เล่ม 25
ตอนที่ 1: สรวงสวรรค์ของบาร์ดเรย์ แปลโดย SR
สมบัติเป็นภูเขากองอยู่ตรงหน้าวีด
เหล่านักดาบ พรีสต์และพาลาดิน หลังจากที่ราชาอันเดด บัลข่านและกองทัพอมตะได้พ่ายแพ้
พวกเขาได้รับเงินทอง,สมบัติ,ของเก่าแก่ และอุปกรณ์สวมใส่ ของเหล่านั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล
“ว้าว นายจะแบ่งของพวกนี้จริงๆเหรอเนี่ย?”
“น่าจะมีเกือบหลายหมื่นเหรียญทองเลยนะนั่น แต่ถ้ารวมพวกชุดเกราะด้วยก็น่าจะมากกว่าหนึ่งแสนเหรียญทอง”
พวกผู้เล่นต่างรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินข่าวนี้
“ถ้าได้ของพวกนี้ ฉันจะสามารถซื้อบ้านในโมราต้าได้แล้ว”
“ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณ
คุณวีด ที่ทำให้พวกเราได้ฉลองกับความสำเร็จในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ลืมบุญคุณคราวนี้แน่นอน”
“ได้โปรดเพิ่มเพื่อนฉันด้วย
ถ้าเป็นคุณวีดแล้วล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณทันทีที่คุณเรียก”
วีดรู้สึกโมโหและโกรธเคืองอยู่ภายในใจเมื่อเขาได้ยินคำขอบคุณจากเหล่าผู้เล่นพาลาดินและพรีส
'นี่แหละคือเหตุผลที่ว่า
ทำไมคนใจดีถึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน!'
ในการแบ่งปันทรัพย์สิน
พวกเขามักจะถูกเติมเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรมและความรู้สึกแร้นแค้น มีแต่จะทำให้อายุขัยของพวกเขาสั้นลงเท่านั้น
“ทุกคนมาเอาส่วนแบ่งได้”
เมเพนและเหล่าพาลาดินที่มีชื่อเสียงเริ่มแบกกองภูเขาทองและสมบัติมาแจกจ่ายแก่เหล่าเพลเยอร์
พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยกับไอเทมที่ตกระหว่างการต่อสู้ แต่กับสมบัติของกองทัพอมตะ พวกเขากลับแบ่งมันให้แต่ละคนอย่างยุติธรรมตามผลงานที่ทำได้
“พวกเรายังไม่ต้องการที่จะแบ่งเงินกัน ตอนนี้มาดื่มกันดีกว่า!”
“ฉันสามารถซื้อธนูเวทมนต์สำหรับการออกล่าได้แล้ว เย้!”
ท่ามกลางความดีใจของเหล่าผู้เล่นที่ได้รับเงินและทอง
พวกเขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อวีด
'นี่มันฝันร้ายชัดๆ
ถ้าฉันหลับตาและลืมตาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาจะหายไปรึเปล่านะ'
ภายในจิตใจอันดำมืดของวีดกำลังถูกเผา
เขาหลับตาลงจนสนิทก่อนจะเปิดตาขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังคงมีเหล่าผู้เล่นในสีหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เพราะพวกเขาได้รับเงินทองและสมบัติ
การแบ่งปันทรัพย์สมบัติฆ่าคนได้เร็วกว่าการดื่มเหล้า,สูบบุหรี่หรือแม้แต่เล่นยา
วีดรู้สึกได้ว่าเลือดในตัวของเขากำลังถูกสูบออกไปทุกครั้งเมื่อกองภูเขาไอเท็มที่ลูทมาได้กำลังเล็กลงเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าไอเทมหนึ่งในสามส่วนที่ลูทมาได้จากกองทัพอมตะจะเป็นส่วนแบ่งของเขา แต่นั่นก็ยังคงเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลอยู่ดี
และทุกคนเองก็ต่างฉลองให้กับชัยชนะในการต่อสู้อันยากลำบาก
*****
ลีฮุนเปิดทีวีขึ้นในตอนที่เขากำลังรับประทานอาหารเย็น
เขาดูช่อง KMC media อยู่นาน
แต่ไม่ใช่เพียงช่องเดียวที่มีรูปการปรากฏตัวของเขาโดยที่รายการแต่ละอย่างล้วนเล่าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมาก
“ดูกองสมบัติตรงนั้นสิครับ มันกำลังลดลงเรื่อยๆตั้งแต่เมื่อเช้าเพราะว่าเหล่าผู้เล่นที่สู้ร่วมกับเทพสงครามวีดกำลังแบ่งกันอยู่”
“ดูเหมือนว่าวีดจะรักษาสัญญานะครับ”
“แน่นอนครับ ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งผมก็ยังตื่นเต้นอยู่ที่ได้เห็นฉากแบบนี้ เทพสงครามได้ส่งบัลข่านและกองทัพของเขาเข้าสู่ห้วงนิทรานิจนิรันดร์!
คุณไม่คิดว่ามันน่าตื่นเต้นบ้างเหรอครับ!”
ความหิวของลีฮุนถึงกับหายไปชั่วขณะ
*****
การแบ่งสมบัติที่ได้รับจากกองทัพอมตะลายเป็นหัวข้อใหญ่ที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ในเวลานี้
พวกเขาเข้าร่วมสงครามก็จริงแต่กับเรื่องสมบัติมันคนละเรื่องกันเลย
การโกหก หลอกลวง! ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ไม่สามารถอยู่รอดได้บนโลกที่ไม่มีความเชื่อใจนี้.
นั่นเป็นเรื่องที่น่าเร้าใจและตื่นเต้นที่ผู้คนในทวีปเวอร์เซลล์ควรจะภูมิใจ
ความตั้งใจที่แท้จริงของวีดคือการเอาทุกสิ่งมาเพื่อตัวเองราวกับเปลวไฟร้อนแรงท่ามกลางฤดูหนาว
ความโล่งอกเพียงอย่างเดียวของเขาคือการได้ป้อมปราการเวอร์โก้และสิทธ์ในการใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ของวิหารลูห์
“ตรวจสอบ!”
ดาบแห่งลูห์ : ความคงทน 140/140, พลังโจมตี
165~317
ดาบที่ถูกส่งมาจากพระเจ้าเพื่อมวลมนุษย์
ดาบเล่มนี้ถูกฝังติดตัวอยู่กับลิช
บัลข่านเป็นระยะเวลาอันยาวนาน เพื่อสะกดพลังเวทมนต์แห่งความมืด หากดาบได้รับการฟื้นฟูพลังจากดวงอาทิตย์
วิหารลูห์จะสามารถฟื้นฟูอาวุธของเทพได้
ข้อจำกัด : พาลาดินจากวิหารลูห์
ค่าความศรัทธา : 1,350
ต้องได้รับการอนุญาตจากมหาวิหารในการใช้งาน
ความสามารถพิเศษ : ป้องกันพลังความมืด
ในช่วงสงครามศักดิ์สิทธิ์
มันสามารถสร้างปาฏิหาริย์
ไม่สามารถถูกทำลายได้
ทักษะการควบคุมมอนสเตอร์ต่ำกว่าขั้นกลาง
*ยังเหลือความสามารถพิเศษที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
มันคือไอเทมที่ต้องกลับคืนสู่วิหารลู์
“มีวิหารลูห์อยู่ในโมราต้า ฉันค่อยเอามันไปคืนที่นั่นละกัน”
วีดได้รับมันจากนักดาบ121
ที่เป็นคนลงดาบสุดท้ายใส่บัลข่านและได้เก็บมันไว้ช่วงหนึ่ง
“ถ้ามีไอเทมที่ใครสักคนอยากขโมยละก็ คงจะเป็นเจ้านี่ละ...”
ความคิดมากมายวนเวียนเข้ามาในหัววีดอีกครั้ง, แต่เนื่องจากอาวุธชิ้นนี้จะต้องถูกใช้โดยพาลาดินและต้องได้รับอนุญาตในการใช้ด้วย
การที่ขโมยและเอามันไปใช้งาน นั่นจะทำให้เขากลายเป็นศัตรูของวิหารลูห์ในทันที ซึ่งนั่นก็หมายความว่าดาบเล่มนี้จะกลายเป็นเหมือนคำสาปไปโดยปริยาย
“ช่างมัน ยังไงฉันก็ต้องเอามันไปคืนอยู่ดีนั่นแหละ!”
ความเอื้อเฟื้อได้แผ่ขยายเข้าไปในใจของเขา
เพราะเขาตัดสินใจที่จะคืนดาบแห่งลูห์!
วีดตัดสินใจที่จะเดินทางไปที่มหาวิหารลูห์ในโมราต้าและคืนมันด้วยตัวเอง
เมื่อเขาได้คืนดาบเรียบร้อยแล้ว เหล่าผู้เล่นได้ร่วมต่อสู้กับเขาต่างได้รับค่าศรัทธา
“ฉันคิดว่าในโมราต้าคงไม่มีอะไรที่ต้องรีบทำหรอก”
สิ่งของที่ดรอปมาหลังจากการตายของบัลข่าน
ส่วนใหญ่จะเป็นไอเทมพิเศษสำหรับเนโครแมนเซอร์อย่าง หัวกะโหลกของบัลข่าน, รองเท้า, ชุดคลุมเวทย์,
ผ้าคลุม, แหวนและสร้อยคอ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นชุดเซ็ทไอเทมของบัลข่าน!
แน่นอนว่าราคาของมันต้องแพงมากแน่ๆ
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักดาบ
121 ไม่ได้ต้องการเลย รวมถึงตำราเวทย์มนต์ที่วีดได้รับ เมื่อรวมกันแล้ว มันถึงจะเป็นเซ็ทไอเทมของบัลข่านอย่างสมบูรณ์
เมื่อเซ็ทไอเทมของบัลข่านทั้งหมดถูกรวบรวมมาอยู่ในที่เดียวกัน
ถ้าคุณเป็นเนโครแมนเซอร์แล้วละก็
ทักษะพิเศษอย่างอำนาจแห่งลิช(Lich Power)จะสามารถใช้งานได้
ไอเทมเหล่านั้นถือว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ได้ครอบครองมรดกของบัลข่าน
ในการที่จะกลายเป็นลิชในป้อมปราการเวอร์โกและใช้ไอเทมหัวกะโหลกของบัลข่าน จะสามารถใช้มหาเวทย์ทั้งสามได้
ซึ่งมันจะเป็นไอเทมที่น่ากลัวและไม่ยุติธรรมเลย!
แต่เพราะไอเทมพวกนี้มีผลกระทบร้ายแรงคือ
มันจะเป็นการยากที่จะเปลี่ยนร่างกลับคืนมาเป็นมนุษย์
แน่นอนว่าด้วยความร่วมมือของนักดาบ121ที่ถูกล่อลวงด้วยเนื้อย่างฟรี, อาวุธ, ชุดเกราะ
และเหล้าอีก 2000 ถัง นั่นคือสิ่งที่เขาจะได้รับจากวีด
แต่การสวมใส่อุปกรณ์พิเศษของเนโครแมนเซอร์
ความรู้สึกไม่ดีจะค่อยๆซึมซาบเข้าไปในใจของคุณเมื่อไม่ได้ใช้มัน
วีดจึงเลือกที่จะเก็บมันไว้ก่อน
“มีคนมากกว่าหนึ่งชนิดบนโลกนี้
แน่นอนว่าต้องมีบางคนที่อยากจะเป็นเหมือนบัลข่าน
เหล่าเนโครแมนเซอร์จะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุขแน่ ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว ฉันจะขายมัน”
เมื่อคนที่ฝันอยากจะกลายเป็นราชาลิชปรากฏตัวขึ้น
วีดจะเป็นคนแรกที่เข้าไปเจรจาเรื่องไอเทมแทนที่จะไปขัดขวางพวกเขา.
อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ของบัลข่านถูกจำกัดด้วยเลเวลที่สูงและทักษะต่างๆ
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขายมันได้สักพัก
พวกคนที่ไม่ได้มีสกิลช่างตีเหล็กเหมือนกับวีดจำเป็นต้องมีเลเวลอย่างน้อย
460 เพื่อใช้ไอเทมของบัลข่าน
รองเท้าของบัลข่านถือเป็นไอเทมที่มีข้อจำกัดน้อยที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้นอุปกรณ์จำพวกผ้าคลุม, แหวน และ สร้อยคอจำเป็นต้องมีเลเวลมากกว่า 520
ตราบใดที่อุปกรณ์เหล่านั้นยังเป็นที่ต้องการในหมู่เนโครแมนเซอร์
พวกเขาจะยังคงชื่นชอบวีด พวกเขาต่างตกหลุมพรางเจตจำนงของตนเอง
*****
ไอเทมทั้งหลายที่ถูกนำมายังป้อมปราการเวอร์โก้โดยเหล่าพ่อค้าได้ถูกขายออกไปจนหมด
ต้องขอบคุณการแบ่งปันเงิน, ทอง
และสมบัติที่พวกเขาได้รับอย่างอิสระ ป้อมปราการเวอร์โกเริ่มครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีเอลฟ์,
เผ่าคนเถื่อน, คนแคระ และเหล่าภูติ
ซึ่งมันทำให้มีคนมากมายต้องการมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่นี่
เมแพนตัดสินใจที่จะตั้งร้านรับแลกของเพื่อรับแลกเปลี่ยนเหรียญทองเก่าแก่และเพื่อหารายได้ในทันที
“อาห์ ตอนนี้ฉันมีเงินเยอะแล้ว ฉันจะทำอะไรดีนะ?”
“เราไปหาดาบเล่มใหม่กันมั้ย?”
“รู้สึกว่ามันล่าง่ายกว่าเมื่อก่อนมั้ย?
พรุ่งนี้ฉันจะไปแลกอุปกรณ์เกือบทั้งหมดของฉันเป็นอุปกรณ์ของพวกคนแคระ”
ป้อมปราการเวอร์โกเต็มไปด้วยผู้เล่นที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยเงินของพวกเขา
สำหรับพื้นที่ล่าใกล้เคียงกันนั้นยังไม่มีใครค้นพบ. ภูเขา, เนินเขา, ป่า
และหุบเขาในละแวกใกล้เคียงนั้นมีพื้นที่สำหรับการออกล่ามากมาย
เหตุผลที่หลากหลายเผ่าคนเถื่อนเลือกที่จะอาศัยอยู่ใกล้ๆกับป้อมปราการเวอร์โกนั้นก็เพื่อที่จะออกล่าและต่อสู้
วีดพูดคุยกับผู้อาวุโสและหัวหน้าเผ่าต่างๆ
ด้วยค่าชื่อเสียงที่มากมายและความสนิทสนม
เขาก็ได้รับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับดันเจี้ยนในละแวกใกล้ๆ
“เท่าที่รู้มาพวกคนแคระจากเผ่าฮาร์ดเดนเอิร์ท(Hardened Earth)บอกว่ามีดันเจี้ยนใกล้ๆนี้...”
“ไปไกลอีกหน่อยตามที่คนแคระพวกนั้นบอกมา
ก็น่าจะเป็นที่นี่แหละ”
วีดพร้อมด้วยเพล, ไอรีน,โรมูนะ, ฮวายองและเซอร์กะ ช่วยกันหาดันเจี้ยนในบริเวณใกล้เคียง
“ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ดื่มอยู่ดังนั้นฉันมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มาถูกต้องแน่นอน”
และพวกเขาก็พบทางเข้าดันเจี้ยนที่อยู่ใต้แผ่นหิน
คุณพบดันเจี้ยน ‘หลุมที่ถูกซ่อน’(The
Hidden Pit) เป็นคนแรก
สิทธิพิเศษ: ค่าชื่อเสียง +415
ค่าประสบการณ์และอัตราการดรอปไอเทม
2 เท่าเป็นเวลา 1 อาทิตย์
มอนสเตอร์ที่ถูกกำจัดเป็นตัวแรกจะมีโอกาสดรอปไอเทมที่ดีที่สุด
การค้นพบดันเจี้ยนใกล้ป้อมปราการเวอร์โก! หากพื้นที่ล่าสอดคล้องกับเลเวลของท่านจงเริ่มทำการกวาดล้าง
หากมุทะลุเกินไปในการสำรวจดันเจี้ยนที่ไม่รู้จักจะนำพาอันตรายที่แท้จริงมาได้
กับดักได้ถูกติดตั้งเอาไว้ บางพื้นที่อาจจะมีมอนสเตอร์รูปร่างแปลกประหลาดและมีจำนวนมากกว่าปกติ
แน่นอนว่าในตอนนี้ทักษะการเต้นของฮวายองสามารถทำให้พวกมันหลับได้
และเหมือนกับตอนที่บัลข่านตาย
วีดสามารถอัญเชิญเดธไนท์และแวมไพร์ลอร์ดได้โดยปราศจากปัญหา
“จงออกมา! แวนฮอว์ค, โทริ”
วันหยุดที่แสนยาวนานของพวกมันได้จบลงแล้ว
“ขอบคุณที่เรียกข้าออกมา, นายท่าน”
“ข้าโหยหาเลือดอุ่นมานานแค่ไหนแล้วนะ”
นี่เป็นเวลาสำหรับ
แวนฮอว์คและโทริ
“เคลียร์ทางให้เรียบร้อยด้วย”
ด้วยความร่วมมือของทั้งสองที่ทำงานกันอย่างเข้าขาเพราะต่อสู้ร่วมกันมาอย่างยาวนาน
ทำให้การล่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว
วีดยังคงสลับปาร์ตี้ในการล่ากับพวกนักดาบเพื่อจะให้พวกเขาเลเวลเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งเหล่าคนเถื่อนและคนแคระ
พวกเขาต้องการที่จะพูดคุยกับวีดเรื่องที่เขาพบพื้นที่ล่าได้อย่างง่ายดาย
“ข้าอยากสู้กับพวกมอนสเตอร์”
“พวกมันคอยรบกวนพวกเรามานานแล้ว ร่องรอยของพวกมันกำลังเดินทางขึ้นเหนือ. .
. นักรบของข้าได้ติดตามไป แต่พวกมันก็หายไปเข้าในป่าและพุ่มไม้ ถ้าเจ้าเจอมัน
ข้าขอรบกวนเจ้าด้วย”
“พวกเจ้าไม่เอาเบียร์งั้นเหรอ?”
“ถ้านี่ถือว่าทำเพื่อเบียร์ข้าจะทำมันทุกเมื่อ”
“ไม่มีอะไรแตกต่างระหว่างเหล่าสหายผู้ร่วมรบและคนแคระที่ได้ต่อสู้กับอันเดด
ข้าอยากรู้ว่าเจ้ามีปัญหาอะไรกวนใจอยู่งั้นรึ”
“ฮืม ตอนนี้แร่เหล็กดีๆก็หายาก
ถ้าเจ้ามีแร่เหล็กดีๆสักอันละก็บอกข้าได้ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา
เมื่อก่อนตอนที่ป้อมปราการยังคงเป็นปกติ ภูเขาด้านหลังมีเหมืองแร่ที่พวกเราไปขุดเอาเหล็กมา.
. . ถ้ามนุษย์อย่างพวกเจ้าสามารถช่วยคนแคระอย่างพวกเราได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยขุดแร่มาให้
”
“แน่นอนว่าเราเป็นพันธมิตรทางการค้ากัน ด้วยแร่เหล็กจำนวนมาก เหล่าคนแคระเช่นพวกท่านสามารถสร้างอาวุธและชุดเกราะที่เอาไว้ขายในป้อมปราการเวอร์โกเพื่อที่เจ้าจะได้จ่ายภาษีเยอะๆ.
. . ข้าหมายความว่า มันน่าจะดีถ้าเจ้าซื้อเบียร์กลับไปด้วยน่ะ”
ที่ป้อมปราการเวอร์โกมีงานให้ทำมากมาย
“ขอโทษที่รบกวนนะ ข้ามีแร่อยู่เจ้าช่วยแกะสลักให้ข้าจะได้มั้ย?”
“ทองพวกนี้ยังไม่บริสุทธิ์
มันจะทำให้การแกะสลักยากขึ้นกว่าเดิม. . . ช่างเถอะ ผมจะทำให้คุณเป็นพิเศษละกัน”
“ขอบคุณมากนะ
แล้วมันจะเสร็จเมื่อไหร่ล่ะ?”
“ผมมีงานค้างอยู่
โปรดรอสักครู่”
เขาแบ่งอัญมณีล้ำค่าที่มีให้คนในป้อมปราการเวอร์โก
การขายผลงานแกะสลักของเขาทำให้ตอนนี้แร่ของเขาเหลือในกระเป๋าไม่มาก! มีวิธีมากมายที่จะเอากระต่าย 3 ตัวเข้าไปในร้านอาหารเพื่อที่จะทำซุปกระต่ายโดยใช้หม้อใบใหญ่!
“มันคงจะเป็นวิธีที่ทำให้รวยเร็วกว่าถ้าเราแอบเก็บแร่พวกนี้ไว้แทนที่จะขายแต่ผลงานประติมากรรม!”
ด้วยชื่อเสียงของวีดในด้านประติมากรรม
พวกเขายินยอมมอบแร่ราคาสูงเพื่อทำประติมากรรมโดยปราศจากความลังเล. ซึ่งปกติแล้วเขาจะสร้างรูปปั้นแกะสลักจากไม้ในระหว่างที่ออกล่าอยู่
แต่ตอนนี้พวกเขากลับนำทองและเงินคุณภาพดีหรือแม้แต่มิทธริลคุณภาพสูงมาให้วีดเพื่อแกะสลัก
เขาต้องแกะสลักงานให้ตรงกับความต้องการของคนๆนั้น
ทำให้เขาไม่ต้องใช้ความพยายามมากในผลงานแต่ละชิ้น.
แต่การแกะสลักพวกมันทีละครั้งนั้นก็ยังคงเพิ่มทักษะการแกะสลักขั้นสูงอยู่.
มักจะมีแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นที่ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่มีคุณค่าทางศิลปะสูงจะปรากฏออกมาให้เห็น.
แต่หลังจากที่ทักษะการแกะสลักของเขาก้าวเข้าสู่ขั้นสูงเลเวล
8 ค่าความเชี่ยญก็เพิ่มขึ้นช้าลง
“ไม่เป็นไร ยังเหลืออีกตั้งสองเลเวล ฉันไม่จำเป็นต้องรีบ”
พวกเขาต่างฉลองปีใหม่ระหว่างการล่า. ฮวายอง,เบลล็อตและเมล่อนมีงานต้องทำ พวกเธอจึงอดฉลองด้วย
ส่วนคนที่เหลือก็ออกไปเตรียมอาหารสำหรับฉลองแบบง่ายๆในขณะที่กำลังชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับกล่าวคำอธิษฐานขอให้คำขอของพวกเขาเป็นจริงด้วย
'ขอให้ได้ทุนทีเถอะ
แล้วฉันจะไปเที่ยวกับเมล่อน'
'ฝีมือในการล่าของฉันดีขึ้นมากแล้ว
ฉันจะล่ามันให้มากกว่านี้'
'ฉันจะเปลี่ยนเป็นเนโครแมนเซอร์ดีมั้ยนะ? แต่ฉันก็อยากเห็นเวทย์ไฟขั้นสุดท้ายจริงๆ.
. .'
'ขอให้ปีนี้ไม่ต้องมีใครตายด้วยศัลยกรรมเถื่อนด้วยเถอะ'
'ขอให้ฉันได้ออกเดทกับยูรินตอนปีใหม่ด้วยเถอะ'
'ขอให้มีเงินไหลมาเทมาเหมือนคุณวีดด้วยเถอะ. . . '
พวกเขาต่างมีคำขอมากมายที่หลากหลายแต่เมื่อเทียบกับวีดแล้วนั้น
คำขอของเขาดูธรรมดากว่าที่เคย
'ขอให้มีสุขภาพที่ดีแล้วก็ไม่มีค่ารักษาจากโรงพยาบาลด้วยเถอะ'
สุขภาพร่างกายแข็งแรง
นี่แหละดีที่สุดแล้ว
*****
เหล่าประติมากรรมประทานชีพทั้งหมดมาถึงป้อมปราการเวอร์โก้หลังจากที่ถูกเรียกมาจากโมราต้า
มออออ
เจ้าเหลืองบังคับขาตัวเองให้ก้าวเข้ามา
ที่นี่เป็นสถานที่ที่มันไม่คิดอยากจะมาเหยียบเลยสักนิด!
“ข้าดีใจที่เห็นท่านสบายดี แต่ถ้าท่านคิดถึงข้า อย่าทิ้งข้าไว้อีกนะ”
มอ!!!
ปิงหลงและฟีนิกซ์มีร่างกายใหญ่โตอยู่แล้ว
พวกมันจึงไม่สามารถเข้ามาล่าในดันเจี้ยนได้ แต่โกลด์มินิ, วิหคทองคำและวิหคสีเงินร่วมกันต่อสู้ในดันเจี้ยนที่อันตราย
และเหมือนจะไม่มีอะไรมาหยุดพวกมันได้. ดันเจี้ยนเลเวล
440 นั้นมีบรรยากาศหรือมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
รังมอนสเตอร์บนเทือกเขาคิลเดเก้ร์(Nest on Kildeke Mountain)!
พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นพื้นที่สำหรับล่า. พื้นที่อันกว้างขวาง เต็มไปด้วยหุบเขาและมอนสเตอร์ที่บินได้
เมื่อเปรียบเทียบเขากับสมาชิกคนอื่นๆในปาร์ตี้แล้วนั้น
เวลาการเชื่อมต่อของเขานานกว่า. ระหว่างนี้เพลกับเพื่อนของเขาไม่ได้เข้ามาด้วย เขาจึงออกล่าร่วมกับเหล่านักดาบหรือไม่ก็ออกล่าทางอากาศบริเวณเทือกเขาคิลเดเก้ร์กับพวกฟีนิกซ์,
ไวเวิร์นและปิงหลง
กึงงง!!
เสียงฟ้าผ่าดังไกลออกไปพร้อมกับสายฟ้าแล่บสว่างวาบชั่วขณะ
ถึงแม้ว่าฝนจะเริ่มปรอยปรายลงมาจากฟากฟ้า วีดก็ยังขึ้นขี่บนหลังของไวทรี
“เจ้านาย ถ้าเราบินสูงกว่านี้ เราจะไม่ถูกฟ้าผ่าเหรอ?”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”
“แต่มันน่าจะเจ็บ..”
“ถ้าพวกเรายังไม่ตายก็จงอย่าหยุด
แม้อากาศจะเลวร้าย(ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป)”
วีดและเหล่าไวเวิร์นไม่ได้เป็นพวกเดียวที่บินอยู่บนท้องฟ้า
มันยังคงเต็มไปด้วยมอนสเตอร์บินได้ที่คอยปกป้องอาณาเขตเทือกเขาคิลเดเก้ ถึงแม้จะมองเห็นไม่ชัดเจนเพราะสภาพอากาศ
แต่เขายังคงกวัดแกว่งดาบในมือ
“เคล็ดมีดแกะสลักแสงจันทร์!”
ด้วยการร่วมกับไวทรี
ทำให้ปีกของมอนสเตอร์พวกนั้นถูกตัดขาด
. เมื่อมองสูงขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นฟีนิกซ์และเมื่อมองลงมาข้างล่างอีกนิดก็จะเห็นปิงหลง
ผู้ที่กำลังต่อสู้อย่างระมัดระวังปราศจากซึ่งการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง
แวนฮอว์คเองก็ถูกอัญเชิญออกมาพร้อมกับอาชาปีศาจของเขา. แวมไพร์ลอร์ดโทริเองก็มีฝูงค้างคาวกระหายเลือดร่วมต่อสู้ด้วย
“พวกมันสู้ได้ดีเลย”
วีดรวบรวมบรรดาประติมากรรมประทานชีพที่อยู่ในลาสฟาลั้งค์ให้มาเป็นลูกน้องของเขา
แต่เขาสัมผัสได้ถึงพลังความรู้สึกอันยิ่งใหญ่จากประติมากรรมที่เขาสร้างขึ้นราวกับเขาและมันได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน
“รักษาไอ้พวกเวรที่เลี้ยงไม่เชื่อง
แล้วสั่งให้พวกที่ว่านอนสอนง่ายไปออกล่าเป็นร้อยเท่า”
ดังนั้นแล้วการเลือกที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่างและมุ่งมั่นอยู่กับการออกล่า
ทำให้เขาเลเวลอัพถึงสามครั้ง ตอนนี้วีดเลเวล
403 แล้ว และเหล่าเพลเยอร์ที่เลเวลเกิน 400 นั้นมีจำนวนไม่มาก
แต่ได้รับการยอมรับจากทุกคนเพราะว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่ง
ถึงแม้ว่าการประสบความสำเร็จอาจจะช้าไปบ้างเพราะการมอบชีวิตให้กับประติมากรรม
แต่ด้วยทักษะสายอาชีพการผลิตและแม้กระทั่งการสร้างผลงานประติมากรรม ทำให้เขามาถึงระดับนี้พร้อมกับค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล
*****
หนึ่งเดือนในชีวิตจริงผ่านไป
ระหว่างนั้นเอง ป้อมปราการเวอร์โก้ก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 30,000 คนและกำแพงที่พังทลายก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง.
แต่ตัวป้อมปราการเองกลับมีเงินเหลือไม่เยอะนักในการสร้างหรือซ่อมแซมส่วนอื่นๆ
ดังนั้นลาภลอยที่วีดได้มา จึงหายลับเข้าไปในป้อมปราการ
ไม่มีหลงเหลือเผื่อไว้ให้เขาเลยแม้แต่เศษเสี้ยวสักนิดก็ยังไม่มี
ตามถนนที่คดเคี้ยวตลอดแนวกำแพงที่ถูกซ่อมแซม
บ้านหลายหลังได้ถูกสร้างขึ้นมา. หลังจากที่เริ่มทำความสะอาดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ค้นพบกับหอฝึกตนสำหรับอัศวิน,
ศูนย์ฝึกหัดขั้นพื้นฐานและสมาคมอัศวินที่สามารถบูรณะขึ้นมาใหม่ให้เหมือนกับที่เคยเป็นได้
ถึงแม้ว่าครึ่งหนึ่งของสถานที่เหล่านั้นที่ถูกทำลายจากมังกรกระดูกได้มีการทำความสะอาดไปแล้วบ้าง
เหล่าผู้เล่นนับหมื่นคนก็ยังเดินทางมาที่นี่
“มืดแล้วงั้นเหรอ?”
เหล่าผู้เล่นที่อยู่ที่จัตุรัสมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ดวงตะวันลับขอบฟ้าและยามราตรีอันมืดมิดก็มาเยือน ดวงจันทร์และดวงดาวก็เริ่มปรากฏ
“ใกล้ได้เวลาแล้ว พวกมันกำลังมา”
ผู้คนที่กำลังพักผ่อนและดูแลอาวุธตัวเองอยู่ก็ได้ลุกขึ้นยืน
ทหารที่กำลังทานอาหารในร้านอาหารต่างออกมาข้างนอกด้วยชุดเกราะเต็มยศ ชุดเกราะของอัศวินและทหารนั้นหนักเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นในยามที่ไม่มีสงครามจึงหาได้ยากมากที่พวกเขาจะสวมใส่มัน
ผู้คนเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงเพื่อใช้หาคนเข้าปาร์ตี้
“หาคนไปป้องกันป้อมฝั่งตะวันตกด้วย”
“หาคนที่มีสกิลชิลด์แบช
(Shield Bash)ขั้นกลาง ไปกำจัดมอนสเตอร์ทางประตูทิศเหนือ”
“กำแพงฝั่งตะวันออกเฉียงใต้
ต้องการพรีสต์ด่วน ตามมาเลย!”
ที่จัตุรัสนั้นได้มีการรวมกลุ่มขึ้นสู้เป็นจำนวนมาก
นักเวทย์หลายคนเริ่มจุดตะเกียง,คบเพลิงตลอดทั้งแนวที่มีสิ่งปลูกสร้าง
ฝูงมอนสเตอร์กำลังใกล้เข้ามาเพื่อปล้นสะดมและโจมตี
มอนสเตอร์บุกมาทุกคืน!
มอนสเตอร์ที่เหล่าเนโครแมนเซอร์ได้ขับไล่ไปในเควสกองทัพอมตะนั้นกำลังรุกรานป้อมปราการเวอร์โก้อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าในตอนนี้
เมื่อมีกำแพงคอยป้องกัน มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำออกล่า เหล่าผู้เล่นเมื่อร่วมต่อสู้แล้ว
บรรดาประชาชนที่มาตั้งถิ่นฐานในป้อมปราการ ต่างยิงธนูและปาก้อนหินจากบนกำแพงใส่ศัตรู
การต่อสู้ปะทุขึ้นทุกคืนในป้อมปราการเวอร์โก้
ไม่มีที่ไหนในทวีปที่มีมอนสเตอร์บุกโจมตีป้อมปราการบ่อยเท่านี้อีกแล้ว นั่นเป็นเพราะป้อมเวอร์โก้นั้นค่อนข้างจะอยู่ไกลจากโมราต้าและด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาในทางตะวันตกและตอนเหนือ
ซึ่งนั่นเองทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์มอนสเตอร์ จึงทำให้พวกมันบุกเข้ามาโจมตีด้วยจำนวนมหาศาล
เมื่อครั่งที่กองทัพอมตะยังอยู่
บัลข่านได้เปลี่ยนซากศพของพวกมันให้กลายเป็นอันเดด แต่ในเมื่อตอนนี้กองทัพอมตะได้หายไปแล้ว
จึงทำให้เหล่าผู้เล่นต้องทำการปกป้องป้อมปราการเวอร์โก้เอง และถ้าพวกมันสามารถผ่านป้อมปราการเวอร์โกไปได้
มันก็จะบุกเข้าสู่แดนเหนือทันที
ในการที่จะป้องกันป้อมปราการจากฝูงมอนสเตอร์นั้น
วีดจำเป็นต้องลงทุนในเรื่องการเก็บภาษีสำหรับการซ่อมแซมตัวป้อมปราการและกำแพงต่อไปจนกว่ามอนสเตอร์จะถูกกำจัดจนหมด
นั่นคือหน้าที่ที่ลอร์ดควรจะเตรียมการให้พงกผู้เล่นสำหรับการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ
และคงจะมีเพียงวีดเพียงคนเดียวที่มีค่าชื่อเสียงและสถานะที่เป็นถึงลอร์ดแห่งโมราต้า
นั่นจึงทำให้มีเหล่าผู้เล่นมากมายต่างก็พากันเดินทางมาที่ป้อมปราการเวอร์โก้แห่งนี้
หากเขาคิดจะหนีจากป้อมเล็กๆแห่งนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าถูกมอนสเตอร์บุก
นั่นจะทำให้เขาทิ้งคนอื่นให้ตกอยู่ในอันตราย เมืองทางตอนเหนือหลายเมืองจะได้รับผลกระทบถ้าเหล่าผู้เล่นเลือกที่จะทิ้งป้อมปราการเวอร์โก้
เพราะมอนสเตอร์จะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและสร้างความสับสนอลหม่านได้
วีดแทบจะร้องไห้เป็นสายเลือดในตอนที่ยืนอยู่บนยอดหอคอยกลางเมืองในป้อมปราการเวอร์โก้
“ประชาชนมาเพิ่มขึ้น การล่าเองก็เพิ่มขึ้น แต่กลับไม่มีเงินภาษีแล้ว”
รายได้ทางภาษีหายไปอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ(ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว) หากจะให้อดทนรอเงินภาษีอีกสักหน่อยคงจะเป็นเรื่องยากสำกรับป้อมปราการเวอร์โก้ที่มีอาณาเขตกว้างขวางและยังคงซ่อมแซมต่อไปอย่างไม่มีหยุดพัก
เงินอันมีค่าที่เขาได้มาก่อนหน้านี้ ก็ได้ปลิวหายไปกับการลงทุนในด้านการทหาร
กำลังทางทหารในป้อมปราการเวอร์โก้
อัศวินฝึกหัด : 58 นาย
เลเวลเฉลี่ย : 196
ทหารขาดประสบการณ์: 4,312 นาย
เลเวลเฉลี่ย : 52
ความจงรักภักดี : 91%
การฝึกฝน : 46%
กองทัพได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยผู้อพยพจากโมราต้า
การคัดเลือกทหารนั้นเน้นไปที่การออกล่าและชายหนุ่มที่มีความแข็งแรง. เหล่าอัศวินจะต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่จะอยู่รอดต่อไป
บรรดาทหารต่างให้เคารพต่อท่านลอร์ดของพวกเขาและยินดีรับใช้สุดลมหายใจ
แต่พวกเขาเองก็ยังคงกังวลที่จะเข้าต่อสู้โดยปราศจากการฝึกซ้อมอันเหมาะสม แต่การที่พวกเขาต่อสู้ด้วยความรัดกุมอยู่หลังกำแพงนั่น
ทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น
พวกเขาไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย
แต่สถานการณ์เช่นนี้ หากปราศจากพวกเขาแล้ว มันจะเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
กำแพงป้อมปราการถูกซ่อมแซมอย่างรวดเร็วพอๆกับที่มอนสเตอร์บุกเข้ามา
หากละสายตาไปจากงานที่ทำ นั่นอาจทำให้ป้อมปราการเวอร์โก้กลายเป็นหมู่บ้านมอนสเตอร์ได้ในทันที
ไม่ได้มีกองทัพสนับสนุนจากวิหารเฟรย่ามาคอยปกป้องเหมือนตอนที่อยู่ในโมราต้า
วิธีการของวีดเพื่อทำให้กองกำลังเติบโต คือ ถ้าพวกเขามีชีวิตรอด
พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น!
ทหารทั้งหมดต่างเคยเป็นนักธนูมาก่อนและนั่นทำให้พวกเขาใช้ธนูเป็นและโจมตีจากบนกำแพงได้
ในอนาคตเมื่อพวกเขาถูกปลดประจำการ
วีดมีแผนที่จะเกณฑ์พวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทหารราบเพื่อมุ่งสู่รังของพวกมอนสเตอร์
ถ้ากองทัพสามารถกำจัดกองกำลังที่ซ่องสุมของพวกมอนสเตอร์ได้
พวกเขาจะได้รับสมบัติและอันตรายจากการถูกมอนสเตอร์จู่โจมบริเวณรอบๆป้อมปราการก็จะลดน้อยลงด้วย
ในขณะเดียวกันร้านค้าและสมาคมถือเป็นสิ่งจำเป็น
งานจิปาถะต่างๆล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นที่ป้อมปราการเวอร์โก้
“ถึงตอนนั้นเราก็กินอยู่อย่างสุขสบายล่ะ(เอาเปรียบอย่างเต็มที่)”
มีงานหลายอย่างที่ต้องทำในป้อมปราการเวอร์โก้และมีแรงงานมากมายให้เลือกใช้
เขาเริ่มกระตือรือร้นที่จะทำการเอาเปรียบอีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงเริ่มจัดลำดับความสำคัญกับการเพิ่มงานจิปาถะต่างๆ
การต่อสู้ยังคงปะทุขึ้นเรื่อยๆบนกำแพงและแต่ละที่นั้นล้วนแต่อันตราย
ผู้เล่นหลายคนยอมทิ้งการลงดันเจี้ยนและการผจญภัยของพวกเขา
มีหลายโอกาสที่จะป้องกันป้อมปราการจากการโจมตีแต่พวกเขาก็ยังคงต่อสู้อย่างหนักและพยายามอย่างมาก
ป้อมปราการหลายแห่งในทวีปกลางมีการเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานของมอนสเตอร์เป็นอย่างดี
พวกเขายังขุดคูเมืองในกรณีที่มีการปิดล้อมป้อมปราการ
แค่ความคิดที่ว่ามอนสเตอร์จะโจมตีหมู่บ้าน พวกเขายังแทบจะไม่สนใจเลย
แต่ไม่มีความน่าเบื่ออีกต่อไปถ้ามาอยู่ที่ป้อมปราการเวอร์โก้
เพราะมอนสเตอร์ฝูงเล็กและฝูงใหญ่ที่เข้ามาโจมตีอย่างไม่ขาดสาย
หรือจะพูดได้อีกนัยหนึ่งว่าตัวป้อมปราการเวอร์โก้เองก็เป็นพื้นที่สำหรับการล่าเช่นกัน
“ฉันล่าที่นี่ได้ใช่มั้ย?”
“มีธนูชั้นดีแล้วก็ลูกธนูอีกหลายชุดและก็ไปที่กำแพงป้อมปราการกันเลย”
สำหรับนักดาบและอัศวินนั้นพวกเขาได้รับคำแนะนำที่ต่างออกไป
“ถ้าเจ้าอยากสู้เจ้าก็ออกไปด้านนอกป้อมปราการแล้วก็อยู่ตรงนั้นสักพัก
ไม่ว่าจะเป็นความตายหรือเกียรติยศ เมื่อมันจบลงมันจะเหลือเพียงแค่หนึ่งเท่านั้น!”
มอนสเตอร์จำนวนมากเริ่มเดินหน้าเข้ามาที่ป้อมปราการ
ถ้ามองจากอีกมุมหนึ่ง
กองทัพอมตะเองก็ไม่ได้ด้อยไปเลย พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีคลังเก็บอาหารให้ขโมยและหากมอนสเตอร์เข้ามาใกล้เกินไป
พวกมันจะถูกทำให้กลายเป็นอันเดด แค่เพียงข่าวที่ว่ามนุษย์ได้ยึดครองป้อมปราการ พวกมอนสเตอร์ก็หวังจะเข้ามาโจมตีพวกเขา
และอย่างน้อยพวกมันก็สามารถขโมยอาหารจากคลังออกไปได้
วีดสามารถนำกองทัพจากโมราต้ามาที่นี่ได้
หรือไม่ก็ถอนตัวออกจากการลงทุนในป้อมปราการเวอร์โกทั้งหมด
“ฉันไม่แน่ใจว่าถ้าทำอย่างนั้นมันจะสูญเปล่ามั้ยนะ. . . แต่มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน”
โมราต้าเป็นเมืองที่น่าประทับใจและไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นผู้อาศัยและเหล่าผู้เล่นต่างก็หลั่งไหลกันมาที่ป้อมปราการเพื่อพัฒนาการก่อสร้าง
ยังมีแม้กระทั่งคนสอนทักษะที่มาจากโมราต้าและช่วยเพิ่มความเร็วในการพัฒนาเมืองในด้านการเงินได้มากเลยทีเดียว
หากเป็นแบบนี้ต่อไปที่ป้อมปราการเวอร์โก้ได้ความช่วยเหลือจากโมราต้านั้น ป้อมเวอร์โก้ก็จะเป็นสถานที่ที่เยี่ยมที่สุดอีกที่หนึ่งในทวีปทางตอนเหนือ
การต่อสู้แทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันในป้อมปราการเวอร์โก
แล้วก็มีประเด็นมากมายผุดขึ้นมาบนกระดานสนทนา
หัวข้อ: พื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการล่า จะรอช้าทำไม รีบมาที่นี่เร็วๆ
เพื่อที่จะเพิ่มเลเวลและเพิ่มความสามารถสกิลมาที่นี่สิ! ที่นี่มีทุกอย่างแม้กระทั่งกระท่อมสำหรับอาศัย มาร่วมออกล่าไปด้วยกันเถอะ
หัวข้อ: วันนี้โคตรอันตรายเลย
สวัสดีฉันคือลิซ
นี่เป็นอีกครั้งแล้วที่ฉันอัพโหลดคลิปที่มอนสเตอร์โจมตีป้อมปราการเวอร์โก วีดีโอของวันนี้ยาว 2 ชั่วโมง ในการต่อสู้วันนี้ กำแพงเมืองทางตะวันออกที่เพิ่งมีการซ่อมแซมไปเมื่อหลายวันก่อนก็พังลงมาอีก
การก่อสร้างกำแพงในตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันเร็วขึ้นกว่าเดิม
มันอาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนกองทุนเรามีน้อยรึเปล่า?
หรือเจ้าเมืองใช้วัตถุดิบราคาถูกกันนะ? ช่างมันเถอะ ฉันยังรู้สึกสงสัยนิดหน่อยที่ว่ามันพังมานาน
ดังนั้นฉันจะหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้มันเพื่อความปลอดภัยในชีวิตล่ะนะ.
มอนสเตอร์ผ่านกำแพงเมืองมาทางรอยแยกของกำแพงและในขณะเดียวกันการต่อสู้ข้างนอกก็ยังคงดุเดือดต่อไป.
. . ทุกอย่างเริ่มบ้าคลั่งมากขึ้น ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องมีความที่ว่า ‘ทำไมพวกเราต้องดิ้นรนกันขนาดนี้ด้วยล่ะ?’ หรือ ‘ทำไมพวกเราไม่ไปล่าในดันเจี้ยนหรือพื้นที่ล่าอื่นๆล่ะ?’
แน่นอนว่าเมื่อรุ่งเช้ามาถึงมอนสเตอร์จะกลับไป
ผู้คนทั้งหลายจะผูกมิตรกันเมื่อพวกเขาถูกเติมเต็มด้วยความสนุกสนาน
นี่คือความสุขที่มีเพียงผู้เล่นที่เคยต่อสู้แบบนี้เท่านั้น ถึงจะรู้ได้
วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับป้อมปราการเวอร์โก้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามเหมือนกับวิดีโอกองทัพอมตะหน้านี้ที่มีวีดเป็นผู้บัญชาการทัพ
ในตอนแรก
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป็นวีด พวกเขากลับคิดว่าวีดจะยอมแพ้ต่อกองทัพอมตะเพราะความอันตรายของมัน
แต่พวกเขาก็ยังอดที่จะดูไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรวีดได้ แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกชื่นชมเหมือนกับวิดีโอที่เหล่าผู้เล่นคนอื่นๆและพลเมืองต่างพร้อมใจกันร่วมปกป้องป้อมปราการ
ไม่มีวันไหนที่ปลอดภัย
พวกเขายังคงต่อสู้เพื่อปกป้องป้อมปราการ
นี่คือดินแดนที่พวกเขาต้องดิ้นรนต่อสู้ในแต่ละวันและที่นี่คือป้อมปราการและพื้นที่ล่า
โดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าการพัฒนาของป้อมปราการเวอร์โก้จะเป็นสถานที่ที่ดึงดูดจำนวนประชากรมากขนาดนี้
ที่นี่คือแนวหน้าที่นักรบของแดนเหนือจะสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้ที่อันตรายจากมอนสเตอร์ได้
*****
หมู่บ้านบารานตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรโรเซนไฮม์
ที่นี่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่ผู้เล่นหลายคนสามารถรับเมล็ดพันธุ์โดยการทำเควสจากผู้อาวุโสแกรนดิลวาห์เพื่อใช้เป็นทางผ่านไปสู่นครลอยฟ้า
ลาเวียส ที่นั่นมีรูปปั้นเทพีเฟรย่าที่วีดเป็นคนสร้างในอดีตด้วยความสามารถที่ยังไม่ได้มีอะไรมากนัก
แต่ด้วยผลงานชิ้นนี้ที่เขาสร้างโดยมีต้นแบบจากซอยูน ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
“จริงหรือเนี่ย นี่มัน ผลงานชั้นเยี่ยมเลยนะ”
“ถ้าถ้ามีผู้หญิงแบบนี้อยู่บนโลก
แค่ได้เห็นใบหน้าของเธอ ฉันคงจะมีความสุขจนตายเลยล่ะ”
“อย่าพูดบ้าๆน่า
ไม่มีผู้หญิงแบบนี้อยู่ในโลกนี้หรอก นี่มันเพราะเป็นรูปแกะสลักของวีดต่างหากที่ยอดเยี่ยมเกินไป”
นักผจญภัยต่างแวะมาเพื่อดูประติมากรรมสักครั้งก่อนจะออกล่าหรือบางครั้งพวกเขาก็แวะไปพูดคุยกับชาวบ้านคนอื่นๆ
การที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านทำให้พวกเขาได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเควส,พื้นที่การล่าหรือแม้แต่ดันเจี้ยนใหม่
ที่นั่นมอนสเตอร์สามารถสร้างดันเจี้ยนได้ด้วยการรวมกลุ่มกันและสร้างมันขึ้นมา
ชาวบ้านหรือแม้แต่นักล่าสามารถรู้ล่วงหน้าได้ และเมื่อมีผู้เล่นที่ทำให้พวกเขาไว้วางใจแล้ว
พวกเขาก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับมันด้วย
อย่างไรก็ตามในวันหนึ่ง
ผู้คนที่เข้ามาในหมู่บ้านก็น้อยลงอย่างผิดปกติ
“ข้ายินดีรับใช้ท่านทั้งกายใจ”
“ห๊ะ?”
“จงรับฟังคำสอนของมหาเทพเพื่อปกป้องทวีปที่ไร้ค่านี้ซะ”
“……”
ชาวบ้านหลายคนเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาว่างเปล่า
เมื่อผู้เล่นขยับเข้าไปใกล้พวกเขาเพื่อที่จะพูดคุยด้วย พวกเขาก็เริ่มเล่าเรื่อง
“ข้าจะบริจาคเงินให้มหาวิหารเพื่อสร้างกองทัพที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม! เงินภาษีของข้าจะต้องไม่สูญเปล่า”
“อะไรเนี้ย...”
“กองทัพจะมาช่วยพวกเรา”
“กองทัพไหนที่จะมาช่วยพวกคุณล่ะ?”
“อ้าก! ข้าไม่สามารถบอกท่านได้มากกว่านี้ ถ้าท่านไม่มีจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ จงออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ซะ
มีแต่เทพเอ็มบินยูเท่านั้นที่จะสามารถชำระล้างโลกที่เต็มไปด้วยบาปได้.”
เหล่าผู้เล่นที่เข้ามาในหมู่บ้านหาเพื่อข้อมูลเกี่ยวกับเควส
ต่างพากันแปลกใจกับท่าทีของชาวบ้านที่ไม่เป็นมิตรอีกต่อไป ไม่ใช่ว่าเป็นวิหารเอ็มบินยูที่โจมตีและพาทวีปกลางเข้าสู่ความวุ่นวายเหรอ?
และวันหนึ่ง ผู้อาวุโสของหมู่บ้านก็ไม่ได้ให้เควสอะไรอีก
“ผู้ที่มีศรัทธาในคำสอนของวิหารเอ็มบินยูจะได้รับเมล็ดพันธุ์ฟรี”
มันเป็นทางเลือกที่ยากสำหรับผู้เล่นในการตัดสินใจ
แต่ด้วยความจริงที่ว่าจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ความเปลี่ยนแปลงจึงบังเกิด
และก็มาถึงวันที่รูปสลักเทพีเฟรย่าที่วีดสร้างขึ้นได้ถูกทำลายลง.
*****
บาร์ดเรย์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม
“นี่มันก็นานมากแล้วตั้งแต่ก้าวเท้ามุ่งหน้าสู่สมรภูมิ”
หลังจากการสร้างรากฐานมั่นคงได้แล้ว
กิลด์เฮอร์มีสก็ไม่ได้พบเจอกับการต่อสู้ขัดขืน
การออกล่ามอนสเตอร์
หรือได้รับการยอมรับจากหอนักรบ พวกเขาก้าวล้ำไปมากกว่านั้น
พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเรื่องกำลังทางทหารในรอยัลโร้ด
แต่เหตุผลที่พวกเขาเริ่มก่อสงครามก็เพราะกิลด์เฮอร์มีสเป็นผู้กำหนดมัน(เหมือนปลุกปั่น)
“พวกเราจะแสดงความแข็งแกร่งให้ทุกคนได้เห็น
พวกเราจะต้องชนะ”
บริเวณป้อมตรงชายแดน
บาร์ดเรย์ได้เตรียมอาวุธพร้อมแล้ว และเดินออกมาข้างนอก ทหารราบ,อัศวิน และนักเวทย์ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับปิดล้อมและเตรียมพร้อมในการเดินทัพ
เป้าหมายของพวกเขาคืออาณาจักรคัลลามอร์!
เมื่ออาณาจักรฮาเวนปลอดภัย
กิลด์เฮอร์มีสก็ได้นำกองกำลังจู่โจมเพื่อทำการยึดอาณาจักรคัลลามอร์ในทันที
รูปลักษณ์ของอัศวินในชุดเกราะสีดำของบาร์ดเรย์ได้ปรากฏสู่สายตาของทหารและเหล่าผู้เล่นอย่างเงียบงัน
เขาเป็นดั่งตัวแทนของกิลด์เฮอร์มีสนี่คือการแสดงความยิ่งใหญ่ของคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์
บาร์ดเรย์ปีนขึ้นม้าและเตรียมพร้อมรบโดยที่ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
“เดินทัพ”
เมื่อสิ้นเสียงคำสั่งของผู้บัญชาการรบอย่างบาร์ดเรย์
ประตูของป้อมปราการก็เปิดออก กองทัพของอาณาจักรฮาเวนก็เดินเท้ามุ่งหน้าสู่อาณาจักรคัลลามอร์
“กองทัพของอาณาจักรฮาเวนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้”
“ส่งสัญญาณเตือนภัย!”
กองกำลังที่อยู่เขตชายแดนของอาณาจักรคัลลามอร์ตอบสนองโดยทันที
เพื่อที่จะขับไล่จากการรุกรานของกองทัพศัตรู ประตูป้อมปราการก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเหล่าทหารที่ออกมาป้องกัน
“โจมตี! โจมตี!”
บาร์ดเรย์ที่อยู่บนหลังม้า
พุ่งตรงเข้าสู่สงคราม
“บาร์ดเรย์เข้าร่วมสงครามด้วย!”
เหล่าทหารและผู้เล่นที่สังกัดกิลด์เฮอร์มีส
ต่างจับจ้องไปที่บาร์ดเรย์ที่อยู่ในแนวหน้า เพียงความจริงที่ว่าเขาได้เข้าร่วมสงครามก็เพียงพอที่จะเพิ่มขวัญกำลังใจให้กองทัพได้แล้ว
“อัศวินดำบาร์ดเรย์อยู่ข้างอาณาจักรฮาเวนงั้นเหรอ?”
“แล้วจะสู้ได้ยังไงล่ะ?
หรือว่าเราควรจะยอมแพ้?”
ที่ปราสาทของอาณาจักรคัลลามอร์
ด้วยความจริงที่ว่าบาร์ดเรย์ได้เข้าร่วมนำทัพการโจมตีอาณาจักรคัลลามอร์ ความกลัวก็เริ่มค่อยๆซึมเข้าไปในจิตใจพวกเขา
ชื่อเสียงของเขาในด้านการต่อสู้นั้นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปที่เก่งกาจและเป็นที่หวาดกลัวของทหาร
“บุกทะลวงสังหาร(Unblockable Assault)!”
Bardray and his Black Knight
guards rode together.
บาร์ดเรย์และเหล่าอัศวินดำขี่ม้านำทัพไปพร้อมกัน
สกิลของอัศวินที่สามารถเรียนได้เฉพาะอัศวินเท่านั้น! ตอนนี้ในทวีปเวอร์เซลล์นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสกิลการโจมตีที่ดีที่สุด
ไม่เพียงแค่การเพิ่มความเร็วของม้า แต่ยังคงโจมตีทะลุทะลวงเป็นเส้นตรงและทะลวงแนวกั้นของศัตรูที่อยู่ในระยะ
บาร์ดเรย์และเหล่าอัศวินดำเจาะทะลุแนวป้องกันของศัตรูมาได้และตั้งแนวโจมตี
ราวกับผู้คนถูกครอบงำ ทหารของอาณาจักรฮาเวนต่างส่งเสียงคำรามดังลั่น
“ทุกคนโจมตี!”
“ยึดปราสาทวัตเท่นให้ได้(Vatten
Castle)! บดขยี้อาณาจักรคัลลามอร์ให้กลายเป็นฝุ่นไปซะ!”
เหล่าผู้เล่นและทหารของกิลด์เฮอร์มีสชูดาบและโล่ของพวกเขาขึ้นมาและเข้าโจมตี
เมื่ออาวุธป้องกันเมืองพัง กำแพงเมืองที่แตกร้าวรวมถึงประตูที่พังทลายลง บาร์ดเรย์ก็ก้าวเข้ามาในปราสาทเป็นคนแรก
“ฆ่าบาร์ดเรย์ซะ”
“เพื่อปกป้องอาณาจักรคัลลามอร์
จงตายซะบาร์ดเรย์ โจมตี!!”
ศัตรูที่พุ่งเข้ามาหาบาร์ดเรย์ลงไปกองกับพื้น10-20
คนทุกครั้งที่บาร์ดเรย์ตวัดดาบของเขา นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่ไม่ว่าจะในวิดีโอไหนเขาก็ไม่ได้แสดงออกมา
ขุมกำลังของบาร์ดเรย์นั้นแตกต่างไปจากเดิมและต่างจากผู้เล่นคนอื่นในทวีปเวอร์เซลล์หลังจากยึดปราสาทที่ชายแดนของอาณาจักรคัลลามอร์ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นกิลด์เฮอร์มีสได้ทำการวางแผนการรบต่อ
และทิ้งไว้เพียงเศษซากปรักหักพังของเมือง ก่อนจะเดินทัพต่อไป
ผู้แปล: SR
Editor: แอดชิน
เพจ เราอ่านนิยายแปล
มาแล้วๆ. รอก่อนเฮอมิส รอวีดกอบโกยก่อน ตอนนี้วีดกำลังช้ำใจเรื่องแบ่งของอยุ่
ตอบลบอิทธิพลเหนือกว่ากันมาก ไม่รู้วีดจะไปช่วยโคเดอริมสู้รึเปล่า?
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณผู้แปลครัช
ตอบลบแล้วกิลเฮอร์มิสก็คงตกไปอยู่ในกำมือวิหารเอ็มบินยู ตอนนี้แทรกซึมไปทุกพื้นที่แล้ว แต่เจ้าบาร์ดเรย์ยังไม่รู้ตัว มัวแต่ยึดเมือง ส่วนตาวีดสร้างเมืองใหม่อยู่...ไม่ว่าง
ตอบลบวีดต้องไปช้วยแล้วละ อยากเห็นสองคนนี้ มาเผชิญหน้ากันจริงๆ
ตอบลบเอาบาร์เรย์ไปสู้กับวิหาร mbu ก่อนพี่วีดจะได้ไม่เหนื่อย
ตอบลบไม่อยากดห็นบาร์ดเรย์เก่งขึ้นเลย แต่ถ้าศัตรูไม่เก่งกว่าก็มาชนกับวีดเราไม่ได้หรอก พลังที่มาจากความงกของพี่แกไม่ใช่เล่นๆ เงิบมาหลายรายละ 55 ลุ้นต่อไป รอคู่นี้มาเจอกัน cheer.
ตอบลบบาร์ดเรย์ใส่ item มาซะขนาดนั้นมีหรือวีดจะปล่อยไป
ตอบลบตัวเงินตัวทอง...
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้อออ