เล่ม 41 ตอนที่ 6: สงครามที่เป็นไปไม่ได้ (A War
that isn’t Possible) แปลโดย RastyMay
ดราก้าเป็นผู้บัญชาการนำทัพของอาณาจักรฮาเว่น
“แต่พวกกัปตันนำทัพได้ไม่ดีเลย
การต่อสู้ยืดเยื้อแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ”
การต่อต้านจากผู้เล่นทางเหนือมันไม่ได้รุนแรง
เพราะพวกเขายังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ และอัศวินก็อ่อนแอเกินไป
ถ้าหากพวกเขามีผู้นำที่แข็งแกร่งก็อาจจะเกิดผลลัพธ์บางอย่างก็ได้
วีดทำให้เกิดภัยพิบัติและเฮสไทเกอร์ก็ช่วยเหลือเขา
หากพวกเขามีความสามารถมันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องใช้มัน
หากเขามีความสามารถในการทำลายล้างสูงเขาก็จะต้องใช้ประโยชน์จากมันในทุกครั้งที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน
ส่วนใหญ่ดราก้าเอาแต่บ่นกลุ่มผู้นำของกองทัพอาณาจักรฮาเว่น
“ผู้บัญชาการไร้อำนาจงั้นเหรอ
อัศวินและผู้บัญชาการเป็นอะไรกันล่ะ?
ลาฟาเย่และกิลด์เฮอร์มีสมีแนวโน้มที่จะใช้กลยุทธ์ไร้พ่าย
โดยใช้กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดถึง 1.7
ล้านคน
เพราะกระบวนทัพและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของกองทหารพวกนั้น
ทำให้พวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูได้มากมาย
วีดและเฮสไทเกอร์มุ่งหน้าเข้าไปในกองทัพอาณาจักรฮาเว่น
และต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อน พวกเขาฆ่าผู้เล่นของกิลด์เฮอร์มีสไปมาก แต่กองทัพของอาณาจักรฮาเว่นก็ยังไม่แตกพ่าย
“ศัตรูตั้งใจจะสู้ระยะประชิดเพื่อจะล้มเรา”
ดราก้าจัดประชุม
เขาไม่ชอบสงครามแบบนี้ตั้งแต่ต้น
ผู้เล่นทางเหนือมีกำลังที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ และก็ยังคงเดินหน้าต่อไป
จากมุมมองของผู้บัญชาการการต่อสู้ครั้งนี้
มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้า ผู้บัญชาการที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ในสงคราม
ก็เป็นเหมือนหุ่นไล่กายืนเด่ไม่ทำอะไรนั่นเอง
“ขบวนทัพแบบป้องกันไม่สามารถสกัดกั้นศัตรูที่กำลังเข้ามาได้เลยครับ”
ในกรณีสงครามในทวีปกลางนั้น
บางคราที่พวกเขาต้องต่อสู้กับคนจำนวนมากๆโดยใช้ภูมิประเทศ
หรือผู้บัญชาการจะใช้ประโยชน์จากเหล่าอัศวินเพื่อต่อกรในสถานการณ์ต่าง ๆ
การเป็นผู้นำของเหล่าผู้บัญชาการกองทัพพิชิตแดนเหนือนั้นมันเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ที่น่าภูมิใจ
กองทัพขนาดใหญ่เอาแต่หลบ และไม่กล้าที่จะต่อสู้
ในฐานะผู้บัญชาการทำให้ดราก้าไม่พอใจอย่างมากต่อความภาคภูมิใจและเกียรติของเขา
เขาอารมณ์เสียก็จริง แต่ลึกๆแล้วเขามีความโลภในใจมากกว่า
กองทัพที่แข็งแกร่งที่ไม่สามารถล้มได้
ผู้บัญชาการจึงต้องใช้กลยุทธ์ที่รุนแรงมากขึ้นเพื่อเอาชนะ!
“ถึงมันจะเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะ
แต่…การต่อสู้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”
ดราก้าซิบคุยกับบันบาโร ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังที่
2 พวกเขาเป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานกัน
- สถานการณ์เป็นไง?
- ที่แนวหน้า ผู้เล่นทางเหนือเข้ามาอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะ ชาววิหคก็โจมตีทั้งแนวหน้าและแนวหลัง
- ความเสียหายล่ะ?
- เราเสียทหารไปเยอะจากภัยพิบัติ และขบวนทัพก็แตก เรากำลังค่อยๆทยอยฟื้นฟู
ตอนนี้ไม่มีปัญหาในการสกัดกั้นพวกมัน
- การต่อสู้…เกิดอะไรขึ้น?
- นายถามทำไม?
- ก็แค่ถามน่า
- โดยปกติแล้วมันจะต้องเป็นชัยชนะของเรา นายก็รู้ว่าเราจะแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้
และดูเหมือนว่าเราจะต้องสู้กันทั้งวันทั้งคืน เพราะการต้านทานของทางเหนือนั้นแข็งแกร่ง
แถมอาวุธปิดล้อมก็โดนทำลายอีก ยุ่งยากชะมัด
แล้วดราก้าก็ซิบหาปอร์คอล ผู้บัญชาการกองพลที่
3
- สถานการณ์ปัจจุบันล่ะ?
- นักธนูและนักเวทย์กำลังพยายามฟื้นตัวอยู่ แต่…ศัตรูลงมาจากท้องฟ้า
พวกชาววิหคหิ้วคนมาด้วย มันน่าปวดหัวจริงๆ
- วีดและเฮสไทเกอร์ล่ะ?
- พวกเขาโดนล้อมอยู่ มีโอกาสที่จะโจมตีเวทย์มนตร์ไปทางพวกเขาอยู่นะ
แต่ไม่รับประกันหรอกนะว่า พวกเขาจะไม่ฝ่าออกไป ที่แน่ๆพวกนั้นจะต้องเหนื่อยล้าอย่างแน่นอน
ดราก้าคิดอยู่พักหนึ่ง
‘ผู้เล่นมากมายรวมตัวกันเพื่อปกป้องแดนเหนือ
แถมพวกเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้ตลอดทั้งคืนจนกว่าพวกเขาจะตายอีก’
สงครามขนาดใหญ่ในทวีปเวอร์เซลล์
แล้ววีดก็ได้ปรากฏตัวออกมาเพื่อตัดสินชะตากรรมของทวีปทางเหนือ
ดวงตาของดราก้าเปล่งประกาย
“ระบบปัจจุบันของอาณาจักรฮาเว่นนั้นทรงพลัง
แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องสละไพ่ ชัยชนะที่แท้จริงนั้นจะต้องชนะอย่างสมบูรณ์แบบในนามของดราก้า”
ดราก้าพูดในช่องแชทกิลด์สำหรับผู้บัญชาการของอาณาจักรฮาเว่น
ดราก้า: ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพ ผมขอสั่งให้ผู้บัญชาการทุกคน
แทนที่จะเอาแต่รอ ให้แต่ละกองกำลังเดินหน้าไปและบดขยี้ศัตรู!
อินสเตรียม: นายจริงจังใช่มั้ยดราก้า? มันต่างจากกลยุทธ์ที่ผู้นำตัดสินใจเลยนะ
บัลบาโร: เราก็ไม่มีปัญหากับการต่อสู้ในปัจจุบันนี่ ทำไมต้องทิ้งแผนนี้ไปล่ะ?
ดราก้า: ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง นี่เป็นคำสั่งของผม
แต่ผมจะไม่บังคับพวกคุณให้ออกไป หากพวกคุณต้องการที่จะชนะการต่อสู้แบบทอดกระทะน้อยๆ
ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่ง แต่ถ้าหากพวกคุณต้องการเป็นฮีโร่ เรามาเริ่มสงครามกันเถอะ!
“กองกำลังที่ 1 เดินทัพ!”
กองกำลังที่ 1 เริ่มคลายขบวนแนวป้องกันและเดินไปข้างหน้า พวกเขาแสดงความขับแค้นด้วยการพุ่งไปยังผู้เล่นทางเหนือ
อัศวิน, ทหารม้า และทหารราบที่เดินตามหลัง
“เอาเลย ฆ่าพวกมัน!"
ดราก้าเป็นผู้บัญชาการที่มีความสามารถ
และมีกำลังพลที่โดดเด่นติดตามเขา เขามีความสามารถในการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสามารถควบคุมกองทัพพิชิตแดนเหนือได้
“ดราก้ากำลังออกไป…ฉันเองก็จะตามออกไปด้วย กองกำลังที่ 2 เดินทัพ!”
บัลบาโรเริ่มเคลื่อนทัพของเขา
กองทหาร 10,000 หรือ 30,000 คนเริ่มบุกอย่างรวดเร็ว กองทหารแต่ละคนมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการ
กองกำลังของบันบาโรนั้นคล่องแคล่วว่องไว
เขาได้รับความสามารถพิเศษที่ผ่านประสบการณ์สงครามนั่นก็คือ
‘ก้าวย่างรวดเร็ว’ และมอบให้กองทัพของเขา
ผู้บัญชาการเพิ่มความเร็วในการเดินทัพ 17%
และลดความเหนื่อยล้าลง 62%
หน่วยที่ 15 ของกองกำลังที่ 2 ก็เริ่มทำการปราบปรามผู้เล่นทางเหนือ
กองกำลังที่ 2 เคลื่อนทัพออกไปเพื่อฆ่าล้างศัตรู
พวกเขาเป็นเหมือนเต่าที่กำลังผ่อนคลาย แล้วอยู่ดีๆก็ตัดสินใจที่จะฆ่าศัตรูเหมือนพวกสัตว์ร้าย
กองกำลังที่ 3,
4, 5 และ 6 ก็เริ่มเคลื่อนทัพ
ผู้บัญชาการแต่ละคนเข้าใจอารมณ์ของดราก้าเป็นอย่างดี
เพราะพวกเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกันหลังจากได้ยินคำสั่ง
ในสถานการณ์การต่อสู้ในปัจจุบันมันสมควรที่จะตอบโต้บ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น
“เขาต้องการที่จะเสียบธงพิชิตแดนเหนือด้วยมือของเขาเองใช่มั้ย?
มันก็ถูกนะในฐานะผู้บัญชาการ ไม่มีอะไรที่จะโลภเกินไปในสงคราม”
“ผิดคาดเลยแหะ ยิ่งไปกว่านั้นเราจะไม่โดนตำหนิเพราะนี่เป็นคำสั่งของดราก้า
และเป้าหมายของเราคือฆ่าวีด และยึดพระราชวังโลกา”
“ถ้าไม่สามารถควบคุมวิถีสงครามได้ละก็
ตอนนั้นมันก็จะกลายเป็นการเผชิญหน้ากันใช่มั้ยล่ะ? กองกำลังที่
5 ไปฆ่าศัตรูให้ได้มากที่สุด โจมตีเต็มกำลัง!”
“กองกำลังที่ 6 มีจำนวนนักเวทย์ค่อนข้างเยอะ ถึงเราจะอ่อนแอในการต่อสู้ตรงๆ …เราจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเหล่าอัศวินที่ฝึกใช้เวทมนตร์”
กองทัพอาณาจักรฮาเว่นกำลังเคลื่อนตัวอย่างน่าทึ่ง
พวกเขาทั้งหมดพุ่งเข้าหาผู้เล่นทางเหนือและพระราชวังโลกา
=========================================
“ต้องอย่างนี้ซิ สมกับความพยายามที่ฝึกทหารในกองทัพมาหลายปีในรอยัลโร้ด”
“การเอาชนะปัญหานี่แหละถึงจะสนุก
ผ่อนคลายหน่อย กองกำลังทางทหารของอาณาจักรฮาเว่นที่ไร้เทียมทานกับสิ่งที่แสดงออกมานี้...
มันก็เพียงพอที่จะพิชิตทวีปได้”
บาร์ดเรย์,
ลาฟาเย่ และกลุ่มผู้นำหลักของกิลด์เฮอร์มีส
อยู่ที่พระราชวังอิมพีเรียล ในขณะที่สงครามแดนเหนือกำลังปะทุขึ้น
วิดีโอถูกส่งผ่านด้วยเวทย์มนตร์แสดงบนผนังทั้งหมด
ทำให้พวกเขาได้เห็นวิดีโอจากมุมมองของผู้บัญชาการ รวมทั้งวิดีโอที่ออกอากาศโดยสถานีอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอีก 24 คนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิลด์เฮอร์มีส แต่พวกเขาเป็นกลุ่มนายทุนชั้นแนวหน้าของโลก
พวกเขาประชุมกับกิลด์เฮอร์มีสในอาณาจักรฮาเว่น
เพื่อตัดสินใจในรายละเอียดบางอย่าง มีขั้นตอนการปฏิบัติที่เหลืออีกหลายอย่าง
แต่การลงทุนนั้นได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับเชิญให้ไปที่พระราชวังเพื่อดูสงครามแดนเหนือ
คนแคระหน้าแดงคนหนึ่งได้ถามขึ้น
“ผมประหลาดใจกับทหารของอาณาจักรฮาเว่นจริงๆ…มีเคล็ดลับพิเศษอะไรเหรอครับ ที่ทำให้แข็งแกร่งในรอยัลโร้ด”
บาร์ดเรย์หัวเราะเบาๆ
“ก็แค่ต่อสู้ให้ดี มันยากที่จะอธิบายด้วยคำพูดครับ”
“คำตอบดูคลุมเครือไปหน่อยนะครับ
แต่มันก็สมเหตุสมผล ที่ว่าคุณจะกลายเป็นผู้ปกครองทวีปที่แข็งแกร่ง และทรงอิทธิพลที่สุดด้วยเหตุผลนี้”
“ด้วยการสนับสนุนของคุณ ทำให้กิลด์เฮอร์มีสไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของพวกเรา
ถ้าคุณชอบ ผมจะให้อัศวินอาณาจักรฮาเว่นพาคุณฝึกซักสองสามครั้ง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมดีใจที่ได้รับข้อเสนอนั้นจากคุณ”
เขาเป็นคนร่ำรวยจากตะวันออกกลาง เขามีอาชีพนักรบ
ข้อดีของคนแคระที่มีทักษะช่างตีเหล็กนั้นก็คือ สามารถสร้างไอเทมต่างๆ ได้จำนวนมาก
นักธุรกิจส่วนใหญ่จะรู้จักรอยัลโร้ด
ทางทีวีก็มีการนำเสนอข่าวสารรายวันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในรอยัลโร้ด
พวกเขาบางคนก็ยังไม่ค่อยวางใจกับพวกเทคโนโลยีล้ำสมัยเท่าไหร่ แต่พวกลูกๆของพวกเขาเป็นคนแนะนำรอยัลโร้ดให้
‘การลงทุนครั้งนี้จะทำให้เรามีศักยภาพไร้ขีดจำกัดในอนาคต’
‘โลกใหม่ ที่จะทำให้ฉันมีอำนาจและความสนใจ’
‘ต้องพัฒนารีสอร์ตให้มากกว่านี้...
ถ้าฉันมีทุนและที่ดินสร้างรีสอร์ตในอาณาจักรฮาเว่นละก็ กำไรก็จะไหลมาเทมา จะมีคนมาท่องเที่ยวมากมาย
แม้ว่าการเมือง, การออกใบอนุญาตและการสร้างจะเป็นเรื่องยาก แต่ฉันมีทั้งเวลาและก็เงิน
ฉันจะเปลี่ยนทวีปนี้ให้เป็นสวรรค์บนดินเลยคอยดู’
คนรวยจะได้รับส่วนแบ่งจากการลงทุนของพวกเขา
บาร์ดเรย์และผู้นำคนอื่นๆ ก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน
นักลงทุนร่ำรวยได้รับรายงานเป็นประจำ
ว่าธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
“ดูดีๆ มันก็เหมือนกับการทำอาหารจริงๆเลยนะเนี่ย”
“คุณอยากลองชิมอาหารที่มาจากพระราชวังอิมพีเรียลมั้ยครับ?”
พวกเขาดูสถานการณ์สนามรบจากระยะไกลขณะที่มีงานเลี้ยงอันเลิศหรูอลังการ
‘ในฐานะลูกผู้ชาย ฉันอยากมีชีวิตแบบนี้’
บาร์ดเรย์มองเหล่าผู้ที่มีอำนาจรวมตัวกันในห้องนี้
และซึมซับบรรยากาศนี้ คนที่มีเงินและมีอิทธิพลในโลกแห่งความเป็นจริงล้วนต่างเคารพและเอาเงินมาลงทุนกับเขา
‘ฉันไม่ใช่คนธรรมดาอีกแล้ว
ในฐานะจักรพรรดิแห่งอาณาจักรฮาเว่น ฉันจะเขียนตำนานอมตะขึ้นมาใหม่’
เขามีอิทธิพลทั้งในโลกเสมือนจริงและในชีวิตจริงอีกด้วย
บาร์ดเรย์ และลาฟาเย่สบตากัน
‘เราประสบความสำเร็จอย่างมาก’
‘ในอนาคตกำไรทั้งหมดจะเป็นของเรา’
ถ้าอาณาจักรฮาเว่นทะยานขึ้นสู่จุดสุดยอดแห่งความแข็งแกร่งเมื่อไหร่
พวกเขาก็จะครองรอยัลโร้ดตราบนานเท่านาน
ลาฟาเย่เกลียดชังผู้เล่นทางเหนือที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องอาณาจักรอาร์เพน
‘ผลกำไรในรอยัลโร้ดของเราจะมากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าพวกเขากลายเป็นพลเมืองของอาณาจักรฮาเว่น ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม’
ความปรารถนาที่จะครอบครองทวีปเวอร์เซลล์ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ได้เห็นข่าวรอยัลโร้ด
เมื่อผู้เล่นจำนวนมากเข้าสู่รอยัลโร้ด ความนิยมก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเทศกาลวันหยุดผู้คนก็หลั่งไหลเข้าสู่รอยัลโร้ด
เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองด้วยแมกไม้และใบหญ้า
นี่คืออีกโลกหนึ่งและเพื่อที่จะกลายเป็นผู้ครอบครองโลกเสมือนจริงแห่งนี้
ทหารของอาณาจักรฮาเว่นก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรง กองทัพกระจายตัวเพื่อเผด็จศึกผู้เล่นทางเหนือ
“อันที่จริง…มันให้ความรู้สึกเหมือนสงครามยุคกลางเลยนะ มีทั้งนักเวทย์และอัศวินจำนวนมาก
ผมน่ะสนใจในสงครามมาตั้งแต่เด็กแล้ว และผมก็สะสมอาวุธสงครามเป็นงานอดิเรกอีกด้วย
แต่ตอนนี้มันก็ล้าสมัยไปแล้วถ้าเทียบกับรอยัลโร้ด”
ลาฟาเย่หัวเราะเบาๆ
กับคำพูดของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกัน
“ถ้าคุณเป็นขุนนาง คุณก็สั่งอัศวินได้”
“มันคงจะยุ่งยากซับซ้อนที่จะครอบครองรอยัลโร้ด
ผมจึงอยากออกไปผจญภัย ในโลกเสมือนจริงนี้ทำให้เลือดในกายผมมันเดือดพล่านเหมือนสมัยหนุ่มๆ...
”
“คุณสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่คุณต้องการ”
ลาฟาเย่ยิ้มขณะจิบไวน์
ถึงอย่างนั้นเหล่าผู้นำที่ดูวิดีโอบนผนังต่างก็มีอาการหงุดหงิด
- เป็นไปได้ไง?
- มันเป็นการตัดสินใจของผู้บัญชาการดราก้า
- เราอนุญาตให้ทำการอุกอาจแบบนั้นด้วยเหรอ?
- ไม่น่ะซิ ตอนนี้มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา
เหล่าผู้นำปฏิเสธวิธีการนี้ เมื่อตอนพิจารณาวิธีการพิชิตแดนเหนือ
เหล่าผู้บัญชาการนั้นจะได้รับอนุญาตให้มีอิสระในสนามรบ แต่ถ้ามันไม่ใช่สถานการณ์เร่งด่วนพวกเขาจะต้องขออนุญาตก่อน
กองทัพพิชิตแดนเหนือมีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นเหล่าผู้นำต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาควบคุมมันได้
ซึ่งมันจะไปสู่ชัยชนะโดยสมบูรณ์
เหล่านักลงทุนถามขึ้น
“โฮ่ ผมสงสัยจริงๆ ว่ามันจะรู้สึกยังไงที่ได้มีส่วนร่วมในสงคราม?”
“คุณคงไม่ตายภายในไม่กี่นาทีหรอกใช่มั้ย?”
“ผมจะต้องฝึกร่างกายเพื่อทำสงครามซะแล้วล่ะ”
จากมุมมองของพวกเขา กองทัพพิชิตแดนเหนือได้เปลี่ยนไปสู่ยุทธวิธีที่ดุดัน
อัศวินและพลทหารได้ออกไปปะทะกับผู้เล่น
ลาฟาเย่กลับมาดูวิดีโออีกครั้ง
‘วิธีการที่แตกต่าง ก็ไม่เลวนะที่คิดจะเอาชนะ
หนทางที่จะนำไปสู่ชัยชนะไม่ได้มีเพียงทางเดียว มันจะดีกว่านี้ถ้าเราได้แสดงพลังการต่อสู้ในช่วงเวลาแห่งชัยชนะ’
กองกำลังที่ 1,
3 และ 4 มุ่งหน้าไปยังพระราชวังโลกา เพื่อปักธงชัยของอาณาจักรฮาเว่น
การพิชิตดินแดนด้วยผู้เล่นจำนวนมากนั้น
มันจะดูดีถ้าทำลายพระราชวังโลกาและผู้เล่นทางเหนือ
ลาฟาเย่และเหล่าผู้นำได้วางแผนขบวนทัพแบบป้องกันเพราะคู่ต่อสู้คือวีด
แต่ก็มันมีข้อเสียเล็กน้อยนั่นคือ ผู้เล่นทางเหนือนั้นสู้ไม่ยอมถอย
ถึงแม้จะมีการเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
พวกเขาก็จะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด ถ้ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับวีด
เป็นเพราะพวกเขาจะได้ปกครองแดนเหนือในอนาคต
พวกเขาจึงต้องการชัยชนะที่สมบูรณ์โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหาย
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีแผนที่สมบูรณ์แบบ
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้หลายพันทาง
‘มันก็เป็นวิธีที่ไม่เลวเลย
ฉันเคารพในการตัดสินใจของดราก้า’
ลาฟาเย่และเหล่าผู้นำสามารถออกคำสั่งการแปรกระบวนทัพใหม่ให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้
แต่พวกเขาเกรงว่าจะเกิดความยุ่งยากเลยตัดสินใจอนุญาตไป
‘หลังจากได้รับชัยชนะและยึดครองทางเหนือได้แล้ว...
ฉันต้องเชือดไก่ให้ดราก้าดูซะแล้ว เพราะฉันต้องการคนที่ฟังคำสั่ง’
ใบหน้าของลาฟาเย่แข็งกระด้าง แม้แต่เขาก็ไม่เคยคิดถึงการพ่ายแพ้ในสงคราม
เพราะความต่างชั้นของกำลัง ดังนั้นมันจึงเป็นสงครามที่ไม่อาจแพ้ได้
==========================================
“หยุดพวกมันไว้!”
“อ๊าคคค! ขะ-แข็งแกร่งชะมัด”
“พวกมันกำลังติดพันกับรถม้าศึกอยู่!”
หน่วยรบของอาณาจักรฮาเว่นปรากฎตัวขึ้น
รถม้าศึกนั้นดูเรียบๆ แต่ตัวบอดี้ของมันเป็นเหล็ก
10 เมตร และลากโดยพวกคิเมร่าที่เชื่อฟังคำสั่งของพวกเขาเท่านั้น
กองกำลังที่ 1 อยู่ภายใต้การนำของดราก้า มีทหารเก่งๆสังกัดอยู่
ขณะที่พวกเขาบุกเข้าสู่สนามรบ เหล่าทหารชั้นยอดพวกนั้นก็สามารถคว้าชัยมาได้ทุกครั้ง
แม้ว่ากำลังพลของกองกำลังที่ 3 ค่อนข้างอ่อนแอ แต่ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสก็ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับคิเมร่า
กองกำลังที่ 4 เต็มไปด้วยชาแมนสายต่อสู้ นักเวทย์ก็เริ่มใช้เวทย์อัญเชิญและมนต์ดำต่างๆ
รถม้าศึกทำการโจมตีศัตรูอย่างไร้ความปราณี
กองกำลังทั้งสามของกองทัพอาณาจักรฮาเว่นได้บุกไปที่พระราชวังโลกา
ผู้เล่นทางเหนือที่พยายามปกป้องก็ตายอย่างอนาถ
พลังทำลายล้างของกองทัพอาณาจักรฮาเว่นนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขาป้องกัน
“โจมตีด้านหน้าไม่ได้ ก็ให้โจมตีด้านข้าง!”
“จงเชื่อกำลังพลของพวกเรา อย่าไปตื่นกลัว
โอกาสจะมาเอง ล้อมพวกมันไว้และเข้าโจมตี!”
“จัดการพวกที่เหลือรอดด้านหลังด้วย!”
ผู้เล่นทางเหนือใช้โอกาสนี้ต่อสู้
แม้ว่าเขตเวทมนตร์ทำลายล้างจะหายไปแล้ว
มันก็ยากสำหรับเหล่าผู้เล่นทางเหนือที่ต้องต่อสู้กับอาณาจักรฮาเว่น
“แหก แหกไปซะ!”
“อย่ามาทำให้เสียเวลา!”
มีการแข่งขันภายในระหว่างกองกำลังที่
1,
3 และ 4 กองกำลังกลุ่มแรกที่ได้ยึดพระราชวังโลกานั้นจะได้รับความสำเร็จอย่างมาก
แม้ว่าดราก้าจะเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
แต่ผู้นำของกองกำลังที่ 3 และ 4 ต่างก็มีความทะเยอทะยานเช่นเดียวกันกับ ดราก้า พวกเขาหวังว่าจะยุติสงครามได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยการเดินทัพบุกถล่มพระราชวังโลกา
“เดินหน้าเต็มกำลัง!”
“เพิ่มความเร็ว ตรงไปข้างหน้า”
“เราจะไปก่อน อัศวินเคลียร์ทาง!”
ผู้เล่นทางเหนือล้มลงมาเหมือนฟางข้าว
แต่กองกำลังของอาณาจักรฮาเว่นก็ตายไปเยอะจากลูกธนูและเวทย์มนตร์
อาณาจักรฮาเว่นต่อสู้อย่างดุเดือดกับผู้เล่นทางเหนือ
“การเคลื่อนไหวของพวกมันน่าสงสัย”
วีดมองไปรอบๆและสังเกตการเคลื่อนไหวของกองทัพอาณาจักรฮาเว่น
เขาสังเกตเห็นช้าเกินไปที่กองทหารเริ่มถอนตัว
“พวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นแหะ
มีการต่อสู้กำลังเกิดขึ้นที่อื่นงั้นเหรอ ที่พระราชวังโลกาจะหยุดพวกมันได้มั้ยเนี่ย?”
มีเพียงผู้เล่นที่คอยปกป้องพระราชวังโลกา
วีดถูกล้อมด้วยกองกำลังป้องกันระดับสูง
มันยากที่จะหาวิธีหยุดกองกำลังจำนวนมากที่มุ่งหน้าไปยังพระราชวังโลกาได้อย่างปลอดภัย
วีดหน้าซีด
“โอ้ว่ะ แผนของฉันมันผิดพลาดเหรอเนี่ย”
แผนอันโหดร้ายมันเป็นต้นตอของโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง!
การโจมตีของอาณาจักรฮาเว่นสามารถทำลายอาณาจักรอาร์เพนได้
และสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อกระเป๋าเงินของวีด
วีดคิดแล้วก็เวียนหัว
“ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้เลย ตอนนี้ฉันกำลังอยู่กับเฮสไทเกอร์”
วีดและเฮสไทเกอร์กำลังจัดการกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
ในทางกลับกันผู้เล่นทางเหนือที่อยู่ใกล้ๆวีดก็โจมตีใส่อาณาจักรฮาเว่นอยู่
แน่นอนว่าเป็นเพราะวีดมีไม้ทัพพีตักข้าว อย่างเฮสไทเกอร์อยู่ข้างๆ
“แกสังเกตเห็นความผิดปกติแล้วซินะ
ยังไงมันก็สายเกินไปแล้ว วีด!”
ผู้บัญชาการกองกำลังที่ 6 พูด ในขณะที่วีดและเฮสไทเกอร์กำลังต่อสู้อยู่ กองทัพของอาณาจักรฮาเว่นได้รับคำสั่งและเคลื่อนพล
ไม่นานก็มีพื้นที่ก็เปิดกว้างรอบๆ วีดและเฮสไทเกอร์ สถานที่นี้เต็มไปด้วยกองทหารชั้นยอดของกองพลที่
6
กองอัศวินเวทมนตร์
พวกเขาเป็นอัศวินระดับยูนีคที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้
พวกเขาสามารถใช้เวทย์โจมตีได้เทียบเท่าการโจมตีทางกายภาพ
มันเป็นวิธีที่น่ารังเกียจ แต่ในการทำศึกใหญ่ๆ
ผลออกมามันน่าทึ่ง พวกเขาสามารถโจมตีระยะไกลได้ และมันก็เพิ่มความสามารถในการโจมตีอย่างมาก
ดวงตาของวีดจับจ้องไปที่สิ่งนั้น
เมื่อเทียบกับกองทัพมอนสเตอร์แล้ว เขาจำเป็นต้องเข้าใจข้อได้เปรียบเสียเปรียบ
‘อ่า…พวกเขาเป็นศัตรูที่ยากจะต้านทาน
ถ้าฉันสู้คนเดียวละก็ ฉันคงจะเจ็บหนัก’
กองทหารชั้นยอดของกองกำลังที่ 6
เหล่าอัศวิน NPC
มีเลเวล 300 ปลายๆ ในขณะที่ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสส่วนใหญ่เลเวล 430 แม้กระทั่งอุปกรณ์ที่พวกเขาสวมใส่ทำให้พวกเขากลายเป็นสุดยอดขุมพลัง
คนที่ใช้กลยุทธ์จะทำให้กำลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“วีด กองกำลังที่ 6 จะเป็นคนตัดหัวแกเอง”
“เอ่องั้นเหรอ?”
“มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย?”
ดรอมเริ่มพูดก่อนจะสู้กับวีดที่อยู่ตรงหน้าเขา
ดังนั้นเขาจึงอยากดูดีในขณะออกอากาศ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้บัญชาการในสงครามทางเหนือ
พวกเขาก็ไม่ได้มีชื่อเสียงในหมู่ผู้เล่นทั่วไปมากนัก
วีดต้องการที่จะจัดการกับเขาอย่างพอหอมปากหอมคอ
โดยทั่วไปแล้วเขาจะได้รับค่าธรรมเนียมการปรากฏตัวจากสถานีออกอากาศ
“พวกแกที่รุกรานแดนเหนือ
มีแต่พวกแกเท่านั้นแหละที่จะต้องตาย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
ดรอมหัวเราะเสียงดัง
ที่จริงมันไม่ได้ตลกขนาดนั้น แต่เขาแอคติ้งให้เหมือนว่าออกทีวีอยู่
และทำให้ดูเหมือนเป็นฮีโร่ในหนัง!
ดรอมหยุดหัวเราะ
“ราชาอาร์เพน
แหกตาดูความเป็นจริงหน่อยซิ เอ่อ ฉันก็หวังว่านายจะได้เป็นอิสระจากการตายในสนามรบนะ
มาเริ่มกันเลย!”
กองอัศวินเวทมนตร์เคลื่อนตัวเป็นวงกลมรอบๆวีดและเฮสไทเกอร์
พร้อมกับพลขี่ม้าอีก 1,000 คน
เมื่อเปรียบเทียบกับกองกำลังทหารชั้นยอดอื่นๆ
จัดได้ว่ากองกำลังนี้ค่อนข้างอ่อนแอ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้ารวมนักเวทย์แล้วก็มีทั้งหมด
2,000 คน
วีดตัดสินใจที่จะฝ่าออกไป
“เฮสไทเกอร์ นายจะเป็นคนเปิดทาง”
“ได้ขอรับ ท่านมหาจักรพรรดิ!”
งานอันตรายและงานยากๆจะถูกโบ้ยให้กับลูกน้องของเขาก่อน!
เฮสไทเกอร์ถูกสกัดโดยกองอัศวินเวทมนตร์
“แกจะผ่านไปไม่ได้!”
“[แรงกดอากาศ]!”
“[ลมปั่นป่วน]!”
ฟ้าว ฟ้าว ฟิ้ว ตุบ เคร้ง แกร้ง!
เฮสไทเกอร์ถูกเวทมนตร์สกัดกั้นไม่ให้เดินต่อ
“[พายุเพลิงโหมกระหน่ำแห่งการสำนึกบาป]!”
เขากวัดแกว่งอาวุธและฆ่าอัศวินเวทมนตร์ไป
16 คน
“[พายุคลั่ง]!”
พายุเพลิงก่อตัวจากดาบของเฮสไทเกอร์และพุ่งไปที่เหล่าอัศวินเวทมนตร์
เพลิงขยายตัวและร่างของนักเวทย์ที่อยู่ใกล้ๆก็ถูกไฟไหม้
“อ๊าคคค!”
“ช่วยด้วย ไฟกำลังไหม้ร่างผม!”
“ไฟมันดับไม่ได้ เวทย์นั่นทำให้ไหม้มากกว่าเดิม!”
ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องในไม่กี่วินาที
“ไม่ เป็นไปไม่ได้!”
ดรอมหน้าซีด
เขาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์นี้ได้!
กองทหารที่เขามั่นอกมั่นใจนักหนากลับพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
ดรอมอยู่ทางด้านซ้ายและในระหว่างที่ต่อสู้กัน
เขาก็ไม่สามารถมองเห็นวีดและเฮสไทเกอร์ได้ถนัดนัก มีเพียงไม่กี่คนในกองทัพที่เห็นว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ละกองก็วิ่งเข้าไปจัดการกับวีดโดยที่ไม่เคยเห็นการต่อสู้ของเขามาก่อน
“คนพวกนี้ไม่ใช่กองพลรบพิเศษ”
วีดเฝ้าดูอย่างเงียบๆพักนึง เขาก็สงสัยว่าดรอมนั้นเอาความมั่นใจมาจากไหน
พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้าเฮสไทเกอร์
มันเหมือนกับแก๊งวายร้ายที่กระโดดเข้าหา เพียงเพื่อสืบว่าพวกเขานั้นเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติยูโดจริงรึเปล่า
หลังจากยืนยันได้แล้ว วีดก็เข้าร่วมกับเฮสไทเกอร์ต่อสู้กับกองอัศวินเวทมนตร์
‘อ่า ไม่ใช่ว่าเราไม่มีจุดอ่อน’
แม้เฮสไทเกอร์จะมีพลังที่เหนือกว่าก็ตาม
แต่เขาก็อาจเหนื่อยล้าได้ ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาฝ่าออกไปได้ง่ายๆ
เฮสไทเกอร์แข็งแกร่งมากและเปลวเพลิงที่เขาปล่อยออกมาก็สนับสนุนวีด คุณสมบัติไฟของเฮสไทเกอร์เป็นศัตรูกับพวกเดียวกันแต่มันถูกใช้โดยวีด
ดรอมตื่นกลัวแต่ไม่นานจิตวิญญาณของเขาก็กลับคืนมา
“กองอัศวินเวทมนตร์
สกัดกั้นพวกมันเอาไว้! อย่าให้พวกมันออกจากที่นี่ได้ กองกำลังที่ 6 เริ่มทำการโจมตีขั้นรุนแรง!”
กองอัศวินเวทมนตร์และสมาชิกของกิลด์เฮอร์มีสต่อต้านทันที
“อะไรกันเนี่ย ผู้บัญชาการ? คุณจะส่งพวกเราทุกคนไปตายรึยังไง?”
“มันเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดพวกมัน!
ไม่ต้องมาพูดมากแค่สู้ไป มันจะมีกระแสต่อต้านถ้าคุณขัดคำสั่ง
และถ้าคุณประสบความสำเร็จก็จะได้รางวัล…ความเสียหายนี้มันจะคุ้มค่าถ้าเราได้ตัววีดไม่ใช่หรือไง?”
“แม่งเอ้ย”
เป็นการตะโกนสนทนากันอย่างรีบเร่ง ไม่ใช่กระซิบคุยกัน
วีดสังเกตสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
องค์กรส่วนใหญ่นั้นมักจะยอมสละบางส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายของพวกเขา
‘กองอัศวินเวทมนตร์กำลังวางแผนใช้เวทมนตร์โจมตีใส่เรา’
วีดและเฮสไทเกอร์ อยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทหารกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
ซึ่งมันไม่เหมาะสมที่จะใช้การโจมตีระยะไกล กองกำลังอาณาจักรฮาเว่นได้ขยายตัวด้านหน้าเขา
โดยแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นเหมือนตัวประกันชั้นดีนี่เอง
อย่างไรก็ตามวีดก็ไม่ใช่คนประเภทที่รักสงบ
หากชีวิตอยู่ในอันตราย อีกอย่างองค์กรพวกนั้นจะยอมสละทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด
“เฮสไทเกอร์ เป้าหมายของนายคือเขา
เล็งไปที่ผู้ชายคนนั้น!”
“เข้าใจแล้วขอรับ นายท่าน!”
วีดและเฮสไทเกอร์พุ่งเข้าหาดรอมพร้อมกัน
“เป็นไปไม่ได้!”
กองทหารคุ้มกันที่อยู่รอบๆผู้บัญชาการก็ยิงลูกธนูทรงพลังออกไปสกัด
แต่เฮสไทเกอร์มีออร่าลาวารอบตัว และมันก็ละลายลูกธนู
“[บลิ้ง]!”
วีดลอยผ่านการโจมตีโดยใช้การเทเลพอทระยะสั้น
เขาปรากฏตัวข้างๆ ทหารคุ้มกันและใช้ธาตุจู่โจมพวกเขาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นวีดก็ถูกล้อม แล้วเฮสไทเกอร์ที่มาถึงก็กวาดพวกมันออกไป
“เชี่ยเอ้ย พวกมันรู้ทันไวเป็นบ้าเลย
ไม่ว่ายังไงก็ต้องหยุดพวกมัน! จับพวกมันให้ได้!”
ดรอมรู้ตัวว่าเป้าหมายของพวกเขา
ก็หันไปรอบเพื่อหาทางหนี
เขาเป็นผู้บัญชาการของอาณาจักรฮาเว่น
แต่มันก็ยากเกินไปที่จะจัดการกับเฮสไทเกอร์และวีดในเวลาเดียวกัน
เขาไม่ต้องการต่อสู้ในศึกที่จะพ่ายแพ้
ดรอมต้องการสร้างผลลัพธ์ให้เหมือนกับการต่อสู้ของบาร์ดเรย์กับอาบีสไนท์
หลังจากจบสงคราม เขาก็จะปรากฏตัวในฐานะวีรบุรุษในศึกพระราชวังโลกา
แต่ที่คำนวณพลาดก็คือวีดไม่เหมือนแวนฮอว์ก
วีดได้เอาชนะมาหลายเหตุการณ์ในชีวิตและรอยัลโร้ด ด้วยเล่ห์อุบายที่สกปรก
นอกจากนี้เขายังมีเฮสไทเกอร์ที่โหดเหี้ยมข้างกายเขาอีกด้วย
“ไล่ตามเขาไป”
“ขอรับนายท่าน”
“จัดการพวกมันให้หมด”
“ได้ขอรับ!”
วีดและเฮสไทเกอร์ ถล่มใจกลางกองกำลังที่
6 ในขณะกำลังไล่ล่า
ทุกที่ที่พวกเขาเดินผ่านไปนั้นจะมีแต่ไฟที่ลุกโชน
ดรอมหนีอย่างเร็ว และในไม่ช้าพวกเขาก็หลุดออกจากสังเวียน แป็บเดียวเท่านั้นเฮสไทเกอร์ก็ออกมาไกลจากพื้นที่ที่ผู้เล่นทางเหนือกำลังต่อสู้อยู่
‘น้ำหนักฉันลดลงไปแล้ว รู้สึกเหมือนว่าจะสู้ได้ดีขึ้นนะ’
มีเสียงดังมาจากด้านหลังพวกเขา กองอัศวินเวทมนตร์กำลังเล็งโจมตีขั้นรุนแรงมายังพวกเขา
“พวกนายกำลังทำอะไรน่ะ? เราอยู่ข้างเดียวกันนะ…!”
ดรอมตำหนิคนของเขา แต่แล้วเขาก็รู้ว่าเขาทำพลาดมหันต์
กองกำลังโจมตีระยะไกลนั้นส่วนใหญ่เป็น
NPC
มันค่อนข้างยากที่จะให้อิสระแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
แทนที่พวกเขาจะตัดสินใจเองในระหว่างการต่อสู้ พวกเขาก็จะเชื่อฟังคำสั่งเป็นอันดับแรก
ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสได้หยุดการโจมตี
แต่กองทัพที่เหลือก็ยังคงโจมตีอยู่
การโจมตีเวทมนตร์ตกลงมาจากท้องฟ้า และทำลายกองอัศวินเวทมนตร์กองกำลังที่
6 ที่แสนจะภูมิใจที่สุดลง และการโจมตีเวทมนต์ระยะไกลก็สร้างความเสียหายขยายออกไปอีก
ดรอมรีบออกคำสั่งไปยังหน่วยเวทย์มนตร์
“ยกเลิก ยกเลิกการโจมตี!”
วีดและเฮสไทเกอร์เข้ามาใกล้เขา
“นายนี่มันดวงดีจริงๆ ฉันขอดูฝีไม้ลายมือของนายหน่อย?”
“แล้วไง?”
ดรอมหันกลับและเริ่มวิ่งอีกครั้ง
ผู้บัญชาการในสนามรบนั้นเป็นผู้ออกคำสั่งทางทหาร และมีอิทธิพลต่อขวัญกำลังใจ
หากผู้บัญชาการถูกจับกุมหรือถูกสังหารโดยศัตรู
ก็จะเกิดสถานการณ์เลวร้ายอย่างมาก กองทัพอาจล่มสลายเลยก็ได้ แม้แต่กำลังการต่อสู้ของผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสก็จะลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดรอมเข้าใจความสำคัญในจุดยืนของเขาและเขากำลังหนี
“ปกป้องผู้บัญชาการ!”
“พวกป่าเถื่อนช่างกล้าท้าทายอาณาจักร…”
อัศวินที่กระโดดเข้าหาวีดและเฮสไทเกอร์ก็ถูกกำจัด
ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสก็เริ่มรวมตัวกันเหมือนแมลงวัน แต่เฮสไทเกอร์นั้นเป็นเหมือนภูเขาไฟที่กำลังปะทุ
เขาพ่นลาวาออกมาอย่างต่อเนื่องและขับไล่ศัตรู
เฮสไทเกอร์ไม่ได้เป็นอมตะ แม้ว่าในทวีปจะมีอัศวินที่มีเลเวลมากอยู่
แต่เฮสไทเกอร์ก็เป็นคู่ต่อสู้ที่โหดร้ายที่สุดที่พวกเขาต้องเผชิญ
เพื่อปราบอาบีสไนท์ แวนฮอว์ก พวกเขาได้ระดมกองกำลังจำนวนมากและทำแผนกับดัก
แต่วีดและเฮสไทเกอร์ไม่พลาดหรือประมาทเลย
ผู้บัญชาการคนอื่นๆที่ไม่ใช่ดรอมก็สังเกตได้อย่างรวดเร็ว
‘วีดเป็นจอมละโมบ แต่ว่า…ตอนนี้ฉันจะต้องทิ้งมันไปก่อน’
‘พระราชวังโลกาเป็นเป้าหมายหลัก การกำจัดเขานั้นจะเป็นทางเลือกสุดท้าย’
‘แม้แต่คนที่แข็งแกร่งไม่สามารถลดความเสียหายของกองทัพได้เลย’
‘ฉันหวังว่าเขาจะไม่มาทางนี้นะ แค่มีเฮสไทเกอร์มาเพิ่มอย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแตกต่างเป็นพิเศษ
ยังไงเราก็ชนะอย่างแน่นอน’
นอกเหนือจากเฮสไทเกอร์แล้วสงครามก็ไม่ยาก
เมื่อเทียบกับผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ ดรอมนั้นโลภมาก
และตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ถึงอย่างนั้นวีดยังคงวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น
‘ผู้บัญชาการกองกำลังที่ 1 ทำให้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ และอาจมีผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ
อย่างผู้ชายคนนี้ อีก ถึงอย่างนั้นผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสก็ยังสามารถสั่งการกองทหารได้อยู่’
ไม่ว่าวีดจะทำอะไรก็ตามอาณาจักรฮาเว่นก็สามารถฟื้นขบวนทัพขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
แม้แต่เฮสไตเกอร์ก็ยังเอาชนะมันไม่ได้
“เฮสไทเกอร์ ไล่ตามพวกมันไปพอประมาณ
นักเวทย์นั้นเป็นภัยคุกคามหลัก”
“เข้าใจแล้วขอรับนายท่าน”
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ฉันจะปล่อยให้นายเป็นคนออกคำสั่งกองทัพ
นายจะต้องรับผิดชอบในสงครามทั้งหมด”
“ไม่มีปัญหานายท่าน ท่านมีความสามารถในการรับรู้จุดอ่อนของศัตรูและท่านก็เป็นผู้สร้างความกล้าแก่ผู้คนอย่างเช่นข้า”
“อ่า..อืม”
วีดไอออกมา มันแปลกๆที่ได้ยินคำชมจากวีรบุรุษที่เขาอิจฉา
“ถ้างั้นก็... มานี่ ฟีนิกซ์!”
เมื่อวีดตะโกน ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงพุ่งโฉบจากท้องฟ้า
สิ่งมีชีวิตสีแดงที่บ่งบอกความงาม
นกฟีนิกซ์
ฟีนิกซ์มีพลังชีวิตมหาศาลจากไฟที่ไม่มีวันมอดดับ
และเสริมความแข็งแกร่งด้วยการเสียสละของเหล่าพี่น้องฟีนิกซ์ทั้งสี่ด้วย
ในประติมากรรมสลักชีพของวีด ฟีนิกซ์เป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
“ก๊าคคค!”
นกฟีนิกซ์ปรากฏกายขึ้น
มันเป็นประติมากรรมสลักชีพที่ผู้คนชอบดูมากที่สุด
มันทำให้คนในอพาร์ทเมนต์เสียงดังเมื่อมันมาถึงสนามรบ
“มันออกมาแล้ว! ประติมากรรมสลักชีพ!”
“โอ้วววว! นกฟีนิกซ์นี่
ที่ฉันเคยเห็นทางทีวี!”
“พระเจ้าลงมาจุติแล้ว! ยินดีต้อนรับจากหน่วยโจ๊กไก่เพลิง”
ผู้เล่นทางเหนือต่างส่งเสียงเชียร์
เป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นทุกคนจะรู้จักประติมากรรมสลักชีพ
“ไปกันเถอะ”
วีดกระโดดขึ้นหลังฟีนิกซ์
โดยปกติแล้วเขาจะหลีกเลี่ยงความร้อน แต่ตอนนี้เขาเป็นนักรบโกลาหล
เขาพุ่งขึ้นไปบนฟ้า และสามารถมองเห็นสนามรบในพริบตาเดียว
ชาววิหคกำลังต่อสู้กับอาณาจักรฮาเว่น
ในขณะที่ผู้เล่นทางเหนือก็ต่อสู้อย่างดุเดือด ผู้คนต่างต่อสู้เพื่อชีวิตบนที่ราบกว้าง
“สนามรบมีขนาดใหญ่มากจนยากที่จะคาดเดาได้”
มันเป็นสเกลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่วีดเคยเห็นมา
เขารู้สึกถึงความภาคภูมิใจในการบัญชาการสงคราม
อย่างไรก็ตามมันไม่น่าพอใจเท่าไหร่ที่เขาถูกรุกราน
จากบนฟ้าเขาสามารถเห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้น
แม้ว่าที่แห่งนั้นจะไกลจากพระราชวังโลกา
เปลวไฟและลูกธนูกำลังลอยข้ามที่ราบมา
ปรากฏการณ์ขนาดใหญ่
วีดรู้สึกถึงไอเย็นๆ
บนหน้าเนื่องจากภัยพิบัติ
“ฟีนิกซ์ สูงขึ้นอีก!”
“ได้ครับเจ้านาย”
เปลวเพลิงสยายออกมาจากหางด้านหลังของนกฟีนิกซ์ขณะบินขึ้นไป
ก็ขยายมุมมองของพื้นดิน, แม่น้ำ และภูเขาให้กว้างขึ้น!
มีกองทัพทหารทั้งหมด 3 ทัพ ที่ดันผู้เล่นทางเหนือไปทางพระราชวังโลกา ผู้เล่นเสียชีวิตเป็นจำนวนมากภายใต้การโจมตีที่น่ากลัวของอาณาจักรฮาเว่น
ดูเหมือนว่าอาณาจักรฮาเว่นจะสูญเสียกองกำลังไปบ้าง
แต่จำนวนน้อยเกินกว่าจะส่งผลกระทบใดๆ
พวกเขาใช้ทหารราบเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
หากอัศวินตายไป 100 คน ก็จะมีอีก 200 คนเข้ามาแทนที่
การเดินขบวนของกองทัพที่ทรงพลัง
ทหารม้าก่อกวนศัตรูและดูเหมือนว่าแค่รอเวลาจนกว่าผู้เล่นทางเหนือจะล้มลง
พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ก็ล้มเหลวในการสกัดการเดินทัพของอาณาจักรฮาเว่น
วีดหรี่ตาลง
มันไม่ใช่อาการของคนสิ้นหวัง
“กองทัพอาณาจักรฮาเว่นนั้นแข็งแกร่ง
แต่ฉันต้องลองดูก่อน ถ้าปกป้องพระราชวังโลกา แต่ยังแพ้สงคราม...ไม่ มันจะเกิดขึ้นไม่ได้”
วีดให้คำขาด
“ในวันนี้ พวกกิลด์เฮอร์มีส และทหารของอาณาจักรฮาเว่นทั้งหมดจะต้องตายที่นี่!”
จบ เล่ม 41 ตอนที่ 6
ผู้แปล : Rastymay
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
thank you so much
ตอบลบone more please
ขอบคุณคับ มันสุดๆ
ตอบลบ