เล่ม19ตอนที่10: ขีดจำกัดของเนโครแมนเซอร์ แปลโดย garnotics และ แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ลีฮุนกำลังคิดอะไรบางอย่างระหว่างเตรียมอาหารเช้าและทำความสะอาดบ้าน
‘คุณค่าของใบปริญญาจากมหาลัยคืออะไร?
ผู้คนต่างต้องการใบปริญญาเพียงเพื่อที่จะสมัครเข้าทำงาน’
ชีวิตของการได้ทำงานในบริษัทใหญ่ๆ
รับเงินเดือนในแต่ละเดือน รับเงินโบนัสในช่วงวันหยุดยาว และรับเงินโบนัสประจำปี
นี่ไม่ใช่ชีวิตในแบบพนักงานบริษัทที่ลีฮุนต้องการ?!
‘ออกเดท ซื้อรถภายใต้การผ่อนชำระรายเดือน ไปเที่ยวในช่วงวันหยุดฤดูร้อนบนถนนที่รถติดยาวเหยียด’
คุณค่าของใบปริญญามันมีข้อจำกัด
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่ได้งานดีๆทำในบริษัทที่ดีเพียงเพราะเขามีใบรับรอง
‘เราต้องได้เกรดดีๆและเก่งภาษาต่างประเทศ
เรายังมีใบรับรองอีกเล็กน้อยเพื่อที่จะได้รับโอกาสมากกว่าคนทั่วไป
และเราต้องฝึกงานด้วย!’
ยิ่งเขาคิดเขายิ่งถอนหายใจ
เขาอายุมากกว่าคนอื่นและยิ่งกว่านี้เขายังลาออกจากโรงเรียนมัธยมปลายและยังสอบเทียบอีกดังนั้นเขาจึงไม่คาดหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนคนอื่นๆ
“ไม่คิดว่าการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยจะเจ็บปวดเพียงนี้”
ใบปริญญาตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์มากกว่าเป็นประโยชน์
นอกจากจะเป็นกระดาษประดับข้างฝาผนัง(เปิดเพลงมหาลัยของคาราบาวฟังไปด้วยเลย) ลีฮุนหยิบกล้องขึ้นมาพร้อมกับบันทึกที่เล็กน้อยเตรียมตัวออกจากบ้าน
เขาเห็นซอยูนยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
เพราะว่าวันหยุดฤดูร้อนเพิ่งจบลง อากาศยังคงร้อนอยู่
เธอใส่ชุดธรรมดาๆอย่างกางเกงยีนและเสื้อยืดสีขาว ให้ความรู้สึกแปลกๆ
เมื่อเทียบกับความงามของเธอ
ชุดธรรมดาที่เธอใส่ ทำให้เธอยิ่งดูสวยสดงดงามมากยิ่งขึ้น
เมื่อเธอสวมชุดเดรสออกงาน เธอนั้นงดงามราวกับเทพธิดา
และแม้ว่าเธอจะใส่ชุดธรรมดาๆ เธอก็ยังเป็นที่ดึงดูดความสนใจได้อีก
ระดับความสวยของเธอนั้นมากมายไม่ว่าเธอจะสวมใส่เสื้อผ้าแบบไหน
ลีฮุนพูดกับเธอห้วนๆ
“เดินไปมหาลัยด้วยกันมั้ย?” ซอยูนพยักหน้าเล็กน้อย
เธอใช้ความพยายามเล็กน้อยเพื่อไปที่บ้านของลีฮุนด้วยตัวคนเดียวโดยเหตุผลที่ว่าเธออยากจะไปมหาลัยพร้อมกับเขา
ลีฮุนตอบกลับแบบข่มขื่น “ได้เลย
ทำตามที่เธอต้องการเลย” เขาจินตนาการถึงเจ้าสาวหอยทาก(เป็นเทพนิยายของเกาหลี
เรื่องราวของเจ้าหญิงหอยทากแปลงกายเป็นคนในตอนกลางคืนและแอบทำงานบ้านให้กับชาวนาที่ช่วยดูแลเธออย่างดี)
หญิงสาวไร้เดียงสาที่แอบทำอาหารให้ลีฮุนเป็นความลับที่มีความรักอยู่ข้างใน
แต่เมื่อเขามองซอยูนเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ ความฝันของเขาได้แต่แตกเป็นเสี่ยงๆ
‘เธอคงจะทำอาหารให้เราโดยไม่คิดอะไร
เราเคยทำอาหารให้เธอในครั้งก่อน เธอเลยต้องการตอบแทนในสิ่งที่เธอได้รับ’
ลีฮุนไม่อาจรอรถบัสที่ป้ายกับซอยูนและเดินเท้าไปยังมหาลัย
แต่หลังจากเขาเริ่มออกล่าที่ลาสฟาลังค์(Las Phalanx) เขาตัดสินใจนั่งรถบัสเพื่อประหยัดเวลา
พวกอันเดทที่โดนตัดพลังมานาจากเนโครแมนเซอร์ของพวกมัน
ทำให้พวกมันอ่อนแอลงและกลับคืนสภาพกลายเป็นซากศพหรือย่อยสลายหายไป
เพื่อที่จะล่าได้นานขึ้นและประหยัดการสูญเสียจำนวนอันเดด
การขึ้นรถบัสจึงเป็นสิ่งจำเป็น
“ดะ-ดะ-ดูผู้หญิงคนนั้นสิ!” “สวยมาก
ฉันยังไม่เคยเห็นใครสวยเท่าเธอมาก่อนเลย” เมื่อเขาอยู่กับซอยูน ผู้คนมองเข้ามาดูกันมากตอนที่รถติด
ลีฮุนเคยเผชิญสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เขาเพียงแต่รู้สึกหายใจไม่สะดวก
“มันมีข้อบกพร่องมากเกินไปที่ไปมหาลัยกับเธอ
คนตั้งเยอะมองมาที่เธออ่ะ” หลังจากที่ได้ยิน ซอยูนก็สวมหมวกและหน้ากาก หลังจากนั้น
ผู้คนถอนหายใจอย่างน่าผิดหวังที่ไปยุ่งกับพวกเขา
เร็วๆนี้รถบัสที่พวกเขารอได้มาถึง
ลีฮุนได้ใช้บัตรรถบัสและเดินไปนั่งที่นั่งว่างแต่ซอยูนกลับยืนนิ่งเฉย “อะไรนะ?
เธอไม่มีบัตรรถเหรอ?” ซอยูนพยักหน้า
กี่ครั้งแล้วที่เธอได้นั่งรถบัส?
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ขึ้นรถบัส เธอยังไม่มีบัตรรถโดยสาร
และเพิ่งมารู้ก็ตอนนี้ว่ามันต้องใช้บัตรเพื่อขึ้นรถ
ซอยูนเขียนลงบนแผ่นกระดาษและโชว์ให้เขาดู
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันขึ้นรถบัส นายเห็นมั้ย...
ลีฮุนจ่ายค่ารถให้เธอแล้วก็นั่งด้วยกัน
“เอิ่ม...แบบว่า
ครั้งหน้าเธอต้องพกบัตรรถสาธารณะมาด้วยนะ โอเคนะ?
ถ้าเธอมีบัตรเธอจะขึ้นรถบัสแล้วก็ขึ้นรถไฟได้ด้วย” ลีฮุนให้คำแนะนำอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินดังนั้น
ซอยูนเปิดกระเป๋าสตางค์ออก
คิดว่าบางทีจำนวนเงินสดที่ไม่น่าเชื่อและบัตรเครดิตอีกสามใบ บัตรแบล็คพรีเมียม
ไดมอนด์ และแพลตตินัม ค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับบัตรมากกว่า1000000วอน(ประมาณ30000บาท)
ดังนั้นแน่นอนมันเป็นบัตรรถโดยสารสาธารณะในตัวและยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย
ตอนที่ซอยูนโชว์บัตรให้เขาดู
ลีฮุนส่ายหน้าอย่างเคืองๆ ‘นี่เราโดนเธอหลอกอีกแล้วเหรอเนี่ย’
ความโหดร้ายของเธอในการที่ทำให้เขาต้องจ่ายค่ารถโดยสารและแสดงบัตรรถให้เขาดูหลังจากนั้น
ไม่มีใครนอกจากซอยูนที่ทำสิ่งเลวร้ายกับเขา
เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัย
ลีฮุนเดินไปห้องเลคเชอร์เพื่อเรียนคาบแรก ซอยูนตามเขาไป “มีอะไร?
เธอลงทะเบียนเรียนวิชาวิศวกรรมแคปซูลด้วยเหรอ?” ซอยูนได้แต่พยักหน้าสองครั้ง
พวกเขาใช้เวลา3ชั่วโมงเรียนด้วยกัน
และแบ่งข้าวกล่องกินด้วยกันที่สนามหญ้าภายใต้แสงอาทิตย์ที่แสนอบอุ่น
ซอยูนตามเขาไปเมื่อถึงคาบเรียนเลคเชอร์ต่อไป “มันบังเอิญสินะ นี่เธอก็ลงเรียนวิชาทฤษฎีโครงสร้างทางสังคมในโลกเสมือนด้วยเหรอ?”
เธอพยักหน้าอีกซอยูนหยิบสมุดจดวิชา ลีฮุนลงชื่อพวกเขา
“รุ่นพี่ มันนานแล้วนะ” “ไงอปป้า”
ข้างหลังเป็นซุนจู ลียูจอง มินโซรา และชอยซางจูน ก็ลงทะเบียนเรียนวิชานี้เหมือนกัน
ดังนั้นพวกเขาถึงเจอกันในห้องเลคเชอร์
หลังจากคาบเลคเชอร์จบลง
นักศึกษาทุกคนได้รวมตัวกันในห้อง “เอาละตามที่ผมกำหนด
วันนี้พวกเราจะตรวจการบ้านของพวกคุณที่ให้ไปทำกัน”
ลีฮุนนั่งอยู่แถวหน้าสุดของห้องที่มีนักศึกษากว่า300คน มันยากที่จะให้Fกับคนที่นั่งแถวหน้าสุดบ่อยๆ
ที่นั่งที่มักได้รับความดีความชอบจากพวกอาจารย์ ลีฮุน ซอยูน และอีก12คนนั่งอยู่แถวหน้า
“เอาเริ่มเลย ขึ้นมาทีละหนึ่งคนจากทางซ้าย”
อาจารย์จูจองฮุนเริ่มฉายคลิปจากกล้องของนักศึกษา
วีดีโอเริ่มเล่นมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสดใสและทะเลสีครามพร้อมกับเหล่าผู้ปกครองและเสียงหัวเราะ
“การเดินทางพักผ่อนกับครอบครัว มันดูสนุกดีนะ”
อาจารย์แสดงความเห็นสั้นๆระหว่างดูวีดีโอ
“คุณทำงานหนักมากในค่ายอาสา น่าภาคภูมิใจจริงๆ” “ดูการแสดงในโรงละคร
ดีเลยเป็นการศึกษาประเพณีวัฒนธรรมไปด้วย”
ดูเหมือนว่านักศึกษาทุกคนใช้เวลาพักผ่อนกันอย่างเต็มที่
อย่างน้อยก็อย่างที่เห็นในบันทึก
และแล้วก็ถึงตาของซอยูน
เมื่อเริ่มคลิปชีวิตซอยูนในหยุด นักศึกษาทุกคนต่างสนใจมากยิ่งขึ้น
แสงแดดอ่อนๆผ่านหน้าต่าง ซอยูนกำลังหลับอยู่บนเตียงห่มผ้านวมและเธอก็ตื่นขึ้นและขยี้ตา
เธอไม่ได้แต่งหน้าแต่ความงามนั้นสมบูรณ์แบบไม่มีอะไรบ่งบอกบนใบหน้าว่าเธอเพิ่งตื่นนอน
“โฮ่ง โฮ่ง”
เจ้าหมาเห่าอย่างกระตือรือร้นและวิ่งไปหาอ้อมแขนของเธอ ภาพของซอยูนกำลังลูบหลังสุนัขและกอดมันกำลังฉายอยู่บนจอ
หูตั้ง ขาที่ว่องไวและหางที่สั่นไปสั่นมา สุนัขที่ดูคุ้นเคย
มันคือมอมโบชินเจ้าหมาที่ลีฮุนมอบให้เธอ
ซอยูนถือผ้าเช็ดตัวด้วยมือข้างหนึ่งและเข้าไปในห้องน้ำ
เธอใช้เวลาไปเล็กน้อยกับการล้างหน้าแต่ใบหน้าของเธอก็ส่องสว่างราวกับว่ารัศมีเจิดจรัสอยู่ข้างหลังเธอ
เนื่องจากไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษเกิดขึ้นในช่วงวันหยุด
เธอตัดสินใจบันทึกชีวิตประจำวันของเธอและขอให้คุณพยาบาลช่วยถ่ายให้เธอ
ซอยูนตื่นนอนแต่เช้าเพื่อทำอาหาร เธอเตรียมส่วนผสมต่างๆนำมาทำข้าวไข่เจียวและสลัดไก่
เธอรวบผมนุ่มๆของเธอที่พาดลงบนไหล่และเริ่มหั่นวัตถุดิบ
ทุกๆฉากอย่างกับโฆษณา CF(น่าจะมาจาก Commercial Film) อาหารจัดลงบนจานและตบแต่งอย่างสวยงามเหมือนในภัตตาคารชั้นนำ
ข้าวไข่เจียวสลัดและน้ำนางเอก(น้ำส้ม)ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบลงบนโต๊ะสีขาว
เธอกินกับนางพยาบาลที่ช่วยถ่ายคลิปให้เธอ
ลีฮุนคิด ‘ทำไมเธอต้องตื่นมาทำอาหารตั้งแต่เช้าด้วย? หรือเธอเพียงแค่อยากทานอะไรอร่อยๆเท่านั้น?’ สำหรับลีฮุนถ้าไม่ใช่ทำเพื่อน้องสาวของเขาเขาก็กินแบบปกติๆ ซอยูนทำอาหารได้ดีเหมือนกับข้าวเที่ยงที่ทำให้ลีฮุน
เพียงแต่ว่าไม่มีใครทราบ
โบชินเองก็กินข้าวข้างใต้โต๊ะ
และเธอก็เริ่มล้างจานหลังจากทานอาหารเสร็จ นักศึกษาส่วนใหญ่อุทานออกมา”ว้าว!”เมื่อพวกเขาเห็นเธอเช็ดน้ำที่ไหลลงบนหน้าผากของเธอขณะที่เธอล้างจาน
ไม่ต้องเสียเวลาเพื่อถ่ายทำสำหรับซอยูนที่ในนั้นมีเพียงตื่นนอนล้างหน้าทำกับข้าวและทานอาหาร
แต่ลีฮุนคิดต่างออกไป ‘เธอเพียงแค่ใช้น้ำยาล้างจานครึ่งขวด
และเธอก็สะบัดน้ำให้มากๆขณะที่ล้างจาน’ หลังจากล้างจานเสร็จเธอนั่งลงบนเก้าอี้โยกและเปิดหนังสือขึ้นมา
หลังจากล้างจานเสร็จเธอนั่งลงบนเก้าอี้โยกและเปิดหนังสือขึ้นมา
ชื่อของหนังสือนั้นคือ “บันทึกหอศิลป์”
มันคือหนังสือที่ให้คุณได้รู้เรื่องเกี่ยวกับผลงานศิลปะและศิลปินและพาคุณแวะชมหอศิลป์ทั่วทั้งโลก
ในขณะที่นักศึกษาคนอื่นๆคิดว่า
‘ไม่ผิดหวังกับซอยูนจริงๆ’ เช่นเดิมลีฮุนคิดต่างออกไป
‘มันก็แค่การแสดง’ เขาคิดว่าเธอแสดงออกมากเกินไปต่อหน้ากล้องที่อยู่ตรงหน้าเธอ
หลังจากอ่าน หลังจากอ่านหนังสือเสร็จ เธอก็เข้าแคปซูลแล้วเล่นรอยัลโรด
เดินเล่นในสวน อาบน้ำ แล้วก็เข้านอน
เมื่อเธอทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วห่มผ้าห่มแล้วแสงไฟก็ปิดลงพร้อมกับวีดีโอที่จบลง
อาจารย์กล่าวว่า “เป็นชิ้นงานศิลปะที่ยอดเยี่ยมที่อธิบายถึงชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างสวยงาม”
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ลีฮุนถึงกับช็อค
เขาเดินทางฝ่านรกไปแอฟริกาและยุโรปเพื่อถ่ายทำ
แต่ซอยูนกลับได้รับคำชมเพียงแค่ถ่ายบันทึกชีวิตประจำวัน “คนต่อไป”
ลีฮุนส่งกล้องวีดีโอให้ผู้ช่วยอาจารย์ด้วยใบหน้าที่ผิดหวัง
พวกเขาเพียงแต่ดูซอยูนไม่มีใครตั้งใจดูวีดีโอของลีฮุนอย่างจริงจัง
จริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงที่จะกล่าวว่าส่วนใหญ่นั้นเพียงแต่ต้องการดูคลิปของซอยูน
การเดินทางข้ามประเทศอียิปต์แอฟริกาและยุโรป!
ข้ามทะเลทรายด้วยรถจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อ โดดร่มจากบนเครื่องบินและโรงแรม ขับรถมอเตอร์ไซค์
การผจญภัยใต้ทะเลลึก และแม้แต่เล่นกีฬาผาดโผน(เอ็กตรีมสปอร์ต)!
อาจารย์แสดงความคิดเห็นยาวหลังจากจบวีดีโอ
“ในฐานะที่อาจารย์เป็นคนให้งาน มันสมกับที่คาดหวังเอาไว้ แต่ผมไม่เคยคิดว่าจะมีนักเรียนคนไหนที่จะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษในช่วงวันหยุดเช่นนี้
แต่ถ้าผมไม่ได้สั่งงาน พวกเราก็จะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวนักเรียนคนนี้ ใช่มั้ยล่ะ? ขอเสียงปรบมือให้กับลีฮุนที่ได้รับประสบการณ์ในการท่องเที่ยวอันแสนพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทำได้ด้วยครับ!”
นักศึกษาบางคนสั่นด้วยความตื่นเต้น
“สมกับเป็นปริ้นเซสไนท์” “เขาเก่งMTด้วยนายรู้ป่าว”
ลีฮุนไม่ได้มีความสุขจากเสียงปรบมือ
เพราะเขาจะมีความสุขเพียงเมื่อได้ใช้ชีวิตแสนปกติสุข ทานอาหารที่บ้าน ให้อาหารเหล่าสัตว์เลี้ยงที่หลังบ้าน
ไปฝึกที่โรงฝึก และเข้าเกมเพื่อออกล่า
ซอยูนมองเขาด้วยแววตาริษยาและประหลาดใจ
ลีฮุนไม่ได้มีความสุขนักเมื่อถูกเธออิจฉา ‘ฉันจะใช้เวลาช่วงวันหยุดฤดูหนาวที่บ้านไม่ว่าจะยังไงก็ตาม’
ไม่มีทางที่จะมีการบ้านแบบนี้อีก
แต่ถ้ามีนะฉันจะปั้นตุ๊กตาหิมะ
แต่ถ้าอยากให้มีอะไรในคลิปอีกฉันจะเล่นปาหิมะกับพวกเด็กๆแถวบ้าน
ลีฮุนบอกกับตัวเองว่าจะใช้เวลาในวันหยุดฤดูหนาวแค่ที่บ้าน
วีดีโอของนักศึกษาคนอื่นๆนั้นธรรมดาๆและไม่มีอะไรน่าสนใจ
ดังนั้นลีฮุนจึงฟุบลงและจบลงด้วยการหลับ
ซอยูนยังนั่งคิดมากกว่าสนใจดู
เธออยากไปเที่ยวที่ไกลๆในช่วงวันหยุดฤดูหนาว
ถ้าเธอสามารถไปเที่ยวกับเพื่อนที่เธอสามารถวางใจและพึ่งพาได้
เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่ดีมากๆเลย
***
“เรือผีสิง? ถ้าหากคุณกำลังถามเกี่ยวกับเรือที่มีกัปตันเป็นโครงกระดูกฉันก็ไม่แน่ใจ
ฉันคิดว่ามันเดินทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ...”
“เขาซื้อปลาแห้งไปเป็นจำนวนมากจากที่นี่”
“เขายังซื้อแอปเปิ้ลตากแห้งจำนวนมากในราคาที่ถูกสุดๆเขาต่อราคาได้เก่งมากๆเลยละ”
กองเรือรบที่สองแห่งอาณาจักรฮาเว่นมาถึงเกาะลิฟเฟียแล้วส่งผู้ติดตามเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสาร
เนื่องจากเรือบรรทุกผู้เล่นมากกว่า230คน
การรวบรวมข้อมูลจึงไม่ได้ใช้เวลามากมายนัก
“มีที่ไม่มากหรอกที่เขาสามารถไปได้
ทางตะวันออกเฉียงเหนือจากตรงนี้ ถ้าเขามุ่งไปยังทิศนั้นหลังจากออกจากเขตทะเลเนอเรียเขาจะออกไปยังทะเลอันแสนไกล”
เขาสามารถไปทางใต้ได้หลังจากเดินทางรอบทางตะวันออกของทวีปเวอร์เซล
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะง่ายกว่าเพียงแค่เดินทางผ่านช่องแคบเนอเรีย
“เขาได้ล่ามอนสเตอร์หลังจากเดินทางมาถึงเกาะหรือไม่?
หรือว่าเขาเพียงแค่มาทำภารกิจเกี่ยวกับการเดินทางในทะเล?”
เขาไม่เข้าใจเจตนาของวีด แต่ดรินเฟล(Drinfeld)ตัดสินใจที่จะไล่ตามเรือผีสิงในตอนนี้ หลังจากออกทะเลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เขาเองก็ถามสัตว์ในทะเลและนกเพื่อหาทิศทางที่เรือผีสิงไป
และแล้วพวกเขาก็มาถึงท่าเรือเพลนทิซ(Planetis
Port)หลังจากไล่ตามร่องรอยของเรือผีสิง
“ท่าเรือลับเป็นสถานที่...ที่คาดหวังว่าจะเจอวีด” เรือทุกลำเดินหน้าเต็มกำลังไปทางเหนือ”
เรือรบอาณาจักรฮาเว่นทุกลำกางใบเรือและออกทะเล
มันเป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่ของการออกเรือทั้ง16ลำ เรือรบโคลอสซัลมุ่งหน้าออกทะเลฝ่าลมพายุ เบาะแสของเรือผีสิง
พวกเขาตามร่องรอยของเรือผีสิงและมุ่งไปยังทิศเหนือ
โจรสลัดที่เลื่องชื่อที่สุดในทะเลกริฟฟีทท์
เรือใบขนาดกลางและเรือใบขนาดใหญ่มากกว่า50ลำที่เขาสั่งการได้มารวมตัวกันที่ทะเลเพลทิส(Platis
Sea)
พวกโจรสลัดต้องมีความกล้าหาญพอที่จะสู้จนตัวตายแม้กระทั่งมีศัตรูเป็นกองทัพและการรวบรวมข้อมูลต้องทำอย่างรวดเร็ว
พวกเขาติดตามเรือของอาณาจักรฮาเว่นขณะที่ออกจากพื้นที่ของพวกเขา
“พลเรือเอกของอาณาจักรฮาเว่นออกมาเองเลยใช่มั้ย”
กริฟฟีทท์และโจรสลัดของเขาต้องการเพียงไล่ตามหลังเรือของอาณาจักรฮาเว่นโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
“แล้วพวกมันยังติดต่อเราให้มาตามล่าวีด ยังคงไม่พอใจกับกองเรือของอาณาจักรฮาเว่นอีกเหรอ
เฮ้อะ? ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ข้าไม่อาจให้พวกมันได้เหยื่อของพวกเราไปเด็ดขาด
ด้วยเกียรติของพวกเราเหล่าโจรสลัด ข้าขอรับประกันว่าจะจัดการจับตัวมันมาให้ได้ ไป
พวกเรา ไปล่าตำนานแห่งทวีปนี้กัน!”
หลังจากสิ้นคำกล่าวของกริฟฟีทท์
เหล่าโจรสลัดได้กู่ร้องตะโกนกันเสียงดัง
โจรสลัดไล่ตามไม่ทันเมื่อเทียบกับกองเรือที่มีอุปกรณ์เพียบพร้อม
อย่างไรตาม พวกมันก็แทนที่ข้อบกพร่องด้วยจำนวน
ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลลับของโจรสลัด พวกผู้ชายในทะเลเนอเรียถูกรวบรวมด้วยคำสั่งของงกริฟฟีทท์
มันเป็นการรวบรวมกลุ่มโจรสลัดครั้งยิ่งใหญ่ที่อาจเกิดเพียงครั้งสองครั้งในหนึ่งปี
***
วีดออกล่าในที่ที่น่าอัศจรรย์ด้วยการบังคับบัญชากองทัพอันเดด
แต่มันมีข้อจำกัดในการระดมพลเพื่อทำเควส
เนื่องจากกองทัพอันเดดโดยพื้นฐานแล้วมีต้นทุนต่ำและอ่อนแอ
ต้องการเครื่องสังเวยเป็นจำนวนมาก เมื่อไรก็ตามที่ต่อสู้กับบอลลาร์ด(ให้คิดว่าเป็นเสือดำละกัน)
“ไม่ง่ายที่จะสำรวจเลย”
กองทัพอันเดดไม่อาจที่จะได้รับการตอบสนองว่าเป็นศัตรูกับพวกมอนสเตอร์
ด้วยเหตุนี้เขาต้องต่อสู้โดยไม่ได้หยุดพัก
ขณะนี้เขาอัญเชิญเดธไนท์40ตัว มันเป็นกองทัพอันเดดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่วีดสามารถสร้างได้ด้วยเลเวลของเขา,อัตราการฟื้นฟูมานา,และสกิลเนโครแมนเซอร์
ดังนั้นพวกอันเดด30ถึง50ได้ตายลงเมื่อสู้กับบอลลาร์ด
“สำหรับตอนนี้ พวกเราต้องมุ่งหน้าไปที่ยอดเขาที่7ที่ที่พวกโจรสลัดอาร์เมเนียมุ่งไป แต่เราจะต้องสู้กับพวกบอลลาร์ดอีกอย่างน้อย20ครั้ง”
เมื่อสู้กับบอลลาร์ด
จำนวนของอันเดดลดลงอย่างมาก ส่วนมากอันเดดเลเวลต่ำๆจะตายแต่ถ้าหากพวกอันเดดเลเวลต่ำเหลือจำนวนน้อยเกินไปเดธไนท์ก็จะตาย
“ช่วยไม่ได้
แต่เพื่อจะเดินหน้าต่อไปพวกเราต้องสู้กับแทร์เบธ” เมื่อบอลลาร์ด4ตัวรวมตัวกันจะเกิดการร่ายคำสาปเป็นกว้างขึ้น,เดธไนท์จะโจมตี,และนักเวทโครงกระดูกจะยิงเวทมนต์ใส่
กลุ่มของกูลและซอมบี้พุ่งเข้าใส่ และกวางที่กลายเป็นอันเดดก็พุ่งเข้าหาบอลลาร์ด!เนื่องจากการโจมตีครั้งใหญ่จากกองทัพอันเดด การต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะ
แต่อันเดด23ตัวแหลกสลายจากการถูกเผา ไม่อาจจะอัญเชิญออกมาได้อีกครั้ง
เพราะว่าพวกมันต่อสู้กับบอลลาร์ดและบอลลาร์ดซ้ำอีกหลายครั้ง
อันเดดอย่างน้อย100ตัวไม่สามารถถูกอัญเชิญได้อีกครั้ง
“ด้วยอัตราการสูญเสียเท่านี้ มันจะก่อให้เกิดปัญหาได้”
วีดเคลื่อนตัวไปล่าแทร์เบธ
แต่ยิ่งเขาเข้าใกล้ยอดเขาที่7จำนวนของบอลลาร์ดยิ่งมากขึ้นและในตอนนี้มีอย่างน้อย5หรือ6ตัวเดินเตร่ไปทั่วด้วยกัน
ด้วยการสังเกตของเขาในตอนที่เขากลายเป็นอีกา
เมื่อเขาบินทะลุผ่านบอลลาร์ด นักรบแห่งความหายนะจะปรากฏ
“ช่วยไม่ได้ ฉันจะคิดเกี่ยวกับมันทีหลัง
และใช้ทุกอย่างที่สามารถทำได้สำหรับตอนนี้” วีดหยิบไพ่ใบสุดท้ายออกมา
กระจกแห่งการหลับใหลนิรันดร
มันคือไอเทมที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนามาทัลลอส
มันทำให้อันเดดมีคุณสมบัติพลังกายเพิ่มขึ้นมานาเพิ่มขึ้นและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
“มันเหลือความทนทานเพียง3หน่วย
ฉันจะต้องระมัดระวังในการใช้ให้มากๆและเก็บมันเข้าที่เดิมก่อนที่มันจะแตก”
ในตอนที่เขาหยิบกระจกออกมา
พลังงานสีดำและสีน้ำเงินไหลเข้าหาวีด
ตริ๊ง!
–ลิชที่น่าสยดสยองได้ใช้กระจกแห่งการหลับใหลนิรันดร
อันเดดมีพละกำลังเพิ่มขึ้น25% ความคล่องตัวเพิ่มขึ้น38%
|
พวกมันจะใช้วิธีการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย
เช่น คลานด้วยสี่ขาและกระโดดออกจากกำแพง พวกมันมีคุณสมบัติพิษถึงตาย
ความต้านทานเพิ่มขึ้น ประสาทสัมผัสจะคมขึ้น
|
อันเดดที่ขุดและซ่อนตัวอยู่ในดินจะอยู่รอดได้นานมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้มานาของเนโครแมนเซอร์
|
คุณสามารถใช้สกิลซัมมอนอันเดดเลเวล5 คุณสามารถอัญเชิญกลุ่มแม่มดที่เชื่อฟังคำสั่งของเนโครแมนเซอร์
|
สกิลเนโครแมนเซอร์ส่งผลเพิ่มขึ้น55% สามารถใช้สกิลพิเศษ สุสานปีศาจ(Grim grave),ผีกรีดร้องยามเที่ยงคืน(Ghost
Cry in Mid of Night),ลมหายใจกรด(Acid Breath),ระเบิดลายล้างแห่งความปวดร้าว(Self Destruction of Anguish),ถ่ายโอนพละกำลัง(Vitality Transfer)
|
-กระจกแห่งการหลับใหลนิรันดรเหลือความทนทานอีกไม่มาก
|
พลังกายมานาและปัญญาของวีดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ความฉลาดและปัญญาของเขาเพิ่มขึ้นถึง300หน่วย
และขีดจำกัดมานาสูงสุดเป็นสองเท่าจากเดิม
“สำหรับตอนนี้ ทุกตัวจงหวนคืน”
วีดหยุดจ่ายมานาให้อันเดดและเลิกใช้เวทซัมมอน
จากนั้นซอมบี้,กูล,สเกลิตัน,และเดธไนท์ทุกตัวกลายเป็นศพกองอยู่กับพื้น เหลือเพียงแค่เดธไนท์แวนฮวอกและโกลมินิ
“จงตื่นขึ้นอีกครั้ง
ข้าจะช่วยพวกเจ้าจากการทนทุกข์ทรมานใต้ขุมนรก ข้าจะมอบพลังให้กับพวกเจ้า เพียงพอที่จะปกครองโลกทั้งใบ
อัญเชิญเดธไนท์!”
เขาปลุกเดธไนท์อย่างน้อย50ตนขึ้นมาโดยใช้ซากของสเกเลตัน เดธไนท์แท้จริงแล้วควรมาจากการคืนชีพซากศพของอัศวิน
ผลลัพธ์ยิ่งมากขึ้นเมื่อใช้ซากศพของอัศวินที่ทุจริตไม่มีความเป็นธรรมและละโมบมาสร้างเป็นเดธไนท์
ตราบาปถูกนำมาใส่ในเดธไนท์ในตอนที่ถูกคืนชีพขึ้นโดยการใช้กระดูกที่เดิมเป็นของสัตว์อสูร
ยังคงมีออร่าสีม่วงแดงไหลเวียนอยู่ในร่างกายของพวกเขา
-ด้วยความแข็งแกร่งของสกิลเนโครแมนเซอร์
ความแข็งแกร่งและพละกำลังของเดธไนท์ได้เพิ่มขึ้น “อย่างน้อยก็เลเวล270” วีดพึงพอใจเป็นอย่างมากกับสิ่งนี้ ถ้าพวกมันมีเลเวล270แล้วละก็มันจะแข็งแกร่งมากกว่าเดธไนท์ทั่วๆไป
ในขณะนี้ เนโครแมนเซอร์ต่างเป็นที่นิยมจากคนส่วนใหญ่แต่ก็ไม่ยากนักที่จะต่อกร
ระหว่างที่คุณสร้างกองทัพอันเดด คุณภาพของมันแต่ละตัวจะลดลง
มันเหมาะกับการเพิ่มเลเวลที่รวดเร็ว การสร้างจำนวนมากทรัพยากรก็สูญเสียมาก
“พวกข้าอยากทราบว่าท่านคู่ควรมีสิทธิในการสั่งการพวกข้า”
พวกเดธไนท์กล่าวต่อเขา เพื่อที่จะได้รับความซื่อสัตย์จากพวกมัน
เขาต้องแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจและความเป็นผู้นำ
แทนที่จะเอ่ยคำใดๆออกไป เขาชูตราประทับแห่งราชวงศ์อารูเพ่น
“อำนาจจักรพรรดิ” แสงส่องสว่างออกมาจากกระโหลกคริสตัล!!
-
คุณได้ใช้งานอำนาจของจักรพรรดิ เมื่อใดที่ลอร์ดหรือราชาใช้งานมัน ทักษะด้านการทูตของคุณจะเพิ่มขึ้นชั่วคราว
คุณสามารถหยุดการต่อต้านของพลเมืองด้วยอำนาจของคุณได้ อัศวินและขุนนางจะทำตามคำสั่งใดๆก็ตาม
เพิ่มความภักดีของประชาชน
|
ความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น150% ค่าความดึงดูดเพิ่มขึ้น150% ค่าสถานะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบจะเพิ่มขึ้น40โดยชั่วคราวจนกว่าคุณจะมีส่วนร่วมในการรบโดยตรง อำนาจของจักรพรรดิจะยังคงอยู่
|
ถ้าหากคุณต่อสู้โดยปราศจากการยกเลิกสกิล
ผลของอำนาจจักรพรรดิจะลดลงเรื่อยๆจนกว่าจะถูกเปลี่ยนเจ้าของ
|
จักรพรรดิจะไม่สู้อยู่ข้างหน้ากองทัพ
ด้วยเงื่อนไขที่รับการเติมเต็มโดยอำนาจของจักรพรรดิ
|
พวกเดธไนท์คุกเข่าลง
“พวกข้าขอน้อมรับคำบัญชา”
ตอนนี้
เขามีคำสัญญาแห่งความจงรักภักดี นั่นทำให้เขาไม่ถูกทรยศได้ง่ายๆ
อีกทั้งตั้งแต่ที่เขาลอร์ดแห่งอันเดดถูกปลูกโดยเขาเอง ขั้นตอนพื้นฐานก็ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
วีดแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจและยกเลิกสกิล
“ยกเลิกอำนาจจักรพรรดิ” ออร่าที่วนรอบกระโหลกคริสตัลค่อยๆจางหายไป
“ถ้าฉันเดินรอบๆเมืองด้วยพลังเมื่อตะกี้ มันจะมีประโยชน์มากๆ”
วีดปลุกอัดเดดมากมายหลายชนิดด้วยท่าคืนชีพอันเดด
อันเดดในตอนนี้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นและเลเวลของมันเพิ่มขึ้นจาก30%เป็น40%เทียบกับเมื่อก่อน
“ไปกันเถอะ!”
วีดสั่งการพวกอันเดดและมุ่งไปยังบอลลาร์ด “เดธไนท์ เลือกจัดการหนึ่งตัว
เจ้าพวกอันเดด ไปคอยช่วยเหลือพวกเขา” กูลและซอมบี้ได้รับคำสั่งให้อยู่รอโดยวีด
นักเวทย์โครงกระดูกใช้เวทมนต์โจมตี
โกลมินิยิงธนู โดยที่เดธไนท์ได้มาเป็นกำลังหลัก บอลลาร์ด5ตัวถูกจัดการเพียงความเสียหายเล็กๆน้อยๆ เมื่อเดธไนท์ตกอยู่ในอันตราย วีดจะมอบพลังให้ในวินาทีสุดท้าย
“นี่แหละถึงจะเหมือนการล่า!” วีดใช้ศพของบอลลาร์ดเพื่ออัญเชิญม้า ม้าที่ดูน่ากลัวที่เดธไนท์สามารถขี่มันได้
หลังจากล่าแทร์เบธ เขาอัญเชิญอันเดดเลเวลต่ำเพื่อทำให้พวกมอนสเตอร์ช้าลงเล็กน้อย
และหลังจากล่าบอลลาร์ด เขาเพิ่มจำนวนของเดธไนท์และแม่มด
เขาไม่เพียงคำนึงถึงเพียงแค่ปริมาณแต่คุณภาพก็ต้องมีด้วย
เมื่อแม่มดเดลโรวถูกอัญเชิญ เวทมนต์ที่แตกต่างกันถูกใช้งานมากขึ้นในการต่อสู้และพลังของมันก็เพิ่มขึ้นด้วย
ความแข็งแกร่งของกองทัพอันเดดโดยรวมเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิมมาก
“บุก!”
วีดเคลื่อนพลโดยใช้เวลาน้อยเท่าที่จะน้อยได้ก่อนที่ความทนทานของกระจกแห่งการหลับใหลนิรันดรจะหมด
เมื่อเขาล่าบอลลาร์ด จำนวนโดยรวมของอันเดดไม่ลดลงมากนัก
แถมยังมีจำนวนศพของบอลลาร์ดที่ถูกคืนชีพเพิ่มมากขึ้น “สร้างกระดูกและคลุมร่างกาย เกราะกระดูก”
ด้วยศพที่มีเหลือเฟือเขาได้ใช้เวทมนต์สร้างเกราะกระดูกให้เดธไนท์
เขาเองก็ไม่ได้มีความต้านทานหรือพลังป้องกันมากนัก
แต่เดธไนท์ต้องต่อสู้ด้วยเกราะพังๆนั้น “ศพเพิ่มขึ้นๆ ไม่มีชีวิตใดๆหลงเหลือ ณ
ที่แห่งนี้ มีเพียงแต่กองภูเขาซากศพ สุสานคนตายย” ป้ายหลุมศพหินผุดขึ้น ณ
ที่ๆวีดต่อสู้
มันเป็นเวทย์สนับสนุนที่เพิ่มสกิลของเนโครแมนเซอร์โดยเพิ่มพื้นที่แสดงผลและอัตราการฟื้นฟูของอันเดด
ท้ายสุดแล้วเขาทำลายแนวป้องกันของบอลลาร์ดและไปถึงบริเวณที่มีมรดกแห่งประติมากรรมอยู่ซึ่งจะสามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อวีดแปลงเป็นอีกา
รอยแยกของผืนดินลึกกว่า300เมตรมีลาวาไหลอยู่ข้างใต้ “เดินอย่างระมัดระวัง” วีดสู้กับมอนสเตอร์
หลบหลีกรอยแตก ปีศาจลาสฟาลังค์ ภูติเดแบนซ์ และบาร์บาเรียนจอมโกรธผู้สาบสูญ
“มันดูเหมือนว่ามันจะดีกว่านี้ที่จะหลีกเลี่ยงวิญญาณชั่วร้ายให้มากที่สุด”
พวกมันอ่อนแอกว่าแทร์เบธ แต่มันก็จำเป็นสำหรับเนโครแมนเซอร์เพื่อที่จะสร้างศพไว้หลังจากการต่อสู้
เขาหลีกเลี่ยงปีศาจลาสฟาลังค์และภูติเดแบนซ์และต่อสู้กับบาร์บาเรียน
การต่อสู้ของเดธไนท์กับบาร์บาเรียนซึ่งมีความแข็งแกร่งพอๆกันแต่ในการสู้นั้นไม่มีความสูสีกันเนื่องจากคำสาปของวีดและการโจมตีจากแม่มด
ถ้าหากคุณไม่ได้ล่ามอนสเตอร์จำนวนมากมายขนาดนี้คุณก็ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกนี้ได้หรอก
เขานั่งพักที่หอคอยปรักหักพังสักพักหนึ่งเพื่อฟื้นฟูมานาให้เต็ม
ตอนนี้นักรบแห่งความหายนะ อุปสรรคที่ยากที่สุด นักรบแห่งความหายนะล่าบอลลาร์ดด้วยพลังอันรุนแรง
ถ้าเขาไม่สามารถผ่านมันได้
เขาจะไปไม่ถึงที่ที่โจรสลัดอาร์เมเนียอยู่ “ฆ่ามานนน”
กองทัพอันเดดหลั่งไหลไปที่นักรบแห่งความหายนะ มันมีอยู่8ตัวซึ่งไม่ทราบเลเวล
“ศพที่เน่าเปื่อยถูกชะล้างด้วยไฟบริสุทธิ์”
นักรบแห่งความหายนะวัดแกว่งขวานและแส้ของมันใส่กองทัพอันเดด จังหวะที่แส้ถูกตัวพวกอันเดดที่อ่อนแออย่างซอมบี้กูลและพวกโครงกระดูกก็ได้ละลายไปกับเปลวเพลิงความร้อนสูง
มันเป็นการโจมตีที่น่ากลัว
แวนฮวอกต้านทานการโจมตีพร้อมกันของนักรบแห่งความหายนะ3ตัวประมาณ2นาทีก็ถูกสั่งให้ถอยกลับ
แม้ว่าเดธไนท์จะถูกบดขยี้เป็นผุยผงด้วยนักรบแห่งความหายนะก็ตาม
ทว่ามันเป็นตอนที่วีดพยายามจะร่ายเวทคำสาปตอนที่เห็นเหล่าอันเดดถูกกำจัด
ไม่ว่าพวกเขาจะต้องวิ่งหรือสู้หรือสาปศัตรูมันก็เป็นผลที่ดี
“บลิ้ง”นักรบแห่งความหายนะวาปไปวาปมา เมื่อมันใช้ท่าเทเลพอร์ตระยะสั้นมันจะได้สังหารหมู่เหล่าแม่มดและเดธไนท์
พวกมันวาปไปยังจุดที่วีดไม่กล้าจะร่ายเวทคำสาปหมู่ ขณะที่เขาลังเลใจชั่วขณะ
จำนวนของอันเดดก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
“มอออออ!” เจ้าเหลืองร้องตะโกนออกมา
พร้อมกับออกตัวรีบวิ่งหนี
“พวกเราก็รีบวิ่งกันเถอะ เจ้านาย”
วีดเห็นด้วยอย่างมากกับความคิดนี้
“โกลมินิ วิ่ง!”
ในเวลาแบบนี้ โกลมินิผู้ที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว
ยังต้องใช้ปีกแห่งแสงเพื่อวิ่งหนี!
เมื่อเขานับจำนวนกองกำลังของเค้า,
เหลือซอบบี้เพียงแค่ 7 ตัวเท่านั้น
แถมพวกมันยังดูเหมือนว่าพร้อมจะถูกฝังลงหลุมได้ทุกเมื่อ, เดธไนท์
2 ตน, และ โครงกระดูกอีก 10 ตัว นั่นคือลูกน้องทั้งหมดที่เขาเหลืออยู่
เมื่อปราศจากคำสั่งของเนโครแมนเซอร์
หลังจากที่วีดวิ่งหนีไป เหล่าอันเดดก็ต่อสู้ตามแต่ที่พวกมันต้องการ
ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับ
นักรบแห่งความหายนะอีก 8 ตน
ที่กำลังเขี้ยวเนื้อแทเบธอยู่ เหล่านักรบยังคงมีสภาพที่ดูดีกว่าเป็นไหนๆ
“ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป คงไม่ดีแน่”
วีดต้องเพิ่มจำนวนอันเดดอีกครั้ง
ณ สถานที่ที่เป็นมรดกทางประติมากรรม
เขาล่าพวกแทเบธและบอลลาร์ด
และเมื่อมีจำนวนอันเดดมากขึ้น
เขาลองพยายามดูอีกครั้ง
“ข้ามาเพื่อแก้แค้น
ฆ่าพวกมันให้หมด!”
เขารวบรวมอันเดดและพยายามโจมตีนักรบแห่งความหายนะอีก
2 ครั้ง 2 ครา แต่เขาล่าได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น
ด้วยการโจมตีแบบเน้นย้ำ
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นความล้มเหลว!
แม้ว่าเขาจะล่านักรบแห่งความหายนะได้แล้ว 1 คน
วีดยังคงต้องใช้สกิลปลุกชีพอันเดด
เมื่อเขาทำอย่างนั้น,
ยิ่งทำให้พวกนักรบแห่งความหายนะคนอื่นคลุ้มคลั่งมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า,
จนทำให้ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
เขาทำอะไรไม่ได้
นอกจากต้องถอยหนีออกมา“เลเวลมันห่างกันเกินไป,
ต่อให้เราฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง, มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่ดี”
ถึงแม้ว่าวีดจะฟื้นขึ้นมาด้วยพลังแห่งการปฏิเสธความตาย
มันก็ทำได้แค่เพิ่มจำนวนการตายมากขึ้นไปอีก
มันยังทำให้ทักษะและความเชี่ยวชาญด้านต่างๆลดลงมากกว่าเดิม
แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดการต่อสู้ได้อีกเช่นกัน
วีดรวบรวมกองทัพอันเดดของเขาให้มากพอเท่าที่จะเป็นไปได้
“ถ้าเราฆ่าพวกมันได้อีกสามตัว
แล้วลงคำสาปใส่พวกนั้นซะ, เราก็ยังพอมีโอกาสที่จะชนะได้อยู่”
อย่างไรก็ตาม
พวกมันเคลื่อนที่เร็วเกินไป จึงยากแก่การลงคำสาปใส่พวกมัน
เมื่อจำนวนกองทัพอันเดดลดลงอย่างรวดเร็ว เขาจำเป็นต้องล่าถอยอีกครั้ง!
เมื่อถึงคราวต่อสู้ในครั้งที่สี่,
เขาต้องย้อนกลับออกมาอีกครั้ง, เพียงเพราะว่าเขานั้น
สูญเสียกองทัพอันเดด
ถ้าเขาไม่มีกองทัพอันเดดในฐานะเนโครแมนเซอร์
วีด เจ้าเหลือง และ โกลมินิ คงตายไปนานแล้ว
เนโครแมนเซอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา……
บวกกับการสั่งการกองทัพอันเดดได้ด้วยตัวคนเดียว, เนโครแมนเซอร์จึงกลายเป็นสุดยอดนักสู้แห่งการดวลตัวต่อตัว
แน่นอนว่า
พวกเขาใช้เงินซื้อทหารรับจ้างด้วยเช่นกัน แต่เมื่อมองดูที่เลเวลและสกิลเท่านั้น
อาชีพที่ต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมที่สุด คือ เนโครแมนเซอร์
มันจะยิ่งมีความแตกต่างมากยิ่งขึ้นไปอีก
ถ้าหากมีเลเวลและทักษะความเชี่ยวชาญถึงขั้นมาสเตอร์(ระดับปรมาจารย์)
เนโครแมนเซอร์ส่วนใหญ่แล้วจะใช้แต่พวกอันเดดราคาถูก
มีพวกอันเดดระดับสูงที่คุณสามารถสร้างได้เหมือนกันมังกรกระดูกด้วยกรรมวิธีเฉพาะและวิธีพิเศษต่างๆ
ถึงกระนั้น พวกอันเดดก็ไม่ได้แข็งแกร่งไร้เทียมทาน
ซอร์ดมาสเตอร์(Swordmaster)ผู้ที่มีพลังโจมตีและพลังป้องกันที่สูงมาก
สามารถจัดการพวกอันเดดเหล่านั้นได้ และยิ่งพวกเขาสวมใส่อุปกรณ์ดีๆ
พวกเขาจะไม่พลาดท่าตายง่ายๆโดยเด็ดขาด
พวกนักเวทย์ระดับสูงซึ่งทักษะความเชี่ยวชาญนั้นยากต่อการเพิ่มระดับ
ยังขึ้นชื่อว่ามีพลังทำลายล้างที่สุดยอดไม่แพ้กัน
ไม่ว่ายังไงก็ตามแต่
แม้กระทั่งเนโครแมนเซอร์ ที่ได้นับการยกย่องว่าเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ก็ยังไม่สามารถตระเวนไปทั่วลาสฟาลังค์ได้อย่างอิสระ
นอกจากการต่อสู้กับนักรบแห่งความหายนะ
วีดตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่การออกล่ากับกองทัพอันเดด
10 วันต่อมา เขาเลเวลอัพไปแล้ว 5 ครั้ง
- ความทนทานของกระจกแห่งการหลับใหลชั่วนิรันดร์
เหลือ 1
ท้ายที่สุด
ค่าความทนทานของกระจกแห่งการหลับใหลชั่วนิรันดร์ก็มาถึงขีดจำกัดของมัน
ดังนั้นเขาเอามันใส่ในกระเป๋าของเขาก่อนที่มันจะพังซะก่อน
- ผลของกระจกแห่งการหลับใหลชั่วนิรันดร์
หายไปแล้ว
ค่าสถานะของพวกอันเดดกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว
ค่ามานาสูงสุดและอัตราการฟื้นฟูก็ลดลงเช่นเดียวกัน อันเดดบางตนที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยเนโครแมนเซอร์
ยังคงเดินเตร็ดเตร่ เร่ร่อนไปมารอบๆ อย่างไรก็ตาม
ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกทำลายจากการตกลงไปในรอยแยกหรือไม่ก็ถูกพวกมอนสเตอร์จัดการ
เขาไม่สามารถใช้ทักษะการอัญเชิญอันเดดเลเวล
5 ได้อีกแล้ว
แต่เขายังคงสามารถควบคุมพวกแม่มดที่เขาเรียกออกมาก่อนหน้านี้ได้อยู่
“เราคงต้องล่าแทเบธหรือไม่ก็บอลลาร์ดอีกครั้ง”
วีดจมลงสู่ห้วงลึกแห่งความคิด
เนโครแมนเซอร์มีค่าความเป็นผู้นำและค่าดึงดูดเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา
แต่มันก็ยังคงดีกว่าถ้าหากได้เปลี่ยนกลับไปเป็นประติมากรเพื่อเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญอันหลากหลาย
ความอึด และความอดทน
ถ้าเขาสร้างประติมากรรมขึ้นมาอีกอย่างน้อย
10 ชิ้น และให้ชีวิตพวกมัน มันก็คงไม่เลวร้ายนักถ้าหากออกล่าพวกแทเบธ
ถึงแม้ว่ามันไม่ค่อยเหมือนกับสถานการณ์ในตอนนี้สักเท่าไหร่
ในขณะที่วีดกำลังมีปัญหา
มีบางคนเดินเข้ามาใกล้
“เรามั่นใจว่าพวกมอนสเตอร์ไม่มีทางมาที่นี่ได้แน่นอน”
เหนือเส้นขอบฟ้า
ชายลึกลับพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด สวมผ้าคลุมเดินมาด้วยกันกับหญิงสาวผู้เลอโฉม
กำลังเดินตรงมาหาเขา ดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง
ลาสฟาลังค์ ทั้งสองเดินผ่านเหล่าอันเดดที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“มีผู้เล่นคนอื่นมาสำรวจที่นี่ด้วยหรือเนี่ย?
ผู้หญิงคนนั้นสวยเหมือนซอยูนไม่มีผิด”
วีดไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีผู้หญิงอื่นที่หน้าตาสวยเหมือนซอยูนขนาดนี้
ถ้ามีหญิงสาวงดงามแบบนี้อย่างน้อยสัก
5 คน เขาคิดว่าอัตราการฆ่าตัวตายของคนทั้งโลกคงลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“โดยเฉพาะผู้ชาย
เมื่อได้เจอแบบนี้แล้ว คงไม่มีใครคิดอยากที่จะฆ่าตัวตายหรอก”
เมื่อมองดูเธอจากที่ไกลๆ ก็ทำให้พวกเขาร้อนรุ่มไปด้วยความสุขที่อยากจะมีชีวิตต่อและเติมเต็มแรงบันดาลใจเพื่อให้มีชีวิตต่อไป
ผู้กอบกู้ความสิ้นหวัง แม้กระทั่งพวกนีท(พวกที่ไม่ออกจากบ้านไปหางานทำ
หรือพวกขี้เกียจ วันๆไม่ทำอะไร เอาแต่อยู่ในบ้าน)
ที่ไม่กล้าย่างเท้าออกมาจากห้องของพวกเขา คงวิ่งออกมาข้างนอกทันทีที่พวกเขาได้เห็นซอยูนผ่านทางหน้าต่าง
เดธไนท์แวนฮอร์คแสดงความคิดเห็นอยู่ข้างๆ“ชุดสีดำ ความสูงนั้น และใบหน้าซีดเผือด เหมือนกับโทริเลยครับ นายท่าน”
“ช่าย เขาดูเหมือนกันมากเลย”
ในขณะที่วีดมองดูพวกเขาด้วยกันกับกองทัพอันเดด,
ทั้งสองเดินตรงมาที่ๆพวกเขายืนอยู่ มันช่างผ่านไปเนิ่นนานยิ่งนัก
นับจากตั้งแต่ที่เจอกันครั้งสุดท้ายที่การต่อสู้กับมังกรกระดูกและเพราะว่าอุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขานั้นเปลี่ยนไป
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะจำกันได้
แต่ เมื่อใบหน้าของพวกเขาเข้ามาใกล้
จนถึงจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แท้ที่จริงแล้ว พวกเขา คือ ซอยูน และ โทริ
นั่นเอง
***
กองเรือจากอาณาจักรฮาเว่นของดรินเฟลด์ที่กำลังลองเรือมาตามเส้นทางเรือผีสิง
โดยใช้พวกสัตว์ประหลากแห่งท้องทะเลที่เห็นเหตุการณ์ ตอนนี้
เขามาถึงน่านน้ำเดรอนแล้ว
“ช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก
ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับทะเลสักเท่าไหร่
เหตุฉะไนเขาจึงเดินทางมาได้ไกลถึงเพียงนี้ได้ล่ะ?”
ไม่เหมือนกับที่เขาคาดการณ์ไว้
เมื่อได้เห็นการเดินทางอันยาวไกลของวีด
ดรินเฟลด์ปรับทัศนะคติของเขาที่มีต่อวีดซะใหม่
วีดมาถึงแม้กระทั่งดินแดนแห่งออโรร่าและธารน้ำแข็งแห่งน่านน้ำเดรอน
“จุดหมายปลากทางของเควสที่เขากำลังทำนั้น
อยู่ที่ไหนกันแน่?”
กองเรือรบต้องหยุดพักตั้งหลายครั้งเพื่อเติมเสบียงอาหารและพักผ่อน
นอกจากดรินเฟลด์แล้ว
เหล่าผู้เล่นคนอื่นๆจากอาณาจักรฮาเว่นก็ได้เรียนทักษะการตกปลามาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน
คุณสามารถพูดได้ว่ามันคือทักษะจำเป็นของลูกผู้ชายแห่งท้องทะเล
แต่มันก็ยังไม่มีเพียงพอที่จะดูแลคนทั้งกองเรือ
“กัปตันครับ มันหนาวมากเลย!”
เมื่อพวกเขาล่องไปตามบริเวณพื้นที่ที่เป็นธารน้ำแข็ง
บรรดาลูกเรือทั้งหลายที่ไม่ได้มีการเตรียมการล่วงหน้า จึงติดไข้หวัด
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมาไกลดึงน่านน้ำแห่งเดร่อน
ความเสียหายที่มีต่อเหล่าลูกเรือนั้น ช่างมหาศาลยิ่งนัก”
ดรินเฟลด์ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่ามันจะเป็นการเดินทางที่ยาวไกล
ในขณะที่ต้องพากองเรือแห่งอาณาจักรฮาเว่น
ถ้าเกิดความเสียหายต่อเรือหรือลูกเรือของอาณาจักรฮาเว่น
เขาต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้เอาไว้ทั้งหมด เขาต้องการสร้างความดีความชอบอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อคงไว้ซึ่งสิทธิทางอำนาจของเขา, แต่ถ้าหากเขาทำอะไรที่ไม่ระมัดระวัง,
เขาจะถูกว่ากล่าว ว่าเป็นต้นเหตุของทุกอย่าง
รองกัปตันเปิดปากพูดอย่างเป็นกังวล
“พวกเรายังสามารถหันหลังกลับได้อยู่นะครับ
พวกเราควรจะล้มเลิกภารกิจการติดตามวีดและกลับไปเลยดีมั้ยครับ?”
ดรินเฟลด์ส่ายหัว
“ไม่ มันสายเกินไปที่จะหันหลังกลับ พวกเรามาไกลกันขนาดนี้แล้ว
เดินหน้าต่อไป”
กองเรืออาณาจักรฮาเว่นล่องผ่านบริเวณที่เป็นธารน้ำแข็ง
ระหว่างการเดินทาง ลูกเรือจำนวน 273 ได้ล้มหายตายจากไป
โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นสมาชิกลูกเรือที่มีเสื้อผ้าบางๆและมอบหมายให้ทำหน้าชักใบและคอยสังเกตดวงดาว
ถ้าหากเขายังคงไม่เปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือ
เนื่องจากได้ยินเส้นทางที่เรือผีสิงใช้จากพวกสัตว์ประหลากแห่งท้องทะเลแล้วล่ะก็
ความเสียหายที่พวกเขาจะได้รับนั้น ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ
‘มึงไปไหนกันแน่ ไอ้วีด……’
หลากหลายการคาดเดากันไปต่างๆนาๆ
รวมทั้งความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่ผู้เล่นของอาณาจักรฮาเว่นและดรินเฟลด์
“เขาอาจจะหาเกาะสมบัติเจอแล้วก็ได้?
สถานที่ที่เต็มไปด้วยทองและอาวุธชั้นยอด”
“สมบัตินั่นคือความฝันของเหล่าผู้เล่นที่เดินเรือออกทะเล?”
“ฉันว่าเขากำลังมองหาเรืออับปางที่จมลงสู่มหาสมุทร
เรือลำนั้นเต็มไปด้วยอัญมณีที่ซึ่งมีค่ามากกว่าเกาะมหาสมบัติซะอีก”
“นั่นคือวีดที่พวกเรากำลังพูดถึง,
เขาอาจจะกำลังไล่ล่าตามหาตำนานแห่งท้องทะเลเดร่อนก็เป็นได้. บางอย่างที่ไม่อาจประเมินค่าได้ เช่น อาวุธในตำนาน หรือ
มงกุฎฝังด้วยอัญมณี”
“ยังไงก็เหอะ มุ่งหน้าไป!”
ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุด
ยิ่งพวกเขาไล่ตามวีดมากเท่าไหร่
เส้นทางที่พวกเขาต้องเผชิญยิ่งลำบากสาหัสสากันมากขึ้น
และพวกเขายังเชื่ออีกว่าราคาที่คุ้มค่ากำลังรอคอยพวกเขาอยู่
กองเรือรบที่ 2 ประกอบด้วยเรือรบที่มีเป้าหมายเรียบง่าย นั่น คือ
เพื่อผลประโยชน์และกำไรอันสูงสุดของอาณาจักรฮาเว่น
พวกเขามักโจมตีเรือจากอาณาจักรอื่นทันทีเมื่อพบเห็น
พวกเขายังคงไล่ตามวีดอย่างไม่ลดละ
เพียงเพื่อความปรารถนาในอุปกรณ์สวมใส่ของเขาและแม้กระทั่งเควสของเขา
***
พวกพ่อค้าจากทางตอนกลางของทวีป
ที่มุ่งหน้ามายังโมราต้า ต่างมีข้อเรียกร้องมากมาย
“ก่อนหน้านี้ค่าธรรมเนียมการขนส่งยังอยู่แค่
3% เอง ทำไมตอนนี้มันขึ้นเป็น 5%
แล้วล่ะ?”
“เขาขึ้นภาษีอย่างงี้ก็ได้เหรอ
เพราะว่าเขาเป็นลอร์ดอย่างนั้นเหรอ?”
พวกพ่อค้ารวมตัวกันและส่งเรื่องร้องเรียน
แต่พวกเขาก็ไม่อาจได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพวกผู้เล่นในโมราต้า
ภาษีค่าธรรมเนียมการขนส่ง 5% นั้น ถือว่าค่อนข้างถูก
ในทางตอนกลางของทวีปนั้น
ภาษีค่าธรรมเนียมการขนส่งมีตั้งแต่ 15%, 20%, และแม้กระทั่ง 35% สามารถพบเห็นจนเป็นเรื่องปกติ ประกอบกับภาษีค่าธรรมเนียมการขนส่งนั้น
ไม่ได้มีไว้สำหรับพ่อค้าในโมราต้า แต่เฉพาะพ่อค้าที่มาจากต่างถิ่น
ต้องจ่ายเท่านั้น
มันเป็นอะไรที่เหล่าพ่อค้าในโมราต้าต่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากสนับสนุนคนพวกนั้นสักเท่าไหร่
“ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงขึ้นภาษีแบบนี้”
“มันมีขีดจำกัดเหมือนกันนะ ที่บังอาจมาดูถูกพวกเราแบบนี้
ลอร์ดแห่งโมราต้าไม่รู้หรือว่าใครอยู่เบื้องหลังพวกเรา? สมาคมพ่อค้าเลยนะเว้ย!”
เหล่าพ่อค้ามารวมตัวกันและทำให้เกิดความโกลาหล
จากนั้น ก็มีบางคนร้องตะโกนออกมา
“พวกเราไม่ควรมาพูดคุยอยู่แบบนี้ ไปที่ปราสาทเจ้าเมืองโมราต้ากันเถอะ”
“ไปหาเขากัน
และพูดคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย!”
เหล่าพ่อค้ามารวมกลุ่มกันที่ปราสาทของเจ้าเมือง
แน่นอน พวกเขาทำอย่างนี้ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่า ลอร์ดโมราต้า วีด นั้นไม่อยู่
พวกเขาร้องเรียนต่อผู้เฝ้าประตู
“ขึ้นภาษีอย่างงี้ได้ยังไงกัน
นายทำแบบนี้ได้ยังไง?!”
“พวกเราต้องการพบกับผู้ที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้”
ชื่อเสียงและอำนาจของเหล่าพ่อค้าจากทางตอนกลางของทวีปนั้น
อุกอาจ อุกฉกรรจ์ เป็นพวกหัวรุนแรง ผู้เฝ้าประตูพาพวกเขาไปด้วยความสุภาพ
พาไปยังกระทรวงพาณิชย์ภายในปราสาทของเจ้าเมือง
“ที่นี่คือกระทรวงพาณิชย์
สถานที่ที่ดูแลเหล่าพ่อค้าที่อยู่ในโมราต้า”
พวกพ่อค้าทุบประตูเข้าไป
แต่บนพื้นปกคลุมไปด้วยกองฟางและบรรดาวัวตัวเมียที่กำลังเลี้ยงดูลูกๆของพวกมัน
“ใครมันตกแต่งกระทรวงพาณิชย์แบบนี้วะเนี่ย?!
คนที่รับผิดชอบที่นี่อยู่ที่ไหน?!”
ถัดจากถาดอาหารในกระทรวงพาณิชย์
มีป้ายชื่ออยู่ตรงนั้น ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์โมราต้า เจ้าเหลือง
ตอนนี้เจ้าเหลืองไม่อยู่เช่นเดียวกัน
“พวกเราจะมัวยืนเฉยอยู่อย่างนี้ไม่ได้
พวกเรามาเพื่อร้องเรียนผู้ที่รับผิดชอบภาษีค่าธรรรมเนียมการขนส่งไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ นั่นน่าจะเป็นคนที่เราพูดถึง”
พวกพ่อค้าออกมาอีกครั้งและมองหากระทรวงการคลัง
แต่โกลมินิก็ไม่อยู่เหมือนกัน
และพวกไวเวิร์นที่นั่งตำแหน่งรองหัวหน้าภาษีลำดับที่
1!
เหล่าไวเวิร์นนั่งอยู่บนยอดหอคอยและบางครั้งก็มาแวะเวียนเยี่ยมเยือนโมราต้าบ้าง
เป็นครั้งคราว เพราะเป็นเช่นนี้เอง จึงเป็นการยากที่จะได้พบเจอพวกไวเวิร์น
บรรดาพ่อค้าทั้งหลายพยายามใช้ชื่อเสียงของพวกเขาและทักษะการสนทนาเพื่อโน้มน้าว
แต่ทว่าไม่มีใครอยู่ให้โน้มน้าวเลยสักคน
แน่นอน มันคงจะเป็นเรื่องแปลก
ถ้าได้เห็นพวกไวเวิร์นมีความอดทนพอที่จะรับฟังและคุยกับพวกมนุษย์
“เมื่อมาคิดดูแล้ว
การที่ทุกคนที่รับผิดชอบที่นี่ ต่างพากันหายหัว ไม่อยู่… แล้วพวกผู้บริหารคนอื่นๆของโมราต้าล่ะ?
พวกเราสามารถทำให้พวกนั้นสั่นคลอนได้ถึงการบริหารรัฐบาลในโมร้าตา”
“ข้าเห็นด้วย”
ตัวแทนกลุ่มพ่อค้าออกมาจากกระทรวงการคลังและไปที่กระทรวงกลาโหม
เนื่องจากการซ่อมแซมและพัฒนาปราสาทของเจ้าเมือง
กระทรวงใหม่ๆจึงถูกก่อตั้งขึ้น และมีผู้บริหารในแต่ละตำแหน่งด้วย
ผู้บริหารกระทรวงกลาโหม-
ปิงหลง, ฟินิกซ์ - รับหน้าที่การออกล่า
วีดให้ตำแหน่งนี้แก่บรรดาประติมากรรมสลักชีพทั้งหลาย
เพื่อจะได้สุดยอดอำนาจแห่งเผด็จการแต่เพียงผู้เดียว
เพราะว่านั่น
มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าพ่อค้าจะสามารถทำการล็อบบี้เพื่อโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล
นี่คืออำนาจเผด็จการที่แท้จริง!
ต่อมาเมื่อมีบรรดาอัศวินหรือพ่อค้าที่สะสมและสร้างสาธารณะประโยชน์จนสามารถเลื่อนตำแหน่งได้สูงขึ้น
ก็ยังมิอาจรอดพ้นจากการปกครองด้วยพลังอำนาจสูงสุดของ ‘ท่านลอร์ดวีด’
ผู้นี้นี่เอง!
ผู้แปล:
garnotics
ผู้แปล:
แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
สมาคมพ่อค้า เตรียมตัว ฉิบหายได้เลย หากยังไม่คำนึง คิดแต่จะเอาอำนาจเข้าข่มเหงผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว คิดจะ เข้ามารีดไถ กดขี่ข่มเหง ตัดราคาพ่อค้าในท้องถิ่น มึงอยู่ที่อื่นได้ แต่ที่นี่ มึงอยู่ยากแน่นอน เตรียมโดนรวบหัวรวบหาง ใส่หม้อถ่วงน้ำได้เลย พวกพ่อค้าเลวๆ
ตอบลบลั่นเลยครับ เจอรัฐบาลวีด
ตอบลบยังไม่เจอเมเพน รายนั้นศิษย์เอกเชียวนะ
ตอบลบผมว่าเดี๋ยวพวกที่ล่องเรือไปหาวีดคงโดนหลอกให้ช่วยล่ามอนแน่
ตอบลบพวกพ่อค้ามึงหน้าเลือดได้แค่เด็กอนุบาล เด่วมึงเจอท่านลอร์ดแล้วมุงจะรู้ ว่าที่มึงขูดเลือดขูดเนื้อมันแค่จิ๊บๆ อย่างวีดต้องขูดหนังเราะกระดูกสูบวิญญาน
ตอบลบขอบคุณมากนะครับ
ตอบลบเดียวเจอ ม.44 แน่ๆรอนายกวีดก่อนเถอะ ตอนนี้ไปแกรน รายส์ อยู่
ตอบลบวีดน่าจะได้อันเดด จากกองเรือเพิ่มน่ะ
ตอบลบโคตรฮารัฐบาลวีด ไอพวกที่ตามล่ากว่าจะมาถึงไม่รู้จะเหลือสักกี่คน เผลอๆมาแล้วโดนใช้ประโยชน์ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมแหงๆ
ตอบลบกระทรวงวัฒนธรรม ใครคือเจ้ากระทรวง
ตอบลบ5% บ่นกันเข้าไป ไม่รู้ซะแล้ว แดนเหนือมันโดนครอบงำโดนท่านวีดแล้ว คิดจะเปิดตลาดที่นี้แต่ไม่ศึกษาเจ้าของที่ เดี๋ยวโดนกดหัวแน่ พ่อค้าตอนกลางทวีป เจอแค่เมแพนก่อนนั่นคือตัวแทนแห่งการขูดรีบของท่านวีด
ขอบคุณครับ เหอะๆ 6% ทำบ่น
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเจ้าที่แรงครับ
ขอบคุณนะ
ตอบลบขำมาก ทุกตำแหน่ง ของรัฐบาลวีด อย่ามาแหยมจ้าา
ตอบลบ