เล่ม
27 ตอนที่ 6 : เตาหลอมเฮสเทีย(Forge
of Hestia) แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
“จนถึงตอนนี้
ฉันคงต้องอดทนอีกนิด”
ระหว่างการทำภารกิจ
บาร์ดเรย์ใช้ประตูเคลื่อนย้ายและถูกส่งไปกลางสนามรบ
ในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลล์
มันคือการต่อสู้ของอาณาจักรเคลตั้นและอาณาจักรมาปน!
บาร์ดเรย์สวมใส่ชุดของอาณาจักรเคลตั้น
“ไม่เลว
การต่อสู้แบบนี้…”
บาร์ดเรย์ชักดาบออกมา
เหล่าทหารของอาณาจักรมาปนควบม้าจนแผ่นดินสะเทือน
ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
เสียงแตรเขาสัตว์ดังยาวเป็นช่วงๆ เสียงจากแตรเขาสัตว์ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นและกลัวเมื่อมีสงคราม
“ฆ่าพวกมันซะ”
“อาณาจักรเคลตั้น
ได้เวลาโต้กลับและทวงคืนแผ่นดินของพวกเราแล้ว”
บาร์ดเรย์ปักดาบลงไปที่พื้น
“จงตื่น
ดาบที่หลับใหล ซอร์ด อเวคเคนนิ่ง(Sword Awakening.)”
– ปลุกพลังแฝงที่อยู่ในดาบให้ตื่นขึ้น
ความทนทานจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ผลของทักษะและค่าความเสียหายที่ทำได้จะเพิ่มขึ้น
68%
|
เพราะดาบของบาร์ดเรย์มีคุณสมบัติพิเศษ
คือ ดาบไม่มีวันแตกหักหรือถูกทำลาย เขาจึงไม่ต้องสนใจเรื่องการลดลงของค่าความทนทาน
“จิตใจอันแข็งแกร่ง
สตรองค์ วิลล์(Strong Will)”
–ป้องกันการเสื่อมสภาพทางกาย อันเกิดจากความเสียหายที่ได้รับจากอุปกรณ์สวมใส่ระหว่างการต่อสู้
|
ระงับอาการสับสนมึนงง, อัมพาตและการใช้ทักษะล้มเหลว
|
“การจู่โจมของอัศวินดำ
แบล็คไนท์ สไตรค์(Black Knight’s Strike)”
–การโจมตีแรกและการโจมตีต่อเนื่อง 10 ครั้ง จะเปิดใช้งานทักษะการโจมเป็นวงกว้างที่รุนแรง
|
“จงออกมา
ดาบแห่งดาลุน ฮาน่า(Summon Sword of Dalun Hana)”
รอบๆร่างกายของบาร์ดเรย์ปรากฏเป็นดาบโปร่งแสงซึ่งใช้มานาในการรวบรวม
ได้ถูกอัญเชิญออกมา
–ตามเลเวลทักษะของคุณ มานาจะลดลง 70 หน่วย ต่อ วินาที ดาบแห่งดูลาฮาน่าเป็นท่าที่สามารถใช้โจมตีและป้องกันได้
มันสามารถตัดผ่านลูกศรและการโจมตีเวทย์มนต์ระยะไกล
|
บาร์ดเรย์ใช้ทักษะลับวิชาดาบ
แค่เพียงทักษะนี้ทักษะเดียว ก็ทำให้เหล่าผู้เล่นถึงกับตกใจและขนลุก
ในทวีปแห่งนี้
มีผู้ใช้ทักษะลับวิชาดาบอยู่บ้างพอสมควร
แต่เหล่าอาจารย์ของพวกเขานั้นช่างจุกจิกจู้จี้และเรื่องมากในการสอนแต่ละทักษะ
ถึงแม้ว่าความจริงนี้
ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าบาร์ดเรย์เป็นคนใช้ทักษะลับวิชาดาบล่ะก็
พลังของมันนั้น ย่อมเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตา
เพราะเลเวลและบรรดาอุปกรณ์สวมใส่ของเขา
“นี่ก็เพื่อเอาไว้จัดการเจ้าพวกนี้”
ในรอยัลโร้ด
บาร์ดเรย์ถูกขนานนามว่า ‘ท่านนายพล’
เขาพร้อมที่จะต่อสู้แล้ว
ถึงแม้ว่าทหารของอาณาจักรมาปนจะเป็นฝ่ายที่บุกมาโจมตี
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่เพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น
***
“โอ้โห
มันช่างสุดยอดอะไรขนาดนี้เนี่ย!”
“บาร์ดเรย์ฆ่าล้างบางทหารพวกนั้นจนเกลี้ยงเลย”
“ดูรูปลักษณ์นั่นสิ
พลังนั่นก็สุดยอด! บาร์ดเรย์แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้ชมต้องการ”
แต่ละสถานีท่วมท้นไปด้วยคำอธิบายอันเร่าร้อน
ความประหลาดใจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อบาร์ดเรย์ใช้ทักษะโจมตี ดึงเอาพลังทำลายล้างอันสุดยอดออกมา
เหล่าทหารถูกฆ่า
แม้แต่เหล่าอัศวินก็มิอาจรอดพ้นจากความตายเมื่อต้องประจันหน้ากับเขา
เพียงแค่เฉียดกายเข้าไปใกล้ ก็ถูกคมดาบปลิดชีพในทันที
กองทัพของอาณาจักรมาปนพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
ด้วยฝีมือของบาร์ดเรย์
“เอาล่ะ
ถึงช่วงที่ทางเราจะเป็นผู้ให้กับคนดูได้รับชมและรับฟังข่าวอันยิ่งใหญ่”
โอ
จู วาน กำลังถ่ายทอดข้อความ
ไม่ได้มีแต่สถานี
KMC มีเดีย เท่านั้น
แต่ข้อมูลนี้ถูกส่งให้กับทุกสถานีในช่วงเวลาเดียวกัน
“บริษัทยูนิคอร์นพูดไปเมื่อสามนาทีที่แล้วว่า,
ตอนนี้ มีเหล่าผู้เล่นที่กำลังทำภารกิจปรมาจารย์ถึง 27 คน”
“เยอะขนาดนั้นเลยหรอคะ?”
“ใช่ครับ
พวกเขาส่วนใหญ่ยังคงปกปิดตัวตน ไม่เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ผู้เล่นระดับท้อปบางคนในทวีปเวอร์เซลล์นั้นไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลในบางเรื่องสักเท่าไหร่,
เพราะเคยมีบางคนที่อันดับตกลงมาจากการกระทำอันนำไปสู่ความผิดพลาด
เหล่าผู้เล่นที่อยู่ระหว่างการทำภารกิจปรมาจารย์
มักจะทำภารกิจอย่างลับๆเพื่อหลีกเหลี่ยงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหล่าดาร์คเกมเมอร์และผู้เล่นรักสันโดษเลเวลสูง
“นี่เป็นการเปิดเผยจากทางบริษัทยูนิคอร์นเองเลยนะครับ
เพราะธรรมชาติของภารกิจปรมาจารย์ในแต่ละสายอาชีพนั้นไม่ทับซ้อนหรือเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
แน่นอนครับว่ารายชื่อผู้เล่นแต่ละคนนั้นย่อมเก็บเอาไว้เป็นความลับ
แต่ก็มีผู้เล่นที่เปิดเผยข้อมูลการทำภารกิจของพวกเขาประมาณ 5
คน”
“คุณพอจะมีเบาะแสของเหล่าผู้เล่นที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆบ้างไหมคะ
ที่ไม่ใช่วีดและบาร์ดเรย์?”
“สำหรับผู้คนเหล่านั้น
ผมพอจะรู้มาบ้าง ผมรู้จักคนที่อยู่ในกิลด์ดังๆ ในหมู่พวกเขา ผู้ชมบางท่านอาจจะทราบแล้วว่าเขาคือใคร
เขา คือ นักผจญภัย เชส”
“ว้าว!
คุณเชสที่ตอนนี้กำลังทำภารกิจปรมาจารย์! ถึงอย่างไรก็ตาม
ช่วงหลังๆมานี้ ชื่อของเขานั้นไม่ค่อยเป็นที่ได้ยินกันสักเท่าไหร่ในโรงเตี๊ยม”
“เขาเป็นนักผจญภัยที่เพิ่งไต่อันดับมาเมื่อเร็วๆนี้
และเขายังถูกพูดถึงโดยผู้คนว่าเขามีการค้นพบที่พิเศษมากและภารกิจต่างๆที่เขาประสบความสำเร็จด้วย
ก่อนหน้านั้น นักผจญภัยเชสไม่ค่อยปรากฏตัวตามเมืองที่มีชื่อเสียงในทวีปสักเท่าไหร่
เพราะเขากำลังก้าวหน้าไปกับสายอาชีพของเขาและความเป็นธรรมชาติของมัน”
แต่ก่อนเชสมีความเคลื่อนไหวบ่อยมากในหอเกียรติยศ
ถึงแม้ว่าผู้เล่นที่มีความเคลื่อนไหวในด้านการสำรวจซากปักรักหักพังนับได้เพียงแค่คนเดียว,
มันก็เพียงพอแล้วที่จะเรียกว่าสุดยอดนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ ชิน เฮ
มิน กำลังตรวจสอบที่หน้าจอเพื่อดูการตอบสนองของเหล่าคนดูในกระดานสนทนา
ในขณะที่เธอก็ฟังคำพูดจากเขาไปด้วย
“เอาล่ะค่ะ
เรากลับไปที่เนื้อหาการประกาศของบริษัทยูนิคอร์นกันนะคะ คุณโอ จู วานคะ, ยังมีเรื่องราวอะไรอีกบ้างคะที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผย?”
“อ่า
ใช่ครับ ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังทำภารกิจปรมาจารย์ของพวกเขา”
“มันจะมีความยากลำบากมากมายในตอนที่ผู้เล่นพยายามลองทำภารกิจในครั้งแรก
ดิฉันจะมีความสุขมากเลยค่ะถ้าเราสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้บ้าง ข่าวนี้เกี่ยวกับอะไรหรือคะ?”
“ตอนนี้
ฝ่ายนโยบายของบริษัทยูนิคอร์นยังไม่ได้ประกาศให้ทราบถึงข้อมูลที่เป็นรายละเอียด ผู้เล่นต้องค้นหามันด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ภารกิจปรมาจารย์ในแต่ละสายอาชีพนั้นจะประกอบไปด้วยอย่างน้อย 12 ถึง 20 ขั้น”
ใบหน้าอันมีเสน่ห์ของชิน
เฮย์ มิน ถึงกับจะร้องไห้เลยทันที
“โอ้
คุณพระ ภารกิจมันจะเยอะต่อเนื่องกันอะไรขนาดนี้
ฉันคิดว่ามันทำให้ฉันปวดหัวมากเลยค่ะ”
“ภารกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างง่ายดายแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่มขั้นตอนเอาไว้มากแค่ไหน
มันก็สามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว มันยังขึ้นอยู่กับเนื้อหาของภารกิจและสายอาชีพนั้นๆด้วย
มันอาจจะใช้ระยะเวลานานกว่าเดิมก็เป็นได้ครับ”
“แล้วมันมีข้อเสียอะไรบ้างคะ?”
“ภารกิจจะขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของแต่ละสายอาชีพ,
มันอาจจะไม่ค่อยช่วยพวกเขาได้สักเท่าไหร่ นอกจากนี้แล้วทางบริษัทยูนิคอร์นยังบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภารกิจปรมาจารย์…..”
“มันคืออะไรเหรอคะ?
มันคืออะไรคะ?”
“ผมจะบอกคุณหลังจากจบโฆษณานี้นะครับ
ดูเหมือนว่าคุณชิน เฮย์ มิน ต้องการเปิดเผยมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่ภารกิจปรมาจารย์ยังคงดำเนินอยู่
ทักษะลับในแต่ละสายอาชีพสามารถรับได้เพียงครั้งเดียว นอกจากนี้
อีกครึ่งนึงจะนำไปสู่ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับความลับเหล่านี้”
“ว้าว!
ฉันอยากทำภารกิจปรมาจารย์ของเรนเจอร์เร็วๆซะแล้วสิ”
“เหมือนกับผมเลยครับ
แต่ติดตรงที่ว่าทักษะต่างๆในสายอาชีพของผมนั้นยังไม่ถึงขั้นที่กำหนดไว้เลยครับ
ดูให้ดีก่อนจะเริ่มทำภารกิจปรมาจารย์นะครับ
สำหรับสายต่อสู้ คุณต้องมีทักษะขั้นสูงเลเวล 6
สายนักผจญภัย ทักษะขั้นสูงเลเวล 7 และสายการผลิตและศิลป์
ทักษะขั้นสูงเลเวล 8”
“ดูเหมือนว่าสายต่อสู้จะได้เปรียบนิดหน่อยนะคะ?”
“แม้ว่าพวกเขาจะได้เริ่มทำภารกิจและทำเสร็จก่อน,
พวกเขายังต้องเรียนรู้ทักษะในแต่สายอาชีพจนเชี่ยวชาญซะก่อนครับ,
ผมเลยไม่ค่อยเห็นว่ามันจะได้ประโยชน์อะไรมากมายขนาดนั้น ไม่ว่าจะทำให้มันดูละเอียดยิบย่อยมากแค่ไหน
คุณจำเป็นต้องมีทักษะที่เพียงพอ คุณถึงจะเริ่มทำภารกิจได้ การตายระหว่างที่กำลังทำภารกิจอยู่นั้น
จะทำให้ค่าความเชี่ยวชาญทักษะของคุณลดลงเยอะพอสมควรเลยละครับ”
“ถ้าคุณตายระหว่างการทำทักษะในภารกิจปรมาจารย์ล่ะก็
มันคงทำให้คุณเจ็บปวดหัวใจมากแน่นอน”
เพื่อที่จะวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการปล่อยข้อมูลออกมาโดยบริษัทยูนิคอร์น,
พวกเขาจึงต้องใช้เวลากันพอประมาณ
เหล่าคนดูตามกระดานสนทนากำลังส่งเสียงฮือฮาเกี่ยวกับข่าวนี้
– ปรมาจารย์ในแต่ละสายอาชีพ ทั้ง 27 คนนี้ พวกเขาเป็นใครกันบ้างนะ มันคงจะดีถ้าฉันได้เป็นหนึ่งในพวกเขา เมื่อตอนที่ฉันกลับเข้าไปเล่นในรอยัลโร้ด
ฉันมัวแต่กินจนไม่ได้สนใจเลยว่ามันไปเพิ่มที่พุงจนหมด
|
– ต่อไปการแข่งขันต้องดุเดือนแน่นอน
|
–
ผมไม่ค่อยได้พูดคุยถึงเรื่องภารกิจปรมาจารย์จวบจนตอนนี้ ข่าวเกี่ยวกับวีดแพร่กระจายไปทั่ว
ก่อนที่จะมีผู้คนปรากฏตัวขึ้นและร่วมการแข่งนี้ด้วย
|
–
แต่ว่านะคนที่น่าจะนำไปไกลแล้วคงมีวีดกับบาร์ดเรย์ ปรมาจารย์คนแรกคงจะเป็นหนึ่งในพวกเขา
|
– อะไรกัน เมินเฉยคุณเชสไปได้ยังไง? นายคิดว่านักผจญภัยเชสเป็นใครหึ๊
|
– คุณเชสเป็นนักสำรวจที่เก่งที่สุดในโลก
|
– นั่นไม่ใช่ปัญหาซะหน่อย
ในภารกิจปรมาจารย์ของแต่ละสายอาชีพ พวกเขาจะได้ทักษะลับทีละคน
|
– บาร์ดเรย์มีทักษะลับวิชาดาบที่สุดยอดมาก
ยิ่งถ้าเขาได้เพิ่มมากอีกนะ
|
– นั่นแหละที่ฉันจะพูดถึงล่ะ
ตอนนี้เขายิ่งแข็งแกร่งมากกว่าเดิม
|
– พวกเขาจะได้มันในภารกิจปรมาจารย์, มันคงไม่เกินจริงหรอกที่จะบอกว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลหลังจากที่ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว?
|
– รางวัลจะเป็นอะไรน้า?
|
– ทำให้ทักษะในสายอาชีพถึงขั้นสูงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
ถึงแม้ว่าการที่จะเพิ่มเลเวลให้สูงขึ้นจากขั้นกลาง มันต้องใช้ความพยายาม
แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อมเลย ถ้าเกิดว่าคุณยังคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะก็….
เราก็ไม่รู้ด้วยแล้ว
|
ข่าวนี้กำลังเป็นที่สนใจกันหมู่ผู้เล่นระดับท้อปของรอยัลโร้ด
***
“ดีมากเลยล่ะ”
“ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ
อาจารย์.”
“ทำไมพวกเราถึงยังไม่เจ๋งซะทีนะ?”
เหล่านักดาบยังอยู่ที่ป้อมปราการเวอร์โก้
พวกเขาขายแจปเท็มและพักผ่อนกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม
ผ่านทางหน้าจอคริสตัล
พวกเขากำลังดูวิดีโอการต่อสู้ของบาร์ดเรย์
“ไอ้หมอนั่นเทคนิคดีได้ใช้เลยนะเนี่ย”
“เขาต่อสู้ด้วยการโจมตีระยะไกลค่อนข้างดี”
“การฟันของเขาไปที่ไหล่ของศัตรูพร้อมกับดันตัวเข้าหาและผลักพวกมันออก
เขาไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว”
“ท่าทางการวางตำแน่งในการยืนของเขาค่อนข้างดีนะ
ถ้าเขาสู้และขยับตัวเคลื่อนไหวไปด้วย มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลของทักษะหรือการป้องกันหรอกหรือ?”
“ถ้าเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่ออีก
25 เมตรและพังเครื่องกลปิดล้อมระหว่างที่เขาต่อสู้ไปด้วย
นั่นจะเป็นการกระทำที่สุดยอดมาก”
เขาเผยให้เห็นถึงพละกำลังทางทหารอันยิ่งใหญ่และมีส่วนร่วมในการเข้าปะทะอยู่บ่อยครั้งจนได้รับบาดเจ็บจากลูกธนูตามร่างกายของเขา
เหล่าผู้ฝึกสอนเดาะลิ้นไปพลางพร้อมกับดูบาร์ดเรย์ทำสิ่งต่างๆ
ถ้าบาร์ดเรย์ต่อสู้กับมอนสเตอร์ตัวต่อตัว,
พวกเขาคงไม่อาจจับผิดอะไรได้
อย่างไรก็ตาม
เพราะพวกเขาตัดสินไปตามสถานการณ์อันซับซ้อนในสนามรบ ความผิดพลาดของบาร์ดเรย์ดึงดูดให้พวกเขาหันมาสนใจและวิเคราะห์
“ความสามารถในการต่อสู้ของบาร์ดเรย์ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
ดูเหมือนว่าทหารของอาณาจักรมาปนจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง”
“เขาเหมือนผู้บัญชาการที่คอยใช้แส้ไล่ฟาดเหล่าทหาร
การโจมตีของฝ่ายศัตรูดูไม่ค่อยได้ผลกับบาร์ดเรย์”
“ในข่าวบอกว่า
บาร์ดเรย์ฆ่าทหารไปแล้วมากกว่า 300 นาย!”
เหล่าครูฝึกและลูกศิษย์ยังคงนั่งดื่มเบียร์และกินเนื้อไก่อย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับดูจอคริสตัลไปด้วย
“พวกเราสู้แต่กับพวกมอนสเตอร์
มันน่าเบื่อมากเลย ถ้าพวกเราได้ต่อสู้แบบนั้นบ้าง มันคงจะสนุกไม่น้อยเลยนะ”
“แล้วถ้าได้ออกทีวีด้วยล่ะก็….
พวกเราจะดังระเบิดเลยใช่มั้ย? ดูเหมือนพวกเขาจะแข็งแกร่งสุดๆไปเลย”
“อะแฮ่ม
ถ้ามันไม่ได้อยู่ไกลขนาดนั้นนะ มันจะตื่นเต้นและสนุกขนาดไหนนะ”
เหล่าลูกศิษย์ต่างพากันโหยหาที่จะได้ต่อสู้แบบบาร์ดเรย์
“บาร์ดเรย์มีทักษะมากแค่ไหนกันนะ?
แค่พลังของเขา มันก็เหมือนกับว่าเขานั้นอยู่ในขั้นปรมาจารย์เลยล่ะ!
”
“ปรมาจารย์ดาบ!
มันช่างชวนฝันซะเหลือเกิน”
“ในทวีปเวอร์เซลล์
เขาคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด”
อาจารย์นักดาบวางขาไก่ลงบนโต๊ะ
แน่นอน
ไม่มีเศษเนื้อเหลือให้เห็นเลยสักนิด
“นักดาบ3”
“ครับ
ท่านอาจารย์”
“ไอ้ภารกิจปรมาจารย์อะไรเนี่ย
พวกเราสามารถทำมันได้ใช่มั้ย?”
“ผมคิดว่าพวกเราน่าจะทำได้นะครับ
นักดาบ 17 ไปพบซามูไรที่สามารถใช้ศิลปะการต่อสู้ได้
ในขณะที่เขาออกเดินทางไปทั่ว และเขาบอกว่าเมื่อพวกเราสามารถใช้อาวุธได้ทุกชนิดเมื่อไหร่
ก็ให้ไปหาเขาได้ทันที”
ทักษะเจ้าแห่งศาตราของเหล่านักดาบนั้นอยู่ระหว่างขั้นสูงเลเวล
4 ไปจนถึง เลเวล 7 แรกเริ่มเดิมที
พวกเขาไม่ค่อยได้ใช้ทักษะในการโจมตีเท่าที่ควร
เอาแต่โจมตีด้วยดาบเพียวๆจนมันถึงขีดจำกัด ผลที่ออกมานั้น
พวกเขาสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าได้
“อาจารย์
พวกเรามาทำภารกิจปรมารจารย์กันเลยมั้ยครับ?”
“ยังไม่ต้องไปสนใจ
พวกเราจะมุ่งเน้นไปที่การออกล่าในแถบนี้ ให้พาเหล่าลูกศิษย์ไปด้วย”
ถึงแม้ว่าด้วยระดับเลเวลของอาจารย์นักดาบและบรรดาครูฝึก
พวกเขาสามารถเริ่มต้นทำภารกิจปรมาจารย์ได้ทันที แต่ในหมู่ลูกศิษย์นั้น พวกเขายังมีระดับเลเวลค่อนข้างต่ำในการใช้ทักษะเจ้าแห่งศาสตรา
“เราต้องผลักดันพวกเด็กๆกันสักหน่อย
พวกเราจะไม่เริ่มทำภารกิจจนกว่าพวกเขาจะสามารถทำให้ทักษะเจ้าแห่งศาตราถึงขั้นมาสเตอร์ก่อน”
“นั่นเป็นความคิดที่ดีมากเลยครับ
ท่านอาจารย์”
“จัดการมอนสเตอร์ที่นี่ให้หมดซะ”
“มาเลยพวก
เราจะออกไปล่ามอนสเตอร์
มาเติมกระเป๋าพวกเราให้เต็มด้วยเนื้อตากแห้งและขนมปังข้าวบาร์เล่ย์กันเถอะ”
***
ช่วงที่
1 ของเรื่องเล่าแห่งทวีปเวอร์เซลล์จบแล้ว
และห้องเรียนก็เริ่มมีเสียงดัง
“อ้า
มันสุดยอดมากเลย”
“มันเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่มาก
ฉันเคยดูแต่ในหนังเท่านั้น”
“บาร์ดเรย์รู้ว่าเขาต้องนำชัยชนะมาได้แน่นอน”
ธงของอาณาจักรเคลตั้นยังอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาต้องรอคอยการกลับมาของบาร์ดเรย์
แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น
เขาสังหารเหล่าอัศวินแห่งอาณาจักรมาปนและประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในการทำสงคราม
พระราชาแห่งอาณาจักรเคลตั้นยกย่องสรรเสริญบาร์ดเรย์หลังจากที่เขากลับมาถึงแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น
เขายังยืนหยัดเพื่อราชวงศ์ เป็นดั่งอัศวินดำผู้ไรซึ่งความปราณีต่อศัตรูและพระราชาได้พระราชทานดาบแห่งอัศวินหลวงเพื่อเป็นรางวัลแด่ความสำเร็จของเขา
แค่เพียงฉากนี้ฉากเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะตราตรึงเข้าไปในหัวใจของทุกคนถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบบาร์ดเรย์ก็ตาม
“การได้รับดาบแห่งอาณาจักรเคลตั้น
ฉันอยากเป็นบาร์ดเรย์จังเลย”
ช่วงเวลานั้น
ใครๆต่างก็อยากเป็นวีรบุรุษแบบเขา
นอกจากเสียงที่ดังไปทั่วทั้งห้อง
ลีฮุนนั่งดูทีวีอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้น
เขารู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนในท้อง นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่สบอารมณ์เลยสักนิด
ภายนอกเขาอาจจะดูปกติ
แต่ท้องไส้ของเขากลับซื่อตรงต่อการตอบสนอง
“มีคนทำภารกิจปรมาจารย์ถึง
27 คนเลยแหนะ
มีพวกผู้เล่นที่แข็งแกร่งมากกว่ามอนสเตอร์ระดับบอสอยู่เยอะเลยแหะ”
“ต่อให้เป็นบาร์ดเรย์
ใจของฉันก็ไม่อาจห้ามความคิดของฉันได้”
“ฉันอยากเห็นหรืออยู่ใกล้วีดสักครั้งจัง
เทพสงครามวีดเท่ห์มากเลย”
“ทำไมไม่ไปที่โมราต้าล่ะ?”
“การได้เจอวีดในโมราต้ามันยากมากเลยนะ”
“แต่ก็นะ
มันยังคงเป็นการผจญภัย ต่อให้นายเดินไปมั่วซั่วก็เถอะ”
เหล่านักศึกษายังตื่นเต้นและพูดคุยกันมากกว่าเดิม
‘ฉันต้องรีบกลับบ้านไปเล่นรอยัลโร้ด’
‘เดี๋ยวก่อนนะ
ถ้าฉันออกล่าในส่วนของวันนี้เสร็จ ฉันก็จะเลเวล 277’
‘ถ้าฉันใช้ไอเท็มที่ได้มาเมื่อวานนะ
มันจะยิ่งง่ายมากเลยสำหรับการออกล่าในอนาคต ใช่ ง่ายมากก’
แรงบันดาลใจที่เขาอยากจะออกอากาศผ่านทางรอยัลโร้ดเริ่มลุกเป็นไฟโดยการกระตุ้นของเหล่านักศึกษาพวกนี้
“รุ่นพี่ครับ….”
ชอย
ซัง-จุน เป็นคนประเภทที่ชอบโอ้อวด
อาจารย์เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน
และก็สอนด้วยเวลาที่เหลืออยู่
“วันนี้เราเลิกเรียนเร็วหน่อยนะ
ดูเหมือนว่าอาจารย์คงต้องให้การบ้านพวกเธอแล้วล่ะ”
“โห่วววววว
‘จารย์!”
“อาจารย์
มันไม่เยอะเกินไปหน่อยเหรอ”
ลีฮุนทิ้งการบ้านวิชาธุรกิจการค้าของเกาหลีเอาไว้อย่างนั้น
เขาคิดว่ามันก็เหมือนเรื่องเล่าจากต่างประเทศ ในมหาวิทยาลัย
คุณสามารถกอบโกยความรู้ให้ตัวคุณเองได้มากตราบเท่าที่คุณต้องการ
แต่ลีฮุนไม่ใช่นักษึกษาที่ดีเท่าไหร่
เขาแค่ต้องการใบปริญญา มันก็เท่านั้น
***
วีดกลับเข้ามาเชื่อมต่อรอยัลโร้ดอีกครั้ง
เขาปรากฏตัวในฐานที่มั่นของออร์ค เบอร์ซิเลีย มีออร์คสาวๆเดินผ่านเขาไปมา
พร้อมกับทำจมูกดมกลิ่นเขา
ออร์คคาริชวิผู้โด่งดัง
ยังคงไม่ได้ไปไหน
“ชวิคคคคชวิกกกก,
มันคงจะดีถ้าพวกเขาถ่ายทอดสดภารกิจปรมาจารย์”
วีดมักทำให้ตัวเองลำบากอยู่เสมอ
แต่ละสถานีต้องการติดต่อเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
ถ้ามีการแข่งขันภารกิจปรมาจารย์ของบาร์ดเรย์กับวีด ถ้าพวกเขาได้ออกอากาศมัน
มันจะสร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ต่อสาธารณชน
แต่ดูจากท่าทางของวีด
การผจญภัยของเขาในการค้นหารัทเซเบิร์กและมอนท์เวอร์ทรูเรีย
คงไม่สามารถเปิดเผยในการออกอากาศได้
ข้อมูลเกี่ยวภารกิจปรมาจารย์แกะสลักที่แสดงให้เห็นว่าเขากำลังช่วยเหลือแต่ละเผ่าพันธุ์และฟื้นคืนประวัติศาสตร์และศิลปะอันมีค่ามากกว่าการต่อสู้ซะอีก
ในกรณีของอัศวินดำ
มันโอเคที่จะเอาไปออกอากาศได้เพราะส่วนใหญ่มันเกี่ยวข้องกับการต่อสู้
ในขณะที่ภารกิจของประติมากรในตัวมันเองนั้น
เกิดขึ้นในสถานที่ประวัติศาสตร์
นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมมันถึงต้องถูกปิดไว้เป็นความลับ
ถ้าตำแหน่งที่ตั้งของวีดถูกเปิดเผย
ทีมไล่ล่าในกิลด์เฮอร์มีสก็จะมาขัดขวางเขาและรังแต่จะสร้างภาระให้ลำบากยิ่งกว่าเดิม
กิลด์เฮอร์มีสที่บุกโจมตีหมู่บ้านเอลฟ์ได้สะกดรอยตามวีดจนรู้ว่าวีดอยู่ในฐานที่มั่นของออร์ค
เบอร์ซิเลีย
อย่างไรก็ตาม
มีออร์คเยอะเกินไปในฐานที่มั่นนั้น
มีสายลับจำนวนมากที่กำลังสอดส่องและหาโอกาสลอบเข้าไป
วีดจึงต้องออกจากฐานที่มั่นของออร์ค
“ชวิสสสส,
คนพวกนั้นเลวมาก พวกมันให้ร้ายพวกเรา! ชวิสสสส,
ไอ้พวกคนเลวอยากลิ้มลองรสชาติของพวกเราโดยเฉพาะพวกออร์คหนุ่มสาว!”
วีดทุ่มเทในการบอกเรื่องโกหกเกี่ยวกับทีมไล่ล่าจากกิลด์เฮอร์มีสให้ออร์คลอร์ดบุลชวิฟังและเขาก็ออกจากเบอร์ซิเลียทันที
หลังจากนั้น
เขาคงไม่ต้องสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้(หึ หึ หึ)
***
วีดกลับมาแล้ว
หลังจากให้ยูรินพาเขากลับมาที่ปราสาทในโมราต้า!
ตั้งแต่ตอนที่เขาได้ป้อมปราการเวอร์โก้มาครอบครอง
เขาก็ได้ยินการพูดคุยถึงโมราต้าอยู่บ่อยครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการออกอากาศและกระดานสนทนา
เขาใช้เงินภาษีนำกลับไปลงทุนเพิ่มเพื่อซ่อมแซมและปรับปรุงเมือง
อาคารลักษณะเฉพาะของจักรวรรดิอาเพ่นถูกสร้างขึ้นในโมร้าต้า
ทาวเฮ้าส์หินสี่ชั้นและบ้านพักตากอากาศอันหรูหราได้รับการก่อสร้างตรงบริเวณริมแม่น้ำ
เหล่าพ่อค้าผู้ร่ำรวยและผู้เล่นเลเวลสูงต่างพากันอวดความร่ำรวยทันทีเพื่อจับจองชีวิตความเป็นอยู่อันสะดวกสบาย
นโยบายอสังหาริมทรัพย์ในโมราต้าได้ให้อิสรเสรีกับพวกเขา
ด้วยการเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขา!
แต่ก็ยังมีกระต๊อบถูกๆสำหรับเหล่าผู้เล่นเริ่มต้น
ในขณะที่เหล่าสถาปนิกผู้มากประสบการณ์
ก็สร้างบ้านพักตากอากาศมากขึ้นตามสถานที่ที่มีวิวทัศน์อันสวยสดงดงาม
วีดและศิลปินคนอื่นๆก็ได้สร้างประติมากรรมและจิตรกรรมของพวกเค้า
เหล่าสถาปนิกสร้างอาคารของจักรวรรดิอาเพ่นด้วยแรงกายและแรงใจ
พวกเขาใส่ใจในทุกรายละเอียด
ตั้งแต่การสร้างขั้นพื้นฐานไปจนถึงการเก็บรายละเอียดในโครงสร้าง
เนื่องจากพรแห่งเทพธิดาเฟรย่า
ทำให้มีดอกไม้นานาพรรณเบ่งบานสะพรั่ง ต้นไม้เติบโตอย่างรวดเร็ว มวลหมู่นก ผีเสื้อ
และผึ้ง บินไปมา
พวกมันคือสัญลักษณ์แห่งความงดงามด้านวัฒนธรรมและการค้า
เมืองแห่งการผจญภัย!
ทั้งประชาชนผู้อยู่อาศัยและผู้เล่น
พวกเขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เกิดขึ้นในโมราต้า
เวลาเดียวกัน
วีดใช้อำนาจประกาสิทธิ์แห่งเจ้าเมืองเพื่อตรวจสอบและสังเกตการณ์
“หน้าต่างข้อมูลประจำเมือง!”
โมราต้า
|
พื้นที่ดั้งเดิมของโมราต้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดินิฟเฮม
|
ปัจจุบัน ผู้ปกครองที่ดีที่สุด คือ ผู้กุมบัลลังก์แห่งแดนเหนือ
ลอร์ดวีด
|
เขามีเมืองที่ดีที่สุด เป็นหน้าเป็นตาให้กับทางเหนือ
ในฐานะศูนย์กลางทางการค้า ศิลปะ และการผจญภัย
|
โมราต้า ดินแดนศักดิ์แห่งทวีปทางตอนเหนือ ได้รับความเคารพ
และถูกขนานนามให้เป็น เมืองอันทรงเกียรติ
|
อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ เช่น มหาวิหาร และ
หอสมุดขนาดใหญ่ และมีวิหารเฟรย่าเป็นส่วนหนึ่งในแดนเหนือ คอยเผยแพร่วัฒนธรรมของโมราต้าให้รุ่งเรือง
|
กำลังทางทหาร: 316 การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ:4329
|
วัฒนธรรม: 5241 เทคโนโลยี: 997
|
อิทธิพลทางศาสนา: 91
|
อิทธิพลต่อพื้นที่ใกล้เคียง: 82% การปกครองท้องถิ่น: 74
|
อิทธิพลของจักรวรรดินิฟเฮม: 22.4% (อิทธิพลทางทหาร, เศรษฐกิจ,
|
วัฒนธรรม, เทคโนโลยี, ศาสนา, ประชากร, และพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง)
|
การพัฒนาเมือง: 322 สาธารณสุข:
44
|
ความสงบเรียบร้อยของประชาชน: 91%
|
อิทธิพลทางเศรษฐกิจและการปกครอง
กำลังเติบโตแผ่ขยายออกไปทั่วทั้งทางเหนือ ในฐานะศูนย์กลางทางการค้าและพาณิชย์
|
อัตราการเติบโตของจำนวนประชากรและการแลกเปลี่ยน เพิ่มสูงเสียดฟ้า
และทรัพยากรจำนวนมาก ถูกป้อนให้กับการพัฒนาเมือง
|
ประชาชนได้รับโอกาสให้เลือกประกอบอาชีพได้หลากหลายตามแต่ละสมาคม
|
โมราต้าเป็นผู้นำด้านการพัฒนาในทวีปทางตอนเหนือ
|
เนื่องจากการขยายตัวทางวัฒนธรรม
ทำให้พื้นที่ได้รับการขยายไปจนถึงริมชายฝั่งบริเวณใกล้เคียง ถ้าจำนวนพ่อค้าที่ทำการแลกเปลี่ยนกับชาวประมง
และการขนส่งทางทะเล ถึงค่าที่กำหนดไว้
ท่านจะสามารถสร้างเริ่มการก่อสร้างท่าเรือได้
|
ชาวนามีความมั่นใจมากขึ้นจากการประสบความสำเร็จในการเก็บเกี่ยวต้นชา
|
เมื่อคุณประสบความสำเร็จในการเก็บเกี่ยวต้นชา
มันจะสามารถเพิ่มระดับวัฒนธรรมของโมราต้าไปพร้อมกับการส่งออกหลัก
|
โอกาสที่เคล็ดลับในการเย็บปักจะสูญหายไปตามประวัติศาสตร์ลดลง
|
มันช่างเป็นการท้าทายที่ยิ่งใหญ่แก่เหล่าช่างตัดเสื้อในการกอบกู้ความรุ่งเรืองในอดีต
|
เครื่องแต่งกายสวมใส่ในปัจจุบัน เครื่องหนัง และเกราะหนัง คือ
สินค้าชั้นดี และเสื้อผ้าชั้นเยี่ยมยังได้รับความนิยมในเหล่าขุนนาง
|
ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีและเงินทุนสนับสนุน
ทำให้ช่างตัดเสื้อทำการวิจัย ‘ผ้าไหม’
|
ช่างตีเหล็กผลิตดาบเหล็กกล้าจากการหลอมแร่เหล็ก
|
ของใช้ราคาถูกและคุณภาพดี
ต่างได้รับความนิยมและวางขายในร้านค้ามากมาย เช่น เครื่องเพชรที่ทำมาจากทอง, ดาบเหล็กกล้า, ถุงมือหนัง, เสื้อชั้นดี, แกะ,
สุราและมะกอก
|
สินค้าจำนวนมากผลิตขึ้นในโมราต้าและมีการแลกเปลี่ยนกันอย่างคึกคัก
|
เมืองโดยรอบก็กำลังพัฒนาทีละนิด ทีละนิด
|
ประชาชนต่างภูมิใจที่มีสิ่งก่อสร้างพิเศษและถนนที่กว้างขวางภายในเมือง
|
เหล่าพ่อค้าต่างพากันร้องขอให้มีถนนตัดผ่านไปยังสถานที่ต่างๆ!
|
ในฐานะแหล่งผจญภัยและการสำรวจ
มรดกตกทอดที่หลงเหลือมาจากจักรวรรดินิฟเฮม ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนกันภายในร้านค้า
|
ลอร์ดวีดผู้เป็นที่รัก
|
ถ้าคุณเข้าไปในตรอกซอกซอย
คุณจะไม่เห็นการขีดเขียนนินทาว่าร้ายให้กับท่านลอร์ด
|
แต่เมื่อมีสงครามขนาดใหญ่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าขวัญกำลังใจไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
|
ถึงแม้การเงินของโมราต้าจะไม่ได้ครอบคลุมรายจ่ายส่วนใหญ่ทางการทหาร
เงินจำนวนมากก็ยังไหลมาเทมาจากรายได้ทางภาษีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
|
ท่านมีอัศวินองครักษ์มากมาย
|
พลังขับเคลื่อนในการพัฒนาวัฒนธรรมคือความมั่นใจที่ไม่สิ้นสุดของพวกเขาและพวกคนรวยที่คอยสนับสนุนเหล่าศิลปิน
|
งานศิลป์ในศูนย์แสดงศิลปะโมราต้าได้รวบรวมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุมาจัดแสดงรวมถึงประติมากรรม
|
ประชาชนต่างคาดหวังให้มีสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่มากกว่านี้
|
เนื่องมาจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
สถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในระดับชนชั้นกลาง
|
ผลของอุปสงค์ในการย้ายจากกระต๊อบไปยังบ้านหลังใหม่ ทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างคึกคักมากกว่าเดิม
|
วิหารเฟรย่าเป็นศาสนาที่ผู้คนนับถือกันมากที่สุดในพื้นที่แถบนี้
พวกเขามียุ้งฉางมากมายรอบๆเมือง
|
ผลิตผลทางการเกษตรหลากหลายชนิด กำลังเจริญเติบโต
|
กองทัพต่อสู้กับมอนสเตอร์อยู่เป็นประจำ และการพัฒนาเศรษฐกิจ
ทำให้อัตราการก่ออาชญากรรมลดลง
|
สินค้าพิเศษ: งานศิลป์,
ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและเสื้อผ้า, มะเขือเทศ,
องุ่น, ข้าว, เนื้อ(วัว),
นม, เนยแข็ง, ไวน์,
เครื่องเงิน, ไวน์ปาล์ม, ผ้าชั้นดี, เครื่องเพชรที่ทำมาจากทอง, ดาบเหล็กกล้า, ถุงมือหนัง, เสื้อผ้าชั้นดี,
แกะ, สุรา และ มะกอก
|
จำนวนประชากรทั้งหมด: 2,423,932
|
รายได้ภาษีต่อเดือน: 2,311,627 เหรียญทอง
|
รายจ่ายในการบริหารหมู่บ้าน: 6% กลาโหม, 36%
|
การพัฒนาเศรษฐกิจ, วัฒนธรรม
14%, รางวัลในการปราบมอนสเตอร์ 19%, งานบำรุงซ่อมแซมเมือง
22%, บริจาคให้วิหารเฟรย่า 3%.
|
ความมั่งคั่งของโมราต้า!
ในขณะที่มันเป็นที่ที่เหล่าผู้เล่นใหม่มารวมตัวกันและเพิ่งมีการพัฒนาเมืองในทางเหนือ
มันจึงกลายมาสถานที่ที่ร่ำรวยเทียบเท่าได้กับเมืองที่มีชื่อจากทวีปกลาง
ยิ่งไปกว่านั้น
จำนวนประชากรยังมีขนาดเกินกว่าเมืองที่มีขนาดใหญ่
แม้ว่าจำนวนประชาชนและผู้เล่นใหม่ค่อยๆเติบโตเรื่อยๆ
ภาษีก็ค่อยๆเพิ่มเป็นเงาตามตัว
“เอาล่ะ
ตอนนี้ โจ๊กหญ้าเป็นสิ่งที่มีค่าเพียงอย่างเดียว ที่ควรค่าแก่การใส่เข้าไปในปาก!”
ในโมราต้า
เงินที่เขาเก็บไว้มีมากถึง 3.7 ล้านเหรียญทอง
ถ้าเป็นลอร์ดจากทวีปกลาง
พวกเขาคงใช้เป็นเงินทุนในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับกองทัพ
เพื่อสิ่งที่ไม่มีวันถูกพรากไปจากพวกเขา
พวกเขาเพิ่มกำลังให้กับกองทัพ จากนั้นก็ไปรุกรานตามหมู่บ้านต่างๆ
นี่เป็นเพราะว่ามีเมืองที่กำลังพัฒนาเชิงพาณิชย์อยู่มากมาย
เลยมีแหล่งความร่ำรวยอยู่ที่นั่นด้วย
โมราต้ามุ่งแต่การพัฒนาบริหารกิจการภายใน
จึงทำให้เมืองสามารถเจริญเติบโตได้ด้วยตัวมันเองจากแต่ก่อนที่เคยเป็นเพียงเศษซากหมู่บ้าน
“ฉันเดาว่าฉันคงต้องสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่เพิ่มอีกสินะ
ฉันเองก็ปรารถนาที่จะทำให้ที่แห่งนี้กลายมาเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสินค้าอย่างแท้จริง”
ลอร์ดสามารถสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ได้มากมายหลากหลายรูปแบบ
อันสืบเนื่องมาจากผลของการผจญภัย, วัฒนธรรม, เทคโนโลยี, และประชากร
เขาต้องดิ้นรนเมื่อตอนที่พยายามสร้างหอสมุดขนาดใหญ่และมหาวิหาร
ในเมื่อเขาสามารถระดมเงินทุนและทรัพยากรในโมราต้า
แต่ตอนนี้เขาสามารถจ่ายในระดับที่มากกว่านี้ได้แล้ว
ถ้าเขาสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่เพิ่มอีกสักสองแห่งในโมราต้า
จากนั้น
มันก็จะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทวีป
“และแสงอาทิตย์ก็จะสาดส่อง
ต้อนรับการมาเยือนของอภิมหึมามหาภาษี!”
ความโลภที่ไม่สิ้นสุด!
ท้องที่ห่านวางไข่ทองคำ
ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถแยกออกจากมันได้
หากไม่ขายไข่ทองคำพวกนั้น
และปล่อยให้พวกมันฟักออกมาให้เขา เขาก็จะสามารถหาประโยชน์จากทั้งโคตรตระกูลห่าน
“สร้างหอวิจัย!”
ได้มีการเลือกสถานที่อันกว้างขวางในเขตชานเมืองโมราต้า
ติ๊ง!
หอวิจัย!
|
หอคอยแห่งนี้คือสถานที่ที่เหล่านักเวทย์มาร่ำเรียนวิชาความรู้เพื่อศึกษาเกี่ยวกับความจริงของโลกใบนี้
|
มันช่วยให้สามารถเรียนเวทย์มนต์สายต่างๆ ได้ถึงสี่สาย
|
เวทย์มนต์ที่ได้รับการพัฒนาจะสามารถถ่ายทอดไปยังนักเวทย์ที่ผ่านคุณสมบัติและเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
นักเวทย์จะต้องส่งงานวิจัยหรืออัญมณีให้แก่ทางหอวิจัย
|
มันจะเสริมสร้างการเติบอย่างรวดเร็วให้กับการฝึกฝนของเหล่านักเวทย์และมันจะช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์สุดพิเศษ
|
ความจุในการค้นคว้าของหอวิจัยจะขึ้นอยู่กับความสามารถและจำนวนบรมครูผู้วิเศษที่อาศัยอยู่
|
เงินจำนวนมากจะใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนนักเวทย์
ทั้งเงินรางวัลและเงินเดือน
|
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง: อย่างน้อย
1.8 ล้านเหรียญทอง
|
ระยะเวลาการก่อสร้างอย่างน้อยเจ็ดเดือน
|
ระยะเวลาการก่อสร้างอาจเพิ่มขึ้น
หากเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับผู้คน
|
จำเป็นต้องมีสถาปนิกมากประสบการณ์
|
สถาปนิกผู้ที่เข้าร่วมในการก่อสร้างครั้งนี้จะได้ค่าประสบการณ์เฉพาะ
|
ประติมากร จิตรกร และนักเวทย์จำนวนมากต้องระดมกำลังร่วมกัน
|
ศิลปินที่เข้าร่วมการทำงานในครั้งนี้จะได้รับโอกาสเพิ่มเติมในการสร้างชื่อให้กับพวกเขา
|
– ท่านแน่ใจหรือไม่
ว่าจะเริ่มการก่อสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่, หอวิจัย?
|
หอแดกเงิน!
จากประสบการณ์ของเขา
วีดรู้ว่าการก่อสร้างปกติเล็งแต่จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
แต่สิ่งที่เขาเห็น
มันคือค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลในการปฏิบัติงานทันทีที่มันยังไม่เริ่มมีการก่อสร้างในโมราต้าด้วยซ้ำ
เมื่อนักเวทย์เติบโตขึ้น
ความเร็วในการออกล่าของเหล่าผู้เล่นก็จะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ตลาดสำหรับไอเท็มเวทย์มนต์ก็จะคึกคักมากขึ้น
ไอเท็มเวทย์มนต์สร้างมาจากวัตถุดิบหายากและมีราคาแพงเมื่อมีการแลกเปลี่ยน
จากมุมมองของเจ้าเมือง
มันคุ้มค่ากับเงินลงทุนเล็กน้อยของเขา
“อ้า
ถึงมันจะแพงไปหน่อยก็เหอะ แต่โดยรวม… มันก็ดีกว่าตอนที่ฉันสร้างมหาวิหาร
เอาล่ะ เริ่มการก่อสร้าง!”
–
การก่อสร้างหอวิจัยจะดำเนินการผ่านคำสั่งของเจ้าเมือง
|
ประชาชนในโมราต้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นและทักษะของสถาปนิกก็มีการพัฒนาไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ยังมีเหล่าผู้เล่นบ้างประปรายในป้อมปราการเวอร์โก้
พวกที่ยังต้องการเพิ่มรากฐานให้ความมั่นคงของตัวเองโดยการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ ในเมื่อพวกเขาไม่เพียงพอกับการมีแค่ป้อมปราการ
มันเป็นแค่เงินเล็กน้อยที่เตรียมไว้
เมื่อเทียบกับการลงทุนที่จะได้เงินเยอะๆในอนาคต!
“สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่เพื่อการทดสอบอาชีพเรนเจอร์ก็ดูไม่เลวเหมือนกันแหะ
อาคารสำหรับเหล่านักผจญภัยก็ดูดีใช่ย่อย”
โชคชะตาของเหล่าผู้เล่นมากกว่า
100,000 ราย
กำลังผสมปนเปไปกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการเลือกของวีดท่ามกลางสายอาชีพเหล่านั้น
“สร้างอีก
2 อันก็น่าจะพอแล้วมั้ง? ถ้าฉันลงทุนต่อ
แลดูว่าเงินคงช๊อตแน่จนกว่าจะถึงเวลาเก็บภาษีรอบหน้า ไม่ๆ
ฉันต้องสร้างบางอย่างที่มั่นคงมากกว่าเรื่องจำนวน”
วีดตัดสินใจสร้างเพิ่มอีกอย่าง
มันเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ตกทอดมาจากยุคโบราณ!
เขาจะสร้างสิ่งที่ได้รับการสืบทอดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากเหล่าคนแคระในรัทเซเบิร์ก
“สร้าง
เตาหลอมเฮสเทีย!”
สถานที่ที่ได้รับเลือกให้มีการก่อสร้างคือนอกประตูเมืองโมราต้า
ตริ๊ง!
เตาหลอมเฮสเทีย!
|
เหล่าคนแคระชื่นชอบความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเทพธิดาเฮสเทียราวกับเตาไฟ
|
พวกเขาสร้างเตาหลอมขนาดใหญ่ยักษ์เพื่อทำการแยกเหล็กจากแร่เหล็กและตั้งชื่อให้กับมันว่าเตาหลอมเฮสเทีย
|
บางครั้งเมื่อช่างตีเหล็กกำลังทุบตีเหล็ก
ประกายไฟเล็กๆจะปรากฏและพุ่งออกมา มีการพูดกันว่ามันเป็นการอวยพรจากเทพธิดาเฮสเทีย
|
มีการกล่าวขานกันว่าไอเท็มที่สร้างในสถานที่แห่งนี้จะมีพลังวิเศษ
|
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง: อย่างน้อย
950,000 เหรียญทอง
|
ระยะเวลาการก่อสร้างอย่างน้อยห้าเดือน
|
ระยะเวลาการก่อสร้างอาจเพิ่มขึ้น
หากเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับผู้คนสถาปนิกผู้ที่เข้าร่วมในการก่อสร้างครั้งนี้จะได้ค่าประสบการณ์เฉพาะ
|
ช่างตีเหล็กจำนวนมากต้องระดมกำลังร่วมกัน
|
ช่างตีเหล็กที่เข้าร่วมการทำงานในครั้งนี้จะได้รับโอกาสในการเรียนรู้วิธีการควบคุมไฟ
|
เมื่อเตาหลอมเฮสเทียสร้างเสร็จแล้ว
ท่านจะได้รับของขวัญจากช่างตีเหล็ก
|
– ท่านแน่ใจหรือไม่
ว่าจะเริ่มการก่อสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่,
เตาหลอมเฮสเทีย?
|
“เริ่มการก่อสร้าง!”
การก่อสร้างเตาหลอมเฮสเทียจะดำเนินการผ่านคำสั่งของเจ้าเมือง
|
ในโมราต้า
ยังคงมีผู้เล่นอีกเป็นจำนวนมากที่ยังขาดความสามารถ
ช่างตีเหล็กฝึกหัดทำได้แค่ดาบกับเกราะด้วยการใช้แร่เหล็กชั้นดี
“ในฐานะลอร์ด
ช่างอาภัพซะเหลือเกินที่เราสามารถให้ได้เพียงเท่านี้!”
เมื่อการค้าเกิดขึ้น
สินค้าที่ผลิตจากเตาหลอมของโมราต้าจะขายได้มากขึ้นด้วย
แล้วถ้าคุณสวมใส่อุปกรณ์ดีๆ
ต่อให้เป็นนักรบ ร่างกายของคุณก็จะรู้สึกคันๆ
และการที่ได้มาอยู่ในโมราต้าก็จะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
‘เวลาแห่งการขึ้นภาษี’ เร็วๆนี้ ทุกโรงภาพยนตร์!
วีดลงทุนเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
“ฉันเดาว่าฉันคงต้องได้ทำเครื่องปั้นดินเผาบ้างซะแล้ว”
แม่น้ำ
ทะเลสาบ และผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ของโมราต้า มันมาพร้อมกับดินหลากชนิด
เมื่อเมืองมีเตาหลอมขนาดใหญ่
กำลังการผลิตของช่างตีเหล็กยังมีไม่เยอะ ก็ปล่อยให้มันลุกโชติช่วงต่อไป
คนตัดไม้รอบๆบริเวณใกล้เคียงป้อมปราการเวอร์โก้ก็ส่งไม้คุณภาพดีมาให้
ทั้งหมดทั้งมวลนี้
ช่างเหมาะเจาะที่จะทำเครื่องปั้นดินเผา
ปัจจุบัน
ภารกิจปรมาจารย์แต่ละสายอาชีพยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด
จำนวนผู้คนที่วนเวียนอยู่กับการทำภารกิจยังไม่เยอะเท่าไหร่
เพราะพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นที่สุดยอดที่สุดในสายอาชีพของพวกเขา
เพื่อทำภารกิจปรมาจารย์แกะสลักของเขาให้สำเร็จ
เขาจำเป็นต้องทำงานในเวลาว่างเพื่อเพิ่มเลเวลทักษะให้เต็ม
“คนอื่นๆ
พวกเขาก็ได้แต่ภารกิจต่อสู้ปกติทั่วไป ในขณะที่พวกเลเวลทักษะของพวกเขาเพิ่มขึ้นและยังได้ไอเท็มอีกด้วย
โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย…..”
ประติมากรก็ได้แต่บ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้
วีดสะสมค่าอุทิศของแต่ละเผ่าพันธุ์จนมีจำนวนมหาศาล
แม้แต่คนอื่นก็มิอาจเอื้อมถึง
การที่มีพื้นเพเกี่ยวกับรัทเซเบิร์ก
มีโอกาสเป็นไปได้เยอะมากสำหรับเขา
ประติมากรเพียงผู้เดียวที่ต้องหาสถานที่แห่งนั้น
เขามาเพื่อเพิ่มทักษะเลเวลของเขา
เพื่อให้ได้มาซึ่งทักษะแกะสลักลับในท้ายภารกิจ
“ฉันต้องยืนยันและเห็นมันกับตาว่าพวกมันเป็นกำลังที่นิยมและเหล่าขุนนางต่างก็ต้องการมีไว้ในครอบครอง!”
ในทวีปเวอร์เซลล์
แม้เครื่องปั้นดินเผาจะไม่ใช่ของดั้งเดิมที่มีมานาน มันก็ยังถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่งานศิลปะสุดหรู
วีดเป็นผู้จุดกระแสผ่านการขายให้กับเมแพน
“แล้วก็
ฉันจะเอามันไปขายให้พวกพ่อค้าและทำให้มันโด่งดังจนเป็นที่นิยมสุดๆ ”
เครื่องปั้นดินเผาได้เงื่อนไขดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลงานศิลปะชิ้นอื่นๆเพราะคุณจะได้กำไรดีมากประมาณ
3-7 เท่า
มันเป็นโอกาสอันดีสำหรับเหล่าประติมากรฝึกหัดในเมื่อปราศจากซึ่งทักษะการแกะสลัก
ทุกคนจะได้หันมาพิจารณาการทำเครื่องปั้นดินเผา
ช่างทำเครื่องปั้นดินเผาจะเบ่งบานอย่างรวดเร็วหลังจากทำผลงานและขายพวกมันในเมือง
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่แจกันและถ้วยชามที่ทำด้วยมือ
มันก็ยังดึงดูดความนิยมได้เป็นอย่างดีท่ามกลางเหล่าผู้เล่นหญิงสาว
ด้วยประการละฉะนี้
ถ้าเขาล้มเหลวในการจัดการสิ่งเหล่านี้ ท้องไส้ของเขาคงจะปั่นป่วนขึ้นมาในทันที!
“ฉันต้องทำเครื่องปั้นดินเผาที่แท้จริงให้ได้และต้องพิจารณาสร้างกฎเกณฑ์ถึงเหตุผลที่ทำให้มันล้มเหลว
จิตวิญญาณของศิลปินก็เหมือนกับแผ่นเสียงขนาดใหญ่ที่เก็บรวบรวมผลงานอันทรงคุณค่าของพวกเขา
ผลงานของพวกเขานั้นมีมูลค่าราคาแพง!”
***
ข้อความในกระดานสนทนา
มีการเข้าดูถึง 17 ล้านครั้ง ภายในวันเดียว!
หัวข้อ: มันแย่มากเลย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในร้าตา
|
อือหึ้ ผมเป็นพวกมือใหม่ที่เริ่มต้นในโมราต้า!
|
ตอนนี้ผมเลเวล 19 แล้ว
โปรดเข้าใจด้วยว่าสิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้ เป็นเพียงการสรุปแบบหยาบๆเท่านั้น
|
ผมรู้สึกดีมากทั้งกายและใจ รู้สึกได้จากภายในว่ามันดีสุดๆ
|
เดิมที ผู้เล่นใหม่ทุกคนล้วนประสบปัญหาความยากลำบากในการหาเงิน
|
ด้วยความสัตย์จริง ผมจะอยู่ยังไงกะอีแค่ขนมปังข้าวบาเล่ 10 ก้อนและกระติกน้ำ 1 อัน?
|
แต่ ผมได้รับการแบ่งปันด้วยโจ๊กหญ้าแสนอร่อยตามท้องถนน!
|
ผมออกล่ามาตลอดทั้งวันจนรู้สึกหิวมาก
ผมเลยหยิบเอาเค้กข้าวทำจากหญ้ามากิน
|
ระหว่างการเดินทาง ผมเติมท้องให้อิ่มด้วยเค้กข้าวหญ้า
และในส่วนของภารกิจ… มันจะเยอะมาก มากมายก่ายกอง เป็นภูเขาเลากา
ที่สามารถหาได้เฉพาะที่เมืองแห่งนี้เท่านั้น
|
เป็นเด็กส่งของให้เจ้าของร้านขายอาวุธ? มีใครได้ทำงานแบบนี้บ้างในโมราต้า?
|
ตำนานที่หายไปของจักรวรรดินิฟเฮม หรือ ภารกิจการหาไอเท็ม หรือ
การพูดคุยกับผู้คนมากมาย จนคุณสามารถได้รับภารกิจให้มาทำ
|
แรกเริ่ม
มันยากที่จะได้รับภารกิจโดยปราศจากชื่อเสียงและค่าความสนิทสนม
|
แต่ด้วยความจงรักภักดีและความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อท่านลอร์ดแห่งโมราต้า
ทำให้พวกเค้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก จนผู้คนเป็นมิตรและไว้ใจพวกคุณ
|
การพูดคุยกับผู้คน
สามารถช่วยรวบรวมชิ้นส่วนบางเรื่องราวและนำมันมาปะติดปะต่อ
เพื่อเป็นหนทางไปสู่ภารกิจหลัก
|
ภารกิจที่มีความยากระดับ C หรือ
D
|
ผมเป็นเพียงแค่พวกมือใหม่ ทำให้ผมยังไม่สามารถทำภารกิจพวกนั้นได้
|
เพราะมีการจดบันทึกเกี่ยวกับข้อมูลการทำภารกิจในหอสมุดขนาดใหญ่ นักผจญภัยคนอื่นๆจึงให้รางวัลตอบแทนหลังจากที่ผมให้ข้อมูลกับพวกเขา
นั่นเอง
ทำให้ผมมีเงินเก็บเอาไว้ซื้อของได้มากมายและยังได้รับส่วนแบ่งจากการที่พวกเขาทำภารกิจสำเร็จด้วย
|
ผู้คนที่หลงทางมาจากจักรวรรดินิฟเฮมได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในโมราต้า
|
พวกเขาจึงมีภารกิจให้ผมทำมากมาย เช่น การรวบรวมข้าวของต่างๆ
เป็นต้น
|
และผมนำเงินที่ได้ไปซื้ออุปกรณ์สวมใส่มาใช้
ส่วนปัญหาเรื่องอาหารไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
|
แต่ผมก็ยังต้องหาข้อมูลก่อนที่จะทำการซื้อขายอุปกรณ์สวมใส่
|
ผมรู้สึกไม่ดีมากๆ ที่ราคามันถูกกว่าของข้างนอก มันแบบว่าโคตรถูก
ถูกมาก ถูกจริงๆ
|
ภาษีของโมราต้าก็ต่ำมาก ทำให้ยังมีกำไรเหลือจากการขายอีกเยอะเลย! เหล่าพ่อค้าแม่ค้า
ต่างก็พากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
พวกเขาจะอยู่ที่นี่และขายของในโมราต้าเพราะภาษีเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
|
มีผู้เล่นอีกมากมายแค่นั่งลงแล้วก็ได้โชคมหาศาล
|
ทำให้ผมไม่อยากเป็นพ่อค้าสักเท่าไหร่
|
บรรดาลูกค้าที่มาจับจ่ายซื้อของก็เยอะเกินซะจนผมไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างสนุกนัก
|
ส่วนการแลกเปลี่ยน คุณต้องคอยรับมือกับพวกอีช่างติ
ชอบบ่นว่าไอเท็มหรือของคุณที่เอามาขายมันแพงเกินไป
สิ่งที่คุณทำได้คือยิ้มรับและขายของต่อไป
|
ผมใช้เงินไปกับการชื่นชิมงานศิลปะมากมายในโมราต้า และผมเห็นผลงานของพวกผู้เล่นฝึกหัดในศูนย์ศิลปะที่ค่าเข้าถูกมาก
ซึ่งมันทำเงินได้เยอะ
|
ผลประโยชน์ที่ได้จากการเข้าไปดูงานศิลปะและการแสดงของจินตกวี
ผมออกเดินทางไปยังพื้นที่ล่าและต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์
|
พื้นที่ล่าเองก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายและในป่าก็กว้างขวางทำให้เห็นความหลากหลายในด้านชีวภาพ
ความปลอดภัยทางสาธารณะเองก็ดีต่อพวกมือใหม่ เพราะมอนสเตอร์ยากๆพวกนั้นจะไม่เฉียดเข้าไปใกล้ในเมือง
|
เมื่อผมเดินและพบกับพาลาดินและนักบวชแห่งวิหารเฟรย่าห์
พวกเขาอวยพรและใช้เวทย์รักษาให้ผมทุกครั้งที่พวกเราพบกัน
|
ทำไมผมถึงออกมาพูดเรื่องพวกนี้น่ะเหรอ?
|
ถ้าคุณเป็นพวกมือใหม่ที่นี่ล่ะก็ คุณต้องตกใจไปกับความสนุกและความสะดวกสบายจากสถานที่แห่งนี้
|
จากนั้นเงินที่เก็บสะสมมาได้ คุณก็จะมีกระท่อมสวยๆในสไตล์ที่คุณชื่นชอบ
|
เนื่องจากการกระจายตัวของเลเวลในโมราต้า ผมไม่รู้สึกกังวลเลยสักนิดเวลาผมออกไปที่ไหน
|
ไม่เพียงแค่นั้นศูนย์ศิลปะและมหาวิหาร ผมยังไปเยี่ยมเยือนสมาคมต่างๆและหอสมุดขนาดใหญ่
|
แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจมากกว่าเดิมก็คือ
ท่านลอร์ดได้สร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 แห่ง คุณคิดว่าลอร์ดแห่งโมราต้าบ้ารึเปล่า?
|
แค่ในทวีปกลาง
พวกเขาก็อยู่กันอย่างยากลำบากภายใต้การดูแลของพวกกิลด์รวยๆ?
|
พวกเรารู้สึกอิจฉา แค่การได้ใช้ชีวิตความเป็นอยู่แบบนี้
มันทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกใบนี้เลย
|
ผมก็เคยมีเวลาที่ยากลำบาก
เวลาพวกนั้นทำให้คุณรู้สึกเหมือนชีวิตนี้มันยากนะ มันช่างเจ็บปวดซะเหลือเกิน
|
ความคิดเห็นมากมายพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะลุกเป็นไฟ
– โมราต้าเป็นอย่างนี้…นี่สินะเหตุผลที่ผู้คนต้องการไปที่นั่น
|
– มันราวกับสรวงสวรรค์เลยล่ะ
ฉันเริ่มเล่นที่ปราสาทลิปส์ เฮ้อ ไอ้เวรตะไลพวกนั้น
มันทำให้หัวใจของฉันรู้สึกเพียงอย่างเดียวมาตลอด ฉันอยากฆ่าพวกมันให้ตายๆไปซะ
|
–
ฉันรู้สึกเศร้าที่ต้องมาเขียนเรื่องราวแย่ๆแบบนี้
ฉันเคยไปสถานที่ต่างๆมาแล้วมากมาย มันน่าเบื่อและมีแต่ปัญหา แต่ฉันก็ยังมีชีวิตรอดมาได้
|
โมราต้าคือสถานที่พลิกฟื้นชีวิตให้กับฉัน!
|
– โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!
มีอะไรโผล่ขึ้นมาในกอหญ้า มันคือเห็ดนั่นเอง โจ๊กหญ้าเห็ด
|
– ท่านลอร์ดชอบสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่เอามากๆ
|
ทั้งรวย มั่งคั่ง มั่นคง สถานที่แห่งความรัก ทุกอย่างเลย บางที
ฉันควรจะไปโมราต้า
|
– ผมเป็นนักเรียนมัธยม
ผู้ที่ยังไม่ได้เริ่มเล่นรอยัลโร้ด ผมอยากจะเล่นตอนนี้เลย ผมจะเสียใจมั้ยถ้าผมเริ่มเล่นในโมราต้า?
มันต้องเป็นที่นั่นอย่างเดียวเหรอ?
|
– เม้นท์ข้างบนช่างไร้เดียงสา….
|
– เม้นท์ข้างบน ระวังหน่อย
ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงจูบกัน จะมีเด็กออกมานะ
|
จบตอน
ผู้แปล :
แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
พวกคอมเม้นท์เเม่งจี้ดีจริงๆ ยิ่งล่างสุดไม่ใสซื่อจริงคงไม่เชื่อ
ตอบลบขอบคุณครับผม ตามอ่านทุกวัน ขอบคุณครับ
ตอบลบเม้นฮา
ตอบลบจะกลายเป็น มหานคร หรือเปล่านิ
ตอบลบอ้อลืม ขอบคุณท่านผู้แปลสุดแสนใจดีทุกๆท่านครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบอ่านเม้นสุดท้ายเป็นปลากัดหรอ
ตอบลบโหดมาก หลอกเด็กมัธยมว่าจูบกันแล้วท้อง ฮ่าๆ
ตอบลบเม้นอย่างจี้ นึกว่ากระทู้พันดริฟ
ตอบลบ