เล่ม 25 ตอนที่ 5 ทักษะลับวิชาดาบ แปลโดย Acid กรด
วีดกำลังทำเหล่าประติมากรรมศิลปะการใช้ดาบของซาฮับ(Zahab’s
swordsmanship)
รูปแบบสุดท้ายคือการแกะสลักเหล่าประติมากรรมแต่ละชิ้นเพื่อให้เกิดภาพการเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันของลำดับท่วงท่าเพลงดาบพิเศษเฉพาะนี้
ความเชี่ยวชาญดาบเพิ่มขึ้น
|
ประติมากรรมแสดงถึงท่วงท่าเพลงดาบ
พวกมันมาจากศิลปะการใช้ดาบของซาฮับ ระหว่างที่กำลังทำประติมากรรม,
ทักษะความเชี่ยวชาญดาบเพิ่มขึ้นอย่างง่ายดาย
คล้ายกับว่าวีดได้รับทักษะดาบแขนงหนึ่งจากซาฮับ,
เขาทำประติมากรรมทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย
"งานประติมากรรมต้องใช้แรงกายเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบงานศิลป์อื่นๆทั่งหมด
แต่ซาฮับยังคงทุ่มเทตนเองเพื่อดาบ,
เหมือนดั่งผู้คนในหมู่จิตรกรที่อุทิศตนเองเพื่องานจิตรกรรมอันสวยงามน่าหลงใหล"
เขาครุ่นคิดว่านี่เป็นความคิดที่ไร้เหตุผล
ประติมากรมีความอดทนและเป็นงานที่ทำให้ร่างกายได้ออกกำลัง,
ส่วนจิตรกรมีความฉลาดหลักแหลมและสติปัญญาสูง
ไม่มีอะไรที่จะขัดขวางคลาสศิลปินจากโอกาสเช่นนี้
*****
"เฮ้อ
ในที่สุดฉันก็ต้องกลับสู่ชีวิตจริง"
อากาศเย็น และสายลมในเดือนมีนาคม!
ลี ฮุน
สะพายกระเป๋าของเขาเหมือนเต่าแบกกระดองและ ค่อยๆเดินต้วมเตี้ยมอย่างช้าๆไปที่รถบัสซึ่งจะพาเขาไปยังมหาวิทยาลัย
"ต้องกลับไปมหา'ลัยซะแล้วสิ, จะมีอะไรน่าเบื่อมากกว่านี้อีกไหมเนี่ย?"
มันไม่ตื่นเต้นซาบซ่า
แถมอากาศยังหนาวเย็น ยิ่งเพิ่มความทุกข์ยากในการเดินทางไปมหาวิทยาลัย
"ผมได้ยินว่าปีนี้พวกเขาจะรวบรวมแต่พวกเด็กใหม่อัจฉริยะ"
"โดยเฉพาะพวกที่อยู่ภาควิชาเสมือนจริง(the
virtual reality department), พวกเขาบอกว่าพวกที่สอบแข่งขันเข้ามาได้เนี่ยเป็นพวกติงต๊อง"
"เฮ้ย,
มันเป็นอุตสาหกรรมที่เฟื่องฟูสุดๆในเวลานี้นี่นา"
เสียงกระซิบคุยกันของพวกน้องใหม่ลอยวนรอบรถบัส
ลี
ฮุนเชื่อว่านั่นเป็นมรรยาทที่ดีของพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยที่จะโดดเรียนอาทิตย์แรก,
เมื่อพิธีกรรมทั้งหลายในการเข้าเรียนได้เริ่มขึ้นกับพวกนักศึกษาใหม่,
ดั่งสายลมอ่อนโยนของฤดูใบไม้ผลิพัดสู่วิทยาลัย
'และนี่ไม่มีอะไรให้ทำฉันเลยจริงๆ'
ถึงแม้จะมีน้องใหม่ที่ทำท่าเขินๆ
แต่งหน้าแต่งตา และใส่กระโปรงสั้นๆเข้ามาก็ตาม, ลีฮุนก็ไม่สนใจและเดินต่อไปตามทางของเขา
"เฮ้,
พี่ก็มาด้วย?"
เมื่อเข้าไปในห้องบรรยาย ชอย ซัง
จุน ทำท่าทางสนิทสนม
"สวัสดีครับ,
รุ่นพี่!"
"ยินดีที่ได้พบกันเป็นครั้งแรกค่ะ"
ข้างๆเขามีนักศึกษาสาวมรรยาทดีสองคนกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน
ด้วยสายตาที่มีเลศนัย
และมีเสน่ห์ของพวกเธอ
ทั้งสองคนที่เจอนั่นเป็นน้องใหม่ยอดนิยมสุดๆที่กำลังคุยอยู่กับ ชอย ซัง จุน
"คนนี้เพื่อนผม,
แต่เขาเป็นรุ่นพี่ที่แก่กว่าผมนิดหน่อย"
สำหรับน้องใหม่,
ลี ฮุนดูเข้าใกล้ไม่ได้ง่ายๆ
'พวกเธอจะแต่งตัวสวยๆแบบนั้นและแกล้งทำเป็นว่าพวกเธอยังไม่ได้ทานอะไรและขอร้องให้พวกรุ่นพี่เลี้ยงพวกเธอหน่อย
ครั้งแรกๆพวกเธอจะพอใจที่ร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย,
หลังจากนั้นในที่สุดพวกเธอก็ขอกรึ้บเหล้าและลากคุณไปร้านไก่ผัดเผ็ด พวกเธอไม่ใช่พวกสาวมหา'ลัยไม่มีจะกินสักหน่อย...เพราะฉะนั้นฉันไม่ต้องซื้ออาหารให้กับน้องใหม่พวกนี้
"อ้า..อย่างนั้นใช่เลย"
ลี
ฮุนพยักหน้าและนั่งลงที่นั่งว่างใกล้ๆแถวนั้น
แต่การพูดคุยของพวกเขายังได้ยินอย่างชัดเจน
"รุ่นพี่คะ,
ฉันได้ดูเรื่องของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ(Black Lion’s guild)เข้ายึดไบซัน(Bison)"
"ช่าย,
ฉันคล่องแคล่วว่องไวมากเลยนะในสงครามนั้น
พวกเธอได้ดูอัศวินที่ทำลายประตูปราสาทด้วยหอกของเขาหรือเปล่า?"
"ค่ะ,
มันเยี่ยมมากเลย อัศวินคนนั้นขี่ม้าของเขาและใช้หอกนั่นทำลายมัน
โอ้ว, เป็นไปได้ไหมคะว่านั่นคือรุ่นพี่น่ะ?"
"ม่าย,
เขาเป็นรุ่นพี่ของฉัน, หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งกิลด์ราชสีห์ทมิฬ
ม้าของฉันตายไปซะก่อน ฉันเลยต้องปีนบันไดบุกเข้าไป"
ชอย ซัง จุง ภาคภูมิใจมากเมื่อได้พูดถึงเรื่องความสำเร็จของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ
ในทวีปเวอร์เซลล์,
ถ้าผู้ใดมีสัญลักษณ์ของกิลด์ราชสีห์ทมิฬประดับบนเกราะของพวกเขา,
พวกเขาจะได้รับสิทธิ์การดูแลเป็นพิเศษ
แม้พวกมือสังหารที่เป็นส่วนหนึ่งของกิลด์ใหญ่ๆยังต้องเพิกเฉย
นั่นเป็นเหตุผลที่พ่อค้าจำนวนมากเข้าร่วมกับกิลด์ที่มีชื่อเสียง,
พวกเขาพอใจจ่ายรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ที่ได้รับ
กิลด์จะควบคุมการดำเนินการของปราสาท,
หมู่บ้าน, เหมือง และแม้กระทั่งกิจกรรมของพวกพ่อค้า
รายได้ที่เข้ามา
จะทำให้ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของพวกเขาเติบโตเพิ่มสูงขึ้น
ในความเป็นจริง,
รอยัลโรดมีวิธีการแตกต่างกันมากมายหลายชนิดเพื่อความอยู่รอด
และมีผู้เล่นอีกมากมายที่มีความสุข
กับการเล่นไปเรื่อยเปื่อย
พวกเขาสามารถเพิ่มเลเวลได้ด้วยการออกล่าและกลายเป็นที่รู้จักในความกล้าหาญของพวกเขา
หรือเพียงแค่เร่ร่อนไปในจุดท่องเที่ยวและหาเงินพอให้ยังชีพได้
รอยัลโรดเต็มไปด้วยสิ่งบันเทิงและผู้เล่นจำนวนมากไม่อยากอยู่ไกลจากเมือง
การออกล่าในดันเจี้ยนหลายวันเป็นเรื่องยากและไม่เหมาะกับความถนัดของผู้เล่นหลายคน
หลังจากต้องดิ้นรนกับการศึกษาในชีวิตจริง,
พวกเขาก็เชื่อมต่อเข้าสู่รอยัลโรด
และพักผ่อนในวันหยุดได้พบกับสาวเจ้าเสน่ห์มากมาย, แล้วจะมีอะไรที่พวกเขาหวังมากไปกว่านี้อีก?
แต่ก็มีบางอย่างเช่นการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์
และการขยายอาณาเขตในทวีปเวอร์เซลล์ ที่จะทำให้หัวใจสูบฉีดแรงขึ้นกว่าเดิม
"พี่,
อยู่ที่นี่ไหมครับ?
ปาร์ค ซุน โจ
เข้ามาในห้องบรรยายและวางหัวอันเหนื่อยอ่อนของเขาลงบนโต๊ะทางด้านซ้ายของลี ฮุน
ยังพอมีเวลาพักนิดหน่อยก่อนการบรรยายจะเริ่ม,
ลี ฮุนก็วางหัวเขาลงบนโต๊ะด้วยเหมือนกัน
"อ้า..วันนี้มันหนักมาก,
หนักจริงๆ"
มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะต้องทำการเลือกท่าทางที่ถูกต้องจากกระบวนท่าดาบมาทำประติมากรรมที่ซาฮับต้องการ
เขายังต้องเลือกและแกะสลักในช่วงเวลาและท่าทางที่เปลี่ยนและและการเปลี่ยนแปลงระยะการเหวี่ยงดาบ
ถ้าเขาไม่เคยเรียนศิลปะการใช้ดาบ,
และพยายามเลียนแบบซาฮับ มันคงจะเป็นเรื่องยากแสนสาหัส
ปาร์ค ซุน โจ คร่ำครวญกับวีด
"พี่ครับ,
มันคงยากมากสำหรับผม"
"ช่วงก่อนนี้แกทำอะไรมาบ้าง?"
"ตั้งแต่เข้าหน้าหนาว,
ผมก็ตรากตรำออกสำรวจกับทำพวกเควส..."
"แล้วมันไม่สำเร็จหรือ?"
"มันเป็นเควสต่อเนื่องผมเลยต้องไปพบอีกหลายคนและมีเรื่องมากมายเป็นตันๆ
แต่มันทำได้ช้ามาก"
ตัวละครที่ ปาร์ค ซุน โจ ใช้คือโจร(thief)
มีเลเวลค่อนข้างสูง เควสต่อเนื่องของเขาทำให้ ลี ฮุน สนใจ
แต่ชื่อเสียงของ ลี
ฮุนอยู่ในระดับที่เขาสามารถทำทุกๆเควสของกษัตริย์ในรอยัลโรดได้แล้ว
"ช่าย,
พยายามให้มากๆ ถ้าทำมันไม่สำเร็จ, ก็แค่ปล่อยมันไว้อย่างนั้น
แล้วมีเวลาค่อยกลับมาทำใหม่"
"ผมคิดว่าผมเกือบจะได้แล้ว
ผมอยากทำมันให้จบ"
"ต้องมีความเชื่อมั่น,
ถ้ามันทำไม่สำเร็จ, ก็ยอมแพ้แต่เนิ่นๆ
ก่อนที่มันจะสายไป"
"ครับ พี่"
ทั้งสองแลกเปลี่ยนบทสนทนากันอย่างเงียบๆจนได้ยินเสียง
ชอย ซัง จุน ดังมาจากข้างหลัง
"กิลด์ราชสีห์ทมิฬ จะออกล่า ธาตุพายุลาวา(the
Elemental Lavastorm)สุดสัปดาห์นี้
สถานี IBC เนทเวิร์คจะออกอากาศด้วยดังนั้นโปรดรับชมการถ่ายทอพสดได้เลยครับ"
"จริงหรือคะ?"
"แล้วรุ่นพี่จะอยู่ที่นั่นเวลานั้นด้วยหรือเปล่าคะ?"
ชอย ซัง จุน พูดอึกๆ อักๆ อ้อมแอ้ม
"คุณสมบัติของฉันยังไม่ถึงน่ะ..."
"..."
*****
อัตราการพัฒนาของเมืองโมราต้าสร้างความตื่นตาตื่นใจกับผู้คน
ผับ ๆ ๆ ๆ!
บ้านพักอาศัยถูกสร้างขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน
กระท่อมและบ้านดินผุดขึ้นเร็วมาก, เป็นสัญลักษณ์ว่ามีการพัฒนามากเกินไปแล้ว!
"ผมมานี่เพื่อเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้า"
"พวกเราจะดำเนินการลงทะเบียนให้เสร็จในวันนี้,
ใบสมัครของคุณเลขที่ 18639"
"วันนี้มีใบสมัครใหม่มากไหมครับ?"
"วันนี้วันจันทร์ดังนั้นจำนวนเลยยังน้อยหน่อย"
พวกผู้เล่นหน้าใหม่สะพายกระเป๋าของพวกเขาและเดินทางผ่านประตูหลักของโมราต้าออกล่าในดันเจี้ยนใกล้ๆ
พวกเขารวมตัวกันและและสร้างความคุ้นเคยในหมู่พวกเค้าแต่ละคนให้มากขึ้นก่อนที่จะทำการออกล่า
"บางทีพวกเรามาเริ่มพิจารณาเดินทางไปที่ป้อมปราการเวอร์โก้กันดูไหม?"
"ผมได้ยินมาว่าที่นั่นมั่นคงดีแล้ว
เลยมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพื้นที่ออกล่า"
"ถ้าพวกเราไปด้วยกัน,
คงไม่มีปัญหาอะไร"
"ไปกันเถอะก่อนที่มันจะสาย
ผมอยากจะใช้เวลาของผมในเขตแดนที่เจ้าเมืองวีดปกครองมากกว่าหมู่บ้านอื่นๆในเขตเหนือ"
ผู้คนมากมายย้ายไปที่ป้อมปราการเวอร์โก้,
แต่ผลจากการที่ผู้เล่นอพยพออกจากโมราต้าก็ยังไม่เป็นผลอะไรให้รู้สึกได้
หลังจากนั้นหนึ่งหรือสองวัน,
ผู้เล่นใหม่ก็ปรากฏ จำนวนพ่อค้าที่ทำธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ใจกลางเมืองโมราต้าเป็นย่านธุรกิจใหญ่,
ผู้คนมารวมตัวกันในหมู่บ้านนักสำรวจเพื่อออกสำรวจและทำการล่า
อิทธิพลของโมราต้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและพ่อค้าจากทั่วทั้งแดนเหนือก็เข้ามาทำธุรกิจ
ด้วยอิทธิพลของโมราต้า,
ทำให้ขั้นตอนการพัฒนาในช่วงเปลี่ยนผ่านของป้อมปราการเวอร์โก้ลดลง
ในเวลาไม่นาน,
จากที่ไม่เคยมีประชากรอยู่อาศัย ตอนนี้กลับกลายเป็นพวกพลเมืองและผู้เล่นได้ขยายตัวหลั่งไหลกันมา,
ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้น
พวกนักรบมารวมตัวกันเพื่อออกล่าและผจญภัย,
นำไปสู่การดรอปของเหล่าไอเทม
พ่อค้ามากมายค้าขายกับพวกเอลฟ์,
คนแคระ, และพวกคนเถื่อน, ในขณะที่พวกเขาขาดเทคโนโลยี และความสามารถในการผลิต,
ปริมาณสินค้าที่ซื้อขายจึงไม่สำคัญนัก
พวกพ่อค้าที่บริหารการค้าประสบความสำเร็จกับชนเผ่าเหล่านี้
พวกเขาสามารถทำกำไรได้มากมาย
พวกพ่อค้ามีความพยายามมากขึ้นที่จะนำสินค้าจากพวกเผ่าต่างๆที่ต้องการมาค้าขายกับพวกเขา
หลังความสำเร็จแรกของเมแพนและพวกพ่อค้ารายใหญ่คนอื่นๆในเขตเหนือในการทำการค้าของพวกเขา
พวกเขาจึงตั้งร้านค้าในป้อมปราการเวอร์โก้
"หนึ่งเดือน
หลังจากนี้หนึ่งเดือนที่นี่จะมีการพัฒนาธุรกิจการค้าเต็มที่"
ยังมีอันตรายจากมอนสเตอร์ที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งให้ราบคาบ,
แต่พวกเขาก็ตั้งความหวังและใฝ่ฝันถึงการลงทุนในป้อมปราการเวอร์โก้
วีดได้ลงทุนมหาศาล
แม้ว่าเขาจะไม่มีคนเชื่อในศักยภาพในการเติบโตและเริ่มตั้งถิ่นฐานในป้อมปราการเวอร์โก้
มันเป็นสถานที่ที่พวกนักรบที่เข้มแข็งได้โชว์ความแข็งแกร่ง
ยามเมื่อมอนสเตอร์บุกเข้ามา, พวกเขาสามารถพึ่งพาได้เหมือนผนังกำแพงอันแข็งแรงและต่อสู้ร่วมกัน
หลังจากการป่าวประกาศชัยชนะของพวกเขา,
เหล่านักรบต้องฉลองเบียร์กันให้ชุ่ม
ส่วนประกอบที่จำเป็นถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและกำลังทำอยู่ในพื้นที่ของพวกมัน
"ที่แห่งนี้ ขนาดอันมโหฬารของมันทำให้ผมสงสัยว่า
ท่าทางผมจะมาถูกที่แล้ว"
(อาจารย์)นักดาบที่ข้ามทะเลมาถึงโมราต้า
เมื่อเขาระลึกถึงความหลัง หนทางสู่โทรเดียมอาณาจักรแวมไพร์,
ที่ที่พวกเขาได้เข้าช่วยเหลือและพิชิตมัน
ณ
เวลานั้นมันเป็นเพียงหมู่บ้านในชนบทที่นักผจญภัยมักหลีกเลี่ยง,
แต่เวลานี้มันสามารถกล่าวได้ว่ามันเป็นเมืองหลวงที่จะเข้าสู่ทวีปเหนือ
"มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ"
ระหว่างที่(อาจารย์)นักดาบกำลังยืนอยู่หน้าทางเข้า,พวกพ่อค้ากำลังยุ่งอยู่กับการลากเกวียนบรรทุกของพวกเขาทางนี้ทางนั้น
"ประทานโทษครับ,
ดูเหมือนเลเวลของคุณจะสูงไม่น้อย
คุณอยากจะล่าร่วมกันกับพวกเราไหมครับ?"
นักดาบหันศีรษะของเขาไปๆมาๆ,
กลุ่มนักผจญภัย 6 คนกำลังเรียกเขา
"ผมเหรอ?"
"ใช่ครับ
กลุ่มของพวกเราต้องการนักดาบเพิ่มอีกสักคน พยายามหาใครสักคนที่ลานจัตุรัสนี้มันยากมากเลย...
เผื่อบางทีถ้าคุณยังไม่มีปาร์ตี้งั้นมาออกล่าด้วยกันเถอะ"
ข่าวลือเรื่องนักดาบยังกระจายมาไม่ถึงที่นี่
นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งหุบเขายูโรกินะ
แม้ว่าเขาจะเคยเข้าร่วมปาร์ตี้กับคนเพียงไม่กี่คน, เขาสามารถกำจัดพวกมอนสเตอร์สุดแสนร้ายกาจและอันตรายในดันเจี้ยนได้หมดเกลี้ยง
ผู้คนที่ได้พบเห็นประสิทธิผลของนักดาบมีไม่กี่คน,
แต่ข่าวลือแพร่กระจายอย่างลับๆในหมู่พวกออร์คและดาร์คเอลฟ์
"คนยักษ์ ออร์ค,
ควิก! เขาไม่ใช่ออร์ค มนุษย์! ที่แข็งแรงมาก ชี-ชิค!"
"แม้จะเป็นมนุษย์ เขาก็มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธหลากหลาย
ในวันที่เขาปรากฏตัว, พวกมอนสเตอร์ไม่สามารถอยู่ในรังของพวกมันได้"
"เขาเป็นยอดนักรบในละแวกหุบเขายูโรกิ
พวกเรารู้จักความเป็นผู้นำของออร์คคาริชวิ(Orc Karichwi), ไม่มีใครเทียบความกล้าหาญของเขาได้"
นักดาบต่อสู้ในหุบเขายูโรกิเพราะว่าเขาเบื่อ,
แต่เขากลายเป็นตำนานและเป็นเรื่องเล่าขานกันในหมู่พวกดาร์คเอลฟ์และพวกออร์ค
*****
"มันคงจะดีถ้ามีงานศิลป์หลากหลายที่นี่เหมือนโมราต้า..."
"พวกเราสามารถชม ประติมากรรมการจุติของเทวฑูตทั้งเจ็ด
แต่ตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว พวกเขาย้ายมันกลับไปที่ศูนย์ศิลปะแล้ว มันคงจะยอดเยี่ยมมากถ้ามีบางอย่างเหมือนกับหอคอยแห่งแสง
หรือรูปปั้นของเทพีเฟรย่า"
พวกผู้เล่นในป้อมปราการเวอร์โก้เข้าถึงสิ่งจำเป็นต่างๆได้
แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายนักเพราะการเพาะปลูกไม่ได้ผล
ที่โมราต้าผลผลิตสดใหม่ทุกวัน
ผู้คนสามารถพักผ่อนกับเพื่อนฝูงของเขาหรือคนรัก ระหว่างการชมงานศิลปะ
บรรยากาศของความสุขและสนุกสนานสามารถรู้สึกได้จากการได้เห็นจุดดึงดูดความสนใจสุดยอดเยี่ยมอยู่ทั่วไปทั้งโมราต้า
ในช่วงชีวิต,
เงินทอง, ชื่อเสียง, และอำนาจ
เป็นสิ่งสำคัญ แต่ในทางตรงกันข้ามความพอใจจะพบได้ผ่านเหล่าบทกวี, นิยาย หรือ เสียงเพลง!
วัฒนธรรมและศิลปะสร้างจิตสำนึกหนึ่งของชีวิต
มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้คนมีความสุขและดับความกระหายทางอารมณ์
"ไม่มีอะไรที่พวกเราทำได้มากนัก
สถานที่นี้ยังอันตรายมาก
พวกศิลปินอาจจะย้ายมาที่นี่ได้เมื่อมันปลอดภัยและมั่งคั่งมากขึ้น”
"ผมต้องการประติมากรรมที่เพิ่มอำนาจเวทมนต์
ไม่มีผลงานระดับแมกนั่ม(Magnum Opus)อื่นๆเลยหรือ?"
"นอกจากงานประติมากรรมสามารถเพิ่มทักษะการป้องกันของนักรบได้
ผมก็ยังประหลาดใจเมื่อเขาจะสร้างมัน"
ผู้เล่นยังหวังว่าวีดจะกลับมาและสร้างงานประติมากรรมมากขึ้น
ในศูนย์ศิลปะโมราต้า,งานของวีดเป็นสุดยอดของงานศิลป์
แต่ก็มีงานประติมากรรมดีเยี่ยมอื่นๆอีกมาก
และเหล่าผู้เล่นกำลังหวังว่าจะขนย้ายพวกมันบางส่วนมาที่ป้อมปราการเวอร์โก้
ดังนั้นศูนย์ศิลปะอีกสักแห่งควรสร้างขึ้นในป้อมปราการเวอร์โก้ด้วย
"ผมต้องทำงานให้หนักและทำเงินให้มากๆ
ผมกำลังออกล่าที่นี่นานแล้ว และผมไม่เชื่อว่าเงินภาษีที่ผมจ่ายจะสูญเปล่า"
"ฉันได้ยินมาว่าพวกนักกวีจะมาแสดงในวันพรุ่งนี้
ไปดูกันเถอะ"
มีพวกผู้เล่นมากมายในป้อมปราการเวอร์โก้รู้สึกสูญเสียวัฒนธรรม
แต่ที่ทางเข้าป้อมปราการ มีชายสวมหมวกสีเขียวปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น
"ชายคนนั้นใครน่ะ"
"ดูเสื้อผ้าบ๊องส์ๆของเขา"
พวกผู้เล่นกำลังเหน็บแนมเขาอย่างว่าเขาใส่หมวกเขียวกับชุดเดินทางสีเหลือง,
ทำให้คิดได้ง่ายๆว่าเขาเพี้ยนไปแล้ว
"ตำนานของฉันจะเริ่มขึ้นที่นี่"
บุรุษที่กำลังมายังป้อมปราการเวอร์โก้กับอุปกรณ์เขียนภาพไม่ใช่ใครอื่น
เปตรอฟ(Petrov)
นั่นเอง
เมื่อกล่าวถึงฝีแปรงและงานวาดภาพของเขา,
เขาเริ่มงานวาดบนกำแพง โดยไม่ต้องมีการร่าง, แล้วเขาก็เริ่มลงสีทันที
เขาวาดบนกำแพงปราสาทที่เสียหายและไร้สีสัน
"ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย"
"ภาพวาดช่างดูเหมือนจริงมาก"
"มีทวยเทพหลากหลายกำลังหยอกล้อกับพวกภูต"
บนกำแพงปราสาท,
เปตรอฟทำงานศิลปะสุดพิเศษของเขา'เหล่าภูต'
เสร็จเรียลร้อยแล้ว
เปตรอฟมีพรสวรรค์และใช้มันวาดภาพภูต,ทวยเทพ,เอลฟ์ และมอนสเตอร์
เขาทำงานศิลปะของเขาใกล้เคียงกับภาพในงานประกวด
ดังนั้นมูลค่าของชิ้นงานนั้นมีแต่จะยิ่งสูงขึ้น
'หุ หุ, เป็นที่น่าประทับใจมาก
นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น'
มันเป็นขั้นแรกในการถมภาพเขียนของเขาใส่ลงในป้อมปราการเวอร์โก้
ต่อไป,
เปตรอฟจะวาดภาพอาหารลงบนกำแพง
พื้นฐานของมันคืองานเลี้ยงฉลองสุดแสนอร่อย,เขาวาดภาพกองบาร์บีคิวย่างสีสันสดใสที่มอนสเตอร์ชอบ
'เมื่อมอนสเตอร์มา, แล้วพวกมันจะได้รู้จักความยิ่งใหญ่ของภาพวาดของฉัน...'
ภาพแห่งความเย้ายวนใจ!
การต่อสู้สามารถปะทุขึ้นได้ตลอดเวลาในป้อมปราการเวอร์โก้
แต่ตอนนี้พวกมันจะโจมตีด้วยแรงขับทางสัญชาตญาณของพวกมอนสเตอร์
ในขณะที่พวกมันพยายามจะกินอาหาร
และทุกคนในป้อมปราการเวอร์โก้ก็เริ่มรู้จักเปตรอฟ
จิตรกรมหัศจรรย์
"ฉันอยากกิน
สีของภาพวาดมองดูดีกว่าของจริงเสียอีก"
"แต่เครื่องแต่งกายของเขาดูติงต๊องชะมัด"
"ช่าย,
อันนี้เถียงไม่ออก"
แม้เมื่อเหล่ามอนสเตอร์พยายามข้ามกำแพง,
เปตรอฟก็ยังยืนวาดจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย
เขากลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในป้อมปราการเวอร์โก้อย่างรวดเร็ว
*****
ความเชี่ยวชาญดาบเพิ่มขึ้น
|
ทุกครั้งที่วีดสร้างประติมากรรมใหม่,
ความเชี่ยวชาญของเขาในทักษะศิลปะการใช้ดาบก็เพิ่มขึ้น
เขาอยู่ในช่วงครึ่งหลังของการแสดงเพลงดาบซึ่งซาฮับได้แสดงให้เขาได้ชม
เมื่อศิลปะการใช้ดาบขั้นกลางบรรลุเลเวล 10 และเลื่อนขึ้นสู่ขั้นสูง(Advanced)ของศิลปะการใช้ดาบ
พลังการโจมตีด้วยการใช้ดาบเพิ่มขึ้น
25%
|
แต่ละครั้งที่ทักษะศิลปะการใช้ดาบขั้นสูงเพิ่มขึ้น
1 เลเวล,
พลังการโจมตีจะเพิ่มขึ้น 9%
|
อำนาจในการทำลายของมานาจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น
45%
|
ทุกๆสถานะได้รับการเพิ่ม
7 แต้ม
|
ศิลปะการใช้ดาบของวีดในที่สุดก็มาถึงขั้นสูงแล้ว
ความแตกต่างระหว่างขั้นกลางและขั้นสูงเหมือนสวรรค์กับพื้นดิน
"ดูเหมือนความเชี่ยวชาญดาบของซาฮับอยู่ในระดับค่อนข้างสูง(a
quite a high level)"
ระหว่างที่วีดกำลังทำประติมากรรม เขารู้สึกอยู่ในห้วงภวังค์,ครุ่นคิดถึงความทรงจำอันคลุมเครือมาก
ซาฮับเป็นบุคคลที่มีอำนาจมาก,
เขาจดจำทุกกระบวนท่าการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของซาฮับ
หรือการเข้าโจมตีพวกมอนสเตอร์ และในที่สุดเขาก็ทำประติมากรรมที่ซาฮับต้องการเสร็จสมบูรณ์
โปรดตั้งชื่อประติมากรรมของคุณ
|
วีดจะตั้งชื่อง่ายๆ
ไม่ใช่ประติมากรรมที่จะเป็นตัวกำหนดสาระ, ประติมากรรมเป็นแค่เพียงการแสดงศิลปะการใช้ดาบของซาฮับ
"ซาฮับควงดาบของเขา"
'ซาฮับควงดาบของเขา' ถูกต้องหรือไม่?
|
"ใช่"
ประติมากรรม
ผลงานชิ้นเอก! ,
'ซาฮับควงดาบของเขา' ได้เสร็จสมบูรณ์
|
ประติมากรรมรูปปรมาจารย์ประติมากรซาฮับสร้างจากหินอ่อนสีขาว
|
ทักษะพิเศษของดาบถูกซ่อนเอาไว้ภายใน, ผู้ที่มีศักยภาพสามารถเข้าใจถึงความลับของมันได้
|
คุณค่าทางศิลปะ
: 2,472
|
คุณสมบัติพิเศษ
: ใครก็ตามที่ได้ชมประติมากรรม, 'ซาฮับควงดาบของเขา' จะได้รับอัตราการพื้นพลังชีวิตและมานาเร็วขึ้น 26% ในหนึ่งวัน
|
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น
11
|
พลังศิลปะการใช้ดาบเพิ่มขึ้น
15%
|
โดยการชื่นชมประติมากรรม, ความเชี่ยวชาญศิลปะการใช้ดาบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
|
ทักษะดาบที่ซ่อนอยู่ในประติมากรรม
|
ผลเอฟเฟ็คที่เกิดขึ้นไม่ทับซ้อนกับผลของประติมากรรมอื่นๆ
|
จำนวนของประติมากรรมชิ้นเอกที่สร้างขึ้นจนถึงปัจจุบัน
: 16 ชิ้น
|
ความเชี่ยวชาญทักษะสร้างประติมากรรมเพิ่มขึ้น
|
ความเชี่ยวชาญด้านทักษะงานฝีมือเพิ่มขึ้น
|
ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 1
|
ความว่องไวเพิ่มขึ้น 2
|
เสน่ห์ เพิ่มขึ้น 2
|
เมื่อผลงานชิ้นเอกเสร็จสมบูรณ์, ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1
|
ด้วยผลงานชิ้นเอกล่าสุดนี้,
เขาทำคำขอร้องของซาฮับสำเร็จสมบูรณ์
เควสผู้ช่วยของซาฮับเสร็จสมบูรณ์
|
ท่านได้ทำเหล่าประติมากรรมที่ปรมาจารย์ประติมากรซาฮับต้องการให้สร้างเสร็จสมบูรณ์
|
ท่านได้ทำให้ความปรารถนาที่ยึดมั่นอย่างยาวนานของซาฮับเป็นจริงแล้ว
|
รางวัลของเควส, มิตรภาพของซาฮับ
ณ ขณะนี้ 81
|
'ทักษะดาบของซาฮับอยู่ในผลงานชิ้นเอก'
วีดอยู่ระหว่างช่วงกระบวนการฝึกทักษะวิชาดาบ,
แต่ผ่านการใช้ทักษะดาบธรรมดาๆเท่านั้น,
เคล็ดมีดแกะสลัก และวิชาดาบเฮอร์เรม
เลเวลทักษะไม่ค่อยเพิ่มขึ้นมากนัก
แต่ได้เรียนเพิ่มอีกอย่างก็ไม่ได้เสียหายอะไร
หลังจากทำประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์,
ซาฮับได้กล่าวราวกับได้ยกภาระบางส่วนออกไป
"มันเป็นงานที่ดีมาก ตอนนี้ข้าคงออกจากกราพาสได้ในที่สุด"
"ท่านกำลังจะไปเขตอื่นใช่ไหมครับ?"
วีดถามออกไปเพื่อให้เขาได้รับข้อมูลของปรมาจารย์ประติมากรซาฮับเพิ่มเติม
"ข้าคงทำอย่างนั้น ข้าต้องการเดินทางท่องไปในทวีปนี้ด้วยชีวิตอันน้อยนิดที่ยังเหลืออยู่"
"แล้วท่านจะให้ทำยังไงกับเหล่าประติมากรรมในห้องทำงานของท่านครับ?"
"ข้าอยากจะขายพวกมันเพื่อเป็นทุนในการเดินทางของข้า
หรือถ้าสหายบางคนยังมีชีวิตอยู่, ข้าก็จะให้มันกับพวกเขาเป็นของขวัญ"
เหล่าประติมากรรมของปรมาจารย์ประติมากรซาฮับในปัจจุบันคงกระจายไปทั้วทั้งทวีป
การเปลี่ยนแปลงโชคชะตานี้เกิดขึ้นเพียงเพราะวีดได้มาพบและทำเควสของซาฮับสำเร็จสมบูรณ์
"ผมสามารถถามได้ไหมท่านฝึกวิชาดาบถึงระดับไหนแล้ว?"
ปรกติแล้วเขาไม่เคยถามเลยแม้สักคำถามเดียว,
แต่วีดกลับมีคำที่ถามออกไปเหมือนดั่งเขารู้สึกว่าบางสิ่งถูกผนึกไว้
ยามเมื่อเขากำลังแกะสลัก
ไม่ว่าเขาจะคิดถึงเรื่องของมันมากเท่าไร,
นี่ไม่ได้เป็นทักษะดาบแบบปรกติดังนั้นเขาจึงถามคำถามนี้ออกไป
"หรือเมื่อคืนที่ผ่านมา,
ผมได้เห็นกระบวนวิชาดาบจบหมดแล้ว"
"ใช่,
ถ้าเจ้าได้ดูจนจบ แล้ว..."
วีดตกตะลึง
นั่นหมายความว่าซาฮับไม่ได้เชี่ยวชาญแค่การแกะสลัก แต่
ศิลปะการใช้ดาบก็เป็นเช่นเดียวกัน
หากใครสังเกตเห็นร่องรอยใดๆ ที่เหลือทิ้งไว้โดยปรมาจารย์ประติมากร,
พวกเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดา
"ข้ามาถึงจุดที่ข้าไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งด้านวิชาดาบได้อีกต่อไป"
ซาฮับได้ยืนยันชัดเจนแล้วว่าเขาคือปรมาจารย์ดาบ
นี่เป็นข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดไปทั่วทั้งรอยัลโรด!
'อะไรกันนี่...'
สมองของวีดปฏิเสธขึ้นมาทันใด
เหมือนเวลาที่เขาพายามจะรับอาหารฟรี
'นี่หมายความว่าความลับของทักษะดาบอยู่ในประติมากรรมเหล่านี้
เป็นหนี่งในทักษะลับของวิชาดาบอย่างนั้นหรือ?'
ศิลปะการใช้ดาบของซาฮับ
ได้แสดงให้เห็นโดยเหล่าประติมากรรม ดังนั้นมันจึงทำให้รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างช่อนอยู่ข้างใน
วีดส่ายหน้าของเขาอย่างตื่นเต้น
และเริ่มประจบซาฮับ
"นี่น่าประทับใจมาก
ที่ได้เห็นท่าน ผู้ซึ่งมีทักษะด้านการแกะสลักอันสุดยอด,
บางอย่างเช่นการฝึกวิชาดาบจนถึงขั้นนั้นคงจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรมากนัก"
เสียงของเขาดูนุ่มนวลกว่าปกติ
และพูดให้มีเสน่ห์, ด้วยท่าทีประจบประแจงในขณะที่กำลังซ่อนความโลภของเขาเอาไว้
"เจ้ามีพรสวรรค์และทักษะมากมาย
ดังนั้นถ้าเจ้ามีโอกาส ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถเข้าถึงมันได้ และเหล่าประติมากรรมจากข้า,
ได้โปรดเก็บรักษาพวกมันเอาไว้ด้วย"
"ตกลง และนี่ผมจะถือเป็นค่าเข้าชมราคาแพง...,
ผมจะทะนุถนอมพวกมันและเก็บรักษาพวกมันไว้อย่างดี"
"ถ้าพวกเรามีชะตาต้องกัน,
พวกเราคงได้พบกันอีก"
หลังจากซาฮับพูดจบ,
เขาก็เตรียมตัวจากไป
แต่วีดยังไม่อยากให้การมีส่วนร่วมนี้เปล่าประโยชน์
"ได้โปรดรอสักครู่"
"มีอะไรที่เจ้ายังไม่ได้บอกกล่าวอีกหรือ?"
หลังจากทำเควสเสร็จสมบูรณ์
วีดได้รับแต้ม(ค่า)มิตรภาพ
ถ้าเขาจากไปในตอนนี้,
มันไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะได้พบซาฮับอีกครั้งเมื่อไรในทวีปเวอร์เซลล์
"ผมคงอัศจรรย์ใจมาก
ถ้าคุณจะช่วยผมสักหน่อยกับการออกล่าของผม"
ไม่มีของของสิ่งใดเหมือนประติมากรรมที่ได้มาฟรี
แม้ว่าเขาได้สิ่งใดจากปรมาจารย์ประติมากร, เขาก็จะเก็บมันเอาไว้
"ข้ารู้ว่าเจ้าต้องผ่านความยากลำบากเพื่อที่จะทำประติมากรรมเหล่านี้ให้เสร็จสมบูรณ์
ข้า,
ในฐานะประติมากรคนหนึ่งเข้าใจถึงความพยายาม และการตรากตรำ, และนั่นมันก็มากพอที่จะให้ข้าช่วยทำเรื่องเล็กๆน้อยพวกนั้นได้"
ซาฮับให้ความร่วมมือทำงานแบบฟรีๆ
วีดจะต้องตระเวนพื้นที่รอบๆกราพาสในขณะนี้
กับซาฮับผู้เป็นทั้งปรมาจารย์ปรติมากรและปรมาจารย์ดาบ
*****
"พวกคุณแน่ใจนะว่านี่ถูกทาง"
"ฉันคิดว่าพวกเราเคยผ่านมันมาครั้งนึงแล้วนะ..."
"สนใจพวกมอนสเตอร์ให้มากไว้,
จำได้ว่าพวกเราหลงทางเมื่อวานนี้ ตอนที่พวกรากำลังวิ่งหนี"
"ฉันกำลังจับตามองอยู่เวลานี้"
ฮวายอง กับเบด(Bade),
ปาสัน(Pason), ยูเมโร่(Yumero), เอพริล(April), โวล์ค(Volk) และแดริน(Daerin)
เข้ามาด้วยกันในกราพาส
ฮวายองต้องการเซอร์ไพรส์วีดด้วยการปรากฏตัวอย่างกะทันหัน,
ดังนั้นเธอจึงจ้างพวกดาร์คเกมเมอร์ให้พามาที่นี่
หลังจากพวกดาร์คเกมเมอร์ได้รับคำขอ,
พวกเขาก็เก็บความลับอย่างเข้มงวด
พวกดาร์เกมส์เมอรที่ฮวายองเลือกมาเป็นพวกที่เก่งพอที่ทั้งแคว้นจะคุยโม้เรื่องของพวกเขา,
แต่ไม่มีทางเสียละ
ที่พวกเขาจะเปิดเผยเนื้อหาของสัญญา
แต่พวกเขากลับหลงทางในกราพาสโดยไม่ได้บอกเหตุผลเรื่องที่จะมาที่นี่เพื่อพบกับวีด
"ถ้าเขาเห็นฉันแบบกะทันหัน
ฉันมั่นใจว่าเขาต้องดีใจ"
ด้วยความอยากเซอร์ไพรส์วีดทำให้ฮวายองกำลังเจอเรื่องยุ่งยากอย่างที่ไม่ควรจะเกิด
ปาร์สันมีทักษะการสะกดรอย
ดังนั้นพวกเขาจึงตามหลังร่องรอยของวีดที่ทิ้งไว้
"มีหลุมลึกของรอยตีนวัว
ดูที่รอยพวกนี้สิเหมือนกับพวกมันกำลังตั้งหน้าตั้งตาเคลื่อนที่,
ผมไม่คิดว่ามันจะได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่รอยเท้าพวกนี้มันกดลึกอยู่พอควร
มันดูเหมือนกำลังแบกของหนักไว้"
"นี้ ต้องเป็นวัวที่มีเจ้าของ
ผมต้องพยายามหามันให้เจอ!"
กราพาสอันตรายมาก,
แต่การสะกดรอยกลับง่ายมาก
พวกดาร์คเกมเมอร์กังวลเรื่องมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งตลอดมาจึงแชร์ข้อมูลข่าวสารของกราพาส
และเน้นการระวังสูงสุด
ยามเมื่อพวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้า
ในที่สุดพวกเขาก็บรรลุถึงทะเลสาบที่ที่พวกเขาค้นพบ
วีด,
เจ้าเหลือง, พวกไวเวิน และโกล์มินิ
"คุณวีด!"
ฮวายองตะโกนอย่างกระฉับกระเฉง,
และวิ่งตรงไปที่เขาในขณะที่ชุดของเธอก็พลิ้วไหวไปมา
และในห้วงโอกาสแบบนี้ เธอรู้ว่าต้องสวมวิกผมยาวไว้ด้วย (ช่วยเสริมเสน่ห์)
"อ้า!"
"นี่มันประติมากรนี่"
โวล์ค และแดริน จำวีดได้
เขาเป็นคนเดียวกับที่แกะสลักช่อดอกไม้ในวันแต่งงานของโวล์คและแดริน,
และได้มีโอกาสที่พวกเขาได้ออกล่าด้วยกันในระหว่างออกสำรวจทวีปเหนือ
"นั่น
คุณวีด...นั่นมันเทพสงครามวีด!"
ผู้คนทั้งทวีปเวอร์เซลล์กำลังตั้งตาคอยการปะทะกันระหว่างวีดกับกิลด์เฮอร์มิส
แต่การพบวีดที่เขตกราพาสนับเป็นเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจ
และน่ายินดี
"สวัสดี"
"ยินดียิ่ง ผมยูเมโร่"
พวกเขากำลังแสดงความยินดีต่อกัน
เมื่อ ซอยูน คาดเดาถึงผู้คนโดยรอบๆแล้ว เธอจึงรีบสวมหน้ากากของเธอในทันที
"ที่ด้านข้างนี่
เขาคือโกล์มินิ และนี่เจ้าเหลือง"
เหล่าดาร์คเกมเมอร์มองด้วยความอัศจรรย์ใจเมื่อไวเวินแนะนำตัว
และเมื่อโกล์มินิและเจ้าเหลืองได้ถูกแนะนำพวกเขาเต็มไปด้วยความสนใจอย่างมาก
"หนุ่มคนนี้คงจะหนักน่าดู..."
"ฉันคิดว่ามันต้องเป็นทองแท้ๆ"
"ซี่โครงแพงมากนะเมื่อวันนั้น"
แต่ความประหลาดใจที่แท้จริงของพวกเขามาภายหลังเมื่อวีดแนะนำซาฮับอย่างเรียบๆว่า
"บุคคลผู้นี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้อาวุโสในด้านการแกะสลัก,
แต่บัดนี้เขาได้เป็นผู้หนึ่งที่ได้เข้าถึงขั้นสุดท้ายของศิลปะการใช้ดาบ"
ปรมาจารย์ดาบ!
นี่เป็นความลับในความลับทั้งหลาย,
แต่วีดรู้ดีถึงความสามารถของพวกดาร์คเกมเมอร์
เมื่อดาร์คเกมเมอร์มาถึงที่นี่,
พวกเขาต้องมีความสนใจและอยากรู้อยากเห็นมากกว่าคนธรรมดา
พวกเขาไม่ต้องใช้เวลานานก็คิดออกว่าซาฮับเป็นปรมาจารย์ดาบ
ทั้งคนเหล่านี้มีชื่อเสียงที่ดี
"บุคคลที่เข้าถึงขั้นสุดท้ายของศิลปะการใช้ดาบ..."
พวกเขาน้ำลายไหลยืดแล้ว
จบตอน
ผู้แปล:
Acid กรด
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ไหลยืดเลยสิซาฮับปรมาจารย์ดาบ
ตอบลบทำเอาคนอ่านอยากเรียนดาบเลย
ตอบลบน้ำลายยืด55555
ตอบลบพี่วิด มีสาวๆมาตามหา สองคนแล้วนะ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบมาเจอเทพที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งที แต่ไม่รู้จะโดนวีดหลอกใช้อะไรอีก
ตอบลบแรงงานมาเป็นฝูง
มองโลกในแง่ร้าย...เหมือนผมเลย ฮ่าๆ
ลบสงสารเจ้าเหลือง ถูกเห็นเป็นของกินตลอด ส่วนโกลมิมน่าจะถูกลักพาตัว 555+
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ