เล่ม 24 ตอนที่
7: การเรียกขานมหาวาตภัย แปลโดย Cole’s Myth
วีดปล่อยตัวเองให้โลดแล่นไปตามสายลมที่โบกพัด
พลางยิงธนูออกไปขณะที่ไถลไปกับพื้นทุกๆ 5 เมตรบ้าง 10
เมตร
“นี่ต้องเป็นเหตุผลว่าทำไมอาชีพนักธนูถึงได้เป็นที่นิยมนัก”
วีดบ่นพึมพำขณะที่กำลังยิงธนูออกไป
เข้าเป้า 100%!
ไม่เพียงแต่เป็นการยิงที่แม่นยำเหมือนจับวางจนแทบไม่น่าเชื่อ
แต่ยังเป็นคันธนูเอลฟ์ระดับสูงที่ช่วยเสริมค่าการสร้างความเสียหายทางจิตวิญญาณอีกด้วย
ฟิ้ววววววววว!
ลูกธนูที่ถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่องพุ่งปักเหล่าโครงกระดูกที่ยืนประจำตำแหน่งบนกำแพงปราสาทตนแล้วตนเล่า
จิตวิญญาณแห่งไฟก่อให้เกิดการระเบิดรุนแรง
ส่วนจิตวิญญาณแห่งน้ำก็สร้างพายุลูกเห็บให้ตกลงมา
จิตวิญญาณแห่งปฐพีทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นโคลน ส่วนจิตวิญญาณแห่งลมก็ผลักพวกโครงกระดูกตกลงไปสู่พื้นดิน
นี่คือกลยุทธ์สมรภูมิมอดไหม้!
เขาคิดว่าเขาเข้าใจถึงความสนุกที่พวกผู้เล่นเลือกอาชีพนักธนูหรือว่าเรนเจอร์แล้วหละ
แต่ทว่าเขากลับไม่รู้ว่าพวกผู้เล่นสายนักธนูหรือเรนเจอร์ที่กำลังดูเขาผ่านโทรทัศน์อยู่นี้ต่างอ้าปากค้างอย่างเลี่ยงไม่ได้
“แต่ยังไงซะ
อาชีพสายนักธนูนี่ก็ไม่เหมาะกับฉันอยู่ดี”
การโจมตีมอนสเตอร์ในระยะไกลด้วยลูกธนูนั้นให้ความรู้สึกสนุกอย่างมาก
อันเดดบางตนสลายหายไปโดยที่พวกมันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายได้ยังไง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ตระหนักได้ขณะที่เขากำลังยิงอันเดดไกลๆแบบนี้
มันมีแต่จะกินลูกธนูของเขาไป แถมยังทำให้เขาไม่สามารถไปเก็บของดร็อปได้ซักอัน
เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับไอเท็มที่เขาไม่สามารถยื่นมือออกไปเก็บเอามาได้
ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ไปออกล่าแบบอิสระในพื้นที่ปิดกั้น
เขาก็คิดว่าอาชีพนักธนูนี้เป็นคลาสที่แย่มาก อย่างเช่นภายในสนามรบแบบนี้
“จริงๆแล้ว
ฉันจำเป็นต้องใช้ดาบนะ”
การเข้าไปฆ่าพวกศัตรูโดยตรงนั้นจะรับประกันการที่จะไปหยิบไอเท็มเอามาได้อย่างแน่นอน
วีดได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการเก็บออมเงินของเขา
ณ
เวลาขณะเดียวกัน เหล่านักดาบ มาเรย์และเหล่านักบวชก็ขึ้นไปถึงบริเวณหลังคาแล้วเช่นกัน
พวกโครงกระดูกที่ยืนอยู่ตามยอดหอคอยปราการเวอร์โก้และตามหลังคาต่างพากันยิงลูกธนูตรงไปที่พวกเขา
พวกเขารู้สึกว่ากำลังติดกับดักราวกับติดอยู่บนเกาะร้างที่มีพวกมอนสเตอร์ล้อมรอบพวกเขาอยู่ทั่วพื้นดินและท้องฟ้า!
“เอาหละ เริ่มกันได้แล้ว”
นักดาบ3เหวี่ยงดาบของเขาออกไปแล้วก็ฟันเข้าใส่การ์กอยล์ที่อยู่ใกล้ๆ ในที่สุดการโจมตีโต้กลับก็ได้เริ่มประเดิมใส่เจ้าการ์กอยล์ที่บินปกคลุมไปทั่วทุกที่ราวกับเมฆหมอกสีดำทะมึน
“ฆ่าพวกมันให้หมด”
“จัดการเจ้าพวกนั้นก่อน
แล้วค่อยไปฆ่าเจ้าพวกมังกรกระดูก!”
เหล่านักดาบเข้าสู่เหตุการณ์บ้าบิ่นมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่ทว่าเป้าหมายของพวกเขาครั้งนี้ที่กำลังไล่ตามอยู่ช่างแข็งแกร่งเทียบกับครั้งไหนๆไม่ได้เลย
กลวิธีเคล็ดลับความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขามนั้นก็คือการทะลุทลวงก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของตัวเอง
“แค่เริ่มโจมตีใส่
พวกมันก็ตายแล้วหละ!”
“กวาดล้างพวกมันให้สิ้นซาก!”
เหล่านักดาบวิ่งไปมารอบๆฟาดฟันใส่พวกกากอยล์ด้วยดาบของพวกเขา
ความอลหม่านวุ่นวายได้ก่อกำเนิดขึ้นมาบนดาดฟ้าของป้อมปราการเวอร์โก้ ทันใดนั้นเหล่ามังกรกระดูกก็ร่อนลงสู่พื้นดินด้วยการใช้ทักษะการบินของพวกมัน
“พวกมนุษย์ได้มาถึงที่นี่แล้ว”
มังกรกระดูกตัวหนึ่งที่มีความสูงต่ำกว่าหอคอยเล็กน้อยตรงดิ่งเข้ามาใกล้ด้วยการกระพือปีกไร้เนื้อหนังของมัน
ตรงบริเวณศีรษะของเจ้ามังกรกระดูกตัวนั้นมีกลิ่นอายดำมืดระเหยออกมา
-ท่านกำลังตกอยู่ในสถานะของความหวาดกลัว ทว่าท่านสามารถเอาชนะมันได้
|
ค่าความว่องไวลดลง
4%
|
ค่าทางสติปัญญาลดลง
25%
|
พวกมังกรกระดูกเองก็สามารถแพร่เชื้อใส่พวกเขาด้วยความกลัวได้เช่นกัน
แต่ทว่าพลังของมันนั้นด้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับพลังของบัลข่านดังนั้นพวกเขาจึงสามารถต้านทานมันได้
มังกรกระดูกตนนั้นเปิดปากออกกว้างแล้วก็สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่
มันคือการตั้งท่าสำหรับการโจมตีลมหายใจมังกรอย่างแน่นอน! ระยะห่างนั้นถือว่าใกล้มากจริงๆ แถมยังไม่มีสถานที่ซ่อนอันใดที่เหล่ามนุษย์สามารถหลบซ่อนได้เลย
วีดตะเบ็งเสียงด้วยทักษะราชสีห์คำรามออกมา
“มาสู้กับฉันก่อนสิโว้ย!
เป้าหมายของฉันที่มาที่นี่ก็เพื่อฆ่าบัลข่าน ถ้าแกไม่ฆ่าฉัน
ก็อย่าหวังว่าจะแตะต้องคนอื่นได้เลย”
การแสดงความเป็นลูกผู้ชายตัวจริงนั้นสร้างความตกตะลึงให้กับเหล่านักดาบอย่างยิ่ง!
ถ้าหากว่าวีดตายไป
มันคงกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ แม้ว่าเขาจะสามารถฟื้นคืนชีพมาได้ด้วยทักษะ ‘ปฏิเสธความตาย’ แต่ก็คงไม่อาจขัดขืนคำสั่งของบัลข่านได้แน่ๆ
แล้วคงจะจบลงด้วยการแปรพักตร์ไปอยู่ฝั่งพวกมังกรกระดูก ถูกบีบบังคับให้ออกไปต่อสู้กับพวกนักดาบ
ถึงกระนั้นเขาก็ยังเลือกที่จะตะโกนเช่นนั้นออกไป
“ไม่ต้องสงสัยเลย
ข้ารู้ว่า ณ ที่แห่งนี้ แกคือมนุษย์ที่ชั่วร้ายที่สุด”
วีดที่อยู่ไกลจากพวกนักดาบพอประมาณ
เริ่มวิ่งออกไปบนยอดหอคอยด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี ภาพนั้นสลับผ่านไปมาด้วยความเร็วอันน่าหวาดหวั่นในทุกๆย่างก้าวของเขา!
“ถึงแม้ว่าแกจะหนีไปตอนนี้
ก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว”
ด้วยการเลือกวีดเป็นเป้าหมายที่แน่นอนแล้ว
เจ้ามังกรกระดูกก็เปิดขากรรไกรของมันออกกว้าง
แล้วก็เป่าลมออกไปด้วยทักษะพิเศษของมัน ลมหายใจกรด!
แกร็ววววววววววววววววว!
ลมหายใจกรดนั้นพ่นออกไปข้างหน้าจากบนฟ้า
วีดวิ่งอยู่บนดาดฟ้าหอคอยด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีให้พ้นจากลมหายใจกรดนั้น
“ทักษะลมแล่น”(Sprinting Wind)
-ท่านเปิดใช้ทักษะ ‘ลมแล่น’
|
อัตราการใช้ค่ามานาและค่าพลังชีวิตเพิ่มเป็นสามเท่า
|
ร่างกายของวีดเร่งความเร็วพุ่งออกไปราวกับว่าร่างทั้งร่างของเขาถูกเหวี่ยงออกไป
เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อที่สามารถวิ่งผ่านม้าที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มฝีเท้าเพียงเสี้ยววินาที
ในเวลาไม่นาน เขาก็หายตัวไปราวกับว่าพึ่งร่ายเวทย์เทเลพอร์ต
เขาหย่อนตัวลงไปหลบในหลุมบนดาดฟ้าที่เขาได้เล็งเอาไว้แล้วตั้งแต่ที่มังกรกระดูกปรากฏตัวขึ้น
ลมหายใจกรดกวาดล้างตรงตำแหน่งที่วีดเคยอยู่ แล้วหลอมละลายกำแพงส่วนนอกของป้อมปราการเวอร์โก้
ขณะที่สิ่งก่อสร้างหลายส่วนถูกทำลายและละลายไป
โครงสร้างของมันก็เริ่มผิดรูปผิดร่างผุพังมากพอจนสามารถมองเห็นพรมเก่าๆ
เครื่องเรือน และรูปวาดภายในอาคาร
“ฮี่ๆ
มีลมโชยเย็นๆลอดเข้ามาข้างในด้วยแหะ” เจ้าโครงกระดูกหนุ่มพูดขณะกำลังติดหัวของมันเข้ากับข้อต่อ
ในตอนที่วีดกลับขึ้นมาบนดาดฟ้า
เจ้ามังกร กระดูกก็กำลังบินโฉบลงมาต่ำแล้วก็กระทืบไปตรงที่เหล่านักดาบรวมตัวกันอยู่
“นี่สำหรับบาปของพวกแกที่บังอาจมาบุกรุกดินแดนของท่านบัลข่าน”
ป้อมปราการสั่นสะเทือนราวกับกำลังมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น
กำแพงป้อมปราการล้มพังทลายไปเรื่อยๆ เพราะว่าพวกนักดาบเกาะกลุ่มกันเป็นกระจุก
พวกเขาบางคนจึงหลบไม่พ้นแล้วก็โดนมังกรกระดูกกระทืบเข้าอย่างจัง
ในตอนที่มังกรกระดูกบินอยู่บนท้องฟ้า
มันยากมากที่จะโจมตีโดนตัวมัน หากว่ามันพ่นลมหายใจแล้วก็ใช้เวทย์มนต์จากบนอากาศ
เหล่านักดาบคงไม่มีโอกาสเลยซักนิด
หากพวกนักดาบสามารถฝึกพวกกริฟฟอนหรือว่าไวเวิร์นได้ พวกเขาก็คงจะสามารถต่อสู้บนอากาศได้
แต่ทว่ามันกลับไม่มีทางเลือกแบบนั้นอยู่เลย
เนื่องจากโครงสร้างของหอคอยและสิ่งก่อสร้างที่อยู่ภายในป้อมปราการเวอร์โก้นั้นทำให้พวกเขาไม่มีที่กำบังมากนัก
แต่เพราะว่ามันมีเนื้อที่กว้างขวาง ขอบเขตของเวทย์ของเจ้ามังกรกระดูกจึงมีประสิทธิภาพลดลง
ถึงกระนั้นเจ้ามังกรกระดูกก็ยังนั่งอยู่บนดาดฟ้าอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เหล่านักดาบเคลื่อนไปข้างหน้าต่อได้
ส่วนมังกรกระดูกอีกสองตัวที่เหลือยังไม่ออกมาจากหอคอยกลาง
นั่นก็หมายความได้เพียงอย่างเดียว!
“ตอนนี้แหละใช่แน่ๆ
ภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านต้องอยู่ภายในหอคอยกลางแน่ๆ”
ทุกครั้งที่มังกรกระดูกขยับตัว
ทั่วทั้งป้อมปราการก็สั่นสะเทือน พื้นที่รอบๆตัวมันก็พังทลายลง
มังกรกระดูกอันแสนดุร้ายที่มิอาจหาที่ใดเปรียบได้ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว
“กระจายกำลังออกไป”
“ฆ่ามันให้ตาย!”
ทันใดนั้นเหล่านักดาบที่ซ่อนอยู่ตรงที่กำบังก็กระโจนออกไปล้อมเจ้ามังกรกระดูกแล้วเริ่มโจมตี
“โจมตีที่ปีกของมันก่อน”
“หักข้อเท้ามันซะ!”
เหล่านักดาบขึ้นไปเกาะอยู่บนตัวของเจ้ามังกร
แล้วก็แทงๆ ฟันๆ โจมตีใส่มันไปเรื่อยๆ
“กระดูกมันแข็งจริงๆ
โจมตีไม่เข้าเลย!”
“พลังชีวิตมันแทบจะไม่ลดลงเลยด้วยซ้ำ”
ขณะที่เข้าไปโจมตีที่ขาหน้าของมัน
ค่าพลังชีวิตของพวกเขาตกลงไปจนอยู่ในขั้นวิกฤติ
แถมโอกาสที่จะโดนกระทืบตายยังมีสูงอีกด้วย โอกาสที่พวกเขาจะมีชีวิตรอดได้ก็ต้องใช้ดวงล้วนๆ
ด้วยการใช้ซากปรักหักพังสกัดกั้นการโจมตีเอาไว้
วีดใช้ทักษะ‘ลมแล่น’ แล้วก็วิ่งไปหลบข้างหลังมังกรกระดูก
เขาไต่ขึ้นไปบนหางกระดูกของมันปานบันไดแล้วขึ้นไปยืนบนคอของมัน
“วิชาดาบเฮอเรม!”
เขาใช้ทักษะโจมตีเล็งไปตรงจุดๆเดียวที่เล็กปานเมล็ดงา
เหล่านักดาบที่กำลังต่อสู้กับมังกรกระดูกเองก็ใช้การโจมตีที่เล็งไปตรงจุดเดียวเช่นกัน
แต่เพราะว่ามังกรกระดูกเคลื่อนที่ไปมาอย่างดุดัน
การโจมตีของพวกเขาจึงไม่ค่อยได้ผลซักเท่าไร
“ไปโจมตีมันพร้อมกันเลยเถอะ”
“โจมตีจากตรงนี้สะดวกกว่าเยอะเลย”
เหล่านักดาบกระโจนขึ้นไปบนร่างของมังกรกระดูกเหมือนกันกับวีด
“เจ้าพวกมนุษย์
จงคุกเข่าต่อหน้าอำนาจอันยิ่งใหญ่ของท่านบัลข่านซะ!”
โครมมมมมม!
ขณะเจ้ามังกรสะบัดร่างของมันอย่างรุนแรงเพื่อที่จะสลัดมนุษย์ออกไป
ป้อมปราการเวอร์โก้ก็พังทลายลงอย่างหนัก
สิ่งก่อสร้างบางหลังก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และทำลายตึกที่สองที่สามด้วยเช่นกัน
การโจมตีจากส่วนตัว
ขาหน้า อุ้งปาก และหางของมังกรกระดูกนั้นเป็นปัญหา แต่สิ่งก่อสร้างที่กำลังพังครืนลงมานั้น
สร้างความเสียหายให้กับเหล่านักดาบเสียยิ่งกว่า
เจ้ามังกรตะเบ็งเสียงคำรามของมันอย่างลำพองขณะที่เขมือบนักดาบไปคนหนึ่ง
“กรรรรรรรรรร
โฮกกกกกกก!”
ดราก้อนเฟียร์!
เหล่านักดาบทำตามวีดแล้วเดินยั้วะเยี้ยอยู่บนหลัง
ปีก และคอของมังกรกระดูกหยั่งกับมด พลางแทงดาบของพวกเขาโดยไม่หยุดไม่หย่อน การโจมตีใส่ร่างของมังกรกระดูกที่ไร้เทียมทาน
ค่าความคงทนของดาบจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
-ดาบกระแทกใส่ผิวกระดูกของมังกรกระดูก ค่าความคงทนของดาบท่านลดลง
|
พลังโจมตีลดลง
3
หน่วย
|
ยิ่งรวบรวมพลังทั้งหมดของพวกเขาโจมตีใส่มังกรกระดูกรุนแรงเท่าไร
ค่าความคงทนของดาบก็ยิ่งลดลงมากเท่านั้น และมันคงจะดีกว่ามากที่จะใช้อาวุธหนักอย่างขวานหรือกระบองเพื่อทำให้ค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกลดลง
ขณะที่ค่าความคงทนของอาวุธตกลง
ค่าพลังโจมตีสูงสุดของอาวุธก็ลดหลั่นลงไปตามๆกัน
ทว่าพวกเขาไม่มีเวลาที่จะมาลังเลอะไรกับมันอีกแล้ว
ด้วยการโจมตีแบบไม่หยุดไม่หย่อน
ค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกลดลงไปต่ำกว่า 50% แล้ว
เหล่านักดาบที่อยู่บนดาดฟ้าเองก็พยายามหลบหลีกไปมาขณะที่เกือบจะโดนเหยียบหรือโดนเขมือบไปพลางโจมตีใส่มันจากด้านข้าง
“ศิษย์พี่
อย่าลดการป้องกันลงหละครับ
เจ้ามังกรกระดูกนั่นมีอัตราการการฟื้นค่าพลังชีวิตสูงเป็นบ้าเลยนะครับ!”
“พวกเราจะโจมตีใส่มันไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะแหลกเป็นชิ้นๆเอง”
วีดเล็งไปที่เป้าหมายเดียวแล้วก็โจมตีใส่มันอย่างต่อเนื่อง
“ใบมีดแกะสลักแสงจันทร์
วิชาดาบเฮอเรม!”
ความเชี่ยวชาญทักษะดาบเพิ่มขึ้น
|
มังกรกระดูกนี่คือเป้าหมายในอุดมคติเพื่อเอาไว้เพิ่มระดับทักษะดาบ
พวกนักธนูกับนักเวทย์โครงกระดูกไต่ขึ้นมาบนดาดฟ้าของป้อมปราการ
แล้วยิงลูกธนูและเวทย์น้ำแข็งใส่เหล่านักดาบและมังกรกระดูกโดยไม่สนว่ามันจะโดนลูกหลงไปด้วย
ลูกธนูถูกเบี่ยงออกไป
|
ลูกธนูกรดสร้างรอยขีดข่วน
|
เนื่องจากผลของค่าความว่องไวที่สูงมากของวีด
การโจมตีพวกนั้นจึงไม่โดนเขา เหล่านักดาบยืนประจันหน้าใส่การโจมตีที่เข้ามาด้วยการใช้ความอดทนและค่าความอึด
พวกเขาสามารถอดทนได้มากอีกหน่อย เพราะว่ามีค่าความอึดที่เพิ่มขึ้นจากการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรและการฝึกเหวี่ยงดาบอย่างต่อเนื่อง
“ด้วยการฝึกฝนมากขนาดนี้
มันคงไม่มีทางขัดขวางเราให้ไม่ให้เหวี่ยงดาบของเราได้ ข้าจะตายก่อนหรือแกจะสิ้นก่อน
แล้วเราจะได้เห็นกัน!”
เหล่านักดาบต่างต่อสู้โดยปราศจากซึ่งความกลัวตาย!
พวกเขาถูกโจมตี
สั่นไหวอยู่บนตัวของมังกรกระดูกพลางเหยียบย่ำอยู่บนตัวมัน
บางคนสามารถหลบหนีจากสถานการณ์เช่นนั้นได้หากพวกเขาโชคดีพอที่จะได้รับการรักษาจากเหล่านักบวช
แต่ก็มีบางคนที่ตายไปแล้วก็ฟื้นคืนมาเป็นอันเดดหันดาบโจมตีเข้าใส่สหายของพวกเขา
ขณะที่วีดปักตัวอยู่คอมังกร
เขาก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ต่างๆได้
ทุกครั้งที่เจ้ามังกรง้างหัวของมันขึ้นและคำราม
มันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาอยู่บนยอดภูเขาสูงและเบิกทัศนียภาพของเขาให้เปิดกว้างออกไป
ขณะที่ขี่อยู่บนตัวมังกรกระดูกที่อยู่บนดาดฟ้าป้อมปราการเวอร์โก้
มันก็ทำให้เขาเปิดทัศนียภาพของเขาออกสู่อิสระสอดส่องสายตาให้เห็นไปทั่วทุกพื้นที่
เขาสามารถมองเห็นการต่อสู้ด้านนอกป้อมปราการหากเขาต้องการ
‘พวกศิษย์พี่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไปแล้ว’
จากจำนวนเหล่านักดาบที่กำลังต่อสู้อยู่นี้
ดูเหมือนว่าจะมีพวกเขาอย่างน้อย 30 คนตายไป
พวกเขาส่วนมากได้รับบาดเจ็บ ป้อมปราการก็พังทลายลงไปอีก
แล้วก็จะยิ่งมีคนตายมากขึ้นเรื่อยๆ
เหล่านักดาบที่ตายไปก็ฟื้นขึ้นมาเป็นอันเดดด้วยทักษะอาณัติแห่งความมืด
ยิ่งพวกอันเดดอย่างดูมไนท์และแวนดัลไนท์มาถึงตรงหลังคาและบนหอคอย สถานการณ์ก็ยิ่งแย่เกินจะควบคุมเข้าไปใหญ่
เป้าหมายอันดับแรกของพวกมันก็คือปกป้องบัลข่าน
แต่ทว่าขณะที่พวกเขาเข้ามาใกล้หอคอยกลางที่เก็บภาชนะแห่งชีวิตเอาไว้
ก็ยิ่งมีพวกอันเดดเคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
‘ปัญหาตอนนี้ก็คือเวลา’
เพราะว่าค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกนั้นเหลืออยู่ไม่มากแล้วขณะที่วีดกำลังโจมตีใส่มัน
หลังจากนั้นสักพักเขาก็โจมตีใส่มันต่อไปเรื่อยๆ
ต้องทำให้จบลงไปให้เร็วที่สุดโดยที่ไม่ให้สูญเสียเหล่านักดาบไปมากกว่านี้
“มันก็น่าเศร้านะแต่ฉันคงไม่มีทางเลือกแล้ว
ศิษย์พี่ครับ มาอยู่ตรงนี้แทนผมด้วยครับ”
วีดลงไปจากคอของมังกรกระดูกที่เป็นจุดยุทธศาสตร์อันยอดเยี่ยมเพื่อโจมตีมัน
และในตำแหน่งของเขานั้นก็มีนักดาบ4มาแทนที่
วีดออกตัววิ่งตรงไปที่หอคอยกลางแล้วก็ตะเบ็งเสียงราชสีห์คำรามออกมา
“ข้าจะไปที่หอคอยกลางเพื่อทำลายภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านซะ!”
มันคือเสียงดังสะท้อนอันก้องกังวานที่แม้แต่เหล่าอันเดดที่อยู่ข้างนอกปราสาทก็ยังได้ยิน
“กรี๊ซซซซซซ”
มังกรกระดูกที่กำลังต่อสู้กับเหล่านักดาบตอบสนองในทันทีและหมุนตัวเพื่อไปฆ่าวีด
มังกรกระดูกไล่ตามหลังวีดไปอย่างบ้าคลั่งพลางทำลายสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่ขวางทาง ส่วนนักธนูโครงกระดูก
นักเวทย์ และแม่มดก็เปลี่ยนเป้าหมายเล็งไปที่วีด
ลูกธนูและกระสุนเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนกระหน่ำโจมตีไปแล้ว!
วีดหลบลูกธนูและเวทย์ทีละดอกๆ
ในตอนที่เขาไม่มีเวลาให้หลบกระสุนพวกนั้น เขาก็จะปล่อยให้มันแค่ถากๆตัวเขาไป
ค่าพลังชีวิตของวีดฟื้นกลับคืนมาจนถึง 87% แล้วนี่ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเหล่านักบวช
ลูกธนูถากไหล่ขวาของท่าน
|
ท่านหลบเวทย์เพลิงได้
|
ท่านหลบแท่งน้ำแข็งแหลมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
|
บรรดาลูกธนูและเวทมนต์ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างจังเพราะว่าค่าความว่องไวที่สูงของวีดและทักษะการหลบหลีกของเขา
ถึงแม้ว่าค่าพลังชีวิตเขาจะลดไปจนถึง 0 หน่วย เขาก็จะได้รับการช่วยเหลือจากซอยูนแล้วก็ยืนหยัดสู้ต่อไปได้อีกซักพัก
“หลบได้
ฉันหลบมันได้”
วีดมองตรงไปข้างหน้าและโยนร่างของเขาออกไปอย่างกับกระสวยอวกาศ
ขณะที่ร่างของเขาพุ่งไปพลางโจมตีอุ้งปากและขาหน้าของเจ้ามังกรไปด้วย
แถมยังหลบหลีกลูกธนูและการโจมตีเวทย์นับไม่ถ้วนได้แบบฉิวเฉียด
การเคลื่อนที่อันน่าเหลือเชื่อของเขาดูราวกับได้รับการฝึกฝนมานับร้อยครั้งเพื่อที่จะให้มันออกมาได้อย่างนี้
การเคลื่อนไหวอันสง่างามของเขาล้อมรอบเอาไว้ด้วยฉากการระเบิดเป็นภาพพื้นหลังที่เกิดจากการปะทะกันของเวทย์ไฟและเวทย์น้ำแข็ง
วีดกำลังเคลื่อนที่ราวกับกับเขากำลังเต้นรำ!
“เขาหลบได้เก่งจริงๆ”
“เมื่อไรกันนะที่ความสามารถของลูกศิษย์ของพวกเราจะไปถึงระดับนั้น…”
แม้แต่เหล่านักดาบเองต่างก็ตกใจอยู่ชั่วขณะกับการต่อสู้ของวีด
การรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวของคนๆหนึ่งด้วยประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมและยังหลบหลีกลูกธนูและเวทมนต์ที่บินตรงมาหาเขาแบบต่อเนื่องอีก
ทักษะการหลบหลีกแบบนี้ถือว่าเป็นก้าวหนึ่งสู่การก้าวข้ามขีดจำกัดที่มนุษย์สามารถทำได้
แน่นอนว่าความสามารถส่วนมากนั้นเป็นของตัววีดเองแต่ก็ยังมีทักษะ ‘ศิลปะการหลบหลีก’ เป็นตัวช่วยอีกแรงด้วย เพราะว่าเป็นการโจมตีระดับต่ำเพียงการเคลื่อนที่ลื่นไหลไปตามกระแสเขาก็สามารถหลบพวกมันส่วนมากได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว
นั่นคือความสามารถของตัววีดเองบวกกับทักษะเข้าไปด้วยนั่นเอง
ท่ามกลางการโจมตีมากมายนับไม่ถ้วน
การเคลื่อนที่ของเขานั้นช่างดูสง่างาม
คงไม่มีใครลืมภาพๆนี้ไปชั่วชีวิตของพวกเขาแน่ๆ
จากมุมมองของผู้ที่มองดูพวกเขาต่างอ้าปากค้าด้วยความทึ่ง
เพียงแค่การบิดตัวเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้พวกเขาเป็นหรือตายได้ภายในสนามรบ
“งั้น มาทำทุกอย่างที่เราทำได้กันเถอะ”
วีดเปิดใช้งานทักษะด้วยมานาที่ยังเหลืออยู่ของเขา
“ทักษะแกะสลักแสงจันทร์!”
ทั่วทั้งร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงจางๆ
แสงที่คอยตอบโต้กับเวทย์ที่เป็นภัยคุกคาม มันจะคอยยืดออกไปและสกัดกั้นเวทมนต์เอาไว้
ทักษะแบบนี้กินมานาเป็นทวีคูณ
แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเขาจะตายวันนี้หรือเปล่าก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับการจ่ายค่าบัตรเครดิต!
วีดตะโกนออกมาขณะที่กำลังวิ่งย้อนกลับไปทางหอคอยกลาง
“มาสิวะ!
ฉันจะไม่ยอมแพ้ขี้ก้างอย่างแกหรอกนะ ไอ้ศพกิ้งก่าแห้งผอมกะหร่องเอ้ย!”
นั่นคือการเยาะเย้ยที่แสนเจ็บปวด!
ตรงจมูกของเจ้ามังกรกระดูกมีควันพวยพุ่งออกมา
“ข้าจะฆ่าแกให้ได้อย่างแน่นอน”
มันไม่ใช่การโจมตีของลมหายใจ
เจ้ามังกรตบตีด้วยขาหน้าของมันและพยายามที่จะกระทืบด้วยเท้าหลังของมัน
วีดหมุนตัวหลบเท้าของมันได้อย่างว่องไว
เพราะว่าขนาดของมังกรกระดูกนั้นใหญ่เกินไป
วีดจึงต้องมุ่งเน้นไปที่การหลบหลีกเพียงอย่างเดียว ในขณะเดียวกัน เขาต้องคอยหลบการโจมตีจากพวกอันเดดไม่ให้พลาดแม้แต่ครั้งเดียว
โครมมมมม!
อุ้งปากของเจ้ามังกรกระดูกเข้าไปขบอยู่ตรงที่วีดเคยอยู่
กำแพงหินส่วนหนึ่งแหลกอยู่ภายในปากของมัน ส่วนในบริเวณใกล้เคียงตรงที่วีดอยู่
ลูกธนูก็พุ่งโจมตีลงมาเป็นพรวน เวทมนต์ก็ผ่านไปทำลายที่ตรงนั้นจนสิ้นซาก
“กรรรรรรรรรรรรซ!”
มังกรกระดูกโจมตีใส่กำแพงหิน
แถมลูกธนูกับเวทย์ก็ยิงไปโดนมันอีก แต่แทนที่จะพยายามปกป้องค่าพลังชีวิตของมัน
มันกลับใส่การโจมตีไปให้กว้างอีกเพื่อจะฆ่าวีดให้ได้
ทว่าวีดมุ่งเน้นไปที่การหลบหลีกการโจมตีของมันเพียงเท่านั้น
มันดูเหมือนกับว่าเขาสามารถตายได้ทุกเมื่อถ้าหากว่าเขาประมาทเลินเล่อพยายามโจมตีตอบโต้ออกไป
ดังนั้นเขาจึงได้ถูกผูกติดอยู่กับการหลบการโจมตีและมีชีวิตรอดให้ได้
“ด้วยอำนาจแห่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
โปรดช่วยชีวิตให้กับคนที่ทุกข์ทรมาน หัตถ์แห่งการเยียวยา!”
เหล่านักบวชต่างช่วยกันผนวกค่าพลังชีวิตของวีดด้วยมนต์รักษา
นี่คือเหตุผลว่าทำไมอาชีพสายบู้ถึงได้รู้สึกซาบซึ้งและไม่ได้ตะขิดตะขวงใจเหล่านักบวชจากสถานการณ์เช่นนี้เลย
ขณะที่วีดกำลังถอยหลบกลับไปแล้วเตรียมป้องกันเอาไว้
เขาก็เตรียมตัวพร้อมเคลื่อนตัวหลบไปในเสี้ยววินาที นี่คือการต่อสู้ที่แท้จริง มันไม่ใช่การต่อสู้ที่สู้โดยเหล่าผู้เล่นเลเวลสูงๆที่จะเตรียมอุปกรณ์สวมใส่ให้ดีกว่ามอนสเตอร์ที่ไปสู้ด้วย
มันคือการต่อสู้ที่เขาต้องใช้ความสามารถทั้งหมดของเขา แล้วใช้การตัดสินใจในเสี้ยววินาที
ณ ที่ตรงนั้นที่อาจหมายถึงความเป็นความตายได้
เจ้ามังกรกระดูกสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่
การโจมตีลมหายใจมาแล้ว!
มันกำลังเตรียมตัวโจมตีครั้งสุดท้ายใส่วีดที่มันไม่สามารถจัดการได้
คนที่สามารถหลบการโจมตีได้ดีจนน่าหมั่นไส้
แต่ทว่าก่อนที่มันจะได้ทำ
กระดูกในร่างกายมันก็เริ่มแตกออกและพังทลายลงไป
ในที่สุดค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกก็ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
มันคือการโจมตีลมหายใจส่งท้ายก่อนที่มันจะตาย!
“ถ้ามันอยากทำอย่างนั้นงั้นฉันจะไม่หลบละกัน”
วีดเดินออกไปอยู่ตรงขาหน้าของเจ้ามังกรกระดูกแล้วก็กระโดดขึ้นสูงมากพอที่จะอยู่ตรงหน้าของมัน
“ทักษะวิชาดาบเฮอเรม!”
วีดขึ้นไปเหยียบตรงจมูกของมังกรกระดูกแล้วก็เล็งไปที่หน้าผากของมัน
จากนั้นก็ลงดาบใส่ ไม่ว่าค่าความคงทนของดาบเขาจะตกลงไปหรือไม่เขาก็ยังโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยความว่องไวอันสูงส่งของเขา
รอยแตกเริ่มปรากฏบนหัวของมังกรกระดูก
ทุกครั้งที่วีดโจมตีใส่มัน รอยแตกนั่นก็จะเริ่มใหญ่ขึ้น
ลมหายใจที่รวบรวมเอาไว้ภายในปากของมันก็เยอะมากขึ้นแล้วเช่นกัน
“ปลุกเสกศาสตราศักดิ์สิทธิ์!”
หนึ่งในนักบวชร่ายเวทย์เพื่อผนึกเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ลงใส่อาวุธ
รอยแตกปริแยกลามลงไปจนกระจายไปทั่วทั้งหัวของมัน!
โครมมมมมมมม!
ส่วนกระดูกตรงที่เหล่านักดาบกำลังฟันใส่อยู่ก็เริ่มแตกลงแล้วเช่นกัน
แล้วในตอนที่วีดลงดาบใส่มันอีกครั้ง พลังที่พยุงร่างกายของมังกรกระดูกเอาไว้ก็สลายหายไปในทันที
ตั้งแต่หัวลงมากระดูกของมันก็เริ่มแตกเป็นเสี่ยงจนทั่วทั้งร่างแล้วร่วงลงสู่พื้นดิน
ณ
เวลาเดียวกัน หน้าต่างข้อความก็เด้งขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าของวีด
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
|
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
|
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
|
มังกรกระดูก
ดิอาร์คแห่งป้อมปราการเวอร์โก้ได้หวนกลับคืนสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร
|
ด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 915 หน่วย
|
ค่าบารมีเพิ่มขึ้น
1
หน่วย
|
จิตวิญญาณแห่งนักสู้เพิ่มขึ้น
4
หน่วย
|
ด้วยการรับหน้าที่สำคัญในการออกล่ามังกรกระดูกที่เกี่ยวโยงกับกองทัพอันเดด
ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น 2 หน่วย
|
นี่คือความตายของมังกรกระดูก!
ท่านเลเวลถึง
400
แล้ว
|
ในที่สุดวีดก็เลเวล
400
แล้ว
ท่านได้รับ
สัญลักษณ์ภาพแห่งการทำลายล้าง(Glyph of Destroyer)
|
ท่านได้รับ
เคล็ดลับของเนโครแมนเซอร์ กลวิธีการสร้างมังกรกระดูก
|
ท่านได้รับกระดูกมังกรเน่าเปื่อยจำนวนหนึ่ง
|
ท่านได้รับหนังสือเก่าหนึ่งเล่ม
หนังสือประวัติศาสตร์โบราณของทวีปเวอร์เซลเล่มที่ 19
|
ท่านได้รับเสื้อคลุมโบราณ
|
ช่างโชคไม่ดีเท่าไรที่ของดร็อปจากมังกรกระดูกนั้นต้องถูกแบ่งให้กับผู้เข้าร่วมการต่อสู้อย่างเท่าเทียมที่ไม่เหมือนกับตอนที่ได้ของดร็อปจากอันเดดธรรมดาทั่วไป
หลังจากที่ร่างกายของมังกรกระดูกโดนทำลาย
วีดกับเหล่านักดาบก็ออกไปจากบริเวณดาดฟ้า
“ฆ่าพวกมนุษย์นั่นซะ!”
“พวกเราต้องปกป้องท่านบัลข่านจากพวกมนุษย์”
พวกอันเดดแกว่งตัวเต็มแรงเพื่อไต่ขึ้นไปบนหลังคา
บนภาคพื้นดินวีดและเหล่านักดาบจะได้เปรียบเล็กน้อยแต่ทว่าตอนนี้พวกอันเดดไต่ขึ้นมาจากทุกทิศทุกทาง
“ตอนนี้แหละทุกคน
มุ่งหน้าไปที่หอคอยกลางได้เลย พวกนักบวช วิ่งตามให้ทันด้วยล่ะครับ ถ้าพวกคุณคิดว่ากำลังจะตาย
ขอร้องละครับ ให้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายโจมตีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ไปที่มังกรกระดูกด้วย”
มันช่างเป็นคำร้องขอที่น่ากลัวสำหรับเหล่านักบวชซะจริง
แต่ทว่าวีดไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
“เราเข้าใจแล้ว
ไปกันเถอะ!”
เมื่อได้เห็นการต่อสู้นองเลือดที่วีดและเหล่านักดาบพึ่งเผชิญมา
เหล่านักบวชจึงยอมเห็นด้วยแล้วตามไปแต่โดยดี
“ไปกันเถอะ”
ขณะที่วิ่งไปบนหลังคา
วีดและพวกนักดาบก็จัดการพวกอันเดดตัวใดก็ตามที่เข้ามาขวางทางพวกเขา จากทางด้านหลัง
พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกนักบวชกำลังรักษาค่าพลังชีวิตและกำลังกายให้กับพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
“จุดหมายของเราอยู่ตรงหน้าแล้ว”
ขณะที่วิ่งไปตามหลังคา
ไม่นานก็เห็นเพียงแค่บางสิ่งสูงราว 60 เมตรใกล้ๆกับหอคอยยืนโด่เด่อยู่ตรงกลาง
มังกรกระดูกสองตัวกำลังจ้องมองมาที่เหล่าผู้บุกรุก
จากนั้นก็ปล่อยทักษะลมหายใจราวกับว่าพวกมันกำลังเฝ้ารอช่วงเวลานี้!
กระแสคลื่นลมหายใจอันทรงพลังทั้งสองพุ่งตะบันใส่พวกเขาด้วยระยะห่างพอประมาณ
มันหลอมละลายบางส่วนของกำแพงปราสาทและอาคารบางหลังไป
หรือแม้แต่กวาดล้างพวกอันเดดไปด้วยเช่นกัน
วีดและเหล่านักดาบกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทางแล้วก็ซ่อนตัวอยู่ภายในป้อม
โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาตายไป
มากแค่ พวกเขาก็รวมกลุ่มกันอีกครั้งแล้วก็ออกวิ่งไปทางหอคอยกลางต่อไป เวทมนต์หลายชนิดที่ถูกร่ายออกมาจากพวกมังกรกระดูกพุ่งมาแล้วก็ระเบิดออก
“ใช้อาคารเป็นที่กำบังแล้วก็เคลื่อนต่อไปข้างหน้า”
วีดและเหล่านักดาบทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
หลังจากที่สยายปีกออกแล้ว
มังกรกระดูกตัวหนึ่งก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเจ้าตัวนั้นกำลังจะใช้เวทมนต์
ส่วนอีกตัวก็ใช้พื้นดินเป็นที่ต่อสู้ของมัน
“เจ้าพวกมนุษย์
ฆ่าพวกมันให้หมด”
“พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปที่สถานที่อันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า”
“จงสู้เพื่อปกป้องท่านบัลข่าน!”
เมื่อลองพิจารณาถึงพวกอันเดดที่อยู่บนหลังคา
ถ้าหากพวกเขาโดนพวกมังกรกระดูกยื้อเอาไว้พวกเขาคงโดนล้อมแล้วก็โดนกำจัดแน่ๆ
วีดหยิบประติมากรรมอีกชิ้นออกมา
“ท้ายที่สุด
ฉันก็ต้องใช้มันอีกสินะ ไม่อยากใช้มันเลยจริงๆ…”
มันคือประติมากรรมที่สร้างขึ้นมาจากความชอกช้ำทางจิตใจต่างๆนานาของวีด
พายุหนาวสะบั้น: ค่าความคงทน 20/20
|
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันแสนรุนแรงที่เคยหยั่งรากลงสู่ทวีปเวอร์เซลทางตอนเหนือ
|
มันได้แสดงถึงพายุน้ำแข็งที่นำน้ำแข็งและหิมะมา
|
ผลงานประติมากรรมระดับดีเยี่ยมที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนจากเหตุการณ์ที่ประติมากรเคยประสบมา
|
มันแสดงถึงสิ่งสวยงามแต่ก็ยังมีคุณลักษณะพิเศษของธรรมชาติออกมาอยู่
|
เพราะการเพิ่มขึ้นของประชากรทางแดนเหนือ
โอกาสที่จะมีพายุหิมะนั้นต่ำมากๆ
|
คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประติมากรรมจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไป
|
คุณค่าทางศิลปะ: 854
|
คุณสมบัติ: ช่วยพัฒนาเอฟเฟคของเวทย์น้ำแข็ง 3%
|
พลังชีวิต
+200
|
เสน่ห์ +13
|
“ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติ!”
ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว
|
ค่าสถานะทางศิลปะหายไปถาวร
20
หน่วย
|
ค่าพลังชีวิตและมานาถูกใช้ไปอย่างละ
20,000
|
ทุกค่าสถานะลดลงไป
15%
เป็นเวลา 4 วัน
|
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติลดลง
|
ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติสามารถใช้ได้แค่หนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น
|
เมื่อมหาภัยพิบัติอันแสนอันตรายถูกเรียกใช้นั้นจะส่งผลให้ค่าชื่อเสียงดีหรือชื่อเสียงเสียขึ้นอยู่กับความเสียหาย
|
ท่านสามารถตายท่ามกลางภัยพิบัติได้
ฉะนั้นโปรดระวังตัวด้วย
|
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
หนาวแน่พวกอันเดด
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบหนาวจับจิต ติดยันกระดูก 555
ตอบลบเรียกภัยพิบัติมาแล้ว หึหึหึ
ตอบลบปล.ขอบคุณครัช
winter is coming.
ตอบลบมีมังกร3ตัวเหมือนกันด้วย 5555
ลบขอบคุณครับ
ตอบลบค้าง!!! ขอบคุณครับแอด
ตอบลบทักษะแรงก็จริงแต่เสียค่าสถานะไปหลายอย่างเช่นกัน คงคุ้มแหละ?ตอนนี้ต้องแข่งกับเวลาสุดๆ
ตอบลบขอบคุณครับสนุกมาห
ตอบลบเอ่อ...นักดาบคงไม่ปลิวไปด้วยนะ นักบวชอีก
ตอบลบมังกร 2ตัว จะDrop อะไรหว่าอิอิอยากรู้
ตอบลบหากองไฟได้เลยพวกกระดูกเวร ขอบคุณครับที่แปลให้อ่าน รอตอนต่อไปอยุ่ครับ
ตอบลบแมลงสาปอย่างวีคหรือจะตาย
ตอบลบทำทั้งหมดเพื่อโมราต้า ชาบูสุดๆ
ตอบลบ555 แกจะมาทุบหม้อข้าวของชั้นใช่ไหม 55โมราต้าของบักวีด
ตอบลบ