เล่มที่
16 ตอนที่ 4: กลยุทธ์แห่งชัยชนะ (แปลโดย โอนิ และ แอดชิน)
วีดเป็นกังวลอย่างมากกับการต้องหาวิธีทลายกำแพง
“หนทางยังอีกยาวไกลก่อนที่กำแพงป้อมปราการจะพังทลายลง
จนกว่าเราจะเข้ายึดครองได้”
ในฐานะที่เป็นช่างตีเหล็กเขาสามารถสร้างอาวุธปิดล้อมได้แต่กระนั้นความชำนาญของเขายังต่ำต้อยเกินไป
“ไม่รู้ว่าต้องสร้างอาวุธปิดล้อมมากเท่าไหร่กว่าที่เราจะสร้างอันที่มีประโยชน์ใช้งานจริงๆได้
ไม่งั้น...”
ถ้ามันจำเป็นต้องมีการผลิตอาวุธอย่างช่ำชองเหมือนการผลิตดาบที่ยิ่งใหญ่
แล้วล่ะก็มันคงใช้เวลาหลายอาทิตย์เลยทีเดียว!
การจัดหาวัสดุก็เป็นปัญหาและ
ยังจะชนเผ่าพันธมิตรที่อยากกลับเผ่าอีก
“งั้นก็
มันไม่เหมือนกับว่าเรามีความมั่นใจในการโจมตีเหล่าอัศวินและนักบวชของโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu)
ถึงแม้กำแพงจะพังลงก็ตาม”
ความคิดของวีดผ่อนคลายลง
เนื่องจากการแก้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การผลิตอาวุธ
ปิดล้อมอย่างช่ำชองเขาจึงเลิกผลิตอาวุธไปโดยปริยาย
“การปิดล้อมสมรภูมิรบโดยใช้กลยุทธ์แบบธรรมดาไม่ใช่วิธีที่ดีเลย
มันต้องไม่ใช่คำตอบอย่างแน่นอน”
ไม่มีใครกล้าโจมตีกำแพงป้อมปราการที่ทั้งสูงและหนาหรอกเมื่อคนที่อยู่ด้าน
หลังกำแพงเตรียมการปกป้องปราการอย่างดีเยี่ยม
ชนเผ่าพันธมิตรที่มีจำนวนมากกว่าแต่ก็มีข้อเสียเมื่อต้องใช้วิธีรบแบบกลุ่ม
หน้าที่ที่ดีที่สุดของแต่ละคนคือต้องรบแบบหมาหมู่และเหมือนการออกล่า
วีดเร่งความเร็วขึ้นโดยใช้ทักษะการตัดเย็บและช่างตีเหล็กพร้อมกัน
แต่อาวุธ
พื้นฐานเสื้อเกราะของชนเผ่าพันธมิตรนั้นมันสุดเส็งเคร็งและพวกเขาส่วนใหญ่
คงจะตายตอนเข้าบุกโจมตีก่อนจะปีนขึ้นกำแพงด้วยซ้ำ
“นี่เราควรจะฟังคำแนะนำของสมิธและพาใครมาช่วยอีกคนรึเปล่านี่?”
แต่วีดส่ายหัว
มันสายเกินไปแล้วที่จะมาเสียใจและเขาก็ไม่อาจย้อนกลับไปได้
ด้วย ถึงแม้ว่าเพล
เซเฟอร์ หรือเหล่านักดาบจะมาด้วยแต่สถานการณ์ก็คงไม่
เปลี่ยนไปมากนักหรอก
ประสบการณ์ส่วนตัวที่เขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่ง
ของศัตรูนั้นราวกับว่าการประสบความสำเร็จของเควสครั้งนี้จะริบหรี่เต็มที
ต้องต่อสู้กับนักรบมืออาชีพที่ระดับกลางอย่างเลเวล 500 มันต้องใช้ความ
รุนแรงถึงสามารถทำลายประตูปราการได้อย่างดาบระเบิดหรือทักษะการ
ทำลายล้างที่สูงมาก
การดักซุ่มโจมตีก็อาจปราบเหล่านักบวชของโบสถ์เอมบินยู (Embinyu) ลงได้!
ในฐานะที่เป็นอัศวินเขาสามารถออกคำสั่งและแสดงให้ชนเผ่าพันธมิตรเห็นถึงจุดสูงสุดของการเป็นผู้นำของเขา
ถึงแม้ว่าชนเผ่าจะอยู่รวมกันพวกเขาก็แค่กองกำลังชั้นห่วย
แต่เขาสามารถทำให้ชนเผ่าพันธมิตรต่อสู้ข้ามผ่านขีดจำกัดของพวกเขาไปได้โดยใช้ภาวะผู้นำและพรสวรรค์
ถึงแม้ว่าชนเผ่าพันธมิตรเกิดความเสียหายอย่างหนักเขาก็ยังต้องดึงเอาศักยภาพอันสูงสุดของพวกชนเผ่ามาใช้และมองหาโอกาส
มันอาจจะกลายเป็นชัยชนะอันทรงพลังยิ่งที่คุ้มค่าไว้เป็นประวัติศาสตร์ของทวีปเวอแซล
วีดไม่ได้ประเมินความสามารถในการบังคับบัญชาของเขาไว้ในระดับสูงเลย
“เราสามารถชนะสงครามก็ต่อเมื่อเราสู้ชนะ”
เขาไม่มีความปรารถนาอยากต่อสู้ในสมรภูมิรบเลยถ้ามีเพียงแค่โอกาสอันน้อย
นิดที่จะรบชนะของชนเผ่าพันธมิตร
การเอาชนะทั้งคุณภาพและปริมาณ
ของกองกำลังทหาร ภูมิประเทศ
และสภาพของอุปกรณ์รบนั้นมันไม่ง่ายเลย
ซ้ำยังมีขีดจำกัดของการมอบชีวิตให้อีกถึงแม้นั่นคือข้อดีของประติมากร
เขาอยากให้มันเกิดมีชีวิตขึ้นถ้าเขามีประติมากรรมแกะสลักซัก 100 ตัวหรือประมาณนั้น
เขาคงจะได้เห็นโอกาสแห่งชัยชนะ แต่ถ้าเขาทำอย่างนั้นแล้วล่ะก็ชั้นเลเวลของวีดจะตกลงอย่างน้อย
160 ขั้น
“ถึงแม้ว่าเราทำเควสสำเร็จแต่มันจะไม่เหลืออะไรเลย”
อย่างดีที่สุดเหล่าประติมากรรมที่ได้รับพลังชีวิตจะตายอย่างเหี้ยมโหดในสงครามปิดล้อม
แม้เขาทำเควสสำเร็จแต่เหล่าประติมากรรมเกินกว่าครึ่งตายลงมันก็เป็นการ
สูญเสียอันอย่างใหญ่หลวงนัก! เขาต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งที่เลเวลต่ำ
กว่า 200
แม้ว่าเควสจะสำเร็จก็ตามแต่มันก็ไม่เหลืออะไร
“นี่แหล่ะที่เค้าเรียกกันว่าการทำธุรกิจแบบไม่ได้กำไร”
วีดจึงตัดสินใจกลับไปคิดถึงส่วนที่สำคัญสุดและวิเคราะห์แผนการรบอีกรอบ
ก่อนการเริ่มรบเขาต้องเลือกตัวช่วยที่สามารถทำลายล้างสูงและเลือกสนามรบที่ดีที่สุดสำหรับกองกำลังของเขา
สำหรับตอนนี้เป็นครั้งแรกในรอบยาวนานที่วีดออกจากระบบเพื่อพักผ่อน
**
“นี่คือห้องสมุดหรือนี่?”
ลีฮุนค้นหาห้องสมุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การลงทะเบียนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกาหลี
เขาไม่เคยสนใจมันเลยเพราะห้องสมุดของมหาวิทยาลัยไม่มีหนังสือการ์ตูนให้อ่าน
“เพียงแต่ว่ามันเป็นความฝันของฉันตั้งแต่ตอนยังเด็ก”
การอ่านหนังสือการ์ตูนและทำราเมนกินตอนหิว
– มันเป็นความเพ้อฝันอย่างมีความสุขที่เค้าปรารถนาถึงเมื่ออยู่สมัยประถมและมัธยม
เขายังเป็นนักอ่านที่ขะมักเขม้นอ่านการ์ตูนตีพิมพ์รายวันเมื่อตอนส่งหนังสือพิมพ์
“ห้องสมุดที่ไม่มีหนังสือการ์ตูน
โรงเรียนนี้ช่างเลวร้ายจริงๆ!”
ลีฮุนบ่นยับวิจารณ์นโยบายของห้องสมุดโรงเรียน
ห้องสมุดเยอะแยะที่อื่นๆก็มีหนังสือการ์ตูนแต่ที่มหาวิทยาลัยเกาหลีดันไม่มีชั้นวางหนังสือการ์ตูน
ข้อดีของนักเรียนทุน
ผลประโยชน์ของการเรียนต่อเมืองนอก ความทันสมัยของห้องเรียนใหญ่
และสิ่งอำนวยความสะดวกในการวิจัยด้านต่างๆที่มหาลัยจัดให้นั้นเขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
“มันก็เหมือนกับโรงเรียนล้าหลังถ้ามหาลัยปราศจากหนังสือการ์ตูน
เน่าจริง มันแย่มาก แล้วพวกเขาใช้ค่าเทอมไปกับอะไรเนี่ย?”
มีพวกหนังสือนิยาย นวนิยาย เศรษฐศาสตร์
วิทยานิพนธ์ ประวัติศาสตร์ และหนังสือพวกศิลปะจำนวนมหึมาทั่วทั้งตึกของห้องสมุด
“หวัดดีโอปป้า (พี่ชาย)”
“คุณก็มาด้วยเหรอพี่ชาย”
เพื่อนร่วมชั้นจากแผนกเกมส์เสมือนจริงจำลีฮุนได้จึงทักทายเขาอย่างเงียบๆ
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังศึกษากันเป็นกลุ่มแบบสองและสามคนอยู่ในห้องเรียนของห้องสมุด
“อ้า ใช่” ลีฮุนเพียงพยักหน้าเบาๆ
มันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่เขาต้องระวังตัวขณะที่เรียนในมหาวิทยาลัย
“ชั้นจะต้องไม่ไปใกล้ชิดกับใครที่อายุน้อยกว่าชั้น”
ถ้าเขากลายเป็นรุ่นพี่เขาต้องเลี้ยงพวกรุ่นน้องของเขาเหมือนโดนปล้นเลยทีเดียวเพราะพวกเขาต้องทะลึ่งไล่ตามเขาเพื่อให้เขาเลี้ยงอาหารฟรี
ในกรณีของลีฮุน
เขาเคยถูกเหล่านักเรียนขอร้องให้ซื้ออาหารให้กินสองสาม
ครั้งตั้งแต่เห็นว่าเขาแก่กว่าเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น
“ชั้นต้องดูแลสุขภาพชั้นเลยห่อข้าวกลางวันมากินจากบ้าน”
เขาหันเหการเกิดวิกฤต
มุมมองของเหล่านักเรียนจึงเปลี่ยนไป
‘โอปป้าชายรักครอบครัวที่คำนึงถึงเรื่องสุขภาพ’
‘เขาไม่มีทางจะเลี้ยงอาหารเราเลย’
ถึงอย่างนั้นก็ตามลีฮุนก็ระมัดระวังตัวเสมอ
เขาไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีใครมาขอให้เขาเลี้ยงข้าว พวกเขาอาจจะขอให้เลี้ยงเครื่องดื่มที่คาเฟ่หรือขนมที่โรงอาหาร
โรงเรียนบ้านี่!
ที่นี่เป็นร้านอาหารหรือไงนะ? ทำไมถึงมีขายของกินเยอะแยะไปหมด?
มันแย่มากที่เขาต้องคอยหลบเลี่ยงตู้ขายของหยอดเหรียญที่ตั้งอยู่ทุกอาคาร
“คุณมาเรียนงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ ชั้นมาเพื่ออ่านหนังสือ”
ลีฮุนตอบกลับขณะเดินเบาๆต่อไปข้างหน้า
“ฮุง (พี่ชาย) หนังสือนวนิยายวรรณกรรมอยู่ชั้น
2”
“ชั้นไม่ได้มาอ่านนิยาย
แค่มีบางอย่างที่ชั้นต้องหาดู”
“แล้วคุณมาหาอะไรที่นี่ล่ะ?”
“ยุทธศาสตร์ การทหาร การสงคราม
รู้ไหมว่าพวกนี้อยู่ไหน?”
“หนังสือพวกนั้นอยู่บนชั้น 7
แต่...”
“หือ.. ขอบคุณที่บอก”
ลีฮุนกดลิฟท์ไปชั้น 7
บนชั้น 7
จะมีแต่หนังสือปรัชญาตะวันออก ประวัติศาสตร์ และหนังสือโบราณต่างๆ
ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีนักเรียนขึ้นมาชั้นนี้บ่อยนัก
เมื่อลีฮุนเข้ามาในลิฟท์แล้วนักเรียนคนอื่นจึงกระซิบกัน
“เขาต้องสนใจพวกปรัชญาตะวันออกมากแน่เลย”
“แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพูด...
แต่ระดับเขาสูงมาก”
“เขาต้องมีความรู้ความสามารถและมีดีแน่ๆถึงได้ออกเดทกับเหล่าพี่สาวสุดสวย”
ตั้งแต่ลีฮุนออกเดทกับซอยูนและจุงเฮียวรินช่วงเทศกาลโรงเรียน
เขาก็กลายเป็นคนมีชื่อเสียง”
แทนที่จะอิจฉาแต่เหล่าผู้ชายกลับเคารพเขาอย่างที่สุด
ส่วนพวกผู้หญิงเขากลายเป็นชายลึกลับทรงสเน่ห์ที่น่าค้นหา
“แต่เขาต้องเก่งภาษาจีนด้วยแน่ๆ”
“หา?”
“ชั้นเคยขึ้นไปชั้น 7 มาแล้วตอนเซงๆ
แต่หนังสือส่วนใหญ่บนตู้เป็นภาษาต้นฉบับไม่ได้แปล”
**
“ชิบ_เวรเอ้ย!” ลีฮุนพุ่งสบถออกมา
“ห่า_เอ้ยทำไมต้องมีหนังสือต่างชาติที่เกาหลีด้วยนี่?
มันควรจะพิมพ์หลังจากแปลเสร็จแล้ว!”
เขาไม่รู้หัวรู้ก้อยอะไรเลย
ครึ่งนึงบนตู้เป็นหนังสือต่างประเทศและอีกส่วนเป็นภาษาเกาหลีที่เขียนด้วยตัวหนังสือเกาหลีโบราณ
ในเมื่อมันไม่ได้เขียนด้วยภาษาเกาหลียุคปัจจุบันจึงยากอย่างยิ่งที่จะต้องอ่านมัน
“ชั้นต้องหาหนังสือพวกกลยุทธ์...”.
หนังสือที่ลีฮุนกำลังหาเป็นพวกหนังสือหายากและยังไม่ได้แปล
หลังจากเขารื้อค้นบนชั้นหนังสือแล้วซึ่งแน่นอนมันยากที่จะเข้าใจจริงๆ แม้ว่าจะมองอ่านชื่อหนังสือเขาก็ยังไม่เจอหนังสือที่เขาต้องการ
“ร้านหนังสือส่วนใหญ่จัดวางเรียงตามชื่อเรื่อง
แต่ทำไมมันช่างยากเย็นที่จะหาในห้องสมุดนะ?”
ที่จริงมันจะง่ายขึ้นที่จะหาหนังสือกลยุทธ์ที่ลีฮุนต้องการที่หมวดนิยาย
หนังสือประเภท ตำราพิชัยสงคราม กลยุทธ์พลเรือตรียี่ อู๋ซี (สามก๊ก)
ได้ตีพิมพ์ในหมวดนิยาย พร้อมทั้งคำอธิบายเป็นภาษาเกาหลีซึ่งอ่านเข้าใจง่ายและมีภาพประกอบในเล่ม
อย่างไรก็ตามการหาหนังสือที่เขาต้องการด้วยภาษาต้นฉบับไม่ได้แปลบนหมวดปรัชญาตะวันออกนั้นช่างเป็นนรกจริงๆ
“ชั้นจะต้องหากลยุทธ์หรือชั้นเชิงการทหารเพื่อต่อต้านให้สู้ชนะโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu)ให้ได้”
อย่างเห็นได้ชัดว่าทำไมลีฮุนถึงใช้เวลาอันมีค่าของเขามาที่ห้องสมุด
มันยากที่จะเสริมสร้างพละกำลังกองทหารของเขา
เขาจะต้องใช้กองกำลังของเขาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ถ้าเกิดกลยุทธ์หรือชั้นเชิงการทหารถูกมองทะลุเขาจำเป็นต้องมีแผนการขั้นสูงพอที่จะทำให้นายพลรบพิเศษสามารถพยายามมากพอ
“ชั้นต้องหากลยุทธวิธีแบบนั้น...”
ไม่ว่าเขาจะมองไปที่หนังสือกลยุทธ์มากเท่าไหร่
แต่การอ่านมันนั้นช่างเป็นไปไม่ได้เลย
หนังสือกลยุทธ์ที่เขาหาเจอฉบับภาษาเกาหลีมีข้อความเช่น
-
รู้เรารู้ศัตรูคุณจะไม่พ่าย
(รู้เขารู้เรารบชนะ)
ถ้าคุณเปรียบเทียบลีฮุน ระหว่างชนเผ่าพันธมิตรของวีดกับกองกำลังของโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu) นั่นมันมากเกินไปจริงๆ
“การเคยรบชนะ ราวกับว่า...
เควสจะไม่สำเร็จ” ลีฮุนบ่นพร้อมกับมองหาหนังสือเล่มอื่น
ดังที่เขารื้ออยู่เขาจึงเจอหนังสือนิยายบนชั้น
สามก๊ก!
อย่างเด่นชัด บางคนอ่านมันแล้วสุ่มวางทิ้งไว้บนชั้นหนังสือ
“สามก๊ก...
นอกจากชื่อเล่มแล้วชั้นยังไม่เคยอ่านมันมาก่อน”
ลีฮุนพิจารณาอย่างรวดเร็วไปที่หนังสือสามก๊ก
มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการร่วมคำสัตย์สาบานในสวนดอกท้อระหว่างเล่าปี่ กวนอู และจังเฟย
(เตียวหุย) (p.86 – Liu Bei, Guan Yu, and Zhang Fei)
(หนังสือวรรณกรรมเขียนโดยหลัว
กวั้นจงในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 อ้างอิงจากเนื้อหาเรื่องจริงเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์)
เขาไม่ได้อ่านเนื้อหาอย่างละเอียดทั้งหมดในหนังสือสามก๊ก
แต่อ่านเรื่องราวผ่านไปทีละบท
ส่วนที่สำคัญสุดคือตอนที่เล่าปี่ไปหาจูกัดเหลียงสามรอบเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เข้าร่วมทีม
มันก่อให้เกิดการพลิกล็อคจากตำแหน่งที่เสียเปรียบโดยสิ้นเชิง
ลีฮุนจึงได้ค้นพบกลยุทธวิธีต่อกรกับโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu) จากหนังสือสามก๊ก
**
กองทัพอันยิ่งใหญ่ของโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu)!
หลังจากวีดและชนเผ่าพันธมิตรบุกโจมตี
ความระมัดระวังของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้น
เหล่าทหารบนกำแพงจึงเพิ่มจำนวนอย่างมากและยังมีคันธนูกับลูกศรธนู
ซึ่งเป็นหลักฐานของการเติบโตของกองกำลังอย่างต่อเนื่องและการขยายกำลังทหารติดอาวุธแม้จะอยู่ภายในป้อมปราการของโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu)
“ปิงหลง”
วีดพูดขณะอยู่ข้างหลังภูเขาหินจุดที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากป้อมปราการ
“ว่ามาเลยนายท่าน”
“จงไปสอดแนมว่าที่นั่นมีจำนวนทหารเท่าไหร่และมารายงาน”
“รับทราบนายท่าน”
ปิงหลงกระพือปีกไปบนท้องฟ้าและไม่ได้เข้าใกล้ป้อมปราการของโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu)จากนั้นจึงรายงานหลังจากสังเกตุการณ์จากมุมไกลแล้ว
“มีมนุษย์บนกำแพงจำนวนเกิน 5,000
คนนิดหน่อย”
“นั่นมันค่อนข้างเยอะทีเดียว
แล้วจำนวนพวกที่ใส่ชุดเกราะล่ะ?”
“มีประมาณ 1,000 คน”
มีอัศวินมืด (dark
knight) จำนวนถึง 1,000 คน เขาต้องทึกทักเองว่าพวกที่เหลือคือเหล่าทหารธรรมดา
นักบวช หรือนักเวทย์
ยังรวมถึงพวกที่ไม่ได้อยู่บนกำแพง
จำนวนคนรวมทั้งหมดต้องมีอย่างน้อยๆเป็นสองเท่าทีเดียว
วีดคำนวนถึงการปิดล้อมโจมตีเขาจะได้ล่อทำลายกองกำลังแถวหน้า
กลยุทธ์การแบ่งแยกและพิชิตชัย!
เขาล่อหลอกและทำลายศัตรูที่อ่อนแอเป็นอันดับแรก
นอกเหนือจากนี้ยังมีกองกำลังจำนวนมหึมาอยู่ในส่วนของกองกำลังโบสถ์เอมบินยู
(Embinyu) มากไปกว่านี้มันไม่ได้เป็นที่กล่าวเกินจริงเลยว่าโบสถ์เอมบินยู (Embinyu) ยังปกครองชนเผ่าใกล้เคียงอีกด้วย ขณะที่ยังรบกันอยู่นั้นกองกำลังหนุนจากเผ่าอื่นต้องมาสมทบร่วมแน่นอน
“มันหมายความว่ามีศัตรูจำนวนใหญ่มากกว่า
2 เท่า... แบบนี้มันเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง”
“นายท่าน
จะไม่โจมตีกองกำลังอีกรอบเหรอ?”
“ใช่”
ตั้งแต่ปิงหลงถูกเรียกออกมาช่วงขณะทำเควสมันจึงไม่รู้ว่าวีดกำลังทำเควสอะไร
สมิธทหารรับจ้างแก่ที่เกษียนแล้วเขาไม่ได้มาด้วยแต่ยังอยู่ที่หมู่บ้านเผ่าซัลแมร์
Salmere เขาปฏิเสธการเข้าร่วมรบเพราะเขาเคยบอกว่าการรบกับโบสถ์เอมบินยู (Embinyu) มันคือการฆ่าตัวตาย
“ข้าต้องการฟังแผนจากเจ้านาย
กองกำลังนั้นดูอันตรายมาก”
ปิงหลงเติบโตขึ้น!
ความฉลาดของมันเติบโตขึ้นมันจึงมีความคิดที่น่าชื่นชมอยากรู้แผนการของวีดล่วงหน้า
วีดตอบกลับอย่างเต็มใจ
“มีบางอย่างที่เรียกว่าพลังของการปลดปล่อย
หรือจะเรียกมันว่าหัวหน้าสัตว์ประหลาดอันพิศวงแห่งทวีปเวอแซล
เจ้าจำเจ้ามังกรโครงกระดูกได้ไหม? ข้ากำลังจะนำตัวที่แข็งแกร่งกว่ามันออกมา”
“ท่านกำลังจะนำสัตว์ประหลาดออกมาถึงแม้พวกเรารับมือกับศัตรูไม่ได้เหรอ?”
“ใช่ล่ะ
ข้ากำลังจะปลุกมันขึ้นมาและเราจะรบร่วมกัน”
“แต่หากสัตว์ประหลาดตัวนั้นโจมตีเราล่ะ?”
“พวกเราจะต้องระวังไม่ให้โดนการโจมตี”
ปิงหลงพยักหัวเหมือนมันพอใจกับคำตอบ
“นายท่านช่างอัจฉริยะเฉียบแหลมยิ่ง”
“ใช่
จริงสุดๆที่ข้านั้นค่อนข้างฉลาด”
วีดดึงดาบกายสิทธิ์ออกมาเพื่อใช้พลังของการปลดปล่อย
มันไม่เหมือนเวทมนต์แบบธรรมดาเขาจึงต้องท่องร่ายคาถาศักดิ์สิทธิ์
“ข้าผู้รับใช้ปรารถนาใช้พลังอันแข็งแกร่งของเทพเมทาลอต
(Matallost)
โปรดให้พลังนั้นแก่ข้าด้วยเทอญ”
ติ๊ง
-
คุณได้รับพลังแห่งการปลดปล่อย
ณ ช่วงเวลานั้น
ภาพของทั่วทั้งทวีปเวอแซลได้ถูกฉายให้เห็นในดวงตาของวีด
สัตว์ประหลาด!
เขาสามารถเรียกสัตว์ประหลาดชนิดไหนออกมาก็ได้หากเขามองหาและเลือกสัตว์ประหลาด
เป็นที่แน่อยู่แล้วว่าถ้าเขาเรียกสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถจัดการได้ออกมาจากขุมพลังแห่งการปลดปล่อยและมันอาจจะมีผลกระทบอันเลวร้ายก็เป็นได้
“อุหุหุ”
“คุฮุฮุฮุ
พวกมนุษย์ช่างน่ากลัวเสียนี่”
กอบลินที่วิ่งอยู่ในความมืดได้วิ่งผ่านไป
‘อย่างไรก็ตามข้าต้องเรียกสัตว์ประหลาดอันแข็งแกร่งออกมา
หรืออาจสมานมิตรกับเหล่าตัวละคร NPC’
วีดสร้างหายนะให้กับหุบผาชัน ภูเขา
แม่น้ำ
ดังเช่นเคยที่ในทวีปเวอแซลล้วนมีเหล่าหัวหน้าสัตว์ประหลาดและสัตว์ประหลาดที่ไม่อาจพิชิตได้เป็นจำนวนมาก
มักจะมีกลุ่มคณะสำรวจเดินทางลงทัณฑ์สัตว์ประหลาดในทวีปกลาง แต่ทางด้านตะวันออก ตะวันตก
ใต้ และทางเหนือคณะเดินทางมักถูกเหล่าหัวหน้าสัตว์ประหลาดรุมกระทืบ
เหล่าสัตว์ประหลาดซ่อนอยู่ในดันเจี้ยนที่ยังไม่ถูกค้นพบ
ระดับขั้นเลเวลหรือลักษณะเฉพาะของเหล่าหัวหน้าสัตว์ประหลาดยังไม่เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธาณชน
‘การจะทำเควสให้สำเร็จได้นั้น...
คำตอบคือต้องเป็นเหล่าสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งสุดยอดจริงๆ’
ช่างน่าขัน
เหล่าสัตว์ประหลาดที่มีขากรรไกร! เขาตั้งใจจะเรียกสัตว์ประหลาดประเภทที่กลุ่มกิลอันทรงเกียรติยังต้องใช้กำลังคนรวมกว่า
500 คนในการต่อสู้กับมัน
มาตรฐานขั้นต่ำคือแวมไพร์ลอร์ดโทริโดหรือพวกชั้นระดับมังกรกระดูก!
วีดใช้เวลา 6
ชั่วโมงในการเลือกพวกสัตว์ประหลาดที่เหมาะสมอย่างระมัดระวัง
อย่างสยองขวัญ กษัตริย์ที่น่าเกรงขามที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์แห่งทวีปเวอแซล!
นั่นคือบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเควสที่วีดเคยทำสำเร็จมาก่อน
“ข้าจะใช้นี่แหล่ะเปิดศึก”
ตัวถัดไปคือสัตว์ประหลาดกลายเป็นที่โด่งดังหลังจากมันได้ทำลายล้างกลุ่มกิลอันทรงเกียรติที่อุทิศสละชีวิตในการโจมตี!
ตัวสุดท้ายคือตัวที่ถูกห้ามให้พูดถึง
สัญลักษณ์ของพลังและอำนาจ!
นั่นคือการดำรงอยู่ของการทำลายล้างซึ่งสามารถกวาดทั่วทั้งอาณาจักรให้หายไปเพียงข้ามคืนได้
“อย่างน้อยสุด
ข้าก็ต้องเลือกเลเวลระดับนี้ล่ะ”
วีดแสดงความพึงพอใจอย่างที่สุดขณะใช้พลังแห่งการปลดปล่อย
คัดเลือกตัวแสดงอย่างสง่า!
อย่างไรก็ตามมันคือทุกสิ่งทั้งหมดหรือจะไม่ได้อะไรเลยสำหรับความยากของเควสในระดับ
S มันไม่ใช่เควสที่จะจัดการให้สำเร็จแบบทั่วไปได้แบบไม่ผูกมัด
“ผลลัพท์ที่แย่ที่สุดคือข้าต้องตายถึงสองครั้ง
มาลองซักตั้งกับทุกสิ่งที่พวกเรามี!”
วีดรู้สึกจิตใจสงบขึ้น
เขาแค่รู้สึกสับสนก่อนตัดสินใจแต่เมื่อเขาตัดสินใจแล้วเขาจะไม่ผิดหวังเสียใจ
“งั้นก็ดี
ข้ายังเหลือเวลาอีกซักหน่อยงั้นข้าควรมาแกะสลักผลงานประติมากรรม?”
เขากำลังลองแกะสลักโดยใช้ภูเขาหินก่อนที่จะเรียกสัตว์ประหลาดออกมา
เขาไม่หวังจะได้ผลงานชิ้นเอกเมื่อเขามีเวลาจำกัด
แต่ถ้ามันเป็นผลงานประติมากรรมที่มีประโยชน์มันคงจะช่วยการศึกนี้ได้
วีดดึงมีดแกะสลักออกมาและมุ่งหน้าไปยังภูเขาหิน
**
ทางสถานีได้รับวีดีโอของลีฮุนและกำลังเปิดชมตามเวลาจริงณ
ขณะนั้น
มีบางช่วงที่ภาพฉายช้ากว่าเล็กน้อยเนื่องจากเวลาและความเร็วที่แตกต่างในแคปซูลเกมส์
เนื่องจากมีอะไรมากมายที่พวกเขาต้องทำจึงต้องอยู่ดึกตลอดคืน!
อย่างไรก็ตามวีดีโอส่วนที่ไม่สำคัญตอนเขากำลังทำอาหารหรือแค่เคลื่อนไหวจะถูกตัดต่อให้เดินหน้าเร็วขึ้นเพื่อคนชมจะได้ดูการผจญภัยของลีฮุนในเวลาจริงๆ
ผู้อำนวยการคังบีบจับต้นคอตัวเอง
“อ้า!”
เขาตะลึงมึนแบบพูดไม่ถูกตั้งแต่เขาเห็นภาพที่ลีฮุนเรียกเหล่าอสูรสัตว์ประหลาดออกมาจากพลังแห่งการปลดปล่อย
น่าหวาดกลัวเสียนี่!
ไม่เพียงแต่ผู้อำนวยการคังแต่ยังมีพนักงานอีกกว่า
50
คนก็รู้สึกทึ่งตรึงใจมาก
“เขาบ้ารึเปล่า?”
“เขามันบ้าไปแล้วแน่ๆ!”
“อุหวาวววว!
พวกนั้นเป็นอสูรสัตว์ประหลาดอะไรเนี่ย...?! ตัวแรกที่โผล่ออกมา
ก็ดูน่าขัน!”
ผู้อำนวยการคังและพนักงานในสถานีคิดว่าเขาแค่เรียกเหล่าสัตว์ประหลาดและพวกตัว
NPC
ที่แข็งแกร่งระดับปานกลางออกมา
ถ้าเขาขอร้องเหล่าอัศวินของอาณาจักรโรเซนไฮม์ให้ช่วยน่าจะดีเพราะอัศวินทหารม้าถือว่ามีประโยชน์ในสมรภูมิรบทีเดียว
การเรียกนักเวทย์ของอาณาจักรมาก็ไม่ได้แย่ซักทีเดียว
วีดสามารถขอความช่วยเหลือแลกเปลี่ยนการสนับสนุนได้จากอาณาจักรโรเซนไฮม์หรือตั้งแต่ที่เขาได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรที่แข็งแกร่งภายในทวีปกลางเขาก็สามารถขอความช่วยเหลือจากที่นั่นได้
อัศวินโคลเดอริมแห่งอาณาจักรคัลมอล!
สำหรับคนที่สถานีที่รู้เกี่ยวกับเควสแห่งอาณาจักรแวมไพร์โทเดียมการเรียกอะไรออกมาที่น่าดึงดูดและแนวน่าจะชนะอย่างโคลเดอริมถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีพอควร
เหล่าพลาดินและนักบวชแห่งคริสตจักรลูก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพทีเดียว!
โบสถ์เอมบินยู (Embinyu)
คือศัตรูของพวกเขาถ้าเรียกพวกเขามาพวกเขาจะอุทิศแรงและความแข็งแกร่งโดยไม่ปริปากแน่นอน
การใช้อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของนักบวชเป็นการสำรองอำนาจของเหล่าชนเผ่าพันธมิตรและการออกรบทั้งหมดก็ยังเป็นทางเลือกของคนทั่วไปด้วย
แน่นอนที่เหล่าชนเผ่าพันธมิตรอาจไม่พอใจ แต่การจะเปลี่ยนสถานการณ์รบมันยากนักถ้ามีกำลังสนับสนุนแค่เหล่าอัศวินและนักบวชเพียงน้อยคน
การโจมตีป้อมปราการโบสถ์เอมบินยูโดยไม่มีอาวุธทำลายที่เหมาะสมอาจสร้างความเสียหายอันเลวร้ายเกินบรรยายได้
นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่อาจเห็นชัยชนะได้แต่คุณยังคงมีความหวังอันเน้อยนิดได้
แต่เหล่านี้เป็นเพียงอสรูสัตว์ประหลาดและตัว
NPC
ที่สามัญชนทั่วไปนึกเรียกออกมาได้แต่วีดกลับเรียกเหล่าอสูรสัตว์ประหลาดพิสดารที่ทำให้คุณกลัวจนสั่นสะท้านได้ออกมา
“ไม่
แค่เรียกอสูรพิสดารตัวเดียวออกมาก็พอที่จะก่อให้เกิดความโกลาหลได้”
“มันไม่น่ามีปัญหาที่จะได้เรทติ้งคนดู
15%
แม้ว่าตัวสัตว์ประหลาดตัวเดียวนั้น
โผล่ออกมาใช่ไหม?”
“หนึ่งตัวรึ? ลืมยอดเรทติ้งไปได้เลย
แค่นี้ก็พอที่จะสร้างความโกลาหลให้กับทวีปเวอแซลได้แล้ว”
พวกพนักงานพูดคุยกันเป็นบ้าเป็นหลัง
อย่างไรก็ตามภายในสถานีถ่ายทอดนั้นแสงแห่งความหวังน้อยนิดกำลังเริ่มผลิบาน
สำหรับคนที่เคยทำเควสในทวีปเวอแซลมาก่อนพวกเขาจะรู้เลยว่าเควสระดับ
C
นั้นยากขนาดไหน
ถ้าคุณอยู่เลเวลสูงและมีทีมสนับสนุนคอยช่วยเหลือคุณก็สามารถทำเควสยากระดับ B
ได้
ผู้เล่นหรือกิลที่โดดเด่นอย่างแท้จริงนั้นก็อาจลองท้าทายทำเควสยากระดับ A ได้
แต่กระนั้นมีเพียงคนเดียวที่สามารถดำเนินการทำเควสระดับ
A
ด้วยตัวคนเดียวได้ก็คือวีด
แม้จะมียอดชมที่ดีแต่หลายคนว่าการทำเควสครั้งนี้ยากมากเกินไปและมันสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตามบรรยากาศรอบๆสถานีกำลังเปลี่ยนไป
ทุกคนรู้สึกว่าสัญญาณการเปลี่ยนแปลงกำลังสุกงอมขึ้น
ผู้อำนวยการคังกดต่อสายและรายงานต่อผู้อำนวยการบริหารแต่เมื่อต่อสายได้ผู้อำนวยการบริหารพูดขึ้นก่อน
-
ผู้อำนวยการคังรึ?
ฉันกำลังดูวีดีโออยู่เลย
“หรอครับท่านผอ.บริหาร”
-
มันน่าแปลกใจจริงๆ
แต่นั่นแหล่ะ... เขาคือวีด ฉันอิจฉาชื่นชมภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือของเขาซะจริง
หรือเพราะว่าเขายังหนุ่ม?” เขามีอะไรบางอย่างที่พิเศษมาก
“ครับ
ผมก็คิดเช่นนั้น”
ผู้อำนวยการคังพูดขณะโค้งหัวให้โทรศัพท์
“ใช่ครับ เราจะทำอย่างนั้น
ได้แน่นอนครับ เราจะทำตามที่คุณบอกผอ.บริหาร”
แคร้ง!
ผู้อำนวยการคังกดวางหูพร้อมถอนหายใจยาว
“ฟู้ว”
ความตึงเครียดนั้นเยอะมากสำหรับมนุษย์เงินเดือนแต่เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างกระฉับกระเฉง
“เรียกหัวหน้ายูนจากแผนกโปรแกรมเข้ามาเร็ว”
“ครับผอ.”
จากคำพูดของผู้อำนวยการคังพนักงานในสถานีมุ่งความสนใจไปที่เขาพักนึง
จากนั้นหัวหน้ายูนที่อยู่ออฟฟิศติดกันก็เปิดประตูเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นครับผอ.คัง”
“แจ้งยกเลิกโปรแกรมฉายปกติทั้งหมดเดี๋ยวนี้เลย!”
“อะไรนะครับ?
อย่างนั้นก็จะเกิดความคับข้องใจของผู้ชมสิ”
“ตอนนี้กำลังฉายโปรแกรมอะไรอยู่?”
“ต้นไม้และสัตว์อสูร
กำลังฉายเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่รักสงบของทวีปเวอแซลและเป็นที่นิยมของผู้หญิงและเด็ก”
“ยอดเรทติ้งคนดูเท่าไหร่?”
“3.3% ครับ”
ประชากรผู้เล่นรอยัลโร้ดเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด
อย่างผู้ชมที่ไม่เคยดูการถ่ายทอดเกมส์มาก่อนยังมาร่วมชมจึงทำให้ยอดเรทติ้งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
ยอดเรทติ้ง 3.3%
ก็ไม่ได้เลวร้ายสำหรับสื่ออย่าง KMC
“หยุดเลย! ฉันได้รับอำนาจการสั่งการมาจากผอ.บริหาร
ส่วนเอกสารทางการจะส่งทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในแผนกจัดผังรายการในทันที ผู้อำนวยการคังรีบอธิบายอย่างเร่งด่วน
สัญชาตญาณในหน้าที่การงานของเขา
ได้บอกให้ยกเลิกการออกอากาศทั้งหมดก่อนที่เควสจะจบลง!
เมื่อพิจารณามอนสเตอร์ที่ ลี ฮุน
ทำการอัญเชิญออกมานั้น ถือได้ว่าเป็นรางวัลใหญ่เลยทีเดียว
มันสามารถรับประกันเรทติ้งคนดูได้อย่างแน่นอน
หลังจากนี้ การต่อสู้กับวิหารเอมบินยูจะกลายเป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆ
ถ้าผลลัพธ์ของสงครามรั่วไหลออกไปหลังจากที่จบศึกแล้ว
ส่วนที่ตื่นเต้นคงถูกสปอยล์เป็นแน่
แม้ว่าทางสถานีจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดก็ตาม
ด้วยขนาดของเควสแบบนี้ คุณไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เพราะมันมีผลกระทบต่อทวีปเวอร์เซลล์
คุณจึงสามารถเดาบทสรุปของเควสได้จากปากของประชานชนคนอยู่อาศัย
หรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
จากมุมมองของทางสถานี มันเป็นโอกาสที่จะได้กินอาหารมือใหญ่—
เครื่องเคียงมากมาย เนื้อย่างชุ่มช่ำ
และแม้กระทั่งขาปูราดด้วยซอสถั่วเหลืองอันหอมหวาน มันเป็นสถานการณ์ที่คุณสามารถหิวจนตาลายซึ่งมันจะนำคุณไปสู่ความตายในขณะที่ต้องทนทุกข์ทรมานว่าจะกินอะไร! แม้ว่าอาหารจะถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วก็ตาม จานอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า
พร้อมที่จะกิน อาจจะทำให้คุณฉิบหายได้ (แอดมิน: พูดง่ายๆ อย่าสปอยล์)
ก่อนที่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้น
จึงมีคำสั่งจากผู้อำนวยการสถานีให้ยกเลิกการออกอากาศทั้งหมดในทันที
“ผู้ดูแลการผลิตชิน! เควสต่อเนื่องของวีด มันเริ่มจากตรงไหนนะ?”
“มันเป็นตอนที่เผชิญหน้ากับเดธแฮนด์ในอาณาจักรคนแคระ คุรุโซ”
“รีบออกอากาศเควสนั้นเร็วๆ ส่วนการแก้ไข
แค่ซ่อนความจริงที่ว่านั่นคือเทพสงครามวีด…แต่พวกเราจะซ่อนมันได้เหรอ?”
“มันเป็นไปได้จนกว่าการต่อสู้จริงจะเริ่มขึ้น
มันอาจจะยากขึ้นอยู่กับว่าการต่อสู้ดำเนินไปถึงไหนแล้ว”
“ยังไงก็ต้องออกอากาศอยู่ดี ส่งภาพต้นฉบับไปให้แผนกจัดรายการเดี๋ยวนี้
เริ่มออกอากาศทันทีที่มันพร้อม”
หน้าจอหลักบนโฮมเพจของ KMC
มีเดีย เปลี่ยนไป
สัญญาณการประกาศสงคราม!
เหล่าอันเดดรุกล้ำเข้ากดดัน ออร์คคาริชวิ
ผู้บอบบาง เขามาพร้อมกับดาบเหล็กคู่กาย ปลดปล่อยเสียงคำราม ดังกึกก้องไปทั่วผืนปฐพี
ส่วนหนึ่งของสุดยอดวิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุด กองทัพอมตะ
ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอหลัก
มีการเปลี่ยนแปลงตารางออกอากาศด้วยเช่นกัน
— 12:30 ต้นไม้และมอนสเตอร์
— 14:00 ทีมสำรวจขุมสมบัติซาเบน
— 15:00 สุดยอดการผจญภัยทางตะวันออก
— 15:50 เป้าหมายของนักผจญภัย
— 17:00 เรื่องราวของทวีปเวอร์เซลล์
— 19:00 การท้าทาย! การออกล่ามอนสเตอร์ คุณสามารถทำได้เหมือนกัน
— 20:20 เส้นทางสู่ความร่ำรวย
ชีวิตของพ่อค้า
— 21:30 ผู้คนสู่เวทีแห่งความฝัน
— 22:00 เส้นทางเดินเรือของกัปตันเออแกน
— 23:30 บ้านของทวีป
ผังรายการปกติหายไป
ผังรายการใหม่เข้ามาแทน
— 12:45 ~ 24:00
วีด
ตารางออกอากาศสั้นๆ ง่ายๆ
การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของรายการ
วีด
บนหน้าจอทีวี
มีข้อความเตือนยกเลิกรายการต้นไม้และมอนสเตอร์เด้งขึ้นมา
—ข้อมูลเล็กน้อยสำหรับท่านผู้ชม
อีกไม่นาน
การผจญภัยของวีดกำลังจะออกอากาศ
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน
พวกเราต้องขออภัยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
เควสต่อเนื่องของประติมากรวีดผู้ยิ่งใหญ่และสงครามกับวิหารเอมบินยูจะออกอากาศอย่างต่อเนื่อง
เควสนี้
อยู่ระหว่างการดำเนินเควสบนทวีปเวอร์เซลล์ เป็นเควสที่มีความยากถึงระดับ
S และยังมีเควสต่อเนื่องอีกมากมาย
เวลาสิ้นสุดการออกอากาศไม่อาจระบุได้
ทีมงานของพวกเราทุกคนกำลังทำอย่างสุดความสามารถ แต่เนื่องจากเป็นการออกอากาศอย่างเร่งด่วน
จึงอาจมีข้อมูลตกหล่น ไม่เพียงพอ
พวกเราหวังว่าผู้ชมทุกท่านจะเข้าใจสถานการณ์นี้
เป็นข้อความที่ไม่ยาวมากนัก
แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าคนดูพากันคลุ้มคลั่ง
— ประติมากรวีดเหรอ? ใช่นักผจญภัยคนนั้นรึเปล่า ทีสร้างมหาพีระมิดและหอคอยแสง?
— พวกเขาบอกว่า KMC มีเดีย
กำลังออกอากาศการต่อสู้กับวิหารเอมบินยูที่สร้างความวุ่นวายในทวีปเวอร์เซลล์เมื่อไม่นานมานี้
ให้ได้ชัดเลยว่า มันเป็นเควสต่อเนื่องที่มีระดับความยากถึงระดับ S
— ฉันจะบอกเพื่อนของฉันทุกคนเลย
ข่าวแพร่กระจายออกไปตามแฟนไซต์รอยัล
โร้ดและบอร์ดสนทนาต่างๆ ผู้คนเปิดทีวีของพวกเขาและเปลี่ยนไปที่ช่องของ
KMC มีเดีย (Fansites พวกเวปแฟนคลับ)
3.3%, 3.8%, 4.2%, 5.1%, 7%, 7.6%.
ในขณะนั้น เรทติ้งพุ่งกระฉูด!
จำนวนโพสต์ที่ถูกเขียนโดยบรรดาผู้ชมบนบอร์ดสนทนาเพิ่มขึ้นมากกว่า
10 เท่าจากปกติ
— ทำไมพวกคุณยังไม่ฉายซะที?
— พวกคุณบอกว่าอีกไม่นาน แต่พวกคุณจะเริ่มฉายเมื่อไหร่?
เพื่อให้การเตรียมการออกอากาศเป็นไปอย่างราบรื่นและเหล่าผู้ชมรายการต้นไม้และมอนสเตอร์
รายกายยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันที
— ฉันเป็นแฟนรายการต้นไม้และมอนสเตอร์ตั้งแต่ตอนที่
1 และไม่เคยพลาดดูรายการนี้เลยสักครั้ง ได้โปรดรีบเปลี่ยนเป็นการผจญภัยของวีดที
แม้กระทั่งแฟนรายการเอง ถึงกับส่งเสียงเรียกร้องให้จบรายการนี้เร็วๆและเริ่มฉายรายการ
'วีด'!
นาฬิกานับถอยหลัง 10 นาที ปรากฏให้เห็นบนหน้าจอออกอากาศ เวลานับถอยหลังทุกวินาที!
สถานีต่างๆที่กำลังแข่งขันกันอยู่นั้น
รู้สึกเหมือนกับว่าเลือดของพวกเขากำลังจะแห้งเหือดตามยอดเรทติ้งที่กำลังลดลง
ในขณะที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างล้นหลาม
รายการ วีด เริ่มออกอากาศ
จบตอน
ผู้แปล:
โอนิ
ผู้แปล:
แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ที่มา:
http://japtem.com/lms-volume-16-chapter-4
ไฟล์: https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM
ขอบคุณครับ กับทีมแปลทุกท่าน
ตอบลบสนุกมากครับ
ตอบลบมันมากกกกกกก
ตอบลบลุ้นๆ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ