เล่ม 30 ตอนที่ 3: ยอดเขาทับคาล แปลโดย Cole’s Myth
วีดคอยระมัดระวังความจริงที่ว่าเขานั้นมีเวลาไม่มากนัก
พวกซัลเลียนกระจายตัวออกไปจนหนาแน่นทั่วทั้งเทือกเขาฮาร์เซล
และเพราะว่าพวกมันมีอัตราการขยายพันธุ์ที่รวดเร็ว ดังนั้นเวลาจึงถือเป็นเรื่องสำคัญเพียงอย่างเดียวก่อนที่จำนวนของพวกมันจะฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
“โชคไม่ดีที่การต่อสู้จะต้องจบลงภายในวันนี้”
หากว่าเขาใช้ทักษะประติมากรรมธรรมชาติมหาภัยพิบัติได้
เขาคงจัดชุดใหญ่ให้พวกมันตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่ายังไงเพราะเขามีข้อจำกัดที่เขาสามารถใช้ทักษะภัยพิบัติบัตินี้ได้ครั้งละวันเท่านั้น
ถ้าเขายังรอให้ใช้ได้อยู่ พวกมันมีหวังได้เพิ่มจำนวนขึ้นมาอีกแน่
“ถึงแม้ว่าผมจะใช้ภัยธรรมชาติได้
ก็ฆ่าพวกอาร์นินไม่ได้เป็นอันขาด เพราะงั้นถึงต้องต่อสู้แบบนี้ไง”
ทักษะประติมากรรมธรรมชาติมหาภัยพิบัตินั้นจะสร้างปัญหาให้กับเขามากกว่าในแผนการช่วยเหลือแบบนี้
วีดจึงเลือกใช้ทักษะประติมากรรมจำแลงอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนร่างไปเป็นนักรบโกลาหล
คูบิยะ
“สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือความเร็วต่างหากละ
ทุกคนเตรียมต่อสู้!”
พวกพ้องและเหล่าประติมากรรมสลักชีพต่างคาดหวังอย่างยิ่งกับแผนการต่อสู้ครั้งนี้
“กลยุทธ์ครั้งนี้ของคุณเป็นยังไงครับ?”
“มีอะไรที่พอจะช่วยเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศที่อยู่ของพวกซัลเลียนไหมคะ?”
“อย่างเทคนิคที่เหนือความคาดหมายที่มักจะได้ผลเสมอเลยน่ะค่ะ”
ไอรีน เพล และเบลล็อตรู้สึกกังวลในขณะที่พวกเขามองดูจากทางด้านข้าง
เหล่าประติมากรรมสลักชีพเองก็พร้อมจะทำตามคำสั่ง
พวกมันได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเพราะงั้นพวกมันถึงสามารถสำแดงพลังของพวกมันออกมาได้มากยิ่งขึ้น
“มออออออออ ข้าต้องรอดให้ได้”
“โกล โกล โกล ข้าดีใจจริงๆที่ได้อยู่ที่นี่กับทุกคน”
“เจ้าไวทรีคงตายก่อนข้าแน่เลย”
เจ้าไววัน
ไวเวิร์นที่มีอายุมากที่สุด พูดแซะเจ้าไวทรี
“แง๋ละ ข้าคงได้ตายไปก่อนแน่ๆ”
“นายท่านขี่เจ้าอยู่ตัวเดียว…คงเป็นเพราะเขารู้ว่าหลังแบนๆของเจ้ามันนอนสบายยังไงละ”
“อึก เจ้าไม่รู้รึไงว่ามันหนักแค่ไหนกันนะ”
“โอ้ย ข้าอิ่มจังเลย”
“ข้าพึ่งไปกินไข่นกกระจอดเทศมาด้วยละ”
“อยากกินอีกซักฟองจัง”
“ข้าอยากกินมันด้วยจัง”
ในสถานการณ์เช่นนี้
ก็ยังมีความอิจฉาริษยาพวยพุ่งออกมา! เขามอบชีวิตให้กับพวกมันบางตัวเมื่อตอนที่พึ่งไปเขตลาสฟาลังค์เท่านั้น
เพราะงั้นค่าความใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกมันยังถือว่าต่ำมาก
ฉากในตอนนี้เองก็ได้ถูกถ่ายทอดสดออกไปในหลายๆสถานีโทรทัศน์
จำนวนผู้ชมหลายสิบล้านต่างก็กำลังนั่งรับชมภายในโลกแห่งความจริงหรือแม้แต่ในโลกของรอยัลโร้ดตามร้านเหล้าขณะที่นั่งดื่มเบียร์และทานอาหารไปพลาง
พวกเขาชอบนั่งดูการผจญภัยของวีดมากกว่าการไปขายของแถวจัตุรัสการค้าซะอีก
“เอาหล่ะ เริ่มกันได้แล้ว”
วีดออกคำสั่งประจำการรบทันที
“พวกเรา เอาหล่ะ โจมตีเลย”
เขาเลือกที่จะไปอยู่กองโจมตีแนวหน้า
เขาดูเหมือนคนบ้าจริงๆขณะที่วิ่งลงไปตามทางขึ้นเนินพุ่งขึ้นไปยังป้อมปราการ
เหล่าประติมากรรมของวีดเองก็ตามเขาไปประจันหน้าเข้าใส่ป้อมปราการนั่นเช่นกัน
เจ้าเหลือง โกลมินิ ยักษ์เพลิง เสือขาว อัศวินเซวิล นักรบสาวเจอร์นิก้า
นักดาบสาววินเด็กซ์ และเอลฟ์ชั้นสูงเอลทินกรูหน้าวิ่งไปพร้อมกับเขา
ส่วนพวกประติมากรรมบินได้ที่อยู่บนท้องฟ้าก็เตรียมตัวโจมตีแล้วด้วยเหมือนกัน
ลูกธนูถูกระดมยิงลงมาทันทีที่พวกเขาเข้าไปในแนวกั้นของยอดเขาทับคาล
“บลิ้ง!”
วีดเทเลพอร์ตไปอยู่ด้านหน้าประตูป้อมในชั่วพริบตา
“วิชาดาบโลกันตร์!”
ดาบดาวสีชาดปลดปล่อยพลังแห่งเปลวเพลิงออกมาห่อหุ่มทั่วทั้งคมดาบ
สร้างความเสียหายได้เพิ่มขึ้น
329%
|
วีดกระแทกประตูด้วยพลังทั้งหมดของเขา
ตู้มมมมมมมม!
ก้องเสียงดังกังวานดั่งสายฟ้าฟาดสะเทือนเลื่อนลั่นในตอนที่ประตูโดนกระแทก!
-ประตูป้อมปราการทับคาลถูกทำลายแล้ว
|
ค่าสถานะทางการต่อสู้ของท่านเพิ่มขึ้น
1 แต้ม
|
และเมื่อประตูพังทลายลง
พวกนักสู้ซัลเลียนที่กำลังรออยู่ก็เริ่มรุ่มทึ้งเขาในทันที
“ไอ้มนุษย์น่าโง่”
“จัดการหัวหน้าพวกศัตรูซะ”
ลูกธนูและทวนหอกพุ่งตรงมาที่เขา ทว่าวีดก็ได้ใช้ทักษะไปแล้ว
“บลิงค์!”
ที่ถัดไปที่วีดไปปรากฏตัวก็คือบ้านที่อยู่ภายในป้อมปราการ!
“มันไม่อยู่ตรงนี้”
วีดฟันสิ่งก่อสร้างที่ทำจากไม้ด้วยดาบดาวสีชาดของเขา
แล้วทั้งหลังก็ถูกกลืนกินอยู่ในเปลวเพลิงในชั่วพริบตา
“นั่นไง ทางนั้น! ที่นั่นมีไฟลุกอยู่”
“บลิงค์!”
เขาหลบหลีกพวกซัลเลียนเทเลพอร์ตไปโผล่ที่ใจกลางของป้อมปราการ!
“กร๊ากกกกกกก!”
“กำจัดพวกมันซะ”
“กำจัดพวกน่าโง่ที่บังอาจมาที่นี่ให้หมด”
วีดได้ยินเสียงการต่อสู้โรมรันดังกึกก้องมาจากฝั่งประตูทางเข้า
พวกพ้องของเขาและพวกประติมากรรมสลักชีพต่างก็ถูกสกัดเอาไว้ด้วยพวกซัลเลียน
มีบางสิ่งบางอย่างกำลังสั่นไหว
กำแพงก็สั่นสะเทือนขณะที่เจ้าหนอนแห่งความตายมุดไปมาทั่วทั้งพื้นดินเพื่อทำลายแนวกำแพงของศัตรูให้พังทลาย
การต่อสู้อันดุเดือดกำลังโหมกระหน่ำท่ามกลางกำแพงหนาแน่นและประตูทางเข้าที่พังลง
พวกประติมากรรมสลักชีพที่มีขนาดใหญ่เกินไปไม่อาจเบียดตัวผ่านเข้าไปในประตูได้เลย
แต่ถึงกระนั้นพวกมันก็ยังใช้ร่างกายเป็นแนวป้องกันเอาไว้อยู่
“แกต้องให้พวกมันออกไปสู้ดีๆสิวะ”
วีดออกคำสั่งเจ้าโกลมินิ เจ้าโกลมินิเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว
ทว่ามันก็สามารถต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
การเคลื่อนไหวในการต่อสู้ของพวกมันนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพพอสำหรับวีด
ทว่าเป้าหมายเดิมของวีดนั้นไม่ใช่การเข้าไปยึดป้อมปราการแห่งนี้
วีดทะลวงเข้าไปในป้อมปราการเพียงลำพังก็เพื่อช่วยเหลือพวกอาร์นิน
“พวกประติมากรรมสลักชีพจะต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างดี
เพราะงั้นพวกแกจะต้องคอยดูแลพวกมันด้วย ให้พวกมันออกไปสู้แค่พอประมาณ”
โชคดีที่ไอรีนเป็นผู้เยียวยาที่เชื่อใจได้
เพราะงั้นเขาถึงได้รู้สึกโล่งอก
“โกรกกกกกกกกกกกกกกกก!”
จระเข้สี่ขาขนาดมหึมาที่ชื่อว่า
ไนท์ เบิกตาออกโพลงขณะที่มันพุ่งตัวเข้าใส่ประตู มันสามารถใช้กำลังสูงสุดได้เมื่ออยู่ในแม่น้ำหรือว่าบึง
ขาสั้นๆและหางที่หนักบ่งบอกได้ว่ามันคงต้องใช้แรงอย่างมากเพื่อที่จะขึ้นลงบนภูเขาลาดชันแบบนี้
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันนั้นยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆขณะที่การต่อสู้กำลังดำเนินไป
แต่ในที่สุดแล้วมันก็ไม่อาจฝืนทนเดินหน้าได้อีกต่อไป
มันเดินส่ายหางหนักๆนั้นไปมาพร้อมกับขาสั้นๆทั้งสี่มุ่งหน้าต่อไปแบบทุลักทุเล
ฮวายองและเบลล็อตคิดว่ามันนั้นน่ารักมากจริงๆ
“คุณวีดค่ะ
ไนท์เขาจำเป็นต้องออกไปต่อสู้จริงๆหรอคะ? เดี๋ยวฉันจะทำในส่วนของเขาเอง
ถ้างั้นคุณจะให้ไนท์ออกไปจากที่นี่ก่อนได้ไหมคะ?”
“ว้าย! พี่ค่ะ ลองมาดูลายท้องฝั่งนี้ของเขาดูสิคะ”
พวกเธอต่างคัดค้านที่จะให้เจ้าไนท์เข้าร่วมการต่อสู้
เพราะว่าพวกเธอไม่อยากให้หนังจระเข้นุ่มๆนั้นมีรอยขีดข่วนหรือว่าฝุ่นจับเลยแม้แต่น้อย!
“เวลาเป็นเงินเป็นทองนะ เร่งมือกันได้แล้ว!”
ป้อมปราการนี้ถูกสร้างขึ้นอยู่บนยอดเขาสูง
เพราะงั้นพื้นที่ภายในป้อมจึงไม่ได้กว้างมากนัก สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ก็มีเพียงแค่
1 ถึง 2 ชั้น ดังนั้นพื้นที่ค้นหาของเขาจึงถือว่าแคบ เจ้าหนูบ้านจากเขตลาส ฟาลังคซ์เองก็มุดเขาไปในรูกำแพงเพื่อพยายามออกตามหาพวกอาร์นิน
พวกซัลเลียนนั้นมีแนวป้องกันที่แน่นหนาและเข้มงวดมาก
แต่ถึงกระนั้นพวกมันก็ไม่สามารถหยุดเจ้าหนูบ้านให้เดินไปมาทั่วป้อมปราการได้
“ฆ่ามันซะ!”
ปัญหาหลักก็คือพวกซัลเลียนนั้นมัวแต่คอยระวังวีดที่ถือดาบดาวสีชาดมากจนเกินไป
มันเป็นเรื่องธรรมดาในการต่อสู้จะต้องพยายามฆ่าผู้นำของอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย
วีดเข้าไปในตัวป้อมปราการเพราะงั้นพวกมันจำไม่จำเป็นต้องส่งทหารออกมาข้างนอก
มีนักสู้อยู่อย่างน้อย 300-400 ตนที่กำลังไล่ล่าวีดอยู่
“ไม่อยู่ที่นี่งั้นหรอ
บลิงค์!”
วีดออกตามหาพวกอาร์นินอย่างต่อเนื่องขณะที่เชือดพวกศัตรูตัวไหนที่เขาเจอ
เขาจำเป็นต้องออกค้นหาตามสิ่งก่อสร้างเพราะงั้นจึงต้องใช้เวลาพอสมควร
เจ้าหนูบ้านเองก็ออกค้นหาภายในอาคารแต่ละหลัง แต่ก็ยังไร้วี่แววอยู่ดี
“ข้าจะไม่ยอมให้แกเข้ามาที่นี่ ย๊าท์!”
นักสู้ซัลเลียนตนหนึ่งพุ่งเข้าใส่วีด
วีดรับหอกของศัตรูเอาไว้ด้วยดาบของเขา เปลวไฟจากดาบดาวสีชาดลุกลามท่วมตัวมันในทันที
“อ๊าคคคคคค!”
ศัตรูนั้นได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
แล้วเขาก็ได้ของลูทจากมันมา! วีดไม่ได้ต้องการต่อสู้ แม้ว่าเขาอาจจะสามารถควบคุมพลังของดาบดาวสีชาดเอาไว้ได้ในร่างนักรบโกลาหล
ทว่ามันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเอาไปต่อสู้กับศัตรูนับร้อยตัว ภายในป้อมปราการแห่งนี้
ทักษะเทเลพอร์ตระยะสั้นเองก็ใช้มานาพอสมควร
เพราะงั้นเขาจึงไม่สามารถใช้มันเรื่อยๆได้
“มันกำลังมาทางนี้แล้ว”
“สกัดเอาไว้ ย๊าสสส์!”
พวกนักสู้พุ่งตรงมาทางวีดพร้อมกับเงื้อหอกมาทางด้านหน้า
ฉัวะ!
เขาตัดดาบพวกนั้นด้วยดาบดาวสีชาดของเขา
จากนั้นก็โจมตีใส่พวกมันเพื่อเปิดทางออก พวกนักสู้ซัลเลียนตายในทันทีที่พวกมันติดเปลวไฟ
แล้วจากนั้นวีดก็เคลื่อนตัวเล็งไปที่ศัตรูตนถัดไป
เขาไม่มีประสบการณ์ในการควบคุมดาบดาวสีชาดซักเท่าไร
ทว่าดูจากผลเอฟเฟคแล้วมันก็ไม่ยากเกินไปที่ในการใช้ต่อสู้
ถ้าหากว่าเขาใช้ร่างกายแบบปกติต่อสู้ละก็ เขาคงจะสามารถใช้การโจมตีแบบต่อเนื่องได้หลายต่อหลายครั้ง
หลังจากที่โจมตีใส่ศัตรู เขาก็เคลื่อนตัวไปโจมตีใส่ตัวต่อไป
วีดมีศักยภาพมากพอในการออกล่ากลุ่มศัตรู
เขาได้กลายเป็นปรมาจารย์โจมตีบดขยี้แล้ว
วีดไม่ได้เก่งเพียงแค่การใช้อาวุธดาบเท่านั้น
ทักษะในการลูทของได้อย่างรวดเร็วก็หาใครเปรียบไม่ได้ เขาไม่เคยทิ้งไอเท็มใดๆเอาไว้บนสนามรบเลยซักครั้ง
“วิชาดาบเฮอเรม!”
วีดเอาชนะนักสู้ซัลเลียนได้ 5
ตัวด้วยการโจมตีแบบต่อเนื่อง
ร่างของพวกมันติดไฟด้วยลูกบอลสังหารและโดนลูทของไปในที่สุด!
วีดโจมตีด้วยความเร็วสูง
ดังนั้นจึงทำให้ค่าพลังชีวิตของเขาค่อยๆลดลงไป เขาไม่ได้สวมชุดเกราะฮีเลียมเอาไว้
หรือชุดเกราะอื่นๆเลยแม้แต่น้อย
เพราะงั้นพลังในการป้องกันของเขาจึงค่อนข้างต่ำและยังได้รับความเสียหายทางพลังชีวิตมากพอควร
เขาสามารถอดทนไว้ได้เพราะว่ามีดาบดาวสีชาดคอยช่วยฟื้นพลังชีวิตให้กับเขา
“ตรงนี้ก็ไม่มี”
ป้อมปราการทับคาลเปรียบเหมือนดั่งสวรรค์ของเหล่านักสู้ซัลเลียน
“กรรรร
ข้าได้ยินเสียงร้องมาจากทางนี้!”
“มันเข้าไปในอาคารแล้ว”
“พวกแกไปตั้งแนวสกัดเอาไว้
พวกที่เหลือไปกำจัดมันซะ”
การเคลื่อนที่ทุกย่างก้าวของวีดถูกรายงานสดตลอดทุกๆนาที
พวกซัลเลียนมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายในการรบตามแนวเทือกเขาหิน
มากกว่าการต่อสู้ภายในเมืองดังนั้นมันจึงกลายเป็นเรื่องยากสำหรับพวกมันที่จะออกค้นหาตามอาคารสิ่งก่อสร้าง
ซึ่งพวกมันต่างก็เป็นนักรบหัวกระทิระดับเลเวล 400 ทั้งนั้น
ในบางครั้งวีดก็จะยั่วยุพวกนักสู้ซัลเลียนอย่างมีเจตนาและจัดการพวกมันในที่สุด
“ไอ้พวกอัปลักษณ์
อย่างน้อยหน้าตาพวกแกก็ควรจะหล่อให้ได้อย่างข้าสิ”
“ฆ่ามัน!”
“บลิงค์!”
เขามองหาสถานที่ภายในป้อมปราการที่ไม่มีศัตรูปรากฏตัวอยู่
และก็รีบหายตัวไปขณะที่กำลังต่อสู้กับพวกศัตรู
“เจ้ามนุษย์ไฟนั่นต้องอยู่แถวๆนี้แน่”
“ตรงนั้นไง!”
เขาต้องออกสำรวจทั่วทั้งป้อมปราการด้วยมานาที่จำกัดขณะที่พวกศัตรูก็คอยเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องออกตามหาและช่วยพวกอาร์นินให้ได้โดยเร็ว หรือไม่ภารกิจของเขาก็คงล้มเหลว!
-เจ้าหนูบ้าน เจออะไรเข้าแล้วรึยัง?
วีดกระซิบออกไปขณะที่กำลังต่อสู้
-จี๊ด จี๊ด!
เจ้าหนูบ้านออกค้นหาภายในอาคารบ้านเรือนมากมายแต่ก็ยังไม่พบอะไรซักอย่าง
สิ่งก่อสร้างต่างๆล้วนมีสภาพค่อนข้างทรุดโทรม ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะลอดผ่านรูหรือรอยแยกตามประตู
แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของพวกอาร์นิน
“เป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกค้นหาทีละหลังแบบนี้…..”
พวกพ้องและประติมากรรมสลักชีพของเขานั้นก็มีเวลาจำกัดด้วยเช่นกัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมวีดถึงได้ดึงความสนใจพวกนักสู้ซัลเลียนขณะที่ออกค้นหาทั่วป้อมปราการ
“ที่นี่ก็ไม่มีงั้นหรอ…”
วีดไปตรวจสอบตามโกดังเก็บของและตึกร้าง
แต่ก็ไม่มีซักที่ที่มีนักโทษถูกขังอยู่
“ฉันจำเป็นต้องปรับมุมมองการค้นหาใหม่
ฉันไม่ควรออกค้นหาหน้ามืดตามัวแบบนี้ บลิงค์!”
วีดปีนขึ้นไปอยู่บนหอคอยสูงสุดที่อยู่ภายในป้อมปราการ
พวกไวเวิร์นบินวนไปวนมาเหนือพวกกำลังทหารที่กำลังโจมตีบนพื้นดิน
ขณะที่พวกพ้องและประติมากรรมสลักชีพของเขาก็กำลังต่อสู่กับพวกซัลเลียนอยู่บนกำแพง เพลและโรมูนะกำลังฮึกเอิมได้ที่
ขณะที่ร่างกายของฮวายองร่ายรำอย่างไร้ความเหน็ดเหนื่อยซึ่งดึงดูดความสนใจฝ่ายศัตรูได้เป็นอย่างมาก
การโจมตีของพวกเขายิ่งดูรุนแรงมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่เธอหยุดเต้นไป
การต่อสู้ของพวกเขายุ่งเหยิงไม่ได้ด้อยไปกว่าของวีดเลย
“เจ้านั่นมันขึ้นไปแล้ว”
“เราต้องจัดการมัน ระวัง!”
“ตามไปฆ่ามันซะ!”
“ขว้างหอกใส่มัน”
ทวนหอกและลูกธนูบินพุ่งตรงมายังทางวีด
ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้มานั่งพินิจพิเคราะห์อะไรแบบใจเย็นๆได้แล้ว
“ฉันต้องเอาพวกอาร์นินมาใช้งานให้ได้
แต่ยังไงก็เถอะพวกมันจะรอดหร้อ หรือว่าตายไปแล้วนะ
ฉันต้องเอาช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของพวกมาใช้งานให้ได้….”
ช่างเป็นความเชื่อของคนเราที่อยากหาผลประโยชน์จากแรงงานทาสที่แท้จริง
หลังจากที่เขาช่วยเหลือพวกอาร์นินออกมาได้แล้ว
เขาคงจะใช้ให้พวกมันเป็นเหมือนทาสรับใช้แน่ๆ
“การได้หนีออกมามันก็เป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆนั่นแหละ
พวกมันจะต้องทำงานทั้งวันทั้นคืนแล้วก็กินข้าวเข้าไปน้อยๆ
พวกมันจะต้องสำนึกในบุญคุณที่ฉันได้มาช่วยชีวิตของงพวกมันเอาไว้”
ประตูหน้าต่างในบ้านช่องแต่ละหลังภายในป้อมปราการนั้นไม่เหมาะที่จะเอามาเป็นคุกกักขังซักนิด
คงไม่ได้โดนดูแลรักษามาเป็นเวลา 2-3 ปีแน่ๆ
แต่พวกมันคงถูกสร้างมาไว้ใช้งานได้หลายร้อยปีแน่นอน
“คงจะไม่มีแม้แต่อากาศสดชื่นๆหรือว่าเจอกับแสงแดดแน่ๆ
หากลองวิเคราะห์จากรูปร่างลักษณะของพวกซัลเลียน
พวกอาร์นินต้องถูกฝังอยูใต้ดินแน่นอน….”
ข้างใต้ป้อมปราการแห่งนี้ คงเป็นสถานที่ที่พวกมันถูกกักขังไว้แน่ๆ
จนถึงบัดนี้เขาก็พึ่งมีความคิดแบบคนธรรมดาทั่วไปบ้างแล้ว
แต่ว่าก็คงมีพวกซัลเลียนอาศัยอยู่ข้างใต้นั้นแน่ๆ วีดส่งกระซิบไปหาเจ้าหนูบ้าน
-มีอะไรที่มันคล้ายๆโพรงตรงพื้นดินไหม?
-จี๊ด จี๊ด! มีครับ
-ตำแหน่งของทางเข้าละ?
-มีสองทางครับ ข้างหน้าที่พักของพวกนักสู้
แล้วก็ตรงที่ติดกับอาคารใหญ่ที่อยู่ใจกลางป้อมปราการ
ในขณะเดียวกัน
พวกนักสู้ซัลเลียนก็มาถึงหอคอยที่วีดอยู่แล้ว ค่าพลังชีวิตของวีดนั้นลดลงไปเหลือ
46% แล้ว แม้ว่าดาบสีชาดจะช่วยเติมคามานาและพลังชีวิตให้เขา แต่ว่ามันก็ยังถือว่าอันตรายในการต่อสุ้ที่ยืดเยื้อแบบนี้
“บลิ้งค์”
วีดหายตัวไปที่อาคารใหญ่ตรงใจกลางป้อมปราการ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ในบางครั้งเพลก็จะเห็นเปลวไฟลุกโชนจากอาคารต่างๆแล้วเขาก็รู้สึกทึ่งมากๆ
“เขานี่กล้าหาญจริงๆ…”
แผนการของเขาก็คือเข้าไปในป้อมปราการเพียงลำพัง!
พวกเขารู้สึกว่านั่นเป็นข่าวดีสำหรับพวกเขา
ทว่าหากเขาตายไปภารกิจชิงตัวก็จะล้มเหลวไป
ป้อมปราการถูกสร้างขึ้นมาอยู่บนยอดเขาทับคาลที่สูงชัน
เพราะงั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากจริงๆที่จะทำให้ศัตรูยอมศิโรราบไปในการโจมตีโอบล้อมแบบนี้
วีดมองไปที่การวาดภาพของยูรินและตัดสินใจว่าจะออกไปสู้กับพวกซัลเลียน
“แผนการที่จะจัดการพวกศัตรูด้วยการใช้ร่างนักรบโกลาหลคงมีแค่คุณเท่านั้นแหละที่ใช้ได้”
แต่ว่าสำหรับคนอย่างเขาแล้วคงจะมีทางเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมาพร้อมกับช่วยเหลือพวกอาร์นินได้แล้ว
เพลได้เห็นมามากมายหลายกรณีที่วีดทำภารกิจแปลกๆยากๆจนสำเร็จ
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะคิดแบบนั้นก็ตาม มันก็ยังดูยากเกินไปในภารกิจครั้งนี้
“ยังไงก็ช่าง
เราต้องทำให้พวกมันส่วนใหญ่เกาะกลุ่มกันอยู่ที่กำแพงนี่ให้ได้
ต้องเยื้อพวกมันเอาไว้ให้ได้ ระวังค่าพลังชิวิตกับระดับมานาตอนออกไปสู้ด้วยละ”
เพลยิงธนูของเขาไปที่หัวพวกนักสู้ที่อยู่บนกำแพง
ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพเองคอยปีนขึ้นไปสู้บนกำแพงป้อม
เซเฟอร์และเซอร์กะก็คอยคุมสถานกาณ์ตรงกำแพงเอาไว้
พวกเขาต่อสู้ไปพร้อมกับพวกเจอร์นิก้า วินซเด็ก และเซวิลล์
เพลมองไปที่เจ้าไวเวิร์นตัวหนึ่งที่กำลังเล็งเป้าโจมตีไปที่ศัตรู
“ไวทรี ทางนี้!”
เจ้าไวทรีที่กำลังบินวนไปมาบนอากาศก็ร่อนลงมาหาเขา
“ฉันขอไปกับนายนะ”
เพลและเอลฟ์ชั้นสูงเอลทินขึ้นขี่บนหลังเจ้าไวทรีและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
หากนักธนูอยู่บนจุดที่อยู่สูงก็จะทำให้ระยะการโจมตีและพลังของพวกเขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เขามองลงไปยังทิวทัศน์ตรงจุดเหนือหลังของเจ้าไวทรี
หัวทั้งเก้าของราชาไฮดร้ากำลังคาบลูกธนูและหอกมากมายในขณะที่เจ้าหนอนแห่งความตายคืบคลานไปตามพื้นดินคอยโจมตีใส่พวกศัตรู
ส่วนเจ้าเสือขาวและเจ้าเซเบรัสก็กำลังแข่งกันขณะที่พวกมันวิ่งไปทางกำแพงและคอยฉีกกระชากศัตรูไปด้วย
เจ้าจระเข้ไนล์ก็คลานไปมาต้วมเตี้ยมอืดอาดแต่ถึงยังไงมันก็จัดการศัตรูได้
มันกัดศัตรูด้วยความเร็วงับพวกมันเอาไว้จนเต็มปาก
มันเป็นจระเข้ยักษ์ที่เผยดวงตาชวนง่วงนอนในขณะที่กำลังสวามปามพวกซัลเลียน! วีดเองก็พันสายหนังเอาไว้รอบๆตัวมันเพราะงั้นเจ้าไนล์จึงไม่ได้รับความเสียหายมากมายนักจากหอกที่พุ่งมาได้
พวกประติมากรรมาสลักชีพนั้นมีเลเวลค่อนข้างมากพอควร
ช่างเป็นอะไรที่น่าทึ่งที่ได้เห็นพวกมันต่อสู้กับพวกซัลเลียนแบบนี้
“ฉันอยากมาสถานที่แบบนี้จริงๆนั่นแหละ
ไม่ต้องไปมัวนั่งกังวลเลยถ้าตามคุณวีดมาทำภารกิจแบบนี้”
มันเทียบเท่ากับการได้เข้าร่วมภารกิจระดับการก่อสร้างพีระมิดหรือแม้แต่การได้ไปต่อสู้กับพวกกองทัพอมตะ
เพลมองขึ้นไปบนป้อมปราการที่มีฝนห่าลูกธนูพุ่งลงมา
เขาปล่อยลมหายใจออกและดึงสายธนูของเขาจนตึงพลางสนุกไปกับการได้ยิงใส่พวกนักธนูฝ่ายศัตรู
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ไคร์คือผู้เล่นใหม่ที่เริ่มเล่นภายในเมืองโมราต้า
“เฮ้ มีคนแนะนำให้เริ่มเล่นที่นี่เยอะแยะเลย แต่มันใช่ที่นี่จริงๆน่ะหรอ?”
กระดานข้อมูลของโรยัลโร้ดแนะนำว่า
โมราต้านั้นคือเมืองที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นใหม่
แม้แต่พ่อแม่ของเขาก็ยังอยู่ภายในเมืองโมราต้า
“ไอ้ลูกชาย แกควรได้ไปเห็นโรยัลโร้ดนะ”
“ทำไมละครับ?”
พ่อของเขาพูดออกมาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“แกไม่มีเพื่อนฝูงเลยนะ”
“เพื่อนไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้หรอกครับ”
“แกอาจจะได้เจอแฟนตอนออกไปล่าก็ได้นะ”
“การแต่งงานก็คือหลุมฝังศพของชีวิตคนเรานั่นแหละครับ พ่อ”
“…ถึงงั้น โร้ดยัลโร้ดก็มีเสน่ห์และคุณค่าในตัวมันนะลูก
ชีวิตในเมืองแบบนี้มันทั้งมืดมนจืดชืดและไม่มีรสชาติ แกจะได้ลิ้มรสชาติของจิตวิญญาณของการได้ไปบุกเบิกภายในโรยัลโร้ดที่โลกสมัยนี้เขาไม่มีแล้วนะลูก
มันเป็นทั้งรีสอร์ทและสนามเด็กเล่นของคนวัยวัยทำงานอย่างเรานะ
การเชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์มากมายจะถูกสร้างขึ้นมาภายในโรยัลโร้ด
แถมมันยังมีประโยชน์มากเลยนะ”
“ผมกำลังจะสอบข้าราชการผ่านแล้วนะพ่อ”
“.......”
ลูกชายของเขาไม่อาจเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาได้
ทว่าไคร์กลับรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับโรยัลโร้ด
เพราะงั้นเขาถึงได้ลองเริ่มเล่นดูในทันที
เขาไปตามอ่านในกระดานข่าวมากมายแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าควรจะเริ่มที่เมืองโมราต้าดีหรือเปล่า
“ทุกวันนี้ฉันเชื่อคำพูดผู้คนไม่ค่อยได้ด้วยสิ”
ไคร์ตัดสินใจที่จะมองดูรอบๆเมืองโมราต้า
เขาเข้าไปคุยกับยามรักษาการที่เฝ้าอยู่จัตุรัสกลางก่อนเป็นอันดับแรก
“เจ้าเป็นมนุษย์ที่ออกไปผจญภัยของตนเองได้
จะไม่ดีกว่าหรอถ้าได้ออกไปท่องโลกที่กว้างไกล ดีกว่ามาคอยโดนใช้งานง่ายๆภายในแถบจัตุรัสแบบนี้เพียงเพื่อที่จะได้ซื้อแผนที่ซักใบให้ได้”
ไคร์ไม่แยแสคำพูดพวกเขาและเดินตะลอนไปทั่วทั้งเมือง
มีผู้คนมากมายที่กำลังค้าขายและลูกค้าที่เข้าไปในร้านค้าภายในศูนย์การค้า
ผู้เล่นบางคนมีพุงพลุ้ยและนั่นแหละคือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคือพ่อค้าระดับสูง
“เพราะว่ามีคนมากมายคอยซื้อขายสินค้ามากมาย
ที่นี่จึงค่อยดูเหมือนตัวเมืองขึ้นมาหน่อย เมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ไปเลย…..”
“เมืองนี้สวยมากจริงๆ
ดูท่าว่าข่าวลือนั่นคงเป็นเรื่องไร้สาระที่กุขึ้นนั่นแหละ!”
เขาคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้นล้วนถูกเติมแต่งไปต่างๆนานาและปีนขึ้นไปบนเนินเขาพร้อมกับพวกนักเดินทาง
“โหหหห เจ๋งชะมัด!”
เมื่อได้มองทัศนียภาพตัวเมืองจากทางด้านบนเนินเขา
สิ่งก่อสร้างต่างๆก็ดูน่าทึ่งมาก ศูนย์ศิลปะ มหาวิหาร หอสมุดหลวง ประติมากรรม
และสิ่งก่อสร้างสไตล์ยุโรปหลากหลายก็ฉายอยู่ ณ เบื้องหน้า
เหล่าสถาปนิกต่างก็รับบทบาทอันสำคัญเพราะงั้นรูปลักษณ์สไตล์ของสิ่งก่อสร้างถึงได้ดูคล้ายคลึงกัน
เมื่อได้มองภาพเหล่านั้นจากที่สูงๆ
ก็เหมือนดั่งภาพวาดของเมือง เหนือไปนั้นก็เป็นโรงเหล็กเฮสเทียและหอคอยวิจัย
ทิวทัศน์ต่างๆล้วนสวยสดงดงาม
นี่คือภูมิทัศน์ของตัวเมืองที่วิเศษมากจริงๆ! มันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ไคร์เคยได้เห็น
กลิ่นของผืนป่าที่ดูมีเอกลักษณ์ปราศจากมลภาวะ สิ่งก่อสร้างที่สร้างได้เสมือนจริง
นี่จึงทำให้หัวใจของเขาเต้นอยู่บ้าง
“ น..นี่มันเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่ได้มาดูอยู่หรอก แต่มันก็ยังไม่พอที่จะทำให้ฉันชื่นชมมันหรอกนะ”
ไคร์ลงมาที่เนินเขาแห่งศิลปิน
เมื่อเขามองไปมารอบๆก็มีรูปภาพที่มีมนต์เสน่ห์ที่ถูกวาดลงอยู่มากมาย
มอนสเตอร์ที่กำลังน้ำลายไหลยืด ทิวทัศน์ตัวเมือง
และการต่อสู้อันดุเดือดเลือดคลั่งระหว่างเหล่าเอลฟ์และออร์ค นักเดินทางและผู้เล่นต่างยอมจ่ายเงินมากมายเพื่อที่จะได้ซื้อรูปวาดแบบนั้น
“เป็นการใช้เงินที่สิ้นเปลืองชะมัดกับการซื้อของพวกนั้น”
ไคร์เดินลงมาจากเนินเขาและออกเดินต่อไปอีก
พวกเชฟเองก็มาทำธุระของพวกเขาอยู่ตามเส้นทาง
นี่แหละคือสถานที่ที่พวกเขาจะสามารถลิ้มรสชาติของอาหารเลิศรสบนทวีปแห่งนี้
“ฉันต้องไปลองชิมทีหลังให้ได้เลย
คงจะดีถ้าได้ชิมอะไรอร่อยๆ
แต่มันก็น่าสนใจนะเนี่ยว่าพวกเชฟนั่นกำลังชิมอะไรกันอยู่”
ไคร์เปลี่ยนไปเดินทางย่านที่มีกระท่อมอยู่มากมาย
เขาได้อ่านข้อมูลมามากบนกระดานข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นภาษีที่ต่ำ ประติมากรรมมากมาย
เครื่องอำนวยความสะดวกภายในเมืองอันแสนหลากหลาย และภารกิจต่างๆนานา!
ทั้งหมดนั่นมันก็จริงอยู่หรอกนะ
แต่ว่าก็มีสิ่งนึงภายในเมืองโมราต้าที่ไม่ตรงตามที่บอกเอาไว้ในกระดานข่าว
-มีผู้หญิงสวยๆเยอะแยะในหมู่นักบวชของวิหารแห่งเฟรย่านะจะบอกให้
-ขอแค่ได้มองนะ โมราต้าก็ หุหุหุหุ
ถ้ามีหญิงสาวหน้าตาดีมากมายอยู่ภายในวิหารนั่นจริง
นั่นคงจะเป็นเหตุผลที่เขาเริ่มเล่นภายในเมืองโมราต้า
แต่ยังไงเขาก็ยังคงรู้สึกสงสัยในเรื่องราวพวกนั้นอยู่บ้าง
“จากที่ฉันเจอมา...พวกเธอก็สวยดีหรอกนะ”
ไคร์หลงกลกับความคิดที่ว่า นั่นคงไม่เลวเลยทีเดียว
ขณะที่เขามุ่งหน้าเดินไปทางหมู่บ้านเขตกระท่อม
เขาเห็นก็แต่หญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าผู้เล่นใหม่ที่กำลังปลูกมันภายในไร่
กระท่อมทุกหลังนั้นทั้งเล็กมากเพียงพอแค่ให้คนภายในนั้นปลูกมันฝรั่งหรือมันหวานได้เท่านั้น
“เห้ออ หวังว่าคงจะได้เจอสาวสวยๆในที่แบบนี้นะ…..”
ไคร์ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้หันหน้าไปมองทางนั้น
ซอยุนกำลังทำงานภายในเขตไร่ที่ไร้ผู้คนดังนั้นเธอถึงได้ถอดหน้ากากของเธอออกหลังจากที่เหงื่อเธอเริ่มออก
“อึก!”
ไคร์รู้สึกว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นในตอนที่เขาเห็นซอยุน
นั่นคือรูปร่างหน้าตาที่งดงามระดับเทพธิดา!
“โอว้าวววว….”
ไคร์พูดอะไรไม่ออก
ซอยุนกำลังปลูกมันฝรั่งเพื่อเอาไว้ใช้เลี้ยงลูกวัว
เธอเป็นชาวเมืองคนหนึ่งของราชอาณาจักรที่วีดปกครองอยู่
แต่เธอก็ยังคงมาอาศัยอยู่ภายในกระท่อมแบบนี้
“น..นี่แหละเมืองโมราต้าที่ฉันคิดเอาไว้”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ดันเจี้ยน: ท่านคือคนแรกที่ค้นพบพื้นที่ใต้ดินของป้อมปราการทับคาล
|
รางวัล: ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 2,610
หน่วย
|
ประสบการณ์และอัตราการดรอปไอเท็มเพิ่มขึ้นเป็น 2
เท่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
|
มอนสเตอร์ตัวแรกในแต่ละชนิดที่ท่านฆ่าจะดร็อปไอเท็มที่หายากที่สุดให้ท่าน
|
อย่างที่เขาคิด
โพรงที่อยู่ภายในป้อมปราการที่วีดเข้าไปมุ่งหน้าไปสู่พื้นที่ใต้ดินที่สำคัญ
“ผู้บุกรุก แกกล้าดียังไงถึงได้เข้ามาที่นี่!”
นักสู้หัวกระทิพวกนี้มีเลเวลและอุปกรณ์สวมใส่ที่ดีกว่าพวกข้างบนมาก
วีดคิดว่ามันคงไม่ง่ายแน่ขณะที่เขามองดูพวกมัน
“ศัตรู 10 ตนนี่ค่อนข้างเยอะเอาการเลยแหะ บลิงค์!”
เขาเทเลพอร์ทข้ามพวกนักสู้หัวกระทิที่กำลังกั้นทางเข้านั้นไป
“กรรรรรร!”
“แฮร่รรรรร!”
พวกนักสู้ส่งเสียงคำรามขณะที่พวกมันไล่ตามเขาไป
หอกทวนมากมายที่พวกมันขว้างไปก็ผ่านวีดไปและประทะเข้ากับกำแพงและพื้นดิน นี่คือสถานการณ์ที่แสนเร่งด่วนและแสนระทึกใจ!
“ถ้าโดนจับได้คงตายแน่ๆ!”
วีดวิ่งไปด้วยพลังกายเต็มกำลังของเขา
เขาเลี้ยวไปทางขวาทุกครั้งมีทางแยกปรากฏ
ทว่าเขาก็พยายามที่จะสำรวจให้ทั่วเท่าที่เขาจะทำได้
เขาหวังว่าจะหาห้องขังที่พวกอาร์นินถูกกักตัวเอาไว้
ถ้าหากว่าเขาพบประตูที่ถูกปิดล็อกอยู่เขาก็จะรีบเปิดอย่างรวดเร็ว
“ไอ้มนุษย์ชั่วนั่นเข้าไปแล้ว”
“ฆ่ามันซะ!”
ทว่าเขาก็เจอแต่พวกซัลเลียนอยู่ภายในห้องนั้น
พวกมันตั้งแนวรบทันทีที่พวกมันไล่ตามวีดมาจนทัน
มีศัตรูจำนวนมากกว่า 100 ตนมารวมตัวตรงนี้ และนั่นก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะสู้มันและเอาชนะได้!
“กลยุทธ์ของฉันตอนนี้มีแค่ 2 ขั้นเท่านั้น”
ขั้นแรก
หนีออกไปให้พ้นจากพวกนี้ซะ
ขั้นที่ 2
โกยแล่บโดยด่วน
วีดโน้มตัวส่วนบนของเขาลงและออกวิ่งสุดแรงตีนด้วยแขนขาทั้งสี่ข้างของเขา
มันคือทักษะการเคลื่อนไหวที่ช่วยเพิ่มความเร็วได้ถึง 60% ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเป้าโจมตีได้ง่ายแต่สำรหรับเขาไม่ว่าด้วยวิธีไหนเขาก็ยอมทำเพื่อให้มีชีวิตรอด
“จับมัน….”
“เอามันไปเป็นอาหารให้พวกเด็กๆกิน”
“เราย่างมันก่อนดีไหม?”
“มันก็เหมือนค่อยๆโดนย่างแล้วหล่ะ ดูสิวิ่งหางจุกตูดเลย”
พวกนักสู้ซัลเลียนกำลังปรึกษาหารือกันว่าจะจัดการกับวีดยังไงดีขณะที่กำลังไล่ตามหลังเขาไป
จริงๆแล้ว ดันเจี้ยนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากบ้านของพวกมัน
ดังนั้นวีดถึงได้ติดกับเข้าอย่างจัง
“ไอ้ผู้บุกรุกมาทางนี้แล้ว!”
ตอนนี้พวกนักสู้ได้ไปดักทางหน้าเขาแล้ว
จากนั้นวีดก็เลี้ยวไปอีกทาง เนื่องจากมีพวกซัลเลียนวิ่งวนไปมาอยู่เต็มไปหมดจึงทำให้เขาไปไหนไม่ได้อย่างที่เขาคิดเอาไว้
“ที่นี่มันลึกชะมัด…งั้นฉันคงต้องเลือกทางที่เป็นไปได้มากที่สุดสินะ”
เขามองไปข้างหน้าและเลือกเส้นทางที่มีทางแยกและออกวิ่งไป
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีนักสู้สองตัวมาดักทางเขาเอาไว้
“ตายซะเถอะแก!”
พวกศัตรูไล่ตามเขามาจากทางด้านหลัง
มันจึงทำให้เขาจำใจต้องยกเลิกทักษะวิ่งสี่ขาขณะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
“ทักษะหลับตาอดทน!”
-หอกปักเข้าไหล่ของท่าน
|
พลังชิวิตของท่านลดลงอย่างมาก
|
-หอกโจมตีโดนศีรษะของท่าน
|
การโจมตีคริติคอล!
|
ท่านตกลงสู่สถานะมึนงง
|
ในตอนที่เขาลืมตาอีกครั้ง พื้นที่รอบๆตัวเขาก็สั่นสะเทือนเพราะมีพวกนักสู้ซัลเลียนไล่ตามเขามาจนทันแล้ว
ทัศนีภาพการมองเห็นของเขาหมุนติ้วเนื่องจากสถานะมึนงงของเขา
มันจึงกลายเป็นเรื่องยากที่จะมองหาทางไปได้
แม้แต่ตอนที่เขาวิ่งเข้าหากำแพง
วีดก็จำต้องมองหาที่โล่งและออกแรงวิ่งสุดแรงเกิด สถานการณ์ที่เลวร้ายยที่สุดได้เกิดขึ้นแล้วในตอนนี้!
‘สถานะมึนงงยังเหลืออีกตั้ง 13 วินาที...’
พวกนักสู้ที่ไล่ตามเขามากลับปิดทางออกที่เปิดโล่งนั้นในทันที
“มันไปทางนั้นแล้ว!”
วีดวิ่งพลางพิงไปตามผนังเนื่องจากค่าสถานะมึนงงของเขา
จนทำให้พวกนักสู้ที่ไล่ตามเขาตามมาได้อย่างรวดเร็ว ที่นี่ก็เป็นถิ่นของพวกมัน
ดังนั้นพวกมันจึงใช้ทางลัดและมาปรากฏตัวหน้าเขาในทันที
และในที่สุดเขาก็จำใจต้องเอาแผนปฏิบัติการขั้นที่ 3 ออกมาใช้
เขาออกวิ่งไปและพยายามปกป้องหัวเอาไว้
“ทักษะหลับตาอดทน!”
ปั๊ก ปั๊ก!
“ทักษะหลับตาอดทน!”
ปั๊ก ปั๊ก!
“ทักษะหลับตาอดทน! ถ้าพวกแกฆ่าฉันได้ก็เอาเลยสิ!”
เขาค่อยๆเบียดตัวและผลักพวกนักสู้ซัลเลียนออกไปเรื่อยๆและเปิดทางฝ่าออกไป! แม้ว่าจะมีทักษะป้องกันแบบนี้ก็ตาม พลังชีวิตของเขาก็ลดลงไปอย่างฮวบฮาบ
เขารับมือกับพลังของดาบสีชาดได้ แต่มันก็เป็นได้เพียงแค่แหล่งพึ่งพิงอย่างสุดท้ายเท่านั้น
ถึงแม้ว่าทางเดินภายในชั้นใต้ดินจะแคบลงเรื่อยๆ
พวกทหารมือดีพวกนั้นก็ยังพยายามเข้ามารวมตัวกันไม่ขาด
ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพและพวกพ้องของเขาก็คงต้านทานไว้ไม่ได้ตลอดแน่ๆ
วีดเหลือเวลาน้อยเต็มทีแล้ว
“เวลาตอนนี้ไม่เห็นเดินผ่านไปเร็วเหมือนตอนที่ฉันทำงานพาร์ทไทม์ล้างจานที่ร้านอาหารเลยซักนิด”
แกร๊ก
“เฮ้ยย….ผู้บุกรุก
ฆ่ามัน!”
เจอก็แต่พวกซัลเลียนทุกทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องปิดอยู่
“เจริญหล่ะ ยิ่งเหลือพลังชีวิตกับมานาไม่มากแล้วด้วย…”
ถ้าเขายังดั้นด้นฝ่าดงศัตรูไปอยู่แบบนี้เขาคงไม่เหลือทั้งมานา
พลังชีวิตหรือแม้แต่เวลา
จบตอน
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบจะมีทางรอดไหมเนี่ย บรรยายซะหมดหนทาง ขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบจะตายไหม มาลุ้นกัน
ตอบลบค้างมากครับ..ขออีกด่วนๆๆ
ตอบลบจะได้ใช้พลังของแหวน ชัดๆ แล้วมั้ง
ตอบลบ