เล่มที่ 15 บทที่
7: ความอยากรู้อยากเห็นของสมิท แปลโดย บักจ๋อย และ แอดมินเพจ
เราอ่านนิยายแปล
วีดกลับไปยังปราสาท
Nekan
ด้วยใบหน้าซีดเซียว
การออกล่าโดยที่ไม่มีการพักเหนื่อยภายในดันเจี้ยน
ครามาโด้!
เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
อีกทั้งยังได้ไอเทมมาพอสมควร แต่ด้วยความอ่อนเพลียของเขา
ทำให้เขาตกอยู่ในสถานะที่ใช้ร่างกายเกินกำลัง
หรือทำงานหนักเกินไป ทำให้สถานะของเขาตอนนี้ ถึงกับเข้าขั้นวิกฤต
พละกำลังของร่างกาย
ความอึด รวมทั้งค่าสถานะต่างๆ ลดลงเหลือ
เพียงแค่หนึ่งในสามเท่านั้น
วีดเข้าไปยังโรงเตี๊ยมหลังจากซื้อกระสอบถั่วลิสง, หัวหอมและกระเทียม
"เอาเบียร์มาให้ข้าหนึ่งถัง!"
เขาสั่งเบียร์และดื่มไปหลายอึก
- พลังจำนวนเล็กน้อยได้รับการพื้นฟู
คุณอยู่ในสถานะทำงานหนักขั้นรุนแรง
|
เขารู้สึกว่าตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่
'มันไม่ใช่แค่การออกไปล่าอย่างเดียว; งานเทศกาลก็ด้วย
มันน่าเบื่อเกินไป’
ครั้งแรกในชีวิตเด็กมหาลัย
ที่เขาได้สัมผัสกับงานเทศกาล และ
มันยังกลายเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับเขาอีกต่างหาก!
'เรายังพักไม่ได้
ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ตอนนี้มันเป็นเวลาทำเงิน ถ้าเรากินอะไรก็ได้ที่เราอยากกิน
เล่นทุกอย่างที่เราอยากเล่นและทำในสิ่งที่เราอยากทำ
เหมือนกับคนอื่น ๆ แล้วล่ะก็
เมื่อไหร่เราจะได้หาเงินซะทีล่ะ? '
ทุกวันนี้
เด็กน้อยตัวเล็กๆ ยังรู้จักช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน
ในมุมมองของวีดเด็กที่มาโรงเรียนอนุบาลโดยที่มีพ่อแม่ขับรถยนต์มา
ส่ง
จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความภาคภูมิ แต่ในขณะเดียวกัน
เด็กที่มาโดยรถบัสของโรงเรียน
จะดูแปลกแยกและด้อยกว่า
"เธอ...."
"ห๊ะ?"
"เธอใช้ปากกาหมึกแห้งของ Monami
สำหรับเขียน"
[T
/ N: โมนามิเป็นชื่อของ
บริษัท เกาหลี มันมีราคาแพงกว่านิดหน่อยในการใช้ของ Monami.]
"แม่ของฉันถูกปลดออกจากงาน ... เดือนหน้า
ฉันก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ปากกาของญี่ปุ่นแทน”
มันเป็นบทสนทนาระหว่างเด็กอนุบาลที่ปรากฏขึ้นในความฝันของ
วีด
ความจริงแล้ว
มีเงินหรือไม่มี มันได้สร้างความแตกต่าง แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน
เด็กๆจะรับประทานอาหารบนถาดของพวกเขา, เด็กที่มาจากครอบครัวที่ที่มีเงิน จะจิ้มไส้กรอกในซอสมะเขือเทศและกินมันก่อนเป็นอันดับแรก
แต่เด็กที่มาจากครอบครัวที่ยากจน จะกินถั่วงอกหรือผักก่อนเป็นอันดับแรก
ภายใต้จิตใจที่ถูกครอบงำ
ด้วยความคิดที่ว่า ต้องเก็บไส้กรอกไว้กินเป็นอย่างสุดท้าย
ลี ฮุน ยอมรับว่า
ตัวเขานั้นดูด้อยกว่าเป็นไหนๆ
'เด็กๆที่เติบโตจากการดื่มนมสีขาวไม่มีทางที่จะเหมือนกับเด็กๆที่เติบโตมาจากการ
ดื่มนมสตรอเบอร์รี่’
ทฤษฏีที่ฝังลึกลงไปในจิตใจของลี
ฮุน เกี่ยวกับนมสตรอเบอร์รี่ ยิ่งตอกย้ำลงไปในหัวใจ!
ในขณะที่เขาดื่มเบียร์
วีดหวนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเทศกาล
การแสดงสดบนเวที
คอนเสิร์ตของจอง เฮียว ริน ยังคงมีต่อจนถึงเช้ามืด
การแสดงยังคงมีต่อไป
ตามคำเรียกร้องของบรรดาผู้ชม, ในเมื่อเธอจับมือของลี ฮุน อยู่อย่างนั้น, เขาจึงจำเป็นต้องอยู่กับเธอ
'และนั่น ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ใช่มั้ย?'
ถ้ามันจบลงแค่ตรงนั้น
พลังของเขาคงจะไม่หมดสิ้นอย่างรุนแรงถึงเพียงนี้
* * * * *
* * * * * * *
ในวันสุดท้ายของงานเทศกาล
พวกรุ่นพี่พูดกับซอยูน
" ซอยูน,เธออย่าลืมออกไปเล่นสนุกกับงานเทศกาลด้วยล่ะ
เธอจะทำงานอยู่แต่ในนี้ไปตลอดไม่ได้นะ?
"
90%
ของลูกค้าที่มาที่ร้านเพียงเพื่อขอให้ได้เห็นหน้าเธอหรือเจอเธอเท่านั้น แต่พวกรุ่นพี่ของเธอกลับให้อิสระกับเธออย่างเต็มที่
"อย่างน้อยออกไปเดินดูรอบๆ
บ้างก็ได้ ทุกคนควรสนุกไปกับงานเทศกาลด้วยกัน หรือเธอมีคนที่อยากจะไปด้วยกันอยู่แล้วอย่างงั้นเหรอ? "
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความปรารถนาดีของรุ่นพี่
ซอยูนจ้องไปที่ ลี ฮุนโดยอัตโนมัติ
ลี ฮุน ส่งยิ้มอันสดใสให้เธอทันที
"เอาล่ะ
ไม่ต้องห่วงงานที่ร้านหรอกนะ ไปสนุกกับเทศกาลได้แล้ว. "
งานที่ร้านนั้นประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและเนื่องจากยอดสั่ง
ซื้อรายการอาหารต่างๆเป็นไปได้ด้วยดี
ดูเหมือนว่าวัตถุดิบต่างๆแทบ
จะไม่เหลือให้เห็นเลย ถ้าพวกเขาปิดร้านเร็วขึ้นสักตอน 2
ทุ่ม
เขาก็จะได้กลับบ้านและเข้าไปเล่นใน รอยัล โรด ลี ฮุน เป็นหนึ่งคนที่
จะปฏิเสธถึงแม้จะได้ออกเดทกับซอยูนก็ตาม
เพราะถ้าหากเขามีเวลา
2 ชั่วโมง เขาจะใช้เวลาเหล่านั้นไปกับรอยัล โรด
"ลี ฮุน."
กำลังพลสำรองที่กลับมาจากกองทัพ
ย่อมไม่พลาดเรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้
[T
/ N: ในเกาหลีคน ผู้ชายทุกคนต้องเข้ารับการฝึกในกองทัพเป็นเวลาสองปี
พวกเขาจะกลับออกมาในฐานะกำลังพลสำรอง.]
"ครับ.
รุ่นพี่. "
"ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
แต่ดูเหมือนว่า ซอยูน ต้องการนาย พาเธอไปเดินดูงานเทศกาลซะ"
ในเมื่อเขาไม่สามารถปฏิเสธ
นักศึกษารุ่นพี่ที่เป็นกำลังพลสำรอง ได้ ลี ฮุนจึงถูกบังคับให้ต้องใช้เวลาในการเป็นคนพาเธอเดินดูรอบๆงานเทศกาล
"อ้ากกกก
อิจฉาโว้ย
“
"อ้า...ผมสามารถพาคุณเดินดูรอบงานเทศกาลได้เหมือนกัน...
"
ท่ามกลางความอิจฉาริษยาของเหล่ารุ่นพี่และพวกลูกค้า
ลี ฮุนและซอยูนเดินออกจากร้านไปด้วยกัน
เธอเปลี่ยนจากชุดแต่งงานเป็นเสื้อผ้าสบาย
ๆ แต่ความงามของเธอก็ยังคงพอที่จะทำให้ตาของผู้ชายทุกคนที่เข้ามาดูงานเทศกาลถลนออกมา
พวกผู้ชายที่เดินผ่านพวกเขา ถึงกลับต้องเหลียวหลังมามองอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อและไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย
"เราไปกันเลยมั้ย?"
ทันใดนั้นลี
ฮุนก็คว้ามือของซอยูน
จอง เฮียว
ริน ชอบการจับมือจนถึงขั้นไม่ยอมปล่อย ดังนั้นเขาจึงจับมือซอ ยูน โดยเชื่อว่าเธออาจจะชอบเหมือนกัน
มันไม่ใช่ความกล้าหาญของลูกผู้ชาย แต่ฝูงชนที่อยู่ในงานเทศกาลนั้นมีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นเหตุผลหลักของเขาคือถ้าหากพวกเขาไม่จับมือกันไว้
พวกเขาก็อาจจะแยกจากกันได้ จนกระทั่งผลัดหลงกัน แล้วหากันไม่เจอ
" ...
"
ทั้งนุ่มและอ่อนโยน
มือของเธอนั้น รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจนน่าตกใจ
เขารู้สึกว่าร่างกายซอยูน ดูแข็งและเกร็งไปหมด แต่หลังจากที่เขาคว้ามือของเธอ
ในไม่ช้าเธอก็ผ่อนคลาย
"มีอะไรที่เธออยากจะทำมั้ย?"
เมื่อลี ฮุน
ถาม ซอยูนไม่สามารถตอบได้
เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องพูดคุยกัน
ดูเหมือนว่าเสียงของเธอจะยังคงติดอยู่
แบบนั้น อีกอย่าง มันเป็นเพราะว่าเธอเอง ก็ไม่เคยเดินดูงานเทศกาล
ในมหาวิทยาลัยมาก่อนเหมือนกัน
"ถ้าอย่างนั้น
ฉันจะเป็นคนพาเธอไปเอง"
ลี ฮุนพาซอยูนไปเล่นเกมตีตัวตุ่น
เพราะราคาไม่แพงมากและการตอบสนองก็ดีมากเมื่อตอนที่เขาเอง เล่นกับจอง เฮียว ริน
พวกนักเรียนที่ดูแลงานอีเว้นท์ตีตัวตุ่น
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวาน ตอนที่ลี ฮุนอยู่กับจอง เฮียว ริน
ต่างพากันโกรธแค้น และไม่พอใจอย่างมาก
"อ้ากกก ... "
"นั่นมันเป็นคนเดียวกันกับเมื่อวานนี้นี่."
"รุ่นพี่! คนนั้นไง ที่อยู่กับคุณจอง
เฮียว รินเมื่อวานนี้น่ะ ... และวันนี้เขาก็อยู่กับคุณซอยูนด้วย "
พวกคนที่ดูแลงานอีเว้นท์ตีตัวตุ่น
พวกเขาไม่สามารถเก็บซ่อนความอิจฉาอันรุนแรงของพวกเขาเอาไว้ได้อีกต่อไป
ราวกับว่ามันยังไม่พอที่เขาอยู่กับจอง
เฮียว รินเมื่อวานนี้ แถมวันนี้
เขายังพาซอยูนมาด้วยอีกต่างหาก
ยิ่งไปกว่านั้น
นิสัยของลี ฮุน นั้นร้ายกาจซะจนหาที่เปรียบไม่ได้
'เมื่อวานนี้ ตอนที่จอง เฮียว ริน
ควงแขนกับเขา เขากลับทำเป็นอาย ... แต่วันนี้เขากลับกระตือรือร้นจับมือของคุณซอยูน’
‘ไอ้ขี้เก๊กเอ้ย’
'เขาคือผู้เล่นที่อยู่เหนือเหล่าผู้เล่นทุกคน’
ตัวตุ่นเพิ่มความโกรธยิ่งขึ้นไปอีก
"เธอต้องจับค้อนพลาสติกเอาไว้แบบนี้นะและตีพวกมัน"
ป้อก ป้อก ป้อก ป้อก ป้อก ป้อก ป้อก!
[T / N: ค้อน
Pico ทำให้เกิดเสียงดังเวลากระทบกัน].
ภายใต้คำแนะนำของลี
ฮุน, ซอยูนยกค้อนพลาสติกขึ้นมา
มันเป็นอะไรที่แตกต่างมากจากการเล่นกับจอง
เฮียว ริน ที่ดูเงอะงะ(เด๋อๆด๋า ซุ่มซ่าม)
แม้ในขณะที่จับกับมือลี
ฮุนอยู่นั้น, ซอยูนตีตัวตุ่นไม่พลาดเลยสักตัว
เธอตีด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง (Admin:
โคตรเมพ ชาบู
ชาบู)
เมื่อเปรียบเทียบกับบุคลิกที่ดูเรียบง่ายของเธอ
ความเป็นนักกีฬาของเธอนั้น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ทุกครั้งที่ตัวตุ่นถูกค้อนทุบ
ราวกับว่าพวกมันกำลังส่งเสียงร้องอันขมขื่นและเศร้าสร้อย
‘มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าหากเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาหรือมีเงินมาก’
'แต่นี่กลับ…ผู้ชายธรรมดาๆอย่างเขา มีเสน่ห์ตรงไหนเนี่ย ... '
พวกเขาไปยิงตุ๊กตาต่ออีกด้วย
ต้องขอบคุณประสบการณ์เมื่อวาน
เขาจึงยิงตุ๊กตาแครอทน้อยและกิวีให้ตกลงมาอย่างง่ายดาย
"อะ
นี่ของขวัญ."
ลี
ฮุนให้ตุ๊กตาแครอทน้อยกับซอยูนเป็นของขวัญ
"ฉันยังต้องเอาตุ๊กตาตัวอื่นเป็นของขวัญให้กับน้องสาวของฉันด้วย
ดังนั้นเธอเอาไปด้วยแค่ตัวเดียวเท่านั้น”
“…”
ซอยูนคว้าตุ๊กตาแครอทเอาไว้ในมือของเธออย่างมั่นคง
ในเมื่อมันเป็นวันสุดท้ายของงานเทศกาล
ลี ฮุนจึงพาซอยูนเดินดูงานเทศกาลตลอดทั้งคืน
ทุกครั้งที่เห็นพวกเขาเดินไปทำกิจกรรมต่างๆในเทศกาล
ผู้คนมากมายต่างพากันจ้องมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ
ซอยูนไม่ได้หัวเราะออกมา
แต่เธอกลับหน้าแดงมาก เมื่อเดินผ่านสถานที่ที่แออัด เธอไปทุกที่ที่ ลี ฮุน พาเธอไปและเธอยังคว้ามือของเขาไว้แนบแน่น
"เธออยากเต้นรำไหม?"
แสงไฟส่องสว่างบนสนามหญ้า
ณ ที่ตรงนั้น เป็นเวทีหลัก เพลงบัลลาดที่บรรยายถึงเรื่องราวความรัก
และบรรดาคู่รักมากมายหลายคู่ ต่างกำลังเต้นรำตามเสียงเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่ ณ
ขณะนั้น ดังนั้นลี ฮุนจึงถามซอยูนว่าเธอต้องการเต้นรำไหม
ซอยูนพยักหน้าเบาๆเผยให้เห็นถึงใบหน้าแดงระเรื่อ
เป็นเพราะความเขินอายหรือเปล่า ก็มิอาจทราบได้
ลี
ฮุนจับมือของเธอและดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ
ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างธรรมชาติตามจังหวะเสียงเพลง
เพลงที่พวกเขากำลังเต้นอยู่นั้น
ไม่ได้ยากเกินไปเลย แต่ว่าพวกเขาทั้งคู่กลับดูซุ่มซ่าม เงอะงะ
พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะเป็นคนเต้นนำ เลยได้แต่พลาดเหยียบเท้ากันเองอยู่บ่อยครั้ง
" ...
"
ลี ฮุน รู้สึกไม่สบายใจมากเพราะเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ซอยูนจะระเบิดออกมา
* * *
"ในที่สุด งานเทศกาลที่ถูกสาปก็จบลงซะที ดูเหมือนว่าเราจะกลับมาทำตามตารางปกติของเราได้แล้วสินะ”
หลังจากที่เขาดื่มเบียร์
เขานอนเหยียดยาวและอ้าปากหาว
มันเป็นการพักผ่อนที่เงียบสงบและเป็นการพักฟื้นจากสถานะ
การทำงานมากเกินไป ในขณะที่อยู่ในร่างคนแคระ การดื่มเบียร์และพักผ่อน
เป็นอะไรที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
‘เมื่อร่างกายของเรากลับคืนสู่สภาวะปกติเมื่อไหร่นะ
มันคงถึงเวลาที่เราจะได้คลายทักษะประติมากรรมจำแลงซะที’
* * *
แต่ละเผ่าต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
คนแคระมีข้อดีในเรื่องของพละกำลังและความอึด แต่พวกเขากลับมีแขนขาที่สั้นมาก
นั่นจึงเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาในยามที่ต้องเข้าสู่สนามต่อสู้ ถ้าเกิดพวกเขาปรับตัวได้ไม่เร็วพอ
ยิ่งจะทำให้การต่อสู้ยากลำบากยิ่งขึ้นไปอีก
เผ่าคนเถื่อนมีความสามารถทางกายภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ด้วยความสูงและกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง
ทำให้ร่างกายของพวกเขานั้นเหมาะสำหรับการเป็นนักรบมากที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีมานาเพียงพอที่จะใช้ในการต่อสู้มากสักเท่าไหร่นักและข้อเสียเปรียบอีกอย่างก็คือสามารถโดนล่อลวงด้วยเสน่ห์ได้อย่างง่ายดาย
พวกมนุษย์อาจกล่าวได้ว่าเป็นพวกที่มีความสมดุลหรืออยู่ในทางสาย
กลางก็ว่าได้
พวกเขาสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์และเวทย์มนต์ได้ค่อน
ข้างดีเลยทีเดียว
และยังสนับสนุนพวกพ้องในยามอ่อนแอเมื่อต้องออก
ล่ากันเป็นปาร์ตี้
เผ่าพันธุ์พิเศษอย่าง ออร์ค เอลฟ์ นางฟ้า หรือ ฮ็อบ
ก๊อปลิน
ต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่เผ่าที่ถูกเลือกมากที่สุดนั้น
คือ มนุษย์
พวกเขาครอบครองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่และขยายอิทธิพลออกไปในทางตอนกลางของทวีป
“พวกเขาพูดกันว่ากองทัพวิญญาณปีศาจที่นำโดยเดย์มอน
ตอนนี้กำลังบุกล้อมและเข้าต่อสู้กับเหล่าพันธมิตรที่อยู่ในป้อมโอดิน”
"ป้อมโอดินที่ว่านั่น
กำลังจะได้แสดงพลังอำนาจของมันแล้วใช่มั้ย?”
"อาจจะ!
ถึงแม้ว่าป้อมนั่นมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ก็ตาม
แต่มันก็ไม่ง่ายนักที่จะทะลวงผ่านแนวป้องกันของป้อมโอดินไปได้
ต่อให้มันเป็นวิญญาณปีศาจขนาดยักษ์ก็เถอะ”
* * * * *
* * * * * * *
ในเมื่อทวีปเวอร์เซลล์กำลังตกอยู่ในความโกลาหล
บรรดาพันธมิตรทั้งหลาย ต่างมารวมตัวกันที่ป้อมโอดิน
เพื่อขัดขวางการรุกรานของเดมอนและกองทัพวิญญาณปีศาจ
กองกำลังพันธมิตรมากกว่า
100,000 ต่างมารวมตัวกันในสถานที่แห่งนี้
และกำลังเสริมอีก 100,000
ที่กำลังจดจ่ออยู่กับการโจมตีจากทางด้านหลัง
เวทย์มนต์และการโจมตีนับหมื่น
ถูกร่ายออกมาจากป้อมโอดิน ทุกครั้งที่พวกวิญญาณปีศาจบุกเข้ามา
ช่างเป็นภาพที่อลังการยิ่งนัก!
"เหล่าวีรบุรุษทั้งหลาย
มารวมตัวกันที่ป้อมโอดิน!”
“พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งหากมีนักเวทย์เข้าร่วมการต่อสู้ในสงครามครั้งนี้”
กิลด์อาณาจักรอันรุ่งเรืองที่อยู่ในป้อมโอดิน
รวมทั้งทหารรับจ้าง
จำนวนมาก พวกเขา ต่างก็รู้สึกหมดหวังเพราะอาณาเขตของพวกเขา
กำลังจะถูกขโมยไป
ถ้าหากพวกวิญญาณปีศาจสามารถทะลวงผ่าน
ป้อมโอดินได้ ทุกๆอย่างที่ทำมาจนถึงตอนนี้
คงจบสิ้นเป็นแน่
แม้แต่ผู้เล่นนิรนามระดับสูงก็ยังเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย
ในเมื่อเหล่าทหารรับรับจ้างจำนวนมาก ต่างเข้าร่วมในการทำศึก
สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น
ความสนใจของทวีปเวอร์เซลล์จึงพุ่งเป้าไป
ที่ป้อมโอดิน
การต่อสู้ที่ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่และเกิดขึ้นตลอดทุกวันจากกำแพงที่
อยู่รอบๆป้อมโอดิน
จนถึงขั้นที่ยากจะบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้กำชัย
เหนือศึกสงครามในครั้งนี้
เมื่อพวกวิญญาณปีศาจปีนกำแพง
กองกำลังพันธมิตรก็ถูกจัดการ
ราวกับว่าผลที่ออกมานั้น
ได้ถูกคาดการณ์เอาไว้มาก่อนหน้านั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม
พวกวิญญาณปีศาจก็ถูกดันให้ถอยร่นกลับไปอย่าง
ทุลักทุเล ด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ราวกับปาฏิหาริย์ของพวกทหาร
รับจ้าง
นักรบ และ เหล่าอัศวิน
กองกำลังพันธมิตรจึงสามารถกดดันให้กองทัพคืนชีพต้องถอยร่นกลับ
ไป
แต่ไม่นานนักพวกวิญญาณปีศาจที่ถูกอัญเชิญมาใหม่
ก็เข้าร่วม
การต่อสู้และทำให้กองกำลังพันธมิตรจำเป็นต้องถอยร่นกลับเข้าไป
อยู่ข้างในป้อมโอดิน
พวกกองทัพที่ถูกส่งมาโดยอาณาจักรต่างๆ
เพื่อยึดอาณาเขตพื้นที่
ของพวกเขาคืนจากการยึดครองของกองทัพคืนชีพ
ตอนนี้พวกเขา
กำลังคลั่งอย่างสุดขีด
พวกผู้เล่นดาร์คเกมเมอร์เองก็มาเตร็ดเตร่อยู่ในป้อมโอดิน
พวกเขามีดาบติดอยู่ข้างเอว ช่วงที่เกิดสงครามตลาดค้าขายพวกอาวุธ ชุดเกราะ
และของต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำศึกสงคราม ราคาของเหล่านี้จะพุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ
ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์
เสียงทุกเสียงต่างแหบแห้งจากควันหลงในศึก
สงครามที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดันต้นๆของทวีป
* * *
วีดเอารูปปั้นแห่งความตายออกมาจากอก
มันเป็นรางวัลที่เขาได้รับจากการเอาชนะ
เดธแฮนด์ในคุรุโซ มันเป็นไอเทมที่เขาสงสัยว่ามันต้องเกี่ยวข้องอะไรกับเควสต่อเนื่องสักอย่าง
“มันคงจะไม่ใช่เควสที่เกี่ยวข้องอะไรกับกองทัพคืนชีพหรอกนะ
ใช่มั้ย?”
ความยากลำบากในการเอาชนะศึกตัดสินกับเดธแฮนด์นั้นค่อนข้างสูง
เขาไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะเอาชนะได้มั้ย หากเขาสร้างประติมากรรมที่
ทำมาจากไม้หรือหิน
แทนที่จะเป็นประติมากรรมแห่งแสง
"มันคือรูปปั้นปีศาจที่กำลังถือเคียว…”
ลักษณะของประติมากรรมชิ้นนี้
นำมาซึ่งสิ่งที่น่าสงสัยมากมายยิ่งนัก
กองทัพคืนชีพปรากฏตัวครั้งแรก
ณ สถานที่ที่ไม่ไกลจากโมราต้าเท่า
ไหร่นัก เหล่านักผจญภัยได้ค้นพบจุดกำเนิดของวิหารแห่งการคืนชีพ
รูปร่างสัญลักษณ์ของพวกเขากำลังจะถูกเปิดเผย
มันดูเหมือนกับประติมากรรมที่วีดกำลังถือ
อยู่
มันไม่ดีสำหรับ
วีดแน่นอน ถ้าประติมากรรมชิ้นนี้มีความเชื่อมโยงใดๆกับกองทัพคืนชีพ!
เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันอาจจะเป็นเควสที่ต้องต่อสู้กับกองทัพคืนชีพที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับกองกำลังพันธมิตรนับแสน
"แน่นอน
มันต้องไม่ใช่เควสไร้สาระหรืออะไรแบบนั้นแน่ ... "
สีหน้าของวีด
บ่งบอกได้ถึงความเครียด
อันที่จริงแล้ว
วีดไม่เคยทำ เควสที่ยากและดูราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก สำเร็จโดยที่เค้าไม่ต้องเสียสละอะไรสักอย่างเลย
ถึงกระนั้น
ความเครียดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนแคระ ยิ่งทำให้เขาดูแย่กว่าเดิมซะอีก
พนักงานร้านเดินมาหาวีด
"คุณลูกค้าคะ"
"ครับ?"
"คุณพ่อค้าที่อยู่ตรงนั้นส่งเบียร์มาให้คุณค่ะ”
ท่าทางที่น่าอนาถของเขา
ทำให้คนรอบข้างถึงกับเห็นใจ จนอดสงสารไม่ได้!
มันเป็นเพราะว่าวีด
ผู้ที่มีทั้ง คุณธรรม พลังอำนาจ และเสน่ห์ เกินกว่าวีระบุรุษทุกคนที่เคยมีมา
หลังจากโบกมือของเขาเพื่อแสดงความขอบคุณ วีดดื่มเบียร์ทันที
-
ร่างกายของคุณเปลี่ยนจากสถานะทำงานหนักเกินกำลัง เป็น อ่อนเพลีย
การงีบหลับจะเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า
เขาทำงานหนักเกินไปและร่างกายกำลังเรียกร้องการพักผ่อน
วีด ตัดสินใจของเขาหลังจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ
"ไม่ว่ามันจะเป็นเควสที่ยากลำบากสักแค่ไหน
ถ้าเราหลีกเลี่ยงมันก่อนที่จะเกิดขึ้น เราคงมาไม่ถึงจุดนี้แน่ แต่ตอนนี้
มันเป็นเพราะว่าเราทำเควสก่อนนั้น ที่วิหารเฟรย่าห์ให้มา สำเร็จ มันถึงได้ทำให้เรา
เป็นตัวเราที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และมันทำให้เรามาอยู่ ณ ที่ตรงนี้”
การต่อสู้ของเขากับ
เดธไนท์แวนฮอร์ค แวมไพร์ลอร์ดโทริ สงครามกับลิชไชร์และกองทัพอมตะ จนกระทั่ง
ได้กลายมาเป็นลอร์ดโมราต้า ทุกๆอย่างล้วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันกับเควสที่เขาทำสำเร็จแล้วแทบทั้งสิ้น
ถ้าเขาไม่ได้รับภารกิจให้หาจอกแห่งเฮเล็นในเมืองลอยฟ้า
ลาเวียส
เขาอาจจะได้กลายเป็น
Dark
Gamer ที่รู้แต่เพียงการล่าเท่านั้น
แม้กระทั่งก่อนหน้านี้
ถ้าเขาไม่ได้รับเควสจากนักปราชญ์โรดริเกซ
เขาก็คงกลายมาเป็นนักรบหรืออัศวินและใช้ชีวิตแบบปกติ
เหล็กจะแข็งแกร่งขึ้น
ยิ่งคุณตีมันมากเท่าไหร่ มันยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคนอื่นโดยการเป็นประติมากร
หรือความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญหน้า ในฐานะที่เขาได้รับเทคนิคที่เกี่ยวช้องกับทักษะประติมากรรมในรูปแบบต่างๆ
ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งมีค่าที่เกิดขึ้นกับตัวเขา
เขาไม่ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงภารกิจใด
ๆ
'ถึงแม้ว่ามันจะยากสักแค่ไหน
ใครจะไปรู้หากเราไม่ลองพยายามดูสักครั้ง ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หากเราไม่ลงมือทำ’
วีดใช้ทักษะของเขาด้วยความตั้งใจแน่วแน่
"ตรวจสอบ!"
ติ๊ง!
- การใช้ทักษะของคุณล้มเหลว
คุณล้มเหลวในการระบุไอเทมเนื่องจากขาดสมาธิ
" ...
"
เขากลายเป็นคนที่น่าผิดหวังมาก
ระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายของเขาสูงมากประกอบกับการที่ร่างกายอยู่ในสถานะอ่อนเพลีย
จึงทำให้การใช้ทักษะของเขานั้นล้มเหลว
"ตรวจสอบ!"
ติ๊ง!
- การใช้ทักษะของคุณล้มเหลว
"ตรวจสอบ!"
ติ๊ง!
- การใช้ทักษะของคุณล้มเหลว
"ตรวจสอบ!"
ติ๊ง!
กล่องของเล่นไม้
ของเล่นที่มีรอยเปื้อนมากมาย
มันเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่สามารถเอาไปเล่นได้
คุณค่าทางศิลปะ:
น่าอับอายเกินกว่าที่จะพูดถึง
คุณสมบัติพิเศษ:
คุณสามารถทำให้เด็กหยุดร้องไห้ได้
เด็กอายุประมาณเจ็ดขวบกำลังอมลูกอมอยู่ในปาก
ได้ทิ้งของเล่นไว้ใน
ที่ซ่อนข้างใต้รั้ว
"พี่ต้องไม่หามันไม่เจอแน่ๆ
เพราะพี่ชอบขโมยของเล่น พี่นิสัยแย่มาก
เขาชอบเอาของเล่นของฉันไปและทำมันพัง
เขาเป็นพี่ที่แย่มาก”
เด็กน้อยซ่อนของเล่นในขณะที่กำลังพูดถึงพี่ชายที่นิสัยไม่ดี
มันเป็น
ฉากที่พูดถึงความรักความอบอุ่นและสายสัมพันธ์ของครอบครัว
กล่องไม้ถูกซ่อนอยู่ข้างใต้รั้วหนาม
เพื่อที่จะไม่ให้มันดูเตะตาเกินไป
ตอนนั้นเอง
เดธแฮนด์เห็นของเล่นโดยบังเอิญและหยิบมันขึ้นมา
“นี่มัน…กล่องไม้ที่ควรค่าแก่การเอาไปใช้”
ของเล่นที่หายไป
ของเล่นของเด็กผู้ชายชื่อ เบรฟ
เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านฮาเก้นในอาณาจักรเซอร์ ของเล่นที่เขาชอบเล่น
ถ้าคุณเอาของเล่นไปคืนเบรฟ
เขาจะให้ลูกกวาดที่เขาชื่นชอบมากที่สุดแก่คุณ
ระดับความยาก: F
รางวัลตอบแทน: ลูกกวาดของเบรฟ
ข้อจำกัดในการทำเควส: ถ้าเล่นกับมัน แทนที่จะเอามันไปคืนและถูกเด็กๆจับได้
จะเกิดเรื่องอื้อฉาวกับคุณ และ คุณจะได้รับฉายาว่า ‘จอมโจรขโมยของเล่น’(Toy Snatcher เด็กขี้ขโมย แปลกๆมั้ย 555)
“ฮึก!”
เขาตกใจจนสร่างเมา
ผลงานประติมากรรมที่เขาตั้งใจตรวจสอบด้วยความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ กลับไม่ได้อะไรเลย
นอกจากเควสความยากระดับ F
"อะไรกันว่ะเนี่ย
เราต้องระเห็จระเหินไปทุกที่ จนในที่สุด เราก็มาถึงอาณาจักรเซอร์ เพื่อ…มันช่างเจ็บปวดยิ่งนัก ไม่มีอะไรจะเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว”
มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญสุดๆ ในการที่จะต้องไปสถานที่ต่างๆ
เพียงเพื่อทำเควสเล็กๆน้อยๆแบบนี้
"ลูกกวาดงั้นเหรอ ... "
วีดถอนหายใจ
ถึงแม้
เขามักจะหลีกเลี่ยงเควสทั่วไปและอะไรที่มันน่ารำคาญแบบนี้
นั่นก็เพราะเขาได้ยินข่าวลือที่ไม่ดีจากพวกนั้น
เขาไม่เคยคาดคิดว่าเควสหายากจากอาณาจักรคุรุโซจะกลายเป็นเควสระดับ
F
“แต่เราจะไปถึงเร็วขึ้นหากเราบินไป…มันคงจะดีกว่านี้”
การที่จะบินไปได้นั้น
จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเขาฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติ
ถ้าหากเขาเกิดชนขึ้นมาเพราะมานาหมดระหว่างทาง ขณะที่เขากำลังบินอยู่กลางอากาศในสภาวะที่ทำงานหนักเกินกำลังแล้วล่ะก็
มันคงจะนำเขาไปสู่ความตาย
วีดตัดสินใจที่จะพักผ่อนในขณะที่ดื่มเบียร์ไปด้วย
"ค่าเบียร์ที่เรากินไปจนถึงตอนนี้…อ้ากกกก"
เขาดื่มเบียร์ในขณะที่กำลังแกะถั่วลิสงและปอกเปลือกหัวหอมและกระเทียม
ไม่ว่าเขาจะทำอะไร
มันไม่มีเวลาสำหรับของฟุ่มเฟือยหรืออะไรแบบนั้น
แม้กระทั่งตอนที่เขาดื่มเบียร์อยู่ในโรงเตี๊ยม เขาก็ตั้งใจพยายามที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาเงินที่จ่ายไปกลับคืนมาให้เร็วที่สุด
* * * * * * * * * * * *
หมู่บ้านฮาเก้น หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องการอบวัตถุดิบ!
ผลิตภัณฑ์หลักของเมืองนี้คืออ้อย, แป้ง, วอลนัท, องุ่น, ข้าวโพด, และอะไรพวกนั้น
คุณภาพของการผลิตที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดเหล่าเชฟทั้งหลาย ตอนนี้ เค้กทำเอง(โฮมเมด)
คุกกี้ และไวน์ที่มีรสชาติหวานกลมกล่อม กำลังได้รับความนิยมและขายดีค่อนข้างมาก
มันเป็นเมืองที่บรรดาคู่รักจำนวนออกมาสนุกสนานกับบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติค
"พี่คะ กินเยอะๆนะคะ!"
"ที่รักคะ คุณต้องกินเยอะๆนะคะ อ้าปากสิคะ
ฉันจะป้อนให้คุณเอง”
บรรดาคู่รักต่างกระจัดกระจายอยู่ทุกที่เหมือนแมลงสาบ!
วีดไม่สนใจพวกเขาและเดินหยักไหล่เหมือนคนที่กำลังมีความรัก
ชายผู้ที่มาซื้อเค้กไปให้แฟนสาวของเขา
"กรุณาดูเค้กสักนิด ก่อนที่คุณจะไป!"
เขาไม่ลืมที่จะเหลือบมองดูเครื่องถ้วยชามต่างๆ
ที่คนหาบเร่นำมาขาย
ขณะที่กำลังเดินไปรอบ ๆ เขาพูดกับป้าๆที่อยู่แถวนั้น
"คุณพอจะรู้จักเด็กที่ชื่อ เบรฟ
บ้างมั้ยครับ?”
พวกลุงที่อยู่แถวนั้นอาจจะไม่สนใจเรื่องแบบนี้ เช่น
ชื่อของเด็กๆ อย่างไรก็ตาม เขามีความรู้สึกว่าป้าๆแถวนั้นคงจะมีลูกที่มีอายุไล่เลี่ยกัน
ดูจะมีโอกาสมากกว่าที่จะรู้จักชื่อของเด็กๆที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น
"เบรฟ? เอาแล้วไง
เด็กนั่นไปหาเรื่องอะไรมาอีกล่ะเนี่ย?”
"อะไรนะ?"
“เขาทั้งดื้อ
ทั้งซนมาก ชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว เขาไม่สนใจว่าพวกผู้ใหญ่จะพูดอะไร ลูกของฉันไม่น่าไปเล่นกับเด็กนั่นเลย
แต่…”
“ผมจะหาเบรฟเจอได้ที่ไหนครับ?
ผมต้องเอาของเล่นไปคืนให้เด็กคนนั้น”
“ตอนนี้มันยังไม่เย็นเท่าไหร่
ดังนั้นมันจะยากหากคุณจะไปหาเขาที่บ้าน…คุณจะเห็นเขาวิ่งเล่นอยู่ตามถนนหรือไม่ก็แถวสนามเด็กเล่น”
มันเป็นเมืองเล็กๆ แต่การหาตัวเบรฟนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
ถึงแม้ว่าเขาจะหาทุกซอกทุกมุมตามที่พวกป้าๆเหล่านั้นแนะนำมา
แต่เขาก็ยังหาเบรฟไม่เจอ
จนกระทั่งเขาหาเบรฟเจอในห้องเก็บของที่อยู่ตรงข้างหลังร้านเบเกอรี่
เจ้าเด็กนิสัยไม่ดีอยู่ระหว่างการขโมยของและกำลังกินขนมปังในขณะที่ปากของเขาเปื้อนเลอะเทอะและเต็มไปด้วยครีมและเศษขนมปัง
‘เจอแล้ว’
“เด็กน้อย
รูปปั้นอันนี้คือของเล่นที่เธอทำหายใช่มั้ย?”
“ห๊ะ? คนแคระ คนแคระพูดได้”
“เจ้าหนู
ฉันเจอของเล่นที่เธอทำหาย”
“หนวดของคุณดูตลกชะมัด
ขาของคุณสั้นกว่าขาของผมรึเปล่าเนี่ย?”
“นี่คือรูปปั้นของเธอใช่มั้ย?”
เบรฟรับรูปปั้นจากมือของวีด
ติ๊ง!
เควส “ของเล่นที่หายไป” สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
คุณเจอของเล่นและนำมันกลับมาคืนให้เบรฟ
เด็กชายที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านฮาเก้น
รางวัลตอบแทน: ถ้าเบรฟอารมณ์ดี เขาจะให้ลูกกวาดกับคุณ
เควสน่ารำคาญนั่นเสร็จซะที
วีดรอคอยอย่างใจเย็นเพื่อจะได้ลูกกวาด
‘มันเป็นเควสที่ไม่ต้องจ่ายแม้กระทั่งค่าแรง
แต่เราจะได้ 3 ทองแดง ถ้าเราเอาลูกกวาดพวกนั้นไปขายที่ร้าน”
แทนที่จะเป็นลูกกวาด เบรฟคืนรูปปั้นให้วีด
“อือ ใช่แล้ว ของผมเองล่ะ ถึงผมจะคิดว่าพี่ของผมขโมยมันไป…แต่ผมไม่ต้องการมันอีกแล้ว”
“...”
“ผมไม่ใช่เด็กแล้ว
ผมแปดขวบแล้ว คุณเห็นมั้ย ผมอายุเกินกว่าที่จะเล่นของเล่นหรืออะไรแบบนั้นแล้ว
คุณเอามันไปเล่นก็ได้นะ”
กร้อด! (เสียงกัดฟัน)
เสียงกัดฟันของวีด ดังจนได้ยินชัดเจน แต่เขาต้องอดทนให้ได้
และอดทนอยู่อย่างนั้น
ผลประโยชน์ที่คุณจะได้มากยิ่งขึ้น
หากคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในทวีปเวอร์เซลล์
พื้นฐานของการบริการด้วยใจ คือ มิตรภาพ การช่วยเหลือเกื้อกูล
และ การเสียสละอุทิศตน
ต้องอดทน แม้ว่าคุณนั้นยังโมโหอยู่ก็ตาม และ
ถ้ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ยุติธรรม คุณต้องไม่พูดถึงมัน
คุณสามารถเรียกมันว่า กฎเหล็กแห่งความทุกข์ทรมานของดาร์คเกมเมอร์
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ
เธอควรจะเอาของเล่นนี่ไปนะ ในเมื่อมันเป็นของเธอ รับมันไว้สิ มันคือความจริงใจจากฉัน; ฉันอุตส่าห์มาที่นี่ เพื่อมาหาเธอโดยเฉพาะ
เธอไม่คิดเหรอว่าเธอควรจะให้ลูกกวาดกับฉันน่ะ?”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่อยากเล่นกับมันอีก!” เบรฟตะโกนออกมาทันที “คุณ
คุณอยากได้ลูกกวาดของผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
คุณรู้ได้ไงว่าลูกกวาดรสซินนามอน(อบเชย)อร่อยที่สุด…”
“อะแฮ่ม”
“ไม่ว่าจะยังไง
ผมจะไม่ให้ลูกกวาดกับคุณเด็ดขาด ดังนั้นคุณเอาของเล่นไปเล่นได้เลย โอ้ ใช่
ลองเอามันให้ตาลุงขี้เมาอย่างคุณสมิทดูนะ ดูเหมือนว่าเค้าอยากได้ของเล่นอันนี้มากเลย”
“คุณสมิทงั้นเหรอ?”
“เขาก็แค่ตาลุงแก่ๆที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง
แต่ว่า ผมเดาว่ายังไงเขาก็ดีกว่าคุณคนแคระที่มาไล่ขอลูกกวาดจากเด็กก็แล้วกัน”
ติ๊ง!
ของเล่นที่ตาลุงขี้เมาสมิทอยากได้
ของเล่นอันนี้ คือ ของเล่นที่ขี้เมาสมิทจากหมู่บ้านฮาเก้นถามถึง
สมิทผู้ที่นั่งดื่มอยู่ในโรงเตี๊ยมจนกระทั่งเขากลายมาเป็นขี้เมาที่จมอยู่แต่กับการดื่มเหล้า
เขาต้องการของเล่นของเบรฟ
ระดับความยาก: F
รางวัลตอบแทน: อาจจะไม่มี
ข้อความที่ระบุเกี่ยวกับเควส: มันไม่มีบทลงโทษถึงแม้ว่าคุณจะยกเลิก ปฏิเสธไม่ทำเควสนี้ก็ตาม
เบรฟยิ้มแล้วพูดเสริมว่า “เขาก็แค่คนแก่
ลุงที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเหล้าแม้แต่แดงเดียว เขาไม่มีครอบครัวด้วย
ผมจะไม่มีวันแก่และทำตัวไร้ค่าแบบเค้า เฮ้ะ เฮ๊ะ!”
วีดถอนหายใจอีกครั้ง
เควสต่อเนื่องความยากระดับ F
ในเมื่อโรงเตี๊ยมอยู่ใกล้ๆ เขาจะไปหาสมิทดูสักครั้ง
“โอเค เด็กน้อย งั้นฉันไปล่ะ”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่เด็ก
ยังไงซะผมก็ไม่มีวันได้เจอคุณอีกแล้ว เว้นแต่ว่าคุณจะเอาดาบเหล็กที่ผมอยากได้ มาให้ผม
ถ้าเป็นอย่างนั้นนะ เราค่อยมาเจอกันใหม่”
วีดค่อยๆเก็บรูปปั้นและหายไป
เบรฟตั้งใจจะขโมยขนมปังจากโกงดังเก็บของอีกครั้ง
ไม่นานนัก
ออร์คน่าเกลียดน่ากลัวกระโดดออกมาจากที่ไหนสักแห่งตรงที่วีดหายตัวไป
ออร์คคาริชวิ!
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง จนถึงขั้นที่ทำให้เหล่าอาชญากรกลายมาเป็นลูกแกะที่แสนอ่อนโยน
ด้วยใบหน้าของเขาและร่างกายที่ใหญ่โต!
“กรี๊ดดดด
นั่นมันออร์คนี่!”
“ชวิค!!
เจอเจ้าแล้ว เจ้าเด็กน้อย!”
วีดไม่ได้พูดอะไรมากนัก
เขาทำให้เบรฟกลัว เพื่อฝังและสั่งสอนให้รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่
จนเข้ากระดูก
* * *
เมื่อเขาเอารูปปั้นให้ขี้เมาสมิทที่อยู่ในโรงเตี๊ยมดู
เขาหันกลับมาด้วยสายตาที่ดูเบลอๆ
“เจ้าไปได้รูปปั้นนี่มากจากไหน?”
“มันคือรูปปั้นของเด็กที่ชื่อเบรฟ
มันเป็นรูปปั้นที่เขาชอบเล่นด้วย”
“ข้าเคยคิดอยากจะได้รูปปั้นของเด็กนั่นนะ…เจ้าบังเอิญไปขโมยมันมาจากเขารึเปล่า?”
วีดส่ายหัว
หลังจากที่เขาเปลี่ยนเป็นออรค์คาริชวิ เขายกเลิกประติมากรรมจำแลงและคืนร่างกลับไปเป็นมนุษย์
“ไม่
ข้าเจอของเล่นที่เด็กคนนั้นทำหาย อย่างยากลำบากและพยายามคืนมันให้เขา
แต่เขากลับพูดว่าเขาไม่ต้องการเล่นกับมันอีกแล้ว
เบรฟบอกข้าว่าผู้อาวุโสต้องการของเล่นอันนี้ ไม่สิ รูปปั้นอันนี้
ข้าก็เลยเอามันมาให้ที่นี่”
“อย่างนั้นหรอกรึ
เจ้าพอจะให้ข้ายืมรูปปั้นมาดูสักหน่อยจะได้มั้ย? ข้าต้องการตรวจสอบมัน
ตอนที่มันยังอยู่กับเจ้าเด็กเบรฟ แต่เขากลับให้ข้าดูแค่แปปเดียว”
“มันอยู่นี่แล้ว
คุณลองดูมันสิ”
ติ๊ง!
ของเล่นที่ตาลุงขี้เมาสมิทอยากได้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ในที่สุดขี้เมาสมิทก็ได้ของเล่นที่เขาต้องการมาอยู่ในมือ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ คุณอาจจะได้เครื่องดื่มจากเขา
รางวัลตอบแทน: คุณสามารถได้รับจากขี้เมาสมิทโดยตรง
- ชื่อเสียงของคุณเพิ่มขึ้น 1
สมิทตรวจดูรูปปั้นอย่างระมัดระวัง
“รูปปั้นอันนี้…เหมือนข้าเคยเห็นมันมาก่อนที่ไหนสักแห่ง
ในตอนที่ข้านั้นยังหนุ่มอยู่และได้ออกเดินทางไปเรื่อยๆ”
“อะไรนะ?”
“แล้วเจ้าเด็กเบรฟนั่น
ได้บอกเจ้ามั้ยว่ารูปปั้นอันนี้มาจากไหนน่ะ?”
“เขาไม่ได้บอก”
“เรื่องนี้
ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นเป็นเวลาที่ข้ามีชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะทหารรับจ้าง…อะแฮ่ม! ตอนนั้น
ข้าเป็นทหารรับจ้างที่มีฝีมือโดดเด่นที่สุด เจ้าอาจจะไม่เชื่อ แต่ข้าสามารถสั่งได้แม้กระทั่งกองกำลังทหารรับจ้างทั้งกอง”
แน่นอน วีดไม่เชื่ออยู่แล้ว
พวกขี้เมามักจะเป็นเหมือนกันหมด—ไม่มีใครเคยเป็นถึงพ่อค้าที่มีกิจการใหญ่โตหรือสุดยอดทหารรับจ้างระดับเฟิร์ทคลาสเมื่อพูดถึงอดีตที่ผ่านมา
เรื่องที่พวกเขาโม้ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ได้ไม่เกิน หนึ่ง หรือ สอง วัน
ดังนั้นเขาจึงเออออและปล่อยมันไว้อย่างนั้น
“ภายใต้คำสั่งขององค์ราชินี ข้าเด็ดหัวเจ้าคนทรยศ
เค้าท์ซาวอยด์พร้อมกันกับพวกกองกำลังราชวงศ์ มันมีรูปปั้นที่เหมือนกันเด๊ะ เป๊ะๆ
แบบนี้อยู่ในห้องเก็บของ ของเค้าท์ซาวอยด์”
“ข้ารู้แล้ว”
“มันน่าเสียดาย
แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่ารูปปั้นอันนี้มันคืออะไร มันไม่ใช่เพราะว่าข้าไม่สงสัย
หรือไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับมันหรอกนะ…เจ้าคิดว่ามันจะมีเรื่องราวอะไรสักอย่างเกี่ยวกับรูปปั้นนี้มั้ย? เจ้าลองไปตรวจสอบมันดูที่ห้องสมุดสิ”
วีดมีความรู้สึกอันแรงกล้าว่าเควสมันไม่จบแค่ตรงนี้แน่นอน
“ทำไมเจ้าไม่ลองหาข้อมูลมาให้ข้าดูล่ะ? ถ้าเจ้าทำได้
ข้าจะบอกเล่าเรื่องราวถึงวันเก่าๆของข้าในฐานะทหารรับจ้าง”
ติ๊ง!
ความอยากรู้อยากเห็นของตาแก่สมิท
อดีตทหารรับจ้าง สมิท มีคำถามมากมายเกี่ยวกับรูปปั้นที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งยังเยาว์วัย
ถ้าคุณรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรูปปั้นและเอามันมาให้เขา
เขาจะบอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆที่เขาประสบพบเจอในฐานะทหารรับจ้าง
ระดับความยาก: D
รางวัลตอบแทน: เรื่องเล่าของสมิท
ข้อกำหนดในการทำเควส: ไม่มี
จบตอน
ผู้แปล: บักจ๋อย
ผู้แปล: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ที่มา: http://japtem.com/lms-volume-15-chapter-7
ไฟล์: https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM
งงๆ 55
ตอบลบขอบคุณมากๆครับ
ตอบลบขอบคุณครับกระผมมม
ตอบลบขอบคุณครับผม
ตอบลบขอบคุณครับ เกลามาแล้ว ค่อยอ่านง่ายขึ้นหน่อย
ตอบลบขอบคุณ ขอรับ กระผม
ตอบลบเควสที่เริ่มจาก เอฟ มักไปจบที่ เอส เอาแล้วๆๆ
ตอบลบเควสนี่มีเงี่ยนงำแน่นวลลล
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเควสยังงี้ต้องฟลุ๊กถึงจะไปต่อได้นะนี่
ขอบคุณนะ
ตอบลบ