เล่ม 28 ตอนที่
11: พิธีราชาภิเษก 30 เหรียญทอง แปลโดย
Cole’s Myth
เมล็ดพันธุ์ไม้และดอกไม้ที่เขาได้มาหยั่งรากลึกลงสู่เมืองโมราต้า
เหล่าสาวกแห่งวิหารเฟรย่าก็ช่วยฟูมฟักพวกมันจนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้และมวลบุพผานานาพันธุ์
บรรดาผู้เล่นก็เก็บเกี่ยวผลไม้เหล่านั้นให้เหล่าพ่อครัวเพื่อสร้างสรรค์ตำรับอาหารใหม่ๆขึ้นมา
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่
หอวิจัย โรงหลอมเฮสเทียเองก็ถูกสร้างขึ้นมาสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว
เหล่าผู้เล่นและทหารต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่ป้อมปราการเวอร์โก้เพื่อขับไล่พวกมอนสเตอร์และรักษาความปลอดภัยเอาไว้
และแล้วในที่สุดวันราชาภิเษกที่วีดตั้งหน้าตั้งตารอก็มาถึง
“ในเมืองมีทหารเยอะแยะไปหมดเลย
นี่มันวันอะไรกันเนี่ย?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ดูเหมือนจะมีคนเยอะมากกว่าปกตินะ”
บรรดาผู้เล่นที่กลับมาจากการออกล่าก็พบว่าบรรกาศภายในเมืองโมราต้านั้นต่างไปจากปกติ
เหล่าทหารและอัศวินยืนเรียงแถวอยู่บนถนนตั้งแต่ประตูเมืองเป็นต้นมา
“เจ้าพึ่งถามว่าวันนี้วันอะไรหรอ? นี่พวกเจ้าไม่รู้หรอว่าวันนี้เป็นวันราชาภิเษกของท่านเจ้าเมือง?”
“งานสำคัญเกิดขึ้น
ณ ดินแดนเหนือ ท่านลอร์ดที่ข้าเคารพกำลังจะขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว”
เหล่าผู้เล่นพึ่งจะทราบข่าวว่ามีงานราชาภิเษกเกิดขึ้นขณะที่เหล่าชาวเมืองกำลังกระจายข่าวอย่างเต็มที่
พวกเขารู้สึกแปลกใจมากที่วีดจะขึ้นเป็นกษัตริย์แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรพร่ำพรือออกมา
เมืองโมราต้าเติบโตและแผ่ขยายอย่างรวดเร็วเพราะว่าวีด
“ว่าแต่เขาจัดงานกันที่ไหนหรอ?”
“จัตุรัสปิงหลงหรือว่าจัตุรัสไวเวิร์นนี่แหละ?”
“ตั้งแต่จัตุรัสกลางไปหรอ?”
“ไม่เห็นมีไรเลยนิ?”
“ถ้างั้นก็คงอยู่แค่ตรงหน้ารูปสลักองค์เทพีนั่นแหละมั้ง?”
เหล่าผู้เล่นในโมราต้าต้องการเข้าร่วมงานราชาภิเษก
ปกติการจัดงานระดับเมืองเช่นนี้จะต้องเตรียมการกันแต่เนิ่นๆ
โมราต้าเป็นเมืองที่ดีมีการพัฒนาที่สูงมาก
ดังนั้นจึงมีจัตุรัสและสวนสาธารณะอยู่เป็นจำนวนมากเหมาะที่จะจัดงานพิธีสำคัญใหญ่โต
“นายรู้หรือเปล่าว่างานราชาภิเษกจัดที่ไหน?”
“ฉันไม่รู้”
บรรดาสมาชิกลัทธิโจ๊กหญ้าออกตามหางานราชาภิเษกจนทั่ว
แต่พวกเขาก็ยังไม่พบสถานที่ที่แน่ชัด
เหล่าผู้เล่นในเมืองโมราต่างรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก พวกเขาอยากจะรู้ว่างานราชาภิเษกของวีดจัดขึ้นที่ไหน
พวกเขาจะได้ไปเข้าร่วมได้ทัน! ตอนนั้นเองพระอาทิตย์ก็โผล่พ้นขอบฟ้า เหล่าทหารและอัศวินเองก็เตรียมตัวไปยังจัตุรัสกลาง
“งานราชาภิเษกจัดขึ้นที่จัตุรัสกลางล่ะ”
“ไปเร็วเข้า!”
เหล่าชาวเมืองและผู้เล่นมารวมตัวกันที่จัตุรัสกลางแล้วมากมายจนทำให้มีคนมาเข้าร่วมงานหลายพันคน
เพื่อนๆของวีดเองก็อยู่ไม่ว่าจะเป็นเพลหรือคนอื่นๆต่างก็มาเข้าร่วมพิธีราชาภิเษกครั้งนี้ด้วย
ตรงจัตุรัสกลางมีโต๊ะไม้ตั้งอยู่พร้อมด้วยมงกุฎทองและน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว
“อย่าบอกนะว่า……”
“แค่นั้นหรอ…….”
“นี่มันไม่ต่างไปจากที่ฉันคิดไปหน่อยหรอ?”
หลังจากนั้นซักพัก
วีดก็ถูกคุ้มกันเข้ามาโดยเหล่าอัศวิน
เขาสวมใส่ชุดเกราะอัศวินแห่งเทพีที่พึ่งสร้างเสร็จหมาดๆพร้อมกับผ้าคลุมไหล่อันน่าตื่นตาตื่นใจ
เหล่าผู้เชี่ยวชาญภายในเมืองหลากสายอาชีพเตรียมงานพิธีราชาภิเษกเพื่อเฉลิมฉลองให้แด่ลอร์ดชองพวกเขา
ช่างตัดเสื้อที่เก่งที่สุดของโมราต้าตัดเย็บผ้าคลุมให้เขา
วีดปรากฏตัวพร้อมกับขี่ม้าสีขาวงามสง่าที่มีอัศวิน 30 นายคุ้มกันมาพร้อม!
จากนั้นวีดก็ลงมายืนอยู่ตรงหน้าน้ำพุ สีแดงแจ๋ที่เปื้อนบนใบหน้าของเขานั้นไม่ได้เกิดจากความตื่นเต้น
แม้ว่าเงินทุนในการจัดงานราชาภิเษกจะมีถึง 30 เหรียญทอง
แต่มันก็ค่อนข้างน่าขายหน้าในตอนที่ต้องมายืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้
‘ฉันควรใช้เงินซัก
40
เหรียญทองดีกว่าไหมนะ?’
วีดเดินไปอย่างเงียบเชียบไม่พูดไม่จาแล้วหยุดยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้
อัลเวรอน ว่าที่สันตะปาปาแห่งวิหารเฟรย่าเองก็กำลังยืนอยู่ตรงนั้นด้วย อัลเวรอนโค้งให้เขาอย่างเคารพและเอ่ยขึ้นมาว่า
“ไม่เจอกันนานนะครับ”
อัลเวรอนเติบโตขึ้นจากเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก
ตอนนี้เขาสูงขึ้นและหล่อเหลา แม้แต่พวกนักแสดงยังต้องอิจฉา
ไม่มีริ้วรอยใดๆปราฏกบนผิวอันเรียบเนียนนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อก่อนเขาเคยร่วมเดินทางไปกับวีด
ทว่าตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวิหารเฟรย่า เขาดูแลจัดการเรื่องวิหารและการเผยแพร่ศาสนาในดินแดนทางเหนือ!
วีดพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำจนคนอื่นๆก็ไม่ได้ยิน
“ดีใจที่ได้พบเจ้าเช่นกัน เจ้าคงไม่ต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากอะไรหรอกใช่ไหม?”
“ต้องของคุณความเอื้อเฟื้อของท่านวีดที่ช่วยรักษาสงบสุขของทวีปแห่งนี้…”
“ก็นะ
ฉันก็ผ่านอะไรมาเยอะ ว่าแต่อัลเวรอน นายเลเวลเท่าไรแล้วล่ะ?”
เมื่อก่อนเขารู้สึกหดหู่กับเลเวลที่สูงของอัลเวรอนมาก
พวกเขาฆ่าแวมไพร์มาด้วยกันแต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกอิจฉาตาร้อน
“ข้ารู้สึกละอายใจนักเพราะว่าข้ายังรับใช้องค์เทพีไม่ได้ดีมากนัก
ข้าเลเวลแค่ 553
เองครับ”
“อึก!”
“อึก!”
มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเพิ่มเลเวลให้กับอาชีพสายนักบวช
พวกเขาต้องเกาะกลุ่มออกไปล่าเป็นปาร์ตี้และต้องคอยดูคนอื่นๆอยู่เสมอ
ทว่าความสามารถและทักษะอวยพรของพวกเขาสูงมากจนสายอาชีพอื่นเทียบไม่ติดเลย จากเลเวลของอัลเวรอนหมายความว่าเขาต้องสร้าง’ปาฏิหารย์’ ได้อยู่ทุกๆวันหรือไม่ก็ใช้การอวยพรให้กับพวกมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมามากมาย
วีดต้องเก็บความอิจฉาที่มีต่ออัลเวรอนของเขาให้ลึกลงไป
“อัลเวรอน
ช่วงเวลาที่เราได้ออกล่าร่วมกันยังคงเป็นความทรงจำที่มีค่าสำหรับข้ามาก”
“ข้าก็เช่นกันครับ”
“ในภายภาคหน้าข้าก็ยังอยากจะเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้านะ”
“ข้าทราบครับ”
จากนั้นอัลเวรอนก็เริ่มทำพิธี
การเดินสวนสนามของเหล่าทหารและอัศวินและการแสดงเพื่อสรรเสริญองค์กษัตริย์ถูกยกเลิก
วีดคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลา พวกทหารและอัศวินเองก็มีค่าใช้จ่ายดำเนินการภายในที่แสนแพงอยู่แล้ว
เขาจึงอยากจะให้พวกเขาออกไปกำจัดมอนสเตอร์ใกล้ๆเมืองแถวนี้มากกว่า
“ในนามของวิหารเฟรย่า วิหารลูห์ และอีกศาสนจักรทั้งสี่แห่งทวีปเวอร์เซล
ขอสรรเสริญอวยพรแด่การกำเนิดของราชอาณาจักรอาเพนของท่านวีด”
ท่านได้รับการรับรองตำแหน่งจากบรรดาศาสนจักร
|
ค่าศรัทธาเพิ่มขึ้น
25
หน่วย
|
ค่าเกียรติยศเพิ่มขึ้น
17
หน่วย
|
โชคเพิ่มขึ้น
10
หน่วย
|
ค่าความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น
10
หน่วย
|
ท่านได้รับการรับรองในฐานะกษัตริย์จากเหล่าเทพ
|
จะมีพิธีทางศาสนาระดับสูงมากมายเกิดขึ้นภายในราชอาณาจักรของท่าน
|
ความจงรักภักดีของเหล่าชาวเมืองจะไม่ลดลง
|
บรรดาศาสนจักรภายในราชอาณาจักรจะให้ความช่วยเหลือทางภารกิจและงานที่เกี่ยวกับทางการทหาร
|
อัลเวรอนสวมมงกุฎทองไว้บนหัวของวีด
มันเป็นมงกุฎราคาถูกที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์เพียง 7 แต้มเท่านั้น
แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ใส่มันไปต่อสู้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงจะทิ้งมันไว้ที่ปราสาท
“ขอให้ฝ่าพระบาททรงตรัสอะไรซักหน่อยนะพะยะค่ะ”
อัลเวรอนได้ดำเนินพิธีมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของงานราชาภิเษกแล้ว
ถึงเวลาของราชดำรัสขององค์กษัตริย์!
วีดดำรงตำแหน่งในฐานะกษัตริย์อย่างเป็นทางการและกำลังจะกล่าวคำปราศรัยแด่พลเมืองและเหล่าผู้เล่นเป็นครั้งแรก
“อะฮึ่ม ฮึ่ม”
จากนั้นวีดก็ขึ้นไปบนแท่นและมองไปทางผู้คน
มีผู้เล่นจำนวนมากมารวมตัวกันที่จัตุรัสกลาง
ไม่มีพื้นที่ว่างภายในจัตุรัสเลยซักนิดแถมตามท้องถนนยังแออัดคับคั่งไปด้วยผู้คนนับร้อยนับพันคน
“ข้าจะกล่าวในฐานะกษัตริย์”
ทักษะราชสีห์คำรามถูกใช้แล้ว
|
“โอ้โหหหหห!”
“ท่านวีดกำลังพูดล่ะ!”
องค์กษัตริย์ได้รับความรักมากมายเหลือล้นจากฝูงชน
จัตุรัสที่เสียงดังอึกทึกครึกโครมเงียบลงทันทีที่วีดเริ่มพูด
ผู้คนต่างคาดหวังที่จะได้เห็นพิธีราชาภิเษกที่อลังการดังนั้นพวกเขาถึงรู้สึกผิดหวังที่มันกำลังจะจบลงง่ายๆแบบนี้
ทว่าพวกเขาก็มองดูอย่างเงียบเชียบเพื่อที่จะได้ยินคำกล่าวปราศรัยขององค์กษัตริย์วีด
“ราชอาณาจักรอาเพ่นจะยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆในภายภาคหน้าร่วมกับพวกเจ้า
จะมีอาคารพาณิชย์ถูกสร้างเพิ่มมากยิ่งขึ้น การค้าขายก็จะขยายเติบโตมากขึ้น
ภารกิจก็จะมีให้ทำมากขึ้น ที่แห่งนี้จะกลายเป็นทรวงสวรรค์ของผู้คนที่อยู่อาศัย”
มันสำคัญมากสำหรับผู้นำที่จะให้ความหวังแก่ราษฎรด้วยถ้อยคำแห่งความเชื่อมั่น
แน่นอนว่าความคิดภายในใจของวีดนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง
‘ฉันจะขูดรีดเอาภาษีจากทุกๆคนในอาเพนมาให้หมด!’
“มีภยันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่งเมื่อพวกเราออกประตูเมืองไป
ทว่าเราจะเอาชนะอันตรายเหล่านั้นได้ มันจะเกิดขึ้นได้ถ้าเรามีความกล้าหาญ”
‘พวกเขาต้องออกจากประตูเมืองไปเล่นเกมล่าบ้าง
ถึงแม้ว่ามันจะหมายถึงความตายก็เถอะ’
“ออกไปสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล
ออกไปผจญภัย ไปสู้ ไปขุดแร่ และออกไปเก็บเกี่ยวพืชผล แล้วราชอาณาจักรอาเพ่นจะเป็นบ้านให้พวกเจ้าได้พักพิง”
‘ยินดีต้อนรับสู่การจ่ายภาษีนะจ๊ะ’
วีดได้รับความเคารพจากเหล่าผู้เล่นในฐานะเจ้าเมืองแห่งโมราต้า
บรรดาผู้เล่นที่อยู่ทางตอนกลาง ตะวันออก ตะวันตก
และทางตอนใต้ของทวีปเองก็ยกย่องชื่นชมในการครองราชย์ของวีด เหล่าผู้เล่นจดจ่ออยู่กับถ้อยคำของวีดและส่งเสียงป่าวร้องด้วยความสุขสันต์ดังสนั่นไปทั่ว
“ตอนนี้ขอให้ทุกๆคนจงหลับตาลง”
ผู้เล่นส่วนใหญ่ทำตามคำสั่งพูดของวีดและปิดตาลง
พวกเขาเตรียมตัวสำหรับงานเซอร์ไพร์ต่างๆที่อาจจะตามมา พวกเขาต่างให้ความคาดหวังอย่างมากเพราะว่าพิธีราชาภิเษกนี้ดูธรรมดาจนเกินไป
แน่นอนว่าวีดไม่ได้เตรียมอะไรทำนองนั้นเอาไว้เลยซักนิด
เขาไม่ต้องการที่จะใช้เงินไปกับอะไรแบบนี้
“พวกเจ้าจงหลับตาและนึกถึง
ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์เดินเตร็ดเตร่อยู่เต็มไปหมด…..”
ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีเพียงแค่เหล่าผู้เล่นที่กำลังจินตนาการวาดฝันกันอยู่
เป้าหมายภายในความฝันนั้นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเลเวลและประสบการณ์ของพวกเขา
โคบอลด์และกอบลิ้นที่เป็นภัยอย่างยิ่งกับเหล่าผู้เล่นใหม่ที่กำลังจินตนาการถึง
ส่วนคนอื่นๆก็จินตนาการถึงมอนสเตอร์นานาชนิดอย่าง อันเดด โทรล ลิซาร์ดแมน ส่วนทางพวกผู้เล่นเลเวลสูงๆก็จินตนาการถึงมอนสเตอร์ที่อันตรายไม่มีใครทัดทานได้
และไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์เลเวลเท่าไรแบบไหน ล้วนแล้วแต่เป็นมอนสเตอร์ที่พวกเขาเห็นผ่านทางอินเตอร์เนทหรือว่าการออกอากาศเท่านั้นที่แล่นอยู่ในหัวของพวกเขา
ผู้คนที่ชื่นชอบในการผจญภัยของวีดก็จะเห็นช่วงเวลาที่เขาต่อสู้กับพวกอัศวินโครงกระดูกหรือว่ามังกรที่อยู่ในหุบเขาแห่งความตาย
ช่วงเวลาที่เขากลายร่างเป็นออร์คราริชวิและบัญชาการเหล่าดาร์คเอลฟ์และออร์คไปต่อสู้กับกองทัพอันเดดที่กลายเป็นตำนาน!
‘ถ้าฉันเป็นตัวละครตัวนั้นละก็………’
พวกเขาต่างหวาดกลัวในพวกมอนสเตอร์แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน
หัวใจของพวกเขาเต้นระรัวและสั่นไหวพลางตกลงสู่ห้วงความคิดจากการผจญภัยครั้งนั้น
“และจงฟังด้วยหูของตัวเอง
เสียงหายใจที่รุนแรง เสียงกู้ร้องที่บ้าคลั่งของพวกมอนสเตอร์….แล้วตอนนี้ก็ลืมตาขึ้น พวกเจ้าอยากไปที่แห่งนั้นหรือไม่?”
“อยาก!”
“ข้าอยากไป!”
รอยยิ้มที่สบายใจก่อตัวอยู่บนใบหน้าของวีด
เขารู้จักที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อหลอกล่อด้วยการใช้อารมณ์ของพวกเขาสร้างพีระมิดแห่งความฝันขึ้นมา
“อนาคตของราชอาณาจักรอาเพนอันแสนสดใส
ภายในดินแดนเหนือแห่งนี้ มีมอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาแผ่ขยายออกไปมากมาย
จึงเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งที่มิอาจรู้ได้”
ในความเป็นจริง
ปัจจุบันนี้มีมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมากมายอยู่ทางตอนเหนือ
ยิ่งสภาพอากาศอบอุ่นมากขึ้น การเติบโตของพืชผลก็ดีขึ้น
พวกมอนสเตอร์เองก็เพิ่มจำนวนขึ้นตามธรรมชาติ
“พวกเจ้าจะเดินไปบนดินแดนที่อันตรายและต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์
หากพวกเจ้าชนะและกลับมาที่อาณาจักอาเพนพร้อมกับไอเท็มที่ลูทได้
เจ้าก็อาจจะกลายเป็นวีรบุรุษได้เช่นกัน นี่แหละคือหัวใจหลักของราชอาณาจักรอาเพน!”
วีดตะเบ่งเสียงร้องดังกึกก้องไปทั่วทั้งจัตุรัสด้วยทักษะราชสีห์คำราม
“พวกเจ้าเชื่อหรือไม่?”
“ข้าเชื่อ!”
“เจ้าจะเป็นชาวเมืองแห่งราชอาณาจักรอาเพ่นหรือไม่?”
“ข้าจะเป็น!”
ฝูงชนตอบกลับไปเป็นเสียงเดียวกัน
ฉะนั้นแล้วพิธีราชาภิเษกก็จบลงด้วยถ้อยคำสร้างแรงบัลดานใจวาดฝันให้กับเหล่าชาวเมืองและผู้เล่นทั้งมวล
วีดพึ่งแสดงความสามารถในการเจรจาที่เหนือชั้นเสียยิ่งกว่าเจ้าลัทธิศาสนาจอมหลอกลวงเสียอีก!
จากนั้นหน้าต่างข้อความก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าเหล่าผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่บนทวีปเวอร์เซล
ราชอาณาจักรอาเพ่นได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาแล้ว
|
กษัตริย์วีดได้สร้างราชอาณาจักรขนาดเล็กที่มีโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้เป็นอาณาเขต
|
ที่นี่คือศูนย์กลางทางการค้าของทางตอนเหนือที่เป็นผู้นำทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม
มันคือราชอาณาจักรที่มีอาวุธและเสื้อผ้ามีคุณภาพอยู่เป็นจำนวนมาก
และยังเป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายทางอาชีพอีกด้วย
|
มีจำนวนชาวเมืองอยู่มากมายมหาศาลที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความสามารถ
|
เพราะว่ามีการเก็บเกี่ยวที่ได้มาจากผืนดินอันอุดมสมบูรณ์
อัตราการเกิดจึงเพิ่มสูงขึ้น
|
เหล่าเอลลิออนเองก็ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ราชอาณาจักรอาเพ่นสถานที่ที่เป็นสนามเด็กเล่นใหม่ของพวกเขา
ผลไม้และธัญพืชที่เต็มไปด้วยโภชนาการจะเติบโตขึ้นมาอย่างอุดมสมบูรณ์
|
ความสนใจของเหล่าเอลฟ์เพิ่มมากขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานของเหล่าเอลลิออน
|
การสนับสนุนจากเหล่าชาวเมืองที่เสนอให้กับกษัตริย์จะมีให้อย่างเต็มที่
พวกเขาจะรวมเป็นหนึ่งเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับภัยคุกคามใดๆที่ย่างกรายเข้ามา
เหล่าชาวเมืองจะฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามต่างๆมากมายที่เข้ามาด้วยทัศนคติที่มองโลกในแง่ดี
|
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เหล่าชาวเมืองร่วมกันสร้างขึ้นมาจะกลายเป็นแสงสว่างอันโชติช่วงบ่งบอกถึงการกำเนิดของราชอาณาจักรอาเพน
|
ชื่อเสียงของเมืองโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้เพิ่มขึ้น
|
ท่านจะมีอิทธิพลอำนาจทางการเมืองบริเวณดินแดนใกล้เคียงที่ยังไม่ได้เป็นอาณาเขตของราชอาณาจักร
|
เกิดเหตุจลาจลเล็กๆขึ้นภายในปราสาทเว้นท์
|
★★★★★★★★★★★★★★
ปาร์ตี้ของบาร์ทกลับมาจากการล่าจนมาถึงเมืองโมราต้าช้าเกินไป
ท้องถนนของเมืองโมราต้านั้นโล่งจนรถลากและม้าสามารถวิ่งไปมาได้อย่างคล่องตัว
แต่ก็ยังมีผู้คนกลุ่มใหญ่เกาะกลุ่มกันเพราะพิธีราชาภิเษกของวีด
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเข้าไปยังด้านในของจัตุรัสกลางได้ แล้วบาร์ทก็พูดกับปาร์ตี้ของเขาว่า
“โห เทพสงครามวีดเป็นคนดังอย่างที่คิดจริงๆ
ดูผู้คนที่มารวมตัวกันที่นี่สิ”
“นี่เป็นครั้งแรกบนทวีปนี้ใช่ไหมที่ราชอาณาจักรถูกก่อตั้งขึ้นมา?”
“เหตุผลก็คงเป็นเพราะว่านี่เป็นราชอาณาจักรของท่านวีด
เขาฟื้นฟูหมู่บ้านขึ้นมาด้วยตัวคนเดียวและพยายามรวบรวมผู้คนทั้งหมดให้มาอยู่ร่วมกันจนกลายเป็นราชอาณาจักร…..”
นี่เป็นอีกครั้งที่บาร์ทรู้สึกทึ่งในตัววีดหลังจากที่ได้ยินคำพูดจากปากของสมาชิกในปาร์ตี้ของเขา
เขาเข้าใจแล้วว่าวีดเป็นคนที่โด่งดังมากและทุกๆคนก็ต่างชื่นชอบในการผจญภัยของเขา
แล้วเขาก็มีอำนาจสูงสุดอีกด้วย
“ว่าแต่
เราควรไปเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าดีไหม?”
“พวกเขารับคนที่มีเลเวล
25
ด้วยหรือ?”
“ถ้าเราเป็นชาวเมืองโมราต้าพวกเขาก็ยินดีรับเรา
แล้วคุณลุงบาร์ทล่ะครับ จะเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าด้วยกันไหม?”
แน่นอนว่าบาร์ทเองก็อยากจะเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าด้วย
พวกเขาคือองค์กรที่มีกองกำลังมากที่สุด
ถ้าเขาเข้าร่วมในลัทธิโจ๊กหญ้าการผจญภัยในแดนเหนือก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
★★★★★★★★★★★
ขณะเดียวกันการแข่งขันเพื่อกลายเป็นปรมาจารย์สายอาชีพก็กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดบนทวีปเวอร์เซล
เมื่อชื่อและตำแหน่งของผู้เล่นที่พยายามจะกลายเป็นปรมาจารย์สายอาชีพถูกเปิดเผยออกมา
การพยายามลอบฆ่าและอุปสรรคต่างๆนานาก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน
ทางสถานีออกอากาศเองก็สร้างความตื่นเต้นให้กับการต่อสู้เพื่อทำให้มันเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดเผ็ดร้อนมากยิ่งขึ้น!
อาจารย์นักดาบหาวปากกว้างขณะที่เขาพูดกับเหล่าลูกศิษย์ของเขา
“ชัยชนะนี่น่าเบื่อชะมัด”
“ข้าเข้าใจครับ
ท่านอาจารย์”
ตอนนี้พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะเพลงดาบประกายแสงแล้ว
การออกล่ารอบๆป้อมปราการเวอร์โก้จึงเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
“การเพิ่มขึ้นของค่าความเชี่ยวชาญทักษะผู้ชำนาญศาตราวุธนั้นขึ้นง่ายกว่าเดิมมาก”
“ผมก็เหมือนกันครับ
ท่านอาจารย์!”
ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่พวกเขาเพียงแค่เหวี่ยงดาบอย่างบ้าคลั่งขณะที่ออกไปต่อสู้
นอกจากพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะป้องกันตัวแล้ว
พวกเขาก็ใช้แต่พลังกายล้วนๆอีกด้วย นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่ได้มีมานามากพอที่จะใช้ทักษะของพวกเขานั่นเอง!
ตอนนี้พวกเขาได้มองไปที่ผลงานที่อยู่ในศูนย์ศิลปะของโมราต้า
มันจึงช่วยเพิ่มแต้มสถานะค่าความฉลาดและสติปัญญาของพวกเขาทุกครั้ง
จนทำให้พวกเขาเลเวลเพิ่มมากขึ้น ผลจากที่มานาของพวกเขาเพิ่มมากพอที่พวกเขาจะสามารถใช้เทคนิคดาบลับได้เพียงสองสามครั้ง
มันก็เหมือนกับการสีแท่งไม้สองอันเพื่อทำให้เกิดประกายไฟเพื่อใช้ในการก่อกองไฟ!
“ทีนี้แหละ
การต่อสู้ก็จะไม่ง่ายดายเหมือนแต่ก่อนแล้ว”
“ครับ
ท่านอาจารย์”
นักดาบ
นักดาบ2
นักดาบ3 กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มีมอนสเตอร์
50 ตัวรวมกลุ่มกันอยู่
ก่อนหน้านี้พวกเขาพึ่งฆ่ามอนสเตอร์ตายไป
120
ตัว ก่อนที่ร่างกายของพวกเขาจะเมื่อยล้า
พวกเขาพักอยู่ครู่หนึ่งและใช้ผ้าพันแผลสมานแผลตามร่างกายแต่ก็ไม่ค่อยได้ผลดีนัก
พวกเขาอาจจะต่อสู้ได้เหมือนเบอร์เซิร์กเกอร์
แต่พวกเขาก็ยังต้องจัดการกับพลังการฟื้นตัวและกำลังกายของพวกเขา ระหว่างการต่อสู้พวกเขาก็จะฉีกกินซี่โครงเนื้อย่างไปด้วย!
“เด็กๆรีบเรียนทักษะนี่ให้ไวเลย
เมื่อทุกๆคนมีระดับเลเวล 8
ถึง 10 แล้วเราก็จะออกไปทำภารกิจกัน”
“รับทราบครับ
นักดาบ5จะไปเรียนก่อนจากนั้นคนอื่นๆก็จะตามไปครับ”
ตอนนี้นักดาบ5ถึงมีทักษะผู้ชำนาญศาตราขั้นสูงเลเวล 8แล้ว
เขาจึงตัดสินใจที่จะไปทำภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพก่อน
มันเป็นการตัดสินใจเพื่อเป็นการทดสอบและลดข้อผิดพลาดต่างๆให้กับนักดาบคนอื่น
★★★★★★★★★★★★★★
นักดาบ5พบกับคนเถื่อน แฮนสันและได้พูดคุยกัน
เขาไปพบคนเถื่อนก่อนเพื่อที่จะรับภารกิจผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้
“มันก็เกือบ 10
ปีมาแล้ว ที่ข้าได้พบกับนักรบผู้แข็งแกร่ง”
“ข้าต้องไปฆ่าเขาหรือ?”
“เขาใช้อาวุธต่างๆนานาได้เก่งกาจมาก”
“เขาใช้อาวุธต่างๆนานาได้เก่งกาจมาก”
“ฆ่าเลยไหม?
หรือว่าไปกระชากคอมันมา?”
“เบริทันจากรังของมันไปแล้ว…..ชาวบ้านที่เข้าไปที่รังของเจ้าเบริทันก็เห็นเพียงแต่ซากศพของพวกมอนสเตอร์ที่เหลือเอาไว้ ตอนนี้พวกมอนสเตอร์ก็เริ่มไปรวมฝูงกันที่รังของเจ้าเบริทันแล้ว”
“เบริทันจากรังของมันไปแล้ว…..ชาวบ้านที่เข้าไปที่รังของเจ้าเบริทันก็เห็นเพียงแต่ซากศพของพวกมอนสเตอร์ที่เหลือเอาไว้ ตอนนี้พวกมอนสเตอร์ก็เริ่มไปรวมฝูงกันที่รังของเจ้าเบริทันแล้ว”
“ข้าจะฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างเลย”
“ได้โปรดกำราบมอนสเตอร์เหล่านั้นและตามหาร่องรอยของนักรบผู้แข่งแกร่งที่ทิ้งซากศพเหล่านั้นเอาไว้”
“ได้โปรดกำราบมอนสเตอร์เหล่านั้นและตามหาร่องรอยของนักรบผู้แข่งแกร่งที่ทิ้งซากศพเหล่านั้นเอาไว้”
ภารกิจเฉพาะอาชีพนั้นน่าตื่นตาตื่นใจกว่าที่นักดาบ5คิดไว้มากนัก มีผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ผู้เก่งกาจคนหนึ่ง คำขอร้องครั้งนั้นก็คือให้ตามรอยของเขาไปและต่อสู้กับเขา
“ในท้ายที่สุด
ข้าจะต้องฆ่าเจ้านั่นให้ได้!”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดเห็นหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาหลังจากที่เขากลายเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอาเพน
กษัตริย์มีอำนาจที่จะสั่งการชาวเมืองได้ตามพระประสงค์
|
เหล่าชาวเมืองจะไม่สามารถปฏิเสธคำบัญชาของกษัตริย์ได้หากพวกเขาไม่อยากตาย
|
แต่ถึงกระนั้น
หากเป็นคำบัญชาที่ไม่มีทางเป็นไปได้ความจงรักภักดีก็จะตกลง
และกองกำลังต่อต้านก็จะถูกก่อตั้งขึ้นมา
|
ท่านสามารถแต่งตั้งชนชั้นสูงได้
เหล่าชนชั้นสูงที่จะตั้งขึ้นมาเพื่อมีหน้าที่จ่ายภาษีและผลกำไรภายในพื้นที่ของพวกเขา
|
อัศวินองครักษ์สามารถก่อตั้งขึ้นมาได้
|
ท่านสามารถเลือกศาสนาประจำอาณาจักรได้
ชาวเมืองมากมายนั้นเชื่อในองค์เทพีเฟรย่า
เมื่อใดที่ศาสนาประจำอาณาจักรถูกตั้งขึ้น การเผยแพร่ความรู้ทางศาสนาจะราบรื่นมากยิ่งขึ้นเนื่องจากพรของเทพีแห่งความโชคดี
|
ทว่าก็อาจจะมีการต่อต้านรุนแรงเกิดขึ้นจากศาสนาอื่นๆ
|
การก่อสร้างพระราชวังนั้นสำคัญต่อการบริหารกิจการภายในและการปกครองของอาณาจักร
|
กษัตริย์สามารรถทำให้อำนาจเป็นปึกแผ่นได้
ชื่อเสียง เกียรติยศ และเสน่ห์คือสิ่งที่ดีที่สุดในตอนที่ใช้รับมือกับเหล่าชาวเมือง
ท่านสามารถรับภารกิจใดๆก็ได้หรือว่าสามารถยึดทรัพย์สินใครก็ได้
|
“มีเหตุผลที่เราต้องพยายามรวบรวมอำนาจ”
แม้ว่าพิธีราชาภิเษกจะจบสิ้นลงไปแล้ว
เหล่าผู้เล่นและชาวเมืองก็ยังไม่แยกย้ายไปที่อื่นๆ สายตาของพวกเขายังเปล่งประกายไปด้วยความหวัง
นี่เป็นครั้งแรกที่มีราชอาณาจักรก่อตั้งขึ้นบนทวีปเวอร์เซล
แม้ว่าจะมีการปล่อยเครื่องดื่มออกไปจากโกดังก็ยังดูน่ายินดีอยู่
แต่ว่าเมืองโมราต้าเป็นเมืองที่มั่งคั่งทางการเงินดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังมากกว่านั้น
มันคือวิกฤตการณ์ร้ายแรงของวีด!
ผู้คนยังคงยืนเบียดเสียดอยู่ภายในจัตุรัสกลางและตามท้องถนน
แล้ววีดก็ใช้ทักษะราชสีห์คำรามอีกครั้ง
“โมร้าต้าสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ตั้ง
4 อย่าง”
“เยยยยยยยยยยย้!”
“ฮ่าหหหหหหหหหห!”
เสียงเชียร์ยังคงกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง
“ราชอาณาจักรอาเพนจะกลายเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยม!”
“ชัยโย
กษัตริย์วีด!”
บรรดาผู้เล่นใหม่ที่เริ่มเล่นในโมราต้าก็ส่งเสียงตอบดังขึ้นเรื่อยๆ
มันดังจนผู้เล่นที่นอกกำแพงเมืองโมราต้ายังได้ยิน จากนั้นก็ยิ่งมีคนเชื่อมต่อเกมเข้ามา
เพื่อเข้ามาดูงานราชาภิเษก ตอนนี้มีผู้เล่นมากกว่า 500,000 คนกำลังส่งเสียงเชียร์องค์กษัตริย์วีด!
ไอรีนรู้สึกเป็นห่วงกับสถานการณ์ในตอนนี้
“สถานการณ์เริ่มบานปลายแล้วนะคะ
เขาจะทำยังไงล่ะทีนี้?”
เพลเองก็รู้สึกเป็นกังวลเช่นกัน
แม้ว่าพิธีราชาภิเษกนั้นจะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่สุดท้ายเงินจำนวนมากมายมหาศาลก็คงต้องถูกเอาออกมาใช้อยู่ดี
“ถ้ายังเป็นยังงี้ต่อไปเรื่องคงจะยุ่งยากแน่……”
สถานการณ์ของฝูงชนที่กำลังส่งเสียงดังกึกก้องด้วยความรู้สึกที่ปะทุขณะที่พวกเขากำลังรู้สึกถูกกดดัน!
เซอร์กะและเมแพนเองก็เช่นกัน
“ฉันละเป็นห่วงจริงๆ
เขาจะทำยังไงนะ?”
“ถ้าลองดูจากนิสัยส่วนตัวของวีด
เรื่องใหญ่คงเกิดขึ้นแน่”
สิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลกันอยู่หากแต่ไม่ใช่วีด
มันคือฝูงชนที่กำลังรวมตัวกันที่เมืองโมราต้าต่างหากล่ะ! วีดมีวิธีที่จะใช้ประโยชน์เอาเปรียบจากกลุ่มคนที่มารวมตัวกันที่นี่ได้
ถ้าหากพวกเขารู้สึกหลงกลกับคำหวานๆของเขา หลายสิ่งหลายอย่างก็อาจจะควบคุมไม่ได้แล้ว
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“ขณะที่การค้าขายและกองกำลังทหารของราชอาณาจักรกำลังเติบโตและขยับขยายออกไป
ดินแดนแห่งนี้ก็จะมีความมั่นคง”
“ไชโย
ฝ่าบาท!”
“การดูแลเหล่าช่างตีเหล็กและช่างเสื้อก็จะดีขึ้น
และพวกเขาก็จะมีสมาธิกับการทำงานของพวกเขาได้”
“ฝ่าบาท
ฝ่ายบาท ฝ่าบาท!”
“ข้าขอสัญญาว่าข้าจะทำให้นโยบายสนับสนุนเหล่าศิลปินประสบผลสำเร็จให้จงได้”
“ข้าเชื่อในราชอาณาจักรอาเพน!”
ความสุขของฝูงชนเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด
ตามจริงก็มีคนมากมายที่สงสัยในทัศนคติของวีดแต่ก็เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์
และได้ให้สัญญากับเหล่าผู้คนมากมายหลายกลุ่ม!
วีดไม่มีทางเลือกจึงจำใจต้องพูดอย่างนี้
“ชุมชนทางวัฒนธรรมและศิลปะแห่งโมราต้าก็จะได้รับการพัฒนาต่อไป
โมราต้าจะกลายเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอาเพน!”
“เยยยยยยยยย้!”
เสียงเชียร์องค์กษัตริย์และอาณาจักรอาเพนยังคงดังสนั่นไม่ขาดสาย
เขาสามารถพูดไปเรื่อยๆได้หากมันช่วยบรรเทาอาการคันของฝูงชนเหล่านั้นได้
หรือแม้แต่ยอมไปข่มเหงเจ้าเหลืองก็ยังได้ เขาเป็นคนที่มีนิสัยใจคอของคนลวงโลกเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
และก็รู้วิธีที่จะทำให้ฝูงชนเหล่านั้นคลั่งได้ยังไง!
“หากศิลปะและวัฒนธรรมของเราไม่หยุดที่จะพัฒนา
ราชอาณาจักรอาเพนของเราก็จะรุ่งโรจน์ จำนวนผลงานศิลป์ก็จะเพิ่มมากขึ้น
การแสดงใหม่ๆก็จะมีอยู่เสมอ!”
ถ้อยคำของวีดได้ปลุกเร้าอารมณ์ความคิดที่เห็นพ้องต้องกันของเหล่าผู้เล่นให้ลุกโหม
ผู้เล่นหลายคนเพิ่มค่าสถานะของพวกเขาด้วยการมองดูเหล่าประติมากรรมและจิตรกรรมภายในโมราต้า
แม้ว่าบางสถานะอย่างค่าความกล้าหาญและเสน่ห์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเอาไปใช้ต่อสู้เท่าไรนัก
แต่ค่าสถานะทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นอย่างถาวร ถ้าหากวัฒนธรรมและศิลปะพัฒนาขึ้น
คงจะง่ายที่จะเพิ่มค่าชื่อเสียงของผู้คนและใช้มันเพื่อขอภารกิจจากพวกพ่อค้าได้
“เพราะงั้นข้าจึงอยากจะสร้างประติมากรรมระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เพื่อเฉลิมฉลองวันก่อตั้งของราชอาณาจักรอาเพน และจะให้พวกเจ้าได้เข้าร่วมด้วยหากพวกเจ้าต้องการ!”
กษัตริย์วีดคือประติมากรที่เก่งกาจที่สุดบันทวีปแห่งนี้
ผู้ที่กำลังมอบโอกาสที่จะได้เข้าร่วมการสร้างผลงานร่วมกับเขา!
“ได้โปรดให้ข้าทำด้วยเถอะ!”
“ข้าอยากจะทำด้วย”
เป็นได้ยิ่งกว่าที่ไหนๆ
ที่เหล่าผู้เล่นโมราต้ากลายมาเป็นคนงานอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเคยข้องเกี่ยวกับการก่อสร้างศูนย์ศิลปะและสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆอีกสี่แห่ง
เหล่าผู้เล่นผู้ที่อพยพถิ่นฐานมาจากราชอาณาจักรโรเซนไฮม์เองก็ยังเคยเจอกับการร่วมก่อสร้างพีระมิดอีกด้วยซ้ำ
หากวีดเป่าหูพวกเขาว่าเขาอยากจะสร้างประติมากรรมยักษ์
ฝูงชนก็คงจะน้อมรับพระบัญชาแต่โดยดี แถมเขายังมีกองกำลังสนับสนุนอันน่าเกรงขาม
ลัทธิโจ๊กหญ้าที่มีสมาชิกถึง 3,700,000 คน!
‘ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไป’
ถ้าเทียบสายอาชีพอื่นๆ
ค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักนั้นเพิ่มขึ้นค่อนข้างช้า
ไม่ว่าจะการรวบรวมวัสดุที่ใช้ทำและยังทำงานด้วยมือล้วนๆมันก็จะใช้เวลานานพอดู เขาเคยสร้างประติมากรรมมามากมายตั้งแต่ที่เลื่อนระดับถึงขั้นสูงเลเวล
8
แต่ว่าการเติบโตของค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเขาก็ยังคงช้ามากอยู่ดี
เพื่อที่จะก้าวข้ามมันไปให้ได้
วีดจึงตัดสินใจที่จะไม่สร้างประติมากรรมเพียงลำพังในครั้งนี้
‘ภารกิจปรมาจารย์ของฉันยังเหลืออีกเพียงแค่ไม่กี่ขั้น
ถ้าภารกิจที่เหลือต้องใช้พวกประติมากรรมสลักชีพออกไปสู้ละก็
มันอาจจะจบเร็วกว่าที่เราคิดก็ได้’
หากเขามัวแต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำภารกิจยากๆ
พวกประติมากรรมสลักชีพก็คงแข็งแกร่งขึ้นไปแล้ว
แถมโอกาสที่จะทำภารกิจปรมาจารย์ครั้งนี้ให้สำเร็จก็คงจะเพิ่มขึ้น
เขาควรเร่งมือทำประติมากรรมโดยเร็ว
และเอาเวลามาเพิ่มค่าทักษะของเขาที่จะสามารถช่วยเขาทำภารกิจที่เหลือของเขาได้อย่างรวดเร็ว
นั่นก็คือภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพนั่นเอง!
ชะตาฟ้าลิขิตให้พลิกกลับ ณ ตอนนี้ วีดได้ตั้งเป้าไปที่ขั้นสุดท้ายของภารกิจปรมาจารย์ของเขาแล้ว!
-----ติดตามเล่มต่อไป------
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
สร้างตัวอะไรดี
ตอบลบสนุกมากๆติดตามอยู่นะครับ
ตอบลบจะสร้างอะไร ?? จะสร้างอะไร ??
ตอบลบชาวเมืองจงมาเป็นแรงงานซะ
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสร้างบัลขาลมาซักตัว
ตอบลบและแล้วก้อโดนล่อลวงจนได้ซินะชาวเมือง
ตอบลบ