เล่ม 40 ตอนที่ 8:
ภารกิจของมหาจักรพรรดิ (Great Emperor’s Quest) แปลโดย RastyMay
วีดอัพเลเวลของเขาเป็น 422 โดยการล่าในทะเลทราย
มันเพิ่มอย่างรวดเร็วแทบไม่น่าเชื่อ
แต่เขาได้ใช้ประโยชน์จากค่าประสบการณ์คูณสองของดันเจี้ยนและการขยันล่า
การแกะสลักแห่งกาลเวลาก็ถึงขั้นต้น เลเวล
6 เขาไม่ได้รับผลนี้ จนกระทั่งแม๊กนั่มโอปัสโผล่มา 3 ชิ้น
“ฮืมมม สกิลนี้ขึ้นช้าจริงๆ”
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอุทิศตัวเองเพื่อแกะสลักในขณะที่กำลังกู้คืนเลเวลที่หายไป
“มันจะดีถ้ามีรางวัลใหญ่เมื่อสิ้นสุดเควส”
พวกเขาไปเยี่ยมเยียนเมืองที่เจริญรอบๆ
โอเอซิสและแม่น้ำเพื่อขายไอเทมที่ลูทมา
“คุณนำของดีๆมาเยอะเลย
ฉันยินดีที่จะส่งต่อมันให้กับนักรบ”
“คุณยินดีที่จะซื้อสร้อยคอที่ทำจากงาช้างซักเท่าไหร่?”
“มันเป็นงาช้าง ดังนั้นมันจะได้อย่างน้อย
800 เหรียญทอง”
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ฉันประมวลแล้วว่ามันจะมีมูลค่าเพิ่มอีก
200 เหรียญทองนะ”
“มันเป็นงานฝีมือที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
ฉันยอมรับว่าราคาถูกต้อง มาค้าขายกันต่อในอนาคตเถอะ”
วีดเป็นมิตรกับพ่อค้าในเมืองทะเลทราย
เมืองทะเลทรายที่เจริญรุ่งเรืองมีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากเมืองในภาคกลางและภาคเหนืออย่างสิ้นเชิง
นักรบที่แข็งแกร่งเดินไปรอบๆ เพื่อโชว์เรือนร่างที่เปลือยเปล่าส่วนบน
น้ำ, ซิกก้า(บุหรี่) และศิลปะ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยในท้องตลาด
วีดได้ทิ้งประติมากรรมไว้ในเมืองทะเลทราย
มันยังคงสภาพเหมือนเดิม ร่องรอยของจักรวรรดิพอลลอสยังคงอยู่
ของมีค่าหลายอย่างที่ปล้นในทวีปกลางได้ถูกแลกเปลี่ยนเป็นแร่ที่มีค่า
“ประชากรกำลังเพิ่มขึ้น
แต่มีข้อจำกัดในการเติบโตทางเศรษฐกิจ”
วีดถอนหายใจขณะที่เขาเดินไปรอบๆเมืองทะเลทราย
เขารอคอยที่จะพัฒนาพื้นที่ทะเลทรายอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามลักษณะของทะเลทราย
ทำให้มันไม่สะดวกสำหรับการทำฟาร์มหรือการทำเหมือง เมืองต้องสร้างขึ้นด้วยโอเอซิสและแม่น้ำ
ในอดีต ฝนที่ตกลงมาทำให้พื้นที่ทะเลทรายอุดมสมบูรณ์
แต่น้ำจำนวนมากก็เหือดแห้ง มีซากปรักหักพังเต็มไปหมดในดินแดนและเมืองที่ถูกทิ้งร้างหลายแห่ง
การปลูกพืชชนิดพิเศษได้เติบโตขึ้น ในขณะที่อาหารเช่นข้าว,ข้าวสาลี
และข้าวบาร์เลย์ ถูกนำมาให้พวกเขา คนเร่ร่อนเดินไปรอบๆ เพื่อเลี้ยงแกะและอูฐ
ร่องรอยของจักรวรรดิพอลลอสสามารถมองเห็นได้ที่ตลาด
แต่สินค้าก็ไม่ได้มีราคาแพงมาก
“มันยากที่จะมีชีวิตอยู่
ปัญหาทั่วไปของเหล่าวัยรุ่นที่ว่างงานยังแก้ไขไม่ได้ นักรบทะเลทรายต้องล่าเพื่อเงิน
มีเพียงอุตสาหกรรมรับจ้างเท่านั้นที่ยังอยู่”
เขาได้ยินเรื่องราวนับไม่ถ้วนขณะที่เขาเดินไปรอบๆ
เมืองทะเลทราย
“คุณสนใจขุมทรัพย์ของจักรวรรดิพอลลอสมั้ย?
2,000 เหรียญทองสำหรับข้อมูลที่คุณจะได้”
ขุมทรัพย์ของจักรวรรดิ!
ไพธอนและชายนิรนามถูกล่อลวง แต่วีดและเพลไม่สนใจ
พวกเขารู้ว่าสมบัติของจักรวรรดิพอลลอสถูกฝังอยู่ที่ไหนสักแห่งทางภาคเหนือ
ปัญหาคือการหาขุมทรัพย์และตัดสินคุณค่าของมัน ตอนนี้มีคนกำลังขุดสมบัติอยู่ทางภาคเหนือ
“เอ่อ มหาจักรพรรดิวีดแห่งทะเลทรายเหรอ
ลูกหลานทะเลทรายได้เติบโตขึ้นมาและฟังตำนานของเขาทุกวัน แม่ของข้าพูดถึงเขาทุกคืน”
“เกี่ยวกับอะไรเหรอ?”
วีดสงสัยว่าชื่อเสียงของเขาจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า
“จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทราย
คือบุคคลที่ทำให้เลือดไหลเวียน เขาจากไปหลังจากที่บุกเข้าทวีปกลาง เขาได้ก่อตั้งจักรวรรดิพอลลอส
เราเรียกช่วงนั้นว่ายุคทองแห่งทะเลทราย”
“เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
วีดมีรอยยิ้มอย่างพอใจขณะที่เขาเดินผ่านเมืองทะเลทราย
การได้ยินการสรรเสริญเกี่ยวกับตัวเขาเองนั้นก็ไม่เลวเลย การที่ผู้เล่นสามารถเยือนเมืองทะเลทรายในเป็นไปได้ยาก
ประวัติศาสตร์ใหม่ ทำให้ทะเลทรายทางใต้นั้นรุ่งเรืองเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น
ถึงอย่างนั้นพื้นที่ที่อยู่ถัดจากมันก็คือทวีปกลางที่อากาศร้อนน้อยลง
มันเป็นสถานที่ที่ผู้เล่นเลเวลต่ำกว่าปาร์ตี้ล่าของวีดนั้นไม่สามารถเห็นมันได้
แต่อีกไม่นานพวกเขาก็จะได้เห็นผู้เล่นคนอื่นๆ
การไปถึงเมืองที่อยู่ใกล้กับทะเลทรายอันเงียบสงบไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ความยากลำบากนั้นหมายความว่าจะมีเพียงนักผจญภัยและนักรบระดับสูงเท่านั้นที่มาที่นี่ได้
“เจ้าดูเหมือนนักผจญภัยที่มีประสบการณ์พอสมควร
เจ้าไม่ต้องการที่จะหามรดกที่ซ่อนอยู่ในทะเลทรายหรอกเหรอ? ไม่มีอะไรยากเลย
มันไม่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของเจ้าด้วย”
ชาวเมืองอาวุโสของเมืองพูดกับวีดเฉพาะกาล
มันเป็นภารกิจเพื่อค้นหามรดกของวีด จากชีวิตในอดีตของเขาในทะเลทราย
“ไม่เป็นไร”
“ไม่ใช่ข้าคนเดียวที่จะพูดถึงมัน
มีชนเผ่าต่างๆกระจายอยู่ทั่วทะเลทรายที่กว้างใหญ่ หากหนึ่งในนั้นพบร่องรอยของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
จากนั้นความมั่งคั่ง, เกียรติยศ และอำนาจทั้งหมด……”
“ข้าไม่สนใจ!”
ภารกิจนี้จะเป็นความท้าทายที่ยาวนาน
มีโอกาสสูงที่จะเกิดสิ่งที่น่ากลัวขณะทำภารกิจให้สำเร็จ
เขามีความสำเร็จที่โดดเด่นในระหว่างการทำภารกิจเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
ความลับของทะเลทราย
ทรัพย์สินที่มีค่าเช่นข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์, ร่องรอยของเมือง และสถานที่ฝังศพของนักรบสามารถหาซื้อได้
อย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องตั้งมั่นในการอัพเลเวลของเขาเพราะการต่อสู้กับอาณาจักรฮาเว่นกำลังใกล้เข้ามา
- กองทัพของอาณาจักรเฮเวนได้ข้ามแม่น้ำแพสชิลแล้ว
- ผู้เล่นทางเหนือพยายามซุ่มโจมตี แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้
- กองทัพของอาณาจักรฮาเว่นนั้นเหมือนแก๊สพิษ
พวกเขาทำลายล้างพื้นที่ทั้งหมดของภาคเหนือด้วยเวทมนตร์
- พวกเขาอยู่ห่างจากพระราชวังโลกา 10 กิโลเมตร
หากทหารเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วพวกเขาจะมาถึงภายใน 2 ~ 3
ชั่วโมง
- คนพวกนั้นหยุดเดินทัพแล้ว และกำลังประกอบอาวุธปิดล้อม
มีอาวุธปิดล้อมขนาดใหญ่ 400 อัน
มันเพียงพอที่จะเห็นได้ทันที สายตาที่ยอดเยี่ยม!
เมแพนได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นประจำ
การคุกคามของกองทัพที่มีต่อพระราชวังโลกานั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากไม่กี่วันก็ถึงเวลาที่จะต้องออกจากทะเลทราย
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง”
วีดถอนหายใจอย่างเบา ๆ
เขามีความขุ่นแค้นอย่างมากต่อกิลด์เฮอร์มีส
“โลกนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะ
มูลค่าของเนื้อหมู, ผลไม้ และค่าไฟฟ้ากำลังเพิ่มขึ้นทั้งหมด”
เขาบ่นเรื่องราคาแอปเปิ้ล และลูกแพร์ที่เพิ่มขึ้นต่อกิลด์เฮอร์มีส!
“มันน่าเสียดาย แต่ฉันต้องไปที่พระราชวังโลกา”
ในที่สุดวีดก็ประกาศยกเลิกการล่า
‘ในที่สุดก็จบซะที’
‘คราวนี้มันจบแล้วจริงๆ ฉันไม่อยากเชื่อเลย’
‘นั่นซิ’
ท่าทางของไพธอน, ชายนิรนาม และเพล แข็งทื่อถึงแม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะแสดงความดีใจ
หากพวกเขามีความสุขมากเกินไป พวกเขาอาจถูกบังคับให้ล่าอีกครั้ง
วันแรกเป็นเหมือนนรก แต่ในวันถัดๆไปมันก็จะดีขึ้นเล็กน้อย
เนื่องจากวีดสร้างประติมากรรมของเขา อย่างไรก็ตามการเดินทางระหว่างดันเจี้ยนผ่านทรายเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
ไพธอนเป็นคนที่มีอายุมากที่สุด
กระแอมและพูดว่า
“ถ้านายไม่ว่างก็ไปได้เลยนะ
ตอนนี้กลับกันเลยเถอะ”
“อีกซักพักยูรินจะมา เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง”
พวกเขาเดินในเมืองทะเลทราย และใช้เงินที่ได้จากการล่า
พวกเขาไม่ต้องการที่จะพกไปมาก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงขายของที่ลูทมา
เพื่อซื้ออัญมณี, ที่ดิน, บ้าน แม้แต่ร้านค้า
ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองทะเลทรายยังคงราคาไม่แพง
ปัจจุบันมีคนไม่มากที่มาที่นี่
ดังนั้นผลกำไรจึงถูกจำกัด แต่มันมีพื้นที่ในการล่าที่ดีที่สุด
หากพวกเขาลงทุนที่นี่สักวันพวกเขาก็จะกลับมาล่าได้
‘ไม่มีอีกครั้งแน่’
‘ฉันจะไม่ไปกับเขาอีกแล้ว’
‘ฉันจะไม่อยู่บ้านดินนี้หรอก’
ยูรินก็มาถึง และพวกเขามุ่งหน้าไปยังพระราชวังโลกา
==========================================
เอิร์ธชาโดว์
อันริง, เบ็น และเอลลิค ผู้สร้างกลุ่มนักผจญภัยบนทวีปเวอร์เซลล์
ได้เริ่มทำภารกิจที่อารามวัลฮัลลา
ในการดำเนินการ พวกเขาเปิดเผยลัทธิเอ็มบินยู
และได้รับการสนับสนุนอย่างมาก
ลัทธิเอ็มบินยูได้ถูกเปิดเผยต่อโลก ก่อนที่พวกมันจะพร้อมอย่างสมบูรณ์
และลัทธิต่างๆได้พบและทำลายพวกมัน
แน่นอนว่ามันถูกเก็บไว้ซ่อนไว้ในที่ลึกลับจากชาวเมืองและผู้เล่นคนอื่นๆ
ในที่สุดพวกเขาพบแขนที่ห้าของพระเจ้าเอ็มบินยูในเมทาเปีย
และทำลายมันโดยการขว้างมันลงในลาวาเดือด
“ลัทธิเอ็มบินยู? แล้วพวกเขาล่ะ? พวกเขาเป็นกลุ่มที่ยากจนอย่างพวกเราเหรอ?”
“เอ่อ ลัทธิเอ็มบินยู …ซื้อขนมปังก่อนพูดถึงพวกเขา มันฟังดูเหมือนกลุ่มที่รักปลา”
“คนที่ชื่ออันริง, เบ็นและเอลลิคเหรอ? ฉันเคยได้ยินมานานแล้วนะ
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรวันนี้ พวกเขาขุดดินอยู่ที่ไหนซักแห่งอยู่หรือเปล่า?”
สัญลักษณ์ส่วนใหญ่ของลัทธิเอ็มบินยูในทวีปนี้ได้หายไปแล้ว
นักผจญภัยที่ตอนนี้มีการผจญภัยของพวกเขาไม่เป็นที่รู้จัก จึงรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงและไม่ยุติธรรม
“โธ่เว้ย เราเสียเวลาไปทั้งปีโดยเปล่าประโยชน์”
“ผมดีใจนะที่ลัทธิเอ็มบินยูได้หายไป
แต่มันก็เหมือนเราไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ยังมีการผจญภัยอื่นๆอีก
ดังนั้นเรามานอนหลับฝันดีกันเถอะ”
เอิร์ธชาโดว์ตัดสินใจที่จะผ่อนคลาย
การล่าและการสำรวจในระหว่างการค้นหาวัลฮัลลาทำให้พวกเขาป่วย
พวกเขาต้องการใช้เวลาผ่อนคลายและชาร์จพลังใหม่
“ท่านต้องการอูฐมั้ย?”
“ครับ เอาที่แข็งแกร่งและรวดเร็วจะดีมาก”
“อูฐแบคเทรี่ยนดีที่สุดในพื้นที่ทะเลทราย
ราคานี้ค่อนข้างแพง แต่พวกมันสามารถไปได้ทุกที่”
“ส่งมันมาให้ผมเลย”
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่เมทาเปียแล้ว
พวกเอิร์ธชาโดว์ก็อยู่ในพื้นที่ทะเลทราย พวกเขาพยายามหาอูฐเพื่อออกจากพื้นที่ทะเลทราย
“เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ท่านจากไป ท่านอยากฟังเรื่องราวก่อนไปหรือเปล่าล่ะ?”
ความรู้สึกถึงภารกิจที่แรงกล้า!
อันริงเหนื่อยแต่เขายังมีนิสัยชอบผจญภัย
มันไม่เจ็บปวดเมื่อได้ยินข้อมูล แม้ว่ามันจะไม่สำคัญ พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนที่ร้านค้าอื่นเพื่อซื้อสินค้าราคาถูกได้
“ผู้คนในทะเลทรายไม่เคยลืมบุคคลผู้หนึ่ง
บางครั้งข้าไม่รู้ว่าเราจะใช้ชีวิตแบบนี้ได้อย่างไรถ้าไม่ใช่เป็นเพราะท่านมหาจักรพรรดิวีด”
“อ่า คุณวีด”
อันริงพูดอย่างเซ็งๆ
ผู้เล่นรายอื่นยกย่องวีดในฐานะนักผจญภัย
เขาแก้ไขภารกิจที่เป็นไปไม่ได้และฝ่าฟันด้วยความยากลำบาก
อาณาจักรอาร์เพนอาจถูกผลักดันให้เข้าสู่ภาวะวิกฤติเนื่องจากบาร์ดเรย์
แต่ทักษะการต่อสู้ของเขาในภารกิจได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด
เอิร์ธชาโดว์มีความเชี่ยวชาญในการผจญภัยดังนั้นพวกเขาจึงนึกถึงเขาอย่างเจ็บปวด
พวกเขาไม่ได้ขาดทักษะและเชื่อว่าพวกเขาสามารถบรรลุความสำเร็จที่สูงขึ้นอย่างมากผ่านภารกิจวัลฮัลลาแต่ชาวเมืองก็ชื่นชมวีดไปทุกที่
อันริงหันไปรอบๆ
“เสียเวลา พูดมาเลย”
การแสดงออกของเอลลิคและเบ็นเริ่มไม่ดี
พวกเขามาที่ทะเลทรายอย่างไร้ประโยชน์และตอนนี้พวกเขาต้องมาฟังคำพูดเหล่านี้!
พ่อค้าอูฐพูดด้านหลังพวกเขา
“ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาจักรพรรดิ
คือการก่อตั้งจักรวรรดิพอลลอส
แต่ผู้ที่อยู่ในทะเลทรายรู้สึกขอบคุณสำหรับการสร้างโอเอซิสและแม่น้ำ
ขอบคุณที่พ่อแม่และลูกๆของเราที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายไม่เคยใช้น้ำจนหมด”
“ใช่ๆ แต่เรายุ่งมาก ดังนั้น…”
“มันเป็นเส้นทางชีวิตของเรา
มรดกของมหาจักรพรรดิ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลทรายต้องเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ โอเอซิสและแม่น้ำเหือดแห้ง
เผ่าทะเลทรายที่รวมตัวกันเริ่มเกลียดกันอีกครั้ง
ในไม่ช้าทะเลทรายทั้งหมดก็จะเต็มไปด้วยเลือด”
อันริง,
เบ็นและเอลลิคหยุดเคลื่อนไหว
ความรู้สึกของภารกิจที่รุนแรง
สัญชาตญาณนักผจญภัยของพวกเขาทำให้พวกเขาไม่สามารถออกไปโดยไม่ฟังไม่ได้
อันริงหันไปรอบๆ
แล้วพูดอย่างระมัดระวัง
“จะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่กับการขาดน้ำใช่มั้ย?”
การต่อสู้ระหว่างเผ่าในทะเลทรายนั้น
หมายความว่าอาจมีสงครามในพื้นที่ทั้งหมด
จำนวนประชากรในทะเลทรายเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเนื่องจากการผจญภัยของวีด
มันอันตรายสำหรับผู้เล่นที่อยู่ทะเลทรายตอนนี้และราคาสินค้าก็จะถีบตัวสูงขึ้น
“ในที่สุดรอยเท้าของอูฐจะถูกลบโดยพายุทราย
หลังจากดวงอาทิตย์ขึ้นอีกไม่นาน เราก็จะถูกปกคลุมด้วยทรายในที่สุด”
“มันคงจะดีถ้ามีคนยอมรับ”
“พวกเราไม่ใช่คนโง่
เราตระหนักดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะทำลายพวกเราทุกคน
เป็นการยากที่จะละทิ้งเมืองและอารยธรรมจะถูกกำจัดออกไป
แต่เราจะถูกกำจัดโดยไม่มีน้ำ การแก้ไขของชนเผ่าอื่นหมายถึงตอนนี้จะมีสงคราม”
ชาวเมืองที่มีประสบการณ์ได้ยินความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของพวกเขา
‘ขนาดใหญ่’
‘อืมมมม นี่คือภารกิจ’
‘มันเป็นภารกิจสันติภาพเพื่อที่จะหยุดสงครามและฟื้นฟูเผ่าทะเลทรายเหรอ?
เรียบง่ายแต่ยาก’
และพวกเขารอคำพูดต่อไป
“มีทางเดียวเท่านั้นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามระหว่างเผ่าทะเลทราย
ในตำนานมหาจักรพรรดิจะปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อรวมทะเลทรายทั้งหมดเป็นหนึ่ง”
“ครับ?"
“มหาจักรพรรดิได้ทิ้งมรดกของเขาไว้เบื้องหลังเพื่อให้ลูกหลานได้ค้นหา”
เบ็นสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างและพูดว่า
“คำพูดเหล่านั้นค่อนข้างยาก มูลค่ามรดกของมหาจักรพรรดินั้นต้องมหาศาล”
เป็นการยากที่จะแปลงมูลค่าอุปกรณ์ของวีดที่ทิ้งไว้ในช่วงสงครามเป็นเงิน
“อุปกรณ์และอำนาจของมหาจักรพรรดิถูกทิ้งไว้ในสถานที่ที่อันตรายมาก
ผมได้ยินข่าวลือมา พวกคุณไม่ควรไปที่นั่นเว้นแต่พวกคุณเต็มใจที่จะเดิมพันด้วยชีวิตของคุณ”
“...... .”
“ในความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม
นักรบทะเลทรายหลายคนกำลังพยายามท้าทายที่จะหามรดกของมหาจักรพรรดิ หากพวกเขาได้รับความรู้และพลังของมหาจักรพรรดิแล้ว
พวกเขาสามารถปกครองทะเลทรายได้ แต่นี่คือภารกิจที่นักรบทะเลทรายผู้บริสุทธิ์และมีเกียรติเท่านั้นที่สามารถทำได้”
“มันยากนิดหน่อย”
กลุ่มเอิร์ธชาโดว์สับสน
ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับวีดเป็นเรื่องที่น่ากังวลเล็กน้อย
ในแง่ของความยากลำบาก แต่มันก็ดึงดูด การหามรดกพิเศษหรือเงินจะเป็นสนองความพอใจ
แต่ทะเลทรายเป็นสถานที่ที่มีกว้างใหญ่มากสำหรับการผจญภัย
แต่ดูเหมือนว่าภารกิจนี้มีให้สำหรับนักรบทะเลทรายเท่านั้น
เอลลิคถาม
“นักรบทะเลทรายคืออะไร?”
เขาไม่มีเจตนาเปลี่ยนอาชีพ แค่อยากรู้ข้อมูล
“เฉพาะผู้ชายที่เติบโตขึ้นมาในทะเลทรายรู้สึกถึงดวงอาทิตย์บนผิวของพวกเขานั่นคือคุณสมบัติ”
“ดังนั้นท่านไม่ได้มองหานักรบทะเลทรายเพื่อค้นหามรดกหรอกเหรอ”
“ไม่
มีนักรบทะเลทรายหลายคนที่กำลังมองหาไกด์”
“ไกด์ ท่านหมายถึงคนที่นำทางใช่รึเปล่า?”
“ใช่แล้ว นักรบมีความเคารพต่อมหาจักรพรรดิเป็นอย่างมาก
พวกเขาหวังว่าการเกิดใหม่ของมหาจักรพรรดิจะนำเผ่าทะเลทราย... ท่านจะช่วยนักรบทะเลทรายให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขาได้หรือไม่?”
ตริ้ง!
- ผู้ช่วยนักรบทะเลทราย
มีตำนานของนักรบหนุ่มที่หลับใหลอยู่ในทะเลทราย
ผู้ที่ตื่นขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าสู่ภูเขาทรายและซากกระดูก
นานมาแล้วมหาจักรพรรดิวีดเป็นผู้นำนักรบทะเลทราย
ช่วยนักรบทะเลทรายต่อสู้กับมอนสเตอร์ในภูเขาทรายเพื่อไล่ตามความสำเร็จของวีรบุรุษ
นักรบจะทำตามไกด์ในสถานการณ์อันตราย
ระดับความยาก: A
ค่าตอบแทน: ความศรัทธาของนักรบทะเลทราย
สามารถนำทางนักรบทะเลทรายจำนวนมากขึ้นอยู่กับการประสิทธิภาพของคุณ
ข้อจำกัดภารกิจ: ไม่มีข้อจำกัดในชื่อเสียงหรือเลเวล
ต้องทำให้เสร็จภายในสิบวัน
ค้นพบภารกิจของมหาจักรพรรดิ
|
“ มันยุ่งยากเล็กน้อยและยาวนาน
เราต้องทำภารกิจต่อไปในขณะที่ดูแลนักรบทะเลทราย”
เอลลิคบ่นพึมพำ
แต่ทุกคนรู้สึกว่ามันน่าสนใจ ภารกิจที่จะทำให้พวกเขาสามารถควบคุมนักรบทะเลทรายได้อย่างสนุกสนาน
นักผจญภัยที่อยากรู้อยากเห็นจะไม่ยอมแพ้อะไรแบบนี้
“มาทำกันเถอะ”
“ลองดู”
- คุณได้ยอมรับภารกิจแล้ว
|
ดังนั้นภารกิจของนักรบทะเลทรายจึงได้เริ่มต้นขึ้น
เอิร์ธชาโดว์ ยอมรับภารกิจผู้ช่วยนักรบทะเลทราย
และไปพบกับนักรบทะเลทราย
‘พวกเขายังเป็นนักรบหนุ่ม
ถ้าฉันดูแลพวกเขาให้ดีพวกเขาก็จะเป็นเสาหลักของทะเลทรายได้’
อย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาจินตนาการ
นักรบทะเลทรายทะเลาะกับพวกเขา
“แกมองหาอะไร? เก็บตาของแกให้ห่างข้า”
นักรบที่แข็งแกร่งและหยิ่งผยองเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งทะเลทราย!
นักรบทะเลทรายจะไม่เชื่อฟังเว้นแต่พวกเขาจะแสดงพลังที่เหนือกว่า
ดังนั้นความทุกข์ทรมานที่แท้จริงจึงเริ่มขึ้น
=========================================
“มันหนาวจริงๆ”
- นี่คือสภาพอากาศวันนี้ อุณหภูมิปัจจุบันคือ 6
องศาเซลเซียสฝน และความเร็วลม 4
เมตรต่อวินาทีทำให้อุณหภูมิรู้สึกต่ำลง……
“หุบปากไปเลย
อย่าตอบเว้นแต่ฉันจะถามคำถาม”
ร่างกายของยู บยอง-จินสั่นจากความหนาวเย็น
การนั่งบนม้านั่งมือล้วงในกระเป๋า
เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ร่ำรวยที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ลมหนาวทำให้เขาไม่สามารถเอามือออกจากกระเป๋าของเขาได้
เขานั่งบนม้านั่งไม้เปียกๆ ขณะที่ก้นของเขาเริ่มรู้สึกอับชื้น
ยู บยอง-จินปัจจุบันอยู่ในสวนสาธารณะในนิวยอร์กเพื่อพบกับบาร์ดเรย์
ซึ่งน่าจะเป็นบุคคลแรกที่จะรวมรอยัลโร้ด
บาร์ดเรย์เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายฝรั่งเศส
เขาวิ่งเข้าไปในสวนสาธารณะเป็นประจำตอนตี 5
ยู บยอง-จินจัดตารางเวลา เพื่อให้พวกเขาได้พบกันโดยบังเอิญ
“ทำไมเขาถึงไม่โผล่มาซะทีห๊ะ?”
ยู บยอง-จินรู้สึกถึงความหนาวเย็นซึมเข้าไปถึงกระดูกของเขา
หัวของเขาอาจคิดว่าเร็วกว่าคนหนุ่มสาว แต่ร่างกายของเขาแก่
สวนสาธารณะชื้นเนื่องจากฝนตกตอนกลางคืน
ผู้คนกำลังออกกำลังกาย และนกกำลังร้องจิ๊บๆ
เขามีความคิดไม่รู้จบเมื่อเขานั่งบนม้านั่งในสวนสาธารณะ
“ฉันคงจะแก่เกินไป”
เขาอุทิศชีวิตส่วนใหญ่ให้กับรอยัลโร้ด
โลกส่วนใหญ่ล้อเลียนแผนในวัยเด็กของเขา การสร้างโลกเสมือนจริงของเขาเอง ที่จะให้ความมั่งคั่งและอำนาจมหาศาลแก่คนคนนึง
การได้รับความเหงาเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังแผนการและเขาสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆตั้งแต่เริ่มต้น
มันอาจจะบ้าบิ่น
แต่แผนอันยิ่งใหญ่ของเขาอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย การได้พบกับบาร์ดเรย์ที่ไม่ใช่ในโรยัลโร้ดนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อ
ยู บยอง-จินอย่างมาก
เขานั่งบนม้านั่งสักสองสามชั่วโมง
บาร์เดรย์ไม่ปรากฏแม้หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น
ยู บยอง-จินตัวสั่นจากความหนาวเย็นและถาม
“บาร์ดเรย์จะมาเมื่อไหร่?”
- ท่านด๊อกเตอร์ถามคำถามเหรอ?
“ใช่ซิ”
- เช้านี้บาร์ดเรย์ไม่ได้ออกกำลังกาย
ขณะนี้เขาอยู่บนเครื่องบินไปลาสเวกัสเพื่อพบกับนักลงทุนของกิลด์เฮอร์มีส ในอีก 1 ชั่วโมง 20 นาที
“...... .”
เขาทนทุกข์ทรมานหลายชั่วโมงในความเย็นชาเพื่ออะไร
“เธอรู้อยู่แล้ว ทำไมเธอถึงไม่พูดอะไรล่ะ?”
- ท่านด๊อกเตอร์บอกว่าอย่าพูดอะไรจนกว่าคุณจะถามคำถาม
ยู บยอง-จินก้มหัวลง เขาโทษตนเองที่บ่น
AI
“บาร์ดเรย์จะกลับมาเมื่อไหร่”
- ตามตารางแล้ว น่าจะใช้เวลา 3 วันหลังจากนั้น
“ถ้างั้นฉันจะกลับมาใหม่”
ㅡ…….
ยู บยอง-จินรู้สึกไม่สบายใจเพราะ AI
ไม่ตอบ
“คุณแน่ใจใช่มั้ยว่าบาร์ดเรย์กำลังจะกลับมาน่ะ?”
- การให้คำปรึกษาในการสร้างบริษัทเฮอร์มีสเกือบสิ้นสุดแล้ว
พวกเขาต้องการขั้นตอนสุดท้ายในการอนุมัติข้อตกลง ดังนั้นมีโอกาส 98.7% ที่เขาจะกลับมาในอีก 3 วัน
“อ่า อย่างนั้นหรอกเหรอ”
ยู บยอง-จิน ประทับใจทุกครั้ง ด้วยประโยชน์ของ
AI
มันบรรเทาความรู้สึกที่ไม่สะดวกสบายของมนุษย์และตอบคำถามใดๆได้ทันที
แต่แล้วยู บยอง-จินก็รู้สึกลางสังหรณ์แปลกๆ
“เธอไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
ㅡ…….
“เธอสามารถพูดได้แม้ว่าจะไม่มีคำถาม”
- มันเกี่ยวกับสภาพอากาศในวันนี้ ขณะนี้เมฆกำลังก่อตัวขึ้น เกี่ยวกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
และคาดว่าจะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นประมาณ 60 มิลลิเมตร
จบ เล่ม 40 ตอนที่ 8
ผู้แปล : Rastymay
ผู้แปล : Rastymay
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ใกล้เข้ามาทุกที บาร์คเลย์มันก็ใหญ่เกิน ขอบคุณมากครับ
ตอบลบThanks bros.
ตอบลบอย่าแกงดร. 5555
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบ