เล่มที่ 28 บทที่ 2 บาร์ดเรย์และราชองค์รักษ์ แปลโดย Acid
กรด
ซาคิน: เก็บกวาดชั้นที่1อย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นดำเนินการเจาะทะลวงเปิดเส้นทางให้เพื่อบาร์ดเรย์ลงไปยังชั้นที่2
เหล่าราชองครักษ์และนักฆ่ารัตติกาล 2
หมู่จากกิลด์เฮอร์มิส ได้ระดมกำลังเข้าต่อสู้ในเหมืองเมลเบิร์น
กิลด์นักฆ่ารัตติกาล มีมือสังหารไม่ต่ำกว่า
300 คน 2 กลุ่ม จาก 80 มือสังหารชั้นนำที่ถูกคัดเลือกมาด้วยพลังอันน่าหวาดหวั่น
เหล่านักฆ่ารัตติกาลสองกลุ่มนั้นเพียงพอที่จะจัดการกิลด์เล็กๆได้อย่างราบคาบ
พวกนักฆ่ารีบวิ่งออกไปพร้อมอาวุธในมือ
"อ๊าก.ก.ก.ก!"
"ข้าจะไปจากดันเจี้ยนนี้ ขอชีวิตข้าเถอะ"
"ทุกคนถูกฆ่าโดยไร้ความปราณี รีบหนีไป เร็วเข้า!"
ผู้เล่นที่ออกล่าในเหมืองเมลเบิร์นถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น บ้างก็ร้องขอชีวิต
บ้างก็สาปแช่งแต่พวกนักฆ่าจากกิลเฮอร์มิสไร้ซึ่งความเมตตา มันเป็นแหล่งรายได้ชั้นดีสำหรับพวกเขา(บาร์ดเรย์)ดังนั้นจึงฆ่าทุกคนไม่ให้
เล็ดรอดออกไปได้ บาร์ดเรย์กับราชองค์รักษ์เดินผ่านซากศพบนพื้นชั้นที่ 2
************************
"พี่ชาย, พวกเราจะทำยังไงดี? มีการโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวแล้วพวกเราจะตายไหม?"
"ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจริงไหม? พวกเราก็แค่ก้าวไปอย่างระมัดระวัง"
"นั่นน่ะ...."
เฮเกลอธิบายเนื้อหาในช่องสนทนาของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ
"โอ้ว, พวกมันช่างเลวจริงๆ"
"โชคไม่ดีจริงๆ"
อลิส(Alice) กับ ไดน์ (Dine)ทำให้วีดรำคาญ
แต่เขาเป็นคนชอบดื่มนมให้หมดจนหยดสุดท้าย
แม้ว่านมจะหมดอายุมาสองเดือนแล้ว
เพราะฉะนั้นวีดจึงอยู่กับพวกเขาและพบว่าปัญหาร้ายแรงนี่สายเกินแก้แล้ว
"กองกำลังจากกิลด์สิงโตทมิฬจะหยุดพวกมันได้ ใช่ไหม?"
"เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นในหลายๆที่ ณ ช่วงเวลาเดียวกัน สงครามกำลังเกินเลย ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะส่งความช่วยเหลือมาที่นี่
"
กิลด์สิงโตทมิฬมีประสบการณ์ผ่านสงครามมาแล้วมากมาย เฮเกลก็มีประสบการณ์ในการเอาชนะเหนือศัตรูมาแล้วด้วยเช่นกัน
แต่เวลานี้มันเป็นสถานการณ์ที่หายากมากที่พวกเขาจะถูกโจมตี!
โดยปกติถ้ามีพื้นที่ออกล่าหรือดันเจี้ยน หมู่บ้านก็จะอยู่ในบริเวณนั้นเป็นธรรมชาติ
การส่งปาร์ตี้เข้าจู่โจม จัดได้ว่าเป็น
กลยุทธ์ที่อันตราย เพราะไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย
วีดถอนหายใจเมื่อเขาพบว่ากิลด์สิงโตทมิฬกำลังวุ่นวายมากในการควบคุมสถานการณ์
"ค่ารักษาพยาบาลลดลงคงเกิดขึ้นตอนนี้ละ" (คงหมายถึง ตายไม่ต้องรักษากันเลย
- ผู้แปล)
"เอ๊ะ?"
"เป็นอย่างที่ว่านั่นละ"
เขาคิดว่านี่จะเป็นเรื่องไม่ลำบากที่จะขอบคุณเฮเกล, เพียงแค่มีเหตุร้ายแบบนี่เกิดขึ้นอีกครั้ง
"ผมไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด ถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนระหว่างที่
กิลด์บีเดนกำลังเข้าโจมตี"
บางสิ่งแบบนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไม่รู้แม้แต่ตัวตนของศัตรู มันอาจจะสายเกินไปเมื่อพวกเขาประเมินมัน
วีดหยุดการทำประติมากรรมและยืนขึ้น
"พวกสมาชิกของกิลด์สิงโตทมิฬในเหมืองตัดสินใจจะทำยังไง?"
"พวกเขาพยายามโจมตีโต้กลับ แต่ผมได้ยินรายงานว่าพวกศัตรูที่ชั้นแรกไม่ได้กระจอกเลย
ดังนั้นพวกเราตัดสินใจรวมกำลังกันที่ชั้นสี่"
"เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ? แล้วฉันจะไปที่นั่นได้ไหม?"
"คงไม่เป็นไรหรอกถ้าผมจะนำรุ่นพี่ไปด้วย"
"ขอบคุณ ไปกันเถอะ"
วีดตรวจสอบกระเป๋าสะพาย
เขาเก็บอุปกรณ์บางส่วนไว้ในกรณีที่จำเป็นต้องพบกับพวกขุนนางหรือชนชั้นสูง
แต่ดาบปีศาจโคลเดอริม(Kolderim’s Daemon Sword),
เกราะทัลล็อค(Talrock’s
Armour), โล่โบราณ(the Ancient Shield), ไม้เท้าเทพ(Saint’s
Staff), ชุดเต็มยศบัลข่าน(Barkhan’s
full set), สร้อยข้อมือบาฮาราน(Baharan’s
Bracelet) และแหวนแต่งงานซึลโร(Seulroeo’s Wedding Ring) ที่มีอยู่ตอนนี้
ถ้าเขาสูญเสียสิ่งหนึ่งสิ่งใดในไอเทมเหล่านี้ไป
มันจะส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างใหญ่หลวง
'ต่อให้พลังของกิลด์สิงโตทมิฬแผ่ขยาย, อำนาจที่แท้จริงของผู้รุกรานก็ไม่ธรรมดา'
วีดไม่อาจคาดคิดว่าผู้คนในเหมืองเมลเบิร์นเป็นบาร์ดเรย์และกิลด์เฮอร์มิส
แม้กระนั้น, พวกเขาจำเป็นต้องมีในเลเวลสูงมาก ถ้าพวกเขาจะก้าวข้ามกิลด์สิงโตทมิฬ
การตัดสินจากการแสดงออกของเฮเกลและผู้บุกรุกจำนวนมาก, นี่เป็นวิกฤตครั้งใหญ่จริงๆ
เหมืองเมลเบิร์นทั้งหมดเป็นสนามรบดังนั้นการออกจากระบบจึงเป็นไปไม่ได้
"ลงบันไดไปชั้นล่างๆกันเถอะ"
วีดมีแผนที่ของเหมืองด้วย ดังนั้นเขารู้เส้นทางคร่าวๆ
"รุ่นพี่ครับ, ผมจะเปิดทางให้เอง"
เฮเกลกล่าวขณะที่กระชับดาบและโล่
"ไม่มีเวลาแล้วตอนนี้"
วีดชักดาบปีศาจออกมา
แต่แล้วก็มีความรู้สึกน่าขนลุก! วีดกระโดดข้ามช่องว่างและโจมตีใส่เจ้าเมนชูร่า(Menchura
- แมลงสาปพ่นไฟ)
ที่ตัวแข็งทื่อด้วยเสน่ห์ความเป็นผู้นำและจิตวิญญาณการต่อสู้ของวีด
มันไม่สามารถแม้แต่จะโจมตีวีดและยังคงสั่นสะท้านอย่างน่าสมเพช
ฉับๆ!
-
เจ้าเมนชูร่าได้ตายลงจากการโจมตีแบบล้างผลาญ
เขาไม่ได้เล็งไปที่จุดสำคัญเลย มันตายจากการถากของดาบปีศาจ!
เจ้าเมนชูร่าทั้งหมดที่ปิดกั้นเส้นทางได้ล้มตายเพียงแค่การสัมผัสของวีด
"โอ้ว?"
เฮเกลรู้สึกเจ็บแค้นใจ เขาเพิ่มเลเวลมากถึง 330
ด้วยการออกล่ากับกิลด์ของเขา เจ้าเมนชูร่ายังคงเป็นที่น่ากลัวแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับนี้
แต่เพียงแค่การกวัดแกว่งดาบของวีด มันเหมือนเป็นเรื่องตลกและการฆ่าเจ้าเมนชูร่าแทบจะเป็นไปไม่ได้
'พี่ชายทุกคนที่ก่อตั้งกิลด์สิงโตทมิฬก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก'
เฮเกลไม่อาจแสดงความสามารถเต็มที่ของเขาในการต่อสู้ เพราะเขาขาดการตัดสินใจและสัมผัสของตนเอง
แต่ผู้เล่นมากมายรวมทั้งเฮเกล
ต่างก็อ่อนแอเมื่อเทียบกับเลเวลของพวกเขา
เมื่อวีดเลเวล 330, เขาได้ต่อสู้กับมังกรกระดูกและออกท่องไปในเมืองโทเดียม
นี่เป็นเพราะเขาเพิ่มค่าสถานะมากว่าส่วนอื่นๆและเขายังยกระดับทักษะอีกมากมายอยู่เสมอ
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นอื่นๆที่เคยชินกับการสวมใส่อุปกรณ์ดีๆและเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ปานกลาง
ขณะที่วีดกำลังกินขนมปังข้าวบาเลย์,
ผู้เล่นอื่นๆมีชีวิตท่ามกลางการกินสเต็กเนื้อปรุงอย่างดี
วีดจัดการเจ้าเมนชูร่าแล้วถาม
"เมื่อไรกองหนุนจากกิลด์สิงโตทมิฬจะมา?"
"ผมก็ยังไม่ทราบ ขณะนี้สถานที่อื่นๆมีความเร่งด่วนมากกว่า ผมไม่สามารถบอกเวลาพี่ได้"
วีดต่อสู้อย่างต่อเนื่องระหว่างที่ทำการสำรวจพื้นที่
บางปาร์ตี้ยังคงออกล่าเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้รับข่าวสารเลยและผู้เล่นบางคนก็พูดคุยกันด้วยเสียงดัง
"พวกคุณมีข้อมูลอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับศัตรูที่ปิดเส้นทาง?"
"ผมไม่ทราบเลย"
"งั้นคุณก็ไม่ทราบสิว่าศัตรูมีจำนวนมากแค่ไหน?"
"มีข้อมูลนิดหน่อยที่เพิ่งจะมาจากเหมืองเมลเบิร์นเมื่อตะกี้นี้เอง มีพวกมันอย่างน้อย
300 คน"
"ประเมินเลเวลของพวกเขาได้ไหม?"
"สถานการณ์กำลังบานปลาย ผู้เล่นคนหนึ่งจากกิลด์ของเราที่ออกล่าในชั้น4
ได้เข้าต่อสู้กับหนึ่งในพวกมันที่ชั้นแรกและเสียชีวิต ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขามีเลเวลถึง
367"
เมื่อถึงระดับนี้, ไม่ใช่แค่ใบเสร็จเก็บเงินของโรงพยาบาล
แต่ค่าประกันก็ต้องจ่ายด้วยเช่นกัน
'มันเป็นเรื่องอันตรายจริงๆ'
วีดเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น
เขาได้เรียนรู้วิธีที่จะมีชีวิตอย่างเหมาะสม(เอาตัวรอด - ผู้แปล) เมื่อเขายังเป็นเด็ก
เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากสังคม
ในขณะที่เขาเจริญวัยขึ้น อดทนต่อความอยุติธรรมได้อย่างไร
ทำอย่างไรเมื่อการทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย
วิถีทางที่จะเหยียบย่ำเหนือผู้อื่นเพื่อแย่งชิงมันมา
( takeaway - an act of taking the ball away
from the opponent
เป็นความหมายในวงการกีฬา
หมายถึงการแย่งบอลมาจากคู่ต่อสู้ - จาก facebook English
Nid Nid - ผู้แปล)
"มันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะอยู่อย่างซื่อสัตย์.....ไม่ต้องประหลาดใจคนดีอย่างฉันไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากทนทุกข์ทรมานและแค้นเคืองโลกใบนี้"
"เอ่อ?"
"ไม่เป็นไร"
เมนชูร่าฝูงหนึ่งได้มารวมตัวกันที่ทางเข้าลงไปชั้นสาม
เจ้าพวกมอนสเตอร์ในเหมืองเมลเบิร์นเกิดการ
ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วมากปรกติ แล้วมันเป็นเงื่อนไขสำหรับการออกล่าที่ดี
แต่มันเป็นแค่อุปสรรคในสถานการณ์แบบนี้
"ฉันจะเปิดทางให้เอง"
วีดมีทักษะดาบมากมาย แม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนทักษะทั้งหมด, เขาให้ความสนใจกับทักษะพิเศษบางอย่าง
เพลงดาบจักรพรรดิไร้รูป!( Imperial Formless Sword style)
มันสามารถใช้ได้อย่างเหมาะสมสำหรับการออกล่าตราบเท่าที่เขาไม่ทำลายอาวุธของฝ่ายตรงข้าม
เขาอาจชนะในการต่อสู้แต่บอกไม่ได้ว่าของดรอปแล้วเขาอาจจะไม่ได้รับอะไรเลยถ้าเขาพลั้งมือทำอุปกรณ์พัง
เคล็ดมีดแกะสลัก, เพลงดาบเฮอร์ริม และ
เพลงดาบประกายแสง, วีดมีทักษะหลากหลายที่สามารถใช้ได้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการต่อสู้
เพลงดาบประกายแสงเป็นการต่อสู้ในวงกว้างโดยใช้แสงได้อันงดงาม
"ถ้าฉันกินไก่อบทั้งตัวเป็นของว่างเที่ยงคืน มันจะทำให้ฉันไม่สามารถกินเนื้อย่างริบอาย*ได้"
มีดฆ่าไก่ไม่สามารถใช้ฆ่าโคได้ (น่าจะคล้ายๆ ฆ่าไก่ใยต้องใช้มีดฆ่าโค -
ผู้แปล)
สร้างระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมนชูร่า, โดยใช้เพลงดาบประกายแสงแค่นี้เป็นการเหยียดหยามมอนสเตอร์
"หา?"
เฮเกล, อลิซ และไดน์
ไม่เข้าใจความหมายของคำที่วีดกำลังบ่นพึมพำออกมา
"พี่ชาย, ให้พวกเราช่วยกันสู้เถอะ"
"ไม่ ฉันจะจัดการมันคนเดียว"
วีดเดินหน้าตรงเข้าหาเมนชูร่าที่รวมมาตัวกันอยู่ตรงชั้นที่3
ครี๊ก.ครี๊ก.ก.ก!
ครุย.ยุ.ยุ!
เจ้าพวกเมนชูร่าไม่สามารถข่มขู่เขาได้ ในสายตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างล้ำลึก
จิตวิญญาณการต่อสู้ของวีดถูกปลดปล่อยออกมาอย่างร้อนแรงเมื่อเริ่มการต่อสู้
เทพสงคราม
วีดต่อสู้ทำศึกมานับไม่ถ้วนกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์
ดังนั้นเจ้าเมนชูร่าจึงพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา
เจ้าเมนชูร่าหลีกไปด้านหลังแต่
โดยดีเพื่อหลบหนี เพียงแค่คนคนเดียวเคลื่อนเข้าหา
แต่แมนชูร่าทั้ง 17 ตัวกำลังวิ่งหนี
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับวีดที่จะทิ้งค่าประสบการณ์
และไอเท็มเพื่อลงไปยังชั้นที่3
"เคล็ดมีดแกะสลัก!"
ดาบของวีดพุ่งตรงเข้าหาเจ้าแมนชูร่า
เหล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดกลายเป็นกองซากภายใต้รัศมีดาบ! มันเป็นเรื่องน่าตกใจกับทุกคนที่ได้เห็นเจ้าแมนชูร่าหายไปพร้อมกันหมด
เวลานี้เจ้าแมนชูร่าหมดท่าที่จะโจมตีกลับ ถึงแม้ว่ามีแรงกดดันจากจิตวิญญาณการต่อสู้ของวีด
วีดยินดีต้อนรับการโจมตีของพวกมันด้วยร่างกายของเขา
วีดอยู่ในสถานะที่เขาไม่ได้สวมเกราะที่เหมาะสม
เพราะมันถูกเก็บไว้
-การโจมตีของแมนชูร่าถากคุณไป
พลังชีวิตลดลง 46
-
การโจมตีของแมนชูร่าได้โจมตีสำคัญ
ความอึดของคุณได้เพิ่มขึ้นจากความเจ็บปวด
คุณได้อดทนต่อความเสียหาย ต้องขอบคุณต่อความยืดหยุ่น
พลังชีวิตลดลง 159
วีดรู้สึกจั๊กจี้!
"มาเก็บกวาดให้เรียบร้อยกัน"
พวกมอนสเตอร์ที่รวมตัวกันรอบๆทางเข้าชั้นบริเวณ3 หายวั๊บไปอย่างรวดเร็ว
วีดจะทำภารกิจปรมาจารย์ของเขา
สำเร็จได้ไม่เพียงแค่ในเหมืองเมลเบิร์น
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถต่อสู้ได้มากอย่างที่เขาต้องการ เขาต้องการให้แน่ใจว่าหลังกวาดล้างพวกมันจะไม่มีชีวิตรอดไปได้สักตัว
"ว๊าว! พี่ชาย, คุณนี่เยี่ยมสุดๆเลย"
"แข็งแกร่งมาก! ทักษะการต่อสู้นี้ชื่ออะไรคะ?"
อลิส และไดน์ เริ่มการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่น่าสนใจ
เฮเกลใช้เวลาไปอย่างน่าอายและมันเป็นฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
'อ้า...มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน'
ช่างประติมากรรมคนแคระวีด!
เขาจำได้ถึงการเคลื่อนไหวที่น่าแปลกประหลาดของวีดในดันเจี้ยนคาร์มาดอร์
และเมื่อพวกเขาลงไปยังชั้นที่3,
พวกผู้เล่นก็รู้สึกได้และเตรียมรับมือ
"คนพวกนั้นมาจากไหนกัน?"
"ฉันก็ไม่รู้แต่ดูเหมือนพวกเราต้องสู้กันอย่างดุเดือด
ดังนั้นพวกเราจะต้องเตรียมตัวต่อสู้"
เหล่าสมาชิกกิลด์สิงโตทมิฬกำลังให้คำแนะนำแก่ผู้เล่นที่ลงไปยังชั้นที่4 เหมืองเมลเบิร์นชั้นที่4 เป็นอุโมงค์
ซึ่งทางเข้าแคบเป็นอุปสรรคอย่างมาก
ถึงกระนั้นก็เป็นชัยภูมิที่เหมาะกับการต่อสู้ เหล่าสมาชิกเชื่อว่ากิลด์สิงโตทมิฬ
จะส่งกำลังมาเสริมมา แม้ว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร
ดังนั้นพวกเขาจึงนำผู้เล่นจากชั้นที่3ลงมา
"รุ่นพี่ครับ,รีบไปกันเร็วๆ"
เฮเกลจะรู้สึกโล่งใจมากขึ้นถ้าเขาได้อยู่กับสมาชิกในกิลด์ของเขาดังนั้นเขาจึงต้องการเร่งรีบ
แต่วีดมีงานต้องทำที่ชั้น 3
"ดูเหมือนมีผู้คนมากมายอยู่ข้างล่าง...นี่เป็นโอกาสอันดี"
"โอกาสแบบไหนกัน?"
"ฉันไม่สนใจหรอกนะถ้านายจะลงไปก่อน"
วีดเอาอีเต้อออกมาจากกระเป๋าสะพายและมุ่งหน้าไปยังบริเวณเหมือง ยิ่งเหมืองลึกเท่าไหร่,แร่เหล็กที่เกิดก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น แน่นอนเขายังขุดเอาพวกไพลินออกมา
แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!
ได้ไพลินออกมามากมาย ต้องขอบคุณทักษะการใช้อีเต้อของเขา
มันเป็นเทคนิคที่ควบคุม
การใช้พลังให้สอดคล้องกับน้ำหนักของอีเต้อและเล็งที่จุดอย่างแม่นยำ
มันคล้ายกับการโจมตีที่ใช้ในการต่อสู้กับศัตรูตัวโตๆ
-คุ คุ อิ อิ อิ
-ปลดปล่อยความขุ่นเคืองใจของพวกเราเถอะ
คนเลวพวกนั้นขังลืมพวกเราไว้ที่นี่เพื่อไห้อดตาย
-แกต้องเป็นผู้รับใช้ที่ส่งมาจากกษัตริย์ทัลเลน
วิญญาณแห่งความโกรธแค้นปรากฏกายบริเวณชั้น 3 ทุกๆครั้งที่มีใครสักคนเริ่มขุดเหมือง
พวกเขาเป็นอัศวินล้มตายด้วยความเกลียดชังต่อเหล่าผู้บุกรุก
การต่อสู้จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาปรากฏตัวเหล่าทหารจึงจำเป็นต้องปกป้องชาวเหมือง
และแน่นอน, ชาวเหมืองทั้งหมดต้องเคลื่อนย้ายไปกับกลุ่มปาร์ตี้ที่ออกล่า
นี่เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับนักบวชในการออกล่าด้วยเวทมนตร์ชำระบาปของพวกเขา
"รอสักครู่"
-
เขาพูดอะไรน่ะ? การแก้แค้นคือความปรารถนาของพวกเรา.....
"เอ้าเอานี่ไปแล้วกินมันด้วย"
วีดโยนแอปเปิ้ลให้พวกวิญญาณ
-แอ๊ปเปิ้ล
-มันสุกงอมและอร่อย
พวกวิญญาณปีศาจต่อสู้กันเองเพื่อแย่งแอปเปิ้ล
ด้วยความโลภแอปเปิ้ลก็หายไปด้วยการกัดเพียงไม่กี่คำ
-หวาน
-ขอกินอีกหน่อยเถอะนะ
-พวกเราจะไม่ฆ่าเจ้าหรอก
"ฟิ้ว"
วีดถอนหายใจขณะที่กำลังเคลื่อนอีเต้อของเขาและเริ่มโยนผลไม้ไปให้ทีละตัวๆ
-ความเป็นเพื่อนของคุณกับวิญญาณเพิ่มขึ้น
สายใยแห่งความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้เกิดขึ้นกับเหล่าวิญญาณในเหมืองเมลเบิร์น
ถ้าเขามีเวลาแล้วการจับวิญญาณในเหมืองเมลเบิร์นจะไม่เป็นเรื่องยาก
เคล็ดมีดแกะสลักและเพลงดาบประกายแสงเป็นเทคนิคที่แม้จะสามารถจัดการกับพวกวิญญาณได้
แต่ขณะนี้กองกำลังที่เป็นอันตราย
ได้เข้ามาในเหมือง ดังนั้นวีดไม่อยู่ในสถานะที่ต้องทำอย่างนั้น
"ยังมีชีวิต และให้ผลไม้กับพวกวิญญาณ, ชะตากรรมของพวกเขา...."
วีดร้องเพลงขณะที่เขาเพ่งความสนใจไปที่อีเต้อของเขา
-ลอยไปลอยมา, ดูนั่นซิ
-เจ้ากำลังหาอัญมณีสีฟ้าที่ส่องประกายอยู่ใช่ไหม? มีบางส่วนอยู่ทางด้านขวา
วีดไปขุดยังบริเวณที่พวกวิญญาณบอกเขาและด้วยทักษะการทำเหมืองขั้นกลางของเขาไพลินจำนวนมากก็ร่วงเทออกมา
พวกวิญญาณชอบผลไม้และให้ข้อมูลที่มีค่ากับเขาเรื่องตำแหน่งของเหมือง
-หินอัญมณีไพลินขนาดกลางได้ถูกขุดพบ
โชคเพิ่มขึ้น 1
-หินอัญมณีไพลินขนาดใหญ่ได้ถูกขุดพบ
โชคเพิ่มขึ้น 2
ระดับความเชี่ยวชาญในทักษะการทำเหมืองเพิ่มขึ้น
"สำหรับทักษะการทำเหมืองที่ใช้ในภารกิจปรมาจารย์แกะสลัก....."
มันหมายว่าตัวละครนั้นจำเป็นต้องทำได้ทุกอย่างเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ
เขาต้องการไพลินเพื่อใช้ทำภารกิจให้สำเร็จ
ดังนั้นการหาได้เยอะๆจึงเป็นเรื่องดี
เขาจำเป็นต้องใช้พวกมันเพื่อทำประติมากรรม
ฉะนั้นความแตกต่างของของขนาดก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน
วีดยังคงก้มหน้าก้มตาขุดต่อไปแม้ว่าจะพอใจในปริมาณบรรดาอัญมณีทั้งหลาย
"ฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรฉันจะได้ภารกิจแบบนี้อีก"
ทักษะการทำเหมืองของวีดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาขุดเอาไพลินหลากหลายคุณภาพออกมา
ไพลินนั้นสวยงาม ดังนั้นพวกเขาจะนำไปเข้ากระบวนการทำเครื่องประดับหรือมอบให้ผู้วิเศษอาวุโส,
มันยังเพิ่มคุณสมบัติให้กับพวกดาบและชุดเกราะ
เครื่องประดับที่เพิ่มค่าความเสียหายการโจมตีสามารถขายได้ในราคาสูง
"รุ่นพี่ครับ, ตอนนี้หยุดก่อนเถอะ"
พวกเขาไม่กล้าผละออกจากวีด ดังนั้นเฮเกลและรุ่นน้องทั้งสองของเขาจึงกระวนกระวายใจ
วีดที่ถูกรายล้อมด้วยเหล่าวิญญาณยังคงง่วนอยู่กับการขุดเหมือง
-มันอยู่ที่นี่, ตรงนี้
-
มีก้อนอัญมณีขนาดมหึมา....ถ้าเขาต้องการกินของเปรี้ยวดังนั้นเขาควรจะซื้อทับทิมดีไหม?
(อดเปรี้ยวไว้กินหวาน?-ผู้แปล)
************************
กิลด์เฮอร์มิสไม่ได้ประสบความยากลำบากในการกวาดล้างบริเวณชั้นที่ 1 ของเหมืองเมลเบิร์น
มือสังหารจากกิลด์นักฆ่ารัตติกาลกวาดล้างเหล่าปาร์ตี้ทั้งหมด
ชื่อของพวกมือสังหารกระพริบเป็นสีแดง
แต่พวกเขามีทักษะที่จะซ่อนมันไว้ ดังนั้นความฉาวโฉ่ของพวกเขาจึงไม่ได้แสดงให้เห็นเมื่อเข้าไปในหมู่บ้าน
แน่นอน,
ถ้าอีกฝ่ายมีการสังเกตที่ยอดเยี่ยม หรือทักษะการตรวจตรา
พวกเขาจะถูกค้นพบและความยุ่งยากก็จะตามมา
อย่างไรก็ตามดินแดนในครอบครองที่กิลด์เฮอร์มิสยินยอมนิรโทษกรรมให้กับพวกเขา
ดังนั้นพวกมือสังหารจึงไม่สนใจเรื่องความฉาวโฉ่ของพวกเขา
"ไปกันต่อ"
บาร์ดเรย์และเหล่าราชองครักษ์ลงไปยังเหมืองใต้ดินชั้นที่ 2 ราชองครักษ์ส่วนหนึ่งได้นำล่วงหน้าไปก่อนแล้วและกำลังเข่นฆ่าผู้เล่น
ด้วยพลังที่เหนือกว่ามากมายมหาศาล
ผู้เล่นบางคนพยายามหลบหนีไปตามอุโมงค์ แต่พวกนักฆ่ารัตติกาลก็จับกุมได้และจบชีวิตพวกเขา
************************
ยู เบียง-จุน รู้สึกเหมือนว่าเขากลายแก่ขึ้นในทุกๆเช้า
"หวนคิดถึงอดีต, ความเยาว์วัยของฉัน
ช่างผ่านไปเร็วนัก"
เขาไม่รู้ว่าเวลาเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างไร เมื่อตอนที่เขายังหนุ่ม
เขาใช้เวลาทั้งหมดในการสร้างสรรค์รอยัลโร้ด
ตอนนี้ร่างของเขากำลังแก่เฒ่าแล้วมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ความเสมือนจริงได้ดึงเอาเส้นทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติออกมาได้อย่างชัดเจน
มีศักยภาพต่อการพัฒนาในอนาคตแต่ ยู เบียง-จุน คิดว่าเขาอาจจะไม่ได้เห็นมัน
"สักวันหนึ่งฉันอยากจะอยู่อย่างเงียบๆในสถานที่ที่ผู้คนไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน"
เมื่อมองย้อนกลับไปความทะเยอทะยานได้เผาไหม้ในตัวเขาแน่นอนเพิ่มภาระและทำให้ชีวิตดำเนินไปด้วยความยากลำบาก
ยู เบียง-จุน ต้องการหาผู้สืบทอดต่อจากเขา ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นในรอยัลโร้ดเป็นประจำทุกวัน
"ติ๊ก ติ๊ก, ความโลภไม่มีสิ้นสุด
ถ้ามันไม่หยุดลง...."
ความโลภของกิลด์ขนาดมหึมา ความโลภของมนุษย์ย้ายไปอยู่ในกลุ่มชนและก่อให้เกิดข้อพิพาทอันไร้ที่สิ้นสุด
นี่คงสามารถเรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ดังนั้น ยู เบียง-จุน จึงเฝ้ามองมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน
"โมราต้า...อาณาจักรอาร์เพ่นอาจจะกลายเป็นเมืองค่อนข้างใหญ่
การเติบโตก็ค่อนข้างเร็วจนน่าประหลาดใจ"
ไม่มีสิ่งใดอาศัยในแดนเหนือ ดังนั้นมันจึงเป็นพื้นที่อัตคัดขัดสน
การผจญภัยของวีดที่ได้รับนั้นเกินความคาดหมายอย่างแท้จริง
เขาได้ผ่านการผจญภัยมามากมาย เนื่องจากการเป็นประติมากรแสงจันทร์ในตำนานและการยกระดับอาณาจักร
การกระทำของเขาเป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ในโลกที่ปกครองโดยเหล่ามอนสเตอร์,
ดาบ และเวทย์มนต์
"ถ้าฉันเล่นรอยัลโร้ด เป็นไปได้มากว่าฉันจะเริ่มในโมราต้า"
ถ้าผู้คนถูกรวบรวมเข้าด้วยกันนั้น พลังอันมหาศาลก็จะก่อเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ยู เบียง-จุน ได้เห็นเหตุการณ์หลากหลายที่เกิดขึ้นทุกวันในโมราต้า
นักผจญภัยประสบความสำเร็จกลับมาพร้อมกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ
นักรบออกไปยังสถานที่ห่างไกลมากขึ้นในการออกล่าและนำข่าวการมีชัยในดันเจี้ยนกลับมา
นักกวีประสบความสำเร็จในการจัดการแสดงอันยิ่งใหญ่
ช่างตัดเสื้อทอผ้าอย่างพิถีพิถันเหมือนกันกับช่างตีเหล็กเพื่อพัฒนาทักษะของพวกเขา
ประติมากรและจิตรกรสร้างงานศิลป์ที่งดงามตามถนนหนทาง คนสวนดึงเอาวัชพืชออกไปพร้อมๆ
กับปลูกดอกไม้และต้นไม้ที่มีราคา
โมราต้าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทุกส่วนเริ่มทยอยดีขึ้นทุกวัน
ความมหัศจรรย์ที่ไม่เด่นนี้จะนำไปสู่การเป็นอาณาจักร
นี่เป็นเหตุผลที่ยู เบียง-จุน เฝ้ามองวีดอยู่บ่อยๆ
ขณะที่สงครามแบ่งเมืองบนทวีปเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับพวกมือใหม่,
โมราต้าเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ดีได้อย่างน่าประหลาดใจ นอกจากนี้,
ปัจจุบันวีดเป็นส่วนหนึ่งของคู่แข่งในอนาคตข้างหน้าผู้ที่กำลังแข่งทำภารกิจปรมาจารย์
"เขาอาจจะเจอเข้ากับบาร์ดเรย์ในเหมืองเมลเบิร์น"
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ในดันเจี้ยนเดียวกัน
โดยปรกติแล้วคนเป็นล้านเฝ้าดูการผจญภัยของบาร์ดเรย์และวีดแต่เหตุการณ์ปรกติทั่วไปแล้วหมายถึงว่ามันไม่สามารถออกอากาศสดได้
มีเพียงคนเดียวที่เห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบคือ ยู เบียง-จุน
"จะเกิดอะไรขึ้นอีก....."
ยู เบียง-จุน จับจองหน้าจอด้วยอยากรู้อยากเห็น
แล้วเขาก็กระวนกระวายใจมากขึ้นเมื่อเขาได้เฝ้ามองวีดขุดเหมืองไพลินอย่างต่อเนื่อง
***************
"นี่มันมากไปไหม?"
ตาของวีดเป็นประกายเมื่อเขามองไปยังบรรดาก้อนไพลินในตะกร้า
เขายังได้แร่เหล็กเกรด 2 และ 3
ค่อนข้างมาก
พวกแร่ธาตุมีน้ำหนักค่อนข้างมากแต่เขาไม่คิดเลยว่าพวกมันหนัก
"เพื่อที่จะทำเงินในดินแดนนี้ ... เป็นการเรียนรู้ที่มีคุณค่ากับทักษะการทำเหมือง"
มันเป็นทักษะหนึ่งที่ใช้ทำเงินได้ในรอยัลโร้ด
"เวลานี้ฉันจะขุดต่ออีกสักนิด"
"รุ่นพี่ครับ, พวกเราต้องรีบไปกันแล้ว
ไม่มีเวลาให้เสียกับที่นี่อีกแล้ว
เฮเกลกล่าวข้างๆวีด เขารู้สึกหงุดหงิดเมื่อพบว่าเหมืองเมลเบิร์นถูกโจมตี
ในขณะเดียวกันกิลด์สิงโตทมิฬกำลังรวบรวมผู้เล่นอยู่ที่ชั้น 4 เฮเกลเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและต้องการเข้าร่วมกับพวกเขาทันทีแต่วีดกำลังทำบางสิ่งที่ไม่คาดดิด
'เลเวลของรุ่นพี่มีความสำคัญ
ผมสามารถบอกได้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาไม่ธรรมดาเพียงแค่ผมได้เห็นจากการต่อสู้เพียงเล็กน้อย
เขาจะมีประโยชน์มากในศึกวันนี้ เสียแต่ว่าถ้าผมไม่สามารถแงะเขาออกจากไพลินพวกนี้ได้.....'
วีดตกอยู่ใต้มนต์เสน่ห์ของไพลินเข้าเต็มเปาซะแล้ว
เขาได้รับอัญมณีและสินแร่จากคำบอกเล่าฟังของพวกวิญญาณ
ถ้าเขารวมทักษะการแกะสลักและช่างตีเหล็กของเขาในอนาคตเพื่อหารายได้อย่างนั้น
เขาคงจะพอใจได้จริงๆ
"พี่ชายคะ ไปกันเถอะ เร็วๆ"
"คุณไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ที่นี่!"
ไดน์และอลิสไม่สามารถรั้งรอการสนทนาของพวกเขาได้อีกต่อไป
ความทรงจำเรื่องพรสวรรค์ของวีดเมื่อต่อสู้กับเมนชูร่าได้สูญสลาย
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญเพราะวีดกำลังยุ่ง
"คริ คริ คริ เจ้าไพลิน เป็นสินค้าชั้นนำที่ไม่มีรอยขีดข่วนใดๆ"
วีดไม่ควรขุดแร่อย่างประมาท เขาจำเป็นต้องระมัดระวังเมื่อใดก็ตามที่เขาพบไพลิน
ถ้าเขาไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆกับพื้นผิวของอัญมณีด้วยอีเต้อ ราคาจะสูงขึ้นได้อีก
************
ยูรินได้พบผู้คนมากมายดั่งสาวนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างเสรีไปทั่วทวีปเวอร์เซลล์
"นี่คุณจิตรกรสาวแสนสวย, ผมจะขอให้ช่วยอะไรหน่อยได้ไหมครับ?"
ชายที่สวมชุดยาวของผู้วิเศษเดินเข้ามาใกล้
"ความเข้าใจในการใช้สีของคุณดีมาก ผมอยากได้สักภาพ.....ผมจะซื้อเครื่องดื่มให้คุณด้วยแล้วเรามาคุยกัน"
อัศวินนายหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้
"ผมสามารถมอบภาพนี้ที่ผมขุดค้นพบให้คุณยูริน ได้ไหม?"
นักผจญภัยซื้อภาพที่ได้เขียนขึ้นนานมาแล้ว
เธอชอบวาดภาพเมืองและทัศนียภาพสวยงามที่เห็นขณะที่พูดคุยกับผู้คน
พวกผู้เล่นและชาวบ้านบางครั้งเล่าถึงเรื่องราวให้เธอฟังเกี่ยวกับเส้นทางลับและดอกไม้บานสะพรั่งในหุบเขา
"สถานที่นี้ยังถูกซ่อนไว้ วาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
ระหว่างที่ดื่มนมและทานขนมปังข้าวบาเลย์, ภาพวาดยังคงอยู่ในความคิดของเธอไม่ใช่เพียงบนผืนผ้าใบ
เธอยังหลงอยู่ในความคิดขณะวาดภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม,
และมีความสุขไปกับอิสระ และเป็นเวลาที่น่าพอใจจนกระทั่งมันเสร็จสมบูรณ์
เธอยังพูดคุยกับผู้คนระหว่างที่วาดภาพเหมือน
มันอยู่ในขอบเขตที่เป็นเพื่อนของเธอและความสัมพันธ์นั้นไม่สามารถละเลยได้
แต่ยูรินก็มีความสุขมากเมื่อเธออยู่ในโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้
เธอออกล่ากับพวกมือใหม่และแจกภาพวาดเล็กๆน้อยๆ
ความสามารถในการวาดภาพของเธอก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
"หนูอยากไปทานอาหารด้วยกันไหม? พี่รู้จักกุ๊กฝีมือดี
พี่คิดว่าเธอจะต้องชอบมัน"
บางครั้งยูรินเจอกับฮาวายองที่มีช่วงเวลาออกล่าอย่างยากลำบากกับพวกนักดาบ
"ตกลงค่ะ พี่สาว"
ทั้งสองได้ทานอาหารและชมการแสดง โมราต้าเป็นเมืองแห่งศิลปะและการแสดง ดังนั้นสัดส่วนของผู้เล่นหญิงจึงสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นๆ
"คุณวีดเมื่อตอนเป็นเด็กนี่เจ๋งใช่ไหมคะ?"
"เขา...เขาตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนูสวมชุดชั้นในหนาสองชั้น
แม้กระทั่งในบ้าน"
สองสาวสนทนาเรื่องวีดกันบ่อยๆ
ยูรินมีความสัมพันธ์พี่น้องร่วมสายโลหิตที่ดีกับวีดขณะที่ฮาวายองก็สนใจเขา
"ว่าแต่ฉันถามได้ไหมว่าเธอสองคนเคยทะเลาะกันบ้างไหม?"
"เมื่อตอนที่หนูยังเด็ก หนูเคยเข้าใจพี่ชายผิด
แต่ตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่หนูรักมากที่สุดในโลก"
"ช่ายเลย เชื่อว่าไม่มีอะไรที่ต้องทะเลาะกัน
ฉันถามอะไรที่ไม่จำเป็นเลย"
ยูรินกับวีดมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเหมือนอย่างที่ฮาวายองคาดไว้
"ไม่เลย พี่สาว หนูยังรู้สึกโกรธพี่ชาย...แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นบางครั้งเมื่อนานมาแล้ว"
"หนูทำอะไรเหรอ?"
"มันเป็นเรื่องเมื่อหน้าหนาวที่แล้ว"
นัยน์ตาของยูรินเปียกชุ่มเพียงแค่คิดถึงมัน
"รองเท้าบูทกันหนาวคู่นั้นที่หนูอยากซื้อจริงๆ...."
เด็กสาวที่อยากสวมรองเท้ากันหนาวหนังแกะในหน้าหนาวเพราะว่ามันเจ๋งและน่ารัก
แต่เหตุผลหลักก็เพราะมันอุ่นและใหญ่ ดังนั้นมันจึงสวมใส่ได้สบาย
ยูรินอยากสวมเจ้ารองเท้าบูทเมื่อต้องเรียนในห้องสมุด
"หนูขอให้พี่ชายซื้อบูทคู่นั้นให้หนู"
"แล้วไง?"
ดวงตาของฮาวายองกระพริบครั้งหนึ่งเธอรู้สึกเห็นใจเรื่องราวเกี่ยวกับรองเท้า
"เขาซื้อบูทกันหนาวสวยๆให้หนูไหม?
พวกผู้ชายมักจะไม่ค่อยมีการตอบรับกับเรื่องรองเท้าหรือกระเป๋าสตรีมากนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้ชายหลายคนที่ไม่ชอบรองเท้าบูทกันหนาว
"เขาไม่ได้ซื้อมัน
เขานำมันมาเป็นคำประกาศเลยว่าปล่อยให้เท้าของหนูเย็นแล้วให้ ถุงเท้าหนู...."
"อึ๋ย!"
"แต่มันเป็นถุงเท้าหนาที่ไม่อุ่นสบายกับรองเท้า
เขาทึกทักเอาว่ารองเท้าบูทมันก็เหมือนๆกันหมด แม้ว่าจะอธิบายเรื่องรองเท้าบูทกันหนาว
ฮือๆ"
ฮาวายองตบไหล่ยูรินด้วยความรู้สึกท่วมท้น
มันเป็นเรื่องเศร้าที่สุดที่เธอได้ยินมาสดๆร้อนๆ
จบตอน
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
พี่วีดครับ พี่โดนตามล่าอยู่นะครับ
ตอบลบกิลด์สิงโตทมิฬจะได้มาสยบต่อท่านวีดแล้วล่ะมั้ง
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเลี้ยงวิญญาณด้วยแอพเปิ้ล มึงก้อมักกินเนอะบักวิญญาณ
ตอบลบแล้วยังชี้เป้าแลกผลไม้อีก
ขุดเหมืองกลางสงคราม
แล้วพี่จะขนออกไปยังไงคับพี่
วิญาณนะไม่ใช่ยมทูต ให้กินแอปเปิ้ลซะกูนึกว่าลุคเลย
ตอบลบไหนว่าปกป้องไพลินไง ชี้จุดให้อีก คงได้กระทู้ใหม่ "ให้อาหารวิญญาณ จะขุดได้ไม่ต้องสู้"
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบว้าว...โลภมากจริง
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้อออ