เล่ม 23 ตอนที่
3: ภูตผีแห่งคาปัว แปลโดย Cole’s Myth
จำนวนผู้เล่นเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายที่กลายร่างเป็นผี
กำลังทำหน้าที่ปกป้องหมู่บ้านคาปัว ซึ่งตอนนี้ บรรดาภูตผีมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ดู-เหมือนนน-ว่า-พวก-เรา-ทำ-ภาร-กิจ-เสร็จ-หมด-ละ-นะ”
โอเทมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแกมความรำคาญไม่พอใจแต่เขาก็ไม่ได้เกลียดมันซะทีเดียว
เพราะว่าผู้เล่นมากมายต่างมองไปที่เขาด้วยสายตาอิจฉาบ้างชื่นชมบ้าง
เหล่าจอมเวทย์ให้ความเคารพในการมีค่าสติปัญญา(wis)และความฉลาดหลักแหลม(Intel)ที่สูง
เพราะว่านั่นจะทำให้ระดับมานามีมากมายเหลือแหล่บวกกับเวทย์มนต์หลากหลายที่คนอื่นไม่สามารถใช้ได้!
ในกรณีของพวกอาชีพสายเนโครแมนเซอร์
มันก็เห็นอยู่โต้งๆเลยว่ามันขึ้นอยู่กับจำนวนและชนิดของอันเดดที่พวกเขาสามารถอันเชิญขึ้นมาได้
การอัญเชิญพวกดูลาฮานหรือเดทไนท์นับสิบๆตัวเข้ามาเป็นพลพรรคในสังกัดก็ดูท่าว่าจะดีมากกว่า
แล้วก็เจ๋งมากกว่าเมื่อเอาไปเทียบกับกองทัพซอมบี้กับพวกโครงกระดูกที่แถวยาวเป็นหางว่าวแต่กลับควบคุมเอาไว้ไม่ได้
เหล่าผีที่เหวี่ยงคทากระดูกของพวกมันไปมา
เดินหน้าไปพร้อมกับเหล่าสหายโกเลมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นภายในหมู่บ้านคาปัว
วีดได้เลื่อนขั้นอีกครั้งกลายเป็น
นักเชือดไร้ร่าง (Intangible
Slayer)
-การโจมตีของเหล่ามอนสเตอร์แห่งหมู่บ้านคาปัวได้เสร็จสิ้นแล้ว
-การบุกรุกจากมอนสเตอร์แห่งเฟอโกลได้ล่าถอยกลับไปแล้ว
-กองทัพอันเดดจะประเมินการมีตัวตนของเหล่าภูตผีใหม่อีกครั้ง
การประเมินค่า: ยังคงส่งเสียงดังน่ารำคาญและไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังเป็นประโยชน์ในบางครั้ง
-ชื่อเสียง +101
-พลังอันเดด +14
-ได้รับค่าประสบการณ์
ท่านได้รับการอนุญาตให้เข้าสู่ปราสาทคาปัว
เพราะว่าผู้เล่นคนอื่นยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการเข้าไปในปราสาทจึงดูเหมือนว่าวีดจะเป็นคนแรกที่ได้เข้าไป
“เสบียงศึกถูกเก็บเอาไว้ในปราสาทนี่นา…”
นั่นคือความคาดหวังของวีดที่เติมเต็มไปด้วยอาวุธและอุปกรณ์ของพวกอันเดด!
แต่ทว่าวีดก็ไม่สามารถออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปได้ง่ายๆ
มีจำนวนผู้เล่นต่ำกว่าห้าคนที่เลือกจะกลายไปเป็นอัศวินผี
ดังนั้นเขาจึงโดดเด่นมากเอาการ
ไม่เพียงแค่เขาจะเป็นคนที่ต่อสู้อยู่บนหลังม้าปีศาจนั้น
แต่ว่าเขายังมีค่าอำนาจบารมีและความกล้าหาญที่สูงจนทำให้พวกมอนสเตอร์ต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอีกด้วย
มันไม่ได้มากมายขนาดนั้นตอนที่เขายังเป็นมนุษย์
แต่ทว่าตอนนี้เขากลายเป็นผีที่ได้แผ่ขยายความหวาดหวั่นไปทั่ว
ขนาดพวกมอนสเตอร์ที่อ่อนแอก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้เลยด้วยซ้ำ
ฉากของเหล่ามอนสเตอร์ที่ตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัวตายปรากฏขึ้นมา
ในตอนที่วีดอยู่บนหลังม้าปีศาจเพียงแค่มองไปที่พวกมันเท่านั้น!
บรรดาเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆทำอะไรไม่ได้เลย
ได้แต่แสดงความสงสัยออกมาเท่านั้น
ฮี้ฮี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เช่นนั้นแล้ววีดจึงพุ่งเข้าไปภายในปราสาทที่มีเหล่ามอนสเตอร์ป้วนเปี้ยนอยู่เต็มไปหมด
ในตอนที่การต่อสู้นี้ได้ย่างเข้าสู่จุดสิ้นสุดแล้ว
ตุ๊บ ตุ้บ
ตุบ ตุบ
พวกมอสเตอร์ตะบันทุบค้อนเหล็กของพวกมันเข้าใส่ประตูปราสาท
เหล่าทหารโครงกระดูกที่อยู่ภายในปราสาทพากันกำจัดพวกมอนสเตอร์พวกนั้นด้วยการยิงธนูและเทน้ำมันเดือดๆให้ไหลลงมา
แม้ว่าจะมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นมาบวกกับพวกอันเดดที่ถูกอันเชิญออกมาด้วย
ทว่าการต่อสู้ครั้งนี้ก็ยังไม่ง่ายเลย
ในขณะที่มีเสบียงถูกบรรจุใส่เอาไว้ภายในปราสาทมากเท่าไร
ก็ยิ่งดึงดูดพวกมอนสเตอร์เข้ามาหาพวกมันมากขึ้นเท่านั้น
‘อ่าฮ้า
เหล่าค่าประสบการณ์และไอเท็มที่น่ารักทั้งหลายเอ๋ย’
พวกมอนสเตอร์ที่พยายามบุกเข้ามาถึงตัวปราสาททั้งหลายนั้นล้วนแต่มีเลเวลสูงมากเอาการ
พวกสัตว์ประหลาดตัวสีเขียวมีหัวปูดๆออกมาอย่างกับจระเข้
พวกมันเป็นทั้งผู้บัญชาการระดับกลางแล้วก็เป็นเป็นหัวหน้าจู่โจมครั้งนี้ด้วย
ทุกๆครั้งที่วีดเหวี่ยงดาบบนหลังม้าของเขาไปที่พวกมัน
เหล่ามอนสเตอร์แห่งเฟอโกลก็จะมีสสารสีเขียวพุ่งออกมาจากร่างกาย
“ฉัน-รักกก-พวก-แกกก-ค่า-ปรา-สบบ-การณ์”
วีดปล่อยคำสารภาพพร้อมกับสังหารพวกมันไปปราศจากซึ่งความลังเล!
ในฐานะนักรบ
ไม่ใช่เนโครแมนเซอร์ ค่าความอึดของเขาจึงไม่ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย
วีดพุ่งเข้าไปโจมตีโจมตีต่อเนื่องถึง
15
ครั้งในขณะที่อยู่บนหลังม้า
มันถือว่าเป็นเรื่องยากมากๆที่จะทำการโจมตีแบบต่อเนื่องด้วยความแม่นยำสูง
ในขณะที่ขี่อยู่บนหลังอาชาปีศาจซึ่งกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วเต็มที่ พร้อมกับบุกเข้าตะลุมบอนภายในฝูงมอนสเตอร์แบบนี้
ด้วยการใช้ทักษะการมองที่ยอดเยี่ยม
การตัดสินใจชั่วขณะอันเฉียบขาด ทัศนวิสัยที่กว้างไกล บวกกับการควบคุมลมหายใจที่มีสมดุล
‘ไอเท็ม ไอเท๋ม ไอเท่ม
ไอเท้ม ไอเท๊ม’
วีดฟันศัตรูไปอย่างต่อเนื่องขณะที่ฮัมท่วงทำนองให้เป็นจังหวะ
การจู่โจมต่อเนื่อง
15
ครั้งไม่สามารถหยุดเอาไว้กลางคันได้
เพราะฉะนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมีทักษะการบังคับบังเหียนม้าที่ยอดเยี่ยม
อาชาปีศาจของเขาไม่ใช่ม้าระดับตำนานแต่ว่ามันก็เชื่อฟังเขาที่สุดในฐานะที่เขาเป็นผีระดับสูง
อีกทั้งมันก็รู้สึกสนุกสนานไปกับการฆ่าฟันครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
เช่นนั้นมันจึงทำตามการชักนำของวีด
-ท่านได้ใช้ความเร็วสูงสุดแล้ว
-ด้วยความเร็วเท่านี้
ศัตรูจักไม่อาจต้านทานความเสียหายจากการโจมตีคริติคอลได้
-พลังโจมตีเพิ่มสูงขึ้น
245%
เพราะว่าเขาฟันพวกมอนสเตอร์ขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
การโจมตีส่วนมากจึงทำให้เกิดการโจมตีแบบคริติคอลที่เพิ่มแต้มค่าความเสียหายมากขึ้น
ส่วนหอกในมืออีกข้างหนึ่งก็สามารถสร้างพลังทำลายร้ายแรงสุดยอดด้วยพลังการเจาะทะลุทะลวง
แต่มันกลับไม่มีประโยชน์กับการโจมตีแบบต่อเนื่องซักเท่าไร
ดาบเคลื่อนฟันเข้าใส่เหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ล้อมรอบเป็นวิถีโค้ง
ช่างเป็นภาพที่แสนงดงามจริงๆ
ด้วยการใช้มานาและกำลังกาย
เขาฆ่ามอนสเตอร์ไม่ว่าตัวไหนก็ตามที่ประชิดตัวเข้ามาใกล้
ผสานการขับเคลื่อนไปพร้อมกับอาชาปีศาจ
“วิ่งงงงงง!”
วีดและม้าของเขาผสานใจกันเป็นหนึ่งวิ่งหน้าตรงไปที่ประตูเหล็ก
เขาอาจได้รับบาดเจ็บถึงตายได้หากเขาชนเข้าอย่างจัง!
แต่ทว่าวีดและม้าของเขากลับกลายเป็นละอองหมอกและทะลุผ่านเข้าไปในประตูเหล็ก
[ท่านได้รับสิทธิในการเข้าสู่ปราสาทคาปัว]
-ผู้ป้องกันปราสาทจะไม่โจมตีท่าน
-ท่านได้ทะลุประตูเหล็กหนาเข้าไปแล้ว
-จากการทะลุผ่านสิ่งกีดขวาง
ค่าพลังชีวิตและค่ามานาของท่านลดลงไปอย่างละ 2,000 แต้ม
แฮรรรรรรรรร!
เบื้องหลังประตูปราสาทบานนั้น
เขาสามารถมองเห็นร่างภูตผีของเหล่าทหารโครงกระดูกเรียงแถวอยู่เต็มไปหมด
ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเตรียมตั้งแถวไว้สำหรับการสร้างขบวนการตั้งรับศัตรูในกรณีที่ประตูถูกบุกทะลวงเข้ามาได้
วีดดึงบังเหียนม้าด้วยแรงเต็มที่แล้วค่อยๆลดความเร็วอาชาปีศาจเพื่อบอกให้มันหยุด
ฮี๊ๆๆๆๆๆ!
หลังจากที่วิ่งมาอย่างหนักหน่วงเจ้าม้าก็หายใจแรงมาก
พร้อมกับส่งเสียงออกมาทางจมูกและเตะกีบเท้าไปที่พื้นดังกร๊อบๆ จากนั้นก็มีผีทหารโครงกระดูกนายหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วก็พูด
พร้อมกับชูดาบสนิมเขรอะหักๆของมันขึ้นมา
“ยินนน-ดี-ต้อน-รับ-สู่-ปรา-สาท-คา-ปัววว”
ในขณะที่มองไปรอบๆปราสาทคาปัว
วีดก็สามารถมองเห็นภูตผีได้ทุกชนิด
ตั้งแต่ผีชนชั้นสูงและพวกดยุคไปจนถึงผีอัศวิน
ผีทหาร ผีนักธนู และผีชาวเมือง
แม้แต่ผีสาวใช้เองก็กำลังทำความสะอาดโถงอยู่
“มัน-สก-กะ-ปก-ตะ-หลอด-เลย บาง-ที-คง-ไม่-ต้อง-ทำ-ความ-สะ-อาด-แล้ว-มั้ง?”
มันรู้สึกรำคาญหูมากที่ต้องฟังพวกเขาพูดแบบนั้น
แต่ว่ายังไงซะวีดก็ต้องพยายามกระเสือกกระสนเข้าไปพูดคุยกับเหล่าสาวใช้และชาวบ้านทั้งหลาย
พวกทหารเอาแต่พร่ำบ่นเกี่ยวกับเหล่ามอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตี
ส่วนท่านดยุกทั้งหลายก็เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ตามคำสั่งขององค์ราชาของพวกเขา
ในบริบทเช่นนี้
ราชาที่กล่าวถึงก็คือบัลข่าน ดีมอฟนั่นเอง ราชาแห่งเหล่าอันเดด
‘ฉันนึกว่าพวกมันจะตกที่นั่งลำบากแล้วซะอีก
แต่ก็ยังมีพวกผีปกป้องปราสาทเอาไว้ด้วยสินะ กองทัพอันเดดนี่เป็นกองกำลังที่น่าทึ่งจริงๆ’
วีดรู้สึกเสียใจนิดๆกับภารกิจมากมายที่เขาทำมา
เขาอาจจะสามารถกอบโกยทั้งหมดนี้ได้ถ้าหากว่าเขามาในฐานะ ลิชไชร์
มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายๆเลยที่จะยอมยกเลิกภารกิจที่มอบให้กับคนเพียงคนเดียวอย่าง
วีด
แต่ว่าความเป็นไปได้ของภารกิจของลิชไชร์ที่จะทำให้เขาเอนเอียงไปในเส้นทางแห่งความชั่วร้ายก็มีมากอยู่เหมือนกัน
อีกอย่าง แม้ว่าเขาจะกำลังต่อสู้เพื่อกองทัพอันเดด
เขาก็ยังคงสามารถหยุดและล้มเลิกตอนไหนก็ได้
ร่างกายของอันเดดสามารถซ่อมแซมปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบเดิมได้ด้วยคำอวยพรจากวิหารเทพีเฟรย่า
แถมไม่ต้องคิดเลยว่าพื้นที่ล่าแห่งนี้ล้นหลามไปด้วยมอนสเตอร์มากมาย
ช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ
อีกอย่างพวกอันเดดก็ยังได้ออร่าแห่งความตายของบัลข่านที่แผ่อำนาจออกมาส่งเสริมพวกมันเรื่อยๆอีกด้วย
สำหรับวีดแล้ว
เขาสามารถฟาดฟันด้วยพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้มาก และเช่นนั้นเองคือเหตุผลที่เขาเลือกที่จะอยู่ทำภารกิจแล้วก็ออกล่าในร่างนี้ต่อไป
‘มันก็ไม่ใช่อะไรที่เกี่ยวกับเงินหรอกนะ
เพราะยังไงเงินพวกนั้นฉันก็ต้องเอาไปจ่ายให้ทางวิหารเทพีเฟรย่าอยู่ดี’
วีดเดินตรงขึ้นไปบนหอคอย
จากภาพที่เขาเห็นดูท่าว่าจะมีมอนสเตอร์มากมายที่กำลังพยายามบุกเข้ามาโรมรันต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าหากว่าพวกมอนสเตอร์บุกเข้ามาในตัวหมู่บ้านได้ละก็
เป้าหมายต่อไปของพวกมันก็คงเป็นปราสาทหลังนี้แน่
และถ้าหากว่าปราสาทหลังนี้พังทลายลงไปแบบสิ้นซาก
ภารกิจต่อเนื่องก็คงจะล้มเหลวไป แล้วใครจะรู้หละว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป?
‘ยังไงซะ
ฉันควรกลับไปที่หมู่บ้านหลังจากที่สังเกตการณ์คร่าวๆแล้ว’
ยังมีโอกาสที่จะได้ต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์มากกว่านี้แน่เมื่ออยู่ภายในหมู่บ้าน
ดีเสียยิ่งกว่ารอกบดานอยู่ภายในปราสาทคาปัวแห่งนี้
คุณไม่ควรลดการ์ดการป้องกันของคุณลงเพียงเพราะว่ามีจำนวนพรรคพวกผู้เล่นที่อยู่รอบๆเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่เสบียงรบกำลังก่อกองขึ้นเป็นภูเขาภายในปราสาท
ก็ยิ่งมีพวกมอนสเตอร์เข้ามารุมตอมบริเวณหมู่บ้านมากยิ่งขึ้นไปอีก
_________________________________________________
ณ
บริเวณภายในหมู่บ้าน เหล่าผู้เล่นทั้งหลายที่กำลังล่ามอนสเตอร์ก็ได้มีบทสนทนาภายในห้องแชทของปาร์ตี้
โบรัม: ฉันไม่เห็นเจ้าหมอนั่นที่เป็นผีโครงกระดูกมาซักพักละนะ
เฮเรียน: เขาไล่ตามพวกมอนสเตอร์เข้าไปในปราสาทน่ะ แต่ฉันเดาว่าเขาคงไม่กลับมาแล้วละ
วาเรนน่า: ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคิดยังไงถึงไม่เลือกสายอาชีพที่มีทักษะอัญเชิญอันเดดได้นะ
ในเมื่อเขาก็เป็นเนโครแมนเซอร์เหมือนกัน แต่ยังไงซะเขาก็แข็งแกร่งมากทีเดียว
โบรัม: ก็คงยังงั้นแหละ นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์
ดูท่าว่าเขาคงไม่สามารถออกล่ามอนสเตอร์มากมายขนาดนั้นได้หรอก
แต่ว่าความเป็นจริงแล้ว
ผู้เล่นพวกนี้ไม่ได้มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นเหตุการณ์การออกล่าของวีดตั้งแต่
แรกเริ่มเลย
ที่พวกเขาปักใจเชื่อแบบนั้นเพราะว่าพวกอันเดดที่พวกเขาอัญเชิญออกมาไม่ได้ต่อสู้หรือทำตามอย่างที่พวกเขาอยากให้ทำเลย
นั่นจึงเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่มาบดบังสายตาที่พวกเขามองไปยังตัววีด
เช่นเดียวกันเพราะว่ามีพวกภูตผีมากมายอยู่ภายในหมู่บ้าน
จนทำให้พวกเขาไม่สามารถระบุหาตัวตนของวีดได้อย่างชัดเจนมากนัก
ถ้าหากว่ามีอาชีพสายนักบวชซักคนหนึ่งที่ควรจะมาควบคุมเหล่าสมาชิกปาร์ตี้หรือสถานการณ์การต่อสู้ไว้
พวกเขาก็คงจะสังเกตเห็นวีดที่แอบย่องเข้ามาได้แล้ว
แต่กลับเป็นว่าเหล่าเนโครแมนเซอร์มีธุระมากมายหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำมากเกินไป
เฮเรียน: ว่าก็ว่าเถอะ เจนนี่น่าทึ่งจริงๆเลยนะ
เธอแสดงความสามารถออกมายิ่งกว่าพวกเราสองคนรวมกันซะอีก
โบรัม: ฉันพึ่งเห็นเธออัญเชิญเดทไนท์ออกมาเพิ่มอีก 7 ตัว
นั่นหมายความว่าทักษะเนโครแมนเซอร์ของเธอคงถึงขั้นกลางเลเวล 4 แล้วแน่ๆ
กรูเซท: ระดับทักษะสายสัมพันธ์แห่งโกเลม(Golem-related Skill) ก็ดูท่าว่าจะสูงมากเอาการเหมือนกันนะ
เพราะว่าเนโครแมนเซอร์เหล่านี้มีสายอาชีพเดียวกัน
พวกเขาจึงดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งเสียกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานซะอีก
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงเอาแต่จับตามองดูเนโครแมเซอร์ที่แข็งแกร่งมากที่สุด
เจนนี่
โบรัม: มีแค่ฉันหรือเปล่านะที่ได้ค่าประสบการณ์มาแค่นิดเดียวน่ะ?
เฮเรียน: ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ก็ยังมีไอเท็มให้เก็บนะ
แถมตอนนี้ก็มีไอเท็มมีประโยชน์มากขึ้นดร็อปออกมาอีกด้วย
ลีฮุนอยากจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
‘ในที่สุด
มันก็จบสิ้นซะที’
เมื่อการสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้นลง
ก็ย่างเข้าสู่ช่วงหยุดภาคฤดูหนาว
ภายในมหาวิทยาลัยปกคลุมไปด้วยปุยหิมะสีขาวแสนโรแมนติก
แต่เขากลับมีความสุขเพียงแค่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลับมาที่นี่จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ
นักศึกษาคนอื่นๆกำลังพูดคุยกันจ๊อกแจกอยู่ระหว่างโถงทางเดิน
“เป็นยังไงบ้าง?”
“วิชาสังคมเสมือนจริงเบื้องต้นเป็นอะไรที่ยากเกินไปจริงๆ
ฉันเกือบทำมันพังแล้วเชียว”
บทสนทนาทั้งหมดนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลีฮุนเลยแม้แต่น้อย
‘ขอแค่ฉันไม่ตกก็พอแล้วล่ะ’
เขาค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเกรดของเขา
ลีฮุนมองเห็นซอยูนนั่งอยู่ตรงม้านั่งขณะที่เขากำลังพยายามมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างเร่งรีบ
แม้เธอจะสวมใส่เสื้อผ้าฤดูหนาว
รูปร่างหน้าตาอันงดงามของเธอก็ยังคงดึงดูดสายตาของเหล่านักศึกษาชายทั้งหลาย
เธอมาจากตระกูลที่ไม่มีใครทัดเทียมได้
รูปร่างหน้าตาก็ยังโดดเด่น สัดส่วนเด่นเป็นสง่าพร้อมกับแรงดึงดูดชวนเข้าหา
เส้นทางแห่งอนาคตของเธอได้มีพรหมแดงปูเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ลี ฮุน ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะเข้าไปเกาะแกะกับซอยูนเลยแม้แต่น้อย
“นี่ๆ มีเด็กปีหนึ่งที่ชื่อว่าลีฮุนจากคณะเทคโนโลยีเสมือนจริงได้กินข้าวกับเธอจริงๆน่ะหรอ?”
“เขาเป็นเด็กปีหนึ่งนะแต่ฉันได้ยินมาว่าเขาแก่เกินไปหน่อยที่จะเป็นเด็กปีหนึ่งน่ะ”
“โลกเป็นอะไรไปแล้วนะ
ทำไมเธอถึงออกไปเที่ยวกับผู้ชายอย่างเขานะ?”
มีข่าวลือมากมายแพร่สะพัดไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
แม้แต่เหล่ารุ่นพี่ปีสี่ที่อยู่คณะเทคโนโลยีเสมือนจริงก็มองไปที่ลีฮุนด้วยความรู้สึกคับอกคับแค้นใจ
แต่ทว่าลีฮุนไม่ใช่คนที่ปล่อยให้เรื่องทำนองนี้มากวนใจเขาซะหน่อย
เขาก็หวังเพียงแค่ว่าความปรารถนาของเธอที่มีต่อเขานั้นจะไม่คงทนอยู่นานเกินไปมากก็เท่านั้น
‘เธอไม่เหมาะสมกับผู้ชายอย่างเราหรอก’
สักวัน
ผู้ชายสุดเจ๋งที่แสนเพอเฟคท์และเหมาะสมกับเธอคงปรากฏตัวขึ้นมา
ทั้งหมดที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือทำให้เธอพูดและปกป้องเธอจนกว่าเธอจะไม่กลัวที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอีกต่อไป
ซอยูนมองมาที่ลีฮุนแล้วเธอก็ลุกขึ้น
จากนั้นเธอก็เดินตรงมาที่เขาด้วยแก้มสองข้างแดงระเรื่อราวกับดอกกุหลาบ บางทีนั่นอาจจะเป็นเพราะอากาศเย็นก็ได้
“เธอกำลังรอฉันอยู่งั้นหรอ?”
ซอยูนพยักหน้ารับกับคำถามของเขาจากนั้นก็พูดออกมา
“เป็นเพราะเรื่องทริปหน้าหนาวนะ”
ถ้อยคำของเธอที่เอ่ยออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สำหรับลีฮุนแล้ว
เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่สำหรับเธอ เขาคือคนๆนั้นที่กุมมือเธอและดึงเธอออกไปเปิดหัวใจสู่โลกภายนอก
ทุกๆครั้งที่ซอยูนพูดกับเขา
เธอจะโอบกอดความคาดหวังและความรู้สึกรักใคร่เอาไว้
“อ๋อ ใช่ เรื่องไปเที่ยว
ห๊ะ”
ลีฮุนจดจำได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งกับสิ่งที่เขาเคยพูดมาก่อนหน้านี้
ที่ซอยูนเคยบอกว่าเธออยากออกไปเที่ยวกับเขา
มันเป็นทริปง่ายๆที่มุ่งหน้าไปชายหาด
แต่เขาเคยบอกเธอว่ามันเสียเงินค่าเที่ยวเป็นล้านวอนเลยทีเดียว
นั่นช่างเป็นข้อแก้ตัวที่งี่เง่าเหลือเกินเพียงเพื่อเขาเลี่ยงจะไม่ไปทริปนั่น
“งั้น
เราก็ควรต้องรักษาสัญญาสินะ”
ซอยูนพยักหน้ารับแสดงความเห็นด้วย
“ใช่
สัญญาต้องเป็นสัญญา”
“เดิมทีฉันก็อยากออกไปเที่ยวบ้างอยู่แล้วละ
อีกอย่างตอนนี้ฉันก็อยู่ในช่วงวันหยุดจนมีเวลาเหลือแหล่ด้วย”
เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
แต่ก็ยังเป็นรอยยิ้มที่ดูเคอะๆเขินๆอยู่ดี
และแน่นอนละว่าลีฮุนได้วางแผนที่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาไปในรอยัลโร้ด
ความเร็วในการออกล่าภายในหมู่บ้านคาปัวนั้นเร็วระดับสุดยอดเมื่อเทียบกับพื้นที่ออกล่าที่อื่น
ด้วยภารกิจจำนวนมากมายที่ให้มา
มันจึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดเพื่อที่จะใช้ในการเพิ่มค่าประสบการณ์
ลีฮุนจึงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า
“ใช่แล้ว
สัญญาต้องเป็นสัญญา แต่ว่าฉันต้องขอโทษ ฉันเดาว่าฉันคงต้องขอเลื่อนนัดออกไปก่อน”
ลีฮุนพยายามที่จะเลื่อนนัดทริปนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แต่ทันใดนั้นเอง
ซอยูนก็เปิดกระเป๋าของเธอออกแล้วก็หยิบเงินออกมา
“ฉันเก็บเงินค่าออกทริปได้แล้ว”
ทั้งหมดนั้นเป็นเงินอย่างน้อยๆก็
6 ล้านวอน!
พอมาคิดดูแล้ว
เธอเก็บเงินได้มากขนาดนี้ด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ!
“นี่เธอขายไอเท็มของเธอหรือเปล่านิ?”
เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ในตอนที่เขาสัญญากับเธอไว้
แต่ถ้าหากว่าซอยูนขายอุปกรณ์ของเธอในรอยัลโร้ด
มันก็ถือว่าเป็นเรื่องหมูๆเลยที่เธอจะเก็บเงินได้มากมายขนาดนั้น
“ฉันเก็บเงินพวกนี้มาได้ด้วยการขายข้าวกล่องน่ะ”
ซอยูนเก็บเงินนี้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอล้วนๆ บนมือข้างที่เธอยื่นเงินออกมาให้ดูนั้นเขาสามารถเห็นรอยพุพองบนมือนั้นได้
บางรอยก็เป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบาดแล้วก็รอยไหม้ขณะที่เธอทำอาหาร
หญิงสาวผู้ไม่เคยเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากได้รับบาดเจ็บและก็เหน็ดเหนื่อยเพื่อให้ได้เงินมา
“นายจะไปกับฉันใช่ไหม?”
ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป ลีฮุนจึงไม่อาจปฏิเสธเธอได้เลย
________________________________
ลีฮุนตัดสินใจที่จะไปออกทริปสี่วันให้หลังจากวันนั้น
ตอนนี้เขาคงต้องไปแล้วจริงๆ
จึงทำให้มีข้าวของมากมายที่เขาจำเป็นต้องจัดใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย
“กระทะทอด หม้อ เตาแก๊ส…คงดีถ้าเราจะทำคิมบับกับใข่ต้มไว้ก่อน ส่วนชิกฮเยก็กรองใส่ไว้ในขวดพลาสติกเผื่อพวกเราหิวน้ำ”
(식혜: ชิกฮเย:น้ำหมักแป้งมอลต์ข้าวบาร์เลย์ไปอุ่นกับข้าวสุกและน้ำตาลทราย)
ถ้าหากว่าเขาไปออกทริปเพียงลำพัง
เขาคงไม่ยอมเสียเงินให้ตามร้านอาหารแน่ๆ เขาไม่อยากมีทริปที่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป
เธอเก็บหอมรอบริบเงินพวกนั้นมาอย่างยากลำบาก
เขาจึงไม่สามารถใช้เงินพวกนั้นฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองมากจนเกินไป
น้ำมันงา
กิมจิ สาหร่าย ผักสดแล้วก็เบ็ดตกปลาก็คงจะพอแล้วละ
ถ้าหากว่าเขาจับปลามาได้บ้างจากจุดตกปลาเจ๋งๆ
จากนั้นอาหารอร่อยๆก็จะพร้อมเสิร์ฟได้ทันที
“ฉันควรจะเตรียมอะไรเพิ่มอีกหน่อยเผื่อว่าฉันอยากทำเมนูอื่นอีก”
แม้ว่าจะอยู่บนเกาะร้าง
นั่นมันก็มากเกินพอเพื่อมีชีวิตรอด!
การออกจากบ้านของคุณมาช่างเจ็บปวดรวดร้าว
เพราะว่ามันหมายถึงการต้องใช้จ่ายเงินด้วยนั่นเอง
เขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าทำไมเธอถึงอยากไปเที่ยวนัก
แต่เพื่อที่จะประหยัดมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ การไปเที่ยวเป็นเวลา 4 วัน ก็ถือว่าพอรับได้
“วันจันทร์ควรจะแพงน้อยหน่อยเมื่อเทียบกับราคาที่โคตรแพงตอนช่วงสุดสัปดาห์นั่น”
หลังจากที่เขาจัดเตรียมทุกอย่างจนเสร็จสรรพแล้ว
เขาก็เข้าไปในแคปซูล
มันคือเวลาสำหรับรอยัลโร้ดนั่นเอง
_____________________________________________________
วีดจ้องไปที่ลายเส้นที่เขียนหวัดๆขณะที่เขาตะลอนไปทั่วทั้งปราสาทคาปัว
“ฉันเห็นบางอย่างส่องแสงด้วยละ”
“ทำไมถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ละ….มีของหลายอย่างที่คนเขาชอบอยู่นะว้อย พวกงี่เง่าเอ้ย?”
“มีทางเดินถัดจากชั้นหนังสือด้วย….”
มันคือลายแทงที่ยากจะเข้าใจซึ่งชี้ทางไปยังสมบัติที่ถูกซ่อนอยู่ภายในปราสาทนั่นเอง
ถ้าคุณสามารถไขปริศนานั่นได้
คุณก็จะสามารถหาสมบัตินั่นเจอ!
‘ฉันเดาว่ามันคุ้มจริงๆที่ได้เข้ามาที่นี่ก่อนคนอื่น’
ก่อนที่ผู้เล่นคนอื่นจะเข้ามา
วีดได้ตรวจสอบปราสาททั้งหลังจนทั่วแล้ว
ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสาวใช้แล้วก็ข้ารับใช้ทั้งหลาย
ทั้งค้นหาสมบัติในปล่องควัน ท่อระบายน้ำ แล้วก็คอกม้าอีกด้วย
ของเก่าพวกนี้เก่ามากพอที่คุณจะเรียกได้ว่าพวกมันเป็นโบราณวัตถุถ้าหากว่าคุณอยากจะเรียกแบบนั้น! บรรดาสมบัติล้ำค่าที่มีอายุนับร้อยปี
ทองนับพันแท่งได้สร้างความพอใจอย่างมากให้กับวีด
‘ร่างกายของภูตผีนั้นก็เหมาะเพียงแค่เอาไว้ออกล่าของเหลือเดนแบบนี้เท่านั้นแหละ’
ตราบเท่าที่คุณรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดแล้ว
ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะหามันเจอได้เพราะว่าเขาสามารถเดินทะลุสิ่งกีดขวางแบบไหนก็ได้
เขาพบไอเท็มมากมายที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายในกำแพงและหลังขั้นบันไดด้วยการใช้ความสามารถพิเศษของผี
“เด็กผู้หญิงที่เห็นเมื่อตอนเช้ามืด
เธอทำอะไรหายนะถึงได้ร้องไห้เสียใจขนาดนั้น?”
ด้วยถ้อยคำที่เขาจดจำฝังลึกอยู่ในหัว
เขาจึงได้เจอผีเด็กผู้หญิงที่กำลังวิ่งลงไปที่ห้องโถงด้วยความรวดเร็ว
และด้วยการตามหาตุ๊กตาที่หายไปของเธอจนเจอ
เขาจึงได้รับสร้อยคอปลุกเสกมาเป็นการตอบแทน
--------------------------------------------------
สร้อยคอของอันเดด
ค่าความคงทน: 29/43
-สร้อยคอที่บรรจุความแข็งแกร่งด้านพลังแห่งการเติบโตของอันเดดเอาไว้
ข้อจำกัด: เฉพาะอาชีพสายเนโครแมนเซอร์เท่านั้น
คุณสมบัติ: เลเวลทักษะเนโครแมนเซอร์ +1
ประสิทธิผลของอันเดดที่ถูกอัญเชิญมา+8%
----------------------------------------------------------
ไอเท็มที่มีประโยชน์ต่ออาชีพสายเนโครแมนเซอร์โดยตรงนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายมักจะสวมใส่อุปกรณ์ของพวกจอมเวทย์
แต่ว่าวีดพึ่งจะได้ไอเท็มที่ช่วยเพิ่มทักษะอัญเชิญอันเดดมาหยกๆ
หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น วีดก็กลายร่างกลับไปเป็นมนุษย์แล้วก็ตรงกลับไปที่เมืองโมราต้าด้วยความช่วยเหลือของยูริน
หลังจากตรวจค้นจนแน่ใจแล้วว่าปราสาทคาปัวปลอดภัย
เขาก็ใช้ทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายของยูรินภายในห้องเล็กๆแล้วก็หายตัวออกไป
แต่ว่าในขณะที่เขายิ่งได้รับพลังแห่งอันเดด(Power of
Undead)เพิ่มมากขึ้นเท่าไร
มันก็ยิ่งทำให้เขาอยู่ในร่างอันเดดได้นานขึ้นเท่านั้นแม้ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นแล้วก็ตาม
“พลังแห่งอันเดดเพิ่มขึ้นมากจากการทำภารกิจและออกไปต่อสู้”
วีดไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพลังแห่งอันเดดที่อาจจะกลายมาเป็นภาระมากนัก
ยกเว้นเสียแค่ตอนที่เขาสร้างประติมากรรม มันจึงกลายเป็นเรื่องกวนใจเขาน้อยมาก
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
มันถือว่าเป็นสถานะที่อันตรายมากจริงๆที่จะทำให้เหล่าเนโครแมนเซอร์แข็งแกร่งมากขึ้นเป็นพิเศษ
เขาได้เรียนรู้และเข้าใจแน่ชัดแล้วว่าพลังแห่งอันเดดทำอะไรได้บ้างจากบทสนทนาที่พวกผู้เล่นเนโครแมนเซอร์พูดคุยกัน
“พลังแห่งอันเดดของฉันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว”
“พลังเต็มพิกัดสูงสุดแล้วหรือ?
ตอนแรกฉันก็คิดว่ามันเป็นค่าสถานะที่สุดยอดอยู่หรอกนะ…”
“ไอ้ความรู้สึกเวียนๆหัวนี่มันทำให้ฉันร่ายเวทย์อันเชิญพลาดด้วยละ”
พลังแห่งอันเดดนั้นไม่เพียงแค่เสริมกำลังให้กับเหล่าอันเดดเท่านั้น
มันยังช่วยเสริมพลังเวทย์แห่งความมืดให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
เวทย์แห่งความมืดจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเวทย์มนต์ธรรมดาทั่วไป
นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกวอร์ล็อค(Warlock)มักจะได้รับการปฏิบัติตนด้วยความเคารพยกย่องท่ามกลางเหล่านักเวทย์ทั้งหลาย
ในกรณีของวีด พลังนี้จะเสริมความแข็งแกร่งและความว่องไวให้กับเขาในตอนที่เขาออกล่าในร่างอันเดด
ค่าสถานะที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นจะเติบโตขึ้นได้ด้วยตนเองผ่านการทำภารกิจและการต่อสู้อันหนักหน่วง!
เหล่าเนโครแมนเซอร์นั้นจะมีพลังแห่งอันเดด(Power of
Undead) ส่วนวอร์ล็อคที่อยู่ภายในโลกของตนเองก็จะมีไอศวรรย์แห่งความมืด(Authority
of darkness)เป็นกำลังเสริม นั่นยิ่งทำให้พวกมันแข็งแกร่งมากยิ่งเสียกว่านักเวทย์ทั่วไป
แต่ทว่าทั้งพลังแห่งอันเดดและไอศวรรย์แห่งความมืดนั้นก็มักจะก่อให้เกิดคำสาปกับโรคภัยร้ายแรง
ถ้าหากว่ามันครอบงำและมีอำนาจจิตที่เหนือกว่าคนๆนั้น ในสถานการณ์ที่ถึงขั้นเลวร้ายที่สุดก็คือ
คนๆนั้นจะกลายเป็นบุคคลผู้ชั่วร้ายแล้วก็ปลุกพวกอันเดดขึ้นมาจนไม่อาจควบคุมเวทย์ของตนเองเอาไว้ได้
ก็จะมีซากศพมากมายอยู่เต็มไปหมดแล้วก็จะทำร้ายไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่เข้ามาใกล้พวกมัน
ส่วนในกรณีของจอมเวทย์แห่งความมืดเช่นนี้
เหล่าภูติผีปีศาจก็จะสามารถเข้ามาขโมยร่างกายและตัวตนของพวกเขาไป! ในตอนที่คนๆนั้นย่างเท้าเข้าไปถึงจุดแห่งความหายนะเช่นนั้น
พวกเขาไม่เพียงแต่จะสูญเสียปริมาณมานาอย่างมหาศาลเท่านั้น พวกเขาจะยังได้รับความเจ็บปวดทรมานจากคำสาปต่างๆนาๆที่ยากจะเกินเยียวยาได้
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องเพิ่มค่าสถานะอื่นๆเอาไว้มากๆอย่าง
ค่าพลังชีวิต ค่าความแข็งแกร่ง ค่าพลังจิต
จนทำให้พวกมันทุกๆค่าสถานะมีความสมดุลกัน
หากคุณไม่เพิ่มค่าความศรัทธาหรือค่าพลังจิตมากเพียงพอ
มันก็คงจะเป็นการใช้ค่าแต้มสถานะไปอย่างสูญเปล่า ตอนแรกเริ่มมันก็คงโอเคอยู่หรอกแต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว
ผลข้างเคียงอันแสนเจ็บปวดก็จะกลายเป็นวิกฤตการณ์อันแสนเลวร้าย
อาชีพสายเนโครแมนเซอร์และวอร์ล็อคจะกลายเป็นอาชีพที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าสายอาชีพธรรมดาทั่วไป
แต่พวกเขากลับต้องเดินก้าวหน้าและถอยหลังอยู่บนเส้นชะตาที่แสนอันตราย
วีดรู้สึกว่ามันช่างไร้ประโยชน์ที่ต้องลงทุนแต้มสถานะของเขาไปกับค่าความศรัทธาหรือว่าค่าพลังจิต
ดังนั้นเขาจึงพยายามรวบรวมกลีบดอกไม้และใบหญ้าเพิ่มเพื่อเอามาใช้สร้างประติมากรรม
กลีบดอกไม้นั้นไม่ได้เป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับเอาไว้สร้างประติมากรรมซะเลย
มันทั้งอ่อนนุ่มแถมยังเหี่ยวแห้งเร็วอีกด้วย แต่ถ้าหากเขาใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติ
ความสดใหม่ของวัสดุก็จะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนไปเป็นเวลานานมากๆ
แถมมันยังท้าทายวีดให้เขาได้สร้างสรรค์ผลงานแบบใหม่ๆอีกด้วย
“ว่าก็ว่าเถอะ
เห็นแค่วัสดุที่ใช้ทำแล้วนี่
ประติมากรรมชิ้นนี้คงจะทำได้ยากกว่าชิ้นไหนๆที่เคยทำมาก่อนหน้าแน่เลย”
ในตอนกลางคืนเขาจะออกล่า
ส่วนในตอนกลางวันตั้งแต่เช้าเขาก็จะออกมาแกะสลัก
ผลงานชิ้นนี้ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ทำออกมาด้วยความพยายามอุตสาหะได้กลายมาเป็นรถม้าเท่าขนาดจริงที่ลากโดยม้าแปดตัว
แม้ว่าบรรดาม้าและคนขี่ม้าคนนั้นจะถูกจัดแต่งด้วยกลีบดอกไม้
แต่มันก็ยังแสดงถึงความงดงามที่ปรากฏเฉพาะในเทพนิยายเท่านั้นออกมาให้เห็น
ภายในรถเทียมม้าคันนั้น
เขาได้แกะสลักน้องสาวของเขาตอนที่เธอยังเป็นเด็กสาวตัวน้อยๆ
ประติมากรรมที่เสร็จสมบูรณ์ชิ้นนี้ช่างเป็นผลงานที่แสนงดงามและแสนโรแมนติกจริงๆ
-โปรดตั้งชื่อให้กับประติมากรรมที่คุณพึ่งสร้างสรรค์เสร็จ
“ของขวัญวันเกิดแด่น้องสาวของฉัน”
เขาได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับยูริน
มันคงจะกลายเป็นของขวัญวันเกิดที่ไม่มีทางลืมเลือนแน่
ในตอนที่เธอนั่งบนรถม้าคันนี้ภายในเมืองโมราต้า
แน่นอนละว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างประติมากรรมชิ้นนี้มาจากกลีบดอกไม้กับใบไม้นั้นเท่ากับศูนย์!
-‘ของขวัญวันเกิดแด่น้องสาวของฉัน’
ถูกต้องหรือไม่?
“ถูกต้อง”
-------------------------------------------------
· ผลงานระดับแมคนั่ม!
ท่านได้สร้างสรรค์ผลงาน
‘ของขวัญวันเกิดแด่น้องสาวของฉัน’ เสร็จสิ้นแล้ว
-ประติมากรรมที่สร้างขึ้นมาจากกลีบดอกไม้จากเหล่าพฤกษาป่าที่แพร่กระจายอยู่ทั่วเมืองโมราต้า
-สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยใบไม้ที่สานใยเชื่อมโยงกันด้วยความอดทนอดกลั้นอันยอดเยี่ยม
สร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของประติมากรผู้รู้วิธีใช้ทักษะพลังแห่งธรรมชาติ
-ความสร้างสรรค์นั้นช่างโดดเด่นแต่เนื่องจากคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้สร้าง
มันคงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาสภาพให้คงอยู่ยาวนานได้
คุณค่าทางศิลปะ:
9,814
ผลเอฟเฟค:
บุคคลใดที่เห็นประติมากรรมชิ้นนี้
อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 30% ตลอดทั้งวัน
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น +15 ความงดงามและเสน่ห์เพิ่มขึ้น
+45
ภายในหนึ่งวัน
ความโชคดีที่แสนวิเศษจะปรากฏขึ้น
ความเร็วในการเคลื่อนที่ในพื้นที่ราบเพิ่มขึ้น +25%
การแผ่ขยายพันธุ์ของดอกไม้ป่าจะเพิ่มขึ้นด้วยการใช้ผลบัฟจากประติมากรรมชิ้นนี้
เมื่อพูดคุยถึงประติมากรรมชิ้นนี้กับผู้อื่นค่าความสนิทสนมของคุณจะเพิ่มขึ้น อายุขัยสูงสุดของประติมากรรมชิ้นนี้ : 3 เดือน
ความเร็วในการเคลื่อนที่ในพื้นที่ราบเพิ่มขึ้น +25%
การแผ่ขยายพันธุ์ของดอกไม้ป่าจะเพิ่มขึ้นด้วยการใช้ผลบัฟจากประติมากรรมชิ้นนี้
เมื่อพูดคุยถึงประติมากรรมชิ้นนี้กับผู้อื่นค่าความสนิทสนมของคุณจะเพิ่มขึ้น อายุขัยสูงสุดของประติมากรรมชิ้นนี้ : 3 เดือน
หลังจากหมดอายุขัยไปแล้ว
ประติมากรรมชิ้นนี้จะถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์แห่งประติมากรรม
จำนวนผลงานระดับมาสเตอร์พีสที่สร้างขึ้นมา:
7 ชิ้น
----------------------------------------------------
-ท่านได้ขึ้นสู่ระดับความเชี่ยวชาญทักษะประติมากรรมขั้นสูงเลเวล
8 แล้ว
ผลงานประติมากรรมของท่านจะมีความประณีตและละเอียดลออมากยิ่งขึ้น
ความเข้าใจรู้แจ้งในผลงานศิลปะของท่านจะกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ค่าสติปัญญาและค่าความฉลาดเพิ่มขึ้นอย่างละ 37 แต้ม
เสน่ห์เพิ่มขึ้น
+62
ด้วยการใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติ
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น +31
-ทักษะงานฝีมือพัฒนามากยิ่งขึ้น
-ค่าชื่อเสียงดีเพิ่มขึ้น
+1,841
-ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น
+13
-ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น
+9
-ค่าความอึดเพิ่มขึ้น
+21
-เสน่ห์ดึงดูดเพิ่มขึ้น
+7
-------------------------------------------------------
ระดับทักษะแกะสลักของวีดในที่สุดก็ไปถึงขั้นสูง
เลเวล 8
แล้ว
“นั่นมันช่างยากลำบากจริงๆ”
ในระดับทักษะทุกๆทักษะ
การไปถึงจุดหมายของระดับต่อไปที่สูงขึ้นนั้นจะทำให้ความเชี่ยวชาญในทักษะนั้นๆเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
แม้ผลงานที่เขาสร้างตอนนี้จะเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญขึ้นเพียง 3.7% เท่านั้น แต่ว่าจากนั้นอีกไม่นานเขาเหลืออีกเพียงแค่ 2 เลเวลเขาก็จะถึงขั้นมาสเตอร์ประติมากรรมแล้ว
“เมื่อไหร่ที่ฉันได้แกะสลักฮีเลียมแล้วล่ะก็
สิ่งที่ฉันไขว่คว้าก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม!”
ถ้าหากว่าชื่อเสียงของคุณสร้างขึ้นมาด้วยทักษะการแกะสลัก
คุณก็จะสามารถได้รับภารกิจให้แกะสลักผลงานจากเหล่าชนชั้นสูงและพระราชาได้อย่างง่ายดาย
หากเขาได้ภารกิจเหล่านั้นมา
พวกคนเหล่านั้นก็จะให้วัสดุแกะสลักที่ดีที่สุดกับเขาเพื่อใช้แกะสลัก
แล้วก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะใช้เพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะของเขาได้
“แถมฉันยังสามารถเพิ่มระดับทักษะแกะสลักธรรมชาติหรือแม้แต่ทักษะรังสรรค์จิตวิญญาณธาตุได้อีกด้วย”
อีกไม่นานเขาก็จะได้เป็นนักแกะสลักขั้นมาสเตอร์แล้ว
อาชีพที่ยากลำบากที่สุดที่จะเพิ่มทักษะให้เป็นมาสเตอร์ได้ในบรรดาอาชีพสายศิลปะทั้งหลาย
“ฉันคงทำไม่ได้ถ้าหากว่าฉันไม่พยายามอุตสาหะมากขนาดนี้
เพราะว่าทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับศิลปะทั้งสิ้น”
เพื่อที่จะสร้างผลงานออกมา
เขาต้องรวบรวมวัสดุอย่างยากลำบากผ่านการผจญภัยและภารกิจนานัปการ
วีดทุ่มเทเวลามาแสนยาวนานแกะสลักผลงานของเขา
ยอมเจ็บปวดทรมานเพื่อการสร้างสรรค์งานของเขาออกมา
ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นก็ต้องขอบคุณเงินทองที่ทำให้เขาเดินทางมาได้ไกลถึงขนาดนี้
____________________________________________________
“ในที่สุด…การทนลำบากตั้งหน้าตั้งตาทำงานมาอย่างหนักของพวกเราก็ผลิดอกออกผลซะที”
“ช่วงเวลายิ่งใหญ่ครั้งนี้จะต้องถูกถ่ายทอดออกไปผ่านทางบริษัทเกมส์อย่างต่ำซักหนึ่งเดือน”
“ซักพันคน
ไม่สิ ซักล้านคนจะต้องดูสิ่งนี้”
เหล่าชาวเมืองและผู้เล่นทั้งหลายของเมืองโมราต้าทำงานจนเสร็จสิ้นแล้วก็เดินออกไปที่บริเวณท้องถนน
จัตุรัส และหลังคาบ้าน
พวกเขากระชับหมวกของพวกเขาที่มีกลีบดอกไม้เกาะติดอยู่เต็มไปหมด
เหล่าผู้เล่นที่มีแผ่นไม้และแผ่นหินแบกเอาไว้ที่หลังกำลังทยอยเข้ามาภายในเมือง
ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยหยดเหงื่อไหลรินลงมา แล้วก็เคลื่อนไปข้างหน้าทีละก้าวๆ
มีเพียงวัสดุจำเป็นอย่างสุดท้ายเท่านั้นสำหรับการสร้างมหาวิหารและหอสมุด
อีกแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นพวกเขาก็จะถึงเส้นชัยแล้ว
“ฮุ่ยเล่ฮุ่ย
ฮุ่ยเลฮุ่ย”
“อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น”
ทุกคนส่งเสียงเชียร์กันและกัน
พวกเขามุ่งหน้าไปยังจัตุรัสแห่งหอคอยแสงและจัตุรัสปิงหลง
วัสดุก่อสร้างกองตัวสูงขึ้นเรื่อยๆตรงบริเวณที่เหล่าชาวเมืองและผู้เล่นทั้งหลายกำลังรวมตัวกันทำงาน
มหาวิหารและหอสมุดเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว
มหาวิหารนั้นช่างโออ่าอลังการ
เปล่งรัศมีความงดงามด้วยสีสันสดใส ส่วนหอสมุดก็ดูขลัง หรูหรา
และมีอำนาจแห่งความรู้
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่แสนใหญ่โตมโหฬารทั้งสองนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของเหล่าผู้คนและผู้เล่นของเมืองโมราต้า
พวกเขาต่างพากันจัดวางต้นไม้ตกแต่งในบริเวณที่ว่างต่างๆภายในสวน
พร้อมกับตั้งก้อนหินที่ถูกขัดเกลาจนสวยงามเอาไว้ด้วยเช่นกัน และท้ายที่สุด วัสดุชิ้นสุดท้ายที่พบเจอได้ภายในเมืองก็ได้ถูกจัดวางเสร็จสิ้น
ในที่สุด
มหาวิหารและหอสมุดก็สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
วันเวลาที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์นั้นเป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้
จึงได้มีกำหนดการต่อเนื่องมาจนมีการจัดวันเฉลิมฉลองขึ้นมาทันที
ไม่เพียงแต่มีผู้เล่นของเมืองโมราต้าที่เฝ้ารอคอยช่วงเวลาเช่นนี้
แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มายังดินแดนทางเหนือและดินแดนอื่นๆด้วยเช่นกัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ติ้ง!
สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่
มหาวิหารแห่งทวีปทางตอนเหนือของนิกายเทพีเฟรย่าได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ระยะเวลาทั้งหมดในการก่อสร้าง: 5 เดือน 11 วัน
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง:
1,678,291 เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน
จำนวนคนงานที่เข้าร่วมการก่อสร้าง: 299,362 คน
คุณค่าสิ่งปลูกสร้าง: 189,614
-ผลจากมหาวิหารแห่งนี้
จะทำให้นิกายทางศาสนาแผ่ขยายออกไปจนทั่วทั้งทวีปทางตอนเหนือ
-อนุศาสน์สถานแห่งเทพีเฟรย่าได้มาประทับอยู่
ณ ที่แห่งนี้แล้ว โอกาสทองที่จะให้ผลผลิตทางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น, จะได้รับการป้องกันจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
-เหล่านักบวชและพาลาดินแห่งวิหารเทพีเฟรย่าที่อยู่ภายในทวีปทางตอนเหนือจะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์อันแสนยิ่งใหญ่
-ตำแหน่งของอาชีพสายนักบวชตอนนี้จะสามารถเลื่อนขั้นไปสู่ระดับขั้นที่สองได้แล้ว
วิหารสามารถคัดเลือกพระคาร์ดินัลขึ้นมารับตำแหน่งได้แล้ว
-เหล่าพาลาดินสามารถเข้ามาอยู่ภายในมหาวิหารได้แล้วในตอนนี้
พลังแห่งวิหารสามารถข่มเหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้แล้ว
-ชาวเมืองแห่งโมราต้านั้นมีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในธุรการของทางวิหารเทพีเฟรย่าได้แล้ว
---------------------------------------------------------------
การก่อสร้างอันยิ่งใหญ่
หอสมุดแห่งโมราต้าได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ระยะเวลาทั้งหมดในการก่อสร้าง: 5 เดือน 11 วัน
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง:
1,074,412 เหรียญทอง 78 เหรียญเงิน
จำนวนคนงานที่เข้าร่วมการก่อสร้าง: 218,302 คน
คุณค่าสิ่งปลูกสร้าง:
127,939
-สามารถรวบรวมตำราที่เกี่ยวข้องกับการผจญภัยเอาไว้ภายในได้
-สามารถช่วยกอบกู้เวทย์มนต์ที่หายไปผ่านการขุดค้นและสำรวจภายในดันเจี้ยน
-เวทย์มนต์และการศึกษาจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว
-ถ้าหากว่าคุณจัดแสดงหรือตีพิมพ์ไอเท็ม
แผนที่ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บันทึกเกี่ยวกับมอนสเตอร์
คุณสามารถได้รับค่าชื่อเสียงและค่าตอบแทนได้
-ความต้องการให้สร้างหอสมุดเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำภารกิจได้รับการตอบสนองแล้ว
-ภารกิจทางโบราณคดีนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะค้นหาบันทึกหายากได้แล้ว
-ในขณะที่เอกสารสำคัญทั้งหลายเพิ่มขึ้นภายในหอสมุด
ความรู้ของชาวเมืองก็จะเพิ่มขึ้นตามด้วย
“ไชโย!”
“ในที่สุดก็เสร็จแล้ว!”
“ทีนี้แหละ
ไปออกล่าทั้งวันทั้งคืนได้เลย”
ไม่เป็นต้องพูดเลยหละว่ามันต้องสร้างความสะดวกสบายให้อย่างอย่างมากแน่ๆ
เนื่องมาจากการก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วของมหาวิหารและหอสมุดแห่งดินแดนเหนือแห่งนี้
จากนั้นก็มีหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าของเหล่าผู้เล่นที่เข้าร่วมการก่อสร้างครั้งนี้
-สำหรับการเข้าร่วมการก่อสร้างมหาวิหารแห่งแดนเหนือ
ท่านจะได้รับแต้มค่าการบรรลุผลและค่าประสบการณ์
-ค่าความเชี่ยวชาญในทักษะการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น
-ท่านได้รับความรู้ในการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างพิเศษ
ค่าสถานะเพิ่มขึ้น
-เนื่องจากผลงานที่ประสบผลสำเร็จที่ได้เหลือเอาไว้ด้วยงานจิตรกรรมภายในมหาวิหาร
ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้นแล้ว
-ค่าความเชี่ยวชาญในทักษะที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นแล้ว
-เนื่องจากนี่เป็นค่าประสบการณ์ทางศาสนา
ฉะนั้นท่านสามารถวาดรูปองค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพีเฟรย่าได้แล้วตอนนี้
-เนื่องจากผลงานที่ประสบผลสำเร็จที่ได้เหลือเอาไว้ด้วยงานประติมากรรมภายในมหาวิหาร
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
-ค่าความเชี่ยวชาญในทักษะที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นแล้ว
-ท่านสามารถแกะสลักองค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพีเฟรย่าได้แล้ว
แต่ท่านต้องใช้ท่อนไม้ที่ได้รับพรจากเทพีเฟรย่า
-อิทธิพลแห่งวิหารเฟรย่าภายในเมืองโมราต้าเพิ่มสูงขึ้น
-ค่าความใกล้ชิดกับชาวเมืองโมราต้าเพิ่มมากขึ้น
-ผู้คนที่เข้าร่วมการก่อสร้างจะมีความเลื่อมใสในศาสนานี้มากขึ้น
-สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ทั้งสองนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโมราต้า
-ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของมหาวิหารและหอสมุดภายในเมืองหรือปราสาทที่อยู่ดินแดนอันห่างไกลออกไป
ท่านจะได้รับค่าชื่อเสียง
พวกเขาต่างได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ทั้งสองอย่างสมน้ำสมเนื้อ
แล้วจากนั้นก็มีหน้าต่างข้อความที่จะปรากฏให้เห็นเฉพาะลอร์ดของเมืองก็เด้งขึ้นมา
-อิทธิพลทางการเมืองภูมิภาคของโมราต้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น
-ค่าชื่อเสียงทางภูมิภาคของโมราต้าเพิ่มมากขึ้น
-ถ้าเงื่อนไขสอดคล้องต้องกัน
ผลิตภัณฑ์พิเศษทั้งสามของโมราต้าจะกระจายผ่านปากต่อปากอย่างรวดเร็ว
-เมื่อชาวเมืองมองไปทางมหาวิหารแห่งเทพีเฟรย่า
พวกเขาสามารถค้นพบความสงบภายในจิตใจ
-องค์กรสาธารณะเพิ่มมากขึ้น
-โรคระบาดได้ถูกขจัดให้หายไป
-วัฒนธรรมของโมราต้าแผ่ขยายไปทั่วทั้งทวีป
นี่จะทำให้ศิลปะที่สร้างขึ้นภายในเมืองได้รับชื่อเสียงและอิทธิพลมากยิ่งขึ้น
-อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังพัฒนา
นักท่องเที่ยวผู้ร่ำรวยจะมาเยือนยังเมืองแห่งนี้
-เนื่องจากการสร้างมหาวิหารแห่งแดนเหนือ
องค์กรทางศิลปะจึงเพิ่มมากขึ้น
-คุณงามความดีที่มีต่อวิหารเทพีเฟรย่าเพิ่มขึ้น
1,639 แต้ม
· ตอนนี้
ท่านสามารถรับฉายา “ผู้ขับขานแห่งเทพี” ได้แล้ว หากท่านรับรางวัลนี้ไป
ท่านสามารถรับตำแหน่งพาลาดินแห่งวิหารเฟรย่าได้
· ความดีงาม
เสน่ห์ ศรัทธา อำนาจบารมีจะเพิ่มขึ้น
วีดรู้สึกเหนื่อยใจกับสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นที่สร้างขึ้นมา
“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเสียค่าใช้จ่ายมากขนาด…”
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างมหาวิหารกับหอสมุดตามแผนด้วยงบที่ตั้งเอาไว้
วีดได้สั่งให้พวกเขาสร้างวิหารจากพื้นที่ที่เขาจำกัดไว้แล้วก็ใช้วัสดุคุณภาพสูง
ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่มันจะเกินงบจากเงินทุนที่มากมายมากมหาศาลด้วยเงิน
900,000
เหรียญทอง สำหรับการสร้างมหาวิหารและ 700,000 เหรียญทองสำหรับการสร้างหอสมุด
“คงจะโอเคกว่านี้แน่ถ้าเอาโครงเหล็กกับเสาที่มองไม่เห็นออกไป…”
วีดก็แค่อยากจะสร้างสิ่งก่อสร้างคุณภาพต่ำแค่ไม่กี่หลังเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม
เหล่าสถาปนิกแห่งโมราต้าพยายามที่จะสร้างให้มันแข็งแกร่งมั่นคงที่จะสามารถคงอยู่ไปนานนับร้อยปี
แต่เพราะว่ามีผู้คนมากมายมาเข้าร่วมการก่อสร้าง
ก็มีคนงานหลายคนทำอะไรผิดพลาดอยู่บ่อยๆ
แม้ว่าจะมีน้ำฝนรั่วลงมาจากหลังคาที่ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก
แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เสาจะเอน แผ่นหินจะแตกหัก
ทุกๆครั้งที่สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเพราะพวกเขาใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินไปเรื่อยๆแบบนั้นก็จะทำให้งานก่อสร้างขาดแคลนเงินอยู่เสมอ
เงินภาษีอันแสนมีค่าสามเดือนของเมืองโมราต้าก็ต้องทิ้งไปกับงบประมาณในการก่อสร้างนี้
“ก็ดีละนะ
อย่างน้อยตอนนี้มันก็เสร็จแล้ว”
วีดมองไปที่สิ่งก่อสร้างทั้งสองหลังแล้วก็ปล่อยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่ยังค้างคาออกไป
มันคือสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยสถาปนิกผู้น่านับถือ
ปาร์โว บวกกับความพยายามของเหล่าประติมากรและจิตรกรมือใหม่ทั้งหลาย
อีกทั้งผู้เล่นใหม่มากมายนับคณา
เพราะว่ามีรูรั่วบนหลังคา
ผลงานจิตกรรมที่ห้อยอยู่บนเพดานเริ่มเบลอไปแล้วบางส่วน
ส่วนมุมกรอบที่แกะสลักก็เริ่มปริแตกออก มีข้อบกพร่องนับร้อยเกิดขึ้นแต่ว่ามหาวิหารและหอสมุดดูโดยรวมแล้วก็ดูยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ทีเดียว
“ไม่เลวๆ จริงๆแล้ว
คงจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ฝังประวัติศาสตร์และจารีตประเพณีลงไปหลังจากเวลาผ่านไปอย่างยาวนานกว่านี้แน่ๆ”
วีดยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มแบบสุดๆ
เพราะว่านี่เป็นสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่
มันก็คงจะกอบโกยเงินได้มากพอสมควร
พลังแห่งอันเดดของเขาเติบโตขึ้นอย่างมาก
ส่วนตำแหน่งของเขาตอนนี้ก็สูงยิ่งขึ้นไปอีกตามขั้นของกองทัพอันเดด ก็คือเดทไนท์นั่นเอง!
มันคืออันเดดขั้นสูงตามทักษะการต่อสู้ที่ถือได้ว่าแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้บัญชาการเลยทีเดียว
“ฮี่ฮี่
เดาว่าฉันคงจะได้รายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นแล้วสินะ”
เดทไนท์
วีด หัวเราะออกมาเสียงแหลมดูชั่วร้ายราวกับปีศาจภายในปราสาทของเขา
ในขณะที่มองไปทางมหาวิหารเฟรย่า
_______________________________________________________
“มาเริ่มบทโหมโรงได้แล้ว”
“จุดกองไฟได้!”
กองไฟถูกจุดขึ้นอยู่ภายในจัตุรัสแล้ว
ส่วนเหล่าจินตกวีก็เริ่มบรรเลงเครื่องดนตรีของพวกเขาเพื่องานเฉลิมฉลองการก่อสร้างมหาวิหารและหอสมุดที่เสร็จสมบูรณ์
งานได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืดมัวลง
แสงไฟและบทเพลงก็ทำให้เมืองโมราต้าดูงดงามยิ่งขึ้นไปอีก!
------------------------------------------------------------------------
ชาวเมืองแห่งเมืองโมร้าต้าได้เริ่มเทศกาลเฉลิมฉลองขึ้นแล้ว
-ชาวเมืองกำลังยกย่องวีรบุรุษของพวกเขา
วีด
-เกียรติยศทั้งหมดถูกยกให้กับลอร์ด
เพื่อกลุ่มทางศาสนา ความสงบสุขของสาธารณชนที่มั่นคง และผลผลิตด้านการบริโภคภายในทวีปทางตอนเหนือ
-พวกเขาไม่ได้รู้สึกกังขาเกี่ยวกับอนาคตอันสดใสของเมืองโมราต้าเลย
-อาชญากรรมภายในหมู่บ้านลงลดครึ่งหนึ่ง
-สถานบันการศึกษาเพื่อเด็กๆเพิ่มขึ้น
-อัตราการให้กำเนิดของชาวเมืองเพิ่มขึ้น
330% เป็นเวลาหนึ่งเดือน
-ชาวเมืองรู้สึกมีความสุข
พวกเขาจะได้ทำงานที่ดียิ่งขึ้น
-ท่านสามารถเข้าร่วมงานเทศกาลได้
--------------------------------------------------------------------------
มีการเฉลิมฉลองมากมายเกิดขึ้นทั่วทั้งเมืองโมราต้า
แต่ทว่าเหล่าผู้เล่นจากทวีปทางตอนกลางคิดว่างานเทศกาลที่เกิดขึ้นภายในเมืองนี้ช่างแปลกประหลาดอย่างมาก
เพราะว่าไม่มีสักที่เลยภายในทวีปแห่งนี้ที่ความภักดีและกำลังใจของชาวเมืองที่มอบให้กับลอร์ดจะสูงเสียดฟ้าขนาดนี้
ภายในจัตุรัสแห่งแสงและจัตุรัสปิงหลงที่ที่มหาวิหารและหอสมุดตั้งอยู่
มีผู้คนเข้ามาร่วมยินดีกันอย่างไม่ขาดสาย
“หมูป่ากับกวางย่างมาแล้ว”
พวกเขาย่างพวกมันในกองไฟ
โรยด้วยเกลือ แล้วก็แบ่งปันให้กับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ
“นั่นพวกคนที่พากันไปขนไม้นิ
มาๆมานี่เร็ว”
“โจ๊กหญ้า!
โจ๊กหญ้า!”
“พวกเราคือลัทธิโจ๊กหญ้าที่กำลังจะออกไปล่าเป็นกลุ่มภายในสองชั่วโมงนี้
ไม่จำกัดเลเวล ไม่จำกัดอาชีพ ใครที่อยากเข้าร่วม
มาที่ประตูตะวันออกหลังจากนี้สองชั่วโมงนะ”
ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆกำลังสังสรรค์อย่างสนุกสนาน
พวกพ่อค้ากลับอัดอั้นด้วยความรู้สึกเสียดาย
“ฉันควรจะซื้อที่ไว้ก่อนนะ…”
“ถ้าฉันสร้างสิ่งก่อสร้างในดินแดนทางฝั่งนี้
คงจะแจ็คพ็อตไปเลยแหะ ”
“ดินแดนแห่งนี้คงจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆแน่”
ขณะที่ผู้เล่นกับชาวเมืองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆภายในเมืองโมราต้า
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองนี้จะกลายเป็นผู้กุมอำนาจทางพาณิชย์ที่ยิ่งใหญ่ภายในทวีปทางตอนเหนือแน่ๆ
มันคงจะดีไม่น้อยสำหรับเหล่าพ่อค้าถ้าหากพวกเขามีพันธะสัญญาติดพันบ้างบนดินแดนแห่งนี้ใกล้เคียงกับมหาวิหารและหอสมุดแห่งนี้
แต่ก็เหลือแค่เพียงความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่เหลือค้างอยู่เท่านั้นเอง
เหล่านักบวชกับพาลาดินก็คงจะเข้ามาเยี่ยมเยือนมหาวิหารได้บ่อยๆ
ส่วนผู้คนที่เตรียมตัวจะออกไปผจญภัยกับทำภารกิจก็คงจะมาเยือนที่หอสมุดนี่บ่อยๆด้วยเช่นกัน
มันชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้วว่าผู้คนจะมาที่หอสมุดแห่งนี้เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจ
แผนที่ หรือแม้แต่ข้อมูลเกี่ยวมอนสเตอร์
“พวกเขาพูดว่า
ดินแดนแห่งนี้มีคนเป็นเจ้าของแล้ว ใครหน้าไหนกันที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้นะ?”
“ดินแดนนี่ก็เป็นไปในทางที่ดีมากนิ…”
ขณะที่เหล่าพ่อค้าต่างรู้สึกหดหู่สิ้นหวัง
ก็มีสิ่งก่อสร้างมากมายโผล่ขึ้นมาจากพื้นแบบปุบปับจากพื้นที่โล่งกว้างถัดจากมหาวิหารเทพีเฟรย่า
การสร้างเมืองได้แบบรวดเร็วนั้นอยู่ในโหมดการจัดการกิจการภายในประเทศ
คือสิ่งที่มีเพียงลอร์ดผู้ปกครองเมืองเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้!
ร้าน “อุปกรณ์นักบวชแห่งมหาวิหารแห่งแดนเหนือตำรับดั้งเดิม”
ร้าน “อุปกรณ์ของพาลาดินตำรับดั้งเดิม”
ร้าน “ของที่ระลึกแห่งมหาวิหาร”
เช่นกันที่สิ่งก่อสร้างอีกกลุ่มหนึ่งโผล่ขึ้นถัดจากหอสมุด
ร้าน “ของทั่วไปกับเคล็ดลับสำหรับนักผจญภัยก่อนเดินทาง”
ร้าน “การสำรวจดันเจี้ยน”
เจ้าของดินแดนก็คือ วีด
ผู้ที่รอคอยช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเพื่อเผด็จศึกนั่นเอง
-จบตอน-
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบถ้ามีวิชาบริหาร เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์และการปกครองเสมือนจริง วีดคงได้ A กันละ
ตอบลบขอบคุณ แอด และผู้แปล ทุกๆท่านเลยครับ
ขอบคุณครับ
ตอบลบลงทุนไปเยอะได้เวลาถอนทุนคืนบ้างล่ะ
ตอบลบซอยูนนี่สุดยอดนางเอก
ส่วนสกิลทะลุกำแพงนี่โคตรมหาโหดเลย
ขอบคุณมากครับแอด ตอนนี้สนุกจุใจเลยครับ อยากอ่านตอนต่อไปไวๆจังลุ้นๆ
ตอบลบถ้าจะขนาดนี้วีดน่าจะไปลงเรียนรัฐศาสตร์นะ
ตอบลบปล.ขอบคุณผู้แปลทุกท่านครับ
รู้สึกว่าตอนนี้แปลแปลกๆน่ะมีคนคิดเหมือนผมม่ะ555
ตอบลบ#ขอบคุณครับ
แปลแปลกยังไงคับ ติได้คับผมไม่ว่า เพราะก็แปลมาหลายตอนละ จะได้ปรับอะไรบ้าง
ลบขอบคุณมำหรับการแปล
ตอบลบนั่งฮาอยู่คนเดียว ในฉากที่ว่า เริ่มมีไอเท็มดีๆ ที่มีประโยชน์ ดร็อปออกมาแล้ว
ตอบลบรักเรื่องนี้
ตอบลบขอบคุณครับ
ลงทุน มหาวิหาร กับหอสมุด ล้างสมองชาวเมืองเรียบร้อยอิอิ
ตอบลบสวดยอกเลือย...ลวกเพี้ยยยย สนุกมาก!!!
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้อออ