เล่ม
29 ตอนที่ 7 : ประติมากรรมของราชันย์วิญญาณ แปลโดย Acid
กรด
วีดให้ข้อมูลที่เขาได้รับมาแก่สมาชิกในกลุ่ม ไอรีนยิ้มเบาๆ
"กษัตริย์ของจิตวิญญาณแห่งไฟสาปแช่งทวีปให้ร้อนเพราะผู้คนไม่ระมัดระวังสัมผัสทรัพย์สมบัติของพระองค์"
เซอร์กะแสดงความตื่นเต้นของเธอต่อเรื่องที่น่าสนใจนี้ด้วย
"ดิฉันชอบฟังเรื่องเกี่ยวกับความผิดปรกติของอดีต
ไม่ใช่พวกเรากลุ่มเดียวที่รู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครรู้จักของทวีปเวอร์เซลล์ใช่ไหมคะ?"
ฮวายองกับเบลล๊อทกำลังคุยกันถึงเรื่องที่มีการแสดงให้ดูเกี่ยวกับกษัตริย์เบลซ์ออส
มีการแสดงขนาดเล็กตามชุมชนจำนวนมากในโมราต้า การแสดงพบเห็นได้บ่อยๆที่จัตุรัสแห่งแสง
หรือจัตุรัสปิงหลง และค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับความสำเร็จและปฏิกิริยาของผู้ชม
วีดสร้างประติมากรรมจากเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และข้อมูลทางประวัติศาสตร์นี้จะส่งผลดีในด้านการแสดง
ผู้ชมยินดีกับการแสดงนี้เพราะพวกเขาสามารถได้รับค่าสถานะความรู้เพิ่มเติม
แน่นอน, เป็นไปได้ที่จะได้รับค่าสถานะบางประการจากที่การได้ยินข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรก
นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ชมยังคงต้องการการแสดงที่ดีขึ้น
มันเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกนักกวีถึงได้เดินทางรอบทวีปเพื่อสอบถามถึงเรื่องราว
"ขณะนี้ฉันต้องการแค่ผลึกหินโมรา(the Agate crystal)"
วีดพบผลึกหินโมราจำนวนมากในที่แห่งหนึ่ง ปริมาณค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ในขณะที่เขาเห็นพวกมันอย่างน้อยก็
120 ชิ้น
"แต่ ฉันไม่รู้ว่าถ้าฉันเอามันมาได้!"
สุสานของเบลซ์ออสมีสมบัติมากมายเช่นเดียวกับทะเลทรายที่ไม่มีการประกันว่าเขาจะสามารถมีชีวิตรอดพร้อมกับวัสดุทำประติมากรรม
"ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้"
วีดจมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิด ขุมสมบัติไม่สมารถเปิดออกได้ง่ายๆ
อาจจะมีพวกกับดักบางอย่างติดตั้งอยู่ในโลงพระศพนี้,
เขาตั้งข้อสงสัยและตรวจดูตามขอบ
วีดรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น ต้องขอบคุณประสบการณ์ของเขามาจนถึงวันนี้
"ภารกิจของมังกร(The Dragon’s Quest) จะไม่จบง่ายๆอย่างนี้
ทำไมถึงต้องส่งสปาร์ทอยมาสนับสนุน?
พวกเราประหลาดใจที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆในขณะค้นหาโบราณสถานแห่งนี้
ต้องต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์
แต่ฉันไม่สามารถกล่าวได้จริงๆว่าพวกเราได้ต่อสู้"
โดยปรกติแล้วภารกิจที่มีความยากระดับนี้จะทำให้ผลงานออกมาดี
และเขาจะรู้สึกเบิกบานใจจนกระทั่งเขาโดนตบหัวทิ่ม
จนกระทั่งปัจจุบันนี้เขาได้รับประสบการณ์มากมายด้วยเหล่าภารกิจที่ยากมากๆ
"ไม่มีอะไรที่แก้ไขได้ง่ายๆในโลกนี้"
เหล่าสมาชิกในกลุ่มของเขายืนเงียบๆและรอฟังทางเลือกของเขา
ถ้าเลือกผิดจะทำให้ทุกๆคนตกอยู่ในความยากลำบาก ดังนั้นพวกเขาได้แต่เชื่อมั่นเขาและเฝ้าคอย
เซเฟอร์กระซิบ
"ผมเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณวีดเท่านั้น"
เบลล๊อทก็พูดเสียงเบาๆด้วย
"ดิฉันก็คิดอย่างนั้นด้วย
พวกเราจะกลายเป็นแมลงสาปที่จะไม่ตายแม้ว่าพวกเราจะโดนกระทืบก็ตาม"
เหล่าสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆก็เห็นด้วย
*******************************
"ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น"
วีดตัดสินใจที่จะไม่แตะต้องวัสดุทำประติมากรรม
เขารู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวแต่ผลึกหินโมราสำคัญกว่าทองหรือพวกอัญมณี
กิลด์ปีกสีชาดได้สัมผัสสมบัติด้วยความโลภ
ส่งผลให้พวกเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากมัน
"ก็เหมือนสั่งไก่ทอดได้ไก่หมัก"
วีดตรวจดูวัสดุและสมบัติอื่นรอบโลงพระศพ จากความทรงจำที่เขา
ได้รับรู้จากประติมากรรมของกษัตริย์เบลซ์ออส,
เขาจำเป็นต้องทิ้งความโลภ
"ฉันเข้าใจแล้วที่เขาได้สร้างประติมากรรมธาตุเอาไว้มากมาย"
เบลซ์ออสเคยมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่อายุยังน้อยและมีพวกจิตวิญญาณเป็นเพื่อนของเขา
และวีดพบว่ารูปแกะสลักของจิตวิญญาณแห่งไฟนั้นสำเร็จไปเพียงครึ่งเดียว!
มันไม่ได้ทำด้วยทักษะธรรมดาสามัญ มันมีลักษณะของกษัตริย์เบลซ์ออสเล็กๆในทะเลทราย
และทั่วร่างกายของเขาดูเหมือนจะประกอบด้วยจิตวิญญาณของธาตุ
วีดมองไปที่ประติมากรรมที่ยังไม่เสร็จ
และมันดูเหมือนเกมส์ปริศนาที่ต้องวางลงในตำแหน่ง(puzzle)
"หินโมราไม่ใช่สมบัติแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดฉันนำมันมา
คำสาปจะเกิดขึ้นหรือไม่"
วีดมีอาชีพประติมากรของเขาร่วมกับเบลซ์ออส
บางครั้งการมีจิตวิญญาณเป็นคู่หูจะนำไปสู่ปัญหาทางสังคม
"แต่กษัตริย์เบลซ์ออสเป็นปรมาจารย์แกะสลักดังนั้นเขาต้องมีการแกะสลักที่เกี่ยวกับธาตุ"
วีดได้เรียนรู้ทักษะนี้ด้วยตัวเขาเองแต่เมื่อพิจารณาจากความทรงจำที่เขาได้เห็นในประติมากรรม,
กษัตริย์เบลซ์ออสทำการแกะสลักเกี่ยวกับธาตุ100%
"ถ้าฉันทำประติมากรรมเหล่านี้ให้เสร็จ บางทีฉันอาจจะได้เรียนการแกะสลักเกี่ยวกับธาตุ"
ถ้าอย่างนั้น, เห็นทีเขาต้องทำประติมากรรมนี้ให้เสร็จ
นี่เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประติมากรดังนั้น
พอจะเห็นได้ว่ารูปประติมากรรมเป็นเหมือนกุญแจที่สำคัญยิ่ง
สมาชิกในกลุ่มของเขาทำได้แต่เฝ้ามองไปเรื่อยๆ
กับการครุ่นคิดของวีดที่ดำดิ่งลึกลงไป
"พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อละทีนี้?"
"ผมก็ไม่รู้
ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถหนีออกไปพร้อมกับพวกสมบัติได้ในตอนนี้....."
"งั้นพวกเรามาตรวจสอบพื้นที่รอบๆอีกครั้งกันเถอะ"
"อ้า, เขากำลังหัวเราะ.งะ!
ช่างน่าขยะแขยง, รอยยิ้มแสดงความมั่นใจอยู่บนใบหน้าของวีด
***************************
"เรียกขานธาตุไฟ, หลั่น ลัน ล้า!"
วีดร้องเพลงขณะที่เขากำลังแกะสลักประติมากรรมแห่งจิตวิญญาณ
"อันที่จริง, ความฟุ่มเฟือยนี่ช่างแตกต่างกันจริงๆ"
กษัตริย์เบลซ์ออสได้ทิ้งประติมากรรมที่ยังไม่เสร็จไว้เบื้องหลังและวัตถุดิบมีอยู่ให้ทำมันจนเสร็จสมบูรณ์ได้
หากผู้อัญเชิญธาตุเข้าสู่ภารกิจนี้ พวกเขาก็สามารถสร้างความสำเร็จได้
หรือพวกเขาอาจค้นพบจิตวิญญาณระดับสูงที่เปลี่ยนเป็นก้อนหิน
พลังของจิตวิญญาณภายในก้อนหินอาจเข้ากันได้กับคุณสมบัติของผู้อัญเชิญ
เปลวไฟลุกขึ้นอย่างมีนัยทุกครั้งที่วีดเฉือนลงบนหิน
เหมือนการเติมน้ำมันลงในกระทะที่กำลังผัดจนร้อนจัดในภัตรคารจีน
-
พลังชีวิตของคุณลดลง 237 หลังจากที่ถูกเปลวไฟแผดเผา
|
ระหว่างที่วีดกำลังทำประติมากรรมด้วยความเจ็บปวด, คนอื่นๆกำลังกินจาจังเหมี่ยนกับหัวผักกาดดอง
เปลวไฟโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องขณะที่เขากำลังแกะรูปสลัก
มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างประติมากรรมธาตุ
เพลเข้ามาหาและบอกข่าวกับเขา
"คุณวีด, ได้เวลาที่พวกนั้นจะปรากฏตัวแล้ว"
"โอ้ ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้วหรือนี่"
สุสานของกษัตริย์เบลซ์ออสถูกพวกอสูรเข้าไปอยู่อาศัยเต็มไปหมด
พวกเขาเดินเข้าไปในห้องศิลาผ่านทางเดินอื่นเป็นระยะๆ
วีดต้องจัดการพวกมันพร้อมกับกลุ่มของเขาด้วย
วีดสามารถปล่อยมันให้สมาชิกในกลุ่มและสปาร์ทอยแต่เขาต้องการออกล่าด้วยตัวเอง
"เพลงดาบประกายแสง!"
ระดับความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นและขณะนี้ปรากฏวิหกแสง 5
ตัว เกิดประกายแสงแวบขึ้นขณะที่วิหกทั้ง 5
เข้าปะทะกับพวกมอนสเตอร์ เทคนิคดาบของเขาหมดจดเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจาก
ความเชี่ยวชาญดาบเพิ่มขึ้น
"คุณวีด, คราวนี้มันเป็น ไอซ์ ล๊อกเกอร์"
อสูรคลาสบอส, ไอซ์ ล๊อกเกอร์!
"ทักษะดาบโคลนนิ่ง"
วีดใช้ดาบโคลนนิ่งแทนเพลงดาบประกายแสง
ดาบโคลนนิ่งเมื่อออกล่ามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งตัวเดียวนี่ได้ผลดีจริงๆ
ย่า ย่า ย่า ย่า ย่า ย๊าก.ก
วีดสร้างโคลน 9 ตน
กร๊าก....
เจ้าไอซ์
ล๊อกเกอร์มองอย่างงงขณะที่สายตาของมันมองสลับกันไปมาระหว่างร่างโคลน
เพล, เซเฟอร์ และเซอร์กะ ลงมือแล้ว
"ผมด้วย!"
วีดวิ่งเข้าหาเจ้าไอซ์ ล็อกเกอร์
ร่างโคลนของเขาก็วิ่งเข้าไปในเวลาเดียวกัน
ฟู่..!
เจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์เป่าลมหายใจอย่างแรงมาที่ด้านหน้าของเขา
มันหนาวเย็นสุดขั้ว!
มันโดนเข้าที่หนึ่งในร่างโคลนที่กำลังวิ่งและร่างกลายเป็นน้ำแข็ง
กร๊าก.ก.ก.ก.ก!
ข้อศอกเจ้าไอซ์ล๊อกเกอร์กระแทกเข้าอย่างแรงที่ร่างโคลน ร่างโคลนกลายเป็นแสงสีเทาแตกกระจาย
การโจมตีพิเศษของศัตรูมีประสิทธิภาพในการลบล้างทักษะดาบโคลนนิ่ง
ระหว่างที่ร่างโคลนตนอื่นๆกระตุ้นการโจมตีของมอนสเตอร์, ดาบปีศาจของวีดก็โจมตีเข้าที่คอของเจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์
-
คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรง!
|
ร่างโคลนอื่นๆกระโจนขึ้นไปหาเจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์ วีดรุกอย่างต่อเนื่องด้วยการโจมตีของเขา
-
คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรง!
|
-
คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรง!
|
-
คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรงต่อเนื่อง!
|
-
ไอซ์ ล๊อกเกอร์โดนโจมตีที่หัวและติดสถานะสับสน
|
"รุมมัน!"
หลังจากที่มันตกอยู่ในอาการสับสน, ทุกคนรวมตัวกันและรุมกระหน่ำโจมตีใส่มันอย่างไร้ความปราณี!
"ตาย"
"โจมตีมัน!"
ตอนนี้เซเฟอร์และเซอกะที่กำลังรอโจมตี
เวทย์ของโรมูนะและลูกศรของเพลก็โจมตีด้วย
'รุมมัน!'ของวีดเป็นการให้สัญญาณ!
ฮวายองและเบลล๊อทที่มีพลังโจมตีต่ำ, พลังป้องกัน และพลังชีวิตธรรมดาไม่สามารถมีส่วนร่วมในการรบระยะประชิด
แต่พวกเขายังมีบทบาทอย่างแข็งขัน พวกเธอจิ้มมันด้วยมีดสั้นและออกล่ามันด้วยอุปกรณ์ที่ทำด้วยเหล็ก
วีดโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยทักษะดาบโคลนนิ่งระหว่างที่เซเฟอร์และเพื่อนๆในกลุ่มให้การสนับสนุนเขา
มันเป็นปาร์ตี้ที่ยอดเยี่ยมเมื่อใช้จัดการกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง!
เจ้ามอนสเตอร์อ่อนแรงลงหลังจากที่มันสับสนจากการทำความเสียหายรุนแรงอย่างต่อเนื่องดังนั้นมันจึงจัดการได้ง่ายขึ้น
สไตล์การต่อสู้ของเขาเปลี่ยนไปแล้วหลังการจากได้เรียนเทคนิคดาบลับ
ดาบโคลนนิ่งมีประสิทธิภาพดีมากในการออกล่าพวกมอนสเตอร์หลายๆตัวในเวลาเดียวกัน
พวกร่างโคลนช่วยในการป้องกันและยังช่วยปรับปรุงการสร้างเสียหายทั้งหมด
แม้ว่าการใช้มานาอย่างรวดเร็วจะเป็นข้อเสีย, แต่ก็ทำให้การออกล่าเร็วขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้,
มานาของเขาคืนกลับมาใหม่เร็วมาก ต้องขอบคุณแหวนของเขา, กำไลของบาฮาราน และฮีเลียมในชุดเกราะอัศวินแห่งองค์เทพีดังนั้นเขาไม่ได้รู้สึกต้องการออมการใช้ดาบโคลนนิ่งของเขา
พวกนักดาบยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากทักษะได้อย่างเหมาะสมแต่วีดใช้ประโยชน์มันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"เทคนิคดาบลับนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ!"
เขาได้ทั้งค่าความเชี่ยวทักษะ,ประสบการณ์และไอเท็ม!
วีดและเพื่อนๆในกลุ่มได้นำถุงมากมายเข้าไปในดันเจี้ยน มันเต็มไปด้วยไอเท็มจากการออกล่า
-
ให้ผมออกไปตอนนี้เลยมั้ยครับ?
-
คอยอีกสักนิดน่าจะได้นะครับ
เมแพนส่งกระซิบถึงเพลเป็นระยะๆเพื่อยืนยันถานการณ์
เมื่อเร็วๆนี้เขาได้ซื้อการ์กอยล์เชื่องๆ มา 12
ตัวในราคาแสนแพง
มีเพียงพ่อค้าเลเวลสูงสุดเท่านั้นที่สามารถมีหน่วยบินการ์กอยล์ในการขนส่งสินค้า
เมแพนตระเตรียมในการเข้าไปหาและทำการค้าได้ทุกเวลา
กลุ่มของวีดใช้ทุกวิธีในการออล่าที่โบราณสถานแห่งนี้
"สถานที่ออกล่าแบบนี้แหละเยี่ยมสุดๆไปเลย"
มีพวกอสูรมากมายด้วยเหตุนี้ ไอเท็มอย่างอัญมณีของกษัตริย์เบลซ์ออสก็ดร็อปได้ด้วยเช่นกัน
มันจะแตกต่างออกไปถ้าเขามาคนเดียวแต่เพื่อนร่วมกลุ่มของเขาเชื่อถือได้เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ
ตอนนี้วีดสามารถรับมือกับมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยตัวเองได้แล้ว,
เขาไม่ต้องมากังวลเรื่องการป้องกันมากเท่ากับการสร้างความเสียหายให้สูงขึ้น
ทักษะของพวกเพื่อนๆก็เข้ากันได้ดี
พวกเขาเติบโตมาด้วยกันจากระยะเริ่มต้นของเกมส์
ดังนั้นพวกเขาสามารถเข้าใจความหมายได้ด้วยการมองตากันเพียงแค่ครั้งเดียว
'เขาตั้งใจจะออกล่ามากกว่า 3 ชั่วโมง อืม.ม, ขาของผมไม่มีความรู้สึกแล้ว'
'เพราะว่าอสูรจำนวนมากพวกนั้นออกมา ผมได้เพิ่มค่าสถานะความอดทนของผมอีกครั้งในขณะที่ออกล่ากับคุณวีด
"
'อ่า, ฉันอยากให้คุณวีดเตรียมอาหารชั้นเยี่ยมและฉันอยากเดินไปรอบๆด้วยการสวมรองเท้าและชุดใหม่ที่ฉันซื้อมา'
************************************
"คุ.คุ.คุ.อุ"
"พี่สี่, นี่เก่งจริงๆ"
"ใช่ นี่ละรสชาติของการออกล่า"
ลูกศิษย์นักดาบก็ใช้ดาบโคลนนิ่งและเพลงดาบประกายแสงด้วย พวกมอนสเตอร์เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆดังนั้นมันต้องใช้มากกว่าพวกทักษะวิชาดาบพื้นๆ
เพื่อออกล่าพวกมันได้อย่างเหมาะสม
พวกเขาพบว่ามันสนุกกับการหาขุมสมบัติในดันเจี้ยนหรือล่าพวกมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยกัน
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับพวกมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยพวกเขาเองแต่การรวมพลังกันของพวกเขาเปรียบได้กับโทษประหาร(สำหรับมอนสเตอร์)
การกวัดแกว่งดาบขณะขี่บนหลังม้าหรือไวเวินเป็นความหลงไหลไฝ่ฝันของบุรุษ!
"มันช่างน่าตื่นเต้น"
"ใช่ครับ, ท่านอาจารย์!"
"ไปสนุกสุดเหวี่ยงกันเลยพวกเรา!"
พวกออร์คขณะนี้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับป้อมปราการเวอร์โก้และพวกผู้เล่นเลเวลสูงก็มาด้วยจำนวนมาก
พวกลูกศิษย์นักดาบเอาชนะพวกมอนสเตอร์และยึดเทือกเขาขรุขระ
พวกเขาปีนขึ้นไปบนยอดสูงของภูเขาและตะโกนอย่างคึกคะนอง
ก้อนเมฆเคลื่อนตัวไปรอบๆข้างใต้พวกเขา มันเป็นภาพทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ
พวกนักดาบสนุกสนานกับชีวิตในป่าเขา
ขณะที่พึ่งพิงในพลังอันแข็งแกร่งของพวกเขา!
พวกครูดาบและเหล่าลูกศิษย์ไม่ได้กังวลใจเรื่องเลเวลของพวกเขา
พวกเขาพอใจที่สามารถต่อสู้ได้อย่างอิสระ
พวกเขาวิ่งลงภูเขาบนเส้นทางที่ปกคลุมด้วยน้ำค้างของรุ่งอรุณ
ด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ
รู้สึกเหมือนพวกเขาได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์
ทักษะความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธของพวกเขาเพิ่มขึ้นและรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาสามารถต่อสู้เช่นนี้
ได้สะสมประสบการณ์และพวกเขาได้รับเลเวลและไอเท็มเพิ่มขึ้น
พวกเขาปรับตัวหลังจากใช้เวลาในป้อมปราการเวอร์โก้และระยะหลังๆนี้มีผู้เสียชีวิตน้อยลง
"เบอร์ 2"
"ครับ, ท่านอาจารย์"
"พวกเรามีแผนที่ค่อนข้างเก่าของรอยัลโรด"
"เวลาผ่านไปแล้วครับ, ท่านอาจารย์"
"ช่าย....."
อาจารย์นักดาบมองไปที่ดาบเหล็กในมือขวาของเขา
'ฉันได้เข้าใจถึงรสชาติ'
เขาคิดว่าความเสมือนจริงนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ
เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลงพัฒนาขึ้น,มีโอกาสเล็กน้อยที่จะโชว์มันในสภาพที่เป็นจริง
แม้มีการทะเลาะกันกับคนอื่น, คุณก็ไม่ควรที่จะต่อสู้หรือโจมตีผู้อื่น
ศิลปะการต่อสู้เป็นเพียงการใช้เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับผู้คน
รอยัลโรดได้ช่วยบรรเทาความปรารถนาของเขา
"นักเรียนที่จับท่อเหล็กในชั้นมัธยมต้นก็ชอบสิ่งนี้"
"พวกลูกศิษย์ก็ชอบมันเหมือนกัน"
ศิษย์ของสำนักได้ผจญภัยในรอยัลโรดขณะเดียวกันความเสี่ยงตายก็เพิ่มขึ้นในทุกๆการต่อสู้
พวกเขาเต็มอกเต็มใจเข้าแคปซูลแม้กระทั่งสุดสัปดาห์หรือช่วงพัก
"แต่มันแข็งแกร่งจริงๆ"
ขณะที่อาจารย์นักดาบกำลังตรวจสอบดาบของเขา, นักดาบ5เข้ามาและถามเบาๆ
"ถ้าพวกเราไม่ทำให้ดีที่สุดที่นี่แล้วความภาคภูมิใจของเราจะไม่เสียหายหรือครับ?"
เหล่าอาจารย์และศิษย์ยอมรับความตายอย่างเบิกบานใจ
ในรอยัลโรด, มันยากที่จะเอาชนะถ้ามีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องเลเวลหรืออุปกรณ์
การตัดสินใจและการตอบโต้ของร่างกายเป็นตัวช่วยอย่างมากแต่มันก็มีข้อจำกัด
"ฟังเหมือนมีฝันสนุกๆที่นี่..."
"....."
"ข้าต้องการให้เจ้าเรียนวิชาดาบนี่ ด้วยการเรียนเพลงดาบ, เจ้าจะจบลงด้วยการมองที่ตัวเจ้าเอง.”
ในความเป็นจริง, แม้ว่าพวกเขาจะฝึกซ้อมกันมาเป็นสิบปีกระนั้นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว
พวกเขาอาจต้องจ่ายด้วยชีวิต พวกเขาเต็มไปด้วยพลังเมื่อยังเยาว์วัย แต่กลับกลายเป็นคนอ่อนแอครั้นเมื่อพวกเขาแก่ชรา
แม้ว่าจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่นั่นก็ยังเป็นชีวิตอยู่
นั่นเป็นเหตุผลที่เหล่าอาจารย์เลือกเส้นทางที่ยากลำบากในการเรียนรู้ดาบ
หากพวกเขาได้ลิ้มรสความทุกข์ยากทางกายอย่างแท้จริง, ภัยคุกคามสู่ชีวิตของพวกเขาและความสุขของการกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างนั้นแล้วพวกเขาจะเป็นนักดาบผู้ยิ่งใหญ่
เมื่อสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น, พวกเขาจะพบเสียงจากภายในของพวกเขา
"พวกเราจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งขึ้น ในสถานที่แห่งนี้"
"ดังนั้น....."
"นี่จะเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี"
********************************
วีดเหลือเพียง 6 วันในสุสานกษัตริย์เบลซ์ออส
นั่นเป็นเพราะว่าภารกิจของมังกรปีศาจไคย์เบิร์นมีการจำกัดเวลา!
"ไอ้เลวนี่, เจ้าจิ้งจกนิสัยเสียไม่ช่วยทำอะไรเลย!"
ขณะที่ออกล่าและสร้างประติมากรรม, เขาได้ยินข่าวลือจากภายนอก
-
บาร์ดเรย์ทำภารกิจอื่นสำเร็จแล้ว
-
แล้วมันได้ออกอากาศโชว์หรือยัง?
-
ยัง ข่าวเพิ่งรั่วออกมา มันจะออกอากาศเย็นนี้
บาร์ดเรย์ได้สำเร็จภารกิจปรมาจารย์ลำดับที่ 15 ของเขา
จำนวนขั้นของภารกิจปรามาจารย์โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 15-20 ขั้
นดังนั้นเขาเกือบจะจบแล้ว
วีดยังอยู่เพียงภารกิจที่ 14 ภารกิจของประติมากรอาจจะสั้นกว่าของอัศวินทมิฬเนื่องจากโชคอยู่บ้างแต่เขาค่อนข้างเสียเปรียบ
"เอิ่ม.ม!"
เขารู้สึกปวดท้องในขณะที่เขากำลังทำประติมากรรมธาตุ
"ถ้าฉันปวดท้องอย่างนั้นฉันต้องกินยาสักหน่อย"
เมื่อพิจารณาถึงว่าเขาไม่ได้ชักช้าในการพบเจอกับไคย์เบิร์น, ไม่มีเวลาให้เสียมากนัก
ข้อดีคือครึ่งหนึ่งของมันได้ทำไว้แล้วแต่มันเป็นเรื่องยากที่จะเร่งส่วนที่เหลือ
ประติมากรรมธาตุก่อให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่ทุกครั้งที่ใช้มีดแกะสลักดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงแย่มากมันลดพลังชีวิตของเขาและยังขัดขวางการมองเห็นด้วย
วีดต้องอดทนกับความยุ่งยากของไฟ
เพื่อที่จะทำประติมากรรมที่จัดการยากให้สำเร็จ
การเร่งงานขึ้นจะทำความเสียหายให้กับชิ้นงานดังนั้นเขาต้องตั้งใจและพิถีพิถันมาก
"ถ้าฉันจัดการเพิ่มเลเวลของฉันได้ด้วยวิธีใดก็ตามแล้วฉันจะฆ่าไอ้เห้นั่น...."
เขาเคยล่าพวกมังกรเมื่อเล่นคอนติเนนท์ออฟเมจิก วีดได้ให้สัญญาไว้เพื่ออนาคต
ตริ้ง!
โปรดตั้งชื่อประติมากรรมชิ้นใหม่
|
"เครื่องบรรณาการจากประติมากรน้อยถึงเบลซ์ออส เลอ ดิอุส ที่3"
วีดได้ทำประติมากรรมธาตุสำเร็จ
คำประจบสอพลอขณะตั้งชื่อเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้!
เครื่องบรรณาการจากประติมากรน้อยถึงเบลซอส
เลอ ดิอุส ที่3 ถูกต้องหรือไม่?
|
"เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่สามารถทำงานเกี่ยวกับประติมากรรมธาตุต้นแบบที่สร้างโดยกษัตริย์
นี่ละถูกต้อง!"
วีดปล่อยโฮ เขามีเวลาอีก 6 วันเพื่อทำภารกิจของไคย์เบิร์นให้สำเร็จ
-งานศิลป์ชั้นเอก! เครื่องบรรณาการจากประติมากรน้อยถึงเบลซอส
เลอ ดิอุส ที่3 ได้สำเร็จแล้ว
|
กษัตริย์เบลซอสมีชีวิตโดดเดิ่ยวขณะที่ทำพวกประติมากรรม
|
มีผู้คนไม่มากนักที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประติมากรรมของเขาดังนั้นพวกศิลปินจึงไม่สามารถประเมินค่ามันได้อย่างถูกต้อง
|
กษัตริย์เบลซอสทิ้งผลงานที่ยังไม่เสร็จแล้วประติมากรอัจฉริยะวีดผู้เจิดจรัสดั่งดาวหางบนทวีปได้ทำมันจนเสร็จสิ้น
|
ทั้งประติมากรวีดยังเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาเพ่น
|
พวกประติมากรรมของเขามักเคยเป็นหัวข้อใหญ่บนทวีปเสมอและพวกชนชั้นสูงก็ปรารถนาชิ้นงานของเขา
|
ถ้าชิ้นงานที่โดดเด่นนี้กลายเป็นที่รู้จักแล้วมันจะเป็นโอกาสในการประเมินศิลปกรรมของกษัตริย์เบลซ์อส
|
คุณค่าทางศิลป์ :
ต้นแบบเป็นของปรามาจารย์ประติมากรเบลซ์ออสและได้ร่วมทำในประติมากรรมชิ้นถัดมา = 19,834
|
คุณสมบัติพิเศษ :
เบลซ์ออส...การฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาจะเพิ่มขึ้น 31%
ต่อวัน
|
- พลังทั้งหมดของจิตวิญญาณแห่งไฟทั่วทั้งทวีปจะเพิ่มขึ้น
3.2%
|
- เลเวลทักษะของผู้อัญเชิญธาตุไฟจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา
1 สัปดาห์
|
- จิตวิญญาณแห่งไฟจะปรากฏมากขึ้น
|
- พลังของเวทย์แห่งไฟใดๆในบริเวณใกล้เคียงประติมากรรมจะเพิ่มขึ้น
|
- ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น
24
|
ประสิทธิผลที่เกิดไม่ซ้อนทับกับประติมากรรมอื่น
จำนวนของงานศิลป์ชิ้นเอกที่สร้างขึ้นแล้วในปัจจุบัน : 15
|
- ความเชี่ยวชาญทักษะของการแกะสลักเพิ่มขึ้น
|
- ความเชี่ยวชาญทักษะของหัตถกรรมเพิ่มขึ้น
|
- ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
1,953
|
- ค่าสถานะทางศิลป์เพิ่มขึ้น
21
|
- ความอุตสาหะเพิ่มขึ้น
7
|
- เสน่ห์เพิ่มขึ้น
9
|
- จิตวิญญาณการต่อสู้เพิ่มขึ้น
3
|
- ความใกล้ชิดธรรมชาติเพิ่มขึ้น
37
|
- คุณได้สร้างประติมากรรมของกษัตริย์แห่งธาตุไฟ
|
เนื่องจากประสบการณ์พิเศษ,
ความต้านทานไฟของคุณเพิ่มขึ้น 3.4%
|
- ทุกสถานะจะได้รับเพิ่มขึ้น
3 แต้มจากการทำประติมากรรมชิ้นเอก
|
วีดไม่ได้สร้างประติมากรรมด้วยตัวเขาเองดังนั้นเขาเขาจึงได้รับค่าสถานะน้อยลง
แม้กระนั้น, มันก็ยังเป็น งานศิลป์ชิ้นเอก
ดังนั้นมันจึงให้ผลผลิตที่ยิ่งใหญ่
'ความพยายามทั้งหมดทั้งมวลของฉันเหงื่อและเลือดที่ฉันปลดปล่อยไปเป็นรางวัล
นี่เป็นสิ่งที่ยากลำบากเป็นพิเศษไม่ใช่ว่าทุกๆประติมากรรมมันจะง่ายไปหมด'
กษัตริย์เบลซ์ออสมีเปลวเพลิงห่อหุ้มรอบๆทั้งร่างของเขา
มันยากก็เพราะเขาต้องแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ,ไม่ใช่ทำเลียนแบบ
แต่เขาก็สามารถทำสำเร็จได้ไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่เปลวไฟ
ประติมากรรมส่วนใหญ่ผสมผสานเข้ากับทัศนียภาพโดยรอบ
บางส่วนก็ให้ความรู้สึกสงบท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆขาว อุทยานแห่งทวยเทพเป็นผลงานศิลปะอลังการที่ได้แผ่ขยายสู่ท้องฟ้าและ
รวมผืนแผ่นดินเข้าไว้ด้วยกัน
แสงที่เปล่งออกมาจากประติมากรรมกษัตริย์แห่งธาตุไฟได้ปลดปล่อยตัวตนอันแข็งแกร่งออกมา
วีดพอใจกับตัวเอง
'วัสดุเหล่านี้ดีจริงๆ'
เพื่อนๆในกลุ่มก็ชื่นชมผลงานด้วย
"ตามที่คุณวีดคาดไว้, คุณได้สร้างผลงานศิลป์ชั้นเอก"
"ผมก็รู้ว่าจะต้องออกมาเป็นงานชั้นเยี่ยม"
"....."
เพื่อนๆในกลุ่มยอมรับว่าประติมากรรมที่เขาทำขึ้นด้วยความยากลำบากอย่างมากอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา!
วีดฝืนยิ้มบนริมฝีปากเขา
ต้องขอบคุณความต้านทานไฟที่เพิ่มขึ้น, การออกล่ากลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น
โดยปรกติแล้วเวทย์น้ำแข็งเป็นอันตรายมาก
ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนที่และทำให้สูญเสียพลังในการต่อสู้ แต่มอนสเตอร์
จำนวนมากใช้ไฟและมีคาถาไฟที่เป็นอันตราย
นอกจากนี้, ถ้าการต้านทานไฟของเขาขึ้นไปถึง 100% แล้วเขาสามารถใช้ดาบมังกร(the Dragon Sword),
ดาบดาวสีชาด(the
Red Star) ความต้านทานไฟของวีดอยู่ที่ประมาณ 7% แล้วต้องขอบคุณวงแหวนเวทย์ใน ลาสฟาร์ลังก์
และตอนนี้มันได้เพิ่มขึ้นอีก 3.4% ถ้าเขาใช้อุปกรณ์อย่าง แหวนวิศรุตเพลิง(the Ring of Famous Fire; วิศรุต=ผู้มีชื่อเสียง)
แล้วความต้านทานไฟของเขาจะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่านี้
'ถ้าฉันซื้อสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือแล้วฉันสามารถเพิ่มมันได้อีก 79%'
ถ้าเขาใช้ประติมากรรมแปลงร่างที่เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์และทักษะช่างตีเหล็กของเขาถูกนำมาใช้แล้วเขาสามารถใช้ความได้เปรียบกับดาบดาวสีชาดได้
'วันนั้นจะมาถึงเมื่อฉันสามารถใช้ไอเทมนั่น ฉันจะไม่ยอมโยนอะไรทิ้งเด็ดขาด'
การได้เก็บแจ๊บเทมทำให้เขารู้สึกดีขึ้น
มันเป็นความมุ่งมั่นที่ต้องการประหยัดแบบสุดๆที่จะส่งต่อผ้าอ้อมใช้แล้วให้กับเด็กคนอื่นๆ!
(ผ้าอ้อมผ้าใช้แล้วซักเอามาใช้ต่อได้ไม่ใช่แบบใช้แล้ว
ทิ้งแบบปัจจุบันนะครับ)
ความต้านทานจะเปลี่ยนไปตามชนิดของประติมากรรมแปลงร่างที่วีดได้เปลี่ยนไป
แต่ถ้าเขาเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้วเขาก็สามารถใช้มันได้
มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเจ้าของตัวจริงของดาบมังกร
"นี่เป็นเรื่องลำบากจริงสำหรับสินค้าขโมย"
หลังจากพบกับมังกรปีศาจไคย์เบิร์น, วีดได้ตระหนักแล้วว่าเขาไม่สามารถใช้มันสำหรับการออกล่าตามปกติได้
ถ้าเขาใช้มันพอสมควรในช่วงเวลาที่สำคัญแล้วเขาสามารถเห็นมันได้ราคาสูงเมื่อเวลามาถึง
ในขณะนั้นอุณหภูมิในห้องศิลาก็สูงขึ้น อุณหภูมิสูงเหมือนเปลวไฟปรากฏยามเที่ยงวันในทะเลทราย
รูปประติมากรรมทองคำแมงป่องขนาดใหญ่ลืมตาขึ้น
"อืม.ม.ม....."
"นี่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงใช่ไหม?.
"ยังไงก็ตามสัญญาณมันดูไม่ดี"
วีดและเพื่อนๆในกลุ่มระลึกถึงความทุกข์ทรมานขอกิลด์ปีกสีชาดในอดีต
กษัตริย์เบลซ์ออสได้ทำลายทางเข้าอย่างรวดเร็วและทวีปตกอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง
"อึก.."
วีดระมัดระวังเหมือนกับเวลาที่เขาได้ยินว่าก๊าซของเมืองขึ้นราคาจากข่าวเช้า
9 โมง
เปลวเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วและมีจิตวิญญาณแห่งไฟโบยบินออกมา
จิตวิญญาณแห่งไฟเคลื่อนที่ไปรอบๆด้านในของห้องศิลา
มันเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมแต่ก็น่ากลัว
ประติมากรรมธาตุไฟเริ่มการเผาไหม้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ให้ชีวิตมัน
-
พวกมนุษย์ได้มาเยือนดินแดนแห่งเรา....
การเสด็จครั้งที่สองของกษัตริย์เบลซ์ออส! วีดคุกเข่าลงอย่างไว
"ข้าพระองค์ขอนอบน้อมแด่มหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เบลซ์ออสและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท
กระหม่อมเป็นประติมากรน้อยที่กำลังเดินทางในทวีป
กระหม่อมมาที่นี่เนืองด้วยภารกิจของมังกรปีศาจผู้ชั่วร้ายไคย์เบิร์น
แต่มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เฝ้าฝ่าบาท!"
วีดรัวคำเยินยอราวกับปืนกล! กษัตริย์เบลซ์ออสมองไปที่วีดและเพื่อนๆของเขา
-
เจ้ามีคุณสมบัติที่จะพบข้า โดยมิได้มืดบอดด้วยความโลภ....
ผ่านการทดสอบของข้าเก่งมาก
ตรุ๊ม! (Ddukkum!)
พระองค์ไม่ใช่แค่พูดคุยกับวีดแต่กับปาร์ตี้ที่มุม
-
และมีคนไปตามเส้นทางของฉันสู่ความรุ่งโรจน์
กษัตริย์เบลซ์ออสถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง และกษัตริย์เบลซ์ออสก็เดินมาพร้อมกับไฟของเขาไปหาวีด
-
เงยหน้าของเจ้าและลุกขึ้น
ผู้ที่ตระหนักถึงความงามอันแท้จริงไม่ต้องก้มหัว
-
ศักดิ์ศรีและเกียรติยศเพิ่มขึ้น 24
หลังจากได้รับการยอมรับโดยเบลซ์ออส, กษัตริย์ของจิตวิญญาณแห่งไฟ
|
วีดสั่นหัวอย่างแรง ถ้าเขาสามารถมีอำนาจแบบนั้นได้แล้วโลกคงจะดี ด้วยวิธีใดก็ตามเขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอด
'ฉันจะทำแต้มมากขึ้นหรือไม่ถ้ามีชีวิตแบบนั้น? มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ฉันต้องสุภาพ
นี่ดูเหมือนกติกามรรยาทระหว่างประติมากรแต่มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับประติมากรอื่นที่ได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน'
วีดตัดสินใจก้มหัวลงเล็กน้อย
กษัตริย์เบลซ์ออสมีบุคลิกที่โหดเหี้ยม
เหมือนเมื่อในอดีตเมื่อเขายังเป็นมนุษย์และเมื่อเขาอำมหิต
สำแดงความไม่พอใจต่อกิลด์ปีกสีชาด
เขายิ่งน่ากลัวขึ้นในตอนนี้ ดังนั้นวีดจึงสุภาพอย่างมาก
เหมือนเด็กข้างบ้านในห้องอาบน้ำสาธารณะที่จะปฏิบัติตนก่อนที่จะช่วยนวด(กระตุ้น)ร่างกายให้คนอื่นๆที่นั่น
"มิเป็นการสมควรพะยะค่ะเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
นี่ก็สบายสำหรับคนอย่างกระหม่อมผู้ที่ได้ตามรอยของประติมากร"
เขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของกษัตริย์เบลซ์ออสมาก่อนแต่คำพูดก็ไหลลื่นออกมาจากปากของวีด
มันเป็นเสียงของปรมาจารย์แห่งการเยินยอ!
จบตอน
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณมากๆ ครับ
ตอบลบขอบคุณครับ กะลังจะเริ่มมันอีกรอบ
ตอบลบขอบคุณครับ กำลังสนุกเลย
ตอบลบลิ้นแตกเป็นห้าแฉกเลยสำหรับวีด ชะเลียเก่งเกิน
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบจะได้อะไรเป็นของฝากกันนะ
ตอบลบเลียเก่ง แต่กระผมสายบะๆๆเบรินเรอะๆๆๆๆ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ..ต่อเนื่องเลยกำลังค้างงงงง
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ สนุกมากๆเลย
ตอบลบ