เล่ม 25 ตอนที่
6 : เพลงดาบประกายแสงเบื้องหลังประติมากรรมเหล่านั้น แปลโดย Acid
กรด
"เร็วๆ เข้าเถอะ"
วีดไม่ได้รู้สึกว่าต้องให้การดูแลปรมาจารย์ดาบเป็นพิเศษ
ค่ามิตรภาพจะลดลงเมื่อวีดสั่งให้ซาฮับลาดตระเวนโดยรอบ
และถึงอย่างไรก็ตาม แต้มจะลดลงอย่างช้าๆเมื่อพวกเขาอยู่ร่วมกัน
มันเป็นสิทธิ์ที่จะใช้แต้มมิตรภาพ วีดจึงระดมใช้ซาฮับ
ให้มากเท่าที่จะทำได้
- กวาดล้างเพนฟิลส์ดันเจี้ยน(the
Penfils Dungeon)
- ออกล่ามอนสเตอร์ยักษ์ในป่าแห่งความมืด(the
Dark Wood Forest)
- ทำลายล้างเหล่ามอนสเตอร์ในไกท์เนอร์ดันเจี้ยน(Geithner
Dungeon)จนราบคราบ
- การค้นหาสมบัติของพวกเขาในถ้ำอูฐ(the
Carmel Lair)เสร็จสมบูรณ์
นี่คือความสำเร็จที่วีดทำจนบรรลุผลร่วมกับซาฮับ
ใช่แล้ว,
เจ้าเหลือง และโกล์มินิ ก็ตามอยู่ข้างหลังเขาและเหล่าไวเวินก็ติดตามพวกเขาออกล่าในพื้นที่ต่างๆ
"มีศัตรู เตรียมพร้อมต่อสู้"
ยามเมื่อซาฮับกวัดแกว่งดาบของเขา,
วีดจะรู้สึกผ่อนคลายและโจมตีได้มากเท่าที่เขาต้องการ กราพาสเคยอวดอ้างเรื่องระดับความยากอันน่ากลัว
และเมื่อวีดประเมินมันแล้วว่าอันตรายจริงทั้งเลเวลที่สูงหรือพลังการโจมตีของพวกมอนสเตอร์
เขาจะซ่อนตัวห่างไกลออกไปและยิงด้วยธนูของเอลฟ์ชั้นสูง(High elf bow)
แต่เมื่อวีดคิดถึงสิ่งที่เขาจะได้รับ,
เขาจึงต่อสู้อยู่ข้างๆซาฮับ
'เขาสู้ได้ดีจริงๆ'
ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้
ในการต่อสู้ของปรมาจารย์ดาบ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นซาฮับ,
เขาไม่ได้อยู่ยงคงกระพันและได้รับบาดเจ็บ
"โอ้ว ตายจริง!
มีบาดแผลมากมายเลย ขออนุญาตให้ผมได้ใช้ผ้าพันแผลรอบๆพวกมันสักหน่อย
ผมจะใช้พวกสมุนไพรร่วมด้วย"
ทักษะพันแผลขั้นมาสเตอร์!(
The Master Bandaging skill)
วีดพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ค่ามิตรภาพลดลงช้าที่สุดด้วยการทำอาหารและให้การดูแล
เหล่าดาร์เกมเมอร์จับตามองอย่างพิศวงต่อไป
'นั่นมันงกอย่างบ้าคลั่ง...'
'นี่มันก็เป็นเงื่อนไขทั่วๆไป,
ให้ยารักษาหลังจากได้ผลประโยชน์มาแล้ว'
'ถ้าฉันไปติดกับเข้า, เขาคงสูบเลือดฉันจนแห้งตาย'
วีดไล่ล่าเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด
เขาค้นหาไปรอบๆเพื่อหามอนสเตอร์ระดับบอส(boss monsters)
และชักนำให้ซาฮับเข้าสู่ดันเจี้ยนที่ล้นหลามไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์
ซาฮับสามารถทำได้แค่เพียงปล่อยชีวิตไปวันๆในกราพาส
โดยปราศจากการติดต่อกับมนุษย์
ซอยูนและฮวายอง
รับรู้ถึงความต้องการของวีดและได้แต่ยอมรับมันมากขึ้น
'คุณวีดต้องไม่ได้รับบาดเจ็บ'
ซอยูนก็ไม่ได้ไปด้อยกว่าซาฮับเลย
และโจมตีเหล่ามอนสเตอร์ซึ่งๆหน้า ศักยภาพความบ้าบิ่นในการต่อสู้ของเธอได้แสดงออกมาให้เห็น
ดังนั้นเหล่าที่ซ่อนของพวกมอนสเตอร์ที่วีดได้นำพวกเขาไปจึงเป็นพื้นที่ออกล่าชั้นเยี่ยม
ฮวายองเต้นได้จับใจ,
ล่อหลอกพวกมอนสเตอร์และทำให้เกิดความสับสน แต่การเต้นมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับพวกมอนสเตอร์ที่ได้สัมผัสกับมนุษย์มาไม่มากนัก
พวกดาร์เกมเมอร์ยังมีส่วนร่วมและได้เพิ่มประสิทธิภาพในการออกล่า
ภารกิจทั้งหลายที่พวกเขาได้รับเหมาะสมกับระดับของพวกเขาและได้รับผลประโยชน์ที่พอใจ
'ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ได้แต่อิจฉา ในกราพาสเนี่ย เขาออกค้นหาทุกซอกทุกมุมไปกับปรมาจารย์ดาบ...' (Leaving no stone unturned สำนวนนี้แปลว่า “พยายามอย่างสุดความสามารถ, พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้”
อาจจะเพื่อค้นหาบางอย่างหรือเพื่อให้บางอย่างได้ผลลัพธ์ออกมาตามต้องการ)
'และนี่เป็นการออกล่าสุดเจ๋ง,
เลเวลของฉันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างง่ายดาย ที่นี่ ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้
ที่เขาอนุญาตให้พวกเราเข้าร่วมด้วย'
'ผูกขาดเหล่าไอเทมและสมบัติทั้งหมดในดันเจี้ยน
อ้า,นี่ละเหตุผลที่ทำไมวีดผู้นี้จึงรู้จักกันในนามเทพสงคราม'
เหล่าดาร์กเกมเมอร์ได้แต่ใช้เวลาไปวันๆในการออกล่าอย่างน่าเบื่อเพื่อวีด
"พวกเราออกล่าไปมากมายเมื่อวานนี้,
วันนี้ผมมีแผนจะทำเช่นเดียวกัน ผมอยากจะเข้าดันเจี้ยนใหม่ในวันนี้ด้วย"
ค่าเข้าร่วม,
ค่าอาหาร, ค่าผ้าพันแผล, ค่าสมุนไพร, จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เจ้าเหลือง,
ค่าซ่อมแซมอาวุธและเกราะ, พวกเขาต้องจ่ายมันทั้งหมด
วีดกำลังสูบเอาทุกๆอย่างอย่างกับตัวเห็บ!
และกระนั้น,เมื่อร่วมกันกับซาฮับ, พวกเขาตระเวนไปทั่วทั้งกราพาส ออกล่าและสำรวจอย่างไร้จุดหมาย
มิตรภาพกับซาฮับลดลงเหลือ 25 แต้ม
|
ซาฮับเก็บดาบใส่ฝัก
"เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว
ข้าคงต้องขอลาเพื่อออกไปท่องเที่ยวในทวีป ข้าจะไม่ลืมช่วงเวลาที่พวกเราได้ใช้ร่วมกันเลย"
สัญญานักรบรับจ้างแบบฟรีๆของซาฮับได้สิ้นสุดลงแล้ว
ซาฮับได้กล่าวอำลา ค่ามิตรภาพเหลือน้อยเต็มที
ดังนั้นวีดจึงไม่สามารถรั้งซาฮับให้อยู่นานกว่านี้ได้
"มันหมายความว่าท่านต้องจากไปในลักษณะนี้
มันคงจะดีถ้าพวกเราได้เรียนรู้จักกันให้มากขึ้น"
วีดพยายามเสนออาหารและของขวัญพื้นๆอีกครั้ง
แต่ซาฮับไม่ต้องการพวกมัน
"ข้าเหนื่อยแล้ว และตอนนี้ข้าต้องการพัก
ดังนั้นข้าขอให้การล่ำลาสั้นๆเพียงแค่นี้"
วีดไม่มีทางเลือกแต่ในขณะที่ส่งลา
และก่อนจากกัน เขาได้ถามคำถามบางอย่างในนาทีสุดท้าย
"ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่พวกเราอาจไม่ได้พบกันอีกบนทวีปนี้
ท่านจะไปที่ใดต่อจากนี้หรือครับ?"
"จากนี้ไป, ข้าจะแยกตัวไปยังที่ราบสูงไบรซ์(the Bryce Highlands) ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะอยู่ที่นั่นนานเท่าใด, แต่ถ้าเจ้าต้องการจะพบข้า
เจ้าก็ลองไปหาข้าดูที่นั่น"
"ครับ, ผมจะทำตามนั้น และดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ"
ซาฮับกำลังเดินเขยกขาซ้ายของเขาที่ได้รับบาดเจ็บและใช้ดาบของเขาเป็นตัวพยุง วีดเสียใจจริงๆจากการแยกกันในครั้งนี้
'มันคงจะดีที่ได้ใช้เขาอีกครั้ง
ฉัน(วีด)มั่นใจว่าเราต้องได้พบกันอีกครั้ง'
เลเวลของเขาพุ่งขึ้นสองเท่าระหว่างการออกล่าร่วมกับซาฮับและความเชี่ยวชาญการใช้ดาบของเขาบรรลุถึงขั้นสูง
เลเวล 2
นี่คือคำขอบคุณทั้งหมดที่ได้ออกล่าร่วมกันกับปรมาจารย์ดาบ
เคล็ดมีดสลักแสงจันทร์ก็ก้าวเข้าสู่ขั้นกลางเลเวล 9
ฮวายองได้ถามวีด
"คุณจะไปที่ไหนคะตอนนี้?"
เธอต้องการใช้เวลาสบายๆด้วยกันแค่สองต่อสองเพิ่มขึ้น
"ผมต้องกลับไปที่บ้านของซาฮับเดี๋ยวนี้เลย"
เขาต้องกลับไปรายงานให้นางสนองพระโอษฐ์ชราในอาณาจักรโรเซนไฮม์
กราพาสเป็นเขตที่จะกลับมาได้ยากยิ่ง
ดังนั้น
เขาต้องทำให้แน่ใจก่อนว่าเขาได้เห็นประติมากรรมของซาฮับทั้งหมดก่อนที่จะจากไป
ซาฮับใช้กระเป๋าวิเศษเพื่อเก็บ
ประติมากรรมของเขาไปแล้วประมาณ 80% แต่ยังคงมีบางส่วนถูกทิ้งไว้
*****
สัญญาระหว่างเหล่าดาร์กเกมเมอร์กับฮวายองเป็นการตกลงกันว่าจะช่วยและคุ้มครองเธอระหว่างที่เธอตามหาวีดในเขตกราพาส
หลังจากสิ้นสุดสัญญาฮวายองบอกให้พวกเขาไปได้
แต่ไม่มีใครพยายามจะจากไปสักคน
"ไม่มีงานอื่นให้ทำและช่วงนี้มันก็น่าเบื่อ..."
"โลกนี้เป็นสถานที่โหดร้าย เป็นที่ๆอะไรก็เกิดขึ้นได้,
พวกเราจะขอดูแลปกป้องคุณ"
"ผมกำลังทำให้มั่นใจว่า คุณจะอยู่ในความปลอดภัยจนถึงที่สุด
ด้วยสำนึกที่ดี(ของผม)จะให้ผมปล่อยสาวสวยอยู่ตามลำพังได้อย่างไร?"
เหล่าดาร์กเกมเมอร์ให้เหตุผลเพื่อพยายามอยู่ต่อให้นานขึ้น
การออกล่าในกราพาสไม่เลวนักและพวกเขารู้สึกได้ว่าถ้าพวกเขาติดตามอยู่รอบตัววีด
พวกเขาต้องได้รับบางสิ่งบางอย่าง
"โอ้ว.โห, คลังเก็บของปรมาจารย์ดาบเป็นอย่างนี้นี่เอง มีพวกประติมากรรมเยอะแยะมากมาย"
"ประติมากรรมเหล่านี้คุณภาพสูงมาก"
"มโหฬาร! ดูซิว่ามันจะให้ค่าสถานะสักเท่าไร
ค่าสถานะทางศิลปะของฉันเพิ่งได้มาเมื่อเร็วๆนี้เอง"
เหล่าดาร์เกมเมอร์ก็ได้รับโอกาสครั้งหนึ่งของชีวิตภายในคลังเก็บงานศิลป์ของซาฮับ
วีดเริ่มการสังเกตของเขาอย่างระมัดระวังกับงานประติมากรรมที่ซาฮับทำขึ้นทั้งหมด
"ตรวจสอบ!"
นายพรานเล็งธนูของเขา
|
ผลงานของปรมาจารย์ประติมากรปลดเกษียณ
คันธนูถูกง้างไปยังงูที่กำลังกินกวางเป็นอาหาร
|
คุณค่าทางศิลป์
: 871
|
คุณสมบัติพิเศษ
: เพิ่มอัตราการเติบโตของฝูงกวาง
|
เขาสามารถอ่านความทรงจำที่ฝังไว้ในประติมากรรม
"นี่เป็นผลงานที่ดี"
วีดสังเกตงานประติมากรรมชิ้นอื่นๆ
ฤดูใบไม้ผลิ,
ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง, ฤดูหนาว
เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูต่างๆระหว่างที่สร้างสรรค์ประติมากรรมชิ้นนี้
มีวิดีโอฝังอยู่ในรูปปั้นดินพิเศษนี้
หมู่บ้านที่สร้างจากดินเผา
|
หมู่บ้านที่ก่อตั้งบนที่ราบสูง, ผู้คนผ่านไปมาพลุกพล่าน
|
เป็นภาพที่ไม่เคยพบเคยเห็นจวบจนวันนี้
และชั่วชีวิตนี้
|
คุณได้พบเบาะแสแรกของนักผจญภัยผู้สูญหาย
|
ระหว่างที่เควสยังดำเนิน, เบาะแสต่างๆที่ได้รับก่อนหน้านี้ไม่สามารถใช้งานได้
|
"เควสวีดีโอนี้
มันยังไงกันนะ?"
มีโอกาสสูงมากที่มันจะเป็นเควสที่เกี่ยวข้องกับการแกะสลัก
ยังคง,
ยังคงมีเควสการแกะสลักมากอยู่, เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำหรือไม่ทำมัน
แม้ว่าหลังจากนั้น,
ประติมากรรมอีกมากมายยังแสดงวีดีโอของประติมากรรมที่ซาฮับซ่อนไว้รอบๆกราพาส
"มันจะใช้เวลามากเกินไปที่จะหาพวกมันทั้งหมดและพวกมอนสเตอร์ก็ทำให้มันดูน่าเบื่อ"
พวกประติมากรรมอาจถูกฝังอยู่ในผนังดันเจี้ยน
หรือถูกเก็บเป็นสมบัติของพวกมอนสเตอร์
"ที่สำคัญมาก, พวกประติมากรรมที่ฉันทำนี่ละคือปัญหา"
วีดเอาพวกประติมากรรมที่เขาทำขึ้นและเก็บดูแลพวกมันไว้ออกมา
ประติมากรรม 'ซาฮับควงดาบของเขา' มันแทบจะมั่นใจว่ามีทักษะลับวิชาดาบของปรมาจารย์ดาบซุกซ่อนอยู่ในพวกมัน
ถ้าวีดเดาถูก,
ประติมากรรมเหล่านั้นจะกลายเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งที่ผู้ใช้ดาบทุกๆคน(ต้องการ)
แต่ไม่ว่าเขาจะตรวจสอบดูขนาดไหน,
มันก็ยังคงเป็นชิ้นงานแกะสลักที่ดีชิ้นหนึ่ง
จากการที่เขาแกะสลักมันเป็นของส่วนตัว,
เขารู้จักงานชิ้นนี้เป็นอย่างดี, แม้การอ่านความทรงจำที่ยุ่งเหยิงของ
เหล่าประติมากรรมก็ไม่ได้เปิดเผยอะไรเป็นพิเศษ
"ฉันต้องไขความลับของประติมากรรม"
ขณะที่คนอื่นๆยังถูกทำให้สับสน ไม่สามารถทำอะไรได้,
วีดพยายามไขปัญหาอันหนักหน่วงนี้
"อืม"
วีดค้นหาทุกซอกทุกมุมของประติมากรรม
"มันเป็นไปได้ไหมที่ฉันไม่สามารถเลียนแบบทักษะดาบของซาฮับได้อย่างสมบูรณ์?"
เขาเปรียบเทียบทั้งขนาดของร่างกาย,
สัดส่วน และแม้กระทั่งองศาการเคลื่อนไหวของท่วงท่าการควงดาบอย่างสมบูรณ์
มันลำบากที่จะร่างภาพแต่ละท่าทางการเคลื่อนไหวของประติมากรรมได้อย่างสมบูรณ์
แต่ด้วยความที่เขามากประสบการณ์และทักษะการเรียนรู้จากการสังเกต,
วีดจึงจัดการมันได้
เขาสามารถสร้างประติมากรรมในระหว่างการจิตนาการถึงผลงาน,เรื่องความผิดพลาดของสาระระหว่างที่มองดูอย่างตั้งใจเป็นไปไม่ได้เลย
มันจะเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง
ถ้ามีความผิดพลาดเล็กน้อยมาขัดขวางการเรียนรู้ทักษะดาบของซาฮับ
"ฉันควรจะทุบมันไหม?"
เขากำลังใคร่ครวญถึงวิธีการที่รุนแรงอย่างใช้การทำลายประติมากรรม
แต่เขายังยั้งมือของเขาเอาไว้เพราะมันมีมูลค่าสูง
"คำตอบ, มันต้องมีวิธีไขปัญหาอยู่ที่ไหนสักแห่ง"
ถ้าซาฮับแสดงทักษะลับวิชาดาบในระหว่างการต่อสู้ให้เขาได้เห็น,
มันจะช่วยในการวิเคราะห์ทักษะนี้
แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้น
และเขาต้องอาศัยเพียงประติมากรรมเพื่อให้เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
วีดหยุดการออกล่าของเขาทั้งหมดและเพ่งความสนใจไปที่ประติมากรรม
วีดคิดว่าเขาอาจจะต้องใช้ทักษะการแกะสลักที่มากขึ้น ดังนั้นเขาจึงเริ่มทำการแกะสลักเหล่าประติมากรรมรูปมอนสเตอร์ในกราพาสและฮวายอง
เพื่อเพิ่มความรู้ในด้านการแกะสลักของเขา
เขาเสียเวลา 3 ชั่วโมงไปกับทางออกที่ไม่กระจ่างชัดนี้ เหล่าดาร์เกมเมอร์และประติมากรรมสลักชีพออกล่าแยกเป็นกลุ่มๆบริเวณใกล้ๆ, ฮวายองออกจากเกมส์เพราะมันเป็นเวลาค่ำแล้ว เหลือเพียงวีดและซอยูน
"ทักษะดาบ
ฉันต้องการเข้าใจทักษะดาบนี้...ฉันเข้าใกล้ทักษะการเป็นปรมาจารย์ด้านการแกะสลัก
ดังนั้นฉันสามารถทำต่อไปได้ แต่ถ้าฉันไม่สามารถเรียนรู้มันได้ ก็คงเพราะความเชี่ยวชาญการใช้ดาบของฉันยังต่ำอยู่,
ดังนั้นฉันอาจจะสูญเสียโอกาสที่จะได้เรียนรู้ทักษะดาบนี้"
ขณะที่วีดกำลังพิศวง งงงวย หัวสมองพองโต,
เขาก็ได้ยินเสียงที่ทำให้เขาถึงกับเสียวสันหลัง
ชิ๊ง.ง.ง
เสียงดาบถูกชักออกจากฝัก
วีดหันมองไปรอบๆและเห็นซอยูนกำลังถือดาบด้วยท่าทางอันเย็นชา
"มะ, มีอะไรกับดาบหรือ?"
ไม่มีพวกประติมากรรมสลักชีพอยู่รอบๆ
หรืออาจจะเป็นว่า ซอยูนกำลังเตรียมพร้อมที่จะโจมตี?! มันอาจเป็นความเข้าใจผิดแบบเก่าๆ แต่มีบางครั้งที่ซอยูนดูน่ากลัวจริงๆ
เนื่องจากไม่ได้พูดเป็นเวลานาน เธอจึงแสดงออกโดยปราศจากเสียงซึ่งเธอเองไม่ต้องอธิบายให้เสียเวลามากนัก
เหมือนเช่นขณะนี้!
ซอยูนบิดดาบของเธอ
เธอเล็งตรงไปที่ท้องฟ้ามากกว่าที่จะเล็งไปทางวีด ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจมัน,
ขณะนั้นเองเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน ซึ่งดวงจันทร์ฉายแสงปรากฏออกมา
ประกายดาบของซอยูนสว่างและสาดกระจายภายใต้แสงจันทร์
เธอเริ่มเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล, กวัดแกว่งดาบของเธอในท่วงท่าที่วีดคุ้นเคย
"ท่วงท่าจากประติมากรรม!"
ควับ ๆ ๆ ๆ
ซอยูนแสดงทักษะแห่งดาบออกไปอย่างนุ่มนวล
เธอทำตามรูปแบบการเคลื่อนไหวของเหล่าประติมากรรมราวกับกำลังร่ายรำ
วีดวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของเหล่าประติมากรรมอย่างลึกซึ้งและเลียนแบบเช่นกัน,
แต่ความลื่นไหลกลับหยุดชะงักในระหว่างนั้น
แต่ซอยูนไม่ได้ทำตามลำดับท่าของเหล่าประติมากรรม,
เธอทำตามประกายแสงจันทร์บนรูปแบบการเคลื่อนไหวของประติมากรรม
คว้าง.ง.ง!
ดาบของซอยูนสาดกระจายแสงอันแรงกล้า
มันดูเหมือนกุมดาบแสงเอาไว้ในมือ!
คุณได้เข้าใจทักษะลับแห่งวิชาดาบ,
เพลงดาบประกายแสง(Radiant Sword)
|
ซอยูนได้เรียนทักษะลับแห่งวิชาดาบเป็นคนแรก
ร่างของเธอถูกห่อหุ้มอยู่ในแสง ราวกับว่าเธออยู่ภายใต้พรวิเศษ
วีดเอ่ยปากถามเธอทันทีที่มันหยุดลง
"เธอได้เรียนทักษะลับแห่งวิชาดาบแล้วหรอ?"
อืม อือ
(เธอ)พยักหน้า
วีดยิ้มอย่างเบิกบานยามที่เขาเห็นศีรษะของซอยูนขยับขึ้นลง
"เยี่ยม"
แต่ความเจ็บปวดค่อยๆคืบคลานเข้าไปข้างใน!
"อืม.ม.ม, ดี, ตามมรรยาท สตรีก่อน ทีนี้ก็ตาฉันเรียนมันบ้าง"
หลังจากได้ชมซอยูนออกท่วงท่า,
วีดก็ทำการเคลื่อนไหวตามเหมือนรูปแบบการเคลื่อนไหวของเหล่าประติมากรรม
ด้วยความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบของเขา
วีดสามารถทำการเคลื่อนไหวตามได้ดีกว่า ทำตามอย่างตั้งใจในแต่ละท่วงท่า,
บางครั้งเขาทุ่มน้ำหนักทั้งหมดลงหลังการเหวี่ยง
หรือนุ่มละมุนดุจสายลมที่อ่อนโยน วีดรู้สึกได้ว่านี่เป็นทักษะวิชาดาบที่ถูกต้องราวกับเขาจำลองการเคลื่อนไหวทั้งหลายมา
'แทนที่จะเป็นทักษะเฉพาะ, ทักษะวิชาดาบดูคล้ายท่าตายตัวที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องกันตามลำดับมากกว่า'
เขาสับสนว่าทักษะวิชาดาบจะใช้อย่างไรในการต่อสู้จริง
ในสถานการณ์การต่อสู้ มันแตกต่างอย่างแท้จริงยามที่ต่อสู้หรือเข้าปะทะกับเหล่ามอนสเตอร์,
พวกตัวประหลาดบินได้(flying creatures), หมอผี(shamans),
นักอัญเชิญ(summoners), หรือผู้วิเศษ(magicians)
คุณได้เข้าใจทักษะลับแห่งวิชาดาบ,
เพลงดาบประกายแสง(Radiant Sword)
|
เพลงดาบประกายแสง
: ทักษะดาบที่สร้างสรรค์โดยประติมากรและนักดาบซาฮับ
|
ทักษะดาบนี้ใช้การรวมกลุ่มของแสง
|
ขึ้นอยู่กับระดับทักษะ, มันคือเหล่ารูปแบบประติมากรรมแสงในรูปลักษณ์ของสัตว์ หรือมอนสเตอร์
|
มอนสเตอร์จะถูกกักขังด้วยแสง, ตกอยู่ในภาพลวงตาและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
|
ถ้าทักษะนี้หยุดชะงักลง, ประสิทธิผลของมันจะหายไป
|
ทักษะแกะสลักแสงจันทร์จะเสริมเพิ่มพลังให้กับทักษะนี้
|
คุณลักษณะเฉพาะของคลาสและทักษะอื่นๆ
จะมีพลังในช่วงกลางคืนมากกว่าในตอนเช้า(กลางวัน)
|
ประสิทธิภาพของมันช่วยต่อต้านมอนสเตอร์ที่มีธรรมชาติกำเนิดมาจากความมืด
|
ความเชี่ยวชาญดาบเพิ่มขึ้น
|
"ไปออกล่ากันเถอะ"
วีดและซอยูน,ไปในที่ที่พวกเคลค๊อก(Kellkog)ปรากฏ
"เพลงดาบประกายแสง!"
นี่ไม่ใช่ทักษะดาบแต่เป็นการทำงานอย่างฉับพลันด้วยการเผาผลาญมานาเพื่อการเคลื่อนที่อย่างแม่นยำและต่อเนื่อง
"กี๊ซ.ซ.ซ.ซ?"
พวกเคลค๊อกโยนหอกของพวกมันออกไป แต่ประกายแสงทำให้พวกมันตาบอดและความแม่นยำของพวกมันลดลงไปค่อนข้างมาก
ในช่วงระยะอันสั้นนี้,
วีดได้เสร็จสิ้นการแสดงทักษะวิชาดาบ เขารู้สึกเคลื่อนไหวอย่างน่าขบขันอยู่คนเดียวแทนที่กำลังต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่เบื้องหน้า,
แต่เมื่อมองจากด้านนอกมันก็ดูไม่มีอะไร
แต่วีดเหวี่ยงดาบของเขาสองครั้ง, กระโดดขึ้นรวบรวมพละกำลังและทำการจู่โจมลงมา
ขณะที่เขาพุ่งลงมาปรากฏเป็นรูปนกกระจอกที่สร้างจากแสง
พวกนกกระจอกวนเวียนรอบวีด, แล้ว,กระพือปีกของพวกมัน,
เหล่านกกระจอกบินตรงไปที่เหล่ามอนสเตอร์และเกิดระเบิด
ตู้มมมมม!
ลำแสงแยกสวรรค์และผืนปฐพี!
ทุกครั้งที่วีดกวัดแกว่งดาบของเขา,
พวกนกที่เกิดจากแสง บินตรงไปยังเหล่ามอนสเตอร์
พวกเคลค๊อกกำลังสับสนภายใต้ภาพลวงตาที่หมุนวนอยู่รอบๆพยายามที่จะจับพวกนก
ทักษะดาบแสดงพลังของมันออกมาเต็มที่,
คงเหลือเพียงไอเทมที่ดรอปลงบริเวณเหล่ามอนสเตอร์
ความเชี่ยวชาญเพลงดาบประกายแสงเพิ่มขึ้น
|
มันทำให้มานาของวีดถูกสูบไปถึง 8,000
หน่วย, แต่ด้วยการสวมใส่อุปกรณ์ไอเทมหลากหลายที่ช่วยให้มานาฟื้นคืนเพิ่มเติมในส่วนที่ถูกสูบไป
"มีทักษะดาบแบบนี้ด้วย"
ริมฝีปากของวีดถึงกับสั่น
จนถึงเดี๋ยวนี้, มันยากที่จะต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ยิงลูกศรจากระยะไกล
มันช่างน่าผิดหวังอย่างมากสำหรับเขาที่จะจัดการกับพวกมอนสเตอร์ที่โจมตีจากระยะไกลและหลบหนีอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าเขาจะนำคันธนูเอลฟ์ชั้นสูงออกมาโจมตี,
มันก็ไม่เพียงพอที่จะโจมตีด้วยธนูคันเดียว
"ฉันจะฆ่าพวกมอนสเตอร์ให้หมด!"
*****
โคลเดอริม,
อัศวินแห่งอาณาจักรคัลลามอร์!
กิลด์เฮอร์มิสเตรียมรับมือกับสถานการณ์หลากหลายที่อาจเกิดขึ้นกับเขา
ครั้งหนึ่ง,
โคลเดอริมนำกองทัพของเขาและมุ่งตรงสู่ป้อมปราการซิสต้าร์(Sistar
Fortress)ในอาณาจักรฮาเวน
แน่นอน,
มันเป็นศึกที่กิลด์เฮอร์มิสไม่ได้มีส่วนร่วม
ถึงกระนั้น,
มันทำให้ง่ายขึ้นสำหรับกิลด์เฮอร์มิสในการบดขยี้อย่างเต็มที่และยึดครองเขตแดนของอาณาจักร
"แม้เหล่าอัศวินที่โคลเดอริมบัญชาการจะน่ากลัว
พวกเรายังจะต้องลงทุนเพิ่มพลานุภาพของกองทัพและทำลายล้างพวกมันให้ราบคราบ"
กิลด์เฮอร์มิสทำลายกองกำลังรักษาการณ์ชายแดนของอาณาจักรคัลลามอร์และยึดครองปราสาท
6 แห่ง, ป้อมปราการ 2 แห่ง,
และ 14 หมู่บ้าน
หลังจากที่พวกเขาได้ยินว่าโคลเดอริมแห่งอาณาจักรคัลลามอร์กลายเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการทำสงคราม,
กิลด์เฮอร์มิสแยกกองกำลังหลักออกเป็นสองส่วน
"ส่วนที่แยกออกมาจะย้อนกลับไปและควบคุมป้อมปราการโยรัน(Yorun
Fortress), ส่วนกองกำลังหลักจะรอเผชิญหน้ากับกองทัพของโคลเดอริมที่นี่"
กองทัพที่โคลเดอริมเป็นผู้นำประกอบไปด้วยกำลังชั้นนำของอาณาจักรคัลลามอร์
มันประกอบไปด้วยคณะ 7 อัศวินระดับอาวุโส
และ พลทหารม้าอีก 10,000 นาย
ทางด้านของกิลด์เฮอร์มิส,
กองกำลังหลักของพวกเขาขุดและวางกับดักเพื่อสร้างความลำบากในการเคลื่อนที่ของม้า
พวกเขานำผู้วิเศษจำนวนมาก, เหล่าพลธนู
และแม้กระทั่งเครื่องยิงหิน(catapult)เพื่อทำลายการเข้าตะลุมบอนของอัศวิน
ในวันที่ศึกปะทุระหว่างโคลเดอริมแห่งอาณาจักรคัลมอร์กับกิลด์เฮอร์มิส,
ทุกๆสถานีทำการถ่ายทอดสดและความสนใจของผู้เล่นทั้งหมดอยู่ที่นั่น
เขตแดนระหว่างอาณาจักรคัลลามอร์กับอาณาจักรฮาเว่นที่จะเปลี่ยนไปบนทวีปกลางจะขึ้นอยู่กับผลของสงครามที่ออกมา
ด้วยกับดักหลากหลายชนิดที่กิลด์เฮอร์มิสวางไว้ในแผนการ,
การเผชิญหน้าของทั้งสองกองทัพเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย
ในระหว่างนั้น,
กองกำลังที่แยกออกมาจากของกองทัพกิลด์เฮอร์มิสทะลุทะลวงลึกเข้าไปในอาณาจักคัลลามอร์
สร้างกองกำลังขนาดใหญ่ของพลทหารม้า,
หน่วยกริฟฟอน(contingent of gryphon), เหล่าทหารพราน(ranger),
และเหล่าผู้วิเศษ, เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะบดขยี้ปราสาทขนาดกลางได้อย่างง่ายดาย
โคลเดอริมเลือกทำสิ่งที่ยากลำบาก
เขาไม่ปล่อยกองกำลังหลักของกิลด์เฮอร์มิสไว้เพียงลำพังแล้วไล่ล่ากองทัพที่แยกออกไป
เมื่อไปทำแบบนั้นทำให้ศัตรูสามารถยึดเมืองใหญ่อันดับสามของอาณาจักรคัลลามอร์ได้
"พวกเราจะโจมตีอาณาจักรฮาเว่น"
อาณาจักรคัลลามอร์เข้าโจมตีขนานใหญ่! กิลด์เฮอร์มิสก็ตอบโต้ด้วยเหล่าผู้วิเศษ
และเครื่องยิงหิน, การศึกขนาดใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว
ชะตากรรมของสองอาณาจักรแขวนอยู่บนตาชั่ง(แขวนอยู่บนเส้นด้าย
แล้วแต่คนชอบ)
*****
(อาจารย์)นักดาบเข้าร่วมกับกลุ่มของเพลในภายหลัง
"ผมหวังว่านี่คงไม่ทำให้คุณเป็นหนี้(บุญคุณ)กับผมโดยไม่จำเป็นหรอกนะ"
"มันก็ไม่เชิงว่า
พวกเราต้องการใครสักคนที่มาปกป้องในการต่อสู้ระยะประชิด"
เพลพูดอย่างสุภาพ
เขาหยุดชั่วครู่ในโมราต้าเพื่อสำรวจร้านค้าและรับเควสและพบนักดาบ
"คุณจะลองออกล่าในบริเวณนี้ไหม?"
"บางคนพาผมไปหลายๆที่ที่เรียกว่าดันเจี้ยน"
นักดาบอ้าปากหาวเหมือนมันไม่มีอะไร
แค่เรื่องจิ๊บจ๊อย
"ไม่มีอะไร
น่าจะให้ผมได้สู้ดีๆหน่อย"
"ดี,มันควรจะเป็นอย่างนั้น
เพราะดันเจี้ยนใกล้ๆโมราต้าถูกกำจัดราบคราบโดยพาราดีนอาวุโสของวิหารเฟรย่า,
และผู้เล่นอีกมากมายที่กำลังออกล่าที่นั่นด้วย"
เนื่องจากดันเจี้ยนกลายเป็นที่รู้จักกันดี,
ผู้คนมากมายแห่กันไปหามัน แม้หลังจากนั้นค่าประสบการณ์และไอเทมดีๆจะมีอัตราการดรอปที่ลดลง,
เหล่าผู้เล่นก็ยังคงไปหา
นี่ทำให้เกิดปัญหาบางอย่างในการออกล่าพวกมอนสเตอร์ที่คู่ควร
"มันเป็นอย่างที่คุณพูดค่ะ"
เซอกะพูดขณะที่ที่เธอดึงถุงมือปลายโลหะ
"พวกเราจะเตรียมการช่วยเหลือให้มากเท่าที่พวกเราจะทำได้"
"เอาละ งั้นไปกัน"
(อาจารย์)นักดาบได้เข้าร่วมกลุ่ม
และปาร์ตี้ของเพลก็เดินออกจากประตูเมืองโมราต้า
ขณะที่พวกเขาจากไป,
พวกพ่อค้าที่กำลังทำการค้าขายที่จัตุรัสเมืองเริ่มกระซิบกระซาบกัน
"ชายคนนั้นเป็นใครกัน เขาจัดการเสียราบเรียบหมดสิ้นทั้งดันเจี้ยน?"
"ดูเหมือนว่าเขาเอาตัวเขาเองเข้าร่วมปาร์ตี้และออกล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดด้วยตัวเอง"
*****
พวกเขามาถึงดันเจี้ยนและนักดาบก้าวเบาๆไปข้างหน้า
"เอ่อ..คนแก่ควรตายก่อน"
มอนสเตอร์ทั้งหมดหยุดชะงักเพราะประกายดาบสีเทาของนักดาบ
การโจมตีจุดตายเกิดขึ้น
ราวกับพวกมันเป็นเหตุการณ์ปรกติและเขาฟันลงตรงจุดอ่อนที่ปรากฏ
ยามที่เหล่ามอนสเตอร์โจมตี เหมือนเป็นเรื่องตลก
"ด้วยอายุของฉัน, ดูเหมือนฉันจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้คล่องแคล่วเหมือนที่ฉันเคยทำตอนที่ยังหนุ่มๆ"
พลัก! เช้ง!
ผับๆๆ!
ทักษะอาวุธของนักดาบอยู่ขั้นสูง เลเวล
7 มันเป็นสภาวะที่เป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นหน้าไปหาเหล่ามอนสเตอร์อย่างนั้น
หลังจากทักษะศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธถึงขั้นสูง
เลเวล 5 ผู้นั้นต้องเอาชนะต่ออุปสรรคและขีดจำกัดของตนเอง
ทุกๆครั้งที่นักดาบพัฒนาทักษะอาวุธของเขาได้หนึ่งเลเวล,
เขาจะเข้าใจอย่างละเอียดถึงความเปลี่ยนแปลง
ในความเชี่ยวชาญของเขาและเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการพัฒนาตัวตนของเขา
นี่เป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมการพัฒนาทักษะของเขาจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในขณะที่ทำการออกล่าน้อยกว่าคนอื่น
เพลและปาร์ตี้ของเขาต้องรีบก่อนที่นักดาบจะฆ่าพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดไปก่อน
ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าท่านนักดาบจะแข็งแกร่งขนาดนี้
ด้านพละกำลังและน้ำหนักทั้งหมดเพ่งที่ปลายดาบเพื่อการจู่โจมอันเฉียบคม
เขาทำเหมือนมันง่ายแต่ฉันไม่เข้าใจว่าเขาโจมตีให้แม่นยำได้อย่างไร
และพวกเขามีมากกว่า 500 คน
......
เซอร์กะรัวหมดใส่มอนสเตอร์เลเวล 350 ซะมันส์เละเป็นโจ๊ก เซเฟอร์เหวี่ยงคันเบ็ดของเขาและพาตัวเองเข้าไปในส่วนที่ชุลมุนที่สุดของการต่อสู้
แต่เมื่อมองไปที่นักดาบ,
พวกเขาได้แต่ยืนทึ่ง
"มันน่ารำคาญที่จะใช้ดาบ"
เขาหยิบหอกและขวานที่พวกมอนสเตอร์ทิ้งไว้ขึ้นมาและเข้าโจมตี
ทักษะอาวุธ(Weapon skill)อนุญาตให้ใช้อาวุธ
ได้ทุกประเภทได้อย่างชำนาญ
และได้ค่าความเสียหายสูงสุด ไม่ว่าอาวุธอะไรก็ตามที่เขาถือ, ไม่เป็นอุปสรรคในการฆ่าพวกมอนสเตอร์
บางครั้งเขาดูเหมือนนักรบและบางเวลาก็เป็นทหารจากเผ่าคนเถื่อน
เมื่อดูนักดาบเปลี่ยนอาวุธบ่อยๆ
เพลก็เลยถามออกไป
"คุณใช้อาวุธชนิดต่างๆได้อย่างคล่องมือได้ยังไงครับ?"
เพลถามออกไปในขณะที่เขาก็รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เขาเห็น
ด้วยทักษะอาวุธ, อาวุธหลายชนิดมีจุดศูนย์ถ่วง
ที่ต่างกัน การประยุกต์ใช้ในการต่อสู้ก็แตกต่างกันอย่างมาก
"ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, วิธีการต่อสู้ล้วนเป็นรสนิยมในการต่อสู้ส่วนตัว"
ความชอบส่วนตัวในการตะบันหน้ามอนสเตอร์!
อย่างเช่นพวกออร์ค, นักทำลายแห่งเทือกเขายูโรกิ,
เมื่อได้ติดตั้งเกรฟ(glaives-อาวุธขว้างแบบต่างๆ
เช่นจักรสามหรือสี่แฉกขนาดใหญ่)พวกมันจะเริ่มทำลายสิ่งต่างๆทันที
เพื่อความสนุกสนาน
แม้แต่ชุดเกราะของพวกมัน
เซเฟอร์ถามต่อแบบไม่เชื่อ
"ไม่ใช่ดาบหรือที่เข้ากับรสนิยมของคุณ?"
นักดาบฝึกฝนดาบมาทั้งชีวิด เขาต้องการฝึกฝนอาวุธชนิดอื่นด้วย,
แต่เขายังไม่บรรลุถึงขั้นทำให้ผู้อื่นพอใจยอมรับในดาบของเขา
แน่นอนเขายังเลื่อมใสในวิถีดาบ
"สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดไม่ใช่ดาบ..."
นักดาบแอบสังเกตคนอื่นๆ
มันเป็นเรื่องที่อาจส่งผลเสียต่ออารมณ์ของผู้เยาว์และเด็กน้อยวัยเรียน
(สงสัยติดเรท หุ หุ)
"มันยากที่จะหาอาวุธใดมาเทียบกับท่อเหล็กหรือเสาอะไรสักอย่างที่ฉันเคยใช้เมื่อตอนสมัยยังหนุ่มๆ"
"..."
"ดาบเป็นแนวทางในการฝึกฝนจิตใจ
นักดาบผู้ยิ่งใหญ่มีจิตใจที่ใสกระจ่างดุจกระจกและสงบนิ่งดั่งสายน้ำ, ไม่ว่าอะไรจะเข้ามาก็ไม่กลัวหรือหวั่นไหว"
ขณะนี้,
ฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากแห่ตรงมาหาพวกเขาจากทางของดันเจี้ยน
"พวกมนุษย์บุกรุก"
"ฆ่าไอ้ตัวที่สูงๆ, ล่ำๆ และน่าเกลียดก่อน"
"หัวหน้า, ท่านหมายถึงอะไร ใช่ไอ้ผู้ชายที่ดูแก่ๆนั่นไหม?"
"ใช่"
"คิ.คิ.คิ.คิ.คิ!"
ก่อนที่สมาชิกคนอื่นๆในปาร์ตี้จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง,
นักดาบก็กำลังวิ่งตรงเข้าหาพวกมอนสเตอร์
"ยมทูตของพวกแกไร้ความเมตาปราณี
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ!" (อยากมาว่า..กรูแก่)
จบตอน
ผู้แปล:
Acid กรด
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบมีเคืองว่าแก่ หมดเผ่าแหง
ตอบลบขอบตุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครัช
ตอบลบคำว่า แก่ อย่าให้เข้าหูทันนักดาบเชียว อิอิ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบเวลทักษะสูงลิ่วอะนักดาบ ศึกสองอาณาจักรเริ่มแล้ว วีดคงเข้าไปแจมด้วย??
ตอบลบซอยูนสอนวีดรำดาบ💞💞
ตอบลบปักหมุด รอต่อ
ตอบลบ