เล่ม
17
ตอนที่ 6 : รูปปั้นเด็ก แปลโดย garnotics
‘วีดคืออัจฉริยะที่แท้จริง!’
เมแพนเพิ่งขับเกวียนขนาดใหญ่20เล่มผ่านลุ่มแม่น้ำทางตะวันตกเพื่อทำการค้าขายกับหมู่บ้านคนเถื่อนที่อยู่ในบริเวณนี้
“โอ้ดูนั้นสิ! เหยื่อมนุษย์สดๆ!”
มอนสเตอร์มากมายพยายามที่จะโจมตีม้าเทียมเกวียนระหว่างที่พวกเขากำลังข้ามแม่น้ำ
อย่างไรก็ตามพวกมันแต่ละตัวต่างก็ถูกฟินิกซ์และปิงหลงจัดการ
ด้วยความช่วยเหลือจากพวกนั้นเมแพนและเกวียนก็เดินทางมาถึงเมืองแบร์แฮเชท(town
of Bear Hatchet)โดยสวัสดิภาพ
ชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านทั้งเด็กและคนแก่ต่างมารวมตัวกันกลางหมู่บ้านเพื่อซื้อสินค้า
“เชิญเลยจ้า เชิญเลือกชมเลือกซื้อ ของถูกหมดไว
รีบเลือกรีบซื้อตอนที่ยังมีโอกาสจ้า!”
เมแพนขายของนำเข้าจากโมราต้า เมืองโมราต้านั้นผลิตทั้งอาวุธชุดเกราะและพวกเครื่องหนังต่างๆ!
เขาหยิบต่างหูที่ทำไม่ดีออกมาซึ่งขายได้ในราคาเพียงไม่กี่เหรียญทองแดงในโมราต้า
“ชิ้นนี้ราคาเท่าไรหรือ?”
หญิงสาวชาวแฮเชทเอ่ยถาม
เมแพนถึงคราวทำสีหน้าจริงจัง
“มันแพงมากเลยนะ
ผมไม่คิดว่าคุณจะซื้อได้...แต่ผมลดให้ได้นะถ้ามีหนังสัตว์หรือเขี้ยวสัตว์”
หนังหมีป่าและเขี้ยวดำนั้นมีมูลค่าหลายร้อยเหรียญทองในโมราต้า
มันช่างไร้สาระที่เมแพนจะส่ายหัว
“มันเป็นแจบเท็ม(ไอเทมขยะ)หายากที่ได้จากการล่าสัตว์ในดินแดนที่ห่างไกลเท่านั้น”
เมแพน ตัวอย่างของพ่อค้าสุดโฉด!
“ขอร้องละ ฉันอยากซื้อต่างหูพวกนี้จริงๆ”
“งั้นผมจะแลกมันกับหนังสัตว์3ชิ้น”
เมแพนกำลังขายเครื่องประดับและวัตถุดิบต่างๆแลกกับแจบเท็มของชาวแบร์แฮเชทที่ได้จากการล่า
คนแรกที่เปิดเส้นทางการค้านั้นสามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรได้อย่างมหาศาล เขาเรียนรู้โดยตรงจากวีดในการขูดรีดดินแดนแห่งคนเถื่อน!
พวกหนังสัตว์ที่หาได้จากรอบๆแม่น้ำโหยหวนนั้นขายได้ในราคาสูงมากๆที่โมราต้า
หลังจากผ่านกระบวนการเก็บรักษาที่พิเศษ มันสามารถนำมาทำเป็นชุดเกราะและเสื้อคลุมชั้นเลิศด้วยเทคโนโลยีของโมราต้า
***
ในที่สุดวีดก็ตัดสินใจเริ่มทำรูปปั้นเด็กราคาหนึ่งเหรียญทองแดงตามคำขอ
ณ ปราสาทในห้องส่วนตัวของเขาวีดเริ่มตระเตรียมสิ่งของที่จำเป็นในการแกะสลัก
อย่างแรกเขานำเอาขนของอิมูกิออกมาและตรวจสอบมัน
มันมีสีออกสีขาวซึ่งได้มาจากสงครามครั้งก่อน
“... ผิวหนังของคนไม่ได้เป็นสีขาวอย่างนี้”
หนังสัตว์นั้นยากที่จะนำมาทำเพราะมันมีโอกาสที่จะขาดได้ง่าย
มีเพียงทักษะการตัดเย็บที่แท้จริงที่สามารถทำมันได้โดยที่หนังสัตว์ไม่เกิดความเสียหาย
อย่างไรก็ตามความบกพร่องนั้นไม่ใช่สิ่งที่วีดจะต้องกังวลเลย
“มันค่อนข้างนุ่มด้วยแหละ”
การกำหนดคุณลักษณะของเสื้อผ้าอยู่ในความคิดการออกแบบของเขามันเป็นสิ่งที่จะกำหนดอนาคตของเขา
ถ้าหากชุดเครื่องหนังไม่ได้ถูกขายเป็นชุดเกราะมันก็ยังมีทางเลือกอื่นๆอีกมากในการขายเป็นชุดเครื่องหนังสำหรับพลเรือน
โดยการย้อมสีเขาสามารถแช่หนังสัตว์ลงในสีใดๆก็ตามที่เขาต้องการ
ในกรณีนี้เขาอยากให้มีสีตรงตามสีผิวของพ่อกับแม่รวมกัน
วีดต้องการแกะสลักด้วยสีผิวที่ใช่ การหาสีที่ถูกต้องมันเป็นความท้าทาย
เขาต้องหาเฉดสีผิวระหว่างของพ่อและแม่ซึ่งเป็นการผสมผสานกันทางพันธุกรรม
“มันไม่จำเป็นต้องแกะสลักเด็กที่อายุน้อยเกินไป”
วีดพูดในใจ
“เด็กทารก?”
การแกะสลักเด็กแรกเกิดนั้นมีแต่จะเพิ่มความทุกข์โศกของพ่อแม่
“แล้วเด็กอายุประมาณสองสามขวบละ?
น่าจะเป็นช่วงอายุที่กำลังดี”
เป็นช่วงอายุที่คุณเริ่มก่อปัญหา
“เราจะทำให้ใบหน้าของเธอดูไร้เดียงสาขณะที่ในมืออันอวบอ้วนกำลังถือลูกเกาลัด...แต่แล้วพวกเขาก็จะเสียใจที่ไม่เคยเห็นเธอตอนที่เป็นทารกแรกเกิด”
รูปปั้นนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด
โดยมีลักษณะที่ร่าเริงเนื่องจากมันจะเป็นการลาจากครั้งสุดของพ่อแม่ที่มีต่อลูกที่ควรจะมีของพวกเขา
เพื่อให้รูปปั้นนั้นประสบความสำเร็จ
วีดต้องการความสามารถที่จะสะเทือนหัวใจของผู้คน ความอบอุ่นและความอ่อนโยนเป็นสิ่งจำเป็นในการแสดงออก
“ไม่มีความสามารถใดที่เราไม่มี…”
จุดประสงค์ของรูปปั้นคือเพื่อที่จะช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดและความอาลัยนั้นเป็นคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก
ความโศกเศร้าที่มีอยู่ในความทรงจำนั้นคุณควรจะลืมมันไป แต่ในเวลานั้นคุณสามารถเรียนรู้ได้จากมันว่าความเศร้าเหล่านั้นไม่มีทางลบเลือนหายไป
มีเพียงประติมากรที่เยี่ยมยอดอย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถช่วยบรรเทาความทุกข์โศกโดยการสื่อออกมา
ผ่านทางรูปปั้นพร้อมๆกับแสดงให้เห็นถึงความวิจิตรงดงาม
“เราจะทำอย่างไรดีในสถานการณ์เช่นนี้?”
วีดเริ่มต้นโดยการใส่ดวงตาจากหินออบซิเดียน
ครั้งหนึ่งเขาเคยทำงานในโรงงานของเล่น ในตอนนั้นเขาได้ทำตุ๊กตาหลากหลายชนิด
ในขณะที่เด็กผู้ชายชอบเครื่องบิน,เรือ,รถและหุ่นยนต์ ส่วนเด็กผู้หญิงจะชอบตุ๊กตาน่ารักๆ
อย่างไรก็ตามทั้งคู่ต่างก็ชอบตุ๊กตาสัตว์
“ในตอนนั้น ตุ๊กตาหมีเป็นที่นิยมมากกว่าปกติ”
เด็กๆชอบตุ๊กตาเพราะว่ามันช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา
‘เราไม่ต้องการแกะสลักรูปปั้นเด็กเท่านั้น...เราต้องการที่จะสร้างตุ๊กตาเพิ่มด้วย’
วีดคิดว่าถ้าเขาแกะสลักเพียงแค่เด็กผู้หญิง
เธอจะต้องเหงามากแน่ๆ
ความโดดเดี่ยว
เพื่อที่จะลดความโศกเศร้าของเด็ก
พ่อแม่มักจะแก้ปัญหาโดยเอาตุ๊กตาสัตว์ให้ลูก
‘เรากำลังจะสร้างผลงานศิลปะชิ้นเอกอยู่
เราจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด’
“รูปปั้นถูกเติมเต็มด้วยเหล่าตุ๊กตา เป็นที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของชีวิตในวัยเด็ก
เราว่ามันคงทำให้รู้สึกเข้าไปถึงข้างในจิตใจได้เลย”
“เราจะสร้างทุกๆอย่างที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชอบ เราจะนำเทียนไขที่แสนสวยมาประดับไว้พร้อมกับปั้นมนุษย์หิมะขึ้นมา
เอ๊ะ!สงสัยต้องลอกหนังปิงหลงออกมาใช้ซะแล้วมั้ง!”
เส้นทางของอาชีพประติมากรได้นำพาคุณมาสู่เส้นทางที่ไม่คาดคิดมากมาย
หนังอิมูกิ
ค่าความทนทาน: 30/30 ไอเทมสำหรับการตัดเย็บและการผลิต
วัตถุดิบสำหรับตัดเย็บชั้นเยี่ยม
เสื้อผ้าและอุปกรณ์สวมใส่ที่ทำจากวัตถุดิบนี้ประเมินมูลค่าไม่ได้
มันเต็มไปด้วยพลังจากมานาและพิษ นำมาซึ่งความต้านทานต่อพลังความมืดที่สูง
หนังของมันไม่สามารถตัดเย็บด้วยวิธีการทั่วๆไป
มันเป็นของสำหรับคนที่มีทักษะการตัดเย็บถึงขั้นระดับปรมาจารย์(มาสเตอร์)แล้วต้องการจะสร้างผลงานชิ้นมาสเตอร์ขึ้นมา
เศษชิ้นส่วนของหนังที่เหลือบ่งบอกถึงความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ทำให้มีมูลค่าด้อยลง
แต่มันเพิ่มค่าทักษะการผลิตอย่างดีเมื่อใช้มัน
ผลิตผลการตัดเย็บชั้นเยี่ยม:
ความสามารถ:
·
เพิ่มพลังความมืด
·
มอบพลังมานาสูงสุด20,000
·
มีความต้านทานต่อพิษอย่างมาก
·
แถมยังเบาสุดๆ
|
วัตถุดิบการตัดเย็บชั้นเยี่ยมเป็นที่น่าอิจฉาสำหรับช่างตัดเย็บทั่วทั้งทวีป
ได้นำมาใช้สำหรับทำตุ๊กตา มันมีรอยขีดข่วนและรูมากมาย
แต่ถึงอย่างนั้นเสื้อคลุมพ่อมดหรือเสื้อคลุมทั่วไปที่ทำจากหนังนี้ก็มูลค่ามากกว่าหนึ่งหมื่นเหรียญทอง
อย่างไรก็ตามวีดได้ตัดหนังสัตว์ที่มีมูลค่านี้โดยไม่คิดอะไรและให้กำเนิดเป็นตุ๊กตากระต่าย
คุณได้สร้างตุ๊กตาสัตว์
“กระต่าย”
รูปปั้นจากความชำนาญที่น่าทึ่ง
การแกะสลักได้ท้าทายตัวเขาเองในการสร้างสรรค์มันขึ้นมา
สร้างขึ้นจากหนังสัตว์หายาก ตุ๊กตากระต่ายตัวนี้นำมาซึ่งการปฏิรูปต่อการแกะสลักครั้งใหม่
ผลงานจากนักแกะสลักขั้นปรมาจารย์
คุณค่าทางศิลปะ: 309
ความสามารถพิเศษ:
·
ถ้าคุณได้เห็นตุ๊กตากระต่าย
ความสามารถในการกระโดยเพิ่มขึ้น 5%
·
ตุ๊กตาผ้าที่มอบให้เด็กจะเพิ่มค่าความสนิทมากขึ้น
·
ในช่วงนี้จะทำให้เป็นมิตรกับเผ่ากระต่ายยักษ์
ค่าความชำนาญในการแกะสลักเพิ่มขึ้น
ทักษะการตัดเย็บเพิ่มขึ้น
ค่าชื่อเสียง:+12
ค่าศิลปะ:+3
ค่าโชค:+1
|
“ตริ๊ง!”
เผ่ากระต่ายยังไม่ถูกค้นพบ
สันนิษฐานว่ากระต่ายยักษ์อาศัยอยู่บนภูเขาที่มีหิมะปกคลุม
แต่มันเป็นเพียงเรื่องเล่าจากปากต่อปาก!
จากการสร้างประติมากรรมตัดเย็บ
ทักษะการแกะสลักของวีดเพิ่มขึ้น 0.9%
“แม้ว่าการสร้างผลงานชั้นดีจะไม่เพียงพอต่อการเลื่อนระดับไปยังขั้นสูง
เลเวล 7 ถึงอย่างนั้น...”
จนถึงเดี๋ยวนี้ การเล็งไปที่การแกะสลักผลงานที่มีรายละเอียดมากจะให้ค่าประสบการณ์กับวีดมากกว่าปกติ
ประติมากรต้องคอยสรรหาประสบการณ์ใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่การแกะสลักท่อนไม้เดิมๆเท่านั้น
เส้นทางของประติมากร ไม่มีวันหยุดหรอก!
จนถึงตอนนี้ วีดได้แกะสลักประมากรรมมนุษย์ขึ้นมากมายโดยพยายามที่จะคุ้นเคยไปกับมัน
แต่การแกะสลักงานชิ้นใหม่นี้มันไม่ใช่แบบนั้น เขาไม่ได้เหมือนกับการแกะสลักรูปปั้นซอยูนในตอนแรก
ตุ๊กตาสัตว์กว่าสามสิบชิ้นถูกสร้างขึ้นมาเต็มไปด้วยใบหน้าที่เป็นมิตรและอ่อนหวาน
สัตว์ที่ดุร้ายอย่างสิงโต,ช้าง,หมี,เสือชีต้าห์,แรดและสัตว์ป่าอื่นๆถูกทำให้ดูน่ารัก
“ถึงแม้ว่าตุ๊กตาKkoktuจะใช้สำหรับพิธีงานศพเพื่อให้คนตายได้เดินทางไปสู่สุขคติในชีวิตหลังความตาย
เฉกเช่นตุ๊กตาเหล่านี้...” (ผู้แปล:ตุ๊กตาKkoktuเป็นสัญลักษณ์ของพิธีงานศพของชาวเกาหลี
ว่ากันว่าตุ๊กตาจะช่วยปกป้องดูแลดวงวิญญาณของคนตาย คงคล้ายๆกับดอกไม้จันทน์ละมั้ง)
แน่นอนว่ามันไม่ตรงตามจุดประสงค์ของวีดอย่างแรง
แต่เนื่องจากทำให้สำหรับเด็กมันเลยตรงตามที่คาดหวังจากการเย็บตุ๊กตาด้วยหนังชั้นดีห้าชิ้น
เพราะว่ามันทำมาจากหนังและผ้าคุณภาพที่ดีที่สุด ด้วยความเชี่ยวชาญของวีด ทำให้แต่ละชิ้นมีค่าความทนทานที่สูงมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช้างนั้นแข็งแกร่งมากถึงแม้ว่ามันจะถูกเผาหรือโดนเหยียบย่ำ มันก็ยังคงอยู่รอดพ้นและยืดหยัดจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
“โยนความคิดอคติที่ว่าตุ๊กตานั้นไม่มีทางแข็งแกร่งทิ้งไปได้เลย!”
วีดเริ่มเรียนรู้วิธีการการทำตุ๊กตาจากพื้นฐานและค่อยๆเริ่มทำให้มันซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดจิตนาการของเขานั้นออกมาเต็มที่และไม่มีใครเหมือน
ตุ๊กตาครอบครัวกระรอกกำลังตำลูกโอ๊กด้วยโม่เพื่อปลอกเปลือกและกินมัน
หม้อน้ำที่ใส่น้ำซุปแครอทใหญ่พอที่จะให้กระต่ายลงไปว่ายเล่นได้เลย
“ชื่อของมันน่าจะเป็น กระต่ายที่แสนดีและเชฟกระรอก”
มันเป็นผลงานชั้นดี
หลังจากนี้เพื่อที่จะเพิ่มทักษะการทำอาหาร
เขาจะลองทำซุปแครอทที่ใส่ลูกโอ๊กลงไปจริงๆ
ตุ๊กตากลุ่มของลิงกำลังเต้นรำและร้องเพลงพร้อมกับใส่ชุดเปลือกกล้วย
เปลวไฟจากคบเพลิงที่ลุกโชนโชติช่วงชวนให้เหล่าคู่รักลิงเกิดความหลงใหลไปพร้อมกับการเต้นรำอันหยอกเย้ายวนใจ
พวกลิงขี้เล่นโยนเปลือกกล้วยลงพื้นทำให้ลิงตัวอื่นๆเกิดเหยียบและลื่นล้ม
มองดูแล้วทำให้เกิดอารมณ์ขัน
“ชื่อ:
ลิงที่เกินกว่าจะเรียกว่าลิง”
ครั้งนี้ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีชสร้างจากเหล่าลิงแสนรู้กำลังคิดคำนวณและลิงมากมายใช้อุปกรณ์เพื่อตัดต้นไม้
ลิงที่ชาญฉลาดกำลังจัดการกับเครื่องมือที่มีค่า
“และต่อจากนั้น...”
มีแต่สัตว์กับสัตว์และสัตว์
ถ้าในหนังสือเขียนไว้ว่าเด็กผู้ชายชอบเรือรถและเครื่องบินของเล่น
แล้วมันจะเขียนเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงว่าอย่างไร มันคงต้องเขียนว่าแบบนั้นแน่ๆเลย
“เด็กผู้หญิงชอบตุ๊กตาสัตว์!”
วีดสร้างรูปปั้นสัตว์ขึ้นมามากมาย
เขาทำงานอย่างหนักเพื่อทำตุ๊กตานับร้อยตัวขึ้นมา
“ไม่มีเด็กคนไหนหรอกที่เป็นทุกข์เมื่ออยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกอบอุ่นในนี้”
ตุ๊กตาทั้งหมดที่เขาทำขึ้นมายังเป็นเพียงขั้นบันไดที่จะก้าวไปสู่ตุ๊กตาตัวพิเศษ
เพื่อจะสร้างอะไรที่มีความพิเศษขั้นแรกคุณจะต้องทำผลงานที่ดีที่สุดออกมาจากนั้นก็ทำให้มันออกมาดียิ่งกว่าเดิม
หลังจากที่วีดสร้างเหล่าตุ๊กตาออกมาสำเร็จเขามั่นใจว่ามันจะต้องเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง(แมกนัม)แน่นอน
***
ใกล้ๆกับเมืองโมราต้าเป็นอาณาเขตหมู่บ้านทัวรีเบน(Teuriban) ระหว่างช่วงยุคสมัยของจักรวรรดินิฟเฮล์ม ทัวรีเบนเคยเป็นส่วนหนึ่งของโมราต้า
ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งผลิตไหมและอบเชย
ทัวรีเบนได้รับการอำนวยพรให้เป็นพื้นที่สำหรับการเพาะปลูก
อย่างไรก็ตาม หลังจากความหนาวเย็นได้เขาปกคลุมทางตอนเหนือ
ทัวรีเบนได้ถูกทอดทิ้งกลายเป็นพื้นที่รกร้าง มอนสเตอร์จำนวนมากได้บุกเข้าปล้น นั่นหมายความว่าจำนวนอาหารเพียงเล็กน้อยที่ได้จากการเก็บเกี่ยวก็ถูกปล้นไป
ณ ที่แห่งนี้
ทัวรีเบนเป็นที่ตั้งของกิลด์ซิทีรีน(Styrene Guild)
“เริ่มขุดได้!
เราต้องกำจัดพวกกองเศษไม้เศษหินพวกนี้จะได้เริ่มต้นการเพาะปลูก”
สมาชิกกิลด์ซิธีรินมากกว่าสามสิบคนที่อาศัยอยู่ในหมูบ้านกำลังใช้จอบขุดดินพร้อมกับหว่านเมล็ดลงไป
“เฮ้ย พวกกิลด์ซิธีรินที่เคยอาศัยอยู่ในอาณาจักรพวกเขาเคยเป็นพวกผู้เล่นใหม่ที่นั่น
ตอนนี้พวกเขาคิดจะทำอะไรกัน?”
“พวกเราไม่มีทางเลือกแต่เพื่อที่จะสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่ม
เราต้องนำเข้าของจากโมราต้า”
กิลด์ซิธีรินย้ายเข้ามาตั้งรกรากที่ทัวรีเบนเมื่อห้าเดือนก่อนจากตอนกลางของทวีป
มันเป็นช่วงระหว่างที่ชายแดนตอนเหนือกำลังเริ่มได้รับความนิยม นั่นทำให้กิลด์ซิธีรินย้ายเข้ามาก่อนใครและปกครองที่นี่
ปัจจุบันนี้
ผู้คนจากตอนกลางของทวีปจำนวนมากได้ย้ายเข้ามายังดินแดนทางตอนเหนือ กิลด์ซิธีรินได้พิจารณาถึงปัจจัยต่างๆของเมืองก่อนจะตัดสินใจตั้งถิ่นฐานรกราก
“มันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การพัฒนา เป็นที่ราบอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่และมีภูเขาใกล้เคียง
นั่นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการ ส่วนโมราต้านั้นเป็นเพียงเมืองที่อยู่ใกล้ๆเท่านั้น”
ขณะที่เมืองโมราต้าได้พัฒนาหมู่บ้านในอาณาเขตอย่างรวดเร็ว
หมู่บ้านรอบๆอื่นๆก็มีแนวโน้มเช่นกัน พวกกิลด์ซิธีรินก็เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากการนี้เช่นกัน
“ตั้งแต่เป็นจุดศูนย์กลางของดินแดนทางตอนเหนือพวกเราก็ได้รับประโยชน์มากมาย
การเพิ่มจำนวนของผู้เล่นและเหล่าพ่อค้าแม่ค้าบ่งบอกว่าเมืองของพวกเราจะเป็นศูนย์กลางทางการค้าเช่นเดียวกับโมราต้า”
ความคิดของกิลด์ซิธีรินนั้นถูกต้อง
การผลักดันด้วยเงินทุนจำนวนมากของเคาท์โมราต้าและผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามา โมราต้าได้พัฒนาก้าวหน้าจนน่ากลัว
ในเวลานี้กิลด์ซิธีรินได้เดินทางไปยังเมืองโมราต้าเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้า
พวกเขาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทุกๆที่
หลังจากการก่อสร้างหอคอยแห่งแสง โมราต้าได้เปลี่ยนจากหมู่บ้านธรรมดากลายเป็นเมือง
สิ่งปลูกสร้างใหม่ๆถูกสร้างขึ้นศูนย์การค้าขนาดใหญ่พร้อมกับน้ำพุตั้งอยู่ ณ
ใจกลางเมือง
ที่ย่านการค้ามีเหล่านักรบ,นักเวท,อัศวินและนักผจญภัยต่างก็ตามหาปาร์ตี้เพื่อทำเควสหรือออกล่า
ขณะที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าตั้งขายสินค้าใกล้กับน้ำพุ กิลด์ซิธีรินอิจฉาเมืองโมราต้าอย่างออกนอกหน้า
“พวกเรามีเมืองทัวรีเบนแล้ว
เราก็ต้องมีแบบนี้เหมือนกัน”
“ที่เป็นแบบนี้เพราะเคาท์โมราต้านั้นมีอาชีพเป็นประติมากร”
“ฉันพนันว่าความสามารถของประติมากรทำได้เพียงดึงดูดผู้เล่นแค่ตอนแรกๆ
แต่กิลด์ของเราให้ข้อมูลการล่า พวกผู้เล่นต้องเข้ามาหาเราสักวันหนึ่ง”
กิลด์ซิธีรีนได้ประกาศและให้ข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนและมอนสเตอร์โดยหวังว่าพวกผู้เล่นทั้งหลายที่มาออกล่าเหล่านั้นจะมาปักหลักที่นี่
“ว้าว นี่คือเมืองทัวรีเบนหรือ มันดูดีจัง”
“ไปล่ากันเถอะ!”
ปาร์ตี้มากมายได้แวะเข้ามาเพราะมันอยู่ไม่ไกลเกินไปจากโมราต้าถ้าเดินทางมาด้วยม้า
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับเข้าเมืองโมราต้าเมื่อตอนพลบค่ำเสมอ”
“เราจะไปดูหอคอยแห่งแสง”
“ฉันว่าจะไปกินข้าวที่โมราต้า”
นั่นเป็นข้อจำกัดของเมืองทัวรีเบนซึ่งได้รับเงินจากดันเจี้ยนและการล่า
ผู้คนยังคงไปเมืองโมราต้าเพราะมันอยู่ใกล้และไปจับจ่ายซื้อของที่นั่น
“ฉันจะไปโมราต้าเพื่อซื้อไอเทม”
“ใช่แล้วละ มีพ่อค้าแม่ค้ามากมายที่โมราต้า
ทำให้ได้ของราคาดีด้วย”
เนื่องจากที่เมืองทัวรีเบนไม่สามารถขายของได้
กิลด์ซิธีรินสูญเสียเงินไปกับการบริหารจัดการบ้านเมืองแต่พวกเขาก็ไม่ได้ผิดหวังหรือยอมแพ้
“เป็นอย่างที่คิดไว้ ในช่วงแรกของการสร้างเมือง
เราจะพบกับปัญหาเหล่านี้”
ดังนั้นพวกเขาจึงสะสมเงินเป็นจำนวน100,000เหรียญทองเพื่อสร้างศูนย์การค้าและสร้างบ้านเพิ่มแต่พวกผู้เล่นก็ยังคงไม่เข้ามา
เมืองทัวรีเบนได้กลายเป็นเมืองร้าง
“บางทีพวกเขาอาจจะยังไม่รู้ เรามาโปรโมทเมืองเราให้เหมือนกับโมราต้ากันเถอะ
พวกผู้เล่นจะได้เข้ามากัน”
และแล้วกิลด์ซิธีรินก็ไปเมืองโมราต้า
“เมืองทัวรีเบนอยู่ใกล้เมืองแห่งนี้และมันมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆนานามอบให้
กิลด์ซิธีรินปกครองเมืองอย่างสงบสุขและพวกเราก็สนับสนุนทุกๆคนที่ย้ายเข้ามา”
อย่างไรก็ตามพวกเขาพบว่ามีอีกหลายๆกิลด์ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
พวกเขาพยายามหว่านล้อมผู้คนทั้งน้ำตา
“เมืองฮวม(The town of Houm)ยินดีต้อนรับนักผจญภัยทุกท่าน!”
“กิลด์แฟโร(Faroe Guild)มีดีที่...”
“พวกเราขอเชิญพวกท่านมาที่เมืองกีชท์!(town of Keahteu)”
เปรียบเทียบกับเมืองทัวรีเบน โมราต้าดูดีกว่าเห็นๆ
ด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆมากมายและจำนวนประชากรอันล้นหลาม
มีทั้งประติมากรรมเฟรย่าห์และทะเลสาบเทียม
ท่านลอร์ดได้สร้างโรงเตี๊ยมและตั้งสมาคมนักสู้อย่างเช่นสมาคมนักรบและสมาคมนักผจญภัย
การหลั่งไหลเข้ามาของพวกผู้เล่นใหม่ส่งผลให้เมืองโมราต้ามีอัตราการเติบโตขึ้นวันต่อวันจนเมืองได้ขยับขยายจนเกินที่จะยับยั้ง
มีบ้านและร้านค้าใหม่ๆถูกสร้างขึ้นข้างนอกเมืองและยังมีกระท่อมอีกหลายหลัง
สมาชิกของกิลด์ซิธีรินจมอยู่ความโศกเศร้าเมื่อพวกเขาเข้ามาที่เมืองโมราต้า
“อู้หู... มันมหัศจรรย์มาก”
กิลด์ซิธีรินยังมองโลกในแง่ดีว่าความเจริญก้าวหน้าของเมืองมอราต้าจะทำให้ผู้คนรู้สึกสนใจดินแดนทางตอนเหนือมากขึ้น
นั้นหมายความว่าจะมีผู้เล่นมากมายเข้ามาเมืองทัวรีเบนจะเจริญเหมือนโมราต้าเมื่อผู้คนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน
“โมราต้าไม่อาจรับคนได้หมด
ผู้คนจะกระจายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้นเราควรสนใจไปที่การพัฒนาเมืองของเรา”
กิลด์ซิธีรินคิดในแง่ดีและสนใจไปที่การบริหารและพัฒนาเมืองของตัวเอง
ในขณะเดียวกันเมืองโมราต้าและพื้นที่โดยรอบก็กำลังพัฒนากลายเป็นดินแดนขนาดใหญ่มาก
“เคาท์มอราต้าไม่ได้แต่งตั้งให้ผู้อาวุโสท้องถิ่นเป็นคนบริหารจัดการ
เขาไม่สามารถแข่งขันกับพวกเราได้!”
กิลด์ซิธีรินและกิลอื่นๆปกครองเมืองโดยประชาธิปไตยด้วยผู้แทนท้องถิ่นทั้งสิบสองที่ถูกแต่งตั้งโดยไม่มีส่วนในการตัดสินใจ
งานได้ถูกมอบหมายให้ผู้แทนเพื่อตัดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นออกซึ่งผู้แทนทั้งสิบสองจะต้องแน่ใจว่าจะทำอย่างไร
รายจ่ายของโมราต้าลงทุนไปกับศิลปะและวัฒนธรรมอย่างยิ่งใหญ่เทียบเท่าเมืองที่ใหญ่ที่สุดในตอนกลางของทวีป
“ดีเลย นั่นคือจุดอ่อนของโมราต้า
สมแล้วละที่ลงทุนไปกับพวกศิลปะและวัฒนธรรม ทุกอย่างมันช่างไร้ค่า!”
กิลด์ซิธีรินเพิ่มการลงทุนไปที่780,000เหรียญทองเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี,ทักษะและความก้าวหน้าของการพัฒนาบ้านเมือง สมาคมนักสู้และนักเวทย์ยังถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดผู้เล่น
“ถ้าเมืองทัวรีเบนมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีในระดับสูงของดินแดนทางตอนเหนือแล้วละก็จะดึงดูดผู้คนมากมายอาจจะมากกว่าโมราต้าด้วยซ้ำ”
กิลด์ซิธีรินรออย่างคาดหวังว่าการพัฒนานี้จะเข้ามาหา
ขณะเดียวกันพวกที่อาศัยในโมราต้ากำลังสนุกสนานกับงานวัฒนธรรมและเริ่มต้นการพัฒนา,เริ่มการผจญภัย,ทำเควสต่อเนื่อง,ออกล่าและท่องเที่ยว
ผู้คนต่างเพลิดเพลินไปกับสถานที่อันเต็มไปด้วยศิลปะอย่างการร้องรำทำเพลง,ประติกรรมและภาพวาด
ผู้คนใช้จ่ายเงินมากมายไปกับการเข้าร่วมวัฒนธรรมอันแสนสนุก
มันเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเหล่าผู้เล่นออกล่าหลังจากได้รับความบันเทิงจากตัวตลก
ทั้งลูกค้าและชาวเมืองโมราต้าต่างก็มีความสุข
ตริ้ง!
ชาวเมืองทัวรีเบน35คนได้ย้ายออกไปยังโมราต้า
มีการเพิ่มจำนวนคำร้องของชาวเมือง
|
ชาวเมืองได้ยื่นคำร้องต่อกิลด์ซิธีริน
“ทำไมเมืองของเราถึงเป็นเหมือนโมราต้าไม่ได้ละท่านลอร์ด?”
“เด็กๆในหมู่บ้านไม่มีอะไรให้เล่น”
“หลังจากการทำงานอย่างหนักพวกเราก็ต้องการสนุกบ้าง
เมืองนี้มันช่างจืดชืดเสียจริง”
เนื่องจากการจัดงานเทศกาลของโมราต้า
ทำให้บรรดาผู้คนที่ไม่พอใจนั้นเพิ่มขึ้น
โดยผู้คนได้ย้ายไปยังโมราต้าทำให้จำนวนประชากร3,000คนของทัวรีเบนไม่เพิ่มขึ้น
ความจงรักภักดีของทหารลดน้อยลงและประสิทธิภาพในการทำงานก็ลดลงเช่นเดียวกัน
จำนวนคนที่น้อยลงหมายความว่าเกิดการลดลงของผลผลิตจากการเกษตรและจากเหมืองแร่
เควสที่ต้องการจำนวนคนหายไปเมื่อให้คนที่ให้เควสนั้นย้ายออก
ทำให้เกิดปัญหาขึ้น
เมื่อคุณทำเควสที่ดีสำเร็จและต้องการรับรางวัลแต่ทว่าคนให้เควสนั้นหายไปแล้ว
มันเป็นที่น่าอดสูเมื่อเหล่าบรรดาผู้เล่นถามชาวบ้านคนอื่นๆแล้วได้คำตอบว่า:
“คุณมูกิเจียมเหรอ? เขาย้ายไปโมราต้าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
มันไม่ง่ายที่จะหาคนมาแทนที่เขาใครๆก็ต้องการไปที่อยู่นั่น ส่วนฉันนะหรอ?
ฉันก็จะไปโมราต้าหลังจากทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จ ฉันนะอยากไปเห็นเมืองโมราต้า!”
ตริ้ง!
ชาวเมืองทัวรีเบน23คนได้ย้ายออกไปยังโมราต้า
ชาวเมืองต้องการศาสนสถาน
|
“ฉันอยากเห็นเทพีเฟรย่าห์
ฉันอยากใช้ชีวิตของฉันอยู่ในเมืองที่มีรูปสลักของเฟรย่าห์ โชคดีจริงๆที่มีเมืองใกล้ๆอยู่เมืองหนึ่ง”
“เพื่อนของผมที่โมราต้ามีความสุขเพราะพวกเขาได้รับพร
ผมเป็นคนที่มีความศรัทธา ผมจะสักการะท่านเทพธิดาที่โมราต้า”
คำร้องของชาวเมืองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแหล่งรายได้และอาหารของทัวรีเบนลดลงเท่าบรรดาผู้คนที่อพยพออกจากเมือง
ประชากรของเมืองเหลือเพียง3,000คน
จนกระทั่งตอนนี้ท่านเคาท์เพียงแค่สนใจกับเศรษฐกิจ,เทคโนโลยีและการทหารของเมือง
เขาละเลยวัฒนธรรมอย่างสมบูรณ์อย่างเช่นพวกจินตกวีว่า มีเพียงความน่ารำคาญและเสียงดังจึงตัดงบประมาณทางวัฒนธรรมทิ้งทั้งหมด
เงินทุนในการก่อสร้างและค่าบำรุงรักษาถูกหันเหความสนใจไปในการลงทุนกับสิ่งอื่นที่พวกเขาคิดว่าดีกว่า
เมื่อคิดกลับกันพวกเขาถึงกับหมดหวังเพราะได้แต่ผลเสียกลับมา
“ท่านหัวหน้ากิลด์ วีด เคาท์แห่งโมราต้าเขากลับมาแล้ว”
ผลการรายงานทำให้หัวหน้ากิลด์ซิธีรินถึงกับปวดหัว
“ฉันหวังว่ามันจะตาย
แต่ตอนนี้มันกับกลับมาอย่างงั้นเหรอ?”
“ครับ
มีข่าวว่าเขากำลังสร้างประติมากรรมอีกชิ้นครับ”
“อะไรกันวะ!? มันกำลังสร้างประติมากรรมอีกชิ้นเหรอ”
หัวหน้ากิลด์ซิธีรินกุมขมับ
มันไม่มีทางที่จะแข่งกับประติมากรนั่นได้ เงินลงทุนทั้งหมดของกิลด์ที่ใช้พัฒนาเมือง...ช่างสูญเปล่า
ด้วยความสามารถอันชาญฉลาดของเขาวีดได้สร้างประติมากรรมอันยอดเยี่ยมทั่วทั้งทวีปเวอร์เชล
เมื่อไรก็ตามที่เขาสร้างประติมากรรมผลลัพธ์ที่ได้มันยิ่งใหญ่มาก
หัวหน้ากิลด์ซิธีรินแทบจะเป็นลมทันที
“ท่านหัวหน้าครับ พวกเราได้รับข่าวร้าย”
“ข่าวอะไร?”
“วีด เคาท์แห่งมอราต้าคือวีดจากCoM(Continient
of Majic)”
“อารายยนะ!?!”
วีด
ราวกับเวทมนต์ ชื่อนั้นทำให้บรรดาสมาชิกกิลด์ซิธีรินทั้งหมดรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก
ไม่ต้องสงสัยเลยชื่อเสียงอันไร้คุณธรรมของวีดทั้งฆาตกรรมลักทรัพย์และชิงทรัพย์เขานั้นไร้ความปราณี
กิลด์ซิธีรินรู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับภูเขาลูกใหญ่
พวกเขายังไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง
“ใช่มันจริงๆเหรอ?
แกแน่ใจนะว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ?”
“แต่มันมีความเป็นไปได้แน่ๆว่าเขาคือวีดคนนั้น
เทพสงครามวีด”
“เชื่อได้แน่นะ? ในคำพูดของคนที่เล่าให้แกฟัง”
“ข่าวในช่องที่กำลังออกอากาศนั้นเกือบถูกต้อง100%เลยนะ”
“.....”
กิลด์ซิธีรินเงียบไปชั่วขณะ
ด้วยความโหดร้ายและความแข็งแกร่งของวีดในการยึดครองเมืองโมราต้าไม่ใช่ความท้าทายธรรมดาแน่ๆ
เมื่อนึกภาพ วีดที่กำลังโมโห มันพอที่จะทำให้ศัตรูของเขาหนีหายไปจนหมด
เพื่อจะหลีกเลี่ยงหมาป่าอันดุร้ายในดินแดนเหนือ
คุณต้องหลบอยู่ในโพรง
อย่างไรก็ตามคุณจะพบในภายหลังว่าโพรงที่คุณหลบอยู่เป็นถ้ำของเสือมันเป็นฝันร้ายดีๆนี่เอง
กิลด์ซิธีรินพยายามให้เหตุผลเพื่อเรียกขวัญกำลังใจคืน
“ข่าวลือทั้งหมดไม่ได้มาจากข้อเท็จจริงหรอก
ข่าวสารส่วนใหญ่เป็นเพียงข้อมูลชั้นรอง”
“อะไรนะ?”
“ข่าวลือกับข้อเท็จจริงลองเปรียบเทียบกันดูสิ
วีดที่เป็นมิตรกับวิหารเฟรย่าห์ เขายังมีมังกรน้ำแข็งแต่เรารู้ได้ยังไง?
พวกเรายังไม่เคยเลยใช่มั้ยละ?! ฉันไม่สามารถพูดได้ว่ามันเป็นความจริงถ้ายังแยกได้ระหว่างข้อเท็จจริงกับข่าวลือ”
“แล้ว...”
“ใครมีข้อขัดข้องกับกิลด์ของเรา?
กิลด์ของเราทั้งหมดจะรุมบดขยี้”
นั่นเป็นคำที่กิลด์ซิธีรินต้องการจะได้ยินมานาน
“ใช่แล้ว! วีดมีอาชีพประติมากรใช่มั้ยละ?!
เขาไม่อาจแข็งแกร่งได้หรอก”
“มันค่อนข้างโชคดีจริงๆนะ”
“นี่เป็นโอกาสของพวกเรา!”
กิลด์ซิธีรินเริ่มแผนการบุกยึดโมราต้า
พวกเขาเกณฑ์พลครึ่งหนึ่งของเมืองไปสู้ มีผู้เล่นระดับสูงมากกว่า600คนของกิลด์ซิธีริน พร้อมกับทหารรับจ้างจากตอนกลางของทวีปกว่า2,000นาย กองทัพขนาดใหญ่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเข้ายึดเมืองโมราต้า
“ฉันต้องการจะกล่าวอะไรสักอย่างก่อน”
“ครับท่านหัวหน้า”
“ไปถล่มโมราต้ากันเลย”
“......”
***
วีดรวบรวมสมาธิเพื่อพัฒนาสกิลการตัดเย็บของเขาเพราะการทำตุ๊กตาต้องใช้สกิลพิเศษ
หลังจากถึงเลเวลนึงสกิลการผลิตเริ่มผสานเข้าด้วยกัน
ช่างตีเหล็กสามารถสร้างงานที่ดีและมีรายละเอียดมากขึ้นช่างตัดเย็บ ตัดผ้าได้หลากหลายขึ้นและประติมากรแสดงผลงานที่ดีที่สุดเมื่อสร้างผลงานชิ้นไฮบริด(ลูกผสม)
‘นี่คือตุ๊กตาเด็ก’
หลังจากการทดลองที่ล้มเหลวหลายครั้ง
หนึ่งในนั้นคือการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นแมกนัมที่สามารถท้าทายกับการสรรค์สร้างของพระเจ้าได้
ด้วยความคิดเช่นนั้นวีดได้ทำงานอย่างหนักหน่วงแต่ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบก็ยังไม่ปรากฏ
‘เด็กผู้หญิงที่น่ารัก
ตุ๊กตาที่บริสุทธิ์และสันติสุข’
วีดบีบจมูกของเขา หนังของราชาไฮดราถูกวางซ้อนขึ้นเป็นกองภูเขากำลังค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ
ขณะที่อาวุธทองสัมฤทธิ์และเหล็กสามารถนำมารีไซเคิลโดยการหลอมมันลงด้วยเตาแต่มันใช้ไม่ได้กับกรณีที่เป็นหนังสัตว์
‘เด็กที่กำลังดื่มชาอาจจะ...มันน่าจะดูง่ายเกินไปและดูไร้ความหมาย
มันต้องมีความสมดุลระหว่างความสุขสรรค์และความโศกเศร้าสว่างและมืด’
ถ้าเขาสร้างประติมากรรมที่มีความโศกเศร้าล้วนๆเช่นเด็กที่ร้องไห้หรือกรีดร้องมันจะไม่ได้ผล
ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกของพวกเขาร้องไห้โดยเฉพาะคนที่ไม่อาจจะมีลูกได้ตั้งแต่ตอนแรก
‘ต้องสร้างผลงานชิ้นแมกนัม...’
วีดรู้สึกระส่ำระส่าย มันเป็นสถานการณ์ที่เขาคิดว่าทุกอย่างดูผิดไปหมด
‘เราคิดว่าเราอาจจะสร้างประติมาติซอยูนตอนที่เป็นเด็ก?’
หลุดจากความเป็นจริง!
เขาคิดไปถึงวิธีการที่ง่าย
แต่อย่างไรก็ตามเขาส่ายหัวทันทีว่าเขาคิดผิด
‘มันโดลมอบหมายงานนี้ให้กับเรา
มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน’
คำตอบของปริศนานี้คือมันเป็นสิ่งที่ยากมากที่สุดยิ่งกว่าเควสของเขาที่เคยได้ทำ
โดยการทำตุ๊กตา สกิลการแกะสลักของวีดเพิ่มขึ้นถึงขั้นสูง เลเวล7(35%)
ถึงแม้จะเป็นค่าประสบการณ์ทั้งหมดที่เขาได้จากการทำตุ๊ตาแต่เขายังต้องการมากกว่านี้
‘เราต้องการ
แกะสลักเด็กสาวที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ มันคงจะไม่โลภเกินไปนะ’
ความสิ้นหวังของวีดเพิ่มขึ้น
กลุ่มของนักสำรวจดันเจี้ยนเพิ่งเริ่มออกสำรวจซากวิหารเอมบินยู แต่วีดที่เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของเควส
กำลังเก็บตัวเพื่อทำตุ๊กตา เขาติดอยู่กับความคิดที่ผิดพลาดอันมากมาย
ตุ๊กตา ตุ๊กตา ตุ๊กตา ตุ๊กตา!
“อ้ากกกก!”
ลีฮุนเริ่มเตะฟูกของเขา
เขายังกังวลจนนอนไม่หลับ
‘ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะเป็นทุกข์เพราะตุ๊กตาอีกครั้ง’
ประติมากรรมเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆไม่อาจสลัดไปจากความคิดของเขาได้
‘บางทีเราต้องการแค่
แกะสลักมันขึ้นด้วยเงินหรือทองคำ ดังนั้นรูปลักษณ์มันคงไม่สำคัญ...’
ทางออกมันไม่ได้ง่าย
ถ้าเขาทำมันชื่อเสียงที่เขาพยายามสะสมมา อาจจะพังลงในพริบตา
‘เราไม่อาจทำคำขอนี้ได้สำเร็จ’
การยอมแพ้เพราะว่ามันยากเกินนั่นไม่ใช่สไตล์ของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาต้องหาแนวทางให้ได้!
ลีฮุนไปตลาดเพื่อให้ใจเย็นลง
ตลาดตอนเช้าเต็มไปด้วยคนกำลังขายเนื้อสัตว์และผัก
อย่างไรก็ตามแม้ในสถานที่แห่งนี้เขาก็ยังมีความคิดเกี่ยวกับประติมากรรมเด็กสาว
‘บางที่เราควรอ่านเรื่องเกี่ยวกับสูตินรีเวชวิทยา?’
ณ สถานที่ที่คุณสามารถพบเห็นเด็กที่ไม่มีใบหน้า
‘คุณต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กบ่อยๆจากการร้องไห้เพราะหิวหรือนอนไม่หลับ’
ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนจะช่วยเขาเกี่ยวกับการแกะสลักเด็กผู้หญิงเลย
ระหว่างทางกลับบ้านลีฮุนเดินผ่านร้านถ่ายรูป
มีรูปตั้งโชว์เป็นรูปคู่แต่งงานกับลูกของพวกเขา หลังจากได้จ้องมองภาพเป็นเวลานาน ในที่สุด
ลีฮุนก็บรรลุ
‘คุณเพียงแค่เปลี่ยนมุมมองของประติมากรรม
พ่อแม่มีมุมมองที่แตกต่างกันจำนวนมาก เราคิดอย่างนั้นนะ’
แม้จะเป็นรูปธรรมดาๆแต่มันมีค่ามากกับพ่อแม่ของเด็ก
วีดพยายามที่จะมองมันจากมุมมองของพ่อแม่ที่กล่าวคำอำลากับลูกของพวกเขา
รูปของเด็กทารกกำลังซุกอยู่ที่หน้าอกของคุณแม่!
“ความคิดของการทำตุ๊กตาเด็กมันผิดในตัวมันเอง!”
ลีฮุนตะโกนขึ้นมา
เมื่อพิจารณาปัญหาจากมุมมองของพ่อแม่
เขาก็พบคำตอบของปัญหานี้
ผู้แปล:
garnotics
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ที่มา:
http://japtem.com/lms-volume-17-chapter-6/
ไฟล: https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM
ไอ้พวกที่ยกมานี้ตายยกเล้าแน่และเมืองจะโดนยึดด้วย5555
ตอบลบชอบเรื่องนี้ ผู้เขียนให้มุมมองเรื่องต่างๆ แปลกๆดี
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเนื่องจากมีสงคราม วีดจึงขอขึ้นภาษี คอยดูเถอะมันรอจังหวะนี้แหละ
ตอบลบ555+
ใช่แน่ๆ
ลบอีกเสียง 555+
ลบรอดูสงครามโดนยำฝ่ายเดียว
ตอบลบเดะวิหารเฟยย่ายกทัพมาแน่ๆหุหุ
ตอบลบเด๋วรู้ 555+ วีดคนเดียวสู้กับคนทั้งเมือง แค่มังกือของมันจามทีเดียวก็ตายยกเมืองแล้ว
ตอบลบ#ทีมวีด
ยกมาทั้งกิลล์เพื่อประเคนอาุธให้เทพวีดนี่เอง 555
ตอบลบอย่ามาบุกตอนวัดตั้งใจแกะสลักนะ เดี๋ยวรู้เรื่อง 5555555
ตอบลบRip กิลน่าโง่ ไม่เขาทางมันทำไมเนีย
ตอบลบทำไมรู้สึกสงสารกิลที่มาบุกจัง555555 #ปาดน้ำตาที่คลอเบาๆ
ตอบลบอยู่ดีๆก็มีคนยกทัพมาหาเรื่องเจ็บตัวซะงั้นหรือนี่ : 3
ตอบลบเหมือนมาดรอบของให้วีดขายเลยตัวประกอบราคาถูก50วอนสินะ
ตอบลบมาแจกไอเทมให้ชัดๆ (กำลังได้ฐานอำนาจรอบๆโมราต้าเพิ่มแล้ว) 555+
ตอบลบเงิบเลย...ขนาดกิลขนาดใหญ่ยังคิดหนัุกเลย ถ้าจะมาตี
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้ออ
ขอบคุณคนับ
ตอบลบ