เล่ม 30 ตอนที่ 6: รูปสลักหินในจัตุรัส แปลโดย Cole’s Myth
เมื่อกลับมาเชื่อมต่อเกมอีกครั้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนไป
จัตุรัสกลางที่อยู่ใกล้จัตุรัสปิงหลงและจัตุรัสแสงซึ่งคับคั่งไปด้วยผู้คนมากที่สุดในทุกๆจัตุรัส
‘เฮือกกก! ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะเนี่ย....?’
วีดรู้สึกสับสน
ทว่าผู้คนก็ยังทำงานของพวกเขาเหมือนปกติ เหล่าผู้เล่นใหม่พากันมาตักน้ำด้วยถังแล้วมองไปที่ประติมากรรมตอนที่พวกเขาเดินผ่าน
“ประติมากรรมนี่หรอที่ถูกพบนะ?”
“ใช่ๆ เหมือนจริงมากเลยเนาะ”
“อยากลองสัมผัสดูจัง....”
หญิงสาวสองคนกำลังจ้องมองดูประติมากรรมอยู่ใกล้ๆ
“แต่ไม่ค่อยสูงเท่าไหรเลยเนาะ”
“หน้าตาก็ดูธรรมดาด้วย”
หญิงสาวทั้งสองเดินจากไปแล้วจากนั้นก็มีผู้เล่นที่สวมใส่เสื้อผ้าพื้นฐานเดินเข้ามา
“ท่านวีด
ข้าตามรอยท่านวีดและใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทะเยอทะยาน ได้โปรดช่วยดูแลข้าด้วยเถอะ”
เหล่าพ่อค้าที่เสร็จกิจธุรการค้าแล้วก็เก็บพับแผงตั้งขายของแล้วก็พูดคุยกับคนอื่น
“ขอบคุณท่านมากที่ช่วยพัฒนาเมืองโมราต้า
ข้าสนุกมากจริงๆที่ได้อยู่ที่นี่”
เพราะวีดเป็นรูปสลักเขาจึงทำขยับไม่ได้เลยทำได้เพียงแค่ยืนอยู่นิ่งๆ
เหล่าพ่อค้ายืนอยู่ข้างๆแท่นบูชาและจ้องไปที่ประติมากรรมด้วยสีหน้าจริงจัง
เหล่านักรบและนักผจญภัยที่ออกล่าเป็นปาร์ตี้เองก็ใกล้เข้ามาเช่นกัน
ภายในเมืองโมราต้าเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะเข้ามาชื่นชมผลงานศิลป์ก่อนจจะออกไปจากตัวเมือง
หากพวกเขาไม่ได้ชมรูปสลักหรือว่ารูปวาดก่อนไปออกล่าพวกเขาก็จะโดนด่าโดนประจาน
“นี่คือครั้งแรกที่ฉันเข้ามาเยือนที่นี่
ฉันออกไปล่าในที่ไกลๆแล้วก็ตาย แต่ก็สนุกดีนะ”
พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าประติมากรรมที่ยืนแข็งเป็นหินอยู่นี่คือ
วีดตัวจริง
จากนั้นก็มีคนแคระตนหนึ่งเดินเข้ามาเช่นกัน
.”ฮ่า! ข้าเดินทางไปทั่วทวีป
โมราต้านี่แหละคือสถานที่แห่งแรกที่มีเบียร์รสชาติดีๆ ข้าซาบซึ้งใจจริงๆที่สถานที่ที่มีชีวิตชีวาแบบนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมา”
คุณลุงกับคุณป้าสองคนที่กำลังคล้องแขนกันอยู่ก็เดินเข้ามาดูประติมากรรมเช่นกัน
“ข้ามาจากลัทธิโจ๊กหญ้า”
“สรรเสริญ องค์กษัตริย์วีด!”
ผู้เล่นบางคนที่ชื่นชอบวีดก็ไม่ได้มาที่นี่มือเปล่า
พวกเขาวางดอกไม้ป่าและหญ้าป่าที่ได้มาจากการออกล่าเอาไว้ใต้รูปสลัก
แม้แต่คนที่หยุดเชื่อมต่อก็มาที่รูปสลักทันทีที่พวกเขาเข้ามาอีกครั้ง พวกเขาชื่นชมในประติมากรรมและพูดถึงการพัฒนาของราชอาณาจักรอาเพน
“ดีจริงๆที่ได้เป็นชาวเมืองของราชอาณาจักรอาเพน”
“ใช่
ก็อย่างที่บอกคิดถูกแล้วที่เข้ามาในอาณาจักรนี้
ไม่มีที่ไหนในทวีปเหมือนกับที่นี่อีกแล้ว”
เหล่าผู้เล่นใหม่ที่เริ่มเล่นโรยัลโร้ดมีให้เห็นวิ่งไปมาแถวๆจัตุรัสอยู่มากมาย
ไม่มีทางเลยที่เขาจะเบื่อเมื่อได้เห็นผู้คนใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
ผู้คนที่กำลังออกตามหาปาร์ตี้ออกล่าหรือว่าออกไปค้าเองก็ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วจัตุรัสกลาง
เหล่าจินตกวีบรรเลงเพลงตามทั้งถนนพร้อมด้วยเครื่องดนตรีของพวกเขา
จิตใจของวีดก็พลอยสงบไปด้วยเมื่อได้ยินเสียงบรรเลงเพลง
‘พวกชาวเมืองคงกำลังมีความสุข...ธุรกิจการค้าขายขนาดตอนกลางคืนยังทำกัน
พวกพ่อค้าคงได้เงินเป็นกอบเป็นกำ’
ในฐานะ กษัตริย์
เขารู้สึกมีความสุขมาก
‘เหมาะเอาไว้ขูดรีดภาษีดีจริงๆ’
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ณ การประชุมลับของลัทธิโจ๊กหญ้า
“การซ่อมบำรุงสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายภายในหมู่บ้านอีควิน็อกนั้นสำคัญต่อธุรกิจมาก”
“มีคำขอร้องมอบให้กับสถานปนิกมองเบิร์ทครับ
การขยับขยายสิ่งก่อสร้างทางพาณิชย์จะช่วยเพิ่มขนาดของตลาดการค้าในช่วงสั้นๆได้”
“แล้วทางหมู่บ้านยูเซลลินหล่ะ
ไม่มีอะไรพิเศษในตอนนี้หรอ แต่ช่วงนี้ก็เติบโตขึ้นมากเลยนิ
คงเป็นเพราะมีดันเจี้ยนแถวๆนั้นนั่นแหละ”
“เราควรจะจัดระเบียบพวกนักผจญภัยไหมครับ
จะได้ทำให้หมู่บ้านที่บุกเบิกใหม่มีอะไรขึ้นมาหน่อย?”
“คุณล็อค
ผมได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณยุ่งอยู่กับภารกิจจนไม่ได้ทำงานเลยนิครับ
ต้องขอโทษด้วยละกันที่ข้าขอให้ท่านทำแบบนั้น”
“เนื่องจากมีจำนวนคนอพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แถบหมู่บ้านก็เลยเติบโตและขยับขยายมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน”
“ไซต์ก่อสร้างสำหรับงานก่อสร้างกระท่อมบนเนินเขาได้จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้วหล่ะ”
เหล่าสาวกลัทธิโจ๊กหญ้าต่างรู้สึกภูมิใจในยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองนี้มาก
แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถคาดเดาขนาดของลัทธินี้ได้แล้ว
เพราะว่ามันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่บรรดาผู้เล่นใหม่ที่พึ่งเริ่มเล่นภายในราชอาณาจักรอาเพนจะเข้าร่วมกับลัทธิโจ๊กหญ้า
บรรดาสาวกโจ๊กหญ้าทั้งหลายต่างรู้สึกชื่นชมอย่างสุดซึ้งทุกครั้งที่วีดบริหารบ้านเมืองได้อย่างชาญฉลาด
“สิ่งก่อสร้างทั้งหลายในเมืองล้วนสำเร็จได้ด้วยกำลังของพวกเรา
ไปใช้มันอย่างที่ใจอยากกันเถอะ”
“ส่วนข้าคิดว่ามีแค่ท่านวีดคนเดียวเท่านั้นที่สร้างมันขึ้นมา”
เหล่าลอร์ดท่านอื่นๆเองก็ถูกเปรียบเทียบกับวีดด้วยเช่นกัน
“ลอร์ดของหมู่บ้านโบรอนพึ่งพังปราสาทหลังเก่าแล้วก็สร้างขึ้นใหม่ด้วย”
“สิ้นคิดชะมัด ไม่เหมือนท่านวีด
เขาเหมือนกับยักษ์ เหมือนกับดาวทมิฬ คริๆๆ”
“ถ้าเงินนั่นใช้ด้วยน้ำมือของท่านวีด
เขาคงจะสร้างเพิ่มอีกหลังแน่ๆ”
“นายได้ข่าวไหมว่าหมู่บ้านไดอันพึ่งเพิ่มภาษีขึ้นอีกตั้ง
2%?”
“นี่กะจะเพิ่มกันไปเรื่อยๆเลยรึไงกันเนี่ย?”
“แย่ชะมัดเลย!”
ต้นตอแห่งความภักดีของเหล่าสมาชิกลัทธิทั้งหลายเริ่มมาจากบทสทนาและคำพูดจากคนพวกนี้นี่เอง
วีดได้รับความเคารพอย่างมากจากเหล่าสาวกลัทธิโจ๊กหญ้า
ขณะที่ผู้คนมากมายกำลังเผชิญหน้ากับสงคราม
การทำลายล้าง และภาษีสูบเลือด เมืองโมราต้ากลายเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ผู้คนสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสงบสุขภายในทวีปเวอร์เซล
กษัตริย์ผู้วิเศษ นามว่า วีด ได้นำแสงสว่างมาให้กับโลกใบนี้แล้ว!
“ยังมีอะไรอีกตั้งเยอะแยะที่อร่อยกว่าโจ๊กหญ้านะ
พวกเราไม่ใช่วัวควายนะเอาแต่กินโจ๊กหญ้าแบบนี้เราอยู่ไม่ได้หรอก
ตอนนี้เลเวลของฉันมากพอที่จะไปหากินซุปถั่วหรือว่าสเต๊กได้แล้วด้วย
ฉันนี่มันโง่จริงๆเลย”
มันคือคำสารภาพของผู้เล่นใหม่คนหนึ่งที่เริ่มเล่นในเมืองโมราต้า
“ช่วงนี้ฉันลืมไปเลย
เหตุผลที่ทำไมท่านวีดถึงได้มอบโจ๊กหญ้าให้กับพวกเรา!”
“โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!”
“จิตวิญญาณของโจ๊กหญ้าได้สร้างสัญลักษณ์ของอิสรภาพที่ได้ช่วยค้ำจุนพวกเรามาจนถึงทุกวันนี้
ถึงแม้ว่าเราจะมีซุปเนื้อร้อนๆ
เราก็ไม่อาจลืมรสชาติของโจ๊กหญ้าที่ขมและเหนียวแบบนี้ได้”
“ไชโย ลัทธิโจ๊กหญ้า!”
โจ๊กหญ้าอาจจะเป็นเพียงแค่อาหารมื้อหนึ่งสำหรับเหล่าผู้เล่นใหม่
แต่มันก็เป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพด้วยเช่นกัน
“พวกเราก็เหมือนกับต้นหญ้าที่เติบโตขึ้นมาจากดิน
หนึ่งต้นดึงออกได้อย่างง่ายได้
แต่ถ้าหากเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวเราก็สามารถเอาชนะอะไรก็ได้ จงติดตามท่านวีดต่อไป!”
“โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!”
“มันไม่ใช่แค่หญ้าธรรมดานะ
มันคือการร่วมแรงร่วมใจของพวกเราจนเติบโตมาได้!”
“โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!”
เหล่าสาวกลัทธิโจ๊กหญ้าแห่งเมืองโมราต้าได้กระจายตัวจนไปทั่วดินแดนเหนือแล้ว
-คุณวีดครับ
เรายังต้องใช้ช่างฝีมืออีกเยอะเลยนะครับ
-ไม่จำเป็นต้องใช้หรอก
ถ้าผมยังต้องกินโจ๊กหญ้าอยู่แบบนี้นะ (*กูยังจนอยู่)
นี่ช่างเป็นสถานการณ์นี่ไร้เหตุไร้ผลเมื่อมองว่าเมแพนได้มามีส่วนร่วมในการก่อตั้งเมือง
หลังจากที่ราชอาณาจักรอาเพนถูกสถาปนาขึ้น
สาวกลัทธิโจ๊กหญ้าก็ทำงานอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
เมืองโมราต้ามีผู้คนไหลทะลักเข้ามาภายในดินแดนที่มีเนื้อที่จำกัดมากๆแบบนี้
ทว่าเมืองก็มั่นคงเป็นปึกแผ่นมากขึ้นเทียบเท่าราชอาณาจักรแห่งหนึ่งด้วยซ้ำ
“เมืองควรจะพัฒนาได้เร็วมากกว่านี้
พวกเราไม่ควรรอเวลาเพื่อที่จะเรียกร้องความสนใจจากท่านวีดนะ”
“คนตั้งเยอะตั้งแยะก็พากันตั้งใจทำงานอยู่
แต่ว่าเรายังต้องการใครบางคนเพื่อที่จะมาจัดการถนนหนทางและหมู่บ้าน
ท่านวีดเองก็มีงานล้นมือแล้วตั้งแต่ที่ถูกไอ้บาร์ดเรย์ฆ่าตาย”
“นั่นเป็นความผิดของพวกเรา
เราควรไปให้เร็วกว่านั้น!”
เหล่าสาวกเริ่มพากันออกไปเคลียร์เหมืองแร่
สิ่งก่อสร้างต่างๆ ออกล่าและออกผจญภัยในอาณาเขตของราชอาณาจักรอาเพน
“หน่วยโจ๊กหน่อไม้วันนี้เราไปออกล่าใกล้ๆแม่น้ำรูเบนกันเถอะ
พวกเราต้องกอบกู้ความสงบสุขกลับคืนมาให้ได้ ไปเรียกคนในหน่วยมาด้วยหล่ะ”
“หน่วยโจ๊กหน่อไม้ รวมพล!”
“หน่วยโจ๊กเห็ด
พวกนายกำลังจะทำอะไร? พวกมอนสเตอร์กำลังบุกปราสาทสแตนอยู่นะเว้ย!
ไปที่นั่นได้แล้ว!”
“โฮ่วววววว
จัดการเก็บไอเท็มมาให้หมด!”
ในอดีตมันคือการรวมตัวกันของเหล่าผู้เล่นใหม่
ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไปพวกเขาทั้งหมดก็เลเวลเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
มอนสเตอร์จำนวนมากมายที่มีเลเวลพอๆกับพวกเขาเพ่นพ่านอยู่ที่ราบเต็มไปหมดในขณะที่พวกเขาต่างก็ลงทุนลงแรงไปกับการสร้างสิ่งก่อสร้างทั้งหลายหรือว่าคอยฟื้นฟูความสงบสุขให้ตนเอง
การลงทุนที่แสนกล้าหาญบวกกับเวลานั้นคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับหลายๆหมู่บ้านควรมีเพื่อพัฒนาบ้านเมือง
แล้วราชอาณาจักรอาเพนก็จะแผ่ขยายไปมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนในการพัฒนานั้นสามารถลดลงไปได้ด้วยพลังกายและใจของเหล่าผู้เล่นที่อดทนสั่งสมกันมา
“ท่านลอร์ด
ท่านต้องตอบแทนมหากรุณาอันใหญ่หลวงขององค์กษัตริย์นะ ในฐานะสถาปนิกข้าคืดว่าท่านควรตั้งชื่อจัตุรัสนี้ตามท่านวีด”
“ผลงานศิลปะที่นี่นะหรอ”
“ฉันจะขายของที่นี่ซักวันสองวัน
หรือว่าควรจะเปิดร้านขายของในหมู่บ้านอาร์มังไปเลยดีนะ? ถ้าฉันขายของซักอาทิตย์หนึ่งคงจะเอาไปหักลบต้นทุนได้บ้างแหละมั้ง”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
กิลด์ขนาดเล็กกิลด์หนึ่งย้ายมาจากทวีปตอนกลางเพื่อมาอยู่ราชอาณาจักรอาเพน
พวกเขาอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิโจ๊กหญ้าด้วย
“นี่พวกเราต้องทิ้งตัวตนของเราเพื่อที่จะเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าจริงๆนะหรอ?”
“ท่านหัวหน้ากิลด์
มันจำเป็นนะครับถ้าจะอยู่ในราชอาณาจักรอาเพน”
“มีข้อจำกัดในพื้นที่ออกล่าอะไรไหมหรือว่ามีอะไรที่ข้าควรรู้ไหม?
แต่ว่าข้าก็ไม่เคยได้ยินเลยนะว่าลัทธิโจ๊กหญ้ามีอะไรไว้ครอบครองพิเศษด้วย”
เหล่าผู้เล่นที่อพยพมาจากทวีปตอนกลางต่างก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการโดนเอารัดเอาเปรียบแบบนั้น
พวกเขาตัดสินใจย้ายมาที่นี่ ทว่าถ้าหากว่ามีข้อจำกัดอะไรอีกคงเป็นโชคร้ายของพวกเขาแน่
“ไม่มีอะไรทำนองนั้นหรอก
สมาชิกทั้งหมดของลัทธิโจ๊กหญ้าจะได้ลดราคา 5% จากร้านอาหารทั้งหมดภายในเมือง”
“ร้านอาหารที่เป็นของเจ้าเมืองนะหรอ?”
“ไม่ใช่ๆ
เจ้าของร้านอาหารส่วนมากเป็นสมาชิกลัทธิโจ๊กหญ้า เราถึงได้รับสิทธิพิเศษไง
แล้วยังได้เครื่องเคียงเป็นของแถมด้วยนา แล้วเจ้าก็จะได้ส่วนลด 10% ตอนที่ไปซื้อไอเท็มออกล่าจากพวกพ่อค้า”
“แจ๋วไปเลย”
“เจ้าจะได้รับส่วนลดเมื่อไปเช่าม้าหรือว่ารถลาก
แถมก่อนการแสดงต่างๆภายในเมืองถ้าไปก่อนการแสดงเริ่มก็จะได้ค่าตั๋วครึ่งราคาเท่านั้น”
“แค่นั้นหรอ?”
“แถมยังได้รับส่วนลดเมื่อไปซื้อภาพวาดหรือว่าประติมากรรมด้วยน๊า!
แถมเรายังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผจญภัยและการออกล่าด้วยนะ
และยังรับประกันเครดิตหากอยากจะทำธุรกิจด้วย
ถ้าหากว่ามีภารกิจยากๆเราก็ยินดีที่จะตามไปช่วย”
ลัทธิโจ๊กหญ้ามีสิทธิพิเศษและสวัสดิการต่างๆมากมาย!
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ซอยุนผู้อยู่ภายใต้หน้ากากเดินไปมาแถวๆจัตุรัสปิงหลง
“ขายเสื้อโค้ทขนสัตว์นุ่มๆจ้า ใส่ทับชุดเกราะก็ได้
ราคาเพียงแค่ 390 เหรียญทองเท่านั้น”
“เชิญดูก่อนได้เลยจ้า
ไอเท็มสำคัญที่เอาไว้ออกล่าจ้า สินค้ามือสองก็มีนะจ๊ะ”
“เนื้อปลาตากแห้งสดๆจ้า
รสชาติแปลกใหม่ตอนที่เคี้ยวในปาก เอาไว้เคี้ยวตอนออกไปสู้แถมยังทำให้อิ่มด้วยนะจ๊ะ”
เธอเข้ามาใกล้พ่อค้าคนหนึ่งที่กำลังขายของอยู่
“ขอโทษนะคะ
ฉันไปซื้อเครื่องครัวกับเฟอร์นิเจอร์ได้ที่ไหนหรอค่ะ?”
“เจ้าจะซื้อเอาไปไว้ในกระท่อมหรอจ๊ะ?”
“ใช่ค่ะ”
“มีของหลายอย่างที่ใช้เอาไว้ใช้ในบ้านดินเหนียวขายอยู่แถวนี้นะ
ของที่เอาไว้ตกแต่งกระท่อมขายอยู่ทางจัตุรัสกระทิงนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
พ่อค้าคนนั้นได้ยินเสียงอันแสนอบอุ่นและไพเราะมาก
เป็นเสียงที่ทำให้คนเรารู้เลยว่านั่นออกมาจากคนที่งดงามมากจริงๆ ซอยุนมุ่งหน้าไปทางจัตุรัสกระทิงเพื่อซื้อเครื่องใฃ้ครัวเรือนและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่น่าจะเหมาะกับกระท่อมชองเธอ
การทำประติมากรรมนั้นก็อาจจะถือว่าเป็นงานอีกแบบของพวกประติมากร
ถ้าหากว่าพวกเขาใช้ไม้แปรรูปก็คงจะสามารถแกะสลักโต๊ะ เตียงนอน เก้าอี้ โต๊ะกินข้าว
หรือว่าโต๊ะห้องรับแขกได้ ทว่าหากไม่นับเรื่องการออกแบบ ความคงทนของมันก็เป็นส่วนที่สำคัญ
“พี่คะ นี่มันสิงโตหนิ”
คู่รักมากมายมาที่นี่เพื่อหาซื้อสินค้าต่างๆเพื่อนำไปตกแต่งกระท่อมชองพวกเขา
พวกเขาจะสามารถหาของตกแต่งเพื่อไปใฃ้ประดับห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว
สวนหน้าบ้าน และอื่นๆด้วยราคาที่สมเหตุสมผล หลังจากที่ตกแต่งบ้านชองพวกเขาแล้ว
ก็สามารถเข้าเข้าอยู่ได้เลย แถมออกไปอวดเพื่อนๆได้อีกต่างหาก
มันคือแรงจูงใจที่พวกเขามองข้ามไม่ได้เลยแหละ
ซอยุนได้ของมาหลากหลายมากมาย
ทว่าเธอก็คิดได้ว่ามีบางอย่างขาดไป
“ไอเท็มทีเจ้ากำลังตามหาอยู่…..เจ้านี่ตาแหลมจริงๆ พวกมันราคาแพงนิดหน่อยนะ
ถ้าเจ้าไปที่จัตุรัสกลางละก็จะมีพ่อค้าที่ฃื่อ แอนเดอร์ส เขาจะขายให้กับเจ้า”
ขณะที่กำลังออกตามหาของภายในจัตุรัสกลาง
ซอยุนก็เจอกับประติมากรรมของวีดใกล้ๆกับน้ำพุ
“…….”
เธอรู้ได้ในทันทีว่าประติมากรรมชิ้นนั้นช่างเหมือนกับวีดมากจริงๆ
ซอยุนจ้องมองดูและรอจนกลุ่มคนที่กำลังมองดูประติมากรรมที่อยู่ข้างหน้าผ่านไปก่อนแล้วเธอก็ไปยืนอยู่ข้างหน้าประติมากรรมวีด
ยิ่งเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆมันยิ่งดูเหมือนกับวีดมากจริงๆ
“…….”
แม้ว่าล่วงเลยไปจนค่ำแล้ว
ซอยุนก็หาซื้อของจากจัตุรัสและใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานพอควร
ไม่มีอะไรให้เธอได้ทำนอกจากการออกมาชอปปิ้ง
ภายในจัตุรัสกลางมีทั้งสินค้าเบ็ดเตล็ดและสิ่งที่น่าดึงดูดสายตามากมายที่คุ้มค่าพอที่จะมาดู
แม้จะไม่ได้มีการระบุเวลาเที่ยวแต่สำหรับผับบาร์แล้วก็ถือว่าเป็นเวลาที่จะมีผู้คนคับคั่งภายในตอนช่วงเย็น
และเวลาการออกล่าในตอนช่วงเช้า
ตอนนี้คือเวลาค่ำมันจึงค่อนข้างเงียบสงัด
ทว่าภายในจตุรัสกลางที่เป็นตลาดนั้นเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนในตอนเช้าๆนั้นตลาดค่อนข้างจะเป็นที่นิยมมากเพราะว่ามีอาหารอย่างบาร์บีคิวเนื้อหมีมาตั้งขาย
“นี่ๆ มีการแสดงของไฮเรน
ที่ลานกว้างด้วยหล่ะ”
“เธอมาถึงโมราต้าแล้วหรอ?”
“ไปดูกันเร็วเข้า!”
ผู้คนส่วนใหญ่ไปดูการแสดงของจินตกวีหญิงที่มีชื่อเสียง
ความสนใจของผู้คนในประติมากรรมของวีดลดลงไป
เมื่อตอนที่ประติมากรรมชองวีดตั้งแสดงเป็นครั้งแรก
จัตุรัสกลางเองก็คับคั่งไปด้วยผู้ชมแบบนี้เช่นกัน คลื่นระลอกนี้ส่งผลให้การขายของเหล่าพ่อค้าภายในจตุรัสกลางเพิ่มขึ้นเกือบ
10
เท่า
ซึ่งไม่เหมือนกับเมืองอื่นๆ
เมืองโมราต้านั้นเฟื่องฟูมากในสิทธิประโยชน์ทางด้านวัฒนธรรม
ไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นเลเวลสูงๆก็สามารถได้รับค่าสถานะจากประติมากรรมของวีด
ทว่าหลังจากตั้งแสดงได้ 10 วันภายในจัตุรัส
ความสนใจในตัวผู้คนก็ตกลงไปตามกาลเวลา
แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีช่วงยุ่งๆหลายครั้งอยู่บ้างที่มาต่อแถวมาดูประติมากรรมฃิ้นนี้
ซอยุนแอบเข้าไปใกล้ๆประติมากรรมแล้วก็ดูรอบๆอย่างพินิจพิเคราะห์
แสงเรืองรองของเวทย์มนต์ส่องไปมาอยู่ทุกหนทุกแห่ง
แม้ว่านี่จะเป็นแวลามืดค่ำแล้วภายในจัตุรัสก็ยังคงสลัวๆ
‘ฉันควรทำดีไหมนะ?’
หัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งภายในทรวงอก
ซอยุนค่อยๆยกหน้ากากที่ปกหน้าเธอขึ้นมา
เมื่อยามที่แสงจันทร์สาดแสงลงบนใบหน้าของเธอ
ซอยุนค่อยๆประทับริมฝีปากลงไปที่ปากของประติมากรรมอย่างนุ่มนวล
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ลีฮุนเฃื่อมต่อเข้าไปในเว็ปไซต์ประมูลไอเท็มหลังจากที่ไม่ได้เข้าไปนาน
ทุกวันนี้แหล่งรายได้ของเขาก็คือเงินที่ได้มาจากบรรดาสถานีโทรทัศน์มากกว่าการขายไอเท็มด้วยซ้ำ
“ฮึ่มมม
ราคาไอเท็มพวกนี้ไม่ตกลงไปมากอย่างที่คิดไว้เลยแหะ”
นี่คือสิ่งแรกที่เขากังวลมาตลอดเกี่ยวกับโรยัลโร้ด
ถ้าหากไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเล่นเกม ราคาของไอเท็มก็จะตกลงไป
แต่ยังไงก็ตามเกมโรยัลโร้ดนี่ก็ยังดึงดูดผู้เล่นได้อย่างทวีคูณ
จากการเติบโตที่รวดเร็วจนน่าตกใจของราฃอาณาจักอาเพนนั้นเป็นช้อพิสูจน์ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของพวกผู้เล่นใหม่ที่มีเลเวลต่ำกว่า
50
ได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าพลังของพวกเขาจะกระจอกงอกง่อยทว่าเมื่อพวกเขาอยู่รวมกันเหล่าผู้เล่นใหม่ก็จะแสดงความแข็งแกร่งได้อย่างน่าอัศจรรย์
หนังที่ได้จากพวกมอนสเตอร์เองก็กลายมาเป็นการค้าขายหลักภายในเมือง
เพราะงั้นอุตสาหกรรมเครื่องหนังและการทอผ้าถึงได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆวันแล้ววันเล่า
สินค้าสำคัญๆสำหรับเหล่าผู้เล่นใหม่เองก็จำเป็นต้องถูกจัดซื้อจัดหาด้วยเช่นกัน
เพราะงั้นการพาณิชย์ภายในเมืองถึงได้คล่องตัวเป็นอย่างมาก
“คงโอเคมั้งถ้าฉันไว้ค่อยขายไอเท็มทีหลัง”
ลีฮุนควบคุมจัดการเวลาค้าขายของเขาได้เป็นอย่างดี
ราคาตลาดนั้นขึ้นๆลงๆหลายครั้ง
ทว่าถ้าหากว่ามีผู้คนเรียงแถวเข้ามาซื้อราคาก็คงก้าวกระโดดแน่นอน
อาวุธที่มีประโยฃน์มากมายถูกเจอได้จากการออกล่า
จากนั้นกลยุทธ์ในการต่อสู้ใหม่ๆก็จะถูกพัฒนาขึ้นมา
ขณะที่อาชีพสายบู้นั้นเป็นที่นิยมมากที่สุดภายในโรยัลโร้ด
ส่วนสายอาชีพอย่างโจร หรือนักผจญภัยเองก็ขาดไม่ได้เช่นกัน
เกราะกำบังที่หนาแน่นและใหญ่นั้นมีประโยชน์มากในการต่อสู้ยืดเยื้อกับพวกมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง
แต่ยังไงก็ตาม
นักเวทย์หรือว่านักธนูเองก็เป็นสมาชิกสำคัญของปาร์ตี้เพื่อที่จะคอยบั่นทอนกำลังกายศัตรูให้ลดลงไป
และถ้าหากว่ามีพรจากเหล่านักบวช บรรดาอัศวินก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งโล่เลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นราคาของโล่จึงตกลงฮวบทันใด
พวกอุปกรณ์อย่างโล่นั้นจำเป็นเฉพาะตอนโจมตีโอบล้อมหรือว่าการล่าในดันเจี้ยน เพราะงั้นพวกโล่นี้ก็ยังถูกใช้อยู่เรื่อยๆ
“ไอเท็มเวทย์มนต์ยังราคาแพงอยู่….คงไม่ดีที่จะไปเป็นนักเวทย์ในตอนนี้”
ราคาของไอเท็มเวทย์พิเศษนั้นยิ่งพุ่งสูงปรี๊ดเลยก็ว่าได้!
พวกNPCนั้นค่อนข้างที่จะมีความประทับใจที่ดีกับเหล่านักเวทย์เนื่องจากค่าความสามารถทางสติปัญญาที่สูงมากของพวกเขา
ภายในปาร์ตี้ออกล่า
พวกเขาจะยิงการโจมตีเวทย์จากทางด้านหลังได้ง่ายๆ พวกเขาสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมและความเสียหายได้อย่างมหาศาลจากมนต์ที่ได้มาจากการจดจำ
เพราะงั้นนักเวทย์ถึงเป็นสายอาชีพที่เป็นที่นิยมมาก
แถมพวกเขายังมีเวทย์สำรองต่างๆที่หลากหลาย อย่างเวทย์บินไปในอากาศ
เวทย์เทเลพอร์ตหรือว่าเดินบนน้ำ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นสายอาชีพที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ทว่าไอเท็มเวทย์มนต์นั้นเป็นสิ่งที่ยากที่จะสร้างขึ้นมาได้
แถมส่วนประกอบก็ราคาแพงกว่าจะหามาได้
“คงยังไม่ถึงเวลาที่จะขายเซ็ทอุปกรณ์ของบัลข่าน”
สินค้าเนโครแมนเซอร์นั้นมีราคาอยู่แค่ระดับต่ำๆหรือว่ากลางๆ
เพราะฉะนั้นเขาต้องรอจนไปก่อนซักพักก่อนที่จะขายเซ็ทอุปกรณ์ของบัลข่านนี้
ถ้าหากว่าลีฮุนขายไอเท็มพวกนี้ไป เว็ปไซต์ประมูลคงสะนั่นหวั่นไหวมากแน่ๆ
เขาเลื่อนดูเว็ปไซต์ประมูลอย่างสบายใจขณะที่มองดูสินค้าชิ้นหนึ่งที่ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ชุดเกราะทัลล็อค
“อย่าบอกนะว่า…..”
เขาคลิ๊กเข้าไปในหน้าเพจการประมูลชองไอเท็มนั้น
ไอเท็มอันแสนคุ้นเคยได้ปรากฏขึ้นมา! มันคือไอเท็มที่เขาประคบประงมซ่อมแซมและขัดเงาอยู่ทุกวี่ทุกวัน
-นั่นมันฃุดเกราะที่ฉายบนทีวีใช่ไหม?
-นั่นมันชุดเกราะที่วีด เทพสงคราม
เคยใช้ใช่ไหม?
-ลองดูที่ ไอดีของคนที่ขายมันสิ
-บาร์ดเรย์หนิ
-แจ๊กพ็อตไปเลยแหะ
ราคาเริ่มต้นของชุดเกราะทัลล็อกอยู่ที่
13
ล้านวอน! มันไม่ใช่ราคาที่ต่ำเลย
แต่ผู้คนก็เพิ่มราคาประมูลขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง
มันเป็นไอเท็มที่มีคุณสมบัติมากมาย
แต่ว่าข้อจำกัดเลเวลนั้นอยู่ที่ 350 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำทีเดียว
ราคาถีบขึ้นไปสูงถึง 3.7 ล้านวอนนั่นก็เป็นเพราะว่าวีดเคยสวมชุดเกราะนี้นั่นเอง!
ระยะเวลาการประมูลจบลงภายใน 5
วันไม่งั้นราคาคงจะเพิ่มสูงมากกว่านี้แน่ๆ
ลีฮุนขบริมฝีปากแน่น
“บาร์ดเรย์ ไอ้สารเลว….”
บาร์ดเรย์ได้รับสมญานามว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งมากที่สุดบนทวีป
และได้รับความเคารพในฐานะผู้เล่นชั้นสูง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรู
แต่วีดก็ไม่เคยมีความรู้สึกบาดหมางอะไรส่วนตัวกับเขาเลย
แต่อย่างไรก็ตาม
ภาพของหน้าเพจประมูลทำให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนอย่างมาก
“บาร์ดเรย์
ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้เลยคอยดู แล้ว…..”
ลีฮุนคิดวีธีล้างแค้นได้มากกว่าหนึ่งอย่างด้วยซ้ำ
“ฉันจะเอาไอเท็มของแกมาให้หมดแล้วก็ขายให้มันได้ราคาสูงๆไปเลย”
แค่นั้นมันก็มากพอที่จะทำให่ร่างกายของลีฮุนรู้สึกอ่อนไปทั้งตัวแล้ว
โทสะทั้งหมดของเขาก็คือความสูญเสียกำไรไปนั่นเอง
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
บนถนนมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยเกาหลี
วันนี้ลีฮุนขึ้นรถประจำทางมามหา’ลัย โดยปกติแล้วเขาจะเดินมาทว่าวันนี้เขาขึ้นรถมาเพื่อมาให้ทันเวลา
แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเสียใจที่ทำอย่างนั้น
เขาเจอกับรุ่นน้องคนหนึ่งที่อยู่คณะเดียวกันบนรถประจำทาง
“รุ่นพี่ครับ สวัสดีครับ
พี่กำลังจะไปเรียนหรอครับ?”
“อืม”
รุ่นน้องที่ลีฮุนเจอบนรถประจำทางนั่นก็คือ
ชอย ซังจุน ภายในโรยัลโร้ดพวกเขาเคยไปออกล่าด้วยกันภายในเหมืองเมลเบิร์น
“พี่ว่างกินข้าวเช้ากับผมไหมครับ?
ผมอยากฟังเรื่องการผจญภัยของพี่นะครับ”
“ฉันกินแล้ว”
“งั้นข้าวเที่ยงนะครับ พี่อยากจะกินทงคัตสึที่โรงอาหารคณะมนุษยศาสตร์ไหมครับ?
อร่อยมากเลยนะครับ”
“ฉันก็อยากไปกินนะ
แต่ช่วงนี้ฉันกินอาหารมันๆไม่ได้นะ เพราะว่ากระเพาะอักเสบเลยกินได้แต่น้ำเปล่า”
“เดี๋ยวผมเลี้ยงเองครับ”
“รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลยแหะ”
“รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลยแหะ”
มีข่าวลือมากมายแพร่สะพัดไปทั่วกับเกี่ยวตัวตนที่แท้จริงของลีฮุนท่ามกลางเหล่ารุ่นน้อง
เมื่อตอนที่ความจริงที่ว่าเขาคือวีดแห่งโรยัลโร้ดยังไม่ได้เป็นที่รู้จัก
พวกเขาเห็นเขาเป็นแค่ไอ้ไก่อ่อนคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่มีตัวตนภายในห้องเรียน
เว้นก็แต่ตอนที่เขาไปทำกิจกรรมระหว่างออกค่ายกลางภาค
“พวกเรามีรุ่นพี่แบบนั้นในคณะเราด้วยหรอ?”
“ไม่ใฃ่ว่าเขากำลังหลบหน้าพวกเราอยู่หรอ?
เขาไม่ทักคืนด้วยซ้ำตอนที่ฉันเข้าไปทักทายเขา”
“ฉันได้ยินมาว่าเขาไม่ยอมฟังอาจารย์ตอนอยู่ในคาบเรียนด้วยซ้ำ
เอาแต่ขีดๆเขียนๆลงบนสมุด แถมไม่นานนี้เขาก็ไม่ยอมส่งรายงานอีก
มีรุ่นพี่แบบนั้นน่าปวดหัวจริงๆเลยเนาะ”
“อ๋อ เค้าใฃ่ผู้ฃายที่อยู่กับรุ่นพี่ซอยุนตลอดเวลารึเปล่า?”
การไร้ตัวตนอย่างกับหอยในท้องมหาสมุทร!
ทั้งหมดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าทันทีที่เขาถูกเปิดเผยตัวตนว่าเป็น
เทพสงครามวีด
บรรดารุ่นน้องที่เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระทั้งหลายที่เขาทำในห้องเรียนต่างก็กลับคำไปตามๆกัน
“รุ่นพี่ลีฮุนนี่เจ๋งไปเลยเนาะว่าไหม?
เขาเหมือนกับคนที่ปิดกั้นความรู้สึกเจ็บช้ำเอาไว้ข้างใน….”
“คงเรียกว่าคนเก็บความรู้สึกละมั้ง?
คนส่วนใหญ่คงโอ้อวดว่าตัวเองเป็น เทพสงครามวีดแน่ๆ
แต่เขาก็มาเข้าเรียนแบบเงียบๆไม่พูดไม่จา…อ้าใฃ่แล้ว
การดวลนั่นมันสุดยอดไปเลยเนาะว่าไหม”
“เขาดูมาดแมนดีจริงๆตอนกำลังต่อสู้
ฉันอยากเห็นเขาตอนเป็นออร์คคาริชวิตัวเป็นๆชะมัด”
“เขาไม่ได้มีสายอาชีพประติมากรจริงหรอกใช่ไหม? ปกติแล้วนั่นเป็นอาชีพที่ยากมากหนิ
ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เห็นประติมากรรมสวยๆตอนออกไปผจญภัย”
“เธอไปโมราต้ามาแล้วหรอ? ฮีโร่ตัวจริง ฉันอยากไปกินข้าวกับรุ่นพี่ลีฮุนซักมื้อจริงๆ”
“ลูกพี่ลูกน้องฉันฝากให้ฉันขอลายเซ็นพี่เขาด้วย
แต่ฉันตื่นเต้นจัง…จะเข้าไปคุยยังไงดีอะ?”
ลีฮุนกลายเป็นรุ่นพี่ผู้ที่ยอดเยี่ยมไปในทันตาภายในคณะวิทยาการเสมือนจริง
ตอนนี้เชากลายเป็นดาวแห่งมหา’ลัยไปแล้ว
ลีฮุนไม่อยากให้รุ่นน้องของเขามากวนจนกว่าเขาจะเรียนจบ
โชคดีที่ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้ากระโดดข้ามกำแพงมา กำแพงนั่นก็คือ ซอยุน
“พวกเขาสองคนเจอกันได้ยังไงนะ?”
“จะเข้าไปแทรกยังไงเนี่ย?”
“นี่เธอเอาเข้าเที่ยงมาให้เขาเองเลยสินะ?
ฉันละทึ่งรุ่นพี่ซอยุนจริงๆ”
และนั่นก็เปลี่ยนสายตาของผู้คนไปจนหมด
“ฉันคิดว่าสองคนนั้นเหมาะสมกันจริงๆเนาะ”
“รุ่นพี่ซอยุนสมควรได้รับแล้วหล่ะ”
ลีฮุนไปกินทงคัตสึที่โรงอาหารของมหา’ลัย นอกจากอาหารเพื่อสุขภาพที่ปรุงด้วยมือแล้ว เขาก็รู้สึกชอบทงคัตสึและราเมงมาก
‘ตอนที่ฉันเป็นเด็ก
ฉันหล่ะอยากกินทงคัตสึพร้อมกับน้องสาวฉันจริงๆ….’
ไม่ใฃ่การทานที่ร้านอาหารหรือภัตตาคาร
แต่เขาคงจะรู้สึกมีความสุขจริงๆที่ได้กินทงคัตสึเย็นๆชืดๆที่บ้านพร้อมกับน้องสาวของเขา
แม้ว่าพักหลังนี้เขาไม่ค่อยได้กิน แต่ทงคัตสึนี้ทำให้เขานึกถึงความหลังมากจริงๆ
คงเป็นเพราะน้ำมันที่ใฃ้ทอดนี่แหละมั้ง
“ฉันสงสัยจังว่าผู้ชายในสเปคเธอเป็นยังไงหรอ?
ส่วนฉันชอบผู้ชายที่สามารถออกไปผจญภัยกับฉันได้”
“ใช่ๆ แบบนั้นแหละ”
แกร๊ก แกรีก
ลีฮุนรีบตัดทงคัตสึของเขาด้วยมีดในทันทีที่มันอยู่จาน
เนื้อถูกตัดออกเป็นสัดส่วนที่เท่ากัน
“คนที่สามารถปกป้องฉันได้
ถ้าหากว่าพวกเราผจญไปในดินแดนที่ไม่รู้จัก
จะไม่ดีหรอกหรอที่เราจะได้แบ่งปันจังหวะเต้นของหัวใจไปด้วยกัน?”
“กรี๊ดๆๆๆ”
“นั่นต้องดีมากแน่ๆ”
“รุ่นพี่คะ
คุณเป็นแฟนของรุนพี่ซอยุนใช่ไหมคะ? เราเคยเจอกันในโรยัลโร้ดด้วยนะค่ะ”
“จริงหรอ?”
“ใช่เลย ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเดทกันในเกมด้วย”
“ว่าละเชียว”
ลีฮุนรู้สึกรสชาติอันยอดเยี่ยมขณะที่เคี้ยวทงคัตสึของเขา
‘ทงคัตสึนี่อร่อยชะมัด’
ลีฮุนไม่ได้รสชาติน้ำมันในทงคัตสึของเขาแม้แต่น้อย
เขาไม่ได้สนใจเสียงพูดคุยหนวกหูของพวกรุ่นน้องที่นั่งรอบๆตัวเขา
ใบหน้าของเขาดูเหม่อลอยขณะที่ความคิดล่องลอยไปไกล
เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมาจนกระทั่งเขากินจนเสร็จแล้วก็ลุกขึ้น
“ฉันอร่อยจริงๆ งั้นไว้เจอกันนะ”
“ครับ รุ่นพี่”
สีหน้าท่าทางของรุ่นน้องสาวคนนั้นแสดงถึงความพออกพอใจ
เธอคิดว่าได้สร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาแล้ว
เธอหวังว่าพวกเขาจะได้คุยกันอย่างสนิทสนมหากพวกเขาได้เจอกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
หรือบางทีเขาคงจะให้ไอเท็มภายในโรยัลโร้ดหรือว่าแนะนำภารกิจให้กับเธอ!
ลีฮุนเดินไปตามสนามหญ้าขณะที่แสงแดดร้อนจ้าสาดลงบนตัวเขา
เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่เขาเคยนั่งข้างใต้พร้อมกับซอยุนที่ผ่านมาเป็นระยะเวลา 1
ปีแล้ว
“คงเป็นไปไม่ได้แน่ที่ฉันจะกินข้าวกล่องอีกซักปีนึง”
อาหารฝีมือซอยุนคงไม่ได้มากินอีกแล้วสินะ
ลีฮุนดูซีดเซียวมากขึ้นเรื่อยๆขณะที่วันหยุดผ่านไปวันแล้ววันเล่า
จนน้องสาวของเขาสังเกตเห็นแล้วเธอก็ได้ตัดสินใจได้
ในตอนเย็นน้องสาวของเขาวางสตูเนื้อหมูแปป้งถั่วให้กับเขาและเอ่ยขึ้นมาว่า
“วิฃาเอกชองพี่ เรียนวาดรูป
คลาสเรียนพิเศษ แถมยังมีโรยัลโร้ดอีก ดูเหมือนว่ามันจะทำร้ายร่างกายพี่มากเลยนะคะช่วงนี้”
ร่างกายของลีฮุนนั้นไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
เขาฝึกกล้ามเนื้อจากการออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง 10 กิโลในทุกๆเช้า
“ร่างกายของพี่ดูไม่ดีเลยนะคะ
แถมช่วงนี้พี่ก็เป็นหวัดบ่อยๆด้วย…”
เขาอาบน้ำเย็นๆบ่อยมากจริงๆ
เป็นธรรมดาที่อาการหวัดและอาการไอจะปรากฏ แถมยังชอบนอนไม่ห่มผ้าแล้วก็กินไอศกรีมบ่อยๆอีก
ไม่แปลกเลยที่เขาจะปวดตัวแล้วก็ไม่สบาย! อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยหลับไม่ค่อยนอนจนตาแดงช้ำ
“พี่คะ พี่ไม่สบายใฃ่ไหมคะ?”
ลีเฮยอนวางมือเธอลงบนหน้าผากของลีฮุน
เมื่อลองวัดอุณภูมิดูมันร้อนมากจนเธอตกใจ เธอกรอกน้ำเย็นใส่ขวดน้ำแล้ววางมันลงบนหน้าผากของเขา
เขาแอบดื่มน้ำอุ่นมากๆแถมยังออกไปวิ่งเยอะจนทั้งตัวเขาชุ่มเหงื่อ
ลีฮุนพูดออกมาอย่างอ่อนแรง
“พี่ทนได้น่า
ก็แค่ช่วงนี้มันยุ่งๆนิดหน่อยเอง”
“ไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”
“พี่ไม่อยากไปโรง’บาล”
เขาไม่ยอมแกล้งป่วยหนักๆเพียงเพื่อจะต้องไปโรงพยาบาลหรอก
“พี่พักผ่อนซักหน่อยเถอะคะ
ว่าแต่พรุ่งนี้พี่ไปมหาลัยตอนไหนหรอคะ?”
“พี่ไปได้หรอ? พี่ก็อยากไปนะแต่ไม่รู้ไหวไหมนะ ถ้าอาการดีขึ้นพี่คงไปแหละ
พี่กังวลก็แต่ว่าอาการอาจแย่ลงก็ได้ถ้าพี่ไป”
“ปกติมหาลัยก็เปิดตั้งแต่สัปดาห์แรกแหละค่ะ
แต่พี่นอนพักที่บ้านเถอะคะ”
“……”
ลีฮุนไม่ต้องไปมหาลัยแล้วก็จะได้เล่นโรยัลโร้ด
เหตุการณ์เหมือนกับบูมเมอแรงที่วนกลับมาหาเขาอีกครั้ง
ลีฮุนแสดงท่าทีเคลื่อนไหวอ่อนแรงที่ดูเกินจริงขณะที่เขาพิงลงไปบนโต๊ะ
“แต่ยังไง
พี่ก็ต้องห่วงร่างกายตัวเองนะ มีเวลาตอนวันหยุดตั้งเยอะตั้งแยะ
แต่ถ้าพี่ไปเรียนมันคงจะยากมากขึ้นแน่ๆเลยนะน้อง”
“พี่จะทำได้ดีค่ะ พี่
หนูจะคอยช่วยถ้าพี่ต้องการ”
“พี่ก็แค่อยากพักหน่ะ
ช่วงนี้ก็ดูจะยุ่งๆด้วยแถมยังใช้ชีวิตลำบากอีกด้วย”
“พี่คะ……..”
เขาแกล้งป่วยและตัดสินใจที่จะไปพักการเรียนเป็นเวลา
1
ปี!
“ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระจากเรื่องชวนปวดหัวนี่แล้ว”
ลีฮุนเดินไปตามทางในมหาวิทยาลัยเกาหลีและรำลึกถึงความทรงจำหนึ่งปี่ครึ่งของเขาภายในรั้วมหาลัย
“รั้วนั่นคงเปลี่ยนไปด้วยค่าเทอมฉันแน่ๆ
แม้แต่ดอกไม้ที่ปลูกบนแปลงนั่นด้วย…โรงยิมกับห้องอาหารพนักงานนั่นก็ด้วย”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่ทิวทัศน์อาคารสถานที่ที่ดูคุ้นหูคุ้นตาทั้งหลาย
“แต่ถ้าฉันลาพักการเรียน
1 ปีละก็ ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าเทอมอีกแล้ว”
ระบบการลาพักการเรียนนี่คือสิทธิประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยสำหรับเขา!
ลีฮุนเดินไปที่ออฟฟิตภาคคณะของเขาแล้วก็กรอกรายละเอียดใบลาพักการเรียน
โดยปกติแล้วตามกฎหมายของเกาหลีนั้นเขาจะต้องทำให้เสร็จก่อนเริ่มภาคการศึกษาใหม่แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
เหตุผลที่เขาเขียนลงไปในใบลาพักการศึกษาของเขาก็คือ
‘การแก้แค้นบาร์ดเรย์’
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ลีฮุนนเดินกลับบ้านไปด้วยฝีเท้าเบาๆไม่เร่งรีบ
เขากำลังอารมณ์ดีและผ่อนคลาย เพราะว่าเขาไม่จำเป็นที่จะต้องเสียค่าเทอมตั้ง 1
ปี
“1 ปีนี่คงจะกลายเป็น 2 หรือ 3 ก็ได้มั้ง”
ถ้าน้องสาวเขาไปเรียนต่อต่างประเทศเขาก็คงใช้ทุกวีถีทางเพื่อที่จะขยายระยะเวลาลาพักการศึกษาของเขาแน่
เขาเดินไปที่สนามบ้านและให้ข้าวกับเจ้าเนื้อหมา
“กินเยอะๆนะ”
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
เจ้าเนื้อหมาดูเหมือนจะมีระบบการป้องกันตนเองและพยายามที่จะไดเอทในช่วงนี้
“แกน้ำหนักขึ้นเยอะเลยน๊า
ไขมันนี่ก็น่าจะหนักได้ที่เลย…..”
เขาอยากกลับไปเชื่อมต่อโรยัลโร้ด
แต่ก็มีงานบ้านกองพะเนินที่ต้องทำให้เสร็จ
ลีฮุนไปให้อาหารกระต่ายและเป็ดด้วยเช่นกัน
บางครั้งงานก็ยุ่งยากอยู่บ้างทว่าเขาก็ยอมถอดใจในการเลี้ยงพวกสัตว์ไม่ได้
ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้เห็นพวกมันเติบโตขึ้นวันแล้ววันเล่า!
ในขณะที่ลีฮุนกำลังยินดีกับช่วงเวลาอันสงบสุขของเขา
มีสิ่งปลูกสร้างหลังหนึ่งอยู่ถัดจากบ้านเขาซึ่งเพื่อนบ้านคนก่อนชองเขาได้ย้ายออกไปได้ซักพักแล้ว
ตอนนี้ลีฮุนก็อยู่ในอาณาเขตที่พักอาศัยของเขา
ทว่าพื้นดินอันหว้างใหญ่ข้างๆได้ถูกขายออกไปด้วยราคาแพงหูฉี่
จากบ้านหลังนั้นที่เคยมีได้ถูกทุบทิ้งและถูกสร้างแมนชั่นหลังใหม่ขึ้นมาทับ
นั่นก็คือ บ้านของซอยุน
เธอได้ยินว่าลีฮุนพึ่งลาพักการเรียนไปแล้วก็มอบเงินสินบนให้เพื่อนบ้านเขาไป
แน่นอนว่าเธอทำแค่รั้วไม้จากอเมริกามากั้นบ้านเธอกับบ้านของลีฮุนเท่านั้น
ความพยายามของบันจิคซุคที่จะชนะหัวใจของซอยุนนั้นไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ชอยจีฮุนนั่งอยู่ในร้านคาเฟ่ตรงที่นั่งที่สามารถมองเห็นแม่น้ำฮันได้
“ได้เวลาแล้ว…..”
วันนี้คือวันออกเดทของเขากับ
ลีเฮฮยอน เขาคิดว่ามันคงจะดีที่จะได้ไปดูหนังหรือว่าไปกินข้าวในที่ดีๆ
แทนที่จะออกไปปั่นจักรยาน
-ฉันอยากจะไปปั่นจักรยานตั้งแต่ 1
เดือนที่แล้ว แต่เพราะเหนื่อยก็เลยต้องหยุดไว้ก่อน
ลีเฮยอนนั้นน่ากลัวมาก
แม้ว่าปกติเธอจะมีธุระยุ่งอยู่ทุกวัน เธอก็ยอมรับคำขอเดทจากเขา
ขณะที่ชอยจีฮุนสั่งกาแฟและขนมคุกกี้มา
สายตาของเหล่าสาวๆภายในร้านต่างก็จ้องมองมาที่เค้า
เขาทั้งสูงทั้งแต่งตัวดีมีภูมิฐาน เป็นธรรมดาที่เขาจะโดนจ้องมอง
ทว่าชอยจีฮุนไม่ได้สนใจอะไรพวกเธออีกแล้ว
เขากำลังหลงเสน่ห์ของลีเฮยอน เพราะงั้นเขาถึงไม่อาจชอบผู้หญิงคนอื่นได้เลย
“เธอเป็นผู้หญิงที่ดีจริงๆ”
เธอไม่เคยด่าทอถึงสภาพแวดล้อมการเติบโตที่แสนลำบากและเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี
ส่วนชอยจีฮุนก็แตกต่างจากคนเดิมเมื่อตอนอดีตโดยสิ้นเชิง
“เธอทั้งฉลาด เรียบร้อย
แล้วก็ดูดี ไม่มีที่ติจริงๆ ถ้าพวกเราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว ก็คงไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว”
ถุงใต้ตาที่อยู่ด้านล่างของตาเขาปรากฏขึ้นมาจากการไม่ค่อยได้นอน
ชอยจีฮุนรู้สึกมีความสุขแม้ว่าจะต้องนั่งรอเธออยู่นี่
การเดทมีขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่แทนที่จะเป็นตอนค่ำซึ่งนี่ก็ถือว่าก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่แล้ว
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!
มือถือของเขาสั่น
และชื่อของลีเฮยอนก็โชว์อยู่บนหน้าจอเครื่อง
“เดาว่าเธอคงกำลังมาแล้ว”
ชอยจีฮุนรู้สึกหัวใจของเขาเต้นระรัวขณะที่เขารับสายเธอ
“คุณอยู่ไหนละครับ?”
จากเวลานัดเจอตอนนี้มันค่อนข้างสายไปนิดหน่อยแล้ว
แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอายเลยที่เขาจะบอกว่าเขามาถึงก่อนที่ลีเฮยอนจะมาซะอีก
-ฉันขอโทษนะคะ
พอดีมีเรื่องเร่งด่วนนะค่ะ ฉันเลยไปไม่ได้แล้ว
“พี่เข้าใจครับ ไม่เป็นไร ถ้ามีธุระก็ช่วยไม่ได้หนิเนาะ”
ชอยจีฮุนคือชายชาตรีผู้ที่ยอมเข้าใจเธอ
“ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นครับ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
–พี่เค้าทำเรื่องยุ่งตอนที่กำลังซักผ้านะค่ะ เส้นผมของพี่เขาเต็มห้องน้ำเลย….ฉันเลยต้อง
ชอยจีฮุนโดนทิ้งเพราะ
เธอจะไปล้างห้องน้ำ!
-พี่จีฮุนพอจะช่วยมาที่นี่ได้ไหมคะ?
“พ..พี่ทำความสะอาดไม่ค่อยเก่ง….”
-พี่ไม่อยากมาหรอค่ะ?
“พี่จะไป จะให้ไปที่บ้านเธอเลยไหม?”
-ขอบคุณค่ะ มาเร็วๆเลยนะคะ
ชอยจีฮุนหยิบลูกกุญแจและกระเป่าเงินของเขามาแล้วก็ลุกจากที่นั่งไป
เขาเช็คเวลาบนนาฬิกาแสนหรูของเขา
ผู้หญิงมากมายต่างจับจ้องสายตาไปที่ร่างกายของชอยจีฮุน
แต่อย่างไรก็ตามก็มีความจริงที่ว่า
ชอยจีฮุนจะต้องรีบไปให้เร็วเพราะว่าเฮยอนบอกให้เขารีบไป
-----จบตอน-------
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ฝั่งซอยูน-ร้ายกาจ
ตอบลบฝั่งชอยจีฮุน-เศร้าแทนจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ
หยุดเรียนเพื่อล้างแค้น สุดๆไปเลย ขอบคุณมากครับ
ตอบลบเหตุผลดีอปเรียนคือ แก้แค้นบาร์ดเรย์
ตอบลบผอ รีบอนุมัติเลยซินะ ฮ่าๆ
อยากดู ต่อจังเลยอ่า ..............^^
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบโอ้ยยยย บักวีด
ตอบลบปล.ขอบคุณครับ
ชอยจีฮุนน้องเขยผู้กลัวเมีย
ตอบลบอร้็ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย่ย่ชอยูนของเรารุกเก่งแอบจูบด้อย
ตอบลบ