เล่ม 49
บทที่ 4 : การปลดปล่อยรัฐอิสระแห่งโซมุเรน พาร์ท 3 แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
“บุกกกกกกก!!!”
“โซมุเรนจะเป็นรัฐอิสระอีกครั้ง!”
“เราไม่เอาเผด็จการรรรร!”
มันเริ่มจากวีดเป็นตัวกระตุ้น
จากนั้นมันก็ลามต่อด้วยไฟแห่งความโกรธแค้น ตอนนี้ทุกคนเต็มไปด้วยพลังใจอันโชติช่วงชัชวาล
จำนวนผู้เล่นเข้าร่วมเพิ่มขึ้นนับหมื่นทันทีที่พวกเขามาถึงพลาซ่า
และผู้คนเริ่มรู้สึกได้ว่าพวกเขาสามารถทำมันได้
ยิ่งจะมีผู้เล่นเข้ามาสมทบกับพวกเขามากขึ้น พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งถึงหนึ่งหมื่นสามพันคนเมื่อตอนที่มาถึงบริเวณหน้าปราสาทของท่านลอร์ด
และตอนนี้มีจำนวนถึงหนึ่งหมื่นเจ็ดพันคน
ด้วยการปรากฏตัวของวีด
จำนวนผู้เล่นที่ออนไลน์หลั่งไหลเข้ามาในถนนและพลาซ่า
บางคนก็เข้ามาจากทางประตูปราสาท
“โค่นกิลด์เฮอร์มีส!”
“พวกเราคือโจ๊กหญ้า! พวกเราคือโจ๊กหญ้าโซมุเรน!”
พวกผู้เล่นที่ติดตามวีด
บ้างก็เด็ดดอกไม้หรือหญ้าจากพื้นดินและเอามาวางไว้บนผมของพวกเขา
“โจมตี!”
ปราสาทของท่านลอร์ดที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยกิลด์เฮอร์มีสเพื่อช่วยในการบริหารรัฐอิสระโซมุเรน
บัดนี้กลายเป็นเป้าหมายของการก่อกบฏ
กำแพงปราสาทสูงและแข็งแกร่ง
เพียบพร้อมด้วยเครื่องป้องกันครบครัน ที่สามารถร่ายได้แม้กระทั่งเวทย์โจมตี
จากป้อมธนู
ลูกศรขนาดกลางทรงพลังก็สาดลงมายังฝูงชน
“อย่าให้พวกมันเข้ามา
เตรียมน้ำมันร้อนและสั่งการพร้อมรบ!”
“ครับท่าน!”
ในฐานะอัศวินผู้เปี่ยมด้วยพลังผู้นำอันยอดเยี่ยม
บูชิริสั่งการทหารเพื่อป้องกันปราสาท
มันเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคบริทเท่น
กิลด์เฮอร์มีสได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างปราสาทหลังนี้ให้แข็งแกร่งเฉกเช่นป้อมปราการ
เพื่อที่พวกเขาจะได้แสดงแสนยานุภาพในการขยายอาณาเขตเข้าควบคุมภูมิภาคใกล้เคียง
เมื่อทัพองรักษ์หลวงประจำการอยู่หน้ากำแพงปราสาทและจุดยุทธศาสตร์ทั้งหลาย
พวกผู้เล่นที่อยู่ด้านนอกเริ่มตอบโต้กลับ
“เน้นเวทย์ไปที่ประตูปราสาท!”
“คนที่มีคลาสนักธนูหรือเรนเจอร์
อย่าไปอยู่แนวหน้า! ให้ปีนไปตามด้านบนสุดของอาคารจากในเมืองและยิงไปที่ปราสาทจากจุดที่คุณสามารถเข้าถึงได้!”
ผู้เล่นรัฐอิสระไม่มีสายการบังคับบัญชาที่เหมาะสม
พวกเขาแต่ละคนต่างก็ค้นหาบทบาทของตนในการต่อสู้และจัดการเพื่อเอาชนะกองกำลังที่ประจำการในแต่ละเขตของเมืองได้
วีดขึ้นหอคอยเวทย์พร้อมกับเพล
“อืม…วิวสวยจัง”
“สมแล้วที่เป็นโซมุเรน ช่างเป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองอย่างแท้จริง”
สถาปัตยกรรมสไตล์ยุคกลางที่สวยงามของเมืองดึงดูดสายตาพวกเขา หลังจากที่ประตูแห่งรอยัลโร้ดเปิดออก ความมั่งคั่งจำนวนมหาศาลที่สะสมอยู่ในเมืองนี้ได้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่หรูหรา วิหารของศาสนาต่าง ๆ รวมถึงวิหารเฟรย่าห์ ถนนพ่อค้าและอาคารสมาคมกระจายอยู่ทั่วเมืองอย่างสม่ำเสมอ คฤหาสน์ของขุนนางและเศรษฐีเพิ่มทัศนียภาพที่สวยงามเช่นกัน
“จงสู้กับศัตรู!”
“บุกเต็มกำลัง! อย่าไปถอย ปีนข้ามกำแพง!”
สามารถได้ยินเสียงจะโกนจากทั้งกิลด์เฮอร์มีสและผู้เล่นท้องถิ่นอยู่ทุกหนทุกแห่ง
เปลวเพลิงเริ่มลุกไหม้ในหลายพื้นที่ ขวันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
รัฐอิสระโซมุเรนตกอยู่ในภาวะสงคราม
เพลหันไปมองหน้าวีด
‘เพียงแค่เขาปรากฏตัว
ก็เกิดการต่อสู้ได้ถึงขนาดนี้…เขามีบทบาททรงพลังจริงๆ’
ก่อนที่ความคิดของเขาจะซับซ้อนมากเกินไป
วีดเปิดปากพูด
“ฉันคิดว่าน่าจะใกล้ได้เวลาแล้วแหละ”
“เวลาอะไร?”
“แน่นอน กองทัพอันเดด
จะมีอะไรเหมาะไปกว่าฝูงอันเดดในการต่อสู้ระดับนี้กันล่ะ?”
สนามรบที่ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมของทวีปกลางมีส่วนร่วมในการต่อสู้ ผู้พิทักษ์และกบฏเหมือนกัน
ศพของพวกเขาสามารถฟื้นคืนสภาพเป็นมนุษย์หลังจากล้มลงในการต่อสู้ ค่าประสบการณ์และความชำนาญทั้งหมดที่จะได้รับจากการอัญเชิญอันเดดระดับสูงและนำพวกเขาเข้าสู่การต่อสู้!!!
ยิ่งไปกว่านั้น หากพวกกบฏไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติในโซมุเร็นได้อีกต่อไปหลังจากนี้
พวกเขาก็จะเลือกที่จะหนีไปที่อาณาจักรอาเพ่น ทิ้งไว้เพียงความขมขื่นสำหรับบาร์ดเรย์และลาเฟย์ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดแล้ว การทำลายเชลเจี้ยมซึ่งมีการสู้รบครั้งใหญ่ก็จะไม่เอื้ออำนวยต่ออาณาจักรฮาเว่นเช่นกัน จากมุมมองระยะยาว อาณาจักรฮาเว่นจะต้อป้องกันอาณาจักรอาเพ่นทางตอนเหนือและนักรบทะเลทรายทางตอนใต้ ยิ่งไปกว่านั้น จะมีแนวรบอันตรายก่อตัวขึ้นภายในอาณาจักรเอง ในการแลกเปลี่ยนการโจมตีกับศัตรูแต่ละครั้ง อาณาจักรฮาเว่นจะต้องประสบกับความสูญเสียและกำลังทหารของพวกเขาจะอ่อนกำลังลง มันจะถูกกีดกันจากผู้เล่น ชื่อเสียง และในที่สุด จากอาณาเขตของมัน
‘ว้าว…ร้ายกาจ
ถึงว่าทำไมคุณเมแพนมักจะพูดอยู่เสมอว่าเขานั้นไม่อาจเปรียบเทียบได้กับคุณวีด
เขาไม่ได้ถ่อมตัวเลยด้วยซ้ำ’
สถานการณ์ทั้งหมดนี้
เปรียบได้กับเครื่องหยอดเหรียญของเล่น เพียงแค่เขาใส่เหรียญเข้าไป
และก็รอรับของเล่นก็แค่นั้น (การหยอดเหรียญเปรียบได้กับตัวจุดชนวน
จากนั้นก็ปล่อยให้กลไกทุกอย่างมันทำงานและรอเก็บเกี่ยว)
***
การปิดล้อมในรัฐอิสระโซมุเรน!
กองกำลังป้องกันที่นำโดยบูชีริกำลังทำงานอย่างน่าชื่นชมในการสกัดกั้นศัตรู
แต่มันทำได้เพียงยืนหยัดต่อสู้กับการโจมตีที่เข้มข้นจากผู้เล่นเท่านั้น
“จงกลับไปสู่ดินแดนที่เจ้าเคยเดิน ที่ซึ่งความมืดปกคลุม แผ่นดินที่ดำมืดและเสื่อมทราม จารึกพระบัญญัตินิรันดร์แห่งความมืดไว้ในใจของทุกสิ่งมีชีวิต ปลุกชีพอันเดด!”
วีดเรียกเดธไนท์และอสุรกายออกมา เมื่อทักษะอัญเชิญอันเดดของเขาถึงขั้นกลางเลเวล 7 ตอนนี้เขาสามารถเรียกนักรบหมาป่าจู่โจมที่ถือค้อนสงครามขนาดใหญ่ได้
"ต่อสู้ เหยียบย่ำ ข้าไม่ต้องการเครื่องเซ่นใดๆ ล้างบางพวกมันให้สิ้น!”
เขาเปลี่ยนค่าสถานะศิลปะทั้งหมดของเขาเป็นภูมิปัญญาโดยใช้ทักษะประติมากรรมวินาศ วีดได้ส่งเหล่าอันเดดที่ไม่มีที่สิ้นสุดเข้าสู่การต่อสู้ เขาเรียกนักธนูโครงกระดูกออกมาครั้งละหลายร้อยตน
สั่งให้พวกมันโจมตีจากระยะไกล แม้ว่าอาวุธปิดล้อมขนาดใหญ่จะโจมตีพวกมันโดยตรง
โครงกระดูกก็ลุกขึ้นอีกครั้ง กระดูกที่หักของพวกมันก็ประกอบเข้าด้วยกัน
“คิคิคิ เราไม่สามารถถูกฆ่าได้ เพราะเราตายไปแล้ว!”
“นักรบอมตะเรียก ใครจะยืนหยัดต่อสู้กับเรา?”
แม้แต่โครงกระดูกที่อ่อนแอก็ยังเป็นภัยคุกคามอย่างมากเมื่อพวกมันยิงธนูโดยไม่สิ้นสุด
กองกำลังป้องกันจะต้องออกไปนอกกำแพงปราสาทเพื่อจัดการกับพวกมัน
แต่ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสมักหมกมุ่นอยู่กับความปลอดภัยของตนเองเกินกว่าจะก้าวออกไป ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการ
แต่ทุกคนที่พยายามได้เสียชีวิตทันทีที่พวกเขาออกไปข้างนอก: บาฮามอร์ก
นักรบที่รับใช้วีดอยู่ที่นั่น และขณะนี้ไม่มีผู้เล่นในสถานที่นี้ ที่สามารถเทียบเคียงพลังของเขาในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว
นอกจากบาฮามอร์กแล้ว ซีซั่นแครป(มิสเตอร์ปูดองขางเรา)
ผู้ลอบสังหารกำลังเคลื่อนที่ไปในทางที่คาดเดาไม่ได้พาดผ่านสนามรบ และยังมีนักรบไพธอนและผู้เล่นระดับสูงจำนวนมากที่เก็บสะสมความแค้นต่อกิลด์เฮอร์มีสไว้
ผู้เล่นของเมืองก็ไม่เล็กเช่นกัน มีการโจมตีไปที่ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสที่ก้าวออกจากกำแพง
“เราพบเส้นทางเข้าไปในปราสาทแล้ว!”
รูถูกสร้างขึ้นจากรอยร้าวในผนัง
ในตำแหน่งที่บดบังด้วยอาคาร ขณะที่ผู้เล่นในเมืองกำลังเจาะเข้าไป
การปิดล้อมรัฐอิสระโซมุเร็นก็มาถึงจุดไคลแมกซ์ ในขณะที่กองกำลังป้องกันในปราสาทของลอร์ดเริ่มหมดแรงและมีจำนวนน้อยลง
ขนาดของกองกำลังกบฏก็เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเท่านั้น
ช่วงเวลาที่สำคัญคือเมื่อวีดปรากฏตัวบนท้องฟ้าด้วยปีกแห่งแสง
กู่ก้องด้วยราชสีห์คำราม
“เราต้องให้อภัยผู้ที่ยอมจำนนต่อเรา!”
“…?”
จู่ๆก็พูดขึ้นมาซะอย่างนั้น จากปากของวีดที่อัญเชิญอันเดดและกระทืบกองกำลังป้องกันและผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสซะจนเละเทะ
ก็มีคำแนะนำที่คาดไม่ถึง
“นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้กับคนไม่กี่คนเหล่านี้ เราต้องต่อสู้เพื่อฟื้นฟูความยุติธรรมที่หายไปจากทวีปเวอร์เซลล์!”
แม้แต่เด็กประถมก็ยังรู้ดีกว่าที่จะเชื่อสิ่งนี้:
ผู้คนอยู่ในยุคที่เด็ก ๆ
ต้องเปิดโทรศัพท์เท่านั้นเพื่อให้รู้ว่าโลกภายนอกนั้นไร้ความปรานีและอันตรายเพียงใด
“สู้ เมื่อเราต้องสู้ แต่ถ้าใครบอกว่าพวกเขายอมแพ้ก็ให้อภัยพวกเขา การตอบโต้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะไม่ส่งผลดีต่อโลกของเรา!”
แนวคิดเรื่องความยุติธรรมของวีด!
มีคนไม่มากที่เข้าใจเรื่องนี้
แต่เป็นความคิดที่น่าดึงดูดสำหรับผู้เล่นของกิลด์เฮอร์มีสที่คาดว่าจะถูกสังหารหมู่หรือถูกขังอยู่ในปราสาทของลอร์ดหลังจากที่กำแพงถูกทำลาย
'พวกเขาจะปล่อยให้เรามีชีวิตอยู่ถ้าเรายอมจำนน?'
จิตใจของพวกเขาถูกฉีกขาดระหว่างคุณค่าที่ขัดแย้งกันสองประการ:
ประโยชน์ของการหลีกเลี่ยงความตายครั้งนี้และข้อเสียของการละทิ้งกิลด์เฮอร์มีส แน่นอนว่าอย่างหลังมักจะยิ่งใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก แต่สถานการณ์จะแตกต่างออกไปเล็กน้อยสำหรับผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคบริทเท่น พวกเขาคือผู้เล่นที่เข้าร่วมกิลด์หลังจากที่อาณาจักรฮาเว่นเข้ายึดครองทวีปกลาง เดิมทีพวกเขาเป็นคนของกิลด์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ แต่ได้แปรพักตร์เมื่อความแข็งแกร่งของพวกเขาได้รับการยอมรับจากกิลด์เฮอร์มีส
'ฉันอยากไปเก็บเลเวลในภูมิภาคนี้…จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวีดปลดปล่อยพื้นที่ทั้งหมดรอบ ๆ ที่นี่?'
จากนั้นพวกเขาอาจถูกบังคับให้ละทิ้งบ้านเกิดและย้ายไปยังภูมิภาคที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกิลด์เฮอร์มีส ในทางกลับกัน พวกเขาอาจจะต้องย้ายไปที่อาณาจักรอาเพ่น
แต่อย่างน้อยนั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องตายที่นั่น นอกจากนี้
หากพวกเขายังมีชีวิตอยู่
ก็อาจมีโอกาสที่จะลดการสูญเสียโดยการขายทรัพย์สินของตนให้เหลือน้อยที่สุด
ดังนั้น ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด
ด้วยคำพูดเพียงคำเดียวของวีด ผู้เล่นก็เริ่มวางอาวุธลงกับพื้น
“ฉันยอมแพ้!”
“เราจะไม่สู้อีกต่อไปแล้ว!”
ด้วยการละทิ้งของผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีส
กองกำลังป้องกันของปราสาทก็พังทลายลงในเวลาไม่นาน มีผู้เล่นประมาณหนึ่งในสามที่เลือกต่อสู้จนจบ แต่ที่เหลือเลือกทิ้งกิลด์เฮอร์มีสไว้เป็นราคาสำหรับชีวิตของพวกเขา
***
ทราคิสผู้พิชิต!
แม้ในขณะที่เป็นผู้นำกองทัพของกองทัพที่สาม
เขาก็ไม่สามารถคลายความตึงเครียดได้
'ฉันจะต้องต่อสู้กับวีด...ฉันไม่รู้ว่าคราวนี้เขาจะมีเรื่องไม่คาดฝันอะไรอีกบ้าง...แต่ถึงอย่างนั้น
มันจะเป็นชัยชนะของฉัน'
การยอมให้ศัตรูยึดเชลเจี้ยมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของพวกเขา..
ตอนนี้ พวกเขากำลังถล่มเมืองจากภายนอกด้วยการโหมโจมตีอย่างหนักหน่วง
โดยใช้อาวุธโจมตีประสิทธิภาพสูงจำนวนมากที่พวกเขานำมาจากอาณาจักรฮาเว่น การปรากฏตัวของอัศวินเหล็กเพิ่มความมั่นใจของพวกเขามากยิ่งขึ้น
และกลยุทธ์คลื่นมนุษย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้เล่นทางเหนือก็จะถูกจำกัดอย่างรุนแรงในสถานที่นี้เช่นกัน
'ฉันควรจะรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาส่งฉันมารับผิดชอบการต่อสู้ หลังจากวันนี้
ฉันจะได้รับชื่อเสียงอย่างมากจากการเอาชนะวีดและอาณาจักรอาร์เพนของเขา'
มันเป็นโอกาสที่จะนำหน้าผู้เล่นที่โดดเด่นคนอื่นๆของกิลด์เฮอร์มีสไปหนึ่งก้าว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำลายกำแพงปราสาทและทำลายล้างเมืองทั้งเมือง
เขาได้พัฒนาอาวุธปิดล้อมทีละน้อย
ขณะที่ทราคิสมองดูสมรภูมิรบอย่างน่าทึ่ง
ทันเมล สมาชิกอีกคนหนึ่งของ กิลด์เฮอร์มีสเรียกเขา
“ผู้บัญชาการกองพัน!”
"อะไร? ฉันกำลังดำเนินการต่อสู้อยู่ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญ
ฉันต้องไม่เสียสมาธิแม้แต่วินาทีเดียว-“
"มันคือ! คุณได้ยินไหมว่าวีดปรากฏตัวในโซมุเร็น?”
"นายพูดว่าอะไรนะ?"
ขณะดำเนินการปิดล้อม ทราคิสได้ข่าวว่าวีดปรากฏตัวในโซมุเร็น เขาไม่เชื่อในตอนแรก แต่ไม่นานนักจากลูกบอลคริสตัลของเขายืนยันว่าสถานีออกอากาศได้ย้ายสตรีมสดไปยังโซมุเร็นด้วย
ความตึงเครียดของเขาซึ่งคมพอๆ
กับปลายดาบเมื่อสักครู่นี้ หายไปอย่างนั้น อย่างไม่ดราม่ามาก
'วีดละทิ้งเชลเจี้ยม จากนั้นที่นี่…ก็เหลือแต่ผู้เล่นทางเหนือบางคนเท่านั้น'
และแม้แต่ผู้เล่นทางเหนือเหล่านั้นก็ยังมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากพวกเขามีเลเวลต่ำกว่า 100 เช่นกัน
พวกเขาเป็นเพียงศัตรูบางส่วนที่สามารถเอาชนะได้โดยไม่มีการท้าทายใดๆ
'การต่อสู้จะง่ายเพียงใด
เมื่อเทียบกับสมัยนั้นเมื่ออาณาจักรฮาเว่นพิชิตทวีปกลาง!'
ทราคิสสั่งให้กองทัพเปิดการโจมตีเต็มรูปแบบ
“ทำลายมันให้หมด มันจะเป็นความอัปยศที่จะลากสงครามครั้งนี้จนถึงคืนนี้”
อาวุธปิดล้อมรุกล้ำหน้า
พ่นไฟและน้ำแข็ง ทั้งอัศวินเหล็กกล้าและกองทัพองครักษ์รุดหน้าสังหารผู้เล่นทางเหนือ
“โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!”
"มันยังไม่จบ; มาต่อสู้ให้ถึงที่สุดกันเถอะ!”
ผู้เล่นทางเหนือต่อสู้อย่างกล้าหาญและเสียชีวิต
พลังทางทหารที่ไม่มีใครเทียบได้! กองทัพที่ 3 ภายใต้การบังคับบัญชาของทราคิสได้ครอบงำผู้เล่นที่รวมตัวกันในเชลเจี้ยมด้วยความแข็งแกร่ง ในบางครั้งมีผู้เล่นที่ยอมจำนน แต่ส่วนใหญ่เสียชีวิตในการต่อสู้
ตามที่พวกเขาวางแผนไว้ กองทัพที่สามสามารถสรุปการโจมตีก่อนพลบค่ำ เมืองนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง และผู้เล่นจำนวนมากที่รวมตัวกันถูกทำลายล้าง ในทางกลับกัน มีผู้บาดเจ็บล้มตายน้อยกว่า 20,000 คนในฝั่งของกองทัพอาณาจักรฮาเว่น มันเป็นชัยชนะอย่างท่วมท้น
***
ขณะดูแลร้าน
เมแพนดูการต่อสู้ของเชลเจี้ยมและโซมุเร็น
“ฮา! นั่นคือคุณวีดของเรา!”
เขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเกรงใจ การแทงข้างหลังของวีดมีมุมที่สมบูรณ์แบบ
การเจาะในปริมาณที่เหมาะสมและการวางตำแหน่งที่ละเอียดอ่อน
ไม่ต้องพูดถึงมาตรการหลังที่ยอดเยี่ยม
อมเงินเมีย ลูกพี่ลูกน้องของเมแพน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เขาแนะนำรอยัลโร้ดให้รู้จัก
กล่าวว่า:
“เอาเป็นว่าพี่”
"ว่าไง?"
“ทำไมท่านวีดถึงปล่อยให้คนเหล่านั้นมีชีวิตอยู่? ถ้าเขาเป็นอย่างที่พี่พูด เขาจะล้างบางพวกเขาทั้งหมดเพื่อค่าประสบการณ์และความชำนาญของทักษะไม่ใช่หรือ?”
“นายกำลังตัดสินเขาเพียงแค่ผิวเผิน”
เมแพนลูบหน้าท้องใหญ่ๆของเขาเลียนแบบรอยยิ้มชั่วร้ายที่เขาได้เรียนรู้จากวีด
“ค่าประสบการณ์และความชำนาญเป็นเพียงประโยชน์ครั้งเดียว”
“นั่นก็จริง”
“คุณวีดสามารถขยายอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของเขาโดยจบการต่อสู้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว
และเขายังแสดงความเมตตาอีกด้วย นั่นจะมีผลกระทบทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์”
“แต่นั่นไม่ใช่ตัวตนปกติของเขา มันคุ้มกับผลประโยชน์ที่เขายอมเสียไปจริงหรือ?”
อมเงินเมีย เอียงศีรษะไปข้างหนึ่งด้วยความสับสน ตัดสินโดยบุคลิกของวีดที่เขาเคยได้ยินมามากขนาดนี้ ไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ
ที่เขาจะทำตามมโนธรรมของเขาเมื่อทำการตัดสินใจ พลาดผลประโยชน์บางอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขา
เพียงเพื่อคุณค่าที่คลุมเครือและเป็นนามธรรม? นั่นเป็นแง่มุมที่น่าประหลาดใจมากสำหรับเขาที่อมเงินเมียกำลังพิจารณาถึงความประทับใจของเขาที่มีต่อวีด
'ฉันจะต้องจากเขาไปถ้าเขาไม่คุ้มที่ฉันจะเชื่อฟัง'
เมแพนไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มที่สั่นเทาได้ราวกับว่าเขารู้ดีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“พวกมันจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับท่านวีด”
"อะไรนะ?"
“นายคิดว่ากิลด์เฮอร์มีสจะยอมรับพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะกลับมาหรือไม่? พวกเขาจะไปออกล่า ทำภารกิจให้สำเร็จ
และเข้าร่วมการต่อสู้ทั้งหมดเพื่ออาณาจักรอาเพ่นจากนี้ไป”
“แต่ถึงกระนั้น
เขาก็ละทิ้งศักยภาพในการเติบโตของเขาเอง! ขาดทุนขนาดนี้!”
“ฮ่าๆ”
เมแพนรู้สึกพอใจมากเมื่อเห็นความกระหายหากำไรของลูกพี่ลูกน้อง คุณจะไม่สร้างพ่อค้าที่ดีเว้นแต่คุณจะมีความทะเยอทะยานเช่นนั้น
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณวีดสมควรได้รับความเคารพจากผู้คน”
"อะไรกัน?"
“พวกเขาเป็นเพียงผู้ล้มเหลว
มีจำนวนไม่มากนัก ถ้าเขากำจัดคนพวกนั้นทั้งหมดด้วยอันเดดของเขา
แน่นอนว่าจะต้องมีคนในหมู่ผู้เล่นทางเหนือที่อิจฉาพลังของเขา”
"อา…"
“นั่นคือกฎที่นายต้องจำไว้เมื่อนายได้รับอาหารฟรี
นายจะไม่กินอาหารมื้อสุดท้ายจนหมด เกรงว่านายจะสูญเสียความปรารถนาดีจากเจ้าบ้าน จากนั้นนายจะได้รับอาหารฟรีอีกมื้อหนึ่ง”
จบเล่ม 49
บทที่ 4 พาร์ท 3
ผู้แปล แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
thank you so much
ตอบลบ