เล่มที่ 20 ตอนที่ 6: ดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ แปลโดย Cole’s
Myth
วีดเลือกที่จะออกไปล่า ก่อนที่จะตามรอยนักรบแห่งความโกลาหลหนุ่มตนนั้นไป
“ฉันจำเป็นต้องพร้อมก่อนจะเข้าไปในดันเจี้ยนนั่น”
ค่าความต้านทานไฟจะเพิ่มขึ้นทุกๆการออกล่าพวกนักรบแห่งความโกลาหลในเขตลาส
ฟาลังซ์
ส่วนซากศพของพวกมันก็ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่ากับเนโครแมนเซอร์
ส่วนเจ้าวิหคทองคำในตอนนี้มันได้ออกมาช่วยต่อสู้อย่างเป็นจริงเป็นจังแล้ว
ในตอนที่การต่อสู้ดำเนินอยู่นั้น วีดรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นเจ้าวิหคทองคำมีแสงโอบล้อม
จากนั้นตรงบริเวณช่วงขาและร่ายกายของมันก็เริ่มใหญ่โตขึ้น
ช่วงคอ ช่วงปีกทั้งสองข้าง ช่วงสะโพก ทั้งหมดล้วนขยายใหญ่โตขึ้น!
มันกลายร่างไปเป็นนกขนาด 3 เมตร
20 เซนในทันที
ขนนกเรียงสลวยทองเหลืองอร่ามฝังไว้ด้วยอัญมณีสวยสดงดงาม
แล้วยังมีมงกุฎเพชรสวมอยู่บนยอดหัวของมันอีก
เจ้าวิหคทองคำสามารถใช้ทักษะเปลี่ยนร่างได้หลายรูปแบบ
มอออออออ!
“โกลโกลโกล!”
พวกประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆก็แสดงอาการตกใจด้วยเช่นกันตอนที่เห็นเจ้าวิหคทองคำ
ตลอดมานี้พวกมันก็สงสัยว่าทำไมพวกมันถึงทำอย่างนั้นไม่ได้
ในฐานะที่เป็นประติมากรรมที่สร้างโดยวีด พวกมันมีความภูมิใจอย่างมากกับรูปร่างของพวกมันที่ได้มา
พวกมันได้แต่รู้สึกขายหน้า หลังจากที่เห็นความแตกต่างที่ออกมานี้
“พวกนายก็ยังดูดีอยู่นะ
อย่าพึ่งลืมสิว่าพวกไวเวิร์นดูเป็นยังไงน่ะ”
“…….”
แล้วเจ้าเหลืองกับโกลมินิก็เงียบสนิทเมื่อได้ยินเกี่ยวกับพวกไวเวิร์น
พวกมันโชคดีมากแล้วที่พวกมันไม่ได้ถูกทำมาแบบส่งๆอย่างพวกไวเวิร์นน่าเกลียดพวกนั้น
จากนั้นวีดก็นำกองทัพอันเดดมุ่งหน้าไปต่อ
“เหล่านักรบแห่งความโกลาหล ไปกันเถอะ!”
พวกนักรบแห่งความโกลาหลใช้ประโยชน์จากเทเลพอร์ตระยะสั้นระหว่างการต่อสู้
ทำให้โจมตีพวกมันยากเอาการ แต่ว่าเจ้าวิหคทองคำสะบัดกรงเล็บของมันอย่างกะทันหันในพื้นที่โล่งๆที่หนึ่ง
“กี๊กกกกก!”
ช่วงเวลานั้นเอง ตำแหน่งของนักรบแห่งความโกลาหลตัวที่กำลังเทเลพอร์ตได้ถูกคาดการณ์เอาไว้แล้ว
กรงเล็บและจะงอยปากก็โจมตีเข้าไปที่จุดตาย
*กร๊ากกกกกก!*
เจ้าวิหคทองคำปล่อยการโจมตีออกไปเป็นชุดอย่างกับนกหัวขวาน!
พวกนักรบแห่งความโกลาหลที่ไม่อาจต้านการโจมตีนั้นได้
ก็ตายไปอย่างรวดเร็ว
วิหคทองคำโผบินขึ้นไปในอากาศหลังจากที่ฉีกกระชากและทิ้งเศษซากพวกมอนสเตอร์ลงมา
ช่างเป็นทักษะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
จากนั้นเจ้าวิหคทองคำในร่างจำแลงก็เข้ามาคุยกับวีด
“ท่านวีด พวกเราชนะแล้ว”
“ก็แน่นอนอยู่แล้วละ”
พวกมอนสเตอร์ในเขตลาส ฟาลังคซ์มีเวทย์กับทักษะที่มีคุณสมบัติธาตุไฟที่จะเสริมเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
เพราะอย่างนี้ค่าความต้านทานไฟสูงๆจึงเป็นที่ต้องการ
ขณะที่ออกล่าพวกนักรบแห่งความโกลาหลอยู่นี้ ค่าความต้านทานไฟของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง
22% แล้ว
“หากรวมกับค่าความต้านทานเพิ่มขึ้นถึง
10% ในตอนที่เข้ามาในเขตต้องห้ามนี้ด้วยแล้ว ตอนนี้เราก็จะมีอยู่
32% ละ”
แต่เดิมวีดก็มีค่าความต้านทานที่ดีอยู่แล้ว แถมเพราะว่าเขามีค่าความอดทนสูงอย่างมากอยู่แล้วด้วย
วีด ซอยูน
และพวกประติมากรรมสลักชีพเคลื่อนที่ไปพร้อมกับเหล่าอันเดด
ค่าความต้านทานไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่เพิ่มขึ้นมา ขณะที่ออกล่าพวกนักรบแห่งความโกลาหล
แต่ยังได้ขวาน 18 เล่มมาตลอดทาง
แถมเขายังจุน้ำหนักกระเป๋าได้เพิ่มขึ้นมากอีกด้วย
แต่เพราะว่าค่าสถานะโครงกระดูกของวีดจึงทำให้พลังในการแบกกระเป๋าลดต่ำลงไป
พวกไอเท็มที่มีค่าเท่ากับเงินมากมายมหาศาลพวกนี้ไม่ควรจะถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง!
ปกติวีดมักจะซ่อนพวกมันเอาไว้และเอาพวกแจปเท็มไปที่ช่องแคบที่เอาไว้ซ่อนหรือว่าซ่อนเอาไว้ที่จุดบอด
แต่ว่าเขาไม่อยากทำอย่างนั้นกับพวกของที่มีราคาแพง
กระเป๋าสะพายใบใหญ่กดทับไหล่กับกระดูกไหปลาร้าของเขาเอาไว้
จากนั้นวีดก็ตรงเข้าไปที่ดันเจี้ยนอย่างเงียบๆ
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มต้นทำภารกิจแล้วเข้าไปสู่ดันเจี้ยนสุดแสนอันตราย
“โทริ แวนฮอร์ค”
“ครับ
นายท่าน!”
“ตามแต่ท่านเรียก
นายท่าน”
“พวกแกสองคนตรงเข้าไปในดันเจี้ยนก่อนเลย”
วีดนี่มีลูกสมุนเอาไว้ใช้ให้เป็นประโยชน์จริงๆ!
เป็นเพราะว่านี่คือดันเจี้ยนที่อันตรายสุดๆจะรับรองได้มาก หากมีพวกนักรบแห่งความโกลาหลไปพร้อมกับพวกลูกสมุนของเขา
***
ในขณะเดียวกันนั้น พวกดรินเฟลด์กับกริฟฟิทกำลังขยับขยายบริเวณพื้นที่การสำรวจในเขตลาส
ฟาลังคซ์
หน่วยสนับสนุนจากกิลด์เฮอร์มีสที่อยู่ในราชอาณาจักรฮาเว่นนั้นยังมาไม่ถึงที่เขตลาส
ฟาลังคซ์
ในระหว่างนั้น พวกเขาก็พยายามที่จะปรับตัวเข้ากับการต่อสู้ในภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟระเบิดและรอยแยกบนพื้นดิน
“สงบใจเข้าไว้
แล้วแสดงให้พวกเขาเห็นว่ายอดฝีมืออย่างเราจะพิชิตดินแดนแห่งนี้เอง”
การร่วมมือของอัศวินนาวีเลเวลสูงกับโจรสลัดได้รวมกันเป็นหนึ่งด้วยตัวพวกเขาเอง
แม้ว่าการล่าจะไม่มีประสิทธิภาพดีพอมากนัก แต่ถ้าหากว่าพวกเขาถูกวีดซุ่มโจมตีอีกครั้งก็จะสามารถตั้งรับได้ทันท่วงที
“ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะมีเครื่องมือหรือวิธีการแบบไหน
แกแค่ต้องเอาหัวของวีดมาให้ฉันไม่ว่ายังไงก็ตาม กิลด์เฮอร์มีสก็จะให้รางวัลอย่างงาม”
สิ่งพวกเขาได้แสดงออกไปให้เห็นนั้น
พวกเขาก็ไม่เหลือความภาคภูมิใจอีกเลย
จากนั้นกลุ่มของดรินเฟลด์ก็ออกไปล่าพวกบอลลาร์ดทั้งฝูงไปจนหมดสิ้น
แล้วสักครู่ภูเขาไฟก็ระเบิดอย่างรุนแรงตามมาในเวลาต่อมา
***
ขณะนี้การออกอากาศของสถานี CTS media กับ LK game กำลังถ่ายทอดสดการผจญภัยในเขตลาส ฟาลังคซ์!
พวกเขาได้ประสบกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเป็นอย่างมากแถมยังถูกล้อเลียนอย่างรุนแรงภายในบอร์ด
แต่ไม่นานเรื่องก็ซาลง
การเดินทางสำรวจที่นำโดยดรินเฟลด์ มุ่งหน้าไปที่พื้นที่รอยแยกของมรดกแห่งประติมากร
ความตื่นเต้นโหมเข้าใส่บรรดาผู้ชมที่กำลังดูภาพของสถานี CTS
media ที่ฉายออกมา
“มรดกแห่งประติมากรหรอ นี่เป็นสถานที่ที่คาดไม่ถึงสุดๆเลย
คุณคิดว่าวีดจะมาที่นี่หรือยังคะ?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ”
การเดินทางสำรวจยังคงฉายภาพการออกล่าของพวกเขาอย่างต่อเนื่องและเป็นเพราะผลจากมรดกแห่งประติมากร
มันจึงกลายเป็นการล่าที่ง่ายขึ้นอย่างมาก
“คุณดรินเฟลด์ค่ะ คุณมักจะใช้มีดขนาดใหญ่เป็นอาวุธหลักเหมือนกับเหล่าอัศวินนาวี
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะคะ?”
“พลังทำลายมันทรงพลังมากครับ
แถมยังมีค่าความคงทนสูงที่จำเป็น เมื่อต้องสู้กับพวกมอนสเตอร์ทะเลและกลุ่มโจรสลัดด้วยครับ”
“งั้นทำไมคุณถึงยังใช้มันอยู่แม้ว่ามันจะใช้ลำบาก
แล้วออกไปสู้ในเขตลาส ฟาลังคซ์อีกล่ะคะ”
“ผมก็เห็นด้วยนะครับ
มันใช้เวลานานมากพอควรกว่าจะล่องเรือมาถึงที่นี่ แถมเลเวลของพวกมอนสเตอร์ยังค่อนข้างสูงอีกด้วย”
“มันอันตรายมากใช่ไหมคะที่จะต้องสู้ในขณะที่ที่ต้องหลบการปะทุของภูเขาไฟ?
การได้เห็นพวกเขาอย่างนั้น รับรองว่าต้องเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวแน่ๆเลย”
“ผม
ดรินเฟลด์ กับกองทัพเรือที่สอง ได้ถูกเลือกโดยราชอาณาจักรฮาเว่น เพราะว่าพวกเราสามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดีกับสภาพแวดล้อมที่อันตรายครับ”
“แล้ววีดล่ะคะ?
เขาก็ดูท่าว่าจะปรับตัวได้ดีเหมือนกันหลังจากที่มาถึงที่นี่ก่อนด้วยซ้ำ”
“ในการผจญภัย
การมีกลุ่มสำรวจขนาดใหญ่นั้นแตกต่างจากการออกไปสำรวจคนเดียวครับ
ความเสี่ยงระหว่างสองสถานการณ์นี้เทียบกันไม่ได้หรอกครับ”
การสนทนาระหว่างดรินเฟลด์กับกลุ่มโจรสลัดของกริฟฟิทยังคงถ่ายทอดออกอากาศอย่างต่อเนื่อง
การออกอากาศสดที่ได้ถ่ายทอดสองครั้งต่อวันก็ได้เรตติ้งมาเป็นอันดับหนึ่ง
***
เพราะว่าได้ทำสัญญากับวีดเอาไว้แล้ว
สถานี KMC
media จึงยังไม่ได้แสดงภาพออกอากาศของภารกิจออกมา
เพราะว่าภารกิจนั้นยังคงออกอากาศอย่างต่อเนื่อง มันจึงอาจจะเพิ่มโอกาสให้ดรินเฟลด์กับกริฟฟิทเข้าไปแทรกแซงภารกิจได้
ที่ทำไปอย่างนี้ก็เพื่อที่จะซ่อนตำแหน่งปัจจุบันของวีดด้วย
หน้าต่างของสำนักงานใหญ่ KMC media นั้นยังคงมีไฟติดอยู่ในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ จากการทำงานล่วงเวลาทำงานของเหล่าพนักงานทั้งหมด
พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะปรับแต่งแก้ไขวิดีโอเพราะว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่าภารกิจของวีดนั้นจะเสร็จสิ้นเมื่อไร
***
บนทวีปเวอร์เซล บรรดาพลเมืองและเหล่านักบวชก็เริ่มพูดคุยแล้วเช่นกัน
“เคยได้ยินเรื่องของจักรพรรดิเกฮามาก่อนไหม? พระองค์คือจักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิอารูเพ่นที่รวมทั้งทวีปเวอร์เซลเป็นหนึ่งเดียว
ใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้จักพระองค์กันทั้งนั้น”
“จอมขมังเวทย์ซึลรโยล่ะ
พวกเขาบอกว่าเขาใช้เครื่องมือกับวิธีการต่างๆนาๆเพื่อตอบสนองความมักใหญ่ใฝ่สูงของตัวเอง
พวกนักเวทย์แห่งมาทามยังพูดถึงเขามาแล้วด้วยนะ แล้วยังคงจดจำเขาว่าเป็นอัจฉริยะอีกด้วย
แถมยังมีข่าวลือออกมาด้วยว่าเขาเป็นตัวการสำคัญแห่งการล่มสลายของจักรวรรดินิฟล์เฮม”
“ไม่มีเหตุผลเลยที่จะให้เขาต้องทำอย่างนั้น?”
“เจ้าต้องเชื่อนี่นะ
มีดินแดนที่มีเพียงแค่คนที่กล้าหาญเท่านั้นที่กล้าไป! ภายในนั้น
มีมอนสเตอร์ที่ครอบครองอาวุธทรงพลังอย่างมากด้วย นี่จะต้องทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่…แล้วมีเพียงคนเดียวที่สามารถหยุดยั้งได้นั่นก็คือประติมากรหนึ่งเดียวคนนั้น”
บรรดาคนแคระ พวกเอลฟ์ กับพวกนักรบภูติถูกเรียกตัวมา พวกเขากำลังเตรียมตัวออกเดินทางไปเขตลาส
ฟาลังคซ์ด้วยเช่นกัน
“หากว่าเขาไม่อาจกำราบมอนสเตอร์ที่คุกคามความสงบสุขของเรา
เราก็จะเริ่มออกเดินทางไปในทันทีแน่ๆ เหล่าคนแคระทั้งหลายจับอาวุธออกไปสู้กันเถอะ”
“เหล่านักธนูเอลฟ์เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้
เราจะแสดงให้พวกมันได้เห็นพลังที่แท้จริงของจิตวิญญาณแห่งไฟ”
วิดีโอการเคลื่อนไหวของเผ่าพันธุ์เอลฟ์กับคนแคระได้ถูกโพสท์บนโฮมเพจของรอยัลโร้ด
เพียงแค่หลับตา เหล่าผู้เล่นทั้งหลายก็สามารถที่จะรับรู้ได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบนทวีปเวอร์เซล
การผจญภัยของวีดนั้นกำลังกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงในทวีปแห่งนี้ไปแล้ว
***
ท่านเป็นผู้ค้นพบคนแรกของดันเจี้ยนนรกโลกันตร์
สิทธิพิเศษ: ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
2,100 แต้ม อัตราการดร็อปไอเท็มและค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่า
มอนสเตอร์ตัวแรกที่ถูกล่าจะมีความเป็นไปได้สูงสุดที่จะดรอปไอเท็มหายาก
|
“โอ้โห!”
วีดร้องออกมาอย่างประหลาดใจ
ค่าชื่อเสียงที่ให้มานั้นสูงจนน่าขันจริงๆ
“บ้าอะไรว่ะเนี่ย!?
ดันเจี้ยนนี่จะอันตรายซักแค่ไหนกันถึงกับให้รางวัลค่าชื่อเสียงสูงขนาดนี้นะ”
เดาได้ว่าพื้นที่ต่อไปคงจะน่ากลัวไม่น้อยเลย แม้แต่กับพวกอันเดดที่อัญเชิญออกมาด้วย
“แต่ว่ายังไงซะ
คงดีที่สุดที่จะเก็บเงินเอาไว้ในตอนที่ยังหนุ่มๆอยู่ เพราะว่าเงินนั่นจะมีประโยชน์อย่างมากตอนพวกแกแก่ตัวลงไป”
(บอกพวกอันเดดด้วยหรอ -.-)
แล้ววีดก็สั่งให้พวกลูกสมุนเดินหน้าต่อไป
ทางเดินภายในดันเจี้ยนนั้นกว้างขวางเพียงพอที่จะจุกองทัพจำนวนมากได้พอดี
เปลวไฟโหมพัดไปเบื้องหน้าจากภายใต้พื้นดิน แล้วยังสาดใส่ผนังถ้ำก่อให้เกิดภาพอันน่าเหลือเชื่อขึ้น
“เดินระวังด้วยล่ะ
แล้วก็ลุยเข้าไปเลย”
วีดเดินฝั่งทางขวาที่มีเปลวไฟลุกโหมขึ้นมา ขณะที่ซอยูนเดินอยู่ทางฝั่งซ้าย
ด้วยการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ซอยูนก็รู้สึกขอบคุณมากๆต่อความห่วงใยของวีด
แต่ว่าจริงๆนั้นไกลเกินความเป็นจริงมาก เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากวิธีการของสุภาพบุรุษที่พึงกระทำต่อสุภาพสตรี
‘ไม่มีทางที่ฉันจะอยู่ทางฝั่งซ้ายหรอก
ใครจะรู้ละว่าตอนไหนที่พวกมอนสเตอร์จะออกมาน่ะ’
เป็นการตอบสนองตามสัญชาตญาณเพื่อเอาตัวรอดนั่นเอง!
ค่าความต้านทานไฟที่วีดได้รับมานั้นค่อนข้างสูงเพราะงั้นเปลวไฟระดับแค่นี้ยังพอทนได้อยู่
บนผนังถ้ำมีผลึกคริสตัล หินโมรากับหินโกเมนอยู่มากมาย
ถึงแม้ว่าพวกมันจัดว่าเป็นอัญมณี แต่ก็เป็นพวกที่ราคาถูกแถมยังเป็นชนิดที่แสนธรรมดาอีกด้วย
“นี่เป็นสถานที่ค่อนดีทีเดียว
เหมาะสำหรับเอาไว้สร้างประติมากรรมจริงๆ”
วีดยังค้างอยู่ซักพักขณะมองไปที่ผนังถ้ำ
“พวกมนุษย์หนังนุ่มๆมาถึงที่นี่แล้ว!”
“ข้าได้กลิ่นเหม็นเน่าของพวกอันเดดด้วย!”
อีกด้านของทางเดินมีอัศวินโลกันตร์(Inferno
Knight) ขนาดใหญ่วิ่งออกมาและส่งเสียงร้องตะโกน
อัศวินโลกันตร์นั้นตัวใหญ่มากกว่าพวกคนเถื่อนมาก
คู่ปรับตัวฉกาจของพวกมันก็คือออร์ค จากนั้นพวกมันก็ชักดาบของพวกมันออกมา
ทุกๆย่างก้าวในแต่ละครั้งของพวกมัน ทั่วทั้งดันเจี้ยนสั่นสะเทือนเล็กน้อย
วีดจึงเริ่มออกคำสั่งในทันทีทันใด
“นักรบแห่งโกลาหล
โจมตี!”
เหล่าอันเดดระดับสูง 20 ตัวได้รับคำสั่งให้ไปโจมตี
ความสุ่มเสี่ยงเริ่มสูงขึ้นจนน่าอันตรายเพราะว่าพวกมันเข้าไปต่อสู้ในระยะประชิด
“พวกที่เหลือก็จับตาดูเอาไว้และเตรียมตัวหนีเอาไว้ด้วย!”
คิดก่อนที่จะจู่โจม มันคือทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะรับรองว่าลูกพลับจะถูกเก็บก่อนที่มันจะโดนกัด
หากพวกอันเดดไม่ใช่คู่มือที่เหมาะกับพวกอัศวินโลกันตร์ในการต่อสู้นี้
แล้วค่อยใช้ให้พวกมันเป็นตัวล่อเอาไว้ใช้หนีละกัน
ส่วนโทริกับแวนฮอร์คไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้แล้วก็ให้เตรียมพร้อมเอาไว้แทน
‘หากว่าเราโดนไล่ตามโดยมอนสเตอร์พวกนั้นเราค่อยใช้ให้พวกมันซื้อเวลาให้ละกัน’
เหล่านักรบแห่งความโกลาหลที่สร้างขึ้นมาจากทักษะปลุกชีพความตายก็คอยใช้ทักษะเทเลพอร์ตของพวกมันหนีออกนอกระยะสายตาของพวกอัศวินโลกันตร์
พวกมันก็ใช้อาวุธขวานเพื่อโจมตีเหมือนกัน
และก็แน่นอนล่ะว่าขวานพวกนั้นเป็นอุปกรณ์ที่เอามาจากกระเป๋าสะพายของวีด
เพื่อที่จะยกระดับพลังของพวกอันเดด วีดจึงให้พวกมันติดอาวุธที่ทรงพลังเอาไว้!
“กรรร
ไอ้พวกนักรบโกลาหลน่าขยะแขยง!”
“ไอ้พวกอันเดดเน่าเฟะพวกนี้น่ารำคาญจริงๆ”
การต่อสู้อันดุเดือดเป็นไปอย่างต่อเนื่องระหว่างเหล่าอันเดดและพวกอัศวินโลกันตร์
ก็แค่ทำให้วีดรู้สึกรำคาญเท่านั้น
เพราะว่าเวทย์อัญเชิญอันเดดขั้นที่ 4
นั้นจะสามารถสร้างอันเดดระดับสูงที่มีสติปัญญาสูงมากออกมา แต่ว่าตอนนี้พวกมันกำลังทำอยู่ในการต่อสู้ก็แค่หลบไปมาเท่านั้น
การใช้ค่าความเป็นผู้นำมหาศาลเพื่อควบคุมอันเดดพวกนี้
วีดคิดว่าน่าจะมีสิ่งที่ใช้ต่อกรกับมอนสเตอร์แข็งแกร่งพวกนี้ได้
แล้วก็มีแผนการหนึ่งเด่นชัดขึ้นมา
นั่นคือการต่อสู้แบบล้างผลาญ
มีอันเดดเป็นจำนวนมากที่วีดสั่งการได้โดยตรง พวกมันจึงถูกเลือกให้เป็นเบี้ยหลัก
เหล่าอันเดดสามารถเรียนรู้ได้ต่อไปเรื่อยๆด้วยการต่อสู้แบบซ้ำไปซ้ำมา
วีดสอนพวกอันเดดฝีมือดีให้ก่อกวนพวกอัศวินโลกันตร์แล้วผลักพวกมันให้ถอยร่นกลับไป
นี่ก็เพราะว่าจำนวนที่เยอะกว่ามาก เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์เลเวลสูงที่ถูกจัดการไป
“ท่ามกลางพวกนักรบแห่งความโกลาหลพวกนั้นเน่าเปื่อยลงไปเรื่อยๆ
ดูท่าว่าพวกมันเริ่มที่จะใช้การไม่ได้แล้วล่ะสิ”
แล้วเขาก็ได้ข้อสรุปจากการสังเกตการณ์การต่อสู้
การสังเกตรายละเอียดเล็กๆน้อยๆนั้นไม่ได้ยากเลยสำหรับวีด
“โทริ แวนฮอร์ค พวกแกทำบ้าอะไรอยู่น่ะ? อย่ายืนอยู่เฉยๆสิ
ออกไปสู้ซะไป๊!”
“เข้าใจแล้ว
นายท่าน”
วีดที่เป็นเจ้านาย ตำหนิพวกมันไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจ ถึงแม้ว่าแต่เดิมนั้นเขาได้สั่งให้พวกมันรอเตรียมพร้อมถอยกลับ
พวกแวนฮอร์คกับโทริจึงต้องเร่งเข้าไปร่วมต่อสู้ในทันที
ในตอนที่ทั้งสองต่อสู้กับพวกอัศวินโลกันตร์ด้วยการโจมตีแบบก้ามปู
เจ้าโกลมินิก็ได้รับคำสั่งมาเช่นกัน
“ยิงธนูไปที่พวกมันจากตรงนี้เลย”
“โกลโกล!”
ส่วนเจ้าวิหคทองคำก็ได้เข้าไปร่วมสู้ด้วย แล้วใช้ความเร็วอันน่าเหลือเชื่อของมันที่สามารถโจมตีไปที่จุดตายของอัศวินโลกันตร์ได้
ซอยูนก็ชักดาบของเธออกมาแล้วตัดสินใจที่จะเข้าไปสู้เช่นกัน
วีดที่ไม่ได้เข้าไปต่อสู้โดยตรงเริ่มร่ายมนต์สาปแช่งไปที่พวกศัตรู
หลังจากนั้นนักรบแห่งความโกลาหลตัวหนึ่งก็โดนกำจัดไปแล้วมานาที่ใช้รักษาร่างมันเอาไว้ก็กลับคืนมาที่วีด
“คงต้องทำให้พวกมันอยู่ได้นานขึ้นซักหน่อยละ”
การใจเย็นขณะที่สังเกตการณ์การต่อสู้ของคนอื่น
นี่คงเป็นข้อได้เปรียบที่ให้กับอาชีพสายนักเวทย์และสายนักบวช
“พวกขนาดใหญ่ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมาแน่ๆเลย”
ทันใดนั้นเองสัญลักษณ์ที่สลักอยู่บนชุดเกราะของพวกอัศวินโลกันตร์ก็เริ่มส่องแสง
เพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้พวกมันเพิ่มค่าการป้องกันมากขึ้น
จากการป้องกันที่ยอดเยี่ยมและส่วนสูงของลำตัวของพวกมัน ยิ่งจำเป็นต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นในการล่าพวกมัน
พวกมันส่วนใหญ่อ่อนแอลงไปมากเพราะเวทย์คำสาปของวีด
“การต่อสู้นี่ค่อนข้างนานมาเลยนะเนี่ย”
กินเวลาไปแล้วถึง 8
นาที!
เหล่าอัศวินโลกันตร์กำลังเหน็ดเหนื่อยแล้ว
ส่วนมานาของวีดก็ถดถอยลงไปด้วยเช่นกัน
มานาจำนวนมากมายนั้นจำเป็นต่อการคืนชีพเหล่าอันเดด
ส่วนพวกนักรบแห่งความโกลาหลก็มานาลดลงไปเรื่อยๆทุกครั้งที่พวกมันใช้ทักษะเทเลพอร์ต
พวกอันเดด ซอยูนและก็คนอื่นๆเริ่มตีวงล้อมพวกนักรบโลกันตร์เพื่อตั้งกำแพงกั้นไว้
ส่วนเจ้าวิหคทองคำก็ล่อตัวหนึ่งออกไป แล้วการล่าก็ค่อยๆง่ายมากขึ้น
“ต้องจบการต่อสู้นี้ให้เร็วๆ
พวกนักรบแห่งความโกลาหลเจ็ดตนที่กล้าหาญที่สุดน่ะ เข้าไปแทงพวกนักรบโลกันตร์ซะ”
วีดที่เป็นลอร์ดแห่งเหล่าอันเดด
ออกคำสั่งพวกมันด้วยค่าบารมีอันยอดเยี่ยม
พวกนักรบแห่งความโกลาหลที่ถูกชี้ด้วยไม้เท้าแห่งนักบุญผู้ดับสูญและคัมภีร์แห่งบัลข่านรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งจึงเริ่มเทเลพอร์ตในทันที
ไปที่อัศวินโลกันตร์ที่แยกตัวออกไป
“ทักษะระเบิดซากศพ!”
กร๊ากกร๊ากกร๊าก!
เหล่านักรบแห่งความโกลาหลได้แสดงความกล้าหาญกับความจงรักภักดีอันยิ่งใหญ่ต่อวีด
ได้รับรางวัลจากคำสั่งระเบิดตัวตาย!
การใช้ทักษะระเบิดซากศพกับศพของมอนสเตอร์เลเวลสูงๆก็จะส่งผลให้พลังทำลายล้างสูงด้วยอย่างแน่นอน
เสาเพลิงสีแดงสด สว่างไสว โพล่ออกมาจากบนพื้นไปจนถึงเพดานถ้ำอย่างกะทันหัน!
แนวรบของศัตรูสลายไปในที่สุด วีดจึงออกคำสั่งอย่างสั้นๆกระจ่างชัดเจนออกไปว่า
“ฆ่ามันซะๆๆๆๆ!”
ทุกๆคนเล็งการโจมตีของพวกเขาไปที่อัศวินโลกันตร์ที่บาดเจ็บสาหัส
เนื่องจากความตายของพวกพ้อง
เหล่าอัศวินโลกันตร์ได้ตกอยู่ในสถานะความกลัว
ผลกระทบเวทย์คำสาปเพิ่มขึ้น 35%
ค่าความต้านทานทั้งหมดลดลง 60%
การรุกรานถดถอยลงไปแล้ว
แต่กลับมุ่งไปที่การตั้งรับมากขึ้น
|
มีเพียงแค่ศัตรูที่เหลืออยู่อีกสี่ตัวเท่านั้นที่ไม่ยอมก้มหัวต่อความกลัว
วีดเล็งเวทย์คำสาปไปที่พวกมันตัวที่อยู่ในความหวาดกลัว แล้วก็โจมตีพวกมันด้วยการเล็งไปจุดๆเดียวภายในครั้งเดียว
วีดไม่สามารถปกปิดความยินดี ตอนที่เขาคว้าไอเท็มดรอปขึ้นมาจากตรงหน้า
-ท่านเลเวลเพิ่มขึ้นแล้ว
-ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 6 แต้ม
-ความเชี่ยวชาญทักษะของเนโครแมนเซอน์เพิ่มขึ้นแล้ว
|
ค่าการสำรวจไม่ได้เพิ่มขึ้นเหมือนกับการล่าพวกนักรบโกลาหล
นี่ก็ดูเป็นไปได้อย่างมากที่สุด เพราะเผ่าพันธุ์ที่ปกครองลาส ฟาลังซ์ที่แท้จริงก็คือพวกนักรบแห่งความโกลาหล
“ยังไงก็ต้องตรวจสอบไอเท็มก่อนดีกว่า”
ในบรรดาอาวุธที่ได้มามีอยู่ชิ้นหนึ่งโดดเด่นกว่าอันอื่นๆ
ไอเท็มพิเศษที่เหมาะกับร่างกายขนาดใหญ่ของพวกนักรบคนเถื่อน!
ถึงแม้ว่าจะมีขีดจำกัดเลเวลอยู่ที่ 460
แต่วีดก็ไม่ได้กังวลอะไร
“มันก็ไม่ใช่ว่าฉันจะมีของให้ขายน้อยลงซะหน่อย ถ้ามันขายออกยากมากนัก ก็แค่หลอมมันแล้วก็สร้างใหม่ที่หลังก็ได้นิ”
พวกอัศวินโลกันตร์ให้หินแร่มากมายหลากหลาย แล้วยังมีพวกมิทธิลกับอัญมณีออกมานิดหน่อยอีกด้วย
วีดแยกประเภทไอเทมที่เขาเก็บมาได้ออกมาครึ่งหนึ่งและก็ให้ซอยูนไป
เป็นความจริงที่ว่าเธอรับบทบาทหลักในการต่อสู้ร่วมกับพวกอันเดด
ถ้าหากว่าไม่ได้เธอมาที่เขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ แถมเจ้าโทริก็คงไม่ช่วยอะไรในการเคลียร์ดันเจี้ยน
แล้วก็ที่แน่ๆล่ะว่า การออกล่านักรบแห่งความโกลาหลก็จะลำบากมากด้วยเช่นกัน
สายตาของวีดเพ่งไปที่แร่มิทธริลด้วยความโลภสุดขีด
“นี่มันยากมากๆเลยที่จะเก็บแร่มิทธริลหายากอย่างนี้…ถ้าฉันรวบรวมมันให้มากเพียงพอละก็…ฉันจะหลอมมันเป็นเกราะได้ เธอจะโอเคไหม?”
ซอยูนพยักหน้ารับ
“ฉันจะทำชุดเกราะที่ดีที่สุดในภายหลังให้ได้เลย”
แม้ว่าวีดได้แสดงรอยยิ้มที่แสนอัธยาศัยดีสุดๆออกมา แต่ภายใต้โฉมหน้าของโครงกระดูกนั่นก็เป็นแค่เพียงรอยยิ้มที่สุดแสนจะน่าขยะแขยง
‘อัญมณีครึ่งหนึ่งที่ให้เธอไปก็เพราะว่าเธอทำงานได้ยอดเยี่ยมนะ’
แล้วอารมณ์ของวีดก็ดูสดใสมากขึ้นในตอนที่ซอยูนยกแร่มิทธริลให้กับเขาเพื่อที่จะเอาไปทำชุดเกราะ
วีดตั้งเป้าที่จะเพิ่มทักษะช่างตีเหล็กของเขาให้ได้
จำนวนของมิธธริลที่เขาหาเจอที่นี่ จะสามารถช่วยเร่งทักษะของเขาได้ด้วยช่วงเวลาสักสองสามวันกว่าๆอย่างที่เขาทำบ่อยๆ
เขาสามารถรวบรวมมิทธริลได้อย่างมากจากการล่าภายในดันเจี้ยนนี้ แล้วก็ค่อยสร้างประติมากรรมที่ทำมาจากมิทธริลล้วนๆนั่นก็จะไม่เป็นเพียงแค่ฝันลมๆแล้งๆแล้วล่ะ
แน่นอนว่าสำหรับประติมากรนี่จะเป็นการประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
“ฉันคงต้องเสริมกำลังรบพวกอันเดดละ…ทักษะปลุกชีพความตาย!”
เพราะจำนวนของนักรบแห่งความโกลาหลลดลงไปอย่างมาก
ซากศพของพวกอัศวินโลกันตร์ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะเอามาทดแทนได้
จากนั้นนักรบแห่งความโกลาหลที่เหลืออยู่
12
ตัวก็เริ่มออกตัวเทเลพอร์ตกันไปรวบรวมซากศพอัศวินโลกันตร์ที่เหลือเพื่อเอามาแทนกับ
8 ตัวที่เสียหายไป
ร่างกายของอัศวินโลกันตร์ขัดขวางเวทย์มนต์แห่งความมืดเอาไว้
ทักษะเนโครแมนเซอร์ต้องอยู่ในระดับสูงเลเวล2 ถึงจะสามารถปลุกชีพขึ้นมาได้
การอัญเชิญอันเดดล้มเหลว
|
ซากศพไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นอันเดดแต่ว่ามานาของวีดก็ถูกใช้ออกไปอยู่ดี
“สถานการณ์ในตอนนี้ ฉันคงไม่สามารถใช้ซากศพพวกนั้นได้”
วีดรู้สึกไม่พอใจมากนัก แล้วจึงตัดสินใจที่จะพักก่อน
ระดับค่าพลังชีวิตกับมานาต้องฟื้นขึ้นมาให้ได้ก่อน
เช่นเดียวกับซอยูนและประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆ
ปาร์ตี้ยังไม่ได้พักผ่อนแถมยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่นัก
แต่การต่อสู้อื่นก็เริ่มประดาหน้าเข้ามาใหม่!
“พวกมนุษย์กับอันเดดที่กล้าท้าทายดินแดนแห่งนี้
ช่างเป็นพวกที่โง่เขลายิ่งนัก ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ ที่พวกแกจะเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าได้”
“ที่นี่
ไม่ใช่ที่ๆสำหรับมนุษย์ต่ำต้อยอย่างพวกแก ข้าจะกำจัดพวกแกทั้งหมดเอง”
แล้วพวกอัศวินโลกันตร์ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
เพราะว่าชื่อของวีดกับซอยูนขึ้นเครื่องหมายสีแดงอยู่ พวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนี้
จึงเล็งเป้าเข้าโจมตีอย่างดุดันไปที่พวกเขาในทันที
ค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของวีดนั้นทะยานมากขึ้นเกิน 6,000
แต้มไปแล้ว
หากว่าใครมีเครื่องหมายของฆาตกรอยู่ มอนสเตอร์ส่วนใหญ่นั้นจะไม่ยอมหนีไปเลยในการต่อสู้
ถ้าคุณไม่ฆ่าพวกมันให้เร็วมากพอ จากนั้นพวกมันก็อาจจะเรียกกำลังเสริมมาได้
และเพราะว่าชื่อของคุณได้แพร่ออกไปทั่ว คุณก็จะถูกไล่ตามไปตลอดทั่วทั้งดันเจี้ยนได้
ถึงกระนั้นด้วยการเสียสละตัวเบี้ยนักรบแห่งความโกลาหลไป
8
ตัว ก็สามารถล่าอัศวินโลกันตร์ได้สำเร็จถึง 2
ตัว
จบตอน
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณผู้แปลและผู้ลงผลงานทุกท่านคระบ
ตอบลบจบเควสนี้คงกำไรเหนาะๆทั้งชีวิตจริงและบทบาทตัวละครในเกม คุ้มกับความยากที่สูงถึงระดับsแถมเป็นเควสต่อเนื่องอีก
ตอบลบเป็นเควสยาวกับซอยูน รู้สึกฟินครับ เขตกว้างจริงๆ
ตอบลบมีลุ้นแล้ว
ตอบลบหนีหรือสู้
ขอบคุณผู้แปลมากๆครับ
ตอบลบทักษะปลุกชีพจะขึ้นเลเวล2ตอนไหน ศพรอปลุกอีกเยอะเลย ได้เก็บของดรอบ เอาศพมาปลุกชีพเป็นสมุนอีก กำไร
มันเยี่ยมจิงๆ
ตอบลบขอบคุณนะสนุกมากกกกก
ตอบลบวีดเดินฝั่งทางขวาที่มีเปลวไฟลุกโหมขึ้นมา ขณะที่ซอยูนเดินอยู่ทางฝั่งซ้าย
ตอบลบด้วยการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ซอยูนก็รู้สึกขอบคุณมากๆต่อความห่วงใยของวีด
แต่ว่าจริงๆนั้นไกลเกินความเป็นจริงมาก เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากวิธีการของสุภาพบุรุษที่พึงกระทำต่อสุภาพสตรี
‘ไม่มีทางที่ฉันจะอยู่ทางฝั่งซ้ายหรอก ใครจะรู้ละว่าตอนไหนที่พวกมอนสเตอร์จะออกมาน่ะ’
ช่วยด้วยคะ...ฟินค้าง...กระซิกๆๆ😢😢😭
รอตอนที่ 9 กับ 10 ก่อนนะ ฟินกว่านี้อีก หมอนกระจุยกระจาย^.^
ลบขอบคุณผู้แปลครับ สนุกมากเลย ^____^
ลบดีใจที่สนุกคับ ยินดีคับ
ลบขอบคุณครับ
ตอบลบวีดนายช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆเศร้าแพพ
ตอบลบ