เล่ม 30
ตอนที่ 1: ภัยพิบัติครั้งใหญ่ ณ หุบเขา แปลโดย
Smith REX
วีดกำลังจมอยู่กับความทุกข์ทรมานที่อยู่ลึกลงไปในจิตใจ
'ความจริงก็คือ ฉันไม่ได้มีความอัจฉริยะอยู่ในตัวเลย'
ผลการเรียนของเขานั้นไม่ดีเท่าไหร่ แต่เขาก็คิดว่าคนเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่อของความคิดอันไร้ซึ่งเหตุผล
"ถึงคะแนนการสอบของฉันจะหายไปบ้างเล็กน้อย
แต่ทว่าเกรดของฉันก็ยังดีอยู่ อา, นั่นมันทำให้ฉันนึกถึงคะแนนสอบวิชาจริยธรรม
... มันต่ำมาก. "
ความทรงจำที่ครูของเขากำลังดุด่าเขาวนไปวนมา ผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการยกเลิกการลงโทษทางร่างกายก็คือโรงเรียน!
อย่างไรก็ตาม แผนการของเขาในการหลอกล่อเผ่าซัลเลี่ยนนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก
"พวกมันตกลงไปในกับดักที่พวกเราขุดไว้ กุ๊กกรู
!”
"ฆ่ามัน จับพวกมันไว้ และกินพวกมัน !
"
“โคว๊ากกกกก
!”
มีเสียงคำรามลั่นจากมอนสเตอร์ทั้งสองด้านของหุบเขา! เมื่อมองไปจะเห็นเหมือนมีสายน้ำกำลังไหลไปตามหุบเขาจากจำนวนและผิวสีน้ำเงินเข้มของเผ่าซัลเลี่ยนที่กำลังถือหอก
และธนู
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักผจญภัยหลาย ๆ คนในทวีปที่จะได้เห็นฉากดังกล่าว
สิ่งเดียวที่รู้สึกได้อย่างแจ่มชัดก็คือ คนที่อยู่ด้านล่างถูกตัดขาดอย่างสมบรูณ์ และจะถูกฆ่า!
มันคือขีดสุดของความน่าหวาดหวั่นที่ท่วมท้นมาจากมุมมองของกลุ่มคนที่ดูกังวล
นิ้วมือของเพลกำลูกธนูแน่นจากการที่เขารู้สึกกดดัน
"อาศัยทักษะการยิงธนูของฉัน ฉันสามารถเล็งไปที่ด้านบนสุดของหุบเขา
แต่แล้วยังไงล่ะ?"
มันย่อมเป็นไปไม่ได้! เหล่านักรบซัลเลี่ยนยังคงตะโกนอย่างต่อเนื่อง
นี่คือการกระทำเพื่อเพิ่มความฮึกเหิมก่อนการสู้รบ ขวัญกำลังใจของมอนสเตอร์นั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญส่งผลต่อค่าสถานะพื้นฐานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เลยทีเดียว
"ไอ้พวกมนุษย์ มันไม่สามารถหนีไปไหนได้ และพวกมันจะเป็นอาหารของพวกเรา"
“เคี้ยกก”
พวกนักรบต่างตะโกนก้อง จากการที่พวกมันได้ยึดที่มั่นตามแนวหุบเขาจำนวนนักรบซัลเลี่ยนมีไม่ต่ำกว่า
3,000 ตนแน่นอน
ภูมิประเทศของเทือกเขาฮาร์เซิลนั้นลาดชันเป็นอันมาก
มากเท่าที่มันจะลาดชันได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงถือได้ว่ามันเป็นหนึ่งในสถานที่เลวร้ายที่สุดที่ต้องเผชิญกับศัตรู
เจ้าเหลืองร้องไห้ออกมาด้วยสายตาที่หม่นหมอง
“ฮือ
มอออออ......”
มันเป็นสถานการณ์ที่อาจทำให้มันกลายเป็นเนื้อสเต็ก หัวของราชันย์ไฮดราทั้ง
9 หัวยืดเหยียดออกไปทุกทิศทาง เจ้าอิมูกิดำแผ่ปีกของมันให้เตรียมพร้อมที่จะทะยานขึ้นไป
สิ่งมีชีวิตที่บินได้สามารถหลบหนีไปในอากาศ ดังนั้นพวกที่อยู่บนพื้นดินจึงไม่พอใจวีดอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม พวกมันได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด
ประติมากรรมสลักชีพทั้ง 47 ตนจากลาสฟาลั้งค์ ล้วนเต็มใจถวายชีวิต
"ข้าต้องฆ่าต่อไปจนกว่ามันจะจบสิ้น"
"แม้ว่าข้าจะต้องมลายหายไป ... ข้าจะไม่เสียใจกับชีวิตอันแสนสั้นของข้า"
สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างโดยประติมากรต่างตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะเผาผลาญ
และสู้จนกว่าจะตายกันไปข้าง ในทางตรงกันข้าม ปิงหลง, โกลด์มินิ และ ไวท์เวิร์นต่างผ่อนคลาย
"มนุษย์ผู้นั้นคงกำลังวางแผนตลบหลัง"
"เขามันเป็นคนที่ฉลาดแกมโกง โกล โกล โกล!"
"เขาจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเราตายที่นี่
เขาจะต้องให้พวกเรามีชีวิตอยู่เพื่อทำงานต่อไป "
พวกมันเคยสัมผัสประสบการณ์ถึงขั้นวิกฤติกับวีดมาแล้ว
ดังนั้นการได้เห็นกองทัพของเหล่ามอนสเตอร์ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับการกิน และการดื่มน้ำของพวกมัน
ปิงหลง และไวท์เวิร์น นั้นย่อมเข้าใจในตัววีดเป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกัน เสียงร่ำร้องจากเผ่าซัลเลี่ยนก็ดังกระหึ่มยิ่งขึ้น
นั่นคือเหล่านักรบกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ
อาวุธที่พวกมันเลือกใช้คือธนู ! จากการที่พวกมันได้เข้าควบคุมพื้นที่สูงในหุบเขา
พวกมันก็จะสาดยิงลูกธนูลงมา นักรบซัลเลี่ยนใช้ลูกธนูที่มีปลายแหลมคม และมีอัตราการโจมตีที่ดี
ดังนั้นค่าความเสียหายจึงค่อนข้างสูง หากลูกธนูถูกยิงพร้อม ๆ กันลงมายังพื้นเบื้องล่าง
มันจะกลายเป็นห่าฝนธนู
คงมีเพียงราชันย์ไฮดรา และฟีนิกซ์ที่มีค่าพลังชีวิตสูง ส่วนพวกที่เหลือนับว่าตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง!
สิ่งมีชีวิตที่บินได้นั้นสามารถหลบหนีไปในอากาศได้ แต่พวกมันก็ตัดสินใจที่จะสู้ และปกป้องกลุ่มปาร์ตี้ของวีด
ประติมากรรมสลักชีพกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติที่สำคัญ ถ้าเหล่าลูกน้องของเขาถูกกวาดล้างจนหมดแล้ว
เขาก็จะต้องสร้างตัวใหม่ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ
แต่วีดยังคงแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ"
อารมณ์เหมือนวันที่เกิดบางสิ่งอันเลวร้ายขึ้นกับปาร์ตี้กลุ่มอื่นๆ
จนทำให้หัวเราะอย่างสะใจ!
"คุณวีด, ทำอะไรสักอย่างได้ไหม
เร็วๆเถอะ"
วีดนำเอารูปแกะสลักออกมาหลังจากได้รับการกระตุ้นเตือนจากไอรีน
มันเป็นรูปแกะสลักของหุบเขาหินแห่งนี้! ยูรินได้วาดแผนที่อย่างละเอียด และเขาทำประติมากรรมนี้จากหยกสีเขียว
ระดับการแกะสลักของเขาอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 9 และการใช้วัสดุอันมีค่าทำให้ได้ผลงานชั้นเยี่ยมออกมา
"มีรอยแตกเล็กน้อย แต่ ... ฉันสามารถใช้สิ่งนี้ได้แน่นอน"
ในขณะนั้น เหล่านักรบซัลเลี่ยนได้หยุดตะโกนโห่ร้อง และง้างคันธนูของพวกมัน
ปาร์ตี้ของวีดต่างจ้องมองไปที่รูปแกะสลักนั้น เซอร์กะที่ยืนอยู่ข้างๆเขาจึงถามว่า
"พี่กำลังจะใช้ประติมากรรมวินาศหรือ?"
เมื่อค่าสถานะทางศิลป์ของเขาถูกเปลี่ยนให้เป็นค่าสถานะของความแข็งแกร่ง
และสถานะความว่องไวทั้งคู่ เขาสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสู้รบอันยิ่งใหญ่กับการที่เขายังสวมชุดเกราะอัศวินแห่งเทพี
ถ้าเขาใช้ปีกแห่งแสงและบินขึ้นบนหน้าผาได้แล้ว เขาจะสามารถต่อสู้กับบรรดานักรบซัลเลี่ยนได้
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขาล่อศัตรูมาที่นี่
“ไม่
ทักษะที่พี่จะใช้ในตอนนี้ ... ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ!"
-
คุณได้ใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ
|
-
ค่าสถานะทางศิลป์หายไป 20 แต้มอย่างถาวร
|
-
ค่าพลังชีวิต และค่ามานาจำนวน 20,000 ถูกใช้แล้ว
|
-ค่าสถานะทั้งหมดลดลงชั่วคราว 15% เป็นเวลา 3 วัน
|
-ความใกล้ชิดกับธรรมชาติลดลง
|
- ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติสามารถใช้ได้วันละครั้งเท่านั้น
|
- เมื่อมีการเรียกภัยพิบัติให้เกิดขึ้น ค่าชื่อเสียงหรือค่าความฉาวโฉ่จะเพิ่มขึ้นตามค่าความเสียหาย
|
- มันเป็นไปได้ที่จะตายท่ามกลางภัยพิบัติ ดังนั้นจงระวังให้ดี
|
ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในหุบเขาซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาล่อพวกมอนสเตอร์มา
นั่นคือความมุ่งหมายบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจของเขา!
แผนของวีดนั้นสมบูรณ์แบบ แต่มีปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
มันจะต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ! เวลาที่เกิดภัยพิบัติในทุกครั้งที่เปิดใช้งานนั้นแตกต่างกัน
ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะกำหนดในส่วนนี้ได้ พวกเขาต้องมุ่งเน้นไปที่การป้องกันจนกว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้น
"อะแฮ่ม มาถึงช่วงที่ฉันโปรดปราน"
ก่อนที่จะมีการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ วีดจะล้างลำคอของเขาก่อนที่จะร้องเพลง
ความตึงเครียดที่เต็มไปด้วยสนามรบจากบรรดาเหล่านักรบซัลเลี่ยน และจากเหล่าประติมากรรมสลักชีพที่รวมตัวกัน
คนที่ไม่สามารถร้องถูกคีย์ได้ มันคือเวทีการแสดงสดของเขา!
แต่ฮวายอง ผู้ที่สวมใส่ต่างหูทับทิม และสร้อยคอกลับเดินออกไปเป็นคนแรก
"ฉันจะซื้อเวลาให้"
ก่อนที่ลูกธนูจะถูกยิงออกมา เธอเดินไปข้างหน้าและร้องเพลง
- ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
รู้สึกดีสดชื่น อยู่ภายในใจของฉัน
ฉันต้องการจะถูกจัดโดยใครสักคน
ฉันต้องการมัน จนหยดสุดท้ายที่เธอมี
|
เพลงหวาน ๆ ของฮวรางยองสะท้อนแว่วลอยไปในหุบเขา
เธอเป็นนักเต้นที่มีทักษะการขับร้องสูงมาก ขั้นกลางเลเวล 4! ข้อเสียเปรียบคือว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่มีทักษะในการต่อสู้
แต่พวกมอนสเตอร์จะจดจ้องสายตาของพวกมันไปที่หญิงสาวที่กำลังเต้นรำ
จนเสมือนพวกมันอยู่ในงานเลี้ยงสังสรรค์
แม้จะมีอันตราย ร่างกายของเธอกลับขยับได้เร่าร้อนในการเต้นรำที่มีสีสัน
ทักษะการขับร้องของเธอทำให้เสียงที่ออกมาแจ่มชัด และมีเสียงที่งดงามที่ความดังมากมาย
“เคี้ยก.”
"ผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องเพลงอยู่"
“อย่าไปสน
ยิงมันเลย จับพวกมันมา และเขมือบพวกมันทุกคน ! "
มันเป็นสถานการณ์เฉกเช่นเดียวกับการที่เครื่องดนตรียังไม่พร้อมก่อนที่จะเล่นในตลาดย่านชุมชน
อย่างไรก็ตาม ตัวฮวายองก็ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องมีไมโครโฟนราคาแพง
เธอก็สามารถสื่อถึงอารมณ์เพลงออกมาได้
อยากเก็บซ่อนเอาไว้
แต่ดูเหมือนทุกคนจะรู้
ก็คนมันชอบแบบนี้นี่หน่า
ฉันอยากถูกเล้าโลมตอนเช้า
เมื่อยามฝนพลำ
|
เธอเพิ่มระดับเสียงและร้องเพลง ด้วยความสามารถในการขับร้องของเธอทำให้เสียงนั้นก้องกังวานไปจนถึงจุดสูงสุดของหุบเขา
จนทำให้เธอเป็นจุดสนใจและมีอำนาจในการดึงดูด
เสียงอันหวานซึ้งของเธอแว่วเข้าไปในโสตประสาทของเหล่านักรบซัลเลี่ยนจนลังเลในการยิงลูกศรของพวกมันออกมา
เหนือสิ่งอื่นใดจากการที่ภูมิประเทศของหุบเขาจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เสียงนั้นจะสะท้อนกังวาน!
"นังมนุษย์ผู้นั้นช่างขับร้องได้ดี"
"น่าเสียดายหากจะฆ่านางทิ้ง"
"เราจะจับนางนี่แล้วเอาไปเป็นนางทาสดีไหมนะ?"
บรรดานักรบซัลเลี่ยนยืนแข็งค้าง ในขณะที่พวกมันกำลังฟังเพลงอันหวานซึ้งของเธอ
- ฉันอยากเป็นแค่เด็กผู้หญิง
แม้นมันจะน่าอาย
แต่คุณเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว
|
ความซาบซึ้งของเนื้อเพลงจู่ๆก็ไร้สาระทันที ฮวายองได้รับอิทธิพลมาจากเพลงบ้าบอของวีด
แต่หากไม่นับเนื้อหาของเนื้อเพลง จังหวะ ท่วงทำนองและเสียงนั้นก็ถือว่าสุดยอดมาก
เสียงที่กระจ่างใสอย่างไม่น่าเชื่อของเธอแสดงให้เห็นกลเม็ดเด็ดพรายตั้งแต่โทนต่ำจนถึงโทนสูง
เธอกำลังร้องเพลงอย่างเต็มที่ด้วยความสามารถที่เธอมีจนหมด
เบลล็อทนำพิณออกมา และเริ่มเล่น
- ลูกสาวของคุณช่างน่าทึ่งเสียจริง
ช็อกโกแลตนั้นซื้อให้ลูกๆของคุณแล้วกันนะ
เจ้าเด็กน้อย. ฟันของเธอจะผุ และเจ้าจะต้องไปหาหมอฟันนนน!
|
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอได้รับฉายาว่านางฟ้าในยามเมื่อเธออยู่บนเวที
เธอดูอ่อนเยาว์ และมีเสน่ห์อันสดใส ความงดงามและอารมณ์เพลงที่เธอสื่อออกมาได้อย่างชัดเจน
เธอสามารถร้องเพลงบนเวทีได้เกือบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นบทเพลงแห่งความรัก หรือบทเพลงแห่งความเจ็บปวด
การที่เพลิดเพลินไปกับการแสดงเหล่านี้คงต้องขอบคุณเสน่ห์ที่เธอมีจนไม่สามารถต้านทานได้
เนื่องจากลักษณะพิเศษของร่างกายฮวายองที่เป็นนักเต้น ควันและแสงไฟก็เริ่มปรากฏขึ้นรอบ
ๆ ตัวของเธอ
“แคว๊วกกก!”
"มันประกอบขึ้นอย่างสวยงาม."
"นี่เป็นเนื้อเพลงที่ดีจริงๆ"
เหล่านักรบซัลเลี่ยนชอบมันมาก ดังนั้นหอกและธนูของพวกมันเริ่มลดต่ำลง
(อย่างถามว่าคนแปล
แปลเนื้อเพลงมั่วไหม ตอบเลย โคตรงง
โคตรมั่วเลย จะเอาเพลงคุ๊กกี้เสี่ยงทายมาใส่แทนอยู่ล่ะ)
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“การออกอากาศจะเริ่มในอีก 4 ...3 ... 2....1 ”
สตูดิโอของ KMS
Media แจ้งให้ทราบว่าพวกเขากำลังจะแสดงการผจญภัยของวีด แม้ว่าจะนำการผจญภัยมาออกอากาศ
แต่มันคงสายเกินไปที่กิลด์เฮอร์มีสจะเข้าไปแทรกแซงได้
“การผจญภัยของวีด!
ช่วงเวลาทุกคนรอคอย”
ชินเฮมินยิ้ม และเริ่มดำเนินรายการ ช่วงที่ 2 ของรายการพิเศษเรื่องราวแห่งทวีปเวอร์เซลล์
หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ กับสมาชิกทางรายการแล้ว
ช่วงสำคัญที่สุดคือการผจญภัยของวีดก็ได้เริ่มขึ้น ถ้าพวกเขาเสียเวลาอาจส่งผลให้เกิดเสียงร้องเรียนจากผู้ชม
วันนี้พวกเขาได้ประกาศล่วงหน้าว่าการผจญภัยของวีดจะถูกฉายออกอากาศ
ดังนั้นอัตราการเข้าชมจึงเริ่มต้นที่ 11%
เมื่อวีดพ่ายแพ้ให้กับบาร์ดเรย์ บรรดาเจ้าหน้าที่ในสถานีได้แต่ส่ายหน้า
"มันเป็นเรื่องร้ายแรง วีดเป็นคนเดียวที่สามารถเพิ่มอัตราการเข้าชมได้แบบนี้
... .. "
"ผู้ชมรู้สึกกังวลอย่างมาก เมื่อวีดและบาร์ดเรย์เผชิญหน้ากัน
เขาพ่ายแพ้และตาย ดังนั้นประเด็นนี้จึงจบลงแล้ว "
"มันเป็นความโชคร้าย ความสามารถของเขาดีมากจริง
ๆ "
หลังจากนั้นสถานีออกอากาศก็ละเลยวีด เขาไม่ได้ถูกพูดถึงบ่อยในข่าวและรายการโทรทัศน์ไม่ได้มีเรื่องวีด
แต่ผู้ชมไม่สนใจเรื่องดังกล่าวและรู้สึกตื่นเต้นในเรื่องราวของวีดเหมือนกับก่อนหน้านี้
บรรยากาศก็ยากที่จะเข้าใจอย่างที่เห็นได้ตอนแรก!
ในตอนนี้ วีดได้กลายเป็นราชาแห่งราชอาณาจักรอาร์เพ่น และประสบความสำเร็จในการทำประติมากรรมขนาดใหญ่
ตอนนี้ภารกิจมังกรก็กำลังค่อยๆปรากฏขึ้น
เนื่องจากสถานการณ์ในรอยัลโร๊ดแย่ลง ผู้คนมากมายต่างเริ่มมีความปรารถนาในตัววีรบุรุษมากขึ้น
พวกเขากำลังมองหาผู้กอบกู้ที่แท้จริงที่จะเอาชนะความชั่วร้ายและคืนความยุติธรรม
"ถ้าคุณดูข่าว มีบางอย่างเกี่ยวกับเมืองที่ล่มสลาย
หรือหมู่บ้านถูกทำลาย"
"แม้กระทั่งการออกล่า หรือตกปลาที่แม่น้ำ
พวกเขาก็จะพบกับการลาดตระเวนของสาวกแห่งลัทธิเอ็มบินยู และทุกคนก็จะตาย"
"ปราสาทราชสีห์ได้ประกาศรายชื่อผู้ถูกเนรเทศ
บรรดาผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำพูดของพวกเขาจะไม่สามารถใช้พื้นที่ออกล่าของกิลด์ปราสาทราชสีห์ได้
รวมถึงเมืองต่างๆด้วย "
"พวกเขา เป็นคนที่เลวร้ายมาก ๆ "
ภารกิจของวีดส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการเอาชนะปีศาจจากฝ่ายตรงข้าม
ในขณะที่หลายคนเรียกบาร์ดเรย์ว่า พระเจ้าพวกเขาต้องยอมรับว่าเขาควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามากเกินไป
หลังจากภารกิจก่อนหน้านี้ การกระทำผิดของกิลด์เฮอร์มีสก็รุนแรงพอที่จะกล่าวถึง
"ฉันคิดว่าคุณวีดควรจะชนะ"
"พวกเขาต่อสู้กันเพียงครั้งเดียว
และไม่ใช่การต่อสู้อย่างยุติธรรม "
"ไอ้พวกเฮอร์มีสนั่น ฉันต้องการให้ใครสักคนกระทืบพวกมัน "
บรรดาผู้คนมักชอบพระเอกผู้ที่ก้าวต่อไป และลุกขึ้นแม้จะพบกับความทุกข์ยาก
ขณะที่แฟน ๆ ของวีดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็มีชื่อเสียงและเป็นแรงบันดาลใจมากพอๆกับการชิงชังในตัวบาร์ดเรย์ที่มากขึ้น
"เอาล่ะ พวกเราจะดำเนินการถ่ายถอดวิดีโอที่ท่านผู้ชมคาดหวัง"
KMC Media ฉายวิดีโอบนหน้าจอ
คราวนี้ไม่ใช่การออกอากาศพิเศษของ KMC Media สถานีอื่น ๆ
ก็เริ่มออกอากาศในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าภารกิจระดับปรมาจารย์ของบาร์ดเรย์ยังคงดำเนินไปเรื่อย
ๆ เรทติ้งกลับไม่สามารถเปรียบเทียบกับการออกอากาศในปัจจุบันได้
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เพลงของฮวายองนั้นให้ความรู้สึกซาบซึ้ง เพลงที่ดีมักจะมีพลังที่จะทำให้ผู้คนมีความสุข
เขาตระหนักดีว่าเพลงที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างไร
- นักรบซัลเลี่ยน 3,022
ได้ฟังเพลงและส่งเสียงเชียร์
พวกเขาไม่เข้าใจเนื้อเพลงเลยสักนิด
แต่พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่ดีคือมีการแสดงที่ฉูดฉาดของสาวสวย
พวกนักรบซัลเลี่ยนที่เป็นเพศผู้ ดังนั้นพวกเขาจึงชื่นชอบยามเมื่อพวกมันพบเห็นหญิงสาวที่งดงาม
ค่าชื่อเสียงเพิ่มมา 131
แต้มจากการทำให้จิตใจของพวกมันหวั่นไหว
วีดมีอารมณ์ความรู้สึกมากมาย
"แน่นอน ... มันก็เหมือนกับหมอฟันนั่นล่ะ
"
ใจความหลักของเพลงนั้นประมาณว่ามีใครสักคนหนึ่งที่มีลูกฟันผุ
แล้วอยู่ดีๆก็ได้แต่งงานกับหมอฟัน ผู้ที่เป็นหลักเป็นฐานจนหลายคนต้องการเป็นสามี ข้อความเกี่ยวกับการดูแลฟันและท่าทางที่ดูไม่น่าหวาดหวั่นสักเท่าไหร่
แต่กลับทำให้จำฝังใจ
แม้นวีดไม่สามารถร้องเพลงได้ แต่บทเพลงช่วยปลอบประโลมเขา
"ครั้งต่อไป ฉันพอจะมีโอกาสได้ร้องเพลงคู่ไหม
"
“ตกลง!”
วีด และฮวายองตัดสินใจที่จะมีทำการแสดงในภายหลัง
“เฮี้ยกกฮ่า.”
"ข้าได้ยินบทเพลงที่งดงาม นางมีพรสวรรค์
แต่ตอนนี้ข้าหิวแล้ว พวกเราจะจับพวกมันมากิน!”
ชนเผ่าซัลเลี่ยนค่อยๆปรับสถานะจากความประทับใจของพวกมัน
เพลงจบลงแล้ว และพวกมันก็พร้อมที่จะโจมตีอีกครั้ง
ไม่ว่าทักษะการขับร้องของฮวายองจะสูงส่งสักแค่ไหน แต่ผลที่ได้ก็กลับย่ำแย่จากการที่นักรบซัลเลี่ยนฟังมันนานเกินไป
เลเวลของทหารระดับต่ำสุดคือ 200 ขณะที่เลเวลโดยเฉลี่ยต่อตัวอยู่ที่ 300 และมีทหารระดับแนวหน้าอย่างน้อย 1,000 ตน
ที่เป็นระดับขั้นสูงเลวล 420 ดังนั้นจึงยากที่จะจัดการลงได้โดยอาศัยแค่พลังจากพวกประติมากรรมสลักชีพ!
แต่ตอนนี้สัญญาณของประติมากรรมภัยพิบัติเริ่มปรากฏเค้าลางขึ้น
คลุก คลุ คลุก
โขดหินจากหุบเขาเริ่มร่วงลงมาใส่หัวของนักรบซัลเลี่ยน
"นี่มัน ... เอี้ยยยยยก!"
ก้อนหินมากมายจากยอดของหุบเขาหินกลิ้งลงมายังด้านล่าง เหล่านักรบพยายามหลีกเลี่ยงมัน
แต่มีหลายตัวมากที่มารวมตัวกัน และพวกมันก็ร่วงลงไปใส่อีกตัวร่วงลงไปกองทับกัน
"ว้าว ... ทักษะของพี่วีดช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
พวกมันตายมากกว่า 100 ตัว ! "
เซอร์กะชื่นชมมัน
ก้อนหินกลิ้งลงมาและสร้างเสียงร้องระงมของพวกมันที่ถูกทับ
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงเค้าลางจากภัยพิบัติที่แท้จริงเท่านั้น สีหน้าของวีดดูจริงจังขึ้น
"ครั้งล่าสุดที่ฉันใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติตอนอยู่ในราชอาณาจักรโรเซนไฮม์."
เขาใช้มันตอนอยู่บนยอดของพีระมิดเพื่อหนีจากพวกวิหารเอ็มบินยู
อำนาจการทำลายล้างครอบคลุมพื้นที่จนเกิดน้ำท่วม!
"ความใกล้ชิดกับธรรมชาติของฉันมีมากกว่า
1,000 ... .. "
พลังแห่งการทำลายล้างของทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติขึ้นอยู่กับค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติ จากการขายดอกไม้ของเซลิน่ายังมีค่าเพิ่มเติมเพิ่มขึ้น
7% การสร้างอุทยานแห่งทวยเทพ และไอเทมต่างๆ
ก็ทำให้เพิ่มขึ้นอีก 9%
"แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่เพราะไอเทม "
ในขณะที่ออกผจญภัย เขามองดอกไม้ที่เบ่งบานและหญ้าป่าอย่างรอบคอบ
ความผูกพันกับธรรมชาติของเขาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆอย่างช้าๆ
เขายังตัดเอากิ่งไม้แห้งที่ตายแล้วนำไปปลูกไว้ในที่ที่ดีเพื่อให้มันเติบโตได้
การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเช่นโคลนสำหรับเครื่องปั้นดินเผาและสร้างสวนพฤกษศาสตร์ในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนใน
อุทยานแห่งทวยเทพ สวนแห่งพฤกษศาสตร์ธรรมชาติที่ทำให้พลังของพืชมีมากจนล้นพ้น !
สาเหตุที่ทำให้เขาต้องกังวลเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นเนื่องจากทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัตินั่นเอง
"ฉันทำประติมากรรมระดับแม๊กนั่มของราชาแห่งไฟ
ตอนนี้ค่าความสัมพันธ์ของฉันอยู่ที่ 1,291
ถ้าฉันเพิ่มสร้อยข้อมือดอกไม้และประติมากรรมชั้นดีที่ฉันทำแตก ... .. "
เขาคิดว่ามันทรงพลังกว่าเก่า แต่มันก็ไม่อาจเทียบได้กับมาตรฐานที่ทำให้ราชอาณาจักรโรเซนไฮม์เละเทะหากจะเทียบเปรียบกัน
ใบหน้าของวีดแข็งเกร็ง
"ทุกคนมารวมตัวกันใกล้ๆ"
เบลล๊อตถามด้วยสายตาประหลาด
"รวมตัวกันเหรอ?"
มันเป็นคำที่คาดไม่ถึง!
"มันยากที่จะคาดเดาว่ามันจะมีพลังมากแค่ไหน
แต่แน่นอนพวกเราจะถูกกวาดล้างด้วยภัยพิบัติ ถ้าเราไม่ได้อยู่ใกล้กับใจกลางหุบเขาลึก"
วีดตะโกนด้วยทักษะราชสีห์คำราม
"ประติมากรรมสลักชีพทุกตนมาอยู่ใกล้ๆข้าไว้!"
แทนที่จะอยู่กระจัดกระจายอย่างสบาย ๆ พวกเขาต่างรวมตัวกันอย่างหนาแน่นเหมือนกับเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน
วีด เพื่อนร่วมทีม และประติมากรรมสลักชีพของเขาได้ขยับตัวไปใกล้กับลำธารน้ำที่ไหลผ่านใจกลางหุบเขาหิน
“อูววววมออออออออ!”
สัญชาตญาณการอยู่รอดของเจ้าเหลืองของมันบ่งบอกให้มันนำตัวไปแนบติดกับวีด
และมันจะไม่ย้ายไปไหน มันรู้ว่าการได้อยู่กับวีดย่อมเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด!
ฟีนิกซ์ ปิงหลง และสิ่งมีชีวิตตัวอื่นๆที่บินได้รีบบินขึ้นไปบนฟ้า
และหายนะก็เริ่มขึ้นในหุบเขา! เกิดแผ่นดินถล่มในหุบเขาบริเวณจุดสูงชัน
จนดูเหมือนกำแพงหินสูง 2 กิโลเมตรกำลังเริ่มร่วงลงมา
“อ๊ากกกกกกกก!”
"มันร่วงลงมาทับแล้ว!"
"เหล่านักรบซัลเลี่ยนผู้หาญกล้า,
จงหลบมัน!"
พวกนักรบต่างพยายามถอยกลับไปที่ถ้ำ แต่ทางเข้าแคบและทั้งหมดก็กลับกลายเป็นความวุ่นวาย
ในขณะที่พวกมันกำลังพยายามที่จะหลบหนี ก้อนหินตกใส่พวกมัน และพวกมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในก้อนหินลูกใหญ่
“อ๊ากกกกกก
!”
"คลุก คลุก คลุก คลุก"
บรรดานักรบซัลเลี่ยนต่างถูกบดขยี้ตายด้วยก้อนหินเหล่านั้น!
หลายสิบตน นักรบซัลเลี่ยนนับร้อยตนถูกกำจัดอย่างไร้ความปราณี
จำนวนทหารมากมายที่พยายามจะหลบหลีก แต่ก็จบลงที่การตกลงไปในหุบเขาจนไม่สามารถนับได้เลย
พวกมันเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นลงยังพื้นดินหลังจากที่โดนลมพัดแรง
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่นี้ก็ตาม ผลกระทบจากภัยพิบัติก็น่ากลัวมาก
เกิดแผ่นดินถล่มจากทั้งสองด้านของหุบเขา
วีด เพื่อนร่วมทีมของเขา และประติมากรรมสลักชีพสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับสภาพของศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
ในสภาพที่พวกมันตกอยู่ในภาวะวิกฤต ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของหินขนาดมหึมาตกลงมาจากด้านบน
มันมิได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้นและยังคงกลิ้งสู่ใจกลางหุบเขา
วีดพูดออกมาว่า
"นี่เป็นทักษะที่แข็งแกร่งจริงๆ แต่ก็มีผลข้างเคียงเล็ก
ๆ ... .. "
เพื่อนร่วมทีมและประติมากรรมสลักชีพของเขาต่างก็รู้เกี่ยวกับผลข้างเคียง
คำตอบคือชัดเจน ก้อนหินกำลังถล่มลงมาอย่างไร้ความปราณี! ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติอาจส่งผลให้ผู้ที่ใช้มันตายได้เช่นกัน!
"มาตรงนี้!"
"ออกไปทางขวา!"
“ ว๊ากกก!
ก้อนใหญ่จากบนนั้น ...... "
"ว้าว น่าทึ่งมาก!"
"มันน่าตื่นเต้นจริงๆ! มันจะเป็นแจ็คพ็อตถ้าเรารอดชีวิตไปได้
! ไม่ว่าทางไหนก็ดูเหมือนว่าพวกเราต้องตายแน่ๆใช่ไหม? "
"ฉันมีชีวิตที่ดี และไม่เคยทำอะไรแย่ ๆ
ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ ... ?"
”อย่าหลอกกันนะ คุณวีด! ฉันจะให้ 130 ทอง สำหรับซุปที่ทำจากเจ้าเหลือง "
"ครั้งสุดท้ายที่เราออกล่าในตอนเย็น คุณถามว่าฉันต้องการชุปเนื้อใช่ไหม"
"โอ้ ใส่เนื้อซี่โครงลงไปสักหนึ่งชิ้นจะอร่อยมาก"
“อูววมออออออ!”
กลุ่มคนที่รวมกันรับรู้เสียงกระหน่ำของหินที่ตกกระแทกพื้น ละอองน้ำสาดกระจายไปทั่วในขณะที่พวกเขากลัวหินตกใส่!
"พวกเราจะตายมั้ยเนี่ย?"
"พวกเราต้องรอด"
วีดได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า เมื่อเขาตัดสินใจที่จะใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติในหุบเขา มันคือความโชคดีที่เขายึดจุดศูนย์กลางก่อนที่เขาจะใช้ทักษะ
หินหลายก้อนตกลงมาใกล้ ๆ แต่มันก็ไม่ได้โดยพวกเขาโดยตรง
"ตอนนี้ก็สมควรใกล้จะจบแล้วสินะ ......
"
ก้อนหินและกรวดเทลงมาในปริมาณมาก และนักรบซัลเลี่ยนต่างก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งยากที่จะฟื้นตัว
อย่างน้อยนักรบจำนวน 600 ตนล้มตายจากก้อนหิน
"ไม่ได้โกหกกันใช่ไหม?"
เซอร์กะชี้นิ้วไปที่ด้านบนสุดของหุบเขาหิน
มันเป็นสถานที่ที่ยากที่จะมองเห็นจากตำแหน่งของพวกเขา
คลุก ตึง ตึง!
แม้ว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง
แต่ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุใหญ่ขึ้นด้วยจากทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ เมื่อมันสั่น ด้านบนของหุบเขาหินเอียงไปข้างหน้า
และพังทลาย
พวกซัลเลี่ยนได้ใช้ถ้ำเพื่อย้ายไปที่หุบเขา หุบเขาหินถูกเจาะเต็มไปด้วยถ้ำ
ดังนั้นการที่แผ่นดินเคลื่อนตัวหมายความว่าทุกสิ่งอย่างนั้นสั่นสะเทือน คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ส่วนของหุบเขาที่จะยุบทลาย
เสียงกรีดร้องสุดท้ายของวีด!
"ดวงบัดซบของฉัน ...... !"
มันเป็นเรื่องน่าสงสัยว่ามันจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่ไอรีนก็เริ่มร่ายเวทมนตร์ป้องกัน
"โล่ศักดิ์สิทธิ์ !"
แสงแห่งการปกป้องห่อหุ้มล้อมรอบพวกเขาทั้งหมด
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือน และดังสนั่น!
หลังจากนั้นไม่นาน
ฝุ่นก็จางหายไปเผยให้เห็นกลุ่มปาร์ตี้ของวีด และประติมากรรมสลักชีพทั้งหมด
“โอ๊ว พวกเรารอดแฮะ”
“พวกเรายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?
มันรู้สึกเหมือนว่าฉันได้ตายไปแล้ว”
“พวกเรายังไม่ตาย?”
ไม่มีใครตาย แต่ร่างของเซเฟอร์ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด
พวกเขาอยู่ในใจกลางหุบเขาและราชันย์ไฮดราได้ปกป้องพวกเขาจากก้อนหินโดยอาศัยร่างกายของมัน
“โฮรกกกกก,
มันเจ็บ!”
ราชันย์ไฮดรามีพลังชีวิตที่ดีที่สุด ดังนั้นมันจึงไม่ตายง่ายขนาดนั้น
ไม่ว่าจะสูญเสียพลังชีวิตไปเท่าไหร่ มันก็จะไม่ตายอยู่ดีตราบเท่าที่หัวของมันยังไม่ถูกตัดออกจนหมด
แน่นอนว่าเลเวลของมันจากทักษะประติมากรรมสลักชีพไม่สูงมากนัก
จึงทำให้มีการฟื้นตัวของพลังชีวิตค่อนข้างช้า หัวของราชันย์ไฮดรา 2 หัวยังคงมีสภาพสมบูรณ์ ดังนั้นมันจึงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและถามหาของกิน
"มันจะต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่ราชันย์ไฮดราจะกลับเข้ามาร่วมรบได้อีกครั้ง"
วีดได้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว
การถล่มของหุบเขาหินทำให้พวกเขาตกใจ แต่นอกเหนือจากราชันย์ไฮดร้า
ไม่มีประติมากรรมสลักชีพตนใด ได้รับบาดเจ็บอย่างมีนัยสำคัญ
"ปัญหาคือพวกมันโดนถล่มไปกี่ตัว."
การถล่มที่เกิดขึ้นในหุบเขาหิน ประมาณหนึ่งในสี่ของภูมิประเทศได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์โดยภัยพิบัติ
บรรดานักรบซัลเลี่ยนได้รับความเสียหายอย่างมาก
แต่จำนวนผู้รอดชีวิตยังคงมีมากพอสมควร
พวกมันมีค่าพลังชีวิตที่ดีมาก! พวกมันรอดชีวิตมาเหมือนแมลงสาบและผิวสีฟ้าก็เริ่มปรากฏให้เห็นอีกครั้งในหุบเขา
“คูววว์ ฆ่าพวกมัน!”
“ในนามแห่งนักรบซัลเลี่ยน!”
ทหารที่แข็งแกร่งและดื้อรั้นฮึกเหิม หนึ่งในสามของเผ่าต้องตายจากภัยพิบัติ
หุบเขาหินระเบิด ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติของวีดนั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงมีสถานที่น้อยมากที่ไม่ยุบลง
ทหารที่ยังคงมีสภาพดียืนขึ้นถือธนู
"เอาล่ะ ยังไงก็ได้รับความเสียหายจำนวนมากอยู่."
เมื่อมองไปที่ขนาดของหุบเขาหิน วีดคาดการณ์ว่าอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของนักรบจะรอดชีวิตได้
ที่เหลือไม่ตายก็คงได้รับบาดเจ็บขนาดส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อค่าพลังชีวิตของพวกมัน
นักรบซัลเลี่ยนต่างก็เดือดดาลมากยิ่งขึ้น
"ความหายนะในวันนี้มันเล็กน้อย ดังนั้นพวกเราจึงยังคงต้องสู้
"
วีดมีแผนระยะยาวและชั่วร้าย ดังนั้นนักรบซัลเลี่ยนโชคดีที่พวกมันไม่ได้รับความเสียหายมากกว่านี้
นักรบหลายคนได้รับผลกระทบชั่วคราวจากการล้มลง แต่พวกมันก็จะฟื้นตัวขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
"พวกเราจำเป็นต้องโจมตีก่อนที่พวกนั้นจะตื่นขึ้นมา
ทุกคนโจมตี! "
วีดบัญชาการรบกับประติมากรรมสลักชีพของเขา
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติประสบความสำเร็จในการสั่นคลอนศัตรู พวกซัลเลี่ยนพยายามที่จะใช้ภูมิประเทศของเทือกเขาฮาร์เซลเพื่อเอื้อประโยชน์กับพวกมัน
แต่วีดก็ทำลายมันลงเสียก่อน
ตอนนี้ มันเป็นการแข่งกับเวลา!
นอกจากราชันย์ไฮดราที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหนอนดิน
ประติมากรรมสลักชีพส่วนที่เหลือมุ่งไปหาศัตรูอย่างกล้าหาญ เจ้าเหลืองไม่ต้องการต่อสู้
แต่โกล์มินิขี่มันเข้าสู่สนามรบ
"มัลติเปิ้ลช๊อต!"
เพลวาดลูกธนูลงบนคันธนูและยิงใส่ศัตรูอย่างต่อเนื่อง
เมื่อหนึ่งลูกธนูถูกยิง มันกระจายตัวและกลายเป็นลูกธนู 40 ดอกใส่ศัตรูหลายตน
พวกเขามุ่งเน้นไปที่การฆ่าศัตรูแทนที่การเอาตัวรอด ลูกศรถูกยิงไปทั่วใส่พวกนักรบซัลเลี่ยนที่โดนหินหล่นใส่!
"ถ้าฉันทำตามคุณวีด ฉันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไรเมื่อต่อสู้"
มันเป็นสิทธิพิเศษในการสู้รบท่ามกลางหุบเขา เพลเอาลูกธนูออกจากซองธนูของเขาและคาบไว้ในปาก
ก่อนที่จะใช้ความคล่องแคล่วของนักธนูทำการวิ่งยิงไปรอบ ๆ เขากำลังร่นระยะทางไปยังสถานที่ที่นักรบซัลเลี่ยนกำลังดิ้นรนเพื่อลุกขึ้น
เพลยิงลูกธนูจำนวนมากใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้ ๆ นับ 100 ตน
"สถานที่แห่งนี้เหมาะกับรสนิยมของฉัน
ฉันจะกวาดพวกมันให้หมด "
โรมุนะเตรียมร่ายเวทอย่างมีความสุข
ธาราอัคคี!
นักเวทย์มักจะสนุกกับการต่อสู้กับมอนสเตอร์ 3 ถึง 4 ตัวต่อครั้ง
แต่พวกนักรบซัลเลี่ยนได้ติดอยู่กับก้อนหิน ขณะที่ถูกยิงใส่ด้วยธนู จึงทำให้พวกเขาเตรียมการร่ายเวทย์มนต์จนพร้อม
"ฉันจะออกไป ฉันจะทุบพวกมันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมี!
"
เซอร์กะ ที่ยืนอยู่ข้างไอรีนผู้ที่กำลังรักษาราชันย์ไฮดรา และวิ่งออกมาพร้อมด้วยกำปั้นของเธอ
"ถ้าฉันสามารถรอดไปได้จากที่นี่ ... ..
"
เซเฟอร์ยังดึงเบ็ดตกปลาแพลตินัมของเขาออกมาและเพิ่มความยาวของมัน
คันเบ็ดมีน้ำหนักเบาและค่าการโจมตีสูงมากจนน่าแปลกใจ และด้วยอาศัยเอ็นตกปลาจึงทำให้มันสามารถใช้งานได้อย่างอิสระจึงนับว่าเป็นอาวุธจู่โจมระยะไกลที่ยอดเยี่ยม
"ปุ๊ก ปุ๊ก ปุ๊ก ปุ๊ก ปั๊ก!"
ประติมากรรมสลักชีพเสือขาววิ่งไปรอบๆ พร้อมกับขย้ำเหล่านักรบ
อัศวินเซวิลล์ เซอร์บิรุส และเจ้างูชนบทเองก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการที่เหล่านักรบซัลเลี่ยนมีจำนวนมาก
ดังนั้นพวกมันจึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พวกนักรบยิงลูกธนูขึ้นบนท้องฟ้า
ในขณะที่ไวท์เวิร์น ฟินิกส์ และปิงหลง เริ่มเข้าสู่สนามรบ
แม้นพวกมันจะประหลาดใจกับการถล่มของหุบเขา แต่พวกมันก็คิดอย่างรวดเร็วถึงสถานการณ์
"เจ้านายยังไม่ตาย"
"เขาจะไม่ตายจากเรื่องแบบนี้"
"กิ้ว กิ้ว พวกมันตายไปนิดเดียว"
"แช่แข็งพวกมัน"
"ต่อสู้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ถ้าพวกเราไม่ทำเช่นนั้นจะไม่จบแค่การถูกด่าหรอกนะ
"
ปิงหลงหายใจออก และใช้ลมหายใจเยือกแข็งโจมตีพวกนักรบบนผาลาดของหุบเขาหิน
ฟินิกซ์ไปที่อีกฟากหนึ่งของหุบเขาและพ่นลมหายใจแห่งเปลวเพลิง ไวเวิร์นบินไปคว้าจับพวกทหาร!
การต่อสู้ที่สับสนเริ่มเปิดฉากขึ้น ในขณะที่เบลล็อตและฮวายอง
เริ่มเตรียมการร้องเพลงและเต้นอีกครั้ง
ผลกระทบลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อการสู้รบเริ่มขึ้น
แต่พวกเขาก็สามารถเพิ่มพูนความสามารถของเพื่อนร่วมทีมได้
มีเพียงวีดที่ยังไม่ได้ออกไปสู้
"ฉันไม่รู้ว่ามานาของฉันจะเหลืออีกมากแค่ไหน
ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ฉันก็สามารถนำพวกเขามาด้วยความลึกลับแห่งศิลป์ อัญเชิญประติมากรรม!
"
มันเป็นเวทย์ที่ใช้อัญเชิญประติมากรรมที่เขาแกะสลักไว้แล้ว!
พวกนักรบซัลเลี่ยนฟื้นขึ้นมา มีเสียงจากการต่อสู้และเศษหินชิ้นเล็ก ๆ ล่วงตกลงมา
ธาราอัคคีของโรมุนะได้กวาดนักรบเพียงไม่กี่คน วิหคทอง และวิหคเงินก็ต่อสู้เคียงข้างกัน
ถ้านี่เป็นการต่อสู้ปกติแล้วนี่จะเป็นจุดสูงสุดแห่งพลังของมัน
มีความแตกต่างอย่างมากเมื่อเขาพ่ายแพ้ให้กับบารด์เรย์ และการเตรียมการต่างๆที่เขาทำในภายหลัง
รูปแบบของประติมากรรมของวีดค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน
มันคือนักรบแห่งความโกลาหล คูบิยะ! จากการออกต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่เคยปะทะด้วย! วีดเคยตามล่าเหล่านักรบแห่งความโกลาหล เมื่อเขาอยู่ในลาสฟาลั้งค์
นักรบตนนี้มีกล้ามเนื้อหนา วีดยังทำให้ใบหน้าของมันแสดงออกถึงความรู้สึกที่เข้มแข็ง!
จากดวงตาทั้งสองดวงนั้น
ถ้าเขาปรากฏตัวในวันนัดบอด คู่ของเขาจะคุกเข่าลงด้วยความกลัว
จบตอน
ผู้แปล
: Smith REX
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ คุ้มค่าแก่การรอครับ
ตอบลบขอบคุนคร๊าบ มาเร็วกว่ามาเร็วกว่ากำหนดนะครับ อิอิ ^^
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณหลายๆๆเป็นกำลังใจให้นะ
ตอบลบ