เล่ม 33
ตอนที่ 8 : เปลวเพลิงหายนะ แปลโดย Acid กรด
จากมุมมองของวีด, การแยกกลุ่มพวกอัศวินที่กำลังต่อสู้ออกจากกันเป็นการดีกว่าปล่อยให้ต่างคนต่างอยู่
เลเวลของพวกอัศวินประมาณ 300
เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งสงครามดังนั้นพวกอัศวินของอาณาจักรเคลตั้น(Keltun) และ มาปอน(Mapon) จึงมีมาตรฐานสูง
เหล่าอัศวินหลวงที่แข็งแกร่งกว่าก็มีส่วนร่วมด้วยแต่ไม่ได้อยู่ใกล้กับวีดและซอยูน
แผนของวีดมีการเปลี่ยนแปลง
"ถ้าพวกเราพยายามออกจากพื้นที่ของฝ่ายอาณาจักรมาปอนอย่างนั้นเราก็จะถูกไล่ล่าโดยพวก
อัศวินและทหารม้า
เราควรสร้างความสำเร็จเพื่อส่วนรวมสักหน่อย"
วีดขับดันพวกเขามุ่งไปยังพื้นที่ที่พวกศัตรูได้ตั้งแนวป้องกันไว้
"จัดการมันให้หมดทุกคน เคล็ดมีดสลักแสงจันทร์!"
"เคล้ง!"
"เข้มแข็งไว้ ยันไว้ด้วยโล่ของเจ้า"
"พวกเรามีช่องโหว่!" “ช่องโหว่ตรงไอ้เจ้านั่น!"
พวกทหารสามัญถูกกวาดล้างออกไป เหล่าทหารล้มลงเมื่อเขาผ่านพวกนั้นและโจมตี
พวกทหารเปลี่ยนเป็นแสงสีเทาและวีดได้เก็บรวบรวมเหล่าไอเท็มที่ตก!
แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประมาทแม้ชั่วเวลาสั้นๆในสนามรบ เหล่าอัศวินเฮรอส(Helos
Knight) จากอาณาจักรเคลตั้น(Keltun Kingdom)เข้าประชิดพวกเขาอย่างรวดเร็วและน่ากลัว
"ระวังหลังด้วย!"
วีดหันกลับทันทีที่เขาได้ยินเสียงของซอยูน เหล่าอัศวินเฮรอสกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมายังกองทัพของ
อาณาจักรมาปอนราวกับพายุ
"นั่นละเยี่ยม พวกเขาสามารถจัดการกับพวกอื่นๆได้"
วีดรีบเคลื่อนไปด้านข้าง เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่วีดดังนั้นพวกเขาจึงเคลื่อนผ่านวีดไป
"ให้พวกหลังเขามาปอนรู้จักความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเคลตั้นกันเถอะ"
"บุก ลุยมันเลย!"
เหล่าอัศวินเฮรอสผ่านเข้าไปและโจมตีกองทัพของอาณาจักรมาปอน
วีดขี่ม้าตามหลังเหล่าอัศวินเฮรอส
เป็นไปไม่ได้ที่จะตามไปด้วยการใช้ทักษะการขี่ม้าเพียงอย่างเดียว
แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นเหล่าอัศวินสวมเกราะหนัก
หลังจากฝ่าเข้าไปในค่าย, ทหารจำนวนมากของอาณาจักรมาปอนก็ลดลงเนื่องจากการจู่โจม
พลังของ
กองทัพแห่งอาณาจักรมาปอนลดลงทีละเล็กละน้อยขณะที่เหล่าอัศวินเฮรอสโจมตี
นี่เป็นดั่งดอกไม้โปรยปรายให้วีด!
คว้าง!
ฝ่ายอาณาจักรมาปอนเล็งเวทย์และลูกศรเข้าหาเหล่าอัศวินเฮรอส
"แกแพ้แล้ว งั้นฉันก็ขย่ำแกได้เต็มที่!"
วีดหลบออกไปจากเหล่าอัศวินเฮรอสและเข้าไปยังหน่วยพลธนูของอาณาจักรมาปอน
เวลานี้หน่วยอัศวินกลายเป็นเป้าหมายหลัก,
เขาสามารถตัดตรงไปยังพวกพลธนูได้อย่างปลอดภัย
เหล่าอัศวินอาณาจักรมาปอนทะลวงเข้าหาอัศวินอาณาจักรเคลตั้น
ซอยูนไม่ได้แยกจากพวกอัศวินเพียงแค่
ฟาดฟันล้มพวกเขาขณะที่เธอบ่ายหน้าไปหาวีด
"เร็วเข้า พวกเราต้องไปแล้ว! ถ้าพวกเรายังช้าเกินไป พวกเราจะถูกศัตรูเล็งโจมตีเอาได้"
"นั่นก็เป็นอย่างที่ผมคิดด้วย!"
วีดและซอยูนโลดแล่นท่ามกลางสมรภูมิ พวกเขาไม่มีเวลาให้พักผ่อนและต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดขณะที่พวกเขาพยายามหลบหนี
"สับสนไปหมด!"
วีดสำรวจฝ่ายอาณาจักรมาปอนเพื่อหาทางหลบหนี
ลูกศรเป็นพันๆมาบรรจบกันท่ามกลางท้องฟ้า
และเวทย์มนต์โจมตีพื้นที่ที่เหล่าทหารรวมตัวกันอยู่
เป็นทัศนียภาพของสมรภูมิที่ดุเดือด เข้มข้นและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ศัตรู 100,00 นายต่างกำลังต่อสู้ต้านทานกันทั้งสองฝ่ายดังนั้นวีดเองไม่สามารถหาที่พื้นที่ว่างได้เลย
พวกเขาฝ่าออกไปแม้จะมีจำนวนมากกว่า! ใช่แต่เพียงนี้, ถ้าการรบบนภาคพื้นจบลงโดยไวแล้ว
สถานการณ์อาจเลวร้ายยิ่งขึ้น
ไม่ว่าอาณาจักรมาปอนหรืออาณาจักรเคลตั้นชนะ, กองทัพที่ได้ชัยจะมุ่งเป้าไปที่วีดและซอยูน
"เทพสมุทรพิโรธ!"
"รวบรวมเครื่องสังเวย"
บริวารของเทพสมุทรได้ปรากฏขึ้นบนพื้นที่ใกล้วีดและซอยูน
พวกเขาเร่งรีบตัดผ่านสนามรบทันที
แม้ว่าสนามรบเต็มไปด้วยทหารม้า,
พวกเขาจะถูกจับได้ในไม่ช้า
"ดูจะเป็นเรื่องดีที่เรามาที่นี่ การรบนี่จะช่วยซื้อเวลาให้พวกเราได้บ้าง
พวกเราจะต้องมีชีวิตรอดไปได้"
ซอยูนเก็บทุกอย่างในขณะที่เธอย่างก้าวและขบคิดว่าจะหนีได้อย่างไร
"พวกเราต้องไปแล้ว!"
"ถ้าพวกเรารั้งรอสักครู่แล้วพวกทหารม้าและอัศวินจะขัดขวางการติดตามของพวกมัน"
วีดหยุดกับที่ เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของอาณาจักรเคลตั้นและมาปอนอย่างใจเย็น
เขาให้ความสนใจกับการกระทำ
และคำพูดของพวกทหารและเหล่าอัศวิน
เขาจับจ้องทุกรายละเอียดว่าเหล่าทหารราบทำการเคลื่อนพลกันอย่างไร
"ทหารตั้งมากมายมากระจุกกันในพื้นที่เล็กๆเป็นไปไม่ได้ที่จะมีช่องว่าง
อย่างนั้นเราต้องทำให้เกิดช่องว่าง"
บางครั้งความคิดอันชั่วร้ายของเขาก็เหนือจินตนาการของมนุษย์
วีดเป็นผู้สร้างสรรค์ที่สามารถนำเอาแผนการ
อันชั่วร้ายของเขาเข้าสู่ปฏิบัติการ
พวกผู้เล่นแดนเหนือที่ต่อสู้เพื่ออาณาจักรอาร์เพนในแผนรูปอย(Rupoi)!
วีดได้ทำการควบคุมพวกเขา
เพื่อใช้การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ
แน่นอน,
เขาไม่ได้ใช้มันเพราะว่ามันจะไม่ได้ผลประโยชน์แต่เวลานี้ไม่มีเหตุผล
ให้ลังเลอีกต่อไป
"เดิมทีผู้คนก็ชอบการเล่นกับไฟ"
เด็กน้อยฝันที่จะกลายเป็นนักผจญเพลิงจากนั้นเขาก็นำประติมากรรมที่แปลกประหลาดออกมา
มันเป็นประติมากรรมเปลวเพลิงชิ้นเยี่ยมที่เขาได้เก็บเอาไว้!
"การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ!"
- ประติมากรรมชั้นเยี่ยม
ความหายนะอันน่าหวาดหวั่นจะส่งผลกระทบที่สามารถฆ่าคุณได้
ถึงกระนั้น,
คุณยังอยากใช้ทักษะนี้หรือไม่?
|
ความใกล้ชิดกับธรรมชาติสูงเกินใครเทียบดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพลังอันน่าเกรงขามที่จะอุบัติ
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏบนใบหน้าของวีด
"ใช้มัน"
- คุณได้ใช้การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ
ค่าสถานะทางศิลป์
200 แต้มหายไปอย่างถาวร
มานาถูกใช้ไป
20,000
ทุกค่าสถานะถูกลดลงชั่วคราว
15%
ความใกล้ชิดธรรมชาติลดต่ำ
การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติสามารถใช้ได้เพียงวันละหนึ่งครั้ง
เมื่อมหาภัยพิบัติถูกเรียกขึ้นมา,
ชื่อเสียงหรือความฉาวโฉ่สามารถเพิ่มขึ้นได้ขึ้นอยู่กับความเสียหาย
เป็นไปได้ที่จะเสียชีวิตในระหว่างที่เกิดหายนะดังนั้นต้องระมัดระวัง
- คุณได้คุ้นเคยกับทักษะการแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ
เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดภัยพิบัติสองอย่างในเวลาเดียวกัน
ปฏิสัมพันธ์ของมหันตภัยสามารถทำให้เกิดผลกระทบที่แตกต่างจากธรรมชาติ
- ได้รับสมญานาม,
บุรุษผู้ควบคุมภัยพิบัติ
ความศรัทธาลดลง
60
ความใกล้ชิดกับธรรมชาติลดต่ำ
|
"ฉันต้องใช้เจ้าสิ่งเลวร้ายให้เร็วที่สุด!"
ไม่นานนักที่ทักษะจะสำแดงฤทธิ์, อย่างไรก็ตาม,
ถ้าเขาหลบภัยพิบัติไม่พ้นแล้วเขาอาจต้องเสียชีวิต
"ไปกันเลย เราจะทะลวงผ่านไปด้านหน้า"
"รับทราบ!"
วีดและซอยูนควบม้าอย่างบ้าคลั่งตัดผ่านสนามรบ
"เจ้าที่อยู่ตรงนั้น ข้าคืออัศวินแลนเทอร์จากอาณาจักรมาปอน ข้าขอท้าเจ้า"
"ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งอยู่ไปหาคนอื่นเถอะ"
"คนที่หนีการประดาบในการต่อสู้ช่างไร้เกียรติ!"
"เกียรติไม่ได้ทำให้ข้าอิ่ม!"
"อัศวินเคลตั้น, ตามล่าพวกมัน"
"ไอ้พวกน่าเบื่อตามมาอีกล่ะ"
มีพวกอัศวินเพียงเล็กน้อยและการโจมตีจากพวกทหารอย่างเบาบางดังนั้นเขาจึงแค่ผ่านพวกนั้นไป
เวทมนต์และลูกศรเล็งไปที่พวกเขา
วีดและซอยูนเพียงแค่ทำการวิ่งต่อไปข้างหน้า
ฮี้.ๆ.ๆ.ๆ!
ม้าของซอยูนถูกโจมตีด้วยเวทย์และล้มลง
"ขึ้นม้าผม!"
"แต่...ฉันจะทำให้คุณช้าลงนะ"
"ผมไม่สน"
"พวกเราจะโดนพวกที่ตามล่าจับได้นะ"
"ถ้าคุณตายไป ชีวิตผมก็ไร้ความหมาย
พวกเราทั้งสองคนต้องตายพร้อมกันหรือมีชีวิตไปด้วยกัน"
หัวใจของซอยูนเต้นโครมครามในอก แม้ว่าวีดจะเป็นคนขี้ตืดวุ่นวายอยู่กับกำไรหรือขาดทุน,
แต่คำพูดของเขาทำให้หัวใจของเธออบอุ่นจริงๆ
'ฉันอยากอยู่กับเขาทุกที่ทุกเวลา ฉันมีความสุขจริงๆ'
วีดควบม้าฝ่าสนามรบร่วมกับซอยูนที่ด้านหลังของเขา
'แม้ว่าถ้าฉันยังมีชีวิต, แต่ภารกิจจะล้มเหลวถ้าซอยูนตาย'
จนถึงตอนนี้วีดยังไม่เคยประสบกับภัยพิบัติเพราะว่าเขาตระเตรียมการล่วงหน้าอย่างถี่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม,
เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการสู้รบระหว่างอาณาจักรมาปอนและเคลตั้นอย่างรวดเร็ว
โดยที่เขาไม่ได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่
ต้นอ้อเจริญเติบโตอย่ารวดเร็วในสนามรบ
เจ้าต้นอ้อทำให้พวกม้ารู้สึกอึดอัดและทำให้พวกมันช้าลง
และพวกมันก็แห้ง
"พวกเรายังออกไปไม่ได้เลยแต่มันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว"
วีดและซอยูนบุกฝ่าไปท่ามกลางทุ่งอ้อ
เขาเป็นคนแกะสลักประติมากรรมด้วยตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามันทำงานอย่างไร
สายลมรุนแรงพัดผ่านทุ่งอ้อและก่อให้เกิดเปลวไฟ ต้นอ้อปลิวขึ้นในอากาศและเกิดเปลวเพลิงขนาดมหึมา!
ในที่สุดภัยพิบัติก็เริ่มขึ้นแล้ว
"อ๊าก.ก.ก.ก!"
"ไฟไหม้ใหญ่แล้ว!"
พวกทหารที่กำลังต่อสู้กันตะโกนขึ้นทันใด วีดไม่หันกลับไปและตั้งหน้าตั้งตาควบม้ามุ่งไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม, ด้านหลังของเขาคือเปลวเพลิงราวพระอาทิตย์ที่กำลังเผาไหม้เขาและมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทันทีพวกทหารและอัศวินหนีแทนที่จะต่อสู้ก็เพราะความกลัวและสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
"ตรงนั้น"
"ใช่"
"เวลานี้ มันเกิดอะไรขึ้น?"
เขาไม่ต้องการตรวจสอบด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงถามซอยูน
"มันดูเยี่ยมไปเลย"
"เป็นอย่างไรบ้าง?"
"ก็, ลมกำลังพัดมาจากทุกๆด้าน
แล้วเปลวไฟจากทุ่งอ้อก็กำลังพวยพุ่งขึ้นมา พายุหมุนเปลวเป็นเกลียวเพลิง...พวกมันกำลังลุกไหม้อย่างสวยงาม
ตอนนี้มันกำลังแผ่ขยายออกไปและใหญ่ขึ้นกว่าเดิม"
"เสียงกรีดร้องของพวกทหารดังก้องไปทั่ว"
"พวกอัศวินและทหารถูกไฟคลุมไปแล้ว ฉันคิดว่ามันคงจะเงียบลงในไม่ช้า"
"....."
การฟังคำอธิบายของซอยูนที่เรียบเฉยและแม่นยำของซอยูนนั้นน่าขนลุกมาก
"ยี้..ฮ่า ไปกันเถอะ!"
วีดพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มกำลัง
ม้ายังคงวิ่งต่อไปเพราะชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง
แต่ละลอกของเปลวไฟที่ด้านหลังของเขาเริ่มน่ากลัวเพิ่มขึ้น
ความร้อนแรงก็สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ฟู่..ฟู่..ฟู่..พรึบ!
เป็นเสียงของลมที่กระจายเปลวไฟ!
พวกต้นอ้อปลิวขึ้นไปในอากาศและที่บนพื้นก็ติดไฟ
เปลวเพลิงกำลังกลืนกินทุกๆสิ่งในท้องทุ่ง
มันเป็นฉากที่น่าทึ่งและสวยงาม แต่ไม่มีใครชื่นชมมัน
'อย่างที่คิด, เราไม่ควรเล่นกับไฟ'
การแสดงออกที่สิ้นหวังของวีดเหมือนกับเวลาที่เขาเปิดฝาราเม็งที่เหลืออันสุดท้ายในตอนกลางคืนแล้วพบว่าไม่มีซุป
"นี่มันเลี่ยงไม่ได้"
"ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน"
"ตอนนี้, พวกเราควรพยายามให้ดีที่สุด..."
"ฉันคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว"
เปลวเพลิงห้อมล้อมพวกเขาด้วยอัตราความเร็วที่น่ากลัว
************************8
กิลด์ค้อนศิลา(Stone Hammer Guild)
เป็นกิลด์ขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งโดยเหล่าสถาปนิกของอาณาจักรอาร์เพน
"คุณเพดโซ่กำลังทำอะไรอยู่ครับวันนี้?"
"ฉันกำลังทำงานบำรุงรักษาท่อระบายน้ำข้างใต้โมราต้าน่ะ"
"นี่มันเยี่ยมไปเลย"
"มีจระเข้ในท่อระบายน้ำแน่ๆ"
เหล่าสถาปนิกเป็นรากฐานการขยับขยายสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งมวลในเมืองต่างๆของอาณาจักรอาร์เพน
สถาปนิกดูแลทุกๆสิ่งตั้งแต่ สะพาน,
ถนน, วิถีทางน้ำ, บ้านอยู่อาศัยและอื่นๆ
ห้วงเวลานี้มีความสำคัญในการก่อสร้างพระราชวังแต่อาคารสำคัญทั้งหลายคืบประมาณ
78 %
พวกนักตกแต่งภายใน,
ภายนอก, ปรับภูมิทัศน์, จิตรกรรมฝาผนัง และเพดาน กำลังลงสี ใช้เวลาพอสมควรในการทำงาน
ซึ่งดำเนินการในลักษณะทีละเล็กละน้อย
"มันแย่มากที่ฉันไม่สามารถดูแลมันจนเสร็จได้"
"ไม่มีเวลามาทำเล่นๆจากนี้พวกเรายังมีงานมากมายให้ทำ"
"การก่อสร้างพระราชวังไม่ใช่งานเล็กน้อยไม่ใช่หรือ? มันน่าเบื่อนะที่จะสร้างพวกกระท่อม"
"แค่โอนมันให้พวกที่เพิ่งเริ่มสร้างกระท่อม มีอาคารขนาดใหญ่ 3 หลังกำลังสร้างขึ้นที่ท่าเรือเวอร์น่า(Varna Harbour) ดังนั้นสถาปนิกจำเป็นต้องมีความชำนาญ"
"ฉันจำเป็นต้องไปที่นั่น"
สถาปนิกแยกย้ายกันไปทั่วอาณาจักรอาร์เพนอีกครั้ง
'แม้ว่าฉันจะได้ค่านายหน้าสำหรับอาคารขนาดใหญ่, มันก็ไม่ใช่ของฉัน'
'ฉันต้องใช้ชีวิตในการสร้างอาคารให้คนอื่นอีกนานแค่ไหนกัน?'
มันก็เหมือนพวกจิตรกรและประติมากรที่มีชีวิตโดยการอาศัยค่านายหน้า
แทนที่จะได้รับค่าตอบแทน,
พวกเขาเพิ่งได้รับคำขออื่นอีก
วีดรวบรวมวัตถุดิบที่เขาต้องการด้วยตนเองแต่อาชีพสายการผลิตส่วนใหญ่พึ่งพาค่าตอบแทนที่จ่ายให้กับวัตถุดิบของพวกเขา
ถ้าพวกเขาโลภมากหรือมองหางานที่ไม่สมเหตุสมผลแล้วความล้มเหลวจะนำไปสู่
วงจรอุบาตแห่งความยากจน
เมื่อภารกิจที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะล้มเหลว 3 ครั้ง,
ชื่อเสียงจะลดลงอย่างรวดเร็ว
มันยากที่จะประสบความสำเร็จและสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง
-
ไม่มีคำตอบอื่นนอกจากการทำงานหนักในช่วงแรกของอาชีพ
-
เป็นศิลปินเท่านั้นถ้าคุณตั้งใจจะตาย อย่างไรก็ดี, คุณจะได้ทำงานหนักจนกว่าจะตาย
สถาปนิกของโมราต้าถือว่าตนเองเป็นผู้โชคดี
"มันเยี่ยมมากที่พวกเรามาที่แดนเหนือ"
"นี่คือสวรรค์"
ไม่ว่าอะไรที่พวกเขาสร้างขึ้นถูกก่อสร้างโดยตรงจากมือของพวกเขา
ความต้องการเหล่าสถาปนิกเพิ่มขึ้นขณะที่เมืองได้ขยายออกไปและจำนวนผู้เล่นก็เติบโตจนรั้งไม่อยู่
เหล่าสถาปนิกยังมีคุณค่าในสิ่งต่างๆอย่าง สะพาน, วิถีทางน้ำ
และอาคารขนาดใหญ่
ชื่อเสียงของพวกเขาหลายคนรู้จักผ่านอาคารแต่พวกเขาไร้ทรัพย์สมบัติ
สถาปนิกที่มีความทะเยอทะยานหลายคนเริ่มการขุดท่ามกลางสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก
"มีทางให้เดินมากมายในพื้นที่, ต้นน้ำที่ไหลผ่านและพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ดังนั้นสามารถสร้างเมืองได้ที่นี่"
พวกเขาสร้างกำแพง, ยุ้งฉาง, โรงแรม,
และอื่นๆ ครั้นเมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานถูกสร้างขึ้น,
พวกชาวบ้านก็มาอาศัยอยู่ที่นี่
ตริ๊ง.ง.ง!
-
หมู่บ้านเล็กๆได้ก่อตั้งขึ้น
หมู่บ้านอยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของพวกมนุษย์กิ้งก่าดังนั้นอาจมีการบุกรุกได้ตลอดเวลา
ความกังวลใจเรื่องสันติภาพยังคงอยู่ขึ้นอยู่กับกำแพงศิลา
อำนาจทางทหาร:
2 อำนาจทางเศรษฐกิจ: 3
วัฒนธรรม
: 369 เทคโนโลยี: 1
การพัฒนาเมือง:
19 ความปลอดภัย: 64%
ไม่มีผู้คุ้มครองความปลอดภัย
แต่จะมีการต่อต้านถ้ามีการบุกรุกเกิดขึ้น
พวกเขาจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอด
ถ้าพวกเขาไม่สามารถหาทางได้....
|
ชาวบ้านของอาณาจักรอาร์เพนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการพัฒนาทางการเกษตร
ชาวบ้านส่วนมากไม่ได้
มีทักษะพิเศษเฉพาะทางและสามารถผลิตข้าวได้เท่านั้น
สถาปนิกต้องทนกับสิ่งที่ยากลำบากทุกประเภทเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ทหารรับจ้างถูกว่าจ้างเพื่อป้องกันการโจมตีของมอนสเตอร์ขณะที่ชาวบ้านออกไปถากถางที่ดินใกล้เคียง
เมื่อที่อยู่อาศัยและประชากรถึง 100, ถึงได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นหมู่บ้าน
ในอาณาจักรอาร์เพน
ตริ๊ง.ง.ง.ง!
-
หมู่บ้านขนาดเล็กได้ถูกก่อตั้งขึ้น
ถิ่นที่อยู่ของพวกมนุษย์กิ้งก่าบริเวณใกล้ๆ
ถูกกวาดล้างโดยพวกอัศวิน
กำแพงที่แข็งแรงได้ขัดขวางพวกมอนสเตอร์หลายต่อหลายครั้งดังนั้น
ชาวบ้านสามารถรู้สึกสบายใจ
อำนาจทางทหาร : 9 อำนาจทางเศรษฐกิจ : 13
วัฒนธรรม : 398 เทคโนโลยี : 7
การพัฒนาเมือง : 21 ความปลอดภัย : 72%
มีการเสียสละครั้งใหญ่แต่ชาวบ้านก็ได้เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์
คนที่มีความสามารถสามารถเติมเต็มความฝันของพวกเขาด้วยการเป็นทหาร
มีความสนใจในการเพาะปลูกและล่าสัตว์
การกำจัดพวกมอนสเตอร์โดยรอบ
ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ทำการเกษตร
โรงแรมแห่งเดียวในหมู่บ้านไม่มีห้องว่าง
พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมอันยอดเยี่ยมของอาณาจักรอาร์เพนอย่างต่อเนื่อง
ชาวบ้านมีความกระตือรือร้นที่จะฝึกฝนทุกๆสิ่ง
- คุณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง
เมื่อได้รับตำแหน่งในอาณาจักรอาร์เพนคุณสามารถรับศักดินาบารอน(barony)ได้
สถานะของคุณในฐานะขุนนางจะสูงขึ้นเมื่อหมู่บ้านเติบโตขึ้น
ภาษีรายได้ 40% จะส่งมอบให้อาณาจักรและสิ่งที่มอบสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ,
กองทัพ และเทคโนโลยีที่ต้องการ
|
สถาปนิกลำบากลำบนทั่วถึงกันขณะที่พวกเขาทำให้เมืองเติบโต
-
ความก้าวหน้าลำดับที่สองนั้นเป็นไปได้
เป็นไปได้ที่จะกลายเป็นสถาปนิกประจำเมือง(นักวางผังเมือง)เนื่องจากมีประสบการณ์มากมาย
|
นักวางผังเมือง! เหล่าสถาปนิกประสบความสำเร็จอย่างมากในดินแดนที่ว่างเปล่า,
เมือง และหมู่บ้านทั้งหลาย
แน่นอน, นี่ยังเพิ่มการทำงานของพวกพ่อค้า, ชาวนา และคนงานเหมือง
**************************
กองกำลังของอาณาจักรมาปอน, เคลตั้น
และบริวารของเทพสมุทรถูกโอบล้อมด้วยเปลวเพลิงแห่งภัยพิบัติ
"ช.ช่วยข้าด้วย!"
"ข้าเป็นอัศวินแห่งอาณาจักรเคลตั้น จะมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้หากถูกสังหารโดยศัตรู"
"นักรบผู้กล้าหาญ, แสดงให้พวกมันเห็นว่าเราไม่เกรงกลัวความตายจนกว่าชีวิตจะจบสิ้น!"
มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กองทัพของทั้งสองอาณาจักรจะโดนเปลวเพลิงห่อหุ้มไว้
สถานที่ที่วีดกำลังควบม้าผ่านก็ปกคลุมด้วยเปลวเพลิง
"ประติมากรรมวินาศ! ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มความว่องไว"
วีดแบกซอยูนและใช้ทักษะวิ่งสี่ขาหลังจากการทำลายประติมากรรม
"หลับตาอดทน, กายาศิลา!"
วีดผสานทักษะทั้งหมดที่เขาสามารถใช้ได้!
ทุกที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงดังนั้นจึงไร้ความหมายในการที่เขาลืมตา
ไม่มีอันตราย
กับนัยน์ตาของเขาและทักษะศิลาก็ช่วยให้การป้องกันร่างกายของเขาดีขึ้น
และเขาวิ่งไปในทิศทางเดียวได้โดยปราศจากเงื่อนไข
'ฉันต้องจับซอยูนไว้ให้ดีๆ....'
พลังชีวิตของวีดลดลงอย่างรวดเร็ว
-
ทั้งร่างของคุณได้ตกอยู่ในเปลวเพลิง
ความร้อนของไฟลดพลังชีวิต
3,850 แต้มทุกๆวินาที
|
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีดังนั้นพลังชีวิตของเขาจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
-
ความทนทานของอาวุธและเกราะลดลง
ถ้ามันช้าไปกว่านี้แล้วเป็นไปได้ว่าไฟสามารถทำให้เกิดความเสียหายถาวร
|
หน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาขณะที่วีดวิ่งไปข้างหน้า
แล้วหน้าต่างข้อความใหม่ก็ปรากฏ
- การอำนวยพรประทานให้โดยเฮสเทียผู้ที่ดูแลไฟและเตาหลอม
เทวีเฮสเทียได้อำนวยพรแก่มนุษย์ผู้กำลังปฏิบัติตามพันธกรณีในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้
การต่อต้านความอยุติธรรมเพิ่มขึ้นชั่วคราว
ไฟถูกดูดกลืนและทุกสถานะเพิ่มขึ้น
39
ผลของทักษะการโจมตีทั้งหมดเพิ่มขึ้น
2 เลเวลและระยะเวลาการใช้งานลดลง
ค่าอุทิศวิหารเฮสเทียลดลง
2,300
|
การอำนวยพรของเฮสเทียได้มอบเกราะอัศวินแห่งเทวีด้วย
การอำนวยพรลดความหนักหน่วงและเพิ่มการป้องกัน
เวลานี้เทวีเฮสเทียได้อำนวยพรให้วีดโดยตรง
และหลังจากนั้นไม่นาน, ในที่สุดพวกเขาก็โผล่พ้นจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ
"ค๊อก.ๆ.ๆ! ฉันรอดมาฉิวเฉียด"
วีดและซอยูนดำเป็นถ่าน
พลังชีวิตที่เหลืออยู่ 3,891
|
"ผมเกือบตาย แต่ก็ยังรอดมาได้"
วีดสัมผัสหัวใจที่เต้นตูมตามของเขา ไม่สามารถมองเห็นสนามรบได้ด้วยเหตุที่เปลวไฟกำลังลุกโชติช่วง
เขาเกือบจะถูกกลืนกินด้วยภัยพิบัติ แต่พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงผู้ติดตามมาระยะหนึ่ง
"เมื่อสวรรค์ทรงโปรด, ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด"
วีดพันผ้าพันแผลทั่วร่างของเขาแล้วถามซอยูน
"คุณยังโอเคอยู่ไหม?"
"ค่ะ เป็นอันตรายแค่เล็กน้อย"
"ยังเหลือพลังชีวิตอยู่เท่าไรครับ?"
"ประมาณ 110,000"
"......"
"ฉันมีไอเท็มป้องกันไฟหลายชิ้น"
ซอยูนสวมชุดเซ็ท แหวน ต่างหู และสร้อยคอ ป้องกันไฟ พวกมันเป็นไอเท็มของเบอร์เซิร์กเกอร์
ที่เธอเก็บไว้ในกรณีฉุกเฉิน
วีดอารมณ์บ่จอย
"ผมวิ่งเร็วมากจริงๆนะเพราะคิดว่าคุณจะตาย"
เป็นช่วงเวลาแห่งวิกฤติแต่แหวนแต่งงานของซึลระโยได้เพิ่มเติมบางสิ่งให้เขา
แต่เขาเพิ่งพบว่าที่เขาเจ็บตัวนี่เป็นเรื่องสูญเปล่า!
วีดพึมพำในขณะที่เขานึกถึงเรื่องในอดีต
"ฉันนี่ไม่มีโชคจริงๆ เมื่อตอนเด็กๆ, ฉันอยากดื่มนมสตรอเบอรี่
ฉันรอตั้งเดือนนึงจนมันลดลงเหลือ 500
วอนที่ซุปเปอร์มาเก็ต"
"แต่ว่า?"
"ราคาขึ้นเป็น 600 วอนจากวันนั้นเป็นต้นมา ราคาในครั้งนี้เป็นความสำเร็จของฉันกับวิหารเฮสเทีย”
ซอยูนเอาเจ้าก้อนดำๆออกมา
"เอ้านี่, มีมันหวานอบอยู่หน่อยนึง
เรามากินด้วยกันเถอะ"
เธอได้เรียนอบมันหวานด้วยการใช้ไฟจากวีด
"แล้วเกลือกับกิมจิละ?"
"ฉันซื้อมานิดหน่อยจากโมราต้า"
วีดอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยหลังการกินมันหวาน
"พวกเราน่าจะลองอบหมึกดูบ้าง..."
อ่า, มันค่อนข้างยุ่งยาก...
จบตอน
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
จะปักธงอย่างงี้ไม่ได้นะ.....
ตอบลบที่พูดไป ภารกิจตัวเองล้วนๆ!?
"ถ้าคุณตายไป ชีวิตผมก็ไร้ความหมาย พวกเราทั้งสองคนต้องตายพร้อมกันหรือมีชีวิตไปด้วยกัน"
ตอบลบ5555
ตอนนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี ฮ่าๆ
ตอบลบนึกสภาพออกมาจากดงไฟ ร่างกายต้ร่างกายต้านทานได้ 555
ตอบลบวิ่งออกมา หัวโล้นทั้งคู่ กุขรรมแปป 55555