เล่ม 50 บทที่ 6 : การมาเยือนของมยุล Part 1 แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
มยุล!
ในฐานะผู้นำของกลุ่มอัศวินกริฟฟอน เขาแอบเข้าไปในทุ่งการ์นาฟอย่างเงียบๆเมื่อวันแห่งการต่อสู้ใกล้เข้ามา
< คุณใช้ครีมปลอมตัวของภูติ >
เขาใช้ครีมพิเศษของภูติที่ปรับเปลี่ยนรูปร่างใบหน้าและสีผิวของเขาอย่างละเอียด มันเป็นไอเท็มราคาแพงที่มีราคาหนึ่งพันทองต่อขวด
แต่เขามีไม่กี่ขวดที่เขาเคยซื้อเพื่อความสนุกสนาน เขาต้องการเยี่ยมชมทุ่งการ์นาฟด้วยตัวเอง
เพื่อชมทิวทัศน์ของดินแดนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและเทศกาลที่กำลังดำเนินอยู่
“สวัสดี พวกเราคือหน่วยโจ๊กไก่ โปรดมาลองโจ๊กของเรา”
“หน่วยโจ๊กหอยแครงอยู่นี่ เราใส่ทั้งหอยแครงทอดและหอยแครงปรุงรสลงในโจ๊ก”
“อะแฮ่ม.. เรามาจากหน่วยโจ๊กปลาวาฬ ทำไมคุณไม่ลองสักหน่อย
ถ้าคุณยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันมานะ?”
ขณะที่มยุลเข้าใกล้ทุ่งการ์นาฟ ผู้เล่นหลายคนก็เข้ามาล้อมเขาไว้
'พะ-พวกเขารู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน?'
ในตอนแรกเขารู้สึกตกใจเพราะคิดว่ามีคนเห็นการปลอมตัวของเขา
แต่โชคดีที่ผู้เล่นเหล่านั้นเป็นเพียงพนักงานส่งเสริมโจ๊กของลัทธิโจ๊กหญ้า
มยุลครุ่นคิด ขณะที่ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย
แล้วถามว่า:
“เอ่อ… งั้นโจ๊กราคาเท่าไหร่?”
“อืม ทุกอย่างฟรี”
“นี่เป็นเพียงตัวอย่างสำหรับชิม
ดังนั้นเราจึงไม่รับเงินใดๆ”
มีผู้เล่นจำนวนมากที่รีบเร่งไปยังทุ่งการ์นาฟจากทั่วทั้งทวีป พวกเขาส่วนใหญ่วิ่งไปตลอดทางหลังจากมาถึงจุดที่อยู่ห่างจากทุ่งราบประมาณหนึ่งวัน
โดยไม่ได้หยุดทานอาหารเลย สำหรับผู้เล่นเหล่านั้น แต่ละหน่วยของลัทธิโจ๊กหญ้าได้ตัดสินใจที่จะจัดตั้งหน่วยส่งเสริมโจ๊กซึ่งจะให้อาหารฟรี
ไม่รวมกรณีที่แปลกๆ เช่น โจ๊กปลาหมู
หรือ โจ๊กปลาหิน พ่อครัวมากฝีมือจากแต่ละกลุ่มได้เข้าร่วมหน่วยส่งเสริมเนื่องจากมีการแข่งขันกันเพื่อผลิตโจ๊กที่มีรสชาติดีที่สุด
มยุลหยิบชามโจ๊กไก่ก่อน
เพราะมันเป็นประเภทที่เขาชอบมากที่สุด
"โว้ว. อร่อยจริงๆ! เผ็ดมาก”
< พละกำลังของคุณได้รับการฟื้นฟูแล้ว
ความแข็งแกร่งของคุณจะเพิ่มขึ้น 3
แต้มเป็นระยะเวลาชั่วคราว >
นอกจากค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นแล้ว
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าคือรสชาติที่ยอดเยี่ยมของโจ๊กที่กรอกปากเขาทันทีที่เขาใส่ช้อนเข้าไป
“ฮิฮิฮิ โจ๊กไก่ดีที่สุดจริงไหม? ทุกคนชอบมัน”
สมาชิกโจ๊กไก่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เป็นผลมาจากการที่พ่อครัวกว่าพันคนค้นคว้าร่วมกันเพื่อค้นหาสูตรอาหารที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“คราวนี้ลองโจ๊กของเราสิ!”
< คุณกินโจ๊กหอยแครงอุ่นๆ
ชามหนึ่งแล้ว
การรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยทักษะและจิตใจที่ดี
โชคของคุณเพิ่มขึ้น 1 แต้มอย่างถาวร >
โจ๊กชนิดอื่นๆ ก็น่าลิ้มลองเช่นกัน รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของมยุลซึ่งตอนนี้ท้องเต็มไปด้วยโจ๊กหญ้าต่างๆ
"ขอขอบคุณ แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดที่ได้อาหารชั้นเลิศทั้งหมดนี้ไปฟรีๆ”
“ต้องการบริจาคหรือไม่”
“บริจาคเหรอ?”
“เรามีกล่องรับบริจาคมากมาย นี่เป็นส่วนหนึ่งของการบริจาคเพื่อความสุขแห่งทวีปเวอร์เซลล์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการทำสงครามเพื่อการสู้รบที่กำลังจะมาถึงหรือช่วยเหลือผู้เล่นมือใหม่ทั่วไป เราไม่ได้บังคับให้ใครบริจาค ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากคุณไม่ต้องการจ่ายเงิน”
กล่องรับบริจาคสำหรับแคมเปญบริจาคนี้ซึ่งก่อตั้งโดยลัทธิโจ๊กหญ้า
สามารถพบได้ในทุกเมืองและจัตุรัสกลางเมืองของอาณาจักรอาเพ่น เพื่อความสะดวกของผู้บริจาค บางส่วนถูกวางไว้ในหน่วยงานราชการ ประตูปราสาท
และพื้นที่ล่าที่มีชื่อเสียง
การบริจาคขึ้นอยู่กับเจตจำนงเสรีของผู้บริจาคทั้งหมด
และมีผู้เล่นจำนวนมากที่ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ เงินที่รวบรวมได้ถูกนำมาใช้เพื่อให้ยืมอุปกรณ์พื้นฐานในราคาถูกแก่ผู้เล่นที่เพิ่งเริ่มเล่นรอยัลโร้ด หากผู้เล่นเริ่มต้นแสดงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและถึงเลเวล 50 พวกเขาสามารถเช่าอุปกรณ์ขั้นสูงเพิ่มเติมโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในช่วง 3
เดือนแรก โดยไม่ต้องถามคำถามใดๆ บ้านถูกสร้างขึ้นในกระท่อมไม้ซุงและขายให้กับผู้ที่ต้องการด้วยราคาถูกๆ
และให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่ไม่มีประสบการณ์ซึ่งพืชผลถูกทำลายหรือพ่อค้าที่ประสบความสูญเสียอย่างหนักเนื่องจากภัยพิบัติหรือการโจมตีของมอนสเตอร์
กล่องบริจาคแห่งความสุขเพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและสิ้นหวัง!
มีเพียงประเด็นเล็กๆ เรื่องเดียว:
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้จัดการกล่องรับบริจาคเหล่านั้น บางคนบอกว่าพวกเขาเป็นของเครือเมแพนและคนอื่นๆอ้างว่านักบุญหญิงเลม่อนเป็นคนจัดการกล่องเอง มีคนสงสัยอีกสองสามคนที่กระจายข่าวลือว่าผู้ดูแลเงินที่เก็บได้นั้นแท้จริงแล้วคือกระเป๋าหลังของวีด
แต่ก็พบกับการโต้แย้งอย่างรุนแรงจากผู้ที่บอกว่าเขาจะไม่ทำสิ่งนั้น
มยุลผงกศีรษะด้วยความยินดี
“ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่สำหรับการบริจาค”
“ไม่มีจำนวนเงินที่ 'ถูกต้อง' แม้ว่าคุณจะให้เพียง 1 ทองแดง ความคิดนั้นก็มีค่า”
"อ่า เข้าใจแล้ว"
มยุลใส่ 100
เหรียญทอง ลงในกล่องรับบริจาคตามที่เขาต้องการ
'ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำงานเพื่อประโยชน์ของอาณาจักรอาเพ่น...
เงินจำนวนนี้น่าจะใช้ได้'
เมื่อผ่านทางเข้าทุ่งการ์นาฟ เขาเดินไปที่สถานที่จัดงานเทศกาล เขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมกับผู้คนในสถานที่ก่อสร้างประติมากรรม เขาไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อออกกำลังกายมากขึ้นเท่านั้น
'ฉันได้ยินเสียงเพลง'
ตริ๊งงงงง! กรี๊ดดด!
ในสถานที่จัดงาน
มีกวีมากกว่าสามพันคนกำลังเล่นเครื่องดนตรีของพวกเขา ในใจกลางของนักดนตรีกลุ่มนั้นมีกวีอีกคนหนึ่ง: มาเล่ย์! บทเพลงบรรเลงโดยเขากลายเป็นพายุป่าที่ท่วมท้นเข้าไปในดินแดนอันกว้างใหญ่
♪♫♪ พวกเราร้องเพลง
แห่งชัยชนะ ความรุ่งโรจน์ ความรัก
และอนาคต
ด้วยจิตใจเบิกบาน เบิกบาน
ด้วยความกล้าหาญที่เรามี เราลุกขึ้น ♪♫♪
♪♫♪ เธอผู้ปั้นดวงดาว
รวบรวมพื้นดิน
และนำผู้คนต่อไป…
♪♫♪
มาเล่ย์กำลังเล่นพิณ หลังจากที่เขาขึ้นนำด้วยพิณของเขาก่อน
นักกวีที่เหลือก็เล่นเครื่องดนตรีทุกประเภทตามตอบโต้ ก่อตัวเป็นความสามัคคีครั้งใหญ่
มยุลคิดว่าเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่ารู้สึกอย่างไรที่มีดนตรีทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เสียงของเครื่องดนตรีที่เข้มข้นและทำลายล้างราวกับการต่อสู้ในสนามรบ
และโน้ตที่ไพเราะและอ่อนโยนที่คล้ายกับการสารภาพรัก ผสมผสานกับการร้องเพลงของกวี
♪♫♪ รอยเท้าข้างหน้า
รอยความยิ่งใหญ่
สร้างรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของพวกเขา
ใครติดตามก็จับมือกัน ♪♫♪
♪♫♪ เธอผู้ปรารถนาความฝัน
อย่ากลัวที่จะรับสายแห่งโชคชะตา
เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียว
และจะเดินบนเส้นทางนี้ไปด้วยกัน ♪♫♪
เมื่อไรก็ตามที่ดนตรีดำเนินไปในจังหวะถัดไป
มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังประสบกับการผ่านพ้นไปของฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน
ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวที่ถูกบีบอัดในทันที ความจริงที่ว่าผลงานชิ้นนี้เล่นโดยกวีมากกว่าสามพันคนด้วยกันนั้นน่าทึ่งในตัวมันเอง
แต่การเล่นของมาเล่ย์ มีพลังที่จะเรียกลมและฝนที่แท้จริงออกมา… การแสดงที่สามารถเรียกเม็ดฝนขนาดใหญ่ผ่านเสียงเพลง!
'ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่ทักษะการแสดงธรรมดา… อาจจะเป็นทักษะพิเศษของกวี?'
ความสามารถพิเศษของกวีที่เปิดเผยต่อโลกเป็นครั้งแรกโดยมาเล่ย์; มันคือดนตรีแห่งความกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถใช้แสดงต่อหน้าผู้ชมจำนวนมากในที่โล่งกว้าง ในที่สุดพลังของดนตรีก็ขึ้นอยู่กับเสียง เราไม่สามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้เต็มที่หากฟังไม่ถนัดเนื่องจากอยู่ไกลจากแหล่งที่มามากเกินไป ทักษะดนตรีแห่งความกว้างใหญ่ทำให้ผู้ชมได้รับคุณภาพเสียงที่คมชัดที่พวกเขาจะได้รับหากพวกเขาแต่ละคนสวมชุดหูฟังประสิทธิภาพสูงราคาแพงมาก ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ทักษะนี้
นักแสดงยังสามารถเสกเอฟเฟกต์บนเวทีที่พวกเขาต้องการ เช่น แสงไฟและพายุฝน พวกเขายังสามารถโจมตีใครซักคนในกลุ่มผู้ชมด้วยสายฟ้า
เสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง จากนั้น…
ตู้ม!! สายฟ้าฟาดเป็นวงกว้างทั่วท้องฟ้า
เมฆดำรวมตัวกันปิดกั้นแสงแดด พลังและความเข้มข้นของทักษะนี้ถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์ของนักแสดงกับธรรมชาติ
แต่ภาพที่มีมนต์ขลังนี้สร้างขึ้นโดยกวีนั้นงดงามมากเมื่อได้เห็น ตราบใดที่กวียังคงร้องเพลงและเล่นดนตรีแห่งความกว้างใหญ่ จะครองพื้นที่ทั้งหมด และขณะนี้มีกวีสามพันคนที่เล่นเครื่องดนตรีของพวกเขาและประสานเสียงกับการแสดงของมาเล่ย์
มาเล่ย์และกวีที่เหลือเงยหน้าขึ้นและปล่อยให้เม็ดฝนที่ตกลงมาบนใบหน้าของพวกเขา
♪♫♪ ร้องเพลง!
ร้องเพลงให้ดังยิ่งขึ้น!
เจ้าผู้ฟังเสียงลมก่อตัว
หยดน้ำใส
และความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ของแผ่นดิน…
♪♫♪
♪♫♪ วิญญาณที่เต้นเป็นจังหวะของคุณระเบิดออกมา
และเขย่าโลกทั้งใบ ♪♫♪
♪♫♪ ร้องเพลง!
เงยหน้าขึ้นและดูเถิด
ขอให้พวกเราทุกคนพร้อมเพรียงกัน
คุณคนที่แบ่งปันช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์นี้! ♪♫♪
เมื่อการแสดงของนักกวีจบลง
เมฆก็เริ่มจางลง ในขณะเดียวกัน
พายุฝนก็หยุดลงและดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงเจิดจ้าอีกครั้ง
บางทีอาจเป็นแนวทางธรรมชาติของการกำกับเวทีที่มีประสิทธิภาพ
ผู้ชมที่หลงใหลในเสียงเพลงก็เข้ามาหาพวกเขาเช่นกัน ในไม่ช้าพวกเขาก็สังเกตเห็นว่าดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้ที่สวยงามหลากสีสันและรูปร่างต่าง
ๆ ที่เพิ่งงอกออกมาจากพื้นดิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งของขวัญที่นักแสดงนำมามอบให้พวกเขา ปาฏิหาริย์ที่เปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดในระยะที่ได้ยินเสียงกลายเป็นแปลงดอกไม้ ในการแสดงดนตรีเพียงหนึ่งเดียว นักกวีทั้งหมดรวมถึงมาเล่ย์เองก็ใช้มานาจนหมด
“ไชโย!”
"มันน่าทึ่ง!"
ผู้ชมลุกขึ้นจากที่นั่งบนพื้นพร้อมเสียงปรบมือกึกก้อง มาเลย์และเหล่ากวีเต็มไปด้วยความสุขล้นจากการได้เล่นบทเพลงที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นเช่นนี้
< คุณตีความบทเพลงแห่งความกล้าหาญเสร็จแล้ว
มีคนฟังเพลงของคุณทั้งหมด 812,239
คน
คุณได้สร้างสถิติใหม่สำหรับผู้ชมมากที่สุดในทวีป!
คุณได้รับปฏิกิริยาเชิงบวกอย่างน่าประหลาดใจและคำชมจากผู้ชม ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมยืนปรบมือแล้ว 810,988 คน
เหล่าภูติและวิญญาณขี้เล่นกำลังจ้องมองไปในที่ว่างอย่างงุนงงและปลาบปลื้มใจอย่างที่สุด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมที่จะบ่นและบ่นกับทุกสิ่งอย่างที่พวกเขาเคยชิน >
กระดานข้อความปรากฏขึ้นสำหรับมาเล่ย์และกวีคนอื่นๆ ในระหว่างการแสดงตามท้องถนนตามปกติ
กวีสามารถตรวจสอบชื่อเสียงและความสามารถที่เพิ่มขึ้นได้ทันทีหลังจากที่พวกเขาร้องเพลงจบ ในกรณีของคอนเสิร์ตขนาดใหญ่เช่นนี้ ปริมาณของชื่อเสียง ค่าสถานะ
และความสามารถที่พวกเขาจะได้รับขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของฝูงชน
ปรบมือ ปรบมือ ปรบมือ!
“เป็นเพลงที่ไพเราะมาก”
“นี่เป็นเพลงที่ยากจะลืมเลือนที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาทั้งชีวิต”
“ไชโย!”
เสียงไชโยโห่ร้องและสรรเสริญดำเนินต่อไปนานกว่าสิบนาที แม้ว่าพวกเขาจะยืนด้วยความท่วมท้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องของฝูงชนและยืนยันความสำเร็จในบทเพลงของพวกเขา
พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงคลื่นอารมณ์ที่ร้อนรุ่มพลุ่งพล่านในหัวใจของพวกเขา
'ใช่แล้ว นี่แหละ นี่คือเหตุผลที่ฉันกลายเป็นกวี’
ร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรี! ผ่านทางเสียงและการแสดงออก พวกเขาสามารถบรรเทาความเจ็บปวดในใจของผู้คนหรือหัวเราะไปกับพวกเขาด้วยความยินดี
'ฉันอดไม่ได้ที่จะรักดนตรี'
ความภูมิใจในอาชีพ!
"*ฮึก ฮืออออ*…"
กวีเกือบครึ่งเริ่มน้ำตาแตกเพราะอารมณ์ท่วมท้น พวกเขาคงนึกไม่ถึงว่าวันอันรุ่งโรจน์เช่นนี้จะมาถึงเมื่อพวกเขาเลือกเป็นกวีเป็นครั้งแรก
ฝึกจับเครื่องดนตรีด้วยมือที่เงอะงะ และแต่งเพลงแรก เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่วิเศษมาก ช่วงเวลาที่น่าจดจำตลอดไปในความทรงจำของพวกเขา
ยี่สิบนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และ มาเล่ย์รู้สึกว่าจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์ของฝูงชนที่ยังคงปรบมือให้ แม้ว่าพวกเขาชอบที่จะเห็นปฏิกิริยาที่กระตือรือร้นของผู้คนต่อเพลงของพวกเขา
แต่พวกเขาก็ยังมีเพลงอีกหลายเพลงรอคุณอยู่ในเพลย์ลิสต์ และคืนนี้ก็สั้นเกินไป แทนที่จะเพลิดเพลินไปกับเสียงเชียร์ของผู้ชมอีกต่อไป
พวกเขาต้องการให้ผู้คนได้ฟังเพลงของพวกเขามากขึ้น
“เราจะเริ่มด้วยเพลงต่อไป นี่เป็นครั้งแรกที่เราเล่นเพลงนี้ในที่สาธารณะ และชื่อเพลงคือ 'เทพธิดาแห่งดวงดาว'”
มาเล่ย์และเหล่านักกวีนั่งลงอีกครั้งและเริ่มเล่นเครื่องดนตรีของพวกเขา ความเงียบปกคลุมทุ่งการ์นาฟ ซึ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเสียงอึกทึกจากผู้ฟังที่โห่ร้องเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว
และท่วงทำนองที่เงียบสงบและล้ำลึกก็เริ่มไหลออกมา เครื่องดนตรีต่าง
ๆ ถูกเล่นประสานกัน
ทำให้เกิดเสียงที่บริสุทธิ์และไพเราะซึ่งดูเหมือนจะทำให้หูของผู้ฟังสะอาด
< คุณได้ใช้ทักษะ: ดนตรีแห่งความกว้างใหญ่
>
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงอย่างช้า ๆ
แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะเมฆดำ เปลี่ยนผันเป็นยามกลางคืน ประกายดาวปักเป็นลวดลายสวยงามบนท้องฟ้า ทางช้างเผือกแผ่ออกไป
ม่านลึกลับของแสงออโรร่าไหลและลำแสงสีเขียวส่องลงมาจากท้องฟ้า
"อา…"
“กรี๊ด”
“มันเริ่มอีกแล้ว!”
ผู้ชมต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ส่งเสียงดังมากเกินไปเพราะความตื่นเต้น เสียงเพลงที่ไพเราะจากเครื่องดนตรีประกอบกับฉากที่น่าอัศจรรย์
เป็นโอกาสอันมีค่าสำหรับผู้คนที่จะได้เผชิญกับความสุขของตัวเองในขณะที่ดื่มด่ำกับเสียงเพลง เมื่อเพลงใหม่เริ่มขึ้น มาเล่ห์และเหล่ากวียังมีโอกาสตรวจสอบค่าสถานะโดยรวมที่พวกเขาทำได้จากการเล่นเพลงแห่งความกล้าหาญ
*ติ๊ง!*
< บทเพลงแห่งความกล้าหาญของคุณทำให้ผู้ชมหลงใหล
ได้รับการยืนปรบมือจากผู้ฟัง 784,014
ซึ่งกินเวลาทั้งหมด 23 นาที 19 วินาที
น้ำตาไหลพราก 9,284
คน ไม่หยุดง่ายๆ >
< จิตวิญญาณแห่งสายน้ำหลั่งน้ำตาเป็นหยดใส
— เพิ่มความสัมพันธ์ >
< จิตวิญญาณแห่งสายลมร่ายรำไปกับเสียงเพลงของคุณ
— เพิ่มความสัมพันธ์ >
< จิตวิญญาณแห่งแสงโห่ร้องด้วยความยินดี
— พวกเขาสัญญาว่าจะปกป้องคุณนับจากนี้ >
< จิตวิญญาณแห่งเสียงกำลังยิ้ม
— เพลงของคุณจะเต็มไปด้วยโชคลาภพิเศษ >
< ทักษะดนตรีแห่งความกว้างใหญ่ของคุณเพิ่มขึ้นเป็นขั้นต้น
เลเวล 8 ตอนนี้คุณสามารถส่งเพลงของคุณในระยะทางที่ไกลขึ้น ระยะทาง รัศมีโดยรอบ
และความลึกลับของเอฟเฟ็กต์พิเศษที่คุณต้องการจะได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก >
< คุณได้ทำผลงานที่ควรค่าแก่การบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์วงการดนตรีเสร็จแล้ว
การทำลายสถิติจำนวนผู้ชมมากที่สุดในทวีป
ชื่อเสียงของคุณเพิ่มขึ้น 83,193 แต้ม >
< คุณได้รับฉายา:
นักดนตรีที่นำความคิดของผู้คน
ผู้ครองใจคนนับไม่ถ้วน! นี่เป็นฉายาที่มีเฉพาะผู้ที่รู้วิธีการพูดและแสดงผ่านดนตรีเท่านั้น >
< เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น >
< เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น >
< เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น >
< เลเวลทักษะการบรรยายของคุณเพิ่มขึ้น >
< ค่าสถานะเสน่ห์, บารมี และ โชคของคุณเพิ่มขึ้นอย่างละ 10 แต้ม >
< เมื่อจบเพลงที่จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของวงการเพลง
ค่าสถานะทั้งหมดของคุณเพิ่มขึ้น 10 แต้ม >
หน้าต่างข้อความยาวเด้งขึ้นมาหามาเล่ย์ที่กำลังเล่นเพลงถัดไป
'…!'
คุณลักษณะอย่างหนึ่งของอาชีพนี้คือกวีสามารถได้รับชื่อเสียงอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้ว่าเมื่อเทียบกับอาชีพศิลปะอื่นๆ เพียงแค่ร้องเพลงหรือเล่นเครื่องดนตรีในเมืองและหมู่บ้าน ชื่อเสียงของกวีก็เพิ่มขึ้นหลายร้อยแต้มในคราวเดียวอย่างง่ายดาย
โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขามีความสามารถพอสมควร แต่ถึงกระนั้นมาเล่ย์ก็ไม่เคยเห็นค่าชื่อเสียงสะสมมากกว่า
80,000 แต้ม นอกเหนือจากการเพิ่มเลเวลและระดับทักษะทั้งหมด
หลังจากเล่นเพลงเพียงเพลงเดียว
'มันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีโอกาสที่ดีแบบนี้
ถ้าไม่มีคุณวีด'
เขาคงไม่มีโอกาสจัดคอนเสิร์ตที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ที่ไหนนอกทุ่งการ์นาฟ
ความชำนาญด้านทักษะของดนตรีแห่งความกว้างใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้น เอฟเฟ็กต์ต่างๆที่เกิดจากดนตรีจะเข้มข้นขึ้นเมื่อมีนักกวีเข้าร่วมเล่นมากขึ้น มีกวีมากกว่าสามพันคนเล่นด้วยกัน และอีกหกพันคนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมการแสดงและยังคงฝึกซ้อมอยู่ นักกวีจากทวีปทางเหนือไม่มีความเชี่ยวชาญในเครื่องดนตรีมากกว่าสองชิ้น
และทักษะของพวกเขายังขาดอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม
ภาพที่พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อนำเสนอผู้ชมด้วยการแสดงที่สวยงาม
ทำให้หัวใจของมาเล่ย์พองโต ในวันที่มีการต่อสู้กับกิลด์เฮอร์มีส
นักกวีทั้งหมดหนึ่งหมื่นคนจะจัดคอนเสิร์ตร่วมกัน
'สายตานี้ ดนตรีนี้
และความสุขที่ฉันรู้สึกได้... รอยัลโร้ดเป็นสถานที่ที่วิเศษมาก'
มาเล่ย์เล่นเครื่องดนตรีของเขาอย่างมีพลังมากขึ้น การแสดงของกวีที่กำลังประสบความรู้สึกคล้ายกับมาเล่ย์ก็เริ่มสะท้อนผ่านฝูงชนได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
(มีต่อตอนหน้า…)
เล่ม 50 บทที่ 6 : การมาเยือนของมยุล Part
2 แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
“…”
มยุลซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของผู้ชมประหลาดใจมากที่ปากของเขายังคงอ้าค้างอยู่
'ฉันไม่เคยรู้ว่ามีดนตรีแบบนี้อยู่ในโลกนี้ และอารมณ์ของฝูงชนก็...’
ความประทับใจโดยทั่วไปของลัทธิโจ๊กหญ้าต่อผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสโดยเฉลี่ยนั้นค่อนข้างคล้ายกับฝูงซอมบี้ที่รุมเข้ามาเพื่อฆ่าคุณพร้อมกับกรีดร้องว่า
'โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!' แต่ตั้งแต่เขามาถึงสถานที่จัดเทศกาล
เขาสามารถเห็นได้ว่าคนเหล่านี้กำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริงในขณะที่ฟังเพลงนี้
'ฉันรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าสู่โลกที่แตกต่างและสวยงามที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน'
แม้ในขณะที่มยุลยืนดูอยู่
ก็มีผู้คนหลั่งไหลมารวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง
และในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีอย่างน้อยหนึ่งล้านคนในพื้นที่นี้ตามลำพัง หนึ่งล้าน… และมันไม่เหมือนกับจำนวนพนักงานในสนามรบ พวกเขาเป็นคนที่มารวมตัวกันเพื่อเพลิดเพลินกับดนตรีที่ยอดเยี่ยม
'ฉันไม่คิดว่าจะเห็นภาพแบบนี้ที่นี่'
มยุลยืนฟังเพลงอยู่เกือบ 2
ชั่วโมง อดไม่ได้ที่จะออกไป เฉพาะตอนที่ มาเล่ย์และเหล่ากวีผู้เหนื่อยล้ากำลังหยุดพักและเช็ดเหงื่อที่หน้าผากเท่านั้น
เขาจึงออกจากเวทีเพื่อไปยังพื้นที่อื่น
“มาทานอาหารอร่อยที่นี่!”
“ตรอกอาหารตรงนี้ มาสิ ทุกอย่างถูกจริงๆ!”
เนื่องจากพวกเขาอยู่ในทุ่งราบแทนที่จะอยู่กลางเมือง
ร้านอาหารในกระโจมเรียบง่ายจึงทำธุรกิจของพวกเขา ภายในกระโจมที่เรียงรายไม่สิ้นสุด
อาหารทุกชนิดเท่าที่จะจินตนาการได้กำลังปรุงและเสิร์ฟ เริ่มต้นด้วยโจ๊กหญ้ากว่า
400 ชนิดซึ่งเป็นตัวแทนของลัทธิโจ๊กหญ้า
อาหารที่มีชื่อเสียงทุกอย่างจากทั่วโลกสามารถพบได้ที่นี่
– ร้านอาหารของดาฟเน่ พ่อครัวที่ให้บริการราชวงศ์
– เมนูเนื้อหมูป่าที่ชวนน้ำลายสอ
– ร้านอาหารทะเลที่เชี่ยวชาญเฉพาะปลาย่างที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอย่างน้อย
300 เมตร!
– อาหารทะเลสดที่สุดจากแนวปะการังวุลฮอฟ!
- ผลไม้และผัก! แค่ให้โอกาส คุณจะชอบมัน!
ผู้คนต่างเข้าไปในเต็นท์ตามรสนิยมของพวกเขา
“*เอิ้ก* นั่นเป็นมื้ออาหารที่ดี”
“โอ้ มีร้านบูลโกกิอยู่ตรงนั้น”
"ไปกันเถอะ! ไปไปไป!"
“แต่เราเพิ่งกิน…”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น อาชีพของเราคือนักรบ เราจะไม่โดนท้องแตกตายง่ายๆแน่! มากินกันต่อดีกว่า”
"ถ้านายว่างั้น…"
เนื่องจากมีร้านอาหารชั้นเยี่ยมมากมาย
ผู้คนจึงยุ่งกับการเติมอาหารให้อิ่มท้อง
อาหารจากประเทศต่างๆในโลกแห่งความจริงและจากทุกภูมิภาคทั่วทวีปเวอร์เซลล์ถูกรวบรวมไว้ในที่เดียวในตรอกอาหารแห่งนี้ การเพิ่มเมนูดั้งเดิมทั้งหมดที่พัฒนาโดยเชฟชื่อดังหลายคน ยิ่งไปกว่านั้น
จำนวนของอาหารที่แตกต่างกันในสถานที่นี้คงจะมากเกินไป คนๆหนึ่งอาจหลงลืมเวลาได้ง่ายๆ
และลงเอยด้วยการใช้เวลาสองสามวันในถนนสายนี้เพียงลำพัง
'ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาหารที่ฉันหาไม่ได้ที่นี่ และดูผู้คนเหล่านั้นสนุกสนานกับตัวเอง…'
ขณะที่เขาชื่นชมทิวทัศน์รอบตัว
เขาก็พบร้านอาหารที่ตรงกับรสนิยมของเขาและเดินเข้าไป เขาค่อนข้างชอบอาหารทะเลมาโดยตลอด
และเขาอยากลองชิมอาหารที่ทำจากวัตถุดิบที่ได้จากแนวปะการังวูลฮอฟฟ์ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อไม่นานมานี้
“ขอโทษค่ะ… ขอโต๊ะสำหรับหนึ่งคนค่ะ”
"แน่นอน มานั่งนี่สิ”
ร้านอาหารซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยลูกค้ากว่าร้อยคน
มีรายการอาหารเพียงสามรายการเท่านั้น:
– อาหารชุด (ปลา) – 45 เหรียญเงิน
– อาหารชุด (หอย) – 20 เหรียญเงิน
– อาหารชุด (หมึก) – 35 เหรียญเงิน
100 เหรียญเงิน ได้ทั้งสามอย่าง!
มยุลเหลือบมองคนในโต๊ะอื่นๆ ลูกค้าทุกคนกำลังรับประทานอาหารผ่านจานอาหารทะเลที่กองเป็นกอง อาหารจานหลักของคอร์สปลาหมึกก็คือปลาหมึกยักษ์ย่างที่มีความยาวกว่า 80
เซนติเมตร
มยุลหยุดบริกรที่เดินผ่านและถามว่า “ขอโทษนะ แต่ผมคิดว่าราคาในเมนูมีความผิดพลาด…?”
"ทำไมเหรอ? มันแพงเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่ ไม่ ก็แค่… ผมคิดว่าพวกเขาควรจะเป็นเหรียญทองแทนที่จะเป็นเหรียญเงิน?”
สำรับปลายังประกอบด้วยปลาอร่อยหลากหลายชนิดที่ย่างอย่างเชี่ยวชาญ พวกมันไม่เพียงแค่อ้วนและชุ่มฉ่ำเท่านั้น
แต่ยังปรุงได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเขาต้องต่อสู้กับความต้องการที่จะจับปลาด้วยมือทั้งสองข้างและแทะมัน มยุลยินดีจ่ายมากกว่าแม้ว่าราคาจะอยู่ที่ 45 เหรียญทองก็ตาม
บริกรถามเขายิ้มๆ “คุณมาจากทวีปกลาง ฉันคิดว่างั้น?”
“ใช่ แล้วทำไมเหรอ?”
“ราคาเหล่านั้นค่อนข้างปกติในพื้นที่นี้ คุณจะพบสถานที่ที่ถูกกว่าในโมราต้า”
“…”
สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ในทวีปตอนกลาง
ราคาที่ต่ำเช่นนี้ส่วนหนึ่งมาจากค่าแรงงานราคาถูกในอาณาจักรอาเพ่น
เช่นเดียวกับประเพณีการเพลิดเพลินกับอาหารราคาถูกและอร่อยที่แพร่หลายมาตั้งแต่สมัยก่อนที่โมราต้าเป็นเพียงเมืองร้าง แต่เหตุผลพื้นฐานกว่านั้นคือความจริงที่ว่าไม่มีการเรียกเก็บภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร ไม่มีผู้เล่นคนใดในอาณาจักรอาร์เพ่นที่ไม่รู้จักคำพูดอันโด่งดังของวีด
เมื่อเขาสร้างกฎหมายภาษีสำหรับอาณาจักรของเขา:
“ทำไมเราต้องเก็บภาษีอาหาร? อย่ายุ่งกับของที่คนกิน!”
อัตราภาษีในอาณาจักรอาเพ่นนั้นต่ำมากอยู่แล้ว
แต่เมื่อพูดถึงเรื่องอาหาร ไม่มีการเรียกเก็บภาษีใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากวีดเองมีประสบการณ์มากมายในการหิวโหยในช่วงวัยเด็กที่ยากจน
เขาจึงทนไม่ได้ที่จะต้องเก็บภาษีจากสิ่งที่ผู้คนกินเข้าไป
“เราสามารถชดเชยรายได้จากภาษีที่ต่ำได้โดยการขายที่ดิน แค่แบ่งมันออกนิดหน่อย… ฉันได้ยินมาว่ากลโกงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นเหมืองทองคำจริง
ๆ ในปัจจุบัน”
แน่นอน
ครึ่งหลังของสิ่งที่เขาพูดนี้ถูกทำให้เงียบลงอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบก่อนที่มันจะแพร่ออกไป
และไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน
อย่างไรก็ตาม มยุลรู้สึกตกใจมากกับราคาถูกของอาณาจักรอาร์เพ่น
เขารู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างกระแทกเข้าที่ด้านหลังศีรษะของเขาอย่างแรง
'ถ้าผู้คนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่จำเป็นพื้นฐานด้วยวิธีนี้...
ก็ไม่น่าแปลกใจที่อาณาจักรแห่งนี้จะเป็นที่นิยมมาก'
หลังจากเยี่ยมชมทุ่งการ์นาฟมาทั้งวัน
มยุลก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าผู้เล่นที่ย้ายจากอาณาจักรฮาเว่นมายังอาณาจักรอาเพ่นจะต้องรู้สึกเหมือนได้ค้นพบสรวงสวรรค์ เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจว่าทำไมพวกเขาจำนวนมากถึงต่อสู้ในขณะที่ตะโกนชื่อของลัทธิโจ๊กหญ้า
'ฉันไม่เคยสงสัยในสิทธิ์ของเราในการปกครอง
เพราะเราเป็นผู้ชนะ เพราะเราแข็งแกร่งที่สุด... แต่... เป็นไปได้ไหมที่เราเอาเปรียบผู้เล่นของเรามากเกินไป'
หลังจากทานอาหารในร้านอาหารแล้ว มยุลก็เดินเตร่ไปทั่วทุ่งราบ มีสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ และงานแสดงสินค้าหลายแห่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมเอลฟ์และคนแคระ พ่อแม่จูงมือลูกเดินบนยอดไม้ สัมผัสวิถีเอลฟ์
เขายังมองไปรอบ ๆ
ห้องจัดแสดงอันโอ่อ่าของแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้ง LG
และ Samsung
“ทีวีเรืองแสงติดผนัง! รับชมสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยโทรทัศน์ที่ออกแบบอย่างหรูหรานี้!”
“สมัครตอนนี้และเรารับประกันการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ภายในสองวัน
ทุกที่ทั่วโลก! รับฟรีลูกแก้วขนาดเกิน 1 เมตรอีกด้วย!”
“ขณะนี้เรากำลังจัดงานขอบคุณลูกค้า เรามอบซองวิเศษและขวานเงินให้กับลูกค้าที่เปิดใช้งานโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่!”
“นี่คือบริษัทซันยองมอเตอร์ ขนาดของรูปปั้นไม้นี้มีขนาดเท่าของจริง อย่าลังเลที่จะลองนั่งบนมัน ซื้อมันและรับวัวที่มีชีวิตฟรีหนึ่งตัว!”
บูธส่งเสริมการขายที่เชื่อมต่อกับรอยัลโร้ด
เอลฟ์สาวร่างผอมกำลังโฆษณาและขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นงานพาร์ทไทม์
“เรามาจากกวางดงฟาร์มาซูติคอล จิบน้ำโสมเย็นนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการคลายความเหนื่อยล้าของคุณแล้ว!”
“สวัสดี เรามาจากลอยด์ ทุกปัญหาในชีวิตของคุณจะหมดไปได้ด้วยประกันเพียงก้อนเดียว เราแจกยาพลังชีวิตฟรีสำหรับทุกคนที่มาเยี่ยมชมบูธโปรโมชั่นของเราตอนนี้!”
“KTX : สะดวกสบาย รวดเร็ว
ถึงที่หมาย รถไฟลากด้วยวัว 100 ตัวซึ่งมุ่งหน้าไปทางฝั่งตะวันออกของทุ่งราบมีกำหนดจะออกเร็วๆ
นี้ ใครอยากจะขึ้นก็มารวมตัวกันที่นี่!”
“จากเครื่องบินรบสู่เครื่องบินขนส่งสินค้า เราคือ Boeing บริษัทผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องบินทุกประเภท ก้าวเข้าสู่ห้องโถงนิทรรศการตอนนี้และเพลิดเพลินไปกับการแสดง!”
“อาโมเร! แจกเครื่องสำอางสมุนไพรฟรี! สำหรับลูกค้า 500,000
คนแรกเท่านั้น!”
“นี่คือพิครีสอร์ท ใครรู้สึกเหนื่อยหลังจากเดินรอบ ๆ โถงนิทรรศการ? มาพักผ่อนที่นี่กันเถอะ! เราได้เปิดสระว่ายน้ำด้วย!”
“นี่คือประกาศจากห้างสรรพสินค้านอร์ดสตรอม เราแจกชุดมาการองฟรีสำหรับลูกค้าทุกคนที่มาที่ร้านตอนนี้…”
บริษัทและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกได้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของทุ่งการ์นาฟ
เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของพวกเขา พวกเขาสามารถเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้อย่างมากโดยการแจกของที่ระลึกเล็กๆ
น้อยๆ ให้กับผู้เล่นหรือเสนอประสบการณ์ทดลองใช้บริการของพวกเขา
เครื่องใช้ในบ้าน,
ไอที, รถยนต์, การต่อเรือ,
เคมี, อสังหาริมทรัพย์, การก่อสร้าง,
ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ, การผลิตเหล็ก, เฟอร์นิเจอร์, ธนาคาร, เครื่องจักร,
ห้างสรรพสินค้าและโรงแรม!
ห้องโถงนิทรรศการทั้งหมดเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นซึ่งจะทำให้แม้แต่งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของขนาดได้อย่างง่ายดาย
เกือบจะเหมือนกับการเปรียบเทียบมหาวิทยาลัยกับโรงเรียนอนุบาล
ตอนนี้มยุลเกือบจะพูดไม่ออกด้วยความประหลาดใจ
'ถูกต้อง นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัทระดับโลกเหล่านั้นทั้งหมดมีบูธของพวกเขาที่นี่
แล้วเป็นไปได้อย่างไรในโลกที่จะเตรียมงานแบบนี้ในเวลาเพียงสิบวัน?'
แม้ว่าจะนานมาแล้ว แต่ครั้งหนึ่ง มยุลเคยมองข้ามทุ่งการ์นาฟ
ขณะที่บินอยู่บนหลังของกริฟฟอน ผืนดินที่ครั้งหนึ่งเคยแห้งแล้งซึ่งไม่มีอะไรเลยนอกจากหญ้ารก
บัดนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงต่อหน้าต่อตาเขา
'นี่คือขอบเขตของอิทธิพลของวีด? แต่นั่นอาจไม่ใช่ทั้งหมดที่มี…'
แน่นอน
แม้แต่วีดเองก็ไม่ได้คาดหวังถึงผลลัพธ์เช่นนี้ แต่ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ
เริ่มขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวราวกับก้อนหิมะที่กลิ้งไปมา เมื่อสื่อทั่วโลกมุ่งความสนใจไปที่ทุ่งการ์นาฟ ผู้คนและบริษัทต่างๆ
ต่างแข่งขันกันเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่นี้
จึงเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่การเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์แบบจะเกิดขึ้น
“นี่คือบริษัทอุตสาหกรรมหนักอ๊กโป ลองขึ้นเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ขณะนี้เรากำลังสร้างเรือสำราญด้วยเช่นกัน”
มยุลได้ยินเสียงตะโกนขนาดใหญ่และหันศีรษะไปทางทิศทางของเสียงโดยอัตโนมัติ สิ่งที่เขาเห็นคือเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่พิเศษที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเขา
ซึ่งมีความยาวมากกว่า 400 เมตร สูง 35 เมตร
และกว้างถึง 70 เมตร
“ขนาดของเรือลำนี้… แต่ลำนี้มาอยู่กลางทุ่งราบได้อย่างไร?”
ภาพอันพิศวง!
เมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายบริหารของอ๊กโป
ก็คิดในตอนแรกว่าการก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปไม่ได้จากมุมมองของสามัญสำนึก แต่อะไรจะเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อประติมากรรมที่มีขนาดน่าประทับใจกว่านั้นถูกสร้างขึ้น
ณ ทุ่งการ์นาฟในขณะนั้น
“มันไม่เหมือนกับว่าเรากำลังปล่อยเรือลำนี้ลงทะเลจริงๆ เราแค่ต้องทำให้ภายนอกน่าเชื่อถือก็พอ”
“ไม่ เราต้องทำให้ถูกต้อง ดูบริษัทอื่นๆ ทั้งหมดที่ประกาศตัวเองฟรีต่อสื่อทั่วโลกด้วยการสร้างรูปปั้นในทุ่งการ์นาฟ ถ้าพวกเขาทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้”
ดังนั้น
วิศวกรในอุตสาหกรรมหนักจึงสามารถสร้างเรือได้ในเวลาเพียงสองวัน
โดยอาศัยความร่วมมือกับผู้สร้างเรือระดับปรมาจารย์จากท่าเรือวาร์นา แม้ว่าจะสร้างด้วยไม้ หิน
และดินอย่างเร่งรีบเกินกว่าจะปล่อยออกสู่มหาสมุทรได้ แต่โครงสร้างของใบเรือและตัวเรือนั้นเป็นของเรือที่ใช้งานได้จริง
“วิธีที่พวกเขาสร้างเรือในรอยัลโร้ดนั้นไม่ได้แย่เลย มันค่อนข้างสะดวกสำหรับการประชาสัมพันธ์บริษัทของเราต่อผู้ซื้อในต่างประเทศ
เนื่องจากเราสามารถแสดงแบบจำลองขนาดเท่าของจริงของเรือให้พวกเขาดูได้…”
“คงจะดีไม่น้อยหากเรือที่สร้างโดยบริษัทของเราแล่นไปรอบๆทะเลของรอยัลโรด?”
เรือคอนเทนเนอร์ที่มีน้ำหนัก 340,000
ตัน!
ตอนนี้มันเป็นไปได้ที่จะสร้างเรือขนาดใหญ่พิเศษในรอยัลโร้ด แน่นอน
เนื่องจากต้องใช้แรงลมหรือไม้พายในการแล่นเรือแม้จะใช้ทักษะการแล่นเรือใบ
จึงมีความไม่สะดวกมากมายเมื่อใช้งานเรือในมหาสมุทรจริง
แต่ก็ยังคุ้มค่าที่จะสร้างมันขึ้นมา
จุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวหรือส่งเสริมการขาย
“นี่คือวิธีที่เราสร้างเรือขนาดใหญ่ที่นี่”
“ความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการต่อเรือ”
ช่างต่อเรือระดับปรมาจารย์แห่งวาร์น่า
สามารถเรียนรู้ความรู้อันมีค่าในขณะที่พวกเขาสร้างเรือขนาดใหญ่ แม้จะใช้เทคนิคและเวลา แรงงานเท่าเดิม
แต่เทคนิคเล็กน้อยและความรู้บางอย่างก็สามารถเพิ่มความเร็วของการต่อเรือได้มากกว่าสองเท่า
ซึ่งปกติแล้วเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน
“ฉันคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะอ้างอิงถึงวิธีการสร้างดาดฟ้าบนบกสำหรับการต่อเรือ”
“แล้วการเปิดอู่ต่อเรือร่วมกันล่ะ? มีมากเลยนะที่ผู้สร้างแต่ละคนสามารถทำได้”
“คุณหมายความว่าเราสร้างอู่ต่อเรืออย่างเป็นทางการที่นี่?”
“การสร้างเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีลูกเรือมากกว่า
70-80 คนนั้นยากและใช้เวลานานเกินไปสำหรับการทำงานแต่ละอย่าง เป็นการดีกว่ามากที่จะทำงานร่วมกันในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยใช้ผู้เล่นเริ่มต้นสำหรับงานง่ายๆ มันจะสะดวกถ้าเราสามารถหาวัสดุมาตรฐานได้ด้วย”
“นั่นฟังดูเข้าท่า
แต่ถ้าเราหางานไม่ได้ล่ะ?”
“กองทัพเรือของอาณาจักรฮาเว่น ถูกกำจัดจนสิ้นซาก ตอนนี้ทะเลเป็นของอาณาจักรอาเพ่น”
พื้นที่เก็บข้อมูลของการผจญภัยและการสำรวจ!
มีข่าวลือเกี่ยวกับสมบัติล้ำค่าและดินแดนลึกลับที่ห่างไกลจากทวีปเวอร์เซลล์ มีคนไม่มากนักที่ออกเดินทางล่องเรือระยะไกลเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและขาดข้อมูล
แต่พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ผู้คนจะเข้าร่วมการเดินทางมากขึ้น จำนวนคำสั่งซื้อเรือที่ผู้ต่อเรือหลักได้รับเพิ่มขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกเดือน แม้ว่าคำสั่งส่วนใหญ่ล้นหลามสำหรับเรือประมงขนาดเล็กที่แล่นรอบทะเลชายฝั่ง
แต่ก็มีเรือเดินสมุทรที่แล่นเร็วสำหรับการผจญภัยและเรือใบขนาดกลางสำหรับการค้าอยู่ไม่น้อย ขนาดของเรือเหล่านั้นก็ใหญ่ขึ้นทุกวันเช่นกัน
“งั้นเรามาทำกันเถอะ”
"ฮิฮิ ยอดเยี่ยม!"
ผลกระทบเพิ่มเติมของเทศกาล —
ทำให้ผลผลิตของอุตสาหกรรมการต่อเรือของอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
***
'พลังของอาณาจักรอาเพ่นนี้ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ฉันเคยดูถูกมันเสมอ
เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งทางทหารที่อ่อนแอของมันเท่านั้น… แต่ศักยภาพของมันอาจเกินจินตนาการของฉันด้วยซ้ำ”
หลังจากดูรอบๆ
สถานที่จัดนิทรรศการแล้ว มยุลก็เริ่มมุ่งหน้าไปยังสถานที่อื่นอีกครั้ง
'นี่จะไม่ง่ายเลย เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด...
ฉันควรไปดูประติมากรรมพวกนั้นด้วย เพราะตอนนี้ฉันมาจนสุดทางแล้ว'
เขาเดินไปที่สถานที่ก่อสร้างประติมากรรม
เขาต้องใช้เวลาพอสมควรในการหนีออกจากสถานที่จัดเทศกาลเพราะคนเยอะ
และในขณะที่เขากำลังเดินเข้าใกล้สถานที่ก่อสร้างมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาก็รู้สึกหนักใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนแรกเขาคิดว่าเงาขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาจากใจกลางที่ราบกว้างใหญ่คือภูเขา
เนื่องจากสามัญสำนึกของมนุษย์กำหนดเมื่อมีคนเห็นบางสิ่งที่ใหญ่โตมาก แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าภูเขาเหล่านั้นปกคลุมไปด้วยคนปีนเขาที่ดูเหมือนฝูงมด คนเหล่านั้นสร้างบันไดเพื่อบรรทุกวัสดุ
'พวกนั้น...คือประติมากรรมเหรอ'
มยุลผงะอีกครั้ง ในฐานะลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรฮาเว่น เขาได้เห็นประติมากรรมมากมาย:
คอลเลกชันของขุนนางในช่วงแรกของรอยัลโร้ด
หรืองานศิลปะหรูหราที่เขาเห็นในพระราชวังหลวง... ความประทับใจทั่วไปของเขาเกี่ยวกับประติมากรรมคือพวกมันเป็นงานแกะสลักทั้งงดงามและประณีต
แต่สิ่งที่เขากำลังดูอยู่ตอนนี้กลับมีขนาดที่ใหญ่โตจนน่าขัน
วัว
สูง 210 เมตร กว้าง 600 เมตร
หางของมันสามารถเทียบได้กับขนาดของตึก
50
ชั้น
เขายังได้ยินเสียงคนงานที่เข้าร่วมการก่อสร้างรูปปั้น
“ขอหินและโคลนเหนียวเพิ่มเร็วๆหน่อย!”
“พื้นผิวเริ่มแตก ฉันคิดว่าเราต้องการความช่วยเหลือจากช่างปั้นหม้อ… โปรดนำนักเวทย์ระดับไฟมาสองสามคนเมื่อคุณขึ้นมา”
หัวของมยุลเริ่มเจ็บ
'พวกเขายังคงทำสิ่งเหล่านั้นอยู่หรือ'
เป็นเรื่องน่าโล่งใจอย่างยิ่งที่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้มันใหญ่ขึ้น
เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขากำลังทำงานเกี่ยวกับรายละเอียดอยู่
'ดังนั้นฉันจำเป็นต้องต่อสู้กับ...
สิ่งใหญ่โตเหล่านี้... เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น?'
ความแข็งแกร่งของกลุ่มอัศวินกริฟฟอน
นั้นไม่มีใครเทียบได้ในทวีปกลาง พวกเขาไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน
เว้นแต่วีดและอาณาจักรอาร์เพ่น
'แต่ขนาดของพวกมัน...พวกมันทั้งหมดจะมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้หรือไม่'
นอกจากขนาดแล้ว
ดวงตาของวัวผู้ยิ่งใหญ่ตัวนี้ยังดูดุร้ายราวกับดวงตาของสัตว์ร้ายที่กินสัตว์อื่น กรงเล็บของมันแหลมคมอย่างกับสิงโต และมีปีกคู่หนึ่งงอกออกมาจากด้านข้างของมัน
< วัวทะยาน
งานศิลปะนี้สร้างขึ้นโดยการถมดินและหินภายใน
และเทเหล็กหลอมเหลว 329 ตันลงในโครงของมัน ผู้คนทั้งหมด 540,000 คนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างรูปปั้นให้เสร็จสมบูรณ์ >
(ติดตามตอนต่อไป…)
เล่ม 50 บทที่ 6 : การมาเยือนของมยุล Part
3 แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
'มันเกินไปแล้ว เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น… ฉันจะต้องปล่อยให้ทีมอื่นจัดการกับมัน'
มยุลพยายามหาประติมากรรมที่ดูค่อนข้างง่ายกว่าในการต่อสู้
แต่มันไม่ง่ายเลย ผลงานอื่นๆ
ที่เขามองเห็นได้นอกเหนือจากรูปปั้นวัวขนาดมหึมานั้นยิ่งใหญ่กว่านั้น: งูมีปีก,
ไวเวิร์นสามหัว, แบดเจอร์ที่ยิงเข็มพิษ! สิ่งที่พวกมันมีเหมือนกันคือขนาดที่ใหญ่โตเหมือนกับวัว
'และสิ่งของเหล่านั้นจะปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้า...'
แน่นอน
ขนาดที่ใหญ่โตไม่ได้แปลว่ามีพละกำลังที่เหนือกว่าเสมอไป มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ในรอยัลโร้ดนั้นทรงพลัง
แต่นั่นเป็นเพราะพวกมันมีพละกำลังและความแข็งแกร่งที่เข้ากับรูปลักษณ์ที่เทอะทะของพวกมัน ดังนั้นการทำให้ประติมากรรมเหล่านั้นมีชีวิตขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ไม่ได้รับประกันว่าความสามารถทางกายภาพของพวกมันจะเป็นสัดส่วนกับขนาดของพวกมัน หน่วยข่าวกรองของกิลด์เฮอร์มีสได้ประมาณการอย่างคร่าว ๆ
เกี่ยวกับพลังที่ประติมากรรมเหล่านี้อาจมีเมื่อพวกมันมีชีวิตขึ้นมาด้วยประติมากรรมประทานชีพของวีด
โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ของปิงหลง อิมูกิ ไวเวิร์น และฟีนิกซ์เท่านั้น
'...แต่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจักรพรรดิเกฮาร์
วอน อาร์เพ่นจะเข้ามามีส่วนร่วม เขาจะน่ากลัวแค่ไหน? ถึงกระนั้น เขาคงไม่สามารถทำให้พวกมันทั้งหมดมีชีวิตขึ้นมาได้ใช่ไหม'
มยุลยืนอยู่ที่นั่นครู่หนึ่ง
จ้องมองไปที่ประติมากรรม เขาจะเรียนรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกมันเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น
แต่เขาหวังว่าเขาจะไม่มีวันรู้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาไม่คิดว่าเขาจะสนุกกับการต่อสู้กับหนูมีปีกยักษ์ในอากาศ
'แม้สิ่งที่เราเห็นมาทั้งหมด
การเดิมพันของเราก็ยังอยู่ที่กิลด์เฮอร์มีสชนะ'
มยุลรู้ถึงอาวุธลับทั้งห้าที่ลาเฟย์เตรียมไว้ นอกเหนือจากกองทัพเงาแห่งพัลมาซึ่งถูกกำจัดไปแล้ว แต่ละอย่างที่เหลืออีกสี่อย่างเป็นอาวุธสงครามสังหารหมู่ธรรมดาและเรียบง่าย ทันทีที่พวกเขามันเปิดเผยต่อสาธารณะ
พวกเขาทั้งหมดสามารถดึงดูดการประณามด้วยความโกรธได้อย่างมาก
'กิลด์เฮอร์มีสก็สิ้นหวังพอๆกัน เพราะไม่มีทางถอยแล้ว ถ้าเราชนะในการต่อสู้ครั้งนี้จริงๆ
เราจะกลายเป็นผู้ร้ายอย่างเป็นทางการอย่างถาวร'
***
ลาเฟย์ซึ่งรับผิดชอบการเตรียมการสำหรับการสู้รบในทุ่งการ์นาฟ
ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อกำหนดแผนสำหรับสงคราม เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาระดับกลางแต่ละคนในการสั่งการกองกำลังในหน่วยของพวกเขา
แต่พวกเขายังคงต้องกำหนดกลยุทธ์ขนาดใหญ่ที่จะใช้ในภาพรวม ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย มีผู้เล่นเพียง 20 คนเท่านั้นที่เข้าร่วมการประชุมนี้
ซึ่งรวมถึงบาร์ดเรย์, อาคิม, สเตียร์ และลาเฟย์เอง
“ไม่ควรมีปัญหาใดๆกับการรวมพลของกองทัพจักรวรรดิและขวัญกำลังใจของพวกเขา กระบวนการคัดเลือกทหารรับจ้างและการเกณฑ์ทหารก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นเช่นกัน”
“ปัญหาหลักคือกลยุทธ์คลื่นมนุษย์ของทางเหนือ”
“เอาล่ะ
เราจะต้องฆ่าพวกมันทั้งหมด และนั่นคือปัญหาเดียวที่แก้ไขได้ ใช่ไหม”
“นั่นมีแต่จะทำให้เราลำบาก
เพราะการต่อสู้จะไม่มีวันสิ้นสุดแม้ว่าเราจะฆ่าพวกเขาตลอดทั้งวันก็ตาม”
“เราต้องคำนึงถึงจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฝ่ายเราด้วย”
บาร์ด เรย์และลาเฟย์วางแผนการรบทั้งหมดไว้บนโต๊ะและแก้ไขใหม่ หนึ่งในกลวิธีคือวิถีออร์โธดอกซ์แบบเก่าในการเดินทัพกองทัพจักรวรรดิไปยังหน้าประตูของผู้เล่นทางตอนเหนือในทุ่งการ์นาฟ…
พวกเขาพิจารณารูปแบบและวิธีการปฏิบัติการกองกำลังเวทมนตร์ที่หลากหลาย
และประเมินว่าจะใช้อาวุธลับทั้งห้าของจักรวรรดิอย่างไรให้ดีที่สุด
ลาเฟย์ส่ายหัว
“ภาคีอัศวินเหล็กและอาวุธลับทั้งห้าที่เหลือนั้นทรงพลังอย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันจะมีประสิทธิภาพในการรบ
แต่พวกมันจะไม่เด็ดขาดเท่าที่เราต้องการ”
"แล้ว? คุณหมายถึงกำลังทหารของเราในปัจจุบันยังไม่เพียงพอใช่หรือไม่”
“เราต้องการบางอย่างที่มีรุนแรงมากกว่านี้
บางอย่างที่สามารถทุบพวกมันให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยแรงเต็มที่”
ลาเฟย์อาจไม่รู้เรื่องการต่อสู้จริงมากนัก
แต่เขาเป็นนักยุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นคนที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อเตรียมการทุกอย่างและวางรากฐานให้กิลด์เฮอร์มีสทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและรวบรวมทวีปตอนกลางทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียว แต่ด้วยความรอบคอบและปราศจากข้อผิดพลาดเหมือนปกติ หลังจากที่ถูกวีดสร้างความเสียหายหลายครั้ง
เขาก็ระมัดระวังเป็นพิเศษ เกือบจะมากเกินไป
“เป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะคาดเดาการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงด้วยความแน่นอน พวกเขาสามารถแนะนำตัวแปรที่ไม่คาดคิดซึ่งก็คือจักรพรรดิเกฮา ปัญหาอีกประการหนึ่งคือพวกเขาได้ยึดครองทุ่งการ์นาฟเป็นดินแดนของตนเองล่วงหน้าแล้ว เราอาจต่อสู้ภายในพรมแดนของศัตรูได้เช่นกัน”
อาคิมทุบโต๊ะด้วยความโกรธ
“พวกเขาเสนอที่จะชะลอการต่อสู้แล้วเข้ายึดครองสนามรบ
เตรียมการทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ… นี่มันยุติธรรมยังไงกัน? มันขี้โกง!”
“ก็ ไม่ใช่วีดที่เป็นคนทำ
อย่างน้อยก็ไม่ใช่โดยตรง ดังนั้นการร้องเรียนเขาจึงไม่ใช่เรื่องดี เขาอาจจะนับการต่อต้านจากฝ่ายเราก่อนที่เขาจะดำเนินการนี้”
ลาเฟย์ไม่ต้องการถูกศัตรูลากไปแบบนี้ เมื่อพวกเขาสูญเสียความคิดริเริ่ม สิ่งต่างๆก็จะเสียเปรียบมากขึ้นสำหรับพวกเขาไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม แม้ว่าอาณาจักรฮาเว่นจะมีอำนาจทางทหารที่เหนือกว่า
พวกเขาก็จะลงเอยด้วยการต่อสู้ในสมรภูมินี้ตามเงื่อนไขของวีดเอง
'ทันทีที่เขาตอบรับคำของเราสำหรับการต่อสู้เต็มรูปแบบ
เขาก็นำผู้เล่นไปตั้งค่ายในทุ่งการ์นาฟโดยไม่ต้องดำเนินการใดๆโดยตรง เขาไม่ใช่แค่ศัตรูธรรมดาอย่างแน่นอน เราก็จะไม่ลดการป้องกันลงเช่นกัน ไม่ใช่เมื่อมีการต่อสู้ที่สำคัญเช่นนี้เกิดขึ้น'
อาณาจักรอาเพ่นและอาณาจักรฮาเว่นกำลังปะทะกันอย่างสุดกำลัง ไม่มีใครรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในทวีปเวอร์เซลล์หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้สิ้นสุดลง ลาเฟย์ต้องการไพ่ตาย สิ่งที่เขารู้ว่าเขาสามารถวางใจได้
"ขอโทษนะ…"
แคดด์เลอร์ซึ่งรับผิดชอบการฝึกทีมเวทมนต์
ยกมือขึ้น
“มีบางอย่างที่ฉันอยากจะบอกคุณ
เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้ค้นคว้าเรื่องเวทมนตร์”
"เวทมนตร์?"
แคดด์เลอร์เป็นผู้เล่นที่ส่วนใหญ่อยู่เบื้องหลังจนถึงตอนนี้ ในฐานะสมาชิกของราชองครักษ์ เขาได้รับอาชีพลับ จอมเวทย์สังหาร ตั้งแต่เนิ่นๆ
— หมายความว่าพลังเวทย์มนตร์ของเขาเพิ่มขึ้นเมื่อเขาสังหารชาวบ้านหรือผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ผลที่ตามมาคือมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น
พลังและความโกรธแค้นของผู้ตายที่ถูกระงับ แต่เขายังสามารถได้รับความสามารถในการต่อสู้จำนวนมหาศาล ปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยได้รับการสนับสนุนจากกิลด์
แคดเลอร์ยิ้มอย่างมั่นใจ
“มันเป็นหนึ่งในสุดยอดคาถาแห่งเวทมนตร์…
และเราก็พร้อมที่จะใช้ไม่มากก็น้อย”
ลาเฟย์นึกถึงรายงานที่เขาได้รับเมื่อครู่หนึ่งเกี่ยวกับคาถาขั้นสูงสุดที่ถูกค้นพบในโบราณสถานที่นักเวทย์ทิ้งไว้:
'อัญเชิญดาวตกเพลิง'
มันเป็นคาถาที่วีดเองได้รับระหว่างทำภารกิจทักษะแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
และใช้เพื่อทำลายล้างฐานใหญ่ของลัทธิเอ็มบินยู กิลด์เฮอร์มีสรู้สึกทึ่งอย่างมากกับพลังของคาถาเมื่อพวกเขาดูเหตุการณ์ผ่านการออกอากาศ
และมองหาทุกหนทุกแห่งเพื่อหาคาถาเดียวกัน เนื่องจากมันถูกใช้ระหว่างภารกิจ
จึงมีโอกาสพอสมควรที่จะถูกค้นพบโดยผู้ซึ่งยึดครองทวีปกลาง สถานที่ทางประวัติศาสตร์และดันเจี้ยนของผู้วิเศษจำนวนมากได้รับการค้นหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
และแม้ว่าจะมีความยากลำบากมาก แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับคัมภีร์เวทมนตร์ 'อัญเชิญดาวตกเพลิง' ผ่านภารกิจ มันเป็นหนังสือที่ถูกฉีกบางส่วนและไม่สมบูรณ์
และแม้ว่ามันจะถูกฟื้นฟูโดยนักเวทย์และนักผจญภัย
“หมายความว่าตอนนี้สามารถร่าย 'อัญเชิญดาวตกเพลิง' ได้แล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่ด้วยวิธีปกติ แต่เมื่อใช้มนต์ดำ เราสามารถร่ายคาถาขั้นสูงที่มีเลเวลสูงกว่าปกติ 2
เลเวลได้ ดังนั้น... *อะแฮ่ม*
เราจะต้องสังเวยอัญมณีและหินมานารวมถึงสิ่งมีชีวิตที่หายาก แต่เราจะสามารถทำได้
ร่ายเวทย์เหมือนกันหมด”
อัญเชิญดาวตกเพลิง!
เมื่อพวกเขาพบว่าสามารถใช้คาถาทำลายล้างพื้นที่กว้างนี้ได้
พวกเขาจึงเริ่มวางแผนการรบใหม่
“แล้วเราจะใช้มันหลังจากช่วงกลางของการต่อสู้เป็นไพ่ที่ซ่อนอยู่ได้อย่างไร? เราสามารถพลิกกระแสของการต่อสู้ได้ด้วยวิธีนั้น เราอาจพิจารณาวางมันลงบนตำแหน่งที่ตั้งของวีดด้วยเช่นกัน”
“เราไม่สามารถเรียกอุกกาบาตในการสู้รบได้ อีกทั้งฝ่ายเราจะต้องเสียสละมากเกินไป”
“ไม่ต้องพูดถึงการใช้มานาจำนวนมากโดยทีมเวทมนต์”
“วีดสามารถหลบหนีได้ เขาจะต้องรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันจากด้านข้างของเรา เมื่อพิจารณาถึงความเร็วของไวเวิร์น หรือ ปิงหลง ที่เขาขี่อยู่บ่อยๆ
มันคงจะยากที่จะโจมตีเขาด้วยคาถา”
“เราสามารถเรียกดาวตกได้สูงสุดกี่ครั้ง?”
“เราสามารถร่ายมันได้หลายครั้งในขณะที่เรากำลังใช้มนต์ดำ
แต่มันจะกลายเป็นภาระมากขึ้นสำหรับนักเวทย์ ถึงกระนั้น
ถ้าเรารวบรวมนักเวทย์ทุกคนในอาณาจักรฮาเว่น เราจะสามารถอัญเชิญได้ประมาณสามครั้งในเวลาเดียวกัน”
“นั่นน่าจะเพียงพอแล้ว”
“ในกรณีนั้น
มันอาจจะดีกว่าหากเน้นพลังของเราไปที่การเรียกอุกกาบาต… เราควรใช้คาถาตั้งแต่เนิ่นๆ
เพื่อกำจัดปัจจัยที่ไม่คาดคิดตั้งแต่เริ่มต้น”
“เห็นด้วย”
แผนการถูกกำหนดขึ้น: โจมตีทุ่งการ์นาฟทั้งหมดด้วยการเรียกอุกกาบาตเพลิง! ด้วยผู้คนมากกว่าร้อยล้านคนที่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เดียวตามที่เห็นในการออกอากาศ
จำนวนความเสียหายที่คาถานี้จะสร้างให้กับพวกเขานั้นมหาศาลมาก กองทัพอาณาจักรฮาเว่นตัดสินใจรุกเข้าสู่สมรภูมิทันทีหลังจากอุกกาบาตโจมตี
และสังหารศัตรูที่เหลือเป็นกลยุทธ์พื้นฐาน
“การรักษาความลับอย่างเข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแผนนี้”
“เราสามารถแจ้งนักเวทย์ได้ก่อนการต่อสู้ เนื่องจากเป็นมนต์ดำประเภทหนึ่ง
เราต้องการสมาชิกหลักเพียงไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับแผนล่วงหน้า”
“นั่นจะทำให้สมบูรณ์แบบ”
***
อาณาจักรฮาเว่นตัดสินใจเปิดคลังอาวุธทุกแห่งในอาณาเขตของตนเพื่อจัดเตรียมกองกำลัง
ดึงทรัพยากรจากปราสาทของลอร์ดแต่ละแห่ง และแม้แต่จ้างผู้คุ้มกันเมือง ในโอกาสนี้กองกำลังทั้งหมดที่แท้จริงที่ปกครองทวีปกลางจะรวมตัวกันในที่เดียว
สเตียร์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองและ
อาคิม ผู้รับผิดชอบราชองครักษ์ก็เริ่มยุ่งมากขึ้นเช่นกัน
“นี่คือสถานการณ์ปัจจุบันในทุ่งราบการ์นาฟ
รูปปั้นขนาดมหึมาทั้งหมด 475 ชิ้นสร้างเสร็จแล้ว และอีก 3,741
ชิ้นยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง”
“หมายความว่าพวกเขาจะสร้างเสร็จทั้งหมดงั้นเหรอ?”
"ไม่ พวกเขาอาจจะไม่สามารถสร้างเสร็จได้ประมาณครึ่งหนึ่งก่อนเริ่มการต่อสู้”
“รายงานการวิเคราะห์เกี่ยวกับเกฮา
วอน อาเพ่น เพิ่งมาถึง”
“จักรพรรดิเกฮาร์จะทำให้ประติมากรรมเหล่านั้นคืนชีพได้หรือไม่”
“มันยากที่จะตัดสิน
แต่ฉันคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แม้แต่สำหรับเขา มีประติมากรรมไม่มากนักที่วีดสร้างและกลายเป็นข้ารับใช้ของเขา”
“ฉันกำลังศึกษาความแข็งแกร่งทางทหารของอาณาจักรอาร์เพ่นเก่าและสายพันธุ์ของสัตว์แกะสลักที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลานั้น
แต่ไม่มีบันทึกเพียงพอ”
หน่วยข่าวและหัวหน้ากิลด์ต่างระดมกำลังอย่างเต็มที่เพื่อรวบรวมข้อมูลและเตรียมการที่จำเป็นเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะของอาณาจักรฮาเว่นและเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้ของประชาชน
“นางเงือกบาลเซตต้า ได้ปรากฏตัวในประการังวูลฮอฟฟ์ พวกเขากำลังแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ตามที่จักรพรรดิเกฮาร์ประสงค์
โดยบอกว่าพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์ประติมากรรมเก่าแก่”
“กลุ่มนักผจญภัยที่เคยสำรวจเทือกเขาทางตะวันตกได้ขายข้อมูลบางอย่างให้กับเรา เราจ่ายเงินให้พวกเขา 5,000 เหรียญทองสำหรับมัน
และมันก็เกี่ยวกับนกตัวเล็กๆ เชื่อกันว่าเป็นลูกของบาร้ากส์
ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รู้กันว่าสูญพันธุ์ไปนานแล้ว”
“บังเอิญ? หรือ…"
“ดูเหมือนว่าการผจญภัยของวีดได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปแล้ว”
พวกเขาค้นพบหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา บาร้ากส์ สายพันธุ์ที่สร้างโดยจักรพรรดิเกฮาไม่ได้ตายทั้งหมดตามประวัติศาสตร์ดั้งเดิม
และอพยพไปยังเกาะที่มีอากาศอบอุ่นทางตะวันตก ที่นั่นพวกมันอาศัยอยู่บนสวรรค์ตามธรรมชาติในเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเลที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้น
เผ่าพันธุ์ประติมากรรมหลายเผ่าพันธุ์จึงเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเคารพความปรารถนาของจักรพรรดิ
“คุณจะประเมินความสามารถในการรบของบาร้ากส์เหล่านั้นได้อย่างไร”
“พวกมันดูเหมือนคู่ต่อสู้ที่ยากจะรับมือ
ตัดสินจากวิดีโอ แต่เนื่องจากมีพวกเราหลายคน ผมคาดว่าเราจะสามารถจัดการกับพวกมันได้”
“เราสามารถต่อสู้กับพวกมันได้ด้วยการใช้เครื่องยิงขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงแล้ว”
“ไม่ มันไม่น่าจะมีผลกับพวกมันมากนัก มันจะยุ่งยากในการปกป้องกองกำลังภาคพื้นดิน และเราจะสูญเสียการควบคุมเหนือท้องฟ้า”
อาคิมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับบาร้ากส์
จักรพรรดิบาร์ด เรย์
จะต้องเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพทั้งหมด อาร์คิมเองเป็นผู้บังคับบัญชาคนที่สอง
แต่ในแง่ของการปฏิบัติการจริงของกองกำลัง
กองทัพจักรวรรดิมากกว่าครึ่งจะปฏิบัติตามคำสั่งของเขา เนื่องจากนี่เป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่
เขาจึงต้องชนะไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ไม่มีจำนวนการสูญเสียใดที่จะสูงเกินไป
ตราบใดที่สามารถรับประกันชัยชนะในการรบได้
“มีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับมังกรไฟเมื่อนานมาแล้ว
ใช่ไหม?”
"ใช่ เป็นภารกิจที่ช่วยให้เราสามารถคัดเลือกเดรกเหล่านั้นสำหรับการต่อสู้ได้
หากเรานำมณีแห่งเปลวเพลิงจำนวนมากมาให้พวกมัน”
“ดำเนินการตามภารกิจ”
“แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก…”
“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะประหยัดเงิน”
เนื่องจากพวกเขาเป็นกองกำลังเดียวที่ครอบครองทวีปกลางโดยเฉพาะ
พวกเขาจึงสามารถได้รับรายการภารกิจและข้อตกลงกับสายพันธุ์ต่างๆ มากมาย
มณีแห่งเปลวเพลิง ที่สามารถปิดผนึกเวทย์ไฟได้! อัญมณีเหล่านั้นมักจะก่อตัวขึ้นในบริเวณภูเขาไฟ
และจะได้มาโดยการฆ่ามอนสเตอร์ที่มีเล่ห์เหลี่ยมเท่านั้น ไม่ค่อยพบพวกมันในร้านค้าทั่วไป แม้จะมีราคาประมาณ 4,000 เหรียญทองก็ตาม และพวกเขาตัดสินใจที่จะใช้สต็อกทั้งหมดที่พวกเขาเก็บออมมาจนถึงตอนนี้
“ปัจจัยที่ไม่คาดคิด: มีข่าวว่าพนักงานออฟฟิศจำนวนมากขอลาหยุดในวันสู้รบที่เกาหลี”
“เป็นไปได้ยังไง...”
กระแสในเกาหลีมีความสำคัญ
เนื่องจากเป็นประเทศที่มีนักเล่นเกมชั้นนำมากกว่าประเทศอื่นๆทั่วโลก
“โรงเรียนมัธยมบางแห่งถึงกับมีวันหยุด
คาดการณ์ว่าจะมีปัญหามากมายในการรักษาบรรยากาศในชั้นเรียน”
“โอ้ พระเจ้า”
อาคิมคร่ำครวญ แต่ไม่นาน ไม่ว่าคุณจะมองไปที่ประเทศใดก็ตาม
จะมีคนเพียงไม่กี่คนที่ไม่ต้องการเข้าร่วมการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ นักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่เหล่านั้นจะพบวิธีออนไลน์ด้วยวิธีการที่ยุติธรรมหรือไม่ก็ผิดกติกาอยู่ดี
“การได้มาซึ่งอัศวินเหล็กเพิ่มเติมเป็นไปได้ด้วยดี
ต้องขอบคุณการเตรียมการที่เราได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า”
“เราได้ซ่อนตัวแพร่เชื้อของโรคอัลคินใกล้กับทุ่งการ์นาฟด้วย เรากำลังเตรียมยาแก้พิษ แต่ก็ยังมีไม่มากนัก”
“แล้วภาคีฟานเซลโลปแห่งอัศวินเงาละ?”
“พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในวันพรุ่งนี้แน่นอน มีความล่าช้ามากเนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องเคลื่อนที่โดยไม่ถูกพบเห็นโดยผู้เล่นคนใด”
“และหอกแห่งการทำลายล้าง…”
“หอกทั้ง 34 เล่มถูกแจกจ่ายให้กับสมาชิกหลักของกองกำลังช็อก”
อาวุธลับทั้งห้าของจักรวรรดิพร้อมที่จะเปิดตัวโดยไม่มีปัญหาใดๆ หลังจากตรวจสอบความคืบหน้าของการเตรียมการทุกอย่างแล้ว อาร์คิมก็พยักหน้า ในขณะที่การสู้รบในทุ่งการ์นาฟ ใกล้เข้ามาทุกวัน ความแข็งแกร่งทางทหารของกองทัพของอาณาจักรฮาเว่นก็ไร้ที่ติมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ขนาดของกองทัพก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
โดยการจ้างสมาชิกกิลด์ชั่วคราว ทหารรับจ้าง หรือการเกณฑ์ทหารเพิ่ม
'ตำหนิเราถ้าคุณต้องการหลังจากที่เราชนะ จักรวรรดิฮาเว่นจะทำทุกอย่างที่ทำได้'
จบเล่ม 50 บทที่ 6
ผู้แปล :
แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น