เล่ม 38 ตอนที่ 5:
ความประสงค์ของมหาจักรพรรดิวีด(THE WILL OF GREAT EMPEROR
WEED) แปลโดย RastyMay
“ขยับให้มันไวกว่านี้เซ่!”
“แกลองนั่งดูซิ ข้าจะตัดคอแกซะ”
“ข้ารู้ว่าการเฆี่ยนตีพวกแกจะช่วยให้แกเดินได้ไวขึ้น
ลองลิ้มรสแส้ของโรเกอร์ดูหน่อยเป็นไง!”
วีดจับตาดูทหารยามของหอคอยแห่งท้องฟ้าอย่างไม่รีบร้อน
ในขณะที่แบกก้อนหินขึ้นไป
ทัศนคติและพฤติกรรมมีความสำคัญต่อแรงงาน
มันไม่จำเป็นที่จะต้องวิ่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรอย่างช้าๆได้
ไม่เช่นนั้นจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจ
ความเร็วของเขาทำให้เขารู้สึกว่าเขาทำงานหนักพอสมควร
การแสดงออกของเขานั้นแสดงถึงความใสซื่อและขยันขันแข็ง ในขณะที่เขาหายใจอย่างหนัก เพราะค่าสถานะที่สูงกว่าเขา
ทำให้เขาไม่รู้สึกเหนื่อย แต่เขากลับเพลิดเพลินกับการหลอกลวงพวกมัน
ทาสส่วนใหญ่ในรอยัลโร้ด มีพละกำลังมากกว่ามนุษย์
ดังนั้นพวกเขาจึงปีนขึ้นบันไดได้อย่างรวดเร็ว
เขาเบื่อกับการปีนบันไดเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ดังนั้นเขาเลือกที่จะมองไปข้างหน้า และมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราว พื้นดินกำลังห่างออกไปในขณะที่เขามุ่งไปสู่ท้องฟ้า
เป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม!
เขารู้สึกสดชื่นเมื่อเขาเริ่มเหงื่อออก
“หืมมม แกทำได้ดีเลยนี่ สำหรับเด็กน้อยละนะ
ยอดเยี่ยม”
“นี่เป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อเอ็มบินยู”
บางครั้งเขาก็ได้รับคำชมจากผู้คุมของเอ็มบินยูอย่างไม่คาดคิด
‘ไม่ นี่มันไม่ใช่อย่างนั้น
ในที่สุดฉันก็ปรับตัวเข้ากับการเป็นกรรมกรแล้ว’
เมื่อเขาเริ่มทำงาน มือและเท้าของเขาจะขยับไปเองโดยอัตโนมัติ
เขารู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เขลา เมื่อเวลาหนึ่งวันได้ผ่านไปแล้ว!
เมื่อตอนเขายังเด็ก เขาจะทำงานอะไรที่ง่ายๆ
และซ้ำซาก เช่น เย็บลูกตาบนตุ๊กตาที่จะทำให้จิตใจของเขาได้พักผ่อน การแบกหินในขณะที่ปีนบันไดเป็นงานที่น่าเบื่อและหงุดหงิดอย่างไม่รู้จบ
กลิ่นของเหงื่อที่ไหลออกมาจากร่างกายของทาสอีกคน ทำให้มันยิ่งแย่ลงไปอีก
วีดส่ายหัวของเขา
‘ฉันต้องทำภารกิจต่อไป ดังนั้นฉันไม่อยากเสียเวลากับงานนี้นานเกินไป
ฉันต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง’
มันน่ารำคาญที่จะต้องแบกหินขึ้นแล้วก็มุ่งหน้ากลับลงมา
ในขณะที่ปีนลงมาจากหอคอย เขาสังเกตเห็นว่าผนังนั้นเต็มไปด้วยกราฟฟิตี้(ผลงานผ่านกำแพง)
-ลูกชายของข้าตายไปแล้ว
-ข้าหิว ข้าไม่มีแรงที่จะขยับ ที่แห่งนี้คือนรก
-ตายไปหมดแล้ว พ่อแม่พี่น้อง และคนรัก
ทุกคนตายในหอคอยแห่งนี้
-ลูกชายของฉันยังมีชีวิตอยู่
เมื่อไหร่ฉันจะตายซักที?
เห็นได้ชัดว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลย
นอกเหนือจากมนุษย์แล้วเผ่าพันธุ์อื่นก็ฝากข้อความไว้เช่นกัน แต่เขาอ่านไม่ออก
นักผจญภัย ผู้ใช้เวทย์มนตร์ หรือนักประวัติศาสตร์สามารถเรียนรู้ภาษาหรือศึกษาเผ่าพันธุ์อื่นๆ
ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาพบเบาะแสในภารกิจ ประติมากรรม จิตรกร หรือคนที่มองผ่านประวัติศาสตร์หลังสงคราม
หรืองานศิลปะชิ้นเก่าๆ ก็ทำให้สามารถเข้าใจบางสิ่งได้แม้กระทั่งภาษา การเชี่ยวชาญด้านอารมณ์
และการตรวจสอบไอเท็ม
ในกรณีของวีด เขามีความดื้อรั้นที่จะเป็นทหารมาโดยตลอด
และหาเบาะแสในภารกิจของเขา
แม้ว่านักรบสามารถแก้ไขภารกิจได้ก็จริง
แต่มันก็เหมือนกับการเหยียบย่ำบนพื้นดิน เมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาของอาชีพอื่นที่ละเอียดอ่อน
วีดก็ยังอิจฉาการผจญภัยของนักผจญภัย
‘การกวาดขุมทรัพย์ทั้งหมดในโลก….’
นักผจญภัยที่พบขุมทรัพย์ที่ถูกฝังอยู่เป็นเวลานานในภาคเหนือสามารถได้รับชื่อเสียงและสมบัติ
‘ถ้าฉันเป็นนักผจญภัยนะ ฉันจะถือพลั่วและกระสอบแล้วขุดหลุมศพทุกวัน’
วีดยังคงค้นหาผนังและเพดานทุกส่วนในขณะที่ปีนบันได
มีเพียงแค่คำที่ซับซ้อนและไร้ความหมายเท่านั้นที่ถูกเขียนตามผนัง
เขาไม่พบร่องรอยของค่าความสามารถที่โดดเด่นเลย
อย่างเช่นประติมากรผู้เชี่ยวชาญในหอคอยนี้ ลัทธิเอ็มบินยูไม่ได้ใส่ใจในการตกแต่งหอคอยแห่งท้องฟ้า
และทาสก็ถูกบังคับให้ใช้แรงงาน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกว่ามันเป็นงานศิลปะใดๆ
ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาเห็นคือกราฟฟิตี้
สองสามวันผ่านไป
ไม่มีอะไรพิเศษเกิดขึ้น หอคอยแห่งท้องฟ้าก็ยังคงสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
อันที่จริง วีดยุ่งกับงานจนเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนอกหอคอย
‘ฉันจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ’
วีดยังคงคิดต่อไป
เวลาที่เหลือในการหยุดลัทธิเอ็มบินยู กำลังจะหมดลงในขณะที่เขาแบกหิน
เหลือเวลาอีกเพียงเล็กน้อยในรอยัลโร้ด
เพื่อหยุดลัทธิเอ็มบินยู และป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง
‘จนถึงตอนนี้ ฉันแค่ช่วยงานก่อสร้าง
และงานก็ใกล้จะเสร็จแล้ว’
เขาได้รู้เพียงพอเกี่ยวกับโครงสร้างอันซับซ้อนภายในหอคอยแล้ว
มันมี 30 ชั้นขนาดใหญ่พร้อมที่พักและศูนย์ฝึกอบรมสำหรับสาวกผู้คลั่งไคล้
นอกจากนี้พวกเขาก็สร้างกันอยากจริงจัง เพราะมันสร้างขึ้นอย่างมั่นคงมีความหนาเพียงพอที่จะรับน้ำหนักของหินบนชั้นด้านบนได้
มันเริ่มยืดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้า
ยิ่งสูงขึ้นกำแพงและเสาก็เริ่มหดเล็กลง และมีการออกแบบแท่นบูชาพิเศษขึ้น เพื่อดูดซับมานา
สิ่งนี้จะทำให้ลดน้ำหนักลง และสามารถข้ามไปบางชั้นได้
ผู้คุมและอัศวินของลัทธิเอ็มบินยู ประจำการอยู่ที่จุดสำคัญในหอคอย
และพวกเขาสามารถวิ่งผ่านบันไดและทางเดินแคบๆได้หากจำเป็น
หอคอยนี้มี 1,000 ชั้นอย่างแน่นอน แล้วจำเป็นต้องใช้บันไดเท่านั้น เพื่อให้มันเสร็จสมบูรณ์
‘ฉันควรทำอย่างไรล่ะทีนี้’
วีดยืนอยู่บนทางแยกแห่งการตัดสินใจ
เขาสามารถรอจนกว่าเขาจะได้ยินข่าวจากลูกน้องของเขาและอาเฮลลุนแล้วค่อยลงมือ
หรือจะวางแผนอย่างรอบคอบ และเคลื่อนไหวคนเดียว เป้าหมายของเขานั้นคือการพังทลายหอคอยแห่งท้องฟ้า
และหยุดยั้งมังกรแห่งกลียุค มันค่อนข้างจะน่ากลัว
ผู้คุมลาดตระเวนทุกเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
มันทำให้เขาไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งได้
เขาสอดแนมด้วยการแทรกซึมเข้าไปภายใน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปจากด้านนอกแล้วเข้าไปทางหน้าต่าง
อัศวินระดับสูงและนักบวชก็กระจัดกระจายไปทุกที่เหมือนก้อนกรวดไปตามถนน
แม้ว่าจะมีนักบวชอาวุโสเพียงคนเดียว
กำลังการต่อสู้ของพวกมันก็มีผลกระทบร้ายแรงทีเดียว ตำแหน่งและขนาดของศัตรู
ข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นในการทำภารกิจเช่นนี้
‘ชีวิตเป็นอะไรกันนะ? ฉันจะลงมือพรุ่งนี้เช้า’
---------------------------------------
วีดได้รับคำสั่งให้หยุดลัทธิเอ็มบินยู
แต่ ซอ ยูน ยังคงอยู่ในช่วงสงคราม
หลังจากการสู้รบที่ป้อมปราการจบลง นักบุญอาเฮลลุน
ได้ปลดปล่อยเธอจากบทบาทหน้าที่ในภารกิจการแสวงหาเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
ตริ้ง!
- คุณทำภารกิจสำเร็จแล้ว
นักบุญอาเฮลลุนได้หยุดการเรียกจิตสำนึกของปีศาจแล้ว
พฤติกรรมของคุณประสบความสำเร็จในการผจญภัยของฮิลเดรัน
ดังนั้นคุณจะเป็นวีรสตรีผู้ไร้นาม
ค่าปัญญา ค่าเสน่ห์ เกียรติยศ และสมาธิจะเพิ่มขึ้น
25 เป็นรางวัลสำหรับภารกิจ
ชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ทั้งหมดของคุณถูกลบแล้ว
ชื่อเสียงของคุณดีที่สุด
ได้รับพรแห่งพลังอันรุ่งโรจน์แล้ว
|
-คุณมีส่วนในการสืบหาเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์แล้วและได้รับการชดเชยเพิ่มเติมแล้ว
พรแห่งพลังอันรุ่งโรจน์:
คุณได้รับพรพลังศักดิ์สิทธิ์ของอาเฮลลุน
สิ่งนี้จะคงอยู่เป็นเวลา 160 วันและจะทำให้ร่างกายของคุณได้รับพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง
|
เธอใช้เวลาค่อนข้างนานกับภารกิจเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้ายของวีด
ดังนั้นค่าชดเชยจึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ค่าสถานะของเธอก็สูงขึ้นในระหว่างการผจญภัย
ดังนั้นมันจึงช่วยได้มากเมื่อกลับสู่โลกดั้งเดิม
‘มันก็ดีนะ….’
ซอ ยูน รู้สึกพอใจที่สามารถช่วยวีดได้
ในการผจญภัยของเขาได้
และผลของการกระทำของอาเฮลลุนในภารกิจ
- แม้ว่าพิธีกรรมของพ่อมดชาคุเอลจะล้มเหลว
แต่การอัญเชิญจิตสำนึกของปีศาจก็ยังคงอยู่ เขายังมีเหยื่อรายอื่นๆต่อแถวรอสังเวยอีกมาก
ฮิลเดรัน ยังอุ้มเมล็ดพันธุ์ปีศาจที่หลับใหลอยู่
เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ของอาเฮลลุน ไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมด
“ดวงวิญญาณของปีศาจนั้นดำมืดและมั่นคงเด็ดเดี่ยวมันไม่ง่ายที่จะถูกทำลายด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
นับตั้งแต่พิธีกรรมอัญเชิญ
เมื่อเวลาผ่านล่วงไปเป็นเวลานานแล้ว ดวงวิญญาณจะหายไปจากร่างกายของคุณอย่างสมบูรณ์”
“ปีศาจในตัวฉันจะตื่นขึ้นมาหรือเปล่า?”
“เมื่อมันสัมผัสกับพลังศักดิ์สิทธิ์
ดวงวิญญาณก็จะอ่อนแรงลง แสงสว่างแห่งชีวิตของคุณจะทำให้ปีศาจกลับสู่นรก”
“ฉันดีใจที่รู้เช่นนั้น”
“ถ้าคุณต่อสู้กับใครบางคน ปีศาจจะถูกบังคับให้ถ่ายทอดพลังให้กับคุณ
เพราะถ้าเนื้อมนุษย์ประสบกับความตายกะทันหัน ดวงวิญญาณของปีศาจจะได้รับผลกระทบอย่างมาก”
พลังของปีศาจในเลือดของคุณสามารถตื่นขึ้นมาได้
เพื่อไม่ให้มีใครต้องตกเป็นเหยื่ออีก
ให้สำเร็จโทษ ชาคุเอล และหยุดการอัญเชิญปีศาจ
หากคุณยอมรับภารกิจ พลังศักดิ์สิทธิ์และพลังปีศาจก็สามารถใช้ได้
ระดับความยาก: ภารกิจช่วงเวลาสงครามแห่งประวัติศาสตร์
ค่าตอบแทน:
ประสบการณ์การต่อสู้และความสำเร็จ
ข้อจำกัดของภารกิจ:
ภารกิจจะล้มเหลวหากคุณตาย
คุณจะกลับสู่โลกดั้งเดิมของคุณ
|
ซอ ยูน ยอมรับภารกิจนี้
เธอไม่สามารถจากไปได้โดยไม่จัดการกับชาคุเอลเพราะเขาพยายามฆ่าวีด!
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมุ่งหน้าไปหาดยุคออร์แฮมด์
ผู้ปกครองปราสาทรีเพอเรน ดยุคออร์แฮมด์เองก็เป็นศิษย์ของชาคุเอลเช่นเดียวกับราชาปอร์ทู
ซอ ยูน เดินไปที่ประตูใหญ่ในตอนกลางคืน
ทหารยามก็เห็นเธอ พวกเขาได้ถือหอกออกมาด้วย
“เจ้าเป็นใคร? เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป”
“หุ หุ หุ เจ้าน่ะไม่จำเป็นต้องเข้าไปข้างในหรอก
ถ้าเจ้าถูกขายให้กับพ่อค้าทาสแล้ว เราก็จะรับทรัพย์เป็นกอบเป็นกำ”
ในบทบาทของฮิลเดรัน ซอ ยูนจำเป็นต้องเอาชีวิตรอดไปให้ได้
ดังนั้นเมื่ออยู่ในทะเลทราย เธอจึงทำงานบริหารสมาคมทหารรับจ้าง
เดิมทีลักษณะอันโหดร้ายของเธอในฐานะเบอร์เซิร์กเกอร์มันหดหายไป
แต่ตอนนี้วีดเป็นเพียงคนเดียวที่หยุดเธอได้
ชรริ้งง!
ซอ ยูนชักดาบออกมาด้วยความเร็วแสง
“สาวน้อยถ้าเจ้าอยากเข้าไปในปราสาทละก็
เจ้าควร…อ๊าค!”
เส้นสีเงินก็ตัดผ่านร่างทหารยาม ในวินาทีต่อมา
ซอ ยูนก็คว้าหอกด้ามหนึ่งที่ดรอปมา ในขณะที่มืออีกข้างนึงของเธอก็ถือดาบเอาไว้
- ปีศาจสเตรนจ์ ช่วยคุณในการต่อสู้
3% ของพลังต่อสู้ของปีศาจสามารถใช้งานได้
ค่าพลังชีวิตสูงสุดเพิ่มขึ้น(maxHP)
|
“นังผู้หญิงอวดดีคนนี้….”
“ไม่กลัวแม้จะอยู่คนเดียว ตายซะ!”
พวกทหารยามพุ่งเข้าใส่เธอทันที
แม้ในช่วงสงครามระเบียบวินัยของทหารยามที่ประตูก็ดูยุ่งเหยิงไปหมด
และในกรณีนี้พวกเขามัวแต่เสียเวลาตะโกนใส่ซอ ยุน
ดาบและหอกของเธอขยับและแทงทหารยาม
ผู้ที่อยู่ใกล้ประตูก็ถูกสังหาร!
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
|
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
|
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
|
- เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
|
ในฐานะเบอร์เซิร์กเกอร์ การจัดการกับทหารยามครึ่งโหลนั้นง่ายเหมือนการดื่มกาแฟ
- ปีศาจสเตรนจ์ พอใจกับทักษะการต่อสู้ของคุณ
4% ของพลังต่อสู้ของปีศาจสามารถใช้งานได้
คุณสามารถใช้เวทย์มนตร์ของมันได้
เวทย์มนตร์แห่งความมืดขั้นพื้นฐานได้รับแล้ว
มานาสูงสุดเพิ่มขึ้น(maxMANA)
|
“...... .”
ซอ ยูนหยิบไอเทมที่ดรอปมาหลังจากที่ทหารยามล้มลง
ในความเป็นจริงการช่วงชิงไอเทมในช่วงเวลาสงครามนี้
มันจะไม่ได้อยู่กับเธอ แต่เธอได้เรียนรู้นิสัยมานิดหน่อยในการหยิบแจปเทมจากวีด หลังจากนั้นเธอก็ทำมันโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิดอะไร
เต้ง เต้ง เต้ง!
เสียงระฆังฉุกเฉินแจ้งเตือนภัยก็เริ่มดังขึ้นเมื่อประตูเปิดออก
กองทหารเทออกมา
“เจ้าจะทำอะไร?”
“...... .”
ซอ ยูนไม่ตอบ เธอก็มุ่งหน้าเข้าไปหาพวกนั้น
และดาบของเธอก็เคลื่อนไหวราวกับลมพายุ
เธอไม่ได้บ่นหรือพูดคนเดียวในขณะที่ต่อสู้เหมือนวีด
เธอติดอยู่กับการต่อสู้ และฆ่าทุกคนที่วิ่งมาหาเธอ เบอร์เซิร์กเกอร์ก็แบนนี้แหละนะ
เลเวลของเธอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถใช้พลังของปีศาจได้มากขึ้น
-ปีศาจสเตรนจ์พึงพอใจ
|
-ปีศาจสเตรนจ์ อารมณ์เบิกบานด้วยความดีใจ
ได้รับพลังเวทย์มากขึ้น
|
-ปีศาจสเตรนจ์ ยินดีเมื่อเห็นคุณต่อสู้
|
การมีอยู่ของปีศาจนั้นเหมือนเป็นผู้พิทักษ์
เพราะมันได้พบกับความสนุกแบบนี้เหมือนเป็นเกม
การทำลายปราสาทของดยุคออร์แฮมด์!
สถานที่นั้นว่างเปล่า แต่เธอยังไม่พบชาคุเอล
“...... .”
“ท่านอาจารย์ ได้ออกจากที่นี้เพื่อค้นหาวัตถุดิบแล้ว
โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย….”
ซอ ยูน ได้ปล่อยให้ดยุคออร์แฮมด์มีชีวิตรอด
เธอเปิดโอกาสให้เขาได้กลับใจ
เธอจากไปและการต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไป
ซอ ยูนยังต่อสู้กับอัศวินของดยุคออร์แฮมด์และมือสังหารของดยุคออร์แฮมด์อย่างต่อเนื่อง
เพื่อยกระดับพลังปีศาจ และในที่สุดเธอก็ได้ต่อสู้กับชาคุเอล!
“เจ้าเป็นเด็กผู้หญิงจากตอนนั้นนะเหรอ
เจ้ามาได้ยังไง… ตอนนี้ข้าต้องไปแล้วล่ะ แต่ข้าจะกลับมาเร็วๆ
นี้”
ชาคุเอลพยายามวิ่งหนี
แต่เขายังคงติดอยู่ในเงื้อมมือของซอ ยูน เธอไล่ตามเขา ในขณะที่ทำลายปราสาทไปด้วย
และในที่สุดชาคุเอล ก็ตายหลังจากนั้นหกวัน!
ซอ ยูน ทำภารกิจสำเร็จแล้ว
- ยุติพิธีกรรมการอัญเชิญของปีศาจสำเร็จแล้ว
พ่อมดชาคุเอลได้หายไปแล้ว
ความทะเยอทะยานและแผนการของเขาได้หายไป
ได้ถูกฝังลึกลงไปพร้อมความตายของเขา
|
-คุณได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้ในฐานะนักรบปีศาจ
ได้รับค่าสถานะพิเศษแล้ว
เมื่อคุณเปิดตาของคุสู่พลังอันน่าสะพรึงกลัว
มีความเป็นไปได้ที่จะไม่มีศัตรูอยู่ตรงหน้าคุณ
|
-คุณได้แก้ไขประวัติศาสตร์ลับของปีศาจในช่วงสงครามและได้รับความสำเร็จ
ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 21,394
ศรัทธาเพิ่มขึ้น 7
|
-ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว
คุณทำหน้าที่ของคุณเสร็จแล้วและสามารถกลับไปที่โซนเวลาดั้งเดิมได้
คุณต้องการกลับไปตอนนี้หรือไม่?
|
ซอ ยูนต้องการที่จะรอวีด แต่เขากำลังยุ่งกับการผจญภัยของเขา
และอาจไม่สามารถกลับมาพบเธอได้
‘พวกเขาอยู่ที่นั่น.’
ทันใดนั้นเธอก็ต้องการกลับไปที่ช่วงเวลาเดิมเพราะเธอมีบางอย่างที่ต้องทำ
กิลด์เฮอร์มีส!
เพื่อที่จะกลับไปจัดการพวกเขา ซอ ยูนจึงตัดสินใจออกจากช่วงสงคราม
“ฉันจะกลับไป”
ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของซอ ยูนเริ่มเบลอ
ดอกไม้บานและมีต้นไม้ ดวงดาวผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนแสง
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมาที่โมราต้า
----------------
แมแพน รวบรวมพ่อค้าที่เชื่อถือได้ และชาวเมืองที่เป็นNPC
มายังหอสมุดของโมราต้า
“ไม่นะ มันไม่มีอะไรเลย นี่คือ….”
พวกเขากำลังมองหาบางอย่างที่พวกเขาค้นหาผ่านแผ่นกระดาษรวมเล่ม
และหนังสือประวัติศาสตร์ มีหลายคนที่มาหอสมุดเพื่อมาเอาความรู้
มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเวทย์ และนักปราชญ์
เพื่อเพิ่มความรู้และค่าสถานะเวทย์มนตร์ และนักผจญภัยยังเข้ามาเยี่ยมชมเพื่อค้นหาข้อมูลจากโมราต้า
ในกรณีของพ่อค้า พวกเขาได้ให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยในบันทึกเรื่องราวของอดีต
บางครั้งพวกเขาจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองต่างๆ เพื่อเปิดเส้นทางการค้า แต่ไม่ค่อยเกิดขึ้น
เพราะการซื้อขายสินค้าในแต่ละวัน จะมีราคาที่ผันผวน ซึ่งมันสำคัญต่อพ่อค้าในเมืองมากกว่า
แมแพนได้รับผิดชอบในด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจำนวนมากทั่วทางเหนือ
แต่ตอนนี้เขาก็ติดแหง็กอยู่ในห้องสมุด!
“จักรวรรดิพอลลอส… จักรวรรดิพอลลอส… อ๊าห์ มันมีบันทึกมากมายที่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี
แน่ใจนะว่ามันอยู่ในหอสมุดของโมราต้า?”
แมแพนได้รับภารกิจที่สำคัญมากจากวีด
ดังนั้นเขาจึงค้นหาบันทึกต่างๆ มันเป็นงานที่คายกลิ่นความรวย ทองคำและอัญมณี
“ฉันไม่สามารถพลาดโอกาสนี้ในการทำภารกิจให้กับ
คุณวีด แต่ถ้าข้อมูลไม่ได้อยู่ในหอสมุดละ…ไม่ๆ มันต้องมีซิ
นี่คือศูนย์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลของทั้งทวีปดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับเขาควรปรากฏที่นี่”
เขาอ่านทุกสิ่งเกี่ยวกับจักรวรรดิพอลลอส
นักรบทะเลทราย และขุมทรัพย์ ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ประวัติศาสตร์ของทวีปเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องดังนั้นจึงมีหนังสือเล่มใหม่มากมายในห้องสมุด
แม้แต่หนังสือที่เกี่ยวข้อง
เขาดูแล้วก็ไม่มีประโยคไหนที่ลึกลับซับซ้อนเลย
“มันเป็นรหัสผ่าน ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความช่วยเหลือจากนักภาษาศาสตร์หรือนักผจญภัย….
ฉันพลาดตรงไหนไปรึเปล่า?”
แมแพนได้ใช้ความคิดทุกประเภท
และในที่สุดเขาก็ได้เบาะแสจากเรื่องราวของนักเล่าเรื่องในดินแดนเคแจน
[การเก็บเกี่ยวในปีนี้มันขาดแคลน
ไม่มีอาหารหรือเครื่องหนังสำหรับเสื้อผ้าฤดูหนาว
องค์ราชาทรงมีน้ำพระทัยอย่างมาก
แต่ก็ไม่เพียงพอ ดังนั้นเพื่อนที่ผมสามารถดื่มเหล้าด้วยกันได้ในหมู่บ้านมันลดลง
ผมจะเมาในช่วงฤดูหนาวไม่ได้
เช้านี้ผมพบมอนสเตอร์บางตัวกำลังสอดแนมใกล้หมู่บ้าน
พวกมันอาจจะพยายามบุกมาเพื่อหาอาหาร ในไม่นานมอนสเตอร์ก็กลับมาพร้อมกับนำญาติพี่น้องของมัน
2,000 ตัวมาด้วย
ทหารยามต่อสู้ในขณะที่ผมปีนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารที่สูงที่สุด
และก็เปิดขวดแอลกอฮอล์ที่เหลืออยู่
“พวกมันอาจจะพังกำแพงเพื่อที่จะฆ่าผม
ดังนั้นผมควรจะกระดกเหล้านี้ให้เร็ว?”
ผมมีประสบการณ์การดื่มมาหลายปี ดังนั้นผมอาจจะดื่มเหล้าทั้งหมด
ถ้าผมเทลงในปาก ผมฟังเสียงของทหารต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ ในขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับจิบสุดท้าย
หลังจากดื่มเหล้า ผมรู้สึกเศร้าใจ เพราะชีวิตของผมกำลังจะหายไปในไม่ช้า
อาจเหลืออีกนิดหน่อยในขวด
แต่พวกมอนสเตอร์รุกรานไม่สำเร็จ
ยอมรับได้เหรอว่าหมู่บ้านนี้มีทหารเพียง
100 คน?
ไม่ใช่เลย. ทันใดนั้นผมก็เห็นเพื่อนบางคนกำลังดื่มเหล้าขวดสุดท้ายของผม
มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
มีเพียง 20 คนเท่านั้นที่สามารถฆ่าพวกมัน
มีผู้ชาย 50 คนสวมเสื้อเกราะหนาๆ ล้อมรอบรถม้าซึ่งเข้ามาในหมู่บ้าน
พวกมอนสเตอร์พยายามที่จะบุกหมู่บ้านโดยเปลี่ยนทิศทาง
แต่ก็ถูกกำจัดออกไป
ผมไม่ได้ดื่มมากพอที่จะทำให้เมาได้หรอกนะ
ผมไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเองเท่าไหร่
ดาบโค้งเล็กน้อยมันเรียกว่าอะไรนะ?
อย่างไรก็ตามการแกว่งครั้งนึงก็กวาดพวกมอนสเตอร์ได้หลายสิบตัว
พวกเขาไม่พลาดมอนสเตอร์แม้แต่ซักตัวเลย
ลองคิดดูซิ พวกเขาโหดเหี้ยมมาก ตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาเริ่มฆ่ามอนสเตอร์
พวกมอนสเตอร์วิ่งเข้าหาหมู่บ้านถูกทำลายโดยชายเหล่านั้น
ประตูไม้ที่ปิดของหมู่บ้าน
ก็ค่อยๆถูกเปิดออก ทหารในหมู่บ้านของเราหลายคนเลือกในสิ่งที่เหมาะสมแล้ว
พวกเขาทิ้งดาบที่มันหักลงหลังจากการแกว่งได้เล็กน้อย
“มันหนาวจริงๆ พวกเจ้ามีเหล้าอุ่นๆ
ไหม?”
ฤดูหนาวผ่านไปแล้วสำหรับผู้คนในภาคเหนือ
แต่คนเหล่านี้ดูหนาวอย่างมากทีเดียว
พวกเขาพักหนึ่งวันก่อนออกเดินทางพร้อมรถม้า
ตู้รถม้าขนาดใหญ่ 8 คัน เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
มีร่องรอยถูกทิ้งไว้ลึกลงไปในพื้นดิน ดังนั้นผมไม่รู้ว่าพวกเขากำลังขนอะไรอยู่
และผมก็ไม่อยากรู้ด้วย ถ้าผมขโมยมันผมไม่ชีวิตรอดอย่างแน่นอน
ดีจริง ที่ผมได้เขียนเรื่องนี้เอาไว้
แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี
คุณไม่ต้องเชื่อคนโกหกและขี้เมาอย่างผมหรอก
ถ้าผมดื่มเหล้ามากไป ผมก็จะลืมทุกสิ่ง]
ตริ้ง!
-เรื่องราวของนักเล่าเรื่อง นักดื่มในดินแดนเคแจนได้ถูกอ่านแล้ว
|
-ความรู้เพิ่มขึ้น 1
|
“นี่มันยอดเยี่ยมมาก!”
แมแพนยิ้มอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
ใช้เวลาไม่นานแต่ในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่เขาต้องการ
-----------------------------------
“ในที่สุดการผจญภัยครั้งนี้ก็สิ้นสุดลง”
“มันยากมากจริงๆ”
เพล และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ของเขากำลังทำภารกิจสุดท้ายเสร็จ
พวกเขาต้องการหยุดทำภารกิจเพื่อมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับอาณาจักรฮาเว่น
แต่ภารกิจนั้นเต็มไปด้วยความผันผวนไม่แน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถหยุดที่นี่ได้
ดังนั้นพวกเขาจึงทำภารกิจให้เสร็จ หลังจากที่ต้องเจอกับความอยากลำบากที่สุดจะพรรณนาได้
และการรายงานไปยัง เหล่าNPCที่สำคัญทั้งหลายทั่วภาคเหนือ
รางวัลนี้เป็นของที่ระลึกจากอัศวินผู้ยิ่งใหญ่
อีวานสไตน์แห่งจักรวรรดินิฟเฟลเฮล์ม รวมถึงหนังสือเล่มเล็กที่จุไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสร้างกองกำลังอัศวิน
เหล่า NPCรายงานว่าพวกเขารวบรวมผู้อยู่อาศัยที่มีความสามารถและใช้หนังสือเล่มเล็กเพื่อสร้างอัศวิน
โรมุน่า และ เบลล็อต มีความยินดีมากที่สุด
“ฉันรู้จักมันนะ ชื่อหนังสือนั่น ‘ท่านหญิงเอลลิเกนท์ ผู้ประดุจดังกุหลาบ’ มันเหมาะกับฉันจริงๆ!
มันเพอร์เฟ็กกับฉันอย่างมาก โฮ้โฮ้โฮ้.”
“นำอัญมณีและขนนกมาประดับตกแต่งซิ...
อุ้ย! ดูนี่ซิมันแวววาวระยิบระยับ”
และชายคนหนึ่งกำลังร้องไห้อย่างเงียบ
ๆ อยู่ในมุมหนึ่ง
“ฮึ ฮึ ฮึค”
เพลมีประสบกับความตายสามครั้งในภารกิจนี้
ดังนั้นความเสียหายของเขาจึงใหญ่กว่าเพื่อนคนอื่น ๆ
- ฉันจะยังอยู่ วิ่งหนีไป!
- คนพวกนี้แข็งแกร่งแล้วคุณจะทำได้มั้ย?
-ไม่ ฉันจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะจบ
ฉันสามารถจัดการได้! ฉันจะไม่โทษคุณถ้าฉันตาย
‘ฉันไม่ควรจะเป็นคนดี มันเป็นยาพิษ’
เพลได้รู้แจ้งถึงความยากลำบากของมนุษย์ในชีวิต!
เซอร์กะกำลังชกอากาศ ในขณะที่เพลได้รับการรู้แจ้งของเขา!
เซอร์กะ ชกอากาศเบาๆ!
กำปั้นของเธอเป็นประกายทุกครั้ง การปรากฏตัวและอุปกรณ์สวมใส่ของเธอ ทำให้เกิดความประทับใจไปทั่วผู้เล่นระดับสูง
“ตอนนี้เราสามารถร่วมสงครามได้แล้ว”
“ผมรอเพื่อสิ่งนี้เลยล่ะ
เบ็ดตกปลาของผมจะสานพวกมันเข้าด้วยกัน….”
เซฟเฟอร์ มีรอยยิ้มเปื้อนเลือดบนใบหน้าของเขา
เขามักจะอยู่อย่างสงบเงียบเมื่อออกล่าหรือทำภารกิจ อย่างไรก็ตามนี่เป็นโอกาสเหมาะในสงคราม
“พวกเขาทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว”
แต่เพลและเพื่อนร่วมทีมของเขาไม่สามารถเข้าร่วมในสงครามกับอาณาฮาเว่นได้
แมแพนเรียกพวกเขาทั้งหมดมาที่คฤหาสน์ของเขา
“ผมมีเรื่องสำคัญจะประกาศ”
“อะไรเหรอ? นายประสบความสำเร็จในการทำการค้าอื่นๆเหรอ?”
เซอร์กะถามด้วยน้ำเสียงอย่างไม่ไยดี
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แมแพนกลายเป็นหนึ่งในพ่อค้าที่เจ๋งที่สุดในทวีปนี้
การวิเคราะห์ตลาดที่เฉียบแหลมของเขา และกล้าที่จะคิดริเริ่ม ในขณะที่การขยายการค้าและการลงทุนของเขา
ทำให้เขามีผลกำไรอย่างมหาศาล
อาชีพการต่อสู้จะอิจฉาไม่ได้ เมื่อได้เห็นพ่อค้าผู้มั่งคั่ง!
“ดูนี่ซะก่อน แล้วผมจะอธิบายให้ฟัง”
แมแพนมอบหนังสือเล่มเล็กให้พวกเขาทีละคน
ตริ้ง!
- เรื่องราวของนักเล่าเรื่อง
นักดื่มในดินแดนเคแจนได้ถูกอ่านแล้ว
|
- ความรู้เพิ่มขึ้น 1
|
เรื่องราวนี้มันเพิ่มความรู้ 1 แต้ม เมื่อพวกเขาอ่านมัน ในฐานะนักเวทย์ โรมุน่ารู้สึกพอใจ เพราะมันเพิ่มค่ามานาสูงสุด(maxMANA)ของเธอ แต่คนอื่นไม่สนใจ
เบลล็อต หาวและถามอย่างมีมารยาท
“แล้วยังไงเหรอ?”
“และโปรดดูสิ่งนี้ด้วย”
คราวนี้ แมแพนดึงหนังสือที่ห่อด้วยผ้าสีทองออกมา
“มันยากมากกว่าผมจะได้มันมา
มันเป็นข้อมูลสำคัญมาก ถ้าคุณเชื่อมต่อเนื้อหาทั้งสองนี้ดู คุณจะรู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อ”
“มันคืออะไรเหรอ?”
ไอรีนหยิบหนังสือเล่มเล็กและอ่านช้าๆ
[ชื่อเรื่อง:
ความลับที่ซ่อนอยู่ของจักรวรรดิพอลลอส?
เขียนโดยนักประวัติศาสตร์ลูครัด
จักรวรรดิพอลลอส ก่อตั้งขึ้นในช่วงสงคราม
นักรบที่ดุร้ายปรากฏขึ้นบนทวีปจากทะเลทรายพร้อมกับวีรบุรุษวีด
อาณาจักรที่ละโมบโลภมากถูกยึดโดยอาณาจักรทะเลทราย
และอาณาเขตที่กว้างขึ้นจนกลายเป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่
มันถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่อำนาจและระดับของทหารก็เพียงพอต่อการรวมทวีปเป็นหนึ่งเดียว
พวกเขาเอาชนะกองทัพของกลุ่มศาสนาที่อันตรายและทำให้อาณาจักรทั้งหมดสั่นสะเทือนด้วยความกลัว
การต่อสู้ที่ป้อมปราการดัลมอร์ นั้นดุเดือดเป็นอย่างมาก
และนักประวัติศาสตร์ยังคงพูดถึงเกี่ยวกับมัน แม้ว่าหลังจากจักรวรรดิพอลลอสจะถูกทำลายลงไปแล้ว
มันคือราคาค่างวดของชะตากรรมของทวีป
ขึ้นอยู่กับการต่อสู้ในครั้งเดียว และในเวลานั้นมีพวกมอนสเตอร์และอันเดท เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ
นั่นก็คืออุกกาบาตที่ถูกอัญเชิญมา
มหาจักรพรรดิวีด
มันเป็นความเห็นของนักปราชญ์ ว่าชัยชนะนั้นมันบรรลุผลได้ล้วนมาจากเขา
เป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่ามนุษย์อย่างเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร
และหลังจากที่มหาจักรพรรดิวีดได้ละทิ้งอาณาจักรพอลลอสอย่างกะทันหัน
มันก็มีช่วงเวลาทองแห่งความสุขสั้นๆ ก่อนที่จะเสื่อมโทรมลง
อาณาจักรแห่งอูฐได้ล่มสลายลง และนักรบก็กลับไปยังทะเลทรายที่โหดร้ายและแห้งแล้ง
และหลังจากปกครองเหนืออาณาจักรอันกว้างใหญ่อยู่พักหนึ่งทะเลทรายทางใต้ก็มีการปฏิรูปในเชิงบวก
การเชื่อมต่อการขนส่งระหว่างประเทศ การค้าและการผลิต
และการพัฒนาเทคโนโลยี
จักรวรรดิพอลลอส ได้แทรกแซงกิจการภายในประเทศและได้รับบรรณาการมากมาย
ผู้อยู่อาศัยในช่วงสงครามได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเนื่องจากอำนาจของขุนนางและราชวงศ์
ในบันทึกประวัติศาสตร์มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับอัศวินดูถูกเหยียดหยามหรือทอดทิ้งคนจน
แต่หลังจากที่จักรวรรดิได้หายไป
ก็ไม่มีวี่แววของกองทรัพย์สมบัติที่อยู่ในคลัง
จักรวรรดิพอลลอสเอาชนะหัวเมืองและอาณาจักรมากมาย
และได้รับการยกย่องจากอาณาจักรอื่น
ทรัพย์สมบัติมากมายที่พวกเขาเก็บรวบรวมหายไปอยู่ที่ไหน?
ขุมทองคำและสมบัติเวทมนตร์ทั้งหมดที่ได้จากการคอร์รัปชั่น
ความฟุ่มเฟือย และความสุขได้หายไปหรือเปล่า?
ฉันนักประวัติศาสตร์ลูครัดได้อ่านเนื้อหาความลับที่เกี่ยวข้องกับจักรวรรดิพอลลอส
และพบข้อความสำคัญ
- ความโลภของมนุษย์เป็นจุดเริ่มต้นของภัยพิบัติ
ฉันจะกลับมาอีกครั้งเมื่อโลกอยู่ในภาวะวิกฤติ
พลังแห่งความอยู่รอดนั้นอยู่ทางเหนือ
หลังจากนั้นอีกไม่นาน ทะเลทรายและทางเหนือจะกลายเป็นหนึ่งเดียว
คนเขียนเป็นใครก็ไม่ทราบได้ แต่บันทึกของวุฒิสภาและนักรบมักปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์
บุคคลเพียงผู้เดียวที่สามารถมีผลกระทบต่อจักรวรรดิพอลลอส
คือมหาจักรพรรดิวีด
ความแข็งแกร่งของวีดนั้นเหนือกาลเวลาและเหนือมนุษย์
วีรบุรุษผู้เปิดเส้นทางสู่ทั้งทวีป
เขาเล็งเห็นอนาคตและทิ้งความปรารถนาไว้เบื้องหลัง
สิ่งหนึ่งที่แน่นอนนั้นคือนักรบของจักรวรรดิพอลลอส
เอาใจใส่คำพูดของเขา
นักรบดำเนินการอย่างลับๆ
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ห่างไกลตามคำสั่งของเขา
บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมนักรบที่ดีที่สุดมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ]
ตริ้ง!
- คุณได้พบความจริงที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของทวีป
การค้นพบที่มีค่านี้ ความรู้เพิ่มขึ้น
5 และปัญญาเพิ่มขึ้น 2
การรวบรวมเบาะแสอย่างน้อย 2 สิ่ง เป็นสิ่งจำเป็นในการทำภารกิจนี้
คุณสามารถเริ่มต้นภารกิจ ‘สมบัติที่ซ่อนเร้นของผู้ปกครองแห่งทะเลทราย’
|
ดวงตาของไอรีนเริ่มเปล่งประกาย
“นี่คืออะไร?”
เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆของเธอก็เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้
แมแพนไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา
“นี่เป็นโปรเจคที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด
และมีเพียงเราเท่านั้นที่สามารถทำงานนี้ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงินของวีดโดยตรง”
“...... !”
กระเป๋าเงินของวีด! ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายเมื่อได้ยินคำนั้น
“แล้วอะไรที่เราจำเป็นต้องทำล่ะ”
“ผมรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับจักรวรรดิพอลลอส
จากหอสมุด”
วีดส่งเอกสารเข้ารหัสให้กับแมแพนผ่านทางอีเมล์
รหัสผ่านเป็นคำที่เชื่อมโยงกับ การตายอย่างมีความสุข ความฝัน ความหวัง และโลกทั้งใบ
อย่างไรก็ตามมันยากสำหรับแมแพนในการค้นหารหัสผ่าน
ซึ่งรหัสผ่านก็คือ ‘โกดังเงิน’
เรื่อง: ถ้าหากนายต้องการหาเงินก้อนโตๆ...
หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับจักรวรรดิพอลลอสในหอสมุดแล้ว
บางแห่งในแดนเหนือนั้นจะมีงานที่น่ากลัวอยู่ นั่นคือการขุดค้นหาขุมทรัพย์
ฉันไม่สามารถทิ้งงานนี้ให้กับคนอื่นได้
ดังนั้นนายจะเป็นคนแรกที่ได้สิทธินั้นไปก่อน
ดวงตาของฮวารยองเปล่งประกายหลังจากอ่านหนังสือเล่มเล็ก
“ถ้าอย่างนั้นวีด ก็ได้ซ่อนสมบัติของจักรวรรดิพอลลอสไว้ที่ใดที่หนึ่งในแดนเหนือ”
“ใช่ ถูกต้องแล้ว วีดไม่มีเวลานำสมบัติโดยตรงไปทางเหนือ
ดังนั้นก่อนที่เขาจะออกเดินทางไปทำภารกิจ เขาจึงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฝังสมบัติในแดนเหนือ”
“...... !”
จักรวรรดิพอลลอสได้ดำเนินการอย่างแข็งขัน
ในการพิชิตสงคราม นอกจากนี้ยังมีมหาจักรพรรดิวีด ความมั่งคั่งมากมายที่ปล้นมาได้แล้วถูกฝังอยู่ที่ใดที่หนึ่งในภาคเหนือ
แมแพนอธิบายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
“มันจะง่ายมากถ้าวีดระบุสถานที่หรือภูมิประเทศที่มันถูกฝัง
แต่มันจะยากเพราะประการแรกในเวลานั้นจักรวรรดินิฟเฟลเฮล์มมีตัวตนอยู่ทางเหนือ
หากมีผู้พบเห็น นั่นจะทำให้คุณวีดมีความเสี่ยงที่ไม่แน่นอนในอนาคต จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ตั้งกฎสำหรับลูกน้องของเขาในการซ่อนสมบัติ
และมันก็มีความเสี่ยงที่ภารกิจจะเกิดขึ้น แล้วเอื้อประโยชน์ให้กับผู้อื่น”
ทางกลุ่มไม่มีใครฟังแมแพนอีกแล้ว
จินตนาการของเพลเตลิดไปไกลแล้ว
‘ธนูที่ดีที่สุดและกระบอกใส่ลูกธนู’
เบลล็อตก็หวังไว้มากเช่นกัน
‘เสื้อผ้าและเครื่องเพชรพลอยในยุคนั้น
มันสวยมากในวิดีโอ ดังนั้นฉันอยากได้มัน ‘
ฮวารยองถูกดูดกลืนไปเรียบร้อยแล้วในการรวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับเข้าด้วยกัน
‘ฉันจะใส่อะไรดี? กระโปรงสั้นของเผ่าทะเลทรายจะเหมาะกับฉันมั้ยนะ’
ทุกคนจะเต็มไปด้วยความโลภ ในความคิดที่จะค้นหาจักรวรรดิพอลลอส
โรมุน่าก็กระโดดโลดเต้น
“เราควรมุ่งไปที่ไหน? ตอนนี้เราต้องรีบออกเดินทางโดยเร็ว!”
--------------------------------------
ความพ่ายแพ้ที่ช่องเขาโรปแคน
การทำลายหมู่บ้านแรนชิโอ้
ความเสียหายทำให้ไม่สามารถฟื้นฟูได้
ทะเลเพลิงบนที่ราบโซแนค
ยุ้งฉางแห่งราชอาณาจักรอาร์เพน ถูกปล้น
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ จีโอ้แบรนด์
ถูกทำให้เสียหาย
สถานที่ก่อสร้างของสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เดลนิส
ถูกทำลาย
ผู้เล่นทางภาคเหนือ หรือที่เรียกว่ากองกำลังทางเหนือถูกส่งกลับโดยกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
ผู้เล่นทางเหนือพยายามที่จะหยุดพวกเขา แต่ถูตีแตกและเมืองก็ถูกทำลายอย่างยับเยิน
มีแต่ความพ่ายแพ้ พ่ายแพ้ พ่ายแพ้
และก็พ่ายแพ้!
สถานีรอยัลโร้ดได้อัพเดททุกวัน
นี่คือช่วงเวลาที่ร้อนแรงที่สุดที่ผู้ชมให้ความสนใจกับรอยัลโร้ด ความสนใจพุงสูงกว่าพนักงานที่ทำงานในช่วงเทศกาลวันหยุด
หรือนักเรียนกับเทศกาลวันหยุด
“อย่างที่คาดไว้อาณาจักรฮาเว่น เป็นที่ที่ดีที่สุด”
ยู บยอง-จิน ดูการออกอากาศของรอยัลโร้ด ทางโทรทัศน์ เขาสามารถดูได้บนหน้าจอAI
เขาต้องการฟังความคิดของนักวิจารณ์และผู้ชม
“ทางเหนือยังคงพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง
และอาณาจักรฮาเว่นก็มีพลังมากพอที่จะเรียกว่าอยู่ยงคงกระพันก็ได้”
“จักรพรรดิบาร์ดเรย์และทหารองครักษ์ของเขายังไม่ได้เข้าร่วมสงคราม
ดังนั้นดูเหมือนว่าอาณาจักรฮาเว่นจะสนใจในการรวมทวีป”
“พวกเขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดในการทำสงครามต่อต้านกองกำลังพันธมิตร
อะไรคือจุดจบของขีดความสามารถของอาณาจักรฮาเว่น?”
“วิกฤติครั้งนี้ยากที่จะคาดคะเนและฉันสงสัยว่าเทพสงครามวีด
จะสามารถเอาชนะได้จริงๆเมื่อเขากลับมา”
“ภารกิจของวีด มันใกล้จะมาถึงทางแยกที่สำคัญแล้ว
ขณะที่ถ้าดูเหมือนว่าอาณาจักรฮาเว่นจะชนะทางเหนือนอกจากว่ามีเหตุการณ์ที่ใหญ่บางอย่างเกิดขึ้น”
“คุณสามารถเรียกวีดได้ว่าเป็นมาสเตอร์ด้านการผจญภัย
ความสำเร็จส่วนใหญ่ของเขาได้รับในการผจญภัยมากกว่าสงคราม เขาต่อสู้กับกองทัพอมตะ แต่นั่นก็ยังอยู่ในภารกิจ
แม้ว่าเขาจะอยู่ในช่วงวิกฤตในการผจญภัย เขาก็ยังมีตัวตนในฐานะราชาอยู่ อ้าห์!บางทีเขาอาจจะยอมแพ้ในอาณาจักรของเขาแล้วก็ได้ เมื่อมองสถานการณ์นี้แล้ว อาจเรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด”
นักวิจารณ์และผู้ประกาศข่าวรอ วีด พร้อมกับคร่ำครวญถึงการทำลายทางภาคเหนือ
กระดานข่าวที่เกี่ยวข้องกับรอยัลโร้ดเต็มไปด้วยโพสกล่าวหากิลด์เฮอร์มีส แต่ด้วยความพ่ายแพ้ซ้ำๆในการต่อสู้
เสียงวิจารณ์ทั้งหมดก็กลายเป็นแง่ร้ายมากขึ้น
แม้แต่ยู บยอง-จินก็มองเห็นกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
ว่ามีพลังมากกว่าทางเหนือถึง 4 เท่า จำนวนผู้เล่นที่อยู่ทางเหนือนั้นมากกว่าก็จริง
แต่อาวุธของพวกเขายังไม่เพียงพอ
การก่อตัวของกองทัพ ความสมดุลโดยรวม
ประสบการณ์ และทักษะผู้บังคับบัญชา กองกำลังที่หลากหลาย และความสามารถทางกลยุทธ์ ล้วนเหนือกว่า
องค์ประกอบทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามถูกรวมเข้าด้วยกัน
ทำให้ทางเหนือนั้นไร้หนทาง
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะมีมูลค่าของตัวเลขเข้ามาเกี่ยว
สถานการณ์จึงได้รับการสรุปออกแล้ว
อาณาจักรฮาเว่นยังมีช่างตีเหล็กคนแคระเป็นจำนวนมากที่สร้างอุปกรณ์อย่างลูกศรและมีดสั้น
หลังจากการรวมทวีปกลางแล้วอาณาจักรฮาเว่นก็ไม่ได้ขี้เกียจ แต่กลับมาบุกทางเหนือแทน
การรวบรวมผู้เริ่มต้นแบบง่ายๆ
ไม่มีความหมายอะไรเลย สงครามระหว่างกองกำลังทางเหนือกับอาณาจักรฮาเว่น เปรียบเหมือนประชาชนทั่วไปที่ต่อสู้กับกองรถม้าศึก
ผู้เล่นเลเวล 400 ของอาณาจักรฮาเว่น
คุยโม้ว่าพวกเขาได้ฆ่าผู้เล่นไปนับพันคน
“อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่พ่ายแพ้
ดังนั้นพวกเขายังจะรอวีดอยู่หรือ? พวกเขาไม่กลัวที่จะตาย และสาบานว่าจะแก้แค้น
มีมนุษย์แปลกๆ มากมายจริงๆ”
นักวิจารณ์และผู้ชมต่างก็บอกว่ามันคงเป็นเรื่องยากสำหรับทางเหนือ
แต่พวกเขาก็ยังคาดหวังในใจ ดวงตาทั้งหมดที่มุ่งเน้นไปที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นทางเหนือ
และรอให้วีดกลับมา
ยู บยอง-จิน รู้สึกงุนงง เมื่อรู้ว่าผู้คนคิดว่าวีดสามารถหยุดอาณาจักรฮาเว่นได้
“คราวนี้แหละมันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน
มันไม่สมเหตุสมผลเลย”
- คุณต้องการให้ฉันคำนวณความน่าจะเป็นในการชนะถ้าวีดเป็นผู้นำทัพแดนเหนือหรือไม่?
“ไม่ ฉันเข้าใจแล้ว”
แม้ว่าสมองของเขาจะไม่แน่ใจ
แต่หัวใจของเขาก็ดูเหมือนจะมีความเชื่อที่แตกต่าง
“นี่คือความศรัทธา? ฉันจะเชื่อได้หรือเปล่าว่าเขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้”
ยู บยอง-จินหยุดดูโทรทัศน์ที่แสดงสงครามในภาคเหนือ
ผู้เล่นถูกสังหารหมู่ทุกวันโดยอาณาจักรฮาเว่น ในขณะที่เมืองถูกเปลี่ยนเป็นซากปรักหักพัง
แต่เขาสนใจการผจญภัยของวีด กับลัทธิเอ็มบินยูที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้ามากกว่า
“วีดกำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากอีกครั้ง”
โดยปกติแล้วคนทั่วไปจะประสบกับเหตุการณ์ที่โชคร้ายเพียงบางส่วนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามวีดก็สามารถเติบโตได้ในขณะที่ได้รับโอกาสทั้งหมดนี้
ยู บยอง-จินรู้อยู่แล้วว่าการผจญภัยของโนดุลพัฒนาขึ้นในอดีตได้อย่างไร
โนดุลและสหายของเขากระจัดกระจายหลังจากเดินทางมาถึงซากปรักหักพังบาเรน
“นี่คือ…พลังศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญนำข้ามาที่นี่
สหายของข้าอาจจะสับสน ดังนั้นข้าต้องพบพวกเขาโดยเร็วที่สุด”
อย่างแรกโนดุลเดินไปรอบๆ
เพื่อตามหาเพื่อนร่วมทีมของเขา โชคดีที่เขาพบกับลูเฮลลุน และเบรวินสัน และพวกเขาแอบเข้าไปในวิหารเอ็มบินยู
แน่นอนว่ามันเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้
เนื่องจากภูมิประเทศที่ยากลำบากและพวกมอนสเตอร์
แต่พวกมันต่อสู้ตลอดทั้งคืนและบุกเข้าไปข้างใน เป็นผลทำให้เบรวินสันพบกับความตาย!
โนดุลถูกจับและติดอยู่ในคุกเพื่อเป็นเครื่องสังเวย
ขณะที่ลูเฮลลุนเกือบจะหนีไปไม่รอด
“นี่แค่ก่อนพิธีกรรมสำคัญ
มังกรจะกินแกเมื่อมันตื่นขึ้นมา”
โนดุลถูกกำหนดให้เป็นเครื่องสังเวยในตอนเย็นให้กับมังกรแห่งกลียุค
นักรบในสมัยโบราณที่ไม่รู้จักโลกของการให้อภัย
ทำให้ความอาจหาญของเขาจึงอยู่บนขอบแห่งความตาย!
แต่พลังใหม่นั้นทำให้เขาสามารถหลบหนีได้สำเร็จ
บาบาร์เรี่ยนและมนุษย์คนอื่นๆ
ที่อยู่ในคุกได้ยินเรื่องราวจากโนดุล ในการสังเวยชีวิตของพวกเขา จึงยอมให้โนดุลหลบหนี
พวกทาสที่หลบหนีไปนั้นก็สร้างความโกลาหลไปทั้งเรือนจำ
“ข้าแบกเลือดเนื้อของผู้คนเอาไว้บนบ่า
นี่คือเป้าหมายของพวกเขา…ข้าจะหยุดพวกมัน”
โนดุล แหกคุกออกมาและพบว่าเฮสไทเกอร์และอาเฮลลุน
ต่อสู้กับอัศวินของศัตรู
“ท่านมาที่นี่ได้ไง….?”
“ท่านโอเคไหม?”
“ไม่มีเวลามาคุยแล้ว มังกรแห่งกลียุคจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในคืนนี้”
“ไปหยุดมันกันเถอะ ยังพอมีเวลา”
พวกเขาเดินเล็ดรอดผ่านผู้ไล่ล่าและแทรกซึมเข้าไปในส่วนลึกด้านใน
หอคอยแห่งท้องฟ้าเสร็จสมบูรณ์แล้วและมังกรแห่งกลียุคก็ใกล้จะตื่นขึ้น
ดังนั้นความปลอดภัยของลัทธิเอ็มบินยูก็ค่อนข้างหละหลวม และเมื่อพวกเขาเข้าไปในส่วนลึก
พวกเขาค้นพบสถานที่ที่สร้างโดยลัทธิเอ็มบินยูที่เต็มไปด้วยพิษจำนวนมหาศาล
มันจะสร้างมลพิษให้กับแม่น้ำและทะเลสาบมากจนไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่นั่น
โนดุลตกใจเมื่อได้เห็น
“มันถูกเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้อย่างไง….?”
“ดีจัง เราสามารถทำให้ทหารยามในด่านสำคัญกินพิษนี้ได้”
“เฮสไทเกอร์ นายกำลังพูดอะไรน่ะ!”
“ข้ามั่นใจแล้วว่าพวกชั่วร้ายไม่สามารถไปลึกกว่านี้ได้
หากเราไม่หยุดพวกมัน พวกมันก็จะเป็นภัยร้ายกับทวีปนี้”
“อืมมมมม!”
ในขณะที่วีด เก็บเงินจากถนนใน 0.1 วินาที เฮสไทเกอร์ จะทนทุกข์ทรมานมากกว่า 2 ชั่วโมง
เขาจะทนทุกข์ทรมานหลังจากได้ยินคำแนะนำของเฮสไทเกอร์และอาเฮลลุน เพื่อทำร้ายผู้คนด้วยพิษ
“มาทำกันเถอะ
แม้ว่าเราจะลงเอยด้วยการตกนรก ... เพื่อความสุขของโลกใบนี้!”
และสาวกผู้คลั่งลัทธิและมอนสเตอร์ก็กินอาหารที่มีพิษ
ในคืนนั้นพิธีปลุกมังกรแห่งกลียุคเริ่มขึ้น
สาวกผู้คลั่งนับหมื่นในลัทธิกินอาหารที่เป็นพิษและได้ตายลง
“ดื่มเลือดที่พระเจ้าเอ็มบินยูประทานให้เรา!”
“ขอบคุณสำหรับพรแห่งการทำลายล้าง”
สาวกผู้คลั่งลัทธิดื่มในเวลาเดียวกัน
พิษที่บริสุทธิ์สูงทำให้สาวกผู้คลั่งลัทธิ และมอนสเตอร์หลอมละลาย
โนดุลและเพื่อนร่วมทีมของเขาก็กลับไปที่คุกและช่วยเผ่าพันธุ์อื่นๆ
เวลามันกระชั้นชิดเพื่อหยุดพิธีกรรมของมังกรแห่งกลียุค แต่พวกเขาจำเป็นต้องช่วยผู้ที่ถูกจับไว้
คนที่เป็นอิสระตัดสินใจเข้าร่วมโนดุลเพื่อต่อสู้
“ข้าอัศวินแวคเนอร์แห่งอาณาจักรเคลตัน
ข้ายินดีที่จะมอบชีวิตให้ท่าน”
“มันเป็นเกียรติ ที่เราจะได้ร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน”
ผู้เป็นนักรบมักจะนำพาสิ่งที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญและความชอบธรรม
เป็นผลให้โนดุลได้เป็นผู้นำกองกำลังนับพันหลังจากออกมาจากคุก และหลังจากที่ลูเฮลลุนหนีไปก่อนหน้านี้
ก็ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาวิกฤติเพื่อขัดจังหวะพิธีล้างสมองของมังกรแห่งกลียุค
เขาแทงตามังกรแห่งกลียุคด้วยกริช
นักบวชชั้นสูงเฮลเลอร์ โจมตีด้วยความโกรธและ ลูเฮลลุนก็ตายพร้อมกับยิ้มหัวเราะ
-ข้าตื่นแล้ว อาห์ หัวข้า…มันเจ็บ หัวข้าดูเหมือนจะแตกนะ
มังกรแห่งกลียุค ได้ตื่นจากการหลับใหล!
เดิมทีลัทธิเอ็มบินยู วางแผนที่จะควบคุมวิญญาณของมังกร
แต่ตอนนี้พวกเขาถูกทำลายโดยมัน มันจะเกิดผลกระทบอย่างมหาศาลกว่านี้เป็น 10 เท่า จากหายนะของวีด
หอคอยแห่งท้องฟ้าไม่สามารถต้านทานร่างของมังกรได้และมันก็ล้มลง
โนดุล,
อาเฮลลุน และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ของเขารวมกันต่อสู้กับสาวกของลัทธิเอ็มบินยู
“การพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์,
ดาบแห่งการสำนึกผิดของพระเจ้า และอเวจีมหานรก!”
เวทมนตร์อันศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญอาเฮลลุน!
นักบวชของลัทธิเอ็มบินยูกลายเป็นแสงสีเทาและหายไป พวกอัศวินไม่สามารถแสดงความสามารถครึ่งหนึ่งของพวกเขาได้
เนื่องจากพรได้หายไปเหมือนฝุ่น
มังกรแห่งกลียุคโจมตีทุกสิ่งรอบตัวอย่างบ้าคลั่ง
ลมหายใจของมังกรระเบิดไปทุกที่! มันเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ สาวกคลั่งลัทธิเอ็มบินยูมากกว่า
100,000 คนละลายในพริบตา
ความจริงแล้ว มังกรออสโซเล็ทแต่เดิมนั้นถูกล้างสมองโดยการกดขี่
แต่ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกทำให้เขาโจมตีสิ่งมีชีวิตรอบตัวเขาอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น
อาเฮลลุน กางเวทย์ไว้รอบตัวมังกรและพูดว่า
“ข้าจับเขาไม่ได้นานหรอกนะ
ดูเหมือนว่ามังกรจะบ้าไปแล้วจากการล้างสมอง”
มังกรจะทำลายลัทธิเอ็มบินยู แล้วก็จะทำลายโลก
การรุกรานจะทำลายความสงบสุข ดังนั้นจึงไม่แตกต่างจากลัทธิเอ็มยินยูเท่าไหร่
“ข้านำพาท่านมาที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าเวลาของเราจะสิ้นสุดลงตรงนี้”
“ท่านอาเฮลลุน ท่านพูออะไรน่ะ?”
“ข้าจะจับมังกรไว้
เขายังไม่ตื่นอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นข้าสามารถผนึกเขาด้วยพลังของพระเจ้า”
“แต่จะเป็นการสังเวยครั้งใหญ่เพื่อใช้พลังนั้น”
“ตราบใดที่พลังของมังกรยังไม่กลับมา
ก็ไม่มีอะไรจะสูญเสีย ฉันรู้สึกขอบคุณที่ฉันได้พบคนบริสุทธิ์เช่นนี้”
และอาเฮลลุน ได้ใช้พลังชีวิตของเขาเพื่อผนึกมังกรแห่งกลียุค
แล้วพวกเขาก็หายไปในทะเลแห่งความมืด
“แกเป็นผู้ร้ายสำหรับทุกสิ่ง ข้าจะฉีกจิตวิญญาณของข้าเพื่อหยุดยั้งลัทธิเอ็มบินยู!”
แม้ว่า มังกรแห่งกลียุค สลัดออกจากการล้างสมองได้
แต่มันก็สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง นักบวชชั้นสูงเฮลเลอร์
ยังคงแผ่พลังเวทย์ที่มหาศาลออกมา พลังเวทย์แห่งความมืด ก็เหมือนกับเวทย์มนตร์ไฟ ลมและน้ำ
ในรูปแบบขั้นสูงสุดนั่นคือการไหลพลังเวทย์ได้อย่างอิสระ นักบวชคนอื่นๆ ของลัทธิเอ็มบินยูก็แสดงทักษะของพวกเขาเช่นกัน
ในขณะที่พวกเขาสามารถจบเรื่องกับนักบวชชั้นสูงเฮลเลอร์
ทุกอย่างได้จบสิ้นแล้ว โนดุล และ เฮสไทเกอร์ ก็จ่ายราคาค่างวดด้วยความตาย
“ฉันรู้เรื่องนี้แต่มันก็ยากที่จะดึงออกจากความคิด
ว่าวีดจะประสบความสำเร็จจริงๆ หรือเปล่า?”
ยู บิยอง-จิน ยังสงสัยคาใจ
วีดยังไม่สามารถหยุดลัทธิเอ็มบิยูได้
แทนที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้อย่างจริงจังโดยมองหาเพื่อนร่วมทีมของเขา หรือได้รับกำลังเสริมจากนักโทษ
แต่ตอนนี้เขากำลังช่วยงานก่อสร้าง!
เขาเป็นกรรมกรทาสอย่างแท้จริงที่ปีนขึ้นไปบนยอดหอคอย
ทหารยามจะฟาดคนงานและพลังชีวิตก็จะลดลง บางทีแม้แต่เพื่อนร่วมทีมของเขาก็อาจถูกปราบไปแล้วก็ได้
อย่างไรก็ตามถ้าถึงกำหนดเวลาแล้ว เขาจะเห็นความตั้งใจของวีดในไม่ช้า
-----------------------------
วีดมีความกลัวที่จำฝังใจต่อความสูง
เมื่อบินโดยไวเวิร์น หรือปีนอาคารสูงเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างชัดเจน
“นี่เป็นงานกระจอกๆใช่มั้ย?”
เขาคิดอย่างนั้นทุกครั้งที่เขาปีนขึ้นและลงหอคอย
เพื่อสร้างความสูงของหอคอยขนาดใหญ่ ทาสนับหมื่นได้แบกหินจำนวนมหาศาล
มีการติดตั้งวงเวทย์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง และสนับสนุนโครงสร้างของการก่อสร้าง
แต่มันก็ดูบอบบาง
“ฉันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนที่พื้นที่ตรงนั้นดูหยาบไปเล็กน้อยเนื่องจากวัสดุมีการยักยอก
นี่เป็นอาคารดั้งเดิมหรือเปล่านะ”
วีดพยักหน้า ยังกับว่าเขาเชื่อในตัวเอง
“อย่างน้อยฝนก็ไม่ตก ดังนั้นฉันไม่สามารถยืนยันได้เลยว่ามันจะเป็นอย่างไรในสภาพอากาศที่เลวร้าย”
ตอนนี้ใบหน้าของเขาเริ่มจะคุ้นเคยพอที่จะแลกเปลี่ยนคำพูดที่เป็นมิตรกับทาสคนอื่นๆ
ที่นี่มีทาสหลายคนดังนั้นเขาจึงสามารถปรับก้าวย่างของเขาให้เข้ากับกลุ่มของพวกเขาได้
แน่นอนว่าเพื่อรับข้อมูลจากกลุ่มอื่นๆ
“คุณทำงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ข้าไม่รู้ ข้าถูกจับเมื่ออายุ 10 ปี”
“ครอบครัวของคุณล่ะ….”
“พวกเขาตายไปหมดแล้ว ภรรยาของข้าตายที่ชั้น
143 และลูกชายของข้าก็ตายที่ชั้น 169
พวกเขาเพิ่งขว้างศพออกไปนอกหน้าต่าง ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถฝังศพพวกเขาได้
พวกเขาอาจถูกพวกอีกากินไปแล้วก็ได้”
“...... .”
‘ฉันคิดว่าการตกแต่งแปลกไปหน่อยนะ…ถึงว่าทำไมถึงมีหน้าต่างในหอคอย’
บรรยากาศโดยรวมน่าหดหู่ เนื่องจากพวกทาสปีนบันไดเหมือนเครื่องจักรเพราะกลัวพวกผู้คุม
การเดินอย่างหนักแสดงให้เห็นถึงการฝ่าฟันและความเจ็บปวดในชีวิตของพวกเขา
วีดจินตนาการในโลกแห่งความฝัน คนที่อยู่ในอาณาจักรอาร์เพนจะมอบกองเงินและกองทองให้กษัตริย์อยู่อย่างสบายๆ
“ไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีเลยเหรอ?”
“หนีเหรอ? อย่าแม้แต่คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้เลยนะ
มอนสเตอร์ทุกตัวที่อยู่นอกหอคอยและเหมืองหิน จะเป็นกินเราเป็นอาหาร”
“แต่ถ้าทั้งกลุ่มหนีไปพวกเขาบางคนจะไม่รอดใช่มั้ย?”
“ไม่มีที่ที่จะให้ไปอีแล้ว แม้ว่าเราจะวิ่งหนีไป
ถ้าข้ากลับบ้านแล้ว ก็มีแค่กระดูกของคนตายเท่านั้น…. ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ไว้นะ
คนพวกนั้นมันกินดวงวิญญาณเหมือนกับกินเนื้อมนุษย์นั่นแหละ มอนสเตอร์บางตัวที่กินดวงวิญญาณจะได้รับใบหน้าของบุคคลนั้น
และข้าไม่ต้องการพบกับคนในชีวิตของข้า มันน่ากลัวใช่มั้ยล่ะ? ที่นี้คือนรก”
พวกทาสนั้นเต็มไปด้วยความกลัว วีดได้รับข้อมูลบางอย่างจากพวกทาส
แต่ส่วนใหญ่มันจะไร้ประโยชน์
“คนที่เป็นอิสระจากที่นี่เหรอ?
แน่นอนว่ามีบ้างนะ มีมากมายเลยล่ะ”
“ยังไง?”
“ที่นี่มีทางออกเดียว เชื่อในเอ็มบินยู”
“...... .”
“หากพวกเขายอมรับพระเจ้าแล้ว พวกเขาก็จะสามารถเป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานและจะมีชีวิตอมตะ”
ความลับของลัทธิคลั่ง!
ทาสที่ได้รับความทุกข์ทรมานในชีวิต และความตายจะทำให้ได้รับความสามารถที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อความเกลียดชัง
“แล้วทำไมคุณถึงไม่เชื่อในเอ็มบินยูล่ะ”
“เป็นเพราะข้ารู้ถึงความเจ็บปวดของพวกเขา
พลังเวทย์มนตร์จะเปลี่ยนข้า มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานอย่างมากต่อผู้อื่น
เพื่อให้ได้รับพลังชีวิตอันนิรันดร์ ข้าจะต้องสังเวยผู้คนอย่างเราๆ ... ข้าจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรในฐานะมนุษย์น่ะ”
เพื่อต่อสู้กับพวกมัน เขาจำเป็นต้องจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้รับ
‘ยิ่งความเจ็บปวดและความสับสนในโลกมากขึ้นเท่าไรลัทธิเอ็มบินยู
ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น’
วีดรอให้ค่ำคืนผ่านไป คืนที่มืดเป็นพิเศษทำให้ดวงจันทร์และดวงดาวดูสวยงามยิ่งขึ้น
เขาทำได้เพียงชื่นชมวิวของทางช้างเผือกจากหอคอย
ลัทธิเอ็มบินยู ไม่ได้สนใจที่จะชื่นชมท้องฟ้าที่สวยงาม
แต่กลับมีไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อพวกเขาสังเวยผู้คนและเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดดังขึ้น
การปีนขึ้นไปบนหอคอยนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกแม้จะมีท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงาม
ภาพที่สวยงามนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆในแสงไฟของเมืองที่ทันสมัย
มันเป็นวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้เมื่อย้ายออกจากความเจริญ
‘คงจะเป็นที่ยอดฮิต ถ้าฉันสามารถแสดงท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงามแห่งนี้ได้’
วีดมักมีส่วนร่วมกับทุกสิ่งเกี่ยวข้องกับเงิน!
ดังนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมาของเขาก็เป็นแบบนี้
------------------
“นอกเหนือจากสถานการณ์ของวีดแล้ว คนอื่นๆ
ล่ะ?”
-ตำแหน่งของพวกเขาจะปรากฏบนแผนที่และฉันจะถ่ายทอดสถานการณ์ของพวกเขาไปที่หน้าจอ
2-6
ยู บยอง-จิน มีAIการค้นหา และฉายภาพผู้ใต้บังคับบัญชาของวีด ข้อมูลนี้แม้แต่วีด หรือสถานีออกอากาศก็ไม่มีใครได้ล่วงรู้
ดังนั้นเขาจึงเป็นคนเดียวที่มีพิมพ์เขียวทั้งหมด
“ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ต้องอยู่ที่ไหนซักแห่งที่ตรงนั้น”
นักรบ-1 เคลื่อนตัวอย่างว่องไวด้วยหนังมอนสเตอร์พันรอบตัวเขา หลังจากเดินทางมาถึงซากปรักหักพังบาเรน
นักรบทะเลทรายที่ยอดเยี่ยมก็สามารถหาที่หลบซ่อนได้
และหลังจากนั้นสองสามวันอยู่อย่างสงบนิ่งฟังและดูรอบๆ
เขาไม่เห็นเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ของเขา
เขาตัดสินใจที่จะบรรลุเป้าหมายเพียงลำพังก่อนที่มันจะสายเกินไป
หากมีสิ่งมีชีวิตหรือมอนสเตอร์อยู่ที่นั่น
ด้วยความทรหดอดทนและความดื้อรั้นของเขา ทำให้เขาสามารถรอสองสามชั่วโมงเพื่อให้มันออกไป
เขาจัดการข้ามแม่น้ำที่เน่าโดยห่อหนังมอนสเตอร์รอบใบหน้าและร่างกายของเขา แต่พิษจะทำให้เขาล่าช้า
แต่เขาก็เข้าไปอีกครั้งอย่างไม่หยุดหย่อน
หลังจากฟื้นพลังและความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาผ่านแนวหินไป
ก็พบว่ามีการลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องและหอสังเกตการณ์ ดังนั้นเขายังคงสังเกตการณ์จากระยะไกล
นักรบ-2 เดินไปรอบๆ หลังจากพบกับวีดที่จำแลงกาย กลับไปซ่อนตัวหลังจากเขาไม่พบใครเลย
“ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ทิ้งข้าไป
ท่านขอให้ข้าไปพบท่านที่นั่น ดังนั้นข้าจะต้องมุ่งไปก่อน”
เขาฆ่ามอนสเตอร์ในขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังสาขาของลัทธิเอ็มบินยู!
อัศวินชั้นยอดและนักบวชของลัทธิเอ็มบินยูถูกส่งมาจัดการ
“นักรบมนุษย์ แกทำได้แค่นี้เองเหรอ”
“แน่จริงก็เอาเลย เข้ามา!
นักรบทะเลทรายจะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอ!”
นักรบ-2 เข้ามาเผชิญหน้ากับศัตรู เขาควงดาบ(ซิมิทาร์)ที่มีเปลวเพลิงลุกโชน ซึ่งยาวกว่าดาบปกติเล็กน้อย
“ดาบเปลวเพลิง ดาบเพลิงฉับพลัน!”
ดาบเคลื่อนราวกับสายฟ้าในหมู่ทหารยาม
ซ็อคอ็อค!
พวกอัศวินมีการป้องกันการติดไฟที่ดีเยี่ยม
“กระแทกชน!”
นักรบ-2 กระโดดและเฉือนจากซ้ายไปขวา โล่และชุดเกราะถูกบดขยี้โดยการโจมตี
แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามพยายามที่จะบล็อกมัน การโจมตีติดต่อกันถึงสองสามครั้งจะฆ่าศัตรูได้
เขาเป่าศัตรูหลายคนออกไปทันที วิธีการต่อสู้ของเหล่าประติมากรรมสลักชีพคล้ายกับวีด
การโจมตีที่แข็งแกร่งและการโจมตีในวงกว้างที่มุ่งเป้าไปที่ศัตรู พวกมันอยู่ใกล้ชิดกับวีดและสไตล์การต่อสู้ของพวกมันก็คล้ายกับเขา
“เข้ามา! ข้าเป็นนักรบอหังการแห่งท้องทะเลทราย!”
นักรบทะเลทรายเลเวล 700 ทำให้อัศวินของเอ็มบินยู ร่วงลงเหมือนใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
พื้นดินเต็มไปด้วยเปลวเพลิง อัศวินมากกว่า 1,000 คนได้ถูกสังหาร
อย่างไรก็ตามเขาถูกล้อมรอบไปด้วยอัศวินและไม่มีทางจะหนีรอดไปได้เลย
“คุ คุ, แกมารนหาที่ตายเอง”
“แกน่าจะมาเร็วกว่านี้นะถ้าแกอยากจะตาย”
“ความแข็งแกร่งคือทั้งหมดที่แกรู้
ไอ้โง่ ข้าจะทำให้แกรู้ความเหนือกว่าของปัญญา “
หลังจากนั้น เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำสาปได้!
การเคลื่อนไหว พละกำลัง และพลังชีวิตของเขาถูกผนึกคำสาป
17 อย่างกระทบร่างกายของเขา ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอคงจะตายทันทีจากโรคลึกลับ
และเวทมนตร์แห่งความมืดทำให้รบกวนการวางไข่ของผีเสื้อกลางคืนในร่างกายของเขาที่พวกมันจะฟัก
ต้องขอบคุณสถานการณ์เหล่านี้ในที่สุด
นักรบ-2 จึงถูกบังคับให้คุกเข่า
“เราจะทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้?”
“เขาฆ่าสาวกของลัทธิเอ็มบิยู
ดังนั้นความเจ็บปวดนั่นจะถูกส่งไปยังจิตวิญญาณของเขา”
“ไม่ พระเจ้าเอ็มบินยู ถ่ายทอดความประสงค์อันสูงส่งของท่าน
ดังนั้นเขาจึงควรถูกสังเวยต่อมังกรเมื่อมันตื่นขึ้นมา”
“นั่นเป็นความคิดเห็นที่ดี
เราจะถวายเขาเป็นเครื่องบูชายัน”
นักรบ-2 ถูกโยนลงไปในคุกใต้ดิน
คุกแตกต่างจากโนดุล เล็กน้อยเนื่องจากมีโซ่ที่เต็มไปด้วยคำสาปรอบคอและแขนขาของเขา
กระดูกของเขาหักและแมลงเม่าเติบโตในร่างกายของเขา
เหตุผลนั้นก็คือลูกน้องของวีดแข็งแกร่งกว่าโนดุลแน่นอนว่าที่นั่นมีนักบวชในสังกัดลัทธิเอ็มบินยู
แต่ไม่มีใครเลยที่คิดจะรักษานักรบ-2 พลังชีวิตของเขาลดลงถึงจุดต่ำสุด
ดังนั้นเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน
“ทะ ท่าน…จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะมาช่วยข้า”
ในบรรดานักรบทะเลทราย นักรบ -3 มีพรสวรรค์ที่หลากหลายที่สุด
เขามีความสนใจในการลอบสังหารและปลอมตัว
เขาบังเอิญไปเจอสามอัศวินเอ็มบินยูกำลังลาดตระเวนและก็สวมเครื่องแบบของพวกมัน
“อืมม ข้าได้กลิ่นคาวเลือดใต้ชุดเกราะของอัศวิน
รูปทรงและรูปร่างไม่เตะตา”
นักรบเจ้าเล่ห์-3!
เขาต่อสู้กับมอนสเตอร์และถูกค้นพบโดยหน่วยสอดแนมของลัทธิเอ็มบินยู
“อัศวินกำลังต่อสู้ข้างเรา”
“ช่วยเขา.”
อัศวินเอ็มบินยู วิ่งไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ด้วยกันกับนักรบ-3 พวกเขาชนะอย่างง่ายดาย
“ขอบคุณที่ช่วยข้า”
“นั่นเป็นการเรียกอย่างสนิทสนม”
“ข้าเชื่อว่าเอ็มบินยูได้ส่งคุณมา
พระเจ้าที่ยอดเยี่ยม”
“ถูกตัอง เขาอาจไม่ได้รับการเรียกขานอย่างเป็นทางการว่าพระเจ้า
แต่นี่คือความสง่างามของเอ็มบินยู”
เลเวลของนักรบ-3นั้นทำให้เขาสามารถทำให้มอนสเตอร์ไร้ความสามารถได้อย่างง่ายดาย
ความสามารถในการขว้างมีดจากระยะ 40
เมตรนั้นโดดเด่นเป็นพิเศษและมีความสามารถในการเจาะทะลุเกราะ
อย่างไรก็ตามเขาแกล้งถูกมอนสเตอร์ผลักบ้างเพื่อที่เขาจะได้เข้าร่วมกับอัศวิน
วีดไม่เพียงแค่สอนนักรบทะเลทรายว่าจะต่อสู้อย่างไรเท่านั้น
ในบางครั้งเขาจะแสดงลูกเล่นตื้นๆออกมา!
ในอดีตวีดทำสิ่งนี้ได้คนเดียว แต่ตอนนี้นักรบ-3 กะลังทำตัวเหมือนวีด
- ในโลกนี้จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มีค่าควรแก่การชื่นชมและเขาก็เป็นเหมือนพ่อของฉัน
พฤติกรรมของเขาเพื่อความยุติธรรม
จากการชื่นชมไอดอลอย่างผิดๆ เขาได้เรียนรู้พฤติกรรมที่ไม่ดีมาด้วย!
ตอนนี้เขาได้แทรกซึมเข้าไปในเหล่าอัศวินเรียบร้อยแล้ว แต่เขาไม่ได้รับหน้าที่สำคัญและถูกทิ้งให้ลาดตระเวนอยู่ด้านนอก
นักบุญอาเฮลลุน
เขาจงใจถูกจับและปะปนไปกับหมู่เอลฟ์และมนุษย์ที่จะนำไปถวายเป็นอาหารให้กับมังกร
เฮสไทเกอร์ที่วีดไม่ชอบ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
เขาพบขบวนสินค้าของเอ็มบินยูที่ขนส่งซากควายเพื่อใช้เป็นอาหาร
เขาเจาะร่างควายและซ่อนตัวอยู่ข้างใน
“ทำไมรถม้าถึงดูแปลกๆ?”
“มอนสเตอร์โจมตีหรือเปล่า?”
“ไม่จำเป็นต้องกังวล นักบวชกำลังรออาหารอยู่
เราไปกันเถอะ”
เฮสไทเกอร์ย้ายก่อนที่ทหารพรานจะพบเขา
ตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ในครัว
“อุ้ยๆ มีคนอยู่ที่นี่….”
จากนั้นทาสหญิงพบเขา! เฮสไทเกอร์จับดาบ
แต่เขายกนิ้วไปยังริมฝีปากของเธอ
“อย่าแปลกใจ ข้ามาที่นี่เพื่อต่อสู้
แต่ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
“ท่านเป็นใคร?”
“ลัทธิเอ็มบินยู เป็นปรสิตที่ทำสิ่งเลวร้ายในโลกนี้
ข้ามาที่นี่เพื่อหยุดพวกมัน แน่นอนว่า เจ้าไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้….”
“ข้าเชื่อท่าน ท่านกำลังจะทำอะไร?
มันอันตรายเกินไป”
ทาสหญิงถูกความหล่อเหลาของเฮสไทเกอร์กระแทก
ต้องขอบคุณรูปลักษณ์และบรรยากาศของเขา ทำให้พวกเขาเชื่อมั่น 100%
“ข้าแค่รอสัญญาณจากท่านมหาจักรพรรดิเท่านั้น”
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะช่วยท่านเมื่อถึงเวลา”
คนสุดท้าย ซาฮับเป็นมาสเตอร์ด้านการแกะสลักและดาบ
ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“มีคนมากมายที่จะฆ่าเอแวน
…เธอจากไปนานเหลือเกิน ข้ามีชีวิตอยู่เป็นเวลานานก็จริงแต่ข้าคิดถึงเธอ
ด้วยความเสียใจเสมอ”
เขาเอาอารมณ์โกรธมาลงที่การกวาดล้างมอนสเตอร์ที่
ซากปรักหักพักบาเรนด้วยดาบของเขา รัศมีของดาบของเขาขยายออกไปเพื่อทำลายมอนสเตอร์หลายสิบตัว
พวกมันไม่มีพลังต่อต้าน!
แต่เดิมซาฮับนั้นแข็งแกร่งจากการเรียนรู้การแกะสลักและการใช้ดาบ
หลังจากเข้าสู่ช่วงสงครามเขาก็กลายเป็นผู้มากประสบการณ์ และเลเวลของเขาก็สูงขึ้น
เขาแค่ล่าเพื่อให้เลเวลของเขาใกล้เคียงกับวีด ความอัจฉริยะของเขาและการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบของเขาบางครั้งก็เพียงพอที่จะทำให้วีดป่วยได้
“อย่างหนึ่งก็คือ ข้าต้องการฆ่า
พวกมันมีหลายคน”
เขาสำรวจแนวของหินในขณะที่ค้นหาศัตรูและทำให้พวกเขาสงบลง
และในที่สุดเขาก็นอนใกล้กำแพง
“ข้าไม่รู้ มีศัตรูที่แข็งแกร่งมากเกินไป
เขาจะให้ข้ารู้ว่าต้องทำอะไร”
เขาตัดสินใจที่จะรอให้วีดลงมือก่อน
“ตอนนี้มันยากที่จะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ยู บยอง-จินจ้องไปที่จอภาพและพบว่ามันยากที่จะคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต
องค์ประกอบ ตำแหน่งปัจจุบัน และความสามารถแตกต่างจากกลุ่มของโนดุล
วีดและเพื่อนร่วมทีมของเขา เป็นปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินว่าภารกิจนี้สำเร็จหรือไม่
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะซ่อนตัวจากลัทธิเอ็มบินยูเป็นเวลานาน ดังนั้นพวกเขาอาจจะถูกฆ่าทีละคน
แต่ถึงกระนั้น วีดก็ยังคงได้รับการยกย่องอย่างน่าเชื่อถือจากผู้คุมที่หอคอย
จบ เล่ม 38 ตอนที่ 5
ผู้แปล :
Rastymay
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
Ahellun-อาเฮลลุน
Chakujel-ชัคคูเอล ชาคุเอล
Alhamd-ออร์แฮมด์
Hilderun-ฮิลเดรัน
Sururung-ชรริ้งง
devil Strang-ปีศาจสเตรนจ์
Pallos-พัลลอส พอลลอส
Kejan-เคแจน
Huhuhuk-ฮึ ฮึ ฮึค
Lucrud-ลูครัด
Rubkan-โรปแคน
Ranchio-แรนชิโอ้
Sonak-โซแนค
Jiobrande-จีโอ้แบรนด์
Delnis-เดลนิส
Yoo Byung-jin -ยู บิยอง-จิน
Nodulle-โนดุล
Luhellun-ลูเฮลลุน
Brevinsun-เบรวินสัน
Chaos Dragon-มังกรกลียุค
มังกรแห่งความโกลาหล
Ausollet-ออสโซเล็ท ชื่อของมังกร
Heuller-เฮลเลอร์
Great Emperor-มหาจักรพรรดิ
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
Scimitar-ดาบซิมิทาร์
ลักษณะดาบโค้งงอคมด้านเดียวดาบของชาวอาหรับ
Niflheim-นิฟเฟลเฮล์ม, นิฟเฮล์ม
ทีมโนดุล-โนดุล,
อาเฮลลุน, เอสไทเกอร์, ลูเฮลลุน และเบรวินสัน
ทีมวีด-วีด,นักรบ-1,
นักรบ-2, นักรบ-3, อาเฮลลุน, เฮสไทเกอร์และซาฮับ
ระดับทักษะ
Beginner-ขั้นต้น
-ขั้นกลาง
Advance-ขั้นสูง
Master-มาสเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญ
ปรมาจารย์
thank you so much thank you i love so much
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบ