เล่ม 31
ตอนที่ 5 : ชะตากรรมของดาร์คเกมเมอร์(Dark Gamer’s
Fate) แปลโดย Acid กรด
ปราสาทอาเร็นแห่งจักรวรรดิฮาเวน
งานก่อสร้างขนาดใหญ่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่พระราชวังของจักรพรรดิ
บาร์ดเรย์ตัดสินใจสร้าง
พระราชวังอันวิจิตรงดงามแทนที่จะเป็นยุ้งฉาง
"จงไปรวบรวมเหล่าศิลปินและสถาปนิกมาเดี๋ยวนี้"
ในระหว่างที่กิลด์เฮอร์มิสกำลังกดค่าแรงพวกศิลปิน
หลังจากที่วีดได้เริ่มทำการแกะสลัก, บรรดาประติมากรจำนวนมากได้รับการยกระดับความสำคัญในกิลด์
อย่างไรก็ตามเหล่าประติมากรรมที่พวกเขาผลิตขึ้น ล้วนดูเหมือนงานศิลปะโบราณที่ถูกขุดขึ้นมา
การสนับสนุนสำหรับพวกจิตรกรและประติมากรหายไปและเหล่าศิลปินจึงละทิ้งจากอาณาจักรฮาเวนเพิ่มมากขึ้น
แต่การคงอยู่ของพวกเขาเป็นสิ่งจำเป็นต่อพระราชวังขององค์จักรพรรดิ
"พระราชวังขององค์จักรพรรดิจะเป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มความภักดีของประชากรด้วยเหตุนี้พวกเราสามารถเพิ่มภาษีได้อีก
2 %"
"ส่งพวกทหารทั้งหมดที่ยอมแพ้ในสงครามไปที่เหมือง"
ลาฟาร์เย่ได้จัดประชุมผู้นำเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเตรียมไว้บีบบังคับพลเมืองของจักรวรรดิ
ภาษีฉลองชัยชนะจากสงคราม
ภาษีการก่อสร้างพระราชวังจักรพรรดิ
ภาษีพิเศษเพื่อบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกของปราสาทอาเรน(Aren
Castle)
ภาษีเพื่อการเดินทัพผ่านเมือง (คงหมายถึงลาดตระเวนผ่านเมือง)
ภาษีพิเศษเพื่อการแผ่ขยายอาณาเขต
ถ้าวีดได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้วเขาคงจะตบเข่าด้วยความชื่นชมยินดี
"พวกคนแคระจำนวนมากอาศัยในอาณาจักรลาเซล
เราควรจะจับพวกมันมาทำงานเยี่ยงทาส"
"มีการก่อจลาจลในบางพื้นที่
การปราบปรามจะไม่เป็นปัญหาแต่ความมั่นคงจะลดลงและ
วิหารเอ็มบินยูจะแพร่กระจายไปทั่ว"
จักรวรรดิฮาเว่นได้รับความเสียหายจากทางวิหารเอมบินยูที่กำลังแพร่กระจายราวกับไฟป่า
แต่พวกผู้นำระดับสูงในกิลด์เฮอร์มิสไม่ได้กังวลใจในเรื่องนั้น
ผู้คนที่เปลี่ยนไปเป็นพวกวิหารเอ็มบินยูเป็นคนยากจนและกิลด์เฮอร์มิสมั่นใจว่าพวกเขาสามารถเอาชนะ
พวกวิหารเอมบินยูได้ถ้าพวกนี้ต้องการทำสงครามแน่นอน,
ภาษีใหม่จะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการทำสงครามกับ
วิหารเอมบินยู
กิลด์เฮอมีสมีความมุ่งมั่นในการครองครองทวีปอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นพวกเขาต้องบำรุงรักษากองทัพอย่างเคร่งครัด
***********************************
"ไอ้ตัวร้ายพวกนั้น"
วีดสาปแช่งทันทีหลังจากที่ได้ยินว่ากิลด์เฮอร์มีสวางแผนหยุดยั้งสงคราม
เขารู้สึกถึงบางสิ่งแปลกๆได้ทันที
"พวกมันมีจุดมุ่งหมายแอบแฝง ยังไงก็ตาม,พวกมันเป็นคนเลวดังนั้นไม่มีทางที่จะเชื่อถืออะไรพวกมันได้"
ทฤษฎีของนักปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวว่าสันดานของมนุษย์มีพื้นฐานมาจากความชั่วร้าย!
วีดกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่ทำการต่อสู้ร่วมกับบาฮาม็อกและซอยูน
เขาทำพวกจานสูงค่าจากส่วนผสม
ที่ได้มาจากดันเจี้ยน ทั้งทักษะการทำอาหารของเขาในที่สุดก็มาถึงขั้นสูงแล้ว
- ทักษะการทำอาหารขั้นกลางของคุณได้มาถึงระดับ
10และได้เปลี่ยนเป็นขั้นสูง
เป็นไปได้ที่จะลดผลข้างเคียงเมื่อจัดการกับส่วนผสมที่ใช้ยากและอาหารหมักดอง
คุณสามารถยืดอายุการเก็บรักษาอาหารต่างๆได้เพิ่มขึ้น
สามารถทำอาหารระดับมืออาชีพได้
ทุกสถานะจะเพิ่มขึ้น
20 แต้ม
|
ในเวลานี้เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นพ่อครัว สำหรับเขาแล้วเป็นไปได้ว่าเขาสามารถเลี้ยงชีพได้แม้เขาจะปิ้งขนมปังขายในเมืองอย่างเดียวก็ตาม
งานทั้งหมดในช่วงแรกถือว่าคุ้มค่าแล้ว
แต่วีดยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเขา
"ฉันไม่ได้กินเงินบำนาญเต็มจำนวนหรือเป็นลูกค้าในสี่ประกันภัยใหญ่ ถ้าฉันออกจากงานอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้เงินชดเชยซิ"
เวลานี้เขากำลังมีรายได้แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจล่วงรู้ได้แน่ชัด เขาไม่ได้มีงานมั่นคงเหมือนเช่นพวกคนที่ทำงานอิสระทั้งหลาย
มีหัวข้อเขียนลงในกระดานของพวกดาร์คเกมเมอร์เรื่องทัศนคติที่สะท้อนกับเขา
หัวข้อ: ผมพยายามจะแต่งงาน
ผมได้รู้จักกับผู้หญิงที่ผมรักมา
3 ปี
เมื่อวานผมได้พบกับพ่อตาของผม
และตอนนี้ผมกำลังร้องไห้
คนรักของผมสบายดีแต่คนที่ผมทนไม่ได้คือตัวผมเอง
ผมต้องการแชร์เรื่องสั้นๆระหว่างพ่อตากับตัวผม
"ไง,
แกกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้"
"ครับ,
คุณพ่อ(ตา) คุณพ่อรู้จักอะไรบางอย่างที่เรียกว่า รอยัลโร๊ด
ไหมครับ?"
"ฉันรู้จักมันนะ!
ทั้งหนังสือพิมพ์และทีวีกำลังเสนอเรื่องบริษัทร้อนแรงสุดๆที่ชื่อ บริษัทยูนิคอน
พวกเขาได้รับรับผลกำไรมหาศาลทุกปีไม่ใช่เหรอ?
ฉันนึกไม่ออกเลยนะถึงผลประโยชน์สวัสดิการ
ที่พวกลูกจ้างได้รับจากบริษัทยูนิคอน
โฮ-ซังของฉันก็ได้เจอกับผู้ชายแบบนั้นคนนึง"
"ไม่ใช่มั้งครับ
ผมไม่ได้เป็นลูกจ้างแต่เป็นคนหาพวกไอเทมในรอยัลโร้ดและขายมันเป็นเงิน"
"....งั้น,เธอก็สะสมเงินได้นิดๆหน่อยๆใช่ไหม?"
"ก็นิดหน่อย"
"สักเท่าไรกัน?
"ถ้าผมขายอุปกรณ์ที่ผมกำลังสวมอยู่ออกไปแล้ว
ผมสามารถวางมัดจำสำหรับบ้านได้พอดี
นั่นก็เพราะว่าราคาของชุดนี้เพิ่งเพิ่มขึ้นในการประมูล"
"....."
"....."
"เธอจะไม่พา
โฮ-ซัง ไปลำบากใช่ไหม?
"ครับ
ผมจะรีบเข้าแค๊ปซูลรอยัลโร๊ดสัก 18 ชั่วโมงต่อวันเลย"
"....."
ผมไม่ได้เรียนมากกว่ามัธยมปลายเลย
คุณเข้าใจความเศร้าใจนี้ไหม?
|
วีดไม่ได้เห็นอกเห็นใจกับเรื่องราวของพวกดาร์คเกมเมอร์
มันเป็นอุตสาหกรรมบริการแต่มันเร็วเกินไปที่จะเปิด
เผยต่อโลก ไม่มีความมั่นคงในอาชีพ,
ทั้งเงินเดือนและสวัสดิการผลประโยชน์
นอกจากนี้, การขยายตัวของกิลด์เฮอร์มีสก็เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่
มีผู้เล่นคนอื่นๆที่รู้สึกถูกกดดันโดยกิลด์
เฮอร์มีสแต่แรงกดดันพุ่งตรงสู่วีดในฐานะกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาเพ่นนั้นยิ่งใหญ่กว่า
แม้ว่าวีดจะกลายเป็นปรมาจารย์แกะสลักคนแรก, มันไม่สำคัญอะไรเลยถ้าบาร์ดเรย์และกิลด์เฮอร์มิสได้
ควบรวมทวีปกลางไปแล้ว
เหล่าพลทหารของจักรวรรดิฮาเว่นจะตบเท้าสู่แดนเหนือของอาณาจักรอาเพ่น
สิ่งก่อสร้างที่วีด
ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลจะถูกครอบครองโดยกิลด์เฮอร์มีส
วีดได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในส่วนหนึ่งของจิตใจ
"ความแค้นใจนี้ก็พอทำให้ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลได้แล้ว"
ถ้าเขากลายเป็นปรมาจารย์เอกจากนั้นจะได้รับความสนใจจำนวนมากจากสถานีออกอากาทั้งหลาย
วีดไม่อยู่
ในสถานการณ์ที่เขาจะต้องกังวลเรื่องแบบนั้น
"อาณาจักอาร์เพ่นคือชามข้าวของฉัน"
วีดมีความผูกพันกับชามข้าวพิเศษของเขา
ดังนั้นเขาไม่สามารถปล่อยให้สุนัขข้างบ้านบางตัวมากินข้าวในชาม
ของเขาได้!
"ฉันต้องหาทางปกป้องชามข้าวของฉัน"
เขาต้องป้องกันอาณาจักรอาร์เพ่นจากการคุกคามทุกๆรูปแบบ
"ฉันต้องปรึกษาท่านอาจารย์กับพวกศิษย์พี่"
โดยปรกติแล้วเขาต้องการให้ภารกิจยากๆกับผู้คนที่ใกล้ชิดเขา
พวกเขาจะทำมันถ้าวีดยื่นข้อเสนอในการปรุงเนื้อและเครื่องดื่มให้กับพวกเขา
แต่ไม่ว่าพวกนักดาบจะเก่งแค่
ไหน, พวกเขาก็จะถูกกำจัดด้วยการโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่รุนแรงในสงครามขนาดใหญ่
พวกเขายังบกพร่องอย่างมาก
"ถ้าฉันรวบรวมเจ้าพวกประติมากรรมสลักชีพแล้ว ฉันสามารถใช้พวกมันให้ทำงาน"
เขาได้วางแผนเอาชนะสถานการณ์ด้วยการแสวงหาผลประโยชน์
วีดต้องการเอาชนะแต่เขายังไม่สามารถเผชิญหน้ากับกิลด์เฮอร์มีสได้ในช่วงเวลานี้
จะต้องใช้เวลาค่อนข้าง
มากเพื่อหาพวกประติมากรรมสลักชีพและสร้างความสนิทสนมและบรรลุผลสำเร็จ
ถ้าพวกมันไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้แล้ว พวกมันจะไม่เป็นประโยชน์
พวกมันจะเป็นประโยชน์เพื่อ
การเติบโตของอาณาจักรอาร์เพ่นในระยะยาวแต่จะมีภัยคุกคามในระยะสั้น
"ฉันต้องตระเตรียมกองทัพเพื่อป้องกันอาณาจักร
แต่พวกเขากำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ระดับนี้...
แม้ว่าฉันลงทุนทั้งเวลาและเงิน,
มันยังไม่พอที่จะสกัดกั้นจักรวรรดิฮาเว่น"
วีดยังไม่สามารถหาทางจัดการกับจักรวรรดิฮาร์เว่นได้แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้หลายทาง
นั่นเป็นเพราะการเอา
ชนะเมืองต่างๆที่ได้พัฒนาแล้วในทวีปกลางเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าพวกที่ค่อยๆพัฒนา
"เมื่อตรวจตรามันอย่างใจเย็น, ฉันก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกในพื้นที่อื่นๆ
ประชากรและการพัฒนาในอาณาจักรของ
ฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขา,
ไม่ต้องเอ่ยถึงกองกำลังของฉันถ้าสงครามแผ่ขยายมาแล้วฉันคงจะไม่ชนะ"
เมื่อพิจารณาถึงอนาคต, มันเป็นการตัดสินที่สมเหตุสมผลแล้วที่หมดหวังกับอาณาจักรอาร์เพ่นตอนนี้
ไม่มีกองกำลังใดๆในทวีปกลางที่สามารถต้านทานกับกิลด์เฮอร์มีส
จำนวนประชากรและกำลังทางการทหารก็มีขนาด
ใหญ่มาก ดังนั้นมันจะเป็นความยากสำหรับกิลด์ใหญ่ทั้ง5ที่จะต่อต้านพวกมัน
"ฉันต้องทำบางสิ่งเพื่อชัยชนะ....."
วีดมองย้อนกลับไปถึงสิ่งต่างๆที่เขามี
เขามีความสามารถของปิงหลง, เจ้าเหลือง, ฟินิกส์ และเหล่าประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆจากลาส ฟาลั้งซ์
พวกมันจะมีพลังอำนาจที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนถ้าพวกมันเติบโตขึ้นเรื่อยๆไปสัก
2-3 ปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการชนะสงคราม ปัญหายังไม่ได้ถูกแก้ไขแม้ว่าจะเสนอโกล์มินิให้เป็นสินบน
"ยังมีโอกาสที่จะทำอะไรบางอย่างด้วยการแกะสลัก
ฉันยังไม่ได้สร้างทักษะของตัวฉันเองเลยและยังมีความ
ลับสุดท้ายของเทคนิคแกะสลักจากตำนาน"
หลังจากการเรียนประติมากรรมประทานชีพ, ประติมากรรมจำแลง,
เคล็ดมีดแกะสลัก, แกะสลักพิบัติภัย
และการสร้างธาตุ
ดังนั้นวีดสามารถเรียนรู้เทคนิคลับสุดท้ายของการแกะสลัก
เขาฝันถึงมากมายหลายครั้งเกี่ยวกับทักษะที่ฟุ้งเฟ้อขณะที่กำลังนอนหลับตอนกลางคืน
"บางทีเทคนิคลับสามารถสร้างประติมากรรมที่จะนำความหายนะมาสู่เป้าหมายหรือ..บางสิ่งที่สามารถ
แสดงความงดงามของประติมากรรม...หรือบางอย่างที่สามารถเพิ่มศักยภาพของพวกประติมากรรมสลักชีพของฉัน"
เขามีความกังวลและความคาดหวังมากมาย เขาไม่สามารถคาดเดาว่าเทคนิคแกะสลัก
สามารถเป็นได้โดย
ไม่คำนึงถึงเมื่อก่อน
เทคนิคลับการแกะสลักอาจทำให้เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาแต่มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้
อย่างไรก็ตาม,
สถานการณ์บนทวีปก็ไม่มีความมั่นคง ดังนั้นวีดจึงได้ตัดสินใจ
"ฉันเพียงแค่ต้องเพิ่มทักษะฝีมือของฉันและทำภารกิจปรมาจารย์ให้เสร็จ
ฉันไม่รู้ว่าการเรียนรู้
ทักษะหรือไม่ก็การสร้างพวกประติมากรรมจะทำให้ภารกิจสำเร็จ
ถ้าฉันกระตุ้นเทคนิคลับสุดท้ายได้แล้วอย่างนั้น..."
ถ้าเขาได้พบการแกะสลักสุดท้ายแล้ววีดจะสามารถกระตุ้นเทคนิคลับ
"ถ้าฉันเรียนรู้เทคนิคลับช้าไปกว่านี้แล้วมันอาจจะสายเกินไป"
เขาคาดหวังอย่างแน่วแน่ในการค้นหาเทคนิคลับ
อนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับชนิดของเทคนิค
อะไรก็ตามที่จะปรากฏออกมา
"ถ้าทักษะที่อยู่เหนือการคาดเดาปรากฏออกมาแล้วฉันคงสามารถต่อสู้กับกิลด์เฮอร์มีสได้
คนอื่นๆอาจจะต่อสู้
ต้านทานพวกมันได้เช่นกัน แล้วถ้าทักษะนั้นไม่ได้มากพอแล้ว...."
นี่เป็นเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้าย(จริงๆ)
"ฉันจะคุกเข่าลงและยอมแพ้ทันที"
วีดตัดสินใจที่จะไม่ล่าช้าเรื่องเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้าย เขาจะเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญทักษะของเขา
อย่างต่อเนื่องระหว่างการออกล่า แต่การแสวงหาเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้ายถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
"ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะยากขนาดไหน
ดังนั้นฉันต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์"
เขากำลังพนันเกมนี้ไว้กับเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้าย
วีดตัดสินใจท้าทายมันทั้งๆที่สถานการณ์บนทวีปยังน่ากังวล
"สักวันฉันอาจจะเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้"
ชะตากรรมของเขาคือการออกไปผจญภัยขนานใหญ่ซ้ำๆซากๆทั้งๆที่ความปรารถนาของเขาคือมีชีวิตที่ยืนยาว
******************************
วีดได้สร้างประติมากรรมจำนวนมากมายบนทวีป
พวกมันถูกขายให้ผู้คนหรือหรือเป็นชิ้นงานที่ได้แกะสลักลง
บนผนังหรือก้อนหิน
"นี่คือ....ชิ้นงานหนึ่ง"
มันเป็นมนุษย์วิหก(กินนร)ที่มีปลายหางแยกเป็นสองแฉก!
วีดค้นหาประติมากรรมที่เขาได้ทิ้งไว้เบื้องหลัง
ระหว่างที่กำลังเดินทาง
"มันเป็นประติมากรรมที่ยอดเยี่ยม ทักษะนี้มีค่าเพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นยอดนักประติมากร"
เขาครุ่นคิดถึงบางสิ่งก่อนที่จะกล่าวอีกครั้ง
"พวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง"
มันไม่ใช่แค่มนุษย์วิหก
ในช่วงนั้นเขาได้แกะสลักประติมากรรมที่ยอดเยี่ยมเอาไว้มากมาย ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งทวีป
นอกเหนือจากที่แกะสลักไว้บนก้อนหินและต้นไม้, ประติมากรรมจำนวนมากได้แพร่กระจายผ่านการขาย
เหล่า
ประติมากรรมได้ถูกขายตกทอดกันไประหว่างผู้เล่นและกระจัดกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
ถ้าไม่มีคุณสมบัติพิเศษใดๆ
อย่างนั้น พวกเขาจะให้มันแก่ชาวบ้านเพื่อเพิ่มความสนิทสนมคุ้นเคย
พวกประติมากรรมบางส่วนยังหายไปด้วยโดย
ถ้าพวกมันตายจากการออกล่าในดันเจี้ยนแล้วพวกมันจะถูกทิ้งเอาไว้ที่นั่น
ประติมากรรรมเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของวีด
"ทักษะของฉันยังไม่พอ"
"ผมต้องจัดการเพื่อให้ได้ชิ้นงานจากวีด"
ประติมากรรมสลักชีพบางส่วนในที่ห่างไกลก็พบว่าสร้างขึ้นโดยวีด
ประติมากรรมสลักชีพเหล่านั้นได้ตัดสินใจ
ถอนตัวหลังจากจักรวรรดิอาเพ่นล่มสลายลง
พวกมันอยากจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันมากกว่าอยู่กับพวกมนุษย์
และประติมากรรมสลักชีพส่วนน้อยได้สูญพันธุ์ พวกที่เหลือที่ยังมีชีวิคอยู่บ้างก็กลายเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้าย
หรือหลบซ่อนตัว บ้างก็ยังคงนอนหลับเว้นแต่ว่าประติมากรปลุกพวกมันขึ้นมาโดยตรง
แม้ว่าวีดได้สำรวจสถานที่มากมายบนทวีป, พวกประติมากรรมสลักชีพยังคงซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ห่างไกล
เขาไม่พบแม้แต่ประติมากรรมสลักชีพบางส่วนที่อยู่ลึกในภูเขาไฟจิโกลาส(เขตลาสฟาลังค์)
"ประติมากรมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้"
"อะไรกันนี่? ข้าอยากพบประติมากร"
"เขาให้ชีวิตกับข้าด้วย"
หัวหน้ารุ่นที่8ของสมาคมประติมากรได้สร้างงานศิลปะชิ้นเอก
มันมีชีวิตเงียบสงบที่หอคอยในจิโกลาส(ลาส ฟาร์ลัง) จนกระทั่งได้รับชีวิตจากวีด
พวกประติมากรรมสลักชีพจะบอกเกี่ยวกับวีดเมื่อไรก็ตามที่พวกมันได้พบปะกับตัวอื่นๆ
ประติมากรรมของวีดมากมายได้กระจัดกระจายไปทั่วทั้งทวีป
"ฉันอยากรู้จักตัวตนของประติมากร(คนนั้น)"
"ข้าไม่เจอะเจอเขามานานแต่ดูๆแล้ว เขาเหมือนพวกขี้เหนียว"
***********
บาร์ดเรย์ได้หาเวลาในการออกล่าแม้ว่ากำแพงกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
เขาสามารถออกล่าได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการช่วยเหลือของกิลด์
และเขาหลีกเลี่ยงงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะของจักรวรรดิฮาเว่นโดย
การไปออกล่า
"ทักษะการโจมตีค่อนข้างดี"
ขณะนี้บาร์ดเรย์อยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งกับมอนสเตอร์จำนวนมาก
พวกมันเป็นตัวตุ่นพวกเดียวกับมอนสเตอร์
ที่มีหนามบนร่างกายของพวกมันจะผุดโผล่ขึ้นมาจากพื้นของดันเจี้ยน
พวกมอนสเตอร์เลเวลตั้ง 500! พลังชีวิตของพวกมันก็สูง
และหนังก็แข็งแกร่งปานเหล็กกล้า ดังนั้น เขาจึงได้
รับความเจ็บปวดเสียหายจากพวกหนามทุกๆครั้งที่พวกมันพองขึ้น
บาร์ดเรย์ได้นำการโจมตีจุดเดียวที่ใช้มาแสดง
ให้ดูขณะที่กำลังออกล่ากับพวกราชองค์รักษ์
"เขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ"
"ดั่งที่ท่านบาร์เรย์ได้คาดหวังไว้"
วีธีการเล็งโจมตีเด่นล้ำกว่าการป้องกันระดับสูงของพวกมอนสเตอร์
บาร์ดเรย์ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในการใช้วิธีการโจมตีแบบใหม่นี้ เขาเองก็ประหลาดใจในพลังการทำลายของการโจมตีที่จุดเดียว
บาร์ดเรย์ใช้เวลามากมายไปกับการออกล่ากับคนอื่น
และไม่แม้แต่จะพักเพื่อรอคอยพวกมอนสเตอร์
ถ้าเป็นวีดแล้วเขาจะแกะสลักพวกประติมากรรมและฟื้นพลังชีวิตขณะกำลังรอให้พวกมอนสเตอร์ปรากฏตัว
แต่บาร์ดเรย์ไม่ได้เรียนรู้ศิลปะอันใดหรือทักษะการแกะสลักและสามารถเติบโตได้ในสนามรบเท่านั้น
แทนที่เขาจะนอนหลับท่ามกลางการออกล่าทุกครั้ง การนอนหลับจะทำให้พลังชีวิตและพละกำลังกลับคืนมา
ได้เร็วกว่าปรกติถึงแม้ว่าการสู้รบอาจจะนานขึ้น,
การนอนหลับท่ามกลางการออกล่าทุกครั้งแท้จริงแล้วเป็นการเสียเวลา
สำหรับเขาในการนอน
************************
"ท้ายที่สุด ก็ถึงคราวล่มสลาย"
บาร์ดเรย์ยืนเพียงลำพังที่เชิงเขา
พวกเขายังคงผลักดันให้จักรวรรดิเป็นเอกภาพและจักรวรรดิฮาเว่นก็แตกแยกจนไม่สามารถควบคุมได้
บาร์ดเรย์
ไม่อาจเทียบเคียงได้กับเกียรติภูมิของวีด
เขาแทบจะไม่สามารถเลียนแบบการบัญชาการแบบของวีดและวิธีการรบได้
"หุ หุ หุ, ฉันรู้สึกโล่งใจ
มีบางสิ่งที่ผลักดันฉันให้ไปต่อ"
บาร์ดเรย์รู้สึกปลอดโปร่ง เป็นเวลานานแล้วที่เขาสัตย์ซื่อต่อกิลด์เฮอร์มีสและทุกๆสิ่งได้จบลงด้วยน้ำมือ
ของกิลด์โลภมาก
นั่นเป็นเรื่องน่าเสียใจ ชายผู้ที่ต้องการจุดหมายเพื่อความท้าทาย
และฝันนั้นก็พังทะลาย ด้วยเหตุนั้นเวลานี้
บ่าของเขารู้สึกเบาขึ้น
เขาสามารถเริ่มจากต้นใหม่ได้อีกครั้ง
"ข้าจำเป็นต้องผจญภัยและทำภารกิจ"
บาร์ดเรย์ต้องการท่องเที่ยวไปในทวีปและมีความสุขเงียบๆกับชีวิต
เขาสามารถสนุกสนานได้อย่างเต็มที่
กับรสชาติของทวีปเวอร์เซลล์หลังการล่มสลายของกิลด์เฮอร์มีส
มีชายคนหนึ่งเดินช้าๆตรงมาหาบาร์ดเรย์
เทพสงครามวีด
เวลานี้เขามีอำนาจมหาศาลและปรากฏตัวขึ้นเป็นผู้ปกครองคนใหม่ของทวีปเวอร์เซลล์
เดทไนท์แวนฮอร์ค
และเจ้าแห่งแวมไพร์โทริที่เขามักเห็นในบริเวณใกล้เคียงของวีดก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
"เจ้าจะไปไหน?"
วีดถามด้วยน้ำเสียงลึกต่ำคุกคาม บรรยากาศทำให้เขารู้สึกราวกับชีวิตนี้ไม่อาจถูกเหยียดหยาม
"เวลานี้ข้าจะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ของข้า"
บาร์ดเรย์สับสนกับจิตใจที่ดีงาม ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน,มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามวีด กิลด์เฮอร์มีส
ได้แหลกสลายไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่ได้เป็นแม้แต่ฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไป
วีดส่ายหน้า
"ฉันไม่สามารถปล่อยแกไปได้หรอก"
"อย่างนั้น...."
บาร์ดเรย์ก็คาดการณ์เรื่องนั้นไว้แล้วเขามีความสามารถในการควบคุมทวีปไว้ได้
วีดและผองเพื่อนของเขา
จะไม่ปล่อยให้เขาได้รับโอกาสนั้น
'โอกาสนั่นสามารถปรากฏขึ้นอีกครั้ง และถ้าข้าเพิ่มพลังขึ้น....'
ความทะเยอทะยานได้พลุ่งพล่านในตัวเขา แต่วีดได้เหยียบย่ำจินตนาการของเขา
"เครื่องไม้เครื่องมือที่เจ้ากำลังสวมใช้ได้ดีทีเดียว"
"แล้วไง...."
"ฉันจะกระชากมันมาหลังจากที่ฉันฆ่าแก"
ชิ้ง.ง.ง.ง
วีดชักดาบ
****************
"อ๊าก.ก.ก"
บาร์ดเรย์เปิดเปลือกตาของเขา ร่างของเหล่าราชองครักษ์กำลังยืนนิ่งอยู่ด้านหน้าของเขา
'มันเป็นความฝัน'
บาร์ดเรย์จัดการกับจิตใจของเขาขณะที่กำลังหายใจลึกๆ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพวกราชองครักษ์ที่เขาได้ทุ่มเท
เวลาให้มากมาย,
บาร์ดเรย์ไม่ต้องการบอกพวกเขาถึงฝันร้ายของตน
บาร์ดเรย์ต้องการให้ดูเข้มแข็งอยู่เสมอเมื่ออยู่
ต่อหน้าพวกเขา
แต่ไม่ใช่วันนี้ เขาเหมือนฝันอยู่หลายครั้ง
'ฉันฝันถึงความพ่ายแพ้ต่อเขาตั้งแต่ในช่วงที่ฉันอยู่ในคอนทิเน้นท์อ๊อฟเมจิคอย่างนั้นหรือ?'
มันมีผลต่อจิตใจของเขา วีดไม่เคยแม้แต่จดจำเขา แต่เขาไม่สามารถคิดถึงเรื่องราวในอดีตได้ในตอนนี้
'เสี้ยนหนาม(คู่แข่ง)ของข้าในรอยัลโร๊ด....'
มีกิลด์พเนจร(Roam Guild), กิลด์ดาราราชสีห์(Lion
Star Guild) และนักรบรับจ้างดาบทมิฬ(Black Sword
Mercenaries) พวกเขาอ่อนแอกว่ากิลด์เฮอร์มิสในหลายๆพื้นที่
บาร์ดเรย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาสารมารถเอาชนะได้แม้กระทั่งสู้กับพวกผู้นำของพวกเขาแบบตัวต่อตัว
เลเวล
ของบาร์ดเรย์,
ทักษะการต่อสู้และกลยุทธ์ก็แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา
ถ้าแผนการครอบครองทวีปเป็นไปตามแผนแล้ว
บาร์ดเรย์จะได้พบกับพวกเขา
ไม่มีเวลาให้เสียมากนัก
'วีดเป็นสิ่งที่ยากเกินจะเข้าใจ.....'
วีดทำให้เขาพิศวงอยู่เสมอ
เขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงนั้นในช่วงเริ่มต้นของรอยัลโรดถึงกระนั้นเขาก็ถูกไล่ตามโดยคนที่ฉลาดล้ำด้วยความ
เร็วที่น่ากลัว วีดได้ทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้สำเร็จโดยปราศจากการสนับสนุนจากกองกำลังใดๆ
เขามีความเป็นผู้นำ
ของการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ แต่บาร์ดเรย์ได้ปกครองกิลด์เฮอร์มีส
ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องจำเป็นให้เขาต้องกังวล
มีขุนนางเป็นอันมากบนทวีปแต่ไม่มีที่สำหรับวีด แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้จัดการตั้งอาณาจักรขึ้นในทางเหนือ
พื้นที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่ได้ยากยิ่ง
ทั้งความสามารถในการต่อสู้ของเขายิ่งไม่สามารถมองข้ามได้
เลเวลของเขายังต่ำในช่วงแรกๆ แต่วีดก็สามารถ
ที่จะทำได้สมบูรณ์ด้วยตัวเขาในเหมืองเมลเบิร์น
วีดแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างแน่นอน เหมือนกับวัชพืช, เขาดูเหมือนจะกลายเป็นความน่ากลัวมากขึ้นเมื่อ
เวลาผ่านไป
เขาเป็นเป้าหมายที่บาร์ดเรย์มีเพื่อต้องการชัยชนะเหนือเขา!
'แน่นอนฉันจะต้องพบเขาอีกครั้ง'
บาร์ดเรย์รอคอยช่วงเวลานั้น
ที่เขาได้ใช้วิธีการโจมตีวีดที่จุดเดียวให้เป็นประโยชน์เพื่อเติมเต็มจุดอ่อนของเขา
'อาจเป็นฝันนั้น...'
บาร์ดเรย์ตัดสินใจที่จะยอมทนความกลัวเล็กๆนี้
เส้นทางที่จะพิชิตทวีปเวอล์เซลล์เป็นเรื่องสนุกจนถึงขณะนี้
ได้มีการดำเนินการตามแผนที่วางไว้
'ฉันจะกระทืบมัน(วีด)ให้เละเมื่อฉันได้เจอมันคราวหน้าฉันจะไม่ปล่อยให้มันวิ่งสนุกสนานได้อีก....'
จบตอน
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ สวัสดีปีใหม่ มาเป็นชุดเลย ของขวัญปีใหม่
ตอบลบชอบเรื่องนี้ ขอบคุณที่แปลให่อ่าน
ตอบลบสวัสดีปีใหม่ครับ
ขอบคุณครับ
ตอบลบ