เล่ม 37 ตอนที่
3: การอุบัติแห่งนักรบผู้ต่ำช้า แปลโดย Patty
“ปลดแนวล้อมศัตรู หากทำไม่ได้ให้ถอยกลับมาทันที!”
“จงสู้ต่อไปซะ
พวกเราจะสละชีวิตของเราทีนี่ แด่องค์เหนือหัว!”
!”
“เจ้าพวกที่ไปเข้าร่วมกับวิหารเอ็มบินยูพวกมันเป็นได้แค่เศษสวะอันไร้ซึ่งศักดิ์ศรี
จงสังหารพวกมันซะ พวกเราจะทำการทดสอบทัณฑ์ทรมานแบบใหม่ทั้ง 27 วิธี
กับพวกสาวกเอ็มบินยู ทำให้พวกมันต้องเจ็บปวดทรมานและสำนึกถึงสิ่งที่มันทำกับเราเอาไว้
แล้วจับพวกมันพวกมันมาทำเนื้อตากแห้งแล้วเอาไปฝังเป็นปุ๋ยให้รากมะม่วงซะ”(สรุปใครแม่งชั่วกว่ากันวะเนี่ย โหดเกิ๊น)
“พวกมันคือปีศาจร้าย ปีศาจจากขุมนรกที่พรากชีวิตสหายของข้าไป โอ้
ข้าช่างโศกเศร้านักเมื่อมันเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
บางทีศีรษะของเพื่อนข้าตอนนี้คงถูกมันย่อยไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าบ้านั่นยังไม่ได้คืนเงินที่เคยยืมข้าไปเลย(สรุปเอ็งคิดถึงเพื่อนหรือเอ็งงกวะ)
แน่นอนว่าตัวข้าเองก็อาจเอาชีวิตรอดไปจากสถานทีบ้านี่ไม่ได้เช่นกัน แต่ว่า...”
เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ได้กำลังทำการเข้าโจมตีและทำลายล้างกำแพงแห่งป้อมปราการดัลมอร์จนย่อยยับ
เหล่ากองกำลังป้องกันปราการนั้นกำลังต่อสู้กับพวกสาวกคลั่งและมอนสเตอร์ทั้งหลายอยู่
ทว่าเหล่าผู้บุกรุกได้ทะลักทะลายกันเข้ามาโจมตีป้อมปราการอย่างมากมายมหาศาลจนเกินไป
“พระเจ้า ไยพระองค์จึงได้ประทานความฉิบหายให้พวกเราถึงเพียงนี้กัน
พวกเราทำอันใดผิดไปหรือ”
เหล่าพลทหารต่างติดอยู่ในความเศร้าโศก
มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยสำหรับเหล่าราชอาณาจักรในการที่จะป้องกันการบุกรุกจากทั้งมอนสเตอร์และปีศาจจากขุมนรก
และแล้วกระทั่งเหล่าชนชั้นสู้ของทั้งอาณาจักรมาปอนและเบย์เนอร์เองต่างก็ไม่สามารถที่จะยืนหยัดได้อีกต่อไป
และในขณะนั้นเอง วีด
ผู้มาพร้อมกับดาบผลาญโลกาก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
เขาก้าวย่างออกมาอย่างเชื่องช้าผ่านทางเดินที่เชื่อมต่อกับอาคารต่างๆในป้อมปราการ
ตึง! ตึง! ตึง!
ในความเป็นจริงแล้ว มันจะเร็วกว่าหากเขากระโดดข้ามไปบนอากาศเลย
ทว่ามันก็ไม่มีเหตุอะไรให้จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบไปนัก
และมันก็จะทำให้เขาดูไม่เท่ห์ด้วย
ความภาคภูมิใจของลูกผู้ชายคือการรักษาความเท่ห์ไว้ในทุกอิริยาบถ (เอ่อ
ปกติเอ็งเท่ห์หรอวะ แบบหลอกซื้อนมสตรอว์เบอร์รี่จากเด็กอนุบาลนี่อะนะ)
เหล่าพลทหารต่างพากันรู้สึกแตกตื่นตกใจและขวัญหนีดีฝ่อ
ณ วินาทีที่พวกเขาได้พบเข้ากับวีด
ด้วยรูปร่างอันใหญ่โตที่มาพร้อมกับกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างอันราวกับว่ามันเกิดมาเพื่อการต่อสู้อย่างแท้จริง
หนำซ้ำยังมีดาบผลาญโลกา ที่ตัวดาบเปล่งรัศมีแห่งเปลวเพลิงทำลายล้างออกมาตลอดเวลามันจึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะหวาดกลัวจนตัวสั่น
มันช่างเปล่งประกายเจิดจ้า
แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอันเกิดจากประตูนรกและเมฆฝนทั้งตั้งเค้าไปทั่วผืนแผนดิน
“เจ้ายักษ์หัวล้านนั่นมันอะไรกันน่ะ?”(ปากดีเหลือเกินนะพวกเอ็ง เดี่ยวชะตาขาดกันหมด)
“…….”
ด้วยการใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายเป็นเวลานาน
ความร้อนจากทะเลทรายได้แผดเผาผมบนหัวเขาไปจนสิ้น
ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมศีรษะของเขาจึงได้ล้านเลี่ยนอย่างนี้ ด้วยร่างนี้เขามีใบหน้าอันหล่อเหลารวมถึงรูปร่างอันน่าหลงใหล
ทว่าการที่ขาดองค์ประกอบสำคัญอย่างผมบนหัวไปทำให้เขาช่างดูป่าเถื่อน เขาคือบุรุษผู้เปล่งรัศมีอันแสนชั่วร้าย!
“ฉันเห็นของกินเยอะแยะไปหมดเลยล่ะ” (ตอนก่อนๆเคยเปรียบเทียบไว้ว่าวีดมองพวกพลทหารว่าเป็นได้แค่ข้าวสวยร้อนๆที่เขาจะกินเมื่อไหร่ก็ได้)
เขาได้พุ่งเข้าไปยังสมรภูมิรบแล้วทว่าเขากลับค่อยๆเยื้องย่างไปอย่างช้าๆหลังจากที่ไปถึง
ใกล้ๆกันนั้น แมงมุมยักษ์จากวิหารเอ็มบินยูได้ดักจับเหล่ามนุษย์ไว้ด้วยใยแมงมุมของมันและจับพวกเขากินเป็นอาหาร
คว๊ากกก!(เสียงแมงมุมอะ ว่าแต่มันเป็นยังไงนะ)
“ไปให้พ้นซะ!
ท่อนขาอันแสนหนึบหนับของข้าจะทำให้
เจ้าไม่สามารถล่าได้อีกเป็นอาทิตย์เลย”
(Sticky legs แปลว่าไรดีอะ
แต่ประเด็นคือเอ็งกล้าขู่บุรุษผู้โฉดชั่วทีสุดในทวีปเวอร์เซลล์เรอะบักแมงมุม)
มันไม่สำคัญว่าเจ้าแมงมุมยักษ์นี่จะดิ้นรนหรือพูดจาข่มขู่ให้ตายยังไง! สุดท้ายเจ้าแมงมุมน้อยผู้น่าสงสาร(?)ก็ได้ถูกขว้างออกไปนับร้อยเมตร
และลอยเข้าไปปะทะกับเหล่าสมาชิกกองทัพทั้งหลังของวิหารเอ็มบินยู
เขาใช้แค่เพียงพละกำลังของตัวเองล้วนๆ
โดยปราศจากการใช้ทักษะใดๆ (โหดจัด)
“อ๊ะ! ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้”
เหล่าทหารเผ่ามนุษย์ที่ติดอยู่ในใยแมงมุมต่างกุลีกุจอกันขอบคุณวีดเป็นการใหญ่
วีดนั้นหาได้สนใจเหล่าคำขอบคุณของทหารเหล่านั้นและก้าวเดินไปยังกำแพง
ด้วยความสัตย์จริง ตัวเขานั้นไม่ได้สนใจเลยว่าทหารเหล่านั้นจะเป็นจะตายอย่างไร
เขาแค่ไม่อยากเสียเวลารอให้เจ้าแมงมุมนั่นกินเจ้าพวกนี้จนเสร็จ
เขาจึงจัดการมันไปก่อนเลย
เหล่าทหารถอนกำลังกลับเข้าไปยังป้อมปราการดัลมอร์
พวกเขาไม่กล้าที่จะโจมตีเข้าใส่วีด
เมื่อชีวิตของพรรคพวกของพวกเขากำลังตกอยู่ในกำมือวีดและอาจถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ
พวกเขาหลายคนมีวิจารณญาณที่ดีและขวัญกำลังใจต่ำต่างก็พากันเลือกที่จะหลบหนีไปแทนที่จะทำการต่อสู้
“เหล่ามอนสเตอร์จากวิหารเอ็มบินยูทั้งหลาย
พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้กล้าเข้ามาที่นี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากข้า! ที่แย่ที่สุดคือ อ้าย อี
พวกนั้นที่ไม่ได้ให้ข้าแม้แต่ค่าประการณ์หรือสตางค์ซักแดงเดียว!”
วีดจับพวกมอนสเตอร์มาและขว้างพวกมันออกไป
“ย๊ากกกกก จงกำจัดเหล่าศัตรูให้สิ้นซากซะ!”
ขวัญกำลังใจของเหล่ากองกำลังป้องกันปราการต่างก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อพวกเขาได้เห็นภาพเหล่านั้น
จะอย่างไรก็ตาม มันยังมีอีกนับสิบๆสถานที่ ที่กำแพงได้พังทลายลงมาแล้ว ดังนั้นศัตรูจึงได้พากันหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ทั้งเหล่าพลธนูแห่งวิหารเอ็มบินยูยังได้คว้าคันธนูของพวกมันขึ้นมาแล้วเล็งยิงมาที่เหล่ากองกำลังป้องการปราการ
แม้ว่าจะด้วยความพยายามของวีด
มันก็ยังคงมีมนุษย์จำนวนมหาศาลที่ตกตายลงอยู่ดี
“ถึงเวลาที่ฉันต้องใช้พลังตัวเองให้เป็นประโยชน์แล้วล่ะ”
วีดกระโดดข้ามกองเศษซากอาคารต่างๆและปีนข้ามกำแพงไป
ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของเขามันจึงทำให้ศัตรูสังเกตเห็นได้ทันทีเมื่อเขาปีนข้ามไป
“ถอยออกไปซะ!”
วีดไม่พูดพล่ำทำเพลงใดๆ
พลันคว้าจับมอนสเตอร์บนกำแพงแล้วขว้างมันเข้าใส่กองทัพเอ็มบินยู
(เอ็งคิดว่าเอ็งเล่นดอจบอลหรอ สำหรับคนที่งงว่าดอจบอลคืออะไร ให้นึกถึงฉากใน HxH ที่สู้กับเรเซอร์อะ ถถถ)
ฟิ้ววว ตู้มมมมม!
“พลังทำลายล้างอะไรกันนั่น...”
“เจ้านั่นขว้างมอนสเตอร์ยักษ์อย่างกับลูกบอลเลย!.”
เหล่านักบวชแห่งวิหารเอ็มบินยูและเหล่าผู้ถูกล้างสมองทั้งหลายต่างพากันขนลุกชันกับสิ่งที่เห็น
“ย๊ากกกกกกก!”
นี่คือทักษะ เสียงสะท้อนแห่งศิลา(Rock
Echo) ที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสมรภูมิรบ! วีดได้ใช้คลื่นเสียงอันทรงพลังเพื่อท้าทายต่อเหล่าวิหารเอ็มบินยู
“ช่างน่าสมเพชนักที่พวกเจ้าหาเรื่องต่อตีกับเหล่ามนุษย์อันแสนอ่อนแอภายในป้อมปราการนี่! เข้ามาสู้กับข้านี่
ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รู้ว่าพลังอำนาจอันเหนือล้ำแท้จริงเป็นเช่นไร!” (แปลคำพูดให้เข้ากับอิริยาบถตอนคุยกับพวกศัตรูนิสนึง
เพราะพวกนี้มันเป็นคนสมัยยุคกลาง ใช้คำพูดประมาณนี้ดูเท่ห์ดี)
การระเบิดครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่ลำแสงอันสุกสกาวปะทุออกมา
เสียงคำรามที่ใช้ล่อลวงศัตรู
ด้วยร่างกายอันใหญ่โตเทอะทะของบาบาเรี่ยน
ดังนั้นเขาจึงมีกล่องเสียงที่ใหญ่ตามไปด้วย นั่นทำให้เสียงคำรามของเขาดังกึกก้องราวฟ้าคำรณ
“พวกเราโดนเวทย์มนต์อันชั่วร้ายเข้าให้แล้ว”
เหล่าพลธนูบนกำแพงได้ฟื้นคืนจิตวิญญาณที่แท้จริงของพวกเขาในทันที
เวทย์ล้างสมองของวิหารเอ็มบินยูถูกทำลายลงจนสิ้นฤทธิ์ด้วยเสียงคำรามอันกึกก้องนั้นของวีด
“พวกเราจะร่วมสู้ไปกับท่านด้วย”
เหล่าพลธนูได้ประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมมือกับวีดออกมา
และก่อนทีการต่อสู้ที่แท้จริงจะอุบัติขึ้น วีดก็ได้เริ่มต้นร้องเพลงของเขา
[หมู่เมฆดำพัดผ่านโลดแล่น
เหล่าตัวละครอันอ่อนแอทั้งหลายต่างพากันพยายามดำรงไว้ซึ่งสันติภาพได้พังทลายลง
ข้ามีชีวิตอยู่ในความมืดมิดอนันตกาลใต้พสุธา]
กองทัพเอ็มบินยูนั้นกำลังกรีธาทัพเข้ามาภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด
ได้ให้บรรยากาศอันเข้ากันอย่างพอดิบพอดีกับเพลงดังกล่าว
[ฉันไม่อาจซักผ้าโดยปราศจากความรู้สึกอันแค้นเคืองได้เลย
ทั้งพื้นและวอลเปเปอร์ที่เปียกชื้น
ทั้งกลิ่นอับอันน่าคลื่นไส้!
ฉันนั้นเกลียดวันที่ฝนพร่างพรำเหนือสิ่งอื่นใด
แหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาพร้อมหมอกอันหนาทึบในห้องนอน
มันคือฝันร้ายหากต้องมากำจัดเชื้อราในกลางฤดูร้อน
เร่าร้อน เร่าร้อน
ราคาอันบัดซบของเครื่องทำความร้อน]
นี่แหละคือชื่อเพลง!
วีดได้ร้องเพลงอันเต็มไปด้วยอารมณ์อันโกรธแค้นอย่างสุดแทน
มันคือความอึดอัดคับข้องใจของการใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องใต้ดิน
มันมีเพียงแค่ฟูกโทรมๆหลังเดียวเท่านั้น
พร้อมด้วยทีวีหลังเต่าเครื่องเล็กๆและตู้พลาสติกเก่าๆ
เขารำลึกถึงครั้งเมื่อเขาได้รับความทุกทรมานจากการที่ต้องพยายามหาเงินมาจ่ายค่าเช่ารายเดือนให้กับเจ้าของบ้าน
คนอื่นๆทั่วไปมักกำลังทะเลาะเบาะแว้งกันเองกับเพื่อนอยู่หรือไม่ก็กำลังฟังเสียงบ่นอันจู้จี้จุกจิกของมารดาตน
ทว่าวีดกลับต้องคอยหักห้ามปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้พูดสิ่งใดออกไปไม่อย่างนั้นก็คงเสี่ยงที่จะต้องถูกเจ้าของบ้านไล่ออกจากที่พักไป
ในตอนนั้นเขายังไม่ได้ทำความฝันของเขาที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองได้สำเร็จ
ห้องใต้ดินอันสงบสุขที่ได้สร้างความหวาดกลัวอันลึกล้ำในเวลาเดียวกัน
“ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!”
แผนแต่เดิมของวีดนั้นคือการที่รออยู่บนกำแพงต่อไปอีกหน่อย
เหล่ากองกำลังป้องกันป้อมปราการดัลมอร์นั้นยังคงมีชีวิตอยู่ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรีบออกไปนัก
ทั้งยังมีแวนฮอว์กที่นำทัพเหล่าอันเดดอยู่
ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นเลยสำหรับวีดที่จะต้องเข้าไปร่วมในสมรภูมิรบ
แต่ทว่าด้วยโทสะอันคุกรุ่นของเขาได้ทำให้เขาเปลี่ยนแผนเดิม (WTF
ร้องเพลงแล้วอารมณ์ขึ้นหรา ฮึกเหิมๆๆ 5555)
วีดวิ่งตะบึงออกมาจากภายในป้อมปราการ
เขาได้ฟาดฟันดาบผลาญโลกาในมือของเขาท่ามกลางกองทัพวิหารเอ็มบินยู
อ๊ากกกก!
“ฉิบหายแล้ว หนีเร็วเข้า!”
เหล่าสาวกคลั่งกว่า 100
คนมอดไหม้เป็นเผ้าถ่ายภายใต้การโจมตีครั้งเดียว
มันเป็นเช่นเดียวกับเหล่ามอนสเตอร์ของวิหารเอ็มบินยูที่รายล้อมเขาอยู่
พวกมันทั้งหมดที่อยู่ในระยะโจมตีของวีด ล้วนมอดไหม้และตายลงไปในที่สุด
-แบล็คไนท์สไตรค์! (แปลว่าการพุ่งชนของอัศวินดำ
มันไม่เท่ห์อะเนาะ)
ทำการโจมตีไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเข้าใส่ศัตรูที่อยู่โดยรอบ
|
“ตาย ตาย! ตายซะไอพวกเวรรร!”
ทักษะการโจมตีวงกว้างอย่างต่อเนื่องได้ประสบผลสำเร็จ!
แม้จะอย่างนั้น
บางครั้งเขาก็เฝ้ามองอย่างอิจฉาขณะที่เหล่าสมาชิกครอบครัวของเจ้าของบ้านกำลังกินหมูสามชั้นกันอยู่ในสวนของบ้าน
เขานั้นใช้ชีวิตอยู่มากับน้องสาวผู้มีหัวใจอันแสนบริสุทธิ์(????????
น้องเอ็งมันก็เอ็งร่างผู้หญิงนั่นแหละโว้ย คิดละก็สงสารเซเฟอร์น้อยผู้น่าสงสาร)
ที่อยากจะได้กินเนื้ออร่อยๆ
ทว่าพวกเขาก็สามารถทำได้เพียงแต่นั่งมองคนอื่นกำลังกินกันไป
ราวกับเป็นขอทานเท่านั้น (รันทดเกิ๊น)
อีกทั้งเขายังรู้สึกตะขิดตะขวงใจเวลาที่หม้อไอน้ำเสีย
หรือประตูเปิดไม่ออก มันเป็นห้องที่ต้องการการซ่อมแซมเป็นการใหญ่(หม้อไอน้ำ คือ
ระบบทำความร้อนที่คนเกาหลีใช้ในบ้าน มันจะอยู่ใต้พื้นบ้าน เอาไว้กระจายความร้อน
ทำให้บ้านอุ่นขึ้น)
เขามีความทรงจำอันนับไม่ถ้วนขณะที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การกดขี่ของเจ้าของบ้าน
เขาจำทฤษฏีปีธากอรัสในวิชาคณิตในวัยเด็กไม่ได้แล้ว ทว่า เขายังจดจำชื่อของเจ้าของบ้านของเขา
ณ ตอนนั้นได้อย่างไม่มีวันลืม
“พยุหะลัญจกรเพลิง!”
แม้เผ่าพันธุ์ของเขาจะเปลี่ยนแปลงไป
ทว่าเขาก็ยังคงใช้งานทักษะต่างๆได้ดังเดิม
ฟ้าว ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รอบๆบริเวณ
ขณะที่วีดได้วิ่งเข้าไปยังใจกลางกองทัพเอ็มบินยูเพียงลำพัง
ด้วยการโจมตีนั้นกองทัพเอ็มบินยูได้สูญเสียไพร่พลไปทั้งสิ้นราว 3,000-4,000
ชีวิตในคราวเดียว
ในทันใดนั้น
เสียงคร่ำครวญอย่างอ่อนระโหยโรยแรงของเหล่าทหาร ณ ป้อมปราการก็ดังแว่วมาให้ได้ยิน
เนื่องด้วยสารธารอันเต็มไปด้วยแร่เงินบริสุทธิ์ที่คอยขวางกั้นไม่ให้เหล่ามอนสเตอร์ข้ามมา
ได้ถูกถมด้วยเศษหินและดินโคลนจนมันสูญเสียความสามารถในการสกัดกั้นสิ่งชั่วร้ายไปแล้ว
นั่นจึงทำให้การคืบคลานเข้ามาของเหล่ามอนสเตอร์ได้เริ่มต้นขึ้น
ปีศาจจากขุมนรกกว่า 100 ตน กระพือปีกร่อนลงมาและเล็งเป้าหมายไปที่วีด
พวกมันมีสติปัญญาสูงและค่อนข้างจะเหลี่ยมจัด
มันจึงเล็งในชั่วขณะที่วีดกำลังวอกแวกอยู่นั้นทำการตะครุบเข้าใส่วีดในทันที
“เหล่าผู้บาปหนาอันแสนโง่เขลาที่ไม่ได้ติดตามและศรัทธาในองค์เทพเอ็มบินยูจะต้องพินาศสิ้น!”
กองกำลังของกองทัพเอ็มบินยูนั้นหาได้กลัวความตายไม่
และยังคงคืบคลานไปเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง
เหล่านักบวชและจอมเวทย์ทั้งหลายได้ทำการข้ามแม่น้ำไปเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายใหญ่สุดของพวกเขาคือการจัดการกับวีดให้ได้
“สังหารเจ้านั่นซะ!”
“ข้าล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมันแล้ว
พวกเราจักต้องกำจัดมันไปให้สิ้นซาก เพื่อสนองต่อพระบัญชาแห่งองค์เทพเอ็มบินยู
(จริงๆแล้ว Embinyu’s aspirations จะแปลว่า
ความปรารถนาของเอ็มบินยู แต่ผู้แปล แปลให้เข้ากับอิริยาบถจึงคิดว่าแบบนี้น่าจะเหมาะกว่า)”
“เหล่าผู้ศรัทธาในองค์เทพเอ็มบินยูทั้งหลายเอ๋ย
บุรุษผู้บาปหนาผู้นั้นคือเป้าหมายของพวกเราตามพระประสงค์ของพระองค์”
กองทัพเอ็มบินยูทั้งหมดได้มุ่งเป้ามายังวีด
ภารกิจแต่เดิมทีของพวกมันคือการบุกทำลายป้อมปราการ
ทว่าในตอนนี้การโจมตีระยะไกลทั้งหมดได้หันเหการโจมตีสาดเทเข้าใส่วีดจนหมดสิ้น
“ลิ่มระเบิด(Wedge Blast ลิ่มคือไอที่เป็นแท่งๆ
ที่เอาไว้ตอก อกแวมไพร์อะ) โจมตี!”
“ประคำแห่งความหนาวเหน็บ!”(Beads of Cold)
“อัญเชิญดาบ การป้องกันสัมบูรณ์ หลับตาอดทน!” (Summon Another
Sword, Absolute Defense, Close Eyes Tightly)
วีดได้ใช้ทักษะการป้องกันที่เขามีออกไป!
ในร่างโนดูลวีดได้เรียนทักษะหลับตาอดทนมาจากภารกิจจิปาถะอันหนึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา
และยังมีดาบบินที่คอยทำลายเวทย์โจมตีที่ลอยมาในอากาศ
อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณเวทย์โจมตีอันมากมายมหาศาลทำให้มันมีจำนวนมากที่ดาบบินป้องกันเอาไว้ไม่หมดและมันได้ถาโถมเข้าปะทะกับร่างอันมหึมาของวีด
เขาถูกระเบิดปูพรมเข้าใส่จากเวทย์โจมตีนับร้อย
“ฮะ?”
วีดถูกกระแทกปลิวไปจากแรงระเบิดอันมหาศาล
ทว่านั่นกลับไม่ได้ทำให้เขาล้มลง เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับรอรอบอาการบาดเจ็บ
แต่ว่ามันน่าประหลาดใจมากที่เขารู้สึกว่ามันแค่คันๆเหมือนมดกดเท่านั้น! พลังชีวิตของเขาลดไปไม่ถึง 1
ใน 10 เสียด้วยซ้ำ เหล่ามหาอุปโรหิต
รวมถึงอิกริก และโมตุล ยังไม่ได้เข้าร่วมในการโจมตีเมื่อครู่
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
เลเวลและทักษะแต่ละชนิดของวีดนั้นมีระดับสูงจนน่าหวาดหวั่น
ยากจะหาใครเทียบเคียงได้
และเขายังสามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงนี้ออกไปได้เมื่อเขาได้ทำการเปลี่ยนร่างเป็นบาบาเรี่ยน
เหล่าบาบาเรี่ยนนั้นมีค่าความต้านทานเวทย์มนต์ที่สูงมาก ยิ่งไปกว่านั้น
พลังชีวิตที่ลดลงจะถูกฟื้นฟูจนกลับมาเต็มเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว!
ความสามารถในการฟื้นฟูของเขาอาจไม่เหมือนอย่างของโทรล
ทว่านี่ก็เรียกได้ว่าน่ากลัวมากแล้ว
วีดได้ทำการคำนวณผลต่างๆที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
‘บาบาเรี่ยนนี่ช่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ฉันค่อยมีความมั่นใจขึ้นมาหน่อยแล้ว
แน่นอนว่ามันจะเป็นอันตรายนิดหน่อยหากการโจมตีแบบนี้โจมตีซ้ำมาบ่อยๆเข้า….”
มอนสเตอร์บินทั้งหลายสัมผัสได้ว่าวีดนั้นอ่อนแอลงและทำการโฉบลงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
มันจะค่อนข้างยุ่งยากหากพลังชีวิตของเขาตกลงไปถึงครึ่งหลอด
หลังจากที่ฝุ่นควันที่ฟุ้งตลบค่อยๆสลายหายไป
วีดได้ร้องคำรามออกมาอย่างสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เจ้าพวกตัวโง่งมบัดซบ! นี่หรือคือฤทธานุภาพของเทพเอ็มบินยูที่พวกเจ้านับถือหนักหนา
ทำได้เพียงเท่านี้รึ?” (เรื่องเรียกทรีนไว้ใจวีด)
มีจอมเวทย์และนักบวชจำนวนมหาศาลที่อยู่ภายในกองทัพเอ็มบินยู
โดยปกติแล้วจอมเวทย์ที่สังกัดอยู่ในแต่ละอาณาจักรจะมีจำนวนที่ค่อนข้างจำกัดมาก
ทว่า
วิหารเอ็มบินยูกลับมีจอมเวทย์จำนวนมากที่สามารถใช้พลังความศรัทธาของเหล่าสาวกทดแทนพลังศักดิ์สิทธิ์
บางครั้งบางครา
เหล่านักบวชหรือผู้ไต่สวนที่สังหารทหารมนุษย์ได้ในการต่อสู้
ก็จะได้รับการเลื่อนขั้น
“ค่านิยมของเจ้าพวกนี้นี่มัน…”
วีดรีบวิ่งไปอย่างเร่งร้อน ด้วยกล้ามเนื้อและร่างอันมหึมาของเขานั่นก็เพียงพอแล้วที่จะฉีกกระชากมอนสเตอร์ให้เป็นชิ้นๆและแสดงให้เห็นถึงพละกำลังอันมหาศาลของเขา
ทว่า ขนาดร่างกาจของเขาก็ยังถือเป็นจุดด้วยของเขาอีกด้วย
ถึงแม้ว่าการร่ายเวทย์เพื่อโจมตีครั้งถัดไปจะต้องใช้เวลาสักพักในการร่ายออกไป
ทว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำการหลบเลี่ยงฝนธนูนับร้อยที่ยิงมาใส่เขา
เขาจึงกระแทกร่างตนพุ่งออกด้านข้างที่การโจมตีเบาบางกว่า
“จงจับมันมาให้ได้ แล้วจับมันมาถลกหนังทั้งเป็น
และจับมันโยนใส่น้ำมันอันเดือนพล่าน”
เหล่าอัศวินทมิฬต่างพากันกระโจมเข้าใส่เขาอย่างหนักหน่วง
วีดจึงตอบโต้พวกมันด้วยหมัดหรือไม่ก็ฟาดฟันพวกมันดาบผลาญโลกาในมือ
“ข้าขอท้าเจ้าให้เข้ามาสู้กับข้า เจ้าขยะแห่งวิหารเอ็มบินยู!” (ท้าใครฟะ)
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เหล่าผู้ชมทั้งหลายต่างพากันรู้สึกว่ามีความเร่าร้อนเดือดระอุอยู่ในหน้าอกตนขณะที่ได้รับชมการผจญภัยของวีด
ในขณะเดียวกัน
พวกเขานั้นกำลังมีความอยู่กับการผจญภัยอันแสนสนุกสนานและน่าตื่นเต้นเร้าใจ ทว่าในตอนนี้พวกเขาต่างก็พากันเฝ้าภาวนาให้วีดประสบความสำเร็จในภารกิจอย่างสมบูรณ์แบบ
เพราะด้วยผลลัพธ์จากภารกิจในครั้งนี้จะเป็นตัวตัดสินชะตะกรรมของทั้งโลก
ต่อให้เป็นเหล่าผู้ที่ไม่ใช้แฟนคลับของวีดเองก็ไม่ได้อยากให้พวกวิหารเอ็มบินยูเติบโตไปมากกว่านี้
และยิ่งไปกว่านั้น
เหล่าผู้เล่นต่างก็มีความประทับใจอันใหญ่หลวงต่อวีดผู้ที่ทำการย้อนอดีตกลับไปเพื่อที่จะหยุดยั้งเหล่าวิหารเอ็มบินยูผู้ชั่วร้าย
ที่กำลังทำให้ทั่วทั้งทวีปเกิดวิกฤติอยู่ในขณะนี้
เหล่าสถานีที่มีอิทธิพลสูงอย่าง KMC
Media และ CTS Media ต่างก็ตั้งใจที่จะปลุกปั้นให้วีดนั้นกลายเป็นวีรบุรุษผู้หยุดยั้งกลียุค
“ความสงบสุขของทวีปเวอร์เซลล์แห่งนี้นั้นกำลังตกอยู่ในอันตรายจากน้ำมือของเหล่าวิหารเอ็มบินยู
จนถึงตอนนี้ วีดได้ปรากฏตัวออกมาเสมอ
และคอยแก้ปัญหาในทุกๆครั้งที่ทวีปเวอร์เซลล์ตกอยู่ในอันตราย
เขาได้แสดงให้เห็นถึงหัวใจอันยิ่งใหญ่ที่ใฝ่หาความยุติธรรมของเขา”(เอิ่ม
นี่พูดถึงวีดคนเดียวกันแน่นะ?)
“ไม่เพียงแค่นั้น
วีดยังได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาทวีปเวอร์เซลล์บางส่วนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เขายังได้มีส่วนช่วยสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าของสายอาชีพการผลิตและศิลปะอย่างมหาศาล”
การออกอากาศในครั้งนี้มีอิทธิพลอย่างมหาศาล
ขนาดที่ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างชัดเจนของเหล่าเด็กๆของครอบครัวที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดอยู่
“ผมอยากจะโตไปเป็นนักผจญภัยที่ยิ่งใหญ่เหมือนอย่างวีดฮะ!”
“หนูอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนอย่างศิลปิน
และได้แต่งงานกับออร์คที่แข็งแกร่งอย่าคาริชวิ”(มนุษย์กับออร์ค คิดดีไม่ได้เล๊ยยย)
ความนิยมของวีดนั้นเป็นดั่งพระเอกในเทพนิยาย
เขาคือมนุษย์ผู้ปราบปรามเหล่ามอนสเตอร์ที่ชั่วร้ายไปพร้อมกับมังกรน้ำแข็งและเหล่าไวเวิร์น
ทั้งยังมีเจ้าเหลืองที่กำลังออกมาช่วยผู้คนในทุ่งกว้าง
โกลมินิผู้หยิบยื่นเงินทองมาให้
และมีนางเอกผู้หิวโหยที่กำลังนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยว(ว็อททททท นี่มันเทพนิยายอะไรฟะ 555) สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่โบราณคร่ำครึ
ทว่ามันก็เป็นที่นิยมและได้รับการพัฒนาเรื่อยมา ยังไงซะ
เหล่าผู้ชมก็ไม่ได้อยากเห็นวีดพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเหล่าวิหารเอ็มบินยู
“วันนี้หัวใจฉันเป็นกังวลมากซะจนฉันกินไก่ทอดไม่ลงเลยอะ”
“ลุ้นซะจนไม่มีอารมณ์จะกินพิซซ่าเลยว้อยยย”
เรตติ้งของการออกอากาศพุ่งสูงจนขึ้นเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
สถานีทั้งหลายต่างก็ให้ความสนใจทั้งหมดของพวกเขาไปกับวีด และ
ล้มเลิกความสนใจที่มีต่อสงครามปกป้องทวีปของกิลด์เฮอร์มีสในทวีปกลาง
ในความรู้สึกของพวกเขา
วีดได้รับการยอมรับให้เป็นวีรบุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของทวีปเวอร์เซลล์แห่งนี้
และในตอนนี้วีดได้มีส่วนร่วมอยู่ในภารกิจที่ตัวเขาเองมีโอกาสสูงมากที่จะล้มเหลว
“อ๊ะ ทำไมเขาถึงได้ใจร้อนรีบออกไปเสี่ยงอันตรายข้างนอกกำแพงขนาดนั้นกัน?”
“เขากวาดล้างทุกอย่างที่ขวางทางจนเกลี้ยง
โคตรเท่ห์อะ”
เหล่าผู้ชมต่างรู้สึกไม่สบายใจ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“เข้ามาเลยไอ้กร๊วก ข้าจะขี้พวกเจ้าทุกตัวให้เละ!”
วีดได้จัดการศัตรูนับร้อยที่เข้าทั้งหมดมาในเวลาเดียวกัน
“ไอ้พวกสวะเอ็มบินยู พวกแกมีดีแค่นี้เองหรือ?
พวกแกยังห่างไกลจากการจะทำลายทั้งทวีปนัก!”
วีดได้ทำการยั่วยุจุดที่อ่อนไหวของศัตรู
ทำให้เหล่าอัศวินทมิฬ สาวกคลั่ง และมอนสเตอร์ทั้งหลาย พากันเข้ามารุมทึ้งเขา
ทั้งยังมีเวทย์โจมตีทั้งหลายแหล่ที่ระเบิดตูมตามอยู่รอบๆตัวเขา
-พลังชีวิตของท่านกำลังลดต่ำลง
พลังชีวิตปัจจุบัน
คงเหลือ 68.7%
|
มันไม่ได้นับว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่มากมายอะไรนักทว่าในตอนนี้เขาถูกห้อมล้อมไว้โดยศัตรูจำนวนมหาศาล
เขาได้การต่อสู้ท่ามกลางดงศัตรูอย่างนี้ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว
นี่คือความมุทะลุของวีรบุรุษผู้มีใจใฝ่ความยุติธรรมที่กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องโลก!
(ถามอีกที นี่ใช่วีดหรอ?)
และยิ่งวีดเล่นสนุก(?)ยืดเยื้อกับศัตรูได้นานเท่าไหร่
ก็จะยิ่งเป็นโอกาสที่ดีให้เหล่าทหารแห่งป้อมปราการดัลมอร์เตรียมการรับมือกับผู้บุกรุกที่เยื้องกรายเข้ามาได้มากเท่านั้น
เหล่าปีศาจร้ายที่กำลังออกมาจากประตูนรกและเหล่าวิหารเอ็มบินยูกำลังมุ่งความสนใจของพวกมันไปทีวีด
นั่นส่งผลให้ความกดดันที่ป้อมปราการจะได้รับน้อยลงไปอย่างมาก
วีดคว้าศีรษะของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วจับมันโยนขึ้นไปในอากาศ
ตู้มมมมม !
“อ่อนแอ
ช่างอ่อนแอเกินกว่าจะมาเป็นเหยื่อของข้า เข้ามาให้หมดซะไอ้พวกสวะ!”
ในตอนนี้เขาคือมนุษย์ที่น่าหวาดกลัวที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์
เขาสามารถต่อกรกับกองทัพแห่งวิหารเอ็มบินยูด้วยกำลังของตนเองเพียงลำพัง
ทว่าในสมองของเขากำลังขบคิดคำนวณวิถีทางทุกอย่างที่เป็นไปได้อย่างมั่นคงและเยือกเย็น
‘เวทย์โจมตีเริ่มมีการชะงักลังเลไปนิดหน่อยแล้ว
พวกมันกำลังเตรียมการใหญ่บางอย่างอยู่แน่’
พลังในการต่อสู้ของเหล่าอัศวินและเหล่านักรบนั้นทรงพลังอย่างมาก
ทว่าพวกเขามีความต้านทานต่อคำสาปต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
และรวมถึงเวทย์ดีบัฟของเหล่าชาแมน วอร์ล็อค และพ่อมด ฯลฯ
หลังจากโดนดีบัฟพวกนั้นเข้าความสามารถในการต่อสู้อันทรงพลังของพวกเขาก็จะถูกทำให้อ่อนแอลง
พลังป้องกันอันสูงลิบก็จะถูกเจาะทำลาย และการเคลื่อนไหวร่างกายของพวกเขาก็จะกลายเป็นช้าลงแถมหนักหน่วยไปทุกอิริยาบถ
เหล่านักบวชแห่งวิหารเอ็มบิยูผู้สามารถใช้เวทย์คำสาปขั้นสูงได้คือศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเหล่านักรบ
มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดันเจี้ยนที่มีมอนสเตอร์ประเภทนักบวชมืดทั้งหลายจึงไม่เป็นที่นิยมในการใช้เป็นพื้นที่ล่า
หากมีคนเข้าไปล่าพวกมัน
ทั้งกลุ่มจะได้พบกับความตายโดยที่ไม่ทันได้รับรู้สึกตัวตนของนักบวชพวกนั้นด้วยซ้ำไป
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงไม่สามารถจะบอกได้ว่าฝั่งไหนเก่งกว่ากันในการต่อสู้ระหว่างนักรบและนักบวช
‘เวลาผ่านไปสักพักแล้วสินตั้งแต่การโจมตีครั้งสุดท้ายนั่น มันคงใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะมั้ง’
วีดทำการเคลื่อนไหวภายในหมู่กองทัพเอ็มบินยูอันมหาศาล
วีดได้เหยียบย่ำ บดขยี้ และข้างพวกมันออกไป!
เขาได้กำจัดศัตรูไปนับสิบในแต่ละก้าวทีเขาเดินไป(โหดเกิ๊น
ถ้ากลับไปเวลาเดิมแล้วเอ็งโหดขนาดนี้ คนอื่นคงเลิกเล่นหมดอะ)
โชคดีที่ตัวเขามีขนาดใหญ่เขาจึงสามารถไล่กระทืบผ่านพวกมันไปได้อย่างง่ายดาย
-เป็นมนุษย์ที่ดูดีจริงๆ
-ข้าล่ะอยากลิ้มลองรสชาติของมันนัก
เฮะ เฮะ เฮะ
-หัวมันเป็นของข้า
ข้าจะขย้ำหัวมันและกัดกินสมองมันซะ
เหล่าปีศาจจากขุมนรกร้องคำรามออกมาขณะที่พวกมันกำลังโฉบร่อนลงมา
แม้ว่าจะด้วยสถานการณ์อันแสนวุ่นวายเช่นนี้
วีดก็ไม่ได้สูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเขาไป ในขณะนั้นได้มีปีศาจกว่า
1,000 ตนที่ผ่านออกมาจากประตูนรกและเข้าสู่โลกใบนี้แล้ว
“พวกเราไม่อาจปล่อยให้เจ้าบ้านั่นมาขัดขวางเหล่านักบวชได้”
“การพิพากษาแห่งคาร์ล”(Karl’s Judgment)
เหล่าอัศวินทมิฬต่างพากันตาลีตาเหลือก
กระเสือกกระสนพยายามที่จะหยุดยั้งการบุกทะลวงอันรวดเร็วของวีดให้ได้
ทว่าเหล่าวิหารเอ็มบินยูนั้นถูกกระจายกำลังกันอยู่รอบๆ
จึงไม่มีใครสามารถที่จะหยุดยั้งวีดเอาไว้ได้
พวกมันมีทั้งกองกำลังที่กำลงปิดล้อมป้อมปราการดัลมอร์อยู่และทัพหลังของพวกมันที่กำลังต่อสู้อยู่กับกองทัพอันเดดที่นำโดยแวนฮอว์ค
วีดนั้นถูกกองกำลังศัตรูอันมหาศาลรายล้อมอยู่
ทว่าพวกมันก็คือพวกที่ถูกวีดกวาดล้างไปเมื่อสักพักที่ผ่านมานี้ด้วยการบุกทะลวงอย่างรวดเร็วของเขา
‘ฉันจำเป็นที่จะต้องเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด
ความเสียหายบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมาก็คงปล่อยผ่านไม่ต้องไปสนใจได้ล่ะนะ’
-พลังชีวิตในปัจจุบันของท่าน คงเหลือ 51.3%
นี่คือผลลัพธ์จากความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
|
หน้าต่างข้อความได้แสดงการแจ้งเตือนขึ้นมา
นี่คือวิกฤติอันใหญ่หลวงเมื่อพิจารณารวมเหล่าปีศาจจากขุมนรกเข้าไป ทว่าเหล่านักบวชอาวุโส(Senior
Priests)และจอมเวทย์แห่งวิหารเอ็มบินยูยังคงอยู่ห่างออกไปอีกราว 1
กิโลเมตร
ร่างกายของวีดขยายขนาดใหญ่ขึ้น
นั่นทำให้วีดเคลื่อนที่ได้ไวขึ้นเช่นกัน ทว่าเหล่าศัตรูนับหมื่นได้กำลังขัดขวางเขาเอาไว้อยู่
ทั้งเวทย์คำสาป มอนสเตอร์หลากเผ่าพันธุ์
และเหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ต่างถูกระดมพลมาเพื่อโจมตีและหยุดยั้งวีด
ด้วยเหตุนั้นวีดจึงสามารถที่จะเห็นว่าเหล่านักและจอมเวทย์ทั้งหลายกำลังใกล้จะร่ายมหาเวทย์จนเสร็จสิ้นแล้ว
“ตอนนี้แหละ ถล่มพสุธา!” (Earth Shaking อันนี้จริงๆแปลว่าแผ่นดินไหว)
วีดได้กระทืบเท้าขวาเของเขาข้าใส่พื้นดินอย่างหนักหน่วง!
นี่คือทักษะจำเพาะของเผ่าบาบาเรี่ยน
-ทักษะถล่มพสุธาได้ถูกใช้งาน
พลังชีวิตในปัจจุบันคงเหลือ
87.46%
ในการใช้งานทักษะค่าความอดทน
7.1% จะถูกเผลาผลาญไป
ท่านสามารถใช้พลังอันเกินขีดจำกัดได้ชั่วคราว
ค่าความแข็งแกร่งสูงสุดของท่านลดลง 10% เป็นเวลา 15 นาที
|
ครึกๆๆ ตู้มๆๆ!
วีดได้ทำการกระทืบเท้าลงไปยังพื้นดิน
และได้เกิดเสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้น ขณะที่ผืนพสุธาแยกออกจากกัน จากนั้นแรงสั่นสะเทือนได้แผ่นขยายออกไปตามพื้นดิน
ขณะเดียวกันพื้นดินก็ได้แหลกเหลว และเคลื่อนไปดั่งสายน้ำ
เหล่าอัศวินทมิฬได้ล้มลงและถูกคลื่นพสุธากวาดพัดไปมาในขณะที่มอนสเตอร์ทั้งหลายต่างกลิ้งไปมารอบๆหลังจากที่พวกมันเสียสมดุลไป
เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ที่สูงกว่า 20 เมตรต่างก็โงนเงนไปมาและบดขยี้เหล่ะพรรคพวกตนไปจำนวนมหาศาล(ตรงนี้
Eng แปลมาว่า Crushed numerous soldiers หรือก็คือบดขยี้เหล่าทหารจำนวนมหาศาล
แต่ว่าวีดมันโดดมากลางดงพวกวิหารเอ็มบินยู และไม่น่าจะมีทหารอยู่ตรงนี้ เลยคิดว่า Eng
อาจจะเขียนมาผิด)
นี่คือทักษะที่ขยายเพิ่มความแข็งแกร่งไปจนถึงขีดสุดที่ได้รับมาจากการใช้ประติมากรรมทำลายล้าง!
นอกจากวีดที่เป็นเพียงผู้เดียวที่ยังยืนอยู่แล้ว ทุกสิ่งรวมถึงพื้นที่รอบๆตัวเขาต่างก็กลายเป็นโกลาหลยุ่งเหยิงไปจนสิ้น
“อั่กกก
เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แค่กๆ”
“พลังทำลายล้างเช่นนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์เทพเอ็มบินยู”(พวกเอ็งนี่เป็นเอามากแล้วแหละ)
อย่างไรก็ตาม
จำนวนผู้ที่เสียชีวิตจำกัดอยู่แค่เหล่าสาวกคลั่งเท่านั้น
มันคือทักษะอันพิเศษเฉพาะดังนั้นจึงไม่สามารถบ่นว่าอะไรได้เกี่ยวกับเอฟเฟคท์รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น
(สกิลมันโกงอะทำไงได้)
แรงสั่นสะเทือนค่อยๆจางหายไปตามระยะทางที่เพิ่มขึ้น(ยิ่งไกลออกไปแรงสั่นสะเทือนยิ่งน้อย)
ทว่าเหล่าจอมเวทย์และนักบวชในระยะต่างล้มลงหรือไม่ก็กระโดดขึ้นบนอากาศเพื่อหลบเลี่ยงแรงสั่นสะเทือนจากพื้นดิน
มันจึงเป็นธรรมดาที่เวทย์ที่กำลังถูกเตรียมการร่ายอยู่จะถูกขัดจังหวะจนต้องยกเลิกไป
ดวงตาของวีดทอประกายเจิดจ้าขณะที่เขาฉวยโอกาสอันดีนี้เอาไว้ได้
‘ตอนนี้แหละ’
เขาวิ่งทะยานไปยังเหล่าศัตรูที่ล้มลงอยู่
ณ ใจกลางกองทัพเอ็มบินยู มันคือสถานที่ซึ่งเหล่าจอมเวทย์และนักบวชอันแสนสำคัญรวมตัวกันอยู่!
เหล่าอัศวินทมิฬต่างพากันเร่งรีบลุกขึ้นจากพื้น
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก
เจ้าคนเถื่อน!”
เหล่าอัศวินไร้หนทางในการที่จะสกัดขัดกวางวีดเอาไว้ได้
พวกมันถือว่าเป็นกลุ่มมหาอำนาจในช่วงเลเวล 300-400 ทว่าพวกมันกลับถูกหมัดเพียงหมัดเดียวของวัดซัดจนร่วงลงไป
วีดได้เจาะทะลวงเป็นเส้นตรงเข้าไปยังเหล่านักบวชอาวุโส(Senior Priest)แห่งวิหารเอ็มบินยู
“ความโกลาหลแห่งวายุทมิฬ!”(Riot of Black Wind)
มหาอุปโรหิตโมตุลส์ได้ร่ายเวทย์โจมตีเข้าใส่วีดอย่างรวดเร็ว
ฝูงอีกาที่ปรากฏตัวออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยได้เข้าโอบล้อมวีดเอาไว้
มันเป็นการตั้งใจที่จะทำให้ยากแก่วีด ในการจะโจมตีเหล่าจอมเวทย์และนักบวช
วีดมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากฝูงกานับพันที่รายล้อมเขาอยู่
“นี่คงไม่ใช่เวลามาเลือกวิธีการอยู่แล้วล่ะ, อาทิตย์อัสดง!” (End of the Day แปลว่าสิ้นสุดวัน หรือสิ้นสุดช่วงกลางวันก็ได้
เลยแปลเป็นอาทิตย์อัสดงที่หมายถึงตอนที่หมดช่วงกลางวันหรือตอนพระอาทิตย์ตกนั่นเอง)
วีดได้ใช้มานาทั้งหมดที่เขาสงวนเอาไว้ไปกับทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของนักรบสุริยะ
ตำแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้นั้น อยู่ลึกเข้าไปด้านในค่ายป้องกันของพวกวิหารเอ็มบินยู
ดังนั้นเขาสามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้แม้ว่าเขาจะไม่เห็นตัวของเหล่านักบวชอาวุโสก็ตาม
“ดีไวน์โพรเท็คชั่น!”(Divine Protection การป้องกันศักดิ์สิทธิ์)
เหล่านักบวชอาวุโสได้ร่ายใช้เวทย์มนต์ป้องกันออกมาเพื่อเข้าต่อต้านเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่ปะทุเข้าใส่
ทว่าพวกที่อยู่ใกล้กับเปลวเพลิงมากเกินไปได้ถูกแผดเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน
ทั้งยังมีเหล่าอัศวินและจอมเวทย์ผู้โชคร้ายทั้งหลายที่อยู่ใกล้กับวีดก็ได้สูญสลายหายไปอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ(เมื่อเห็นเธอเดินจากป๊าย)
เขาได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลแก่ภายในศูนย์กลางของกองทัพเอ็มบินยู
ทว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอยู่อย่างสบายใจนัก
เหล่านักบวช จอมเวทย์
และพวกมอนสเตอร์แห่งกองทัพเอ็มบินยูที่ล้มลงไป ได้ถูกรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันแล้ว ทั้งยังมีเหล่าปีศาจจากขุมนรกที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าผู้ที่ใช้โอกาสนี้ในการพุ่งเข้ามาประชิดวีดมากขึ้น
“เจ้าหนูสกปรกได้เข้ามาติดจั่นแล้ว!”
“มันเข้ามาถึงที่นี่ได้ต้องขอบคุณพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์เทพเอ็มบินยู
เหล่าผู้เคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อของเจ้าคนเถื่อนผู้นี้เอ๋ย จงยินดีเสียเถิด
ในวันนี้งานของพวกเราคือการสังหารตัวอุปสรรคใหญ่ที่คอยขวางทางพวกเราอยู่!”
โมตุลส์และอิกริกต่างพากันกระตุ้นขวัญกำลังใจของกองกำลังเอ็มบินยู
วีดได้ใช้มานาของเขาไปจนหมดสิ้น
และถูกปล่อยทิ้งไว้ให้อยู่ในกลางกองทัพเอ็มบินยูเพียงลำพัง
‘
‘
‘
โปรดติดตามตอนต่อไป…. (ตัดจบแบบละครไทย)
ผู้แปล :
Patty
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ปล.สารจากผู้แปล สวัสดีทุกท่านตอนนี้ก็พบกับผมอีกเช่นเคย วันนี้ก็มีข่าวร้าย
เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นข่าวดีกันนะ
ข่าวร้ายก็คือ
ผมจะไม่ได้แปลต่อในตอนที่ 4 แล้ว
ส่วนข่าวดีก็คือ
มีผู้แปลท่านอื่นได้แปลตั้งแต่ตอนที่ 4-10 ของเล่ม 37 จบแล้วนั่นเอง ดังนั้น
หากไม่มีอะไรผิดพลาด เราคงได้พบกันใหม่ในตอนที่ 1 หรือ 2
ของเล่มที่ 38
ปล.2
หากใครคิดถึงผลงานของผมแล้วอยากให้แปลนิยายเรื่องไหนในระหว่างที่รอจนถึงเล่ม 38 กึคอมเม้นท์มาบอกไว้ได้เลยนะครับ
หากเรื่องน่าสนใจเดี๋ยวจะฝากแอดให้ช่วยมาประชาสัมพันธ์แล้วผมจะเปิดเพจแปลเรื่องนั้นๆให้ครับ
ทั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้แปล ผมขอคนละ
1 คอมเม้นท์เหมือนเดิมนะครับ อิอิ
4-10 ของเล่ม 37 how to read pl thank you
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบชอบสำนวนการแปลมากครับ
ตอบลบตัดจบแบบละครไทย ผมนึกถึง นักแคสเกมส์ Bay Riffer เลย
แจ่มไปเลย ยังไงก็ได้ผมคนง่ายๆ ขอแค่มีให้อ่านต่อเนื่อง ขอคุณที่แปลให้ครับ
ตอบลบแปลได้สนุกมากครับ
ตอบลบค้างไม่น้าาา
ตอบลบตอนนี้วงเล็บเยอะไปหน่อย(ผมเข้าใจว่าอยากแสดงความรู้สึก)
ตอบลบผมก็ไม่คิดจะห้ามเรื่องนี้ แต่บางอันลดได้ก็ลดครับ อย่างพวกลิ่มคืออะไร(ถ้าของยูนีคจริงๆค่อยอธิบายก็ได้)
ขอบคุณสำหรับผลงานครับ แปลลื่นเหมือนเดิม
คุณน่าจะใช้คำที่ดีกว่านี้นะ เค้าแปลให้อ่าน
ลบขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบอ่านสนุกมากครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับที่ช่วยแปลให้อ่านคร้าบ
ตอบลบโจ๊กหญ้าๆๆๆๆๆๆ😁😁😁
ตอบลบแปลสนุกจริง หวังว่าจะได้อ่านอีกนะครับ
ตอบลบชอบการแปลช่วงนี้จริงๆ มี มุขเสริมตลอดเลย แขวะพวกการเมืองนิ ผมฮาเลย
ตอบลบขอบคุณมสกครับ แปลสนุกมาก
ตอบลบThank
ตอบลบจอบคุณรรับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบสำนวนแปลดีครับ อ่านสนุก มีหยอดมุก และอธิบายเพิ่มเติมในส่วนที่คิดว่าผู้อ่านจะงงด้วย ขอบคุณครับ อ่านแล้วอารมณ์ดีตามผู้แปลเลยครับ
ตอบลบ