เล่ม 29 ตอนที่ 10: กับดักของชนเผ่าซัลเลียน
แปลโดย Cole’s Myth
เวลาแห่งความโกลาหลได้มาถึงแล้ว! โฆษณาของทางบริษัทยูนิคอร์นเองก็เริ่มฉายออกอากาศแล้วเช่นกัน
“ทำไมถึงได้โผล่มาปุบปับแบบนี้วะ?”
“ดูเหมือนจะพุ่งเป้าโจมตีมาทางเรานะ”
บัดนี้ผู้คนต่างก็กำลังหวาดวิตกภายใต้สถานการณ์วิกฤติและคับขัน
สงครามได้คืบคลานเข้ามาหาทวีปทางตอนกลางแล้ว
เมื่อก่อนนี้สงครามมักจะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกิลด์ทรงอำนาจทั้งหลาย
ทว่าตอนนี้วิหารเอ็มบินยูและพวกมอนสเตอร์เข้ามาผสมโรงด้วย
-หมู่บ้านวิซูรันถูกพวกมอนสเตอร์ทำลายเสียหายยับเยิน
เหล่านักเดินทางโปรดระวังขณะออกเดินทางไป ขอแนะนำว่านักสู้ที่มีเลเวลไม่ถึง 320
ไม่ควรเข้าไปประจันหน้าต่อสู้กับพวกมัน
-เมืองเซอร์จี้โดนวิหารเอ็มบินยูทำลายแล้ว
จะมีคนไปช่วยพวกเขากันไหมนะ?
-พวกโจรบุกเข้าไปปล้นสะดมในร้านเฟร็ดดี้
ผู้คนออกตามหาอุปกรณ์เพื่อช่วยเสริมกำลังให้ตัวเอง พ่อค้าทั้งหลายต่างก็ยินดีขายสินค้าเพื่อล้างสต็อก
เรื่องราวเลวร้ายมากมายดั่งการล่มสลายของเมืองหรือว่าปราสาทได้ปรากฏขึ้นบนกระดานแบบถี่ยิบ
มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวตามเขตพื้นที่ปลอดภัยและตามถนนสายหลักของเมืองเต็มไปหมด
“ฉันละกลุ้มใจกับสถานการณ์ช่วงนี้จริงๆ”
“ชีวิตอยู่ยากขึ้นทุกวัน
จะมีใครมาจัดการมอนสเตอร์พวกนี้แล้วกอบกู้สันติสุขให้พวกเราบ้างมั้ยนะ?”
“ทุกคนเค้าก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเล่นเกมส์สงครามกันทั้งนั้นแหละ”
“ฟู้ววววว....ขนาดจะออกไปจากประตูเมืองยังน่ากลัวเลย”
“จะไปออกล่ายังลำบากเลย”
ขณะที่การออกล่าตามพื้นที่ราบ
เทือกเขา หรือว่าในป่า พวกเขาต้องระมัดระวังตัวเพื่อไม่ให้พวกมอนสเตอร์โจมตีใส่
ทั่วทั้งราชอาณาจักรต่างปั่นป่วนและสั่นคลอนตั้งแต่ที่พวกวิหารเอ็มบินยูเริ่มโจมตี
บางครั้งพวกมอนสเตอร์ก็จะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยของพวกมันจนทำให้เหล่าผู้เล่นไม่อาจวางใจได้เลย
หลายคนก็จำใจต้องจ้างพวกทหารรับจ้างเพื่อออกไปทำภารกิจ
แต่เพราะงั้นเองก็ทำให้ค่าตอบแทนเมื่อทำภารกิจสำเร็จก็พลอยต่ำลงไปด้วยเช่นกัน
“ข้าไม่มีสินค้าอะไรเหลือให้เจ้าซื้อแล้ว
ต้องขอโทษด้วย”
“ทำยังไงดีละ? สินค้าที่ข้าสัญญาว่าจะขายให้กับท่านถูกพวกโจรปล้นไปจนหมดแล้ว...”
เหล่าชาวเมืองกินอยู่ด้วยความอัตคัด
ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนให้กับคำขอภารกิจง่ายๆได้เลยด้วยซ้ำ
“โอ๊ยย กินอยู่ลำบากมากจริงๆ”
“ลำบากเกินไปแล้วนะเว้ย”
“ไม่มีคำขอให้ทำภารกิจเลย
ข้าแทบไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมอุปกรณ์แล้วนะ”
เมื่อก่อนนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่มอนสเตอร์บุกรุกตัวเมืองเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะมีก็มีแต่เหล่าผู้เล่นช่วยกันกำราบพวกมันจนหมดสิ้น
ทว่าสถานการณ์แบบนั้นในช่วงเวลาตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เหล่าพ่อค้าวาณิชย์ถูกพวกโจรปล้นสะดมจนหมดเนื้อหมดตัว
แถมยังมีการโจมตีจากพวกวิหารเอ็มบินยู และยังมีสงครามกลางเมืองที่ยังคงส่งผลร้ายแรงให้กับตลาดภายในตัวเมืองอีกด้วย
“เฮ้ นายมีเงินเก็บไหม?”
“แกจะบ้าหรอ
ฉันจะจ่ายค่าซ่อมรถลากยังยากเลยด้วยซ้ำ”
การขนส่งสินค้าทางทหารไปยังอาณาจักรต่างๆและกิลด์ใหญ่โตทั้งหลายนั้นสามารถกอบโกยกำไรทางการค้าได้เป็นอย่างมาก
ทว่าก็มีพวกที่ทำการค้าขายบางกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ค้าขายสินค้าประจำถิ่น
เพราะงั้นคนอื่นๆก็ทำได้เพียงแค่ยืนมองพวกเขากอบโกยกำไรไปกับการค้าแบบผูกขาด
สถานการณ์ปัจจุบันของบรรดาเหล่าผู้เล่นและชาวเมืองกำลังเสื่อมโทรมทุกทีๆ
จึงทำให้ทุกคนต่างก็ระเบิดคำก่นด่าพุ่งตรงไปที่บรรดาพ่อค้าทั้งหลาย
“แบบนี้ไม่ได้นะเว้ย เอาจริงหรอวะ”
“เราจ่ายภาษีไปตั้งเยอะกับของแค่นี้เนี่ยนะ”
ถึงแม้ว่าเหล่าพ่อค้าต้องจ่ายภาษีที่สูงเกินจริง
พวกเขาก็ยังต้องทำธุรกิจอันแสนยากลำบากนี้อย่างไร้หนทาง ในขณะที่พวกเขาเองก็รู้สึกโกรธแต่ก็ไม่มีทางสู้
เพราะว่าอาชีพพ่อค้านั้นมีทักษะการต่อสู้ที่อ่อนด้อย ไม่จำเป็นต้องเอ่ยให้เสียเวลาเลย
ยิ่งพวกพ่อค้าเร่ทั่วไปแล้วยิ่งต้องเจอกับข่าวร้ายที่ไม่น่าอภิรมย์เลยซักนิด
“เราต้องทนกับเรื่องแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันวะ
ขอแค่มีคำขอภารกิจซักนิดละก็คงจะทำให้ท้องของข้าอิ่มได้บ้าง
แต่พวกนั้นก็เอาแต่บอกพวกเราให้ไปตายซะงั้น”
“ร้านของข้าปิดกิจการไป 5
แห่งละนะ ข้างนอกก็อันตราย จำนวนคนที่ออกล่าก็ลดลง แถมคุณภาพของสินค้าก็ยิ่งตกต่ำเรื่อยๆ”
“นี่พวกมันจะเอาเปรียบพวกเราไปถึงไหนกันวะ!”
การพบปะของเหล่าพ่อค้าขนาดเล็กและขนาดกลางต่างกล่าวโทษไปที่พวกเจ้าเมืองและกิลด์ทั้งหลาย
ผู้เล่นหลากหลายสายอาชีพได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนบนทวีปครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า
ชาวไร่ชาวสวน คนเหมือง ช่างเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับพวกเขาที่จะออกไปทำงาน
ส่วนกิลด์ทั้งหลายเองก็ไม่ค่อยพอใจกับอาณาเขตที่พวกเขาปกครองอยู่
และยังคงมัวแต่ทำสงครามเพื่อขยายดินแดนออกไปให้มากขึ้น
ความสับสนอลหม่านบนทวีปทางตอนกลางกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าจนถึงหมู่บ้านเขตภูเขาเพราะว่ามีมอนสเตอร์จำนวนมากมายปรากฏตัวขึ้นอยู่บ่อยๆ
-อย่ายอมให้พวกวิหารเอ็มบินยูมาฉกชิงดินแดนของพวกเรา
ทางศาสนจักรทั่วทั้งทวีปประกาศตนเพื่อต่อต้านวิหารเอ็มบินยู
เหล่าอัศวินเทมพล่าและพระจากวิหารเองก็เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว
เพราะว่าสงครามระหว่างวิหารเอ็มบินยูและเหล่าศาสนจักรได้เริ่มต้นขึ้น
บรรดาผู้เล่นต่างก็ตระหนักได้ว่า บัดนี้ ทวีปเวอร์เซลกำลังจะแปรเปลี่ยนไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ขณะที่บาร์ดเรย์มั่วแต่ยุ่งอยู่กับการทำภารกิจต่อเนื่องของเขา
ทางกิลด์เฮอร์มีสเองก็ยุ่งอยู่กับการเคลื่อนกำลังรบ พวกเขาขูดรีดภาษีมากมายจากราชอาณาจักรฮาเว่นและคัลลามอร์ขณะที่กำลังเตรียมแผนการรบ
“โอกาสดีๆแบบนี้ไม่มีมาอีกแล้วนะ”
“ไม่มีทางหรอกครับที่เราจะปฏิเสธข้อเสนอของทางกิลด์เฮอร์มีส
เรายอมรับข้อเสนอครับ มาสร้างอนาคตไปด้วยกันเถอะ”
กิลด์ราชสีห์ทมิฬได้รับความเสียหายอย่างหนักที่เหมืองเมลเบิร์น
เมื่อเทียบกับขนาดของกิลด์แล้ว มันก็แค่ความพ่ายแพ้ครั้งเดียวเท่านั้น
ทว่าคาร์ไลส์และผู้เล่นระดับยอดฝีมือคนอื่นๆกลับรู้สึกว่าถูกเย้ยหยัน!
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่ากิลด์ราชสีห์ทมิฬนั้นช่างกระจอกเมื่อเทียบกับกิลด์เฮอร์มีส
ผู้เล่นของกิลด์ราชสีห์ทมิฬยอมปล่อยวาง ในขณะที่กิลด์คู่ปรับของพวกเขา
กิลด์บีเดนกลับกลับใช้โอกาสนี้เพื่อขยายอำนาจของพวกเขา
แน่นอนว่าถ้าหากพวกเขาร่วมมือเป็นพันธมิตรกับกิลด์เล็กๆกิลด์อื่นๆ
พวกเขาก็คงจะสามารถยึดอาณาเขตที่เสียไปกลับมาได้
แต่เพราะว่ากิลด์เฮอร์มีสนั้นอยู่เบื้องหลังกิลด์บีเดน
พวกเขาคอยส่งกองกำลังมาแบบลับๆเพื่อบั่นทอนกำลังกิลด์ราชสีห์ทมิฬและเข้ายึดราชอาณาจักรทัลเลนได้ในที่สุด
กิลด์บีเดนเคยมีประสบการณ์ประจันหน้ากับพลังของกิลด์เฮอร์มีส
เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่อาจที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้นได้
พวกเขาจำต้องมอบเครื่องบรรณาการเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
เป็นค่าคุ้มครองราชอาณาจักรทัลเลน
ทว่ามันก็คงจะดีกว่าโดนถล่มจนย่อยยับเหมือนกับกิลด์ราชสีห์ทมิฬนั่นแหละ
ลาฟาเย่กำลังทำการประชุมกับบรรดาผู้นำของกิลด์เฮอร์มีส
“พวกกิลด์บีเดนคงใช้เวลาซักสองสามเดือนในการเก็บกวาดราชอาณาจักรทัลเลน”
“นี่เราจำเป็นต้องเข้าร่วมกับพวกกิลด์บีเดนด้วยหรอ?
พวกเราได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของกองกำลังของพวกเราแล้วนะ”
“เราเจอปัญหาทางภูมิประเทศนะ
เพราะว่าอาณาจักรอื่นที่มีปัญหากับพวกเรานั้นมีเยอะมาก และพวกบีเดนเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายๆกับพวกเรา
เพราะฉะนั้นข้าจึงให้พวกมันจัดการกับปัญหาน่ารำคาญพวกนั้นแทน”
“แล้วถ้าต่อไป
เรารู้สึกไม่สบอารมณ์กับพวกมันเข้าละ….”
“ถ้างั้นก็ค่อยเก็บพวกมันให้หมด
บังเอิญจริงๆที่พวกผู้เล่นสูงๆที่เป็นแกนกลางของกิลด์บีเดนส่วนมากกระจายกำลังไปประจำการหลากหลายพื้นที่”
“จากนั้นเราก็แค่กำจัดเปลือกที่เหลือทิ้งซะ”
“ปัญหาของเราตอนนี้คือการยึดราชอาณาจักรลาเซล...”
“เรื่องนั้นเรากำลังดำเนินการ
การโจมตีรุนแรงแบบต่อเนื่องของพวกเราคงจะเสร็จภายในหนึ่งเดือนนี้แน่”
กิลด์เฮอร์มีสได้ทำการตัดสินใจที่จะทุ่มกำลังทหารไปยังราชอาณาจักรลาเซล
จากนั้นพวกเขาก็วางแผนที่จะโจมตีราชอาณาจักรแห่งสมาพันธ์บริเตนในทันที ต่อจากนั้นก็จะไปจัดการกับพวกกิลด์เมฆา
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เจ้าไวทรีกำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับยูรินที่ขี่บนหลัง
“วิวสวยดีจัง ขอบคุณไวทรีนะจ๊ะ
ที่ทำให้ฉันรู้สึกอะไรแบบนี้”
“ครากกก กย่า กร้า”
พวกไวเวิร์นเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวต่อคำชื่นชมยกยอ
“ฉันละอยากพาเธอบินไปตลอดชีวิตเลยหล่ะ
ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ตลอดทั้งคืนไปเลย”
“……”
เจ้าไวทรีดูเหมือนจะสูญสิ้นพละกำลังในการยกปีกของมันจนหมดจากการได้ยินคำพูดนั้นของยูริน
มันบินไปนั่นมานี่บ่อยมากและตอนนี้ผู้โดยสารก็เพิ่มจำนวนขึ้นอีกหนึ่งคน!
ไวทรีและยูรินกำลังบินอยู่บนภูเขาสูงชัน
เธอมาที่นี่เพื่อวาดแผนที่ของเทือกเขาฮาร์เซลตามคำร้องขอจากวีด
“บินขึ้นไปให้สูงกว่านี้กันดีกว่า
ฉันอยากได้วิวที่กว้างกว่านี้”
“กรี๊กกกกก!”
เจ้าไวทรีกระพือปีกของมันและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที
ช่วงก่อนหน้านี้มันก็ออกล่าและเพิ่มเลเวลมาอยู่บ้าง
ดังนั้นในตอนนี้ความเร็วขั้นต่ำของมันถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ยูรินมองลงไปที่เทือกเขาฮาร์เซลจากแนวก้อนเมฆ
พวกซัลเลียนนั้นได้สร้างป้อมปราการขึ้นมาบนยอดเขาทับคาลที่สูงชันมากพอดู
มีทั้งก้อนหินและเนินผาที่คอยเป็นเกราะกำบังให้กับพวกมัน
เพราะงั้นก็สามารถเรียกได้เลยว่านี่แหละคือป้อมปราการที่มีชัยภูมิที่ดีมากจริงๆ
“ฉันจำเป็นต้องวาดสภาพภูมิประเทศของภูเขาสูงพวกนี้”
จากนั้นยูรินก็เริ่มละเลงวาดเส้นแผนที่ลงไปอย่างประณีต
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“เอาหล่ะ เอาตามนี้ละกัน”
วีดวางกลยุทธ์ใหม่ตามข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหนูบ้านและเจ้าวิหคเงิน
“เป็นแผนการที่ไม่เลวเลยจริงๆครับ”
เทือกเขาฮาร์เซลนั้นมีพื้นที่ภูมิประเทศที่ลาดชัน
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่จะกวาดต้อนศัตรูให้ตกหลุมพรางเพื่อสร้างข้อได้เปรียบ
อีกทั้งพวกซัลเลียนยังสามารถใช้ข้อได้เปรียบจากถ้ำและโพรง
จากนั้นก็สร้างกลยุทธ์จากจุดแข็งนั้นได้ด้วย!
วีดรู้สึกชื่นชมพวกมัน!
“พวกมันนี่ฉลาดไม่เบาเลยจริงๆ”
เพลเองก็รู้สึกคาดหวังในแผนการของวีดอย่างมาก
“ถ้างั้นเราควรจะใช้กลยุทธ์แบบไหนดีละครับ?”
วีดมีชื่อเสียงมากบนทวีปเวอร์เซลแห่งนี้
คงไม่เวอร์เกินไปหากจะบอกว่าเขาคือผู้ที่มีความสามารถในการบัญชาการรบและความเป็นผู้นำที่ดีที่สุด
แถมเขายังเอาตราประทับของเจ้าแห่งทวีปและแตรแห่งทูเรเซตมาด้วย
ด้วยระดับความเป็นผู้นำของวีดในตอนนี้
เขาสามารถยกให้พวกคนเถื่อนบางตนกลายเป็นพลทหารระดับหัวกระทิได้ด้วยซ้ำ
ขอเพียงแค่ฝึกฝนพวกมันนิดๆหน่อยๆเท่านั้น
เพลรู้จักความสามารถในการต่อสู้ของวีดเป็นอย่างดี
แต่ถึงยังไงเขาก็ยิ่งคาดหวังในกลยุทธ์ของวีดมากยิ่งขึ้นไปอีก
“เจ้าพวกนี้มันฉลาดและรู้จักใช้กลวิธีต่างๆนานา...”
“แล้วเราจะใช้อะไรไปสู้กับพวกมันหล่ะครับ?”
“เราต้องไม่ทำให้ความพยายามของพวกมันเสียเปล่า”
“เอ๋?”
เพลคิดว่านั่นมันเป็นอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ทว่าวีดก็นำกองทัพประติมากรรมของเขามุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาทับคาล
พวกเขาเข้าสู่แนวของศัตรูลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าประติมากรรมสลักชีพใช้พื้นที่และช่องว่างเพื่อโจมตีพวกนักสู้ซัลเลียน
ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะนำปาร์ตี้ไปออกล่าภายในเทือกเขาฮาร์เซลแบบนี้
นั่นก็เพราะว่าคนพวกนั้นต้องนำกองกำลังมาให้มากพอที่จะเอามาต่อกรกับพวกซัลเลียน!
พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นแข็งแกร่งมาก
ทว่าก็ยังคงด้อยเรื่องความว่องไวเมื่อเทียบกับพวกซัลเลียน
แถมภูมิประเทศเองก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่
“ราชันย์ไฮดร้าไปทางขวา
หน้าที่ของแกก็คือใช้การโจมตีหลอกล่อศัตรูไปอีกทาง โกลมินิ
แกถอยกลับไปอยู่แนวตั้งรับในตำแหน่งของแก แล้วคอยสนับสนุนคนอื่นๆ”
พวกประติมากรรมสลักชีพแปรขบวนรบตามคำสั่งของวีด
พวกเขาข้ามเขามากว่า 9 ลูกเพื่อมุ่งหน้าไปภูเขาทับคาล
ในขณะที่ตามทางก็มีพวกศัตรูปรากฏตัวออกมาจากโพรงถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่เรื่อยๆ
พวกซัลเลียนนั้นมักจะเล็งการโจมตีไปที่จุดๆเดียว
ฉะนั้นพวกประติมากรรมสลักชีพที่อ่อนแอจึงถูกจัดให้ไปอยู่ตามแนวหลัง
ในขณะที่พวกมีพลังชีวิตสูงก็จะถูกจัดให้ออกมาอยู่แนวหน้า
เขาเปลี่ยนรูปแบบปาร์ตี้ออกล่าตามลักษณะเฉพาะของพวกประติมากรรมสลักชีพแต่ละชนิดในตอนที่สภาพภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไป
“ธาราอัคคี!”
โรมูนะโจมตีใส่ศัตรูด้วยเวทย์มนต์ใหม่ของเธอ
ธาราอัคคี ที่เธอได้เรียนรู้มา พวกศัตรูเองก็โดนล้างบางด้วยแม่น้ำเพลิงแดงเดือดในที่สุด!
“ฮ่าๆ สุดยอดไปเลย”
วีดยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอันแสนขมขื่น
ทุกครั้งที่โรมูนะพออกพอใจกับเวทย์วงกว้างอันแข็งแกร่งของเธอ!
พวกเพื่อนๆของเขาเองต่างก็แสดงทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจในตอนที่เดินหน้าต่อสู้ไปเรื่อยๆ
พวกไวเวิร์น ปิงหลง
และฟีนิกซ์ก็คอยสนับสนุนพวกเขาจากบนท้องฟ้าและคอยจัดการกับพวกศัตรูไปด้วย
“เล็งการโจมตีของพวกแกไปที่จุดๆเดียว
แล้วถ้าศัตรูกระจายตัวออกจากกันก็สู้ไปเลยอย่าได้กลัว พวกแกกินไปเยอะแล้วนะเมื่อกี้นี้
อย่าปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจละ!”
ภายใต้คำสั่งของวีด
เหล่าประติมากรรมสลักชีพสามารถแสดงความสามารถของพวกมันออกมาได้มากกว่าเดิม 35% เมื่อเขาสามารถใช้พวกประติมากรรมสลักชีพได้อย่างเต็มที่
พวกมันก็สามารถแสดงพลังทำลายล้างได้อย่างเต็มกำลัง
พวกประติมากรรมสลักชีพที่สามารถใช้ธนูและเวทย์ได้ก็ค่อนข้างมีประโยชน์
เพราะงั้นพวกมันถึงได้ถูกปกป้องอย่างปลอดภัยอยู่ตรงใจกลางขบวน
พลังยิงลูกไฟที่เล็งใส่เป้าหมายเผด็จศึกศัตรูไปได้อย่างมากมาย!
เพลและโรมูนะจัดการศัตรูด้วยการโจมตีแบบต่อเนื่อง
ขณะที่เซอร์กะกับเซเฟอร์ก็จัดการกับศัตรูที่เข้ามาใกล้
“ตำแหน่งที่ตั้งของป้อมปราการของพวกซัลเลียน
น่าจะต้องข้ามเขาไปอีก 6 ลูก”
วีดใช้แผนที่เพื่อคำนวณระยะทาง
พวกเขาเดินทางข้ามภูเขาใหญ่มา 9 ลูกแล้วขณะที่มุ่งหน้าไปทับคาล
นี่ก็เดินทางมาได้ซักพักแล้วทว่าก็ยังเหลือระยะทางอีกตั้งไกลกว่าจะถึงจุดหมาย
“มีสถานที่ที่ดูอันตรายอยู่ตรงกลางนี่ด้วยแหะ....”
หุบเขาคือสถานที่ที่พวกเขาอาจโดนเล็งเป้าโจมตีได้ดีที่สุด
โดยปกติแล้วพวกไวเวิร์นจะคอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่แล้ว
ทว่าพวกซัลเลียนนั้นเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบผ่านโพรงและถ้ำจึงเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นพวกมันได้
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาอาจจะโดนลอบโจมตีแบบกะทันหัน!
“เราควรกลับกันดีไหมคะ?”
ไอรีนแสดงท่าทีตอบสนองที่ดูเป็นกังวล
เธอเป็นนักบวชดังนั้นมันคงเป็นฝันร้ายที่สุดทนสำหรับเธอหากโดนลอบโจมตีแบบปุบปับ
ในสถานการณ์ฉุกเฉินเธอคงไม่มีเวลามารักษาทุกคนแน่ๆ บางคนก็อาจต้องตาย
เธอจึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั้น
“ผมมีแผน ไปต่ออีกหน่อยเถอะครับ”
ขณะที่พวกเขาพักเอาแรงอยู่ชั่วครู่
วีดก็ทำอาหารและพันแผลให้กับพวกประติมากรรมสลักชีพที่ได้รับบาดเจ็บ เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้สิทธิพิเศษที่ได้จากวิหารเฟรย่าที่สามารถพาอัลเวรอนมา
เพราะงั้นไอรีนจึงต้องรักษาแผลให้คนอื่นๆเพียงคนเดียว
แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีทักษะมากพอกับอัลเวรอน
ทว่าราชันย์ไฮดร้าก็มีพลังชีวิตที่เทียบเท่าเกือบจะเป็นอมตะเลยด้วยซ้ำ ราชันย์ไฮดร้านั้นจะไม่ตายแม้ว่ามันจะเหลือเพียงแค่หัวเดียว
ไอรีนจึงสามารถใช้เวลานั้นไปรักษาตัวอื่นได้
พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นสามารถเป็นเพื่อนกับนักบวชไอรีนได้อย่างรวดเร็ว
อาชีพสายนักบวชนั้นเป็นสายอาชีพที่พิเศษมากในการเพิ่มค่าความสนิทสนม!
วีดอนุญาตให้พักนานกว่าปกติแล้วเขาก็ไปนั่งแกะสลักประติมากรรม
นั่นคือพฤติกรรมปกติของเขาจึงไม่มีใครสนใจอะไรเขา
เขาแกะสลักเทือกเขาที่แสนกว้างใหญ่ด้วยกระดานไม้
ผ่านไปสองถึงสามชั่วโมง
เพลก็หยุดเคลื่อนที่
“ดูท่าจะเสี่ยงเกินไปที่จะข้ามนะครับ”
มันคือแม่น้ำที่มีลำธารไหลเชี่ยว
โดยปกติแล้วแม่น้ำสายนี้จะอยู่ที่ระดับหัวเข่าหรือว่าส่วนเอว ทว่าฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำไหลเชี่ยวกราด
วีดมองดูแผนที่และระบุตำแหน่งที่ตั้ง
“จากแผนที่ที่ยูรินวาด
ที่นี่คือทำเลที่ดีที่จะโจมตี เราต้องผ่านแม่น้ำสายนี้ถ้าเราจะไปให้ถึงเขาทับคาล”
การทราบสภาพภูมิประเทศก่อนล่วงหน้านั้นถือว่ามีประโยชน์อย่างมากที่จะไม่หลงหรือไปติดกับดักในเขตเทือกเขา
มีเขตพื้นที่อันตรายมากมายระหว่างทางไปภูเขาทับคาลและนี่ก็คือหนึ่งในสถานที่นั้น
ถ้าหากว่าพวกเขาว่ายน้ำข้ามไปพวกเขาก็คงโดนโจมตีโดยลูกธนูจากทางป่าหรือว่าทางริมแม่น้ำ
เพล โรมูนะ
และพวกประติมากรรมสลักชีพก็จะไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยด้วยซ้ำ
แล้วพวกเขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
แถมที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่วีดจะมานั่งแกะสลักซะด้วย
โรมูนะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ
“ไม่มีทางอ้อมที่ปลอดภัยกว่านี้แล้วหรอคะ?”
“เราต้องกลับไปข้ามเขาอีก 2 ลูก
แล้วก็ต้องปีนขึ้นทางที่ลำบากด้วย คงจะดีกว่าถ้าเราข้ามจากตรงนี้อย่างระมัดระวังแล้วก็เตรียมพร้อมต่อสู้ด้วย”
วีดเดินไปอยู่ด้านหน้าพวกประติมากรรมสลักชีพที่มีค่าพลังชีวิตที่สูง
“พวกนายอย่าวางใจเด็ดขาด
คุณเพลจะออกไปดูต้นทางก่อน ส่วนคุณโรมูนะก็ควรจะเตรียมร่ายเวทย์ไว้หน่อยนะครับ”
นั่นยิ่งทำให้กังวลมากยิ่งขึ้น ศัตรูคงไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาข้ามแม่น้ำโดยที่ไม่ทำอะไรพวกเขาเลยหรอก
ทว่าหลังจากนั้นนั่นเอง ก็มีพวกนักสู้ซัลเลียนกลุ่มหนึ่งค่อยๆโผล่ออกมา
ตั้งแต่มาถึงที่นี่พวกเขาได้แต่สู้กับพวกทหารระดับธรรมดา
ทว่าตอนนี้นักสู้ระดับหัวกระทิได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว พวกมันเป็นนักสู้ที่มีเลเวลกว่า
420 ! พวกนักสู้ซัลเลียนพุ่งการโจมตีมาที่พวกเขาหมายจะสังหารโดยไม่ห่วงชีวิตเลยแม้แต่น้อย
เหล่าประติมากรรมสลักชีพเติบโตมาเป็นอย่างดีหลังจากที่ได้รับชีวิตมาตั้งแต่ที่เขต
ลาส ฟาลังคซ์ ดังนั้นพวกมันจึงออกไปสู้อย่างเต็มใจแม้ว่าพวกมันจะโดนศัตรูกดดันอยู่
ค่าพลังชีวิตของพวกประติมากรรมสลักชีพลดลงเรื่อยๆในขณะที่นักสู้ซัลเลียนได้รับบาดเจ็บล้มตาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ประติมากรรมสลักชีพอย่างเจ้ายักษ์เพลิงที่แสดงความสามารถอันแสนโดดเด่น
เนื่องจากคุณสมบัติไฟของมัน พวกซัลเลียนที่อยู่ในร่างสัตว์เลื้อยคลานจึงมักจะหลบหลีกการโจมตีของมันมากเป็นพิเศษ
“เป็นห่วงจังเลยแหะ”
ไอรีนเอ่ยคำพูดออกมาด้วยความเป็นกังวล
“เราเข้าไปอยู่ในแนวรบของศัตรูแล้วนะ
แถมพวกมันอาจจะเรียกกำลังเสริมจากโพรงที่เชื่อมต่อกันนั่นก็ได้ แล้วก็คงจะโดนล้อม
แม้ว่าพวกประติมากรรมสลักชีพจะแข็งแกร่งแต่ว่ามันก็ยังอันตรายเกินไป”
ความเร็วในการออกล่าของพวกประติมากรรมสลักชีพนั้นถือว่าเร็วมากจากคำสั่งของวีด
แม้ว่าพวกนักสู้ซัลเลียนจะล้อมพวกเขาทุกทิศทาง พวกมันก็ยังสามารถเอาชนะได้
ราชันย์ไฮดร้าก็คอยข่มขวัญให้ศัตรูกลัวขณะที่เจ้าหนอนแห่งความตายก็คอยปรากฏตัวออกมาจากพื้นดินแบบปุบปับเพื่อคุกคามเหล่าศัตรู
ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ
เจ้างูบ้านนอกเองก็พ่นพิษออกไปในขณะที่การโจมตีของลูกธนูและเวทย์เล็งไปยังเป้าหมาย
ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพขนาดใหญ่ก็โจมตีใส่กองกำลังศัตรูที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม
พวกมันทั้งมีประสิทธิภาพและทรงพลังมากจนสามารถกวาดล้างพวกซัลเลียนไปได้มากมาย
และแน่นอนว่าไม่มีใครตาย
แต่ว่าอย่างไรก็ตามไอรีนก็หวังว่าพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น
สถานการณ์ที่พวกเขาทุกคนต้องตายจนหมด นอกจากนั้นการสูญเสียประติมากรรมสลักชีพแม้แต่ตัวเดียวคงเป็นการสูญเสียที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้สำหรับวีด
ดังนั้นเธอตั้งสติและตัดสินใจที่จะหยุดวีดเอาไว้
สามัญสำนึกของเธอบอกกับเธอว่าวีดเหมือนกำลังเร่งรีบอย่างผิดวิสัย
“ดูเหมือนว่าศัตรูจะล่อเรามาที่นี่นะคะ”
วีดพยักหน้าตอบรับข้อคิดเห็นของไอรีน
“ถูกต้องแล้วครับ”
“งั้นแผนนี้ก็.....”
“เราก็กำลังหลอกล่อพวกมันอยู่เหมือนกันครับ”
วีดครุ่นคิดขณะที่เขามองดูแผนที่แสดงภูมิประเทศที่ยูรินวาดให้
‘ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุด ถ้าเราทะลวงเข้าไปจากด้านนอกคงใช้เวลามากพอควร
พวกมันคงกระจายกำลังออกไปเพื่อป้องกันหรือไม่ก็ลอบโจมตีแบบฉับพลัน...’
คงต้องใช้เวลามากเอาการเพื่อที่จะไปให้ถึงยอดเขาทับคาล
พวกเขาจะต้องต่อสู้กับพวกซัลเลียนที่คอยแพร่พันธุ์อยู่ตลอดภายในเทือกเขาฮาร์เซลนี่
แม้ว่าจะสามารถเอาชนะศัตรูได้สถานการณ์ก็คงเสียเปรียบ
ยิ่งตอนที่พวกเขาเข้าไปในแนวอาณาเขตของศัตรู
มันคงกลายเป็นสงครามยืดเยื้อที่ส่งผลเสียมากกับเสบียงรบ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงตัดสินใจที่จะคอยให้เจ้าวิหคเงินและหนูบ้านคอยส่งข่าวบอกตำแหน่งของศัตรูอยู่ตลอดเวลาและพร้อมที่จะต่อสู้ให้จบรวดเดียวไปเลย
“ตอนนี้ขอแค่คุณเชื่อใจผมก็พอแล้วครับ”
“มีโอกาสสำเร็จไหมคะ?”
“ผมก็ไม่มั่นใจ
แต่ถ้าพวกมันมีสมองละก็
พวกมันก็ควรจะนอนอยู่เฉยๆแล้วรอให้เราไปล้างบางพวกมันคงจะดี”
ไอรีนตัดสินใจที่เชื่อในตัววีด
มันคือถ้อยคำที่มาจากปากของคนที่ยอมเสียขาดีกว่าเสียเงินค่ารักษาพยาบาล!
พื้นที่อันตรายต่อไปที่พวกเขาต้องเผชิญหลังจากแม่น้ำเชี่ยวกราดนั้นก็คือ
หุบเขาหิน ที่มีกำแพงทั้งสองข้างขนาบสูงยาวจนเกือบ 2 กิโลเมตร
มันเป็นสถานที่ที่ทำให้คนต้องอ้าปากค้างและอยากหันหลังกลับด้วยซ้ำ!
มันเป็นเส้นทางที่มีสายน้ำไหลตกลงไปในหุบเขา
เซเฟอร์มองดูรอบๆด้วยสีหน้าตึงเครียด
“ไม่มีทางผ่านที่นี่ไปได้โดยไม่โดนการลอบโจมตีหรอกครับ”
พวกซัลเลียนใช้โพรงแคบๆที่แทบจะมองไม่เห็นที่พวกเขาไม่มีมองเห็นได้เลยจนกว่าพวกมันจะปรากฏตัวออกมา
“เราควรขึ้นไปเดินบนหน้าผาดีไหม
คงจะเร็วกว่านี้นะครับ?”
เพลเดินไปข้างหน้าพร้อมกับธนูของเขาพร้อมเตรียมต่อสู้
สถานที่นี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีศัตรูรอคอยพวกเขาอยู่ตลอดเวลา!
“ไม่ละ เราจะไปทางด้านล่างของหุบเขานี่แหละ”
“เอ๋? แต่ว่ามันไม่มีทางให้เราหนีเลยนะครับ
กำแพงหุบเขาชันๆนี่ก็แทบไม่ต่างอะไรกับการรับโจมตีจากกำแพงเมืองเลย”
“นั่นแหละที่ผมหวังเอาไว้”
วีดเลือกที่จะเดินไปทางฝั่งที่เป็นร่องน้ำ
พวกประติมากรรมสลักชีพต้องเคลื่อนตัวไปตามหุบเขากว้างที่มีกำแพงหินสูงชันขนาบทั้งสองข้าง
‘ที่นี้แหละพวกมันต้องออกมาแน่ๆ
นี่เป็นพื้นที่เชือดชั้นดีเลยนะ’
วีดเข้ามาในหุบเขาหินนี้ด้วยความคิดแบบนั้นนั่นเอง
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
พวกซัลเลียนซ่อนตัวอยู่ในโพรงทั้งหลายภายในพื้นที่หุบเขาทั้งสองฝั่ง
“ข้านี่ฉลาดจริงๆ”
“นี่มันแผนของข้านะ”
“พวกมนุษย์น่าโง่ คริๆๆๆ”
เหล่าผู้อาวุโสและนักสู้ซัลเลียนต่างก็หยุดหัวเราะไม่ได้
พวกเขามั่นใจในความเฉลียวฉลาดของพวกเขา!
‘ที่นี่มันดีเกินไปที่จะให้พวกมันผ่านไปได้ง่ายๆ’
‘ฮ่าๆ
เทพเจ้าให้ทุกอย่างกับข้าแล้ว! คนอื่นๆมีแต่พวกโง่ๆทั้งนั้น’
พวกมันกำลังรออย่างนิ่งเงียบขณะที่กลุ่มของวีดและพวกประติมากรรมสลักชีพเข้ามาในหุบเขาหิน
“พวกมันติดกับเราแล้ว!”
“จัดการพวกมันให้หมด”
ทันใดนั้นพวกนักสู้ซัลเลียนก็ปรากฏตัวพร้อมกันในคราวเดียว
และในไม่ช้าหุบเขาหินสูงชันแห่งนี้ก็ปกคลุมไปด้วยสีน้ำเงินเข้มจากผิวหนังของพวกมัน
-ติดตามตอนต่อไป-
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสนุกมากครับ ขอบคุณมาก
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเข้าไปในกับดักเพราะเป็นแผนวีด????
ตอบลบขอบคุณหลายๆ เกือบลืมไปเลยว่าวีดเคยไปยืมตำราพิชัยสงคราม จากห้องสมุดมาศึกษานิ คริคริ
ตอบลบแล้วไงต่อวีด
ตอบลบรออออออออออออออ...
ตอบลบ