เล่ม 29 ตอนที่
2: อุทยานแห่งเหล่าทวยเทพ แปลโดย Cole’s Myth
ข่าวคราวพิธีราชาภิเษกของวีดกระจายไปทั่ว
ผู้เล่นทั้งหมดต่างก็สนใจในดินแดนทางเหนือ ตอนนี้มีผู้คนหลายล้านอยู่ในเมืองโมราต้าแต่ก็ยังไม่มีการเผยแพร่ข่าวนั้นออกสู่สาธารณะ
ซึ่งต่างจากงานราชาภิเษกอันสุดแสนตระการตาที่จัดขึ้นในราชอาณาจักรฮาเว่นของบารดเรย์และกิลด์เฮอร์มีสเลยแม้แต่น้อย
เป็นที่รู้กันมาว่าวีดใช้เงินเพียงแค่ 30 เหรียญทองในพิธีราชาภิเษกของเขา
“นี่….นี่ดูอย่างกับกษัตริย์จากเทพนิยายที่ถูกแต่งตั้งมาก็ไม่ปาน”
“โห! ช่างแตกต่างมากจริงๆ เขาไม่ใช้เงินจำนวนมากมายไปกับงาน
เพราะว่าเขาห่วงใยชาวเมืองของเขา”
“บ้านเมืองเติบโตไปพร้อมกับกษัตริย์
ดีจริงๆเลยเนาะ”
แม้ว่านั่นจะไม่ใช้ความตั้งใจที่แท้จริงของวีด
ทว่าคำเชิดชูสรรเสริญเขาว่าเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ได้แพร่กระจายออกไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดตัดสินใจที่จะตั้งชื่อของสถานที่แห่งนี้ว่า
อุทยานแห่งเหล่าทวยเทพ
(The Garden of the Gods)
นอกจากจะมีประติมากรรมสร้างขึ้นมา
ก็ยังมีวิหารหนึ่งที่มีดอกไม้และต้นไม้ปลูกอยู่ด้วย ถ้ามันมีแต่ประติมากรรมอย่างเดียวที่นี่คงจะดูค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวแน่
ผู้คนทั้งหลายต่างระดมกำลังช่วยกันก่อสร้างประติมากรรม จัดสวนต้นไม้ดอกไม้
และงานทางสถาปัตยกรรม มันจึงกลายเป็นการทำงานครั้งยิ่งใหญ่
มันสำคัญมากที่จะปลูกดอกไม้และต้นไม้เพื่อเพิ่มค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติของเขาเอาไว้
ช่างดูไม่เข้าท่าเลยที่จะมาปลูกต้นไม้ในป่าหรือว่าบนภูเขาแห่งนี้ พืชพันธุ์ที่โตขึ้นตามหน้าผาและตามซอกหินบนภูเขานั้นอาจจะตายได้หากย้ายมาอยู่ในวนอุทยานแห่งนี้
เพื่อที่จะปลูกพืชพันธุ์บางอย่างให้โตขึ้นมาบนพื้นที่แห้งแล้งแบบนี้ได้
พวกเขาต้องสร้างรางเพื่อดึงน้ำมาจากลำธาร
มันเป็นโปรเจ็คที่ต้องใช้ความรับผิดชอบและกล้าคิดกล้าทำของเหล่าคนงานเป็นอย่างมาก!
“ครึ่กกกกๆๆ…..”
“พักหายใจกันซักพักเถอะ”
“ข้าว่าข้าทำต่อได้อีกนิดนะ”
“เจ้าไม่ได้ยินข่าวหรือไง?
คุณโรโมโม่พึ่งตายไปเมื่อเช้านี้ตอนที่กำลังแบกก้อนหิน
พักซักหน่อยเถอะ”
“อึก มิน่าละ
ทำไมฉันถึงไม่เห็นเขา”
เหล่าผู้เล่นใหม่ต่างพากันล้มหายตายจากเพราะแบกหินที่มีน้ำหนักมากเกินไป
ตอนนี้ประติมากรรมเสร็จไปเพียงแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น
ทว่ามันก็ได้กลายเป็นสถานที่อันสำคัญที่บรรดาเหล่านักบวชและพาลาดินจะมาเยือน
ค่าสถานะความศรัทธานั้นสำคัญอย่างมากเพราะว่ามันจะช่วยพัฒนาทักษะการโจมตีและเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ได้
ใครก็ตามที่สวดมนต์ภาวนาด้วยศรัทธาอันแรงกล้าต่ออุทยานแห่งเหล่าทวยเทพ
ก็จะได้รับผลประโยชน์พิเศษมากขึ้น
“ท่านวีดนี่คิดถึงใจของเราเหล่านักบวชและพาลาดินมากจริงๆ”
“ใช่แล้ว
เขาทำอะไรให้สายอาชีพของเรามากมายจริงๆ”
ทว่าวีดไม่ได้คิดถึงอะไรเกี่ยวสายอาชีพพวกนั้นเลยซักนิด
“จะไม่มีการแบ่งแยกสายอาชีพและถิ่นกำเนิดเกิดขึ้นภายในราชอาณาจักรอาเพ่น”
มันไม่สำคัญว่าคนๆนั้นจะเริ่มเล่นจากแดนเหนือหรือย้ายมาจากทางตอนกลางของทวีป
ไม่ว่าผู้เล่นคนไหนที่ยอมจ่ายภาษีก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม!
ไม่แปลกใจเลยที่ข่าวคราวเรื่องอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพจะแพร่กระจายออกไปทั่วบนเครือข่ายอินเตอร์เนท
วิดีโอและรูปภาพจากการก่อสร้างถูกโพสลงบนกระดานข่าวของรอยัลโร้ด พวกผู้เล่นต่างให้ความสนใจกันค่อนข้างมาก
แถมมันยังถูกเผยแพร่ผ่านทางสถานีออกอากาศของ KMC Media และ CTS
Media อีกด้วย
“ประติมากรรมอีกอย่างในเมืองโมราต้า…..”
“ขนาดของมันเหนือจินตนาการมาก”
เหล่านักบวชจากทางแดนเหนือ
ใต้ ตะวันออก และตะวันตกต่างมุ่งหน้าออกเดินทางไปที่เมืองโมราต้า
“มันช่วยเพิ่มค่าความศรัทธาด้วยนะ….คุณต้องมาเห็นมันด้วยตาตัวเอง”
อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสายนักบวชนั้นคืออาชีพสำคัญในการออกล่าเป็นปาร์ตี้
นักบวชจะคอยบัฟคำอวยพร ร่ายมนต์รักษาและมนต์ปกป้องในยามคับขันเพื่อช่วยให้ปาร์ตี้ของพวกเขารอดพ้นจากความตาย
เพราะงั้นการแข่งขันของเหล่านักบวชจึงได้เกิดขึ้น
พวกเขาค่อนข้างอ่อนไหวมากต่อความสามารถในการฟื้นคืนค่าพลังชีวิตด้วยการใช้มนต์ของพวกเขาต่อครั้ง
คนที่สามารถเพิ่มพลังชีวิตให้อาชีพสายนักรบได้ถึง 1,730 หน่วยต่อครั้งจะได้รับความนิยมมากกว่าพวกที่ฟื้นคืนมาได้เพียงแค่
1,500 หน่วย เพราะว่าอาชีพสายนักบวชต้องคอยสนับสนุนปาร์ตี้ล่าอยู่เสมอ
ดังนั้นพวกเขาถึงจำเป็นต้องมีความมั่นใจในตัวเองมากๆเพื่อเป็นกำลังให้คนอื่นๆภายในปาร์ตี้
เส้นทางจากทวีปทางตอนกลางที่มุ่งสู่เมืองโมราต้านั้นค่อนข้างไกล
แต่เหล่านักบวชก็ยังคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะไปเพื่อบุกเบิกเส้นทางในการออกแสวงบุญ เหล่าผู้เล่นสายนักบวชรวมตัวกันเป็นจำนวนมากเพื่อออกเดินทางไปยังเมืองโมราต้าด้วยม้า
รถลาก หรือแม้แต่เรือสินค้า
“ไปออกล่าในดันเจี้ยนกันเถอะ
ข้าเป็นนักบวชนะ”
“เจ้าจะได้รับการรักษาจากนักบวชเลเวลมากกว่า
200 แถมไอเท็มก็แบ่งให้อย่างเท่าๆกัน”
“ข้าเป็นนักบวชที่จะคอยช่วยปาร์ตี้ออกล่าโดยไม่มีข้อกังขาใดๆในตัวสมาชิก
โปรดระบุเงื่อนไขของเจ้ามาได้เลย”
มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะตามหานักบวชเก่งๆให้เจอตอนที่ไปออกล่าบนทวีป
เพราะว่าในบางพื้นที่นักบวชนั้นสามารถช่วยปาร์ตี้ออกล่าได้มากพอสมควร
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“ภารกิจขั้นที่ 14 เสร็จสมบูรณ์แล้ว”
บาร์ดเรย์พาคนไปมากมายในการทำภารกิจปรมาจารย์ของเขา
เขาได้รับภารกิจให้ไปต่อสู้กับมอนสเตอร์กินคนที่ชื่อว่า คาแจงก้า!
เขาส่งภาพให้กับสถานีถ่ายทอดในการออกอากาศสดเมื่อตอนที่เขาตอบรับภารกิจ
วิดีโอการต่อสู้ทำให้เรตติ่งผู้ชมพุ่งสูงมาก ในช่วงเวลา ณ ตอนนั้น
บรรดาเจ้าของสถานีเองก็ต่างชื่นชมในพลังและทักษะของเขา
“เขาต่อสู้อย่างนั้นได้ยังไงกันนะ?”
“ช่างน่าทึ่งจริงๆที่เขาเล็งไปที่จุดอ่อนได้บ่อยขนาดนั้น
แทบจะสมบูรณ์แบบไปเลย”
“ถ้าในโลกนี้มีเทพ
เขาคงจะต่อสู้แบบนั้นนั่นแหละ….ดูเหมือนจะไม่มีใครสามารถสู้กับบาร์ดเรย์ได้แล้วล่ะ”
บาร์ดเรย์เป็นที่นิยม
มีชื่อเสียงและอำนาจมากต่อกิลด์เฮอร์มีส! แต่ว่าวิดีโอที่ได้รับเรตติ่งการรับชมสูงที่สุดก็ยังคงเป็นการต่อสู้ของเขากับวีด
บาร์ดเรย์เองก็กลับไปดูการต่อสู้ของเขากับวีด
ซึ่งเป็นภาพตอนที่วีดกำลังวาดดาบของเขาลงไปที่พวกนักรบของกิลด์เฮอร์มีส
‘ทักษะการต่อสู้ของเขาที่ปล่อยออกมาจากร่างกายดูเป็นธรรมชาติมาก’
การต่อสู้อันดุเดือดของวีดนั้นไม่ติดขัดเลย
ทักษะวิชาดาบเฮอเรมที่วีดใช้เท่าที่บาร์ดเรย์ดูออกก็สามารถโจมตีต่อเนื่องได้สูงสุด
6
ครั้ง แค่เขาต่อสู้กับพวกราชองครักษ์ได้เพียงลำพังนั่นก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อมากแล้ว
นอกจากนี้วีดยังสามารถฆ่าพวกนักฆ่าที่เขาส่งไปได้ถึง
16
ครั้ง บาร์ดเรย์รู้สึกทึ่งในการเคลื่อนไหวของเขามาก
‘เป็นไปได้ยังไงกัน?’
เขาตามดูวิดีโออื่นๆของวีดด้วยเช่นกัน
‘เขาทำให้พวกมอนสเตอร์แตกตื่นได้ด้วยจิตวิญญาณนักสู้
และเข้าไปฆ่าพวกมันในตอนที่กำลังลังเล เขาชิงโจมตีพวกมอนสเตอร์ก่อน
จากนั้นก็โจมตีใส่พวกมันแบบต่อเนื่องโดยที่ไม่ให้พวกมันได้ตอบโต้
ขณะที่โดนล้อมจากทุกทิศทาง เขาก็ตอบสนองได้อย่างสุขุมเพื่อที่จะสร้างช่องทางให้เขาโจมตีพวกมอนสเตอร์กลับไปได้
เขาหลบหนีจากการโดนปิดล้อมจากทุกทิศทางได้แบบนั้น
แปลว่าเขาต้องคุ้นเคยกับการต่อสู้เป็นอย่างมาก
เขาเคยมีประสบการณ์ต่อสู้แบบไหนมากันแน่นะ?’
มันยากจริงๆที่จะลอกเลียนสไตล์การต่อสู้ที่เขาเคยใช้ในการต่อสู้กับมังกรกระดูก
เพื่อที่จะสร้างความเสียหายให้กับมังกรกระดูกตอนที่มันบินอยู่บนอากาศแบบนั้นคงต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก
ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่มีหัวคิดก็คงเลือกที่จะโจมตีจากระยะไกลๆแน่ ทว่าวีดกลับขี่ไวเวิร์นเพื่อออกไปต่อสู้กับมังกรกระดูกบนอากาศ
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็บ่งบอกได้ว่าทักษะและเลเวลของเขาคงค่อนข้างสูงมากหรือเปล่านะ?”
แม้แต่ตอนที่เขาอยู่ในร่างลิชไชร์
ร่างออร์คที่บัญชาการพวกดาร์คเอลฟ์ วีดก็สามารถทำสำเร็จได้ในที่สุดเสมอมา เขาเชี่ยวชาญการมองจุดอ่อนของศัตรูและสร้างความเสียหายให้กับพวกมัน! ยิ่งเขาดูการต่อสู้ของวีดมากแค่ไหน เขาก็ยิ่งคิดว่ามันช่างน่าทึ่งมากจริงๆ
‘ถ้าเราถอดทักษะ
เลเวลและอุปกรณ์ออกไป ฉันจะสู้ตัวต่อตัวกับเขาชนะได้หรือเปล่านะ?’
วีดนั้นรวดเร็วมาก
ทว่าความเร็วของบาร์ดเรย์เองก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกันจากการบัฟอวยพรของพวกนักบวช
แถมเขายังขี่ม้ารินดัลลินด้วย เมื่อนึกถึงความแตกต่างด้านความเร็วในการตอบสนองและระยะของทักษะที่ใช้
พวกเขาคงมีฝีมือที่พอๆกัน
แต่ถึงอย่างไร
วีดก็เป็นคนที่สามารถโจมตีและชิงความได้เปรียบก่อนได้ เขามักจะเลือกเส้นทางที่ยากที่สุดโดยการเล็งไปที่จุดอ่อนตลอดและโจมตีเข้าไปตรงจุดนั้นสองถึงสามทีอย่างต่อเนื่อง
‘และการโจมตีที่ไม่ธรรมดาเยอะๆนั่น…..’
การฟันดาบของวีดนั้นเป็นกระแสคลื่นที่ไหลไปมา
เร็ว เร็ว
ช้า เร็ว รุนแรง ช้า รุนแรง เร็ว รุนแรง!
การโจมตีเหล่านั้นเหมือนกับลมพายุ
ส่วนร่างกายของเขาก็ดูรุนแรงและปั่นป่วนขณะที่พยายามไล่ตามการเคลื่อนไหวนั้น
เขาเปลี่ยนจังหวะจนดูเหมือนกลายเป็นคนละคนขณะที่ต้องต่อสู้กับคนมากมาย
ใครที่ไปต่อสู้กับมันซึ่งๆหน้าคงไม่สามารถเข้าใจมันได้แน่
หากพวกเขาไม่มองจากระยะไกลๆ
บาร์ดเรย์ใช้ทักษะดาบลับของเขาได้แต่เขาก็ยังโดนโจมตีใส่อย่างต่อเนื่องอยู่ดี ความมีเสน่ห์และแรงดึงดูดนั้นกำลังปิดซ่อนความก้าวร้าวเอาไว้
การทำลายล้างขนาดนั้นมากพอที่จะทำให้แผ่นหลังของเขาเย็นยะเยือก
‘โชคยังดีที่พลังป้องกันของเขานั้นด้อย
ไม่งั้นคงอันตรายแน่ๆ’
เขารู้ดีว่าการโจมตีพวกนั้นคงสร้างความเสียหายไม่ได้มากนัก
เพราะงั้นเขาถึงได้ใส่แรงโจมตีตอบโต้อย่างรุนแรง
‘จะเป็นยังไงนะถ้าเขาใช้ต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์?’
บาร์ดเรย์ไม่เคยนึกถึงสไตล์การต่อสู้ของคนอื่นมาก่อน
วิธีการล่าของเขานั้นมีความสมดุลได้ประสิทธิภาพที่ดีมากในการแบ่งพละกำลังทางกายภาพและมานาให้มีความสมดุลได้อย่างดีเยี่ยม
จากนั้นก็เข้าไปโจมตีสร้างความเสียหายด้วยทักษะของเขาเอง
ทว่าวีดได้แสดงกลวิธีการต่อสู้ในระดับที่สูงยิ่งกว่า
เขาเพลิดเพลินไปกับการต่อสู้และทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปที่มัน
‘มันเป็นการดิ้นรนต่อสู้อย่างบ้าเลือด
การต่อสู้นั้นจึงดูน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น’
บาร์ดเรย์พึ่งคิดได้ว่าเขายังขาดความเป็นตัวของตัวเอง
มันได้สะท้อนออกมาในภารกิจปรมาจารย์ของเขาแล้ว
ทุกๆครั้งที่เขาไปต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์หรือว่ากษัตริย์องค์อื่นๆ
มันง่ายที่จะจับจุดอ่อนของศัตรูได้โดยใช้แนวทางการต่อสู้ของวีดเป็นแบบอ้างอิง
‘ฉันคงต้องฝึกการโจมตีไปที่จุดๆเดียวแบบซ้ำๆซะแล้ว’
★★★★★★★★★★★★★★★
“เร็วกว่านี้อีก!”
“รถลากขนหินแดง
3 คันมาถึงแล้ว!”
“วางมันไว้จากตรงนี้ไปถึงตรงนั้น”
ผู้เล่นมากมายคับคั่งทั่วทั้งเขตก่อสร้างของอุทยานแห่งทวยเทพ
จัตุรัสได้ถูกสร้างจนเสร็จแล้วและอีกไม่นานวิหารก็จะเสร็จสมบูรณ์เช่นกัน
“อย่างที่คิด
นี่มันน่าสนใจมากจริงๆ พวกคนงานก่อสร้างกำลังทำงานด้วยกันอย่างขยันขันแข็ง”
วีดมองดูเหล่าคนงานก่อสร้างอย่างภูมิอกภูมิใจ
มันเป็นรสชาติของอำนาจ ทุกก้าวย่างในการทำงานของพวกเขาขณะที่กำลังขุดและแบกนั้นรวดเร็วกระฉับกระเฉงมากกว่าที่จะจินตนาการได้
“ถ้าเร็วขนาดนี้ละก็
ส่วนอื่นๆคงสร้างเสร็จก่อนประติมากรรมแน่ๆ”
วีดกำลังสร้างรูปสลักเทพที่เขาเคยเห็นในรัทเซเบิร์ก
ถ้าหากว่าเหล่าเทพที่ถูกลืมเลือนจากโลกใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นประติมากรรมจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ศาสนาใหม่ๆก็จะเกิดขึ้นมาด้วย ยิ่งถ้าประติมากรคนอื่นๆรู้ว่าพวกเขากำลังทำงานแบบไหนกันอยู่
การทำงานก็จะรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
วีดปล่อยส่วนล่างของประติมากรรมให้พวกเขาทำขณะที่เขาใช้สมาธิไปกับส่วนที่ต้องใช้เวลาในการทำมากๆ
“โอกาสที่จะได้ร่วมสร้างงานเกี่ยวกับการสร้างรูปสลักเทพคงไม่มีมาอีกหรอกนะ”
“ใช่แล้ว
เราจะได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายจากการเข้าร่วมในครั้งนี้”
เหล่าลูกมือรู้สึกมีแรงกระตุ้น
จึงได้เพิ่มปริมาณงานของพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น
“อ๊าคคคคคคคค!”
บางครั้งประติมากรบางคนก็เพิกเฉยที่จะผูกเชือกโยงตัวของพวกเขาให้ดีและก็ตกลงไปตายกันบ้าง
แต่พวกเขาก็ไม่เคยลืมศักดิ์ศรีของพวกเขาในการทำงาน การทำงานร่วมกับวีดช่วยเพิ่มสถานะขั้นรองและค่าความเชี่ยวชาญทักษะของพวกเขา
แถมยังได้รับค่าชื่อเสียงในฐานะประติมากรมาอีกด้วย
เพราะงั้นพวกเขาถึงได้อยู่ทำงานอย่างมีความสุขตลอดทั้งคืน
เวลานี้มีประติมากรรมสร้างเสร็จสมบูรณ์ไป
4
ชิ้น โดยมีผู้เล่นเป็นแสนมาช่วยสร้างทุกวัน และเมื่อชิ้นที่ 6
เสร็จสิ้น วัสดุที่จำเป็นต้องใช้ก็ไม่ต้องหาเพิ่มอีกแล้ว พวกเขาเหลือเพียงแค่เอามารวมไว้ในจัตุรัสเท่านั้น
เหล่าเอลฟ์มาช่วยปลูกดอกไม้ป่าเอาไว้มากมาย
ดอกไม้คือตัวแทนของเทพแต่ละองค์
หลังจากที่สร้างประติมากรรมเสร็จเป็นตัวที่
10
ถนนของเมืองโมราต้าก็เปิดออก
มันคืองานครั้งใหญ่ที่นำโดยก้าวย่างที่สั่นสะเทือนของฝูงชนมากมาย
“เมื่อวานนี้ฉันยังอยู่บนภูเขาลูกนั้นอยู่เลย……”
“พวกเราย้ายพวกมันทั้งหมดมาเมื่อเช้านี้เอง”
“รูปร่างของทะเลสาบเปลี่ยนแปลงไปรึเปล่า?”
“ถ้านายมองดูจากบนฟ้า
ก็จะเห็นว่าเมืองโมราต้าเหมือนกำลังจะถล่ม”
พวกเขาเป็นห่วงว่าภูมิประเทศจะเปลี่ยนแปลงมากเกินไปเพราะการก่อสร้างในครั้งนี้
ทันทีที่การก่อสร้างอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพเสร็จสิ้น
พวกเขาก็จะรีบไปตั้งเสาหินและของตกแต่งภายในวิหาร
กำแพงก็เต็มไปด้วยรูปสลักของเหล่าเทพที่วีดกำลังแกะสลักขึ้นมา
“ครั้งนี้ท่านวีดกำลังสร้างเทพองค์ไหนกันนะ?”
“เทพแห่งการเดินทางและกาลเวลา
ทูรอช!”
“ใครว่ะนั่น?”
“ข้าก็ไม่รู้”
“เทพที่ไม่รู้จักปรากฏออกมาอีกแล้วหรอ?”
“แต่ที่นี่ก็จะมีภารกิจให้กับผู้เล่นสายอาชีพนักผจญภัยหรือว่านักปราชญ์แล้ว
จากนั้นพวกเขาก็จะออกไปตามหาเรื่องราวเกี่ยวกับเทพทูรอช”
ถ้าวีดสร้างประติมากรรมขึ้นมาแล้ว
จากนั้นเหล่านักผจญภัยก็จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับมัน
เมื่อใดที่ประติมากรรมแห่งเทพถูกสร้างจนเสร็จสิ้นก็จะทำให้มีภารกิจมากมายที่เกี่ยวข้องกับเทพทั้งหลายออกมา
“โอ้โห
ข้อมูลพวกนี้บอกเรื่องเกี่ยวกับเทพทูรอชด้วยละ!”
มีข้อความถูกกรอกลงไปในคลังข้อมูลเพื่อตามหาเรื่องราวเกี่ยวกับเทพองค์นี้
แล้วข้อมูลที่เกี่ยวกับเทพทูรอชก็ถูกเปิดเผย
จากนั้นหน้าต่างข้อความที่บอกว่าภารกิจสำเร็จก็เด้งขึ้นมา! การกำเนิดของเทพนั้นนำไปสู่ภารกิจอื่นๆอีกมากมาย
“โห เจ๋งชะมัด
แล้วฉันจะทำภารกิจไหนต่อไปดีเนี่ย?”
“แกทำภารกิจของเทพีเฮสเทียเสร็จแล้วหรอ?”
“เสร็จแล้ว
มันไม่ใช่ภารกิจที่ยากนัก ฉันก็เลยทำเสร็จได้อย่างรวดเร็ว!”
การผจญภัยและภารกิจมากมายกำลังเร่าร้อนขึ้นภายในโมราต้าอีกครั้ง
บรรดารูปสลักที่อยู่ในอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพนั้นส่งผลให้อิทธิพลทางการปกครองท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น
ภารกิจใหม่ๆมากมายก็ถูกสร้างขึ้นมา ผลตอบแทนทางลัทธิความเชื่อก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
เหล่านักบวชและพระกู่ร้องด้วยความยินดีขณะที่เหล่านักผจญภัยเองก็ออกมาอยู่ตามถนนเพื่อทำภารกิจต่างๆ
ขณะเดียวกันเหล่าสถาปนิกก็ได้รับทักษะมากมายจากการสร้างวิหารจนแล้วเสร็จ
“วิหารนี่โล่งเกินไป
เราต้องคิดถึงเรื่องของบูชาแด่เทพีเฮสเทีย ส่วนพวกคนแคระก็ต้องมีที่เหมาะๆด้วย……”
“วิหารนี่ไม่ขายเบียร์หน่อยหรอ?”
“อึก! กิจการกำลังไปได้สวย แต่ก็คงจะไม่ดีกว่านี้แล้วละมั้ง? ที่นี่คงจะถูกทิ้งให้กลายไปเป็นหิ้งบูชาซะแล้วละมั้ง”
“เราต้องมีเก้าอี้เล็กๆเอาไว้ให้พวกคนแคระด้วยนะ”
เนื่องจากคำพูดปราศรัยของวีดและผลลัพธ์ของประติมากรรมที่ออกมา
วิหารที่ตั้งขึ้นมาก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากเหล่าผู้คน
วิหารที่ถูกสร้างขึ้นมานี้จะคงอยู่และไม่พังทลายลงไปนานแสนนาน
เหล่าสถาปนิกที่สร้างขึ้นมาต่างก็ได้รับค่าชื่อเสียงและค่าความเชี่ยวชาญทักษะมามากมาย
พวกเขาได้แสดงทักษะต่างๆเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างอันสวยสดงดงามขึ้นมา
สภาพทางการเงินของราชอาณาจักรอาเพ่นกำลังแข็งแรงมาก
แต่จากการสร้างอุทยานแห่งทวยเทพนี้ก็ใช้เงินทุนที่สะสมไปมากพอควร
แต่ถึงอย่างไรเหล่าชาวเมืองก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากนัก
“ทุกวันนี้จำนวนผู้เล่นเพิ่มมารึเปล่านิ?”
“ไม่ใช่แค่พวกผู้เล่นเท่านั้นนะ
พวกผู้เล่นจากทางตอนกลางทวีปก็ค่อยๆพากันมาด้วยเช่นกัน”
“จริงๆแล้ว….สินค้าที่ขายอยู่ที่จัตุรัสกลางน่ะ
คนกำลังซื้อสินค้าเวทย์มนต์ด้วยราคาที่แพงมากๆเลยนะตอนนี้”
เป้าหมายหลักของสายอาชีพนักบวชก็คือมาเยี่ยมชมอุทยานแห่งทวยเทพ
บางคนก็มาด้วยจุดประสงค์นั้นเพียงอย่างเดียว แต่อีกหลายคนก็มาที่เมืองโมราต้าเพราะผู้คนในเมืองล้วนเป็นมิตร
“นี่แหละดินแดนทางเหนือ!”
“ฉันได้ยินมาว่าที่นี่มีภารกิจมากมาย
เราเลยออกมาผจญภัยกัน”
“ออกไปสำรวจดันเจี้ยนกันเถอะ”
เหล่านักบวชและพาลาดินไม่มีความตั้งใจที่จะออกไป
ก่อนที่อุทยานแห่งทวยเทพนี้จะเสร็จสมบูรณ์ จำนวนผู้คนที่อยู่ในเมืองโมราต้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาจัดการมอนสเตอร์และทำภารกิจต่างๆไปมากมาย นอกจากนี้พวกเขายังคอยกลับมาที่โมราต้าเพื่อชื่นชมศิลปะอันงดงามและการแสดงอันตระการตา
ผู้คนที่มาจากทวีปทางตอนกลางเองก็ต้องจ่ายภาษีให้กับราชอาณาจักรอาเพ่น
รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสำคัญของอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพด้วย
เหล่านักบวชเองก็ทำเครื่องสักการะให้กับเหล่าเทพและยังบริจาคค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างด้วย
เหล่าผู้เล่นใหม่ของโมราต้าก็ให้เงินได้ไม่กี่เหรียญทองแดง
ขณะที่เหล่านักบวชและพาลาดินให้เงินเป็นกอบเป็นกำ
เพราะถ้าหากพวกเขาทำการบริจาค
มันจะทำให้พวกเขากลายเป็นนักบวชระดับสูงในลัทธิใหม่ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เขายังแกะรูปสลักของเทพออร์คและเทพคนเถื่อนออกมาด้วย
ตริ้ง!
ลัทธิออร์คได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว
|
ความเชื่อความนึกคิดอันพยาบาทและวัฒนธรรมของเหล่าออร์คจะแผ่ขยายออกไป
|
ลัทธิคนเถื่อนได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว
|
หากพวกเขามายังวิหาร
พวกเขาก็จะได้รับพลังที่แข็งแกร่ง
|
ระดับความเป็นมิตรกับราชอาณาจักรอาเพ่นสูงขึ้น
|
ความภาคภูมิใจที่มีต่อประติมากรรมแต่ละชิ้นของเหล่าชาวเมืองและผู้เล่นภายในราชอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มขึ้น
|
อุทยานแห่งเหล่าทวยเทพจะไม่มีวันหยุดการอวยพรแด่ผู้ที่อาศัยภายในดินแดนเหนือ
ผู้ใดที่เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงดินแดนร้างแห่งนี้จะได้รับค่าชื่อเสียงและค่าเกียรติยศด้วยเช่นกัน
|
ราชอาณาจักรที่มีวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาวันแล้ววันเล่า
|
★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดใช้เวลา
3
เดือนบนทวีปเวอร์เซลไปกับการสร้างประติมากรรม มันเป็นงานที่หนักและน่าเบื่อหน่าย
แต่เขาก็ได้รับกำลังใจจากการมองลงมาที่บรรดาผู้เล่นมากมายที่อยู่เบื้องล่าง
“จำนวนคนกำลังเพิ่มขึ้น
ในอนาคตฉันก็จะได้ภาษีจากพวกเขา!”
ในตอนที่เขากำลังสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
พวกมันเป็นเหมือนบ่อเงินบ่อทองที่ไม่มีก้น ทว่าตอนนี้เป็นหน้าเป็นตาให้กับเมืองโมราต้าอย่างมาก
“ฉันต้องทำให้มั่นใจว่าจำนวนประชากรของราชอาณาจักรอาเพ่นจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
และพวกเขาจะไม่ยอมไปที่ไหนอีก พวกเขาจะต้องอยู่แต่ในอาณาจักรแห่งนี้และจ่ายภาษีให้กับฉันไปตลอดชีวิต!”
ฉะนั้นงานสาธารณะขนาดใหญ่อย่างอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพจึงถือว่าสำคัญมาก
มันก็เหมือนกับการมองเข้าไปในร้านค้าที่มีภายในหรูหรา
สถานที่พวกนั้นถูกออกแบบมาให้ปลุกแรงกระตุ้นชักจูงให้อยากเข้าไปในร้านและซื้อของบางอย่างออกมา
และเงินภาษีที่จ่ายไปนั้นก็ไม่สามารถคืนได้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเสียใจภายหลังก็ตามที
ในการลงทุนของเขาเพื่อที่จะกอบโกยเงินจากเหล่าชาวเมือง
เขาจะขี้เหนียวไม่ได้
“มันจะต้องดูแพง
จนฉันสามารถเพิ่มภาษีทีหลังได้! ฉันจะขูดรีดจากพวกนักท่องเที่ยวด้วย”
สถาปัตยกรรมนั้นก็มีประโยชน์ในการสร้างเมืองให้โดดเด่นและโด่งดัง
ทว่าเขาก็ไม่ได้อยากจะสร้างอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพให้ใหญ่เกินความจำเป็น
รัทเซเบิร์กคือสถานที่สำคัญที่เหล่าทวยเทพมายังโลกมนุษย์เป็นครั้งแรก
ผู้คนมากมายต่างเชื่อในเทพเจ้าเหล่านั้นจนไม่อาจเลือนหายไปได้
เมื่อใดก็ตามที่นึกถึงเกี่ยวกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์และทางศาสนา
ก็คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะสร้างสรรค์ประติมากรรมขึ้นมา เขาต้องสร้างพวกมันให้เสร็จก่อนที่ประติมากรหรือว่าจิตกรคนอื่นจะค้นพบเกี่ยวกับรัทเซเบิร์กและป่าวประกาศให้โลกรู้เกี่ยวกับมัน
“การทำธุรกิจต้องทำในเวลาที่เหมาะ!”
วีดใช้ทักษะความสามารถของเขานำความศรัทธาของเหล่าชาวเมืองมาใช้สร้างประติมากรรมที่มหัศจรรย์ขึ้นมา
“ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักที่ขั้นสูงเลเวล
8 เพิ่มขึ้นมาช้ามากจริงๆ
ตอนที่ทำประติมากรรมอยู่นี่ก็เข้าใจแล้วล่ะ!”
ตอนนี้ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักของวีดอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล
8
จนถึงบัดนี้เขาสร้างประติมากรรมไปแล้ว 11 ชิ้นและได้ค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักมา
27% แถมยังได้ค่าสถานะจากการสร้างผลงานที่มีคุณค่าทางศาสนาและประวัติศาสตร์อีกด้วย!
วีดเองก็ได้รับคำอวยพรจากเหล่าทวยเทพเช่นเดียวกัน
ดังนั้นค่าความเชี่ยวชาญทักษะปักเย็บ ตกปลา
ทำอาหารและช่างฝีมือของเขาก็เพิ่มขึ้นมาด้วยนิดหน่อย
ขณะที่เหล่าเทพก็ได้รับการสักการบูชา
ตัวตนของพวกเขาจึงเกิดผลลัพธ์น้อยใหญ่มากมายขึ้นบนทวีป คงจะไม่เกินจริงไปหากจะพูดว่าวีดคือต้นตอของเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
เขาได้ก้าวขึ้นสู่เส้นทางของปรมาจารย์ประติมากรรมไปอีกขั้นแล้ว
“ฉันไม่รู้ว่าจะทำประติมากรรมที่แพงขนาดนี้ได้อีกไหม
ถ้าพวกมันโดนทำลาย”
วีดอยากจะออกไปต่อสู้แต่ว่าเขาต้องทำงานแสนน่าเบื่อแบบนี้ต่อไป
เกราะอัศวินแห่งเทพีที่สร้างขึ้นมาจากฮีเลียมคืออุปกรณ์ที่ได้รับบัฟคำอวยพรของเหล่าเทพ
ดังนั้นคุณสมบัติเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับค่าความศรัทธาและพลังป้องกันจึงเพิ่มขึ้น
ถ้าเขาสวมใส่มันเข้าไปก็จะยิ่งทำให้การต่อสู้สนุกมากขึ้นไปอีก ทว่าตอนนี้เขาต้องทนสร้างประติมากรรมทุกวัน
เสียงร้องอันเร่าร้อนดังปะทุออกมาจากพื้นดินทุกครั้งที่วีดสร้างประติมากรรมของเทพเสร็จสิ้น
ฝูงชนมากมายกำลังเฝ้ารอและรู้สึกพิเศษที่พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการสร้างประติมากรรมเหล่านั้น
เขาต้องอดทนอดกลั้นพยายามสร้างประติมากรรมขึ้นมาเพื่ออนาคตของราชอาณาจักรอาเพ่น
“ต้องลำบากมากแน่ๆ
นายท่าน”
เขาใช้ปีกแห่งแสงสลับกับหย่อนตัวลงมาเพื่อแกะสลักส่วนไหล่ของประติมากรรม
เขาแกะสลักหินอย่างเงียบๆในราตรีที่มืดมนภายใต้แสงจันทร์และดวงดารา
‘ผู้คนก็จะได้สนุกไปกับการล่าและการผจญภัย’
วีดรู้สึกอิจฉาพวกเขา
แต่ว่าเขาก็ยังคอยบอกกับตัวเองว่าควรใช้ชีวิตแบบโง่ๆที่เพลิดเพลินกับความพอเพียงอยู่ดี
และนั่นจึงทำให้เขาเลือกสายอาชีพที่แสนยากลำบากอย่างประติมากร
เขาเคยใช้ชีวิตด้วยการกินขนมปังบาร์เลย์พลางปาดน้ำตา
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกอิ่มเอมใจและประสบความสำเร็จที่ได้สร้างความยินดีให้กับผู้คนด้วยผลงานของเขา
ในชีวิตหนึ่งไม่มีใครที่ไม่เคยเจอกับการทำงานหนักหรอก
“เพื่อภาษี….นี่จะช่วยเพิ่มภาษีในภายภาคหน้า”
ขณะที่วีดกำลังแกะสลักประติมากรรมในช่วงค่ำ
ก็มีแขกคนหนึ่งมาถึง จากนั้นเขาก็ขี่นกยักษ์บินขึ้นไปหาวีด
“วีด
ไม่เจอกันซักพักแล้วนะครับ”
นั่นก็คือ
ช่างเหล็กคนแคระ เฮอร์แมน!
เขาเป็นเจ้าของร้านตีเหล็กที่อยู่ใกล้ๆกับโรงหลอมเฮสเทียที่คอยทำชุดเกราะและดาบให้กับผู้คน
มีคนมาเข้าแถวรออุปกรณ์ของเฮอร์แมนยาวมาก วีดต้อนรับเขาอย่างยินดี
“หวัดดีครับ ผมได้ข่าวว่าคุณลงหลักปักฐานที่โมราต้าแล้วหรอ
ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”
“โมราต้าเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ
ผมเสียใจเลยที่ไม่ย้ายมาจากคุรุโซให้เร็วกว่านี้….ว่าแต่
พูดถึงงานเลี้ยงส่งของคุรุโซ…..”
วีดไม่ได้เห็นเฮอแมนมาตั้งแต่วันที่เขาชิ่งหนีออกมาจากงานเลี้ยงอำลาที่คุรุโซ
“งานเลี้ยงอำลาหรอ?
มันก็ผ่านมานานแล้ว ผมเลยจำไม่ค่อยได้น่ะ แล้วเป็นไงล่ะ?”
“ก็
วันสุดท้ายที่คุณออกมาจากเมืองคุรุโซ….อ่อ ช่างเถอะ
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ”
เฮอแมนตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงเกี่ยวกับมัน
เขาได้เงินมามากในฐานะช่างตีเหล็กคนแคระ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ยกเรื่องเงินเล็กน้อยๆขึ้นมาพูดอีก
นอกจากนี้
งานเลี้ยงอำลานั้นก็เป็นประเพณีที่จัดขึ้นมาโดยเหล่าคนแคระไม่ใช่โดยผู้เล่น
‘แต่คงจะดีถ้าได้เงินคืน’
เขาไม่ได้รู้จักวีดดี
แต่เขาก็ค่อนข้างระวังเรื่องความแตกแยกที่มาจากเงินค่าเครื่องดื่มนิดๆหน่อยๆ
วีดมีรอยยิ้มที่สงบอยู่หน้าของเขา
ความเหนื่อยล้าทางใจที่มากมายจากการแกะสลักประติมากรรมได้ลอยหายไปจนหมดแล้ว
“คุณมาที่นี่เพื่อขออนุญาตจากผมไปก่อสร้างถนนของช่างตีเหล็กใกล้ๆกับโรงหลอมเฮสเทียให้คล้ายๆกับเนินเขาจิตรกรใช่ไหมครับ?”
เฮอแมนและเหล่าคนแคระที่มากับเขาจากเมืองคุรุโซต้องการที่จะสร้างถนนของเหล่าช่างตีเหล็กตั้งแต่ที่พวกเขาตัดสินใจที่จะมาลงหลักปักฐานในเมืองโมราต้า
ความใฝ่ฝันของเขาคือการมีพื้นที่ภายในเมืองที่เอาไว้ขายอาวุธและชุดเกราะคุณภาพดี
“โรงตีเหล็กที่มีช่างตีเหล็กอาศัยอยู่และทำงานร่วมกัน
พวกเขาจะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน คุณไม่อยากจะมีร้านค้าที่ขายสินค้าโลหะคุณภาพดีและคอยจัดการกับการพัฒนาตัวเมืองหรือครับ?”
การมีสถานที่ที่มีร้านอาหารมากมายก็เป็นเรื่องที่ดีด้วยเช่นกัน
มันจะช่วยขับเคลื่อนกิจการและผู้เล่นภายในเมืองได้มากยิ่งขึ้น
เฮอแมนต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองอย่างมากขณะที่นำเหล่าช่างตีเหล็กทั้งหลายมาที่นี่
อาชีพช่างตีเหล็กจะมีบทบาทสำคัญมากกว่าอาชีพสายอื่นๆในเมืองโมราต้า
มันก็เหมือนกับการที่ผู้คนมองดูของที่คล้ายๆกันด้วยตาของพวกเขา
ตอนนี้โมราต้าเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอาเพ่นแล้ว ดังนั้นเมืองนี้ก็ต้องแข่งขันกับเมืองอื่นๆที่อยู่บนทวีปเวอร์เซล
ศักยภาพของเมืองก็จะยิ่งไร้ที่สิ้นสุดหากอุทยานแห่งเหล่าทวยเทพสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ความฝันของเขาที่จะสร้างเมืองที่ดีที่สุดบนทวีปเวอร์เซลในภายภาคหน้านั้นก็จะไม่ใช่เพียงภาพลวงตาอีกต่อไป
เพราะถึงยังไงตอนนี้สถานที่แห่งนี้ก็เป็นเหมือนกับสรวงสวรรค์ของเหล่าผู้เล่นไปแล้ว
วีดมีรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นเปื้อนบนใบหน้าของเขา
“ผมก็คิดจะทำอย่างนั้นเหมือนกันครับ
อาชีพช่างตีเหล็กได้รับความเคารพและยังสามารถสวมใส่อุปกรณ์ดีๆของสายอาชีพอื่นได้
ผมชื่นชอบอาชีพช่างตีเหล็กมากจริงๆครับ”
ช่างตีเหล็กจ่ายภาษีให้เป็นจำนวนมาก!
วีดมีมโนภาพของเหล่าช่างตีเหล็กขึ้นมา
การที่มีช่างตีเหล็กอาศัยอยู่ในโมราต้าจะช่วงสร้างดาบและเกราะมากมายที่จะกลายเป็นหน้าเป็นตาให้กับเมืองได้
ผู้คนก็จะเดินทางมาค้าขายและเงินจากภาษีอากรก็จะเพิ่มขึ้นมาด้วย!
“ขอบคุณที่เข้าใจครับ”
“แน่นอน ผมชอบอาชีพช่างเหล็กมากจริงๆ….ผมจะเตรียมมาตรการสนับสนุนไว้ให้นะ”
คำว่า ‘การหาประโยชน์ใส่ตัว’ นั้นชัดเจนหาดูได้ไม่ยาก
เพียงมองไปที่วีด
“ถ้าถนนช่างตีเหล็กถูกสร้างขึ้น
ผู้คนต้องมากันคับคั่งแน่เลย”
เหล่าลูกค้าก็จะมาหาช่างตีเหล็กเพื่อพัฒนาและซ่อมแซมอุปกรณ์
ตอนนี้มีผู้เล่นเลเวลสูงจำนวนมาก ต่างพากันออกไปผจญภัยอยู่ทางตอนเหนือ
เพราะฉะนั้นพวกเขาจะต้องหลั่งไหลมาที่นี่อย่างแน่นอน
มันเป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับช่างตีเหล็กมือใหม่ที่จะได้เติบโต
และเหล่าผู้เล่นก็จะสามารถซื้ออุปกรณ์จากช่างตีเหล็กฝีมือดีเหมือนอย่างเฮอแมนได้
ทว่าในระยะยาว สิ่งสำคัญก็คือเราต้องรับรองมาตรฐานของแร่เหล็ก
โมราต้ามีเหมืองแร่อยู่ที่หนึ่ง
ทว่าปริมาณและคุณภาพนั้นยังไม่อยู่ในขั้นที่น่าพึ่งพอใจนัก มาตรฐานนั้นยังถือว่าด้อยมากจนเทียบแร่เหล็กจากเหมืองเมลเบิร์นได้ไม่ถึงครึ่ง
เหมืองนั้นยังอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก
ปัญหาการขาดแคลนวัสดุในตอนนี้ถูกแก้ไขด้วยการหลอมจากอาวุธเหล็กเก่าๆที่ได้มาจากจักรวรรดินิฟล์เฮม
เหล่าช่างตีเหล็กมือใหม่เรียนรู้ได้ด้วยการหลอมอาวุธสนิมเขรอะ
ส่วนพวกช่างตีเหล็กเก่งๆก็นำเข้าแร่เหล็กจากเหมืองแร่ที่อยู่หมู่บ้านอื่นในทวีปทางเหนือ
จำนวนของทรัพยากรนั้นถือว่าสำคัญอย่างยิ่งเพราะว่าเมืองหรือหมู่บ้านไหนที่มีเหมืองแร่ก็จะได้กำไรมหาศาล
โชคดีที่พื้นที่รอบๆป้อมปราการเวอร์โก้เป็นภูเขาสูงชันที่เต็มไปด้วยเหมืองแร่ที่มีแร่ทับถมอยู่มากมาย
พวกคนแคระเองก็พูดถึงเหมืองเหล็กและเงินที่ถูกทิ้งร้างไว้
วีดให้พวกเอลลิออนไปทำงานในเหมืองขณะที่เหล่าผู้เล่นและทหารจากป้อมปราการเวอร์โก้ก็คอยจัดการกับพวกมอนสเตอร์
“ผมจะคอยสนับสนุนเหล่าช่างตีเหล็กในทุกๆทางครับ”
“ขอบคุณครับ
เมื่อลองคิดถึงการสนับสนุนที่ท่านมีให้ศิลปะแล้ว ความกังวลของข้าก็หายไปแล้วล่ะ”
วีดยังไม่ได้เริ่มสนับสนุนช่วยเหลือใดๆกับเหล่าผู้เล่นเลย
แต่ข่าวลือเกี่ยวกับเขาก็ยังแพร่กระจายออกไปทั่ว นี่คงเป็นเพราะคำพูดผู้อาวุโสของหมู่บ้านนั้นแน่ๆ
ถ้อยคำของวีดที่บอกว่าคอยสนับสนุนอาชีพสายศิลปะและการแสดงนั้นกระจายไปทั่วทวีป
และผู้คนต่างก็ยกย่องเขา นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวเมืองของราชอาณาจักรอาเพ่นถึงได้มีความจงรักภักดีขนาดนั้น
และตอนนี้พวกเขาก็พากันย้ายจากทวีปทางตอนกลางมายังทางเหนือ
“แต่ว่า
ผมมีบางอย่างที่อยากจะขอร้อง เพราะว่าผมมีสิ่งที่อยากจะสร้างอยู่น่ะครับ…”
“มันคืออะไรหรอครับ?”
★★★★★★★★★★★★★★★
มีส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากเฮอแมนเพื่อสร้างประติมากรรมพวกนี้
เพื่อที่จะแสดงออกถึงความเป็นเทพเจ้าที่แท้จริง
ประติมากรรมจำเป็นต้องมีอาวุธ
“มันคงดีมากถ้าหากได้ความร่วมมือจากเหล่าช่างตีเหล็ก”
อาวุธขนาดยักษ์นั้นจะต้องหนักมาก
และน้ำหนักมันคงจะทำลายประติมากรรมได้แน่ๆ
แม้ว่าทักษะช่างฝีมือและแกะสลักของวีดจะสูง แต่การจะให้ถือดาบเหล็กยักษ์ไว้บนหัวมันก็คงจะแตกเป็นธรรมดา
เขาจึงอยากจะให้เฮอแมนสร้างอาวุธที่ใหญ่และกลวงให้มีน้ำหนักเบาเท่าที่จะเบาได้
“ถ้างั้น….คุณอยากให้ผมสร้างอาวุธให้กับประติมากรรมมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของมันหรอครับ
นี่ช่างเป็นความท้าท้ายแบบใหม่ที่น่าสนใจมากครับ ไปทำงานกันเถอะพวกเรา”
ความจริงแล้ว
เฮอแมนรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาร่วมทำงานกับวีด
เขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างอาวุธจากทองสัมฤทธิ์เพื่อประติมากรรม และจากนั้นเขาก็ขอร้องวีดอีกอย่างหนึ่ง
“ถ้าหากว่ามีวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ….ถ้าผมมีซักอัน คุณจะช่วยจัดการกับมันหน่อยได้ไหมครับ?”
“ครับ
ผมคิดว่าทำได้นะ”
“ถ้างั้นผมขอมอบนี่ให้คุณ
ถือว่านี่เป็นสินบนของผมละกันนะครับ”
ท่านได้รับแร่เหล็กแห่งความมืด
(The
Iron of Darkness)
|
ท่านได้รับอัญมณีสูบโลหิต
(The
Bloodsorbing Jewel)
|
เหล็กแห่งความมืด: ความคงทน 9/9
|
ไอเท็มที่เกี่ยวกับทักษะการผลิตของช่างตีเหล็ก
|
วัสดุช่างตีเหล็กขั้นสูง
|
แร่เหล็กที่ได้ให้กับเนโครแมนเซอร์และถูกสาปด้วยมนต์ต้องสาปที่รุนแรง
เมื่อใช้แร่นี้สร้างเป็นอาวุธ มันจะให้คุณลักษณะพิเศษของอันเดดและคุณสมบัติทางความมืด
|
จะได้รับผลกระทบจากเวทย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยลงเนื่องจากเวทย์ปกป้องที่อยู่ภายใน
|
ไอเท็มช่างตีเหล็กระดับ
1
|
คุณสมบัติ: อันเดดจะแสดงความสามารถได้มากยิ่งขึ้นเมื่อใช้มัน
|
อัญมณีสูบโลหิต: ความคงทน 7/7
|
ไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับทักษะการผลิตของช่างตีเหล็ก
|
วัสดุช่างตีเหล็กขั้นสูง
|
อัญมณีที่เป็นชนวนของสงครามระหว่างราชอาณาจักรมาเซนและราชอาณาจักรอเบอดีน
|
ท้ายที่สุดอัญมณีนี้ก็ตกเป็นของราชอาณาจักรอเบอดีน
แต่หลังจากนั้นราชินีสามพระองค์ก็ต้องพบเจอกับความตายอันแสนเจ็บปวดที่โชกชุ่มไปด้วยโลหิต
|
อัญมณีนี้ยังไม่ได้ถูกแปรรูป
ทว่ามันก็ยังปลดปล่อยความโชคร้ายออกมากับใครก็ตามที่ถือครองมันไว้
|
ไอเท็มช่างตีเหล็กระดับ
1
|
คุณสมบัติ: ผลลัพธ์ของทักษะที่เกี่ยวกับเลือดเพิ่มมากขึ้น สถานะทางโชคจะลดลง 13
หน่วยเมื่อมันถูกแปรรูป
|
เสน่ห์เพิ่มขึ้น 7 หน่วย
|
สามารถได้รับทักษะพิเศษมาครอบครอง
|
วีดรับไอเท็มนั้นมาและมุ่งหน้าไปที่โรงหลอมเฮสเทีย
“ฉันต้องรีบทำในทันที”
(เป็นของต้องสาปถือไว้นานไม่ดีมั้งนะ)
เขาวางมือจากการแกะสลักประติมากรรมแล้วมาใช้เวลาวันนี้ทั้งวันภายในโรงหลอมแห่งเฮสเทีย
เขาสามารถแกะสลักอัญมณีให้มีค่ามากขึ้น ส่วนแร่เหล็กแห่งความมืดนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา
“ฉันคงไม่ต้องหักดาบเพิ่มไปอีก”
วีดนำแร่เหล็กแห่งความมืดเข้าไปหลอมในโรงหลอมแห่งเฮสเทีย
จากนั้นก็หล่อเย็นด้วยน้ำและตีมันด้วยค้อน และดาบเล่มใหม่ก็ได้บังเกิด!
ดาบแห่งความมืด
|
ความคงทน:
145/145
|
พลังโจมตี: 96-137
|
ดาบที่ถูกหลอมกักเก็บเอาไว้ด้วยคำสาปที่หายากของเนโครแมนเซอร์
มันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอันเดดและผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
ดาบมีลักษณะภายนอกที่ดูหยาบกร้าน มันคือดาบอันน่ากลัวที่เหมาะสำหรับอันเดด
นี่คือผลงานที่ออกมาจากการช่างตีเหล็กผู้มีพรสวรรค์!
|
ข้อจำกัด: อันเดดอัศวินที่ชั่วร้าย เลเวล 465
|
ไม่ควรมีความดีงามและศรัทธา
|
คุณสมบัติ: ผลจากคุณสมบัติทางความมืดเพิ่มขึ้น 37%
|
ถ้อยเสียงแห่งความเกลียดชังและความพ่ายแพ้จะกักเก็บเอาไว้ให้กับคำสาปของเนโครแมนเซอร์
|
ความแข็งแกร่ง
+12
|
ความว่องไว
+26
|
เมื่อบัญชาการอันเดด
ท่านจะสามารถขยายอำนาจของท่านเพิ่มขึ้น 13%
|
เวทย์ศักดิ์สิทธิ์จะอ่อนแอลงเนื่องจากเวทย์ปกป้องจากดาบ
|
ทักษะช่างตีเหล็กขั้นกลางของท่านขึ้นเป็นเลเวล
10
แล้ว และเปลี่ยนเป็นขั้นสูงแล้ว
|
ท่านสามารถจัดการกับแร่เหล็กและโลหะได้อย่างยอดเยี่ยม
|
ท่านสามารถเพิ่มสมรรถภาพให้กับดาบและเกราะได้
จำเป็นต้องใช้วัสดุพิเศษในขั้นตอนนี้
|
ค่าความเป็นมิตรของท่านกับเหล่าคนแคระเพิ่มสูงขึ้น
พวกเขาจะเคารพท่านในฐานะสหายของเผ่าพันธุ์
|
ประสิทธิภาพของการควบคุมไฟจากเตาหลอมเพิ่มมากขึ้น
31%
|
ท่านสามารถก่อเปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงได้แล้ว
|
อัตราการใช้กำลังกายลดลงครึ่งหนึ่งในตอนที่ใช้ค้อน
|
ข้อจำกัดในการสวมใส่ไอเท็มแต่ละชิ้นลดลง
4%
|
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น
20
หน่วย
|
ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น
130
หน่วยจากการสร้างอาวุธพิเศษของอันเดด
|
ทักษะช่างตีเหล็กขั้นกลางของเขาเพิ่มขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นขั้นสูงในทันทีที่เขาสร้างดาบแห่งความมืดเสร็จสมบูรณ์
ความพยายามอันเต็มที่ของเขาได้ทดแทนเขาในที่สุด
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเขาที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างเกราะอัศวินแห่งองค์เทพีก็ช่วยเขาได้อย่างมากเช่นกัน
“ช่วงเวลาที่ฉันเฝ้ารอในที่สุดมันก็มาถึง”
วีดทำการปรับปรุงให้กับอุปกรณ์ทุกชิ้นของเขา
ดาบแดม่อนก็มีสมรรถภาพเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย
ส่วนเกราะอัศวินแห่งองค์เทพีนั้นยังคงเหมือนเดิม
เพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันให้กับมิธริลอีกนิดนึง
เขาจึงสลักลวดลายที่ดูซับซ้อนลงไปเพื่อใช้ในการหยุดการโจมตีของศัตรู
มันคงเป็นไปไม่ได้เมื่อเทียบกับการทำมันด้วยทักษะช่างเหล็กขั้นสูง แต่ถึงยังไงมันก็ดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย
ความจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างอุปกรณ์ดีๆให้ได้ทุกครั้งที่ทักษะของเขาเพิ่มขึ้น
“ดาบแห่งความมืดนี่ก็ไม่เลวนะ”
ธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ทำนั้นก็คือพวกมันทั้งแข็งและหนักกว่าดาบสำเร็จรูป
แถมพลังในการโจมตีนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว
จากนั้นเขาก็เอามีดแกะสลักของเขาออกมาและเริ่มจัดการกับอัญมณี
อาชีพหลักของเขาก็คือประติมากร ดังนั้นการแกะสลักจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าการทำดาบมาก
มันกลายเป็นอัญมณีสีแดงแวววาวที่ดึงดูดใจอย่างมาก! มันคืออัญมณีที่บันทึกประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลเอาไว้เพราะว่ามันคือสิ่งที่สร้างความหายนะ
“สถานะโชคนั้นสำคัญแต่……ก็นะ เรื่องร้ายๆมันเลี่ยงไม่ได้นิ” (อาจจะคิดถึงตอนสู้กับบาร์ดเรย์)
วีดหยิบอัญมณีที่แกะสลักแล้วขึ้นมาและใส่เข้าไปในแหวนทองคำ
อัญมณีเม็ดนั้นพอดีกับแหวนที่เดิมทีก็ทำมาเพื่อมันอยู่แล้ว
แหวนแวมไพร์อันน่าหลงใหล
:
ความคงทน 27/27
|
แหวนทำขึ้นมาจากอัญมณีสูบโลหิต
|
หากท่านยังสวมแหวนวงนี้อยู่
ค่าพลังชีวิตและกำลังกายจะลดลง ท้ายที่สุดแหวนจะทำให้ท่านเป็นโรคร้ายแรง
|
ช่างตีเหล็กคนหนึ่งที่มีทักษะอันยอดเยี่ยมได้สร้างมันขึ้นมาด้วยเหตุผลบางประการ
จะดีกว่าถ้าหากอยู่ให้ห่างจากมันเพราะมันไม่ควรจะปรากฏขึ้นบนโลกนี้
|
ชนชั้นสูงแห่งรัตติกาลปรารถนาที่จะได้แหวนวงนี้
|
ข้อจำกัด: ไม่มี
|
คุณสมบัติ: ลดพลังชีวิตของผู้สวมใส่
|
กำลังกายอ่อนแรงลง
|
เสน่ห์เพิ่มขึ้น
15%
|
ความสามารถที่จะทำให้ตาพร่ามัวแข็งแกร่งขึ้น
|
ศักยภาพในการดูดเลือดเพิ่มมากขึ้น
|
พลังที่ซ่อนเร้นในแหวนวงนี้จะเปิดเผยออกมาเมื่อดื่มเลือด
|
นี่มันไอเท็มแห่งความโชคร้ายที่แท้จริง! วีดไม่ได้พยายามที่จะลองสวมมัน
“เรียกขาน
เดทไนท์แสนฮอร์ค เรียกขานลอร์ดแวมไพร์โทริ!”
กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นมาและเจ้าเดทไนท์ก็ปรากฏตัว
ผ้าคลุมสีดำก็โบกสะบัดขณะที่ลอร์ดแวมไพร์ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน
“นายท่าน
ครั้งนี้เราจะได้สู้กับผู้ใดหรือ?”
“ศัตรูละ…ข้าอยากจะสู้ ข้าอยากจะดูดเลือด ข้าอยากจะดับกระหายเหลือเกิน”
ความเชื่อมั่นในตัวเองของการอัญเชิญทั้งสองคนออกมาของวีดนั้นได้ถูกสร้างรอยแผลเอาไว้จากการพ่ายแพ้อันแสนเจ็บปวดของพวกเขาให้กับพวกกิลด์เฮอร์มีส
พวกมันยังได้รับผลกระทบจากพลังศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นตอนนี้ร่างกายของพวกมันจึงยังไม่กลับเป็นปกติ
โดยเฉพาะเจ้าเดทไนท์ที่มีเพียงมือเปล่า (เพราะดาบหัก)
และผ้าคลุมที่ขาดวิ่น
“นี่เป็นของขวัญให้กับพวกนาย”
วีดส่งดาบแห่งความมืดให้กับแวนฮอร์ค
และแหวนแวมไพร์อันน่าหลงใหลให้กับโทริ
เขามักจะให้ไอเท็มที่ชำรุดหรือว่าไร้ประโยชน์ให้กับพวกมันอยู่เสมอ
ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่พวกมันได้ไอเท็มอันแสนงดงาม
แวนฮอร์คกับโทริกระโจนถอยออกมา
“ไม่ดีกว่าครับ
ของแบบนั้นไม่จำเป็นหรอก นายท่าน ข้าต่อสู้มือเปล่าก็ได้”
“ข้าไม่ชอบเครื่องประดับน่ะ”
พวกมันทั้งสองลงความเห็นกันว่าวีดต้องมีแผนการอยู่ในใจแน่ๆ
ความสัมพันธ์เจ้านายและทาสอันแปลกประหลาดของพวกมันทำให้พวกมันสงสัยและตั้งคำถามกับทุกสิ่งทุกอย่าง!
“ฉันทำมันขึ้นมาด้วยหัวใจและจิตวิญญาณของฉันเลยนะ
แถมยังทำด้วยวัสดุที่แสนล้ำค่าที่พิเศษสำหรับพวกนายจริงๆ”
หลังจากที่วีดอธิบายเกี่ยวกับอุปกรณ์นั้นออกมา
เจ้าแวนฮอร์คและโทริก็รู้สึกโล่งใจและยอมรับไอเท็มนั้นมา
“พวกนายจะยังยอมเชื่อฟังคำสั่งฉันต่อไปใช่ไหม?”
“ข้าจะติดตามท่านไปครับ”
“ข้าคิดอยู่แล้วว่าท่านจะต้องเป็นเจ้านายที่ดีจริงๆ”
“แน่นอน”
“เจ้านายคนอื่นคงไม่คิดที่จะทำอะไรทำนองนี้แน่ๆ”
“……..”
“พวกวัสดุที่ฉันใช้ทำเจ้านี่……”
“……..”
วีดหน่วงการอัญเชิญของเขาไว้ถึง 3
วัน และให้พวกมันทำงานโดยไม่ให้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย
------จบตอน-------------
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณคับ
ตอบลบคนแรกเลย แฟนพันธ์แท้
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆครับ กดเข้ามาดูวันนี้ก็ 5 ครั้งแล้ว น่าติดตามครับ
ตอบลบขอบคุณคร๊าบบบ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบโคตรมีความสุขที่ได้อ่าน ขอบคุณ.
ตอบลบพอดีเลยใช้งานคุ้ม
ตอบลบขอบคุณมาก
ตอบลบแรงงงานทาสเพิ่มมาอีก 2 คน
ตอบลบแวนฮอร์คและโทริ
3 วัน ทำงานโดยไม่ให้พักผ่อนเลยแม้แต่น้อย
โหดยิ่งกว่าโรงงงานนรก 5555
555 โดน3วันเต็มๆ
ตอบลบได้ดาบกับแหวนใหม่ แลกกับการทำงานโดยไม่พัก 3วันนับว่าคุ้ม.....หรือป่าวนะ
ตอบลบขอบคุณมากๆเลยค่ะที่ช่วยแปลให้อ่าน
ตอบลบว้าว...
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้ออ