแคระมักจะไม่ค่อยให้เงิน,
นอกจากแร่และดาบเป็นรางวัลแทน
“ข้าจะนำแร่เหล็กมาให้ท่าน”
“เจ้าเอามันมาให้ข้าได้อย่างนั้นหรือ?
ขอบคุณเจ้ามาก”
“ข้ามีเวลาไม่มาก เจ้าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะสามารถนำแร่พวกนั้นมาให้ข้าได้?
ข้าคือคนแคระผู้รักษาสัจจะยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าก็ควรที่จะรักษาสัญญาและไม่ควรมาสายนะ”
“พอดีว่าข้าพกพวกมันติดตัวไว้อยู่ตลอดเวลา
งั้นข้าจะนำมันออกมาตามจำนวนที่ท่านต้องการเดี๋ยวนี้เลย”
วีดควานหาของที่อยู่ในกระเป๋าของเขาและเอาแร่เหล็กระดับ 2 จำนวน 20 ชิ้นออกมา
“ขะ,ขอบคุณมาก! ด้วยแร่พวกนนี้ข้าสามารถรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับช่างตีเหล็กโนเบิ้ลแฮนด์!”
*ติ๊ง!*
- เควสของคนแคระเดนแฮนด์สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
เดนแฮนด์สามารถส่งคืนแร่เหล็กให้กับร้านช่างตีเหล็กได้แล้ว
รางวัลตอบแทนของเควส: ได้โปรดถามเดนแฮนด์โดยตรงเลย
เดนแฮนด์ถาม
“ใช่แล้วล่ะ, ข้าต้องจ่ายให้เจ้าเท่าไหร่สำหรับแร่เหล็กพวกนี้? 20 เหรียญเงิน
เป็นไง? มากกว่าราคาปกติทั่วไปนะ ฟังดูดีเลยใช่มั้ยล่ะ? ว่าไง?”
ราคาเฉลี่ยของแร่เหล็กระดับ 2 อยู่ที่ 1 เหรียญทอง
30
เหรียญเงิน
ขณะที่พวกพ่อค้าสามารถหามาได้มากกว่านี้ผ่านการซื้อขายที่ตลาด,
แต่นี่เป็นมูลค่าที่วีดสามารถยอมรับได้
วีดไม่เห็นด้วยกับราคาและส่ายหัวของเขาไปมา
“ข้าไม่ใช่พวกคนแคระที่น่าขายหน้าที่เห็นแก่ได้ในเวลาที่คับขันแบบนี้
ท่านสามารถให้ข้าได้ที่ 1 เหรียญทอง และ 30 เหรียญเงิน”
“นั่นมันจะดีเหรอ? อันที่จริงแล้ว,
ไปที่ผับเถอะและหาเบียร์ดื่มกัน, ข้าเลี้ยงเอง”
เดนแฮนด์ลูบเคราของเขาอย่างสบายใจ
“เจ้า, เจ้าเป็นคนแคระที่น่าคบหาด้วยจริงๆ
ตั้งแต่ที่ข้าเห็นเจ้ามีแร่เหล็กติดตัวอยู่ ราวๆ 20 ชิ้น
มันบอกได้ว่าเจ้าต้องชอบเหล็กมากแน่ๆ
เจ้าไม่ได้ถามถึงราคาที่เป็นไปไม่ได้เลยและแทนที่เจ้าจะถามราคาที่สมเหตุสมผล;
เจ้าต้องเป็นคนแคระที่มีศีลธรรมมากแน่ๆ”
วีดรับมา 26 เหรียญทองสำหรับแร่เหล็กของเขา หลังจากนั้น,
เดนแฮนด์พูดอย่างใจดี
“เจ้าอยากจะดูรอบๆโรงตีเหล็กของโนเบิ้ลแฮนด์มั้ย?”
วีดถามอย่างกับว่าเขาเป็นคนแคระที่ไม่รู้อะไรเลย
“โรงตีเหล็ก?”
“เมื่อเจ้าอนุญาตเฉพาะพวกคนแคระที่ใกล้ชิด สนิทสนมกับเจ้าเท่านั้นถึงจะเข้าไปในโรงตีเหล็กได้,
และเกลียดการที่ให้พวกคนที่เจ้าไม่ได้สนิทใกล้ชิดเข้าไป,
ถ้ามันไม่ได้เป็นการถามที่มากเกินไป, ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ปฏิเสธนะ
ข้าต้องไปที่ร้านเหล้าต่อและข้าค่อนข้างยุ่งมาก,
ดังนั้นข้าจึงอยากให้เจ้าเป็นคนนำเอาแร่เหล็กพวกนี้ไปส่งที่โรงตีเหล็กให้ข้าที”
เควสระดับ F อีกอันปรากฏขึ้นมา!
มันเป็นเควสง่ายๆ เขาแค่ต้องนำแร่เหล็กระดับ 2 จำนวน 20 ชิ้น ไปส่งที่ร้านตีเหล็กของโนเบิ้ลแฮนด์
วีดรับเควสนี้และลุกออกจากที่นั่งไป
เฮอร์แมนกำลังหยอกล้อ คุยเล่นอยู่,
และทันใดนั้นพินก็หันกลับมาและถาม
“นายกำลังจะมุ่งหน้าไปที่คุรุโซเหรอ?”
“ใช่”
“ฉันขอให้นายประสบความสำเร็จที่นั่นนะ”
เฮอร์แมนจับมือกับเขา
“ขอบคุณ”
“ถ้าอย่างนั้น แล้วเจอกันใหม่นะ”
วีดก้มหัวเล็กน้อยและถอยหลังออกไป
“ถ้าเขาไปแล้ว, คุณคิดว่าเขาจะกลับมาที่นี่อีกมั้ย?”
“จุดประสงค์ของเขาสำเร็จแล้ว
เมื่อเควสของเดนแฮนด์ที่เขารอคอยมานานสำเร็จลง”
พินและเฮอร์แมนมองเขาเดินจากไป,
พวกเขามองหน้ากันแล้วรู้สึกเสียใจ
เฮอร์แมนพูดเบาๆและเงียบมากๆจนคนอื่นในจัตุรัสไม่สามารถที่จะได้ยินเสียงของเขา
“มันมีอยู่ 8 วิธีที่จะทำให้ได้ไปที่คุรุโซ
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการรับคำขอร้องของเดนแฮนด์,แต่คุณต้องดื้อรั้นพอสมควรเลยล่ะเพื่อที่จะให้ได้มันมา”
“แล้วเขารู้ได้ยังไงว่านั่นเป็นเขา?”
“เขาต้องได้ข้อมูลบางอย่างมาแน่ๆ ยังไงก็ตาม,
พวกเรามีเหตุผลมากกว่าที่ต้องอยู่ที่นี่
เฮอร์แมนและพินลุกออกจากที่นั่งของพวกเขา
พวกคนแคระในตลาดนัดมองไปที่พวกเขาและหันสายตาของพวกเขาไปทางอื่น
“แล้วพวกเราจะกลับไปที่คุรุโซมั้ย?”
“แน่นอน พวกเรามีงานต้องทำให้เสร็จที่นั่น”
“ฉันมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจหรือมีเรื่องแปลกใจรอคอยพวกเราอยู่แน่ๆ”
“ดูเหมือนว่าคุณผู้หญิงจะตกหลุมเขาเข้าให้แล้วนะเนี่ย”
“ได้โปรดอย่าแซวผู้หญิงคนนี้สิคะ!
และฉันจะบอกให้คุณรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”
พินส่ายหัวไปมาและปฏิเสธเสียงแข็ง
เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอส่ายหัว,
แสงสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเอลฟ์สามารถมองเห็นได้จากหูแหลมๆที่อยู่ในผมของเธอ
เฮอร์แมนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
“*เคี้ยก-ฮา-ฮ่า เคี้ยก-ฮา-ฮ่า* ไม่ใช่ว่านี่มันแปลกๆเหรอ?
มันเป็นความคิดที่แตกต่างของเขาที่สามารถดึงดูดความสนใจและดึงคุณให้เข้าไปใกล้เขา”
“ถูกต้อง อันที่จริง, ฉันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับมันนิดหน่อย
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีความรู้สึกแบบนี้เกี่ยวพวกคนแคระผู้ชาย อย่างไรก็ตาม,
ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องของความรัก, แต่มันเป็นความเสน่หาที่ฉันรู้สึก,และ…”
“และ, อะไร?”
“ถึงแม้ว่าฉันเพิ่งจะพูดไปเมื่อกี้นี้,
แต่ลักษณะการเคลื่อนไหวของมือที่เขาใช้ในตอนที่แกะสลักอยู่นั้นมันเป็นอะไรที่น่ามองมากๆ”
“*เคี้ยก-ฮา-ฮ่า เคี้ยก-ฮา-ฮ่า*!”
เฮอร์แมนเริ่มหัวเราะอย่างมีความสุข
จบตอน
Thank
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบวิดได้รับ elf +1ea เข้าสู่ฮาเร็ม
ตอบลบขอบคุณฮ่ะ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ