เล่ม 21 ตอนที่
8 การตอบโต้ท่ามกลางสายฝน ลมพายุและเมฆหมอก แปลโดย Cole’s
Myth
บาร์ดเรย์ดึงดาบขึ้นมาจากซากของมอนสเตอร์
ทันทีที่เขากระชากดาบออกมา
ศพของมอนสเตอร์ก็กลายเป็นสีเทาในทันที
“ช่างยาวนานเหลือเกิน
แล้ววันนี้ก็มาถึงซะที”
ฉันออกล่าจนเก็บเลเวลได้
465
แล้ว
นี่ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีแต่ว่ายังมีหนทางที่เร็วยิ่งกว่าที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มเลเวลของพวกเขาได้อย่างง่ายๆ
อย่างเช่นการต้อนมอนสเตอร์ทั้งหมดมาอยู่ที่เดียวกัน แต่ว่าบาร์ดเรย์อยากจะต่อสู้แบบโต้งๆมากกว่า
คนทั่วไปสามารถรู้ได้เพียงแค่เลเวลของเขาเท่านั้น
แต่ไม่อาจติดตามทราบถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้
“ได้เวลาที่จะทำให้กิลด์เฮอร์มีสตาสว่างซะที”
ถึงเวลาแล้ว
ที่จะได้แสดงพลังของกิลด์ที่บาร์ดเรย์ค่อยๆสร้างขึ้นมา
กิลด์เฮอร์มีสกับกิลด์ที่มีชื่อเสียงอีก
93
กิลด์ ได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งกลุ่มสมาพันธมหาอำนาจ(United
Supremacy)และเตรียมพร้อมจุดไฟชนวนแห่งสงคราม
กลุ่มสมาพันธมหาอำนาจใช้ยุทธการวอนแท
(Wondae
Formation) ด้วยการใช้ดาบและเวทย์มนต์ พร้อมมุ่งหน้าไปยังหลายๆกิลด์และหลายๆปราสาทที่กลุ่มสมาพันธมหาอำนาจไม่ได้ครอบครองอยู่
และแน่นอนว่ากลุ่มสมาพันธมหาอำนาจนี้เป็นเพียงแค่สมาคมที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น
วงจรอุบาทว์ของการก่อตั้งกิลด์ที่พยายามสั่งสมอำนาจไปเรื่อยๆ
แถมแต่ละกิลด์ก็ยังมีความทะเยอทะยานของตนอีก การที่จะล้มเลิกกลุ่มสมาพันธ์นี้ลงคงทำให้เกิดความขัดแย้งมากมายขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนจากสงครามที่กำลังจะตามมาในภายภาคหน้า
แต่บาร์ดเรย์เฝ้ารอแล้วรอเล่าให้วันๆนั้นมาถึง
“คนสองคนไม่สามารถปีนไปยังจุดบนสุดและครอบครองอำนาจสูงสุดได้”
(ผู้แปล: เสือสองตัวไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้)
ทวีปเวอร์เซลคือสนามรบอันดุเดือด
ณ ดินแดนทวีปทางตอนกลาง
เพราะว่ากิลด์อันทรงอิทธิพลได้สั่งสมพลังอำนาจและเฝ้ารออย่างอดทนอดกลั้น
พร้อมกับครอบครองสิทธิ์พื้นที่ออกล่าไว้แต่เพียงผู้เดียวซึ่งเต็มไปด้วยไอเท็มและอุปกรณ์มากมายเหลือล้น
หลังจากสงครามในวันนี้
ทุกๆคนจะได้รู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของกิลด์เฮอร์มีสอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ณ
ฐานที่มั่นของอาณาจักรฮาเว่น เมืองเวลส์ตัน
เหล่าผู้เล่นทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลกำลังจับตาดูการต่อสู้แบบสดๆตามเวลาจริงระหว่างวีดกับกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นที่อยู่ในเขตลาส
ฟาลังคซ์
“สุดยอดไปเลย!”
“เกมส์แมวไล่จับหนูบนธารน้ำนั่นไม่ใช่เล่นๆเลย
ขอเบียร์เพิ่มอีก ทางนี้ด้วย”
กลุ่มโจรสลัดบางกลุ่มได้ทำสัญญากับผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ด้วยการส่งวิดีโอมาก่อนแล้ว
เพราะว่ามีเครือข่ายแบบโทรทัศน์
วิดีโอจึงสามารถเห็นได้ทั่วทั้งร้านอาหารหรือว่าผับจากภายในเกมส์
สถานี KMC media ก็ไม่ได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เพราะมีการออกอากาศการต่อสู้จากมุมมองภาพของวีด
เหล่าผู้ประกาศข่าวก็กำลังรายงานข่าวการเผชิญหน้าของเขากับกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและกลุ่มพันธมิตรโจรสลัด
พร้อมกับถ่ายทอดภาพออกมาจนทำให้ผู้ประกาศข่าวสถานีอื่นไม่อาจทัดเทียมได้
ภาพจากสถานี
KMC
media ที่ได้มาจากมุมภาพของวีด ได้เพิ่มยอดผู้ชมขึ้นอย่างล้นหลามเมื่อเทียบกับสถานีอื่นแล้ว
เพราะว่ามีเพียงมุมภาพนั่นที่ทำให้คุณเพลิดเพลินกับความระทึกใจของการถูกไล่ตามได้
และแน่นอนขณะที่ออกอากาศภาพวิดีโออันยาวยืดนั่น
ความแตกต่างด้านเวลาในโรยัลโร้ดกับโลกจริงก็ได้ก่อให้เกิดช่องว่างของเวลาขึ้น
แต่ว่าส่วนนั้นได้ถูกแก้ไขด้วยการเอาโฆษณาเข้ามาแทรกกลางไว้
ในปัจจุบัน
ผู้รายงานข่าวเกี่ยวกับเกมส์นั้นได้รับผลลัพธ์ที่ลึกซึ้ง(เงินที่ได้)บนการเติบโตจากยอดขายของบริษัทเกมส์ตามองค์ประกอบพื้นฐานที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
(ได้เงินจากยอดขายเกมส์)
เพื่อที่จะทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อกับโรยัลโร้ด
ข่าวของทวีปเวอร์เซลได้ถูกเรียบเรียงและฉายออกไปพร้อมๆกับการเปิดเพลงคลอไปด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศ
เหล่าปาร์ตี้ออกล่าที่ไม่ได้ออกไปทำภารกิจกำลังรับชมวีดีทัศน์ขณะที่ดื่มด่ำเบียร์และลิ้มรสชาติของเนื้อไปพร้อมกันด้วย
ถนนหนทางภายในเมืองโล่งเตียนไปหมด
เมื่อใดที่การต่อสู้ของวีดออกอากาศ
ร้านเหล้าทั้งหลายก็จะคับคั่งราวกับมีการถ่ายทอดสดการแข่งฟุตบอลคู่ใหญ่
“อ้า! นมสตรอเบอรรี่นี่รสชาติสุดยอดเป็นบ้าเลย”
“ค่อยๆดื่มละกัน มันแก้วละ 30
เหรียญทองแดงเลยนะ”
พวกมือใหม่กับนักเรียนที่ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ถูกจำกัดให้เฉพาะเครื่องดื่มที่เป็นนมหรือว่าน้ำผลไม้เท่านั้น
บรรยากาศอึกทึกครึกโครมก่อตัวขึ้นในตอนที่การถ่ายทอดของวีดแสดงออกมาพร้อมกับบรรดาแขกก็เริ่มเข้าไปในบาร์แล้วเช่นกัน
“วีดหนีไปได้อย่างปลอดภัยหรอ?
เกือบแล้วเชียว นั่นน่ากลัวสุดๆไปเลย”
“ตอนนี้การไล่ล่ายังดำเนินต่อไป
ถ้าหากว่าเขาไม่ออกไปให้ไกลกว่านั้น พวกเขาก็คงตามเขาทันในอีกไม่ช้านี้แน่ๆ”
เรือรบของกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นจมลงไปเพราะเชิงผาที่พังทลายลงมา
กองทัพเรือติดกับดักจากก้อนน้ำแข็งและจมดิ่งลงไป
แถมมันยังทำลายตัวเรือกับใบเรือให้เสียหายอีกด้วยจนทำให้สภาพเรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินเรือต่อไปได้
ถึงเป็นอย่างนั้นก็ตาม
ดรินเฟลด์ก็ยังคงไล่ตามวีดไปติดๆโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามสลัดพวกเขาออกไปและตีระยะออกห่างได้ไกลมากพอควรด้วยการใช้ประโยชน์จากเชิงผาถล่มลงมา
แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงอยู่ในระยะการยิงของพวกอาณาจักรฮาเว่นอยู่ดี มันถือว่าเป็นการไล่ล่าแบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มขึ้นมา
เม็ดฝนเม็ดใหญ่เริ่มโปรยปรายลงมาลงสู่ธารน้ำไร้เยือกจนทำให้เกิดเมฆหมอกหนาทึบ
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าทำไมฝนถึงเริ่มตกลงมาบนท้องทะเลปุบปับเช่นนี้ได้
แต่ความจริงแล้วคือ วีดได้ใช้ทักษะแกะสลักเมฆาเพื่อที่จะใช้เรียกฝนมาเพื่อช่วยให้พวกเขาหนีไปได้
“ถ้าฝนตกลงมาแบบนี้
ก็จะทำให้พวกมันได้เปรียบในการหลบหนีรึเปล่านะ?”
“ข้าไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนั้นครับ
จะมีอะไรเกิดขึ้นในทิศทางเดียวกับตรงที่ฝนตกหรือเปล่านะ?”
“เพราะคลื่นที่สูงขึ้น ข้าว่ามันก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเรือแล้วละ
ธรรมดาแล้วเรือใบนั้นก็ถือว่าเหมาะ ส่วนพวกโจรสลัดที่อยู่บนเรือแจวก็คงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเสียเปรียบเช่นกัน”
“แต่พลังทำลายปืนใหญ่ก็คงด้อยลงไปเลยนะ
แล้วพวกมันคงใช้ข้อได้เปรียบจากกลยุทธ์ทางระเบิดไม่ได้แน่ๆ อย่างพวกลูกปืนไฟนั่น
แถมระยะการมองเห็นก็คงลดต่ำลงไปด้วย”
เมื่อฝนเม็ดหนาโปรยปรายลงมา
บรรดาทหารเรือที่อยู่บนเรือใบขนาดกลางและขนาดใหญ่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบทันที
เป็นเพราะว่ามีหมอกที่ก่อตัวขึ้นมาจากธารน้ำไร้เยือก
ฉากของกองเรือที่แล่นผ่านไปจึงดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
และแล้วแรงระเบิดก็ได้ทำลายฉากอันน่ากลัวนั้นไป
พวกเขาต้องหนีให้พ้นออกโดยเร็ว หรือไม่งั้นพวกเขาก็คงโดนจับและการต่อสู้อันยิ่งใหญ่นั้นก็คงจะเริ่มต้นขึ้นทันที
ผู้ประกาศข่าวได้เตรียมรายงานถึงสงครามน่านน้ำที่เกิดขึ้นภายในเขตลาส
ฟาลังคซ์ ทันใดนั้นเองการรายงานข่าวของสถานี KMC media ก็แทรกขึ้นมาด้วยข่าวด่วน
ชินเฮมินรายงานข่าวออกไปด้วยความรวดเร็ว
“ดิฉันอยู่ที่นี่พร้อมกับข่าวด่วน
เหตุการณ์ปัจจุบันภายในทวีปเวอร์เซลที่มีการโจมตีต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นบนตอนกลางของทวีปค่ะ”
(ข่าวของบาร์ดเรย์)
เหล่าผู้เล่นที่กำลังกินอาหารและดื่มภายในผับไม่ได้รู้สึกสนใจข่าวด่วนนั่นเลย
สงครามที่อยู่ในทวีปเวอร์เซลนั้นแทบจะมีผู้ชนะทนโท่แล้ว
บ่อยครั้งดินแดนของมอนสเตอร์ที่ตกอยู่ในการโจมตีทำลายล้างก็เกิดการเปลี่ยน ผลสรุปของการต่อสู้ครั้งนั้น
ทำให้ดินแดนแห่งนั้นกลายเป็นดินแดนของมนุษย์ไปโดยปริยาย
จะมีก็แต่ที่แห่งนี้เท่านั้นแหละ
ที่คุณจะสามารถพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ได้อยู่บ่อยๆ
มักจะมีผู้ติดตามการผจญภัยของวีดมากมายอยู่เสมอ
แต่หลายคนก็พบเจอกับเหตุการณ์ที่อยู่ในทวีปเวอร์เซลที่น่าสนใจยิ่งกว่า
ซึ่งมันอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายด้วยเช่นกัน
“ราชอาณาจักรฮาเว่น
ราชอาณาจักโทรูแพน ราชอาณาจักรมาเซ่น ราชอาณาจักรธอร์ ราชอาณาจักรไอเดล
ราชอาณาจักรบริทเทนกับคัลลามอร์ ซึ่งมีลอร์ดมากกว่า 200 คนเข้าร่วมการต่อสู้ภายในทวีปตอนกลางค่ะ
ท่านผู้ชม”
“อะไรนะ ลอร์ด 200 คนหรอ?”
“การต่อสู้แบบไหนกันที่มีคนเข้ามาเอี่ยวหลายพวกขนาดนี้นะ?”
เหล่าผู้เล่นที่กำลังดื่มอยู่ภายในผับรู้สึกงงงวยเพราะว่ามีผู้เข้าร่วมการการต่อสู้นั้นมากมายเกินไปจริงๆ
ทวีปทางตอนกลางนั้นมีขนาดกว้างขวางอย่างมาก
แถมเมืองส่วนมากก็ถูกปกครองโดยเหล่าผู้เล่นที่ไม่สามารถสู้รบปรบมือได้
ท่ามกลางคนเหล่านั้น
ลอร์ด ผู้ปกครองแต่ละหัวเมืองก็ล้วนเป็นผู้เล่น
“มีการต่อสู้ระหว่างบรรดากิลด์กับพวกลอร์ดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของยุ้งฉางกับเหมืองแร่ที่อยู่ภายในภูเขาค่ะ
คุณโอจูวานคะ นี่จะทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อมากเป็นพิเศษไหมคะ?”
“ใช่แล้วละครับ ณ
ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น แถมมันยังเป็นการประกาศสงครามที่กะทันหันและการต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไปอีกด้วยครับ”
“แล้วนี่เป็นการต่อสู้ระดับไหนกันคะ?”
“มีผู้เข้าร่วมรบมากกว่า 10,000
คนในการบุกโจมตีครั้งนี้”
“ทั้งหมดนั่นล้วนแต่เป็นทหารที่ผ่านการฝึกมาแล้ว
ถูกไหมคะ?”
“ถูกต้องแล้วครับ
เกิดการต่อสู้ภายในดันเจี้ยนที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพื่อชิงเอาสิทธิ์ความเป็นเจ้าของพื้นที่ออกล่าเพื่อผลประโยชน์ด้านทรัพยากร
มีการอัพเดตข่าวเข้ามาอยู่เรื่อยๆ สนามรบกำลังลุกลามขยายออกไปและตามธรรมชาติของการต่อสู้แล้ว
บอกได้เลยว่าจะต้องรุนแรงมากขึ้นกว่านี้แน่ๆ สำหรับผู้ที่ออกเดินทางอยู่ในตอนนี้
โปรดเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยนะครับ”
“ที่จริงแล้ว
การต่อสู้ครั้งนี้จะกลายเป็นการต่อสู้อันเป็นตำนานมากที่สุดบนดินแดนแห่งนี้และก็จะถูกบอกต่อไปในภายภาคหน้า”
เนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้นกะทันหัน
ทวีปทางตอนกลางทั้งทวีป ได้ถูกปกคลุมไปด้วยความโกลาหลในตอนที่มันได้เริ่มขึ้น
***
“โยนของที่ทิ้งได้ออกไป!”
“ทิ้งกระสุนปืนใหญ่ลงไปในธารน้ำก่อนเลย”
บนดาดฟ้าเรือมีขยะ
ปืนใหญ่ และกระสุนปืนใหญ่อยู่มากเกินไปที่พวกไฮนส์ แฟรคตัล
และบอร์ดเมียร์กำลังพยายามทิ้งลงไปในธารน้ำกันอยู่
เพื่อที่จะลดน้ำหนักของเรือแม้ซักนิดเพื่อทำให้ความเร็วของเรือเพิ่มมากขึ้น
“แค่เราสามคนไม่มีทางออกไปต่อสู้ได้หรอก
มีเพียงอย่างเดียวที่เราทำได้ก็คือหนีไปในทันที!”
เหล่าประติมากรรมสลักชีพเองก็เข้ามาช่วยกันทิ้งปืนใหญ่ลงไปในธารน้ำ
กองทัพเรือของราชอาณาจักรฮาเว่นและโจรสลัดอยู่ทางขวาของท้ายเรือพวกเขา
หนทางเพื่อที่จะหลบหนีไปสู่ท้องทะเลยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ส่วนวีดก็สร้างก้อนเมฆอย่างต่อเนื่องขณะที่สังเกตการณ์กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและเรือโจรสลัดไปด้วย
ในขณะที่โบยบินอยู่กลางอากาศ
เจ้าฟีนิกซ์กับยักษ์เพลิงก็ถูกไล่ตามมาโดยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนกลายไปเป็นไอน้ำ
ฟีนิกซ์ที่แสนแข็งแกร่งไม่อาจทนต่อแรงยั่วยุภายในใจได้
แล้วก็บินสูงขึ้นไป จนหายตัวเข้าไปในกลีบเมฆ
“ปริมาณฝนมันมากมายมหาศาลจริงๆเลย”
สายลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรงและทำให้ใบเรือพองขึ้น
ถึงแม้ว่าวีดจะสร้างก้อนเมฆเอาไว้มาก
แต่เขาก็ไม่อาจคาดการณ์ถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศแย่ๆที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ได้
แต่เดิมแล้วเขตลาส
ฟาลังคซ์ เป็นดินแดนที่มีความแปรปรวนของสภาพอากาศอันโหดร้ายเกิดขึ้นอยู่เสมอ
สายลมร้อนระอุและสายลมอันเย็นสะท้านผสานรวมกันทำให้เกิดสายลมกรรโชกอย่างรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่ากลับมันไปไม่ได้เลยที่จะมีฟ้าร้องและพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
วีดสอบถามไฮน์ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
“ช่างเหมาะจริงๆที่จะหลบหนีตอนที่ฝนกำลังตกครับ?”
ไฮนส์ตอบคำถามไปขณะที่มองดูหนทางของธารน้ำไร้เยือกในตอนที่หมุนพังงาไปมาอย่างลนลานเพราะว่าระดับความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขานั้นต่ำมาก
“การหลบหนีคงจะยากมากขึ้นในไม่กี่นาทีนี้เพราะสภาพอากาศที่โหดร้ายนี้แน่ๆ
ความแม่นยำของปืนใหญ่ของพวกมันก็จะลดลงนิดหน่อยเพราะแรงคลื่น
แล้วก็สามารถหลบหนีหายไปจากสายตาได้ด้วยหมอก แต่ว่าทางที่เราจะผ่านไปคือตรงธารน้ำนั่น
แถมยังไม่มีที่ให้ซ่อนอีก เราก็คงได้แต่มอบข้อได้เปรียบให้พวกมันซะเปล่า”
มากมายหลายปีที่ผ่านมา
ที่พวกเขาได้ทำสิ่งร้ายๆและเพิ่มพูนค่าชื่อเสียงเสียทำให้เขาถูกขับไล่ไสส่งออกมา
สามสหายรวมถึงไฮน์นั้นมีประสบการณ์การล่องเรือผ่านสภาพอากาศที่เลวร้ายมาค่อนข้างมาก
แต่ละคนในสามสหายนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า
“พวกเราต้องหาวิธีออกจากเขตธารน้ำแข็งนี้หรือไม่งั้นเราอาจจะถูกจับได้ในที่สุด”
“ถึงแม้ว่าเราหลบหลีกและหลบหนีอยู่ในเขตลาส
ฟาลังคซ์ได้ ในสงครามน่านน้ำ กองเรือของดรินเฟลด์ได้รับฉายาว่าเป็นอาร์มาด้า(Armada) กองเรือที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตไปได้ในตอนที่พวกเขาออกไล่ล่าบนท้องทะเล”
(ผู้แปล: อาร์มาด้า: ตั้งชื่อแบบกองเรือที่แข็งแกร่งที่สุดของสเปนในรัชสมัยของพระเจ้าเฟลิเปที่
2)
“แต่กลุ่มโจรสลัดที่ไล่ตามเรามาก็เป็นฝันร้ายเหมือนกันนะ
มันคงจะสาหัสมากที่จะหลบหนีพวกนั้นไปได้อย่างปลอดภัยบนท้องทะเลแห่งนี้”
เห็นทีฉันควรจะต้องระดมเอาพวกทาสออกมาพายเรือซะแล้ว
ถึงแม้ว่าคลื่นจะอ่อน มันถือว่าเสียเปรียบอยู่ดีในการเดินทางเป็นเต่าคลานแบบนี้
ในการต่อสู้แบบระยะประชิด
พวกโจรสลัดคงจะทำให้พวกเขาหลบหนีได้ยากขึ้นไปอีก
-มาเตรียมทางหนีออกเอาไว้กันเถอะ
-ดูนี่
ฉันพึ่งได้แผ่นกระดานไม้มาด้วยละ
-เส้นเชือกก็เตรียมเอาไว้แล้ว
พวกเราต้องผูกตัวกับแผ่นกระดานเอาไว้ให้แน่นๆนะ
สามสหายได้เตรียมตัวที่จะทิ้งตัวเองจากบนเรือลงสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ในกรณีที่เรือเกิดจมลงไป
พวกเขาพร้อมที่จะลอยละล่องซัดเซไปขณะที่โอบรัดกระดานไม้ไปด้วย
แม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น
พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะล่องลอยข้ามคลื่นลูกแล้วลูกเล่าไปสองถึงสามวัน
พวกเขาก็คงมีความสุขมากๆแล้ว
เรือใบขนาดกลางแล่นอยู่ท่ามกลางสายฝนอันรุนแรง
เนื่องจากระดับน้ำในธารน้ำเพิ่มขึ้น
เรือจึงเริ่มโคลงเคลงจนน่าหวั่นขณะที่เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
หมอกหนาทึบบนท้องทะเลทำให้ยากที่จะระบุสิ่งที่เข้ามาใกล้ทางด้านหน้าได้
พวกเขาหลบหลีกหินโสโครกได้อย่างฉิวเฉียด
ขณะที่ล่องผ่านมันไปภายใต้สภาพฝนตกหนักและลมกรรโชกรุนแรง
ในช่วงที่พวกเขาแล่นเข้าไปสู่ทะเล
เมฆฝนเบาบางลงและหมอกก็จางลงไป ทัศนะวิสัยเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตริ้ง!
-ท่านได้พบเจอกับความโชคร้ายที่ต้องเผชิญหน้ากับเรือผีสิงเร่ร่อน
บนเรือมีพวกหนูเดินว่อนเต็มไปหมด
มีโอกาสสูงที่เรือจะนำโรคติดต่อร้ายแรงมาด้วย
โอกาสที่จะถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตทะเลขนาดใหญ่
เพิ่มสูงขึ้น
กำลังใจของลูกเรือตกลงจนถึงระดับต่ำสุด
ในขณะที่กำลังใจยังคงอยู่ในสถานะต่ำสุด
มีแนวโน้มจะทำให้เหล่าลูกเรือเสียสติและทำให้โอกาสเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
มีกองทัพเรือผีสิงปรากฏขึ้นอยู่มากมายมหาศาลสุดลูกหูลูกตา
ถึงแม้ว่าบรรดาเรือผีสิงจะเก่าแก่มาก แต่ขนาดของเรือแต่ละลำนั้นใหญ่โตมโหฬารสุดๆ
นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังคงโดนไล่ตามจากด้านหลังอีกด้วย
วีดสร้างเรือผีสิงขึ้นมาจากเมฆฝน
แต่ถึงแม้อย่างงั้นเขาก็ยังแล่นเรือต่อไปเรือ
หลังจากที่เรือผีสิงปรากฏขึ้น จากนั้นกระแสลมก็รุนแรงมากขึ้น
บนท้องทะเลถือว่าสำคัญอย่างมากที่ต้องใส่ใจถึงสภาพอากาศอยู่เสมอและทำให้มันมีประโยชน์เหมาะสมกับการล่องเรือ
“อึ๊ก”
สามสหายรู้สึกตกใจในตอนที่วีดชูแขนทั้งสองข้างขึ้นมา
ที่ถูกเขียนไว้อยู่บนคัมภีร์ของบัลข่านคือทักษะอัญเชิญอันเดดชั้นสูง
ในที่สุดก็ถึงเวลาใช้มันแล้ว
“เหล่าดวงวิญญาณแห่งความชั่วร้ายที่หลับใหล
ณ ที่แห่งนี้ โปรดรับเครื่องบูชานี้ไปและคืนชีพจากส่วนลึกภายใต้ผืนมหาสมุทรสีครามแห่งนี้
ข้าขออัญเชิญเรือผีสิงมาเรีย”
เรือใบขนาดกลางที่วีดกำลังนั่งอยู่เริ่มเก่าลงไปอย่างรวดเร็ว
เสากระโดงเรือ
ดาดฟ้าเรือ และสิ่งของชิ้นอื่นๆที่ทำมาจากไม้เริ่มบิดเบี้ยวและมีน้ำหนักมากขึ้น
ใบเรือหมองๆขาดๆที่เต็มไปด้วยรูมากมาย
ถูกคลี่ออกและโบกสะบัดดั่งผืนธง
จากส่วนล่างของตัวเรือมีตะไคร่น้ำกับราเกาะลามเต็มไปหมดและกลายไปเป็นเรือผีสิงที่สมบูรณ์ในที่สุด!
“คิคิคิ กัปตัน
ไม่ได้เจอกันนานนะครับ! ท่านดูเจ๋งกว่าครั้งที่แล้วที่ข้าเจอนะครับ
ท่านดูสง่าผ่าเผยจริงๆ”
สหายผีดิบตัวแรกของเรือผีสิงปรากฏตัวขึ้นและจากนั้นผีดิบมากมายจำนวนมหาศาลเริ่มฟื้นคืนชีพในฐานะลูกเรือของเรือลำนี้
ในขณะที่วีดอัญเชิญเรือผีสิงมาเรียกลับมา
กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นยังคงล่องเรือตามหลังมาจากในเขตลาส ฟาลังคซ์
ตรงบริเวณปากน้ำของธารน้ำไร้เยือกมีเรือผีสิงลอยอยู่คับคั่งหนาแน่นเต็มไปหมด
จากนั้นวีดก็ใช้ทักษะราชสีห์คำรามระดับสูงเลเวล
7
“เตรียมตัวต่อสู้!”
-ทักษะ:
ท่านได้ใช้ทักษะราชสีห์คำราม
ขวัญกำลังใจของพวกพ้องทั้งหมดที่มีผลอยู่ในระยะของทักษะราชสีห์คำรามเพิ่มขึ้น
200%
ค่าสถานะความงุนงงใดๆที่มีอยู่จะถูกชำระออกไป
ค่าความเป็นผู้นำที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ
285%
จะถูกใช้เป็นเวลาห้านาที
***
“อีกไกลแค่ไหนกว่าเราจะไปถึงที่นั่นกันนะ?”
“เราคงจะไปถึงบริเวณธารน้ำไร้เยือกในตอนเช้าๆนะ
ผมคิดว่าพวกเราคงจะไปถึงที่นั่นภายในหนึ่งวัน”
เพลและคนอื่นๆกำลังล่องเรือตรงไปยังเขตลาส
ฟาลังคซ์
ถึงแม้ว่าจะเป็นการล่องเรือด้วยระยะทางที่ยาวไกล
เซเฟอร์ก็ได้ตุนเสบียงปลาสดๆด้วยการตกปลา ในตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการหลงทางถ้าหากว่าพวกเขาแล่นตามบรรดาเรือผีสิงไป
สายฝนเริ่มตกลงรุนแรงมากขึ้นในขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปทางเขตลาส
ฟาลังคซ์
เบลลอตกำลังรองน้ำฝนเอาไว้ในอุ้งมือของเธอ
เมแพนพยักหน้าไปมาด้วยความขึงขัง
“ฝนตกบนท้องทะเลนี่โรแมนติกมากจริงๆ”
เมแพนมองผ่านลูกแก้วเวทย์มนต์และเฝ้าดูการหลบหนีของวีดจากพวกทหารเรือของดรินเฟลด์
พวกเขาหวังว่าเรือของพวกเขาจะไปถึงที่นั่นเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ค่อยๆเคลื่อนที่ไปทีละหน่อยขณะที่มองทางด้านหน้าของพวกแกไปด้วย”
“ระวังอย่าขับเรือไปทางแนวหินโสโครกด้วยละ”
ทันใดนั้นเองที่ระดับน้ำของธารน้ำไร้เยือกเพิ่มขึ้นปุบปับ
มันยากมากที่จะหลบโขดหินขนาดใหญ่ที่โพล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาได้แม้จะเป็นวันที่มีท้องฟ้าแจ่มใสจนคุณสามารถเห็นพวกมันได้ง่ายๆ
กองทัพเรือของดรินเฟลด์นั้นยังคงปรับตัวท่ามกลางหินโสโครกแบบนี้ไม่ได้
สามฉลามโฉดแห่งคาบสมุทรเบคกี้นินพยายามล่องผ่านไปด้วยเรือเพียงลำเดียว
จึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากกว่า
แต่ยังไงก็ตามเรือหลายๆลำที่พยายามล่องผ่านแนวโขดหินโสโครกนั่นไป
ก็ต้องเข้าไปพันจนยุ่งเหยิงทำให้ยากที่จะล่องผ่านไปได้
ส่วนพวกหินโสโครกที่จมอยู่ใต้น้ำ
ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อหลบไม่ให้เข้าไปติด
“ไอ้พวกไม่เอาไหนเอ้ย
นี่มันทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้วนะ”
เรือใบขนาดกลางของวีดนั้นแล่นช้ามาก
ดังนั้นพวกเขาจึงยังไปได้ไม่ไกลมากนัก นั่นจึงทำให้ดรินเฟลด์เร่งรัดลูกเรือของเขารุนแรงอย่างไร้เหตุผล
“เมื่อไรที่เราไปถึงทะเลเปิดแล้วละก็
เราคงสามารถจับพวกมันได้ง่ายๆด้วยการแล่นแบบเต็มที่ครับ”
รองพลเรือเอกพยายามแนะนำพลเรือเอกดรินเฟลด์
แต่ว่าเขากลับไม่ได้ยินซักนิด
เขากินอยู่อย่างมีความสุขขณะที่ปั่นหัวเราตอนที่อยู่ในเขตลาส
ฟาลังคซ์นั่น
เรือหลายลำจมลงสู่ธารน้ำไร้เยือกลำแล้วลำเล่า
พวกเขารู้สึกร้อนรนใจเป็นอย่างมากว่า
วีดจะล่องเรือไปไกลจนออกทะเลไปได้ในขณะที่พวกเขายังคงถูกห่อหุ้มไว้ด้วยมวลหมอกเหล่านี้
“ส่งกองกำลังเรือออกไปข้างหน้าเรื่อยๆ
บอกพวกเขาให้ไล่ตามวีดด้วยกำลังทั้งหมด”
“รับทราบครับ!”
ภายใต้คำสั่งของดรินเฟลด์พวกเขาได้เตรียมเรือรบเพื่อต่อสู้แบบตัวต่อตัวในระยะประชิดเอาไว้แล้วเพราะว่าการบรรจุกระสุนปืนใหญ่นั้นไม่รวดเร็วมากพอตอนที่อยู่บนธารน้ำ
เพื่อช่วยย่นระยะทางระหว่างพวกเขากับวีดลง
พวกเขาจึงเคลื่อนกำลังเรือรบกำปั่นฟลัทนำหน้าเรือธงที่มีขนาดพอๆกันแต่มีความเร็วสูงกว่าออกไป
(Flagship:
คือเรือธงที่มีพลเรือเอกอยู่) (Fluyt: ออกเสียงตามภาษาดัตช์
เป็นเรือเร็วที่มีเนื้อที่ในเรือมาก มีความเร็วสูง สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17
ของชาวดัตซ์ ส่วนใหญ่ใช้เป็นเรือขนสินค้า)
เรือฟลัท 13 ลำของกองทัพเรือดรินเฟลด์ได้รับภารกิจพิเศษแล้ว
ก่อนหน้านี้
พวกเขาล่องตามเรือธงอยู่ครึ่งทาง แต่บัดเดี๋ยวนี้พวกเขาได้กางใบเรือเต็มที่แล้ว
“คำบัญชาการของพลเรือเอกได้สั่งการออกมาแล้ว!
แล่นเรือด้วยความเร็วเต็มที่!”
เหล่ากัปตันของเรือเร็วพวกนั้นตะโกนร้องออกมาด้วยเสียงดังสนั่นเพื่อรายงานผล
ใบเรือโอบรับสายลมเข้ามาและกางออกอย่างเต็มที่
บรรดาเรือฟลัทเร่งความเร็วล่องข้ามบนธารน้ำไร้เยือกด้วยความเร็วอันน่าหวาดหวั่น
พวกเขาใช้ทักษะการล่องเรืออันยอดเยี่ยมเพื่อเพิ่มความเร็วของพวกเขาในตอนที่ต้องข้ามแนวหินโสโครกไป
และอีกครู่หนึ่งก็มีการรายงานจากกองเรือเหล่านั้นเข้ามา
-ท่ามกลางมวลหมอก
เราสามารถเห็นเรือที่พวกเรากำลังไล่ตามจากตำแหน่งปัจจุบันของพวกเราครับ
ล่องลงมาตามกระแสน้ำเลยครับ
ในขณะที่พวกเขาไม่ได้อยู่ไกลมากจากวีด
ดรินเฟลด์จึงเร่งความเร็วอย่างรีบร้อน
กองกำลังหลักเคลื่อนตัวมาอย่างเงียบๆในขณะที่พวกเขายังสามารถติดตามไปได้อย่างง่ายดายในระยะห่างเพียงเท่านี้
ในสงครามน่านน้ำถ้าหากว่าคุณมีเรือที่เร็วมากกว่ากองเรือของดรินเฟลด์
คุณก็จะสามารถอยู่นอกระยะของปืนใหญ่ได้
ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย
แต่ว่าเรือของวีดนั้นไม่ใช่เรือเร็วแบบนั้น
-ดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้าไปอยู่ในระยะของปืนใหญ่เร็วๆนี้แน่
ถึงแม้ว่าจะไม่มีปืนใหญ่มากมายที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนเรือเร็วพวกนั้น
แต่เพื่อใช้โจมตีเรือของวีดนั้น พวกเขาถือว่ามีมากพอแล้ว
แต่ว่าดรินเฟลด์ไม่ได้อยากส่งตัววีดให้กับคนอื่น
-ยิงเลย
แต่ว่าอย่าจมเรือมันนะ สร้างความเสียหายให้มันในจุดที่มันไม่สามารถหนีไปได้อีก
-รับทราบครับ
พลเรือเอก
ในที่สุด บรรดาเรือกำปั่นฟลัททั้งหลายก็เดินหน้าไปจนถึงบริเวณที่หมอกเบาบาง
และพวกเขาก็ถึงกับสะดุ้งตกใจในตอนที่พวกเขาเข้าสู่บริเวณที่ทัศนะวิสัยกระจ่างชัดเจนและพบกับเรือใบขนาดกลางลำนั้น
มันเหมือนกับเรือขนาดกลางที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แต่ว่าเก่าลงไปถึง
100
ปี
ธงของราชอาณาจักรฮาเว่นถูกลดต่ำลงและถูกแทนที่ด้วยธงหัวกระโหลกตาเดียว
“มันกลายเป็นเรือผีสิงงั้นหรอ?”
“แถมยังมีเรือมากมายหลายลำเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
ทำไมถึงได้มีเรือมากขึ้นในแถบเขตลาส ฟาลังคซ์ปุบปับขนาดนี้ละ?”
“นั่นมันเรือผีสิงทั้งหมดเลยหรอ
เรือผีสิงทุกลำที่ร่ายล้อมทั่วท้องทะเลมารวมตัวอยู่ที่นี่หมดเลยงั้นหรอ เตรียมตัวพร้อมรบ! ”
เรือของวีดล่องอยู่ทางแนวหลังของกองทัพเรือผีสิงจำนวนมาก
เหล่าเรือเร็วพยายามที่จะหยุดและถอนตัวกลับไปหลังจากที่รายงานกลับไปยังกองทัพเรือของดรินเฟลด์แล้ว
แต่ว่าพวกเขาได้ล่องอยู่บนทะเลเปิดไปแล้ว
ทักษะราชสีห์คำรามของวีดดังก้องกังวานไปทั่วท้องทะเลทุกหนทุกแห่ง
“เหล่าเรือผีสิงทั้งหลาย! เตรียมยิงปืนใหญ่!”
“คี๊คีคี ปืนใหญ่…เตรียมพร้อม”
“ว่าอะไรนะ ตอนที่ข้ายังหนุ่มๆข้าหูดีกว่านี้นะ…เจ้าหมายถึงปืนใหญ่ใช่ไหม? แต่ว่ามีบางอย่างอุดตันอยู่ข้างในนะ”
สถานการณ์เดียวกันที่เกิดขึ้นกับเรือผีสิงทุกลำที่ล่องอยู่บนท้องทะเล
กลายมาเป็นภาพที่เผยให้เห็นอยู่ในขณะนี้
ปืนใหญ่หลายกระบอกไม่ได้ถูกใช้งานมาราว
50
ปี ถูกอุดตันเต็มไปด้วยแผงสาหร่ายและตะไคร่น้ำ
เหล่าผีดิบกำลังใช้มีดหินทำความสะอาดช่องปืนใหญ่ที่อุดตันอยู่
สะเก็ดไฟจากมีดหินของพวกมันทำให้ดินปืนของปืนใหญ่ติดไฟขึ้นทันที
“ไฟฟฟฟฟฟ!”
ตู้ม ตู้ม
ตู้ม!
การระเบิดจากกระบอกปืนใหญ่ทำให้ส่วนเล็กๆของตัวเรือถูกทำลาย แต่กระนั้นการซ่อมแซมเรือผีสิงก็เสร็จสิ้นในทันที
“ครั้งนี้จุดไฟถูกวิธีอยู่ใช่ไหม?”
จากนั้นก็มีเจ้าอันเดดโครงกระดูกตนหนึ่งแหย่หัวเข้าไปในปากกระบอกปืนขณะที่ได้ถูกจุดชนวนไปแล้ว
แกร๊ก ตู้ม! ปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกไปดีดกระบอกถอยกลับ แล้วหัวของเจ้าโครงกระดูกก็หายไปในขณะที่มันโดนเป่าด้วยปืนใหญ่นั่น
“สำเร็จแล้ว เรายิงออกไปได้แล้ว
ยังไงก็เถอะ มีใครเห็นหัวฉันไหม?”
เจ้าโครงกระดูกเดินออกไปรอบๆดาดฟ้าเรือเพื่อตามหาหัวของมันด้วยส่วนตัวที่เหลือแค่คอของมันเท่านั้น
“ไม่มีลูกกระสุนเหลือแล้ว
เมื่อวานข้ารู้สึกหิวๆ ข้าได้กินมันไปรึเปล่านะ? บางทีเจ้าอาจจะทำหายตอนที่เจ้าเล่นกับมันก็ได้มั้ง?”
“เพราะเรือของพวกเราเป็นเรือสินค้า
ดังนั้นธรรมดาอยู่แล้วที่เราจะไม่มีกระสุนปืนใหญ่เลยนะ”
“งั้นเรามายิงด้วยปลาแห้งแทนละกัน”
บรรดาเรือสินค้ากับเรือขนส่งผู้โดยสารก็ได้กลายไปเป็นเรือผีสิงทั้งหมดแล้ว
และก็เป็นธรรมดาที่แต่ละลำที่ไม่จำเป็นต้องมีลูกปืนใหญ่
แต่อย่างไรก็ตาม
ก็ยังมีกระสุนปืนใหญ่ที่ลอยละล่องอยู่บนท้องทะเลที่หลุดมาจากเรือลำอื่นก็สามารถเอามาใช้ได้
“ข้าจะเข้าไปเอง คี๊คีคี
ข้าจะไปเอง!”
พวกผีดิบดำเนินการรบด้วยตัวพวกมันเองโดยหย่อนตัวเข้าไปในกระบอกปืนและใช้ผงดินปืนเพื่อจุดชนวน
ถึงแม้ขั้นตอนจะยุ่งยากไปหน่อย
แต่ว่ามันค่อนข้างจะเป็นเรื่องปกติของเรือผีสิงไปแล้ว
กระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกไปจากเรือผีสิงอย่างพร้อมเพียงกัน
ตรงไปที่เหล่าเรือเร็วที่มุ่งหน้าไปหาเรือของวีด
แต่เนื่องจากความแม่นยำต่ำ
กระสุนปืนที่ยิงไปยังบรรดาเรือเร็วก็ตกลงไปในน้ำ
และทำให้เกิดระลอกคลื่นซัดกระเซ็นขึ้นสูง
แถมกระสุนก็ปะทะชนกันไปมาอยู่บนอากาศและระเบิดออกราวกับดอกไม้ไฟ
“แปรขบวนตั้งรับการโจมตี!”
“มันมีเยอะเกินไป
พวกเราไม่อาจหลบหลีกได้เลย! เตรียมตอบโต้ ยิงงงงงง!”
เหล่ากัปตันของเรือเร็วแปรขบวนในรูปแบบฟันปลาและพยายามที่จะเตรียมยิงปืนใหญ่ออกไป
แต่ทว่าเรือผีสิงยิงออกไปแบบมั่วๆและไม่มัวกังวลว่าจะเล็งยิงไปยังไงเลย
กระสุนปืนใหญ่หล่นลงสู่ทะเล
แต่บางลูกก็ระเบิดออกมาตูมตามภายในเรือเร็วทั้งหลาย
ลูกกระสุนหล่นลงใส่ดาดฟ้าเรือและทำให้เกิดประกายแสงสว่างวาบจากการระเบิดภายในตัวเรือ! ตัวเรือหลายส่วนแตกออกและติดไฟ
“ไฟไหม้!”
บรรดาเรือเร็วยังยิงตอบโต้กลับไปแม้ว่าจะโดนโจมตีใส่
แต่ว่าเรือหลายลำก็เริ่มโคลงไปโคลงมาและสั่นสะเทือนทุกๆครั้งที่มีการระเบิดขึ้น
“คุฮี๊ฮีฮี่
พวกมนุษย์ละ”
เหล่าผีดิบปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือกำปั่นฟลัทมากขึ้นเรื่อยๆ
และความโกลาหลก็ได้ละเลงอย่างไปต่อเนื่อง
จากนั้นหนวดลื่นๆหยุบหยับสิบหนวดก็ปรากฏออกมาแล้วคว้าตัวพวกลูกเรือที่อยู่บนดาดฟ้าเรือไป
ที่เกาะหนึบติดกับตัวเรือก็คือส่วนหัวละหม้ายคล้ายคลึงกับคราเค่น! กัปตันของเรือเร็วจึงเร่งเปิดห้องสนทนาของกิลด์เฮอร์มีสอย่างเร่งด่วน
สติงเกอร์: พวกเรากำลังโดนโจมตีโดยกองเรือผีสิง เรากำลังโดนกำจัดลำแล้วลำเล่าครับ
จากนั้นรองผู้บัญชาการกองเรือที่สองแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นก็ถามขึ้นว่า
พาเชล: ที่นั่นมีเรือผีสิงอยู่กี่ลำ?
กองทัพเรือของราชอาณาจักฮาเว่นที่อยู่ในลาส
ฟาลังคซ์แบ่งปันหน้าต่างสนทนากับกิลด์เฮอร์มีส
และก็กำลังรับฟังอยู่ภายในหน้าต่างสนทนาแบบเปิดด้วยเช่นกัน
สติงเกอร์: สถานการณ์ตอนนี้….ยาวนะครับ ไม่มีเวลามาอธิบาย
นี่อาจจะเป็นบนสนทนาครั้งสุดท้ายก่อนจะจมลงไป วีดอัญเชิญเรือผีสิงออกมาหลายลำ
แถมเรือที่เรากำลังไล่ตามอยู่นั้นก็กลายไปเป็นเรือผีสิงด้วยเช่นกัน
พวกเรากำลังโดนโจมตีครับ เรือเร็วของพวกเรากำลังโดนกวาดล้าง! นี่คือการเรียกฉุกเฉิน
พาเชล: นี่มันเร่งด่วนแค่ไหน…เข้าใจละ
ฉันจะไปให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้
กองเรือเร็วจมลงและกลายเป็นเหยื่อของคราเค่น
ส่วนฝั่งดรินเฟลด์ก็นำกองกำลังหลักออกจากธารน้ำไร้เยือก
การได้เห็นเหล่าเรือรบโดนโจมตีโดยกองเรือผีสิงและคราเค่น พวกเขาจึงไม่อาจซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ได้
“ฮึ่มมม
พวกเขาพึ่งออกไปได้มีกี่นาทีเองนะ เรื่องก็เกิดเรื่องขึ้นซะแล้ว”
เจ้าคราเค่นยังเกาะหนึบอยู่ที่ตัวเรือของเรือเร็ว
ดูท่าว่าพวกเขานั้นไม่มีทางเลือกอีกต่อไป คงได้แต่ยอมแพ้
เหล่าผีดิบหลั่งไหลออกมา
ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือแล้ว และเข้าสู่การโจมตีแบบตัวต่อตัว
เปลวไฟแผดเผาบนเรือที่กำลังจมลง
มันสายเกินไปแล้วที่จะช่วยมันคืนมาได้
“การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายสาหัสเอาการ”
พวกเขาพึ่งจะออกมาจากบริเวณธารน้ำแล้วก็ต้องพบกับฉากที่ยุ่งยากที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้
สำหรับเหล่าผู้เล่นที่เฝ้ารับชมภาพอยู่ ก็ได้เห็นสิ่งที่กองเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและดรินเฟลด์ได้เห็นเช่นกัน
กองเรือผีสิงกระจายตัวออกจากกันและประจำตำแหน่งบนท้องทะเลแล้วยิงปืนใหญ่ออกมา
ภายใต้สถานการณ์ในเช่นนี้
ถ้าหากพวกเขาออกไปเป็นแนวหน้าก็คงได้กลายเป็นอาหารสัตว์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม
ด้วยประสบการณ์อันมากมายของดรินเฟลด์จากสงครามน่านน้ำ เขาจะเป็นคนนำพวกเขาไปสู่ชัยชนะ! แม้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่ว่ายังไงซะเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว
“ระดับความแม่นปืนใหญ่ของเรือผีสิงนั้นห่วยที่สุดละ
เรือรบหุ้มเกราะที่เป็นกำลังเสริมประจำอยู่ที่แนวหน้า อย่าหลบหนีหรือว่าทำลายแนวหน้าไป
กองเรือรบหน่วยแรกและหน่วยที่สามมุ่งตรงไปตามทางธารน้ำพร้อมกับแบ่งออกไปทางซ้ายและทางขวา
โจมตีจากทางด้านนอกระยะของเรือผีสิงนั่น”
พวกเขาตัดสินใจที่จะรับความเสียหายและทนการโจมตีของกองเรือผีสิงกับพวกมอนสเตอร์ทะเล
มันถือว่าเป็นภารกิจเสี่ยงที่จะฉีกกระชากทำลายเรือผีสิงพวกนั้นด้วยการใช้ดินปืนที่มีอยู่มากมาย
คาดว่าเขาจะสามารถชดใช้ความล้มเหลวของเขาคืนได้
และถ้าหากว่าการต่อสู้ครั้งนี้นำไปสู่ชัยชนะทางน่านน้ำอันยิ่งใหญ่สำหรับดรินเฟลด์
เขาก็จะได้รับค่าชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีก
มีกรณีมากมายของเรือผีสิงที่โดนโจมตีอยู่บ่อยๆ
หากว่าคุณเทียบมันกับการต่อสู้ภายในดันเจี้ยนบนพื้นดิน
ก็จะได้รับค่าชื่อเสียงและของลูทจากชัยชนะที่ถือว่าเทียบไม่ได้เลย เพราะโดยปกติแล้วเรือผีสิงหลายๆลำจะบรรจุไว้ด้วยวัตถุโบราณและสมบัติล้ำค่ามากมาย
จบตอน
ผู้แปล:Cole’s
Myth
Editor:
แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
เร็วทันใจ ขอบคุณมากครับ
ตอบลบเริ่มล่ะๆ รอให้ซัดกันนัวกว่านี้ น่าจะมัน
ตอบลบขอบบคุณมากครับสนุกฝุดๆไปเลย
ตอบลบนึกว่าวันพีช
ตอบลบฝากชุบเรือโมบีดิก กับหนวกขาว+เอส ด้วยนะครับ
ลบขอบคุณค่ะ ถ้าทำเป็นหนังคงมันส์หยด
ตอบลบขอบคุณทีมแปลครับ
ตอบลบสุดยอด กำลังมันส์ ขอบคุณมากคะ
ตอบลบยังกะไพเรทออฟเดอะแคริเบียน
ตอบลบWar ship
ตอบลบWow...มองการณ์ไกล
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้อออ