เล่ม 21 ตอนที่ 4: การจุติของเทวทูตทั้งเจ็ด
แปลโดย koichii
"อีกไม่กี่วัน เราก็จะสามารถระบุตำแหน่งของเขาได้แล้ว"
"อีกไม่กี่วัน ก็จะเกิน 3 สัปดาห์แล้วนะ"
"พวกเราลดขอบเขตการค้นหาเป็นที่เรียบร้อย
คราวนี้มั่นใจได้เลยว่าจะต้องหามันเจอแน่นอน"
ทีมค้นหาของดรินเฟลด์
ประกอบไปด้วยโจรและมือสังหารเลเวลสูง, พวกเขาจมอยู่กับความสิ้นหวัง
พยายามที่จะเรียกคืนความเชื่อมั่น การไล่ตามหลังวีดและพยายามหาร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้
มันต้องใช้ความอดทนมากๆ
ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นในลาสฟาลั้งค์
มือสังหารและโจรจากกำลังเสริม ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า
เป็นผู้เล่นที่มีทักษะเหนือกว่า
พวกเขาเปลี่ยนวิธีการค้นหา,มือสังหาร 8 คนและโจรอีก 4 คน แต่ละคนแยกย้ายกันไปค้นหาตามพื้นที่ต่างๆและรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ที่ได้มา บันทึกลงไปในแผนที่เพื่อใช้ร่วมกัน
ผลลัพธ์ที่ได้, ข้อมูลจำนวนมากในดันเจี้ยนใต้ดินของลาสฟาลั้งค์ ได้มาเกือบ 23%
ของแผนที่ทั้งหมดซึ่งถูกค้นพบแล้ว 23% นี้จะดูถูกไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาสามารถแยกทางเดินและพื้นที่ดันเจี้ยนได้แน่นอนแล้วว่าวีดไม่ได้ไป
นี่เอง
จึงทำให้พวกเขาได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวีดในแง่ของความเข้าใจในสถานที่และแนวโน้มของทิศทาง,พวกเขาเริ่มใกล้เข้าไปทุกที
"สี่วัน
แม้ว่าเราจะคลาดเคลื่อนไปบ้างก็ตาม มันก็คงไม่เกิน 6 วัน เมื่อเทียบกับเวลาข้างนอก"
มีการพูดคุยกันมากมายจากมือสังหารและโจรที่เชื่อว่านี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา
นับตั้งแต่ที่พวกเขาลดขอบเขตการค้นหาว่าวีดอยู่ตรงไหน
กองกำลังรบของกิลด์เฮอร์มีส และพวกโจรสลัดของกริฟฟิท
กำลังออกล่ามอสเตอร์ในดันเจี้ยนใต้ดินใกล้ ๆ กัน, พวกเขาพร้อมที่จะเคลื่อนพลได้ทุกเมื่อ
ซอยูน
รับรู้ได้ถึงทีมค้นที่กำลังไล่ล่าพวกเขา,รวมทั้งพวกโจรและมือสังหาร
ยกเว้น KMC มีเดีย,
สถานีออกอากาศของบริษัทต่างๆ ใช้วิดีโอจากกองทหารบางส่วนเพื่อดูรอบ ๆ ในลาสฟาลั้งค์
ผ่านกิลด์เฮอร์มีส
บนอินเทอร์เน็ต
พวกเขาต่างก็รอคอยที่จะได้เห็นการประลองครั้งที่ 2 ระหว่าง วีด และ กิลด์เฮอร์มิส ในช่วงที่มีการออกอากาศ ดรินเฟลด์ ไม่ได้พยายามที่จะปกปิดความจริงที่ว่าพวกเขากำลังไล่ล่าวีด
เขายังปิดกั้นบริเวณพื้นที่ทั้งหมดรอบๆลาสฟาลั้งค์โดยใช้กองเรือเฮอร์มีส และกองเรือโจรสลัดของ กริฟฟิท
ไม่ว่าวีดจะหลบซ่อนเข้าไปลึกแค่ไหน
มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น จนกว่าพวกเขาจะพบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความกระหายที่อยากจะเอาชนะผ่านการต่อสู้
ไม่มีการอ่อนข้อให้เด็ดขาด
การล่าสุนัขจิ้งจอกหรือกระต่าย
มีวิธีการตามล่าอยู่ 2
แบบ แบบที่ใช้ ในการล่าสุนัขจิ้งจอกพวกเขาจะใช้หมาสายพันธุ์ล่าเนื้อเพื่อติดตามด้วยกลิ่น
สำหรับการล่ากระต่ายพวกเขาใช้หมาสายพันธุ์เกรย์ฮาวด์ ด้วยสายตาอันเฉียบแหลมและความเร็ว
การล่าสัตว์ด้วยประสาทสัมผัสการมองเห็นหรือตามกลิ่น
"ดูท่าทางเราจะเจอเส้นทางพวกนี้ซะส่วนใหญ่
พวกมันน่าจะจงใจให้พวกเราตามรอยเส้นทางพวกนี้ไป"
ซอยูน ผู้ที่วีดขอให้เฝ้าทางเข้าเหมืองฮีเลียม
เธอย้ายตำแหน่งที่ตั้ง ไปยังสถานที่ใหม่
ร่องรอยที่
ซอยูน ทิ้งไว้ ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้พวกมือสังหารและโจรไขว้เขว แต่ทักษะของพวกเขายังสามารถจับเส้นทางที่ถูกต้องได้โดยสังเกตว่าตอนนี้มันเป็นเพียงเส้นทางเดียว
‘ฉันต้องลดจำนวนศัตรู’
ซอยูน
มีงานต้องทำ
ถ้ามันเป็นแค่พวกอัศวิน
เธอก็จะพาพวกนั้นไปยังรังของมอนสเตอร์ แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับพวกโจรหรือ มือสังหาร
ซอยูน จงใจใช้เส้นทางเดียวเพื่อหลอกล่อพวกมันให้ไปหาเธอ
"เธอไปทางนั้น"
"ฉันเจอนี่
... รอยเท้ายังใหม่อยู่เลย ...เร็วเข้า"
ด้วยการพบเจอเส้นทางใหม่
ทำให้ทีมค้นหาเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น มือสังหารและอัศวินถูกเรียกไปสบทบให้กับทีมต่างๆเพื่อช่วยคุ้มกันพวกเขา
... แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
"ฉันขอโทษ."
ซอยูน
ชักดาบของเธอออกมาและรอพวกเขา
"ศัตรูอยู่นั่น!"
เมื่อไม่ได้ใส่ชุดเกราะหนักๆ
ทำให้พวกมือสังหารเร่งความเร็ว รุดไปข้างหน้า แซงสมาชิกคนอื่น ๆในทีม
วิ่งเข้าไปในส่วนใหม่ของดันเจี้ยน พวกเขาเห็นบางอย่างกำลังยืนอยู่ในเงามืด โดยไม่มีการลังเลใดๆ
พวกเขาได้ขว้างมีดสั้นเข้าใส่ทันที
โช้ะ!
โช๊ะ! ชึ้ก!
มีดสั้นที่โยนไปเมื่อกี้นี้
ตัดผ่านเข้าไปในความมืดมิด!
มือสังหารทั้ง 3 ไม่คาดคิดว่าอาวุธบินจะถูกปัดป้องเอาไว้ได้
อาวุธลอบสังหารเหล่านี้เคลือบด้วยพิษอัมพาตรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะรับมือกับอาวุธพวกนี้ได้
ซอยูน
วิ่งไปข้างหน้าเต็มกำลัง แล้วปัดมีดสั้นพ้นจากตัวเธอ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ
เบอร์เซิร์กเกอร์ คือพวกเขาจะมีความต้านทานสูงต่อการถูกโจมตีติดคริติคัล(การโจมตีที่แรงกว่าการโจมตีแบบธรรมดา)
แม้จะถูกโจมตี พวกเขาก็จะไม่ตกอยู่ในสถานะสับสน
เมื่อพลังชีวิตของ
เบอร์เซิร์กเกอร์ ลดลง พลังโจมตีของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น และมีพลังมากขึ้นในขณะที่การใช้มานาก็จะลดลง
การเข้าสู่โหมดเบอร์เซิร์ก(โหมดนักรบครลั่ง) ยังช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการติดพิษอีกด้วย
ซอยูน
เพียงแค่เหวี่ยงดาบของเธอเป็นวงกว้างและนั่นทำให้เป็นอันตรายถึงตายได้
“เควี้ยงงงง!”
โดนดันกลับหลังอย่างรวดเร็ว
มือสังหารยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีระยะไกลได้ พวกเขารวดเร็ว แต่ไม่พอที่จะหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีจากซอยูนที่อยู่ด้านหน้า
"แกกล้าดียังไง!"
"พวกเราจัดการมันซะ"
อัศวินกองเรือมาถึงและรีบดึงดาบของพวกเขาออกมา, ซอยูน หันหน้าไปทางอื่นโดยไม่สังเกตเห็นพวกเขา
ซอยูน
ยังคงกวัดแกว่งดาบของเธอ ต่อสู้กับพวกมือสังหารที่อยู่ต่อหน้าเธอ เธอโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายความต้านทานของศัตรูและลดการป้องกันของพวกเขา
"นี่มัน
... ?"
"อะไร
... กันวะ ... !"
"ทำไมกัน
ข้าถึงต้องมาพบจุดจบกับการต่อสู้อย่างนี้ ... "
พวกเขาเหล่านี้คือ
ผู้ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี อัศวินกองเรือระดับสูงของกิลด์เฮอร์มีส
ก่อนที่
มือสังหาร จะได้เปรียบจากคุณลักษณะของพวกเขา(ความได้เปรียบทางอาชีพ)
การโจมตีที่รุนแรงกระแทกผ่านอวัยวะที่สำคัญของพวกเขา จากการโจมตีระยะไกลอีกรอบ ทำให้พวกเขาถูกจัดการและตายในทันที
กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการโจมตีของเธอ
ซอยูน แทบไม่ได้สนใจเหล่าทหารที่มาใหม่เกือบ 10 วินาที
พวกอัศวินรีบแกว่งดาบวิ่งเข้าไปโจมตีซอยูนกันเป็นกลุ่ม
ในขณะที่พวกอัศวินโจมตี ซอยูน ชุดเกราะของเธอสามารถดูดซับพลังโจมตีเอาไว้ได้
แต่พลังชีวิตของเธอก็ค่อยๆเริ่มลดลง
ยิ่งการต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกนานเท่าไร
พลังชีวิตที่ลดลงจะยิ่งอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะกับเบอร์เซิร์กเกอร์
แต่กระนั้น
ซอยูน ก็ไม่สนใจความปลอดภัยในการล่า
เธอตายไปแล้วตั้งหลายครั้งในขณะที่กำลังออกล่าในช่วงแรก
ๆ ของการเล่นรอยัลโร้ด เหตุผลหนึ่งที่คลาสของเธอหายากคือความจริงที่ว่าคุณไม่สามารถเข้าไปสู่คลาส
เบอร์เซิร์กเกอร์ ได้ เว้นแต่คุณจะยอมตาย ... หลายครั้ง
การโจมตีสวกลับของ
ซอยูน ทรงพลังมากจนถึงขนาดที่ว่าสามารถสังหารพวกอัศวินกองทัพเรือได้สองคน อัศวินที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้าย
ได้เริ่มพูดคำสาปแช่งหลังจากเห็นสหายของเขาล้มลง
"แกยัยผู้หญิงโง่โสมม......
"
หลังจากที่ถูกเรียกชื่อน่ารังเกียจทุกอย่างที่เป็นไปได้
ซอยูนก็เงยหน้าขึ้นมองเขา ในอดีต วีดได้มอบหน้ากากให้ เธอไม่ได้สวมใส่มันเป็นเวลานานมาก
"พระเจ้า!"
ตราบเท่าที่วีดมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้
แม้แต่เหล่าคนดังที่มีชื่อเสียงทางทีวี ต่อให้เขาไม่เคยเจอคนพวกนั้นแบบเห็นหน้า
แต่ก็ยังได้ไม่ถึงครึ่ง เมื่อเทียบกับความงดงามของซอยูน
เธอสวยมาก
ไม่มีอะไรเทียบได้
มันดูเหมือนความสุขที่แสนบริสุทธิ์
เพียงแค่แบ่งปันอากาศร่วมกันและอยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันกับความงามดังกล่าว!
เมื่อ
ซอยูน ทำการโจมตีครั้งสุดท้าย อัศวินกองทัพเรือ คิดว่าเขาคงตายอย่างมีความสุข
‘ทำไมเขาถึงยืนนิ่งอยู่ในขณะที่เขาตาย?’
ซอยูน
ไม่เข้าใจ เธอคงจะไม่สามารถเสียเวลาคิดมันได้ เธอจำเป็นต้องย้ายไปที่อื่นอีกรอบ
"ฉันขอโทษ
"
มือสังหาร
คนอื่นยังคงไล่ตามเธออยู่ พวกเขาล่าช้าไปเพียงไม่กี่นาที
ซอยูน
ยังมีงานต้องทำอีก
*****
แคล้ง!
แคล้ง! แคล้ง! แคล้ง! แคล้ง! แคล้ง!
วีดค่อยๆได้ค่าประสบการณ์ทักษะมากขึ้นเรื่อยๆและมั่นคงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ด้วยการมช้พลั่วมิธริลผสมเหล็กอันหนักอึ้ง
ทุกๆการขุด
พลั่วของเขาจะค้นพบวัสดุมากขึ้นและขุดเป็นรูได้ลึกมากขึ้นด้วยการแกว่งเหนือศีรษะในแต่ละครั้ง
ทักษะของเขาก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้เขาสามารถขุดเหมืองที่อยู่ด้านข้างได้มากกว่าเดิม
เพื่อถนอมพละกำลัง
เขาถอดชุดเกราะและปลดดาบ แล้วสวมใส่เสื้อผ้าที่เบาและเรียบง่าย
การทำเหมืองแร่ไม่ใช่งานที่น่ารื่นรมย์ และเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาเหล่านี้ก็ถูกทับทมให้มีน้ำหนักด้วยสิ่งสกปรกและโคลนสีดำ
'เราค่อยเปลี่ยนทีหลังละกัน'
ทุกๆการขุด
กล้ามเนื้อของเขาจะพองขึ้นด้วยความตึงเครียดราวกับว่าพวกมันจะระเบิดตอนไหนก็ได้ ทุกๆเคล็ดลับทุกๆความคิดและทักษะที่พร้อมใช้งาน
ได้ถูกนำมาใช้ในการพยายามหาฮีเลียม ทั้งหมด
เขาอัญเชิญแม้แต่
ปราชญ์แห่งผืนพิภพ เพื่อให้มาช่วยงาน
แต่ขณะที่เขาทำการค้นหาผ่านชั้นหิน
ผลที่ได้ก็คือ ปราชญ์แห่งผืนพิภพ ได้แต่แสดงสีหน้างุนงงบ่งบอกเป็นนัยๆถึงความล้มเหลวของเขา
เขาพยายามกระพริบตาอย่างน่ารักไปให้วีด
"แกนี่มัน
ไร้ประโยชน์จริงๆ"
ฮีเลียมถูกฝังลึกเกินไปหรือได้รับการคุ้มครองด้วยเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์
พลังการปิดกั้นในสถานที่แห่งนี้ แม้แต่จิตวิญญาณแห่งดินก็มิอาจค้นหามันพบ
ในท้ายที่สุด
วีดมีความคืบหน้ามากที่สุดจากการทำงานอย่างหนักด้วยร่างกายของเขา
ติ๊ง!
==================================
ทักษะของคุณถึงขั้นต้นเลเวล
10 แล้ว
มันจะเปลี่ยนเป็นทักษะการทำเหมืองแร่ขั้นกลาง
01 [0%]
คุณจะสามารถขุดได้โดยไม่ทำให้แร่ธาตุเกิดความเสียหาย
คุณจะสามารถมองเห็นและรู้สึกได้ถึงคุณสมบัติพิเศษของแร่ธาตุ
+2
แต้มเพิ่มเติมให้กับทุกค่าสถานะ
เนื่องจากอาชีพของคุณไม่ใช่ของคนงานเหมืองแร่
พลังชีวิตสูงสุดของคุณจะเพิ่มขึ้น 300 และอัตราการฟื้นพลังชีวิตเพิ่มขึ้น
อย่างถาวร เป็นจำนวน 0.4%
ชื่อเสียงของคุณเพิ่มขึ้น
30
ค่าสถานะความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
5
==================================
"ในที่สุด
เราก็ถึงทักษะการทำเหมืองแร่ขั้นกลางซะที"
มันเป็นผลมาจากการทำงานหนักของเขา
การทำเหมืองขั้นตั้นค่อยๆพัฒนาอย่างเงียบๆจนก้าวสู่ขั้นกลาง มันยากที่จะห้ามไม่ให้น้ำลายไหลออกมาอย่างเงียบๆ
ต่อหน้าแร่อันมากมายที่ถูกฝังอยู่ภายในเหมือง
โอ้วววววววว
==================================
ท้องของคุณยังคงว่างเปล่าไปทางจนถึงด้านหลัง
คุณสามารถรู้สึกถึงผลกระทบจากความอดอยากอย่างรุนแรง
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของคุณลดลงกว่า
25%
ความแข็งแกร่งปกติของคุณจะได้รับการฟื้นฟูจนถึงแค่
65% เท่านั้น
ในระหว่างการสู้รบโดยการกลายเป็นคนโหดร้าย
อ๊อค สามารถใช้พลังรุนแรงในกรณีฉุกเฉินได้ชั่วคราว
คำเตือน:
เมื่อการต่อสู้อันโหดร้ายสิ้นสุดลง หลังจากนั้น คุณจะได้รับความหิวกระหาย
==================================
วีดบดขยี้ขนมปังข้าวบาร์เลย์ในน้ำและดื่มมัน
เนื่องจากธรรมชาติของ อ๊อค หิวโหยอยู่ตลอดเวลา เขาจำเป็นต้องกินอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเยียวยาความหิวโหยได้แล้ว
ทำให้เขาสามารถมุ่งความสนใจไปที่การทำงานได้อย่างต่อเนื่องกับพลั่วของเขา
เจ้าเหลือง
ค่อย ๆ เคี้ยวเอื้องอย่างช้าๆ ขณะที่ยังคงไถดินเพื่อหาแร่
ขณะที่วีดและเจ้าเหลืองทำเหมืองด้วยกัน
พวกเขาพูดคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว
"เจ้าเหลือง
แกไม่ดีใจหน่อยเหรอ ที่ได้แบ่งปันงานนี้กับฉันน่ะ?"
เจ้าเหลือง
คิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาซะเลยที่มาแบ่งปันอะไรแบบนี้กับเจ้านาย
“คราวหน้า เมื่อไรที่พวกเรามีการผจญภัยอื่น
ๆอีกละก็ ฉันมั่นใจได้เลยว่าแกจะได้มีส่วนร่วมกับมันอย่างแน่นอน”
“มอออออออออออออออออออ”!
“แกดูมีความสุขมากเลยนะ
ฉันก็มีความสุขเหมือนกัน!”
ความเร็วที่เจ้าเหลืองสามารถลากคันไถได้ช่างมหาศาลยิ่งนัก
ทักษะการไถนาของเจ้าเหลือง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นกลาง ดังนั้นถ้าเขาต้องการทำฟาร์ม
เจ้าเหลืองจะมีประโยชน์มาก! แน่นอนว่าการทำเหมืองแร่ยังคงเป็นงานที่สกปรกและไม่น่าสนใจเอาซะเลยจนคุณต้องจ่ายเงินเพื่อหลีกเลี่ยง
เจ้าเหลือง มีบางอย่างเล็กๆน้อยๆที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
"ว่าแต่
...เจ้านาย ... เจ้านายแน่ใจหรือว่ามันต้องใช้เวลาในการหาฮีเลียมนานขนาดนี้เลยเหรอ?"
ทุกครั้งที่วีดพัฒนาทักษะของเขา
คุณภาพของวัสดุที่เขาได้จากการทำเหมือง ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เขาได้รับแร่ธาตุและอัญมณีมากมายและบางครั้งก็ยังขุดพบกระดูกมอนสเตอร์ขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะค้นหาอีกนานเท่าไหร่ ก็ไม่เจอแม้แต่ร่องรอยของฮีเลียมเลยสักนิดเดียว
“ไม่มีทาง! อย่าบอกนะว่า ไม่มีฮีเลียมอยู่ที่นี่น่ะ?
"
มันจะดีกว่าถ้าหลีกเลี่ยงความคิดแบบนี้
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ถ้าคุณคิดเรื่องนี้จากมุมหนึ่ง
เรื่องราวบางส่วนเกี่ยวกับประติมากรแห่งทวีปเวอร์เซลล์ที่มุ่งมั่นมาที่นี่แม้จะต้องพบกับความยากลำบากในการหาฮีเลียม
แถมยังไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับความทรงจำของประติมากรรม จากใครสักคนที่ค้นพบฮีเลียม!
ในความเป็นจริง
การหาฮีเลียมไม่คำร้องขอปรากฏขึ้นมา,แล้วก็ไม่มีข้อมูลก่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกด้วย
หลังจากเดินทางมาถึง ลาสฟาลั้งค์ เขาได้พบหอมรดกของประติมากร ขณะที่ตรวจสอบประติมากรรมที่นั่น
เขาได้พบความจำบางส่วนซึ่งเริ่มมีลูกบอลกลิ้งเข้าไปอยู่ในการสำรวจเหมืองแร่ที่ขนาดลึกนี้
เพื่อหาฮีเลียม
"ความทรงจำของประติมากรรมชิ้นนั้น
แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่แข็งแกร่งมากเกี่ยวกับฮีเลียม ว่ามันอยู่ที่ไหน"
หลังจาก
5
ชั่วโมง วีด ยืดตัว
ร่างกายของ
อ๊อค มีอัตราการฟื้นตัวที่ดี ทักษะการทำเหมืองระดับกลางแสดงให้เห็นถึงผลกำไรที่ดี
พลั่วก็มีประสิทธิภาพเช่นกัน ถึงแม้จะได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่เขาก็จำเป็นต้องหยุดพักจากการทำงานบ้าง
ปวดเมื่อยตามร่างกายและอ่อนเพลีย
สำหรับ อ๊อค ที่ทำงานเกินขอบเขตความสามารถและขีดจำกัดของร่างกาย
เมื่อเห็นวีดกำลังหยุดการทำงานของเขา
เจ้าเหลืองแอบมองเขาก่อนที่จะฟุบตัวลงบนพื้นเพื่อพักเบรก
ถูกบังคับต่อเจตจำนงของตัวเอง เจ้าเหลืองได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
"นี่เราต้องขุดเหมืองทั้งปีเลยรึไงเนี่ย?"
ถ้าคำตอบคือการขุดไม่มีที่สิ้นสุด
เขามีเวลามากมายที่จะทำเช่นนั้น
ระหว่างช่วงนี้
เจ้าเหลืองกำลังจ้องมองที่ผนังด้านหลัง วีดมองตาม เจ้าเหลืองไปที่ส่วนของผนัง
ในขณะที่คุณทำงานใกล้ชิดกับผืนดินในระหว่างการทำเหมืองแร่
โดยธรรมชาติแล้ว คุณจะคุ้นเคยมากกับคุณภาพของมัน มีความแตกต่างที่ลึกซึ้งระหว่างชนิดของชั้นหินและดินที่คุณเรียนรู้เพื่อระบุและจัดหมวดหมู่
วีดสามารถมองเห็นส่วนหนึ่งของกำแพงที่ไม่เป็นธรรมชาติ
ดูเหมือนว่ามีการจงใจทำให้มันเป็นอย่างนั้น
"ฉันคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้"
วีดแตะที่กำแพงเบา
ๆ ด้วยมือของเขา ความรู้สึกจากกำแพงสดชื่นเช่นเดียวกับการได้รับพรจากว่าที่สังฆราช
อัลเวรอน ด้วยทักษะการทำเหมืองขั้นกลาง เพียงแค่สัมผัสส่วนของชั้นหิน มันสามารถบอกคุณได้ว่ามีแร่ธาตุอยู่ตรงไหน
"นี่ไม่ใช่แค่กำแพงหนาๆ
มีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่"
วีดเลือกวิธีที่รวดเร็วเพื่อตรวจสอบกำแพงหิน
เขากระแทกพลั่วผ่านเข้าไปในชั้นหิน
*แคร้ง ชึ้บ!*
นอกเหนือจากกำแพงหินและดินเหนียวที่พังทลาย
มีห้องลับปรากฏ ภายในมีพื้นที่ว่าง ตรงนั้นมีประติมากรรมตั้งตระหง่าน
"ไม่นึกว่าจะมีประติมากรรมซ่อนอยู่ในสถานที่แบบนี้"
วีดผลักเศษหินไว้ด้านข้างและเดินเข้าไปข้างใน
เดินตรงไปที่ประติมากรรม ตั้งตระหง่านอยู่ในห้องลับเป็นรูปปั้นเทวทูตทั้งเจ็ดกำลังจุติ
ปีกและรูปร่างของพวกเขาช่างสง่างามราวกับว่าพวกเขากำลังสัมผัสลงบนพื้นโลก
==================================
คุณได้ชื่นชม
'การจุติของเทวทูตทั้งเจ็ด'
ผลงานชิ้นโบแดงจากสุดยอดปรมาจารย์ประติมากรแห่งทวีปเวอร์เซอลล์! (Magnum Opus กับ Master คืออันเดียวกัน)
สร้างจาก
มิธริล บริสุทธิ์ มันแสดงให้เห็นถึงขอบเขตของคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของโลหะ
เทวทูตเหล่านี้ถูกแกะสลัก
พร้อมกับช่วงเวลาการจุติลงบนพื้นโลก ด้วยรายละเอียดและความงดงามอันแสนมหัศจรรย์
คุณได้ค้นพบสมบัติลับแห่งทวีปเวอร์เซลล์ ผลงานชิ้นนี้ถูกกำหนดโชคชะตา
ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งชื่อเสียงอันโด่งดัง
มันยังเป็นของขวัญสำหรับมวลมนุษยชาติและทุกเผ่าพันธุ์บนผืนทวีปแห่งนี้
อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต, มานา, และพลังกายเพิ่มขึ้น 40%
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น
45
ศรัทธาเพิ่มขึ้นอย่างถาวรจำนวน
15
การก้าวเท้าของคุณมีน้ำหนักเบาขึ้น(ก้าวเดินดุจดั่งขนนก)
ลดความเสียหายจากมนต์ดำ
ลดน้ำหนักชุดเกราะได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง
เพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพและเพิ่มความน่าจะเป็นในการได้รับไอเทม
ความสว่างไสวของประติมากรรม
ช่วยลดความชั่วร้ายของมอนสเตอร์ ทำให้พวกมันไม่สามารถเข้าใกล้ได้
-
พรแห่งเทวทูต ได้รับแล้ว
อาการผิดปกติที่มีผลต่อค่าสถานะทั้งหมดของคุณได้รับการยกเลิก
ลักษณะเฉพาะของเผ่าพันธุ์ได้รับผลพิเศษเพิ่มขึ้นสองเท่า
แม้ว่าพลังกายและพลังชีวิตจะลดลง
แต่คุณสามารถต่อสู้ได้ในสภาวะที่ดีที่สุดระหว่างการสู้รบ
พลังศักดิ์สิทธิ์จะยับยั้งการโจมตีพิเศษจากมอนสเตอร์ที่สังกัดมนต์ดำ
==================================
ความแข็งแกร่งทั่วทั้งร่างกายของวีดและค่าสถานะต่างๆฟื้นคืนกลับมาเต็มที่เหมือนเดิม
เนื่องด้วยระดับของผลเอฟเฟ็คจากรูปปั้นทำให้เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังทางกล้ามเนื้ออันน่าทึ่ง!
"นี่ต้องเป็นผลงานของ
ปรมาจารย์ประติมากร เดย์แครม"
การได้ชื่นชมเทวทูตศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดองค์จุติลงมาบนพื้นโลกเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาก
ยิ่งกว่านั้นรายละเอียดต่างๆเปล่งแสงระยิบระยับออกมาราวกับคริสตัล
มันเกือบจะเหมือนออร่าสีเงินล้อมรอบพวกเขาขณะที่พวกเขายืนอยู่ในเหมืองใต้ดินอันมืดมิด
เหล่าวีรบุรุษผู้เหนื่อยล้าจากการต่อสู้อันยาวนานเพื่อปกปักรักษาทวีปแห่งนี้ จะสามารถฟื้นพลังของพวกเขาจากการชุมนุมที่ด้านหน้าของเทวทูตเหล่านี้
แม้ว่ามันจะเป็นประโยชน์มากกว่าหากถูกนำไปใช้ในพระราชวังหรือวิหาร
"มันน่าทึ่งมากที่เขาทำสิ่งนี้โดยใช้
มิธริล"
ทั้งหมดทั้งมวลของประติมากรรมชิ้นนี้เกิดขึ้นจากมิธริลอันบริสุทธิ์
ชิ้นส่วนของ มิธริล เพียงชิ้นเดียวก็นับได้ว่าหายากมาก คุณยังสามารถนำมันมาหลอมละลายเข้าด้วยกันกับโลหะของคุณ
แล้วผสมมันเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างไอเทม
ตอนนี้ประติมากรรมที่หลอมขึ้นมาจากมิธริลบริสุทธิ์ ได้มาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว!
วีดคิดว่าการซื้อไม้จากร้านแกะสลักเป็นของเสียเงิน
ดังนั้นเขาจึงตัดไม้เป็นของตัวเอง แน่นอนสำหรับหิน มันถูกขุดขึ้นมาจากบริเวณใกล้เคียงและถูกนำมาใช้
เขาได้แต่อิจฉาในทักษะระดับสูงของปรมาจารย์เดย์แครม เขาทั้งหลอมและสร้างประติมากรรมชิ้นนี้
จากวัสดุที่เขาขุดขึ้นมา จากการทำเหมืองแร่ด้วยตัวของเขาเอง
การที่สามารถสร้างเทวทูตเหล่านี้โดยใช้
มิธริล หมายความว่าเขามีทักษะ ช่างตีเหล็ก ที่ยอดเยี่ยม คล้ายกันแต่น่าจะมากกว่าระดับปัจจุบันของวีด
"ชายผู้ร่ำรวย
ปรมาจารย์ประติมากร เขาต้องมีทักษะในการตีเหล็กขั้นกลางมากแน่ๆอาจจะถึงขั้นสูงเลยด้วยซ้ำ!"
สิ่งที่น่าประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
คือ ความจริงที่ว่ามีปรมาจารย์ประติมากรไม่เกิน 5
คนจากทั่วทั้งทวีป! วีดรู้สึกยินดี เขายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้อาวุโสและตอนนี้เขาแล้วรู้ว่าจะหาดูที่ไหน
"ตรวจสอบ!"
=================================
การจุติของเทวทูตทั้งเจ็ด
ผลงานชิ้นเอกจากงานประติมากรรม
ปรมาจารย์เดย์แครม!
โลกยังไม่ทราบถึงการมีอยู่ของผลงานอันงดงามชิ้นนี้
หากประติมากรรมเพียบพร้อมซึ่งความงามดังกล่าว
มีผลเอฟเฟ็คที่น่าอัศจรรย์จนกลายเป็นที่รู้จัก มันจะส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้ไปทั่วทุกสารทิศ
มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบโดยการหลอมมิธริลไร้ซึ่งมลทิน
ยังไม่มีวิธีการที่สามารถหลอม มิธริล ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบได้เช่นนี้
ความแวววาวและความแข็งแกร่งอันโดดเด่นของ
มิธริล ถูกเปิดเผยในรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด
ซ่อนอยู่ในดันเจี้ยนใต้ดินแห่งลาสฟาลั้งค์
มันถูกค้นพบโดยประติมากรวีด
คุณค่าทางศิลปะ:
57,900
ผลงานของประติมากรที่มีทักษะราวกับพระเจ้า:
คุณสมบัติ:
ในระหว่างวัน
อัตราการฟื้นพลังชีวิต มานา และพลังกาย เพิ่มขึ้น 40%
ค่าสานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น
45
ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น
ความต้านทานเวทย์มนต์ต่างๆเพิ่มขึ้น
25%
ความต้านทานมนต์ดำเพิ่มขึ้นชั่วคราว
80%
ความเสียหายจากมนต์ดำ
จะลดลงเมื่อคุณถูกโจมตี
เพิ่มพลังต่อต้านความกลัว
เมื่ออยู่ใกล้ประติมากรรม
ผลงานทางศาสนาที่มีคุณค่าสูง:
ทักษะของอัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวชเพิ่มขึ้นอย่างถาวรถึง 3%
อาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่น
ขึ้นอยู่กับวิชาชีพ
ค่าสถานะความศรัทธาจะเพิ่มขึ้นอย่างถาวรจากขั้นต่ำ 15 ถึง 40
โชคเพิ่มขึ้น
+ 50
อัตราการดรอปไอเทมเพิ่มขึ้นและเพิ่มโอกาสในการได้รับไอเทมหายาก
เนื่องจากความทนทานสูง
จึงไม่สามารถถูกทำลายได้
การประทานพรของเทวทูต
=========================================
=========================================
-
การชื่นชมผลงานศิลปะได้เพิ่มค่าสถานะทางศิลปะ 87
ค่าสถานะทางศิลปะเกิน
2,000
เมื่อท้าทายการสร้างผลงานศิลปะให้กับเหล่าชนชั้นสูง
จะเพิ่มเอฟเฟ็คเพิ่มเติมบางอย่างและลดโอกาสล้มเหลว
=========================================
=========================================
-เนื่องจากทำการตรวจสอบผลงานศิลปะชั้นสูง ทักษะประติมากรรมของคุณเพิ่มขึ้น 3.5%
=========================================
=========================================
-
สำหรับการค้นพบ การจุติของเทวทูตทั้งเจ็ด ชื่อเสียงของคุณเพิ่มขึ้น 1,450
ถ้าคุณเปิดเผยต่อสาธารณะ
จะเป็นการเพิ่มอิทธิพลของศิลปะในโลก
=========================================
ผลงานของ
เดย์แครม ทำให้ได้รับประโยชน์ต่อค่าสถานะอย่างมหาศาล
ประติมากรรมส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ได้รับทั้งความเสียหายหรือไม่ก็หนักเกินกว่าที่จะเคลื่อนย้ายพวกมัน
ซึ่งไม่คุ้มค่ากับความพยายามเลยสักนิด อย่างไรก็ตามสำหรับ การจุติของเทวทูตทั้งเจ็ด
ผลงานของเดย์แครม ไม่ว่ามันจะยากสักแค่ไหน มันเกินคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มสำหรับความพยายามในการทุ่มเทนำมันกลับไปยังทวีปเวอร์เซลล์
"เราเจอ
แจ๊คพอต!"
วีดย้ายรูปปั้นเทวทูตไปยังรถบรรทุกชั่วคราวที่เขาสร้างขึ้น
จากนั้นเขาสั่งให้เจ้าเหลืองเป็นคนลากมัน เจ้าเหลืองได้แต่หวังว่าภาระของเขาจะไม่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีก
"ประติมากรรมชิ้นอื่นๆ
ที่กระจัดกระจายอยู่นั้น น่าจะขายได้เพียงไม่กี่ทอง ... ไม่, ยังไม่ดีเท่าไหร่, พวกมันน่าจะเอามาหลอมละลายแล้วขายเป็นอาวุธซะ!"
วีดคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการแยกชิ้นส่วนงานศิลปะ
(วีดนายเป็นนักทำลายงานศิลป์แล้วนะ
-v-)
"ตามที่คาด
ไม่ว่าจะสายอาชีพใดก็ตาม ผู้อาวุโสที่เชื่อถือได้แนะนำและผู้น้อยปฏิบัติตาม ปรมาจารย์ประติมากร
เดย์แครม ต้องมีเทคนิคน่าอัศจรรย์บางอย่างถ่ายทอดให้แน่ๆ
"
ที่ผนังด้านหลังของห้องลับ
ตรงที่ประติมากรรมถูกซ่อน มีข้อความที่เป็นลายลักษณ์อักษร
ข้าคือ
เดย์แครม
ข้ามาถึงที่นี่
จุดสิ้นสุดของการเดินทางอันยาวนาน
ข้ามาเพื่อฟื้นฟูงานประติมากรรมในทวีป
ที่นี่
ข้าพบฮีเลียม
"คุณพบมัน
เดย์แครม คุณพบฮีเลียม"
วีดปรารถนาที่จะเป็นคนแรกที่ได้แกะสลักฮีเลียม
การเป็นคนแรก ไม่ใช่แค่การแกะสลัก แต่เป็นคนแรกในเทคนิคใหม่ ๆ ทำให้ผู้เล่นมีชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์
เขาต้องการเป็นคนแรกที่ได้นำเสนอความประหลาดใจให้กับโลก แต่ เขายังคงอยากรู้อยาเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่
เดย์แครม สร้างขึ้นมาจากฮีเลียม วีดได้รับเทคนิคทั้ง 4 จากปรมาจารย์ประติมากร
ประติมากรรมประทานชีพ, ประติมากรรมจำแลง, เคล็ดมีดแกะสลัก, ประติมากรรมรังสรรค์การสร้างธาตุ!
เดย์แครม
เป็นหนึ่งในปรมาจารย์ประติมากรคนสุดท้ายที่เหลืออยู่และเขาต้องการที่จะได้รับทักษะของเขา
จากนั้นเขาก็จะได้รับสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับสายอาชีพการแกะสลักของเขา
วีดยังคงอ่านต่อไป
อย่างไรก็ตาม
ก่อนจะพูดถึงเรื่องราวของฮีเลียม ข้าจะพยายามพูดคุยเกี่ยวกับตัวของข้าสักเล็กน้อย
การได้เป็นปรมาจารย์ประติมากร
ช่วงเวลาของข้าถูกเติมเต็มด้วยความต้องการ ข้าตัวคนเดียวมาที่ลาสฟาลั้งค์แห่งนี้
เพื่อที่จะหลีกหนีความต้องการเหล่านั้นและอยู่คนเดียวกับการทำงานของข้าในดินแดนใหม่นี้
ไม่ว่าข้าจะถูกรบกวนจากอุปสรรคนับร้อยนับพันครั้งและข้าก็จะมุ่งเน้นแต่การพัฒนาทักษะประติมากรรมของข้า
ข้าได้เรียนรู้วิธีการฟังเสียงไม้
หิน และโลหะ เป็นผลให้การใช้พวกมันรู้สึกเหมือนการได้ออกไปสู้รบในสงครามกับบรรดาสหาย
การทำลายธรรมชาติเพื่อสร้างประติมากรรม นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงๆน่ะหรือ?
เวทมนตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในงานประติมากรรมจวบจนทุกวันนี้
ไม่ได้มีอยู่ในอดีตและหลายประติมากรรมถูกสร้างขึ้นโดยปราศจากการทำความเสียหายให้แก่ธรรมชาติ
ผู้เป็นประติมากรในยุคสมัยแห่งโบราณกาลนั้น
ไม่ได้ทำลายธรรมชาติ,
พวกเขาถือว่าธรรมชาติเป็นมิตรสหาย
วีดไม่เคยมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขาเป็นคนโลภและหมกมุ่นอยู่กับการได้รับหินและต้นไม้จากป่าหนาทึบและภูเขาที่มีคุณภาพดีที่สุด
วีดรู้สึกขมขื่นในขณะที่เขายังคงอ่านต่อไป
"ข้ากังวลมากเกี่ยวกับการจัดวางอาหารไว้บนโต๊ะและมีหลังคาคลุมศีรษะของข้า"
การทำลายธรรมชาติเพื่อสร้างงานศิลปะ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะยอมรับได้อย่างเด็ดขาด
วัสดุที่ข้าจะใช้สำหรับประติมากรรม
ไม่สามารถทำขึ้นมาได้โดยการทำลายธรรมชาติของมัน
การใช้กิ่งไม้ที่เน่าเสีย
ถูกกัดกินโดยพวกแมลง วัสดุเหล่านั้น ข้าสามารถเลือกนำมาใช้ได้
การใช้สิ่งต่างๆเช่นกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยหรือดินตามธรรมชาติจากแผ่นดิน
นั่นคือวิธีที่ข้าจะใช้ในการทำงานนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
แน่นอน
ยิ่งวัสดุมีความละเอียดอ่อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้งานของข้าประสบผลสำเร็จยากยิ่งขึ้นไปอีก
ประติมากรรมไม้ผุๆพังๆดูกระจอกและกลีบดอกไม้ก็แห้งเหี่ยวไปในทันที
ข้าไม่ได้พยายามสร้างประติมากรรมอันงดงามโดยการตัดลงไปในก้อนหินหรือหน้าผา
ในเมื่อข้าเผาไม้สำหรับทำอาหาร
ข้าสามารถละลายเหล็กและสร้างผลงานของข้าจากกระบวนการทางธรรมชาติได้
หลังจากฟังผลงานประติมากรรมของข้าจากโลหะ
ข้าพอใจมาก
ข้าทำการหลอมละลายโลหะอีกครั้งเพราะข้าไม่ต้องการทำลายผืนดินด้วยการขุดมัน
ข้าต้องการสร้างความเสียหายให้น้อยที่สุดเท่าที่ข้าจะทำได้ ต่อความงดงามของธรรมชาติ
ข้าไม่ได้รับงานจากเหล่าขุนนางและคนในตระกูลราชวงศ์
ดังนั้นทุกสิ่งที่ข้าเป็นเจ้าของ ได้ถูกขายไปในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
ข้ามีเงินใช้
1 ทองต่อเดือน
ข้าต้องเลิกดื่มและลดอาหารด้วย
ปราศจากความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้าง
ข้าอาจตายจากความอดอยาก
มีข่าวลือเกี่ยวกับ
เดย์แครม ในด้านแปลก ๆ ผลงานของเขาไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายนัก เนื่องจากเขาทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ
มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาข้อมูลรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเขา
"นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา
ปรมาจารย์ประติมากรจกลายมาเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม"
วีดเกือบจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
เดย์แครม
ค่อยๆตกอับสู่ความยากจนและวีดต้องการเบือนหน้าหนีออกไปจากภาพตรงนั้น การได้เห็นเทวทูต
วีดคิดว่าเดย์แครมนั้นร่ำรวยมาก แต่ดูเหมือนว่าการตัดสินแบบนั้นผิดไปอย่างสิ้นเชิง
แต่ถึงกระนั้น
เพราะนั่นคือวีด เขาจะไม่ละทิ้งความฝันของเขา
"เขาน่าจะซ่อนอะไรสักอย่างเอาไว้"
ในฐานะที่ปรมาจารย์ประติมากรคนอื่น
ๆ มีความสามารถอันน่าทึ่ง เขาเชื่อว่า เดย์แครม ก็มีพลังอำนาจมหาศาลเช่นกัน
ข้ายังได้สร้างประติมากรรมจากวัสดุที่ถูกทิ้งโดยเกษตรกร
เช่นฟางและปุ๋ยคอก
เมื่อผู้คนเห็นข้าก่อกองมูลและหญ้าแห้ง
พวกเขาเรียกข้าว่าคนบ้าไม่ตระหนักถึงงานที่แท้จริงของข้าในฐานะประติมากร สำหรับข้า
ความงามอยู่ในทุกสิ่งรอบตัวเรา
ดังนั้น
ข้าจึงได้ทำประติมากรรมที่ไม่ใช่ประติมากรรม
ที่ชายหาด
ข้าสร้างขึ้นด้วยทรายและเปลือกหอย ให้กระแสน้ำล้างมันทิ้งไป หลงเหลือแต่เศษเปลือกหอยที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ขณะที่ฝนตก
ข้าค้นพบประติมากรรม ที่หลงเหลือจากร่องรอยบนพื้นดิน
ในช่วงเวลานั้น
ข้าเห็นการแกะสลักในมุมมองใหม่
ถ้าประติมากรรมทำจากธรรมชาติ
ความอุดมสมบูรณ์นั้นจะกลับคืนสู่ธรรมชาติผู้ให้กำเนิด
แม้แต่ต้นไม้ที่ร่วงโรยหรือก้อนหินที่ฝังลึกอยู่ในดิน
สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวของธรรมชาติในตัวของมันเอง
ข้าตระหนักได้ถึงพลังของสิ่งที่เล็กที่สุดด้วยความเป็นอยู่ของข้าตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา
ติ๊ง!
======================================
-
คุณได้เรียนรู้ทักษะประติมากรรมธรรมชาติ(Nature Sculpting skill)
ขณะนี้คุณสามารถสร้างประติมากรรมธรรมชาติได้
ค่าความสัมพันธ์สูงกับธรรมชาติ
และทักษะการแกะสลักเป็นสิ่งจำเป็น
นี่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของวัสดุประติมากรรม
แม้จะมีการแกะสลักหินหรือไม้
พลังงานส่วนที่เหลืออยู่ของธรรมชาติ จะไม่หายไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าคุณอนุรักษ์ธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วัสดุที่ใช้ในการแกะสลักจะมีอายุการเก็บรักษายาวนานขึ้น
-
ได้มีการสร้างความสัมพันธ์กับธรรมชาติแล้ว
======================================
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
มันเกิดขึ้นกับข้า ผู้ที่แต่ก่อนไม่รู้อะไรเลย จนกลายมาเป็นเพื่อนกับมัน
คุณสามารถสร้างประติมากรรมและในเวลาเดียวกัน
ก็ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ
ข้าตระหนักได้ว่าเมื่อคุณกำลังตี
ตัด และทำลายเพื่อสร้างประติมากรรม คุณไม่ได้ใช้เทคนิคศิลปะที่มีการสนทนากับธรรมชาติ
ในขณะที่กำลังทำการเหลาเนื้อไม้ผุ
ข้ายังสามารถจับมานาจากทั่วโลกได้
อย่างไรก็ตาม
ผู้คนก็ไม่สนใจที่จะเรียนรู้การแกะสลักรูปแบบนี้จากข้า
มันยากที่จะเข้าใจประติมากรรมของข้า
เนื่องจากพวกมันไม่ได้มีความงดงามตามมาตรฐาน พวกมันสกปรกและหยาบ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่เห็นว่าทำไมพวกเขาควรจะเรียนรู้มัน
วิถีแห่งมานาในธรรมชาติและการใช้เพื่อสร้างประติมากรรม
มันเป็นงานที่ยากลำบาก
ไม่มีใครเชื่อในตัวข้า
พวกเขาคิดว่าคำพูดของข้าเป็นความโกรธเกรี้ยวของคนบ้า
ข้าจึงตัดสินใจเดินทางไปลาสฟาลั้งค์
เพื่อแสดงให้โลกได้เห็นว่าข้าไม่ใช่แค่คนบ้า แต่ข้ามีของขวัญที่แท้จริงจากเหล่าทวยเทพ
ในขณะที่กำลังทำการขุดเหมือง
ข้าเก็บสะสมรวบรม มิธริล ข้าวางแผนที่จะทำประติมากรรมอันนอบน้อมจากมัน
ข้ารู้ได้จากการฟัง
มิธริล ว่ามันมีมานาแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ มันต้องการให้ข้าพยายามทำบางสิ่งบางอย่างที่สวยงาม
ข้าได้ทำการซ่อนผลงานมิธริลที่เสร็จแล้ว
มันน่าจะไม่ถูกค้นพบ
ผลงานนี้โดยชายชราคนหนึ่ง ผู้ที่ต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าทักษะของเขาอาจจะหายไปตลอดกาล
ฮีเลียมในตำนานเป็นข้อมูลที่มีค่า
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในหมู่ประติมากรผู้อุตสาหะ มุมานะ อดทน เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ประติมากรรมของข้าถูกซ่อนด้วยเหตุผลง่ายๆ
ว่าไม่มีใครที่จะเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของพวกมัน
โชคดีที่ประติมากรวีดเป็นคนค้นพบมัน
"การค้นพบสิ่งที่ซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเป็นเรื่องยาก
แต่ดูเหมือนว่าคุณจะต้องทนทุกข์ทรมานทั้งชีวิต"
ความอบอุ่นใจของวีด
แสดงความเคารพต่อความพยายามของผู้อาวุโสในการฝากผลงานประติมากรรมเทวทูตเอาไว้
แต่ก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก เพียงแค่ 1 นาที 20 วินาที
ความท้าทายของการแกะสลักต้องมีความสอดประสานต้องกันและความอดทน
การฝึกฝนเทคนิคนี้เป็นเรื่องยากมาก
แต่การแกะสลักด้วยมานาของธรรมชาติ ช่วยให้คุณรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลโดยตรงจากมัน
ข้าหวังว่าจะมีประติมากรมากขึ้นที่ได้เรียนรู้ศิลปะนี้จากข้า
ข้าไม่ว่าอะไรหากสมาคมประติมากร สอนเทคนิคเหล่านี้ให้ทุกคนได้อย่างอิสระ
ข้าจะไปเทือกเขาใหญ่
เดบคาร์ท(Great Debkart Mountains) เพื่อแกะสลักฮีเลียม
ข้า
เดย์แครม ยังได้ค้นพบทักษะการแกะสลักไร้นาม, ประติมากรผู้ใดอาจเรียนรู้ทักษะใหม่นี้
ประติมากรรมภัยพิบัติ(Disaster Sculpting)
หากคุณต้องการเรียนรู้ศิลปะการแกะสลักของข้า
ลองปีนขึ้นไปที่เทือกเขา เดบคาร์ท อันยิ่งใหญ่
"เชี้ย!
สุดท้ายแล้ว เขาก็เอาฮีเลียมติดตัวไปด้วย"
สำนึกผิดและความโลภที่ไม่มีใครเทียบได้
หลังจากหายใจลึกๆสองสามครั้ง วีดจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบทักษะใหม่
"ตรวจสอบทักษะ!
ประติมากรรมธรรมชาติ! "
======================================
-
การแกะสลักธรรมชาติ ขั้นต้น เลเวล 1 (0%):
ทักษะทั่วไปของประติมากร
สามารถได้รับทักษะเร็วขึ้น โดยตัวของประติมากรนั้น ทำการบูชาธรรมชาติ
ปรมาจารย์ประติมากร
เดย์แครม ได้คิดค้น สร้างวิธีการเพิ่มเติม สำหรับประติมากรผู้ที่ต้องการเรียนรู้มัน
ความต้องการ:
ต้องมีทักษะการแกะสลักขั้นสูง
ต้องมีความสัมพันธ์สูงกับธรรมชาติหรือพลังที่ยังไม่ปรากฏ
คุณสามารถสร้างประติมากรรมจากวัสดุทางธรรมชาติเท่านั้น
มนุษย์จะต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้น
3 เท่า เพื่อเพิ่มพูนทักษะ เมื่อเทียบกับเอลฟ์และนางฟ้า
======================================
======================================
ความสัมพันธ์กับธรรมชาติในปัจจุบัน:
470
+
ธรรมชาติถูกนำมาใช้เป็นชื่อของประติมากรรมจำนวนมาก +153
-
อันเนื่องมาจากเหล่าดาร์คเอลฟ์ยิงลูกศรไฟบนเทือกเขายุโรกิ ความสัมพันธ์ลดลง -79
+
เนื่องจากการปีนเขา เทือกเขาโฮรอม ความสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น +15
+
คุณบากบั่นด้วยความอดทนอันสูงส่งผ่านพายุน้ำแข็งและหิมะบวกกับการปะทุของภูเขาไฟ 29
+
คุณปรับสภาพภูมิอากาศแปรปรวนทางตอนเหนือของทวีป +106
+
คุณสร้าง จิตวิญญาณแห่งธาตุ +80
-
การทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติสำหรับประติมากรรม -32
+
เนื่องจากการสร้างบ่อลึกลับที่รักษาธรรมชาติไว้ คุณได้รับความโปรดปรานจากเหล่าเอลฟ์
+9
ธรรมชาติที่ได้รับความเสียหายจากการสร้างเมืองและป้อมปราการขนาดใหญ่, อื่นๆอีกมากมาย -47
ล่องเรือในมหาสมุทร
+15
คุณเห็น
แสงเหนือแห่งเดรอน +21
คุณได้ปกป้องรักษา
วงมนตราแห่งเปลวเพลิง ลาสฟาลั้งค์ เอาไว้ +61
คุณได้ล่ามอนสเตอร์จำนวนมากที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ
+139
คำพูดจากข้อความ!
ที่ระดับความสัมพันธ์
ณ ปัจจุบัน ของคุณกับการแกะสลักธรรมชาติ คุณสามารถใช้ทักษะประติมากรรมเมฆาได้
======================================
======================================
การแกะสลักเมฆ:
จะขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของประติมากรรมและความสัมพันธ์กับธรรมชาติเท่านั้น
ขึ้นอยู่กับเลเวลของทักษะการแกะสลักของคุณและความสัมพันธ์กับธรรมชาติ
คุณสามารถทำให้เกิดฝนตกได้
คุณอาจสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับผู้คนจำนวนมาก
เพราะบางอย่างเช่นฝนตกหนัก จะนำมาซึ่งภัยพิบัติ
======================================
การกระทำที่ทำลายล้างธรรมชาติของวีดได้รับการบันทึกไว้อย่างละเอียด
ภารกิจต่างๆ การสำรวจ ความเพียรพยายามและประสบการณ์การแกะสลักของเขาถูกรวบรวมเอาไว้หมดแล้ว
"เราคิดว่าเราจะต้องทนทุกข์ทรมานทำงานมากขึ้น
มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดไว้ "
หลังจากได้รับอาชีพนี้มา
เขาคิดว่าเขาจะถูกทิ้งห่างออกไป แต่แทนที่สิ่งเหล่านั้น มันกลับให้ความทรงจำอันแสนอบอุ่น
"ถ้าคุณต้องอยู่ในน้ำแข็งและหิมะหรือแม้กระทั่งพายุน้ำแข็ง
จงเก็บน้ำแข็งบางส่วนและดื่มน้ำเย็นๆนั่นซะ!"
แม้ว่าคุณจะมีชื่อเสียง
แต่เส้นทางชีวิตนั้นยาวไกลและยากลำบาก คุณยังต้องอดทนต่อมัน ห้ามหลับตาเด็ดขาด
จนนำมาซึ่งความสำเร็จที่เขาบากบั่น ฟันฝ่ามันไปด้วยความยากลำบาก!
"เราควรจะไปเทือกเขา
เดบคาร์ท อันยิ่งใหญ่นั่นดีมั้ยนะ?"
เพื่อเป้าหมายในการได้มาซึ่ง
ประติมากรรมภัยพิบัติ เขาต้องตามหา เดย์แครม โชคดีที่สามารถเดินทางจากโมราต้าโดยใช้เวลาแค่สองวันไปยังเทือกเขาเดบคาร์ท
ประติมากรรมภัยพิบัติ(Disaster
Sculpting)!
ชื่อที่ไม่ดีต่อหัวใจคุณ
ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแท้จริงแล้วมันหมายถึงอะไร
ประติมากรรมภัยพิบัติ หรือวันพิพากษาจากธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่คลื่นยักษ์สึนามิ, มหาอุทกภัย, แผ่นดินไหว, แผ่นดินถล่ม,
พายุหิมะและน้ำแข็ง, การปะทุของภูเขาไฟ,
หากคุณสามารถสร้างสิ่งต่างๆดังกล่าวได้ ...
"นั่นเป็นทักษะการแกะสลักที่ไม่น่าเชื่อ!"
ไม่มีทักษะอื่น
ๆ มากกว่านี้ ซึ่งน่าเติมเต็ม ตั้งแต่กลายมาเป็นประติมากร
"ตอนนี้
เราไม่ได้ยินแม้แต่เสียงกระซิบหรือเสียงอ่านอะไรเกี่ยวกับประติมากรรมที่ทำจากฮีเลียมเป็นผลสำเร็จ"
บางทีอาจมีปัญหาทางกายภาพเกิดขึ้นกับเดย์แครมก็เป็นได้
วีดไม่เคยได้พบประติมากรสูงอายุ
ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา คือ พวกคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารที่ดีหรือไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี
เมื่อคุณต้องขี้เหนียวและประหยัดเงินทุกสตางค์ ในโลกอันโหดร้ายและไร้ซึ่งความปราณี
ถ้าไม่มีข่าว มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้าย
"ถ้าเขาตายไปแล้ว
ฮีเลียมก็จะตกเป็นของเราทั้งหมด! ฟุ หุ หุ หุ ฮา ฮ่า ฮ่า "
ด้านหลังของ
วีด ปีกแห่งแสงกระพือออกและสั่นไหวอย่างรุนแรง
เจ้าเหลืองที่ได้หยุดพักจากการทำงานอันเหนื่อยล้า เริ่มสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว
หลังจากนั้นทันที
วีดรู้สึกแย่มาก เขารู้สึกเสียใจและสำนึกในความบาปของตนที่มีมากเกินไป
"ไม่
... ไอ้ฮีเลียมเวรนั่น มันกำลังล่อลวงจิตใจของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา โอกาสนั่น มันเหมือนกับลูกหิมะในขุมนรก
"
เมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย
เจ้าเหลืองสะบัดหูไปมา นี่เป็นพฤติกรรมของวัว บางสิ่งที่พวกมันทำเมื่อพวกมันมีความสุข
ปีกแสงสว่างไสวด้วยสีสันที่สดใสมาก
"มันดูไม่เป็นธรรมชาติเลยที่ต้องมาหัวเสียอย่างนี้
... ก็นะ คงทำนองนั้นล่ะมั้ง เราเป็นแค่มนุษย์หนิ"
"เราคงต้องยอมรับ
มนุษย์สามารถถูกลากเข้าไปในสิ่งที่ล่อตาล่อใจได้ง่ายเกินไป"
"โอกาสที่จะได้เรียนรู้การแกะสลักธรรมชาติจากปรมาจารย์
แบบว่ามันเกือบจะเหมือนกับมอนสเตอร์ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาในเวลาที่คุณต้องการจะฆ่ามัน"
"แต่ก็นะ…."
“สิ่งที่น่าขันมากยิ่งกว่าที่รู้กันว่าเกิดขึ้น
มันต้องเป็นความจงใจของสวรรค์, พระเจ้าส่วนใหญ่มักจะพูดว่า ‘เฮ้ย ... ถึงคราวที่แกต้องตายแล้วเจ้ามอนสเตอร์หน้าโง่’ ”
"เราแค่ต้องหายใจลึก
ๆ และคว้าโอกาสนี้ในขณะที่เรายังสามารถทำได้"
“...”
“แม้ว่าเราหาฮีเลียมไม่พบ แต่เราก็ได้รับเทคนิคการแกะสลักธรรมชาติ
เราได้มาแม้กระทั่งเงื่อนงำว่าจะหาปรมาจารย์ประติมากรเดย์แครมได้ที่ไหน”
เมื่อได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายในเหมือง
วีดและเจ้าเหลืองก็เตรียมตัวเดินทางกลับ
จบตอน
ผู้แปล: koichii
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ทักษะเหมือนจะได้มายากสุดแต่ก็น่าจะแข็งแกร่งที่สุด
ตอบลบอีกประเด็นรีบไปช่วยภรรเมียด่วนๆ
งั้นก็รีบด่วนๆ เลย ซอยูนแย่แล้ว
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบไปช่วยซอยูนก่อน
ตอบลบปล.ประติมากรรมคงไม่ถูกแย่งไปใช่ไหม?
เมียหลวงแย่แล้วววววʕ´•ᴥ•`ʔ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบวีดเว้ย เมียเองกำลังปกป้องเองอยู่นะ รีบๆมีลูกด้วยล่ะ
ตอบลบ