เล่ม
29 ตอนที่ 8 : ทางเลือกของเจ้าแคว้นแดนเหนือ แปลโดย Acid
กรด
เปลวเพลิงพวยพุ่งอยู่รอบพระวรกายของกษัตริย์เบลซ์ออส
จิตวิญญาณแห่งไฟบินลอยล่องอยู่รอบห้องศิลาด้วย
-
หายากมากที่ได้เห็นประติมากรน้อยกับการวางตัวที่ดีเยี่ยมเช่นนี้
ความคิดของวีดถูกต้อง กษัตริย์เบลซ์ออสอ่อนด้อยเรื่องประจบสอพลอ!
พวกเขาอาจแกล้งทำให้แตกต่างแต่ใครเล่าไม่ชอบการประจบสอพลอ
-
ยังไงก็ตาม เจ้ามานี่
กษัตริย์เบลซ์ออสคว้าแขนของวีด
-
พลังชีวิตของคุณลดลง 489 จากการแผดเผาของไฟ
|
-
พลังชีวิตของคุณลดลง 832 จากการแผดเผาของไฟ
|
-
พลังชีวิตของคุณลดลง 1,309
จากการแผดเผาของไฟ
|
-
พลังชีวิตของคุณลดลง 372 จากการแผดเผาของไฟ
|
-…….
|
พลังชีวิตของวีดลดลงมากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น, ดวงตาทั้งคู่ของวีดกลับฉายแสงราวกับตะเกียง
"ฝ่าบาท,เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงพะยะค่ะ!"
เพื่อนในกลุ่มไม่สามารถหยุดความชื่นชมของพวกเขาได้
ขณะที่มีการออกล่าและผจญภัย
เป็นเรื่องค่อนข้างง่ายที่จะเพิ่มความสนิทสนมกับชาวบ้านในหมู่บ้าน
แต่จะเป็นเรื่องยากที่ใครบางคนจะคิดถึงเรื่องความสนิทสนมในสถานการณ์นี้
ตามปรกติแล้วผู้คนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเผชิญกับมอนสเตอร์ที่ทรงพลังแต่สัญชาตญาณของวีดได้ทำลายมันอย่างสิ้นเชิง
-
ข้าต้องขอบใจเจ้าในการมาที่นี่และทำประติมากรรมที่ข้ายังทำไม่เสร็จในช่วงชีวิตของข้าให้สมบูรณ์
"เปรียบเทียบตัวกระหม่อมเองกับองค์มหาราชเบลซ์ออสคล้ายดั่งรับประทานบะหมี่สำเร็จรูปรสกิมจิด้วยตะเกียบ
มิบังอาจ,
ด้วยประติมากรรมมีองค์ประกอบครบครันอยู่แล้วทั้งรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์และสัดส่วน"
-
เจ้าประติมากรผู้ถ่อมตัว,เจ้ากำลังดูถูกทักษะของเจ้า
"ประติมากรรมของกระหม่อมมิอาจเทียมเคียงขององค์ราชาเบลซ์ออสได้
กระหม่อมอาจได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์สำหรับประติมากรรมของกระหม่อมแต่มันต้องเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อเปรียบเทียบกับประติมากรรมของพระองค์"
-
เจ้าจะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
"กระหม่อมต้องการการประทานสอนสั่งโดยมหากษัตริย์เช่นพระองค์"
วีดสามารถดำเนินการสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ
-
เจ้าผ่านการทดสอบดังนั้นข้าจะให้ของขวัญพวกเจ้าแต่ละคนหนึ่งสิ่ง
บอกสิ่งที่พวกเจ้าต้องการมา
ตริ้ง!
- คุณได้ทำประติมากรรมสำเร็จและจบการผจญภัยในสุสานกษัตริย์เบลซ์ออส
|
คุณสามารถรับของขวัญจากกษัตริย์แห่งไฟเบลซ์ออส
|
คุณสามารถเลือกได้ระหว่างการอัญเชิญจิตวิญญาณแห่งไฟ, เวทย์เพลิงขั้นสูงหรือหยิบบางอย่างจากขุมสมบัติ
|
"อืม.ม.ม.ม..."
ความเจ็บปวดรวดร้าวลึกเกิดขึ้นบนใบหน้าของวีด
เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มของเขาก็ได้รับผลประโยชน์จากความสำเร็จในการผจญภัยด้วยโดยไม่คำนึงว่าวีดเป็นคนทำประติมากรรม
ขณะเดียวกัน, โรมูนะไม่คิดมากเกินไปและเลือกเป็นคนแรก
"ฝ่าบาท, กระหม่อมอยากเรียนเวทย์เพลิงขั้นสูง"
-
เจ้าจะได้รับสิ่งที่สอดคล้องกับความสามารถของเจ้า
เสื้อคลุมของโรมูนะที่คลุมร่างถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง
คุณได้รับเวทย์แห่งไฟ, แม่น้ำเพลิง(Flame River)
|
"ฮือๆ.อ.อ!"
โรมูนะเปล่งเสียงร่ำไห้ปลาบปลื้มยินดี มันเป็นเวทย์ที่ใช้กับพื้นที่กว้างที่อาจก่อให้เกิดแม่น้ำแห่งเปลวเพลิงเพื่อกวาดล้างศัตรู
ไม่เหมือนมนต์ 'แผดเผา'(Burn), ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้ศัตรูเพื่อโจมตี
แต่แม่น้ำเพลิงไม่สามารถใช้เวทย์ในดันเจี้ยนได้
ในพื้นที่เปิดอย่างทุ่งกว้าง, มันจะเป็นเวทย์ทำลายล้างในวงกว้าง!
ความได้เปรียบอย่างใหญ่หลวงของเวทย์มนต์คือพลังทำลายล้างของพวกมัน
ดังนั้นการได้รับเวทย์ขั้นสูงจึงเป็นกำไรมหาศาล
"พวกเราอยากได้สมบัติสักชิ้น"
-
ในที่นี้บรรจุสิ่งของที่ข้าเก็บสะสมมาเมื่อยังเป็นมนุษย์
ข้าไม่ต้องการมันอีกในฐานะของวิญญาณ
พวกเจ้าสามารถเลือกไอเทมได้หนึ่งชิ้นท่ามกลางทรัพย์สมบัติเหล่านี้
ทุกคนยกเว้นวีดทำการตรวจสอบเหล่าสมบัติ แม้ว่าพวกอัญมณีเป็นที่น่าปรารถนา,
ไอเทมทั้งหมดที่นี่เป็นไอเทมเฉพาะ(unique)หรือไอเทมในตำนาน!
สมบัติที่มีมากพอที่จะขยายอาณาจักรได้ทั่วทวีปกลางถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่
พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจหรืองานพิเศษ
ฮวายองเลือกต่างหูทับทิมที่งดงามและแวววาวคู่หนึ่ง
"กระหม่อม....."
วีดยังตกลงใจไม่ได้แม้ช่วงเวลาสุดท้าย
มันยากสำหรับวีดที่จะเลือกโดยอิงอยู่กับสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับกษัตริย์เบลซ์ออส
หนึ่งในสุดยอดสมบัติที่วีดครอบครอง,
แตรของทูริเซค(Teuresec’s Horn)ที่ไม่สามารถ
เอามาเปรียบเทียบกับไอเทมในที่นี้
'จิตวิญญาณแห่งไฟจะช่วยกวาดล้างศัตรู.....'
จิตวิญญาณสามารถรวมกำลังกันต่อสู้โดยไม่ต้องใช้มานา
ผู้นำของกิลด์ปีกสีชาด ธีรอส(Terose)ต้องการดาบเปลวเพลิง
กลับถูกแผดเผาจนสิ้น! เปลวเพลิงติดลุกไหม้ใส่โล่และชุดเกราะ
มันได้เผาผลาญศัตรู
การป้องกันต้านทานสุดยอดดาบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น,
ถ้าพวกมอนสเตอร์มารวมตัวกันแล้วเป็นไปได้
ที่เพลิงจะกระจายกลายเป็นการสังหารหมู่
ทุกคนที่ทำการล่าอย่างหนักแต่ผลลัพธ์ที่ได้ยังขึ้นอยู่กับทักษะของพวกเขาและอาวุธด้วย
ถ้าเขาได้รับดาบเพลิงอย่างนั้นวีดจะค่อนข้างสบายขึ้นแต่อย่างไรก็ตามเลเวลของเขาก็ยังไม่พอ
ทักษะช่างตีเหล็กของเขาและความต้านทานไฟนั่นหมายความว่ามันเป็นไปได้ที่เขาจะใช้ดาบนั่น
"เช่นนั้นตัวเลือกเป็น...กระหม่อมไม่ต้องการสมบัติของมหาราชเบลซ์ออส กระหม่อมอยากจะรับผลึกแก้วโมราสัก..สักหน่อยในฐานะประติมากร
ฮือ.ๆ.ๆ"
วีดกล่าวทั้งน้ำตานองใบหน้าของเขา ในที่สุด, มังกรปีศาจไคย์เบิร์นก็ชนะเหนือความโลภของเขา
-
ประติมากร, เจ้าต้องการจริงๆรึ...ข้ามีวัตถุดิบในการแกะสลักมากมายที่ได้รวบรวมไว้ซึ่งมันไม่จำเป็นอีกแล้ว
เจ้าสามารถเอาวัตถุดิบในการแกะสลักไปได้ทั้งหมด
"เป็นพระมหากรุณาธิคุณฝ่าบาท"
นอกจากผลึกแก้วโมราแล้ว, มีวัสดุอีกหลายอย่างที่มีราคาแพงหรือยากที่จะได้รับมา
"กระหม่อมจะชอบมากกว่าของที่สูงค่า, ด้วยโชคชะตาอันต้อยต่ำของกระหม่อม...."
วีดสูญสิ้นเรี่ยวแรงขณะที่เดินเก็บรวบรวมผลึกแก้วโมรา
คุณได้รับของขวัญจากกษัตริย์แห่งไฟเบลซ์ออส
|
-
ประติมากร
"ขอรับ, รุ่นพี่เบลซ์ออส"
คำของวีดกลายเป็นสั้นลง
วีดทิ้งความสัมพันธ์หลังจากได้รับสิ่งที่เขาต้องการ!
-
ความกระหายในศิลปะของข้าเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังได้เห็นประติมากรรม
"แล้ว?"
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลือคือการไปจากโบราณสถาน วีดจึงถามไปตรงๆ แน่นอน,
เขาจะประจบประแจงทันทีถ้ากษัตริย์เบลซ์ออสแสดงสัญญาณการคุกคามใดๆทางกาย
-
ข้าอยากจะสร้างประติมากรรมกับเจ้า
ตริ๊ง!
-
กษัตริย์แห่งไฟมีข้อเสนอทำประติมากรรมร่วมกัน
เบลซ์ออสสามารถอยู่ในโลกมนุษย์ได้หนึ่งสัปดาห์และคุณไม่สามารถไปจากสุสานกษัตริย์ได้
|
ในอดีตเขาเคยทำงานร่วมกับดาโรนและได้สอนประติมากรรมจำแลงในเวลานั้น,วีดเลเวลยังต่ำดังนั้นเขาจึงได้เรียนรู้มากมาย
แต่ตอนนี้เขาเกือบจะเท่าเทียมกับเบลซ์ออสแล้วจากมุมมองของเขา
'เป็นไปไม่ได้ที่จะทำประติมากรรมขนาดใหญ่ภายในหนึ่งสัปดาห์ดังนั้นฉันสามารถทำงานกับประติมากรรมด้วยผลึกแก้วโมรา'
ถ้าเขาทำมันต่อเนื่องกับปรมาจารย์การแกะสลักอย่างนั้นมันอาจเป็นงานที่มีคุณค่าทางศิลป์สูงยิ่ง
วีดถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ
"หากพระองค์พยายามอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในภายหลัง....."
-
ข้าไม่มีความปรารถนาที่จะทำเช่นนั้นในฐานะจิตวิญญาณ
"ดั่งที่ท่านทราบ, นี่ไม่ใช่อุตสาหกรรมที่ร่ำรวยมากมาย”
-
ข้าไม่มีเจตนาที่จะรับสิ่งใดๆ
จะมีการทำสัญญาก่อนการเริ่มงาน
"อย่างนั้นก็เยี่ยม!"
*******************************
ซอ-ยูนก้าวเดินเบาๆเข้าเมืองโมราต้า
สถาปัตยกรรม, ประติมากรรม, งานศิลปะ,
การแสดง และการปรุงอาหาร!
โดยปรกติแล้วเธอจะไม่ได้พบผู้คนอื่นๆในพื้นที่ออกล่าดังนั้นเธอรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นความคึกคักในเมือง
เธอได้เฝ้ามองตั้งแต่ช่วงแรกๆเมื่อวีดได้ยกระดับโมราต้า
นี่เป็นเมืองที่วีดปกป้องและได้เป็นเจ้าเมือง
เธอเองก็มีส่วนร่วมด้วยอย่างมากเช่นกัน
เธอได้ตั้งรกรากในช่วงต้นของโมราต้า,
เคลียร์ดันเจี้ยนในตอนเหนือในฐานะของเบอร์เซิร์กเกอร์
และขายไอเท็มที่เธอลูทมาได้ให้กับร้านค้า
"ผมขออภัยแต่ผมไม่สามารถจัดการวัสดุมีค่าเหล่านี้ได้ในขณะนี้ครับ, ท่านผู้มาเยือน
ทำไมไม่ลองไปที่อาณาจักรทางตอนใต้ที่ที่ท่านจะได้ราคาที่เหมาะสม?"
"ฉันจะขายมันที่นี่ ไม่เป็นไรถ้ามันจะได้เงินน้อย"
- คุณมีส่วนร่วมในการพัฒนาโมราต้า
|
ความมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น
17
|
เธอได้ขายวัสดุมีค่าทิ้งตั้งแต่แรกและได้ช่วยพัฒนาด้านการค้า
เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นเลเวลสูงที่มายังโมราต้าจะสวมใส่อุปกรณ์ที่เธอได้ขายทิ้งไป
ครั้นเมื่อสวนสาธารณะและสะพานเปิดใช้งาน, เธอก็ยังได้รับแต้มสนับสนุนอย่างมาก
ทางตอนเหนือมีผู้อพยพเข้ามาตั้งรกรากมากมายดังนั้นที่อยู่อาศัยจึงไม่เพียงพอและต้องการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
ซอยูนมีค่าการสนับสนุน 32,000 แต้ม
มันเป็นจำนวนที่สูงมาก
'สักวันฉันจะเที่ยวที่นี่กับเขา'
เธอคิดถึงเรื่องท่องเที่ยวรอบๆโมราต้ากับวีดในวันออกเดท
ต้องขอบคุณพลังจากของหอคอยแห่งแสง,
ทำให้ทัศนียภาพกลางคืนคึกคัก
ในยามค่ำ,
แสงจากสิ่งก่อสร้างสามารถมองเห็นได้ในลำน้ำใสที่ไหลลอดสะพาน
และเมื่อมองที่หอคอยแห่แสงจากที่ห่างไกล,
เป็นบรรยากาศที่ดีเยี่ยมสำหรับคู่รัก
ซอยูนกำลังยืนงดงามแพรวพรายอยู่บนสะพาน!
'ฉันไม่ค่อยมีเสน่ห์มากนัก'
ซอ-ยูนเฝ้ามองผู้เล่นหญิงที่เดินอยู่รอบๆกับชายหนุ่มอย่างอิจฉา
ถ้าเธอไม่ได้สวมหน้ากากอย่างนั้นผู้คนมากมายคงจะวิ่งเข้าหา
มีผู้เล่นชายมากมายที่เฝ้ามองโฉมสะคราญน้ำแข็งเพื่อผ่อนคลายก่อนที่จะทำการออกล่า
ฝูงชนด้านหน้าโฉมสะคราญน้ำแข็งก็พอๆกันกับพวกที่อยู่หน้ารูปแกะสลักเทพีเฟร์ย่า
ไม่เหมือนประติมากรรมอื่น,
มีพวกที่คลั่งไคล้กับการเฝ้าชมโฉมสะคราญน้ำแข็ง
'ฉันไม่น่ามองเพราะตัวฉันซีดเกินไป คุณวีดคงไม่ถึงกับไม่ชอบฉัน.....'
ซอ-ยูนน่ารักตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กแต่เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องความงดงามของตัวเธอเอง
ยามเมื่อเธอเดินไปโรงเรียน, ทั้งชายและหญิงจะชอบมองใบหน้าของเธอ
แต่ไม่มีใครสักคนที่พยายามเริ่มการสนทนากับเธอ
ซอ-ยูนคิดว่าเธอไม่มีเสน่ห์น่าสนใจแต่ในสถานการณ์จริงกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง
ความงดงามของเธอช่างน่าประหลาดใจนั่นเป็นความคิดทั้งหมดที่ออกมาจากหัวของพวกเขา
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไร
พวกเขาแค่มีความสุขหากว่าพวกเขาได้เห็นเธออีกครั้ง
หลังจากการขายไอเท็มในร้าน, เธอนั่งลงใกล้กับน้ำพุและเฝ้ามองผู้คน
เสียงดนตรีแว่วหวานจากการแสดงใกล้ๆล่องลอยมากับสายลม
ซอ-ยูนค่อยๆหลับตาอย่างช้าๆ
เธอไม่ได้มาที่นี่เป็นบางครั้ง ดังนั้นจำนวนผู้เล่นตั้งแต่เมื่ออุทยานแห่งทวยเทพสร้างเสร็จจึงหนาแน่น
ยามค่ำคืน,
เมืองก็คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว
ผู้เล่นใหม่อาศัยอยู่ด้วยกันในกระท่อม
ผู้เล่นที่ไม่มีประสบการณ์ที่มาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่แรกของโมราตา
สามารถออกไปผจญภัยและรับรางวัลภารกิจ
เมืองนี้กำลังพัฒนาไปสู่ชั้นกลาง
"กำลังมองหาปาร์ตี้ที่พาคนเลเวล180ไปดันเจี้ยน
คุณสามารถตรวจสอบการกระจายส่วนแบ่งได้"
"นักบวชกำลังมองหากลุ่ม ใครก็ได้ที่กำลังมองหานักบวช? เลเวล 230, ฉันจะไม่หลับไม่นอนและจะทำงานอย่างหนัก!"
"ลัทธิโจ๊กหญ้ากำลังจะเดินทางข้อจำกัดของเลเวลที่ 210
หรือสูงกว่า ต้องการมากกว่า 300 คนเดินทางไปตะวันตก
มาร่วมกัน!"
เมื่อเลเวลของผู้เล่นสูงขึ้น, พวกสินค้าก็มความซับซ้อนมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามผู้เล่นชั้นกลางไม่มีทุนที่จะสร้างบ้านบนเนินเขาหรือริมน้ำพร้อมกับทิวทัศน์ดีๆ
ความสำคัญของพวกเขาคือการลงทุนในอุปกรณ์มากกว่าบ้าน
การรักษาเสถียรภาพของราคาบ้านเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพวกผู้เล่น
ในโมราต้า,
ใครๆก็สามารถสร้างกระท่อมได้ง่ายๆเนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยถูกรักษาให้ต่ำไว้
แต่บ้านโกโรโกโสจะทำความเสียหายกับภูมิทัศน์ของโมราต้า
ปัญหาที่อยู่อาศัยนี้แก้ไขได้ง่ายๆโดยการปรากฏใหม่ของอาชีพช่างทำเครื่องเคลือบ(เซรามิค)
ช่างทำเครื่องเคลือบมีความคล่องแคล่วในการจัดการดินที่น่าอัศจรรย์ทีเดียว
พวกเขารวบรวมดินจากแม่น้ำแทนการออกล่า
"ผมต้องรีบสร้างโรงงานให้เร็ว!"
ช่างทำเครื่องเคลือบต้องการโรงงานของตัวเอง
มันลำบากในการทำงานกับไฟในเมืองและพวกมอนสเตอร์ที่รบกวนแถบริมแม่น้ำมอนสเตอร์เป็นของว่างสำหรับวีดเท่านั้นแต่พวกมันเป็นการคงอยู่ที่น่ากลัวสำหรับช่างทำเครื่องเคลือบ
พวกเขาใช้ความสามารถสูงสุดในการสร้างบ้าน บ้านที่สร้างจากโคลนและดินแท้ๆ
ทะเลสาบและแม่น้ำใกล้โมราต้าอุดมไปด้วยดินเหนียวดังนั้นมันจึงเป็นวัสดุก่อสร้างชั้นดี
บ้านที่สร้างโดยช่างทำเครื่องเคลือบเป็นหัวข้อใหญ่มากในหมู่ผู้เล่นชาวโมราต้า
"ราคาอาคารนี้สักเท่าไร?"
"ก็แค่น้ำกับดินงั้นราคามันก็น่าจะเท่าๆกับพวกกระต๊อบ"
"โอ้ว, จริงหรือ? แล้วมันต้องใช้เวลากี่วันกว่าจะทำเสร็จ?"
"วันเดียว"
"เยี่ยมไปเลย! คุณสร้างบ้านให้ผมได้ไหม? ผมจะให้ค่าจ้างคุณ"
มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้เล่นระดับกลางตามข่าวของบ้านดินที่มีการแพร่กระจายออกไป
มันเป็นโอกาสของพวกช่างทำเครื่องเคลือบมือใหม่ในการหาเงิน!
จุดแข็งของบ้านดินคือมันสร้างจากวัสดุธรรมชาติ
ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่ยุ่งยากที่จะให้ความร้อนในห้องด้วยการเผาไม้ดังนั้นมันจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่น
"อ้า....ดียังไง"
"วิธีนี้ มันอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ"
การได้มีที่นั่งอุ่นๆในคืนที่หนาวเหน็บช่างได้อารมณ์จริงๆ
ผู้เล่นชาวโมราต้าสามารถเติมเต็มความสนุกสนาน
การผจญภัยของพวกเขาในแดนเหนือ
เพื่อนๆรวมตัวกันปิ้งมันหวานและกินปลาระหว่างการถกเถียงเรื่องการเดินทางและการออกล่าของพวกเขา
รวมถึงโจ๊กหญ้าที่หอมหวาน,ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ที่พวกเขาปรารถนา
เมื่อเลเวลของผู้เล่นเติบโตขึ้น, พวกเขาก็ย้ายจากกระท่อมไปสู่บ้านดิน
กระท่อมที่เนินเขาและบ้านดินที่ใกล้ริมแม่น้ำช่วยให้ที่อยู่อาศัยราคาถูกคงอยู่
บ้านดินเป็นลักษณะเฉพาะใหม่ของโมราต้าดังนั้นพวกช่างทำเครื่องเคลือบ
มีโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ที่เหมาะสมในช่วงเริ่มต้น
นอกจากพวกบ้าน, พวกเขาทำถ้วยชามและเครื่องปั้นดินเผาที่ขายดีอย่างมาก
พวกเอลิออนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในอาณาจักรอาเพ่นทำเหมืองได้สินแร่จำนวนมากและยังเพาะปลูกธัญพืชด้วย
กาแฟและเมล่อนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพืชพิเศษชนิดใหม่
มีการปฏิรูปใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเยี่ยมชมอย่างแพร่หลายของเครือข่ายอาชีพนักบวช
คำสั่งทางศาสนาจากทวีปส่งถึงเหล่านักบวชและพาลาดินให้ออกเดินทางแสวงบุญไปยังอุทยานแห่งทวยเทพและสรรเสริญกษัตริย์
ของอาเพ่นเป็นผู้ปราดเปรื่อง
อาณาจักรได้รับชื่อเสียงและเพิ่มความสัมพันธ์กับศาสนจักรต่างๆ
เหล่าผู้เล่นที่สวมเครื่องแบบสีขาวหรือเกราะศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาอย่างต่อเนื่องจากทวีปกลาง
พวกนักบวชและพาราดินเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถพบเห็นได้ในอุทยานแห่งทวยเทพ
"คุณมีเงินอยู่เท่าไร?"
"3,400ทอง ทำไมหรือ?"
"ถ้าคุณบริจาคให้ที่นี่แล้วคุณสามารถเพิ่มความค่าความสนับสนุนของคุณได้"
ผู้คนมาที่อุทยานแห่งทวยเทพเพื่อบริจาคเงินจำนวนมากให้กับพระเจ้าที่พวกเขาเชื่อมั่น
การบริจาคถูกรวบรวมและเหล่าสถาปนิกก็เริ่มสร้างวิหาร เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการก่อสร้างยังคงดำเนินการอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับอุทยานแห่งทวยเทพ
ผู้คนที่มาอุทยานแห่งทวยเทพยังได้เที่ยวชมศูนย์ศิลปะและทำให้วัฒนธรรมของอาณาจักรอาเพ่นแผ่ขยายออกไป
-
วัฒนธรรมของอาณาจักรอาเพนกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
|
นักท่องเที่ยวมากมายซื้องานศิลปะเพื่อเป็นที่ระลึกและนำมันไปยังต่างเมืองและอาณาจักรอื่นๆ
สถานะของวีดในฐานะกษัตริย์ส่งผลต่อประติมากรรมของเขาด้วย
เหล่าอัศวินและทหารหาญจะให้คำสัตย์ในความภักดีของพวกเขาได้ง่ายขึ้น
เช่นเดียวกับชื่อเสียงของวีดในฐานะประติมากร, วัฒนธรรมของอาณาจักรยังขยายตัวก้าวหน้าอย่างเหลือเชื่อ
-
วิหารทาเรส(Tares’ Cathedral)ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
อิทธิพลทางศาสนาในอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มขึ้น
|
-
กิตติศัพท์ของอาณาจักรอาเพ่นได้มาถึงหมู่บ้านเล็กๆในภูเขาห่างไกลตลอดทางเหนือ
|
พวกพ่อค้าจากทางตอนกลางและตะวันออกของทวีปกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมในการค้ากับอาณาจักรอาเพ่น
พวกเขากระตือรือร้นที่จะนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพสูง
-
อิทธิพลทางการเมืองของอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มมากขึ้นและสามารถแทรกแซงการเมืองในหมู่บ้านใกล้เคียงได้
|
พวกเจ้าเมืองจะไม่มีความสุขเพราะประชาชนจะกระตือรือร้นมากขึ้นในการเข้าร่วมกับอาณาจักรอาเพ่น
|
เป็นไปได้สำหรับพื้นที่ที่มีความจงรักภักดีต่ำต่อเจ้าเมืองของพวกเขาที่จะเกิดการจลาจล
|
หากการประท้วงประสบความสำเร็จพื้นที่จะกลายเป็นของอาณาจักรอาเพ่น
|
อย่างไรก็ตาม,กษัตริย์จะสูญสิ้นเกียรติและความสัมพันธ์ทางการทูตจะเสื่อมลง
|
วีดไม่ใช่ประเภทที่จะยุให้ก่อกบฏเพื่อขยายอาณาเขตและเพิ่มจำนวนประชากร
แม้ว่าพื้นที่ได้ขยายไปทางเหนือ,
โมราต้าจะยังคงเป็นเมืองที่ดีที่สุด
สินค้าที่ช่างตีเหล็กและช่างตัดเย็บที่ยังไม่มีประสบการณ์ยังกระจายไปทั่วเครือข่ายทางการค้าของบรรดาพ่อค้า
เหล่านักผจญภัยรวบรวมไอเทมหายากจากดันเจี้ยนและขายพวกไอเท็มลูท
ดังนั้นศักยภาพในการพัฒนาเมืองจึงไม่มีที่สิ้นสุด
คำว่า มหัศจรรย์ของโมราต้า ขจรขจายอยู่บนกระดานข่าว มันเป็นเขตแดนที่เหล่าผู้เล่นมือใหม่ยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ว่าอยากเริ่มเล่นในโมราต้า
ระหว่างที่ชื่อเสียงและอิทธิพลทางการเมืองของอาณาจักรอาเพ่นกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันๆ,
เจ้าเมืองอื่นๆในแดนเหนือไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันกับพัฒนาการของมัน
"มีคนกำลังมา!"
"เฮ้ย, ไปช่วยพวกเขาซิ!"
เมื่อพวกเจ้าเมืองทางเหนือพบว่าผู้อพยพมุ่งหน้าสู่โมราต้า, พวกเขาจะเตรียมบ้านและร้านค้า
สมาชิกของกิลด์ก็เตรียมถอนหญ้าเพื่อเตรียมพื้นที่ทำเกษตรกรรมด้วย
"ท่านเจ้าเมือง, ขอบคุณมากๆครับ"
"ไม่เป็นไร ถ้าเจ้ารู้สึกไม่สะดวกสบายอะไรก็มาหาข้าได้ทุกเวลา"
ทุกคนรู้สึกเป็นสุขเมื่อมีเด็กเกิดใหม่ เมื่อชาวบ้านเพิ่มขึ้นจาก3-4คน, ในที่สุดประชากรก็จะเติบโตจนกระทั่งกลายเป็นหมู่บ้าน
วีดได้พัฒนาโมราต้าจากช่วงเวลาที่ยากแค้นดังนั้นพวกเขาเชื่อว่าเป็นไปได้
"ผมเสียใจด้วยครับท่านเจ้าเมือง ผมจะไม่ลืมความดีที่ผมได้รับจากคุณเลย ย่ะ,
ออกเดินทาง"
แต่ผู้คนยังคงละทิ้งถิ่นฐาน!
คนเหล่านั้นได้ยินเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของโมราต้า, ขนาดของเศรษฐกิจที่ใหญ่โตและวัฒนธรรมที่ตื่นตาตื่นใจ
และห่อสัมภาระของพวกเขา แล้วก็จากไปในเวลาเย็น
ผู้คนจากไปอย่างโหดร้ายกับเกวียนที่เต็มไปด้วยข้าวของ!
ผู้เล่นมากมายออกล่าและผจญภัยในเขตเหนือดังนั้นพวกนักท่องเที่ยวที่มายังหมู่บ้านเจ้าเมืองแดนเหนือจึงเพิ่มขึ้น
พวกเขามีความหวังแต่ไม่มีรายได้มากมาย
"พวกเราจะออกล่าในบริเวณใกล้ๆและกลับไปโมราต้าในตอนเย็นกันไหม?"
"เร็วๆ ไปออกล่ากันเถอะ"
"ผมมีนัดตอนเย็นใกล้ๆกับหอคอยแห่งแสง...ออกล่ากันให้เร็วหน่อย"
"ได้เลย!"
แม้ว่าดันเจี้ยนและพื้นที่ออกล่าได้มีการพัฒนา, เหล่าผู้เล่นยังคงหวนกลับมาที่โมราต้า
ขณะที่ประชากรของหมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างน่าเศร้าสัก
100 คน, โมราต้ากำลังเพิ่มขึ้น 20,000-30,000 คน
"ฮ่าๆ เคี้ยกๆๆ!"
การพัฒนาเหมืองของโมราต้ายังอ่อนด้อย ดังนั้นพวกคนในหมู่บ้านสามารถค้าขายกับพวกเขา
แต่ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันกับพวกประติมากรรมและอุปกรณ์เครื่องมือผ่อนแรง
"กองทุนของกิลด์อยู่ในสภาพที่ไม่ดีจากค่าจ้างของทหารรับจ้าง เหอะ เหอะ เฮ้อ!"
พวกเขาไม่สามารถสร้างอาคารอื่นใดอีก พวกเขาได้ยินเรื่องการก่อสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ในโมราต้า
ผ่านทางการถ่ายทอดออกอากาศ
หัวใจของเหล่าเจ้าเมืองตอนเหนือเจ็บปวดดั่งโดนระเบิด
"ทำไมเบียร์ของโมราต้าช่างอร่อยนัก?"
พันธมิตรแดนเหนือที่2ได้ก่อตัวเพื่อประกาศสงคราม
อย่างไรก็ตามผู้เล่นของโมราต้าได้เพิ่มขึ้นถึงสิบสองเท่าและเลเวลของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นด้วย
ดังนั้นมันเป็นเรื่องยาก
ปฏิกิริยาของเจ้าเมืองอื่นๆก็ส่งผลในแง่ลบ
"สงครามรึ?, นี่เป็นไปไม่ได้ ปล่อยให้พวกเราอยู่ห่างๆมันเถอะ"
"ทำไมต้องสู้ในเมื่อโอกาสยังไม่เข้าข้างพวกเรา? พวกเราจะจบลงด้วยการเตรียมจ่ายค่าสินไหมสงครามให้ลอร์ดวีด
สำนึกกันไว้ด้วย"
"คุณมีความมั่นใจหรือว่าคุณจะชนะถ้าคุณประกาศสงครามกับโมราต้า?"
ด้วยมีความสัมพันธ์ทางการค้าขนาดใหญ่กับโมราต้าดังนั้นพวกเจ้าเมืองแดนเหนือจึงไม่ต้องการสงคราม
เจ้าเมืองบางคนพัฒนาเหมืองแร่ของพวกเขาอย่างแข็งขันและอาศัยมันในการส่งออก
ถ้าเกิดสงครามกับโมราต้า,
การส่งออกขะหยุดชะงักและผู้เล่นในแดนเหนือทั้งหมดจะไหลไปหาวีด
ถ้ามันจบสิ้นลงแล้วดินแดนของพวกเขาจะถูกละทิ้งจากพวกผู้เล่น
จะไม่มีการท่องเที่ยวใดๆอีกจากกลุ่มปาร์ตี้ออกล่า
กิลด์ทรงเกียรติทั้งหลายจากทางตอนกลางของทวีปมีอำนาจที่เข้มแข็งและกองทัพที่แข็งแกร่ง
แต่สถานการณ์นั้นต่างไปจากเขตแดนเหนือ
โมราต้ามีอัตราภาษีที่ต่ำและสิ่งแวดล้อมชวนฝันดังนั้นอนาคตของอาณาจักรอาเพ่นจึงสดใส
อุทยานแห่งทวยเทพก็เสร็จสมบูรณ์แล้วด้วย
ดังนั้นมันจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก
ในขณะเดียวกันดินแดนของพวกเจ้าเมืองแดนเหนือที่ไม่อุดมสมบูรณ์, ระดับทักษะของประชากรก็ด้อยดังนั้นความภักดีของพวกเขาจึงต่ำ
- ประชากรของหมู่บ้านอาร์มางค์(Armang
Village)ต้องการที่จะพึ่งพิงอย่างถาวรกับอาณาจักรอาเพ่น
|
ความเจริญรุ่งเรืองของโมราต้าได้จับหัวใจของพวกชาวบ้าน
|
พวกชาวบ้านได้ละทิ้งความหวังของพวกเขากับเจ้าเมืองของพวกเขาและต้องการกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น
|
คุณสมบัติพิเศษ : ไม่มี
|
จำนวนประชากร : 4,329
|
ภาษีเงินได้รายเดือน : 7,989 ทอง
|
-
ประชากรของหมู่บ้านอิ๊ควิน๊อค(Ekwinok Village)ต้องการที่จะพึ่งพิงอย่างถาวรกับอาณาจักรอาเพ่น
|
พลังทางเศรษฐกิจและประชากรของโมราต้าทำให้พวกเขาอิจฉา
|
ความพยายามของเจ้าเมืองก็ไม่เลว
แต่ไม่มีความหวังสำหรับเด็กๆในหมู่บ้านอิ๊ควิน๊อค
|
พวกเขาเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น
|
คุณสมบัติพิเศษ : ไม่มี
|
จำนวนประชากร : 5,828
|
ภาษีเงินได้รายเดือน : 4,124 ทอง
|
พลังแห่งวัฒนธรรม!
อาร์มางค์(Armang), อิ๊ควิน๊อค(Ekwinok), โยแอนนา(Yoanna), ยูเซลริน(Yusellin) เป็นส่วนหนึ่งของ 8 หมู่บ้านที่ปรารถนา
มาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น
พวกชาวบ้านตัดสินใจด้วยความเต็มใจยอมรับกฎเกณฑ์ของวีด
มีพวกหมู่บ้านที่เล็กมากๆที่ไม่มีเจ้านาย
แต่หกหมู่บ้านอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของกิลด์
"อ้า...บ้าน่า มันเกิดขึ้นได้ยังไง?"
พวกเจ้าเมืองกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก พวกเขาจำเป็นต้องระดม
กำลังทหารปราบปรามพวกชาวบ้าน
แต่ความภักดีของประชาชนจะลดลงต่อเนื่องและจะนำไปสู่การลดลงของประชากร
พวกเขาจะได้รับชื่อเสียงเลวร้ายอย่างมาก
"ด้วยอัตรานี้, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเร่งตามการพัฒนาการของโมราต้า....."
มันเป็นเรื่องยากสำหรับจำนวนประชากรของพวกเขาแม้แต่จะเอื้อมให้ถึง 10,000 ขณะที่อาณาจักรอาเพ่นมีประชากรเป็นล้าน สถานการณ์เลวร้ายมากสำหรับพวกเจ้าเมือง
สถานการณ์จะแย่ลงอีกถ้ามีค่าใช้จ่ายของกองทัพมีมากเกินความจำเป็นหรือมอนสเตอร์โจมตี
ผู้เล่นในแดนเหนือมีทางเลือกมากมาย ในช่วงเริ่มต้น,พวกเขาได้ลงทุนเป็นจำนวนมากกับกองทุนที่ใช้ในการทำเหมืองแร่และการพัฒนาทางการเกษตร
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนหมู่บ้านชนบทที่อยู่ถัดจากโมราต้า
เฝ้าดูการประท้วงของชาวบ้าน,
พวกเจ้าเมืองต้องตัดสินใจอันยากยิ่ง
"พวกเราจะทำยังไงดี?"
"ท่านเจ้ากิลด์, เวลานี้วัฒนธรรม, ความสามารถทางเทคโนโลยี และช่องว่างทางกองกำลังทหารของพวกเรา
หมายถึงว่ามันยากที่จะต้านทานเอาตัวรอดจากโมราต้าได้ในระยะยาว"
"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเรากลายเป็นว่าอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรอาเพ่น?"
"พวกเราจะสูญเสียการปกครองของเราใช่ไหมในฐานะเจ้าเมืองแต่พวกเรายังคงรักษาเงินทุนของกองทุนทั้งหลายได้ใช่ไหม?"
"สามารถหาโอกาสได้มากมายแต่จะต้องมีผู้เล่นมากกว่านี้"
ถ้าวีดปกครองหมู่บ้านของพวกเขาแล้วมันเติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ เทคโนโลยี,
จำนวนประชากร, การค้า, ชื่อเสียง
และความเชี่ยวชาญพิเศษอื่นๆของอาณาจักรอาเพ่น
จะถูกแบ่งปันดังนั้นมันจึงเป็นบรรยากาศซึ่งอำนวยประโยชน์ให้
"แต่พวกเรายังคงมีอำนาจเด็ดขาดในพื้นที่ในฐานะเจ้าเมืองหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในภายหลังและหมู่บ้านได้พัฒนา...."
เจ้าเมืองบางคนไม่เต็มใจที่จะเชื่อและพวกเขาลุกออกจากที่นั่งพวกเขายึดติดอยู่กับอัตตาและอำนาจของพวกเขา
แต่พวกพ่อค้าที่เป็นสมาชิกของสมาคมกล่าวว่า
"พวกเราต้องการการตัดสินใจในช่วงเริ่มต้นของอาณาจักรอาเพ่น
ถ้าพวกเราพลาดโอกาสนี้แล้วสถานการณ์อาจเลวร้ายลงและหมู่บ้านจะหายไป"
"ท่านเจ้ากิลด์, พวกเราได้เห็นความเร็วในการพัฒนาการของโมราต้าแล้ว
แล้วยังป้อมปราการเวอร์โก้เป็นอย่างไร?
ผู้คนที่เลเวลเฉลี่ยสูงกว่าในกิลด์ของพวกเรากำลังออกล่าที่นั่น
กองทัพของอาณาจักรอาเพ่นก็เติบโตอย่างรวดเร็ว"
"จำได้ไหมทำไมพวกเราถึงถูกขับออกจากทางตอนกลาง ไม่ใช่เพราะกำลังของพวกเราอ่อนด้อยหรอกหรือ?
วีดจะไม่ก่อให้เกิดสงครามในทางเหนือแต่ถ้าเขาทำแล้วหมู่บ้านของพวกเราคงไม่รอด"
"ถ้าพวกเรารีรอต่อไปอีกละก็ หมู่บ้านอื่นๆจะเข้าร่วมกับอาณาจักรอาเพ่นก่อนนะ"
"มันไม่เป็นการดีถ้าพวกเราจะเข้าร่วมในภายหลัง
จะมีช่องว่างทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่กับหมู่บ้านอื่นๆ
พวกผู้เล่นในเขตเหนือไม่มีความไว้วางใจอย่างมีนัยยะ
ถ้าพวกเขาจากโมราต้าไปผจญภัย, พวกเขาก็เกือบจะไม่เลือก
เข้าพักในหมู่บ้านพวกเรา ความสามารถในการเติบโตของหมู่บ้านนี้ก็จะด้อยลง
แล้วจะไม่ง่ายเลยที่จะพัฒนาด้วยตัวของพวกเรา"
พวกพ่อค้าพยายามจะชักจูงให้พวกเขาผนวกเข้ากับอาณาจักรอาเพ่น
ถ้าพวกเขามาเข้ากับอาณาจักรอาเพ่นอย่างนั้นพวกขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลในการค้าและภาษี
ในความเป็นจริง, พวกเขาได้เฝ้าดูผู้คนค้าขายที่ทางเข้าและจัตุรัสเมืองและตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับอาณาจักรอาเพ่นได้
ถึงแม้ถ้าพวกเจ้าเมืองเหนือมารวมตัวกัน,
มันก็ไม่ง่ายที่จะบรรลุเป้าหมายของพวกเขา
ผู้เล่นที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ไม่มีอะไรจะพูด
การพัฒนาหมู่บ้านไม่ใช่ทางที่พวกเขาเชี่ยวชาญดังนั้นพวกเขาจึงไม่คัดค้านการเข้าร่วมกับอาณาจักรอาเพ่นตราบเท่าที่มันเป็นผลประโยชน์
เพื่อให้ได้ทักษะประจำอาชีพ,
การผจญภัยและภารกิจออกล่า, พวกเขาต้องไปที่โมราต้า
ถึงพวกเขามีอำนาจของเจ้าเมืองแต่เงินทุนในการลงทุนของพวกเขากำลังค่อยๆหายไป
พวกกิลด์ก็มีส่วนร่วมในอาณาจักรอาเพ่นด้วย
มันจะเป็นประโยชน์มากขึ้นในการเป็นสมาชิกของอาณาจักรอาเพ่น
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกได้แต่ยอมจำนนด้วยสถานะของเจ้าเมือง
"ในความเห็นของทุกคนได้ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นโปรดตกลงที่จะเข้าร่วมเป็นประชากร"
แปดหมู่บ้านใหญ่ และหมู่บ้านเล็กๆตัดสินใจเข้าร่วมอาณาจักรอาเพ่น.
จบตอน
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
มหาอำนาจใหม่ ทางตอนเหนือ กำลังมา ^^ ขอบคุณครับผม
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบอีกไม่นานวีดจะได้เป็นเจ้าแห่งแดนเหนือแล้ว ^Δ^
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบราชันแห่งแดนประจิม
ตอบลบอุดร ไม่ใช่เหรอ
ลบขยายแบบไม่ต้องลงทุน ถูกใจพี่วีดเขาแหล่ะ
ตอบลบใกล้ที่จะเป็นอาณาจักรแล้ว ขาดแต่เงินที่ยังไม่พอ😆😆
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบThe King in the North
ตอบลบเอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบอู้ว ราชาแดนเหนือ!
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบ