เล่มที่ 20 ตอนที่ 4: การต่อสู้ท่ามกลางภูเขาไฟปะทุ แปลโดย Cole’s
Myth
ดินแดนแห่งความร้อนอันโหดร้ายที่มีไอน้ำปะทุออกมาเรื่อยๆ
ชิ้นส่วนเปลือกโลกทรุดตัวลงไปข้างใต้ เพราะแรงแผ่นดินไหว ในขณะนั้นเหล่ามอนสเตอร์ในเขตลาส
ฟาลังคซ์ก็พากันแตกตื่นเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด ภูเขาไฟหลายลูกในลาส ฟาลังคซ์ปล่อยลาวาและเขม่าควันพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศ
จากการปะทุของภูเขาไฟ ฝนลาวาก็โปรยปรายลงมาและซึมลงสู่พื้นดินที่แตกระแหงจนไหลทะลักล้นออกมา
เขตลาส ฟาลังคซ์ตอนนี้คือภาพอันยิ่งใหญ่ของการปะทุของภูเขาไฟ ความมีชีวิตชีวาของลาส
ฟาลังคซ์ถูกเติมเต็มไปด้วยภยันตรายอันน่าหวาดหวั่น
วีดเฝ้ามองภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจจากที่ห่างไกลออกไปพร้อมหัวเราะออกมาอย่างพออกพอใจ
“ช่างเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
ในตอนที่เขาอดทนอดกลั้นจากการปะทุของภูเขาไฟ นั้น เป็นสิ่งที่ลำบากมากที่สุด
การออกล่าถูกขัดขวางและยังต้องหนีให้ไกลออกไปห่างจากพวกเขาอีก
จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดอยู่นี่ ใช้เพื่อการลดความสูญเสียพวกอันเดดของเขาไปได้ ช่างเป็นภัยพิบัติที่แสนร้ายกาจอย่างแท้จริง!
แต่ว่าในตอนที่คนอื่นๆต่างได้รับบาดเจ็บจากภูเขาไฟระเบิดกับแผ่นดินไหวนั้น
คงไม่มีภาพอันยอดเยี่ยมภาพใดเทียบเท่ากับภาพนี้แล้วละ อย่างกับเรื่องเล่าสนุกๆที่มาจากบนภูเขาของลูกพี่ลูกน้องที่เป็นดินแดนที่ดรอปของมีค่าออกมาเลย
“ฉันจะไม่มีทางลืมช่วงเวลานี้ไปชั่วชีวิตเลย!”
บนท้องฟ้ามีสะเก็ดจากภูเขาไฟปะทุ ร่วงหล่นลงมาทั่วทุกพื้นที่ อย่างกับสะเก็ดดาวตก
หมอกควันที่พ่นเศษก้อนหินเปรอะชุบไปด้วยลาวา กระจายตัวอยู่บนท้องฟ้าอันโล่ง ปะทะเข้ากับแรงกระแทกสู่ผืนดิน
ซู่วววววววว- ครืน ตูม ตู้ม
บรึ้ม ซึ่ม!
เสียงกึกก้องน่ากลัวเขย่าผืนดินด้วยแรงระเบิด ทำให้เกิดช่องว่างขนาดมหึมาขึ้น
ส่วนค่ายที่สร้างโดยเหล่ากองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นก็พังทลายลงมาด้วยเศษสะเก็ดภูเขาไฟ
ส่วนรั้วกั้นและกำแพงที่ทำออกมาอย่างอุตสาหะ ก็พังทลายลงมาอย่างกับแผ่นกระดาษ
แถมเหล่าผู้เล่นและพวกทหารเรือก็ล้มตายไปอีก
“อันตรายยย”
“มานี่เร็วเข้า!
วิ่งมาที่ริมแม่น้ำเร็วเข้า!”
ฐานที่มั่นที่ได้มาจากการวางซ้อนทับไว้ด้วยหิน เพื่อกันการโจมตีพวกมอนสเตอร์
กลับกลายเป็นสิ่งกีดขวางพวกเขาขณะหลบหนีออกไป นอกจากเศษซากกองพะเนินทับถมโดยแรงแผ่นดินไหวที่อยู่บนผืนดินแล้ว
ลาวาก้อนใหญ่หนาหนึบก็ยังตกลงมาจากท้องฟ้าจนสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
“อ๊ากกกกกกกกกก!”
ในขณะที่แหกปากกรีดร้องจนสุดเสียง เหล่าทหารเรือก็ตายอย่างสมเกียรติ!
ภูเขาไฟนับสิบลูกในเขตลาส ฟาลังคซ์เริ่มปะทุออกมาพร้อมกับสะเก็ดลาวาที่โปรยปรายลงมาอย่างกับห่าฝน
มาคิดดูดีๆถึงเศษสะเก็ดภูเขาไฟเล็กๆจำนวนนับพันที่กำลังหล่นลงไป
ก็ช่างดูอันตรายแถมยังเป็นภาพที่น่าแทบจะหยุดลมหายใจไปในทันทีที่พบเห็น
จนถึงบัดเดียวนี้ วีดก็ยังอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเหมือนกับทุกๆครั้งที่มีการระเบิดของภูเขาไฟเกิดขึ้น
แต่พวกเขาก็ยังวางใจไม่ได้เพราะเป็นเพียงระยะไม่กี่สิบเมตรจากบริเวณที่เศษสะเก็ดหินภูเขาไฟร่วงหล่นลงมา
“ตราบเท่าที่เรายังอยู่ที่เขตนี้ ก็คงไม่มีที่ไหนปลอดภัยหรอก”
เพราะว่าเขาเคยประสบพบเจอกับภูเขาไฟระเบิดมาหลายครั้ง เขาจึงสามารถยืนยันหาโซนปลอดภัยเพื่อมีชีวิตรอดเอาไว้ได้
วีดยึดที่มั่นอยู่ที่ด้านหลังของยอดภูเขา
สะเก็ดที่ลอยมาจากภูเขาไฟปะทุนั้นปะทะเข้ากับยอดเขาที่แทบจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากมายให้เขาเท่าไรเลย
“ถ้ารุนแรงขนาดนี้ เราคงต้องถอยกลับไปขึ้นเรือแล้วละมั้งเนี่ย”
“ออกไปจากที่นี่จนกว่าภูเขาไฟจะสงบลงกันเถอะ”
เหล่าผู้เล่นและลูกเรือต่างลี้ภัยไปขึ้นเรือที่เทียบท่าอยู่ที่ธารน้ำไร้เยือก
แต่ว่าจากนั้นนั่นเองที่พวกเขาต้องเจอเข้ากับกองทัพอันเดดกลุ่มใหญ่ ด้านหลังเป็นลาวาที่ไหลออกมาจากผืนดินแตกระแหง
ส่วนเบื้องหน้าก็ต้องเผชิญกับกองทัพอันเดดที่มีพวกเดทไนท์ จอมเวทย์ ผีดิบกูล
ผีดิบซอมบี้ นักรบโครงกระดูก ภูตผี และอีกสารพัดเผ่าพันธุ์อันเดด
“พวกอันเดด!”
“กองทัพอันเดดทั้งหมดเคลื่อนไปข้างหน้า
เตรียมพร้อม!”
กองทัพผีดิบซอมบี้แกว่งไกวและโบกแขนไปมาขณะที่พวกมันวิ่งตรงเข้ามา
ถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกบดขยี้จากการปะทะโดยกลุ่มลูกบอลไฟที่ตกลงมาตลอดทาง
แต่ก็มีพวกอันเดดมากขึ้นมาต่างยกโขยงตามมาเป็นขบวน
“คึคึคึๆๆๆ”
“เฮี๊ยก!
เฮี๊ยก!”
กำแพงหินที่แตกเป็นเสี่ยงๆหล่นลงมาโจมตีเหล่าอันเดดจากเหนือหัว
เมื่อใดก็ตามที่สะเก็ดลาวาหล่นลงมา แสงสว่างวาบของเปลวเพลิงก็จะลุกโหมปะทุขึ้นมาในทันที
และทุกครั้งที่มันลุกซู่ขึ้นมา เหล่าผู้เล่นและทหารเรือก็จะเห็นเหล่าอันเดดเข้ามาจู่โจมมาอย่างเป็นฟืนเป็นไฟ
แล้วพวกเดดไนท์ก็เปิดปากพูดออกมาด้วยคำพูดบางอย่างที่ได้เตรียมไว้แล้วว่า
“พวกเจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้ว จงถูกฝังอยู่ใต้ลาวานี่ให้หมดทุกคน แล้วก็ตายไปซะ”
“เป้าหมายชีวิตของเราก็คือจะต้องจับข้อเท้าพวกแกเอาไว้แล้วลากมันลงไปในหลุมพร้อมกับพวกเรา
อย่าหนีนะ มาสู้กับพวกเราซะ!”
ด้วยคำพูดที่วีดให้พวกเดทไนท์ไว้ กำลังใจของเหล่าศัตรูจึงได้ถูกทำลายลง
“ภูเขาไฟจะยิ่งปะทุรุนแรงมากขึ้น
ลาวาที่ไหลบ่าก็จะท่วมขัง ลบล้างพื้นที่แห่งนี้ให้หายไปเองแหละ”
กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นปักหลักอยู่บนยอดเนินเขาที่เป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการการตั้งรับการจู่โจมของพวกมอนสเตอร์ทั่วๆไป
แต่ตรงกันข้ามเลยนั้น เมื่อภูเขาไฟระเบิดขึ้น สะเก็ดหินลาวาก็กลับมาปกคลุมบริเวณนั้นแทน
และแน่นอนว่า ไม่ว่าลาวาจะไหลบ่าทะลักออกมาซักแค่ไหน พวกเขาก็จะไม่ยอมจมอยู่ข้างใต้
แต่ว่าจากความทรมานที่มาจากภูเขาไฟระเบิดในครั้งแรก นั่นก็ได้เพิ่มความกังวลกับความกลัวให้กับพวกเขาจนถึงขีดสุดแล้ว
พวกเขามีกำลังมากพอที่จะต่อกรกับพวกอันเดดได้ แต่ว่าพวกเขาจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ไม่ได้เลยเพราะต้องมัวพะวงอยู่แต่กับการหลบหนีและหลีกสะเก็ดลาวาอีก
ถือว่าเหล่าเดทไนท์และพวกอันเดดนั้นได้ผลลัทธ์ที่ดีเยี่ยม
จากการโดนโจมตีด้วยเวทย์ของพวกจอมเวทย์โครงกระดูก เหล่าทหารเรือก็ต่างค่อยๆถูกนำไปยังแดนปรโลก
“คิคิคิ!”
วีดหัวเราะออกมาอย่างชื่นใจพร้อมกับมอบหมายงานอันชั่วร้าย
แล้วปล่อยตัวปล่อยใจตามความต้องการไปกับหายนะเหล่านั้น
“รู้สึกอย่างกับกินไก่ย่างสุดซี้ดข้างๆคนที่กำลังหิวอยู่เลย”
โกลมินิ เจ้าเหลือง วิหคทองคำกับซอยูนได้แต่มองภาพเบื้องหน้าอยู่เท่านั้น
ในขณะที่เขาบัญชาการเหล่าอันเดด เขาได้แต่หัวเราะออกมาด้วยความพอใจอย่างต่อเนื่อง
ความทุกข์ทรมาณของผู้อื่นนั้นได้ถูกคิดว่าเป็นโชคดีสุขหฤหรรษ์อย่างยอดเยี่ยมไปซะงั้น
นั่นคงเป็นเพราะว่านั่นเป็นนิสัยปกติของเขานั่นเอง!
คงจะดีเสียยิ่งกว่า ถ้าปุปปับวีดกลายเป็นคนแปลกหน้าไป อย่างเช่น
รู้จักแบ่งปันเงินและไอเท็มให้กับเหล่าผู้เล่นใหม่ พวกเขาก็คงรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งนั้นแล้วก็เป็นกังวลมากขึ้น
แต่ก็คงอย่างนั้นละที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่วีดจะเปลี่ยนไปได้
แล้วก็คงได้แต่คิดว่าเขากำลังจะเริ่มทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขา
นั่นคงสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าซะอีก
เป็นเพราะการปะทุของภูเขาไฟทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าทหารเรือและพวกโจรสลัดยังไม่ได้ออกมาจากที่กำบังของพวกเขาเลย
ด้วยกองกำลังอันเดดที่ทำให้พวกลูกเรือและเหล่าโจรสลัดมัววุ่นวายอยู่แต่กับการต่อสู้
และเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ด้วย ได้แต่เพลิดเพลินกับภาพที่เห็นนั้น
แต่พวกอันเดดก็ต่างพากันถูกทำลายตายจากไปด้วยสะเก็ดลาวาด้วยเช่นกัน
“คงถึงเวลาที่จะใช้การโจมตีเบาๆละ”
เพราะว่าเหล่าอันเดดจำนวนลดต่ำลง มานาก็ฟื้นกลับมาด้วยเช่นกัน
วีดกุมไม้เท้าแห่งนักบุญผู้ดับสูญ แล้วเล็งไปที่ค่ายและร่ายเวทย์คำสาปออกไป
“แม้นสังขารเจ้าที่ข้าได้สร้างเหล่าอันเดดขึ้นมา พวกเจ้าจักมิเคยพ้นไปจากเงื้อมมือของข้าชั่วชีวิต
ปฏิญญาแห่งเนโครแมนเซอร์!”
วีดร่ายเวทย์คำสาปออกไปสี่อย่างภายในครั้งเดียว คำสาปกายวิปริต คำสาประคายเคือง
คำสาปหวาดกลัว และคำสาปกระตุ้น! นับตั้งแต่ภูเขาไฟแห่งลาส ฟาลังคซ์ปะทุกำลังใจของเหล่าทหารเรือและโจรสลัดก็ต่ำลงแบบอกสั่นขวัญหนีไปแล้ว
ดรินเฟลด์กับเหล่าอัศวินนาวีไม่ได้เตรียมการอันใดเพื่อรับมือเผชิญหน้ากับภูเขาไฟระเบิดแบบนี้เลย
ขณะที่ต้องจัดการกับพวกอันเดด กำลังใจที่ลดต่ำลงมากขึ้นไป แล้วยังต้องมาเจอกับเวทย์ที่ร่ายออกมาอีก
“ต้องกำจัดศัตรูพวกนั้นซะก่อน….”
วีดเล็งเป้าไปที่พวกนักบวชกับจอมเวทย์ที่ซ่อนอยู่ในค่าย กับพวกผู้เล่นโจรสลัดที่สามารถใช้พลังหรือเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีจำนวนแค่
7 คนเท่านั้น การแบ่งหน้าที่ภายในเรือที่สามารถหมุนเรือหรือคุมปืนใหญ่ออกมาที่นอกชายฝั่งในยามคับขันได้
สำหรับพวกนักบวชนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เลย
ส่วนพวกจอมเวทย์นั้นก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าจะขึ้นเรือไป แต่ว่าในตอนที่การต่อสู้ที่แสนโหดร้ายทรมานถาโถมเข้ามาแทนที่อย่างต่อเนื่อง
มันก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยที่จะมาเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ได้
“ระเบิดซากศพ!”
ในขณะที่วีดโบกมือไปมาเพื่อรวมมานาสีขาวบริสุทธิ์
แล้วร่ายเวทย์อยู่นั้น เวทย์ก็ได้ถูกเล็งไปที่พวกนักบวชและจอมเวทย์ที่กำลังพยายามรักษาแผลอยู่
เมื่อแสงได้รวมตัวกันเสร็จสิ้น กลุ่มก้อนมานาของวีดก็เชื่อมโยงสายยาวไปที่กองซากศพและระเบิดออกอย่างรุนแรง
เวทย์เขวี้ยงกระดูกของอาชีพเนโครแมนเซอร์นั้นถือเป็นเวทย์โจมตีพื้นฐานของพวกเขาแต่ว่าการทำความเสียหายจากเวทย์ระเบิดซากศพนั้นรุนแรงมากกว่าเวทย์ระดับกลางของพวกจอมเวทย์ซะอีก
“อ๊ากกกกก!”
“นั่นมันการโจมตีเวทย์นี่!”
“มีเนโครแมนเซอร์สั่งการกองทัพอันเดดพวกนั้นอยู่
มันอยู่ที่ไหนกันนะ?”
“วีด!
วีดต้องกำลังซ่อนตัวอยู่ ตอนที่สั่งการกองทัพอันเดดแน่ๆ”
พวกเขานึกไม่ถึงเลยท่ามกลางการปะทุของภูเขาไฟในครั้งนี้ จนกระทั่งบัดนี้พวกเขานึกถึงวีดขึ้นมาได้ในที่สุด
เวทย์ระเบิดซากศพที่กำลังทำงานอยู่นั้นอาศัยค่าพลังชีวิตสร้างค่าดาเมจ
สามารถเพิ่มขึ้นได้มากที่สุดถึง 10 เท่า จากเวทย์ระเบิดซากศพที่โจมตีมาอย่างต่อเนื่องทำให้เหล่านักบวชและจอมเวทย์ที่มีค่าการป้องกันต่ำ
พากันตายไปเป็นจำนวนมากมาย ส่วนเหล่าทหารเรือมากกว่า 60 คนก็บาดเจ็บจากแผลเล็กน้อยบ้าง
แผลสาหัสบ้าง
ท่านได้ระเบิดซากศพเป็นจำนวนมากมายภายในพริบตา
ความเชี่ยวชาญทางเวทย์ที่คาบเกี่ยวกันได้เพิ่มขึ้นแล้ว อัศวินนาวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วนาม
โอลิวบานได้ถูกฆ่าแล้ว ค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของท่านเพิ่มขึ้น 13 แต้ม!
โจรสลัดที่ได้ถูกประกาศจับของราชอาณาจักรนอร์ตันนามว่า
บัลคาลาน ได้ถูกฆ่าแล้ว ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 5 แต้ม ค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ลดลง 5 แต้ม! ท่านสามารถรับรางวัลได้หากท่านไปที่ราชอาณาจักรนอร์ตัน
-ผู้บริสุทธิ์ได้ถูกฆ่าตาย
-ผู้บริสุทธิ์ได้ถูกฆ่าตาย
-ผู้บริสุทธิ์ได้ถูกฆ่าตาย
-เลเวลเพิ่มขึ้น
-ค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่เพิ่มขึ้น 1980 แต้ม
เพราะเป็นผลมาจากไม้เท้าแห่งนักบุญผู้ดับสูญ ประสิทธิผลของเวทย์แห่งความมืดและทักษะของเนโครแมนเซอร์แข็งแกร่งขึ้น
70%
-ในแต่ละครั้งที่สละชีพของมนุษย์ไปในแต่ละคน
ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 85 แต้มเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์
-ระดับมานาเพิ่มขึ้นสูงสุด 270%
-เพราะผลมาจากไม้เท้าแห่งนักบุญผู้ดับสูญ ค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก
2010 แต้ม
-ได้รับการบันทึกในฐานะอาชีพเนโครแมนเซอร์
-มนุษย์ส่วนใหญ่ถูกฆ่าด้วยเวลาที่รวดเร็วที่สุด
|
มีเพียงมุมปากของวีดเท่านั้นที่ยังเปื้อนรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายอยู่
“แย่หน่อยนะ
ช่างน่าเศร้า นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะมาถึงขั้นนี้ได้”
แม้แต่สิ่งชั่วร้ายก็ได้มีการจัดอันดับขึ้นมา นั่นละคือกฎ
แต่สิ่งชั่วร้ายอะไรก็แล้วที่วีดทำนั้น มันอยู่คนละชั้นกับสิ่งอื่นเลย
เมื่อใดที่เขาฆ่าเหล่าทหารเรือและโจรสลัด เขาก็จะได้รับค่าชื่อเสียงและค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ไปอย่างละเท่าๆกัน
กลุ่มโจรสลัดกริฟฟิทไม่ได้เอ่ยกับเหล่าลูกเรือของดรินเฟลด์ที่ว่าพวกเขากว่าครึ่งมีค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ที่สูงหรือว่าอยู่ในสถานะของนักฆ่า
หากฆ่าพวกเขาให้ตายก็จะให้ค่าประสบการณ์และค่าชื่อเสียงมากกว่าปกติ แถมยังมีประโยชน์ทำให้ลดค่าชื่อเสียงอันฉาวโฉ่อย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
“วีดอยู่บนนั้น!”
ในที่สุด วีดก็ถูกเจอตัวจนได้
เหล่าผู้เล่นที่มีความคล่องตัวบนท้องทะเลจะมีสายตาที่ดีมากๆ
พวกเขาเปลี่ยนความสนใจจากภูเขาไฟที่กำลังระเบิดอยู่ แล้วมองไปรอบๆเพื่อมองไปยังภาพของวีดที่กำลังร่ายเวทย์อยู่
ชุดคลุมสวมโครงกระดูกดัดแปลงที่กำลังกุมไม้เท้าแห่งนักบุญผู้ดับสูญ!
ที่ลอยอยู่บนหัวของเขามีชื่อสีแดงชัดเจนเปิดเผยอยู่คำว่า วีด
“หลีกออกไปจากซากศพ ใครจะรู้ว่าการโจมตีระลอกต่อไปจะมาถึงเมื่อไหร่!”
“ไม่ครับ
มันแค่ตัวคนเดียว ก็แค่ไปโจมตีแล้วก็ฆ่ามันทิ้งซะ ก็สิ้นเรื่อง”
ท่ามกลางความคิดเห็นที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้น ดรินเฟลด์ก็ได้ตัดสินใจออกมา
เขาคิดว่าขณะที่ต้องหลบหลีกสะเก็ดภูเขาไฟอยู่นี่ วีดก็ออกมาจากที่ซ่อนเพื่อโจมตีพวกเขา
“จัดกองกำลังขึ้นมา แล้วไปจับตัววีดซะ!”
เขาซ่อนตัวก่อนหน้าแล้ว เพราะว่าพวกกองทัพอันเดดที่ได้สร้างความเสียหายไว้มากนั้น
ไม่ควรจะถูกเจอตัวจนกว่าจะสายไป
ภาพความเสียหายส่วนมากยังคงปรากฏเพราะว่าการโจมตีอย่างกะทันหันนั้นเอง
ภายในใจของเขา ความต้องการอันแรงกล้าเพื่อที่จะจับตัววีดให้ได้นั้นมีมากเหลือเกิน แต่ว่าตอนนั้นนั่นเอง
ทางทิศเหนือก็มีเดทไนท์แวนฮอร์คมุ่งหน้ามายังทางค่าย
แล้วทางทิศตะวันตกก็เป็นลอร์ดแวมไพร์โทริก็กำลังวิ่งรุดหน้ามาด้วยเช่นกัน
อีกปัญหานั้นก็คือมอนสเตอร์กว่า 50 ถึง 60 ตัวก็วิ่งกราดไล่ตามหลังพวกมาติดๆ!
พวกโบลลาร์ดกับไทร์เบธที่มีดีกรีความน่ารักน่าชังที่รู้สึกได้เลยจากเลเวลอันน่าหลงใหลนั้น
แต่ตรงกันข้ามกับวีดที่กำลังออกคำสั่งให้กองทัพอันเดดฉุดกระชากลากพวกศัตรูมาเพื่อกำจัดพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ส่วนเหล่านักรบแห่งความโกลาหลก็เทเลพอร์ตในระยะสั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตามหลังพวกเขามา
“คราวนี้เป็น กองทัพมอนสเตอร์แห่งลาส ฟาลังคซ์!”
เหล่าผู้เล่นภายในค่ายกรีดร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน!
แค่ต้องหลบหลีกสะเก็ดลาวา จิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขาก็ไม่เหลือแล้ว พวกอันเดดที่ตามมาก็ยังเป็นมอนสเตอร์ไล่ตามมาโจมตีอีก
ทุกๆอย่างเป็นไปตามที่วีดต้องการ
เขาแค่ต้องเลือกทำในสิ่งที่ดูโหดร้ายเลวทรามมากที่สุดก็เท่านั้น
การถูกบังคับมาให้อยู่ในจุดที่แสนทรมานนี้พวกเขาคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย(ที่มาบังคับให้เขาทำ)
“ทุกคนเตรียมพร้อมสู่สนามรบ!”
ทั่วทั้งค่ายพวกเขาถูกบังคับให้ออกมาและต่อสู้ แล้วจากนั้นพวกมอนสเตอร์แห่งลาส
ฟาลังคซ์ก็ยังตามมาไล่ล่าพวกเขาอีก
เหล่าผู้เล่นหัวกะทิของกองทัพเรือที่สองแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นกับกลุ่มโจรสลัดที่อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากที่สุด
ยังคงพยายามกวัดแกว่งอาวุธของพวกเขาไปมา
เพราะต้องเชื่อใจเหล่าสหายร่วมรบและพึ่งพากำแพงค่าย พวกเขาจึงยืนหยัดต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์
แม้ว่าจะไม่มีพวกนักบวชและจอมเวทย์แล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังเข้มแข็งและอดทนอดกลั้นด้วยความองอาจ
จากเวลาที่พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการผจญภัยไปจนถึงภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหว
ยอดผู้ชมก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แถมตั้งแต่วีดเริ่มการโจมตียอดผู้ชมก็พุ่งไปอยู่อันดับที่
1
2 และ 3 ไปในเวลาเดียวกัน
กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและกลุ่มโจรสลัดที่โดนโจมตีโดยเหล่ามอนสเตอร์และเจ้าเนโครแมนเซอร์!
-เกาะกลุ่มเป็นฝูงฟังดูยุติธรรมดีจังเลยเนาะ?
-ไม่มีประโยชน์น่าที่จะมาเขียนบรรยายชื่อเสียงเสียๆของวีด มีคนมากมายเลยที่มีประสบการณ์อันเลวร้ายเหยียบย่ำโดยวีดจากคอนติเนนท์ออฟเมจิคน่ะ
คุณคงคิดว่าเป็นเรื่องตลกละสิที่หลายคนบอกว่าวีดผ่านเรื่องน่ากลัวมายิ่งกว่าเจอมังกรบินซะอีกนะ?
|
ไม่เพียงแค่เหล่าผู้เล่น กิลด์ทั้งหลาย ชนชั้นสูง ลอร์ดผู้สูงศักดิ์ก็ล้วนอยู่ข้างหน้าเพื่อรับชมการออกอากาศ
“คึกคึกคึก”
วีดหัวเราะออกมาอย่างร้ายกาจ ขณะที่เฝ้ามองเหล่าทหารเรือและโจรสลัดต่อสู้อยู่
ถึงแม้ว่าจะโดนกระหน่ำด้วยสะเก็ดลาวาแล้วตายไป พวกเขาก็ยังต่อสู้กับพวกอันเดดและมอนสเตอร์เพื่อป้องกันที่ของพวกเขาไว้
แต่ว่าเขาก็ไม่แม้แต่จะรู้สึกเป็นเกียรติปรบมือยกย่องความสูงส่ง
มิตรภาพหรือแม้แต่ทักษะการต่อสู้ของพวกเขาเลย
ที่นี่ วีดคือจอมวายร้าย
เห็นได้ชัดว่าพวกทหารเรือและกลุ่มโจรสลัดนั้นดูเหมือนจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว
จากผลพวงที่ตามมาของคำสาปก็เป็นหลักฐานได้แล้วว่ากำลังใจของพวกเขาลดลงไปอย่างมากและความสามารถในการต่อสู้ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เหล่าทหารเรือของดรินเฟลด์กับกำลังกายของกลุ่มโจรสลัดกริฟฟิทนั้นอ่อนแรงลงไปมากกว่าปกติ
แต่ว่าในการต่อสู่แบบกลุ่มกำลังใจต่อสู้ที่มองไม่เห็นนั้นถือว่าสำคัญมากกว่า
เพียงกำลังใจสู้อย่างเดียว คนกว่า 1,000
ถึง 2,000 ก็พังทลายลงไปได้ง่ายๆแล้ว แล้วเพียงแค่ราวๆสองร้อยกว่าคนแล้วนี้ระดับกำลังกายที่ใช้ไปก็ยิ่งอ่อนแรงมากขึ้นไปอีก
“ช่างเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย แต่ตอนนี้คงดีกว่าที่จะยอมฟังคำที่เขาพูด”
เดทไนท์แวนฮอว์คสวมบทบาทเป็นอัศวินแห่งความมืด
เพื่อแยกพวกศัตรูออกมา เขาต่อสู้ด้วยวิถีทางที่นำไปสู่ชัยชนะของเขากับเหล่าอัศวินนาวี
การใช้ทักษะการโจมตีที่อานุภาพสูง เขาสามารถโจมตีพวกนั้นสาหัสถึงตายได้ก่อนที่พวกคนพวกนั้นจะหนีไปได้
แถมตอนไหนที่ค่าพลังชีวิตกับระดับมานาของแวนฮอร์คลดลง วีดก็จะใช้เวทย์ให้สอดคล้องมาเพื่อฟื้นฟูเขา
ขณะที่เหล่าอันเดดอยู่ภายใต้อำนาจสั่งการของเนโครแมนเซอร์
วีดก็จะสามารถส่งค่าพลังชีวิตและมานามาให้เขาได้
ส่วนลอร์ดแวมไพร์โทรินั้นก็อำพรางตัวเองให้ไม่สามารถเห็นตัวได้ เพื่อปล่อยการโจมตีฉับพลัน
คว้าที่ต้นคอของพวกทหารเรือ แล้วก็ใช้คมเขี้ยวอันแหลมคมของเขา ฝังลงไป ระหว่างการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์พวกอัศวินนั้นก็ตายไปจากการปรากฏตัวแบบฉับพลันของ
โทริ
การเติมค่าพลังงานชีวิตกับมานาจนเต็ม นั่นละรูปแบบการโจมตีจากแวมไพร์ลอร์ด!
จากนั้นลูกสมุนของเขาก็ปรากฏตัวออกมา เผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์
ก็เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะโดนทำลายโดยพวกนักบวชจึงพากันกลายร่างเป็นค้างคาวแวมไพร์
แล้วโจมตีด้วยปีกของพวกเขา
แต่ถึงอย่างไรก็โดนสะเก็ดลาวาตกใส่กลางอากาศอยู่ดีแล้วก็กลายเป็นฝุ่นเถ้าธุลีไปในที่สุด
“การเสียสละของเผ่าแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์นั้นช่างหนักหนานัก”
แวมไพร์ส่วนใหญ่นั้นยังเป็นหนุ่มสาวกันอยู่
แม้ว่าพวกเขาเติบโตมาผ่านการสู้รบแต่การเสียสละที่เลี่ยงไม่ได้ก็จำต้องเกิดขึ้น
ขณะที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้าผ่านสะเก็ดลาวา พวกเขาก็โจมตีจากบนท้องฟ้าสู่พื้นดินได้
แถมยังทำลายแนวป้องกันของเหล่าทหารเรือและโจรสลัดและถลาเข้าไปฝังเขี้ยวตรงบริเวณต้นคอของพวกมัน
สำหรับแวมไพร์แล้ว นี่ถือเป็นโอกาสที่จะเพิ่มพลังกายได้อย่างมหาศาล
ส่วนวีดนั้นก็อยู่ในที่ค่อนข้างจะสงบแต่ว่าความโกลาหลก็ยังรายล้อมเหล่าดรินเฟลด์และกริฟฟิทผู้น่าสงสารที่อยู่ไกลออกไป
ส่วนทางฝั่งวีดที่โจมตีมาบ้างเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อผ่านพ้นเส้นทางนั้นไปให้ได้
“ยิง!
ฆ่ามัน!”
สายตาที่ถูกบดบังด้วยชื่อเสียงหรือแม้แต่ความโกรธเกรี้ยวที่ได้สูญเสียพวกพ้องตัวเองไป
เหล่าผู้เล่นก็โจมตีด้วยอาวุธอย่างธนู และแน่นอนละด้วยการโจมตีอันแสนมืดบอดนั่น อาจจะโจมตีโดนวีดอยู่บ้างหากไม่ได้คิดต่อไปว่าเขาได้แอบซ่อนตัวเองอยู่เพื่อรวบรวมมานาอยู่
“เจ้าเหลือง ในฐานะผู้สร้างเจ้าขึ้นมา คงไม่รู้มาก่อนสินะว่าเจ้าน่ะรูปหล่อจริงๆ
เจ้าเหลืองแกอยากกินของว่างหน่อยไหม? เข้ามาดูใกล้ๆมาๆ”
แล้วเจ้าเหลืองก็เดินอุ้ยอ้ายตรงมาและถึงแม้ว่าจะสงสัยว่าวีดนั้นจะให้ของว่างกับมันรึเปล่า
มันก็ยังคงต้องย่างเท้าของมันออกไป
แล้ววีดก็คว้าที่คอของเจ้าเหลืองมาอย่างรุนแรง
“ทักษะสูบมานา!”
เออ มมมมมมมออออออออออ!
การดูดซับมานา พอมาลองคิดถึงมันก็ถือว่าเป็นกลวิธีที่อาจจะทำให้ใกล้ชิดสนิทสนมกันก็ได้
แต่แล้วเขาก็สูบมานาอย่างรวดเร็วจากโกลมินิกับผลัดกันไปมากับเจ้าเหลือง
“ทักษะระเบิดซากศพ!”
ความหายนะยังแผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายแถมยังมีซากศพระเบิดกระจุยกระจายไปหมดด้วยเวทย์ระเบิดซากศพท่ามกลางแนวการป้องกันที่แน่นหนา
จากการสร้างค่ายอย่างกระตือรือร้นของเหล่าทหารเรือ แต่ว่าเศษก้อนหินก็กระจัดกระจายระเนระนาดไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
แถมทุกๆที่ยังติดไฟจนยากแก่การติดตามร่องรอยไปได้อีก
ช่างเป็นวิธีโจมตีที่โหดร้าย น่าสะอิดสะเอียน
สกปรกโสมมแต่กลับให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม!
“ตอนนี้ละ
มาลองใช้เวทย์อื่นแบบเบาๆดูหน่อยไหม?”
จากนั้นวีดก็ร่ายเวทย์เพื่ออัญเชิญเหล่าเดทไนท์ ท่ามกลางของแนวขบวนของศัตรู
เขาจึงอัญเชิญเหล่าอันเดดออกมา
ดรินเฟลด์พยายามป้องกันแนวรบของเหล่าทหารเรือไม่ให้ถูกทำลายด้วยการออกคำสั่ง
ขณะที่จู่โจมไปด้วยดาบของเขาพร้อมกับตะลุยฝ่าเศษสะเก็ดลาวาที่กำลังตกลงมา
การนำทัพเรือในฐานะของพลเรือเอก เขานั้นช่ำชองมากในการสงครามทางเรือ
โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเรือรบ การเคลื่อนรูปขบวนรบหรือแม้แต่การระดมยิงทิ้งระเบิดเพื่อกำราบเหล่าศัตรู
แต่เพราะงั้นบนภาคพื้นดินเขากลับไม่เห็นแม้แต่เส้นทางการโจมตีเพื่อใช้ประโยชน์จากมอนสเตอร์
เวทย์มนต์หรือแม้แต่สมรภูมิรบเลย
ไม่ทางเลยสำหรับเขาที่จะจินตนาการถึงเหตุผลว่าทำไมวีดถึงได้โจมตีพวกเขาก่อน
แต่ถึงแม้ใจกลางจิตวิญญาณของเขานั้นได้ถูกซัดกระหน่ำไปมากมายหลายทางแค่ไหนก็ตาม
เขาก็ยังพลิกฟื้นความเยือกเย็นและเตรียมตัวตอบโต้กลับไป
“ออกมาจากตรงนั้น แล้วออกไปฆ่าวีดซะ!”
“รับทราบครับ
ท่าน”
เขาได้ส่งกองกำลังที่ปลีกตัวออกมาได้ เป็นผู้เล่นสองคนที่ที่เชื่อถือได้พร้อมกับอัศวินนาวีแปดนายที่อยู่ในสังกัดทัพเรือออกไป
ระหว่างหลบหนีออกจากค่าย สะเก็ดหินก็ตกลงมาจากท้องฟ้ากระแทกเข้าใส่เหล่ากองกำลังที่ปลีกตัวออกมาแล้วสูญเสียอัศวินนาวีไปอีก
2 นาย! พวกเขาก้าวข้ามพื้นที่ที่ไหลหลากไปด้วยลาวาและกระโดดลงไปในเหวบนพื้นโลก
จากการไถลตัวผ่านเปลวเพลิงก็ได้สูญเสียไปอีก 3
ชีวิต พวกเขาใช้ทางอ้อมออกไปไกลหลบหลีกเพื่อที่จะได้ไม่ถูกเจอตัว แต่ก็ยังคงได้รับความเสียหายมากกว่าเดิมอยู่ดี
“พวกเราเกือบจะถึงแล้ว”
เหล่าอัศวินนาวีกวาดดาบของพวกเขาแล้วก็ไต่ขึ้นเขาไปอย่างนิ่งสงบ
พวกอาชีพสายนักเวทย์และเนโครแมนเซอร์นั้นมักอ่อนแอเมื่อโจมตีระยะประชิด แล้วพวกเขาก็เข้าไปถึงตัววีด
มุ่งหมายที่จะปลิดชีวิตเขา
แต่ว่าเส้นทางที่พวกเขาใช้นั้นกลับมีคนคนหนึ่งขวางทางเอาไว้
ซอยูนติดอาวุธครบชุด ผู้ที่ปกคลุมไปด้วยเกราะทั่วร่าง ตั้งแต่หัวจรดเท้าและกำลังเฝ้ารออยู่
เคร้ง ฟิ้ว!
ซอยูนกวาดดาบของเธอออกไปอย่างไม่ลังเล
ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว การจู่โจมของมอนสเตอร์
เวทย์ระเบิดซากศพ ล้วนแล้วแต่ลดกำลังของกองทัพเรือของดรินเฟลด์ไปมากกว่าครึ่ง
จำนวนผู้รอดชีวิต ผู้เล่น 15 คน
ทหารเรือ 219 คน!
ทหารเรือกว่า 30 นายตายไปจากการบาดเจ็บสาหัส
คงไม่พูดเกินไปที่จะบอกว่าพวกเขานั้นประสบกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันน่าสยดสยองแล้วล่ะ
ระยะเวลาที่ได้ล่วงเลยไป
เหล่าผู้เล่นที่ตายไปก็สามารถกลับมาเชื่อมต่อเกมอีกได้ แต่ว่าเหล่าทหารเรือที่ถูกฝึกมาอย่างยากลำบากนั้นต้องสูญเสียไปตลอดกาลอย่างเลี่ยงไม่ได้เลย
สุดท้ายอันสุดพิเศษ วีดก็ยังอัญเชิญหมอกพิษออกมาให้ลำบากกันอีก
เหล่านักบวชและชาแมนก็ต้องใช้มนต์ขจัดพิษที่ยังไม่สามารถลบล้างเวทย์มนต์ของเนโครแมนเซอร์ระดับกลางได้
บาดแผลที่มากมายจากการต่อสู้ ควบคู่ไปกับการไม่สามารถหลบหนีไปจากมอนสเตอร์ได้นั้น ก็ทำให้พวกเขาเสียชีวิตไปในท้ายที่สุดอย่างช่วยไม่ได้เลย
ความเสียหายที่เหล่าโจรสลัดได้รับมานั้นมากมายมหาศาลมาก มีผู้เล่นโจรสลัดที่รอดชีวิตแทบจะมากกว่า
30 คน แถมเหล่าทหารโจรสลัดก็เหลือเพียงแค่ 152
คนเท่านั้น
เมื่อตอนที่ขึ้นฝั่งมาที่เขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้
กองทัพเรือของดรินเฟลด์นั้นมีจำนวนมากกว่าถึงเท่าตัว
แต่เมื่อคิดถึงจุดนั้นแล้วก็เหมาะที่จะเรียกว่า กลุ่มแห่งความตาย ก็ว่าได้
“วีดดดด!”
ดรินเฟลด์กับกริฟฟิทต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ก็เพราะวีด
ความโกรธแค้นระเบิดออกมาจากความสูญเสียเหล่าลูกสมุนไปอย่างน่าสยดสยอง แถมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ยังถูกเปิดเผยเด่นชัดออกทางการออกอากาศที่มียอดผู้ชมมากมายมหาศาล
“เราจะต้องไม่ล้มเหลว ต้องฆ่ามันให้ได้” (ผู้แปล:
เอาตัวเองให้รอดก่อนดีไหม๊ ก่อนจะไปฆ่าเขานะ)
“ขอพนันด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีในฐานะโจรสลัด
ฉันะฆ่าแกให้ได้”
พวกเขาตัดสินใจที่จะถอนทัพออกไปจากบริเวณธารน้ำไร้เยือกเป็นเวลา
4 วันจนกว่าพวกนักบวชกับจอมเวทย์จะฟื้นคืนกลับมา
ขณะเดียวกันวีดก็พักผ่อนหย่อนใจอยู่ริมแม่น้ำและกลับไปออกล่าแบบซุ่มโจมตีเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลกองทัพอันเดดของเขา
ความโกรธแค้นที่มากพอจะทำให้การหายใจคนเรานั้นสั้นลงได้ราวกับว่ามีบางคนใส่พริกผงเผ็ดร้อนลงในน้ำที่พวกเขากำลังจะดื่ม
“เป้าหมายครั้งนี้ก็คือแทงวีดให้ตาย”
เหล่ากองทัพเรือของดรินเฟลด์และกลุ่มโจรสลัดกริฟฟิทตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นด้วยเป้าหมายอันแน่วแน่
ภายในบอร์ดแสดงความคิดเห็นและหน้าต่างพูดคุยของทั้งสองกิลด์ ได้มีเรื่องราวมากมายที่เย้ยหยันพวกเขา
ฉะนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะฟื้นคืนเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพวกเขากลับมา
แต่วีดเคยชินกับการแก้แค้นแล้วล่ะ
“ในตอนที่ได้แก้แค้นพวกคนที่ชั่วช้า
แกก็ไม่ควรที่จะกลับไปกังวลเรื่องพวกมันอีก นั่นละคือกฏ!”
การกระทำอันน่าสมเพส คือการเปิดช่องโหว่กับเจ้าคนชั่วช้า นั่นละคือความผิดอันใหญ่หลวง
การเมตตาต่อพวกศัตรูแล้วละก็ คุณก็คงจะต้องจบด้วยการโจมตีรุนแรงครั้งใหญ่จากด้านหลัง
(โดนเอาคืนจากด้านหลัง)
“คงถึงเวลาที่จะต้องเร่งถอยตัวกลับแล้วล่ะ”
เมื่อถึงเวลาที่ความตายมาบรรจบ
วีดก็เคลื่อนพื้นที่ล่าอย่างว่องไวจากแถบแผ่นดินแตกระแหงที่รุนแรงไปยังพื้นที่มรดกของประติมากร
กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและกลุ่มโจรสลัดกริฟฟิทก็ไม่ได้ตามไปอย่างบุ่มบ่าม
พวกเขาไม่รู้ว่ามีกับดับติดตั้งไว้อยู่หรือไม่ แต่นอกเหนือจากนั้นก็ต้องพยายามดิ้นรนขัดขืนกับแรงสั่นสะเทือนของภูเขาไฟขนาดใหญ่ในเขตลาส
ฟาลังคซ์ที่พวกเขาเคยสิ้นท่าให้กับมันมาแล้ว
“ระวังจะมีกลอุบายของเขาออกมาล่ะ!”
“ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเตรียมตั้งรับกับการปะทุของภูเขาไฟด้วย”
ตรงกันข้ามเลยกับความสะเพร่าของพวกเขาในครั้งที่แล้ว
พวกเขากระจายตัวครอบคลุมไปทั่วอาณาเขตออกไปหลายครั้งมากขึ้น และหลังจากเกิดการปะทุของภูเขาไฟก็จะเบิกตากว้างสอดส่องไปทั่วในที่ที่พวกเขาตรวจสอบได้อย่างเป็นระบบระเบียบ
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่ข้างนอกนั่น พวกเขาก็ยังคงพยายามส่งพวกนักฆ่าออกไปเพื่อฆ่าวีดอีก
“ไอ้คนอวดดีนั่นจะไม่มีทางหนีไปได้แน่ๆครับ”
แต่ว่าวีดนั้นได้คาดเดาการตอบโต้ที่จะมาไว้ทุกวิธีการแล้ว
ภายในคอนติเนนท์ออฟเมจิค การที่จะสู้กับเหล่ากิลด์ที่ทรงเกียรติทั้งหลายนั้นไม่ได้จบสิ้นเพียงการจู่โจมเพียงครั้งเดียว
วีดต้องประสบพบเจอกับความทนทุกข์ทรมานผ่านการต่อสู้มามากมายนับครั้งไม่ถ้วน
“นายท่าน พวกมนุษย์ใกล้เข้ามาแล้ว”
แวมไพร์ลอร์ด ผู้ควบคุมกระแสแห่งเลือด โทริ
ตรวจพบสัญญาณของพวกมนุษย์ที่กำลังใกล้เข้ามา
“มีคนมากแค่ไหน?”
“สิบคนมาจากด้านหลังครับ”
“แข็งแกร่งไหม?”
“เลเวลของพวกมัน
พวกเราดูดเลือดได้ไปหลายวันเลยละครับ”
ระหว่างการโจมตี ศัตรูที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามไม่ควรจะแข็งแกรงมาก
นั่นคือกฎ มันคงจะยากมากเกินไปกับพวกกองทัพอันเดด โทริ แวนฮอร์ค หรือแม้แต่ซอยูนที่จะโจมตีพวกนักฆ่าที่เป็นอัศวินนาวีตั้ง
10 คน
“ต้องเก็บอุปกรณ์พวกอัศวินแล้วเอาไปขายให้คนอื่นแพงๆซะแล้ว”
คุณได้รับถุงมือของเหล่าอัศวินของราชอาณาจักรกับเข็มขัดที่ใช้กลัดมีดสั้นได้!
(ผู้แปล: ง่ะ
ตัดมาที่กำจัดพวกลอบโจมตีไปซะแล้วหรอ?)
นอกจากนี้ยังมีไอเท็มอีกสองชิ้น
มีดสิ้นอาบยาพิษกับเกราะเหล็กก็ดรอปออกมาด้วย
ขีดจำกัดเลเวลของเกราะเหล็กคือ 290 นั่นก็ดีกับพวกอัศวินระดับกลางเอาไว้ใส่ได้
“อะนี่
ส่วนแบ่งของเธอ”
วีดมอบมีดสั้นกับเกราะเหล็กให้กับซอยูนไป
ชุดเกราะราคาแพงหูฉี่นั้นเป็นอุปกรณ์ชิ้นโปรดของเขา
แต่เพราะไอเท็มที่ได้มาครั้งนี้ต้องมีคุณสมบัติพิเศษด้วย ฉะนั้นเมื่อนำไปขายจึงยากที่จะได้ราคาสูงๆ
‘ต้องสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ร่วมมือด้วยเอาไว้ก่อนดีกว่า’
วีดไม่ได้ลืมเกี่ยวกับความสำคัญของการทำงานร่วมกันกับคนอื่น
***
แย่จริงๆเลย แกสองตัวนะ ทำให้ดีกว่านี้หน่อย แล้วก็เจ้าตัวที่ 2
ตัวที่ 3 ตัวที่ 4 ตัวที่
5 กับเจ้าตัวที่ 6 โจมตีเข้าไปก่อนเลย!
ตอนที่ภูเขาไฟกำลังปะทุอยู่ วีดก็กินข้าวเช้า ข้าวเที่ยงหรือแม้แต่ข้าวเย็นรวมกับพวกอันเดดและมอนสเตอร์ไปพร้อมๆกับการทรมานพวกดรินเฟลด์และกริฟฟิทไปด้วย
แล้วก็จะซุ่มโจมตีเฉพาะแค่ตอนที่พวกเขากำลังล่ามอสเตอร์อยู่หรือว่ากระจายกลุ่มกันอยู่เท่านั้น
ช่างเป็นการโจมตีที่น่ารังเกียจหาที่ใดเปรียบ ช่างโสมม ร้ายกาจ
แต่ก็ไม่เหมือนกับดรินเฟลด์และกริฟฟิทที่ไม่แม้แต่จะจัดการรับมือกับเหล่าอันเดดและมอนสเตอร์ได้
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมีพวกโบลลาร์ดกับนักรบแห่งความโกลาหลไล่ตามหลังมาอีก
ไม่ว่าพวกเขาจะมีการป้องกันแข็งแกร่งซักแค่ไหนก็จะมีคนอย่างน้อย 10
คนถูกฆ่าตายไป
เพราะถูกทำให้จำนวนลดลงอย่างกะทันหันเหล่าทหารเรือและโจรสลัดก็ยิ่งยากลำบากที่จะย้ายที่ไปมาในเขตลาส
ฟาลังคซ์ เพราะงั้นวีดก็เลยมุ่งการโจมตีไปที่พวกเขาได้
ในขณะที่เหล่าอันเดดที่กำลังหยอกล้อเล่นกับเหล่าทหารเรือ พวกนักรบแห่งความโกลาหลที่เทเลพอร์ตไปทั่วก็ต่อสู้กับดรินเฟลด์
ผู้เล่นคนอื่น และเหล่าอัศวินนาวี แต่ก็สามารถผ่านพ้นความปวดร้าวทรมานนั่นมาได้
ในท้ายที่สุดการต่อสู้อันเลวร้ายนั่นก็จบลงได้ด้วยการกำราบพวกมันได้ จากนั้นพวกเขาก็ออกล่าต่อไปเรื่อยๆ
ภายในกลุ่ม จะมีผู้เล่น 1-2
คน ถูกฆ่าตายเสมอ
“ทักษะการต่อสู้ช่างโดดเด่นจริงๆ”
วีดจับตาดูฉากเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง
ดรินเฟลด์กับกริฟฟิทได้แค่เพียงตั้งรับ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บไปโดยไม่อาจตอบโต้กลับไปได้
“ฆ่าวีดซะ!”
“จับตัวมันมาซะ
แล้วข้าจะให้เงินรางวัลอย่างงาม”
“ฉกอุปกรณ์กับภารกิจของมันมาซะ!”
กริฟฟิทนำหน่วยกล้าตายของเขาตรงไปอย่างแน่วแน่ แล้วยังพาไปทางอ้อมอีกด้วย
โดยไม่ว่าจะมีอันเดดหรือมอนสเตอร์ ชาวคณะก็มุ่งตรงไป โดยหวังเพียงว่าขอให้แทงวีดจนถึงแก่ความตาย
“เตรียมรับความเสียหาย แยกชีวิตของวีดออกให้เป็นชิ้นๆอย่างไม่มีข้อแม้เลย!”
บางคนนั้นยังอยู่เพื่อขวางพวกอันเดดเอาไว้ ส่วนพวกที่เหลือก็ย่างเท้าก้าวต่อไปข้างหน้า
พวกเขาต้องทำด้วยแรงกายของพวกเขาสกัดพวกมอนสเตอร์ที่โจมตีมา
ส่วนทางที่เป็นสองหรือสามแพร่งก็จะแยกพวกที่ไล่ตามวีดออกจากกันไป มันคือการต่อสู้ระหว่างผู้ล่ากับผู้ถูกไล่ล่า!
วีดวิ่งไปอย่างขะมักขะเม้นด้วยข้อต่อเสียงดังกรอบแกรบนั่น
“ฉันบอกแกไว้อย่างว่าฉันจะไม่มีทางถูกจับได้หรอกเว้ย!”
ข้อดีของอันเดดคือค่ากำลังกายนั้นไม่ตกลงไปเลย
นอกจากนั้นถึงแม้ว่าค่าความแข็งแกร่งของเขาจะด้อยกว่า แถมทักษะระเบิดซากศพของเขาก็ยังลดต่ำลงไปก็ตาม
แต่ร่างกายอันเบานี่ สามารถออกวิ่งได้เป็นอย่างดี (สรุปกูหนีเก่ง)
“ทักษะวิ่งสี่ขา!”
เขาวิ่งหลบหนีวนไปรอบๆภูเขาหินด้วยสี่ขาที่มีในฐานะโครงกระดูกลิช!
“ไปจับตัวมัน!”
“เนโครแมนเซอร์แบบไหนกันจะเร็วได้ขนาดนั้น!”
“ทำไมเขาถึงไม่เหนื่อยเลยนะ?”
ทีมติดตามออกวิ่งเต็มกำลังไปแล้ว
จนบัดเดียวนี้ เขาไม่รู้สึกว่าจะต้องใช้ทักษะวิ่งสี่ขาอย่างจริงๆจังๆเลย
แต่ว่าเมื่อเขาต้องออกตัวไป เขาก็สามารถวิเคราะห์สถานการณ์แล้วใช้ความเชี่ยวชาญทักษะของเขาให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆด้วย
ในตอนที่เลเวลทักษะของเขาถึงระดับกลาง มันเปลี่ยนแปลงไปมากพอที่จะทำให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากภายในภูมิประเทศแบบภูเขาเช่นนี้
เขาสามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆได้อย่างว่องไวราวกับสิงโตหรือว่าเสือ
แถมเมื่อเลเวลทักษะไปถึงระดับสูงแล้วก็มีผลลัพธ์ในการปล่อยเสียงดังกังวาลออกมาด้วย
กร๊อบๆๆๆๆๆๆๆ
แว่วเสียงที่เขาได้ยินนั้นคือเสียงฟาดกระทบของเท้าสัตว์ที่กำลังวิ่งไปอย่างกระโดดโลดเต้น
วีดรู้จักภูมิประเทศของเขตลาส ฟาลังคซ์เป็นอย่างดี แล้วยังคุ้นเคยกับตำแหน่งของพวกมอนสเตอร์อีกด้วย
โดยปกติกลุ่มคนติดตามขนาดยิ่งใหญ่นั้นจะยิ่งดึงดูดความสนใจพวกมอนสเตอร์ ในขณะนั้นเองพวกหน่วยจู่โจมก็จะต้องมาต่อสู้แทนเขา
“แวนฮอร์ค โทริ! ไปสู้!”
แล้วพวกคนที่รวมกลุ่มอยู่ในหน่วยสะกดรอยก็ถูกตามมาทารุณอีกครั้ง
“ทักษะโจมตีคลื่นกรรโชก!”
เมื่อไรก็ตามที่กริฟฟิทใช้ทักษะของเขา
พวกโบลลาร์ดกับไทร์เบธส์ก็จะกระเด้งกระดอนไปทั่วทุกที่
แต่ระหว่างที่ทำอย่างนั้นอยู่ วีดก็สามารถที่จะรักษาระยะห่างได้อย่างมาก ช่องห่างระหว่างกริฟฟิทและหน่วยกล้าตายนั้น
วีดก็สามารถร่ายเวทย์คำสาปที่ทำให้ลดกำลังกายลงไปได้อย่างรวดเร็ว
กริฟฟิทจึงไม่สามารถไล่ตามเขาไปได้อีกต่อไป แล้วก็กลับไปที่ธารน้ำไร้เยือก
แม้ว่าจะเสี่ยงอยู่บ้างแต่วีดก็ยังโจมตีต่อไปเรื่อยๆ
“หลายครั้งที่หนทางของคนเรานั้นยากลำบากนะจ๊ะ”
หน่วยกล้าตายตรงไปทางที่ยาวไกลมากๆ แต่ก็ถูกสกัดขวางเอาไว้ไม่ให้ข้ามไปถึงทางที่สุดสายตานั่น
แม้ว่าจะตายไปแล้วก็ตาม แล้วถึงแม้จะวกกลับมาผ่านทางไล่ล่าที่ใช้ในเป็นเส้นทางหลบหนี
พวกเขาจึงได้พัฒนาเทคนิคขึ้นวันแล้ววันเล่าเพื่อใช้หลบหลีกพวกมอนสเตอร์
แม้ว่าวีดพยายามล่อพวกมอนสเตอร์มากเสียกว่าหลบหนีไปได้ แต่มอนสเตอร์บางตัวก็ยังมุ่งตรงมา
ฝั่งที่ถูกไล่ตามนั้นมีตัวเลือกที่จำกัดเพื่อหลบหนีในขณะที่ฝั่งไล่ตามนั้นเพิ่มระดับทักษะวันแล้ววันเล่า
ความเสียหายของเหล่าทหารเรือและโจรสลัดนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแต่พวกเขาก็ใช้ความเพียรพยายามจนตายไปเพื่อไล่ตามเขาไปให้ได้จริงๆ
“แกไล่ตามมาด้วยกองกำลังกับแรงใจ
ก็เข้าท่าดีละนะ แต่ว่าแย่หน่อยที่แกจัดการได้ไม่ดีพอ”
ซอยูน
เจ้าเหลืองกับโกลมินิซุ่มโจมตีแล้วกำจัดพวกเขาได้
มีคนเพียงหยิบมือไล่ตามมาแล้วก็จบสิ้นชีวิตลงไป
แถมยังพยายามที่จะมาฆ่าแล้วฉกเอาไอเท็มไปอย่างเห็นได้ชัดไม่คิดว่านั่นจะยากเกินกว่าที่คาดไว้เลยหรอ
แม้ว่าเขาจะลองเอาพวกอันเดดกับมอนสเตอร์เข้าไปโจมตี
ทีมสำรวจของดรินเฟลด์นั้นก็ยังจัดการได้ซะก่อน การป้องกันที่เข้มแข็งดั่งกำแพงเหล็กกลับพยายามล่อวีดเข้าไปติดกับด้วยท่าทีที่จะเข้ามาจับกุมตัวของพวกเขา
จนกระทั่งการโจมตีครั้งที่ 6 ที่ค่อนข้างจะต่อสู้ได้ดีเทียบพวกอันเดดได้
เขาลากพวกมันไปเรื่อยๆขณะที่กำลังใช้กลอุบายอยู่! วีดเลียริมฝีปากของเขา
“ช่างเป็นกลยุทธ์ที่เรียบๆง่ายๆ นี่ถึงขีดสุดแล้วหรอ?”
แต่ถ้าหากไปไกลกว่านั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังเลย
จากเกมคอนติเนนท์ออฟเมจิค ทำให้เขามีกลวิธีมากมายที่จะไปจัดการกับกิลด์ที่โด่งดังในเขตลาส
ฟาลังคซ์ แล้วยังใช้กลวิธีเหล่านั้นให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลได้เร็วมากที่สุด!
“ยังเหลืออีกตั้ง
7คน แต่ว่าที่ต้องเตรียมก็คือเวลาที่ฉันต้องใช้และความเสียหายที่อาจจะเกิดได้
งั้น…….”
ถึงแม้ว่าพวกแกจะฆ่าฉันไปซัก 10 ครั้งแล้วฉันตายไปซักครั้ง แต่พวกแกก็จะต้องชดใช้เงินมาแทน
วีดนำซอยูนกับพวกของเขาไปยังพื้นที่มรดกแห่งประติมากรแล้วพวกเขาก็ลี้ภัยได้ในที่สุด
ดรินเฟลด์ต้องคว้าน้ำเหลวไปอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่แห่งนี้
เขาเชื่อว่าการร่วมมือกันต่อสู้ก็จะสามารถกำราบพวกมอนสเตอร์และกองทัพอันเดดได้ แถมยังเพียงพอที่จะไปฆ่าวีดได้อีกด้วย
“นี่ก็พิสูจน์แล้วว่าเขาคือเจ้าทานูกิ”
เขาฉลาดมากพอที่จะรู้จักเตรียมหาทางหลบหนีอย่างน้อยซักนิดก่อนที่จะไปโจมตี
เพราะว่ากรณีอย่างฝูงมอนสเตอร์ กับดักหรือภูมิศาสตร์
ส่วนกองทัพมากมายนั้นก็ต้องต่อสู้ทำหน้าที่ไปด้วยเช่นกัน
“อย่าไล่ตามพวกมันไป ขยายพื้นที่ออกไป แล้วเตรียมจับตัวเขาอยู่ที่นี่”
ดรินเฟลด์มีแรงจูงใจที่ชัดเจนแล้วตอนนี้
‘ตอนที่พวกเราพึ่งจะมาถึงที่เขตลาส
ฟาลังคซ์นี่ วีดก็อยู่ที่นี่แล้ว
แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยด้วยการมาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าพวกเรา แต่กลับไม่เคยมีหลักฐานอะไรเลยที่บอกว่าเขาจะหลงทางเตร็ดเตร่ในพื้นที่กว้างขวางแบบนี้
นอกเหนือจากนั้นเพื่อที่กลับไปยังทวีปเวอร์เซล เขาก็ยังต้องผ่านมาทางนี้อีกด้วย’
กองทัพเรือของดรินเฟลด์ได้ยึดเรือผีสิงไว้แล้วรวมถึงควบคุมไปทั่วทั้งบริเวณธารน้ำไร้เยือกแห่งนั้นด้วย
“ถ้าพวกเราออกไปแล้วขยายพื้นที่ล่าออกไปทั่วเขตลาส ฟาลังคซ์นี้
ก็คงสามารถเจอตัวเขาได้แน่ๆ”
การตามล่าแบบบ้าบิ่นของดรินเฟลด์ทำให้เกิดความเสียหายกับเหล่าลูกสมุนมากมายมหาศาล
เพราะว่ามอนสเตอร์มีเลเวลสูงมากไปตลอดแนวของเขตลาส ฟาลังคซ์ ความอดทนจึงควรนำออกมาใช้
แต่ในใจของเขา แล้ว กลับไม่มีความตั้งใจจะให้อภัยหลงเหลืออยู่ในใจนั้นเลย
“ฉันจะฆ่าเขาให้ได้ในท้ายที่สุดแล้ว ก็จะขวางเขาไม่ให้กลับไปทวีปเวอร์เซลได้อีกครั้งเลย”
ในฐานะพลเอกแห่งกองทัพเรือที่สองของราชอาณาจักรฮาเว่น เขาต้องฆ่าวีดให้ได้เพื่อเป้าหมายในการกู้คืนเกียรติยศอันป่นปี้
แล้วดรินเฟลด์ก็ได้ขอกำลังเสริมเพิ่มจากกิลด์เฮอร์มีสมา
จากพวกเขาส่วนใหญ่ตอนนี้มีเพียงอัศวินนาวีหรือเหล่าทหารเรือจึงไม่สามารถที่จะไล่ตามวีดที่กำลังหลบหนีไปเรื่อยได้
ที่วีดได้แต่ส่งพวกอันเดดมาหาพวกเขาอยู่เรื่อยๆ
-เกี่ยวเนื่องกับข้อเสนอที่จะฆ่าวีดให้ตายนั้น
ข้าขอหยิบยืมกองกำลังสนับสนุน……
หลังจากเริ่มสนทนาไปสั้นๆ
กิลด์เฮอร์มีสก็ส่งคำตอบที่แน่นอนมั่นใจมาให้ พวกเขาพร้อมที่จะให้เหล่าพันธมิตรแห่งโลกของพวกเขามาออกโรง
แต่ว่าความล้มเหลวของดรินเฟลด์ก็ได้กลายเป็นความล้มเหลวของเฮอร์มีสไปแล้ว
-วีดที่เป็นจอมเวทย์อมตะ (Lich)
ข้าจะส่งนักบวชระดับอาวุโส 15 คน
จอมเวทย์อาวุโส 10 คนกับอัศวินเป็นผู้ติดตามไปให้
เลเวลของกองกำลังสนับสนุนนั้นเหนือกว่าระดับที่ดรินเฟลด์ได้คาดไว้
-ขอบคุณครับ ข้าจะต้องได้ตัววีดมาแน่นอนครับ
-เพื่อให้การไล่ตามสะดวกสบายมากขึ้น ข้าจะส่งนักฆ่า(assassin)ไปให้ 8 คน โจร(thieve) 4 คนพร้อมกับเครื่องขุดเจาะไปให้ด้วย
1เครื่อง จงแน่ใจว่าจะฆ่าวีดได้ แล้วก็ค้นคว้าดันเจี้ยนของเขตลาส
ฟาลังคซ์มาด้วยละ
เพื่อที่จะยึดเขตลาส ฟาลังคซ์ทางการถ่ายทอดสดด้วยการแสดงกำลังรบของพวกเขา
กิลด์เฮอร์มีสจึงส่งกองกำลังออกไปด้วยความแน่วแน่
“ไอ้พวกเวรนั่น
พวกมันกำลังสาปแช่งฉันอยู่ใช่ไหมเนี่ย?”
วีดเกาใบหูเขาอย่างรุนแรง
แม้ว่าเวทย์คำสาปของเขาจะลดพลังลงไปอย่างมาก แต่ว่าจนกระทั่ง 1ถึง 2 เดือนในโรยัลโร้ดที่อยู่มานี้ทำให้เขาก็เริ่มกินดีกินอิ่มได้ในที่สุด
“บนทวีปเวอร์เซลนี้ ฉันก็อยู่ของฉันแบบดีๆแล้วนะแต่….ฝั่งพวกแกเข้ามาแหยมกันก่อนนะ”
วีดใช้ชีวิตอยู่อย่างอดทนอดกลั้นมา ด้วยการขูดเลือดขูดเนื้อ
ขายประติมากรรมกับขายของอื่นๆอีกมากมาย แล้วยังหวดราคาของสินค้าให้ดีอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้
ขนาดการจัดการกับพวกผู้เล่นใหม่ที่กินโจ๊กหญ้า
ทั้งหมดที่ทำไปนั่นก็เพื่อเอาชีวิตรอด!
“ยังไงก็เถอะ
ฉันจะไม่ยอมกลับไปโดยไม่ทำลายพวกสารเลวพวกนั้น”
แรกเริ่มมันก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ได้ด้วยการให้อภัยหรอก มันไม่แม้แต่จะจบได้ด้วยให้พวกเขาก้มหัวขอโทษก็ไม่ทำให้เขาสบายใจขึ้นได้
“ก่อนอื่น
เพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้พวกมันจับตัวฉันได้ ก็ต้องเฝ้าดูพวกมันไปก่อน โทริ
แวนฮอร์ค เจ้าเหลือง โกลมินิ”
“ครับ
นายท่าน!”
“เตรียมประจัญบาน”
การเพิ่มกองทัพอันเดดสูงสุด โทริ
แวนฮอร์คและเหล่าประติมากรรมสลักชีพก็ได้เตรียมพร้อมต่อสู้เสร็จสิ้นแล้ว
“ในที่สุดก็ถึงเวลาออกล่าพวกนักรบแห่งความโกลาหลแล้ว”
เพื่อที่จะเคลียร์ภารกิจให้ได้ การออกสำรวจในเขตลาส ฟาลังคซ์ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
เขายังได้สอนให้ซอยูนรู้จักวิธีต่อสู้กับพวกนักรบแห่งความโกลาหลไว้อีกด้วย
“เจ้าพวกนี้จะไม่ตั้งท่าป้องกันเอาไว้เลย ถ้าพวกมันไม่พยายามเทเลพอร์ตแบบระยะสั้นละนะ
โดยเฉพาะพวกมันหลายๆตัวเมื่อมีค่าพลังชีวิตต่ำลดต่ำลงถึงขีดสุดพวกมันก็จะไปรวมกับตัวอื่น
ฉะนั้นเธอต้องระวังเอาไว้ให้ดีนะ”
เขาสังเกตการณ์การต่อสู้กับพวกนักรบแห่งความโกลาหลอย่างเต็มที่ เมื่อตอนที่พวกมันไปต่อสู้กับพวกอันเดดหรือเมื่อตอนที่กริฟฟิทต่อสู้กับกับดักที่เขาวางไว้
“พวกมอนสเตอร์นั้นอันตราย
แต่ถ้าหากเธอไม่ไปทำเรื่องผิดพลาดเข้าละก็ เธอก็จะสามารถจับตัวมันได้เอง
ถึงแม้ว่าพวกอันเดดจะตายไปจนหมดแล้ว ก็ต้องออกล่าพวกมันให้ได้”
แวนฮอร์คขี่เจ้าเหลืองพร้อมกับอวดเบ่งกล้ามเนื้ออันแข็งแรงของมัน
โดยพร้อมที่จะแสดงให้เห็นพลังของอัศวินที่ถึงขีดสุด
ครั้งที่แล้วเจ้าโกลมินิออกไปสู้กับนักรบแห่งความโกลาหลพร้อมกับเจ้าเหลืองแต่ก็ไม่ขี่มันอีกเลย
ดังนั้นตอนนี้มันก็เลยเดินเอาเฉยๆ
บนเส้นทางที่ที่กลุ่มโจรสลัดอาเมเนียนได้ถูกทำลายไป มีนักรบแห่งความโกลาหลขวางกั้นไว้อยู่
8 ตัว!
แล้วก็เพื่อเพิ่มค่าความเป็นผู้นำวีดก็ได้ระเบิดทักษะราชสีห์คำรามออกมา
“เหล่าอันเดดที่มาพร้อมกับข้า บลัดลอร์ด เดทไนท์
และเหล่าสหายที่ได้มอบชีวิตให้ เจ้าเหลือง โกลมินิ! ทุกคนโจมตี!”
“อว๊ากกกกกกกกกก!”
วีดตะเบ็งเสียงของเขาออกมา พร้อมกับเหล่าอันเดดที่กวัดแกว่งอาวุธของพวกมันขณะที่กระโจนเข้าไปหาพวกศัตรู!
การกระตุ้นความกล้าเป็นเรื่องยากมากเพื่อที่จะให้ออกไปสู้
แต่แล้วสงครามแห่งเนโครแมนเซอร์ก็ได้ร่ำร้องเรียกหาพวกมัน!
‘เยี่ยมไปเลย ยิ่งถ้าเธอร้องเพลงในตอนนี้นะ
จะมหัศจรรย์ที่สุดไปเลย’
วีดแอบชำเหลืองตาเหลียวมองไปที่ซอยูน
หลังจากการได้ต่อสู้ร่วมกันมาหลายครั้ง เธอกลับปิดหูของตัวเองด้วยมือทั้งสองข้างไว้อยู่
กับซอยุนเธอคิดว่ามันเป็นแค่เสียงหนวกหูน่ารำคาญสินะ!
(หมายถึงราชสีห์คำรามนะ)
หลังจากที่การแหกปากนั้นจบสิ้นแล้ว
เธอก็กวาดดาบของเธอแล้วตรงไปข้างหน้า เหยื่อเหล่านั้นก็คือพวกนักรบแห่งความโกลาหลทั้ง
5
ตัว
จบตอน
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ส่งคำขอบคุณสำหรับผลงานแปล ครั้งนี้และครั้งอื่นๆ รวมถึงผู้มีส่วนร่วมทุกคนนะครับขอขอบคุณจากใจจริงครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง สำหรับงานแปลที่ยอดเยี่ยมครับ
ตอบลบหวังว่าจะอ่านได้ลื่นพอนะครับ ^.^
ลบลื่นมากเลยคับ
ลบรู้สึกว่าตอนนี้ยาวนานกว่าปกติ?
ตอบลบตามไล่ตามล่ากันไม่เลิกล่ะ ไม่รู้มีทีเด็ดอะไรซ่อนไว้อีก ฝ่ายนู้นส่งกำลังเสริมมาแล้ว
ขอบคุณครับ แต่ก็คงต้องปรับปรุงอีกมาก ถ้ามีช่วงงงๆ ก็ขออภัยครับ ^.^
ตอบลบขอบคุณทีมแปลขอรับ
ตอบลบพวกจิตวิญญาณธาตุไปไหน กำลังเสริมของคืออะไร เอารือมาเยอะ ขากลับวีดก็มีกองทัพเรือกลับแน่นอน
ตอบลบสนุกมากครับ
ตอบลบขอบคุณที่สละเวลาให้พวกเราสนุกสนาน
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบพวกธาตุหายไปไหนน้อ
ตอบลบขอบคุณครับ อ่านฉากนี้แล้วนึกถึงpirates of the caribbean ภาคแรกเลยถ้ามีฉากอันเดดเดินในทะเลเข้าตีเรือด้วยจะฟินมากเลยตอนนี้
ตอบลบอ่านสะดุดบ้างนิดหน่อย แต่ผมว่าโอเคดีครับ ขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณที่ช่วยติชมคับ เล่มที่ 4 กับ 5 แปลยากหน่อยคับ สำนวนต้นฉบับแปลกๆ เลยพางง 5555+
ลบตอนนี้สนุกมากไล่ล่ากันมันส์เลยครับ รอลุ้นกำลังเสริมมาตายเพิ่ม
ตอบลบขอบคุณผู้แปลครับ
ตอบลบเสียงหนวกหูน่ารำคาญ55+
ตอบลบขอบคุณนะ
ตอบลบสนุกทุกตอนแปลดีทุกตอนอ่านลื่นมากขอบคุนผู้และผู้มีส่วนร่วมทุกคนคับ
ตอบลบมันส์มาราธอนจริงๆ...
ตอบลบ555...
ขอบใจหลายๆเด้ออ
ขอบคุณผู้แปลทุกท่านมากครับ แปลได้ดีมากครับ แต่ละตอน ยาวมากๆเลยครับ
ตอบลบ