เล่มที่ 29 ตอนที่ 9: ปฏิบัติการของเหล่าประติมากรรมสลักชีพ แปลโดย Cole’s
Myth
วีดเดินหน้าย่างก้าวสู่รังของอาครีย์
อองไคเบิร์น เขาพาเจ้าไวทรีบินไปที่อาณาจักรธอร์ จากนั้นก็เดินไปหาไคเบิร์นตามลำพังในกรณีที่เผื่อว่าเขาอาจจะตาย
“โธ่เอ้ย ซวยชะมัด.......”
เมื่อไม่นานมานี้เขาแค่นั่งรอในร้านเหล้าดื่มเบียร์อย่างสบายใจขณะที่พวกคนแคระขนย้ายเครื่องบรรณาการไปให้มัน
แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับต้องไปด้วยตัวเอง
“พิลึกจริงๆทำไมชีวิตฉันถึงต้องตรากตรำขนาดนี้นะ”
วีดถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่เขานั่งพัก
เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมชีวิตของเขาถึงได้เต็มไปด้วยความลำบากมากมายขนาดนี้
“ถ้าเป็นหยั่งงี้ละก็
ฉันคงต้องทำใจกับตอนที่เงินหล่นหายไปจากกระเป๋าแล้วหล่ะ”
วีดเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังรังมังกร
เขาพึ่งได้ยินข่าวดีมาว่าอาณาเขตของราชอาณาจักรอาเพ่นขยายตัวขึ้นเนื่องจากมีหลายหมู่บ้านนมาเข้าร่วมด้วย
หลายหมู่บ้านมีสภาพทรุดโทรมเพราะจำนวนประชากรที่ลดต่ำลง
ดังนั้นงานอีเว้นที่จัดขึ้นจึงไม่ได้ใหญ่โตมากนักสำหรับเขาในฐานะกษัตริย์ที่จะไปเข้าร่วม
แต่เพราะแต่ละหมู่บ้านรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว มันจึงทำให้เมืองคับคั่งไปด้วยผู้เล่นมากมาย
เหล่าพ่อค้าตัดสินว่ามันจะเป็นพัฒนาการที่ดี
มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนถ้าหากได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น
พวกเขาจึงลงทุนและสร้างบ้านในทำเลที่ดี
พวกลอร์ดเองก็ได้ทำสัญญาสันติกับวีด
จึงไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของเมือง
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้
พวกผู้เล่นเริ่มก่อสร้างกระท่อมภายในหมู่บ้าน เหล่าชาวไร่ชาวสวนก็ช่วยถางผืนดินเพื่อเตรียมการเพาะปลูก
ขณะที่เหล่าคนเหมืองก็ตระเวนช่วยหาเหมืองแร่ในบริเวณใกล้เคียง
แต่กระนั้นตอนนี้ภารกิจและการล่าภายในหมู่บ้านยังไม่ดูน่าดึงดูดใจมากนัก
เพราะเมื่อใดที่ผู้คนออกจากหมู่บ้าน
ความเป็นปึกแผ่นและการทำงานพัฒนาหมู่บ้านให้ประสบผลสำเร็จก็จะพังทลายหายไปทันที
ในขณะเดียวกันเมื่อใดที่พวกเขาได้เข้ามาอยู่ภายในอาณาเขตของราชอาณาจักรอาเพ่น
พวกทหารก็จะสามารถออกล่าพวกมอนสเตอร์และสำรวจดันเจี้ยนได้
และในที่สุดก็จะสร้างผลประโยชน์ให้กับราชอาณาจักรอาเพ่นอย่างแน่นอน
และเมืองโมราต้าก็จะได้ประโยชน์อย่างมากหากหมู่บ้านอื่นๆเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น
เพราะงั้นเป็นเรื่องดีที่จะได้เห็นศักยภาพภายในตัวพวกเขาตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
สภาพทางการเงินของราชอาณาจักอาเพ่นฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากการก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพ
เพราะงั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถสร้างอาคารก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ให้กับทางหมู่บ้าน
จัตุรัสการค้าและอาคารสำคัญๆก็ถือว่าจำเป็นต้องสร้าง
ถนนหนทางเส้นหลักที่เชื่อมโยงไปยังเมืองโมราต้า ที่ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอาเพ่น
และเมื่อใดที่การค้าขายขยายตัวออกไปสู่ชุมชนของแต่ละหมู่บ้าน
ก็จะช่วยได้อย่างมากในการขยับขยายความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและความมั่นคงของหมู่บ้าน
พวกผู้เล่นก็จะเข้ามาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านมากขึ้นถ้าหากว่ามันได้รับการพัฒนา
เมืองโมราต้านั้นเติบโตอย่างรวดเร็วมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ทว่าแต่ละหมู่บ้านพึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอาเพ่นซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นแรกเริ่ม
กรรรรรรรรร
โกรรรรรรรรร
เส้นทางสู่รังมังกรนั้นปูทางเอาไปด้วยมอนสเตอร์จำนวนมากมายรายล้อมอยู่
เส้นประสาทของเขาเหมือนโดนรุมทึ้งขณะที่พวกมันกำลังส่งเสียงคำรามอันแสนดุร้าย
พวกมอนสเตอร์เลเวลสูงที่มีน้ำลายไหลหยดลงมาจากเขี้ยวแหลมคมของพวกมัน
จึงทำให้วีดรู้สึกหวั่นเกรงและเหมือนโดนคุกคามเป็นอย่างยิ่ง
แต่ถึงกระนั้นเพราะเขาเดินเข้าไปในอาณาเขตของอาครีย์
อองไคเบิร์นพร้อมกับพวกสปาร์ทอย
มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่พวกมอนสเตอร์จะโจมตีใส่เขา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยินดีมากนักแต่เพราะเขาได้รับคำเชิญจากมังกรอาครีย์ออง จึงทำให้เขาปลอดภัยจนถึงบัดนี้
‘มังกรนี่ก็คงไม่ต่างอะไรกับคำสาปของเทพเจ้าเลยจริงๆ
โรยเกลือใส่ในหม้อนิดๆ แล้วก็เตรียมพร้อมตั้งโต๊ะรอกินได้เลย
พอเกิดมาใหม่ก็คงโดนเหมือนเดิมสินะ’
เขาเดินมาจนถึงทางเข้าของรังแล้วในขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
- อภิสิทธิ์ในการนำสปาร์ทอยของท่านได้สิ้นสุดลงแล้ว
|
เหล่าสปาร์ทอยได้แยกตัวออกไป จากนั้นพวกมันก็กลับไปทำหน้าที่ของมันในการเฝ้าประตูทางเข้า
วีดต้องเดินเข้าไปในรังเพียงลำพังหลังจากนี้
คัมภีร์เวทย์ อุปกรณ์
และสมบัติทั้งธรรมดาและหายากกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปหมดเหมือนอย่างกับกองขยะที่ถูกทิ้งเรี่ยราด
เครื่องบรรณาการจากเหล่าคนแคระของอาณาจักรธอร์ที่ให้ส่งทุกๆปีกองขึ้นพะเนินเป็นภูเขา
จากนั้นมังกรตัวดำทะมึนที่กำลังนอนอยู่ก็ม้วนตัวยกหัวขึ้นมา!
-ท่านตกลงสู่ห้วงแห่งความหวาดหวั่นเมื่อประจักษ์ต่อหน้ามังกรไคเบิร์น
ค่าความสามารถทางกายทั้งหมดของท่านลดต่ำลง
|
วีดคุกเข่าลงทันที
“ท่านคงกำลังพักผ่อนอย่างสุขสำราญ
ข้าน้อย วีด ประติมากรผู้ต่ำต้อยมาพร้อมกับประติมากรรมที่ท่านไคเบิร์นปรารถนา”
เป็นอีกครั้งที่เขาต้องประสบพบเจอความตรากตรำและความยุ่งยากชวนปวดหัว
เขาสัมผัสได้ว่าเขาไม่ควรที่จะเข้าไปใกล้เขาจนเกินไป ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเพิ่มค่าความสนิทสนมกับเขา
เขาขอแค่มอบไอเท็มให้เสร็จแล้วก็รีบกลับไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนหัวของอาครีย์ออง
ไคเบิร์นขยับเข้ามาใกล้เขาอีก เจ้ามังกรพ่นลมหายใจที่มีกลิ่นรุนแรงออกมา
-ประติมากรรมหล่ะ?
“นี่ครับ”
วีดหยิบ รูปสลักไคเบิร์นอันเจิดจรัส
ออกมาจากกระเป๋าสะพายของเขา
ซึ่งเป็นรูปสลักที่ทำขึ้นจากผลึกโมรา
เป็นประติมากรรมที่ถูกสลักขึ้นมาจากผลึกคริสตัลที่แวววาว ถูกแกะออกมาอย่างดีราวกับดวงดาวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า
ผลึกเล็กใหญ่ของอัญมณีสะท้อนรูปลักษณ์ของมังกรออกมาได้เป็นอย่างดี
วีดจดจำเรื่องราวการสร้างประติมากรรมกับราชาเบลซ์ออซได้เป็นอย่างดี
พระองค์รู้สึกตื่นเต้นมากพอๆกับตอนที่เขาได้ยินการพรรณนาถึงผลงานของเขา
- เป็นประติมากรรมที่สร้างสรรค์จริงๆ
“ท่านคิดว่ามันสวยดีหรือเปล่าครับ?”
- ก็เตะตาดี การสลักประติมากรรมออกมาจากผลึกเชื่อมแบบนี้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก
-ประติมากรรมอัญมณี
รูปสลักไคเบิร์นอันเจิดจรัส
ประติมากรได้เดินทางมาถึงก้าวย่างสุดท้ายแล้ว
และได้สรรสร้างผลงานร่วมกับประติมากรรระดับตำนาน
ผลึกโมราที่อัดแน่นไปด้วยความเจิดจรัสของดวงดาว
ซึ่งเป็นสมบัติอันลึกลับและสุกสกาวที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน
คุณค่าทางศิลปะ :12,843
หน่วย
|
คุณสมบัติพิเศษ : ความงดงามอันเหลือล้นนั้นมักก่อให้เกิดโชคชะตาอันเลวร้าย
โอกาสที่จะพบเจอกับโจรป่าเพิ่มบ่อยมากขึ้นถึง 4 ครั้ง
เกียรติ +89
เสน่ห์ +145
มูลค่าไม่สามารถประเมินค่าได้
|
ผลเอฟเฟคจะไม่ทับซ้อนกับประติมากรรมชิ้นอื่น
จำนวนของประติมากรรมอัญมณีที่ทำเสร็จสมบูรณ์
: 1
ชิ้น
|
พื้นผิวของผลึกโมราส่องแสงสดใสงดงาม
วีดหยิบประติมากรรมที่เขาทำร่วมกับราชาเบลซ์ออซออกมา จากนั้นก็ยกมันให้กับไคเบิร์น
“อึก……”
ประติมากรรมที่อยู่ในมือวีดส่องแสงกระทบบนพื้นผิวผลึกโมรา
ตั้งแต่หัวจนถึงหางของประติมากรรมมังกร มันเป็นประติมากรรมที่เป็นการรวบรวมผลึกอัญมณีชิ้นต่อชิ้นจนกลายมาเป็นปประติมากรรมหนึ่งชิ้นที่เสร็จสมบูรณ์
หากมีแสงอาทิตย์สัมผัสลงตัวผลึกแม้เพียงเศษเสี้ยว
ผลึกโมราก็นั้นก็จะดึงแสงนั้นมาและประกายแสงระยิบระยับทันที
คงไม่มีผลงานชิ้นไหนที่งดงามและส่องแสงแวววาวได้กว่าชิ้นนี้อีกแล้ว
-วางมันลงแล้วก็ไปซะ
เจ้าไคเบิร์นพูดออกมาอย่างนั้น
ก่อนที่มันจะหาวแล้วก็หลับตาลง แม้ว่าเขาจะคาดหวังไว้บ้างนิดหน่อย
แต่เจ้ามังกรนั่นก็ยังคงนิ่งเงียบโดยไม่มีค่าชดเชยใดๆให้กับเขา
ตริ้ง!
-สมบัติที่มังกรปรารถนา
ท่านได้รับสิ่งที่มังกรอาครีย์ออง
ไคเบิร์นต้องการมามอบให้ได้ภายในวันที่กำหนด
เจ้ามังกรมีความสนใจในประติมากรรม
ดังนั้นมันจึงต้องการสมบัติที่ทำขึ้นมาจากวัสดุชั้นเยี่ยม
ช่างเป็นเกียรติแก่ท่านที่มีชีวิตรอดหลังจากที่ได้พบกับมังกรไคเบิร์น
ภารกิจของท่านสำเร็จแล้ว!
|
‘ไอ้มังกรเน่านี่…….’
วีดกลั้นใจที่จะไม่ยอมเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว
ทว่าตรงหางตาของเขาก็เปียกซึมด้วยน้ำตาจากความเศร้า ความเสียใจทั้งหลายดิ่งลึกลงสู่ภายในตัวของเขา
เขาไม่เคยร้องไห้มาก่อนแม้ว่าจะดูหนังรักโรแมนติกอันแสนเศร้า
“ขอบพระคุณท่านมากที่ยินดีรับมัน
ท่านไคเบิร์น”
วีดกล่าวคำลาและเดินออกไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“เห้ออ อยากไปเที่ยวจังเลย”
วันนี้คือวันที่เธอจะต้องไปทำงานแต่เช้าที่สถานีออกอากาศ
ชินฮเยมินคือพิธีกรรายการ ‘เรื่องราวของทวีปเวอร์เซล’
วันนี้คือการออกอากาศของรายการส่วนแรกและส่วนที่สอง
บทพูดได้ถูกตรวจเช็คจนเรียบร้อยไปก่อนแล้ว แถมเธอยังเพิ่มเติมลงไปเองบ้างเล็กน้อย
“ฉันอยากพักและออกผจญภัยไปกับทุกคนจริงๆ”
ชินฮเยมินลองคำนวณดูว่าเธอจะโดนหักเงินไปมากแค่ไหนตอนที่ลาพัก
ก่อนที่เธอจะส่ายหัวไล่ความคิดนั้นให้มันพ้นหัวไป
การได้ไปเที่ยวต่างประเทศซักสองสามปีถือว่าเป็นความฝันของมนุษย์เงินเดือน
ทว่าวาเป็นจริงนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย
“คุณโอจูวานคะ วันนี้เรามีข่าวมากมายมานำเสนอค่ะ คุณหลับสบายดีหรือเปล่าคะเมื่อคืน?
ขอบตาดำของคุณดูเหมือนว่าคุณคงโต้รุ่งมาสินะคะ”
“มีมอนสเตอร์โจมตีหมู่บ้านบีสท์เมื่อวานนี้ครับ
แต่ผมว่าคุณฮเยมินคงไม่ได้ยินข่าวที่เหล่านักเดินทางขับไล่พวกมันไปหรอกครับ”
“อุ้ยตาย
มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยหรอคะ? คุณผู้ชมอาจจะกำลังสงสัยนะคะว่าวันนี้เรามีข่าวอะไรมานำเสนอ”
ชินฮเยมินและโอจูวานกำลังดำเนินรายการต่อไปเรื่อยๆ
“หลายคนคงรู้แล้วว่าตอนนี้บาร์ดเรย์ทำภารกิจที่
15 ของภารกิจสายอาชีพอัศวินทมิฬสำเร็จแล้ว”
“เหลือเชื่อจริงๆครับ ส่วนพวกอัศวินและพลทหารที่บาร์ดเรย์นำมาเองก็เก่งขึ้นมากจริงๆ”
“วันนี้พวกเราจะฉายภาพวิดีโอของอีเว้นท์สำคัญที่เกิดขึ้นค่ะ
นักรบไพธอนเองก็ทำสำเร็จแล้วใช่ไหมคะ?”
“ฉายา
หมาป่าจอมดุร้ายของเขานี่เหมาะกับเขาจริงๆครับ นั่นก็เพราะว่าไม่มีนักสู้คนไหนที่สามารถหลบซ่อนตัวจากเขาได้เลยจริงๆ
แถมเขายังเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงในการเหวี่ยงดาบผู้ไร้ปราณีอีกด้วย”
ส่วนแรกของการรายงานข่าวเกี่ยวกับบรรดาผู้เล่นที่กำลังท้าทายภารกิจปรมาจารย์
ตอนนี้ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ เพราะงั้นคนแรกที่ได้รับเกียรติยศและรางวัลยังเป็นความสนใจหลักๆอยู่ในตอนนี้
ถ้าหากว่ามันเป็นภารกิจการค้นหาสมบัติหรือค้นหาดันเจี้ยน
ความยากที่จะทำให้สำเร็จได้นั้นยังถือว่าสูงมากนัก
แถมผลตอบแทนก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย
เพราะงั้นผู้เล่นหลายคนจึงรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะเฝ้ารอท้าทายภารกิจที่ยากๆขึ้นไปอีก
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรายการนี้ถึงกลายเป็นตัวแทนหลักในกาออกอากาศในแต่ละสถานี
พวกเขาส่งผ่านข้อมูลสำคัญๆเกี่ยวกับทวีปเวอร์เซลให้กับเหล่าผู้เล่น
จากนั้นเรตติ่งก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเอง
ส่วนแรกของการรายงานเป็นเรื่องเกี่ยวกับบาร์ดเรย์
และส่วนที่สองนั้นเกี่ยวกับการผจญภัยของคนอื่นๆ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ชาวเมืองแห่งอาณาจักรธอร์กำลังพักผ่อนหย่อนใจพลางดื่มเบียร์ตามร้านเหล้า
“เจ้าได้ยินข่าวไหมว่าวีดไปเจอมังกร
อาครีย์ออง ไคเบิร์นมาด้วยนะ”
“จริงหรอๆ?”
“ใช่ๆ
พวกคนในเมืองเขาพูดกันให้แซ่ดว่า
ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ไปพบกับไคเบิร์นแถมยังไร้รอยขีดข่วน”
“โห ทักษะแกะสลักเขาช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
“อึก
ไปเจอกับไคเบิร์นตัวเป็นๆงั้นหรอ?”
เหล่าคนแคระต่างรู้สึกประหลาดใจ
ความสนใจของบรรดาผู้เล่นทวีปเวอร์เซลในตัววีดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสองสามปีมานี้
แม้ว่าเขาจะสูญเสียชื่อเสียงเล็กน้อยจากการพ่ายให้กับบาร์ดเรย์ ทว่าการได้ขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอาเพ่นและการก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพก็ช่วยฟื้นความสนใจในตัวเขากลับมาอีกครั้ง
ราชาผู้ขยายดินแดนและสร้างความไว้วางใจให้เหล่าชาวเมือง
แต่ว่าพวกเขาไม่สามารถปักใจเชื่อได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เหล่าผู้เล่นทั้งหลายเห็นอยู่นั้นคือวีดผู้มาจากคอนติเนนท์
ออฟ เมจิค แถมยังมีแฟนคลับมากขึ้นไปอีกในโลกของโรยัลโร้ด
วีดได้สำแดงพลังอันแข็งแกร่งอันเหลือล้นของเขาตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาในเกมส์
เพราะเขาค่อนข้างเก็บตัวเงียบในช่วงเริ่มแรกดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องปล่อยไป
ได้แต่รู้สึกถึงความตื่นเต้นและต่างคาดหวังสิ่งที่เคยเกิดและจะเกิดขึ้นในอนาคต
“โอ้โห!
วีดมีชีวิตรอดกลับมาจากการไปเจอกับมังกร…..”
“คนคุ้มกันที่เห็นก่อนหน้านี้คือพวกสปาร์ทอยที่เป็นของไคเบิร์นนิ”
“ว้า
ฉันละสงสัยจริงๆว่ามันจะออกอากาศหรือเปล่านะ?”
“ไม่รู้สิ ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”
“ยอมปล่อยวางทุกอย่างและเดินไปข้างหน้า
เขานี่ช่างกล้าหาญจริงๆ”
วีดเองก็กำลังนั่งอยู่ในโรงเหล้าที่มีชื่อว่า
ไอเอิ้น แฮมเมอร์ เขาได้เบียร์มาดื่มฟรีเพราะมีระดับช่างตีเหล็กขั้นกลาง
เขาหยุดพักที่นี่ก่อนจะบินกลับไป
‘มีคนรู้เรื่องภารกิจไคเบิร์นที่ฉันทำเสร็จแล้วสินะ’
วีดกำลังฉลองด้วยเบียร์เย็นๆ
มีนักเดินทางมากมายในโรยัลโร้ด ต่างให้ควาสนใจในตัวนักผจัญภัยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
เพราะงั้นข่าวคราวเรื่องที่พวกเขาทำลงไปถึงได้กระจายอย่างรวดเร็ว
ภารกิจที่เขาพึ่งทำสำเร็จไปนั้นเป็นปรากฏการณ์อันแสนวิเศษสำหรับเหล่าคนแคระ
‘เห้อ ค่อยสบายใจหน่อย’
ตอนนี้ทักษะแกะสลักของวีดอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล
9
กับอีก 49.2% เขาต้องการเพียงแค่อีก
50% ถึงจะทำให้เชี่ยวชาญทักษะขั้นปรมาจารย์ได้
‘ฮึ่มม
การลงทุนให้กับการแกะสลักนี่มันเกินไปจริงๆ’
ด้วยการยกเรื่องเพิ่มอำนาจให้กับอาณาจักรอาเพ่น
แถมยังมีคนคอยช่วยสนับสนุนอย่างมหาศาล จึงทำให้เขาใกล้จะถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว
โชคดีที่อุทยานแห่งทวยเทพครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี
ตอนนี้เขาถึงหายใจได้คล่องหน่อย
‘ค่อยเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญที่เหลืออยู่ตอนออกไปทำภารกิจที่เหลือละกัน’
วีดเรียนรู้เทคนิคแกะสลักลับทั้งห้าที่สามารถใช้ในการทำภารกิจและออกไปผจญภัยจนหมดแล้ว
ดาบมังกร
ดาราสีชาดเองก็อันตรายเกินไปที่จะใช้มัน
แต่ว่าพลังในการต่อสู้ของมันเองก็ไร้เทียมทานมากจริงๆ
มันคงสำแดงฤทธิ์เดชได้มากเลยหากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว
“ฉันจะไปถลกหนังของไอ้จิ้งเหลนนั่น
แล้วเอามันไปย่างให้ได้”
วีดสาปแช่งไคเบิร์นก่อนที่เขาจะออกไปจากอาณาจักรธอร์
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“อย่างที่พวกนายรู้ ภารกิจไคเบิร์นจบลงอย่างปลอดภัย”
หลังจากทำภารกิจสำเร็จวีดก็ไปพบเพลและพวกพ้องคนอื่นๆ
คนในปาร์ตี้ของพวกเขาต่างคาดหวังถึงรางวัลหรืออะไรก็ได้
ทว่าพวกเขาก็พูดอะไรไม่ออกหลังจากที่เห็นสีหน้าของวีด
มันคือสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าไคเบิร์น
‘มีอะไรแปลกๆอยู่ภายในรอยยิ้มนั่นแน่……..’
‘สีหน้าเขาดูแย่ชะมัดเลย’
แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังรู้สึกชื่นใจบ้างจากสิ่งที่พวกเขาเก็บมาจากสุสานร้างของราชาเบลซ์ออซ
ส่วนวีดเขาหยิบมาได้แค่ผลึกโมรา
เพราะงั้นความเสียหายครั้งนี้ของเขาหนักหนาสาหัสมาก
ฮวายองเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
“แล้วคุณจะเอายังไงต่อคะ คุณวีด?”
“ผมจะกลับไปทำภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพต่อครับ
ผมจะไปที่เมืองฮาร์เซล”
เขาจะกลับไปเอาพวก ปิงหลง ไวเวิร์น
โกลมินิ เจ้าเหลือง ฟีนิคซ์ วิหคทอง วิหคเงิน กับพวกประติมากรรมสลักชีพจากลาส ฟาลังคซ์มาด้วย
รวมถึงประติมากรรมมหาภัยพิบัติของเขาด้วย
วีดไม่ใช่ประติมากรผู้ไร้เดียงสาที่ไม่รู้จักการต่อสู้
เขาทำชุดเกราะใหม่ แถมยังได้เรียนรู้ทักษะดาบลับ
อีกทั้งยังเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญให้กับทักษะดาบประกายแสงให้มีประโยชน์จนเอาไปใช้ต่อสู้ได้แล้ว
นอกจากนั้น
เขายังได้เรียนรู้ทักษะประติมากรรมประทานชีพตั้งแต่เนิ่นๆ
ประติมากรรมสลักชีพพวกนี้ก็เลยแข็งแกร่งขึ้นมา
เพราะงั้นเองภารกิจที่เหลืออยู่ของเขาถึงได้ง่ายหน่อย
ส่วนพวกออร์คกับเอลฟ์เองก็อยู่ในช่วงการออกสำรวจรัทเซเบิร์ก
ฮวายองรู้สึกลังเลก่อนที่จะพูดออกไปว่า
“พวกเราจะไปกับคุณค่ะ”
วีดมองไปที่พวกเขาขณะที่เพลหัวเราะออกมาและพูดว่า
“พวกเราคุยกันก่อนหน้านี้แล้วครับ
พวกเราจะช่วยคุณวีดทำภารกิจเอง”
พวกเขาทำได้แค่มองดูขณะที่วีดกำลังโดนพวกกิลด์เฮอร์มีสรุมฆ่าเขา
เพราะงั้นพวกเขาจึงอยากจะช่วยเขาทำภารกิจปรมาจารย์ที่เหลือ
มิตรภาพอันแสนอบอุ่นระหว่างพวกพ้องระอุออกมาแล้ว!
พวกเขาเองก็รู้สึกเสียใจเพราะว่าวีดเองก็คอยทำอาหารให้กับพวกพ้องอยู่เสมอ
“ทุกคน ผมซาบซึ้งจริงๆ…….”
เซอร์กะหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงอันแสนน่ารัก
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่
ไว้ตอนที่หนูทำภารกิจปรามาจาย์ของพวกหนู พี่ค่อยมาช่วยก็ได้!”
“ภารกิจปรมจารย์หรอ?”
วีดรู้สึกได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีการเตรียมการมาก่อนแล้ว
ภารกิจปรมาจารย์แกะสลักของเขาเองก็ถือว่ายากมากพอแล้ว
แถมตอนนี้เขายังต้องไปช่วยทำภารกิจให้กับพวกเพื่อนๆของเขาอีก มีทั้งอาชีพสาย
นักธนู แรนเจอร์ นักเต้น จินตกวี จอมเวทย์ นักบวชและนักตกปลา
“ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้น
งั้นฉันว่าฉันไปที่ฮาร์เซลเองดี….”
“เอ๊ะ พี่กำลังรีบอยู่ไม่ใช่หรอ
แถมยังไกลมากอีกด้วย ไวทรี มานี่เร็วจ่ะ”
ไวทรีมาทันทีหลังจากที่ฮวายองเรียกและหมอบลงกับพื้นในทันที!
พวกเพื่อนของเขาคอยให้อาหารพวกมันอยู่เสมอ
เพราะงั้นประติมากรรมสลักชีพของวีดเองก็เชื่อฟังพวกเขาเช่นกัน
“ไววัน!”
“ไวทู!”
เพื่อนของเขานั่งลงทันทีที่พวกไวเวิร์นบินมาถึง
ปิงหลงและฟีนิคซ์เองก็บินรออยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับเจ้าเหลืองและโกลมินิอยู่บนหลังพวกมัน
ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพจากลาส
ฟาลังคซ์ตัดสินใจที่จะเดินทางไปก่อนแล้ว และเขาคงไปเจอพวกมันที่ฮาร์เซล
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ชนเผ่าซัลเลียน พวกมันคือชนเผ่านักรบที่ปกครองภูเขาหินสูงชันแห่งเทือกเขาฮาร์เซล
หากเขาสามารถกำจัดพวกมันได้เขาก็จะสามารถช่วยเหลือสายพันธุ์ประติมากรรมสลักชีพได้
ความคิดของวีดทำงานเร็วจี๋
“โธ่ ช่างน่าสงสาร
พวกเธอคงลำบากกันมากสินะ ถ้างั้นฉันจะต้องช่วยพวกเขาให้ได้ เพื่อความยุติธรรม”
ผลผลิตที่เหล่าเอลลิออนทำให้กับราชอาณาจักรอาเพนนั้นน่าเหลือเชื่อมาก
ไร่สตรอว์เบอร์รี่ขนาด 5
ตารางเมตร แตงโมอีก 8 ตารางเมตร
นอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้ว รสชาติยังหอมหวานปานน้ำผึ้ง
นี่จะเป็นตัวหมากที่ดีอย่างมากบนกระดาน ในการลงทุนระยะยาวนี่อาจจะได้รับการลงทะเบียนให้เป็นสินค้าเฉพาะก็เป็นได้
ต้องขอบคุณพื้นที่เพาะปลูกที่ได้มาจากหลายๆหมู่บ้าน
ผลผลิตและกำไรที่ได้จึงค่อนข้างสูง
“พวกมันชื่อ อาร์นิน สินะ?
รอก่อนนะ ฉันจะต้องไปช่วยพวกแกให้มาทำงานให้ฉันให้ได้เลย”
พวกอาร์นินนั้นเจอกับวิกฤติหนัก เพราะพวกมันไปติดกับดักที่พวกซัลเลียนวางไว้
วีดมาถึงเทือกเขาฮาร์เซลแล้วและเริ่มดำเนินแผนการง่ายๆก่อนเป็นอันดับแรก
“ฉันต้องค่อยๆโจมตีมันจากทางด้านนอก”
บริเวณทั่วทั้งภูเขานั้นเป็นอาณาเขตของพวกมัน
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันตรงๆแทนที่จะแอบเข้าไปโจมตีพวกมัน
เซเฟอร์ถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
“แผนการแบบนั้นไม่ดูง่ายไปหน่อยหรอคับพี่”
“ง่ายสิดี”
“……..”
ซัลเลียนเป็นที่รู้จักกันในฐานะนักรบที่เก่งกาจ
ทว่าเมื่อนึกถึงความสามารถของปิงหลง ฟีนิกคซ์ และประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆ
การต่อสู้ในเทือกเขาแบบนี้คงไม่น่ามีปัญหา
และยิ่งกว่านั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปในบ้านของพวกมัน
ราชันย์ไฮดร้า ฟีนิกซ์ ยักษ์เพลิง นั้นก็ดูเด่นเกินไป
แม้ว่าพลังในการต่อสู้ของพวกมันจะแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแอบเข้าไปในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ขนาดนี้
“ฉันต้องใช้พวกประติมากรรมสลักชีพออกไปสู้ให้เหมาะ
ต้องทำให้พวกมันทุกตัวทำงาน”
วีดเชื่อในตัวพวกประติมากรรมสลักชีพที่เขาฟูมฟักมาจนถึงบัดนี้
ระดับของพวกมันนั้นพอๆกับมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยซ้ำ
ถ้าพวกมันร่วมมือกันต่อสู้ก็จะสามารถสำแดงฤทธิ์เดชได้อย่างมหาศาล
“เรียกขาน เดทไนท์ แวนฮอร์ค
เรียกขานลอร์ดแวมไพร์ โทริ”
“นายท่าน ข้ารอสู้อยู่เลย”
“ท่านเรียกหาข้าหรือ”
ลูกสมุนทั้งสองของเขาก็ถูกอัญเชิญออกมาเช่นกัน
วีดวางท่าเป็นเจ้านายของพวกมันและพูดออกมาว่า
“พวกแก
คงไม่ได้ลืมเรื่องแหวนกับดาบที่ฉันทำให้หรอกนะ?”
“………”
ตาของโทริขมวดเข้าหากัน
ส่วนขากรรไกรกระดูกของแวนฮอร์คก็ส่งเสียงกรอดๆ พวกมันได้ยินคำนี้มาอย่างน้อย 999
หนได้
“จะสวมมันเมื่อไรละ พอดีไหม?”
“…….”
“ถ้าพวกแกไม่ตอบ งั้นเอาคืนมาเลย”
“ดีเลยครับ”
“วิเศษจริงๆครับ นายท่าน”
“พวกแกต้องใช้คืนค่าแหวนกับดาบให้ฉันด้วยละ
เข้าใจไหม?”
“เข้าใจครับ”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ปู้นนนนนนนนนนนนน!
วีดเป่าแตรแห่งทูเรเซค
มันคือไอเท็มที่ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของพวกประติมากรรมสลักชีพและช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นตัวในการต่อสู้
“ไปเลย”
ในขณะเดียวกัน
เหล่าประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นก็กำลังเก็บกวาดพวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้
ในขณะที่พวกไวเวิร์นถูกใช้เป็นนกขนส่งทางอากาศ
ส่วนที่เหลือก็ใช้เวลาเพื่อให้เติบโตขึ้น
“ฉันละกังวลจริงว่าพุงพวกมันจะปลิ้นออกมา”
ท่าทีของวีดที่บ่งบอกว่าเขาจะใช้พวกมันทำงานอย่างหนัก
“โกรววววววววว!”
ราชันย์ไฮดร้าเก้าหัวแบกร่างอันใหญ่โตของมันมุ่งหน้าไปทางเทือกเขาฮาร์เซล
หนอนแห่งความตาย
มอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นดิน วีดตั้งชื่อมันว่า หนอนแห่งความตาย
เพราะว่าร่างกายของเจ้าหนอนนั่นสามารถขยายใหญ่ได้ถึง 200
เมตร ตอนนี้ความยาวร่างกายของมันอยู่ราวๆ 95 เมตร
แต่ก็มีขนาดมากพอที่จะบดขยี้หรือว่ากินมอนสเตอร์ที่อยู่ในพื้นดินได้
ถ้ามีมอนสเตอร์ตัวไหนถูกมันกลืนลงไปคงได้ตายแน่นอน ร่างกายของเจ้าหนอนดินดูค่อนข้างสะดุดตาขณะที่มันกำลังกะดึ้บไปข้างหน้า
ส่วนเจ้ายักษ์เพลิงก็วิ่งไปมาพลางเหวี่ยงดาบไฟของมันไปด้วย
ทางเจ้าเซเบรัสและอัสวินเซวิลก็เช่นกัน
ประติมากรรมสลักชีพแห่งลาส
ฟาลังคซ์มีสายพันธุ์ที่แตกต่างหลากหลายมากมาย พวกมันให้ความรู้สึกชวนอึดอัดพิลึก!
ปิงหลง ไวเวิร์น อิมูกิ ฟีนิกซ์
วิหคทองและวิหคเงินเองก็คอยสนับสนุนอยู่ทางอากาศ
ปรี๊คคคคคคคคคคคคคคคคคคค!
มีเสียงแหลมสูงดังขึ้น
และมีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่ระหว่างพุ่มไม้และต้นไม้ภายในภูเขา
“นั่นพวกมันหนิ”
เพลมีสายตาที่ดีมาก
เพราะงั้นเขาจึงสามารถรู้ได้ว่าพวกซัลเลียนอยู่ภายในพุ่มไม้
“ราวๆ 300 ตัวพร้อมลูกธนูกับหอก”
วีดยังไม่ได้ติดสินจำนวนของพวกมันเอาไว้แค่นั้น
“พวกมันมีทั้งหมดแค่นั้นจริงนะหรอ?”
“พวกมันกำลังออกมาจากถ้ำที่หลบซ่อนตัวครับ
มันอาจจะอันตรายก็ได้ถ้าพวกประติมากรรมสลักชีพยังเดินหน้าต่อ หยุดแค่นี้ก่อนดีไหมครับ?”
วีดส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร
เรายังไม่ได้เจอกับพวกมันทั้งหมด แค่ดูผมสู้เป็นตัวอย่างก่อนนะครับ”
ลูกสิงโตจะแข็งแกร่งได้ด้วยการถูกโยนลงไปจากหน้าผา
วีดเองก็มีความคิดคล้ายๆกัน
“คงดีกว่าถ้าเลือกพวกอ่อนแอก่อน”
“คงดีกว่าถ้าเลือกพวกอ่อนแอก่อน”
นับจากนี้เขาจำเป็นต้องระบุเฉพาะเจาะจงความสามารถของพวกประติมากรรมสลักอย่างเอาจริงเอาจังซะแล้ว
ถ้าหากว่าเขาทราบขีดจำกัดความสามารถในแต่ละตัว เขาคงจะสามารถคิดกลยุทธ์ได้
พวกซัลเลียนนั้นมักจะเคลื่อนที่กันเป็นกลุ่ม
แถมยังมีแต่พวกใจกล้าทั้งนั้น ถ้าหากว่ามีมอนสเตอร์ระดับบอสเข้าไปในอาณาบริเวณของพวกมันพวกมันก็จะเข้าไปโจมตีอย่างพร้อมเพรียงกันในทีเดียวและจัดการมันจดสิ้นซาก
ดังนั้นวีดเองก็ต้องค่อยๆพิจารณาเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกประติมากรรมสลักชีพ
“พวกมันมาแล้ว”
เหล่าประติมากรรมสลักชีพเดินหน้าไปจนเกือบครึ่งภูเขาแล้ว
ทันใดนั้นพวกซันเลียนก็โผล่ออกมาจากหลังหิน
พุ่มไม้และต้นไม้แบบกะทันหันและเข้ามาโจมตีพวกเขา
หัวทั้งเก้าของราชันย์ไฮดร้าพ่นเปลวไฟไปทางพวกนักสู้
ประติมากรรมสลักชีพที่เป็นเอลฟ์ชั้นสูงเพศหญิงที่วีดตั้งชื่อว่า
เอลทิน ก็ระดมยิงลูกธนูออกไป
เจอร์นิก้า นักรบคนเถื่อนสาว
เองก็ใช้ขวานที่อยู่ในมือซ้ายและกระบองในมือขวาของเธอ ตะบันหน้าใส่พวกนักรบซัลเลียนด้วยกำลังกายอันแข็งแกร่งของเธอ
นักดาบสาววินเด็กซ์
เคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วและกวัดแกว่งอันเบาบางและคมกริบของเธอ
บรรดาประติมากรส่วนมากภายในเขตลาส
ฟาลังคซ์ล้วนเป็นเหล่าชายผู้มีหัวใจอันโดดเดี่ยว
เพราะงั้นเองพวกเขาถึงได้ทำแต่ผลงานที่เป็นผู้หญิงออกมา พวกเธอทั้งหมดล้วนแข็งแกร่งและเหือดกระหายที่จะได้ฉีกกระชากพวกมอนสเตอร์ให้เป็นชิ้นๆ!
และยังมีประติมากรรมสลักชีพรูปร่างเหมือนกยูงที่งามสง่าบวกกับสองขาที่ยาวและดูบอบบางนั้น
เซอร์กะบอกว่ามันน่ารักมากๆและกล่าวคำชมช่วงหัวของเจ้าอีพัลลิทไม่หยุดปาก
ขณะที่พวกซัลเลเอียนพุ่งเข้ามาใกล้ เจ้าอีพัลลิทก็สยายปีกมันออกกว้างในทันที
ชวิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!
มันปล่อยพิษที่ซ่อนอยู่ภายใต้ปีกของมันออกมา
มันเป็นสิ่งที่ดูฉลาดและมีไหวพริบมาก ทว่าพลังในการต่อสู้ของมันนั้นยังไม่ชัดเจนมากนักจากที่ดูมา
แต่ยังไงก็ตามมันก็เป็นมอนสเตอร์ที่อันตรายมากเพราะความสามารถที่ปล่อยหมอกพิษออกมาได้นั่นเอง
ต้นหญ้าเขียวขจีถูกสูบชีวิตจนเหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็วและตายไปในที่สุดซึ่งเป็นผลมาจากหมอกพิษนั่น
คนในปาร์ตี้ของวีดกำลังเฝ้ามองดูเหล่าประติมากรรมสลักชีพกำลังรับบทบาทสำคัญในการต่อสู้จากระยะไกล
ซึ่งเป็นอย่างที่คิดเพราะพวกมันนั้นล้วนมีเลเวลมากกว่า 400 ทั้งนั้น
ทะเลเพลิงได้กลืนกินพวกนักรบซัลเลียนไปทั่วทุกหนทุกแห่งที่เจ้ายักษ์เพลิงเดินผ่าน
ช่างเป็นพลังรบที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
“นี่มันช่าง.....”
วีดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างพออกพอใจ
“อย่างที่คิดเลย ฮ่าๆๆ
ฉันจะทำให้พวกมันเริ่มทำงานตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ประติมากรรมสลักชีพแต่ละตัวมีอยู่ในระดับเดียวกันกับมอนสเตอร์ระดับบอส
ทักษะการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกมันแต่ละตัวนั้นทัดเทียมกับพลังของศัตรู
ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ศัตรูจะสกัดการโจมตีที่ผสมผสานของพวกมันเอาไว้ได้ ต้องของคุณพลังทำลายล้างของพวกประติมากรรมสลักชีพที่ทำให้พวกเขาทะลวงเข้าไปจนถึงทางเข้าของเขตภูเขาแล้ว
“หมดเวลาลองเชิงกันแล้ว เดาว่าแค่นี้คงพอหล่ะ ปีนขึ้นไปเลย!”
กลุ่มของวีดเริ่มปีนไปบนเทือกเขาฮาร์เซล
ยู
บยองจินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาขณะที่กำลังมองจอภาพ
“ใช่ๆ อย่างนั้นแหละ
ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นก็แข็งแกร่งดีอยู่หรอก...แต่พวกซัลเลียนก็เป็นนักสู้ที่จัดการได้ยากเหมือนกันนะ”
การผจญภัยของวีดเองก็ได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อฉายออกอากาศ
แม้ว่ามันจะไม่ใช่การถ่ายทอดสด มันก็ยังถือว่าเป็นการต่อสู้ที่สำคัญมากเพียงพอที่จะนำมาออกอากาศ
บางทีแล้วเหล่าผู้ชมเองก็คงไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับพวกประติมากรรมสลักชีพแล้ว
พลังการต่อสู้พวกมันก็อย่างที่คาด
ทว่าหากว่าพวกเขาเข้าไปในใจกลางของเทือกเขาฮาร์เซลละก็
พวกประติมากรรมสลักชีพคงได้ตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
พวกผู้เฒ่าของเผ่าซัลเลียนกำลังปรึกษาหารือกันซึ่งได้ฉายอยู่อีกจอภาพหนึ่งของยูบยองจิน
เหล่าผู้เฒ่าและทหารมารวมตัวกันอยู่ที่กองไฟ
แม้ว่าพวกมันจะมีรูปร่างเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาน
แต่พวกมันก็เป็นถึงผู้ปกครองเทือกเขาฮาร์เซล
-
มีคนมาปรากฏตัวอยู่ภายในอาณาเขตเทือกเขาของเรา
-
พวกมันแข็งแกร่งไหม?
-
ก็ธรรมดา
เราชนะได้อยู่แล้ว
-
ออกไปสู้กับพวกมันเลยเถอะ
-
ไม่อย่าพึ่ง
ล่อพวกมันเข้ามาให้ลึกกว่านี้
-
ถ้างั้น.....
-
หึๆๆๆๆๆๆ
เราจะไม่ปล่อยให้พวกมันซักคนรอดกลับไป
-
แบบนั้นแหละดีแล้ว
ชนเผ่าซัลเลียนนั้นเป็นพวกที่ฉลาด
พวกมันตั้งใจที่จะล่อกลุ่มของวีดเข้ามาในเขตภูเขาให้ลึกมากขึ้นกว่าเดิมแล้วจากนั้นก็ออกไปต่อสู้ด้วยพลังที่แท้จริงของพวกมัน
พวกนักสู้แอบหลบซ่อนอยู่ภายในถ้ำรอจังหวะกวาดล้างทุกคนไปจนหมด!
มันก็คงจะเหมือนกับเจ้าสฟิงค์ที่ปฏิเสธที่จะออกมาจากโรเซนไฮม์
พวกประติมากรรมสลักชีพสายบินคงเลือกที่จะตายมากกว่ายอมหนีกลับออกไป
วีดก็คงสูญเสียทั้งปิงหลง เจ้าเหลือง
และพวกไวเวิร์นที่เขาอุตส่าห์ฟูมฟักเลี้ยงดูมาด้วยความหวงแหน
“นี่มันน่าสนใจมากจริงๆ”
ยูบยองจินเฝ้ารอผลลัพธ์ที่จะมาถึงด้วยความตื่นเต้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
จี้ด จี้ด!
มีหนูบ้านตัวหนึ่งส่งเสียงร้องออกมาภายในพื้นที่ประชุมของเหล่าผู้เฒ่าซัลเลียน
“ล่อพวกมันเข้ามาอีก......”
เจ้าหนูบ้านตัวนั้นทำเหมือนกำลังตามหาเศษขนมปัง
แต่ก็ไม่มีวี่แววอาหารซักชิ้นให้เห็นเลย
“มาแสดงให้พวกผู้บุกรุกเห็นกันเถอะว่าเทือกเขาฮาร์เซลเป็นที่แบบไหน....”
จี้ด!
แล้วเจ้าหนูบ้านตัวนั้นพบเข้ากับเศษเนื้อที่ตกอยู่ใต้เท้าของนักสู้คนหนึ่ง
จากนั้นก็เอาอาหารเข้าไปไว้ในช่องตรงผนังและกักตุนเอาไว้
เจ้าสปายตัวน้อยพยายามที่จะไม่ส่งเสียงขณะที่วิ่งไปด้วยเท้าทั้งสี่ของมัน
“เราต้องหาสถานที่เอาไว้ฆ่าเจ้าพวกนั้น”
และแล้วในท้ายที่สุดเศษอาหารพวกนั้นก็เข้าไปอยู่ในปากของมัน
เจ้าหนูบ้านนั้นวิ่งกลับไปอย่างเงียบเชียบตรงไปที่รูที่มันขุดเอาไว้
จากนั้นมันก็กลับไปหาวีดและประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆ
เจ้าหนูบ้านตัวนั้นก็เป็นประติมากรรมสลักชีพเช่นเดียวกัน
โดยที่ถูกตั้งชื่อให้ง่ายๆว่า เจ้าหนูบ้าน
มันไม่ได้ดูสวยมาก
แต่ก็มียังมีฟันและกรงเล็บที่แหลมคมที่ทำให้มันดูน่ารักอยู่บ้าง
มีประติมากรผู้หนึ่งที่ทำงานอยู่ภายในเหมืองถ่านของเขตลาส ฟาลังคซ์ผู้ตกอยู่ในความเสียใจในโชคชะตาของเขาจึงได้แกะสลักประติมากรรมชิ้นนี้ขึ้นมา
วีดใช้เจ้าหนูบ้านเข้าไปสอดแนมพวกซัลเลียน
จี๊ด จี๊ด!
เจ้าวิหคเงินเองก็ถูกทาสีทับและกำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้
ใช้นกไปแอบฟังพวกมันในตอนกลางวันและใช้หนูไปแอบฟังในช่วงกลางคืน
วีดรู้จักใช้พวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
------จบตอน----
ผู้แปล
: Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุรครับ
ตอบลบจะรบให้ชนะต้องมีกลยุทธ
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบงานนี้ท่านวีดเตรียมตัวมาดีจริง ๆ
ตอบลบค้างครับ...ขออีดสักสองตอนนะๆๆๆๆ
ตอบลบคราวซวยได้ผ่านไปแล้ว ไม่ได้อะไรซักอย่าง ไอ้จิ้งเหลนนี่ จับถลงหนังมาทำชุด เขี้ยวกับกรงเล็บมาทำอาวุธ ตับไไตไส้พุงมมาทำยาซะดีมั้ย
ตอบลบปล. วีดได้แต่คิดทำจริงไม่ด้ายยยย.....
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบลบ