เล่ม 22 ตอนที่
6: ประติมากรผู้ท่องเที่ยวทั่วทั้งทวีป แปลโดย Cole’s
Myth
-ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว…ส่วนปัญหาการพูดคุยของซอูนก็หายไปแล้วด้วย…
ซอยูนตัดสินใจที่จะไปทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเก็บเงิน
‘การหางานให้ได้นี่ไม่ง่ายเลย…งานแบบไหนนะ ฉันถึงจะทำได้?’
เพราะว่ามีคาบเรียน
งานพาท์ทไทม์ที่ง่ายที่สุดที่เธอสามารถทำได้ก็คงจะเป็นแคชเชียร์
ปัญหาเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือชีวิตอันโดดเดี่ยวของเธอทำให้การเข้าสังคมของเธอนั้นยากมากๆ
‘ฉันเดาว่า
ความจริงที่ผู้คนเปลี่ยนแปลงตัวเองและทำงานให้หนักขึ้นคงเป็นเพราะเงินนี่เอง’
หลังจากหมดคาบเรียน
เธอก็เขียนเรซูเม่และมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารที่จ้างพนักงานพาร์ทไทม์
ทางร้านจ่าย
5,300
วอนต่อชั่วโมงพร้อมโบนัสขึ้นอยู่กับพวกเขาขายได้มากแค่ไหน ซอยูนเอาเรซูเม่ของเธอออกมาให้กับผู้จัดการร้าน
ชื่อ: จอง ซอยูน
อายุ: 21
อาชีพ: นักศึกชั้นปีที่สอง มหาวิทยาลัยเกาหลี
ความสามารถ: ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น กฎหมายระหว่างประเทศ การบัญชี
บริหารธุรกิจ จิตวิทยา
ไม่เคยมีใครที่เข้ามาสมัครทำงานร้านอาหารด้วยเรซูเม่ที่น่าประทับใจขนาดนี้มาก่อน!
ผู้จัดการร้านหัวเราะออกไปขณะที่ถามเธอ
“เธอเคยทำงานในร้านอาหารมาก่อนไหม?”
“ฉันไม่เคยค่ะ
นั่นหมายความว่าฉันทำงานที่นี่ไม่ได้ใช่ไหมค่ะ?”
ผู้จัดการร้านรู้สึกเด็กขึ้นมาซัก
50
ได้ในตอนที่เขาได้ยินเสียงของซอยูน
‘โลกนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ’
นักศึกษามหาลัยสาวสวยกับน้ำเสียงไพเราะดุจดั่งนางฟ้า
เพียงแค่เสียงของเธอก็สามารถทำให้ใครยิ้มได้แล้ว
“เธอตั้งใจจะทำงานที่นี่นานแค่ไหนหรอ?”
เขาอยากให้เธอทำงานตลอดช่วงหยุดหน้าหนาวนี้จริงๆ
“ฉันมีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำนะค่ะ…แต่ฉันก็ยังอยากทำงานช่วงเย็นตลอดสัปดาห์เลยค่ะ”
เพราะว่าเรื่องของเรื่องงานนี้อยู่ที่การให้บริการ
ผู้คนมากมายสมัครมาทำงานที่ร้านอาหารนี่เป็นงานที่ได้มายากมากๆ
แต่ว่าในตอนนี้กลับมีข้อยกเว้น
“เธอเริ่มทำงานวันนี้เลยได้ไหม?”
ผ่านการสัมภาษณ์ทันทีทันใด!
การเริ่มงานครั้งแรกของซอยูนแบบปุบปับนั้นก็คือการต้อนรับแขกตรงทางเข้าของร้านอาหาร
“ยินดีต้อนรับค่ะ”
“ที่นี่ต้องรอนานไหม? เฮือก!”
ซอยูนก้าวออกมาจากคอมฟอรทโซน(Comfort
Zone)ของเธอเข้าสู่โลกใบใหม่(แอดมิน:เหมือนการก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของตัวเอง)
เป็นระยะเวลาอันยาวนาน
ที่เธอปิดตัวเองอยู่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและเรื่องรักๆใคร่
“ขอสเต็กเนื้อติดโครงกับสเต็กเนื้อสันนอกครับ”
“คุณอยากจะดื่มอะไรดีคะ?”
“น้ำส้มกับน้ำโซดาครับ”
เหล่าแขกที่เข้ามาทานอาหารต่างจับจ้องมองไปที่ซอยูน
พวกเขาไม่แม้แต่จะรับรู้รสชาติอาหารอันแสนแพงของพวกเขาเลย
‘สวยจัง สวยจัง
สวยจัง สวยจัง สวยจัง สวยจังเลย’
‘โอ ถ้าหากว่าเธอจะมองมาทางนี้สักครั้ง…’
==============================
“แม้ว่าจะกระพือเปลวไฟไปก็คงจะทำให้มันไหม้ไปหมดทันทีแน่ๆ
แต่เชื้อไฟก็ยังคงจะเหลืออยู่แหะ งั้นลองสร้างประติมากรรมแห่งไฟดูละกัน”
เพราะการเชื่อฟังคำสั่งสอนของเดย์แครม
วีดจึงสร้างเปลวเพลิงและควันไฟให้ปรากฏขึ้นมากลางอากาศ
“ทักษะประติมากรรมธรรมชาติ!”
เปลวไฟร่ายรำขณะที่เขาเคลื่อนมือของเขาไปมา
เขาอยู่ใกล้กับเปลวไฟนั้นมากจนทำให้เขาเหงื่อผุดและทุกๆครั้งที่เขาอยู่ใกล้มากเกินไปค่าพลังชีวิตของเขาก็ตกลงฮวบฮาบ
การแกะสลักเปลวไฟด้วยมือเปล่ามันช่างดูน่าประทับใจและยุ่งยากไปในเวลาเดียวกัน
“นิ่งไว้ๆ
ทักษะแกะสลักธรรมชาตินั้นมีประโยชน์หลายอย่างมากเลยนะ”
ในแต่ละครั้งที่เขาสัมผัสถูกเปลวไฟ
ค่าทักษะแกะสลักธรรมชาติของเขาเพิ่มขึ้นมากเอาการ
เมื่อเชื่อในความเข้มแข็งและความวิริยะอุตสาหะของตัวเขาเอง
เขาได้สร้างทั้งมังกรเพลิงหรือแม้แต่หมูป่ารมควัน
ประสิทธิผลของการควบคุมไฟนั้นแปรเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับระดับความใกล้ชิดธรรมชาติของแต่ละคน
ดังนั้นเพื่อที่จะเพิ่มค่าความใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้น
เขาจึงต้องสร้างจิตวิญญาณแห่งลมด้วยเช่นกัน (ผู้แปล: ทำไมยิ่งแปลไปละนึกถึงBigMom ในOne Piece นะ)
ซูมมมมม
ฟิ้ววววววว!
จิตวิญญาณแห่งลมนั้นสร้างขึ้นมาด้วยราคาย่อมเยาแถมมันยังดูท่าทางนิสัยลุยๆและฉลาดหลักแหลมด้วย
วีดยังคงสร้างผลงานของเขาต่อไปเรื่อยๆเพื่อที่จะฟื้นค่าสถานะทางศิลปะที่เสียไปกลับคืนมาและก็พยายามที่จะเพิ่มความชำนาญของทักษะอีกด้วย
พลังอันเดดลดลงไปเหลือ
190 แต้มแล้ว
“หน้าต่างข้อมูลภารกิจ!”
คำเรียกขานของบัลข่าน
บัลข่าน
ลอร์ดแห่งเหล่าอันเดดได้เรียกขานหาท่าน
อันเดดทุกตนต้องทำตามคำสั่งของเขา
เวลาที่เหลือ: 46 วัน
ความยากของภารกิจ: C
รางวัล: จะสามารถปลดล็อคบทแรกของภารกิจต่อเนื่องได้
แม้ว่าจะเหลือเวลาไม่มากแล้ว
แต่วีดก็ยังตัดสินใจที่จะตั้งหน้าตั้งตาสร้างประติมากรรมแห่งธรรมชาติต่อไป
เพียงแค่สร้างประติมากรรมมากมายจากธรรมชาติที่หลงเหลืออยู่นั้น
มันกลับไม่เพียงพอที่จะทำให้ทักษะประติมากรรมธรรมชาติพัฒนาได้เลย
วีดที่อยู่ภายในเทือกเขาเดบการ์ดดินแดนที่มีต้นไม้มากมาย
หมู่นก และท้องฟ้าสีคราม ห่างไกลออกไปจากเทือกเขาก็มีทะเลสาบและแม่น้ำหลายสายด้วยเช่นกัน
ถ้าหากว่าคุณมุ่งหน้าไปที่เทือกเขาสีเทานั้น
คุณก็จะสามารถประจักษ์ถึงความใหญ่โตมโหฬารของเทือกเขาเหล่านั้น
มันคือสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติจากสรวงสวรรค์
“ประติมากรรมที่สร้างจากธรรมชาติงั้นหรอ…..”
วีดนึกหวนกลับไปถึงความยากลำบากทั้งหมดที่เขาได้อดทนอดกลั้นระหว่างการผจญภัยที่มาไกลถึงขนาดนี้
เขาต้องทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็นในดินแดนเหนือ
วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายในฐานะออร์คภายในเทือกเขายูโรกิในดินแดนทางตะวันออก
แล้วก็ยังไม่เคยอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานานๆ
เขาไม่เคยออกล่าอยู่ตรงที่เดียวเป็นเวลานานมากนัก
การได้พบเจอถึงมวลธรรมชาติมากมายหลายแขนงก็ช่วยให้เขาสามารถสร้างประติมากรรมขึ้นมาได้
สายน้ำ
สายลม ผืนดิน หมู่เมฆ น้ำแข็ง เปลวไฟ ใบหญ้าและดอกไม้
การได้เข้าใจถึงความทรงจำทั้งหมดเหล่านั้น
เขาจึงได้สร้างพวกมันแต่ละอย่างกลายเป็นประติมากรรมมาแล้วทั้งสิ้น
พืชที่เติบโตอยู่ข้างๆหินก้อนใหญ่ก็สามารถกลายมาเป็นประติมากรรมได้
น้ำที่หลั่งไหลลงมาอย่างรุนแรงผ่านหุบเขาลึกก็สามารถกลายเป็นประติมากรรมได้เช่นกัน
ในขณะที่เขาสร้างสรรค์ประติมากรรมจำนวนมากด้วยการใช้พลังของธรรมชาติภายในเทือกเขาเดบการ์ด
เดย์แครมก็ให้คำแนะนำหนึ่งกับเขา
“มันไม่เพียงพอที่จะมัวแต่แกะสลักมวลวัตถุ
เจ้าต้องแกะสลักธรรมชาติอย่างที่มันเป็นต่างหาก”
วัตถุที่ถูกใช้ไปนั้นไม่ใช่เพียงสิ่งๆเดียวที่เป็นวัสดุที่นำไปใช้ในการสร้างผลงานทางศิลปะ
ในตอนที่เขายิ่งสร้างมากขึ้นเท่าไร
เขาก็เริ่มเห็นถึงความจริงมากขึ้นเท่านั้น
การแกะสลักก็คือเส้นทางแห่งความคิดของเขานั่นเอง
จงรวบรวมใบไม้ที่ร่วงหล่นมาสร้างต้นไม้
จงปลูกต้นไม้ที่ถูกแผดเผาด้วยไฟป่า (ผู้แปล: ปรัชญาได้อี๊ก)
ยิ่งเขาแกะสลักธรรมชาติมากเท่าไร
ความชำนาญของเขาก็ยิ่งเติบโตเร็วขึ้นมากเท่านั้น
จากนั้นวันหนึ่ง
เดย์แครมก็มีท่าทางว่าจะเข้ามาพูดกับเขา
“ดูเหมือนว่าข้าจะสอนเจ้าถึงการแกะสลักธรรมชาติพื้นฐานมามากเพียงพอแล้ว
การแกะสลักคือเส้นทางที่จะเข้าถึงตัวเจ้าเอง ข้าจึงไม่มีอะไรจะสอนเจ้าอีกแล้ว”
ตริ้ง!
ท่านสำเร็จภารกิจ
“คำสอนสั่งของเดย์แครม” แล้ว
ปรมาจารย์เดย์แครมได้สิ้นสุดการสั่งสอนประติมากรผู้ที่เป็นลูกศิษย์ของเขาแล้ว
เขายอมให้ลูกศิษย์ของเขาคิดว่าเขาเป็นประติมากรที่แสนวิเศษและสอนทุกๆอย่างให้กับเขาที่เขาสามารถทำได้แล้ว
แต่เขาก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่
“เส้นทางการแกะสลักของทวีปแห่งนี้นั้นช่างมืดมนยิ่งนัก
พรสวรรค์ในการแกะสลักมากมายได้หายสาบสูญไป”
-ท่านไม่ได้รับคำสอนของเดย์แครมอันพึงไม่เหมาะสม
ค่าชื่อเสียงลดลง 580 แต้ม
เดย์แครมพูดอีกเล็กน้อยในตอนแรก
แต่ในที่สุดเขาก็ได้แค่มองอยู่ข้างๆแล้วก็ไม่ขัดอะไรอีกเลย
การให้ลูกศิษย์ใช้จินตนาการของพวกเขาเองคือส่วนที่สำคัญที่สุดของการสอน!
วีดคุ้นเคยพอกับการยัดเยียดการศึกษาแบบนี้จนถือว่าเขาสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับเรื่องนี้ได้เลย
ในตอนนี้เขาเติบโตและเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้นแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในส่วนหนึ่งของชีวิตเขามาก่อนเลย
‘ฉันอาจจะใหม่กับเรื่องพวกนี้
แต่ในภายภาคหน้าในตอนที่ทักษะพัฒนาแล้ว ฉันจะสามารถควบคุมพลังอำนาจแห่งธรรมชาติได้!’
ตอนนี้ทักษะการแกะสลักธรรมชาติอยู่ที่ขั้นกลางเลเวล
2!
เป็นครั้งแรกที่วีดยอมกัมหัวของเขาลงด้วยความเคารพ
“ข้าได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากท่านอาจารย์ของข้า”
จากนั้นเดย์แครมก็พูดออกมา
“เมื่อใดก็ตามที่เจ้าจากไป
อย่าบอกว่าเจ้าได้เรียนรู้ทักษะนี้มากจากข้า มันช่างน่าละอายใจยิ่งนัก”
“ข้าเข้าใจครับ เช่นนั้น
ตอนนี้ท่านจะสอนทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติ (Great Disaster Scupting)ให้ข้าได้หรือยังครับ?”
“แล้วเจ้าตระหนักถึงพลังที่แท้จริงของธรรมชาติได้หรือยังล่ะ?”
“ข้ายังไม่เข้าใจครับ
แต่ขอเวลาให้ข้าซักหน่อยเถอะแล้วข้าจะเข้าใจมันได้แน่ๆครับ”
“’งั้นนี่ก็สำหรับเจ้า
ครั้งหนึ่งที่เจ้าได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของธรรมชาติ
เจ้าก็จะสามารถเรียนรู้เคล็ดลับของข้าได้”
-ท่านได้รับงานแกะสลักไม้ของท่านเดย์แครม
การมีงานสลักไม้ของเดย์แครมจะทำให้ผู้ถือครองเพิ่มเลเวลทักษะของพวกเขาให้เร็วยิ่งขึ้น
“ท่านเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ข้าจะจดจำไปชั่วชีวิต”
‘ฉันต้องระวังคำพูดคำจาของฉันเอาไว้
ถ้างั้นฉันก็ไม่ต้องสัญญาว่าจะเอารางวัลมาให้เขา’
“เจ้าจะออกไปเดินทางท่องเที่ยวทั่วทั้งทวีปหรือ?”
“ข้าต้องทำเช่นนั้นครับ
ข้าต้องเดินบนเส้นทางของศิลปินและเยียวยาความเจ็บปวดเหล่านั้นจากพวกคนชั่วช้า!”
วีดออกล่าและหาเงินไปเรื่อยๆขณะที่เขาท่องไปทั่วทั้งทวีปเวอร์เซล
เขาคิดกับตัวเองว่า
แม้ว่าฉันจะอยู่ในดินแดนเหนือ แต่ก็มีสถานที่อีกมากมายที่ฉันยังไม่ได้ไปเยือน
ฉันต้องตามหาพวกดันเจี้ยนและเก็บไอเท็มทั้งหลายมาให้ได้
จากนั้นเขาก็หวนนึกถึงการพูดคุยครั้งสุดท้ายกับเดย์แครม
“ในตอนที่เจ้าออกไปท่องในสถานที่ต่างๆนาๆ
จงจดจำไว้เสมอว่าจะต้องพัฒนาทักษะการแกะสลักของเจ้าให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“แน่นอนครับ
ข้าจะทำงานอย่างหนักด้วยการแกะสลักต่อไปเรื่อยๆตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าเลย”
“ใช่แล้วละ
เจ้าควรจะทำเช่นนั้น”
ในขณะที่เดย์แครมเหม่อมองไปบนท้องฟ้า
วีดก็ใช้ทักษะของเขา
“ตรวจสอบ!”
มันเป็นสิ่งสำคัญเสมอที่คุณจะต้องตรวจเช็คไอเท็มที่คนอื่นเอาให้คุณ
ยิ่งในกรณีที่สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่มันน่าจะเป็นหรือน่าไว้ใจนัก…
ประติมากรรมไม้: ความคงทน 1/1
เดย์แครมแกะสลักผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อสอนทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติ
แต่เพื่อที่จะเรียนทักษะนั้นได้คนๆนั้นต้องรู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของธรรมชาติซะก่อน
ข้อกำหนด: ทักษะแกะสลักธรรมชาติขั้นกลางเลเวล 6
‘ผลงานที่บรรจุเคล็ดลับของทักษะการแกะสลักมหาภัยพิบัติงั้นหรอ’
หลังจากที่วีดหยิบผลงานชิ้นนั้นไปไว้แล้ว
เดย์แครมก็ให้ของขวัญอีกชิ้นกับเขา
“เจ้าควรจะได้สิ่งนี้ไปด้วยเช่นกัน”
เดย์แครมหยิบสสารลึกลับสีครามเหมือนท้องฟ้าส่องแสงแวววาวชิ้นหนึ่งออกมา
“เจ้าอาจจะรู้อยู่แล้วว่าไอเท็มชิ้นนี้พบได้เฉพาะในเขตลาส
ฟาลังคซ์เท่านั้น แต่เพราะว่าเจ้าจำเป็นต้องใช้ความร้อนอย่างมาก
และมันขัดกับการที่ต้องตัดต้นไม้มาก่อไฟ ข้าจึงไม่เคยได้ใช้มันเลย”
ฮีเลียมงั้นหรอ!!!
“ท่านจะให้ไอเท็มแสนล้ำค่าขนาดนี้กับข้าได้อย่างไรกัน?
ท่านเดย์แครมสามารถสร้างประติมากรรมอันน่าทึ่งได้ด้วยสิ่งนี้แน่ๆ”
การกระทำของวีดนั้นกลับขัดแย้งกับสิ่งที่เขาคิด
ในขณะนั้นเองที่มือของเขาพุ่งออกไปเร็วเสียยิ่งกว่าตอนที่ต่อสู้เสียอีก
-ท่านได้รับฮีเลียมแล้ว
แหล่งกำเนิดมานา
ถ้าจะให้พูดถึงฮีเลียมนั้นถือว่าแพงสุดๆ
และแล้วตอนนี้ฉันก็ได้มันมาแล้ว
“จงสร้างสรรค์ประติมากรรมที่ยอดเยี่ยมออกมาให้ได้”
“ข้าจะทำให้ดีที่สุดครับ”
“’งั้นก็เดินทางปลอดภัยนะ”
==============================
“นี่เงิน 340,000 วอนสำหรับการทำงานหนักทั้งสัปดาห์ของเธอจ๊ะ”
ในขณะที่การเก็บเงินมาด้วยเงินค่าจ้างอัตราปกติ
ซอยูนก็สามารถเก็บเงินได้มากขึ้นทีละเล็กทีละน้อยแล้ว
ซอยูนได้รับเงินโบนัสมากพอตัวเพราะว่าเธอทำงานระหว่างช่วงเย็นที่มีคนแน่นร้าน
แม้ว่าผู้จัดการหวังที่อยากจะให้เธออยู่ต่อนานกว่าหนึ่งสัปดาห์แต่เธอก็ยังจะออกอยู่ดี
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันหาเงินมาได้ด้วยตัวเอง”
ซอยูนหยิบเงินของเธอออกมาจากซองกระดาษและนับเงินทุกๆวอนอย่างใจจดใจจ่อ
ขณะที่ต้อนรับบรรดาลูกค้าด้วยความสดใส
เชิญพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะ และบอกให้ลูกค้าคนอื่นรอคิวของพวกเขา
เธอก็ได้เรียนรู้ว่าเธอสามารถหาเงินมาได้ด้วยการทำให้ผู้คนมีความสุขได้
ขณะที่เธอทำงานเธอก็ได้เห็นครอบครัว
เพื่อนฝูง และคู่รักได้พูดคุยกันอย่างรักใคร่จนทำให้หัวใจของเธอสุขใสมากขึ้น
“การทำงานนี่ก็สนุกได้จริงๆสินะ”
แถมเธอยังเคยแอบหยิบอาหารมาตอนที่พนักงานไม่ได้มองอยู่อีกด้วย
ในตอนแรกเธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
แต่ว่าเธอได้มาทำงานต่อไปเรื่อยๆแบบนี้เธอก็รู้สึกว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปแล้ว
“ด้วยเงินนี่
ฉันจะสามารถซื้อเครื่องปรุงอาหารทั้งหมดได้”
ลีฮุนได้บอกเธอว่ามันต้องใช้เวลานานมากที่จะหาเงินมาได้จากการทำงานพาร์ทไทม์
ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะลองขายข้าวกล่องดูบ้าง
ซอยูนตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าแล้วก็ออกไปจ่ายตลาด
“คุณหนูคนสวยจ๊ะ
ฉันจะช่วยหาอะไรให้เธอได้หรือ?”
คุณลุงขายของมักจะให้เนื้อและผักกับเธอมากเป็นพิเศษในตอนที่เธอซื้อของจากพวกเขา
จากนั้นเธอก็หุงข้าวและทำเครื่องเคียง
เธอบรรจุใส่กล่องอาหารพลาสติกอย่างพิถีพิถันพร้อมกับคงนัมมัลกุค (ซุบถั่วงอกใส่ผงปลาแห้ง(dashi))ที่อยู่ภายในกระติกน้ำร้อน
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องออกไปหาเงินละ”
ซอยูนแบกกระเป๋าหนักๆด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ
เธอนั่งรถประจำทางและไปที่ถนนแถวๆย่านที่ตั้งบริษัทหลายๆแห่ง
เธอรู้สึกเพลียๆจากการที่ต้องตื่นมาตั้งแต่เช้า
แต่ว่าความคิดของเธอตั้งเป้าไปที่ขายข้าวกล่องให้ได้
ซอยูนปักหลักอยู่บริเวณตรงที่ถัดจากตึกสูงแล้วก็เอาข้าวกล่องออกมาจากกระเป๋าและตั้งพวกมันเป็นชั้นๆอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทันใดนั้นเองก็มีเหล่าพนักงานบริษัทที่กำลังดื่มกาแฟของพวกเขาอยู่เร่งรีบไปทำงาน
แต่ก็ต้องหยุดทันทีที่พวกเขามองเห็นเธอ
สวยจัง!
‘อ๊า ช่างเหมือนกับนางฟ้า
ทำไมผู้หญิงแสนสวยอย่างนี้ถึงได้มาอยู่ที่นี่…’
‘วันนี้โชคดีจริงๆ
ถึงแม้ว่าหัวหน้าทีมจะด่า ฉันก็มั่นใจว่าจะทนรับมันเอาไว้ได้’
นั่นเป็นปฏิกิริยาที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวหลังจากที่ได้เห็นซอยูน!
ซอยูนเคยเป็นคนขี้อายและแข็งทื่อ
เธอจึงมักจะหลบการสบตากับผู้คน
เธอเริ่มที่จะหลบผู้คนจากจิตใต้สำนึกของเธอ
แต่ท่าทีนิ่งๆของเธอก็ได้เปลี่ยนไปแล้วหลังจากที่เธอได้เจอกับลีฮุน
ความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้ที่เหล่าผู้ชายได้รู้สึกหลังจากที่เห็นการแสดงออกทางใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอนั้นมากพอที่จะทำให้พวกเขาคลั่ง!
เหล่าพนักงานบริษัทเห็นกล่องข้าวแล้วจากนั้นก็ตรงดิ่งเข้าไปหาเธอ
“เธอขายนี่หรอจ๊ะ?”
“ใช่ค่ะ”
คำตอบสั้นๆของซอยุนสะกดจิตเหล่าพนักงานออฟฟิตวัย
30
ได้อย่างจัง
“เท่าไรหรอครับ?”
“อ่อ มัน…”
เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเพราะว่าเธอไม่เคยคิดว่าราคาเท่าไรถึงจะเพียงพอที่จะสร้างกำไรให้เธอได้
“ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราคาที่จะขายเลยนะค่ะ”
“จริงหรอ? งั้นซัก
6,000 วอนเป็นไง?”
หากจะพูดให้เหล่าผู้ชายเหล่านั้นยอมเปิดกล่องอาหารกลางวันนั้นให้ได้
ก็ต้องยอมให้ราคาข้าวกล่องนั้นถูกพอ แต่ก็ยังเป็นราคาที่จะผลิตกำไรให้เธอมากเอาการอยู่ดี
“ฉัน เอ่อ
ฉันตกลงกับราคานั้นค่ะ”
“นี่ครับ พวกเราเอาสามกล่องนะ”
เหล่าพนักงานออฟฟิตจ่ายเงิน
20,000
วอนและรับเงินทอน 2,000 วอนของพวกเขาคืนมา
ส่วนบรรดาพนักงานออฟฟิตคนอื่นๆก็เริ่มตั้งแถวซื้อข้าวกล่องของซอยูน
รสชาติของอาหารนั้นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อพวกเขาจะได้ซื้อข้าวกล่องนั้น แม้ว่าข้าวกล่องพวกนั้นจะใส่ไว้เพียงแค่ซอสถั่วกับน้ำพริกเผาเผ็ดๆก็ตาม!
แต่ถึงจะพูดไปเช่นนั้น
ข้าวกล่องที่เปิดออกมานั้นกลับเป็นเครื่องเคียงที่จัดแต่งอย่างพิถีพิถันแถมยังรสชาติดีจนทำให้เหล่าพนักงานบริษัทต่างยิ้มออกมา
“เธอทำทั้งหมดนี่ด้วยตัวเองเลยหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
“มันคงต้องหนักมากแน่ๆที่ต้องทำข้าวกล่องมากมายขนาดนี้…”
ซอยูนคือหญิงในฝันของชายทุกๆคน
ทั้งสวย
อ่อนโยน ทักษะการทำอาหารอันยอดเยี่ยม แถมยังสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเธอเองได้
ไม่มีอะไรอีกแล้วที่พวกเขาจะสามารถขอได้จากเหล่าหญิงสาว
พวกเขาทั้งหมดต่างตกอยู่ในภวังค์ที่พวกเขาได้มาพบกับเธอในยามเช้าเช่นนี้
“นี่มันอร่อยจริงๆนะ
พรุ่งนี้เธอจะมาที่นี่อีกไหม?”
“อาจจะมาค่ะ”
เหล่าพนักงานออฟฟิตยืนรุมล้อมเธอขณะที่พวกเขาทานอยู่
แม้ว่าพวกเขาจะทานเสร็จแล้วแต่พวกเขาก็ไม่ยอมไป
พวกเขาไม่สนใจหากว่าพวกเขาเข้างานสายแล้ว
พวกเขาแค่อยากจะเห็นเธออีกซักหน่อยก็ยังดี
นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำไมพวกเขาถึงได้อ้อยอิ่งนานขนาดนี้
“ผมขอเพิ่มอีกสองกล่องนะครับ”
แม้ว่าเหล่าพนักงานออฟฟิตทั้งหลายจะรู้สึกอิ่มจากข้าวเช้ามาแล้วก็ตาม
พวกเขาก็ยังสั่งข้าวกล่องเพิ่มอีกสองกล่อง
‘ฉันจะทานนี่เป็นทั้งข้าวเที่ยงกับข้าวเย็นไปเลย’
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กินเพราะหิว
แต่หลังจากได้เห็นหน้าเธอมันก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
‘ฉันไม่สนหรอกว่าจะต้องจ่ายเงินไปมากซักแค่ไหน
ตราบเท่าที่ฉันได้เห็นความงดงามของเธอ’
พวกเขาไม่สนว่าคำตำหนิแบบไหนที่พวกเขาจะได้รับในตอนที่พวกเขาเข้าไปที่ทำงานของพวกเขาแล้ว
พวกคิดเพียงแต่ว่าถ้าพวกเขามีแฟนเหมือนกับซอยุน
พวกเขาก็จะสามารถจัดการเรื่องกวนใจในการทำงานได้เสมอ
แม้ว่าเหล่าพนักงานออฟฟิตถูกตำหนิตลอดทั้งสัปดาห์แต่พวกเขาก็ยังคงมีความสุขอยู่ดี
นอกเสียจากปัญหาเล็กๆอีกอย่างหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้เลย
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นเขตธุรกิจที่เต็มไปด้วยบริษัทมากมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อาจจะผ่านมาเจอเธอเช่นกัน
“มีคนตั้งแถวอยู่มากมายเลย
ต้องมีคนกำลังขายบางอย่างแน่ๆ ไปกันเถอะ ขับไปหาพวกเขากัน”
(T/N: ปกติตำรวจจะเพียงแค่ไล่พวกนักต้มตุ๋นออกไปหรือไม่ก็ไล่คนที่ขวางทางเดิน
ดังนั้นพวกเขาอาจจะไปไล่เธอออกไปด้วยเพราะว่าเธอขวางทางเดินผู้คน)
เหล่านายตำรวจจึงเร่งขับไปตรงนั้น
แต่ก็กลับไปหลังจากตำรวจแต่ละคนได้กินข้าวกล่องคนละกล่องแล้ว (5555+)
ยามเช้าอีกวันที่ซอยูนหมดเงินเหรียญที่จะใช้เป็นเงินทอน
แล้วก็มีลูกค้าใหม่คนหนึ่งที่กำลังรีบจึงได้ตระโกนด่าออกไป
“โอ้ยยย
เธอมาขายที่นี่ได้ยังไงโดยไม่มีเงินทอนนะ? ฉันต้องรีบๆกินแล้วก็กลับไปทำงานนะ!
เธอนี่ไม่รู้จักเตรียมตัวเอาซะเลย
ถ้าเธออยากได้เงินจริงๆก็ไปทำงานอยู่ในบาร์แทนไป๊”
ซอยูนรู้สึกตกใจจากการระเบิดความโกรธและแสนเย็นชานั้น
แต่ปัญหานั้นก็แก้ได้ด้วยเวลาน้อยกว่าสองวินาทีซะอีก
ด้วยเวลาต่ำกว่าสองวินาทีนั้น
สถานการณ์นั้นก็ถูกแก้ไขได้อย่างหมดจด
“ไอ้บ้านั่นเป็นห่าอะไรว่ะ?!”
“เอามันออกไป!”
“เราฆ่ามันได้มั้ย?”
ก่อนที่เหล่าลูกค้าชายหนุ่มจะเข้ามาจัดการเขา
ก็มีเสียงหนึ่งดังออกมา
“คุณลีชุนจิน”
“อ่ะ ครับ?”
นั่นก็คือผู้บริหารและผู้จัดการทั่วไปของบริษัทที่กำลังยืนต่อแถวอยู่นั่นเอง
==============================
“ไววัน ไปกันเถอะ!”
วีดขี่ไวเวิร์นออกจากเทือกเขาเดบการ์ดไป
“ตรวจสอบ!”
ฮีเลียม: ค่าความคงทน 3,000/3,000
แร่โลหะที่ถูกเรียกว่า
น้ำตาแห่งเทพเจ้า
แหล่งกำเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์และมานาที่ไร้ขีดจำกัด
สามารถใช้หลอมอาวุธ
ชุดเกราะ และประติมากรรมได้
ข้อจำกัด: ต้องการเตาหลอมระดับสูงเพื่อที่จะหล่อแร่ได้
ต้องการทักษะแกะสลักขั้นสูงเลเวล
6
เพื่อที่จะหล่อหลอมให้กลายเป็นอาวุธและชุดเกราะได้
จึงต้องการทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวล 8
เนื่องจากฮีเลียมนั้นไม่ใช่วัตถุธรรมดาทั่วไป
มันจำเป็นต้องใช้เตาหลอมด้วย
“เดาว่าฉันคงต้องไปกลับไปใช้เตาหลอมที่โมราต้าสินะ”
วีดพูดกับตัวเอง เพราะว่ามันต้องใช้ทั้งเตาหลอมขนาดใหญ่และก็ต้องหลอมเหลวมันอย่างพิถีพิถันอีกด้วย
มันจำเป็นจะต้องใส่เข้าไปในเตาหลอมขนาดใหญ่ด้วยความร้อนที่สูงอย่างคงที่
แต่ว่าแร่ฮีเลียมก็มีคุณสมบัติคล้ายๆกับทองคำและต้องหลอมเหลวอย่างระมัดระวัง
“ฉันคงต้องตั้งใจจัดการกับเรื่องนี้ซักพักก่อนละกัน”
แม้ว่าเขาตั้งใจที่จะไปจัดการกับแร่ฮีเลียมนี้ซักพักหนึ่ง
แต่ตอนนี้ทักษะแกะสลักของเขายังอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 7อยู่เลย
ดังนั้นเขาจึงสร้างประติมากรรมแห่งไฟมากมายอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักของเขาให้ได้
ไม่นานนักทักษะการแกะสลักขั้นสูงก็ไปขึ้นถึงเลเวล
8 ได้แล้ว
แม้ว่าการพัฒนาจะเป็นไปอย่างเนิบช้า
แต่เขาก็ยังคงตัดสินใจที่จะรอจนกว่าเขาจะสามารถใช้วัสดุหายากด้วยการเพิ่มระดับทักษะของเขาเอง
“เร็วเข้าสิเจ้าทักษะแกะสลัก
ฉันอยากจะเรียนรู้ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติแล้วนะ”
วีดไม่สนใจที่จะออกล่าและออกสำรวจเลย
ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาแกะสลักอย่างเดียว
ทักษะแกะสลักธรรมชาติต้องใช้เวลาอย่างมากเพื่อที่จะเรียนรู้ให้ได้
แล้วยิ่งยากเข้าไปใหญ่เมื่อต้องทำให้เลเวลเพิ่มขึ้น
‘ฉันแทบจะรอที่จะได้เรียนทักษะแกะสลักอย่างที่5ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วนะ’
“ไปให้ถึงส่วนลึกของเทือกเขาสีเทานั่นกันเถอะ”
‘ไม่มีคำพูดไหนบอกไว้หรือไงว่าแม้แต่หมาบ้านก็สามารถเรียนรู้กลอุบายใหม่ๆได้หลังจากผ่านไปแล้ว
3 ปีน่ะ?’
นี่หมายความว่าสิ่งนี้มันสำคัญยังไงที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยแบบนี้
วีดเข้าไปอยู่ในเทือกเขาที่อยู่ใกล้ๆกับหุบเขาลึกเพื่อสร้างประติมากรรมของเขา
เขาฝึกฝนทักษะของเขาด้วยการใช้น้ำและดินในการสร้างประติมากรรม
ตอนนี้ทักษะแกะสลักธรรมชาติอยู่ที่ขั้นกลางเลเวล
3 แล้ว
ในตอนกลางคืน
เขาสามารถได้ยินเสียงของมอนสเตอร์ดังก้องกังวานในขณะที่พวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ข้างนอก
มีแม้กระทั่งสายลมพัดกรรโชกรุนแรงและฝนตกลงมาอยู่เนืองๆ
เมื่อใดที่ภูเขาเงียบสงัด
เมื่อนั้นก็คือตอนที่เหล่ามอนสเตอร์จะออกมา
“แต่ฉันก็ยังคงต้องสร้างประติมากรรมต่อไป”
เขาเหลือเวลาอีก
43วันจนกว่าจะถึงกำหนดภารกิจของบัลข่าน
ทันใดนั้นยูรินก็กระซิบหาเขาขณะที่เขากำลังแกะสลัก
-พี่คะ
พี่กำลังทำอะไรอยู่หรอ?
วีดกำลังแกะสลักนางเงือกจากก้อนหินและน้ำ
เขาพบว่าการแกะสลักประติมากรรมหลายๆแบบด้วยค่าความใกล้ชิดธรรมชาติสูงอย่าง
เอลฟ์ ภูติ และนางเงือกจะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า
เผ่าพันธุ์มนุษย์
คนแคระ คนเถื่อนไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักในตอนที่แกะสลักประติมากรรม
แม้ว่ามันจะถูกแกะสลักเสร็จไปแล้ว แต่ผลลัพธ์ตอนสุดท้ายก็ยังไม่น่าพอใจอยู่ดี
-พี่กำลังแกะสลักประติมากรรมอยู่น่ะ
เธออยู่ไหนหรอ?
-หนูอยู่ที่ภูเขาบาร์เดมนะค่ะ
-เธอไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง?
-หนูได้ยินมาว่าทิวทัศน์ที่นี่สวยมาก
หนูก็เลยออกมาวาดภาพที่นี่น่ะค่ะ
เธอใช้ทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายเพื่อท่องไปทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลอย่างอิสระ
ทันใดนั้นเองความคิดหนึ่งก็ปิ้งขึ้นมาในหัวของวีด
‘มีภูเขาใหญ่ๆและทะเลสาบกว้างใหญ่มากมายบนทวีปเวอร์เซล
ถ้านายสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนสถานที่แห่งนั้น
นั่นก็เป็นหนทางที่จะทำให้ค่าประสบการณ์สูงขึ้นก็ได้’
ทักษะแกะสลักธรรมชาตินั้นอาศัยสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติอย่างมาก
ดังนั้นมันไม่ใช่ความคิดที่แย่เลยที่จะท่องไปทั่วทวีปและแกะสลักไปด้วย
ภูเขาบาร์เดมแห่งราชอาณาจักรมาเซ็น
ทัศนียภาพของเมืองหลวงที่ปรากฏแก่สายตา
พวกเขาได้เห็นปราสาทของผู้เริ่มเล่นและที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาล
ช่างเป็นสถานที่ที่สวยงามมากจริงๆ
ด้วยความช่วยเหลือของยูรินเขาจึงสามารถไปถึงที่นั่นได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่วีดไปถึงเขาก็ได้เห็นผู้เล่นมากมายที่เข้ามาเล่นเกมส์
‘พวกชนชั้นกลางสินะ’
ดินแดนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดนั้นก็ยังคงเป็นอาณาจักรโรเซนไฮม์
เมื่อเทียบกับผู้เล่นในเมืองโมราต้า เลเวลที่สูงมากของพวกเขานั้นเทียบไม่ได้เลย
หนึ่งในสามของเหล่าผู้เล่นเหล่านั้นมีเลเวลมากกว่า
200
ซะอีก!
แถมก็มีผู้คนอีกมากมายสวมใส่อุปกรณ์เลเวล
300
ด้วยเช่นกัน
“สงครามไม่เคยสิ้นสุดหรอกนะ”
“ข้าคิดว่าพวกเขาคงพยายามที่จะจบมันให้ได้ในครั้งนี้นี่แหละ”
“ทหารตายไป 30,000 นาย มีผู้คนล้มตายมากขนาดนั้นจริงน่ะเหรอ?”
“พวกเขาถูกลอบสังหารขณะที่ติดกับดักอยู่ภายในปราสาท
จิตวิญญาณของพวกเขาต้องแตกสลายไป แถมยังมีกองกำลังทหารหนีจากไปมากมายอีกด้วย”
ข่าวสงครามจากทวีปกลางนั้นไปไกลถึงแม้แต่ที่ๆเป็นภูเขาอย่างบาร์เดม
“รับจ้างวาดรูปคนสิ
รูปคู่รักจะทำให้นึกถึงความทรงจำที่เต็มไปด้วยความรักใคร่”
ยูรินหาเงินได้ขณะที่เธอวาดภาพให้คนอื่นๆ
ภาพวาดที่เหมือนดั่งเทพนิยายเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสีสันดูเก๋ไก๋มีสไตล์
เธอจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่น
วีดนั่งลงบนพื้นและเตรียมตัวพร้อมแกะสลัก
เขาจงใจสวมเสื้อผ้าเก่าๆนั่นจึงทำให้เขาไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เล่นคนอื่นๆ
‘ฉันจะลองแกะสลักปราสาทแห่งเหล่ามือใหม่ดู(Novice
Castle)’
น้ำกับดินที่ถูกผสมเข้าด้วยกัน
กลายเป็นแป้งโดอยู่ภายในอุ้มมือของเขา
เขาก่อโคลนขึ้นมาเป็นรูปร่างของภูเขาแล้วใช้ดินเกลี่ยออกเป็นลานกว้างขนาดใหญ่
ปราสาทแห่งเหล่ามือใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันด้วยมือคู่นี้ของเขา
มันใช้เวลาไปถึงสี่ชั่วโมง
แต่ว่าสนามหญ้า ถนน ตลาด รถม้า
และประชาชนของกษัตริย์ก็ถูกก่อตัวขึ้นมาด้วยรายละเอียดที่ประณีตสวยงาม
เหล่าผู้เล่นกำลังรอให้ยูรินวาดภาพให้
และแม้แต่เหล่านักท่องเที่ยวก็เริ่มมุ่งความสนใจไปที่ประติมากรรมของวีด
ขนาดของประติมากรรมนั้นมีขนาดพอๆกับที่บรรทมของราชินี
แถมมันยังเป็นแบบจำลองที่ละเอียดตามสภาพแวดล้อมของปราสาทแห่งเหล่ามือใหม่ (Novice
Castle)
แม้แต่สวนสาธารณะที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ก็ถูกแกะสลักรวมเข้าไปด้วย
มีแม้กระทั่งรูปจำลองของยูรินที่กำลังวาดภาพอยู่และวีดที่กำลังแกะสลักอยู่
“ดูนั่นสิ
แกะสลักออกมาได้ดีจนน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
“ฉันว่าเขาเป็นประติมากรนะ”
ในบางครั้งเขาก็จะจับโคลนให้เป็นรูปเป็นร่างและใช้มีดของเขาสลักมัน
เหล่าผู้เล่นต่างรู้สึกประทับใจและประหลาดใจกับความเร็วอันคล่องแคล่วว่องไวนั่น
ในขณะที่กำลังมองดูประติมากรรมดินโคลนที่ตั้งอยู่บนแผ่นหินนั้น
วีดก็เริ่มรู้สึกพอใจขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
มันไม่เหมือนกับการแกะสลักต้นไม้ที่เขาไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะมากมายในการขูดเอามุมเหลี่ยมๆออก
แถมมันยังง่ายซะยิ่งกว่าการแกะสลักน้ำซะอีก
“ฉันคิดว่ามันคงแกะสลักไปในทำนองเดียวกันแหละ
ทักษะประติมากรรมธรรมชาติ!”
หลังจากที่เริ่มใช้ทักษะไปเพียงชั่วครู่
ภูเขาที่เขาแกะสลักขึ้นมาด้วยการก่อดินโคลนขึ้นมาอย่างยากลำบากหรือแม้แต่ปลูกต้นไม้เล็กๆอยู่บนนั้นด้วย
บนดินแดนที่เป็นที่ราบทุ่งข้าวสาลีก็เริ่มแผ่ขยายตัวออกไป
มันกำลังรวบรวมพลังของธรรมชาติและแปรเปลี่ยนรูปร่างดุจเวทย์มนต์จนกลายไปเป็นประติมากรรม!
-โปรดตั้งชื่อผลงานให้กับประติมากรรมของท่าน
“เทือกเขาบาร์เดมดินแดนที่น้องสาวและฉันเคยมาเที่ยวเล่น”
ท่านใช้ชื่อ
“เทือกเขาบาร์เดมดินแดนที่น้องสาวและฉันเคยมาเที่ยวเล่น” ใช่หรือไม่?
“ถูกต้อง”
ตริ้ง!
ผลงานระดับดีเยี่ยม! (Fine
Art) “เทือกเขาบาร์เดมดินแดนที่น้องสาวและฉันเคยมาเที่ยวเล่น”
ด้วยการหยิบยืมจากผืนดิน
ประติมากรก็ได้แสดงความรู้สึกของเขาผ่านผืนดินแดนแห่งนี้ด้วยประติมากรรมชิ้นนี้
พลังแห่งธรรมชาติซึมซาบอยู่ภายในประติมากรรมชิ้นนี้
คุณค่าทางศิลปะ: 559
คุณสมบัติพิเศษ: เมื่อมองดู “เทือกเขาบาร์เดมดินแดนที่น้องสาวและฉันเคยมาเที่ยวเล่น” จะเพิ่มค่าการฟื้นฟูมานาและค่าพลังชีวิต 11%
พลังอำนาจแห่งธรรมชาติพัฒนามวลธาตุในธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียง
พืชพันธุ์เติบโตเร็วขึ้น
4%
เพิ่มผลผลิตทางพืชผล
มีเพียงเอฟเฟคของประติมากรรเพียงชิ้นเดียวที่สามารถบัฟได้ในหนึ่งครั้ง
จำนวนของประติมากรรมระดับดีเยี่ยมในปัจจุบัน: 95
ทักษะการแกะสลักพัฒนาขึ้นแล้ว
ทักษะงานฝีมือพัฒนาขึ้นไปจนถึงขั้นสูงเลเวล
8
ทักษะใดๆที่ต้องใช้เครื่องมือพัฒนาเพิ่มขึ้น 8%
ทักษะนี้จะส่งผลต่อทักษะอื่นอีกด้วย
ทักษะการแกะสลักประติมากรรมธรรมชาติพัฒนาแล้ว
ค่าชื่อเสียงดี:
+197
ค่าทางพลังจิต:
+3
ค่าทางศิลปะ:
+7
จากการสร้างสรรค์ผลงานระดับดีเยี่ยม
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น 8
แต้ม
ค่าความใกล้ชิดส่งผลกับค่าการสร้างผลกระทบและขอบเขตของทักษะทางธรรมชาติ
การสร้างประติมากรรมที่บริสุทธิ์ได้ลดพลังอันเดดลง
4
แต้ม
ทักษะแกะสลักของวีดยังคงนิ่งอยู่ที่
17%
จากขั้นสูงเลเวล 8 ส่วนพลังอันเดดของเขาก็ลดลงไปถึง
186 แต้ม
“ว๊าวววววว!!!”
“ผลงานระดับดีเยี่ยมที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ประติมากรคนไหนกันที่สร้างผลงานอย่างนั้นขึ้นมาได้?”
“มันทำให้พืชพันธุ์เติบโตขึ้นอย่างกับเวทย์มนต์เลย!
สุดยอด!” เหล่าผู้เล่นที่รายล้อมอยู่เริ่มพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
จากนั้นวีดก็แบกกระเป๋าเวทย์ที่เขาใช้ใส่ประติมากรรมที่เขาสร้างขึ้นมา
“มาเถอะ ไปที่อื่นกันได้แล้ว”
แล้วยูรินก็วาดรูปตัวเองและวีดลงไป
“ทักษะจินตภาพเคลื่อนย้าย!”
(Picture Teleportation)
เป็นทักษะที่ทำให้วีดและยูรินค่อยๆหายไปจากพื้นที่ตรงนั้นราวกับภาพลวงตา
หุบเขาอสรพิษแห่งราชอาณาจักรฮาเพ่น (Snake
Ravine of the Harpan Kingdom)
ปราสาทปีเตอร์แห่งราชอาณาจักรฮาเว่น (Peter
Castle of Haven Kingdom)
ตลาดโลอินแห่งราชอาณาจักรบริทเท่น(Loin
Plaza of Britten Kingdom)
ถนนพฤกษาเบ่งบานแห่งราชอาณาจักรไอเดิร์น
(The
Street of Fully Blossomed Flowers of Aidern Kingdom)
น้ำพุอาร์ทเชียนพื้นที่โดยรอบแห่งราชอาณาจักรบาคูบ้า(Artian
Fountain and the surrounding area of Bacuba Kingdom)
เขตแวเนตต้าและพระราชวังฤดูใบไม้ผลิแห่งราชอาณาจักรริทเท่น
(The
Vanetta region and Spring Palace of the Ritten Kingdom)
พีรามิดแห่งราชอาณาจักรโรเซนไฮม์
(The
Pyramid of Rosenheim Kingdom)
ทะเลสาบกระจกเงาแห่งราชอาณาจักรเบร้นท์
(The
Mirror Lake of Brent Kingdom)
วีดออกท่องไปทุกๆดินแดนพร้อมกับยูรินและสร้างประติมากรรมเอาไว้ทุกๆแห่งที่เหล่าผู้เล่นต่างพบเห็น
“อะไรน่ะ ประติมากรคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?”
“ฉันคิดว่าเขาพึ่งจะสร้างผลงานของเขาเสร็จนะ”
แม้ว่าขณะที่ผู้คนต่างรุมล้อมตัววีดและยูรินเอาไว้
แต่พวกเขาก็จะหายตัวไปได้ด้วยการใช้ทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายอยู่ดี
ดังนั้นเหล่าผู้คนจึงไปค้นหาอยู่บนบอร์ดกระทู้แทน
หัวข้อกระทู้: วันนี้มีการปรากฏตัวของประติมากรคนหนึ่งอยู่ช่วงหนึ่งด้วยละ
ฉันกำลังออกล่าอยู่ที่หุบเขาอสรพิษแล้วก็เห็นประติมากรอยู่คนหนึ่งด้วย
เขาดูเหมือนกำลังเล่นกับดินอยู่แต่ว่าเขากำลังสร้างประติมากรรมต่างหากละ
เนื่องจากว่าเขาสวมใส่เสื้อผ้าของผู้เล่นใหม่แล้วก็สร้างประติมากรรมอยู่
ฉันก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไรมากมายนิ ช่างมันเถอะ
ถึงแม้ว่าดินนั่นจะถูกก่อกองขึ้นมามีรูปร่างจำลองแบบจริงของหุบเขาอสรพิษก็เถอะ
ฉันว่านั่นมันสุดยอดจริงๆนะ
แต่ว่าเขาทำให้สายน้ำไหลไปมาอย่างนั้นได้ยังไงกันนะ? มันไม่เหมือนกับน้ำพุที่อื่นๆเลย
-เอ่อ
นั่นดูไม่สมเหตุสมผลเลยเนาะ
-คิดว่านายคงแค่ฝันไปแล้วละ
ตื่นได้แล้ว แล้วตอนค่ำๆก็รู้จักไปหลับไปนอนซะไป๊
หัวข้อกระทู้: ฉันก็เห็นประติมากรรมอยู่ที่หุบเขาอสรพิษเหมือนกัน
ฉันก็ไม่มั่นใจว่ามันเป็นเวทย์มนต์รึเปล่า
แต่ว่าสายน้ำไหลลงมาจากประติมากรรมดินโคลนนั้น
แถมผลงานที่สร้างเสร็จแล้วก็เป็นผลงานระดับดีเยี่ยมอีกด้วย
ฉันก็อยากจะไปคุยกับเขาอยู่นะ
แต่ว่าเขาหายตัวไปเร็วมากจริงๆ…
-มีน้ำไหลออกมาจากประติมากรรมจริงๆน่ะหรอ?
ประติมากรคนนี้เป็นใครนะ?
-ที่ราชอาณาจกรฮาเพ่นมีผู้เล่นที่มีทักษะแกะสลักขั้นกลางด้วยหรอ?
-นั่นมันเวทย์มนต์ของสายอาชีพประติมากรหรือเปล่านะ?
-ประติมากรรมชิ้นนั้นสามารถมองเห็นได้เฉพาะตอนที่ฝนตกหรือเปล่านะ?
ไม่มีคนไหนที่สามารถสร้างขึ้นมาซ้ำได้เลย นอกเสียจาก…
คงเป็นผู้เล่นที่มีจำนวนของค่าประสบการณ์มากจนหาตัวจับได้ยากที่คงไม่สามารถพบเจอได้เลย
แม้ว่าคุณจะออกค้นหาตัวเขาในราชอาณาจักรฮาเพ่น
จากนั้นข้อมูลต่างๆก็เริ่มเชื่อมโยงถึงกัน!
หัวข้อกระทู้: ฉันเห็นประติมากรคนหนึ่งอยู่ที่เทือกเขาบาร์เดมในราชอาณาจักรมาเซ็น
ฉันเห็นเขาสร้างประติมากรรมอยู่ที่แห่งนั้นเป็นครั้งแรก
แล้วมันก็สุดยอดจริงๆ
ต้นไม้เติบโตขึ้นมาทั่วทั้งบริเวณนั้นเลย
-ถ้าหากว่าต้นไม้เติบโตขึ้นมา
งั้นก็หมายความว่าเขาใช้เวทย์จิตวิญญาณหรอ?
-ฉันก็ไม่รู้จริงๆ
แต่ว่าต้นไม้โตขึ้นมาเร็วมากจนคุณสามารถเห็นพวกมันโตขึ้นมาได้เลยละ
-แทบไม่อยากจะเชื่อในตอนที่พูดถึงเรื่องการไหลของสายน้ำนั่น
หัวข้อกระทู้: มีใครพอจะบอกรูปร่างหน้าตาของประติมากรคนนั้นได้ไหม?
ฉันเป็นผู้เล่นจากราชอาณาจักรบาคุบ้า
คนคนนั้นที่พวกคุณทั้งหมดเห็นมานะมีหน้าตาธรรมดาๆแล้วก็สวมเสื้อผ้าเปื้อนปอน
แล้วจิตรกรที่อยู่กับเขาก็สวมหมวกสีเขียวใบใหญ่แถมน่ารักมากด้วย
-จริงๆนะ
ฉันก็เห็นพวกเขาอยู่ที่หุบเขาอสรพิษด้วย
-ประติมากรที่มาราชอาณาจักรมาเซ็นก็ก็เป็นคนๆเดียวกัน
-นั่นมันไม่สมเหตุสมผลเลย
ราชอาณาจักรฮาเพ่น ราชอาณาจักรมาเซ็น แล้วก็ราชอาณาจักรบาคุบ้า ระยะทางระหว่างอาณาจักรทั้งหมดนั่นมันคนละโยชน์เลยนะ
-ถึงแม้ว่าจะใช้มนต์เทเลพอร์ตหรือประตูเวทย์มนต์มันก็ถือว่ามีทางเป็นไปได้
แต่มันก็ยังคงยากมากอยู่ดี
ประติมากรสร้างสิ่งมหัศจรรย์งั้นหรอ!
จากนั้นก็มีบางคนโพสท์วิดีโอของวีดที่กำลังแกะสลักประติมากรรมอยู่ในราชอาณาจักรมาเซ็นด้วนชื่อเล่นนั้น
เหล่าผู้เล่นจากอาณาจักรมากมายในทวีปทางตอนกลางต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาก็เห็นเช่นกัน
หัวข้อกระทู้: ตัวตนที่แท้จริงของประติมากรคนนั้นคือ วีด
ฉันเป็นผู้เล่นที่ตอนนี้ปักหลักอยู่ในราชอาณาจักรโรเซนไฮม์
ทุกคนควรจะรู้ว่าวีดเขามาจากราชอาณาจักรของเรา
และเมื่อวานนี้ฉันเห็นวีดกำลังแกะสลักประติมากรรมอยู่บนยอดของพีระมิด
ฉันจำเขาได้ก็เพราะว่าฉันก็เคยสร้างพีระมิดกับเขาเช่นกัน
พวกเรานี่โชคดีจริงๆที่กลับไปที่ปราสาทเซราบอร์กหลังจากที่ไปงานเลี้ยงกับพวกดาร์คเอลฟ์และออร์คที่อยู่บนเทือกเขายูโรกิ
เนื่องจากตอนนี้ฉันไม่ใช่มือใหม่อีกต่อไปแล้วฉันจึงจะมุ่งหน้าไปที่โมราต้า
-งั้นนั่นก็คือวีดสินะ
-มันอธิบายได้เลยละว่านั่นคือวีด
-ความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักของเขาตอนนี้สูงแค่ไหนแล้วนะ?
-เขาเชี่ยวชาญทักษะนั่นจริงๆน่ะเหรอ?
-เขาเชี่ยวชาญทักษะนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาออกไปผจญภัยอยู่ตลอดอย่างนั้นน่ะ?
ถ้าหากว่าเขาถึงระดับมาสเตอร์ของประติมากรแล้ว
เขาคงเป็นคนแรกที่เชี่ยวชาญอาชีพสายผลิต
-ทักษะการต่อสู้นั้นก็ถือว่าขึ้นยากแล้วนะ
ทักษะการแกะสลักนั้นยิ่งยากซะยิ่งกว่ายากซะอีก
-ถ้าหากว่าเขาเชี่ยวชาญด้านทักษะแล้วจริงๆนั่นคงเป็นประเด็นร้อน
แล้วจากนั้นพวกชาวเมืองก็คงแพร่กระจายข่าวออกไปแน่ๆ
นั่นเป็นประเด็นร้อนจริงๆ
รู้ไว้ซะด้วย?
==============================
ความจริงที่เขามาแกะสลักประติมากรรมอยู่บนยอดของปราสาทปีเตอร์เข้าถึงหูของกิลด์เฮอร์มีสช้าเกินไป
“เจ้าวีดนั่นคงอยากจะตายจริงๆสินะ
มันกล้าดียังไงมาถึงปราสาทปีเตอร์นี่ได้?”
ปราสาทปีเตอร์เป็นปราสาทที่เก่าแก่สร้างขึ้นบนยอดเขา
มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่ง
แต่มันก็เป็นสถานที่ที่สวยงามเช่นกันที่เป็นความภาคภูมิใจของราชอาณาจักรฮาเว่น
“ถ้าพวกเรารู้เร็วกว่านี้
เราก็คงจะจัดการมันด้วยหน่วยทหารยอดฝีมือไปแล้ว”
เหล่าผู้นำชั้นสูงของกิลด์เฮอร์มีสรู้สึกหัวเสียกับเรื่องนี้
ต่างก็กัดฟันของพวกเขาไปด้วยความโกรธ
ศักดิ์ศรีของพวกเขาถูกทำลายไปอย่างมากในตอนที่กองทัพเรือของดรินเฟลด์โดนทำลายจนสิ้นซากแถวเขตลาส
ฟาลังคซ์ และตอนนี้ก็ยังโดนหยามด้วยสิ่งนี้อีก
ราชอาณาจักรฮาเว่นได้ชัยชนะจากสงครามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนบาร์ดเรย์ด้วยความแข็งแกร่งอย่างมากของเขา ก็ได้ถูกเลื่อนขึ้นเป็นกษัตริย์ไปแล้ว
ระหว่างที่เหล่าผู้เล่นคนอื่นๆและกิลด์มากมายคุกเข่าลงและก้มหัวยอมสยบให้
อีกทั้งเหล่าผู้เล่นเลเวลสูงๆก็สมัครเข้ากิลด์อีกเรื่อยๆ
วีดผู้ที่เป็นศัตรูของกิลด์เฮอร์มีสกลับเข้ามาที่ปราสาทปีเตอร์เพื่อสร้างประติมากรรมแล้วก็จากไป
บรรดาผู้เล่นทั้งหลายก็ช่วยอะไรไม่ได้
ได้เพียงแค่กระดกลิ้นรู้สึกอัดอั้นกับการกระทำอันโอหังของวีดในครั้งนี้เท่านั้นเอง
(Note: ผู้แปล: ที่ใช้คำว่า “ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติ” เพราะจะมีเล่มที่ 26 ตอนที่ 6 เขาแปลงจากภาษาเกาหลีมาเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า 대 (Great)재 망 (Disaster) 자연 조각술(Nature Sculpting)เพื่อให้ตรงตามความหมาย)
จบตอน
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
รอ ติดตามนะค่ะ
ตอบลบเป็นกำลังใจค่ะ
แม้จะไม่ใช้การต่อสู่ แต่ก็อธิบายถึงทักษะ ให้คนอ่านจินตนาการถึงความมุ่งมานะของวีด และความเทพที่กำลังจะตามมาติดๆ อิอิ
ตอบลบกิลหรอเดียวเจอรอเเปปนึงฟามอยุ่
ตอบลบขอบคุณมากขอรับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบวีด แค่ท่องเที่ยวกับน้องสาวเอ๊ง!!! คิดมากน่า เฮอร์มีส😉
ตอบลบขอบคุณมากครับแอด รออ่านทุกวันอย่างใจจดใจจ่อ เสพติดงอมแงมเลยครับ ขอบคุณที่แปลให้อ่านคร้บ สู้ๆครับ
ตอบลบเปอตอฟไรนั่นพอเห็นวิดีโอในบอร์ดคงรุ้ละสินะว่านั่นคือน้องสาววีดฮ่าๆ
ตอบลบเออใช้จริงอย่างที่นายว่า. ด่าพี่ชายฉันเจอกราฟฟิตี้ฝาหนังซะเลย
ลบขอบคุณครับ.
ตอบลบประตูทุกหนทุกแห่ง
ตอบลบแต่แปลกใจพัฒนาการของซอยูนมาก มาได้ถึงขั้นนี้แล้ว
รักซอยูนนนนน
ตอบลบซอยูรผมจอง3กล่อง ^^
ตอบลบตอนนี้ติดตามเรื่องของซอยูนมากกว่าวีดละ
ตอบลบยาวๆปายยย...
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้อออ