เล่ม
37 ตอนที่ 4 : ใจกลางพายุ แปลโดย Chindanai
Y
“ฆ่า”
“ร่างนั้นจะต้องได้รับการลงทัณฑ์จากเอ็มบินยู
ส่งหน่วยทหารเหล็กไป”
“ตัดแขน ขา
และสับเลือดเนื้อให้ละเอียด”
เหล่าสาวกคลั่งตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
วีดไร้ซึ่งหนทางหลบหนี! มีเพียงสาวกแห่งวิหารเอ็มบินยูเท่านั้นที่อยู่ใกล้ๆและไม่สามารถมองเห็นกองทัพทะเลทรายได้เลย
นอกจากนี้ยังมีเหล่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังปิดกั้นเส้นทางสู่ป้อมปราการ และแน่นอน
ราชอาณาจักรมาปอนและเบเนอร์จะไม่ช่วยเขาแน่ๆ
“เยี่ยม, ที่มันอยู่เพียงกองทัพเดียวเท่านั้น”
แม้ว่าคนอื่นจะตื่นตระหนก, วีดเพียงแค่มองอย่างแปลกๆที่กองทัพเอ็มบินยู
สนามรบเต็มไปด้วยนักบวช
นักเวทย์ แม่มด และมอนสเตอร์ชั้นสูง ลักษณะที่เลวร้ายที่สุดของมอนสเตอร์คือ น้ำลายสีเขียวเข้มที่กำลังหยดอยู่
เอ็มบินยูได้ดัดแปลงมอนสเตอร์เพื่อให้พวกมันมีทักษะในการต่อสู้ที่หลากหลาย, มีความยืนหยุ่นสูงและสามารถแพร่เชื้อโรคได้ด้วย
พวกมันแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับสาวก แต่มันมีเพียง 1000 ตัวเท่านั้น
วีดถอนหายใจ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แค่มองสิ่งที่จะเกิดขึ้นในโลกนี้”
“……?”
“สาวกอาจเชื่อมั่นในเอ็มบินยูในสงครามครั้งนี้
แต่หลังจากนี้ราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่ถูกเรียกว่าราชอาณาจักรอาเพนจะถูกก่อตั้งขึ้น”
“……!”
การเปรียบเทียบว่าสิ่งไหนดีกว่ากัน!
ประชาชนชาวอาเพนกำลังทุกข์ทรมานจากความหิวโหยและความยากจน
จนกระทั่งกษัตริย์วีดได้มอบวัฒนธรรม การค้าและการผจญภัยแก่พวกเขา
ความเป็นจริง
ไม่จำเป็นต้องมีความจงรักภักดีเมื่อจัดการอาณาจักรอาเพน อย่างไรก็ตาม
ภาษีก็เพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆภายใต้ข้ออ้างต่างๆ มันเป็นช่วงเวลาที่สงบสุข
แต่ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจำเป็นต้องแข่งขันกับจักรวรรดิฮาเว่น
วีดรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เปรียบเทียบได้กับคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
เขาหวังว่าราชอาณาจักรจะปลอดภัยและเขาจะขึ้นภาษีภายหลัง หากจักรวรรดิฮาเว่นล่มสลายกะทันหันและภาษีที่เพิ่มขึ้นจากนั้นประชาชนชาวอาเพนจะได้กินมันฝรั่ง
มันหวาน และถั่วงอก
(เปรียบว่าถ้าฮาเว่นหายไป
ชาวอาเพ่นจะกินดีมีสุขมั้ง 555)
“อย่าไปฟังคนป่าเถื่อน”
“ร่างใหญ่ๆนั้นไม่เคารพต่อเอ็มบินยู”
สาวกถือดาบเล็กขณะที่ขู่เขา
นักบวชอาวุโสและมอนสเตอร์เตรียมที่จะโจมตีเขา อิกริกและโมตุลส์เพิ่งดูการต่อสู้ที่ป้อมปราการดูลมอร์
แต่ตอนนี้พวกเขามุ่งหน้าเข้าหาวีด รูปปั้นเอ็มบินยูสวมสร้อยคอสีม่วงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
แม่มดพับปีกและข่มขู่เหมือนกับงูแลบลิ้น พวกเขาเป็นคนที่ฉลาด
ดังนั้นพวกเขาจะไม่โจมตีก่อน
การต่อสู้ต่อภายใต้สถานการณ์เป็นรองเป็นสิ่งที่ยากมาก
มีศัตรูที่มากเกินไป จนวีดไม่รู้ว่าเขาจะต่อต้านศัตรูเหล่านี้ได้อีกนานแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม
วีดไม่เคยเสียความมีเหตุผล เมื่อเขาเข้าในดินแดนของศัตรู
แทนที่จะต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่มีความเสียหายน้อยที่สุด, เขาได้ต่อสู้อย่างประมาท
นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทั้งหมด
ชื่อของแผนการนี้คือ หนูจนตรอก!(Dead Rat)
“แม้แต่หนูก็สามารถกัดสวนได้เมื่อถูกต้อนด้วยแมว”
เพื่อให้แผนการของเขาประสบความสำเร็จ
เขาจำเป็นต้องอยู่ในกลางดงเหล่าศัตรู มันมีความเสี่ยง แต่มันเป็นหนทางที่ดีสี่สุดที่ทักษะประติมากรรมของวีดแสดงผลได้ดีขึ้น
“มาตายด้วยกันเถอะ แกควรพยายามเอาตัวรอดบนท้องฟ้านะ”
วีดหยิบประติมากรรมออกมา
มันเป็นรูปปั้นที่แบนและประหลาด ลมกรดที่หนากำลังเคลื่อนที่ ขณะที่ฝนตกจากท้องฟ้า
พื้นดินมีรอยแตกร้าว มันเป็นผลงานที่แสดงถึงภัยพิบัติที่ซับซ้อน
มันดูอันตรายมากกว่าเวทมนต์ธาตุลมที่อันเดรแห่งอาณาจักรเบเนอร์เคยใช้
เวทมนตร์จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่จำกัดและสามารถควบคุมได้อย่างพอดี
อย่างไรก็ตาม ความหลากหลายของภัยพิบัติทำให้ยากต่อการคาดการณ์ นอกจากนี้
เวทมนตร์ธาตุลมเป็นภัยพิบัติที่อ่อนแอที่สุด อังเดรที่เป็นปรมาจารย์ธาตุลมแต่เวทย์ของเขาต้องใช้มานา
ผลลัพธ์คือมันสามารถใช้ร่วมกับการร่ายเวทย์ได้สำเร็จและมีความปลอดภัย
ในทางตรงกันข้าม
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติขึ้นอยู่กับค่าสถานะศิลปะและความสัมพันธ์ทางธรรมชาติ
รวมถึงประติมากรรมที่เหมาะสม! วีดมีศิลปะชั้นเลิศและความใกล้ชิดทางธรรมชาติที่น่าพอใจ
ดังนั้นเขาจึงสามารถสร้างภัยพิบัติที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
“ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ”
ประติมากรรมระดับมาสเตอร์พีซ
ภัยพิบัติที่น่ากลัวนี้สามารถฆ่าท่านได้
ดังนั้น
ท่านต้องการใช้ทักษะหรือไม่
|
“มาดูกันว่าใครจะฆ่าชั้นได้”
คุณใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ
ค่าสถานะศิลปะหายไปอย่างถาวร
20
ค่าพลังชีวิตและมานาถูกใช้ไปอย่างละ
20,000
ทุกค่าสถานะลดลงไป
15%
เป็นเวลา 3 วัน
ค่าใกล้ชิดทางธรรมชาติลดลง
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติสามารถใช้ได้วันละหนึ่งครั้ง
เมื่อมีการเรียกมหาภัยพิบัติ, ชื่อเสียงหรือชื่อเสียจะเพิ่มขึ้นตามค่าความเสียหาย
มันเป็นไปได้ที่จะตายท่านกลางภัยพิบัติ
ดังนั้นจงระวัง
|
“จับเขา”
เหล่ามอนสเตอร์และสาวกคลั่งเริ่มทำการโจมตีหลังจากที่วีดเรียกภัยพิบัติ
“โลกนี้ถึงวาระแล้ว
กำจัดภาพลวงตาที่พวกเขาหยุดเราได้”
“เขาหลบหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน”
วีดเหวี่ยงดาบผลาญโลกาใส่ศัตรูที่เข้ามา
เหล่าอัศวินและสาวกคลั่งเหมือนการรับมือกับเด็กทารก แต่มอนสเตอร์ต้องโจมตีหลายครั้งเพื่อฆ่าพวกมัน
พวกมันมีพลังชีวิตที่สูงและการอวยพรจากเอ็มบินยู
นั้นหมายความว่าพวกมันจะไม่ตายลงอย่างรวดเร็วในการต่อสู้
เขาใช้พลังแห่งไฟเพื่อเผาเลือดเนื้อให้หมดอย่างสมบูรณ์
ขณะเดียวกัน
เหล่าอัศวินและนักบวชแห่งความโหดร้ายถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว ยกเว้น โมตุลส์ อีกรีก
และ เปเซ็ท และศัตรูที่เหล่าอยู่ล้อมรอบวีดเพื่อไม่ให้เขาหลบหนีได้
คำสาปเลือด
-พลังงานที่ไม่รู้จักเข้าสู่ร่างกายของท่าน
-เมื่อใดก็ตามที่เลือดไหล พลังชีวิตจะเพิ่มขึ้นช้าลงจากปกติ
|
เขตแดนทมิฬแห่งความเกลียดชัง
-ประกาศิตเขตแดนแห่งความมืด
-กลิ่นอายแห่งความมืดจะจำกัดความเคลื่อนไหวและความต้านทานของท่าน
-เวทมนตร์คำสาปจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
|
ร่างกายที่เหี่ยวเฉา
-ความแข็งแกร่งและความอึดลดลง 14%
-การเคลื่อนไหวช้าลง
-พลังคำสาปทำให้ ”พลังแห่งนักรบผู้กล้าหาญ” อ่อนแอลง
|
ระบุจุดอ่อน!
-ท่านได้ตกเป็นเหยื่อของเวทมนตร์การลงทัณฑ์ของนักบวช
-ตรงกลางหน้าอกจะอ่อนแอและมีจุดสีแดงปรากฏขึ้นเพื่อล่อศัตรู
-ท่านจะถูกโจมตีแรงขึ้น 15 เท่า
-ดาบผลาญโลกาช่วยเพิ่มความต้านทานต่อเวทมนตร์คำสาป
แต่มันไม่ได้ป้องกันอย่างสมบูรณ์
-ผลกระทบจากคำสาปลดลง 64 %
|
คำสาปมากมายตกใส่ตัวเขา
เขากำลังยุ่งกับการสู้กับศัตรูข้างหน้า
นั้นทำให้เขาไม่ได้ตรวจสอบคำสาปที่อยู่ในร่างกายของเขา
นักบวชแห่งความมืดเลือกคำสาปที่ทำให้อ่อนแอมากกว่าเวทมนตร์โจมตี
วีดมีไอเท็มที่ช่วยต่อต้านคำสาปพื้นฐาน แต่นักบวชก็พยายามใช้ต่อไป
“เราสัญญาว่าจะอุทิศเลือดและชีวิตแด่เอ็มบินยู
ความเจ็บปวดที่ถูกลืม!”
การสังเวยชีวิตหมายถึงเวทมนตร์ที่มีความรุนแรงสูง
วีดรู้สึกว่าสภาพการต่อสู้ของเขาแย่ลงอย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนไหวของเขาถูกเปลี่ยนจากชายหนุ่มเป็นผู้สูงอายุ
ทักษะการเอาตัวรอดของคนเถื่อนและอัตราการฟื้นฟูลดลงไปอย่างมาก
สิ่งที่น่ากลัวอย่างหนึ่งคือนักบวชได้อวยพรแก่เหล่าสาวกคลั่งและมอนสเตอร์ด้วยเช่นกัน
เวทมนตร์ของเอ็มบินยูสามารถเปลี่ยนศักยภาพของสิ่งมีชีวิต
แต่ผลข้างเคียงคือมันจะมีเวลาเพียงแค่ 10 นาที่และอาจเสียชีวิตได้
แต่พวกมันจะกลายเป็นบอสระดับสูง
เลเวลของอัศวินแห่งความมืดและอัศวินแห่งความโหดร้ายถูกเปลี่ยน
มอนสเตอร์ระดับบอสที่แข็งแกร่งอยู่แล้วถูกทำให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!
“ฉันแนะนำให้แกสู้กับฉัน
ฉันจะกำจัดแกออกไป”
วีดใช้ดาบผลาญโลกาท่ามกลางศัตรู
คำสาปมีผลต่อพลังชีวิตและพละกำลังของเขาถูกลบและนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
มันเป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุด แต่เขาก็ท้าทายศัตรูด้วยความมั่นใจ
เปลวเพลิงแผ่กว้างออกไปหลาย 10
เมตรด้วยการควงดาบเผาผลาญทุกครั้ง
เขาเข้าใกล้นักบวชและอัศวินแห่งความโหดร้ายมากขึ้น
พวกมันไม่ยอมลดการป้องกันลง แต่มันกำลังช่วย อีกรีกและโมตุลส์ ในการทำพิธีเพื่อเพิ่มพลังศักดิ์สิทธ์ของพวกเขา
ท่าทีแห่งการรอคอยจนกว่าพิธีเสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม
ศัตรูที่ยังมีรอดชีวิตโจมตีเขาอย่างต่อเนื่อง
วีดไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ คนเถื่อนมีร่างกายที่ใหญ่กับการโจมตีที่แข็งแกร่ง
แต่ขนาดตัวทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงกำปั้นเล็กๆจากคนแคระได้
แม้กระทั่งคนเถื่อนยังมีศัตรูตามธรรมชาติ
พลังชีวิตเหลือ
51%
|
“เอ็มบินยูไม่มีอะไรดีเลย
ไม่มีใครสักคนหยุดฉันได้!”
วีดตะโกนอย่างเสียงดัง
“คนป่าเถื่อนนี่ช่างบังอาจยิ่งนัก”
นักบวชแห่งวิหารเอ็มบินยูอดไม่ได้ที่จะยกย่องความกล้าหาญของศัตรู
“เจ้าเป็นคนเดียวที่หยุดพวกเราได้ตอนนี้
โลกจะถูกทำลายหลังจากเจ้าตาย”
“ฉันจะปกป้องทวีปจากวิหารอ็มบินยู
ในฐานะตัวแทนของเอลฟ์ ออร์ค มนุษย์ และทุกเผ่าพันธุ์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้”
วีดมอบคำตอบที่หยาบคายต่อคำพูดของนักบวช
เขาเคยดูภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่พระเอกเผชิญหน้ากับศัตรู
เขาหัวเราะกับการคำพูดที่น่าอับอายของพระเอก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเท่
แต่วันนี้มาถึงคิวของเขาแล้ว
‘หากนี้มีการออกอากาศ
ฉันจะเป็นไอดอลแก่นักเรียนชั้นอนุบาลและประถมทุกโรงเรียน’
รอยัล
โร้ด ไม่ได้แค่เป็นที่นิยมที่เกาหลีแต่มันนิยมทั้งโลก กล่าวอีกนัยๆว่า วีดจะเป็นไอดอลของเด็กๆทั่วโลก
นี่เป็นการมอบสารเคมีที่เป็นพิษต่อเด็กเล็ก!
ความน่าจะเป็นของพวกเขาที่กำลังจะตายในการต่อสู้ที่อันตรายจะสูงขึ้นเพราะพวกเขาจะไม่หดหู่ในความกลัว
(เอาวีดเป็นแบบอย่างสินะ555)
เขาไม่ได้คิดถึงสิ่งใดเลย
เขาแค่อยากเท่ระหว่างสู้ด้วยร่างคนเถื่อน
จากนั้นเม็ดฝนก็เริ่มร่วงหล่นลงมา
“ตอนนี้แหละ”
วีดมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนเขากำลังต้อนรับฝนหลังจากฤดูแล้งสิ้นสุดลง
ทันใดนั้นฝนก็เปลี่ยนไปเป็นพายุหนัก
กระแสลมเริ่มก่อตัวขึ้นและโลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“นี่มันยอดเยี่ยมไปเลย”
วีดยิ้มอย่างเดือดดาล
พลังอันยิ่งใหญ่แห่งวิหารเอ็มบินยูรวมตัวกันเพื่อให้เขาสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ภายในครั้งเดียว
ฉากสังหารหมู่จากการสร้างมหาภัยพิบัติธรรมชาติด้วยประติมากรรมระดับมาสเตอร์พีซ! มอนสเตอร์ก็ได้รับผลกระทบจากห่าฝน
“แต่ยังมีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไปอยู่”
วีดรู้สึกเหมือนน้ำอุ่นๆที่เกิดจากกาน้ำที่แตกร้าว
“มอนสเตอร์มีพลังชีวิตมากมาย
ดังนั้นพวกมันอาจจะรอดจากภัยพิบัติ”
ถึงแม้ว่าจะมีภัยพิบัติ
,
พลังชีวิตและความยืดหยุ่นของพวกมันหมายความว่าพวกมันมีโอกาสรอดชีวิต
เลเวลของวีดสูงมากดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความตายจากภัยพิบัติ
“พวกระดับสูงของเอ็มบินยูก็ระรอดด้วยเช่นกัน
ไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์ระดับสูงและปีศาจ”
ปีศาจยังคงออกมาจากประตูแห่งนรก
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติไม่เพียงพอต่อการกำจัดพวกมันได้ทั้งหมด
“ระดับความเสี่ยงควรจะฆ่าฉันได้
ไม่งั้นมันออกจะน่าเบื่อ”
วีดหยิบกระดาษแผ่นนึงออกมา
มันเป็นกระดาษเก่าๆและยับยู่ยี่ แต่มันบรรจุเวทมนตร์ระดับสูงสุด
อัญเชิญอุกกาบาต!
อุกกาบาตขนาดใหญ่ที่ตกลงมานั้นก็เพียงพอต่อการกำจัดเมืองหลวงอย่าสมบูรณ์
ไม่มีใครเคยได้รับประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ดังนั้น
เขาจึงไม่ได้ตระหนักถึงพลังทั้งหมดของมัน
“ฉันจะตัดสินใจทันที”
วีดฉีกคัมภีร์อัญเชิญอุกกาบาต
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เมียงดองแห่งฉลามเงินกู้ (น่าจะเป็นหัวหน้าของแก๊งค์ที่เอาเงินวีดที่ขายตัวละครเกมไป)
พวกเขาวิตกกังวลมากว่าทำไมถึงตกอยู่ในสถานการณ์นี้
“นี่ไม่ถูกต้อง
ต้องมีใครสักคนเคียดแค้นต่อข้า ประธานชเวตีข้าจากข้างหลังหรือป่าว? หรือมีใครสักคนในบริษัทพยายามกำจัดข้าออกไป?” (พวกมาเฟียน่าจะห้าวๆ
ขอใช้ ข้า แทน ฉันละกัน)
พวกเขากลายเป็นที่สงสัยแก่ทุกคนในโลก
มันจำเป็นที่เป็นคนมีอำนาจในการระดมพลฝ่ายอัยการและกรมสรรพพากร
กฎหมายหลักที่พวกเขาปฏิบัติตามคือความเข้มแข็งต่อผู้อ่อนแอ
และอ่อนแอต่อผู้เข้มแข็ง
“ข้าไม่รู้แม้แต่เหตุผล”
ฉลามเงินกู้ยังคงมองโลกฝนแง่ดีว่าจะมีใครสักคนมาช่วยพวกเขา
พวกเขากลัวว่าจะมีใครมาปรากฏตัวและฆ่าพวกเขา ดังนั้นในตอนแรกพวกเขาจึงหาทางหลบหนี
แต่พวกเขาไม่สารารถหาเส้นทางลับได้ ไม่ว่าเขาจะมองที่เพดานหรือกำแพงในห้องเล็กๆ
แค่ไหนก็ตาม
“คงจะผ่านไปได้ด้วยดี
หากพวกเขาสามารถช่วยข้าได้”
พวกเขาถูกขังอยู่ใต้ดินที่ลึก
300
เมตร มันเป็นพื้นที่ที่ทำจากหินธรรมชาติ
พวกไม่สามารถนึกถึงการหลบหนีใดๆได้เลย และสุดท้ายก็ได้ยอมแพ้เพื่อให้อยู่รอดในสถานที่นั้น
หลังจาก 3-4 เดือน, มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะคุ้นเคยกับการถูกขัง
สิ่งเดียวที่น่าสนใจสำหรับพวกเขาคือการดูโทรทัศน์
พวกข่าวที่ไม่น่าสนใจ แต่พวกเขาสนุกกับกีฬาและละคร
ฉลามเงินกู้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าพวกเขากำลังหลงเสน่ห์ละครยามเช้า
พวกเขาค้นพบสิ่งที่น่าเร้าใจของโลกมนุษย์ที่น่าตื่นเต้น
,
การตาย , การต่อสู้กับศัตรู , การคืนดี , การมีความลับ
และเนื้อหาอื่นๆของภาพยนตร์ฮอลิวูดที่น่าสนใจ
และรอยัล
โรด!
พวกเขาถูกขังในที่แคบๆดังนั้น
ฉลามเงินกู้จึงอิจฉาโลกอันกว้างขวางของรอยัล โรด
ซึ่งเป็นสื่อกลางที่เพิ่มความสุขของผู้คน
ฉลามเงินกู้นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์และดูการผจญภัยของวีด
“วีดกำลังก่อภัยพิบัติ
เทพสงครามวีดกำลังใช้ความหายนะทางภัยพิบัติท่ามกลางกองทัพของเอ็มบินยู!”
“ดูเหมือนว่าภัยพิบัติจะกำจัดศัตรูทั้งหมดไม่ได้”
“สไตล์การต่อสู้ของเขาช่างกล้าหาญและดุดันจริงๆ
ความกล้าหาญของเขามาจากไหนกันนะ?”
ผู้บรรยายของช่อง CTS Media
พิจารณากันอย่างตื่นเต้น
มันเป็นจุดสำคัญของวิกฤตที่วีดได้เข้าไปท่ามกลางกองทัพของเอ็มบินยู
มันเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับเขาที่จะได้การจัดอันดับอย่างสูงสุด
เนื่องจากผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นเมื่อจุดสำคัญใกล้เข้ามา
ไม่เพียงแค่ช่อง
CTS
Media เท่านั้น สถานีต่างๆก็เป็นเช่นนั้น เสียงของผู้บรรยายมีความตื่นเต้นเมื่อพวกเขาเห็นฉากหรือวิกฤตอันยิ่งใหญ่
และหลังจากนั้นวีดก็หยิบกระดาษใบนึงออกมา
“นั่นเป็นคัมภีร์เวทมนตร์”
“กระดาษสีแดงมันแปลกๆจัง
ดูเหมือนว่าจะเป็นเวทมนตร์ขั้นสูง”
“มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้เล่นเช่นวีดจะสามารถหยิบคัมภีร์เวทมนตร์ระดับสูงออกมาใช้ได้”
“เขาได้มาในทะเลทรายหรอ? หรือได้มาระหว่างพิชิตเมืองและการปล้นสะดม”
“ฉันเดาว่ามันเป็นคัมภีร์เทเลพอร์ตที่ใช้ในการหลบหนี”
“นักเวทย์ของวิหารเอ็มบินยูคงไม่ยอมให้ใช้มัน……
มันรับประกันไม่ได้เลยว่าเวทย์จะสำเร็จหรือไม่”
ผู้บรรยายพูดอย่างรวดเร็ว
พวกเขาไม่มีข้อมูลใดๆ ดังนั้นพวกเขาได้แค่คาดเดาสถานการณ์
อารมณ์และความสนใจของผู้ชมก็มากขึ้นเช่นกัน
“กระดาษสีแดงบ่งบอกได้ว่ามันเป็นเวทมนตร์ธาตุไฟ”
“อ๊ะ, ช่างคู่ควรกับวีดจริงๆ
ดูเหมือนว่าเขาจะปลดปล่อยการโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยม”
“มันเป็นสิ่งปกติที่จะเป็นสายฝนแห่งธาตุไฟ
แต่….ในสถานการณ์จำเป็นต้องได้รับคำอธิบาย
นั้นไม่ใช่คำตอบของวีด”
“หากเป็นเวทย์ไฟที่แข็งแกร่งมากๆ
ฝนจะได้รับผลกระทบจากมัน นั้นคงจะไม่ใช่เวทย์ระเบิดไฟ”
“อ้า…
ตอนนี้ผมได้รับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือแล้ว ลักษณะของคัมภีร์นั้นคือ
สุดยอดเวทมนตร์อัญเชิญอุกกาบาต!”
“อัญเชิญอุกกาบาต!”
ภัยพิบัติที่จะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่รู้จัก
แม้ว่าภัยพิบัติจะผ่านไป มันก็คงลดกองทัพของเอ็มบินยูได้ครึ่งนึง
ผู้บรรยายรู้ดีว่าการสรรเสริญและชื่นชมวีดอย่างเต็มที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ชม
การตอบสนองต่อการออกอากาศของรอยัล
โรด นั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้นักบรรยายก็แสดงความคิดเห็นกันอย่างจริงใจ
เหมือนลูกพี่ลูกน้องถูกลอตเตอรี่
“บะ-บางสิ่งที่ไร้เหตุผลกำลังจะเกิดขึ้น สุดยอดเวทมนตร์อัญเชิญอุกกาบาต!
เช่นเดียวกับชื่อของมัน มันเป็นเวทมนตร์ที่อัญเชิญอุกกาบาตที่กำลังเผาไหม้
ผลลัพธ์ที่ได้คงเหมือนกัน”
“เขากำลังอัญเชิญอุกกาบาตรจริงหรอ?
ถ้าคัมภีร์เวทมนตร์ทำงาน
มันจะเป็นครั้งแรกที่ทวีปเวอร์เซลได้เห็นการอัญเชิญอุกกาบาต”
“มันช่างเป็นเกียรติที่ผมสามารถเห็นปรากกฎการณ์อย่างนี้ได้
มุมมองที่สวยงามจะถูกรังสรรค์ขึ้น มันช่างยากต่อการจินตนาการจริงๆ”
พวกเขาไม่คาดคิดว่า
วีดจะอัญเชิญอุกกาบาต เมื่อเผชิญหน้ากับวิหารเอ็มบินยู แต่ละสถานีมีการประชุมฉุกเฉิน
พนักงานทุกคนพร้อมที่จะออกอากาศภาพที่เหมือนจริงของอุกกาบาตที่ถูกเรียกออกมา
“นี่ช่างน่ากลัว!”
ฉลามเงินกู้ที่ดูโทรทัศน์อยู่ตกใจมากจนขนมปังข้าวบาร์เล่ย์หล่นจากปาก
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
คัมภีร์ที่ผนึกเวทมนตร์อัญเชิญอุกกาบาตได้ทำงานแล้ว
โปลดเลือกตำแหน่งที่จะให้อุกกาบาตตกลงมา
|
วีดถือคัมภีร์โดยยังไม่ใช้มัน
เขาสงสัยว่าคัมภีร์นี้อาจจะมีจุดบกพร่อง หากมันมีค่าจริงๆ
นักเวทย์ร็อคเดอริกคงไม่มีทางที่จะลืมมันระหว่างเดินทาง
“ฉันหวังว่ามันจะใช้ได้นะ
แต่มันช่างหรูหราจริงๆ ตัวอักษรดูแย่มากและมันเหมือนกับตั๋วที่ถูกพับ”
มีโอกาสสูงที่การอัญเชิญอุกกาบาตจะล้มเหลว
“ฉันต้องตัดสินใจเลือกตำแหน่ง
ดังนั้นมันจะต้องไม่โดนฉัน ฮุฮุฮุ ฉันนี้มันเก่งจริงๆ”
วีดวางเท้าลงตรงที่ที่เขาตัดสินใจว่าอุกกาบาตจะตกลงมา
ระบุตำแหน่งแล้ว
อุกกาบาตจะตกลงไม่นานหลังจากนี้
เมื่อมันกระทบกับพื้นดิน
การกระทบกระเทือนจะเป็นในวงกว้าง ดังนั้นท่านควรระวัง
|
“ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม…. ฉันรู้สึกไม่สบายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง”
ความรู้สึกเย็นๆได้ผ่านร่างกายเขาทุกส่วน
แต่เขาตัดสินใจที่จะรอ
ฝนและลมกรดพัดพาสนามรบได้สำเร็จ
มีเสียงกรีดร้องของเหล่าสาวกคลั่งและมอนสเตอร์ที่ลอยขึ้นบนอากาศ
กองทัพเอ็มบินยูจำนวนมากถูกกลืนกินโดยรอยแตกของโลก
“ฮิฮิฮิ
ฉันกำลังจะตาย”
“ฉันตกลงไปสู่จุดล่างสุด
รู้สึกเป็นเกียรติมมาก”
แตกต่างจากทหารทั่วไป
เหล่าสาวกคลั่งไม่ได้เสียขวัญกำลังใจโดยภัยพิบัติ พวกเขามองว่าภัยพิบัติของวีดเป็นสัญลักษณ์สู่จุดจบของโลก
ร่างที่ถูกจับโดยลมกรดและถูกดึงไปยังทิศทางที่ต่างกัน
เหล่ามอนสเตอร์และสาวกคลั่งถูกผลักและตกลงไปในหลุมบนพื้นดิน
มีเสียงน่ากลัวที่โลกเป็นเหมือนเต้าหู้ที่ถูกทุบ
มันเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัวเท่าที่มนุษย์เคยพบเจอมา ความรู้สึกผิดของวีดคือการฟังเสียงอันแผ่วเบากับฉากที่ผู้คนพยายามจะตาย
วีดมีร่างกายขนาดใหญ่ดังนั้นเขาจึงต่อต้านกระแสลมได้มาก
ความอดทนของคนเถื่อนได้อ่อนแอลงด้วยคำสาป
“ยิปปี้!”
“เขาเอนตัวไปด้านหน้าและอดทนเมื่อมอนสเตอร์กลิ้งเข้ามา
มันไม่เหมือนลูกธนูเพราะเขาไม่มีทางหลบมอนสเตอร์มากมายที่ถูกลมพัด”
“มะ-ไม่!”
ร่างอันใหญ่โตของวีดได้เริ่มลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาติดอยู่ในกระแสลมเช่นเดียวกับเหล่าสาวกคลั่งและมอนสเตอร์
มือของเขาไม่สามารถจับอะไรได้เลยและหมุนไปมาบนท้องฟ้า เขาทำอะไรไม่ได้เลย! เขาตกเป็นเหยื่อของภัยพิบัติ (วีดโดนชนจนบิน
555)
พลังชีวิตของฟินิกซ์เป็นทักษะที่ให้เขาอดทนต่อการโจมตีได้
3
นาที แต่เขาไม่สามารถใช้มันได้บนท้องฟ้า
วีดหมุนเร็วมากจนมุมมองของเขาต่อพื้นโลกและท้องฟ้าสลับกันไปเรื่อยๆ (นึกถึงเครื่องซักผ้าเวลามันหมุนงะ)
มอนสเตอร์ได้ชนเข้ากับร่างของเขา
ขณะที่บินด้วยความเร็วสูง การชนจะไม่ทำให้พลังชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย แต่เขาจะตกอยู่ในสภาพที่สุ่มเสี่ยง
“ป้องกันสัมบูรณ์
, หลับตาอดทน!”
เขาระดมใช้ทักษะป้องกันของเขา
ครึก
ครืน
สายฟ้าได้ปะทะเข้าใส่บริเวณใกล้เคียง
ลมกรดยกเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า พลังแห่งภัยพิบัติทำให้เขาทะลุผ่านเมฆ! จู่ๆ เขาไม่รู้สึกว่ามีลมปะทะร่างกายเขาเมื่อเขาเห็นแสงที่สว่างจ้า
“โอยยย”
ตาของเขาเห็นท้องฟ้าที่แจ่มใสและดวงอาทิตย์
เขาได้ทะลุผ่านเมฆทมิฬสู่โลกที่สงบ แต่นั้นก็เป็นเวลาแค่ 2-3 วิเท่านั้น ก่อนที่ลมกรดจะดึงเขากลับไปอีกครั้ง
“อุ ว้าก!”
เวลานี้เขากำลังตกลงสู่พื้นด้วยความหวาดกลัว
มันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังขี่รถไฟเหาะในสวนสนุก อย่างไรก็ตาม,
รถไฟเหาะกำลังตกลงไม่กี่ร้อยเมตรจากพื้นและเขาไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆเมื่อเขาตกลงจากเมฆ
“ฉันไม่อยากเห็น หลับตาอดทน!”
วีดใช้ทักษะป้องกันอีกครั้ง
ลมกรดได้ตัดร่างกายเขา เหล่าสาวกคลั่งและมอนสเตอร์จำนวนมากได้พุ่งชนเขา รวมทั้งดาบและหอกได้ซัดเข้าใส่เขาด้วยเช่นกัน
ตูม!
มีมอนสเตอร์ที่ได้เกาะขาของวีด
ฟันที่แหลมคมยาวๆของมันได้กัดที่ขาของเขา
พลั่ก
แต่สุดท้าย
วีดก็เตะมันและมันก็ลอยจากไป
‘ภัยพิบัติรั้งนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน’
เขาไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหน
แต่มันรู้สึกว่ามันผ่านไปนานมากๆ มันเหมือนกับการเข้าร่วมกองทัพและเฝ้ารอวันหยุด!
‘มันนานเกินไปแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้ฉันไม่ควรจะกระแทกพื้นแล้วหรอ?’
วีดยกเลิกทักษะของเขา
เมื่อเขาลืมตาขึ้นเพื่อมองพื้น เขากำลังตกไปในเหวที่ลึกลงไปของโลก
ความเร็วที่น่าอันน่าทึ่ง
และร่างกายเขายังคงหมุนเป็นวงกลม
“แข็งแกร่งไร้เทียนทามฉับพลัน!”( Momentary Herculean Strength)
เป็นทักษะที่ใช้ความแข็งแกร่งมหาศาล
ทักษะคำสาป 5-6 คำสาปที่ยังอยู่บนร่างกายเขาถูกลบออกไป
‘ฉันต้องจับอะไรสักอย่าง’
วีดเริ่มมองไปรอบๆ
มีมอนสเตอร์ที่มีหางยาวและหนา ลอยผ่านไปบนหัวของเขา
“ระเบิดอย่างรุนแรง!”( Severe Blow)
คว๊ากกกก!
มอนสเตอร์ที่ถูกพัดพาโดยลม
ดังนั้นมันจึงมีพลังชีวิตอยู่ไม่มาก มันตายทันทีหลังจากการโจมตีหนึ่งที
วีดใช้แรงกระแทกเพื่อทำให้ความเร็วลดลงเล็กน้อย
‘นี่ยังไม่พอ
ฉันต้องทำอีกหลายรอบ’
ลมได้พัดไปยังทิศทางเดียว
ดังนั้นวีดจึงค้นหาทุกๆที่ เขาโจมตีมอนสเตอร์ , สาวกคลั่ง และหิน
ที่ลอยอยู่อย่างต่อเนื่อง บางครั้งเขาก็โจมตีพลาดแต่เขาก็โจมตีบ่อยขึ้น (วีดกำลังโจมตีเพื่อใช้แรงกระแทกเปลี่ยนทิศทาง)
ความเร็วและทิศทางของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่เขาก็ยังคงตกสู่รอยแตกบนพื้น ทุกๆอย่างจะจบลง หากเขาตกลงไปในพื้นนั้น
‘ฉันประมาทภัยพิบัติครั้งนี้เกินไป’
เขากังวลมาก
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เช่นเดียวกับวีดที่อยู่ใกล้พื้นดิน ทันทีใดเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“เฮือกกกก!”
เขาชนกับยักษ์สัมฤทธิ์
แต่การปะทะกันนั้นหมายถึงเขาได้ชนเข้ากับส่วนลึกของรอยแยก
-พลังชีวิตลดลง 19,374 เนื่องจากแรงกระแทก
|
พลังชีวิตของเขาไม่ได้มีปัญหา
แต่เขากำลังตกลงไปอีกครั้ง
“ฉันต้องรอด!”
วีดยื่นมืออกไปและจับหินก้อนใหญ่
แกร๊กก (เสียงหินแตก)
หินไม่สามารถรับน้ำหนักของคนเถื่อนได้และถูกบดขยี้เหมือนเต้าหู้
เขาตกไม่กี่เมตรก่อนจะหยุดอย่างฉิวเฉียด
“ยะ-ยังรอด”
วีดถอนหายใจอย่างโล่งอก
ถ้าภารกิจล้มเหลว เทคนิคการแกะสลักขั้นสุดท้ายจะหายไป เขามองไปที่สาวกและมอนสเตอร์บนท้องฟ้า
มันยังคงตกลงสู่ช่องว่างเรื่อยๆ เสียงลมยังคงดังมาก
“ฉันเกือบตายแล้วสิ
นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับฉัน”
วีดจะปืนขึ้นไปบนหน้าผา
แต่เขาไม่อยากถูกจับโดยกระแสลมอีกครั้ง ดังนั้น เขาไม่ปีนขึ้นกลับสู่พื้น เขาหยุด 10 เมตร และพักผ่อน
เทพีแห่งโลก
มิ-เน่ ได้อวยพรคุณ
พลังงานจากผืนปฐพีได้ฟื้นฟูพลังชีวิตและความอึด
|
เขาวางมือลงที่กำแพงและเติมพลังชีวิตและความอึดของเขา
ความสามารถในการฟื้นฟูนี้ทำให้เขากล้าที่จะเข้าไปใจกลางของศัตรู
“มีหลายล้านคนได้รับความเสียหาย? มันคงจะดีถ้าแม่มดและนักบวชตายในความวิบัตินี้ละนะ”
วีดต้องวางแผนสิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคตระหว่างการรอภัยพิบัติสิ้นสุดลง
จากนั้นเขาก็ตระหนักได้อย่างกะทันหัน
‘แล้วอุกกาบาตที่ฉันอัญเชิญละ
?’
ภัยพิบัติเป็นเพียงจุดเริ่มต้นโดยที่อุกกาบาตเป็นเหตุการณ์หลัก
หากมันมีปัญหา มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจวัดความรุนแรง
ภัยพิบัติในระดับภัยพิบัติ!
‘ฉันพึ่งจะรอดตายจากภัยพิบัติ
ดังนั้นมันจะลำบากถ้าอุกกาบาตตกลงที่นี่ กองทัพเอ็มบินยูจะพินาศ’
แต่วีดไม่สามารถยิ้มอย่างสบายใจได้เลย
ใครจะไปรู้ว่าอุกกาบาตจะตกลงมา! ไม่มีการรับรองได้ว่าป้อมปราการดัลมอร์และกองทัพทะเลทรายจะไม่ถูกล้างบาง
ฝนที่ตกลงจากท้องฟ้าลดลงและกระแสลมเริ่มสงบ
ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็มีแสงสีแดงเปล่งประกาย
เมฆสีดำกระจัดกระจายอย่างช่วยไม่ได้เหมือนหมอกที่ถูกแสงแดดละลาย
“นั่นเป็นอุกกาบาตที่ถูกอัญเชิญใช่ไหม?”
วีดเงยหัวขึ้น
จู่ๆก็มีหินขนาดเล็กบนท้องฟ้า
“อุกกาบาตขนาดเล็ก นั่นหมายความว่าคัมภีร์เวทมนตร์ทำงานสินะ
แต่ไม่ใช่ว่ามันมีข้อผิดพลาดหรอกนะ?”
ความผิดหวังกระแทกใส่หน้าอกของเขา
แต่หินขนาดเล็กตกลงมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
เมื่อเขาเห็นมันครั้งแรก
หินมีขนาดเพียงแค่ครึ่งนิ้ว แต่ตอนนี้มันใหญ่เท่ามือเขาแล้ว โดยเฉพาะ, เขากำลังเห็นขนาดของมันขยายอย่างต่อเนื่อง
สัญชาตญาณของวีดเตือนเขา
‘นี่ไม่ตลกเลย แค่มันลอยผ่านก็เพียงพอที่จะทิ้งร่องรอยแห่งความตาย’
ขนบนร่างกายของเขาลุกชูชัน
เขารู้สึกถึงความหายนะ
แต่ถึงอย่างไร, มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่เขาที่จะเคลื่อนไหว ภัยพิบัติยังไม่สิ้นสุดลงและเขาไม่รู้ด้วยว่าอุกกาบาตจะตกลงที่ไหน
‘ไปที่อื่น ไปให้พ้น’
วีดเริ่มเข้าตาจนเมื่อเห็นขนาดของอุกกาบาตใหญ่ขึ้น
เขาไม่สามารถสงบได้เลย
‘ฉันต้องเช็คอีกรอบ มันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเข้ามาใกล้ๆ มันเป็นเรื่องปกติที่อุกกาบาตจะชนโลก และหมายความว่าอะไร
หากมันเคลื่อนผ่านบนหัวของฉันล่ะ?’
มันหมายความว่าอุกกาบาตจะตกลงมาที่นี่อย่างแน่นอน! มันไม่ได้พุ่งมาหาวีด แต่เป็นพื้นที่ที่เขาอยู่ในระยะใกล้ๆ วีดวางตำแหน่งของอุกกาบาตไว้ที่กลางกองทัพเอ็มบินยู
กรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจจะเกิดขึ้น
โชคของเขาทำให้เขาพบเจอกับความวิบัติด้วยเช่นกัน
“ด้วยเหตุนี้
ฉันต้องหลีกหนีมัน”
วีดตรวจสอบสภาพแวดล้อมใกล้ตัว
แม้กระทั่งรอยแยกก็ยังไม่ปลอดภัย
พลังทำลายล้างของอุกกาบาตเพียงพอที่จะทำลายพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด อุกกาบาตกำลังเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาคิดอย่างสงบได้เลย
“จะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ”
(ตามแรกจะแปล จมหรือว่ายน้ำ แต่คิดได้ว่ามันน่าจะเป็นสำนวน5555)
วีดพุ่งออกจากรอยแยกในพื้นดิน
ฝน,ลมกรดและพื้นดินสั่นสะเทือนคล้ายกับการเต้น แต่พลังของภัยพิบัติกำลังอ่อนแอลัง
ดังนั้นมันน่าจะหายไปเร็วๆนี้
วีดรู้สึกถึงอากาศที่เริ่มร้อนแรง
ไฟที่เผาไหม้จากอุกกาบาตบนท้องฟ้าสามารถสัมผัสได้ ไม่มีวิธีอื่น
““จะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ
จิตวิญญาณแห่งลม”
วีดวิ่งไปข้างหน้าอย่างไร้ทิศทาง
คนเถื่อนมีขาที่ยาว ดังนั้นเขาจึงวิ่งได้ไวมาก
ข่าวดีคือไม่มีใครสักคนจากวิหารเอ็มบินยูมาขัดขวางเขา
พวกเขาเห็นอุกกาบาตและพยายามที่จะหลบหนี
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
นักรบ-1 และ นักรบ-2
ประติมากรรมสลักชีพผู้เป็นผู้บังคับบัญชากองทัพทะเลทรายได้ดูการต่อสู้จากเนินเขาที่ห่างไกล
“ตามที่คาดหวังจากท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่”
เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการพลังต่อสู้อันเลิศเลอของวีด
แม้กระทั่งเขากลายเป็นคนเถื่อนที่ป้อมปราการดัลมอร์
เขาใช้เทคนิคแกะสลักลับในการต่อสู้
และภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตามที่สัญญาไว้ กองทัพทะเลทรายกำลังเฝ้ารอให้ภัยพิบัติสิ้นสุดลงหลังจากนั้นพวกเขาก็จะเริ่มการโจมตี
ทาสต่อสู้
, ช้างศึกและกองกำลังแวมไพร์พร้อมที่จะต่อสู้แล้ว (ทาสต่อสู้ พวกทาสที่จะถูกส่งให้ตาย เพื่อลดกำลังของศัตรู)
กองทัพทะเลทรายได้กวาดล้างทวีป
แต่พวกเขามีโอกาสชนะที่ต่ำเมื่อสู้กับกองทัพเอ็มบินยู
วีดดึงศัตรูเข้ามาในป้อมปราการดัลมอร์
วางแผนที่จะกำจัดพวกเขาและใช้ภัยพิบัติ!
“เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
จงควบม้าและอูฐ”
แต่พวกเขาตัดสินใจหยุดหลังจากเห็นจุดสีแดงบนท้องฟ้า
“ถอย!”
พวกเขาเคลื่อนที่ห่างจากสนามรบพอสมควร
อุกกาบาตขนาดมหึมากำลังตกสู่วีดและวิหารเอ็มบินยู
วีดคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บพลังของเขาทั้งหมดเมื่อเขาพยายามช่วยทวีป
ผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่ต่อค่ายของกองทัพเอ็มบินยู
เหมือนกับว่าพวกเขากำลังเห็นดวงอาทิตย์
พวกหิน , ต้นไม้และทรายเริ่มพลุกพล่าน
ลมพัดอย่างรุนแรงที่พอต่อการผลักร่างกายพวกเขากลับมา
ทาสต่อสู้บางคนที่พลังชีวิตต่ำตายลงทันที
แต่ความเสียหายนั้นยังไม่รุนแรงมากนัก
“ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะรอดรึเปล่านะ?”
“ข้าก็ไม่รู้ เขานั้นคาดเดาไม่ได้”
ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง
ก่อนหน้านั้นพวกเขาสามารถยืนยันชะตากรรมของวีดได้ นักรบ-3 ได้ชี้นิ้วไปที่ท้องฟ้า
“มันกำลังมาอีกครั้ง!”
อุกกาบาตหลายลูกกำลังกระหน่ำจากท้องฟ้า
น่าแปลก,ที่เวทมนตร์อัญเชิญอุกกาบาตไม่ได้เรียกอุกกาบาตแค่ลูกเดียว
ผลกระทบนี้ก่อให้เกิดเมฆฝุ่นได้อย่างยาวนาน
แผ่นดินช่างน่าอัศจรรย์
มันเป็นฉากสดใสเมื่อโลกเริ่มเหมือนกับไอกรีม
นักรบ-1 พูดอีกครั้ง
“ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะตายอย่างสงบรึเปล่านะ”
นักรบ-2 ตอบด้วยความมั่นใจ
“เขาคงไม่ต้องทุกข์ทรมาน”
จบตอน
ผู้แปล :
Chindanai Y
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
สนุกมากครับ ถ้าได้อ่านต่อเนื่อง จนจบศึกจะฟินมากเลยครับ
ตอบลบลูกน้องเริ่มสวดส่งวิญญาณให้ลูกพี่แล้ว
ตอบลบขอบคุณครับ สนุกมาก
ตอบลบลูกแรกยังพอรอด ลูกต่อๆมา ไม่รอดแน่ๆแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
มันสุดๆ ขอบคุณมากครับ รอเลยนะคับ รอ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบรอๆๆๆ ถ้าได้จบเล่ม 37 คงฟินสุดๆๆ
ตอบลบถ้ารอด พวกเอ็งที่สวดส่งได้ส่งวิญญาณตัวเองแน่
ตอบลบthank you
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ