เล่ม 24 ตอนที่
8: นายเหนือหัวแห่งป้อมปราการเวอร์โก้ แปลโดย Cole’s
Myth
พายุน้ำแข็งที่กักเก็บความหลังเมื่อครั้งในอดีตอันแสนจะหนักอึ้ง! อุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบตกลงอย่างฮวบฮาบ
พวกอันเดดไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้เพราะว่าพวกมันไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเย็น
แต่ทว่าวีดกับเหล่านักดาบสามารถรู้สึกได้ถึงลมเย็นยะเยือกที่ซึมซาบลงสู่ใต้ผิวหนังของพวกเขา
เกล็ดหิมะหนึ่งถึงสองเกล็ดเริ่มลอยละลิ่วหล่นลงมา
ทว่าไม่นานนักสะเก็ดน้ำแข็งเม็ดหนาก็ปะทะเข้าใส่พื้นดินอย่างรุนแรง สะเก็ดน้ำแข็งนับหมื่นปกคลุมไปทั่วทั้งป้อมปราการเวอร์โก้! ก้อนน้ำแข็งบางก้อนใหญ่พอๆกับภูเขาน้ำแข็ง ลมกรดและสายลมอันรุนแรง พัดกรรโชกกวาดไปทั่วทั้งป้อมปราการ
และนี่ก็คือการประเดิมของมหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ท่ามกลางเหล่าอันเดด
พวกโครงกระดูกที่มีค่าความต้านทานต่ำก็จะเป็นพวกแรกที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งแล้วก็เริ่มแข็งตาย
มังกรกระดูกที่กำลังกระพือปีกอยู่บนอากาศก็ถูกพัดไปตามแรงพายุน้ำแข็ง
มันถูกสะเก็ดน้ำแข็งมากมายปะทะใส่จนไม่สามารถควบคุมร่างกายอันใหญ่โตของมันได้
และหมุนคว้างไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง
“โฮกกกกก!”
เยื่อน้ำแข็งหนาเริ่มเกาะคลุมทั่วทั้งตัวของมังกรกระดูกที่กำลังพยายามกระเสือกกระสนบินให้สูงขึ้น
แต่ทันใดนั้นมันก็กระแทกเข้าใส่ป้อมปราการอย่างจัง ทำให้เกิดแรงกระทบอันน่าเหลือเชื่อที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเกิดแผ่นดินไหว! อาคารสิ่งก่อสร้างบางหลังของป้อมปราการที่ถูกบีบอัด ทรุดลงจนแทบจะตั้งไม่อยู่แล้ว
จนกระทั่งบัดนี้ก็ได้พังทลายลงในที่สุด
“โค..โคตรหนาวเลยจริงๆ”
วีดพึ่งได้เห็นป้อมปราการเวอร์โก้กลายเป็นดินแดนน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
เขาได้เปลี่ยนความคิดใหม่เกี่ยวกับพลังทำลายของภัยพิบัติธรรมชาติไปแล้ว
“มันต้องรู้สึกงงจนแข็งตายท่ามกลางการต่อสู้แบบนี้แน่ๆ”
ทันทีหลังจากที่เขาเปิดใช้งานทักษะของเขา
วีดก็สวมเสื้อโค้ทคลุมทั่วทั้งชุดเกราะของเขา
เหล่านักดาบและนักบวชเองก็สวมเสื้อผ้าหนาๆด้วยเช่นกันแล้วก็เข้าไปในตัวอาคารเพื่อหลบสะเก็ดน้ำแข็ง
พวกเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วเพราะว่าวีดบอกพวกเขาว่าเขาอาจจะเรียกพายุน้ำแข็งออกมา
ขณะที่เข้าไปหลบพายุและรับชมฉากเบื้องหน้า
พวกอันเดดที่สวมเสื้อผ้าบอบบางและอุปกรณ์แย่ๆก็ต่างกำลังหลงทางเข้าไปติดพันอยู่ภายในวังวนพายุน้ำแข็ง
พวกมันดูอย่างกับกำลังเปลือยเปล่าอยู่เลย
“ทุกคนซ่อนตัวต่อไปก่อน
อย่าพึ่งออกไปข้างนอกตอนนี้”
“ถ้าค่าพลังชีวิตของใครลดลงอย่างปุบปับแล้วก็กำลังจะตาย
บอกให้ผมรู้ด้วย ผมมีผ้าห่มนวมหนาพิเศษอยู่”
แม้จะอยู่ท่ามกลางเหตุอึกทึกครึกโครมแบบนี้
เหล่านักดาบก็ยังคอยดูแลพวกนักบวช
ระยะเวลาของทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติค่อนข้างนาน ขณะที่พายุน้ำแข็งยังคงถาโถม
วีดก็ออกไปจากที่ซ่อนของเขาขึ้นไปบนหลังคา
“ส..สถานการณ์แบบนี้มัน จ…จริงๆหรอเน…” อึก! “ฉันไม่ยอมจบอย่างนี้หรอก กึก หรือไม่งั้นฉันคงจะรู้สึกทรมาน…ไปชั่ว…ชีวิตของฉันแน่”
ถ้อยคำแต่ละคำเปล่งออกมาอย่างยากลำบากเพราะความหนาวเย็น
วีดที่กำลังหักหลบพายุสะเก็ดน้ำแข็งอันเกรี้ยวกราด
วิ่งมุ่งหน้าไปยังหอคอยกลาง
สะเก็ดน้ำแข็งเฉี่ยวผ่านหน้าผากของท่าน
|
เศษน้ำแข็งปลายแหลมพยายามเจาะทะลุผ่านไหล่ของท่าน
แต่ทักษะศิลปะหลบหลีกได้ถูกใช้งาน
|
สะเก็ดน้ำแข็งได้ฝังลงบนหลังของท่าน
|
น้ำแข็งก้อนหนึ่งถากหัวเข่าของท่าน
ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง
|
แม้ว่าจะมีค่าความว่องไวสูงและทักษะศิลปะการหลบหลีก
มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะหลบห่าสะเก็ดน้ำแข็งได้หมด สำหรับวีดแล้วการวิ่งไปข้างหน้าก็ยากเกินทน ขณะที่ต้องโดนลมพัดสะบัดใส่
จากนั้นก็มี ‘กระซิบ’ จากนักดาบ3ถูกส่งมา
-นายมีแผนอะไรที่จะกำจัดมังกรกระดูกหรือเปล่า?
ขณะที่กำลังก้มหัวหลบลมพายุ
วีดก็ตอบกลับไป ซึ่ง ณ ตอนนี้เขากลัวว่าร่างกายของเขาจะถูกกระแทกใส่โดยลมอันหนาวสะท้านและเศษสะเก็ดน้ำแข็ง
หรือว่าร่างกายเขาแข็งทื่อไป
-มีทางนึง แต่ด้วยสภาพอย่างนี้
ผมคิดว่าผมคงจะล้มเหลวแน่
ถึงแม้ว่าพายุน้ำแข็งจะหยุดไปแล้ว
มันก็คงยากที่จะไปต่อสู้ด้วยร่างกายที่ถูกแช่แข็งอย่างนี้
ถ้าหากยังเป็นแบบนี้อยู่
เขาคงจะไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้ แถมคงหลบซ่อนตัวอีกไม่ได้แน่
-นายกำลังพยายามไปที่หอคอย ใช่ไหม?
-ใช่ครับ นั่นคือแผนเดิม แต่ก็คงยากแล้วตอนนี้
-งั้นไปกันเถอะ
เหล่านักดาบออกมาจากที่ซ่อนตัว
แล้วยกโล่ไม้ของพวกเขาขึ้นมา จากนั้นก็วิ่งตรงไปทางหอคอยกลาง
วีดไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเพราะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้
ขณะที่มุ่งไปข้างหน้า เขารู้สึกว่าถ้าเขาวิ่งออกไปด้วยแรงทั้งหมด
เขาคงโดนสะเก็ดน้ำแข็งกระแทกใส่แน่ แต่เหล่านักดาบก็ยึดโล่ของพวกเขาเอาไว้แน่นแล้ววิ่งออกไปด้วยความเร็วเต็มสูบ
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดน้ำแข็งหรือว่าก้อนน้ำแข็ง พวกเขาก็ยังดั้นด้นวิ่งต่อไป!
เหล่านักดาบไล่ตามวีดทันแล้ว
และก็กำบังเขาเอาไว้ด้วยโล่
“ปะ ไป ให้
เร็วกว่า นี้เถอะ!”
เหล่านักดาบพยุงโล่ของพวกเขาเอาไว้แล้วก็สกัดพายุน้ำแข็งที่อยู่ภายนอก
ด้วยการกำบังนั้น วีดจึงได้รับความเสียหายน้อยลง
ตามสภาพที่เป็นเช่นนี้พวกเขาจึงออกวิ่งไปที่หอคอยกลางได้ ค่าพลังชีวิตของเหล่านักดาบกำลังตกลงไปเรื่อยๆ
พวกเขาบางคนแข็งตายและก็ปล่อยศพคนที่ตายเอาไว้เบื้องหลังตรงที่พวกเขาตายไป
แต่พวกเขาก็ยังคงดั้นด้นถือโล่ถูกๆของพวกเขาจนถึงที่สุด
มันดูราวกับนิทานชาดกของสี่พี่น้องที่ทะลุเขาไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่มีพายุน้ำแข็งหฤโหดยังไงหยั่งงั้น! ต้องขอบคุณพวกเขา วีดจึงสามารถวิ่งผ่านกำแพงป้อมปราการไปได้และกระโดดเข้าไปในหอคอยกลางได้สำเร็จ
สิ่งที่กำลังเฝ้ารอพวกเขาอยู่ภายในหอคอยกลางก็คือมังกรกระดูกตัวสุดท้าย
มังกรตัวนั้นที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับพายุน้ำแข็ง ลอยตัวอยู่ฝั่งตรงข้ามของหอคอยจึงมองไม่เห็นว่าวีดเข้ามาในหอคอยแล้ว
ทันใดนั้นเอง
หน้าต่างข้อความก็เด้งขึ้นมา!
ท่านถูกแช่แข็ง
|
แม้จะได้รับการปกป้องของเหล่านักดาบ
ชุดเกราะและร่างกายของวีดก็ยังมีน้ำแข็งแผ่นหนาเกาะอยู่ดี แถมบาดแผลที่เขาได้รับมา
ยังสาหัสอีกด้วย
แม้ว่าค่าพลังชีวิตจะมีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านักบวชคอยเสริมให้อยู่
แต่ถ้าหากว่าบาดแผลเหล่านั้นไม่ได้รับการรักษาให้หายสนิท
มันก็ยังคงอยู่และส่งผลร้ายต่อเขาอยู่ดี
แต่เพราะค่าความอึดและความยืดหยุ่นของวีดจึงทำให้เขารอดมาได้นานขนาดนี้
ภายนอกหอคอยสายลมที่ทิ่มแทงนั้นพัดเบาลงแล้ว
ส่วนผลกระทบจากพายุน้ำแข็งก็เริ่มซาลงและก็หายไปแล้วด้วย
ไม่นานเหล่าอันเดดก็จะเคลื่อนที่ได้อีกครั้ง
ส่วนมังกรกระดูกอีกตัวที่ถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งก็จะโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง
นักดาบบางคนที่ตายไปก็อาจจะกลายเป็นอันเดดและโจมตีพวกพ้องของเขาด้วยเช่นกัน
มาเรย์มาพร้อมกับเหล่านักบวชพลางบรรเลงเครื่องดนตรีของเขาไปด้วย
เขาได้มาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างนี้แล้วก็เริ่มคิดว่า
“ครั้งนี้แหละ
ตำนานก็จะมาถึงจุดจบแห่งความล้มเหลวแล้ว”
ภาพของวีดและเหล่านักดาบที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหอคอยกลาง
บีบคั้นความรู้สึกของเขาอย่างยิ่ง ถึงกระนั้นแล้ว หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในป้อมปราการเวอร์โก้นี่
ก็ถือว่าเป็นฉากที่น่าทึ่งมากพอแล้ว ถ้าหากไม่ใช่วีดและพวกพ้องของเขาแล้ว
ก็คงไม่มีใครหน้าไหนที่จะสามารถต่อสู้กับกองทัพอมตะและบัลข่านได้อย่างนี้อีกแล้ว
ทว่าโลกของรอยัลโร้ดนั้นคือดินแดนที่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวต่างหากที่สำคัญ
“โชคไม่ดีเลยจริงๆ ถ้าหากพวกเขาฆ่าบัลข่านได้
มันคงเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจน่าดู”
“อา…….”
ทีมงานสถานีออกอากาศ
KMC
media ที่กำลังถ่ายทอดสด ต่างกำลังคร่ำครวญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“จะจบแบบนี้จริงๆเหรอเนี่ย?”
ณ
สถานีออกอากาศต่างๆมากมาย หลังจากที่พายุน้ำแข็งปรากฏออกมา
เหล่าผู้ประกาศข่าวก็ขบริมฝีปากแน่น
ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าพวกเขาจะต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้
เวลาผ่านไปนานมากแล้วตั้งแต่ที่มนุษย์เข้าไปในป้อมปราการเวอร์โก้
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สนหรอกกว่าเวลาจะผ่านไปนานมากแค่ไหน
แต่ถึงกระนั้นสภาพของวีดก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอย่างที่พวกเขาคิด
ภายในมือซ้ายที่กำลังกุม
‘คบเพลิงที่สร้างรำลึกไว้โดยประติมากร’ นั้นกำลังแผ่ออร่าอันอบอุ่นออกมา
|
สถานะแช่แข็งได้บรรเทาลงแล้ว
|
ระดับมานากำลังฟื้นตัว
|
เพราะว่าพายุน้ำแข็งพัดเบาลงแล้ว
วีดจึงได้รับความแข็งแกร่งจากประติมากรรม และด้วยความช่วยเหลือปกป้องจากเหล่านักดาบ
เขาจึงฟื้นตัวมากพอที่จะเคลื่อนไหวต่อไปได้
“กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรซ!”
นั่นคือเสียงคำรามของมังกรกระดูก!
ทักษะดราก้อนเฟียร์สามารถได้ยินมาจนถึงข้างนอกหอคอยกลาง
เหล่านักดาบจำต้องทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อต่อสู้กับมังกรกระดูก
จากทางฝั่งเพล
เขาได้รับทราบสถานการณ์การต่อสู้กับบัลข่าน
-ทางนี้กำลังหนักหนาสาหัสเลยครับ
ขณะที่เราพูดอยู่นี่ ผมไม่คิดว่ามานาของบัลข่านจะลดลงได้เลยครับ แม้ว่าเราจะลดค่าพลังชีวิตเขาไปแล้ว
แต่มันก็ฟื้นคืนมาในไม่ช้า…แต่ว่าเรายังรับมือได้อยู่ครับ
ทางฝั่งที่กำลังต่อสู้กับบัลข่านอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีมากนัก
แม้ว่าจะทะลวงผ่านพายุน้ำแข็งไปแล้ว
เขาก็ยังมีเวลาไม่มากพอที่จะฟื้นค่าพลังชีวิตของเขา แต่เขาก็ยังลากขาที่แทบจะก้าวไม่ออก
เดินขึ้นบันไดภายในหอคอยกลางไปต่อไป
“พวกมนุษย์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง….”
“ข้าจะสังหารพวกแกซะ”
แม้แต่ที่นี่เองก็มีอันเดดเฝ้ายามที่กำลังปกป้องที่แห่งนี้
โดยปกติแล้วแวนดัลไนท์จะเฝ้ายามตรงทางเข้าออก แต่พวกมันถูกเกณฑ์ให้ไปต่อสู้จนหมด
จึงเหลือแค่พวกดูมไนท์ที่กำลังยืนเฝ้ายามอยู่!
วีดเหวี่ยงดาบของเขาใส่พวกมันอย่างว่องไว
ท่านทำการโจมตีได้อย่างแม่นยำ
|
ท่านได้ทำการโจมตีแบบคริติคอล
|
ท่านได้ทำการโจมตีต่อเนื่องสำเร็จ
|
ด้วยความเร็วในการเหวี่ยงดาบอันน่าทึ่งของเขาที่พวกดูมไนท์ไม่อาจตอบโต้ได้
เขาจึงสามารถผ่านพวกมันไปได้และจากนั้นก็ขึ้นไปสู่ยอดหอคอย
ชั้นบนสุดของหอคอยกลางมีพื้นที่กว้างขวางมาก
เมื่อมองผ่านหน้าต่างที่แตกออกด้วยแรงพายุน้ำแข็ง
เขาก็สามารถมองเห็นมังกรกระดูกกำลังโจมตีเหล่านักดาบอยู่
ทุกๆครั้งที่มังกรกระดูกขยับตัว หอคอยทั้งหลังก็สั่นสะเทือน
และจากทางหางตาของเขา
วีดก็มองเห็นหม้ออเมทิสท์หนึ่งชิ้น! (Amethyst: ควอตส์สีม่วงประจำราศีกุมภ์)
มันคือภาชนะแห่งชีวิตที่กักเก็บค่าพลังชีวิตของลิชบัลข่านเอาไว้
“ในที่สุดฉันก็มาถึงที่นี่ซะที”
ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ที่วีดเข้ามาในหอคอยกลางและพวกดูมไนท์ร้องโหยหวนตอนที่พวกมันตายไป ส่วนมังกรกระดูกที่กำลังต่อสู้ด้านนอกเร่งถีบขาหน้าของมันตะเบ็งเร่งตรงมาทางหอคอยกลางอย่างรีบร้อน
“แกคิดว่าฉันจะยอมตายอยู่ที่แบบนี้งั้นหรอว่ะ?”
(วีดพูด)
แล้ววีดก็ฟันดาบของเขาใส่หม้อ
มันคือช่วงเวลาที่จะถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซล
ช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้ชมนับไม่ถ้วนกำลังจับตามองด้วยความอัศจรรย์ใจ
แม้แต่ถ้อยคำขี้ประติ๋วของเขาก็จะถูกจารึกลงในตำนาน
“ฉันจะไม่ยอมตายตราบเท่าที่ฉันยังจำเป็นต้องปกป้องชามข้าวของฉันเอาไว้!”
ดาบที่แสนหนักอึ้งแบกความรับผิดชอบในฐานะผู้นำ
ฟาดฟันลงเพื่อทำลายหม้อใบนั้น
จากนั้นออร่าสีดำทะมึนก็ไหลออกมา
แล้วก็จางหายสู่บรรยากาศรอบๆตัวไปในที่สุด
ทันใดนั้นเอง
พลังงานของเหล่าอันเดดก็ถูกดูดออกไป ส่วนพละกำลังของพวกมันก็อ่อนแรงลง
“ฉัน
ฉันจะหายไปอย่างนี้ไม่ได้…”
“อ๊าคคคคคคคคคคค!”
พวกภูตผีสลายหายไปภายใต้แสงอาทิตย์
ส่วนอันเดดอย่างโครงกระดูกและพวกกูลก็ร่วงโรยสู่พื้นดินและก็สลายหายไปเป็นแสงสีเทา
อันเดดที่อยู่ภายในป้อมปราการเวอร์โก้ราวครึ่งหนึ่งสลายหายไปสู่พื้นดิน
ส่วนอันเดดในสังกัดของกองทัพอมตะที่ยึดครองดินแดนแห่งนี้มากกว่า 80% ก็สลายหายไป
ผลที่ตามมาหลังจากการทำลายภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านแผ่ขยายออกไปทั่ว
“ซากศพไม่ฟื้นคืนมาเป็นอันเดดแล้ว!”
“ฉันคิดว่าพวกอันเดดอ่อนแอลงนะ
พวกมันตายทันทีที่โดนเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เลย”
มหาเวทย์ทั้งสามของบัลข่าน
ผลอำนาจของเวทย์อาณัติแห่งความมืดและออร่าแห่งความตายก็หายไปแล้ว พวกอันเดดที่แข็งแกร่งสุดๆก็กลับคืนสู่สถานะปกติแล้ว
ความสามารถอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถต้านทานพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ดิ่งฮวบลงไปแล้วเช่นกัน
“เรา..เราควรไปที่ไหนหละ?”
“ข้ารู้สึกถึงได้พลังชีวิตทางนั้น”
“ไปกันเถอะ
ลองไปกัน…”
พวกอันเดดส่วนใหญ่เลือกที่จะออกไปเพื่อทำลายเมืองโมราต้าให้ย่อยยับ
ตอนนี้เหลือเพียงแค่นิดเดียว จากนั้นก็แตกทัพกลับไปแล้วในที่สุด
ทว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เห็นได้ก็คือบัลข่านและมังกรกระดูก
มนต์คำสาปที่บัลข่านได้ร่ายออกไปสูญสลายหายไปโดยอัตโนมัติ
และตรงบริเวณด้านบนนั้น โรมูนะก็มองเห็นค่าพลังชีวิตของบัลข่านลดลงไปแบบฮวบฮาบ
“บัลข่านอ่อนแอลงแล้ว!”
“เล็งพลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราไปที่มันแล้วโจมตีได้เลย”
ความหวังของเหล่าผู้เล่นลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
มานาที่ล้นทะลักออกมาของบัลข่านกำลังลดลง
ในฐานะลิชเขาสามารถสูบค่าพลังชีวิตและมานา เพราะว่าบ่อมานาที่แทบจะไร้ขีดจำกัดของเขากำลังถูกใช้ไปจนหมด
บัลข่านจึงกำลังทุกข์ทรมาน
แม้ว่าความอ่อนกำลังของมังกรกระดูกจะชัดเจนจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า
การเคลื่อนไหวของร่างกายกับปีกของมันกำลังเชื่องช้าลงจนทำให้มันยากที่จะควบคุมเอาไว้ได้
“ไปฝังมันลงหลุมกันเถอะ!”
“ฉันจะเฉือนกระดูกแกให้หมดทุกชิ้นเลย”
เหล่านักดาบกระโจนเข้าใส่มังกรกระดูก
และขว้างหอกใส่มังกรกระดูกที่ติดอยู่ในหอคอยกลาง ความสามารถของพวกเขาก็คือสามารถใช้อาวุธได้ทุกชนิดเพราะว่าทักษะผู้เชี่ยวชาญศาสตราถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้
“ก๊าซซซซซซซซซซซว……”
มังกรกระดูกคำรามออกมาทว่าเอฟเฟคของทักษะดราก้อนเฟียร์นั้นอ่อนเกินไป
เพราะว่ามังกรพวกนี้ถูกบัลข่านสร้างเมื่อนานมาแล้ว พวกมันจึงกินค่าความแข็งแกร่งและมานาไปมากเอาการเพื่อคงสภาพร่างกายเอาไว้
“ฆ่ามันนนน!”
“ทำลายมันให้สิ้นซาก!”
เหล่านักดาบแทบจะไม่เหลือพลังชีวิตแล้วแต่พวกเขาก็ยังกระโจนออกไปเพื่อโจมตีครั้งสุดท้าย
มนต์ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านักบวชระเบิดออกไปใส่ร่างกายของมังกรกระดูกเช่นกัน
ณ
บัดนี้พวกเขารู้แล้วว่าภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านถูกทำลายลง
พวกเขาจึงใช้มานาที่พวกเขารวบรวมเอาไว้และร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์โดยไม่กั๊ก
ยังคงมีอันเดดเหลืออยู่ตามหลังคา
แต่จำนวนพวกมันก็ลดลงไปมาก แถมยังอ่อนแอลงแล้วด้วย
วีดออกไปจากหอคอยกลางแล้วก็กลับไปตรงทางที่เขาใช้เข้ามา
เขาเล็งเป้าไปที่มังกรกระดูกที่ถูกพายุน้ำแข็งกวาดไปและถูกฝังอยู่ภายในน้ำแข็ง
“ไอ้เจ้านี่ดื้อจริงๆเลยนะ”
“มันมีพลังชีวิตเยอะแค่ไหนกันนะ”
เหล่านักดาบ 20
คนได้ไปถึงที่นั่น แล้วก็เริ่มฟาดดาบโจมตีใส่มัน
มังกรกระดูกพยายามที่จะทะลวงชั้นน้ำแข็งออกมา
แต่เพราะว่าไร้ซึ่งออร่าแห่งความตายและมานาจากบัลข่านมาเสริมกำลัง
มันจึงไม่มีทางเป็นไปได้เลย
“ตายอยู่อย่างนั้นแหละดีแล้ว!”
วีดเข้าไปผสมโรงกับเหล่านักดาบเพื่อโจมตีมังกรกระดูก
ทุกครั้งที่มันดิ้นไปมา บรรดาอาคารและหอคอยของป้อมปราการเวอร์โก้ก็จะล้มครืนลงมา
สิ่งก่อสร้างพังทลายลงพร้อมกับเสียงดังสนั่นดั่งสายฟ้าฟาด
อันเดดบางตัวอย่างแวนดัลไนท์สามารถพบเห็นได้
ต่างสูญเสียพลังไปเป็นจำนวนมาก ทว่าในสายตาของวีดมีเพียงแค่มังกรกระดูกตัวเดียวเท่านั้น
“มาทำกำไรงามๆกันเถอะ”
และจากนั้นในที่สุด
มังกรกระดูกก็กลายเป็นแสงสีเทาแล้วก็สลายหายไป
มังกรกระดูกโวตูเรียแห่งป้อมปราการเวอร์โก้ได้กลับคือสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร
|
ด้วยการรับบทบาทเล็กน้อยในการล่ามังกรกระดูกที่เกี่ยวข้องกับกองทัพอมตะ
ทุกค่าสถานะเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 หน่วย
|
วีดได้รับค่าประสบการณ์และค่าชื่อเสียงไม่มากนักเพราะว่าความเสียหายส่วนใหญ่เหล่านักดาบเป็นคนทำ
แม้กระนั้นเขาก็ยังดีใจที่ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง
ด้วยชัยชนะที่แสนยากลำบาก กองกำลังขนาดใหญ่
พวกผู้เข้าร่วมต่อสู้จึงได้รับรางวัลอันยอดเยี่ยม
“เราจัดการมังกรกระดูกได้แล้ว!”
“พวกเราชนะแล้ว
เราจัดการมังกรกระดูกทั้งหมดได้แล้ว”
เสียงตระโกนเปล่งออกมาจากทางหอคอยกลาง
เหล่านักดาบมุ่งหน้าไปที่นั่นเพิ่มขึ้นแต่ว่าพวกเขาล่าได้ช้าลงเพราะว่ามังกรเคลื่อนที่ไปที่ฐานของหอคอยกลาง
“อันเดดที่อยู่ในป้อมปราการเวอร์โก้โดนจัดการหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วตอนนี้”
อันเดดหลายตนนอนราบอยู่ตามพื้นดิน
พวกมันไม่สามารถยืนขึ้นมาได้ ส่วนมังกรกระดูกเองก็ถูกสังหารไปจนหมดสิ้น
ถึงแม้กระนั้นวีดก็ยังไม่รู้ว่ายังมีแวนดัลไนท์เหลืออยู่อีกเท่าไร…
“ยังไงก็ตาม
ถ้าหากการต่อสู้ของพวกเอลฟ์กับกองทัพพันธมิตรยังคงดำเนินอยู่
พวกอันเดดก็คงต้านทานไม่ได้อีกต่อไปแล้วหละ”
มันถือว่าวางใจแล้วที่จะพูดว่ากองทัพอันเดดที่รวมตัวอยู่ภายในป้อมปราการเวอร์โก้คงจะโดนจัดการไปแล้วแน่ๆตอนนี้
วีดไม่สนใจพวกอันเดดอ่อนปวกเปียกที่ถูกสูบพลังออกไป
แล้ววิ่งตรงไปทางชั้นใต้ดิน ต้องขอบคุณค่าความว่องไวของเขา
วีดจึงสามารถวิ่งไปด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาจะได้อะไรจากบัลข่านหรือเปล่า
เขาก็ยังวิ่งต่อไปเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
ขณะที่พวกอันเดดสูญเสียพละกำลังไป
พวกมันจำนวนมากจึงพยายามขัดขวางทางเข้าชั้นใต้ดินเอาไว้!
อันเดดจำนวนหนึ่งเล็งโจมตีไปที่วีด
ทว่าเขารับการโจมตีของพวกมันด้วยการใช้ร่างกายของเขาเท่านั้น แล้วก็รีบเร่งฝีเท้าสู่ทางไปชั้นใต้ดิน
“ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะ!”
ฮวายองที่กำลังเหน็ดเหนื่อยกล่าวทักทายวีด
“บัลข่านหล่ะ เป็นไงบ้าง?”
“ยังไม่ตายค่ะ
แต่ก็เกือบแล้ว”
ด้วยความดั้นด้นมาถึงนี่
ดูท่าว่าเขาจะไม่ได้มาช้าเกินไปเลยซะทีเดียว
วีดเข้าไปตรงบริเวณที่กำลังต่อสู้กับบัลข่าน
“ฆ่ามันซะ!”
“โจมตีพร้อมกันอีกครั้ง”
“พวกนักบวช
จัดการพวกอันเดดก่อน! เหลือบัลข่านไว้ท้ายสุดคงทำให้การล่าเร็วขึ้นกว่านี้มาก!”
การไล่ล่าบัลข่านยังคงดำเนินต่อไป
ขณะที่วีดมาถึง
ยังมีอันเดดอีกเล็กน้อยที่บัลข่านอัญเชิญออกมาด้วยศพของพวกนักดาบและพาลาดิน ดังนั้นมันจึงเป็นการต่อสู้ที่ไม่จบไม่สิ้นซะที
“กลับไปนอนต่อซะไป
เทิร์นอันเดด!”
มนต์ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านักบวชปะทะใส่ร่างของพวกอันเดด
ประติมากรรม ‘การจุติของเทวทูตทั้งเจ็ด’ ที่วีดใช้ให้เมแพนเอามาให้
บริเวณใกล้เคียงของประติมากรรม ผลของเอฟเฟคเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น แถมความสามารถยังยอดเยี่ยมขึ้นจนเห็นได้ชัด
มันช่วยเสริมกำลังกายของมนุษย์และฟื้นฟูค่าพลังชีวิตในขณะที่ออกไปฆ่าพวกอันเดด
“ข้าจะจบสิ้นอย่างนี้ไม่ได้
พวกมนุษย์ต้องบดขยี้ ทวีปแห่งนี้ต้องล่มสลาย”
เสียงร้องโหยหวนชวนขนลุกของบัลข่านสะท้อนก้องภายในชั้นใต้ดิน
“บลิ้งค์!”
ขณะที่กำลังเทลพอร์ตระยะสั้นไป
ค่าพลังชีวิตและมานาของเหล่าพาลาดิน นักบวชและเหล่านักดาบต่างก็ถูกสูบออกไปเรื่อยๆ
แต่ทว่าดาบศักดิ์สิทธิ์ที่แทงไว้ในร่างของบัลข่านก็ทำให้ควันสีดำทะมึนไหลทะลักออกมา
ความเข้มข้นของมานาภายในชั้นใต้ดินเพิ่มสูงขึ้น
อัตราการฟื้นตัวของมานาเพิ่มสูงขึ้น
เพราะว่าพลังชีวิตที่ถูกผนึกไว้ของเขากำลังแตกร้าว
ค่าพลังชีวิตและมานาของบัลข่านกำลังไหลออกมาอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้
แล้วบัลข่านก็ร่ายเวทย์ออกมา
“ข้า…ข้าจะกลับมา เปิดประตูมิติ!”
มันคือมนต์ที่ทำให้คนๆหนึ่งเคลื่อนย้ายไปยังอีกที่แห่งหนึ่งได้
พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้บัลข่านหลบหนีไปจากที่นี่ได้
เพราะว่าตอนนี้มันคือศัตรูที่สามารถตายได้แล้วสำหรับวีด
เมืองโมราต้าก็จะตกอยู่ในอันตรายได้ ถ้าเกิดบัลข่านสามารถหลบหนีไปได้
เหล่านักบวชเล็งเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขายิงออกไป
จนทำให้เวทย์เทเลพอร์ตของบัลข่านล้มเหลว
มนต์เทเลพอร์ตของศัตรูถูกยกเลิกแล้ว
|
“ทักษะลมแล่น!”
วีดมุ่งหน้าไปที่บัลข่านแล้วก็ย่นระยะห่างระหว่างพวกเขาลงไป
“ดาบจักรพรรดิ์!!!”
มันคือทักษะที่เขาเก็บเอาไว้ใช้
วีดใช้ดาบของเขาแทงร่างของบัลขานเต็มแรง ยิ่งเขาเพิ่มความเร็วมากเท่าไร
ความเสียหายของมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เหล่านักดาบกับพาลาดินก็มาถึงแล้วเช่น
พวกเขาทั้งฟันและแทงใส่บัลข่าน
อันเดดที่บัลข่านอัญเชิญออกมาสูญเสียแรงกายของพวกมันและพ่ายแพ้ไป
บัลข่านจึงเป็นศัตรูที่เหลืออยู่ตนสุดท้าย
การโจมตีที่ปล่อยออกมานั้นไม่สามารถหลุดพ้นได้เลย
เพราะว่าค่าพลังชีวิตกับมานาของเขากำลังสูญเสีย
แถมความสามารถในการร่ายเวทย์ยังหายไปอีก บัลข่านจึงเริ่มสูญเสียพลังกายของเขาไป
วีด เหล่านักดาบ พาลาดินและเหล่านักบวชลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวและตั้งใจโจมตีเพียงอย่างเดียว
และแล้วในที่สุด
ผู้ปกครองแห่งกองทัพอมตะ
จอมขมังเวทย์แห่งความมืด เนโครแมนเซอร์ลิช บัลข่าน ดีมอฟได้กลับไปสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร
|
วีดและเหล่าผู้รอดชีวิตขึ้นไปบนหอคอยกลาง
ที่เป็นหอคอยที่สูงที่สุดภายในป้อมปราการเวอร์โก้
พวกเขาเปิดรับลมโชยอ่อนๆที่กำลังกระพือใบหมวกของพวกเขาอยู่
พวกเขาต่างกำลังแบ่งปันสัมผัสอันอ้างว้างและอิสระ
มันคือสถานที่ที่พวกเขาสามารถมองเห็นร่องรอยความเสียหายที่อยู่ในป้อมปราการท่ามกลางการต่อสู้ที่ไม่อาจทัดเทียมได้อย่างชัดเจน
หลายๆที่ถูกมังกรกระดูกทำลายไปจนย่อยยับ
เปลวไฟยังคงลุกโชนอยู่ภายในอาคารและหอคอย
อันเดดที่ปกป้องป้อมปราการส่วนนอกก็ถูกกำราบโดยกองทัพพันธมิตรแห่งเอลฟ์ คนแคระ
และคนเถื่อน
“อืมมมม”
“ฮืมมมมม”
“นี่มัน…ความรู้สึกแบบนี้มัน”
ความรู้สึกที่ในตอนนี้
มันไม่ใช่ความปีติยินดีหรืออิ่มเอมใจ
แต่เป็นบางสิ่งที่ไม่สามารถแสดงออกมาด้วยคำพูดได้
‘ฉันยังสั่นกลัวตายอยู่เลยแหะ’
‘ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการต่อสู้จะจบแล้วจริงๆ’
‘จะมีการต่อสู้อย่างนี้อีกหรือเปล่านะ?’
‘ถ้าฉันไม่เริ่มเข้ามาเล่นรอยัลโร้ด
ฉันคงจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ’
‘ฉันจะเอาไปคุยอวดให้เพื่อน
พ่อแม่ เพื่อนร่วมงานของฉันฟัง’
‘ฉันทำได้แล้ว
ฉันรอดตายแล้ว’
ขณะที่กำลังยืนอยู่บนหอคอยกลาง
ทุกๆคนต่างดื่มด่ำกับความรู้สึกอันยอดเยี่ยมที่สุดที่พวกเขาเคยมีมา
พวกเขาแบ่งปันความรู้สึกปีติยินดีของผู้รอดชีวิตที่รั้งจนมาถึงจุดจบของการต่อสู้ขนาดใหญ่ครั้งนี้จนได้
ในฉากนั้นเหล่านักดาบ พาลาดิน และนักบวชต่างกำลังเพิ่มเป็นเพื่อนกันในรายการของกันและกัน
วีดเองก็รู้สึกพอใจกับชัยชนะเช่นกัน
‘ฉันทำกำไรได้อย่างงามเลยแหะ’
โดยปกติแล้ว
การต่อสู้ด้วยผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
เพียงแค่สามารถชนะการต่อสู้ได้ก็จะได้รับรางวัลมหาศาล หลังจากที่พวกเขาโค่นบัลข่านลงได้แล้ว
ค่าสถานะทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นสูงสุด 5 หน่วย ต่ำสุด 2
หน่วยขึ้นอยู่กับบทบาทของแต่ละคน
ส่วนค่าสถานะของวีดเพิ่มขึ้นอย่างละ 3 หน่วยเพราะว่าเขาไม่ได้ต่อสู้กับบัลข่านตั้งแต่เริ่มต้น
ขณะที่ตามความเป็นจริงแล้ว นักดาบ 121
ที่ได้โจมตีครั้งสุดท้ายใส่บัลข่านไป เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นถึง 12
เลเวล และด้วยการเข้าร่วมการต่อสู้จนช่วงเวลาสุดท้าย ค่าประสบการณ์ของวีดจึงเพิ่มขึ้น
24%
นั่นถือว่าเป็นกำไรที่งดงามมาก
แต่ทว่าผู้เข้าร่วมที่เตรียมตัวเพื่อทำงานนี้โดยเฉพาะก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยอยู่บ้าง
ดังนั้นเขาจึงต้องแสดงความใจกว้างออกมา
“ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่อยู่ที่นี่”
หลังจากที่สิ้นสุดการต่อสู้อันแสนยากลำบากนี้แล้ว
เขาจึงรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นก่อน
“ศิษย์พี่ใหญ่
พี่เจ็บหนักมากไหมครับ? ให้ผมช่วยปฐมพยาบาลให้หน่อยดีกว่านะครับ”
เขาช่วยดูแลพี่ใหญ่ของเขาและเข้าไปหาผู้เล่นคนอื่นๆอย่างไม่แบ่งแยก
“มีการเสียสละพวกพ้องของพวกเรามากมาย….โชคดีที่เราได้รับสมบัติภายในป้อมปราการชั้นใน
แล้วเราก็จะได้แบ่งให้กันได้ ผมรู้ว่าแค่นี้มันอาจจะไม่พอเท่าไรแต่….ผมก็จะแบ่งส่วนของผมออกมาด้วยเช่นกันนะครับ”
เพียงเพราะได้รับชัยชนะก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากแล้ว
“เราจะเอาได้ยังไง?
ความสำเร็จทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคุณนะครับ คุณวีด”
“คุณจะให้ส่วนแบ่งกับพวกเราจริงหรอครับ
ผมคิดว่าถ้าคุณไม่ได้ทำลายภาชนะแห่งชีวิต เราก็คงจะชนะไม่ได้แน่ๆ”
ผู้เล่นเหล่านี้ต่างกำลังรู้สึกละอายใจ!
ค่าชื่อเสียง
สถานะ และค่าประสบการณ์ ด้วยชัยชนะของพวกเขา ค่าความเชี่ยวชาญทักษะของพวกเขาเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง
และตอนนี้พวกเขาก็ได้รับรางวัลของพวกเขาไป
ส่วนวีดก็ยินดีกับส่วนแบ่งของเขา คำชื่นชมของพวกเขาที่มีให้สำหรับบุคคลผู้น่ายกย่องคนนี้เปล่งออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
‘ปกติแล้วฉันไม่ยอมเชื่อใจคนอื่นเลยแต่…คุณวีดนี่เป็นเทพบุตรตัวจริงเลย’
‘ช่างเป็นเหมือนนักบุญที่หลุดออกมาจากหนังสือจริยธรรมไม่มีผิดเลยจริงๆ’
‘ใครมันแพร่ข่าวลือที่ว่าคุณวีดเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียวกันแน่ว่ะ?
จริงหล่ะน๊า หนทางเดียวที่จะรู้จักคนๆหนึ่งก็คือต้องเจอกับตัวเอง ไม่ว่าใครหน้าไหนมันต้องได้เจอดีแน่ถ้ามันกล้าแพร่ข่าวเสียๆหายๆไม่มีมูลแบบนั้นนะ’
ความเจ้าเล่ห์นั้นได้หลอกลวงเหล่าผู้เล่นทั้งหลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
จากสมบัติที่ได้มา
วีดไม่ได้คร่ำครวญเสียใจกับส่วนแบ่งถ้าหากว่าเขาสามารถมอบความประทับใจให้กับคนอื่นได้
ไอเท็มที่ได้มาจากบัลข่านต้องถูกขายออกไป
แล้วก็แบ่งให้ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆอย่างเท่าๆกัน
ส่วนแบ่งของวีดจากสมบัติที่เจอเขาก็ได้ไป 30% ส่วนในกรณีของดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นของวิหารลูห์
เขาก็จะได้รับรางวัลถ้าหากว่าเขานำดาบกลับคืนสู่วิหาร
แล้วก็มีรางวัลอันน่าพึงพอใจอีกอย่างสำหรับวีด
-ท่านได้พิชิตป้อมปราการเวอร์โก้ที่ปกครองโดยอันเดด
|
เขตแดนของเมืองโมราต้าขยายออกไปแล้ว
|
ดินแดนรอบๆป้อมปราการเวอร์โก้ถูกรวบเข้าเป็นอาณาเขตของท่าน
|
อิทธิพลและชื่อเสียงของท่านในฐานะลอร์ดเพิ่มขึ้นแล้ว
|
ดินแดนไม่สามารถทรยศได้
แม้ว่าดินแดนจะแห้งแล้งและเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ แต่ก็ยังมีโบราณวัตถุมากมายถูกฝังอยู่ข้างใต้
นักผจญภัยทั้งหลายและปาร์ตี้ออกล่าทั้งมวลก็จะแห่กันไปหามัน
ป้อมปราการเวอร์โก้สามารถซ่อมแซมและเปิดใช้งานได้อีกครั้ง
ชาวเมืองก็สามารถเข้ามาทำเกษตรกรรมและเก็บเกี่ยวอาหารได้
เพราะว่าที่นี่จะพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนเหล่าผู้เล่นใหม่ก็จะสามารถเข้ามาเริ่มเล่นภายในป้อมปราการเวอร์โก้ได้
และในอนาคต ตรงเนินเขาทางด้านหลังตรงที่มังกรกระดูกอาละวาด ก็จะมีฉากของผืนเมืองที่มีกระต๊อบทอดอยู่เบื้องหน้าของเขา
บอร์ดข้อความของสถานีออกอากาศและบนอินเตอร์เน็ตระเบิดกระจุย!
มันคือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ
เพราะว่าพวกเขากล้าไปต่อกรกับพวกอันเดด ผู้รายงานข่าวถ่ายทอดความคิดของพวกเขาด้วยมุมมองของมนุษย์และเป็นกำลังใจให้กับเขา
มันไม่ใช่การล่าที่ง่ายดายเลย
มีผู้เล่นถูกบัลข่านกับมังกรกระดูกฆ่าตายไปเป็นจำนวนมาก
แถมยังได้รับความเสียหายจากพวกอันเดดมากมายมหาศาล
ริมฝีปากของเหล่าผู้ประกาศข่าวแห้งผากและความตึงเครียดพุ่งสูงปรี๊ด
พวกเขาอธิบายว่าฉากของอันเดดที่เข้ามาเป็นลูกคลื่นภายในป้อมปราการเวอร์โก้ การไขว่คว้าเป้าหมายที่เหนือความสามารถของพวกเขา
และก็มาเป็นชัยชนะที่ไม่น่าเชื่อครั้งนี้นั่นเอง!
“เราก็ได้เห็นกันชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วนะครับ
แล้วเมื่อไหร่ละที่พวกคุณคิดว่าเราจะได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกครั้ง?”
“ไม่จำเป็นต้องสาธยายอะไรมากมายไปกว่านี้แล้วครับ
ผมคิดว่าเนื้อหาเพียงแค่นี้ก็เพียงพอมากแล้ว
ช่างน่าเสียดายจริงๆที่ผมไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น”
“พวกเขาคงต้องรู้สึกมั่นใจที่ได้เข้าร่วมการต่อสู้อันดุเดือดแบบนั้นนะครับ
นี่คงจะเป็นของขวัญอันยอดเยี่ยมในวันคริสต์มาสพรุ่งนี้”
เพราะว่าได้รับเสียงตอบรับอันเร่าร้อนจากเหล่าผู้ชม
เหล่าผู้ประกาศข่าวจึงดำเนินรายการต่อไปได้
ขณะที่กำลังรับชมการถ่ายทอดการต่อสู้
ณ ป้อมปราการเวอร์โก้ เวลาผ่านไปเร็วมาก ในโลกจริงมันคือตอนเช้าตรู่แล้ว
และมันก็เป็นวันคริสต์มาส อีฟด้วย!
ณ วันคริสต์มาสนี้
ปุยหิมะขาวบริสุทธิ์กำลังโปรยปรายลงยามเมื่อทอดสายตามองพาดผ่านทางบานหน้าต่างออกไป
จบตอน
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ตอนหน้า น่าจะหวาน (เดา)
ตอบลบเคลียร์ได้แล้วเว้ย เสียไอเท็มแต่ได้หน้า ความนิยมพุ่งพรวด
ตอบลบโดยรวมไม่เสียครับ ได้ดินแดนเพิ่มขึ้นทำให้ฟันกำไรได้ระยะยาว
ลบขอบคุณครับ...
ตอบลบปล.วีดยังไม่ได้ใช้ทักษะของซอยูนเลย!!!
ใช้แล้วรอบหนึ่งนิ ตอนที่กิลเฮอมิส มาโจมตีไง
ลบตอนหน้ารับทรัพย์น่ะวีด
ตอบลบตอนหน้าจะหวานจริงๆใช้ไหม ขอบคุณครับ
ตอบลบอื่มอร่อย สุดๆครับตอนนี้
ตอบลบอยู่ที่เจ้าเหลืองนะรุ้สึก
ตอบลบกำไรทั้งนั้น ได้ทั้งเมือง ทั้งของ เหลืออย่างเดียว ถล่มกิลด์เฮอร์มิท
ตอบลบได้อาณาเขตเพิ่ม=ประชากรเพิ่ม
ตอบลบประชากร=ภาษี
ดังนั้น รับทรัพย์ครับ
วีดมาเอง เห็นภาพชัด
ลบขยายอาณาเขต หึหึ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบซอยูนปายหน่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย T.T
ตอบลบนางเอกโผล่มาบรรทัดเดียว เยี่ยมจริงๆ
ตอบลบพวกนายโดนวีค หลอกแล้ว อึ่งกับ วีด เหมือน กับ หนังสือ จริยธรรมเนีย ละ ต้องถามกลับไปดังว่าของโลกไหน
ตอบลบสนุกมากครับขอบคุณครับ
ตอบลบบันทึกคำนี้ลงในหน้าประวัติศาษตร์จริงๆ หรอคับ
ตอบลบ“ฉันจะไม่ยอมตายตราบเท่าที่ฉันยังจำเป็นต้องปกป้องชามข้าวของฉันเอาไว้!”
แล้วตอนที่สู้กับลัทธิ ที่อัญเชิญมังกร บัลข่าน ไฮดร้า ตอนนั้นบัลข่านหนีไปได้ใช่รึป่าวครับ
ตอบลบ