เล่ม
30
ตอนที่ 7 : ความโลภไม่มีที่สิ้นสุดของกิลด์เฮอมิส
แปลโดย Smith Rex
วีดกลับมาเชื่อมต่อโรยัลโรดอีกครั้งหนึ่ง
‘วันนี้ที่จัตุรัสมีผู้คนเยอะแยะไปหมด’
มันสามารถรับรู้ถึงการพัฒนาของโมราต้า
เมื่อมองไปที่จัตุรัส เขาได้ยินเรื่องราวจากเหล่าพ่อค้าและบรรดาผู้เล่นที่เดินผ่านไปมา
'ตอนนี้เหลือเพียง 6 วันเท่านั้น'
ภารกิจนี้เขาต้องใช้เวลา
1 เดือน เขาเบื่อที่ยังคงเป็นรูปปั้น
แต่มันก็เป็นภารกิจที่เขาสามารถทำตามได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีคนที่มาปรากฏตัวที่จัตุรัสในยามสาย
รุ่งอรุณผ่านพ้นไป ยังคงมีผู้คนเริ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก เขาเห็นฝูงนกบินผ่านไปในขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้น
และยังได้รับแสงอบอุ่นจากดวงอาทิตย์
‘วันนี้ไม่มีอะไรที่ดูเคร่งเครียดเลยแหะ’
ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ที่อันตราย
ณ จัตุรัสใจกลางเมือง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสนุกที่ได้เฝ้าดูผู้คน
วีดมักทำงานในเชิงธุรกิจที่ปราสาทเซราบ็อคในอาณาจักรโรเซนไฮม์
เขาทำธุรกิจเป็นช่างแกะสลักช่างทำอาหารและช่างตีเหล็กเพื่อที่เขาจะสามารถเรียกราคาจากลูกค้าได้เมื่อนานมาแล้ว
พ่อค้าที่ประสบความสำเร็จในการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และได้รับผลกำไรที่ยอดเยี่ยมจากการค้าปรากฏให้เห็นเป็นประจำในโมราต้า
"เจ้าจะบอกว่าคุณสเปนซันพบสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารลูในอาร์โกเดียเช่นนั้นรึ"
“โอ้ ในที่สุดพวกเขาก็ทำจนได้.”
"พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการคืนพลังอำนาจของดาบ พวกที่อยู่จนถึงจุดสิ้นสุดของภารกิจได้รับรางวัลใหญ่สมบูรณ์แบบ
"
นอกจากนี้ยังคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับเหล่านักผจญภัยและสินค้าที่ได้รับความนิยม
เขายังมีข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจในแต่ละสายอาชีพจากผู้คนหลากหลายในขณะนี้ด้วย
ความสามารถทางทักษะที่จำเป็นสำหรับสายอาชีพด้านการต่อสู้นั้นอยู่ในระดับต่ำมาก
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีชื่อเสียง แต่คนที่ยกระดับทักษะพื้นฐานก็พรวดพราดเข้าสู่ภารกิจระดับปรมาจารย์ในสายอาชีพนั้น
พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จ
แต่ก็ยังคงคุ้มค่าที่จะทำ และมันก็เป็นไปได้ที่จะยกระดับชื่อเสียงของพวกเขา ดังนั้นจำนวนคนที่กำลังจะทำให้สำเร็จก็เพิ่มขึ้นเป็น
54
คน
วีดนั้นเกือบจะอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย
ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจคู่แข่งคนอื่น ๆ
'ข่าวเกี่ยวกับบาร์ดเรย์ในวันนี้น้อยมาก ...
ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ฉันหวังว่าเขาจะปลูกเมล็ดฟักทองที่ไหนสักแห่ง '
ความเกลียดชังที่ก่อตัวขึ้นมาจากเกราะทัลล๊อค!
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วันแห่งการตัดสินใจของกิลด์เฮอมิส
"สงครามจะเริ่มต้นตั้งแต่รุ่งเช้าในวันนี้"
ลาฟาเย่ประกาศในที่ประชุมผู้นำ
กองทัพพร้อมรบกำลังรออยู่ที่ชายแดนของอาณาจักรลาซาล บาร์ดเรย์ได้หยุดความคืบหน้าในการทำภารกิจปรมาจารย์ของเขาเพื่อสั่งการกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
ลาฟาเย่พูดย้ำอีกครั้ง
"พวกเราจะออกจากสมาพันธ์มหาอำนาจ ยามเมื่อพวกเราโจมตีอาณาจักรลาซาล "
มันเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของสมาคมอันทรงเกียรติแห่งทวีปเวอร์เซลล์
สมาพันธ์มหาอำนาจแทนที่จะขยายและต่อสู้กัน
พวกเขาจะรวบรวมกองกำลังและรักษาดินแดนที่ตนครอบครองอยู่
กิลด์เฮอร์มีสถือเป็นตัวอย่างของการทำลายข้อตกลงจากการบุกรุกเหมืองเมลเบิร์นของกิลด์ราชสิห์ทมิฬ
พวกเขาได้รับการแจ้งเตือนจากกิลด์อื่น
ๆที่มีชื่อเสียง ในกลุ่มสมาพันธ์มหาอำนาจ ฉะนั้นการเคลื่อนทัพสู้รบกับอาณาจักรลาซาลเหมือนเป็นการประกาศสงครามต่อทั้งทวีป
เหล่าผู้นำค่อนข้างกังวลเพราะประเด็นนี้
"มีแนวทางรับมือไหม หากเราออกจากการเป็นพันธมิตร?"
"กิลด์เฮอมิสของพวกเราแข็งแกร่ง แต่มันจะกลายเป็นเรื่องยาก หากพวกเขาร่วมกันต่อต้านเรา"
ถึงแผนการยึดครองอาณาจักรลาซาลได้รับการตัดสินใจไปแล้วก็ตาม
แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกกังวลเลย
ลาฟาเย่อธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ
"ตามสถานการณ์ปัจจุบันกิลด์อื่น ๆ ยังไม่เสร็จสิ้นการขยายอาณาเขตของตน
พวกเขายังต่อสู้กับศัตรูของพวกเขาอยู่ในอาณาจักร ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะทุ่มกำลังทหารมาสู้กับเรา
"
ลาฟาเย่นั้นถือว่าเป็นหัวเรือใหญ่ของกิลด์
การที่บาร์ดเรย์สามารถการควบคุมกิลด์เฮอมิสได้แบบเบ็ดเสร็จนั่นเป็นเพราะลาฟาเย่ยินยอมให้กับเขา
เป้าหมายที่สำคัญและรายละเอียดในแผนการต่างๆของกิลด์จะมาจากลาฟาเย่
และที่ปรึกษาของเขา สิ่งต่างๆเช่นการพัฒนาของอาณาจักร การประเมินบุคลากร การศึกษาทางทหาร
และการเจรจาทางการทูตล้วนทำโดยลาฟาเย่
กิลด์เฮอร์มิสนั้นเติบโตขึ้นมาได้ขนาดนี้คงต้องขอบคุณลาฟาเย่
ด้วยการอาศัยความเฉลียวฉลาดที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังของลาฟาเย่ และการสนับสนุนจากที่ปรึกษาของเขา
การตัดสินใจของเขาจึงนับว่าอยู่ในมาตรฐานที่ยอดเยี่ยม
"และข้าได้เตรียมพร้อมรับมือจากการคาดกราณ์ในการรับมือกับบางกิลด์อยู่บ้างแล้ว
นั่นคือสิ่งที่พวกเราควรให้ความสนใจ"
"ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ แผนคืออะไร?"
พื้นที่ของกิลด์เฮอมิสมีขนาดใหญ่และพวกเขามีผู้นำนับ
100
คน ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนจะได้รับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนการ
"มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกเจ้า ข้าจะมอบอำนาจแก่ศัตรูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขา
มีการก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร นั่นจึงเป็นกุญแจหลัก และการสนับสนุนบางอย่างอย่างเช่ยในกรณีให้กิลด์บีเดนเข้าควบคุมอาณาจักรทัลเลน
"
"นั่นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในกรณีของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ และ
อาณาจักรทัลเลน ถ้าแผนการไปได้ดีเราก็สามารถทำให้พวกเขาหงุดหงิดได้
แต่พวกเรามีกองกำลังและเงินทุนที่จะจ่ายสำหรับการทำสงครามกับอาณาจักรลาซาลเช่นนั้นรึ
? "
"ข้าตัดสินใจที่จะใช้กองกำลังที่ข้าถอนกำลังมาจากโมราต้าที่ส่งไปจัดการวีด การเตรียมกองรบแบบลับๆได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
ภาษีจากอาณาจักรคัลลาร์มอร์นั้นได้มาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพวกเราจึงมีกำลังสามารถจ่ายได้
"
"หากพวกเราโผล่หางออกมามากเกินไป แล้วพวกเขาสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเรากำลังทำ
ทีนี้พวกเราจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ยากยิ่งกว่าเดิมกับกิลด์อื่น ๆ อีกงั้นหรือ
"
"ทุกคนกำลังเฝ้าดูเราอยู่แล้ว กองกำลังของพวกเรายิ่งใหญ่กว่าในปัจจุบัน
หากพวกมันโจมตีมาก็ตาม ไม่มีความหมายใดเลยถ้าการที่สมาพันธ์มหาอำนาจจะแตกออก และเหล่าพันธมิตรจะตั้งเป้ามาที่กิลด์เฮอมิส
คงจะดีกว่าถ้าหากได้เป็นฝ่ายจู่โจมก่อน. "
อย่างไรก็ตามกิลด์เฮอมิสจำเป็นต้องต่อสู้กับบรรดากิลด์ที่โด่งดัง
หากพวกเขาต้องการที่จะพิชิตทวีปนี้ ความร่วมมือชั่วคราวเป็นเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน!
กิลด์เฮอมิสได้ซ่อนพลังของพวกเขาเอาไว้
และสามารถครองอาณาจักรคัลลาร์มอร์ได้อย่างรวดเร็ว บรรดากิลด์ที่มีชื่อเสียงล้วนตึงเครียดและคอยเฝ้าดูพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ยุทธวิธีในการชิงโจมตีก่อน
การขยายกำลังทหารของกิลด์เฮอมิสเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยชื่อเสียงของบาร์ดเรย์
พวกเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจที่ครอบงำกิลด์อื่น
ๆ จนไม่สามารถเปรียบเทียบได้.
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
การรุกรานของกิลด์เฮอมิสในอาณาจักรลาซาลแบบกระทันหัน!
กองรบเวทมนตร์เคลื่อนตัวไปเป็นจำนวนมาก
ทำลายปราสาท และเริ่มทำสงคราม เหล่าอัศวินได้รับการฝึกด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุด ในขณะที่กองทหารราบและกองทหารหุ้มเกราะนับว่าเป็นกองทัพที่ดีที่สุดในทวีป
ภาพของกองทัพที่กำลังเคลื่อนพลเข้าสู่ที่ราบแห่งอาณาจักรลาซาลถือว่าเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
ข่าวด่วน!
อาณาจักรฮาเวนซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจสำคัญในทวีปได้ประกาศสงครามกับอาณาจักรลาซาลแล้ว
|
อาณาจักรลาซาลคงจะไม่สามารถกันไว้ได้
และมันคงขึ้นอยู่กับเวลาจนกว่าพวกเขาจะถูกยึดครอง!
|
การดำเนินการที่ฉับไวของอาณาจักรฮาเว่นมีผลกระทบอย่างมากต่อทวีปนี้
|
จากการแพร่สะพัดจนไม่มีข่าวไหนสำคัญไปกว่าข่าวนี้
สงครามมักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในทวีปกลาง แต่สงครามระหว่างอาณาจักรไม่ได้เกิดขึ้นกันง่ายๆ
อาณาจักรฮาเว่นกำลังก้าวหน้าในด้านอาณาเขต
ประชากร กำลังพล และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ดังนั้นมันจึงเป็นการรุกรานฝ่ายเดียว
และสถานีโทรทัศน์ได้รายงานเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง อาณาจักรลาซาลคงจะต้านอาณาจักรฮาเว่นได้ไม่ถึง
5 นาที เมื่อพิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขา
คงไม่มีทางพลาด
ด้วยทั้งคุณภาพและปริมาณของทหารที่ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย
-
กิลด์เฮอร์มิสได้รุกรานอีกแล้วรึ ? จะมีผู้ใดยอมจำนนหรือไม่?
-
ข้าเป็นพ่อค้า ทุกคนได้ปิดร้านค้าและกำลังเคลื่อนย้ายออกไป แต่นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยจริงหรือ?
-
ข้ารู้ว่าบาร์ดเรย์ต่อสู้อย่างไร สงครามจะสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของอาณาจักรลาซาล
โดยไม่ต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง
บรรดาอัศวินในกิลด์เฮอร์มิสต่างก็ได้รับการฝึกฝนด้านยุทธวิธีการโจมตีที่หลากหลาย
ซึ่งได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มที่กับกองทัพอันอ่อนแอของอาณาจักรลาซาลจนราบเป็นหน้ากลอง
กองทัพของอาณาจักรฮาเว่นมีชัยเหนืออาณาจักรลาซาลอย่างท่วมท้น
มันคงเป็นเพียงแค่การรอเวลาเท่านั้นก่อนที่จะถูกยึดครองอย่างสมบูรณ์
-
สงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง ข้าเหนื่อย และรู้สึกเบื่อหน่าย
-
กิลด์เฮอมิส พวกมันแย่มาก พวกมันต้องการทำสงครามเพื่อขยายอาณาเขตของพวกมัน
ในขณะที่ทวีปกลางกำลังทุกข์ทรมานจากวิหารเอ็มบินยูเช่นนั้นรึ ?
-
นั่นเป็นเพราะพวกมันมีความเข้มแข็ง คนที่ทนทุกข์ทรมานคือคนที่อ่อนแอ แน่นอนในหัวของพวกมันคงไม่ค่อยคิดอะไร
พวกเกรียนคีย์บอร์ดต่างละเลงบนบอร์ดสนทนา
และประณามความทะเยอทะยานของกิลด์เฮอมิส กิลด์ที่เป็นกลุ่มสมาชิกของสมาพันธ์มหาอำนาจก็ได้มีการจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหามาตรการตอบโต้
การรุกรานอาณาจักรลาซาลของกิลด์เฮอมิสเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาออกจากพันธมิตร
แต่ถ้าพวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามแล้ว หากไม่สามารถจัดเตรียมกองทัพขนาดใหญ่ได้
มันก็ไม่สามารถหยุดกิลด์เฮอมิสด้วยกองทัพเล็ก ๆ ได้
"กิลด์นักพเนจรจะช่วยพวกเราไหม ?"
"กิลด์เมฆาสามารถจ่ายไหว ดังนั้นเราจึงจะเข้าร่วมกับคุณ"
"กลุ่มทหารรับจ้างดาบทมิฬล่ะ ?"
"เมื่อไม่นานมานี้เราได้รับมอบหมายให้ทำคำขอที่ยากลำบาก ดังนั้นเราจึงมีคนไม่มากนัก"
สมาพันธ์มหาอำนาจต่างเห็นใจซึ่งกันและกัน
แต่ยังไงซะแต่ละคนต้องการลดความเสียหายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีกิลด์ที่มีชื่อเสียงอื่น
ๆ แต่กิลด์เฮอมิสได้ให้การสนับสนุนอย่างลับ ๆ
การประชุมยังคงดำเนินต่อไป
แต่การรวบรวมกองกำลังกลับไม่เกิดขึ้นจากพันธมิตรอย่างเป็นทางการ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
อุปกรณ์ที่ดีที่สุด
ทักษะ พื้นที่การล่า และทหารรับจ้างที่ได้รับการว่าจ้างมาสำหรับชาแมนเพียง 1 คน
ดาอินได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดเหล่านี้เมื่อทำการออกล่าในดันเจี้ยน
กิลด์เฮอร์มิสปฏิบัติกับเธออย่างแตกต่างจากผู้เล่นทั่วไปในกิลด์ กิลด์เฮอมิสมีนโยบายในการรักษาสิทธิพิเศษตามความสามารถของแต่ล่ะคน
แต่ดาอินได้รับการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าปกติ
"นางเป็นใคร?"
"ข้าไม่รู้ ท่านหัวหน้ากิลด์รู้จักเธอเป็นการส่วนตัว เขาบอกพวกเราว่าควรให้การสนับสนุนทุกสิ่งที่เธอต้องการ
"
ดาอินมีทักษะความชำนาญสูงในฐานะชาแมน
เพื่อให้เลเวลของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทีมสนับสนุนของ กิลด์จึงติดต่อเธอเป็นระยะ
"ท่านต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม"
"ตอนนี้ ยังไม่เป็นไร"
"ถ้าท่านต้องการไอเทมใด ๆ ที่ต้องใช้บอกพวกเรามา
และถ้ามีเมืองหรือปราสาทที่ท่านต้องการปกครองแล้ว เพียงแค่เอ่ยมาแค่นั้น "
ผู้ที่มีความสามารถในกิลด์เฮอมิสจะได้รับการเสนอพื้นที่
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาไม่ได้แสดงทักษะของพวกเขาในสนามรบ พวกเขาก็จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง
พวกเขายังคงให้ตำแหน่งกับดาอิน
แม้ว่าจะไม่มีทักษะมากมายนัก รวมถึงบาร์ดเรย์ และลาฟาเย่ เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกหลัก
7 คนที่ก่อตั้งกิลด์เฮอมิสในช่วงแรกของโรยัลโร้ด ถึงแม้ว่ากิลด์เฮอมิสจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ
แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะดูแลผู้ก่อตั้งที่แตกต่างกันออกไป
ดาอินไม่สนใจเรื่องอำนาจ
แต่เธอก็สนใจในอาณาจักรคัลลาร์มอล์
หลังจากที่ถูกยึดครองจากกิลด์เฮอมิส
ไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยในอาณาเขต พวกเขาจะตายจากความอดอยาก
"พื้นที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในราชอาณาจักรคัลเลอร์มอล์นั้นยังอยู่ในสภาพดี"
"การได้รับอนุญาตจากท่านหัวหน้ากิลด์ในการร้องขอสำหรับอาณาจักรคัลลาร์มอล์
... ข้าจะติดต่อท่านหลังจากการยืนยันเรียบร้อยแล้ว"
กิลด์ตอบกลับภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
อาณาจักรคัลลาร์มอล์ไม่สำคัญ ดังนั้นพวกเขาเสนอดินแดนให้แก่เธอ
"โปรดบันทึกประชากร ที่นี่มีความปลอดภัยต่ำ "
"สถานที่ที่มีความปลอดภัยต่ำ? อันที่จริง ...
สถานที่เหล่านี้เหมาะสำหรับการออกล่า ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะยกระดับค่าชื่อเสียง
ข้าเข้าใจ."
วันรุ่งขึ้นกิลด์เฮอมิสตัดสินใจที่จะมอบปราสาทอีวาลุคให้แก่ดาอิน
มันเป็นพื้นที่ที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งในอาณาจักรคัลลาร์มอล์ แต่ปัจจุบันมีการจลาจลเกิดขึ้นเนื่องจากภาษีที่มากเกินไป
มอนสเตอร์ก็มักจะปรากฏตัวถี่ขึ้น ฉะนั้นจึงเป็นสถานที่อันตรายจริงๆ
"พวกอัศวินและทหารจะสนับสนุนท่าน และท่านไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเป็นเวลา 3 เดือน "
มันเป็นความต่อเนื่องของการสิทธิพิเศษที่ได้รับการยกเว้น
เมื่อดาอินเป็นเจ้าเมืองเธอตัดภาษีสำหรับชาวบ้านและมุ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกและกำแพง
การบุกรุกของมอนสเตอร์ลดลง ดังนั้นอัตราการเป็นปฏิปักษ์ของชาวบ้านลดลง
สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้าน
เธอเป็นคนเดียวในอาณาจักรคัลลาร์มอล์ที่ลงทุนด้านศิลปะ
มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการสำหรับประติมากรและจิตรกร
คัลลาร์มอล์
อาณาจักรแห่งอัศวิน หลังจากที่มันถูกครอบครอง ดอกไม้แห่งศิลปะก็เริ่มเบ่งบานขึ้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดได้ยินข่าวเกี่ยวกับสงครามในขณะที่เขายังคงเป็นรูปปั้นในจัตุรัส
บรรดาพ่อค้าที่เดินตามถนนและข่าวลือที่แพร่กระจายมีแต่เรื่องราวเฉพาะเกี่ยวข้องกับสงคราม
"ผู้เล่นในอาณาจักรลาซาลดิ้นรนเพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่พวกเขาจะตาย ข้าได้ยินมาว่าปราสาทเจ็ดแห่งถูกยึดภายในหนึ่งวัน
"
"หวา นี่น่ากลัวจริงๆ ทำไมพวกเขาเดินทัพได้เร็วขนาดนั้น ? "
"ข้าได้ยินมาว่ากองทัพแบ่งออกเป็นสามทัพ และบุกดั่งคลื่นโหมกระหน่ำ แต่ละทัพมีกองกำลัง
150,000 หน่วย ... ข้าไม่สามารถจินตนาการได้เลย "
พ่อค้าในจัตุรัสเป็นกังวล
สงครามบนทวีปกลางมีอิทธิพลต่อพวกเขา
จะมีผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลและราคาของสิ่งต่างๆเช่นธัญพืชและเหล็กกล้าก็จะไม่เสถียรเนื่องจากเงินเฟ้อจำนวนมหาศาล
วีดภาวนาในขณะที่เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับชัยชนะของกิลด์เฮอมิสอย่างต่อเนื่อง
‘ตาย ตายซะให้หมด '
เขามีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับกิลด์เฮอมิส
ดังนั้นมันจะเป็นปัญหาถ้าพวกมันเติบโตขึ้น
นักผจญภัยวิ่งมาและพูดขึ้นว่า
"ช่วงเวลานี้มันช่างยากลำบาก แต่กิลด์เฮอร์มีสยึดป้อมซัวคุนได้แล้ว!"
แต่วีดไม่ได้ผิดหวัง
กิลด์เฮอมิสมีขนาดใหญ่ แต่ก็มีตัวแปรมากมายในสงคราม
‘ แพ้ แพ้ จงแพ้ซะ ’
พ่อค้าที่ทำธุรกิจอยู่รอบ
ๆ รูปปั้นยังคงคุยกันให้แซ่ด
"ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเพิ่งยึดทุ่งราบแอลลาบาส อัตราการรุกคืบเร็วมาก
"
ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้
และเขายังถูกบังคับให้ฟังข่าวเกี่ยวกับชัยชนะของกิลด์เฮอมิส บางครั้งเขาก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับกิลด์นักพเนจร
หรือพวกนักรบรับจ้างดาบทมิฬ
พวกเขาเริ่มออกจากอาณาจักรของตัวเอง
และเริ่มทำสงครามรุกรานไปยังอาณาจักรอื่น ๆ การรุกรานของกิลด์เฮอมิสต่ออาณาจักรลาซาลแพร่สะพัดไปทั่วทวีปอย่างรวดเร็ว
เมื่อสมาพันธ์มหาอำนาจถูกทำลาย
บรรดาสมาชิกต่างกระโจนเข้าสู่สงครามโดยไม่สนใจสิ่งใด
"ตอนนี้มันคงเป็นช่วงเวลาแห่งสงครามจริงๆสินะ"
"ชีวิตของพวกเราจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นในทวีปกลาง"
"การต่อสู้ครั้งนี้อาจเป็นการกำเนิดของจักรวรรดิ จากนั้นพวกเราจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของพวกมันในอนาคต
"
ข่าวสงครามทำให้ผู้คนลดความสนใจภารกิจระดับปรมาจารย์ลง
จำนวนคนในจัตุรัส และทางสถานีโทรทัศน์ ต่างพากันพูดคุยเกี่ยวกับภารกิจเหล่านั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ภารกิจระดับปรมาจารย์เป็นการแข่งขันที่รุนแรง
แต่นักผจญภัยเชส ,
นักรบไพทัน, ชาวสวนมิเรตัส และ วีด กลับไม่ก้าวหน้าเร็วนัก
พวกเขาต้องไปยังสถานที่ห่างไกล, เอาชนะความชั่วร้ายในตำนาน หรือหาสิ่งที่เป็นตำนาน
ภารกิจปรมาจารย์ในแต่ละสายอาชีพมักเป็นการเปิดเผยประวัติซ่อนเร้นของทวีปเวอร์เซลล์
ภารกิจช่างยากลำบาก อัตราความคืบหน้าช้าลง และความรู้ที่พวกเขาได้รับมาไม่ได้แสดงใหเห็นในรายการที่ออกอากาศ
ถ้าเป็นคนแรกที่ทำภารกิจปรมาจารย์สำเร็จ
พวกเขาจะได้รับเกียรติและได้รับการยกย่องว่าโดดเด่นที่สุดในสายอาชีพของพวกเขาในทวีป
แต่ทวีปเวอร์เซลล์กำลังจมดิ่งเข้าสู่สภาวะสงครามอีกครั้ง
และวิหารเอ็มบินยูก็แพร่กระจายลุกลามดุจไฟป่า ดังนั้นพวกผู้เล่นต่างหันมาสนใจสถานการณ์ของสงคราม
“ท่านวีดเป็นผู้เดียวที่เราสามารถไว้วางใจได้.”
“ใช่ เทพสงครามจะปกป้องพวกเรา.”
“ท่านวีดจะต้องสังหารบาร์ดเรย์.”
ผู้คนมากมายกำลังค้นหาวีด
แต่ความจริงเขาเป็นรูปปั้นที่ปกคลุมด้วยฝนและฝุ่น สภาพอากาศที่ย่ำแย่ตลอดจนความชื้นยามกลางคืน
เหลืออีกเพียง
2 วันจนกว่าภารกิจของเขาจะเสร็จสมบูรณ์ ช่วงระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน แต่ช่างน่าเบื่อดังนั้นเขาจึงอยากออกล่า
'สภาพอากาศเช่นนี้คงสร้างความรำคาญกับเจ้าเหลือง ... '
วีดใช้เวลาอีก
2 วันในการเป็นรูปปั้นก่อนที่จะจบภารกิจอย่างสมบูรณ์แบบ
ตริ้งงงง!
-
ดวงตาแห่งประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ท่านรับรู้การกลายเป็นประติมากรรมได้ในช่วงเวลาที่กำหนดจนสำเร็จ
- ความชำนาญการแกะสลักดีขึ้น
- ได้รับค่าชื่อเสียง 2,002 จากการกลายเป็นประติมากรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงเมือง
- ความเพียรของคุณเพิ่มขึ้น 39 สำหรับการใช้เวลาในการเป็นประติมากรรม
- ความอดทนเพิ่มขึ้น 17
- โชคเพิ่มขึ้น 21
- จากประสบการณ์ใหม่ทำให้ค่าสถานะทางศิลป์ของคุณเพิ่มขึ้น 51
- คุณค่าทางวัฒนธรรมของราชอาณาจักรอาเพ่นได้เพิ่มขึ้น
- ความชำนาญทักษะแกะสลักเพิ่มขึ้น 0.9%
|
วีดตระหนักได้ถึงบางสิ่งเมื่อตอนทำภารกิจ
เขาไม่รู้จุดมุ่งหมายของภารกิจแต่ตอนนี้เขาสามารถเข้ารับรู้ได้ถึงจิตใจของประติมากรรมขึ้นมานิดหน่อย
"มันน่าเบื่อ"
นั่นคือทุกอย่าง!
ประติมากรรมคือสิ่งที่ดีจากมุมมองของผู้คนที่เดินผ่านไปและเห็นมัน แต่สำหรับประติมากรรมมันช่างน่าเบื่อ
"มันไม่ยากที่จะขาย"
รูปปั้นของเขาเป็นที่นิยมมากที่สุด
ปรัชญาของวีดในชีวิตคือความพยายามและการซื้อของแม้ราคาจะต่างกันเพียง 200 วอน
- ภารกิจดวงตาแห่งประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากการเป็นประติมากร
ท่านเป็นคนแรกที่ค้นพบรัทเซเบิร์กซึ่งเป็นเมืองแรกในทวีปนี้
ข้อสงสัยของเหล่าเอลฟ์ได้รับคำตอบแล้ว
พวกออค์จะได้รับการสอนการแกะสลัก
บรรดาคนแคระนั้นได้จดจำทักษะการแกะสลักของท่านไว้แล้ว
การแกะสลักของจักรพรรดิอาร์เพนกำลังขจรขจายสู่โลกอีกครั้ง
เผ่าพันธุ์เอลลิออนถูกค้นพบ
เผ่าพันธุ์อาร์นินได้รับการช่วยเหลือแล้ว
ท่านได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในขณะที่เดินไปตามเส้นทางแห่งปรมาจารย์ประติมากรรม
ศิลปินและประติมากรของทวีปจะมองหาคุณ
ตอนนี้เป็นไปได้ที่จะก้าวไปสู่ขั้นต่อไปของภารกิจระดับปรมาจารย์ กรุณาพบ
กับพวกเอลลิออน
และฟังเรื่องราวของพวกเขา
|
- ผลของทักษะประติมากรรมจำแลงได้สิ้นสุดลง
|
ร่างกายที่แข็งอยู่ของเขากลับมาเป็นปกติ
ในแววตาของวีดสั่นเหมือนดูหนังภาพยนตร์ที่น่าเศร้า แต่น้ำตากลับไม่ไหลออกมา!
เขาเดินตามเส้นทางของภารกิจปรมาจารย์แกะสลักมาเป็นเวลานาน
"ตอนนี้มันคงใกล้จบแล้ว"
เขาจำได้ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อได้เรียนรู้การแกะสลัก
"ข้าคิดว่าชีวิตของข้าถูกทำลายลงไปแล้ว ... แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ข้าก็ไม่ยอมละทิ้งศิลปะ
ในตอนแรกเริ่ม
เขาจำใจขายประติมากรรมออกไปแค่ 2 เหรียญเงิน เขาทำประติมากรรมแม้ในขณะที่ออกล่า
และการทำภารกิจ
'คิดไปแล้ว ฉันก็สนุกมากเลย'
นอกจากนี้เขายังได้สร้างปิงหลงหลังจากเดินทางไปยังแดนเหนืออันหนาวเหน็บและต่อสู้กับแวมไพร์
'ฉันได้รับความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับศิลปะท่ามกลางพายุน้ำแข็ง ศิลปะนั้นไม่แตกต่างจากธรรมชาติ’
เขาสามารถทำประติมากรรมโดยใช้ทุกอย่างในธรรมชาติ
พีระมิดและสฟิงค์ที่ถูกทำลายจากวิหารเอ็มบินยูยงคงเก็บไว้เหลืออยู่เพียงแค่ความทรงจำ
เขาใช้ความแข็งแกร่งของการแกะสลัก
เพื่อต่อสู้กับกองทัพอมตะ
แม้แต่ไวเวิร์นที่เขาได้มอบชีวิต
ก็ยังคงถูกใช้สอยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
วีดประสบความสำเร็จในการผจญภัยของเขาด้วยการแกะสลัก
ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะแยกจากพวกมันได้ การพัฒนาของโมราต้าเกิดจากการแกะสลัก การสร้างอาวุธ, การเย็บปัก,การตกปลา, การทำเหมืองแร่,
การเดินเรือเป็นทักษะทั้งหมดที่ได้เรียนรู้ด้วยการช่วยจากการแกะสลัก
นี่คือเส้นทางอันเจ็บปวดของประติมากร
ความทรงจำที่สำคัญนั้นได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาคิดถึงเกี่ยวกับมัน
'มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันได้เข้าใจการแกะสลัก ฉันต้องเข้าใจการตีเหล็กด้วย '
แน่นอนว่าเขาจะสามารถใช้ทักษะดาบของเขาได้อย่างชำนาญเมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์
เป้าหมายของวีดคือเป็นปรมาจารย์ในทุกทักษะของเขาทั้งหมด!
อย่างไรก็ตามตอนนี้ความสำคัญอันดับหนึ่งของเขาตอนนี้ก็คือการหนีออกจากใจกลางจัตุรัส
เขาใช้เวลา 1 เดือนในการเป็นรูปปั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจสำหรับเขาที่จะเคลื่อนไหวทันที
ยังมีผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่รอบน้ำพุ ฉะนั้นวีดจึงรักษาท่าทางของเขาไว้ดั่งเป็นประติมากรรม
เขาถือดาบปีศาจ และมีดแกะสลัก ขณะจ้องมองที่ท้องฟ้า แม้กระทั่งกระพริบตา
เขายังไม่ทำเลย เมื่อมีคนจ้องมองมาที่เขา
'เฮ่ออ ... .. ' มันยากที่จะพยายามอยู่นิ่งๆ ในเมื่อฉันสามารถขยับได้
'
ไม่มีงานเทศกาลเกิดขึ้นที่ใจกลางจัตุรัสของโมราต้า
แต่มันกลับเต็มไปด้วยผู้คน
'โอกาสจะต้องมาถึง'
ยามเย็นกำลังใกล้เข้ามา
วีดจึงยังคงรักษาท่าทางของเขา และหลังจากที่มืดสนิทแล้ว เขาก็เห็นรถม้าที่กำลังแล่นเข้ามาตรงพื้นที่ของเขา
วีดเคลื่อนตัวในช่วงเวลาที่รถม้าผ่าน เขารีบสวมเสื้อคลุมและใช้ทักษะการวิ่งสี่ขาวิ่งออกจากตำแหน่งที่เขาเคยอยู่
“เอ๋? ประติมากรรมของท่านวีดหายไปแล้ว
? มันอยู่ที่นี่เมื่อกี้นี้เองนะ "
"มันอยู่ไหน?"
"ข้าไม่รู้ จู่ๆมันก็หายไป "
"ไม่มีอะไรแบบนี้หรอก มันคงไม่ใช่ว่ารูปปั้นมันขยับเองได้หรอกมั้ง. "
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดได้กลับไปพบกับพวกเอลลิออนที่กำลังทำงานอยู่ในเหมืองแร่
"โปรดบอกข้า ว่าข้าควรทำสิ่งใดต่อ"
จากการที่ไม่ค่อยได้อะไรมากจากการเดินทางอันยาวนาน
ดังนั้นจิตใจของเขาหวั่นไหวเล็กน้อย เอลลิออนวางพลั่วของพวกมันลงและรับเอาเนื้อวัวที่วีดยื่นให้พวกมัน
-
ถ้ามันคือท่านแล้ว พวกเราสามารถเชื่อถือได้ นี่คือเรื่องราวที่ข้ายังมิได้บอกท่าน
ในอดีตมนุษย์เริ่มเข้าสู่สงครามหลังจากที่จักรวรรดิอาร์เพนล่มสลาย ประติมากรรมสลักชีพดั่งเช่นพวกเรานั้นระหกระเหินกระจัดกระจายอยู่ทั่วทวีปและอาศัยตามที่ต่างๆ
วีดพยักหน้า
"มันดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น เจ้าต้องการให้ข้ารวบรวมตามหาเผ่าพันธุ์อื่นเช่นนั้นรึ
"
เป้าหมายของเขาคือการไขว่คว้าประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆ
และใช้พวกมันทำงาน !
-
ไม่ ไม่เชิงซะทีเดียว
พวกเราเคยมีสหายผู้ซึ่งตายจากไปแล้วพร้อมกับเหล่ามนุษย์ และคอยปกป้องพวกเราในทวีปนี้
"ผู้ใดกัน ?"
ㅡวีรบุรุษบาฮาม๊อคแห่งอาณาจักรอาเพ่น เขาถือกำเนิดมาพร้อมกับพวกเรา
ตอนนี้ภาพวิดีโอที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าวีด
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
หลังจากที่จักรวรรดิอาร์เพนล่มสลาย
พวกมนุษย์ก็เริ่มทำสงครามกันเอง
ในระหว่างช่วงยุคสงครามครั้งนั้น
อาณาจักรบิทเท่น,คัลลาร์มอล์, ทัลเลน,มาเซน,
กราเดียน,นอร์ตั้น,เมพอน
และบรอมบา ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นมา
พลังของเผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและพวกมอนสเตอร์ก็กลับมารุกรานอีกครั้ง
ประติมากรรมสลักชีพของจักรพรรดิอาร์เพนต่างถูกจับไปเป็นนักโทษ หรือค้นหาถิ่นฐานที่อยู่ใหม่
บาฮามอค
ยามเมื่อจักรวรรดิอาร์เพนเป็นหนึ่งเดียวในทวีป
เขาเป็นวีรบุรุษผู้ที่นำประติมากรรมสลักชีพ
“ฮี้ ฮ่าห์!”
เขาตะโกนลั่นขณะที่เขาต่อสู้กับศัตรูและพวกมอนสเตอร์
เขาเป็นวีรบุรุษผู้โลดแล่นอย่างเข้มแข็งในสถานที่ที่มีเวทมนตร์กำลังถูกระดมยิงอย่างดุเดือด
ไม่มีอาวุธชิ้นไหนที่เขาไม่สามารถใช้ได้และเขาก็จัดการสยบพวกมอนสเตอร์ขนาดใหญ่และเหล่าจอมเวทย์
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
‘เขาแข็งแกร่งมาก.’
วีดคิดขณะที่กำลังดูวิดีโอ
โดยดูได้จากการต่อสู้ของเขา เขาแข็งแกร่งกว่าเจ้าวิหคทองคำมาก เขาอาจจะเทียบเท่าได้กับคนที่เสียบดาบปักบัลข่าน! ในฐานะผู้พิทักษ์แห่งจักรวรรดิ เขาถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มของมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด
'มันคงจะดี ถ้าฉันสามารถใช้งานเขาได้'
ขณะที่พวกเอลลิออนและอาร์นินเป็นพวกคนงานที่หมั่นเพียร
บาฮามอคเป็นวีรบุรุษที่เกิดมาเพื่อทำสงคราม
"แล้วเกิดอะไรขึ้น?"
-
เขาต่อสู้เพื่อการตั้งถิ่นฐานของเหล่าสหายคนอื่นๆ ถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้นแล้วมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะอยู่รอดได้โดยง่าย
เขาไม่เคยหยุดพักและย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อต่อสู้เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนของเรา
วีดยังคงชอบในจุดนี้
มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอีกจำนวนมาก แต่ถ้าทำให้พวกมันซื่อสัตย์ได้แล้วเขาก็จะทำให้พวกมันทำงานออกมาได้ดีจริงๆ
วีดจะอาศัยประโยชน์จากสิ่งที่พวกมันต้องการจนทำให้เขาใช้พวกมันทำงาน
-
แต่เมื่อพวกเราเห็นเขาครั้งสุดท้ายนั้น บาฮาม๊อคเต็มไปด้วยบาดแผลและพิษร้ายนั่นอาจจะทำให้เขาตายได้ทุกเมื่อ
“โอ้!”
วีดคิดว่ามันช่างไร้ค่า
ประติมากรรมสลักชีพที่ยอดเยี่ยมสมควรให้เขาสามารถใช้งานไปจนตาย
- วีรบุรุษบาฮาม๊อค
บาฮาม๊อคผู้ซึ่งแสวงหาความแข็งแกร่งมาตลอดชีวิต!
ประติมากรรมสลักชีพที่เกอิฮา
วอน อาร์เพน จักรพรรดิอาร์เพนสร้างจากความอิจฉาหลังเห็นความแข็งแกร่งของเผ่าคนเถื่อน( Barbarians)
เขาคือนักรบที่โด่งดังผู้ที่ยืนอยู่แนวหน้าของการต่อสู้ทุกครั้ง
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิอาร์เพน ชื่อเสียงของบาฮาม๊อคกลับเลือนหายไป
พวกเอลลิออนต้องการรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาสุดท้ายของเขา
นี่เป็นการผจญภัยครั้งสุดท้ายในภารกิจระดับปรมาจารย์
ถ้าท่านบรรลุภารกิจนี้จะทำให้ก้าวไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายกลายเป็นปรมาจารย์สายอาชีพ
ระดับความยาก:
ภารกิจปรมาจารย์แกะสลัก
ข้อจำกัดของภารกิจ
:
ทักษะการแกะสลักขั้นสูงเลเวล 8
ทักษะประติมากรรมประทานชีพเป็นสิ่งจำเป็น
|
-
ข้าเสียใจกับบาฮาม๊อค ท่านสามารถหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาได้หรือไม่?
เขาอาจจะกลับไปที่เมืองหลวงของ จักรวรรดิอาร์เพน มันช่างยาวนานเหลือเกินนับตั้งแต่ที่เขาจากไป
แต่มันยังคงมีข่าวดีอยู่บ้าง
"ในที่สุดก็ถึงจุดสิ้นสุดของการผจญภัยอันยาวนาน"
ตามที่คาดไว้คำขอครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
มันเหมือนกับการโยนเหรียญ 100 วอนทิ้งและพยายามที่จะหามันอีกครั้งใน 1 ปีต่อมา
หรือเมื่อหมูย่างที่เขาซื้อมากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แต่เขาไม่ต้องการที่จะยอมแพ้
วีดเป็นคนประเภทที่จะฝ่าออกไปถ้าเขาถูกต้อนจนมุม!
"เมืองหลวงของจักรวรรดิอาร์เพน ... ข้าจะตามหามัน"
แอนทาโรซาอันยิ่งใหญ่!
โบราณสถานที่ครั้งหนึ่งเป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิอาร์เพน
และสิ่งปลูกสร้างประจำเมือง
พวกมอนสเตอร์มีอยู่เกลื่อน
ณ สถานที่แห่งนั้นยามกลางคืน แต่เศษซากปรักหักพังทุกแห่งจึงทำให้มันอันตรายมากขึ้น
ไม่มีที่กำบังจากกำแพงและไม่มีผู้คุ้มกันอยู่ที่นั่น!
ในช่วงวันแรก
ๆ ของรอยัลโร้ดมีนักผจญภัยหลายคนออกผจญภัยไปที่นั่น มีการค้นพบไอเท็มเวทมนตร์จำนวนมาก
และมีหนังสือประวัติศาสตร์ถูกค้นพบ
ความรู้จำนวนมาก
และสมบัติในทวีปเวอร์เซลล์ล้วนนำออกมาจากแอนทาโรซาซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงของ จักรวรรดิอารเพนและมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ทุกรูปแบบ
โบราณวัตถุและสมบัติล้ำค่าในอดีตยังคงถูกค้นพบจนถึงตอนนี้
จึงมีนักผจญภัยจำนวนมากที่มุ่งเป้าไปที่การหาค้นหารางวัลใหญ่จากสมบัติเหล่านั้น
"ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้"
- ท่านได้ตอบรับภารกิจแล้ว
|
ㅡข้าจะรอข่าวดี บาฮาม๊อคเป็นวีรบุรุษที่ปกป้องพวกเรา
"ข้าจะทำให้คำขอของพวกเจ้าเสร็จสิ้นโดยไม่ย่อท้อ
เขาต้องมีชีวิตอยู่ ... "
จบตอน
ผู้แปล
:
Smith Rex
Editor
: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ ใกล้จะมันละ
ตอบลบทาสผู้ที่อนาคตจะต้องถูกใช้แรงงานอย่างบ้าคลั่ง "บาฮาม็อค"
ตอบลบต้องอยู่เพื่อถูกใช้งาน ถึงใกล้ตาย วีดก็ทำให้ฟื้นได้
ตอบลบRIP. บาฮาม็อคล่วงหน้า
ตอบลบปล.ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ตอบลบอ้อ นี่เอง ทาษใหม่ ที่ทำให้ สองคู่หูโดนทิ้ง
ตอบลบวีดจะได้สร้างกองทัพแล้วซินะ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ