เล่ม
30
ตอนที่ 2: อัศวินโลกันตร์(Fire Warrior อ้างอิงเล่ม 20-7) แปลโดย Smith REX
"จริงๆ แล้ว ราคาก็ไม่เท่าไหร่
"
วีดมองไปที่ประติมากรรมด้วยความพึงพอใจ
เขาได้ทำรูปสลักของนักรบแห่งความหายนะคูบิยะโดยใช้วัสดุที่เขาได้รับจากราชาเบลซ์ออส
"แม้มันจะมีราคาแพง แต่ฉันก็จะใช้มันอย่างดี"
เขารีไซเคิลวัตถุดิบนำมันกลับมาใช้ใหม่
วีดใช้ทักษะแกะสลักลับ
"ประติมากรรมจำแลง!"
ประติมากรรมจำแลงถูกเปิดใช้งาน
จากความรักไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับการแกะสลักทำให้ประติมากรและรูปปั้นหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง!
|
เขาตัวสูงขึ้นถึง 2
เมตร 20 เซนติเมตร เปลวเพลิงปะทุทั่วทั้งร่าง
รูปร่างของคุณเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนั้นอุปกรณ์หลายชิ้นจึงไม่สามารถใช้งานได้
|
เมื่อสวมชุดเกราะ ค่าความทนทานจะลดลงจากเปลวไฟที่หลอมละลาย
|
จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใหม่ให้เหมาะสมกับเผ่าพันธุ์
|
ประติมากรรมจำแลงจะเปลี่ยนคุณให้เป็นเผ่าพันธุ์ที่ควบคุมเปลวเพลิง
|
เผ่าพันธุ์นี้สามารถใช้เวทมนตร์เฉพาะคือการเคลื่อนย้ายในระยะทางสั้นๆได้
|
ค่าสถานะทางศิลป์ของคุณได้หายไป และค่าความแข็งแรง
ความคล่องตัวและค่าภูมิปัญญาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
|
การดำเนินการนี้จะใช้เวลาจนกว่าประติมากรรมจำแลงจะถูกปลดออก
|
วีดไม่ได้สวมเกราะฮีเลียม
และอุปกรณ์อื่น ๆ จากในกรณีนี้ที่มันอาจจะได้รับความเสียหาย.
เขามีขวานไฟและเข็มขัดหนังที่มีความต้านทานพิเศษที่เขาได้มาจากพวกนักรบแห่งความโกลาหลในลาสฟาลั้งค์
แต่ยังไงซะอาวุธที่เป็นถึงยูนิคไอเทมก็ไม่ได้มีความจำเป็นสำหรับวีด
ดาบมังกร ดาวสีชาด(The
Dragon Sword, Red Star )
เมื่อรวมอุปกรณ์ที่ผู้เล่นทั้งหมดพกติดตัวไว้อาจเรียกได้ว่าเป็นดาบที่ดีที่สุด
"ฉันไม่สามารถใช้ดาบมังกรนี้ได้เลยสักครั้ง
นับตั้งแต่ที่ฉันได้มันมา ตามความสัตย์จริง ฉันเพียงแค่โชคดีที่สามารถเอามันมาได้
... เอาเถอะ ตอนนี้ก็ถึงเวลาสู้สักที "
วีดเอาดาบดาวสีชาดออกมา
และเขาค่อยๆดึงดาบออกจากฝัก
ซู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟุ่ม!
มีเสียงขณะที่ดาบถูกชักออกมาคล้ายเสียงเพลง
เป็นเสียงที่วีดนั้นโปรดปราน
- ดาบมังกร ดาวสีชาดได้รับการติดตั้งแล้ว
|
จากการที่คุณขาดขีดจำกัดของเลเวล และค่าความต้านทานไฟ แต่ด้วยทักษะช่างตีเหล็กของคุณจึงสามารถใช้อาวุธนี้ได้
|
คุณจะไม่เหนื่อยเมื่อทำการใช้ทักษะ
|
คุณจะเคลื่อนย้ายได้เร็วขึ้นและมีโอกาสที่การโจมตีของศัตรูจะพลาดเพิ่มขึ้น.
|
การโจมตีจะทะลวงเข้าสู่เกราะของฝ่ายตรงข้าม ไม่สนใจการป้องกันเวทย์และสามารถทะลุลวงผ่านไปได้
|
ความน่าจะเป็นในการสร้างอาการบาดเจ็บรุนแรงจะเพิ่มขึ้น
และจิตวิญญาณต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามจะลดลง
|
พลังแห่งไฟจะเพิ่มเป็นสองเท่า
|
พลังแห่งไฟที่เพิ่มขึ้นมาจะส่งผลต่อค่าการทำลายล้างของดาบให้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
|
ความต้านทานเวทมนตร์ + 30%
|
เวทย์มนต์ที่บรรจุอยู่ในดาบจะส่งผลต่อมอนสเตอร์ที่เลเวลต่ำกว่าระดับกลางนั้นหวาดกลัว
|
พลังแห่งทักษะการโจมตีจะเพิ่มขึ้น
|
คุณมีความสามารถในการควบคุมไฟ
|
เทคนิคที่เก็บไว้ในดาบสามารถใช้ได้
|
ลูกศรเพลิง, เพลิงพิโรธ,ระเบิดเพลิง, เพลิงสิ้นสูญ, ดาบจากนรก,
อัญเชิญไฮดราไฟ
|
คุณไม่สามารถใช้ทักษะพิเศษของดาวสีชาด เนื่องจากค่าความรอบรู้
ค่าสติปัญญาและมานาไม่เพียงพอ
|
โลกาดับสูญไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากความสามารถไม่เพียงพอในความเชี่ยวชาญดาบ
และมานา
|
นักรบแห่งความหายนะเป็นเผ่าที่ควบคุมพลังแห่งไฟ
|
ดาวสีชาด : เมื่อโจมตีด้วยไฟ
คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นค่าพลังชีวิต และมานา
|
ค่าพลังชีวิตสูงสุด และมานาจะเพิ่มขึ้น 120% และอัตราการฟื้นตัวจะเพิ่มเป็นสองเท่า
|
เปลวไฟสีขาวบริสุทธิ์แผดเผารอบร่างของวีดจนเปลี่ยนร่างเป็นนักรบแห่งความหายนะ.
ค่าสถานะทางศิลป์ของเขาหายไปหลังจากใช้ประติมากรรมจำแลง
ในขณะที่ค่าสถานะอื่นๆของเขาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ตัวดาบเองก็ได้มอบผลเพิ่มเติม
"นี่คงเป็นความรู้สึกของผู้เป็นนายเหนือหัวสินะ?"
เมื่อวีดเปลี่ยนเป็นลิซ เขาสามารถสวมใส่ไอเทมของบัลข่าน
และอันเชิญอันเดธ มีผลข้างเคียงที่ไม่ดีอยู่บ้างกับพลังของ อันเดธ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็ได้รับการพิสูจน์มาแล้วหลายครั้ง
วีดมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมอันเดธ และมันก็เจ๋งพอจนมีผู้ชมติดใจที่มีการนำมาฉายซ้ำอีกครั้ง
หุบเขาหินที่ยุบตัวลงนั้นเต็มไปด้วยร่างของเหล่านักรบนั่นหมายความว่าเขาสามารถอัญเชิญกองทัพอันเดธ
ถึงอันเดธจะมีพลังมาก แต่ตอนนี้มันกลับเป็นไปไม่ได้ เมื่อประติมากรรมสลักชีพและเพื่อนร่วมทีมของเขายังคงอยู่ภายใต้การถูกโจมตี
เขามีความหวงแหนอย่างมากต่อประติมากรรมสลักชีพของเขา
เช่น โกลด์มินิผู้ที่เลือกจะตายเพื่อเขา เจ้าเหลืองผู้ที่คอยคุ้มกันภัยของเขา และไวท์ทรีที่เขาคอยขี่อยู่เสมอ
"ฉันต้องการให้พวกมันทำงานตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
ถ้าพวกมันตายที่นี่ ฉันก็จะเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหาย เรียกขานเดธไนท์แวนฮอกค์ เรียกขานแวมไพร์ลอร์ดโทริ!”
"แล้วแต่นายท่านจะบัญชา"
"ปกป้องสถานที่แห่งนี้
ปกป้องราชันย์ไฮดรา "
“ขอรับ”.
แวนฮอกค์ และโทริเป็นผู้อยู่ใต้อาณัติของเขา
ดังนั้นพวกมันจึงมาเมื่อใดก็ตามที่เขาเรียก วีดมองไปที่หุบเขาหินและใช้ทักษะ
“บลิ้ง(Blink
ก้าวพริบตา)!”
ในขณะที่วีดปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังนักรบซัลเลี่ยนผู้หนึ่ง
ตนที่เพิ่งยิงธนูออกมา
“เคี๊ยก?”
ซัลเลี่ยนเป็นเผ่าสัตว์เลื้อยคลาน
ดังนั้นเปลวเพลิงถือเป็นดาวข่มของพวกมัน วีดกวัดแกว่งดาบที่ห่อหุ้มไปด้วยเปลวไฟและฟันมันลงมา
- พลังแห่งไฟได้ระเบิดร่างนักรบอย่างรุนแรง
|
พวกมันต่างสูญเสียพลังในการต่อสู้
|
“บลิ้ง!”
วีดขยับตัวไปตามหุบเขาหินอย่างต่อเนื่อง
และจัดการพวกที่กำลังยิงธนู. เมื่อวีดเหวี่ยงดาบอย่างต่อเนื่อง ก็ปรากฏเป็นเสาเพลิงสูงแปดเมตรปรากฏออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ
ศัตรูไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงเมื่อพลังชีวิตลดลง
ถ้าพวกมันตกลงมาจากหน้าผาสูงแล้วพวกมันก็จะตายจากแรงกระแทก!
บัดนี้ศัตรูทางธรรมชาติของเผ่าซัลเลี่ยนก็คือวีดนั่นเอง
"กำจัดเจ้ามนุษย์ไฟ"
"ไอ้นั่นเป็นตัวอันตรายที่สุด"
ลูกธนูต่างถูกยิงมุ่งเน้นไปที่วีด
ลูกธนูนั้นถูกยิงออกมาจากฝั่งตรงข้ามกำแพงหิน
“บลิ้งค์!”
วีดใช้การเทเลพลอตในระยะสั้น ขณะที่ถูกโจมตี
ดังนั้นเขาจึงหลบพ้นไม่ได้รับความเสียหายใดใด นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมวีดต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อต้องล่านักรบแห่งความหายนะ
และ คูบิยะ
เขาพยายามเลียนแบบพลังและความรู้ของนักรบแห่งหายนะ
วีดใช้ข้อได้เปรียบอย่างเต็มที่จากพลังแห่งดาบและตลบหลังด้วยก้าวพริบตา
"ระเบิดเพลิง!"
บอลเพลิงโผล่ออกมาจากดาบและกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางก่อให้เกิดการระเบิด!
บรรดานักรบซัลเลี่ยนต่างก็ได้รับความเสียหายอย่างมากและร่วงลงกับพื้น
โดยปกติมันเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเผ่าซัลเลี่ยนในการปิดล้อมศัตรูจากที่กำแพงสูง
แต่ในหุบเขาหินที่ลักษณะทางภูมิศาสตร์สูงชันเช่นนี้
พวกมันกลับได้รับความเจ็บปวดจากการระเบิด และร่วงลงมา ซึ่งก็คือจุดจบของพวกมัน
เนื่องจากการผสมผสานระหว่างทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติและประติมากรรมจำแลง
หุบเขาหินนี้จึงกลายเป็นสุสานของพวกซัลเลี่ยน
วีดบลิ้งค์ไปโผล่ข้ามไปมาระหว่างทั้งสองด้านของหุบเขาและจัดการพวกนักรบที่ถือคันธนู
"ธนูของพวกซัลเลี่ยนไม่กระจอก ถึงจะมีข้อจำกัดของเลเวลที่ต่ำ
และขีดจำกัดจากการไร้สายพันธุ์ แต่ยังไงซะธนูเหล่านี้กลับมีทักษะการยิงอย่างรวดเร็วมาทดแทน
ดังนั้นมันน่าจะขายได้ราคาดี ข้าจะได้ราคาสูงสำหรับมัน. "
ผู้คนจากตอนกลางทวีปมาตั้งรกรากอยู่ในโมราต้า
ดังนั้นเขาจะสามารถขายอาวุธเลเวล 300 ออกไปได้อย่างง่ายดายแล้วตอนนี้ เขายังคงต่อสู้หลังจากตรวจสอบไอเทม
"มันกำลังมาทางนี้
ช่วยด้วย!"
“อุว๊ากกกกก ข้าไม่อยู่แล้ว. "
“เอื๊อก.”
“คิยาห์!”
พวกซัลเลี่ยนต่างถูกสะกดข่มด้วยพลังของดาบดาวสีชาด
และพวกมันก็ไม่สามารถเย็นใจกับวีดได้
ลูกธนูโจมตีช้าลงและประติมากรรมที่บินได้สามารถบินไปบนหุบเขา ประติมากรรมสลักชีพและเพื่อนร่วมทีมของเขากำลังต่อสู้ไปด้วยกันอยู่ที่ด้านล่างของหุบเขา
มีพวกซัลเลี่ยนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บและอ่อนล้า
จากการถล่มของหินและมีส่วนน้อยที่ตายระหว่างการต่อสู้
"เราคือนักรบผู้ปกครองเทือกเขาฮาร์เซิล
และเราจักขับไล่ผู้บุกรุก ณ ที่แห่งนี้ เรายังคงมีพลังอำนาจมหาศาล! "
"กำจัดศัตรูให้สิ้นซาก แก้แค้นให้กับพวกของเราด้วยมือของพวกเรา!
"
ผู้อาวุโสของเผ่าพยายามที่จะเพิ่มขวัญกำลังใจของเหล่านักรบอีกครั้ง
ขวัญกำลังใจและการจัดทัพในการสู้รบถือเป็นเรื่องสำคัญในการรบอย่างใหญ่หลวง วีดปรากฏข้างๆเหล่าผู้อาวุโส
"มันมานี่แล้ว เรียกกำลังเสริม
"
"มันเป็นหัวหน้าของพวกผู้บุกรุก
ดังนั้นเราต้องฆ่ามัน!"
ผู้คุ้มกันเหล่าผู้อาวุโสยกหอกของพวกมันขึ้น
เลเวลของพวกมันสูงกว่าเลเวล 420 เล็กน้อย
วีดร่ายสกิล
"เพลิงพิโรธ!"
เสาเพลิงเผาผลาญเหล่านักรบนั้น ส่วนที่ดีที่สุดสำหรับดาบดาวสีชาดนั่นคือความสามารถในการกำจัดพลังการต่อสู้ของศัตรูเมื่อการโจมตีประสบความสำเร็จ
เมื่อตกอยู่ในเปลวเพลิงแล้วก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูด้วยการเยียวยาจากนักบวช
นอกจากนี้นักรบแห่งหายนะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีค่าพลังชีวิตและมานาเติมเต็มไปด้วยธรรมชาติจากเปลวเพลิงที่ปล่อยออกมาจากดาบดาวสีชาด
มันเหมือนกับแวมไพร์ที่ได้รับเลือดจากหญิงสาวใดก็ตาม
ในสถานการณ์เช่นนี้แวมไพร์จะสามารถต่อสู้กับใครก็ตามที่แข็งแกร่งกว่าและสามารถเอาชนะได้
ความสามารถของเขาในการใช้ทักษะโจมตีด้วยเวทมนตร์
ได้เปลี่ยนความสามารถในการสู้รบของเขาอย่างสมบูรณ์ วีดใช้ทักษะของดาบมังกร และนักรบแห่งหายนะ
เพื่อกำจัดศัตรูของเขาด้วยความสามารถพิเศษอันน่าตื่นตา! ทุกๆที่ที่เขาเดินผ่านจะแหลกสลายไปด้วยเปลวไฟ
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะหยิบของที่ดร๊อปมาจากพวกซัลเลี่ยน
ซัลเลี่ยนผู้ปกครองเทือกเขาฮาร์เซิลมาเป็นเวลายาวนาน ดังนั้นพวกมันจึงสมควรมีของราคาแพงให้ปล้นอยู่บ้าง
“เหล่านักรบเอ๋ย นักรบหญิงผู้นั้นดูอ่อนแอ กำจัดผู้หญิงคนนั้นเสีย "
เหล่าผู้อาวุโสบางตนคิดเล่นงานประติมากรรมสลักชีพเจอร์นิก้า
เธอเป็นนักรบคนเถื่อนผู้ที่ต่อสู้ด้วยอาวุธทั้งสองมือ เธอมักตกเป็นเป้าหมายของศัตรูจำนวนมาก
หัวของหนอนแห่งความตายโผล่ขึ้นมาตรงบริเวณเหล่าผู้อาวุโส
และมันก็เขมือบพวกผู้อาวุโสเข้าไป หนอนแห่งความตายเป็นเพียงแค่ไส้เดือนดินเท่านั้น
มันมักจะจู้จี้จุกจิกกับอาหารการกินพอสมควร ดังนั้นมันจึงดิ่งไปหาผู้บัญชาการก่อน ถึงมันจะแตกตื่นตอนหุบเขาหินพังทลาย
แต่ท้ายที่สุดมันก็ได้เปิดฉากการต่อสู้เสียที
ในขณะที่ราชันย์ไฮดรากำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือของไอรีน
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
การสู้รบ ณ หุบเขาหิน !
ภารกิจของวีดได้ถ่ายทอดสดและก่อให้เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่
การถล่มถลายของหุบเขาหินเป็นภาพที่ตกตะลึงซึ่งเกินขอบเขตจินตนาการ และศักยภาพของเหล่าประติมากรรมสลักชีพ!
ปิงหลงมีความแข็งแกร่ง
|
เต็มเปี่ยมไปด้วยความอหังการ
พวกมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถท้าทายกับมันได้
|
เฉกเช่นเดียวกันกับฟินิกซ์
มันปลดปล่อยเวทย์ไฟเป็นวงกว้างช่างน่ากลัวจริงๆ
|
บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของวีดนั้นร้ายกาจไม่ใช่เล่นจริงๆ
|
ทักษะสุดยอดของฟีนิกซ์คือการสลัดขนกระจายออกและเผาผลาญทุกสิ่งในหุบเขาหิน
เหล่าประติมากรรมสลักชีพล้วนมีทักษะพิเศษเฉพาะไม่ซ้ำกัน แต่ล่ะอย่างนั้นช่างน่าตื่นตาตื่นใจ
ภาพของทักษะเหล่านี้ถูกนำมาใช้อาละวาดในหุบเขาหินแห่งนี้จนเป็นฉากอลังการงานสร้าง
ประติมากรรมสลักชีพนั้นได้รับความนิยมอย่างมากจนเริ่มมีแฟนคลับคอยติดตาม
ผู้ชมยังไม่อาจมองข้ามเจ้าเหลือง, ปิงหลง และไวเวิร์น
พวกมันเป็นที่นิยมอย่างมากในโมราต้า และมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้หลายครั้ง มันถึงขนาดที่ว่าเหล่าพ่อครัวในรอยัลโร๊ดต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นไอศกรีมปิงหลง
และไก่ย่างไวเวิร์น!
ผู้ชมยังตั้งข้อสังเกตความสามารถในการต่อสู้ของวีด
มันแตกต่างจากที่เขาเคยต่อสู้มาก่อน
|
ดูเหมือนว่าเขาจะเอ่อล้นไปด้วยพลังอำนาจที่ไม่สามารถควบคุมได้
|
ฉันอยากเห็นอะไรแบบนี้ นี่คือวีดจากคอนทิเนนท์ออฟเมจิค
ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อฆ่ามอนสเตอร์!
|
อู้หู ... ฉันอยากเห็นการต่อสู้แบบนี้สักครั้งจริงๆ
แต่ในความเป็นจริงก็คือฉันคงได้แต่วิ่งหนีเท่านั้น
|
เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ก็ตายด้วยน้ำมือของบราด์เรย์นิ?
|
ผมสงสัยว่ามันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลัง
บางทีเขาอาจจะได้รับเงินมา ถ้าไม่อาศัยเงินจำนวนมากมีหรือที่เขาจะทำอย่างนั้นได้
?
|
คุณวีดไม่ทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด อย่าพูดจาส่งเดช
หากเอ็งยังไม่รู้จักคุณวีด
|
คุณวีดที่ฉันชอบนั้นคือความบริสุทธิ์และไม่เน่าเหม็น
ดังนั้นอย่าใช้ทฤษฎีสมคบคิดเช่นนี้
|
แต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆ
สมกับเป็นวีดจริงๆ
หัวใจหนูเต้นรัวเมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นเขา!
|
การต่อสู้ที่ร้อนแรงในคราบนักรบแห่งหายนะ
!
ผู้ชมได้แต่รู้สึกตื่นเต้นกับการที่พวกเขาเฝ้าดูวีดต่อสู้ ขณะที่พวกมันสาละวนอยู่กับการสู้รบ
เขาก็จัดการกับผลธนู และพวกผู้อาวุโส
แน่นอนว่านั่นเป็นเพราะความโลภอยากกวาดไอเทมของพวกมัน
แต่บรรดาผู้ชมต่างหลงใหลในการต่อสู้ที่รวดเร็วและทรหดโหดหิน
โดยปกติพวกเขาจะเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง
ยืนยันค่าพลังชีวิต และเติมเต็มไปด้วยพรจากเวทมนตร์ และต่อสู้อย่างมั่นคง
ถ้าคุณอยู่ในสงครามแล้วจะไม่ใช่ว่ามีเพียงคำตอบเดียวที่ถูกต้องคือ
การครอบครองคือทุกอย่าง?
|
ฉันรู้ว่า.
วีดต่อสู้ได้สมชายชาตรี!
|
ไม่เพียงแต่พลังของเขาจะแข็งแกร่งเท่านั้น
เขายังมีทักษะในการบัญชาการรบที่ยอดเยี่ยม การดำเนินการทางยุทธวิธีที่มุ่งเน้นประติมากรรมสลักชีพและเพื่อล่อให้ศัตรูตกหลุมอย่างสมบูรณ์โดยไม่อาจถอนตัว
ทุกครั้งที่วีดชี้นิ้ว และบัญชาการรบ
บรรดาประติมากรรมสลักชีพจะกำจัดพวกซัลเลี่ยน มันเหมือนกับยามที่เขาสั่งการกองเรือรบผีสิง.
แน่นอนว่าเสียงของสนามรบนั้นดังมากจนกลบเสียงของวีดดังนั้นผู้ชมจึงไม่ได้ยินคำพูดของเขา
- เจอร์นิก้าห้ามถอย วินเด็กซ์แกเข้าไปปะทะมากขึ้นอีก
แกนี่ยังเล่นไม่พออีกหรือไง? ตอนนี้ฆ่าพวกมันซะ!
งูชนบทไม่เพียงแค่ฉกใส่พวกมัน ต้องใช้พิษของแกด้วย
-เจ้าหนอนดิน! ทำไมเอ็งถึงนอนอู้อยู่ในดินนานกว่า
20 วินาที?
พายุแห่งความจู้จี้จุกจิก!
ถ้ามีใครตกอยู่ในอันตรายแล้วเขาจะช่วยพวกเขาด้วยการใช้การเทเลพลอตระยะสั้น มันแตกต่างจากที่ผู้เล่นอื่นที่จัดการกับผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขา
บาร์ดเรย์จงใจโยนคนของเขาเข้าสู่อันตราย
|
ข้าไม่รู้จักตัวตนเนื้อแท้ของผู้ชายคนนี้ จะเปรียบกับอะไรดี? นี่คือความแตกต่างในความสามารถของผู้บัญชาการที่แท้จริง
|
หวา! ฉันอยากเจอการต่อสู้แบบนี้บ้าง
|
นอกจากนี้ผู้คนยังมีอารมณ์ร่วมด้วย
ฉันยังสามารถต่อสู้แบบนั้นได้
ถ้าพวกเขามีเลเวลสูงและสวมใส่ไอเทมที่ดีทุกคนจึงจะสามารถกระทำเช่นนั้นได้
|
ตื่นเถอะ.
ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์นั้นคุณอาจจะถูกฆ่าตายในเวลาเพียงไม่กี่นาที.
|
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวีด
ปฏิกิริยาตอบโต้ และการตัดสิน เขานำมาใช้ประโยชน์ทุกอย่าง
ฉันจะสามารถต่อสู้กับการสู้รบระยะประชิดเช่นนี้ได้หรือไม่?
|
เพ้อเจ้อ.
เอ็งไม่ใช่คนเดียวที่สามารถเล่นรอยัลโร๊ด
บางทีแม้แต่กระต่ายเอ็งก็ยังฆ่าไม่ตายเลย
|
ผู้ชมไม่สามารถละสายตาจากโทรทัศน์ได้เนื่องจากการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
มันคล้ายกับการดูหนังและองค์ประกอบที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ของวีด ทำให้มันสนุก
เขาวางแผนที่จะทำลายศัตรูในหุบเขาหินที่เสียเปรียบ
แม้ว่าเขาจะระมัดระวังในการก่อให้เกิดภัยพิบัติ
แต่มันก็ยังยากที่จะควบคุม เขาไม่ควรใช้ทักษะของเขา และต่อสู้กับศัตรูในเขตรอบนอกของเทือกเขาฮาร์เซล.
แต่วีดมุ่งมั่นที่จะทำมัน
"ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ฉันสามารถตีฝ่าพวกมันและหลบหนี
ฉันสามารถถอยและใช้หน้าผาหรือภูเขาที่ด้านหลังของฉันเพื่อป้องกันและยึดที่มั่นไว้อย่างน้อย
3 เดือน ฉันสามารถล่าสัตว์กินได้ ดื่มน้ำฝนเพื่อประทังชีวิตมันดูจะสมเหตุสมผลอยู่นะ.
"
จนถึงตอนนี้เขาสามารถทนได้โดยการใช้ประติมากรรมสลักชีพของเขา
คนดูได้แต่ตื่นเต้นไปกับการต่อสู้
"เขาโง่เง่าตกลงในกับดักของพวกซัลเลี่ยน"
"แผนการของเขาที่จะสวนกลับด้วยการซุ่มโจมตีถือว่าสมบูรณ์แบบ
แต่วีดคงไม่สามารถคิดได้ระดับนั้น อา, น่าเสียดายมาก "
เมื่อการสู้รบเริ่มขึ้น คนดูที่ติดตามความคืบหน้าถอนหายใจลึก
ๆ แต่เพียงไม่นานพวกเขาก็เปลี่ยนคำพูดของพวกเขาและยุ่งอยู่กับการยกย่องเขา
“โอ้อออ! ผู้ใต้บังคับบัญชาของวีดมีความสามารถในการสู้รบช่างยอดเยี่ยมนัก
"
“อาวุธนั้นมาจากนักรบแห่งหายนะคูบิยะ จากสิ่งที่ฉันได้ยินก็คือ มันเป็นอาวุธของมังกร
"
"ความจริงที่ว่ามันเป็นอาวุธของมังกรยังไม่ได้รับการยืนยัน
ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังโจมตีมากมายเหลือล้นและเป็นไอเท็มที่สามารถใช้เวทย์ไฟได้
"
"มันวิเศษมาก!
คุณเห็นมันตอนนี้หรือไม่? ดาบเผาผลาญลูกธนูทั้งหมดที่ยิงเข้ามา
ความกล้าได้กล้าเสียในการกระทำของเขา คงมีวีดคนเดียวที่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้
"
"คุณพูดเกี่ยวกับวีดตั้งหลายครั้งในการออกอากาศไม่ใช่หรือ?"
มีการถ่ายทอดโชว์คำชมเชย
สถานีเกม LK
เพิ่งจะกลายเป็นมิตรกับกิลด์อันทรงเกียรติ รวมถึง กิลด์เฮอร์มีสด้วย
พวกเขาคำนวณเอาไว้อย่างดีด้วยกองกำลังขนาดใหญ่ย่อมมีความปลอดภัยจากวิดีโอการสู้รบ
ส่วนแบ่งของเงินที่ได้รับจากโฆษณาในระหว่างการออกอากาศยังจำเป็นจะต้องจ่ายให้กับกิลด์อันทรงเกียรตินั้น
แต่ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับผู้ชมที่คาดไว้ในการออกอากาศของวีดได้
ผู้นำเสนอรู้ว่าผู้ชมต้องการอะไรดังนั้นพวกเขาจึงไม่หยุดชื่นชมวีด
"โอ้ว, วีด ... "
"การจู่โจมด้วยลูกธนูเริ่มเตรียมพร้อมที่จะจัดการเขา
และพวกนักรบกำลังรวมตัว เขาคงยังไม่รู้เกี่ยวกับมันอีกรึ "
"เขาอาจจะไม่มีมานาเพียงพอที่จะหลบหนี"
"มันเข้าขั้นวิกฤตแล้วนะ!"
สถานียกระดับความตึงเครียดในขณะที่กำลังเฝ้าดูความคืบหน้า
การถ่ายทอดสดที่ยิ่งใหญ่กว่าการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ!
"วีดได้ร่วงลงไปในหุบเขาหินเนื่องจากการโจมตีของศัตรู!"
"เขาตกลงมาจากที่สูงมาก
ดังนั้นวีดควรจะได้รับแรงกระแทกรุนแรง"
"อ่า ... แต่ไม่เป็นเช่นนั้น!
เขาเดินผ่านอากาศด้วยการใช้ทักษะก้าวพริบตาอย่างต่อเนื่อง! "
"ตามที่คาดไว้ เขาควบคุมมันได้อย่างคล่องแคล่วมาก
เขาช่างน่าทึ่งในการจัดการทักษะ "
พวกเขายุ่งมากในการติดตามวิดีโอ
"วีดอยู่บนพื้นดิน ตอนนี้เขากำลังหัวเราะกับสิ่งที่เขาปล้นมาได้!
"
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดใช้เวทมนตร์ของดาวสีชาดหลายครั้ง
มันช่างเป็นความรู้สึกราวกับนั่งแท็กซี่ขาซิ่งหลังจากโหนรถเมล์มาตลอด
"ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเก็บเกี่ยว!"
มีพวกซัลเลี่ยนหลายตัวได้รับบาดเจ็บกระจัดกระจายอยู่ในหุบเขาหินมากมาย
จากการที่วีดสอยพวกมันลงมา หลังจากกลายร่างเป็นนักรบหายนะ เขาก็ไม่ได้สวมเกราะใดๆ
เขาสามารถฝืนทนด้วยความอดทนและความยืดหยุ่นที่นับว่าเป็นทุนเดิมของเขา
อาศัยดาบดาวสีชาดและความสามารถพิเศษของเขาย่อมไร้ปัญหายามสู้รบกับพวกซัลเลี่ยน
การเคลื่อนที่เข้าหาให้อยู่ในระยะดาบ และความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิต นั่นหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพลังชีวิตของเขาจะลดลง!
"ถอยทัพ!"
เหล่าผู้อาวุโสของชนเผ่าก็ตัดสินใจถอยทัพ
จากนั้นบรรดานักรบต่างก็เริ่มถอนตัวออกจากหุบเขาหิน พวกมันเดินกลับเข้าไปในถ้ำแคบ
ๆ ที่ยังไม่ยุบตัวลง
วีดตะโกนออกมาด้วยทักษะราชสีห์คำราม
"ไม่ต้องไล่ตามพวกมัน!"
โดยทั่วไปในการรบขนาดใหญ่ พวกเขามักจะไล่ตามศัตรูที่กำลังล่าถอยกลับ
ทหารม้าสามารถไล่ล่าและจัดการมอนสเตอร์บนที่ราบลุ่ม กองรบอัศวินที่มีขนาดใหญ่จะได้เปรียบมอนสเตอร์ในที่ราบนับเป็นเหยื่อที่ดีสำหรับพวกเขา
หลังจากการโจมตีจากอัศวิน พวกมอนสเตอร์จะฉลาดมากขึ้นและตัดสินใจที่จะหลบหนีเมื่อขวัญกำลังใจลดลง
เพียงไม่กี่วันจากการออกไล่ล่าและล่าเหยื่อก็สามารถรวบรวมของที่ปล้นมาได้ ค่าชื่อเสียงและประสบการณ์
จึงนับว่ามีประโยชน์อย่างมากในการเลือกสายอาชีพอัศวิน
ประติมากรรมสลักชีพหลายตนเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว
แต่ในภูเขาฮาร์เซลแห่งนี้นั้นมีภูมิประเทศสูงชัน วีดและประติมากรรมสลักชีพยังเหนื่อยล้า
ดังนั้นถ้าพวกซัลเลี่ยนตีโต้กลับในขณะที่พวกเขาไล่ตามพวกมัน มันเป็นการยากที่จะควบคุมตัวเองในฐานะผู้บัญชาการ
แต่คราวนี้ก็จำเป็นต้องอดทนข่มใจเอาไว้
- ปาฏิหาริย์ในชัยชนะที่เกิดขึ้นในหุบเขา ณ เทือกเขาฮาร์เซล.
ในระหว่างการต่อสู้ ศัตรูเริ่มตื่นตระหนกจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ชัยชนะจากการได้ชัยด้วยความเป็นผู้นำที่ไม่อาจจะบรรยาย
แม้จะมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยอดเยี่ยม ชัยชนะโดยไม่สูญเสียสหายร่วมรบช่างเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ
|
- ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,210
|
- บารมีเด่นเพิ่มขึ้น 6
|
- ค่าความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น 5
|
- ความเกลียดชังของพวกซัลเลี่ยนเพิ่มขึ้น 100
|
- คุณได้รับค่าประสบการณ์การต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
|
ค่าสถานะที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1
|
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
|
"อุว่ะ
ไอเทมของฉันกำลังจะหายไป อา ... ยังมีอีกตัวหนึ่งที่ถือคันธนูจับให้ได้ "
วีดเสียใจแม้กระทั่งหลังจากที่ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่
"ฉันควรจะกำจัดพวกที่อยู่รอบๆแถวนี้ก่อน"
วีดวนไปรอบ
ๆ หุบเขาหินที่ทรุดตัวลงพร้อมกับประติมากรรมสลักชีพของเขาและจัดการพวกนักรบซัลเลี่ยนทีละตัวทีละตัว
"ไว้ชีวิตข้าเถอะ"
นักรบซัลเลี่ยนขอร้องด้วยใบหน้าน่าสงสาร
วีดพูดด้วยความรู้สึกเสียใจ
"ข้าเองต้องการจะทำอย่างนั้น
แต่ ... ข้าไม่สามารถทำได้เพราะเงิน. "
ฉับ!
ถ้าเขาไว้ชีวิตนักโทษหลังจากชัยชนะครั้งใหญ่แล้วค่าเกียรติยศและศักดิ์ศรีจะเพิ่มขึ้น.
แน่นอนว่าการบัญชาการอัศวินอย่างน้อยจะต้องเพิ่มค่าชื่อเสียงและเกียรติยศเป็นอันมาก
แม้กระทั่งการลดภาษีของอาณาจักรอาร์เพ่นก็เพิ่มค่าเกียรติยศ
"ช่างไร้ความหมายกับการกินซุปกับข้าว
เมื่อเกียรติยศยังไร้ค่าแล้วคงไม่ต้องกล่าวถึงมูลค่าของชื่อเสียง "
เมื่อราชามีค่าเกียรติยศสูงพอ
อัศวินจะก้าวเท้าเข้ามาหา ปัจจุบันวีดมีค่าเกียรติยศ 165 ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งราชอาณาจักรอาร์เพ่น
และนั่นก็ค่อนข้างสูง
เหล่าอัศวินที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างมากมายจะมาตามชื่อเสียงของอาณาจักรอาร์เพ่นที่กระจายไปทั่วทวีป.
"ข้าได้ยินมาว่ามีราชาที่แท้จริงอยู่ทางเหนือ"
"มันเป็นที่ประจักษ์เมื่อพูดคุยกับชาวบ้าน."
"ระยะทางช่างห่างไกล แต่ ... ข้าจะไปเพื่อที่จะได้พบกับราชาที่ข้าสามารถรับใช้จนจวบชั่วชีวิต.”
เหล่าอัศวินไร้สังกัดจะสวมเสื้อหนังและเสื้อคลุมโทรมเดินทางมายังแดนเหนือ
อัศวินไร้สังกัดพวกนี้จะฆ่ามอนสเตอร์และบางครั้งก็สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเจ้านายคนอื่น
ๆ แต่หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรคัลลามอร์อัศวินจำนวนมากต่างโยกย้ายตามหาเจ้านายคนใหม่
ค่าสถานะทางเกียรติยศของวีดอาจจะต่ำเมื่อเทียบกับค่าศิลปะ
ความแข็งแกร่ง หรือค่าความคล่องตัว แต่หากนับเป็นตัวเลขก็คงไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบ
ราชาของอาณาจักรอื่น ๆ เพียงมีชีวิตอยู่โดยไม่นำพาเกียรติยศเท่าใด
- เผด็จการก็เป็นแค่เพียงความกระตือรือร้นในการเรียกเก็บภาษี
- พวกคนโง่ย่อมไม่สนใจเกี่ยวกับนโยบายหรือตัวเลขเลย
- พวกเขาไร้ยางอายและไม่ทะนงรักษาไว้ซึ่งเกียรติแห่งอัศวิน
- เป็นคนพาลอย่างสมบูรณ์
พวกเขามีชื่อเสียงที่เลวร้ายที่สุดที่แม้แต่สุนัขที่ผ่านมายังเห่าใส่พวกเขา!
โดยเฉพาะพวกผู้เล่นที่เป็นเจ้าเมืองหรือราชาที่มีชื่อเสียงไม่ดี
ดังนั้นอัศวินไร้สังกัดแห่งทวีปเวอร์เซลล์จึงเอนเอียงไปทางอาณาจักรอาร์เพ่น
บรรดาทหารต้องใช้เงินลงทุนอย่างมาก และต้องทำงานหนักเพื่อที่จะได้เป็นอัศวิน.
เมื่อได้รับความจงรักภักดีของอัศวินไร้สังกัดในส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องง่าย
แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับวีดก็คือความตระหนี่นั่นเอง
"อัศวินพวกนี้ พวกเขาได้ค่าแรงมากเกินไป ค่าจ้างไม่ใช่เรื่องตลก เงินสำหรับค่าอาหารของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็.........
"
มันไม่ได้เป็นของฟรี
ดังนั้นเขาจึงเสียใจกับเงินภาษีของเขาที่ไหลไปสู่พวกอัศวินที่สาบานตนแสดงถึงความจงรักภักดี
ปัจจุบันราชอาณาจักรอาร์เพ่นมีอัศวินทั้งสิ้น
240 คน
ลักษณะของอัศวินจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับราชา
ราชาผู้ที่อาศัยท่ามกลางความหรูหราและการมึนเมาจากการเก็บภาษีจะมีอัศวินที่ไม่สนใจชาวเมือง
และสนุกกับการใช้ชีวิตให้มีความสุขไปวันวัน
อัศวินแห่งราชอาณาจักรอาร์เพ่นมีความประหยัดและมีความสุขกับวัฒนธรรม
พวกเขาตั้งใจทำงานเพื่อรักษาความสงบโดยการต่อสู้กับมอนสเตอร์และโจร
พวกเขาไม่ได้ต่อสู้ในสถานที่อันตรายดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับมาตรฐานเดียวกันกับอาณาจักรอื่น
ๆ
"ย้าหู้, เราชนะได้จริงๆ!"
เซอร์กะมีความยินดี
แม้กระทั่งถุงมือของเธอจะขาดจากการรัวหมัดอัดศัตรู
"ฉันคิดว่าฉันจะตายหลังจากที่หล่นลงไปในกับดัก"
วีดไม่ได้บอกรายละเอียดกับเพื่อนร่วมทีมของเขาว่ามีแผนจะหลอกล่อศัตรูอย่างไร
พวกเขาเพียงปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยและเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ พวกเขาประหลาดใจถึงสองครั้งจากภัยพิบัติและการกำจัดศัตรู
โรมุนะตำหนิเธอ
"ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก คุณวีดเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรบแบบนี้ เขามีลูกเล่นและเทคนิคแพรวพราว
"
เซเฟอร์เองก็ยอมรับเช่นกัน
“วันนี้ช่างเป็นวันที่มีรสชาติเสียจริง”
ฮวายองมีประสบการณ์มากมายในขณะที่ออกล่าในดันเจี้ยนภายใต้การชี้นำของวีด
"ฉันจำเป็นต้องเก็บไวน์ที่รสกลมกล่อมเอาไว้หลายวัน เขาไม่ยอมให้พวกเราได้พักเลย"
กลยุทธ์นี้ได้รับการประเมินว่าเป็นกลยุทธ์ที่กล้าได้กล้าเสียในช่องทีวี
แต่เพื่อนร่วมทีมของเขากลับคิดในมุมที่แตกต่างออกไป
'เมื่อใดก็ตามที่เขายิ้มเช่นนั้น เขาก็จะควักลูกไม้สกปรกของเขาออกมา'
เขาเป็นคนฉลาดแกมโกงจริงๆ
...
‘เขาต้องมีประสบการณ์มากมายตั้งแต่เด็ก’
เดิมทีโลกก็เป็นเช่นนี้!
อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ที่แท้จริงของวีดคือ
การช่วยเหลืออาร์นินที่ถูกกักขังไว้ที่ป้อมของซัลเลี่ยน
"พวกเราได้จัดการกับกองทหารจำนวนมากในที่แห่งนี้แล้ว เคลื่อนพลไปที่นั่นทันที.”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ป้อมปราการของซัลเลี่ยน
ณ ยอดทับคาล
มันเป็นสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามเนื่องจากมีมวลหมู่เมฆและภูเขาฮาร์เซลก็สามารถมองเห็นได้อยู่ใต้ฝ่าเท้า
พวกซัลเลี่ยนซ้อนทับหินที่ด้านบนของภูเขาและสร้างป้อมปราการที่ดูเหมือนดาบปักลงมาบนผืนดิน
เมื่อขี่ไวเวิร์น
และมองมันมาจากบนท้องฟ้า มันเป็นภูมิประเทศที่สร้างขึ้นมาให้ยากที่จะถูกโจมตี
วีดมาถึงบริเวณใกล้เคียงพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมของเขา
และประติมากรรมสลักชีพ นี่เป็นสถานที่ที่อันตรายสำหรับการซุ่มโจมตี แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกซัลเลี่ยนจะท้อแท้จนไม่อาจโจมตี
"ตอนนี้ พวกเราต้องเอาชัยชนะที่นี่ให้ได้"
วีดตรวจสอบภูมิประเทศของป้อมปราการเป็นอันดับแรกด้วนการอาศัยภาพวาดของยูริน
แนวลาดชันจนถึงยอดขรุขระรุนแรงจนยากที่จะใช้อาวุธปิดล้อมที่ผลิตออกมาจากช่างตีเหล็กใดๆออกมาได้
"มีผู้บุกรุก"
"ปิดประตู"
"พลธนูประจำตำแหน่ง และเอาอาวุธป้องกันออกจากคลังแสง "
กองทัพซัลเลี่ยนยืนยันการปรากฏตัวของวีด
และปิดประตูขณะที่พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการปิดล้อม! พวกมันเอาอาวุธป้องกันที่พวกมันปล้นหรือได้มาจากพวกคนแคระที่ถูกจับเป็นนักโทษ
มีน้ำมันเดือดจำนวนมาก ลูกธนูและอุปกรณ์ทุ่มหิน!
"นี่จะเป็นความท้าทายที่ยากมาก มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้สถานที่แห่งนี้ยอมจำนน
"
เพลปีนขึ้นไปบนที่สูงและกระดกลิ้นของเขาขณะที่เขาตรวจสอบมัน
ป้อมปราการได้รับการบำรุงรักษากำแพงอย่างดีโดยปกติพวกเขาจะต้องใช้ทหารถึง 5 เท่า ถ้าเป็นสงครามแบบล้างผลาญ
“ปล่อยควัน”
เพื่อแจ้งข่าวร้าย
ควันถูกจุดให้ลอยขึ้นจากป้อมปราการ เมื่อถูกโจมตีโดยมนุษย์ เหล่าซัลเลี่ยนจะจุดสัญญาณไฟที่หอคอยเพื่อเรียกกำลังเสริม
"พวกมันได้เตรียมการทั้งหมดพร้อมแล้ว”
เหล่าซัลเลี่ยนที่กระจัดกระจายอยู่รอบ
ๆ ภูเขาฮาร์เซลได้กลับไปที่ป้อมปราการ. พวกมันเข้าไปในป้อมโดยการใช้ถ้ำขนาดเล็กที่เตรียมไว้ล่วงหน้าและยังสามารถใช้มันเพื่อกระจายออกไปรอบนอก
ภูเขาฮาร์เซลเหมาะสำหรับพวกซัลเลี่ยนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
ภารกิจปรมาจารย์แห่งการแกะสลักของเขานั้นต้องการให้เขาช่วยพวกอาร์นิน ดังนั้นถ้าเขาใช้เวลามากเกินไปเขาอาจจะต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่
เพลถาม
"พวกเราจะต่อสู้อย่างไร?"
เขาเชื่อว่าวีดจะต้องมีลูกไม้อะไรบางอย่าง
"พวกเราควรกินก่อนที่จะต่อสู้ มันจำเป็นมากยามเมื่อต้องปะทะกับพวกมัน
"
วีดหยิบส่วนผสมขั้นสูงและเครื่องปรุง
อาหารบางอย่าง ขนมปังอบสดใหม่ การดื่มซุปที่ทำจากน้ำซุปหมูดำเพื่อลิ้มรสความอร่อยนั่นคือเป้าหมาย.
ปกติพวกเขาเพียงแค่กินขนมปังข้าวบาร์เลย์กับแยมดังนั้นนี่จึงเป็นความรู้สึกที่หรูหรา!
"มันจะใช้เวลาสักเล็กน้อยในการปรุงอาหาร ดังนั้นโปรดเพลิดเพลินไปกับมัน"
วีดหยิบเอาอุปกรณ์ทำอาหารออกมาและนำส่วนผสมทั้งหมด
เนื้อ ผัก และส่วนผสมอื่น ๆ ที่ถูกแช่แข็งไว้โดยปิงหลง แต่ด้วยทักษะความเชี่ยวชาญของเขาที่ขั้นกลางเลเวล
9 จำนวน 89% ดังนั้นรสชาติจึงไม่ลดลง
เพียงแค่มีทักษะการทำอาหารขั้นต้นเลเวล
6 ก็เพียงพอที่จะทำให้มีกลิ่นหอมลอยฟุ้งออกมาจากอาหาร
มีซี่โครงหมูปรุงรสผสมกับเนื้อต้นขาของแกะ.
"โปรดค่อยๆทาน ผมเตรียมไว้มากมาย ดังนั้นคุณไม่ควรกินอิ่มเร็วเกินไป "
ปลากะพงขาว, ปลาลิ้นหมา, ปลาแซลมอน, ปลาใบไม้, ปลาอีคุด
และปลาทูน่า!
พวกมันจับได้จากทะเลทางตะวันออกของโมราต้า
แม้ว่าพวกมันจะถูกแช่แข็ง วีดใช้มีดตัดให้เป็นคุณภาพระดับซาซิมิ!
"รสชาติมันกำลังละลายในปากของฉัน"
"อา ... รสชาติช่างสดใหม่อะไรเช่นนี้"
เมื่อมันถูกนำออกมา
ภาชนะที่ใส่ก็กลับกลายเป็นที่ว่างเปล่าในทันที
"เจ้าผ่านความยากลำบากมามากแล้ว"
เขาให้เนื้อปลาทูน่าหั่นสไลด์กับบรรดาประติมากรรมสลักชีพ
หัวของคราชันย์ไฮดราทั้ง 9 หัว ต่อสู้กันกันเองเพื่ออาหาร
"กินไปเรื่อยๆเถอะ นี่มันเป็นเพียงแค่การเรียกน้ำย่อย. "
จานถัดไปวีดทำอาหารจากไข่ฉลาม
หอย และปลานึ่งพร้อมกับซอสสูตรพิเศษ เขาตกแต่งมันด้วยมันฝรั่ง ผัก และน้ำจิ้มก่อนที่จะเสิร์ฟในภาชนะ
ฮวายองเป็นคนแรกที่ได้ชิม
"มันเป็นยังไงบ้าง?"
ฮวายองหลับตาลง
และดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบคำถามของเซอร์กะ
"รสสัมผัสแห่งท้องทะเล ในเวลาที่มันสัมผัสกับลิ้นของฉัน เหมือนมีปลาผุดออกมาจนไม่มีที่สิ้นสุด
และกำลังแหวกว่ายน้ำในมหาสมุทรอันลึกลับ... "
เอื๊อก
อึก อึก.
"อู่ว มากินกันเถอะ!"
วีดไม่ใส่ใจกับการประเมินอาหารของเขา
อาหารรสเลิศอาจไม่ได้ดึงดูดความหิวกระหายของทุกคน เขาต้องการกิน โอเด้ง และต๊อกโบกิมากที่สุด
"ฉันมีความสุขเมื่อปรุงอาหารที่แสนอร่อย!"
วีดเคยปรุงส่วนผสมวัตถุดิบจากพื้นที่ต่างๆของทวีปและได้เรียนรู้รสชาติของพวกมัน
เขามีทักษะการทำอาหารขั้นกลางเลเวล 9 แต่มันก็ยังคงใช้เวลาในการทำอาหารเลี้ยงปาร์ตี้ของเขาเป็นเวลานาน
เขาไม่มีเวลามากพอที่จะทำอาหาร
เมื่อเขาออกล่าหรือผจญภัย
เขากินง่ายๆ ถ้าเขาเปิดร้านอาหารด้วยการใช้ส่วนผสมต่างๆที่มีให้กับเขา มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปรุงอาหารแบบมืออาชีพ
แต่การที่เขาสามารถสร้างรสชาติอันลุ่มลึกที่มีนัยสำคัญต่อรสชาตินั้นมาจากส่วนผสมทั้งผืนดินและ
ท้องทะเล
"นี่คือไวน์และบรั่นดีชั้นเยี่ยม"
"ว้าว ข้าต้องการดื่มจริงๆ ข้าจะดื่มแค่นิด ๆ หน่อย ๆ "
ปลาปักเป้าเทมปุระ
หอยนางรม ซาซิมิ ข้าวเกรียบกุ้ง และขาหมู
พวกไวเวิร์นกินอย่างมีความสุข
เจ้าเหลืองหลั่งน้ำตาขณะที่เขากินผักและน้ำเกรวี่
"อู มมอออออออ, มันช่างดูเหมือนอาหารมื้อสุดท้ายที่เราจะได้กิน."
"ใครจะรู้ ... พวกเราอาจจะตายหลังจากการกินอาหารเหล่านี้"
อาหารมื้อสุดท้าย!
โกลด์มินิไปที่มุมมุมหนึ่งและหลั่งน้ำตาขณะที่เขากินหอย
"เจ้านาย ข้านั้นมีความสุขที่พวกเราได้อยู่ด้วยกัน"
วีดไม่ได้มีจุดมุ่งหมายดังกล่าว
แต่ประติมากรรมสลักชีพของเขากลับหวาดระแวง วีดหัวเราะด้วยความพึงพอใจ
"ข้าเพียงแค่ดุด่าพวกมันเท่านั้น บางครั้งข้าก็ควรจะทำอาหารให้เด็กๆบ้าง ข้าไม่ได้คิดว่าพวกมันจะคิดไปเองแบบนี้
"
“ฮึก ฮึก ฮือ.”
ประติมากรรมสลักชีพหลั่งน้ำตามากยิ่งขึ้น
หลังจากอาหารมื้อนี้ประสิทธิภาพของปาร์ตี้ของวีด และประติมากรรมสลักชีพเพิ่มขึ้น
ร่างกายที่เหนื่อยล้าและพละกำลังของพวกเขาฟื้นคืนเนื่องจากได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
ผลของทักษะการทำอาหารขั้นกลางของเขานั่นหมายถึงสิ่งที่พวกเขาจะได้รับต้องอย่างน้อยที่เลเวล
9 พลังชีวิตเพิ่มขึ้น 18,284 ขณะที่พละกำลัง และความอึดเพิ่มขึ้น 50% ค่าสถานะส่วนที่เหลือของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า
35 หน่วย!
อย่างไรก็ตามค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาอาจไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการสู้รบมากนัก
แต่ถ้าพวกเขากินดีอยู่ดีแล้วพวกเขาก็สามารถต่อสู้ได้ดีขึ้น มันเป็นเหตุผลว่าทำไมวีดจึงจัดอาหารบก
อาหารทะเลรสเลิศ และแบ่งปันให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขารวมถึงพวกประติมากรรมสลักชีพด้วย
พิธีสถาปนาอาณาจักรอาร์เพ่นนั้นเรียบง่าย
แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณจริงๆให้กับทุกคนที่นี่
เขาต้องการที่จะเติบโตไปพร้อมกับประติมากรรมของเขา เขารู้สึกขอบคุณเพื่อนร่วมทีมของเขาในอีกหลาย ๆ
ด้าน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่วีดไม่สนใจที่จะใช้วัตถุดิบราคาแพงอย่างเต็มที่
แน่นอนมันเป็นความแตกต่างแค่เพียงผิวเผิน
"ฉันแค่อยากจะลองทำอาหาร ... ถ้าฉันยังมีวัตถุดิบเหลืออยู่บ้าง"
"แล้วคุณจะทำเช่นนี้อีกครั้งในครั้งหน้า ถ้ามีส่วนผสมและอาหารเหลืออยู่อีกหรือไม่"
"ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว"
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
3 ฉลามคลั่งแห่งเบคกี้นิน !
วีดได้ไปเยี่ยมเรือโจรสลัดของพวกเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน
เขาไปที่นั่นได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากจินตภาพเคลื่อนย้ายของยูริน ทันทีที่วีดปรากฏตัวขึ้น
เขาก็ปฏิบัติกับเรือโจรสลัดเฉกเช่นเดียวกับบ้านของเขา จากการที่เขาสำรวจก็ค้นพบอาหารทะเลในคลังสินค้าเรืออยู่เล็กน้อย
"พวกแกคงกินแต่อาหารทะเลสินะ เพราะมันหามาได้ง่าย".
“ไม่ขอรับ กระผมคิดถึงอาหารบนแผ่นดิน
และอยากจะกินเนื้ออยู่บ่อยครั้ง "
"กระผมเริ่มเปื่อยจากการกินซาซิมิเป็นประจำทุกวันแล้ว"
วีดไม่ได้ฟังความคิดเห็นของพวกเขาเลย
"มันดูเหมือนว่าพวกแกจะมีอาหารทะเลอยู่เยอะ ... .. "
"มันไม่ได้มากขนาดนั้นหรอกครับ?"
"ฉันจะกลับมารับมันในวันพรุ่งนี้ สมควรจะมีเพียงพอที่จะเติมแปดคันรถ.
"
"อืม, เป็นไปได้ไหมที่จะได้รับอาหารทะเลมากๆ อย่างรวดเร็วแม้ว่าเราจะอยู่บนทะเล?"
"ข้าต้องการอะไรที่มันแตกต่างกันเยอะๆ เช่นหอยแมลงพู่ หอยนางรมและหอย ...
.. "
"ฮ่า ๆ ล้อกันเล่นใช่ไหมครับ"
"หลายวันมานี้ค่าหัวของพวกแกเพิ่มขึ้นเยอะเลยนะ ... ยินดีด้วย"
"อา, ขอบคุณมากครับ มันต้องขอบคุณการเป็นโจรสลัด การยึดเรือหนึ่งลำนั้นยากมาก
มันคุ้มค่าจริงๆที่ยกเค้าได้ตามใจชอบในท้องทะเล. "
"พวกแกมีชื่อเสียงค่อนข้างฉาวโฉ่อยู่พอสมควรเลยนะและยังมีสถานะฆาตกร ดังนั้นมันคงจะโชคร้ายถ้าแกพบคนที่แสวงหาผลกำไร
พวกมันสามารถเอาค่าหัวของพวกแกไปขึ้นรางวัลได้ที่อาณาจักร "
“......”
มีความหมายภายใต้รอยยิ้มบนใบหน้าของวีดที่ทำให้ทั้ง
3 ฉลามคลั่งแห่งท่าเรือเบคกี้นินไม่สามารถลืมเลือนได้
พวกเขาเคยเป็นพวกคุกคามกรรโชกและวีดเป็นคนหนึ่งที่ได้ผ่านมาพบมัน.
"ท่านช่างเป็นคนเลวเที่ยงแท้ที่พวกเรานั้นเคารพ ท่านยังคงไม่ลืมเลือนและยังคงทำการแบล็กเมล์พวกเรา
"
"พวกเรายังคงมีหนทางอันยาวไกล มีหลายสิ่งต้องเรียนรู้ "
"ในโลกแห่งความชั่วร้าย แน่นอนย่อมมีความแตกต่างระหว่างพวกเรา!"
พวกฉลามคลั่งใช้กองเรือของพวกเขาเพื่อรวบรวมอาหารทะเลจำนวนมาก
พวกเขาเกือบจะรวบรวมได้ไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ เมื่อวีดและปิงหลงมาถึง วีดไม่ได้เก็บเอามันไปทั้งหมดแบบฟรีฟรี.
"ถ้าท่านฉกฉวยมันไปแล้วผู้คนจะไม่คิดว่ามันเป็นการปล้นรึ?"
ในความเป็นจริงแล้วมันก็เหมือนกับการปล้นดีๆนี่เอง
"แต่มันจะดูไม่ดีที่จะให้เงินระหว่างพวกเรา"
"เช่นนั้นแล้ว ... .. "
"พวกเราเป็นสหายที่ผจญภัยร่วมกันจึงไม่ควรพูดถึงเรื่องเงินทอง."
“......”
พวก
3 ฉลามคลั่งแห่งท่าเรือเบคกี้นินไม่ใช่คนประเภทที่จะปฏิเสธเงิน
แต่พวกมันต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆด้วย พวกมันรู้ว่าสามารถคาดหวังอะไรจากวีดได้บ้าง
"ข้ามีพรสวรรค์ในการคาดเดาความสามารถของผู้คน"
เรือโจรสลัดทำจากไม้ที่ผุ!
บางสิ่งที่ทำจากประติมากรจะเป็นเหมือนยันต์คุ้มภัยที่ดีในท้องทะเล
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเรือจะเพิ่มขึ้นและจะไม่ได้รับความเสียหายมากนักในพายุ อีกทั้งยังช่วยค่าสถานะ
และทักษะของโจรสลัดอีกด้วย
ประติมากรรมที่ทำขึ้นบนแผ่นดินนี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบ
แต่ประติมากรรมที่มาพร้อมกับคันธนูจะส่งผลอย่างมาก
ไฮท์ได้เสนอคำขอที่แตกต่าง
“อัยยะ! ข้ากระผมยินดีที่จะมอบเงินสำหรับประติมากรรม.
"
พวกมันต้องการประติมากรรมที่แสดงความชั่วร้ายของโจรสลัด
เขารู้สึกไม่ดีที่มีเพียงรูปแกะสลักแค่ชิ้นเดียว
วีดมีความสัมพันธ์กับพวกเขาดังนั้นจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ มันคงจะไม่ดีถ้าเขาต้องการที่จะมีการติดต่อกับพวกเขาอีกในอนาคต.
"ข้าจะทำรูปแกะสลักให้พวกเจ้ามากกว่านั้น"
วีดรังสรรค์ประติมากรรมหลายชิ้นสำหรับใช้ในเรือลำอื่นๆ
มันอาจจะกล่าวได้ว่ามีลำล่ะ 1 ชิ้นเลยทีเดียว! เขาทำปลาโลมาที่อาจสามารถเห็นได้เป็นครั้งคราวในทะเล
ปลาโลมามักจะแขวนอยู่รอบเรือเพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการแล่นเรือ และเพิ่มโชคลาภ!
"การที่ทำให้พวกเราเช่นนี้ ... พวกเราจะทำงานหนักให้สมกับที่เป็นโจรสลัดในวันข้างหน้าแน่นอน"
"ข้าดีใจที่พวกเจ้าพอใจ แล้ว ......”
วีดแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปากของเขา
รอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นยังคงอยู่จนกระทั่งเขาไปจากเรือโจรสลัดของ
3 ฉลามคลั่งแห่งเบคกี้นิน
จบตอน
ผู้แปล
: Smith REX
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบวีดนี่มัน.....
ตอบลบขอบคุณมากๆๆครับผม จินตนาการสนุกๆมากเลยตอนนี้ เรื่องประติมากรรมจำแลงเป็นคุบิยะ ใช้ดาปไฟอีก หยุดจินตนาการไม่ได้เลยมันหน้าตื่นเต้นสุดๆไปเลยครับ ขอบคุณมากๆ
ตอบลบขอบุณคับ
ตอบลบก็แค่ปล้นดีๆ นี่แหล่ะ
ตอบลบขอบคุณครับ สนุกมากเลยครับตอนนี้
ตอบลบ