เล่ม 17 ตอนที่ 7 ชีวิตของเด็กสาว แปลโดย Pit
วีดนำหนังของคิงไฮดราและอิมูกิออกมา
แม้ว่าหลังจากการนำไปทำตุ๊กตาที่เป็นรูปสัตว์และรูปเด็กจะประสบความล้มเหลว
แต่มันก็ยังเหลืออยู่มาก
เขาเก็บส่วนที่ดีที่สุดของหนังสัตว์ไว้เท่านั้น
เป็นธรรมดาที่งานศิลปะจะแย่ในการทำครั้งแรก
แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งต่อมาจะสมบูรณ์ขึ้นและสมบูรณ์แบบในที่สุด
แต่ว่าประติมากรที่ไม่มีความรู้สึกในการทำผลงาน
ยังไงก็ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาผ่านงานประติมากรรมได้อยู่ดี
เขาเก็บวัสดุที่มีคุณภาพดีที่สุด
ในกรณีที่เขาจำเป็นต้องใช้สำหรับทำงานประติกรรม!
“เราสามารถทำตุ๊กตาอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้สัก
40 ตัว หวังว่าคงจะพอนะ”
วีดตัดหนังสัตว์และเริ่มทำประติมากรรมเด็กทารก
เป็นเด็กทารกที่เกิดได้ไม่นานเท่าไหร่
มีผิวหนังเหี่ยวย่นและมีใบหน้าดูขี้หงุดหงิดเหมือนทารกจริง
ๆ
มีขนาดตัวที่เล็กมาก
แบบที่สามารถประคองด้วยมือข้างเดียวได้
“ชีวิตที่เพิ่งเกิดเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
เป็นครั้งแรกของทารกตัวน้อย ๆ ที่ลืมตามองดูโลก หลังจากออกมาจากครรภ์มารดาของเธอ”
วีดได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมันโดลและภรรยาของเขามา
ดังนั้นเขาคิดถึงอารมณ์ความเป็นพ่อแม่ในขณะที่ทำตุ๊กตานี้ขึ้น
แต่ก็ยังคงเป็นทารกที่ไม่ได้มีความพิเศษใด
ๆ
“เรียบร้อย
ตอนนี้ตัวแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
วีดวางตุ๊กตาตัวแรกลงและหยิบหนังสัตว์ขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนนี้
วีดต้องการที่จะทำตุ๊กตาตัวที่สอง
วิธีการเคลื่อนไหวมือของวีด
นั้นเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน
“ทารกจะเริ่มเดินตอนอายุหนึ่งขวบ
ผ่านการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นับเป็นช่วงที่พ่อแม่มักจะกังวลเกี่ยวกับลูกน้อย”
เขามุ่งเน้นในการทำตุ๊กตา
ในขณะที่คิดถึงความเป็นไปได้ในอนาคต
“หล่อนต้องการเสื้อผ้าด้วยสินะ”
เขาปกปิดตุ๊กตาทารกด้วยแผ่นผ้าทำความสะอาด(แพมเพิร์ส?)ในก่อนหน้านี้
แต่ตอนนี้เขาต้องเย็บชุดของเด็กทารก
ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงกำลังหัวเราะ
เมื่อเธอมีปาร์ตี้วันเกิดเป็นครั้งแรก!
“ตอนนี้พ่อแม่ของเธอตระหนักถึงช่วงของการเจริญเติบโตที่มากขึ้น”
ต่อไปตุ๊กตาเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม
เธอสูงขึ้น
นิ้วมือและนิ้วเท้ายาวมากขึ้น
วีดเพิ่มผมที่ถูกถักเป็นเปียเข้าไปให้เธอด้วย
“เธอเรียนรู้การพูด
และในช่วงอายุนี้เธอเริ่มกลายเป็นสาวน้อยตัวแสบ”
ตุ๊กตาตัวที่สี่
เขาทำให้เธออยู่ในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนอนุบาล
ตุ๊กตาเด็กนักเรียนตัวน้อยใส่เสื้อผ้าและสะพายกระเป๋าอันน่ารัก
ตุ๊กตาตัวที่ห้าโตขึ้นมากกว่าเดิม
และตอนนี้เธอมีอายุพอจะเข้าโรงเรียนประถม
กระทั่งตอนนี้
เธอเริ่มจะดื้อรั้นปากแข็งและทำอะไรผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างน่ารัก
ตุ๊กตาตัวที่หก มีบางส่วนแสดงออกถึงเสน่ห์ของความเป็นเพศหญิง
“เธอโตขึ้นมาเป็นเด็กหญิงผู้มีรอยยิ้มงดงาม
และเด็กผู้ชายรอบ ๆ ข้างบางคน ต้องการจะกลั่นแกล้งเธอ”
ความยากลำบาก วัยรุ่นและความคึกคะนอง
เด็กสาวเติบโตขึ้นมาอย่างน่าสนใจ ดวงตาของเธอทั้งคู่เต็มไปด้วยความสนุกสนานร่าเริงที่ยังคงมีอยู่
แต่ตอนนี้ เธอทั้งเติบโตขึ้น เธอสูงขึ้น และดวงตาของเธอกระจ่างใสมากขึ้น
หลังจากนั้นตุ๊กตาตัวต่อไปก็สูงขึ้น
สูงขึ้นอีก ผมของเธอก็ยาวขึ้น
จากผมยาวซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบ
ก็เปลี่ยนไปเป็นผมสั้นที่มีชีวิตชีวา ทรงผมของเธอก็เปลี่ยนไปอีกหลาย ๆ ครั้ง
“นี่เป็นการใช้แรงงานที่ค่อนข้างมากเกินไป”
เขาซื้อผมมาจากร้านค้าวัสดุตกแต่ง
แต่เขาก็ไม่เคยจะรู้สึกเหนื่อยจากความภาคภูมิใจในการทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเอง
ตุ๊กตาตัวที่สิบสี่
สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมและกลายเป็นผู้ใหญ่
เธอโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงและดูเหมือนเธอจะช่างพูดอีกด้วย
แก้มของเธอเป็นสีแดงดั่งดอกกุหลาบและมีการแสดงออกที่น่ารัก
ราวกับเธอจะพาแฟนมาแนะนำให้กับครอบครัวของเธอได้ตลอดเวลา
วีดทำเครื่องประดับอย่างเช่น
ที่คาดผมและสร้อยคอ เพื่อตกแต่งให้เธอ
ในระหว่างช่วงที่เธอเรียนในมัธยมศึกษานั้น
กระเป๋าและยูนิฟอร์มของโรงเรียนก็เพียงพอ แต่ดูตอนนี้สิ เธอเป็นนักศึกษามหาลัย
เขาทำรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าให้เธอ
ตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของหญิงสาว
“เดี๋ยวสิ
เราไม่สามารถใช้เงินกับสิ่งไม่จำเป็น!”
เขาถกเถียงและได้ข้อสรุปกับตนเองว่าจะทำเครื่องประดับของเธอจากขนกระต่ายราคาถูก
ดังนั้นเธอจะมีกลิ่นอายความสุภาพชนแบบนักศึกษาหญิง
เครื่องประดับที่เข้ากันดีกับการแสดงออกโดยรวมของเสื้อผ้า
ออร่าและกลิ่นหอม//น้ำหอม//
ทำราวกับเขากำลังดูแลลูกของตัวเอง
ลูกที่เป็นนักศึกษามหาลัยผู้น่ารักและเป็นคนจริง ๆ
เขาใช้เวลาในการแกะสลักนานเกินกว่าที่คาดไว้
แต่วีดยังโฟกัสกับทุกสิ่งของเขาต่อไป เขาไม่สนอย่างอื่น ในขณะนี้
จากตุ๊กตาตัวที่สิบเจ็ดไป
ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเวลาที่ไหลผ่านได้ จากเด็กทารกตัวน้อย
จนถึงตอนนี้ เธอต้องได้รับการดูแลเพื่อหางานทำในอนาคต
ตุ๊กตาตัวที่สิบแปด
ออกไปทำงานบริการเพื่อชุมชน
ตุ๊กตาตัวที่สิบเก้าปรากฏซึ่งแฟนหนุ่ม
และตุ๊กตาตัวที่ยี่สิบก็มีการจัดงานแต่งในท้ายที่สุด
เขาทำตุ๊กตาสามีที่ดูเอาใจใส่และเชื่อถือไว้ใจได้
ทั้งคู่เป็นคู่ที่เหมาะสมของกันและกัน เหมือนดั่งกิ่งทองใบหยก
แขกที่มาร่วมงานซึ่งทำจากขนกระต่ายและขนกวาง
มาร่วมแสดงความยินดีกับอนาคตของพวกเขา
ตุ๊กตาตัวที่ยี่สิบสาม
ให้กำเนิดทารกตัวน้อย
เธออาศัยอยู่กับครอบครัวเล็ก
ๆ ของเธออย่างมีความสุข
เธอล้างจานกับสามีของเธอ
ทั้งทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า และออกไปทำงานด้วยกันและอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุข
ช่วงเวลาของตุ๊กตาที่สมบูรณ์
เธอกลายเป็นผู้หญิงที่เริ่มมีอายุ
ใบหน้าที่สวยงามของเธอเริ่มมีริ้วรอยแห่งกาลเวลาอย่างเด่นชัด
ตุ๊กตาเด็ก ๆ
ถูกสร้างขึ้นอาศัยอยู่กับสามี
“เร็วเกินไปแล้ว
ผู้คนพูดว่าชีวิตของคน ๆ หนึ่ง คล้ายกับการเจริญเติบโตของถั่วงอก ที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้
แต่ยังคงอยู่และดำเนินไปอย่างรวดเร็วเช่นเดิม”
หลังจากผ่านวัยสาว
และเวลาที่สดใสดั่งแก้วเจียระไน ที่เป็นตัวเร่งริ้วรอยของเธอ
เมื่อถึงตุ๊กตาตัวที่สามสิบหก
เธอใช้เวลาอยู่คนเดียว เป็นเพราะว่าลูก ๆ ของเธอต่างเติบโตมีการมีงานทำกันหมดแล้วและได้แต่งงาน
หลังจากกลายเป็นคุณย่าคุณยาย
เธอใช้เวลาไปกับการงีบหลับ อ่านหนังสือหรือแม้กระทั่งถักผ้าพันคอสำหรับหลาน ๆ
หนังอิมูกิและไฮดรา
ที่ราวกับมีว่ามากมาย บัดนี้ก็เกือบหมดเสียแล้ว
ตุ๊กตาตัวที่สี่สิบเอ็ดนั้น
เป็นไปอย่างมีความสุขและเธอหลับใหลไปอย่างสงบ
เป็นช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับครอบครัวของเธอ
***
เสร็จสิ้นสักทีกับการทำตุ๊กตา
วีดยังคงนั่งอยู่ที่เดิม และรู้สึกว่างเปล่าเป็นอย่างมาก
ไม่มีหนังสัตว์และไม่มีสิ่งใดมากพอที่เขาสามารถทำได้อีก
กรุณาตั้งชื่อประติมากรรมที่คุณสร้างขึ้น
|
หน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาในขณะที่วีดยังคงอยู่กับที่โดยไม่แม้แต่จะขยับมีดแกะสลักของเขา
วีดส่ายหัวของเขาไปมา
“ผมจะไม่ตั้งชื่อ”
ถูกแล้ว
เขาไม่ได้ต้องการที่จะตั้งชื่อใด ๆ ให้กับรูปปั้น
ผลงานประติมากรรมไร้ชื่อ
ประติมากรผู้สร้างอาจไม่เป็นที่รู้จักและอาจนับเป็นงานศิลปะที่ไม่เสร็จสมบูรณ์
คุณยังจะไม่ตั้งชื่ออยู่หรือไม่?
|
“ผมไม่สน
ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ตั้งชื่อให้กับสิ่งนี้”
ติ้ง!
ประติมากรรมในตำนาน ที่ไม่ได้ถูกตั้งชื่อ
ของขวัญแด่โลกที่มอบโดยประติมากร
ผู้มีความมุมานะพยายามที่ดีในการสร้างสรรค์และมีพรสวรรค์ที่แม้แต่พระเจ้ายังอิจฉา!
เขาอธิบายถึงช่วงชีวิตต่าง ๆ ทั้งหมดของมนุษย์ ตั้งแต่เกิดจนถึงวายชนม์
ลงไปในงานประติมากรรมนี้
ประติมากรผู้เปี่ยมไปด้วยทักษะอันสมบูรณ์แบบ
สามารถรับรู้ได้จากความบากบั่นในการตัดเย็บของเขา
การตัดเย็บที่ไม่แม้แต่จะเอียงหรือมีส่วนอื่นใดขาดหายเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีใครรู้จักประติมากรที่ทิ้งผลงานศิลปะลึกลับนี้ไว้
คุณค่าทางศิลปะ : นี่เป็นการอวยพรแห่งการแกะสลัก
กลายเป็นส่วนที่จะพัฒนาทักษะทางการแกะสลักของทวีป
คุณสมบัติพิเศษ: ผู้ที่พบเห็นประติมากรรมไร้ชื่อในตำนานนี้
· อัตราการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตและค่ามานาเพิ่มขึ้น 32 % เป็นเวลาหนึ่งวัน
· เพิ่มค่าพลังชีวิตและค่ามานาสูงสุดถึง 30 % เป็นเวลาหนึ่งวัน
· ผลของเวทย์อวยพรจะคงอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งวัน
· ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20
· นอกจากนี้ค่าความคล่องตัวและความกล้าหาญเพิ่มขึ้นอีก 7 %
· ความสามารถในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 30 % ระยะทางมากขึ้น
สามารถเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นกว่าเดิม
· อัตราการเกิดในเมืองหรือภูมิภาคที่งานประติมากรรมนี้อยู่เพิ่มขึ้น
100 %
· แนวโน้มของการใช้ความรุนแรงในประชากรพลเรือนลดลง
ช่วยให้สังคมมีความเป็นระเบียบ สงบและปลอดภัย
แต่การเพิ่มขึ้นของนักรบและทหารตามปกติลดลงแบบมีนัยสำคัญ
· ค่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 500
· ความฉลาดและสติปัญญาของมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างถาวรได้ไม่เกิน 15
· ส่งผลไม่ทับซ้อนกับงานประติมากรชิ้นอื่น
· งานศิลปะในตำนานที่ยังไม่เสร็จสิ้น
- ความชำนาญในทักษะการแกะสลักเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ความชำนาญในทักษะเกี่ยวกับงานฝีมือเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ความชำนาญในทักษะการเข้าใจเกี่ยวกับงานประติมากรรมเพิ่มขึ้น
1
- จากประติกรแห่งงานประติมากรรมไร้ชื่อ
ค่าเชื่อเสียงเพิ่ม 2
- ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น
89
- ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น
41
- ค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้น
26
- ค่าความฉลาดเพิ่มขึ้น
10
- นอกจากนี้
สำหรับการสร้างประติมากรรมไร้ชื่อในตำนาน ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5
- พรจากรูปปั้น
สำหรับการสร้างประติมากรรมที่เกี่ยวกับการเกิดและการตาย
ค่าสถานะที่เกี่ยวกับการต่อสู้เพิ่มขึ้น 8 % เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
อัตราการฟื้นตัวและค่ามานาเพิ่มขึ้นสูงสุด 65 %
|
รางวัลเหล่านี้ทำให้หัวสมองของวีดรู้สึกว่างเปล่าไปเลย
ดูเหมือนว่าจะเป็นกฎตายตัวไปแล้วที่เราจะคิดว่าอาชีพอย่างประติมากร
จะเป็นงานที่เลวร้ายสุด ๆ เป็นงานที่เลวร้ายยิ่งกว่าการเป็นนักรบหรืองานอื่น ๆ
เสียอีก แต่ก็นั้นแหละ ควรเอาความคิดนั้นโยนทิ้งไปซะ
“ตรวจสอบทักษะการแกะสลัก!”
การแกะสลักขั้นสูง 7 (65%): สามารถแกะสลัก
งานประติมากรอันงดงามที่สามารถขายได้ในราคาสูง
ชื่อเสียงขจรขจายไปทุกหนทุกแห่งในทวีป ผ่านงานศิลปะอันโดดเด่น
ดีต่อการสร้างความประทับใจสำหรับผู้หญิง
นับเป็นชั้นแนวหน้าแห่งโลกศิลปะในทวีปเวอร์เซลส์
ประติมากรคนอื่นช่างโชคร้าย
ที่ไม่สามารถสัมผัสถึงทักษะของประติมากรผู้พิเศษนี้
|
การเรียนรู้ทักษะงานแกะสลักเพิ่มขึ้น
29 %
หลังจากการดูแลเอาใจใส่และทุ่มเทความพยายามอย่างมาก
วีดก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงการสร้างผลงานของเขา
“เราก็แค่ทำตุ๊กตา นั่นคือทั้งหมด”
วีดเพิ่งจะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ว่านี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเหล่าเด็ก
ๆ และคุณผู้หญิงทั้งหลายถึงชอบตุ๊กตานัก
มันเป็นสัญชาตญาณที่จะแสวงหาสิ่งหรูหรา!
แม้ว่าเขาจะทำตุ๊กตาตามคำขอสำหรับหนึ่งทองแดงเท่านั้น
แต่ยังมีหลายสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์อยู่มาก
จำนวนของตุ๊กตาที่สำเร็จมีมาก
เขาทำไว้อย่างไม่เป็นระเบียบและใช้พื้นที่บางส่วนในปราสาทเจ้าเมืองเป็นที่ทำงานในครั้งนี้
แต่เขาจะต้องโยกย้ายและจัดวาง เพื่อให้มันโดลและภรรยาของเขาสามารถมองดูได้อย่างสะดวก
เขาสามารถใช้ห้องว่างในปราสาทโมราต้า
แต่เขาไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้น
“จะต้องมีพื้นที่ที่แยกต่างหากสำหรับเด็ก”
วีดพึมพำอย่างเงียบ
ๆ
“ ปลดล็อคการสนทนา”
ติ้ง!
การจำกัดการกระซิบถูกปลดล็อค
การจำกัดพูดคุยแบบสมาคมถูกปลดล็อค
|
เมื่อเขากลับมาถึงโมราต้า
เขาก็ล็อคการสนทนาทั้งแบบกระซิบและการพูดคุยแบบกลุ่ม
ในรูปแบบการจำกัด เขาไม่สามารถได้ยินหรือเห็นสิ่งใด
ๆ จากสมาคม และเมื่อมีใครสักคนกระซิบเขา
เขาสามารถได้ยินเฉพาะเมื่อเขาอนุญาตเท่านั้น
ตั้งแต่มีผู้คนจำนวนมากตามหาวีดนั้น
เขาก็เริ่มป้องกันพวกเขาไม่ให้มาวุ่นวาย
ซาบีน่า : เร็วเข้า แล้วก็ตบตีมันซะ
เอ็ดวิน : คุณยังตีมันไม่แรงพอนะ
พิน :ว้าววว นั่นทนทานเป็นบ้าเลย
เอ็ดวิน : ผมยังคิดว่าเราเกือบจะทำมันได้แล้ว
ดูเหมือนว่าคนของสมาคมนักเดินทางต่างเต็มไปด้วยความพลุ่งพล่าน
เมื่ออยู่ในระหว่างการล่าที่แสนพิเศษ
วีดข้ามผ่านในส่วนของกิลด์
แม้ว่าเขาจะปลดล็อคการสนทนาแล้วก็ตาม มีหลาย ๆ คนที่เป็นนักอ่านเงาอย่างเคย
- มิสเตอร์พาโบ
เขากระซิบถึงสถาปนิกพาโบ
เขาได้พบกันในคณะสำรวจทางเหนือ แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงครู่เดียว และนานมาแล้ว
แต่เขาไม่เคยที่จะลืมผู้เล่นคนนี้ที่เขาจะสามารถใช้การได้
‘เขาเป็นสถาปนิกที่มีฝีมือมาก’
สถาปนิกผู้มีความกระตือรือร้น
ผู้ทำบันไดเพื่อทิวทัศน์ที่ดีขึ้น สำหรับชมรูปแกะสลักเทพธิดาเฟร์ย่าในโมราต้า
คนนั้นคือสถาปนิกพาโบ
- วีด! นั่นใช่คุณหรือเปล่า?
พาโบไม่มีทางที่จะลืมวีดได้เหมือนกัน
แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลืม
ตั้งแต่รู้จักวีดที่เป็นเป็นเจ้าเมืองโมราต้าแล้ว
- คุณอยู่ที่ไหนหรือ?
- อยู่ในโมราต้า
ผมได้ยินข่าวลือว่าคุณกลับมาแล้วและกำลังทำงานแกะสลักอยู่
ส่วนผมกำลังสร้างร้านค้าที่สี่แยก ขอโทษทีนะที่ไม่สามารถไปเยี่ยมคุณได้
- คุณเกือบจะทำงานของคุณเสร็จแล้วหรือยัง?
- เหลือแค่ใส่บานประตูเข้าไปเท่านั้น
ถ้ารีบเสียหน่อย คิดว่าน่าจะเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงนะ
- แล้วมิสเตอร์แกสตันล่ะ?
- เขาก็ทำงานอยู่กับผมนี่แหละ
ตอนนี้ เขาวาดเพดานและผนังอยู่ แต่เขาเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของงานแล้ว
- นั่นเยี่ยมไปเลย
ผมมีคำขอ ผมอยากให้คุณสร้างบ้านให้ผมสักหลังน่ะ
- เจ้าเมืองโมราต้าต้องการบ้าน?
ดูเหมือนกับพาโบจะยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
เพราะว่าวีดมีปราสาทอยู่แล้ว
ไม่มีเหตุผลที่จะต้องการบ้านเพิ่มอีก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไอเท็ม
การนอนหลับพักผ่อนบนเตียง หรืออื่น ๆ ทุก ๆ อย่างสามารถทำได้ในปราสาท
- ที่จริงแล้ว
ผมต้องการพื้นที่ที่จะสามารถแสดงผลงานประติมากรรมน่ะ
- โอ้วว
แล้วคุณต้องการบ้านที่เป็นโกดังขนาดใหญ่หรือเปล่า?
- ไม่ใช่เป็นโกดังหรอกนะ
ผมต้องการให้คุณสร้างบ้าน ที่สามารถแสดงผลงานอยู่แบบเป็นห้อง ๆ มากกว่า
- ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกที่จะทำ
แล้วงานประติมากรรมของคุณอยู่ที่ไหน?
- อยู่ในปราสาทน่ะ
ผมจะบอกคนเอาไว้ ว่าคุณสามารถเข้ามาข้างในที่ ๆ ผมทำประติมากรรมเอาไว้
- ตกลง
ผมจะเข้าไปตอนบ่าย ๆ นะ แล้วจะตัดสินใจค่าใช้จ่ายหลังดูผลงาน
- ขอบคุณ
เมื่อวีดพูดคุยกับพาโบเสร็จแล้ว
ก็มีผู้เล่นคนหนึ่งชื่อฮอนกระซิบมาหาเขา
- สวัสดี
ผมชื่อฮอนจากคณะเดินทางสำรวจเรือนจำใต้ดิน พวกเราเกือบจะพิชิตดันเจี้ยนสำเร็จแล้ว
- พวกคุณหานักโทษของวิหารมาทัลรอสพบหรือยัง
?
- ใช่ พวกเราพบ
และพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว
- ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ
ผมจะไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้แหละ
ตอนนี้
วีดต้องการไปที่เรือนจำใต้ดินเพื่อทำภารกิจ
***
แม่น้ำโหยหวนนั้นเชื่อมต่อกับเมืองโมราต้าและประตูเทเลพอต!
นี่คือขั้นที่สอง
สำหรับเควสความยากระดับ S ภารกิจการช่วยเหลือนักโทษของวิหารมาทัลรอส
กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อวีดกลับไปที่แม่น้ำโหยหวนพร้อมกับเจ้าเหลือง
ปรากฏภาพกลุ่มผู้คนชุมนุมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น
“เห้ย นั่นวีด…”
“เขาคือคนที่ถูกเรียกว่าเทพสงครามหรือ?”
“ชู่ววว! เงียบซะ
เขาอาจจะได้ยินเสียงแกนะ!”
หลังจากได้รับข่าวจากเพื่อนที่อยู่โมราต้าว่าวีดหยุดทำงานประติมากรรมชั่วคราว
และเตรียมตัวจะมายังแม่น้ำโหยหวน ผู้คนก็มาชุมนุมกันที่นี่เพื่อรอพบเขา
มีผู้เล่นเลเวลสูงจำนวนมากในภาคเหนือจ่ายค่าธรรมเนียมและล่าสัตว์ในบริเวณแม่น้ำโหยหวนนี้
บางครั้ง
มีปาร์ตี้ต้องการเข้าไปส่วนลึกของภาคเหนือ แต่บ่อยครั้ง
หากพวกเขาไม่ระมัดระวังมากพอ สมาชิกทั้งหมดของปาร์ตี้จะถูกล้างบางไปเลย
แม่น้ำโหยหวนเป็นที่ที่สามารถไปขอความช่วยเหลือได้ตลอดและเป็นที่ล่าที่ดี
วีดมองไปรอบ ๆ
เหล่าผู้เล่นที่ชุมนุมกันด้วยสายตาเย็นชาและสงบ
‘มีผู้คนมากจริง ๆ‘
ในเมืองโมราต้า
เขาดูเป็นเจ้าเมืองที่ค่อนข้างบ้าบอ ที่เอาแต่ขายอาหารหรือไอเท็มต่าง ๆ
แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้บนพื้นที่แห่งการล่าแห่งนี้
แล้วในตอนนี้มีหลายคนที่มองมาที่วีดด้วยสายตาท้าทายต้องการแข่งขันกับเขา
ถ้าผู้เล่นระดับสูงเหล่านี้ทั้งหมดโจมตีมาที่วีดเพียงครั้งเดียว
เขาก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความตายได้เลย
เพราะว่าเขามีไอเท็มระดับสูง
เช่น คัมภีร์เนโครแมนเชอร์ ชุดเกราะทัลลอค โล่โบราณ ดาบปีศาจโคลด์เดอร์ริม(Coldream’s Demon Sword) อื่นๆ เขาจำเป็นต้องตื่นตัวระแวดระวังให้มากขึ้น
‘เพราะที่นี่ไม่ใช่เมืองโมราต้าน่ะสิ’
ในโมราต้า
ไม่มีใครแม้แต่จะคิดฝันที่จะท้าทายวีด เพราะ มีทหารและอัศวิน
หากมีใครแม้ชี้ดาบมายังเจ้าเมือง ทหารจะเข้าจับกุมคนนั้นเสีย หรือ
อัศวินแห่งเฟร์ย่าจะกำจัดมันซะ
แต่พื้นที่การล่า
ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้
ไอเท็มเขาจะดรอปหลังจากการโดนฆาตกรรม
เพื่อที่จะไม่โดนดูถูก
วีดมองไปที่กลุ่มคนทั้งยังทำท่าเป็นธรรมชาติ
“เศษสวะมีอยู่ในทุก ๆ ที่จริง ๆ ”
“..........”
ในฝูงชนเกิดความเงียบงันในทันใด
วีดเทพสงครามที่พวกเขาจินตนาการ
นี่มันเป็นความยโสที่เข้ากันพอดีกับความแข็งแกร่งในคอนทิเนนท์
ออฟ เมจิก
“พวกคุณทั้งหมดหยุดการล่าไว้
เพื่อจะรอพบผม? มอนสเตอร์น่ะ มีอยู่ทุก ๆ ที่นะ จิ๊ ๆ ๆ “
วีดจิ๊ปากเขาอย่างเปิดเผยและมองไปที่คนอื่น
ๆ
เหล่าคนที่เคยซื้ออาหารหรืองานประติมากรรมจากวีดในโมราต้า
รู้สึกประหลาดใจและผงะกับทัศนคติที่ต่างไปของวีด
มันมีความคิดที่เกิดขึ้นกับพวกเขาแล้ว!
‘นี่อาจจะเป็นตัววีดที่แท้จริง’
‘เขาแกล้งทำเป็นนักเล่นเริ่มต้นหรือผู้เล่นเดี่ยว?
อย่างไรก็ตามเขากล้าที่จะวิจารณ์ฝูงชน เขาอาจจะเป็นคนแบบอ่อนนอกแข็งในก็ได้’
กล้าทำตัวเปิดเผยแบบไม่สนใจเมื่อมีผู้เล่นที่เลเวลมากกว่า
200 รวมตัวกันอยู่
แต่ไหนแต่ไร
ผู้คนที่มีเลเวล 300 ขึ้นไป มีความหยิ่งทะนงอย่างมาก
สายสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นและความแข็งแกร่งที่แสดงออกในระหว่างการล่า
กลายเป็นเป้าหมายของการให้ความเคารพ
แม้ว่าในทวีปเวอร์เซลล์มีจำนวนผู้เล่นที่น่าทึ่ง
เพราะมีขนาดใหญ่ ผู้เล่นระดับสูงก็มี ผู้เล่นระดับต่ำก็มาก หากใครเลเวล 300 ไม่ว่าที่ไหนก็จะไม่ได้รับการเพิกเฉย
เขาสามารถเข้าไปในกิลด์ที่มีชื่อเสียง
แต่สามารถออกเสียงความคิดเห็นของเขาได้เล็กน้อยในกิลด์ระดับกลางหรือกิลด์ระดับต่ำ
ผู้เล่นระดับสูงมีความหยิ่งยโสและมีภาคภูมิในตัวเอง
แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะตอบวีดกลับไป
อาจมีใครในนี้
สักคนที่กล้าจะพูด แต่ว่าเนื่องจากคนอื่น ๆ ยังเงียบ มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะไปตอบโต้
วีดครอบงำฝูงชนด้วยคำพูดง่าย
ๆ เพียงไม่กี่คำ
“ช่างน่าสมเพชอะไรเช่นนี้ ”
“.........”
ไม่มีคนตอบโต้แม้แต่คำเดียว
อย่างไรก็ตาม
มันเป็นเรื่องปกติที่วีดจะพูดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
เขาใจดีในโมราต้า
แต่หยิ่งยะโสใส่กลุ่มผู้เล่นระดับสูง
มันเป็นกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
ตอนนี้มีใครบางคนเริ่มจะฝันถึงมันบ้างแล้ว
แต่มีบางคนรู้สึกโกรธเคืองที่ยังโดนคำพูดต่อว่าแบบไม่ใส่ใจอย่างต่อเนื่อง
เหล่าผู้คนที่แข็งแกร่งเริ่มจะเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ พื้นที่การล่า
และปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ออกมา
เพื่อการตายอย่างมีเกียรติ
ดังนั้น พวกเขาต้องการที่จะท้าทายวีดอยู่ดี
ท่ามกลางฝูงชนผู้ถูกกดขี่
เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เกิดขึ้นในอารมณ์
ทันใดนั้น
วีดใช้สกิลราชสีห์คำรามขึ้นมา
“ปิงหลง! ฟีนิกซ์!
ทำไมพวกแกไม่ทักทายข้าเสียหน่อยล่ะ เมื่อในตอนนี้ข้ามาถึงที่นี่แล้ว!”
เสียงที่ดังกังวานดั่งสายฟ้าฟาดนั้น
เมื่อได้ยินวีดเรียกขาน
ปิงหลงและฟีนิกซ์บินมาหาวีดจากที่ไกล ๆ ด้วยปีกของพวกมันแผ่กระจายออกปกคลุมไปทั่ว
ด้วยขนาดของมังกร
พวกเขากำลังหวาดกลัว สิ่งมีชีวิต
ที่สามารถทำให้เกิดความเย็นยะเยือกแล่นผ่านไปยังกระดูกสันหลังของบุคคลที่พบเห็นในครั้งแรกได้
ปิงหลงและฟีนิกซ์คำรามครั้งหนึ่งไปทางท้องฟ้า
ก่อนจะร่อนลงไปที่ภูเขาหิน
ฮึม โหก!
ก๊าซซซ!
ภูเขาหินเริ่มที่จะปรากฏรอยร้าวและทรายก็เริ่มที่จะร่วงลงมา
“เจ้านาย ข้าได้ยินเสียงท่านเรียก”
“เจ้านาย ข้าเจ้ามาแล้ว”
ปิงหลงปรากฏตัวได้ค่อนข้างเพริศแพร้วเลยทีเดียว
เขาเหมือนมังกรตัวอื่น ที่มีแรงดึงดูดบางอย่าง
ทั้งมีดวงตาที่แหลมคนและปากที่ปราดเปรียว!
ฟีนิกซ์มีท่าทางไม่แยแสต่อสิ่งใด
แต่ยังปรากฏความเย็นชาที่มีลักษณะเฉพาะของสัตว์จำพวกนก
และเหมือนระเบิดที่อาจจะเผาผลาญทุก ๆ สิ่งที่ซ่อนไว้อยู่ภายในได้
แต่สิ่งที่เหมือนของปิงหลงและฟีนิกซ์
คือความสุภาพที่แสดงออกโดยการน้อมหัวลงต่ำแสดงความเคารพต่อวีด
“วู้ววววว”
“นั่นมันน่าเหลือเชื่อ”
ฝูงชนรู้สึกถึงกำแพงที่ยากต่อเข้าถึงระหว่างวีด
คนที่สามารถควบคุมสองสิ่งมีชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนว่า
หากพวกเขาต้องการจะทุบตีฝูงชนก็สามารถทำได้
ขี้บ่น
ใจเสาะและใจฝ่อนั้นคือปิงหลง และฟีนิกซ์เป็นตัวปัญหาเพราะว่าเขานั้นโครตโง่
สำหรับผู้ที่ไม่รู้ความจริงระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและวีดที่เป็นคนจู้จี้และเป็นความทรมานของพวกมัน
เขาดูน่าตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย
ไม่มีใครที่อยากจะท้าทายวีดอีก
หลังจากที่เห็นปิงหลงและฟีนิกซ์ก้มหัวลงต่ำมายังเขา
“เจ้างั่ง ข้าเริ่มจะโกรธเมื่อได้เห็นหน้าพวกแก”
วีดหน้านิ่วคิ้วขมวด
ปิงหลงและฟีนิกซ์
ดูเหมือนจะยอมรับอย่างเงียบ ๆ ต่อการวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้
‘ก็แค่คำพูดที่น่ารังเกียจที่เขากำลังพล่ามออกมา’
‘แค่เมินเฉยซะก็สิ้นเรื่อง
อาจจะมีบางอย่างที่เราทำผิดล่ะมั้ง’
วีดยังพูดต่อไป
“ตัวถ่วงความเจริญที่ไร้ประโยชน์”
ปิงหลงและฟีนิกซ์
กลอกตาไปรอบ ๆ อย่างวุ่นวาย พยายามจะรับรู้ถึงอารมณ์ของวีดที่แสดงออกมาอย่างไม่มีมูลความจริง
ไม่มีความรู้สึกผิดและไม่มีความเสียใจ
จะมีเหตุผลคอขาดบาดตายเสมอเมื่อเขาตะโกนใส่พวกมัน
หากแต่เมื่อพวกมันโต้กลับ การระบายใส่
การตะโกนหรือความจู้จี้ก็ยังคงมีต่อไปอีกนานกว่าเดิม
ดังนั้นพวกมันจะไม่ถามหาเหตุผล ในเวลานี้ก็เช่นกัน พวกมันแค่หมอบคลานอยู่กับพื้น
และคิดว่า ‘โอ้ว
เรื่องปกติ’ ก็เท่านั้น!
วีดส่ายหัวของเขาไปมาและมองไปทางปิงหลงและฟีนิกซ์
คล้ายว่าเขารำคาญเต็มทน
“ข้าไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเจ้าอีก
ดังนั้น ออกไปจากระยะสายตาของข้าซะ!”
ปิงหลงและฟีนิกซ์
กางปีกของพวกเขาและออกบินไป ขณะคิดถึงอิสรภาพไปด้วย
พวกมันบินไปให้ไกลที่สุดที่สามารถไปได้
ก่อนวีดจะเปลี่ยนใจ
พวกมันรีบหนีไป
จนภูเขาหินนั้นสั่นสะเทือนจากแรงลมอันโหดร้ายของทั้งคู่
ฝูงชนยิ่งท้อแท้มากขึ้น
มากกว่าการท้าทายหรือส่งจิตวิญญาณการต่อสู้มา
ก็คือการที่พวกเขารู้สึกอิจฉาและมีสายตาของความเคารพ
สามารถดูถูกปิงและฟีนิกซ์ที่ไม่มีใครกล้าจะหาเรื่องด้วยไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ระดับนี้
พวกเขาเริ่มที่จะรู้สึกว่า หากจะดูถูกพวกเขาอีกสักหลาย ๆ
คนก็คงไม่แปลกมากไปกว่านี้หรอก
วีดมุ่งหน้าไปยังป้อมปราการเอ็มบินยู
***
ภารกิจช่วยเหลือนักโทษแห่งวิหารมาทัลลอส
คุกใต้ดินของป้อมปราการเอ็มบิยูก็มีมอนสเตอร์คลานไปตามเขาวงกตขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมด
‘เพื่อการพิชิตดันเจี้ยนให้สำเร็จ
มันจะดีกว่าหากมีสองหัวดีกว่าหัวเดียว’
ในกรณีที่มีการใช้พิษหรือคำสาป
มันจะมีประโยชน์มากหากมีเพื่อนมาอีกสักคนสองคน
พาโบเดินทางไปยังปราสาททมิฬพร้อมกับแกสตัน
และยังมีพลั่วไปด้วย
“คุณมาตามคำสั่งของเจ้าเมืองใช่ไหม?”
ผู้เฝ้าประตูที่ถือหอกถาม
เขาสามารถจำพาโบได้
เพราะว่ามาเยือนที่ปราสาทบ่อยครั้งและมีความสนิทสนมอยู่
“ใช่ ถูกต้องแล้ว”
“เจ้าเมืองบอกผมว่าจะให้สร้างบ้านเพื่อเก็บผลงานศิลปะของเขาน่ะ”
“งั้นผมจะนำทางคุณไปที่งานประติมากรรมอยู่ก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณ”
พาโบและแกสตันเข้าไปในปราสาทและเดินตามคนรักษาประตูไป
พวกเขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าเมืองที่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับอนุญาต
บนผนังไม่มีแม้แต่งานศิลปะธรรมดา
ๆ แขวนไว้และพวกเขาไม่พบทองหรือเงินหรือใด ๆ ที่นำมาตกแต่ง
“ไม่มีอะไรพิเศษเลย”
แกสตันพูดออกมาด้วยท่าทางผิดหวัง
เขาที่เป็นศิลปินผู้หนึ่ง
ยิ่งเขามองงานศิลปะมากเท่าไหร่
ค่าสถานะหรือความเข้าใจทางศิลปะนั้นก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
คนทำงานเกี่ยวกับศิลปะ
มักปรารถนาที่จะคอยมองหางานศิลปะเป็นเรื่องปกติ
“ห้องนี้แหละ”
คนเฝ้าประตูเปิดห้องของท่านเจ้าเมืองที่ถูกล็อคอยู่
ในขณะนั้นเอง!
แสงสว่างสาดส่องออกมาจากภายในห้องในทันใด
คุณได้ค้นพบรูปปั้นในตำนาน
การกำเนิดและการดับสูญ!
คุณคือผู้ค้นพบงานศิลปะนี้เป็นคนแรก งานศิลปะที่แม้แต่คนแคระยังอิจฉาและกษัตริย์ยังต้องการทำสงครามเพื่อที่จะได้มันมา
ประติมากรที่แกะสลักนี้ไม่ต้องการสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักแต่อย่างใด
- สำหรับการค้นพบที่เขย่าโลกนี้
เกียรติยศของคุณได้เพิ่มขึ้น 1,290
- คุณได้รับฉายาแห่ง
ผู้คนพบประติมากรรมในตำนาน
หากคุณพูดถึงว่าคุณค้นพบงานประติมากรรมนี้ได้อย่างไรคุณจะได้รับอาหารและเครื่องดื่มอย่างไม่มีขีดจำกัด
ขุนนางและกษัตริย์ผู้คลั่งไคล้ความงดงามจะยินดีต้อนรับการมาเยือนของคุณและต้องการฟังถึงรายละเอียดในเรื่องนี้
|
เมื่อกี้ที่พวกเขาเปิดประตู
ค่าชื่อเสียงที่พวกเขาพยายามกันอย่างอุตสาหะเพื่อจะให้มันมีมากขึ้น
กลับเพิ่มขึ้นทีเดียวมากกว่าหนึ่งพัน
หน้าต่างข้อความอีกอันเด้งขึ้นมา
ก่อนความคิดต่าง ๆ ของพวกเขาจะเข้าที่เข้าทาง
คุณได้เห็นงานประติมากรรมไร้ชื่อในตำนาน
ดอกไม้แห่งศิลปะ
งานศิลปะที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์
ประติมากรไร้ชื่อผู้นี้
เขาใช้ทักษะสร้างงานประติมากรรมในรูปแบบการเกิดและการตาย ผู้ที่เข้าใจหลังจากการเห็นงานประติมากรรมของเขาจะได้รับเวลาของชีวิตเป็นการอวยพร
อัตราการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตและค่ามานาเพิ่มขึ้น 32 %
เพิ่มค่าพลังชีวิตและค่ามานาสูงสุดถึง 30 %
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20
นอกจากนี้ค่าความคล่องตัวและความกล้าหาญเพิ่มขึ้น
ค่าความคล่องตัวเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเดินทางระยะไกล
จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ได้รับความสุขจากของการมีชีวิตอยู่ พลังชีวิตเพิ่มอีกเป็นจำนวน
500 อย่างถาวร
เนื่องจากสติปัญญาของคุณต่ำ คุณไม่สามารถเข้าใจในงานศิลปะนี้
ความฉลาดและสติปัญญาเพิ่มขึ้น 2 อย่างถาวร
เพื่อการเข้าใจในงานศิลปะจำเป็นต้องมองดูและสังเกตในรายละเอียดให้บ่อยครั้ง
|
สถาปนิกอย่างเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจำเป็นต้องใช้ปัญญากับอะไรแบบนี้
การสร้างตึก
เขาต้องรู้เพียงเวทย์มนต์อย่างง่าย
อย่างไรก็ตามค่าความฉลาดและสติปัญญาของเขาก็ไม่เพียงพอต่อการทำการเข้าใจในงานชิ้นนี้อยู่ดี
ในกรณีของพาโบ
เขาหยุดอยู่เพียงระดับนี้ แต่ฝั่งของแกสตัน เขาช็อคคล้ายคนโดนฟ้าผ่า
สำหรับการสังเกตประติมากรรมในตำนานค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น
47
|
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
ในกรณีของนักมายากล
นักเรียนสามารถเรียนรู้จากการสั่งสอนของอาจารย์และสามารถเติบโตได้รวดเร็ว
แต่ศิลปินจะสามารถพัฒนาตัวเองจากผลงานของพวกเขาเอง!
ตุ๊กตาที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟดูเหมือนจริงมาก
และความจริงที่ว่านั้นเป็นเพียงผิวหนังของตุ๊กตามันดูเหลือเชื่อสุด ๆ
เสื้อผ้าหรือแม้แต่กระดุมมีความถูกต้องดี
ไร้ข้อบกพร่องไม่มีที่ติ
“สำหรับงานศิลปะนี้
นับเป็นความสามารถแท้จริงของวีด”
แม้ว่าผู้ทำตุ๊กตาเหล่านี้จะไม่เป็นที่รู้จัก
หากแต่ไม่ใช่เจ้าเมืองโมราต้า วีด แล้วจะเป็นใครไปได้อีก
ตั้งแต่ที่ท่านเจ้าเมืองวีดถามพวกเขาเพื่อจะสร้างบ้านสำหรับผลงานศิลปะ
มันต้องเป็นเขาแน่ ๆ
พาโบกระซิบไปหาวีดด้วยน้ำเสียงสั่น
ๆ
- ค-คุณ ยุ่งอยู่หรือเปล่า
วีดตอบกลลับอย่างรวดเร็ว
- ไม่เป็นไร
คุยได้
- ผมมีบางอย่างที่อยากจะรู้น่ะ
- อะไรหรือ?
- ทำไมคุณไม่เปิดเผยชื่อล่ะ?
ผมได้รับชื่อเสียงจากการค้นพบ ขอบคุณคุณนะ แต่...
มันเป็นอะไรที่พาโบและแกสตันรู้สึกขอบคุณมาก
ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ หากเขาทำงานประติมากรรมนี้ขึ้นมา
ทำไมไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ด้วยว่าเขาเป็นคนสร้าง?
ถ้าหากเป็นแกสตัน เขาจะนำผลงานศิลปะในตำนานนี้ออกไปโชว์ให้ทุก
ๆ ได้รับรู้ซะ
- เพราะผมอายน่ะสิ
- อะไรนะ?
อายอะไรนะ?
- เพราะมันมีข้อผิดพลาดมากและทักษะอันไม่ละเอียดอ่อนมากพอ
ผมก็เลยอายที่จะเปิดเผยชื่อ...
- *อ้าปากค้าง*
รู้สึกอายแม้กระทั่งเปิดเผยชื่อหลังจากทำงานประติมากรรมในตำนานแบบนี้!
ลมหายใจของพวกเขาแทบจะหยุดลงจากความเจียมเนื้อเจียมตัวของวีด
ผู้แปล: Pit
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ที่มา: http://japtem.com/lms-volume-17-chapter-7/
ไฟล์: https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM
ขอบคุณครับ
ตอบลบอายเฉย ระดับตำนานนะนี้!
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบวี๊ดดดดดดดดด พูดแบบนี้เหมือนเจียมเนื้อเจียมตัว แต่มันทำร้ายจิตใจของใครหลายๆคนเลยนะครับ !!
ตอบลบด้านแบ๊วๆ ของวีดก็มีนะ
ตอบลบขอบคุณผู้แปลมากครับ. ^^
วีด เอ็งหวังจะให้ คนขอให้สร้างมาตั้งชื่อให้เอ็งละสิ ถูกไหม เพือจะได้รางวัลมากขึ้น
ตอบลบแกอายเป็นด้วยเหรอ วีด........
ตอบลบ5555555 ขำมากกกก วีดอายเป็นด้วยยยย
ตอบลบขอบคุณค้าบ แกล้งทำเป็นอายสิวีด มันเป็นแผนอย่าไปเชื่อมานนน
ตอบลบขอบคุณครับ สนุกมาก
ตอบลบสะใจ
ตอบลบเกิดหน้าบางขึ้นมากระทันหัน
ตอบลบขอบคุณครับ สนุกมาก
ตอบลบขออนุญาติ "the flower of artistry" น่าจะแปลว่า "สุดยอดของงานศิลป์" หรือ "ความงดงามของงานศิลป์"
ตอบลบประติมากรไร้ชื่อ = ปฎิมากรนิรนาม พอได้ไหมครับ
ปฎิมากร แปลว่าพระพุทธรูป
ลบใช่ครับ ขอบคุณ
ลบต้องเป็น ประติมากร = ช่างปั้น
สกิลข่มมันมาอีกแล้ว
ตอบลบสกิลข่มมันมาอีกแล้ว
ตอบลบนี่ขนาดแค่เห็นนะยังขนาดนี้ แตปัญหามันต่อจากนี้ต่างหาก ปฏิมากรรมในตำนานอยู่ในบ้านธรรมดาไม่ได้หรอกนะ สองคนนี้อัพสกิลกระจายแน่
ตอบลบขอบคุณมากมายครับ
ตอบลบเหมือนเพจจะหายไปอ่าครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบ