เล่ม 31 ตอนที่ 8:
มหาภัยพิบัติทั้งสาม แปลโดย Cole’s Myth
วีดเดินทางมาถึงแนวชายฝั่งของราชอาณาจักรอาเพน
มีความเปลี่ยนแปลงอันน่าประหลาดใจปรากฏขึ้น ณ แถบนี้
อิทธิพลทางวัฒนธรรมของโมราต้าแผ่ขยายมาจยถึงที่นี่
พ่อค้ามากมายก็มาเยือนย่ำหาดทรายขาวด้วยเรือพาณิชย์
บรรดาพ่อค้าสามารถนำสินค้าได้มากยิ่งขึ้นโดยการขนส่งทางทะเล
พื้นที่ตรงอื่นๆนั้นมีโขดหินหรือว่าแนวหินโสโครกมากเกินไป
เพราะฉะนั้นเรือส่วนมากถึงได้มาจอดที่
ชายฝั่งเวอร์น่า
นั่นคือสถานที่ที่เหล่าสามฉลาดโฉดแห่งเบคกี้นินลงหลักปักฐานอยู่กับเหล่าออร์ค
เหล่าศิลปินและสถาปนิกของโมราต้าจึงต้องมาเยือนสถานที่แห่งนี้
“พวกเราต้องสร้างท่าเรือเอาไว้ให้พวกเขาเทียบท่าได้”
“เราเองก็ต้องสร้างกำแพงกั้นคลื่นเอาไว้ด้วยเหมือนกัน”
มีการลงทุนทางสังคมใหญ่มากมายในการสร้างสิ่งก่อสร้างพื้นฐานให้กับราชอาณาจักรอาเพน!
นอกจากถนนหนทาง การขยายตัวเมืองออกไป หรือว่าการสร้างตึกอาหาร
เงินภาษีเองก็ถูกเอามาลงทุนในการก่อสร้างท่าเรือนี้ บรรดาสถาปนิกและวิศวกรใช้เวลาในการสร้างท่าเรือนานถึง
1 เดือน
จากนั้นบรรดาผู้เล่นใหม่ที่เริ่มเล่นเมืองโมราต้าก็พากันมาชุมนุมแถวๆท่าเรือ
“ทะเล....คงเรียกได้ว่าเป็นความโรแมนติกของคนเรา”
“ฉันอยากจะออกไปผจญภัยในท้องทะเลเหมือนกับวีด”
“โหหห! ดูฝูงปลากระโทงที่ว่ายอยู่บนผิวน้ำนั่นสิกำลังส่องแสงระยิบระยับในแสงอาทิตย์เลย”
บรรดาผู้เล่นใหม่ทั้งหลายต่างไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลยจากการออกผจญภัยบนพื้นดินเลย
วิหารเอ็มบินยูสร้างความโกลาหลอยู่ทางตอนกลางของทวีป
เพราะงั้นบริเวณชายฝั่งทะเลถึงได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนท่าเทียบเรือแห่งอื่นๆของทวีปก็เต็มไปด้วยเรือท่องเที่ยวหรูหราและเรือใบขนาดใหญ่ที่มีใบเรือ
10 ใบมาจอดเทียบท่าอยู่มากมาย ความงดงามที่มิอาจปกปิดเอาไว้ด้วยแพจำนวนมากมายนั่นแหละคือขุมทรัพย์อันน่าภาคภูมิที่สุด
ผู้คนมากมายนำแพล่องเข้ามาและออกไปสู่ท้องทะเลที่อยู่ใกล้เคียง
“ตอนนี้ฉันไม่มีเงินซักแดงเดียว
ฉันควรจะออกไปหาเงินจากการผจญภัยในท้องทะเลดีไหมนะ?”
“นายจะต้องไม่ออกไปทะเลเปิดด้วยแพแค่ลำเดียวนะ
นายจะทำยังไงถ้าเกิดเจอพายุเข้าระหว่างทาง?”
เพราะว่าไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง
อู่ซ่อมเรือ แหล่งค้าขายเรือ หรือว่าร้านค้าตามที่เทียบท่า
จึงทำให้บรรดาผู้เล่นมากมายตกอยู่ในสถานการณ์อันแสนเจ็บปวด
ความรู้ในเรื่องการแล่นเรือเองก็เป็นสิ่งที่ราชอาณาจักรอาเพนเองไม่เคยมีมาก่อน
เพราะงั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นขึ้นมา
บรรดาผู้เล่นของโมราต้าได้ค้นพบคำตอบคำตอบจากปัญหาอันแสนยากพวกนี้ด้วยตัวพวกเขาเอง
บรรดาสถาปนิกและช่างตีเหล็กร่วมมือกันสร้างเรือออกมามากมาย
พวกเขาใช้ทักษะฝีมือที่เชี่ยวชาญตั้งแต่อยู่ในทวีปกลางเพื่อสร้างเรือออกมา
ในบางกรณีก็จะมีบางคนตั้งใจไปที่ทวีปกลางเพียงเพื่อเรียนรู้ทักษะสร้างเรือโดยเฉพาะ
“ขายเรือที่พังง่ายแบบนี้
ถ้าข้าล่องไปราชอาณาจักรเบรน์ด้วยเรือลำนี้ได้จมน้ำกันพอดีนะสิ”
“ข้าพึ่งได้เรือที่ใบเรือเสียหายมาเองนะ มีรูตรงใต้ท้องเรือแค่ไม่กี่จุดหรอก
แต่มันก็ยังพอใช้ได้อีกครั้งสองครั้งล่ะน่า ขอแค่ระวังฉลามก็พอแล้ว”
ประสบการณ์ของผู้คนในการสร้างเรือค่อยๆเพิ่มขึ้น
จากนั้นอู่ซ่อมเรือก็ได้ถูกสร้างขึ้นมา ขณะที่พวกเขาสั่งสมประสบการณ์
ความเร็วของเรือก็เพิ่มขึ้น และพวกเขาก็สามารถสร้างเรือใหญ่ได้ในที่สุด
“ปัญหาก็คือเงินที่จะเอามาสร้างเรือ
และคงแก้ได้ด้วยเบ็ดตกปลาพวกนี้แหละ”
“ใช่แล้ว”
เหล่าผู้เล่นใหม่ซื้อเรือราคาถูกๆเพื่อที่จะเอาไปล่องแถวๆชายหาดพร้อมกับเบ็ดตกปลาไม้ไผ่ของพวกเขา
ตอนนี้มีคนกำลังตกปลามากกว่า 1,000 คนด้วยซ้ำ!
บางคนก็นั่งบนโขดหินที่แสนอันตราย
“ได้ตัวใหญ่แน่!”
“นั่นมันปลาทูแขกนิ โอ้โห!
จะจับซักตัวเนี่ยยากนะ นี่ก็นั่งมาตั้ง 3 ชั่วโมงแล้ว!”
คนที่พยายามเรียนรู้ทักษะการตกปลาต่างก็อยากจะได้ออกไปผจญภัยในท้องทะเล
พวกเขาคือคนที่ต่างชื่นชอบในกลิ่นของเกลือและฟังเสียงคลื่นที่ซัดสาด
“ทำเลตกปลาตรงนี้ดีแหะ”
“ช่วงรุ่งค่ำถึงเช้าน่าจะจับได้เยอะนะเนี่ย ไปซื้อเบ็ดคันใหม่มาดีกว่า”
กองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งแดนเหนือ
ลัทธิโจ๊กหญ้ามีความคาดหวังอย่างยิ่งในท่าเทียบเรือวาร์น่า
“ถ้ามีปลาสดๆละก็...”
“คงเอามาทำกับโจ๊กได้”
“ข้าเองก็อยากจะลองทำโจ๊กหอยแครง
โจ๊กพาแร กับโจ๊กสาหร่ายบ้าง”
หน้าเพจหลักบนอินเตอร์เน็ตของลัทธิโจ๊กหญ้ามีผู้เข้ามาดูต่อวันมากกว่า
1 ล้านซะอีก บางคนก็ทำรายการอาหารโจ๊กที่สามารถทำออกมาจากวัตถุดิบจากทะเลได้
และจุดประกายให้กับพวกเขา
มีผู้เล่นใหม่จำนวนมากที่จะนำแพเล็กๆของพวกเขาล่องออกสู่ท้องทะเลสีมรกตและนั่งตกปลา
“ช่วยด้วย!”
“ช่วยข้าด้วย ข้าลอยคอมาตั้ง 6
วัน แถมยังเหนื่อยจากพวกฉลามที่ไล่ล่าข้ามาอีก!”
ท่าเรือวาร์น่าเป็นสถานที่ที่แสนคุ้นเคย
บรรดาผู้เล่นที่ไร้ความกลัวจะออกไปตกปลาเพื่อหาเงินและอยู่กับท้องทะเลจนชิน
มีหมู่บ้านหนึ่งติดกับท่าเทียบเรือที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่
แถมยังมีสินค้าท้องถิ่นิย่างปลาเค็มหรือน้ำมันปลาวาฬเกิดขึ้นมา
มีแม้แต่ตลาดค้าขายเกิดด้วยเช่นกัน
มันเป็นเรื่องยากที่จะหาอาหารทะเลจากทวีปทางตอนเหนือ
เพราะงั้นเมืองท่าเรือของอาณาจักรอาเพนถึงได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ราชอาณาจักรอาเพนมีพลังทางทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง
เพราะงั้นอีกไม่นานก็คงมีสิ่งอำนวยความสะดวกเกิดขึ้นมาแน่ๆ
กิลด์ผจญภัยแห่งมหาสมุทรเองก็ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อที่จำได้จัดการกับภารกิจทางทะเล
“ถ้าหากว่าเราลอยไปตามกระแสน้ำเรื่อยๆ
เราก็จะไปถึง คาเรียทัส อาร์คิเพลากอส ที่เราสามารถจับปลาซันมะได้แล้วหล่ะ
ไปกันเถอะ!”
“ข้าพึ่งได้รับภารกิจให้ไปกอบกู้รูปปั้นหิน!”
“ภารกิจเก็บกู้โบราณวัตถุจากเรืออับปางงั้นหรอ!
เราต้องล่องเรือตั้ง 3 วันเลยนะเพื่อไปทางทะเลตะวันออกนะ
ข้าว่ามันคงล้มเหลวแล้วละ แต่เจ้ายังจะไปอยู่ใช่ไหมหล่ะ?”
มันช่างเป็นเรื่องยากลำบากที่จะออกล่องเรือภายในท้องทะเลเหนือที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลาอย่างนี้
บรรดาเรือเล็กของผู้เล่นใหม่ทั้งหลายได้บุกเบิกเปิดเส้นทางเดินใหม่มากมาย
หากพวกเขาพบเจอกับหมูบ้านตามเกาะที่ไม่ได้อยู่บนแผนที่ก็จะสามารถได้รับเควสใหม่ๆและได้ผูกขาดการค้าไว้ได้ด้วย
เหล่าพ่อค้าภายในราชอาณาจักรอาเพนผู้ค้นพบพวกมันก็สามารถนำเรือพาณิชย์ของพวกเขาไปยังเกาะนั้นๆเพื่อขยายการค้าขายได้
ตอนนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นบรรดาแพเล็กลอยทั่วอยู่ท่าเทียบเรือวาร์น่า
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดหยุดพักที่โมราต้าและเก็บเอาเมล็ดพืชก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไปที่เมืองโรเดียมพร้อมกับละอองเกสรดอกไม้ป่าบางส่วน
-ท่านเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ป่าบริป้า
ปกติดอกไม้ไม่อาจเติบโตบนโรเดียมได้!
ท่านต้องนำเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้หายากบนทวีป บรรดามวลหมู่ผึ้งและผีเสื้ออาจจะยินดีที่ได้ดอมดมบนดอกไม้นานาพันธุ์
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น
21 หน่วย
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 9
หน่วยจากความสวยงามของธรรมชาติ
ค่าความเชี่ยวชาญแกะสลักของท่านเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพาะพันธุ์ต้นไม้
|
วีดนำดอกไม้ป่ามาจากแดนเหนือ
ภายในเมืองโมราต้า บางครั้งก็จะมีเทศกาลดอกไม้ปรากฏขึ้นทำให้ชาวเมืองรู้สึกมีความสุข
ถ้าหากว่าเทศกาลดอกไม้แผ่ขยายมาจนถึงเมืองโรเดียมแล้วผู้คนก็จะมีความสุข
นั่นก็คงไม่ใช่เรื่องที่แย่เท่าไรหรอก
ความเสร็จในภารกิจของเขาคงจจะเพิ่มอิทธิพลที่ดีภายในเมืองโรเดียมอยู่บ้าง
วีดปลดทักษะประติมากรรมจำแลงและกลับไปหาชายชรา
“การเป็นนกฮัมมิ่งเบิร์ดนี่น่าพิศวงดีจริงๆ
ชีวิตนี่ไม่น่าเบื่อเลยตอนที่ฉันได้ออกเดินไป”
ภารกิจ :
การเดินทางของฮัมมิ่งเบิร์ด
ท่านได้เดินทางไปขณะที่เป็นนกฮัมมิ่งเบิร์ด
และกลับมา
ระหว่างที่เดินทาง
ท่านได้แผ่กระจายเมล็ดพันธุ์พืชมากมายทั่วทั้งทวีป
|
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 3400 หน่วย
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
|
ค่าความทักษะแกะสลักเพิ่มขึ้น 3.4%
|
-จากการผจญภัยที่สำเร็จของท่านค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างละ
3 หน่วย
|
--จากการผจญภัยที่สำเร็จของท่านค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างละ
3 หน่วย
|
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติของท่านเพิ่มขึ้น
41 หน่วยหลังจากที่ท่านทำภารกิจการเดินทางของฮัมมิ่งเบิร์ดสำเร็จ
|
ถ้าหากว่าวีดไปรายงานการค้นพบทางธรรมชาตินี้ขณะที่ได้เดินทางในฐานะนกฮัมมิ่งเบิร์ดเขาก็คงจะได้รับค่าตอบแทนอยู่บ้าง
เขาคือกษัตริย์ของราชอาณาจักรอาเพน เพราะงั้นเขาก็คงต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับลอร์ดหรือคนชั้นสูงคนอื่นๆเพื่อที่จะให้ได้รับค่าตอบแทนมา
ชายชราพยักหน้ารับอย่างไร้ชีวิตชีวา
“ข้าไม่ได้เห็นนกฮัมมิ่งเบิร์ดมานานมากแล้ว
ข้าอยากจะเห็นมันอีกครั้งก่อนที่จะตายจริงๆ.....
จากนั้นเรื่องราวถัดไปที่เกี่ยวข้องการแกะสลักก็ปรากฏ
เรื่องราวนั้นคือการจากไปของประติมากรผู้ก่อให้เกิดมหาภัยพิบัติ
ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะกลัวทว่า มีบางอย่างที่ดูสวยงามภายในพลังทำลายล้างนั้นด้วย”
วีดตอบกลับคำไปทันที
“ภัยพิบัติใหญ่ๆบางครั้งมันก็วิเศษมากจริงๆครับ”
มันเป็นสิ่งที่ปลุกเร้าอารมณ์เค้าได้ดีที่สุดในยามที่มันถูกใช้ต่อสู้กับศัตรูของเขา
“ถูกต้อง
ชีวิตใหม่เองก็สามารถเติบโตขึ้นหลังจากการกวาดล้างด้วยภัยพิบัตินั้น ณ
ตอนนี้มีปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งทวีป...
พวกวิหารเอ็มบินยูกำลังทำลายล้างไปทั่วทุกหนแห่งทุกวี่ทุกวัน
หากมีภัยพิบัติเกิดขึ้นกับพวกมัน ข้าจะยอมบอกเกี่ยวกับความงดงามอันแสนโชติช่วงให้เจ้าได้ฟังซักหน่อยแล้วกัน”
ภารกิจ:
กวาดล้างความโกลาหลที่เกิดขึ้นบนทวีปด้วยมหาภัยพิบัติ
วิการเอ็มบินยูกำลังสร้างปัญหาให้กับทวีป
พวกเขาทำเรื่องเลวร้ายและไม่ลังเลที่จะทำลายล้างความสวยงามของผลงานศิลปะ
จงสร้างความเสียกายให้กับกองทัพวิหารเอ็มบินยูด้วยประติมากรรม! นี่แหละถึงจะช่วยให้ทวีปฟื้นคืนมา
และท่านก็คือผู้ที่ได้รับเกียรติที่ดีที่สุดครั้งนี้ด้วย
ระหว่างภารกิจ
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติของท่านจะเพิ่มขึ้น 35% เป็นการชั่วคราว
ถ้าหากท่านสร้างมหาภัยพิบัติ 3
ครั้งและกลับมาอย่างปลอดภัยท่านจึงจะสามารถดำเนินภารกิจถัดไปได้
ระดับความยากของภารกิจ:
ภารกิจเทคนิคแกะสลักลับสุดท้าย
ข้อจำกัดภารกิจ:
ต้องการทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติ
ท่านต้องทำภารกิจและรอดกลับมาอย่างปลอดภัย
ภารกิจจะล้มเหลวหากท่านตาย
|
ภารกิจนี้อยากให้เขาใช้ทักษะประติมากรรมมหาภัยพิบัติ!
“อึก..!”
วีดคิดว่าภารกิจครั้งนี้มันไม่ง่ายเลย
เขาต้องเผชิญหน้ากับวิหารเอ็มบินยูแถมพวกมันยังแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าพวกกิลด์เฮอร์มีสเลย!
เมื่อก่อนนี้พวกวิหารเอ็มบินยูนั้นยังอ่อนแอมากเพราะว่าพวกมันยังไม่ได้คืบคลานเข้ามาในตัวทวีป
ทว่าตอนนี้วิหารเอ็มบินยูได้เข้ายึดครองอาณาเขตกว้างขวางหลังจากที่กิลด์เฮอร์มีสและทหารของพกวเขาแข็งแกร่งขึ้นจากการก่อสงครามแบบไม่หยุดหย่อน
นั่นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเพียงอย่างเดียว
“ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นชะมัด”
พลังทำลายล้างของมหาภัยพิบัตินี้มีอิทธิพลอย่างมหาศาล
เขาพยายามที่จะเพิ่มค่าความอึดอดทนและความยืดหยุ่นอยู่เสมอ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากที่เขาจะต้านทานพลังภัยพิบัตินั้นได้
“หนีจากภัยพิบัติ 3
ครั้งให้รอด...แถมศัตรูก็เป็นพวกวิหารเอ็มบินยู”
ดูเหมือนจะเป็นภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้
แต่เขาก็คงจะสามารถเลือกประติมากรรมและทำเลเหมาะๆของพวกวิหารเอ็มบินยูได้อยู่หรอก
แล้วก็คงหาจังหวะเหมาะๆที่เป็นไปได้อยู่บ้าง
“ถ้าฉันจะต้องทำมันละก็
ฉันก็จะทำให้มันดูเลือดเย็นที่สุด”
เขาอาจจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในฐานะจอมทำลายล้างของทวีปก็เป็นได้
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ณ ป้อมปราการโอดินแห่งราชอาณาจักรพันธมิตรบริทเท่น!
ตอนนี้กิลด์เฮอร์มีสได้ยึดครองดินแดนส่วนมากไปจนหมดแล้ว
แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถผ่านป้อมปราการทางทหารที่ใหญ่ๆไปได้
กิลด์เมฆาเสี่ยงชีวิตของพวกเขาและตายไปเพื่อที่จะรักษาสถานที่แห่งนี้เอาไว้ให้ได้
ทว่าตอนนี้กลับเป็นพวกวิหารเอ็มบินยูที่เข้ามาโจมตีพวกเขา
“ฆ่าพวกนอกรีตพวกนั้นให้หมด”
“ทำลายพวกมันให้สิ้นซากด้วยบัญชาของเทพเอ็มบินยู!”
กองทัพวิหารเอ็มบินยูประกอบไปด้วย
อัศวินทมิฬ ปีศาจและพวกคลั่งลัทธิกว่า 60,000
นาย
พวกคลั่งลัทธิคอยพยายามไต่ขึ้นไปบนกำแพงแม้ว่าจะมีการป้องกันแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม
ทว่าตอนนี้กลับมีพวกไฮพรีสกำลังนำกองทัพอีกกองมาเพิ่มอีก 26,000
นายเข้าร่วมกับกองกำลังหลัก
ป้อมปราการโอดินกำลังเผชิญหน้ากับกำลังศัตรูที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่มันถูกสร้างขึ้นมา
“ปกป้องราชอาณาจักรพันธมิตรบริทเท่น”
“ที่นี่คือป้อมปราการสุดท้ายที่จะป้องกันเมืองเอาไว้ได้
เราต้องสู้”
กิลด์เมฆาพยายามที่จะนำกำลังสนับสนุนของบรรดาผู้เล่นมาให้ได้
ทว่าก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนง่ายๆ
เหล่าผู้เล่นต่างก็พยายามหลบเลี่ยงที่จะไปต่อกรกับพวกวิหารเอ็มบินยู
การเข้าร่วมในสงครามขนาดใหญ่อาจจะได้รับผลตอบแทนมากมาย
ทว่ามันกลับจะสร้างความเจ็บปวดมากกว่าเกี่ยวกับคำสาปของพวกวิหารเอ็มบินยูในเวลาต่อมา
พวกเขาจึงเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกับการออกสำรวจทางศาสนาที่เกี่ยวกับพวกวิหารเอ็มบินยูหรือว่าการต่อสู้ปิดล้อมแบบนี้
แต่ถึงยังไงก็ตามกิลด์เมฆาก็ยังแข็งแกร่งอยู่และยังมีผู้เล่นมากมายกระจายกำลังทั่วราชอาณาจักรพันธมิตรบริเตน
มีทหารรับจ้างบางคนอยู่บ้างที่เข้าร่วมในสงครามปกป้องป้อมปราการโอดินเพียงเพื่อหวังในค่าตอบแทนและภารกิจ
“เทน้ำมันลงไป”
“ยิงธนูป้องกันพวกมันเอาไว้”
ป้อมปราการโอดินกำลังต่อต้านดุเดือดกับพวกวิหารเอ็มบินยู
ช่างเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากสำหรับกิลด์เมฆาที่จะโดนแย่งอีกหลายสิ่งหลายอย่างไปเพราะงั้นพวกเขาถึงต้องพยายามปกป้องป้อมปราการโอดินเอาไว้ให้ได้
พวกเขาจัดเตรียมกองกำลังต่อต้านเอาไว้อย่างดี
แต่เพราะว่าพวกวิหารเอ็มบินยูเข้าโจมตีพวกเขาเร็วกว่าที่คิดจึงทำให้ลำบากมากกว่าเดิม
การจู่โจมของพวกคลั่งลัทธิเป็นอะไรที่แตกต่างจากการโจมตีธรรมดามากและการทำให้พวกมันกลัวนั้นไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย
“สงคราม! วิหารเอ็มบินยูกำลังโจมตีป้อมปราการโอดิน”
“เป็นไปได้ด้วยหรอที่พวกมันจะยึดป้อมปราการไร้พ่ายอย่างป็อมโอดินได้?”
“ที่เห็นตอนนี้ก็แค่ทัพหน้าของพวกวิหารเอ็มบินยูเท่านั้น”
เรตติ่งคนดูในขณะนี้สูงมากจนทำให้สถานีทั้งสามแห่งกำลังถ่ายทอดสดเหตุการณ์นี้
ในขณะที่กองทัพหน้ากำลังโจมตีมาแล้ว 4 ชั่วโมง
กองกำลังหลักของวิหารเอ็มบินยูก็อยู่บนพื้นที่ราบเต็มไปหมด
และมีแมมมอธตัวหนึ่งเตรียมพร้อมที่จะกำลังเข้าชนทำลายกำแพง
“โห
งานนี้ไม่ง่ายแน่ๆ”
“จงสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เหล่าผู้เล่นภายในป้อมปราการโอดินรู้สึกตึงเครียดขณะที่พวกเขามองหน้าออกสู่สนามรบ
การปกป้องกำแพงระหว่างการปิดล้อมดูเหมือนเป็นเรื่องสบาย ทว่ากลับไม่ใช่แบบนั้นเลย
การรุดหน้าเข้ามาของกองกำลังขนาดใหญ่นั้นหมายถึงพวกเขาต้องติดแหง็กอยู่ในป้อมปราการหลายวัน
และต้องรู้สึกหวาดกลัวที่อาจจะโดนฆ่าด้วย
“เราต้องสู้จนกว่าจะจบสิ้น”
“ฉันเตรียมตัวตายตั้งแต่เริ่มมาป้องกันป้อมปราการโอดินแล้วละ”
กิลด์เมฆาได้ทุ่มเทกองกำลังส่วนใหญ่ไปทั้งหมดแล้ว
ทว่าขวัญกำลังใจของพวกเขากลับไม่สูงมากพอหลังจากที่โดนจู่โจมเรื่อยๆแบบนี้
ทันใดนั้นผืนดินก็สั่นสะเทือน
ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยบนทวีปเวอร์เซล
ทว่าแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนที่ป้อมปราการโอดินก็เกิดขึ้นมา ไม่มีการกล่าวถึงปรากฏการณ์แผ่นดินไหวแบบนี้เลยภายในบันทึกประวัติศาสตร์
และเพราะว่าพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจึงเป็นเรื่องยากมากที่ยืนไหวได้
แผ่นดินไหวนั้นทำให้บรรดาผู้เล่นใหม่ตื่นกลัวเป็นอย่างยิ่งหรือแม้แต่บรรดาผู้เล่นทั่วไปก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
ครึก ครึก ครึก ครึก ครึกกกกก
ทันใดนั้นภูเขาลูกหนึ่งก็ปรากฏบนใจกลางกองทัพหลักของวิหารเอ็มบินยู
พวกปีศาจและพวกคลั่งลัทธิก็ร่วงหล่นลงจากกำแพงของป้อมปราการโอดินในสภาพที่เปลือยเปล่า
พวกมันบางตัวตายไปทว่าบรรดาผู้คนก็ไม่ได้ส่งเสียงยินดีอะไรออกมา
ภูเขาหินสูง 400
เมตรได้ปรากฏขึ้นมาเพียงในเสี้ยววินาที แค่นี่ก็ถือว่าเป็นเวทย์มนต์ที่แปลกมากแล้ว!
ภูเขาสูง 400 เมตรปรากฏขึ้นมาจากพื้นที่ราบมันจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก
แถมยังมีหลุมบึงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่บนยอดเขาลูกนั้นด้วย
“นี่มันบ้าอะไรวะ?”
“ทำไมภูเขาแบบั้นปรากฏขึ้นมาตรงกลางกองกำลังพวกเอ็มบินยูได้หละ?”
“โชคดีจริงๆ”
ครึก ครึก ครึกกกกกกกก!
ผืนดินรอบๆภูเขาหินนั้นเริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง
การสะเทือนครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงจนทำให้บรรดาผู้เล่นและเหล่าทหารของป้อมปราการโอดินนั่งลงไปกับพื้น
บรรยากาศเหมือนกับจะมีอะไรซักอย่างจะปะทุออกมาได้ตลอดเวลา
“อะ-อะไรนะ?”
“ข้าว่ามันคงไม่มีแค่แผ่นดินไหวหรอก”
“มีควันอยู่บนยอดเขาลูกนั้นด้วย
แรงสะเทือนคงไม่ได้ออกมาจากนั่นหรอกใช่ไหม?”
“เฮือกกก! ถ้านี่เป็นภูเขาไฟ.........”
หลังจากนั้นไม่นานภูเขาไฟก็ปะทุออกมาจริงๆ
หมู่ควันพวยพุ่งออกมาตามมาด้วยสะเก็ดไฟที่ทะยานขึ้นท้องฟ้าพร้อมกับเสียงคำรามดังสะนั่น
ภูเขาไฟระเบิดได้ปรากฏขึ้นแล้ว
สะเก็ดหินและลาวาพวยพุ่งออกมาปกคลุมทั่วทุกพื้นที่
ปรากฏการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่เคยปรากฏเขตลาส
ฟาลังค์ได้มาอยู่ที่ราชอาณาจักรพันธมิตรบริทเท่นแล้ว!
“อ๊ากกกกกกก!”
“หมอบลง”
ผู้คนส่งเสียงร้องออกมาตามสัญชาตญาณ
“มันจะปะทุแล้วกระจายออกมาไปทั่วแล้ว”
และก็มีคนบางกลุ่มตั้งสติได้และมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หลายคนมองดูต่างรู้สึกตื่นกลัวและรู้สึกทึ่งไปพร้อมๆกัน
ภาพครั้งนี้มีสิ่งที่ยากมากที่จะได้เห็นแม้ว่าพวกเขาจะใช้เงินซื้อไปมากแค่ไหนก็ตาม
แม้ว่าการปะทุของภูเขาไฟนี้จะเกิดขึ้นตรงใจกลางของกองกำลังวิหารเอ็มบินยู
ลาวาและเศษหินก็ปะทะใส่พวกมัน
ความร้อนระอุเองก็ยังสามารถรู้สึกได้จากตัวป้อมปราการโอดิน และท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำทะมึนเนื่องจากเถ้าภูเขาไฟ
มันเป็นภูเขาขนาดเล็กเมื่อเทียบกับภูเขาธรรมดาทั่วไป
ทว่ามันก็ยังมีจำนวนลาวามากมายไหลทะลักออกมามากมาย
ลาวาและก๊าซอันแสนร้อนระอุปะทะเข้ากับผืนดินที่อยู่ใกล้ๆภูเขาไฟลูกนั้น
พวกปีศาจวิ่งหนีเป็นบ้าเป็นหลังแต่พวกมันก็ยังถูกเผาตายจนหมดแล้วก็กลายเป็นเถ้าสีเทาไปในที่สุด
แม้แต่พวกอัศวินและพวกทหารม้าที่มีกำลังรบมหาศาลก็ไม่อาจต้านทานภัยพิบัติครั้งนี้ได้
คำพูดของบรรดาผู้ประกาศข่าวยิ่งไหลพรูออกมาเร็วยิ่งกว่าเดิมขณะที่สถานการณ์นี้ได้กลับตาลปัตร
“โห
กองกำลังวิหารเอ็มบินยูที่กำลังโจมตีป้อมปราการโอดินได้รับความเสียหายจังๆเลยครับ
ภูเขาไฟระเบิดที่เกิดขึ้นมากระทันหันแบบนี้คืออะไรกันแน่คะ?”
“นั่นก็น่าจะพอคาดเดาได้อยู่นะครับ
กิลด์เมฆาคงต้องเป็นคนเตรียมการไว้อยู่แล้ว”
“ถ้างั้นทำไมพวกเขาไม่ใช้มันก่อนหน้านี้ตอนที่ต่อสู้กับกิลด์เฮอร์มีสละคะ?
หรือบางทีพวกเขาคงได้รับวัตถุโบราณที่มีเวสทย์มนต์อยู่ก็ได้นะ.....วิเศษมากจริงๆค่ะ”
“ใช่ครับ น่าทึ่งจริงๆ! สั่นสะเทือนทั้งท้องฟ้าและผืนดินเลยครับ”
“ดิฉันพึ่งได้ข้อมูลจากวงในมากค่ะว่ากิลด์เมฆาม่เคยเตรียมอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย
มันไม่เคยถูกใช้ต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆมาก่อนเลย
งั้นพวกเขาจะเก็บเอาไว้ทำไมหละใช่ไหม?”
“ก็อย่างที่คุณเห็นในภาพถ่ายทอดสดนะครับ
แม้แต่สมาชิกของกิลด์เมฆาเองยังพากันตกใจที่ได้เห็นภูเขาไฟระเบิดนั่นลย”
“ถ้างั้นใครกันละคะที่ทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิดนี่?”
ท้องฟ้าดำทะมึนปกคลุมไปด้วยเถ้าภูเขาไฟ
ลาวาประทุพวยพุงสูงเสียดฟ้า สองปีกสยายกางออกและมีไวเวิร์นตัวหนึ่งปรากฏตัวออกมาพร้อมกับคนๆหนึ่ง
คนผู้นี้ก็คือคนที่บรรดาผู้เล่นทั้งหมดต่างก็ต้องการพบในรอยัลโร้ด เทพสงคราม วีด!
วีดกุมดาบแดม่อนของเขาขณะที่ขี่อยู่บนไวทรี
“วีดนิ! ว่าแล้วต้องเป็นวีด”
ภายในสตูดิโอส่งเสียงอึกทึก
การปรากฏตัวระหว่างลาวาที่กำลังพวยพุ่งทะยานฟ้าอยู่เหนือตัวไวเวิร์น
ช่างเป็นการปรากฏตัวที่น่าดึงดูดมากที่คงไม่มีใครกล้าทำอีกแล้ว
“ฮ่าหหหห!”
“เทพสงครามกำลังช่วยพวกเรา!”
บรรยากาศแห่งชัยชนะที่ได้ปลุกเร้าอารมณ์ได้ปรากฏขึ้นเหนือป้อมปราการโอดินแล้วขณะที่พวกเขาเปล่งเสียงร้องออกมา
แน่นอนว่าสถานการณ์ของพวกเขาต่างจากของวีดมาก เพราะว่าพวกเขาก็แค่ได้เห็ฯสถานการณ์อยู่ไกลๆ
“เฮ้
ทางซ้ายเว้ย ทางซ้าย! ลาวามันจะพุ่งออกมาแล้ว ”
“เคี๊ยกกกกกกกกก!”
“ทีนี้ก็หุบปีกแกไปข้างหลัง
ลาวาจะพุ่งออกมาจากรอยแยกแล้วเว้ย อย่าไปใกล้ตรงนั้น!”
สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาแทบจะหลบหลีกจากลาวาที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟแทบเอาตัวไม่รอด
เจ้าไวทรีต้องรีบเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วขณะที่หวีดร้องไปพร้อมกับสีหน้าที่ซีดเผือด
มันทำบาปกรรมอะไรมานักหนาถึงได้ต้องมาเจอเจ้าของแบบนี้?
“โหหห ไวเวิร์นสุดยอด”
“เจ๋งไปเลย”
“เสียงร้องนั่นสุดยอดและน่าเกรงขามจริงๆ”
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ยูรินได้ยินข่าวลืออยู่เสมอเกี่ยวกับวีดขณะที่กำลังเดินทางด้วยทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายของเธอ
เธอยังได้ยินผู้คนพูดคุยเกี่ยวกับวีดแม้ว่าเธอจะไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองหรือว่าหมู่บ้าน
ทั่วทั้งเมืองเสียงดังสะนั่นพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างกิลด์ยักษ์ใหญ่
ทว่ามันก็แทบจะเทียบไม่ได้กับสถานการณ์ความคลั่งไคล้เกี่ยวกับการผจญภัยของวีด
ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นแขกที่อยู่ภายในร้านเหล้าหรือว่าเป็นผู้เล่นที่ได้ไปออกล่าและออกผจญภัย
คนทั้งหลายที่มีเลเวลสูงๆเหล่านั้นก็คงจะเอาเรื่องนั้นมาอวดเบ่งให้กันฟัง ทว่าวีดก็ยังคงเป็นฮีโร่ของพวกเขา
‘ฉันสงสัยจังว่าวันนี้พี่ทำอะไรอยู่นะ’
ยูรินมักจะไปที่แม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองและเอาเบ็ดตกปลาของเธอออกมา
ทุกๆครั้งที่เธอพยายามสนุกกับทักษะการตกปลาที่เซเฟอร์สอนเธอมา
แต่มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก
เธอสวมใส่หมวกสีเหลืองปีกกว้างและสวมใส่ชุดสีฉูดฉาดเพื่อไปนั่งตกปลาเนี่ยนะ!
‘พี่เขาทำได้ดีจริงๆ’
ยูรินไม่ได้กังวลเกี่ยวกับวีด
เขาเป็นคนที่ยอมอยู่ได้แม้กระทั่งบนเกาะทะเลทราย นั่นก็เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นั่นฟรี!
พืชและสัตว์ที่อยู่บนเกาะนั้นคงดูน่าสงสารไปเลยทันที
เธอรู้สึกสงสัยเกี่ยวผู้หญิงแบบไหนกันที่วีดจะคบ
เพราะว่าคนๆนั้นจะต้องกลายมาเป็นพี่สาวของเธอ
‘พี่ฮวารยองก็ไม่เลวนะ’
ผู้เข้าแข่งขันคนแรกคือ ฮวารยอง
คนที่อยู่ในปาร์ตี้ของเขาอยู่บ่อยๆ
เธอเป็นคนน่าดึงดูดและไม่ได้ปกปิดเลยว่าเธอชอบวีด
ยูรินเคยถามฮวารยองว่าทำไมเธอถึงชอบวีด
“คุณวีดเค้าเป็นคนเก่งงานบ้าน
เขาทำทั้งซักผ้า ทำความสะอาดแถมยังทำอาหารเก่งด้วย
รสชาติปูนึ่งวันนั้นอร่อยมากจริงๆ!”
แน่นอนว่าการชอบเขาในงานบ้านงานเรือนนั้นไม่ได้เป็นเหตุผลทั้งหมด
แต่ก็ถือว่าเป็นเหตุผลหลักของฮวารยอง
ยูรินเองก็มีสัญชาตญาณของผู้หญิงเกี่ยวกับซอยูน
ข่าวลือแพร่กระจายทั่วมหา’ลัยเกี่ยวกับซอยูนและก็ฟันธงได้ทันทีหลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ข้างบ้านพวกเขา
ยูรินแทบจะไม่เคยรู้สึกเลยว่าเธอขาดความงามภายนอกไป แต่หลังจากที่เจอซอยูนมันเหมือนกับว่าพระเจ้าประทานความงามนี้มาให้ซอยูนโดยเฉพาะ
‘ใบหน้านั่นช่าง......เธอคงจะสามารถไปเจอกับดาราดังต่างประเทศหรือแม้แต่พวกราชวงศ์ได้ด้วยซ้ำ’
เธอสงสัยว่าทำไมซอยุนถึงได้สนใจในตัววีดนัก
ถึงขนาดยอมทำอาหารกลางวันมาให้เขา
‘ฉันได้ยินข่าวลือเรื่องการแบล็คเมลล์มาด้วย’
แม้ว่าน้องสาวของเขาจะสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนก็ตาม
แต่เมื่อยูรินได้เจอพวกเขาพร้อมกันในโมราต้า ก็รู้สึกได้เลยว่าพี่ชายของเขาช่างดูจืดชืดมากเมื่ออยู่ข้างๆเธอ
จากนั้นซอยูนก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงชัดเจน
“ฉันไม่ได้มองผู้ชายที่รูปลักษณ์ภายนอกของเขาหรอกค่ะ”
ถึงแม้ว่ามันยังดูไม่สมเหตุสมผลเลยสำหรับยูริน
แต่เอาจริงๆมันก็ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเท่านั้นแต่มันก็ยังมีส่วนอื่นด้วยนิ
ซอยูนมีเลเวลที่ต่างจากเขามากในรอยัลโร้ด
เธอไม่ได้ดูด้อยกว่าเขาเลยไม่ว่าเรื่องไหนๆ
“แล้วถ้าสมมติพวกคุณแต่งงานแต่พี่เขาหางานไม่ได้แล้วเอาแต่เล่นเกมที่บ้านละคะ?”
“เรื่องเงินหรอค่ะ? ฉันจะเป็นคนหาเอง”
“แต่เรื่องแบบนี้ต้องใช้ความแข็งแรงนะคะ”
“ผู้หญิงก็ทำได้เหมือนกันนะ”
“ถึงแม้ว่าจะมีลูกแล้วหรอคะ?”
“ฉันจะเลี้ยงพวกเขาเป็นอย่างดีค่ะ”
“........”
ยูรินทำได้แค่พยักหน้าตอบรับ
เธอมีอีกหลายอย่างที่อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก เธอรู้สึกได้แค่ว่าซอยูนช่างน่าสงสารเกินไปจริงๆ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
“นี่ตามที่เราตกลงกันไว้ครับ”
“หึๆ ฉันไว้ใจนายนะ”
วีดไปเจอกับผู้ส่งสารจากกิลด์เมฆาเพื่อมารับเงินจากที่ได้ตกลงกันไว้
การใช้ทักษะประติมากรรมมหาภัยพิบัติใส่พวกวิหารเอ็มบินยูนั้นไม่ได้ใช้ไปฟรีๆ
เขาได้ทำสัญญากับพวกกิลด์ที่ได้รับผลกระทบจากพวกวิหารเอ็มบินยูและกิลด์เมฆาก็รับข้อเสนอนี้อย่างรวดเร็ว
ภารกิจที่ป้อมปราการโอดินของนั้นสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว
กองทัพวิหารเอ็มบินยูต่างได้รับความเสียหายมากมายจากภูเขาไฟระเบิดนั้นและขวัญกำลังที่จะต่อสู้ของพวกเขาก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
กิลด์เมฆาไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไปและออกไปจากประตูเพื่อทำลายกองวิหารเอ็มบินยูจนสิ้นซาก
วีดเองก็ฆ่าพวกอัศวินทมิฬไปถึง 100
นายขณะที่ขี่อยู่บนเจ้าไวทรี
ขวัญกำลังใจของพวกทหารเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ไวเวิร์นปรากฏตัวออกมาเหนือสนามรบ
กองทัพวิหารเอ็มบินยูเองก็แตกเป็นเสี่ยงเพราะว่าราชอาณาจักรพันธมิตรบริเตนเองก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าพวกมัน
ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่นี้ได้ถูกถ่ายทอดสดและกิลด์เมฆาเองก็ได้รับความน่าเชื่อถือกลับคืนมา
ผ้าคลุมของวีดโบกสะบัดขณะที่อยู่บนหลังเจ้าไวทรี
“หึหึหึ
ถ้างั้นต่อไป....”
“ขอโทษครับ รอซักเดี๋ยว”
“หือ?”
“ยังมีภูเขาลูกหนึ่งอยู่หน้าป้อมปราการโอดิน
ข้าหวังว่าท่านจะเอามันออกก่อนท่านจะไปนะครับ”
ภูเขาสูง 400
เมตรตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 890 เมตรแล้วหลังจากที่มีภูเขาไฟระเบิด ลาวายังคงคุกรุ่นและกลุ่มควันยังคงพวยพุ่ง
เพราะงั้นมันจึงยังดูอันตรายมากอยู่
“ภูเขาดีต่อสุขภาพของนายนะ
คนเราควรจะอยู่ใกล้ๆภูเขาเอาไว้นะดีแล้ว”
“ท่านพูดว่าไงนะ.....”
“ไวทรี ไปเร็ว ฮี๊ย่าห์!”
“…….”
จบตอน
ผู้แปล :
Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ผู้ส่งสาร: วีดเมิงทิ้งภูเขาไฟให้กุทำไมม
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสมกับที่รอคอยจริงๆ
ได้ตังก์ ได้ทำเครส ไม่เสียเปล่าสักอย่างจริงๆ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ555 ขอบคุณครับ นึกว่าเดือนนี้จะไม่มา
ตอบลบก็มันเอาออกไม่ได้นิ 555+
ตอบลบซอยูนนี้ ภรรยดีเด่นแห่งปีจริงๆ น้องเขยถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ตอบลบขอโทด นะคับ ผมพึ่งอ่าน พอดีไม่มีรปภาพหรอคับ
ตอบลบไปหาอ่านแบบมังงะได้
ลบซอยูนเจ้าแม่สายเปย์จริงๆ
ตอบลบ