เล่ม 18 ตอนที่ 2 การผจญภัยของชายหนุ่ม แปลโดย Dinako
อันฮุนโดกล่าว
"ใครอยากจะไปกับศิษย์น้องบ้าง?"
อันฮุนโด
กำลังพยายามจะหาใครสักคนเดินทางไปด้วย
เมื่อเขายังเป็นหนุ่ม
เขาได้เดินทางระหกระเหินไปในหลายๆประเทศ
เค้าใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ
บรรยากาศในการพบปะสังสรรค์ค่อนข้างดีเพราะว่าเค้ากำลังจะไปพบปะกับสาวในรอยัลโรด
เหล่าผู้ฝึกสอนต่างก็รู้
แต่พวกเขาก็เงียบไม่พูดอะไร
ในหลักสูตรการเรียนวิชาดาบ
พวกเขาได้เดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลก
มันดูจะเสียเปรียบที่จะพูดเป็นคนแรก
ทุกคนจึงพากันอยู่ในความเงียบ
พวกเขาต่างยังคงอยู่ในท่านั่งอกผายไหล่ผึ่ง
พวกเขาได้แต่เหลือบมองกันและกัน
ราวกับพวกเขากำลังจะขอร้องกันอยู่
อันฮุนโดมองเข้าไปในตาของเหล่าปรมาจารย์ผู้ฝึกสอน
ชองอิลฮุนดูภายนอกเหมือนจะเป็นคนขึงขัง
แต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นคนใจกว้างและเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
เค้าเป็นคนที่มีความสามารถมาก
และน่าจะเป็นศิษย์เอกที่น่าจะได้เป็นเจ้าสำนักในอนาคต
'ถ้าเขาจากไปแล้วหละก็
คงจะเป็นงานหนักสำหรับที่นี่แน่ๆ'
อันฮุนโดคิดว่ามันคงจะเป็นการดี
ที่ได้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้สั่งสอน เขาไม่อยากจะให้พวกเค้าออกไป
แล้วเสียเวลาอันล้ำค่าไปกับการทำงานในสำนัก
เค้าอยากจะไปเจอหญิงสาวที่เขาได้เจอในรอยัลโรดเมื่อเร็วๆนี้
และไปเที่ยวทะเลอีกสักครั้ง
'มันก็ไม่ควรจะเป็นเขาอีกนั่นแหละ'
เค้าได้สั่งการให้กับปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนลำดับที่สี่ไป
รอยลี
เป็นปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุด และมีความโดดเด่นในการบรรลุหนทางแห่งดาบหลายแขนง
เหมือนที่คาดหวังในโลกเสมือนจริงในรอยัลโรด
มันมีสิ่งหนึ่งที่เขาคาดว่าจะใช้ประเมินการพัฒนาของเขา
ความมุ่งมั่นในการต่อสู้
ความรู้สึกถึงความอ่อนแอในตัวเขา หรือการเรียนรู้ในวิถีแห่งดาบ
พวกเขามีชีวิตชีวาด้วยดาบ
และโลกในรอยัลโรดช่างน่าเกรงขาม
โลกแห่งเวทมนตร์
ช่วงเวลาเส้นทางแห่งความเมตตากรุณาอาจนำไปสู่การถูกโจมตีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตั้งตัวจากฝูงของ
Monster ในยามค่ำคืน
พวกเขาอาจได้พบปะกับเหล่าผู้ท้าทายจำนวนมากในรอยัลโรด
และฟื้นฟูร่างกายในเวลาอันสั้นหลังจากประสบความล้มเหลว มันเป็นสถานที่ฟเขาสามารถฝึกฝนปณิธานของพวกเขาผ่านการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ
'ซังบอม
มีเรื่องมากมายที่ต้องทำ'
มาซังบอมได้ใช้เวลาส่วนมากในการฝึกเหล่าผู้ฝึกฝน
ดังนั้นถ้าให้เค้าไปอาจจะทำให้สำนักเกิดความขัดข้องได้
"จองบอมอา"
"ครับ อาจารย์!"
"ครั้งนี้เจ้าจะต้องพาศิษย์น้องไปด้วย"
"โอเค"
นั่นคือข้อสรุปของสำนัก
หน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้แก่หนึ่งในนักดาบ
***
"ได้รับตั๋วเครื่องบินมาแล้ว
ที่เหลือก็คงจะเหลือแต่การหาที่ทาง มันน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเดินทางนี้"
"ฉันจะเริ่มเมื่อไหร่ดี?"
"พรุ่งนี้"
"ฉันจะกล่าวอย่างไรกับศิษย์น้อง?"
"ไม่มีความจำเป็นต้องบอกความจริงกับเขา
ก็แค่พูดอะไรสักนิดหน่อยแล้วบอกเขาว่าจะไปเกาะเจจู"
"ได้
ฉันจะไป!"
ภาควิชาโลกเสมือนจริงโด่งดังสำหรับเหล่าผู้ท้าทาย
ว่าพวกเขาจะออกไปทุกปีระหว่างการเดินทาง เค้าไม่ได้ตระหนักถึงความจริงในข้อนี้
ลีฮุนได้แต่ยุ่งอยู่กับการสอบปลายภาคในวิชาหลักของเค้า
ลีฮุนแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
'นี่มันเป็นครั้งที่สามแล้ว
นี่มันคือปัญหา หัวข้อของวิทยานิพนธ์ในรอยัลโรดถูกเขียนโดยศาสตราจารย์'
ศาสตราจารย์หลายท่านจากมหาวิทยาลัยเกาหลี
ได้ตีพิมพ์เอกสารมากมายเกี่ยวกับบริษัทยูนิคอร์น
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาไม่ใช่ชื่อเรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องราวที่ตีพิมพ์
ผู้คนที่สามารถจดจำสิ่งเหล่านั้นจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย
เขาไม่ได้ใช้เวลามากมายในการตอบคำถาม
คำตอบของเค้าสั้นมากและอธิบายอย่างตรงไปตรงมาเท่าที่จำเป็น
ลีฮุนพูดกับตัวเอง
'เราไม่ค่อยได้ทำงานที่ได้รับมอบหมาย
แต่เรามีความสนใจดี มันคงจะไม่เลวร้ายมากเท่าไหร่ เพราะเราเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าศาสดราจารย์ในช่วงออกค่าย
ดังนั้นเราไม่น่าจะต้องติด F ในชั้นเรียนนี้!'
น่าพึงพอใจมากพอที่จะไม่ได้รับใบตักเตือนทางการเรียน
แผนการคือต่อให้เกรดแย่แค่ไหน
ขอเพียงแค่ไม่ติด 'F' เค้าจะไม่ลงเรียนซ้ำอย่างเด็ดขาด
'ชั้นเพียงแค่ต้องเรียนให้จบ'
จุดมุ่งหมายนี้ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเหน็ดเหนื่อย!
ลีฮุนแก้ปัญหาของแบบทดสอบพอดีกับเวลาที่กำหนด
นี่มันเป็นการสอบหลักครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้นก็จะเป็นการทัศนศึกษา
สำหรับนักศึกษา
การทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนจะกินเวลามากกว่าสองเดือน
'ในช่วงเวลานั้น เราต้องทำสิ่งสิ่งเดียวเท่านั้น!'
เขาจะเล่นรอยัลโรดอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มเลเวล
ลีฮุนเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนใส่ในกระเป๋าราคาถูกของเขา
หลังจากนั้นประตูห้องเรียนก็เปิดออก
และศาสตราจารย์ จูจองฮุน เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยของเขา
ผู้ช่วยได้ขนอุปกรณ์มามากมาย
ซึ่งส่วนใหญ่คือ กล้องดิจิตอลวิดีโอ , มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับถ่ายฉากเพื่อบันทึกภาพยนตร์!
ด้วยการพัฒนาเครื่องมือดิจิตอลนี้
เมมโมรี่สามารถบันทึกหนังสั้นขนาดความยาว 10 วัน
ศาสตราจารย์ จูจองฮุน
เดินเข้าไปที่แท่นอัฒจันทร์พร้อมกับกล่าวว่า
"มันถึงเวลาสำหรับ
การบ้านทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนแล้ว"
เหล่านักศึกษาทำมาดอวดภูมิ
เนื่องจากพวกเขาแต่ละคนต่างก็ตั้งตารอการทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนหลังจากจบการสอบใหญ่
"โอ่, มีเรื่องอะไรเหรอ...."
"อีกการทดสอบหรอ? รึจะมีการทดสอบเพื่อหาสูตรทางคณิตศาสตร์อันซับซ้อน
หรือจะเป็นการปลดปล่อยสิ่งของด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้หลักการทางฟิสิกส์?"
นักศึกษาในห้องหลายคนต่างก็เปล่งสิ่งที่พวกเขาครุ่นคิดออกมา
ลีฮุนเริ่มรู้สึกกังวล
'การทดสอบที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นแล้ว'
เค้าไม่ได้ทำงานที่ได้รับมอบหมายในชั้นเรียนสักชิ้นเลย
อย่างไรก็ดี งานนี้ดูจะต่างจากงานอื่นๆ
ศาสตราจารย์จูจองฮุน
เริ่มอธิบายถึงวิธีการใช้กล่องดิจิตอลวิดีโอ
"พวกคุณต่างก็รู้กันดีว่าในการที่จะสร้างภาพเสมือนจริงที่ดูดีนั้น
คุณจะต้องรู้ว่ามันเป็นยังไงตอนที่อยู่ในชีวิตจริง ใช่มั้ย? การทดสอบในปีนี้คือ
ให้ใช้เครื่องบันทึกภาพหรือบันทึกชีวิตของคุณในช่วงวันหยุด คุณอาจจะไปว่ายน้ำ
ไปทำงานพิเศษ ท่องเที่ยว ทำอะไรก็ได้ ขอแค่ให้มั่นใจว่า
พวกคุณได้บันทึกโดยใช้กล้องดิจิตอลวิดีโอนี้ระหว่างการเดินทางของพวกคุณ"
"..."
ห้องเรียนเงียบสนิท
ลีฮุนถูกมองหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง
'คุณไม่สนใจเลยหรอ?'
นักศึกษาเริ่มที่จะสงสัยว่าใครกันนะที่ถูกศาสตราจารย์
จูจองฮุน เพ่งเล็ง
"เพื่อที่จะให้คุณรู้จักกันดีมากขึ้น
ทางภาควิชาได้ตัดสินใจว่าต้องการบททดสอบทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนในครั้งนี้
การลงทะเบียนเรียนในวิชาสำคัญจะถูกยกเลิก ถ้าคุณทำมันไม่สำเร็จ"
เพื่อที่จะเรียนจบได้อย่างราบรื่น
ต้องทำบททดสอบนี้ให้สำเร็จ!
มันเป็นบททดสอบที่ยากมากๆ
นอกจากการที่จะไปที่สำนักเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ลีฮุนก็ไม่ได้คิดจะทำอย่างอื่นเลยนอกเสียจากการจะเข้าไปเล่นรอยัลโรด
เหล่านักศึกษารอบตัวเขาเริ่มที่จะพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
"ครอบครัวของฉันตั้งใจจะไปภูเก็ต...
งั้น ฉันจะไปถ่ายทำที่นั่น"
"พวกเราวางแผนจะไปพักผ่อนที่รีสอร์ททะเลใต้"
"ฉันวางแผนจะไปเรียนการเป็นนายแบบ
งั้นฉันจะไปถ่ายทำตรงนั้นแล้วกัน"
นักศึกษาแต่ละคนต่างก็ได้วางแผนว่าพวกเค้าจะใช้ช่วงเวลาอย่างไรในการทำบททดสอบภาคฤดูร้อน
ในฐานะที่เป็นนักเรียนปีหนึ่งที่อายุ 20 เค้าไม่คิดที่จะไปท่องเที่ยวภาคฤดูร้อนครั้งแรกแบบจนๆ
สุดท้ายมันก็ถึงช่วงเวลาท่องเที่ยวที่รอคอยอันแสนยาวนาน!
***
วีด
รู้สึกเหมือนลูกไก่ที่กำลังจะถูกนำไปทอด
"การพักผ่อนที่ฉันรอคอยสุดท้ายก็มาถึง"
เค้าไม่ได้ต้องการการท่องเที่ยวที่เลิศหรู
เค้าอยากจะใช้เวลาในทวีปเวอร์เซลล์
เพื่อเพิ่มเลเวลและทักษะความสามารถต่างๆขณะออกสำรวจ
"เรากำลังที่จะได้ซ่อมแซมส่วนที่เหลือของตราประทับ..."
เพื่อที่จะซ่อมแซมตราประทับแห่งราชวงศ์อารูเพ่น
เค้าจะต้องเพิ่มทักษะความสามารถของเขา
เค้าต้องสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ แล้วลองทำลายมัน เพื่อที่เขาจะได้ซ่อมมัน
มันเป็นทักษะที่เรียนรู้ได้ยากมาก
เนื่องจากมันต้องอาศัยความทรงจำที่แม่นยำและฝีมือ!
วีด ต้องอุทิศเวลาของเขาในการสร้างผลงานชั้นดีหลายชิ้น
"เราต้องค่อยๆทำลายมันทีละน้อย
แล้วค่อยๆซ่อมมันทีละเล็กทีละน้อย"
ทักษะฟื้นฟูประติมากรรมถูกจัดว่าเป็นทักษะย่อย
แม้ว่ามันจะยุ่งยาก เลเวลของทักษะนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
วีดตั้งใจจะเพิ่มเลเวลให้ถึงระดับกลาง
"ถึงตอนนั้น
ชั้นจะสามารถซ่อมแซมตราประทับอารูเพ่น แต่..."
วีดรู้สึกใจหวิวๆ
และไม่สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับงานของเขาเพื่อที่จะซ่อมแซมประติมากรรม
เพราะว่าว่ามีเควสจากวิหารเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ที่สูญหาย
มันมีโอกาสเล็กน้อยที่ผู้อื่นจะเข้าไปยุ่งด้วย เขาพยายามที่จะซ่อมแซมมัน แต่ก็ไม่สำเร็จ
"เมื่อวานนี้, ในเมือง, ตอนที่เราอยู่ในรถบัสมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังขูดล็อตเตอรี่? ต้องไม่ใช่แน่
ต้องเป็นผู้ชายในห้องน้ำที่เสื้อคลุมมีสัญลักษณ์เป็นรูปไฟ..."
หลังจากนั้นเขาก็มีไอเดียดีๆเกิดขึ้นทันที
"มาคิดดูแล้ว
มันเกือบจะถึงเวลาที่การป้องกันจากวิหารเฟรยาจะสิ้นสุดแล้วใช่มั้ยนะ?"
ด้วยความที่มันดูเหมือนผ่านไปซัก
2-3 ปีแล้ว
รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปยาวนานเหลือเกิน
แต่ในความเป็นจริงเวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่สี่เดือน
"เราต้องลองดูสักหน่อย...
สถานะทางการทหาร"
วีดเปิดหน้าต่างข้อมูล
กองกำลังทางทหารแห่งอาณาจักรโมราต้า
อัศวินฝึกหัด :
10
|
เลเวลเฉลี่ย : 219
|
ทหาร : 1187
|
เลเวลเฉลี่ย : 45
|
ความจงรักภักดี
: 98%
|
ฝึกฝน : 79%
|
|
เลเวลของอัศวินอยู่ในระดับต่ำมาก
การมีวินัยที่เคร่งครัดจำเป็นเพื่อที่จะทำให้อัศวินไม่หนีหาย ทหารโมราต้ามีความจงรักภักดีสูง
แต่มีข้อยกเว้นสำหรับทหารบางคน
เลเวลของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำและพวกเขาจำเป็นต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากตำรวจและเหล่ายาม
ไม่มีอาวุธสำหรับการปิดล้อม
กำแพงเมืองอยู่ในสภาวะที่ดีเยี่ยม
ระยะเวลาที่จะได้รับการป้องกันจากวิหารเฟรย่าจะสิ้นสุดลง
ในอีกห้าวัน
|
ในเวลาอีกเพียงห้าวันการป้องกันจากวิหารเฟรย่าจะสิ้นสุด
จากค่าอุทิศตนแก่สาธารณะของเขา วีดสามารถเข้าพบอัลเวรอนได้
"ข้าต้องการเข้าพบผู้สืบทอดตำแหน่งสันตะปาปา"
ถึงเวลาที่จะต้องกล่าวด้วยความเคารพ
เค้ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับอัลเวรอนจากเควสที่เขาทำสำเร็จ สำหรับเขาแล้ว อัลเวรอนเหมือนกับเพื่อนคนหนึ่ง
แต่เป็นเพราะว่าค่าอุทิศตนแก่สาธารณะทำให้เขาสามารถพบกับอัลเวรอนได้
"มาคิดว่าท่านวีดตามหานักบวชเช่นตัวข้า
ท่านมีอะไรต้องการให้ข้าช่วยอย่างนั้นเหรอ?"
"นี่คือโมราต้าใช่ไหม? สถานที่ที่อัลเวรอนและข้าได้ช่วยเหลือเหล่าผู้คนจากการพิชิตแวมไพร์ใช่มั้ย?"
มันเป็นเรื่องที่ดี
ภายใต้ข้ออ้างในความเจ็บปวดจากเควสท์ที่เขาได้ทำร่วมกัน
ค่าความสนิทสนมของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น
"เทพีแห่งเฟรย่าได้ทิ้งรอยประทับที่มองไม่เห็นไว้ในอาณาจักรโมราต้า
ดวงประทีปแห่งความหวังนั้นได้นำพาแผ่นดินมาซึ่งความมั่งคั่งและความสงบสุข ใช่ไหม? สำหรับโมราต้า
เทพีแห่งเฟรย่าถือเป็นเทพแห่งความหวัง"
"ท่านวีด ข้ารู้สึกดีใจที่ท่านคิดเช่นนั้น"
"มันค่อนข้างลำบากสักหน่อยที่ข้าจะพูดให้ชัดเจน
ถ้างั้นข้าจะพูดตรงๆเลยละกัน ช่วยเพิ่มระยะเวลาในการปกป้องโมราต้าของวิหารเฟรย่า"
วีดอยากจะพูดมากกว่านี้อีกสักหน่อย
แต่อัลเวรอนพูดขึ้นมาก่อนที่เค้าจะได้พูด
"อย่างไรก็ตามนี่มันไม่ใช่ทางตอนใต้ใช่ไหม? และกระทั่งว่าที่พระสันตะปาปาอย่างอัลเวรอน
ระยะทางจากโมราต้านั้นช่างมาก..."
มันสุดความสามารถที่เค้าจะลองพยายามอีกรอบ
"เราได้ต่อสู้และหลั่งเลือดด้วยกันใช่ไหม?"
ความเกี่ยวดองญาติมิตร
"วิหารเฟรย่าได้สั่งสอนหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิต"
การสอน
สาธารณรัฐเกาหลีมีสายใยที่แยกกันได้ยากของสิ่งเหล่านั้น
ดังนั้นวีดใช้กานสอนเป็นข้อแก้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความที่อัลเวลอนนั้นซื่อสัตย์มากจะไม่ยอมรับสินบนแน่นอน
"ข้าขอโทษ, เทพธิดาเฟรย่าต้องการมากกว่าที่จะแค่ช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามมีผู้คนที่ทุกข์ยากอีกหลายแห่งที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่านี้
ดังนั้นเราเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์และเราเหล่านักบวชจะต้องออกในวันเวลาที่กำหนด"
พวกเขากินอยู่กันฉันเพื่อน
แต่มันเหมือนกับเค้าขอซื้อข้าวจากอีกฝ่ายโดยไม่จ่ายเงินเลยสักบาทและเขาถูกปฏิเสธ
เป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
"เพื่อที่จะได้รับการปกป้องโมราต้าโดยเฟรย่า
ให้นานขึ้นนั้น มันขึ้นอยู่กับความสำเร็จที่คุณได้ทำให้กับทางวิหาร"
ตามเลเวลของค่าอุทิศตนแก่สาธารณะ
เขาสามารถได้รับเครื่องมือและสมบัติหายาก วีดรู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง แต่มันเป็นที่พึ่งเดียวสุดท้ายของเขา
โมราต้ามีการพัฒนาที่เจริญก้าวหน้าแต่มีกำลังทหารที่อ่อนแอมาก
มันไม่มีกองกำลังทหารและอัศวินที่เพียงพอจะไปรบในสงครามจริง อัลเวรอน ทำสัญลักษณ์ของกางเขนและน้อมตัวคำนับ
"มันคงจะไม่มีปัญหามากสำหรับท่านวีด
เนื่องจากท่านอุทิศตัวอย่างมากต่อวิหารเฟรย่า แต่มันคงจะเป็นเรื่องยากแม้ว่าจะให้ข้าเข้าไปถามก็เถอะ.
ท่านคิดว่าท่านต้องการการปกป้องจากวิหารเฟรย่านานขึ้นอีกเท่าใด?"
ตึ๊ง!
ค่าอุทิศตนแก่สาธารณะต่อวิหารเฟรย่า
: 13,290
|
สำหรับการอารักขาจากวิหารเฟรย่า, ต้องใช้ค่าสาธารณะ
110 ต่อวัน
|
เขาจำเป็นต้องใช้ค่าสาธารณะจำนวนมหาศาลเพื่อให้ทางวิหารเฟรย่าส่งบาทหลวงและพาราดินจำนวนมากมายังโมราต้า
วีดน้ำตาคลอเบ้า
เค้าวางแผนที่จะใช้ค่าทางสาธารณะเพื่อไปซื้ออาวุธและเกราะป้องกันระดับสูงจากทางวิหาร
"อัลเวรอน ข้าต้องการให้ทางวิหารเฟรยาอยู่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้...
เพื่อปกป้องข้า"
เค้าจำเป็นต้องซื้อมัน!
"ท่านต้องการให้ทางวิหารเฟรย่าปกป้องอาณาจักรโมราต้าโดยใช้ค่าทางสาธารณะรึ?"
"อื่อ ใช่"
"นักบวชจากทางวิหารจะอยู่เพิ่มอีก
120 วันแต่ด้วยความที่ท่านวีดได้มาขอกับข้าโดยตรง
ข้าจะขอพวกเขาเพิ่มให้อีก 30 วัน"
อัลเวรอน
ให้โบนัสแก่เขาด้วยความสุภาพอ่อนโยนอีก 30 วัน!
วีดกอดเขาทีหนึ่ง
"น้องชาย!"
วิหารเฟรยาทำให้กองกำลังอื่นๆต้องถอยร่นออกไป
แต่เวลาใกล้จะมาถึงแล้ว
***
เช้าวันต่อมาลีฮุนเริ่มที่จะเตรียมข้าวของและวางกล้องวิดีโอ
ในกระเป๋าของเขา
"เกาะเจจู....
เกาะในฝัน รีสอร์ทที่ดีที่สุด! ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าฉันกำลังจะได้ไปเกาะเจจู"
อันฮุนโดได้โทรหาเขา
พวกเขาได้เปิดสำนักแห่งใหม่บนเกาะเจจู และท่านเจ้าสำนักต้องการให้เขาไปดูมัน
นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับลีฮุน
"เรากำลังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรจะบันทึกระหว่างการเดินทาง
แต่พอคิดว่ามันเป็นเกาะเจจู"
เกาะเจจู แม้เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับคนอื่น
มันไม่ดูด้อยกว่าเลยสักนิด
มันมีสภาพแวดล้อมที่ดูเป็นธรรมชาติ
มีภูเขาฮัลลาสีฟ้าใส มีเหล่าฝูงม้า และทะเลที่เขาสามารถที่จะบันทึกได้
"นี่มันเป็นความสำเร็จ
ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถไปที่เกาะเจจูได้ เราเอาพาสปอร์ตไปด้วยดีกว่า"
ลีฮุนวางพาสปอร์ตลงในกระเป๋าของเขา
อันฮุนโดกล่าวว่าเขาจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อที่จะขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน
เขาได้รับจดหมายรับรองและรูปภาพต่างๆเพื่อที่เค้าจะสามารถไปสำนักในต่างประเทศได้
โดยปกติแล้วคนมักจะรู้สึกกังวลเมื่อเขานึกถึงเรื่องนี้แต่เขาไม่มีความจำเป็นต้องกังวลในเรื่องเหล่านี้เลยสักเล็กน้อย
ตั๋วเครื่องบิน
สัมภาระ และอาหารทุกอย่างต่างก็ฟรี
"พี่คะ
ดูแลตัวเองด้วย"
"ได้ พี่จะไม่ลืมที่จะหาของฝาก"
น้องสาวของเขาเดินทางมาพบลีฮุนที่กำลังจะออกเดินทางที่สนามบินอินชอน
พนักงานภาคพื้นดินต่างก็ยุ่งอยู่กับการบอกชาวต่างชาติว่าสัมภาระของพวกเขาอยู่ตรงไหน
"มันเป็นแบบนี้เอง..."
นี่มันเป็นโลกใบใหม่สำหรับลีฮุน
เขามาก่อนเวลาที่เขานัดพบกับจองบอมอา
30 นาที
"อ่อ นายอยู่นี่นี่เอง"
"ใช่แล้วครับศิษย์พี่
ผมมาก่อนเวลา"
"นายมีพาสปอร์ตไหม"
"พาสปอร์ต?"
ลีฮุนรู้สึกงุนงง
เขาไม่เข้าใจ
เนื่องจากมันจำเป็นก็ต่อเมื่อคนๆนั้นต้องการเดินทางออกจากเกาหลี
"คุณต้องใช้พาสปอร์ตในการเดินทางไปเกาะเจจูเหรอ?"
จองบอมอารีบตอบคำถามของเขา
"ก็พวกเราต้องขึ้นเครื่องบิน"
ลีฮุนมีความรู้คร่าวๆว่ามันเป็นยังไงในการขึ้นเครื่องบิน
ผู้คนต่างจะรู้ได้ว่ามันเป็นอย่างไรถ้าเขาได้ดูหนังหรือภาพยนตร์
"ผมเข้าใจละ
มันต่างจากการเดินทางสาธารณะอย่างรถบัส และที่ผมไม่สามารถขึ้นไปได้"
"นี่มันเครื่องบินนะ"
ลีฮุนและจองบอมอา
ไม่ได้มีสัมภาระอะไรมากมายมีเพียงแค่กระเป๋าใบเล็กๆ ลีฮุน
ตรวจสอบตั๋วของเค้าซึ่งทั้งของเขาทั้งคู่กล่าวว่า ไคโร, อียิปต์
"ศิษย์พี่!"
"อะไรรึ"
"เครื่องบินจะเดินทางไปไคโร?"
ลีฮุนเคยได้ยินคราวๆเกี่ยวกับเมืองอียิปต์อยู่บ้าง
"เครื่องบินนี้ไม่ได้กำลังจะไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหรอ?"
"..."
หน้าตาของผู้โดยสารอื่นๆต่างก็ดูไม่น่าใช่คนในบ้านเมืองนี้
'เค้าไม่รู้ได้ยังไง?'
'หรือเค้าไม่รู้แม้กระทั่งอียิปต์อยู่ตรงไหน?'
"เท่าที่นายรู้คือพวกเรากำลังจะไปเกาะเจจู"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
"เครื่องบินที่บินตรงไปยังเกาะเจจูราคาแพง"
"งั้นคุณกำลังจะบอกผมว่า...
มันเหมือนกับการขึ้นรถบัสแล้วจอดระหว่างทาง"
เรื่องนี้ฟังดูแล้วบ้าบอคอแตกมากสำหรับผู้คนที่อยู่หน้าบอร์ดดิ้งเกต
ที่จะบอกว่าเกาะเจจูเป็นจุดหยุดระหว่างทางที่จะไปอียิปต์!
อย่างไรก็ตาม จองบอมอาดูหน้าตาอันธพาลและมีสายตาที่น่ากลัวจึงไม่มีใครกล้าหาญพอที่จะบอกความจริงกับเขา
ลีฮุนจึงเดินเข้าไปในเครื่อง พร้อมออกบิน
หลังจากที่เครื่องขึ้น
พนักงานบนเครื่องบินเริ่มที่จะเดินไปรอบๆเพื่อบริการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม
พวกเขาเดินผ่านบริเวณที่ลีฮุนและจองบอมอาไปเฉยๆ
ทันทีที่พวกเขาขึ้นเครื่องเสร็จพวกเขาก็หลับสนิทในทันที เขาทั้งสองเดินทางผ่านทะเล
ของเอเชียกลางที่ซึ่งเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังไคโร
***
สนามบินไคโร
ฤดูร้อนนั้นมีอากาศที่ร้อนในเกาหลี
แต่เทียบไม่ได้เลยกับอียิปต์
อากาศที่ร้อนและแสงแดดที่แรงทำให้เหงื่อออกบนใบหน้าของพวกเขา
ไม่มีร่องรอยเลยว่านี่เป็นสนามบินของเกาหลี
เนื่องจากมีแต่ชาวอียิปต์สวมใส่ผ้าโพกศรีษะ
เขาไม่ได้โง่ขนาดที่จะเชื่อว่านี่มันคือเกาะเจจู
"ศิษย์พี่! ผมคิดว่านี่มันผิดที่นะ"
มีความสงสัยมากมายอยู่ในสายตาของลีฮุน
เค้านอนหลับตอนอยู่บนเครื่อง
และคิดว่าเค้ากำลังจะไปเกาะเจจู
หลังจากเดินตามไปกับเหล่าชาวต่างชาติ
พวกเขามาถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง
จองบอมอากล่าวว่า
"มันมีเสี้ยวหนึ่งของความจริง...
มันเป็นธรรมเนียมที่สำนักจะต้องส่งสมาชิกของเขาไปพบโลกแห่งความเป็นจริง"
"..."
"พวกเราวางแผนการเดินทางนี้อย่างรอบคอบมานานแล้ว"
พอมาคิดว่าเขาต้องมาอยู่ในที่ไหนก็ไม่รู้แบบนี้
สุดท้ายทุกอย่างก็ไขกระจ่าง เขาโกรธจองบอมอาไม่ลง มันมีหนทางที่จะเรียนวิชาดาบมากกว่าเพียงแค่ความแข็งแรงของร่างกาย
เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจะต้องตื่นตัวเพื่อที่จะกวัดแกว่งดาบ
การเดินทางไปต่างประเทศเพื่อที่จะเรียนรู้อย่างถูกต้องในวิถีแห่งดาบ!
แม้ว่าหลังจากละทิ้งการเดินทาง แม้ว่าจะประสบปัญหาต่างๆ
ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจ
มากไปกว่านั้น
นี่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศ เค้าไม่เคยมีโอกาสที่จะเห็นโลกภายนอกประเทศเกาหลี
ลีฮุนถามเพื่อยืนยัน
"ทั้งหมดนี้...
ฟรีใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว
ทั้งหมดนี้ฟรี"
"ฟิ้ววว"
ลีฮุนแสดงท่าทีโล่งอก
แม้ว่ามันจะดูน่ารำคาญใจและยุ่งยาก
แต่เพราะมันฟรี เขาเลยไม่รู้สึกโกรธ
"ทุกอย่างฟรีหมด ฉะนั้นโล่งใจและก็สนุกไปกับมันเถอะ. คูฮฮาฮาฮาฮา!
มันเป็นการผจญภัยและมีคนอื่นจ่ายตังค์ให้ ถูกใจจริงๆ"
"พวกเราจะไปที่ไหนกันดี?"
"ตอนนี้
พวกเราจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์"
เฮลิคอปเตอร์รอพวกเขาอยู่ที่สนามบินไคโร
พวกเขาบินผ่านอากาศที่แห้งและทรายของทะเลทรายซาฮาร่าในอียิปต์
เพื่อที่จะไปดูสิ่งก่อสร้างอันงดงามที่สร้างจากอิฐและหิน
***
แอฟริกาเหนือ
รถจี๊บขับเคลื่อนสี่ล้อสองคันพร้อมสำหรับลีฮุน
และจองบอมอา
รถจิ๊ปมีหลังคาเปิดประทุน
และมีผ้าปิดที่ทำจากหนังซึ่งสามารถเปิดและปิดได้อย่างง่ายดาย
"ศิษย์น้อง"
"ครับ ศิษย์พี่"
"นายรู้วิธีขับรถไหม?"
"ผมไม่เคยขับรถมาก่อน
แต่ผมเคยขี่มอเตอร์ไซค์บ้าง..."
เค้าไม่มีใบอนุญาตขับขี่
เค้าเคยขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อส่งอาหารแก่ร้านอาหารจีนอยู่ครั้งหนึ่ง
"คุณมีซักอันไหม?"
"มันไม่จำเป็นเพราะว่าที่นี่ไม่มีตำรวจจราจร
ขอแค่อย่าไปชนอะไรเท่านั้นหละ"
จองบอมอาโยนกุญแจรถให้กับเขา
"ป่ะ
สตาร์ทมัน"
ลีฮุนนั่งที่ที่นั่งคนขับ
เขาเสียบกุญแจเข้าไปยังช่องสตาร์ท
คูวววววฮฮาฮาฮาฮาฮ่าาาา!
เครื่องยนต์ถูกสตาร์ท
เครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อสำหรับเดินทางผ่านทะเลทราย!
รถจี๊ปนี้ดูช่างมีพลังที่น่าเกรงขามถึงแม้จะดูไม่เข้ากับมันก็เถอะ
ข้างหลังที่นั่งคนขับเต็มไปด้วยอาหาร
น้ำ น้ำมัน เต็นท์ และสิ่งของต่างๆรวมถึงหนังสือเกี่ยวกับแอฟริกา
และยังมีกล่องยาสีขาววางซ้อนอยู่ด้านบน
"ดีเลย
เริ่มกันเถอะ!"
จองบอมอาสตาร์ทเครื่องยนต์ของขาวและมุ่งหน้าออกไปสู่ทะเลทรายก่อน
รอรถยนต์เตะฝุ่นฟุ้งกระจาย
"ฉันจะไป!"
ลีฮุนเหยียบไปที่เบรค
รถเคลื่อนไหวอย่างไม่ถูกต้อง!
"คันเร่งมันอยู่ทางซ้ายหรือทางขวาอะ?"
ลีฮุนค่อยๆปล่อยขาของเขาแล้วเหยียบเข้าไปที่คันเร่งทางขวา
รถกระโดดและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
มันเป็นสถานที่ที่น่าอัศจรรย์สำหรับมือใหม่หัดขับ
มันไม่มีเลนและคุณสามารถจอดตรงไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ
พวกเขาผ่านกองทรายมากมาย
แมงป่องทะเลทราย และกระทั่งโอเอซิส
สายลมผสมกับทรายเกิดระหว่างทางที่รถทั้งสองมุ่งหน้าไปเคียงข้างกัน
แท๊งงงงงงงงงง!
ดูวดูวดูวดูว
มีกลุ่มที่กำลังขี่ม้าและยิงปืน
ลีฮุนขับรถจี๊ปขนาบข้างจองบอมอา
ลีฮุนถูกถามจากเครื่องส่งรับสัญญาณ
"ศิษย์พี่ พวกเขาเป็นใคร?"
-พวกเขาอาจจะเป็นกลุ่มโจร
หรือฝ่ายทหาร
"พวกเขาจะโจมตีเราหรือเปล่า?"
-ไม่เป็นไรหรอก
ทางสำนักได้ติดต่อสถานที่นี้ไว้แล้ว เพราะเขาจะไม่โจมตีรถที่ถูกทำเครื่องหมาย
รถของลีฮุนมีภาพเป็นรูปธงสีแดงติดอยู่
กลุ่มขี่ม้าติดอาวุธจะไม่โจมตีตามที่จองบอมอาได้กล่าวไว้
แต่พวกเขาได้เข้ามาใกล้คล้ายกับเป็นผู้คุ้มกัน
รถจิ๊บสองคันเดินทางผ่านทะเลทรายและพวกเขาเห็นนักท่องเที่ยวอยู่บนอูฐ
ลีฮุนเอาเครื่องบันทึกออกมาบันทึกการเดินทางในรถ
บ้านเรือนถูกสร้างจากโคลนและฟางข้าวในเมืองแรกที่เขาได้พบกับเด็กรูปร่างผอม
พวกเด็กๆมีผิวดำและพวกเขากำลังเล่นลูกบอล
เขารู้สึกถึงพละกำลังของพวกเขาผ่านการแสดงออกของพวกเขา! ลีฮุนและจองบอมอา
ไปพบกับหมอประจำหมู่บ้านเพื่อมอบหนังสือและกล่องยา
"ดี...
ลงชื่อตรงนี้"
"..."
คุณหมอกล่าวขอบคุณพวกเขาตอนที่รับของ
หญิงชราสูงอายุเดินเข้ามาและให้สร้อยคอแก่พวกเขาซึ่งทำมาจากไม้และหินสำหรับความช่วยเหลือ
ลีฮุนถาม
"นี่มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?"
"อาจารย์มาที่นี่กับทัวร์แอฟริกาเมื่อประมาณ
15 ปีที่แล้ว"
"กล่องยานี้หนึ่งกล่องจะสามารถช่วยเหลือคนได้ประมาณกี่คน"
"น่าจะประมาณ 600 คนละมั้ง?"
"ช่างมากมายเหลือเกิน"
"ในประเทศเกาหลี
ยาทั้งหลายแทบทั้งหมดถูกบรรจุไว้ในขวด แต่ที่นี่มีเด็กๆกำลังจะตายอยู่ทุกที่"
ในเต๊นท์พยาบาลเล็กๆที่ซึ่งเราเด็กๆนอนเรียงกันอยู่
เด็กทุกคนที่เข้าแถวรับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยกล่าวขอบคุณกับคุณหมอ
เด็กๆจากหมู่บ้านข้างๆจะเข้ามารับการฉีดวัคซีนแล้วจึงเดินทางกลับ
จากนั้นก็เป็นหมู่บ้าที่สองและหมู่บ้านที่สาม
ในหมู่บ้าน
หมู่บ้านอื่นๆได้รับการพยาบาล เท่าที่พวกเขาได้แบ่งปันยา
มีกลุ่มคนคอยเฝ้าระวังผู้บุกรุก
แต่ไม่ค่อยมีคนภายนอกมา เนื่องจากพวกเขาอยู่บนหน้าผาสูงชันเป็นเวลานานแล้ว
"ศิษย์พี่ ชีวิตในทะเลทรายช่างยากลำบากยิ่งนัก"
"ภูมิประเทศที่เป็นหินแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
และมันดูคล้ายกับทรายในทะเลทรายของทะเลทรายซาฮาร่า มันไม่สามารถนำมาเทียบได้กับความกว้างใหญ่ของทั้งภูมิภาค"
จองบอมอารู้เกี่ยวกับโลก
ทรายของทะเลทรายซาฮาร่าแตกต่างกับที่คาดคิดไว้เนื่องจากมันเป็นทะเลที่เต็มไปด้วยทรายสุดลูกหูลูกตา
แผ่นดินถูกครอบคลุมไปด้วยทรายเต็มไปหมด
พวกมันจะจมลงไปไม่ลึกเนื่องจากทางรางนั้นมีก้อนกรวดและก้อนหินอยู่ มีต้นไม้ใหญ่มากมายอยู่ข้างๆและพุ่มไม้รวมถึงหินขนาดใหญ่เท่าบ้านตลอดระยะทาง
การเดินทางมาเยี่ยมเยือนแอฟริกาสามารถช่วยชีวิตคนได้นับพัน!
สามวันหลังจากที่พวกเขามาถึง
พวกเขาเดินทางกลับไปยังทะเลทรายและพวกเขาได้รับการคุ้มกันโดยกองกำลังทหารติดอาวุธ
ตลอดทางที่รถผ่านหุบเขา เขามองไปยังเส้นขอบฟ้าและหลังจากนั้นร่างกายเขาเริ่มสั่นอย่างรุนแรง
ในยามค่ำคืนอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาต้องการเสื้อผ้าที่หนาๆ
ลีฮุนใส่น้ำเผื่อต้มในขวดที่ทำด้วยไม้พร้อมเปิดหัวตะเกียงแก๊ส
ภายใต้แสงจากทางช้างเผือก เค้าดื่มกาแฟกลางทะเลทราย!
"น้ำตาลซักช้อนสองช้อน"
ลีฮุนเปิดเครื่องรับวิทยุเพื่อฟัง
มีรายการพูดคุยด้วยภาษาที่ไม่รู้จักและหลังจากนั้นก็เริ่มมีเสียงดนตรี
เค้าเคยได้ยินมันสองสามทั้งในเกาหลี และมันคือเพลงของ จอง เฮียว ริน 'A Dialogue of
Eyes' ในภาษาอังกฤษ
ผู้แปล:
Dinako
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ช่างทำกันได้น่ะอาจารย์ ทะเลทราย
ตอบลบขอบคุณจ้า
ตอบลบฮุนไหนๆนายก็มาแล้วไปถ่ายเซลฟี่ในพีระมิดบ้างนะ ถ้าว่างๆนะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับตอนใหม่ครับ
สองเดือนที่ไม่ได้เกบเวล ฮ่าๆ
ตอบลบแกโดนหลอกไปใช่ไหม
ตอบลบแกโดนหลอกไปใช่ไหม
ตอบลบไม่ได้เก็บเลเวลก็ไม่เป็นไรมีตัวช่วยเป็นว่าที่ภรรยาที่กำลังตะลุยกวาดล้างมอนเตอร์โดยไม่พักอยู่มันกลับมาตอนนั้นคงเลเวลสูงที่สุดในเกมเลยมั้ง
ตอบลบอยากรู้จริงๆว่าถ้าเอาไฟล์วีดีโอนี้ให้ศาสตราจารย์ดู แล้วศาสตราจารย์จะว่ายังไงกันบ้างนะ : 3
ตอบลบไปถึง อียิปต์ทั้งที ยังจะเจอเพลงคน สาวที่มาชอบ ในที่แบบนี้มันก็ออกจะ พรหมลิขิตไปหน่อยนะ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบน่าสนุกขึ้นแล้วไง
ตอบลบได้เดินทางไปในสถานที่ไม่คาดคิด ฮ่าๆ เอาเถอะประสบการณ์ใหม่ๆเผื่อเจออะไรเด็ดๆ
ตอบลบอยากอ่านตั้งแต่ตอนแรกใหม่ มีที่ไหนให้บ้านบ้างอะ ��
ตอบลบversaillesontinent.blogspot.com/2017/02/blog-post_6.html?m=0
ลบขอบคุณครับ
ลบขอบคุณสำหรับการแปลดีๆค่ะ
ตอบลบขอบคุณเสมอมากับผู้แปลทุกๆท่านครับ
ตอบลบเพลงกิ๊กเก่าตามมาหลอกหลอนถึงอีหยิบ 555
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ