เล่มที่ 20 ตอนที่ 3: ราตรีของเหล่าอันเดด แปลโดย Cole’s
Myth
กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นกับกลุ่มโจรสลัดได้จับมือต่อสู้ร่วมกัน
แล้วก็เริ่มดำเนินการยึดครองลาส ฟาลังคซ์ด้วยแรงฮึดเต็มเปี่ยม
ถ้าหากนับจำนวนรายหัวของเหล่าอันเดดที่วีดอัญเชิญออกมานั้นน้อยกว่ามาก
ซึ่งถือว่าขาดแคลนพอตัวเลยทีเดียว
แต่ว่ายังไงก็ตาม ถ้าหากว่าคุณอัญเชิญอันเดดอย่างผีดิบซอมบี้มารวมตัวกัน
นั่นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายเลย
การต่อสู้กับพวกดรินเฟลด์ ผู้เล่นทั้งหลายหรือแม้แต่พวกลูกเรือนั้นไม่อาจเลี่ยงได้เลย
เพราะงั้นขอบเขตการอัญเชิญก็ควรจะต้องเป็นระดับเดทไนท์เป็นอย่างน้อย
“พวกพ้องที่ฉันต้องหาก็คือ……”
มีมอนสเตอร์แข็งแกร่งมากมายอยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ ไม่มีมอนสเตอร์แม้ซักตัวเดียวที่ควรจะมองข้าม
ถ้าหากว่าคุณเพิ่มค่าความสนิทสนมและค่าความเป็นมิตรเอาไว้มากๆพวกมันก็อาจจะช่วยคุณได้
กับมอนสเตอร์ที่ระดับสติปัญญาต่ำและก็มีนิสัยตะกละตะกลามขั้นรุนแรง
การทำอาหารเลิศรสให้พวกมันก็สามารถทำให้พวกมันซึ้งใจได้
บางสิ่งบางอย่างเช่นพรสวรรค์ก็อาจจะเป็นที่ต้องการเช่นกัน หากว่ามองไปที่กลวิธีในการผูกมิตรไมตรี
จากนั้นการจะออกไปต่อสู้ผ่าวิกฤติไปร่วมกันก็อาจกลายเป็นพรที่ถูกประทานมาให้ก็ได้
“เอออออออ
พวกแกที่อยู่ตรงนั้นนะ…..”
แล้ววีดก็ตัดสินใจพูดกับพวกบอลลาร์ด
กร้ารรรรรรรรร!
ทันทีที่ขนของพวกมันลุกพองขึ้น พวกมอนสเตอร์ก็โจมตีมาทันที!
ขณะที่ได้ออกล่าไปมากกว่า 1,000 ตัว เขาก็รวบรวมได้ทั้ง หนัง ฟัน หางของพวกมอนสเตอร์แล้วก็เอาส่วนเนื้อมาทำเป็นเนื้อตากแห้ง
คงเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่เป็นอริยังไม่จางหายไป
พวกบอลลาร์ดก็ไม่แม้แต่จะยอมเชื่อฟังเขาเลย
พวกไทร์เบธ มอนสเตอร์จำพวกค้างคาวก็ยังไม่เข้าใจภาษามนุษย์อีก แต่พวกมันก็ยังทำหน้าที่ของพวกมันจนเสร็จสิ้นจากการรวมตัวเป็นฝูงดีเสียมากกว่าทำงานตัวเดียว
“พวกไทร์เบธก็มีส่วนที่จะเป็นประโยชน์อยู่ละนะ”
แล้วถึงแม้ว่าจะใช้ทักษะประติมากรรมจำแลงเพื่อเปลี่ยนไปเป็นไทร์เบธ
แต่เพราะเขาไม่รู้ภาษาของพวกมันก็กลับเป็นว่ามันก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี
“แต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็ค่อยทำให้พวกมันเป็นพวกพ้องฉันได้หนิ คิดว่าละนะ”
วีดพูดออกมาอย่างมั่นใจ
การล่าในเขตลาส ฟาลังคซ์มาเป็นเวลานานสร้างความอาฆาตแค้นรุนแรงมาก
นั่นหมายถึงพวกมันอาจจะเข้าโจมตีด้วยความโกรธแบบไม่มีข้อแม้เลยก็เป็นได้!
ความอาฆาตแค้นของเหล่ามอนสเตอร์เขตลาส ฟาลังคซ์ที่พุ่งเป้าไปที่แวนฮอร์คกับโทริก็ยังคงดูหวาดหวั่นมากอยู่ดี
ถึงแม้ว่าพวกมันจะเจอเขาอยู่นอกฐานที่มั่นของพวกมันแต่พวกมันก็ยังคงโจมตีเขาอยู่ดี
“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าสัก 30 ตัว
ไม่น่าจะเป็นปัญหาสักเท่าไหร่”
ค่อยคิดเรื่องผลลัพธ์หลังจากนี้ละกัน!
“ในตอนที่พวกคุณรู้สึกหิวโหยมาเป็นเวลานานมากๆ
ก็คงแยกไม่ออกหรอกหากกินระหว่างเนื้อหมูแช่แข็งกับหมูย่างนะ”
แม้ว่าพวกมอนสเตอร์นั้นไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเหลือเราก็เพียงพอแล้ว
ตราบเท่าที่พวกมันยังไปต่อสู้กับกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นแล้วก็พวกโจรสลัดนั่นได้น่ะนะ
“ยังคงตามมาสินะ ฉันปล่อยให้พวกมันอยู่ตามลำพังแล้วนะ แต่พวกมันก็ยังคงจะตามฉันมาอยู่อีก
คาดไม่ถึงจริงๆ…….”
ตอนที่คุณออกไปล่าหรือออกไปสำรวจ ทันใดนั้นคุณก็โดนล้อมกะทันหัน
มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะโดนฆ่าตายไป
แม้ว่าหนทางเดียวเพื่อที่จะลดข้อเสียเปรียบนั้นลงได้ ก็คือการชิงโจมตีก่อนนั่นเอง
อย่างน้อยที่สุด
ศัตรูนั้นก็คงไม่อาจคาดเดาไว้ได้ว่าวีดจะเป็นฝ่ายซุ่มโจมตีพวกเขาก่อน
“คงต้องเลือกวันดีๆเพื่อโจมตีพวกมันละ
โชคดีจริงที่มาถึงลาส ฟาลังคซ์ก่อน ฉันคงนึกทั้งหมดนั้นไม่ออกแน่ว่าจะต้องชิงข้อได้เปรียบก่อน
อัญเชิญ ศิลาพิโรธ!(Angry Stone)”
ช่างเป็นธรรมชาติที่โหดเหี้ยมและอารมณ์ฉุนเฉียวซะจริง
แต่ยังไงถ้าหากพวกมันยังอยู่ใต้อำนาจของเจ้านาย
พวกศิลาพิโรธก็ยังคงเชื่อฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัดอยู่ดี
ภายในโมราต้าเหล่าชาแมนสายธาตุนั้นได้ทำสัญญากับเหล่าศิลาพิโรธเพื่อไปออกล่า
ต้องขอบคุณพวกศิลาพิโรธจริงๆ พลังทางภาคพื้นดินมีพละกำลังมากขึ้นนิดหน่อย
หากจะพูดถึงพวกศิลาพิโรธนั้น อุณหภูมิรอบๆที่สูงปรี๊ดของพวกมันสามารถหลอมละลายทุกอย่างได้อย่างเห็นได้ชัด
“นายท่าน
นานมากแล้วตั้งแต่ที่เราได้พบกัน”
“ไม่เจอกันนานนะ”
“คริฮี่ฮี่
นี่ละคนโปรดของข้า”
หลังจากถูกอัญเชิญมาที่เขตลาส ฟาลังคซ์
เหล่าศิลาพิโรธชื่นมื่นเบิกบานอย่างกับเด็ก พวกมันสามารถระบุถึงที่ตั้งต่างๆทั่วพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ที่วีดไม่ได้อัญเชิญพวกศิลาพิโรธออกมาตั้งแต่ออกล่าทีแรกก็เพราะการขัดขวางของพวกมอนสเตอร์และจำนวนของมานาที่ต้องใช้
เหล่าศิลาพิโรธอาจจะมีค่าความทนทานเปลวไฟสูงมากกว่าพวกมอนสเตอร์ของเขตลาส
ฟาลังคซ์ด้วยซ้ำไป
ในบางครั้งคุณสมบัติของไฟจะช่วยในการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตของมอนสเตอร์ได้
แทนที่จะทำให้ความเสียหายให้พวกมันซะอีก นั่นเลยบังคับให้วีดไม่จำเป็นต้องสนใจพวกมันมากมายนัก
“อัญเชิญ ปราชญ์แห่งผืนพิภพ(Earth Expert)”
จากรูปทรงและความรู้สึกที่น่าพึงพอใจของพวกตัวโตเต็มวัยแสนนิสัยดีนั้น
เหล่าปราชญ์แห่งผืนพิภพได้ถูกอัญเชิญออกมา
พวกปราชญ์แห่งผืนพิภพก็เชื่อฟังคำสั่งดีเช่นกันแม้จะโยนตัวพวกมันทิ้งไป
มันก็พร้อมที่จะอุทิศตัวเพื่อปกป้องเหล่าชาแมนสายธาตุ
ด้วยความพยายามอย่างมากเพื่อจะทำสัญญาให้ได้ พลังรบที่คุณสามารถสำแดงฤทธิ์ออกมาได้ก็เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ทั่วทั้งโมราต้าธาตุที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ ศิลาพิโรธ กับ
ปราชญ์แห่งผืนพิภพ
“ท่านเรียกขานข้าหรือ นายท่าน?”
วีดก็ได้เรียกเหล่าปีศาจธาตุออกมาเท่าที่ทำได้แล้ว!
มุมปากของเขาก็ได้ปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้ายขึ้นมา
“พวกแกมาแหยมกับฉันก่อนนะ
จริงๆฉันก็ไม่ได้อยากจะสู้หรอกแต่ก็คงช่วยไม่ได้ละ เป็นความผิดของพวกแกเองนะ”
เขาได้เปลี่ยนเข้าสู่โหมดพร้อมรบสมบูรณ์ในทันที
เตรียมระดมกลวิธีอันร้ายกาจออกมาจนหมดสิ้น ส่วนความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ความสับสนนั้นไม่แม้แต่ยอมให้ปรากฏออกมาตั้งแต่แรกแล้ว
“คึๆๆๆๆๆ”
ขณะที่มองไปที่วีดที่กำลังนึกฝันถึงบางสิ่งแล้วแสยะยิ้มออกมา
เจ้าเหลือง แวนฮอร์คและโทริได้แต่พยักหน้าอย่างเงียบๆให้กัน
สำหรับคนที่เคยผ่านความทุกข์ทรมานมา พวกเขาล้วนรู้จักท่าทางเช่นนั้นดี
เมื่อสถานการณ์คับขันเกิดขึ้นมา
สันดานดิบของมนุษย์ก็จะปรากฏเห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
‘แกสัมผัสได้ถึงเจ้าโหดนั่นสินะ’
‘ช่างเป็นมนุษย์ที่ดูชั่วร้ายจริงๆ….’
“ต้องเป็นสันดานแต่เดิมของพวกมันแน่ๆเลย
ถ้าพวกมนุษย์ไม่มาที่นี่ เราก็คงจะไม่โดนกดขี่แบบนี้หรอก”
‘ช่างผิดพลาดมหันต์เลยที่มาพบกับเจ้านายคนนี้นะ’
เป็นอย่างที่คาดไว้จากพลเรือเอกของกองทัพเรือที่สอง
ดรินเฟลด์นั้นมักใหญ่ใฝ่สูงเป็นอย่างมาก
“กิลด์เฮอร์มีสกำลังจะได้ขยายอาณาเขตเพิ่มมากขึ้นไปอีก…แล้วข้าก็จะเป็นผู้ปกครองทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้”
หลังจากที่ถีบเลเวลตัวเองจนได้มาเป็นท๊อป
1,200
คนของรอยัลโร้ด เขาก็มีหลักการที่เคร่งครัดให้ต้องปฏิบัติตาม
ด้วยเหตุผลนี้เองที่เขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของกิลด์
เขาพยายามปฏิบัติตามอย่างเชื่อมั่นในคำสั่งที่ให้เขาออกไปไล่ล่าวีด
แต่ว่าเขากลับโลภมากขึ้นมาซะงั้น
“มาถึงลาส
ฟาลังคซ์แล้ว นี่ละคือโอกาส”
เขาไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะต่อต้านกิลด์เฮอร์มีสที่คุมโดยบาร์ดเรย์เลย
พวกเขานั้นรู้ดีว่าพลังที่แท้จริงแม้เพียงนิดเดียวของกิลด์เฮอร์มีส
ก็รู้แล้วว่าจะไม่มีอิสรภาพอยู่เลยแม้แต่น้อยหากอยู่บนท้องทะเล
แม้ว่าขณะที่เขาจะต้องเติมเต็มคำสั่งในการออกล่าวีด
แต่เขาก็ยังคงเก็บนิดเก็บหน่อยเพื่อสนองตัณหาส่วนตัวซักน้อยก็ยังดี
“ตอนนี้ผู้คนกำลังเฝ้าดูฉันและกองทัพของฉัน ฉันคิดว่าเป็นโอกาสดีนะที่จะเพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์เฮอร์มีสของเรานะ”
ผ่านทางเครือข่ายภายในของกิลด์
เขากำลังพยายามโน้มน้าวบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้งหลาย เพราะผู้คนนั้นให้ความสนใจอยู่เป็นอย่างมากในเขตลาส
ฟาลังคซ์
ด้วยการแสดงผจญภัยให้เห็นผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เนตหรือว่านำไปออกอากาศอาจจะทำให้ยอดผู้ชมทะยานสูงขึ้นก็ได้
เหล่าผู้นำแห่งกิลด์เฮอร์มีสกำลังถกเถียงเรื่องสำคัญเรื่องนี้อยู่
ส่วนเหล่าทหารราชองครักษ์ของบาร์ดเรย์นั้นก็มีเป้าหมายเพื่อเข้ายึดกิลด์ใหญ่ๆที่ถูกสั่งการโดยกิลด์ภายนอกทั้งหมด
กิลด์มาสเตอร์ราฟาเอลได้สิ้นสุดหน้าที่แล้ว
-ได้รับการยินยอมแล้ว ท่านได้สำแดงอำนาจของกิลด์เฮอร์มีสแล้ว
|
การเจรจาตกลงของสงครามได้ถูกถ่ายทอดออกไปโดยหลายๆสถานี
สถานีโทรทัศน์ทั้งหลายจดจ่ออยู่กับการสำรวจและการออกล่าในเขตลาส
ฟาลังคซ์กันแบบสดๆ
แต่ว่าสำหรับสถานี KMC Media นั้นไม่ได้ถ่ายทอดรายการออกไป เพราะพวกเขาเข้าใจอย่างมากกับสถานการณ์ที่จะต้องยอมเสี่ยง
จากการเป็นสถานีสื่อข่าวที่ผูกขาดจากการผจญภัยของวีดนั่นเอง
“ชื่อของดรินเฟลด์คงจะแพร่สะพัดข้ามไปทั่วทุกหนทุกแห่งเหมือนกับวีดเลยละ”
กองทัพของราชอาณาจักรฮาเว่นตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันถัดมาเพื่อเตรียมตัวออกสำรวจ
“เราจะเหลือทหาร
200 นายไว้ที่ค่ายเพียงชั่วคราว ผู้เล่น 10 คนกับทหารยามอีก 190 นาย ป้องกันค่ายพร้อมกับเสริมการป้องกันเอาไว้ด้วยนะ”
จากนั้นดรินเฟลด์รวมไปถึงเหล่าผู้เล่นและลูกเรือก็เริ่มออกสำรวจ
ลูกเรือระดับหัวกระทินั้นจะแสดงความสามารถสูงสุดเมื่ออยู่ในทะเล
แต่ตรงกันข้ามความสามารถในการต่อสู้บนพื้นดินนั้นกลับกระจอกไปเลย
แต่เพื่ออุทิศตนให้กับการเดินทางของพวกเขาเวลาผ่านไปเหล่าลูกเรือก็ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก
กลุ่มโจรสลัดกริฟฟิทเป็นพวกแรกที่ออกไปล่า
“สกัดทางนั้นไว้!”
“พลธนู! ยิงธนูไป! ดีที่สุดที่จะใช้การโจมตีต่อเนื่องสู้กับความร้อนแผดเผาแบบนี้”
“พวกจอมเวทย์ละ?”
“กลุ่มโจรสลัด จอมเวทย์อยู่ไหน!”
แต่ว่าพวกบอลลาร์ดได้ฆ่าเหล่าโจรสลัดอย่างโหดเหี้ยมไปแล้ว
กลุ่มโจรสลัดปกติจะมีทักษะการเดินเรือที่โดดเด่นมากแต่ว่าก็ถือว่าต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับทหารกองทัพเรือของราชอาณาจักรฮาเว่น
การล่าบอลลาร์ดที่ปกติมีเลเวลถึง 400
ทำให้มีคนบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
แกว๊วววววว!
เพียงเสียงคำรามของเหล่าบอลลาร์ด บรรดาโจรสลัดมากมายก็ลดอาวุธพวกเขาลงและจมดิ่งลงสู่ความหวาดกลัว!
ถ้าหากว่าเป็นกริฟฟิทหรือเหล่าโจรสลัด มีแค่บทเรียนเพียงอย่างเดียวที่พวกเขารู้มาก็คือ
อยู่ให้ห่างจากตัวเมืองเพื่อที่จะเข้าไปล่าเงินรางวัลเพราะถ้าหากว่าคุณไม่โชคดีจริงๆ
ก็คงลำบากแน่ สำหรับเหล่าโจรสลัดที่ต้องไปรับมือกับชาวเมืองธรรมดา
สถานที่อย่างผับ ท่าเรือ
บ่อนพนันหรือว่าพวกตรอกนั้นสำหรับเหล่าโจรสลัดก็ง่ายที่จะไปเกณฑ์คนเพิ่มหรือแม้เติบโตขึ้นได้
แต่ตรงกันข้ามเมื่อเทียบกับเหล่าลูกเรือ ความซื่อสัตย์ภักดีที่ได้สร้างไว้ก็จะลดต่ำลงไป
แล้วพวกเขาก็จะมีสภาพจิตใจที่อ่อนแอลงไปอีกด้วย
ถ้าคุณละเลยเรือของคุณไปแม้แต่เสี้ยววินาทีพวกเขาก็จะมาฉกไปและทิ้งเรือไว้
หลังจากหนีไปพร้อมกับขโมยเงินไปแล้ว จากนั้นก็แยกตัวแล้วหายวับเข้ากลีบเมฆไป
ฉะนั้นราชาโจรสลัดกริฟฟิทที่มักจะหนุนหลังโจรสลัดที่เขาคัดสรรมา
ก็ต่างนับถือเขาอย่างมากและให้เขาอยู่ในฐานะผู้บัญชาการและปล่อยให้พวกเขาจัดระบบระเบียบพวกเขากันเอง
ด้วยการใช้ความเหนือกว่าด้านจำนวนบวกกับนิสัยโจรสลัดอันป่าเถื่อนเพื่อออกไปสู้กับเหล่ามอนสเตอร์
เป็นเพราะอยู่ภายใต้การนำของโจรสลัดกับความสามารถบัญชาการที่แสนจะธรรมดา
เหล่าลูกสมุนโจรสลัดก็พากันทยอยสละชีพพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
นั่นมันคงจะเป็นวิธีการเดียวกันกับการหย่อนลูกสิงโตลงเหวเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตนั่นแหละ
“เลเวลของมอนสเตอร์มันสูงมากเลยครับ”
จากเวทีแห่งการแสดงในขณะนี้ สีหน้าของพวกดรินเฟลด์และผู้เล่นของกองทัพเรือก็ซีดเผือดลงไปแล้วเล็กน้อย
“แต่ยังไง ระดับพลังต้านทานขนาดนี้เราก็คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วละตอนที่วางแผน”
จากประโยคนั้น
เหล่าผู้เล่นอัศวินนาวีถือว่าเป็นคำพูดที่ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
“แน่นอนอยู่แล้วละ
ความแตกต่างระหว่างเรากับสัตว์พวกนั้นมันแน่อยู่แล้ว มันก็คงไม่ใช่ ที่จะเอาตัวเราไปเทียบกับพวกโจรสลัดนะ”
แต่แล้วดรินเฟลด์และกองทัพเรือแห่งราชณาจักรฮาเว่นที่เป็นผู้เล่นเลเวลสูงก็ได้ทำการตัดสินใจที่ต่างออกไปจากพวกโจรสลัด
พวกเขาตัดสินใจที่จะออกไปล่าพวกบอลลาร์ด
“ลงมือโจมตีได้!”
ท่ามกลางเหล่าทหารกองทัพเรือ มีเพียงจอมเวทย์สามคนและนักธนูอีกสิบสองคนที่สามารถใช้การโจมตีระยะไกลได้
ท่ามกลางการโจมตีจากพวกโบลลาร์ดที่กระโจนตัวไปมา ดรินเฟลและอัศวินนาวีก็ได้เพียงแต่ต่อสู้ท่ามกลางการซุ่มโจมตีของพวกมันเท่านั้น
ท่ามกลางการต่อสู้นั้นลูกเรือสองคนได้เสียชีวิตไป
แต่เมื่อเทียบกับเหล่าโจรสลัดพวกเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
แต่ว่ากับดรินเฟลด์นั้นคิดว่าความเสียหายนี้มีค่ามากมายเหลือเกิน
เพราะเพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกเรือคนหนึ่งมาได้นี้ต้องใช้เวลาและความพยายามมากมาย
“ขณะที่เราออกไปสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าเดี๋ยวเราก็จะชินกับมันเอง
พยายามลดความเสียหายให้น้อยที่สุด มุ่งหน้าต่อไป!”
ดรินเฟลด์ยังคงออกล่ากับพวกลูกน้องของเขาต่อไปเรื่อยๆ
แต่ในท้ายที่สุดคุณก็ไม่สามารถที่จะมาเยือนเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ได้โดยไร้รอยขีดข่วนหรอกนะ
การล่าพวกโบลลาร์ดนั้นช่วยเพิ่มอัตราการลูทของและค่าประสบการณ์อย่างมาก
บรรดาลูกเรือพยายามอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้เล่นหรือไม่ก็เหล่าอัศวินนาวีเอาไว้
เพื่อหลบหลีกการซุ่มโจมตีของพวกโบลลาร์ด
“จะต้องมีข้อได้เปรียบอยู่แน่ๆ ถ้าปรับการต่อสู้ให้เข้ากับพวกโบลลาร์ดให้ได้นะ”
การจัดทัพหน้าให้มีผู้เล่นเลเวลสูงอยู่เยอะๆในกองทัพเรือราชอาณาจักรฮาเว่น
สร้างความปลอดภัยในการล่าโบลลาร์ดได้ นี่ทำให้เหล่าลูกเรือที่กำลังอ่อนล้าสามารถฝึกฝนได้ง่ายยิ่งขึ้นและก็เพิ่มเลเวลของพวกเขาได้มากจากการล่าพวกโบลลาร์ด
สีหน้าของดรินเฟลด์กับผู้เล่นคนอื่นดูสดใสมากขึ้น
‘10เขตต้องห้ามก็คงพูดเกินไปสินะ ลองมาคิดดูแล้วไม่เคยมีใครค้นพบพวกมันมาก่อนที่พวกเราจะมานิ
ได้มาล่าในเขตลาส ฟาลังคซ์นี่ถือว่าได้เปรียบสุดๆไปเลย’
‘ในตอนที่การต่อสู้นี่ออกอากาศ
ความนิยมของฉันก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นไปอีก พวกเขาคงหวังอยู่เงียบๆละสินะว่ามันคงจะยากลำบากยิ่งกว่านี้’
การเจาะผ่านกลุ่มพวกโบลลาร์ดเข้าไป พวกเขาก็ได้ไปถึงสถานที่ที่มืดสลัวแห่งหนึ่ง
ทันใดนั้นเองพวกเขาก็โดนโจมตีอย่างกระทันหันโดยพวกไทร์เบธ
การจู่โจมที่ไม่ทันตั้งตัวนั้นหนักหนาเกินไปสำหรับเหล่าลูกเรือที่จะสามารถรับมือกับสนามรบแบบนี้ได้
เพราะพวกเขามีเลเวลระดับ 300 กลางๆถึง 300 ปลายๆ และถ้าหากพวกไทร์เบธกลุ่มเล็กๆไม่ได้โจมตีมาปุบปับแบบนี้
พวกเขาก็คงไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ได้แล้วก็ตายไปในที่สุด
แม้ว่าจะถูกไทร์เบทห้าถึงหกตัวล้อมเอาไว้มันก็ยังถือว่าเป็นไปได้ที่จะล่าพวกมันโดยไม่ตายไปก่อน
เพราะพวกเขามีคนถึง 28 คนรวมดรินเฟลด์เข้าไปด้วยแล้ว
แต่ตรงกันข้ามกลุ่มโจรสลัดนั้นมีคนเพียงแค่ 15 คนเท่านั้นเอง
พวกไทร์เบธส์นั้นเร็วสุดๆแล้วยังโฉบเฉี่ยวไปมาทั่วอย่างเจ้าเล่ห์
จนทำให้การล่าเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก
บนท้องทะเลพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและยังแข็งแกร่งมากด้วย
แต่ถึงไม่ได้ฝึกมา พวกทหารเรือก็คงได้แต่โดนตะครุบและโดนกินอย่างสูญเปล่าอยู่ดี
“ทหารถอนทัพกลับ ส่วนพวกผู้เล่นก็ดูแลชีวิตตัวเองด้วยยยย!”
ดรินเฟลด์ข่มใจตัวเองเอาไว้แล้วออกคำสั่งไป
กริฟฟิทก็ให้คำสั่งที่คล้ายกันออกไปเช่นกัน
ขณะที่กำลังรักษาความปลอดภัยให้กับพวกลูกสมุนอยู่นั้น
แต่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆเดินหน้าเสี่ยงอันตรายต่อไป
ขึ้นฝั่งไปที่เขตลาส ฟาลังคซ์ซะ!
การถ่ายทอดสดตามเวลาจริงมาจากแต่ละสถานีที่กำลังเผยภาพอยู่ เพิ่มยอดผู้ชมมากขึ้นเป็นอย่างมาก
บนบอร์ดกระทู้ผู้ชมของทางสถานีและบอร์ดกระทู้ของรอยัลโร้ดก็มีข้อความแสดงความคิดเห็นออกมาเป็นจำนวนมากเช่นกัน
-อย่างที่คิดเลย 10 เขตต้องห้าม
เลเวลของพวกมอนสเตอร์สุดยอดมากจริงๆ คนนั่นมันดรินเฟลด์ของกองทัพเรือที่สองแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในกิลด์เฮอร์มีสนิ
นั่นคือกองทัพเรือของกิลด์เฮอร์มีสจริงๆสินะ
แม้พวกเขาจะเคลื่อนที่ไปช้าแต่ก็เดินหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง
หวังว่าพวกเขาจะแสดงให้เห็นเขตลาส ฟาลังคซ์ทั่วทั้งเขตนะ
-นั่นเป็นครั้งแรกของพวกเขาในเขตลาส ฟาลังคซ์นะ
พวกเขาก็แค่ไล่ตามวีดไปเท่านั้นเองแหละน่า
-โบลลาร์ดกับไทร์เบธนี่น่ากลัวจริงๆ
พวกเขาตายไปเร็วมากเลย
-วีดตัวคนเดียวในเขตลาส ฟาลังคซ์สุดโหด ขณะที่พวกเขาออกไปเป็นกลุ่มไล่ตามเขาแล้วก็ยังเอาแต่หมกหมุ่นยกยอตัวเองเกินไปอยู่นั่นแหละ
|
เหตุการณ์ตื่นเต้นเร้าใจของการออกสำรวจสิบเขตต้องห้ามทำให้ยอดผู้ชมสูงขึ้นอย่างล้นหลาม
แต่ว่าความความคิดเห็นของผู้คนที่อยู่บนอินเตอร์เนตนั้นกลับไม่ได้มองไปที่ฝั่งดรินเฟลด์และกิลด์เฮอร์มีสเลย
แต่ยังไงก็ตาม มันก็เป็นเรื่องจริงที่ผู้ชมมากมายรู้สึกอิจฉาการออกสำรวจของเหล่ากิลด์เฮอร์มีส
ดรินเฟลด์ได้ร่างรายละเอียดแผนการขึ้นมา
การลูทของจากการออกล่าในพื้นที่รอบๆอันน่าภาคภูมิใจภายในวันแรกก็ค่อยๆจบลงไปในที่สุด
เพราะว่าเป็นการเดินทางอันแสนยาวนาน ค่ากำลังกายและความเหนื่อยล้าของเหล่าทหารเรืออยู่ในขั้นเสี่ยงที่จะได้รับผลจากความเสียหายมากขึ้น
การได้มาถึงที่เขตลาส ฟาลังคซ์อย่างง่ายดาย แถมตอนที่ต้องมาต่อสู้กับฝูงสัตว์นั่นถือว่าเป็นความเสียหายที่เล็กน้อยมาก
เพราะพวกเขานั้นได้พิสูจน์ถึงความกล้าหาญของพวกเขาแล้วนั่นเอง
ในวันที่สอง พวกเขาก็จะได้ออกสำรวจดันเจี้ยนอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ซึ่งเป็นดันเจี้ยนที่มีระดับความยากที่สูงมากขึ้น ที่ดูจะไม่ใช่หมูๆเลย
มันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากมายได้
แต่ว่าเมื่อคุณสำรวจดันเจี้ยนจนสำเร็จเสร็จสิ้นอย่างปลอดภัยแล้ว
ค่าชดเชยและผลลัพธ์ที่จะเอาไปออกอากาศนั้นจะสุดยอดมากๆ
ดรินเฟลด์มีความต้องการที่จะเพิ่มชื่อเสียงของเขาโดยพิชิตดันเจี้ยนอันตรายของเขตลาส
ฟาลังคซ์
หลังจากที่พิชิตดันเจี้ยนได้แล้วก็จะขยายอาณาเขตในลาส ฟาลังคซ์อย่างจริงๆจังๆ
อีกทั้งยังต้องสำรวจพื้นที่ให้กว้างขวางมากขึ้นแล้วก็ออกไปไล่ล่าวีดอย่างเอาจริงเอาจังอีกด้วย
เบื้องหน้าของเหล่าผู้ชมที่พวกเขากำลังรับชมอยู่นั้นกลับเป็นกองทัพเรือที่กำลังคุยโม้โอ้อวดเต็มที่ว่าจะออกไปฆ่าวีดให้ได้!
จากนั้นพวกเขาก็ส่งอัศวินนาวีออกไปสองสามนายเพื่อไปประเมินความสามารถของเขา
ถ้าหากว่าสามารถรับมือกับเขา (วีด)ได้ เขาก็มีแผนที่จะออกไปสู้ตัวต่อตัวอยู่ในใจแล้ว
‘ใช่แล้ว ก่อนหน้านั้นคงต้องไปพักผ่อนเยอะๆซะก่อน’
ค่าชื่อเสียงของดรินเฟลด์นั้นจะพุ่งทะลุไปถึงสวรรค์แน่ๆหากว่าเขาฆ่าวีดได้
แต่ว่าเขานั้นประมาทอย่างยิ่งกับการที่จะมาเผชิญหน้ากับวีด แถมยังใช้แผนที่วางมาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อใช้สู้กับวีด
กลับเอาไปสู้กับพวกมอนสเตอร์ในลาส ฟาลังคซ์ซะงั้น
และแล้ววันที่สองก็ได้มาถึง
หลังจากผ่านการใช้แรงงานของเหล่าลูกเรือทั้งหลาย
ค่ายบนเนินเขาก็แข็งแรงขึ้นเพียงพอที่จะไม่โดนทำลายไปทันทีในตอนที่ออร์คมาเคาะประตูค่าย
ใกล้ๆกันที่ซ่อนของกลุ่มโจรสลัดก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกัน
ขณะที่กำลังออกล่ามอนสเตอร์ ทั้งสองกลุ่มได้รับบาดเจ็บไปเกือบ 30
ถึง 70 คน ผู้เล่นแม้จะไม่ได้ตายมากมายนักแต่ว่าการตายของเหล่าลูกเรือหรือพวกโจรสลัดนั้นสูญเสียไปเป็นอย่างมาก
“ตอนที่เรากลับที่ทวีปเวอร์เซลแล้วมันก็รักษาหายได้น่า
อย่าไปกังวลกับอาการบาดเจ็บของพวกลูกเรือนักเลย ”
“แล้วเราก็ค่อยเปิดรับสมัครให้คนเยอะๆมาเป็นโจรสลัดก็ได้น่า”
สำหรับเหล่าทหารเรือและโจรสลัด ค่าชื่อเสียงถือเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อแต้มค่าชื่อเสียงนั้นสูง เหล่าลูกเรือหรือโจรสลัดที่ฝีมือดีมากๆก็อยากจะอาสามาเป็นพรรคพวก
แล้วต่อมาพวกเขาก็จะถูกจ้างใหม่อีกครั้ง ทำให้มันดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเขตลาส
ฟารังซ์อีกเลย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องอดทนรับความเสียหายต่อไป แล้วใจจดใจจ่อมีสมาธิไปกับการผจญภัย
และแล้ว การสำรวจดันเจี้ยนก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
“ต้องปกป้องพวกลูกเรือเอาไว้
เพราะงั้นตอนนี้ เราต้องทำบางอย่างเพื่อที่จะได้พิสูจน์ความองอาจของพวกเรา”
ดรินเฟลด์พบทางเข้าไปดันเจี้ยนขนาดใหญ่
“จะดีมากถ้าหากมันเป็นดันเจี้ยนที่ปลอดภัย เริ่มเสียใจนิดหน่อยละสิที่ไม่ได้เอาทีมขุดซากโบราณมากับการผจญภัยนี้ด้วย”
ถ้าหากว่าสถานที่ที่ถูกเลือกในลาส ฟาลังคซ์นั้นไม่โหดมากพอ การถ่ายทอดออกอากาศก็จะออกมาดูแย่
ถึงแม้ว่าไม่ได้ดูน่ากังวลกับการเข้าไปสำรวจดันเจี้ยนนั้น แต่ว่าก็มีเพียงลูกเรือกับจอมเวทย์อีกสองสามคนเท่านั้นที่ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ที่ดูน่ากลัวนั่น
ท่านเป็นผู้ค้นพบคนแรกของดันเจี้ยนหัวใจของภูเขาไฟ
สิทธิพิเศษ:
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,300 แต้ม
อัตราการดรอปไอเท็มและค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
มอสเตอร์ตัวแรกที่ถูกล่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่สุดในการดรอปไอเทมที่ดีที่สุด
“โอ้โห
อย่างที่คาดเลย!”
“เราเป็นผู้ค้นพบกลุ่มแรก”
ดรินเฟลด์กับเหล่าผู้เล่นค่อนข้างรู้สึกยินดี
ในฐานะที่เป็นกลุ่มแรกนั้น มันทำให้หน้าอกพวกเขาสั่นระรัวไม่ยอมหยุด
“ค่าประสบการณ์คูณสอง อัตราดรอปไอเทมคูณสอง!”
“ท่านพลเรือเอก
ข้าคิดว่าที่นี่น่ายั่วยวนใจมากที่จะล่าที่นี่ซักสองสามวันนะครับ”
ใบหน้านั้นเติมเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างกับดอกไม้บานเต็มที่เลยไปซะแล้ว
ถ้าไม่เพราะการออกอากาศถ่ายทอดอยู่ละก็ ดรินเฟลด์คงจะหัวเราะออกมาดังๆอย่างมีความสุขแล้วกับโชคดีที่ได้ค้นพบดันเจี้ยนแห่งนี้
“ยังมีดันเจี้ยนอีกมากมายนอกเหนือจากที่นี่
ต้องจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ด้วยละ”
“รับทราบครับ
ท่าน”
ขณะที่พลเรือเอกถูกจับจ้องด้วยสายตายหลายคู่
เขาต้องให้คำสั่งด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผย แล้วก็ต้องออกไปสู้อีกด้วย
วรู้วววววว!
วาจิ๊กกก!
กร๊ากกกกกก!
ภายในดันเจี้ยนนั้นได้วางกับดักและมีมอนสเตอร์มากมาย แล้วพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ระดับ
400 ปลายๆหรือแม้แต่ 500 กว่าก็ออกมา
เป็นดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์เลเวลสูงและกับดักตามธรรมชาติมากมาย
เพดานถ้ำถล่มลงมาเพื่อโจมตีแล้วพื้นดินก็ยังหายไปอีกด้วย
จากการออกอากาศนั้น ดันเจี้ยนนี้ถือว่ามีระดับที่ยากเอาการ
แต่ว่าพวกเขาก็หวังว่าพวกลูกเรือพวกนั้นจะยังสามารถทำความเสียหายอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย
ถึงแม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ดรินเฟลด์กับเหล่าอัศวินนาวีก็ได้ทำดีที่สุดแล้ว
และเดินหน้าต่อไป
“ไปกันเถอะ โจมตี! หลบ! เราคือกิลดิเฮอร์มีสที่แข็งแกร่งที่สุด!”
ระหว่างการต่อสู้กับมอนสเตอร์ ลูกเรือเจ็ดถึงแปดคนเสียชีวิตไป
แต่นอกเหนือจากนั้นพวกเขาก็ได้แค่ลิ้มลองรสชาติของความตึงเครียดและความระทึกตื่นเต้นที่แท้จริงเท่านั้น
ในเส้นทางที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้านั้น ก็ได้ปรากฏสถานที่ที่เป็นใจกลางของบ่อลาวารายล้อมพวกมันอยู่เป็นวงกลม
ณ ใจกลางนั้นมียักษ์เพลิงกำลังนอนหลับอยู่ถึง 5 ตัวด้วยกัน
-ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ได้ตื่นอยู่นะ
-เราควรเตรียมพวกจอมเวทย์เอาไว้ไหม?
-มอนสเตอร์ตัวใหญ่ยักษ์นั่นกับพื้นที่ไม่น่าอภิรมย์แบบนี้นี่นะ
ข้าไม่คิดว่าการต่อสู้นี้จะง่ายเลย……..
โชคไม่ดีนัก
อาชีพที่โจมตีต่อเนื่องได้อย่างจอมเวทย์หรือนักธนูนั้นไม่ได้มีมามากนัก
พวกนักเดินเรือก็สามารถยิงธนูได้อยู่บ้าง แต่ทำความเสียหายได้ต่ำเลยไม่สามารถที่จะทำการโจมตีไปที่พวกยักษ์เพลิงจนถึงตายได้
ดรินเฟลด์กับพวกอัศวินนาวีไม่สามารถเดินอยู่บนลาวาได้
แต่พวกเขาก็เข้าไปโจมตีพวกยักษ์ไม่ได้เช่นกัน
-ควรผ่านพวกมันไปแบบเงียบๆเลยดีไหมนะ
ร่างกายของพวกยักษ์เพลิงครึ่งหนึ่งที่จุ่มแช่และหลับใหลอยู่ภายในบ่อลาวา
ดรินเฟลด์ อัศวินนาวี พวกผู้เล่นและพวกนักเดินเรือเดินตรงไปที่ช่องทางแคบๆใต้กำแพงหินไปอย่างลับๆล่อๆ
ทางฝั่งตรงข้ามรอบๆบ่อนั้นเป็นทางเข้าเพื่อมุ่งไปยังที่อื่นอยู่
ทันใดนั้นเอง!
ตึกๆๆๆๆ
จากเสียงลึกลับนั้นดังขึ้น สุดปลายทางที่พวกนักเดินเรือเดินอยู่พังลงมาเล็กน้อย
เศษหินตกลงสู่ลาวาแล้วจมหายลงไป
ดรินเฟลด์กับเหล่าอัศวินนาวีสังเกตไปที่พวกยักษ์เพลิงอย่างหวั่นๆแต่พวกมันกลับนอนหลับสนิทไม่กระดุกกระดิกเลยแม้แต่น้อย
‘ฟิ้วววว โชคดีจริงๆ’
‘เยี่ยมไปเลย
เราข้ามไปอย่างปลอดภัยได้’
แต่ว่าเรื่องบังเอิญก็ได้เกิดขึ้นมาอีก
เนื่องจากเหงื่อไหลและเดินโซซัดโซเซไปมาเพราะไอความร้อน
ขณะที่เดินไปเดินมา จู่ๆขาของพวกนักเดินเรือก็สะดุดแล้วลื่นไถลล้มลง
“อ๊าคคคคคค!”
พวกลูกเรือที่กรีดร้องโหยหวนดังสนั่นขณะที่พวกเขาตกลงไปที่บ่อลาวา
‘พวกมันคงไม่หลับอยู่เฉยๆแน่ๆครั้งนี้’
‘ขอร้องละ
แค่นอนต่อไปเถอะนะ’
พวกยักษ์เพลิงนั้นตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีมนุษย์ที่ยืนนิ่งชะงักอยู่ตรงริมหน้าผา
“พวกมนุษย์น่าโง่ พวกแกยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่
แล้วยังทำให้ข้าตื่นอีก
พวกแกต้องสู้และพิสูจน์ว่าพวกแกมีคุณสมบัติมากพอที่จะผ่านที่นี่ไปได้ ”
พวกยักษ์เพลิงยกแขนของมันโผล่ขึ้นมาเหนือลาวาแล้ว
แขนที่มีความหนาขนาด2 เมตรและยาวขนาด
30 เมตรนั้นได้กุมดาบไว้ด้ามหนึ่ง
มันเป็นดาบที่ไม่รู้จัก
แต่ถ้าหากไม่ได้หลอมละลายภายใต้ลาวาก็เดาได้แค่ว่ามันมีค่าความทนทานที่น่าทึ่งแล้วยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย!
ค่าทำความเสียหายของอาวุธปกตินั้นจะเป็นสัดเป็นส่วนต่อความหนาแน่นของน้ำหนักของมัน
หากว่าไม่มีความคมก็จะมีความใหญ่โตเข้ามาทดแทนอย่างเท่าเทียม แต่ดาบใบกว้างใหญ่ของพวกยักษ์เพลิงนี่เป็นอาวุธที่เหนือขอบเขตเหล่านั้นไปโดยสิ้นเชิง
“ตายซะ ผู้บุกรุก”
ยักษ์เพลิงทั้งห้าตนกวัดแกว่งดาบใบกว้างของพวกมันไปมา
เมื่อใดที่ดาบปะทะกำแพงหินก็จะสั่นสะเทือนและก้อนหินใหญ่ๆก็พังครืนตกลงมาจากด้านบน
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแค่อย่างเดียวเท่านั้น
ยังมีแอ่งลาวาทอดผ่านอยู่ด้านล่าง
แถมผืนแผ่นดินยังสั่นสะเทือนตอนที่พวกยักษ์เพลิงเคลื่อนที่แรงๆอีก
ลาวาสาดกระเซ็นมาพร้อมกับใบมีดที่แหลมคมชูสะบัดมาปกคลุมยังพวกดรินเฟลด์และเหล่าผู้ร่วมทางของเขาด้วยเคราะห์ร้ายที่ไม่สมควรจะได้รับมา
แถมช่องแคบที่เหล่าลูกเรือกำลังผ่านไปนั้นก็ถูกทำลายด้วยการโจมตีของพวกยักษ์เพลิงนั่นอีก
“กร๊ากกกกก!”
“ช่วยด้วยยย!”
เหล่าลูกเรือ 15 คนหลอมละลายไปโดยไร้ทางขัดขืนจากการปะทะกับพวกยักษ์เพลิง
เป็นความเสียหายที่ร้ายแรงมาก!
ช่างเป็นความน่าสะพรึงกลัวของมอนสเตอร์ระดับบอสขนาดใหญ่จริงๆ
เมื่อเทียบกับพวกโบลลาร์ดนั้นนี่ถือว่าเป็นไปไม่ได้เลย
“มุ่งหน้าต่อไป!”
พวกจอมเวทย์ได้รับคำสั่งให้เตรียมร่ายเวทย์ไว้ก่อนหน้าแล้ว
เวทย์มากมายหลากหลายรูปแบบเล็งเป้าไปที่ยักษ์เพลิง แต่กลับเป็นว่าไม่อาจทำความเสียหายใดๆได้เลย
แถมดูเหมือนจะไปสะกิดให้มันโมโหเอาซะมากกว่า แล้วยังทำให้พวกมันกวัดแกว่งดาบได้รวดเร็วดุดันมากขึ้นเสียอีก
หลังจากที่พวกผู้เล่นรายงานว่าพวกยักษ์เพลิงนั้นยังคงไร้รอยขีดข่วน
ดรินเฟลด์ก็ได้ตระโกนออกไปว่า
“โกยสิวะ หนีเร็ว รออะไรอยู่ อยากถูกย่างสดตายรึไง!”
“ไปเร็วเข้า!
พวกเราต้องออกไปจากที่นี่!”
หลังจากที่ปะทะกับพวกยักษ์เพลิงอย่างดุเดือด
เหล่าผู้เล่นก็ผละออกจากการต่อสู้และพยายามหนีออกไปยังทางที่เข้ามา
ดรินเฟลด์ไม่ต้องการที่จะสู้อีกต่อไปแล้ว แถมยังต้องสูญเสียกองกำลังที่สะสมเอาไว้มากมายไปเพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น
“วิ่งให้เร็วที่สุดแล้วหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้”
บนเส้นทางที่คับแคบนั้น พวกเขาพันยุ่งเหยิงกันเป็นพัลวันแถมยังไปชนเข้ากับสายธารลาวาอีกด้วย
ในขณะที่การโจมตีของยักษ์เพลิงยังคงทับถมสร้างความเสียหายเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
จากความโกลาหลนั้นพวกเขาออกมาจากดันเจี้ยนได้อย่างหวุดหวิดอย่างทุลักทุเล
โดยมีคนตายไปด้วยจำนวน 76 คน
ถ้าหากไม่เกาะกลุ่มเหล่าลูกสมุนเอาไว้ และทุกคนต่างวิ่งหนีหางจุกตูดออกมาแบบตัวใครตัวมันเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดให้ได้
นั่นคงจะเป็นความอัปยศสุดๆ!
ผู้เล่นที่ตายไปรวม 7 คน
ภายในสถานที่ที่สุดแสนยากลำบากนั้น พวกเขาไม่แม้แต่จะระบุศพคนตายได้เลย
ดังนั้นเลยเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปเอาไอเท็มที่สูญหายไปได้
“กึกกก”
หมัดของดรินเฟลด์สั่นสะท้านไปหมด
แต่ถึงแม้ว่ามันจะกวนใจเขาอยู่ เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อสู้อีกครั้ง
ในทะเลถ้าเรือไม่แตกไปเหล่าลูกเรือคงไม่ได้ตายไปแบบง่ายๆแน่
แต่ยังไงในดันเจี้ยนนี้พวกลูกเรือต่างตายไปอย่างทารุณและก็รู้สึกไม่ได้อยากต่อสู้อีกต่อไป
-เราต้องนึกถึงการออกอากาศนะ
ผู้ชมมากมายกำลังดูเราอยู่
ประโยคนั่นมาจากพลเรือเอกและผู้เล่นคนอื่นๆที่กระซิบหากัน
เพราะแทบจะไม่มีสติคำนึงถึงการออกอากาศ แต่ดรินเฟลด์ก็แสดงความคิดเห็นและพูดออกมาว่า
“ดันเจี้ยนของลาส ฟาลังคซ์นั้นมีความยากมากเกินไป
ดูอย่างพวกเรา คงยังไม่มีใครจะสามารถพิชิตได้เลย
การสำรวจวันนี้นั้นยากมากฉะนั้นวันนี้เราจะถอนตัวกลับและพักผ่อนก่อน”
เพราะว่าหมดแรงกระตุ้นในการออกไปสำรวจดันเจี้ยนยากๆ ณ สถานที่อื่นแล้ว
พวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไปที่ค่าย เหล่าโจรสลัดก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกันพร้อมกับบาดเจ็บสาหัสในตอนที่ออกไปสำรวจดันเจี้ยน
ทั้งสองกลุ่มนั้นรู้สึกสบายใจเพียงเพราะได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นก็ล้มเหลวเช่นเดียวกัน
***
วีดนั่งแกะสลักประติมากรรมมาเป็นเวลาสองวันขณะที่กำลังรอคอยอยู่
ขณะเดียวกันนั้นซอยูนก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อมากนัก
วีดได้แกะสลักประติมากรรมจากสิ่งที่เขาเจอที่เหมือนกับมอนสเตอร์ในลาส
ฟาลังคซ์หรือบนเรือผีสิง เมื่อไรก็ตามที่ประติมากรรมที่มีรูปร่างแบบสัตว์หรือเยติสวยๆน่ารักๆ
ฝ่ามือของเธอก็จะแบออกมา (>.<)
“……”
ช่างเป็นคำขอร้องที่ใจร้ายซะจริง!
วีดส่งประติมากรรมให้เธอไปด้วยมือที่สั่นเทา
ช่างน่าเสียดายและวีดก็ไม่ได้ต้องการเช่นนั้นเลย
แต่ว่าเธอเอาแต่นั่งข้างๆเขารอคอยเวลาจนประติมากรรมสลักเสร็จแล้ว
แล้วเขาจะปฏิเสธออกไปยังไงละตอนที่ถูกขอน่ะ?
ประติมากรรมช่างเป็นของขวัญที่ดีที่สุดเสมอจริงๆกับพวกผู้หญิง!
แต่แทนที่จะเป็นคำพูด งานแกะสลักทุกๆชิ้นที่ถูกเอาไปก็ได้สื่อความเศร้าออกมาจากผลงานแทน
‘ช่างหัวชิ้นที่เสร็จไปแล้วเถอะ ถึงฉันยังเสียใจอยู่หน่อยๆก็ตามทีเถอะ’
วีดถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างจงใจ
“ถ้อยคำของเหล่าประติมากร ผลงานศิลปะสร้างมาจากจิตวิญญาณอันซื่อตรง
งานทุกๆชิ้นของฉันนะซึมซับไปด้วยความใจใส่ไว้ในพวกมันเพราะงั้นฉันหวังว่าเธอจะเห็นค่าของมันนะ”
แต่ว่าแน่นอนในใจของเขานั้นยังนึกเสมอว่าไม่มีหรอกไอ้สิ่งที่เรียกว่าของฟรีน่ะ
“งั้นเราก็สนิทกันแล้วใช่ไหม?”
ปกติแล้ววีดจะไม่กล้าพูดอะไรที่น่าอายมากๆอย่างนี้เลย แล้วซอยูนก็จ้องมองไปที่หน้าเขาอย่างเต็มตา
“ก็เราไปเรียนด้วยกัน
กินข้าวด้วยกัน…แล้วฉันก็ให้ไก่ แล้วก็หมา
แล้วก็จะให้กระต่ายเธอเมื่อไม่นานมานี้ด้วย”
จากเหตุผลของความใกล้ชิดสนิทสนมที่มากมายระหว่างพวกเขานั้นเอง!
ซอยูนก็พยักหน้ารับซึ่งหมายถึงการยอมรับออกมานั่นเอง
จากที่ได้ยินอย่างนี้เธอก็รู้สึกเขินอายที่คิดว่าพวกเขานั้นได้สนิทกันมามากแค่ไหนแล้ว
เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ การได้อยู่กับเขานั้นสบายใจและอุ่นใจเป็นอย่างมาก
คนๆนั้นก็คือ วีด
“แต่ว่าเธอรู้อะไรบางอย่างที่สำคัญมากกว่าคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทหรือเปล่า
เพราะฉันคงยังไม่ต้องกังวลเรื่องธุรกิจทางการเงินอะไรหรอกนะ”
“…….?”
“สิ่งที่ฉันหมายถึงคือว่าพวกประติมากรรมนั้นนะเอาไปขายได้มากกว่าที่เธอรู้นะ
ฉะนั้นถ้าหากว่าเธอขอซ้ำไปซ้ำมา เธอก็สามารถเก็บเงินได้มากมายเลยนะ”
เพราะรู้สึกเสียใจแบบไม่ให้เสียเวลาเลย
เธอจึงคืนประติมากรรมขณะที่เขาพูดอยู่ในทันที
“ประติมากรรมล้ำค่าพวกนี้ชิ้นเดียวนั้นมีค่ากว่า 100 เหรียญทองแต่ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดาย
แต่ว่าฉันจะยกให้เธอละกันนะ อาจจะยังแปลกๆอยู่ที่จะให้บางสิ่งบางอย่างนะเพราะว่าเราทั้งคู่ก็โตๆเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
หรือว่าถ้าเราแค่จะมาใช้เงินแลกเปลี่ยนกันก็คงจะเป็นปัญหาทีหลังอีกละนะ
ก็อย่างที่เห็นนั่นละว่าแทนที่จะยอมขายให้คนอื่นหวังว่าเธอจะยอมยกให้คนที่สนิทดีกว่า
แล้วก็เพื่อเป็นการตอบแทนด้วยนะ ฉันจะเป็นคนดูแลพวกแจปเท็มทีหลังเองละกันนะ”
การเป็นเพื่อนสนิทนั้นก็ควรจะให้ของไปแบบฟรีๆละนะแต่เพื่อให้ได้แจปเท็มทดแทน
โดยให้เหตุผลโน้มน้าวใจที่ดูกำกวมแบบนั้นน่ะหรอ!
แม้ว่าไอเท็มพวกนั้นจะเพิ่มขึ้นกองเป็นภูเขาเลากาจากการล่าที่น่าเหลือเชื่อนั่น
ภายในเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ แต่วีดก็ไม่อาจตัดขาดจากความโลภในแจปเท็มได้เลย
ก็เพราะซอยูนให้แจปเท็มกับเขา วีดจึงตั้งหน้าตั้งตาแกะสลักประติมากรรมออกมาอย่างขะมักเขม้น
‘ประติมากรรมนั้นมีส่วนช่วยเสริมความสามารถในการเก็บเงินได้ ไม่เลวเลยๆ
จริงๆเส้นทางอันยาวไกลของศิลปินนี้ก็ไปต่อได้สินะ! ’
ซอยูนเองยังสนิทสนมอย่างมากกับพวกเจ้าเหลือง
โกลมินิแล้วก็วิหคทองคำอีกด้วย
แทนที่จะเป็นวีด เจ้าเหลืองกลับนอนลงด้วยพุงของมันใกล้กับซอยูนด้วยท่าทีผ่อนคลาย
โกลมินิก็เป็นเหมือนกัน หรือแม้แต่วิหคทองคำก็ปฏิเสธที่จะออกมาจากไหล่ของซอยุนอย่างโจ่งแจ้งอีกด้วย
เพื่อต่อต้านเนโครแมนเซอร์วีด มันต้องเปิดเผยความรังเกียจรุนแรงออกมา
แถมไม่แม้แต่เข้าใกล้เจ้าคนนั้นเลย ในขณะที่คงใบหน้าความรักเคารพออกมาตอนที่สัมผัสหัวหรือคางของซอยูน
วีดคิดว่าจำเป็นจะต้องแก้ไขความคุ้นเคยกับเจ้าวิหคทองคำนี่ซักหน่อยแล้ว
“แต่ฉันไม่สามารถยกเลิกร่างเนโครแมนเซอร์ตอนนี้ได้”
เพื่อที่จะยืนหยัดอดทนอยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ให้ได้
ร่างอันเดดนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างที่เคยคิดไว้
เอาตรงๆแล้วคือการจัดการกับพวกมอนสเตอร์เลเวลสูงๆมากมายหลายตัวที่ออกมานี้คงเป็นเรื่องยากในฐานะประติมากร
จากการฆ่าสังหารหมู่นี้ มันก็เป็นไปได้ที่จะเก็บเอาไอเท็มได้มากมายมหาศาล
ช่างเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้เรื่องยากๆนั้นเปลี่ยนแปลงไป
“นั่นเป็นส่วนของเธอนะ ส่วนของฉันก็จะเขมือบเองแล้วก็รวยขึ้นๆ”
ฟังดูเหมือนจะคล้ายกับข้ออ้างนะ
แต่ว่าวีดก็เก็บเอาข้ออ้างนั้นแล้วคงสภาพเนโครแมนเซอร์ต่อไป!
การที่ไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวเจ้าวิหคทองคำนั่นได้เป็นไปอย่างไม่สิ้นสุด
เพราะมันดูเหมือนกับว่าเขาข้ามแม่น้ำไปแล้วไม่ได้วกกลับมาอีก
ขณะที่ใช้เวลาไปกับการแกะสลักประติมากรรม ธาตุศิลาพิโรธที่ได้อัญเชิญออกมาก็ปล่อยแสงสีแดงสดออกมาอย่างกระทันหัน
“ออร่าแห่งเพลิงในเขตลาส ฟาลังคซ์นี่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะเนี่ย”
ผลจากธรรมชาติที่มาจากความสัมพันธ์ของธาตุทำให้พลังแห่งธาตุยิ่งแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่มันก็จะระเบิดออกมาแล้ว”
ปราชญ์แห่งผืนพิภพก็กังวลกับบางอย่างที่คำรามกังวานไปทั่วขณะที่มันย่างก้าวไปรอบๆ
“นายท่าน แรงกดดันของผืนดินกำลังปั่นป่วนครับ”
เหตุการณ์สำคัญก่อนการปะทุของภูเขาไฟขนาดใหญ่
นั่นก็คือแผ่นดินไหว!
และเมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้ว วีดก็หยุดมือแกะสลักประติมากรรมแล้วออกมาจากตำแหน่งนั้น
“ตอนนี้ล่ะ ได้เวลาเริ่มแล้ว”
การจะมานิยามหาความยุติธรรมนั้น มันไม่สลักสำคัญมากมายอีกต่อไปแล้ว
บ่อยครั้งทีเราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เลวร้าย แต่สำหรับเขานั้น สามารถทำสิ่งที่แตกต่างออกไปให้แย่ลงและเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
จริงๆแล้วตั้งแต่วันที่วีดได้เล่นคอนติเนนท์ออฟเมจิค เขาก็ได้ทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายก่ายกองแล้ว
กับการใช้ชีวิตที่แสนยุ่งยากนี่และเพื่อใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุข แต่ว่าสันดานดิบของคนเรานั้นไม่อาจละทิ้งไปได้หรอกนะ
นั่นคือกฎของธรรมชาติ!
“เหล่าอันเดดเริ่มเคลื่อนทัพ
วันนี้จะเป็นค่ำคืนของพวกแก”
ดรินเฟลด์และเหล่าลูกเรือที่ตั้งค่ายอยู่บนเนินเขา ทั่วทั้งค่ายนั้นสั่นไหวในทันที
“นี่ นี่มันอะไรกันน่ะ? อย่างกับพื้นดินมันกำลังสั่นๆ
แผ่นดินไหวเหรอ?”
“อย่าแตกตื่น
ก้มตัวลงแล้วรักษาสมดุลเอาไว้”
แผ่นดินไหวครั้งแรกนั้นรุนแรงจนเหล่าลูกเรือล้มลงไปกับพื้น พวกเขาได้แต่เพียงรอคอยต่อไปภายใต้ความเข้าใจผิดที่ว่านั่นจะผ่านพ้นไปโดยเร็ว
ดรินเฟลด์และเหล่าผู้เล่นนั้นไม่ได้รู้สึกสับสนมากนัก
แม้พวกเขาจะล้มลงไปแต่ก็แทบจะไม่สูญเสียค่าพลังชีวิตเลย
ครึกครึกครึกๆๆๆๆๆ
แต่จากแผ่นดินไหวระลอกที่สองและสามนั้น
แรงสั่นสะเทือนก็ค่อยๆยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกันก้อนหินจากบนภูเขาไกลๆก็ค่อยๆกลิ้งลงมา มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากกับพวกคนเหล่านั้นที่ต้องยืนหยัดอยู่
ณ ที่แห่งนี้ต่อไปให้ได้
เพราะการพังทลายลงของรั้วกั้น เสียงอึกทึกครึกโครมจึงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว
“แผ่นดินไหวกำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!”
“หาที่ยึดเอาไว้!”
“เต้นท์กำลังจะพังแล้ว อย่าไปอยู่ข้างใน!”
เสียงร้องตะโกนสอดแทรกเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
แม้แต่ซุ้มหลบภัยของเหล่าโจรสลัดที่สร้างขึ้นมารอบๆค่ายก็ยุ่งเหยิงเพราะผลพวงจากแรงแผ่นดินไหว
เพื่อจะออกไปตามหาวีด
เหล่าโจรสลัดเลือกโพรงที่ทำมาหลายๆโพรงที่เชื่อมกับซุ้มหลบภัยของพวกเขา
เพราะว่ามันดูโล่งและง่ายที่จะตั้งรับการโจมตี พวกเขาถึงได้ใช้โพรงเป็นฐานทัพของพวกเขา
แต่เมื่อแผ่นดินไหวเริ่มสั่นสะเทือน
ด้วยความกังวลว่ามันจะถล่มลงมา พวกเขาได้แต่แตกตื่นวิ่งหนีออกมา
จากนั้นพื้นโลกก็ระเบิดออกมาด้วยเสียงร้องคร่ำครวญในทันที
ทั่วทั้งดินแดนลาส ฟาลังคซ์สั่นสะท้านไปด้วยแรงแผ่นดินไหวและในขณะนั้นเองที่ภูเขาไฟเริ่มระเบิดปะทุไปด้วยลาวา
บอร์ดกระทู้ผู้ชมของสถานีโทรทัศน์และกระทู้ทางอินเตอร์เนทล้วนพูดถึงหัวข้อที่เกี่ยวกับดันเจี้ยนในเขตลาส
ฟาลังคซ์
-เลเวลของมอนสเตอร์ในเขตลาส ฟาลังคซ์สูงมากจริงๆ
เมื่อไรเราจะได้ไปที่นั่นแล้วไปออกล่านะ ฉันล่ะสงสัยจัง
|
นอกจากที่นี่แล้วยังมีที่อื่นที่มีมอนสเตอร์เลเวลสูงๆที่คล้ายๆกันอยู่อีกมาก
|
ยอดผู้ชมสูงมากในขณะที่การออกอากาศสดยังคงถ่ายทอดต่อไปเรื่อยๆ
เหล่าผู้เล่นก็กำลังพูดคุยถกเถียงในบอร์ดแสดงความคิดเห็น แต่ในขณะนั้นเองที่มีโพสท์หนึ่งบนบอร์ดกระทู้ที่ขึ้นมากะทันหันเริ่มไต่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
-ในที่สุดก็ระเบิดซะที ภูเขาไฟแห่งเขตลาส ฟาลังคซ์!
|
-แผ่นดินไหวได้ฉีกกระชากแผ่นเปลือกโลกแล้ว ลาวากำลังปะทุไหลทะลักออกมาจากผืนดิน
|
-คิคิ ต้องดูนี่ให้ได้เลย!
|
-ดูเหมือนจะเป็นฉากที่พวกคุณไม่ควรพลาดเลยละ
|
จบตอน
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ข้าศึกอ่อนแอแล้ว เตรียมตัวโจมตีได้
ตอบลบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดแน่เหล่าโจรสลัดและทหารเรือ
อ๊ากกกกกกกกค้างงงงงงงงงง มันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบทำอย่างไรได้ละครับ
ตอบลบโอกาศอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว
พริกวิกิจ เป็นโอกาศ
จังหวะนี้เพลงมา ตื่นฯฯ
ตอบลบตายหมดคราวนี้ คราวนี้คงมีคนหาเรื่องลดฮวบ
ตอบลบเดี๋ยวเจอซอยูน God Like!!!
ตอบลบได้เวลาลูท คึๆๆๆ
ตอบลบ,มันมากกกกกกกกกกก
ตอบลบนักงวางแผนจริงๆ....วีด
ตอบลบ555
ขอบใจหลายๆเด้ออ