เล่ม
50
ตอนที่ 1 การแกะสลักเวลา พาร์ท 1 แปลโดย Teerawat
-ศึกการต่อสู้ที่จะตัดสินชะตากรรมของทวีปเวอเชล!
-จุดเริ่มต้นของมหาสงครามแห่งทุ่งการ์นาฟ
-รอยัลโร้ด
: เราจะได้เห็นกันว่าใครจะเป็นจักรพรรดิที่ครอบครองทั้งทวีปแล้วสินะ
-ใน 15
วัน คนมากกว่าสิบล้านจะมาเข้าร่วมสงคราม
ข่าวการปะทะกันระหว่างวีดและกิลเฮอร์มีสขึ้นมาเป็นหัวข้อข่าวของช่องรายการต่างๆ
ทั้งคริสตัลบอลและในทีวี
ผู้คนจำนวนมหาศาลกำลังรวมตัวกันบริเวณทุ่งการ์นาฟ
“ฉันมาเข้าร่วมต่อสู้เพื่อนอาณาจักรอาเพน
เมื่อสงครามเริ่มขึ้นฉันจะเดิมพันด้วยชีวิต”
“เราอาจจะเป็นแค่นกกระจอก จิ๊บ
จิ๊บ แต่ปีกของเราสามารถพาเราไปได้ทุกที่!”
“รับโจ๊กหญ้าสักถ้วยไหมครับ!”
ผู้คนจำนวนมหาศาลก่อกองไฟขนาดใหญ่และกำลังให้สัมภาษณ์กับสถานีออกอากาศในบริเวณทุ่งการ์นาฟ
“คุณวีดจะสู้กับบาร์ดเรย์จริงๆหรอ?”
“จะมีการต่อสู้เต็มรูปแบบกับผู้เล่นทุกคนในทุ่งที่เข้าร่วม…
ฉันสงสัยว่าจะมีโอกาสที่พวกเขาจะได้ปะทะกันซึ่งๆหน้าหรือเปล่า?
“ฉันก็หวังว่ามันจะเกิดขึ้น
แต่การต่อสู้ตัวต่อตัวมันไม่เสียเปรียบเกินไปสำหรับประติมากรหรอ?”
วีดกลายเป็นปรมาจารย์ประติมากรและตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป็นเนโครแมนเซอร์แล้ว
ฉันว่าคงจะไม่มีปัญหาหรอก”
“แต่เนโครแมนเซอร์ก็ไม่ได้เป็นอาชีพที่สามารถต่อสู้คนเดียวไม่ใช่หรือไง”
“ฮืมม นั่นก็จริง”
ตั้งแต่รอยัลโร้ดได้เปิดให้เล่น
บาร์ดเรย์ได้ครองตำแหน่งผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดของเกมส์ และเป็นเจ้าของฉายาว่า 'เทพเจ้าแห่งสงคราม' ในทางกลับกัน
คู่ต่อสู้ของเขามีอาชีพเป็นประติมากร ซึ่งได้รับชื่อเสียงอย่างมากจากการทำภารกิจที่เกือบจะเหมือนปาฏิหาริย์ได้สำเร็จ
และได้ก่อตั้งหมู่บ้านเล็กๆของโมราต้าให้กลายเป็นอาณาจักรในปัจจุบัน
และครอบครองทวีปทางเหนือทั้งหมด
มีผู้เล่นจำนวนมากที่รอคอยการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่สุดของรอยัลโร้ดสองคน
“คุณวีดจะต้องชนะ”
"ใช่.
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เราสามารถไว้วางใจคุณวีดได้”
“คำว่า
‘เป็นไปไม่ได้’ ไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมประจำตัวของคุณวีด
มันไม่มีเส้นทางไหนเลยที่จะได้มาง่ายๆจนถึงตอนนี้”
“คุณวีดคือตำนาน…
ตำนาน…!”
จำนวนผู้เล่นที่สนับสนุนวีดนั้นมีมากมาย
ไม่เพียงเพราะความเห็นอกเห็นใจที่พวกเขารู้สึกต่อผู้อ่อนแอของทั้งสองเท่านั้น
แต่ยังเป็นเพราะความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มากมายที่วีดได้ทำจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม วีด
ศูนย์กลางของความคาดหมายและความสนใจทั้งหมดนั้น
กำลังคิดแผนงานที่ชั่วร้ายและหลอกลวงด้วยเหล่าประติมากรรมสลักชีพ
“ฉันไม่สามารถต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาได้
พวกนายรู้ไหมว่าทำไมคนถึงใช้แผนสกปรก ก็เพราะว่ามันได้ผลยังไงล่ะ!”
“มออออ…..!”
“โกล…โกล…โกล…!”
เหล่าประติมากรรมสลักชีพทั้งหลาย
เจ้าเหลือง และโกลมินิ ต่างส่งเสียงเชียร์อย่างกระตือรือร้น การเยินยอเป็นคุณธรรมที่เหล่าประติมากรรมสลักชีพเหล่านี้ต้องเรียนรู้
เนื่องจากโชคชะตากำหนดว่าพวกมันต้องรับใช้ภายใต้เจ้านายที่ขี้โมโห
“ช่วยไม่ได้หรอกที่จะรู้สึกว่าเราได้เจอกับเจ้านายผิดคน โกล..โกล..”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเกรียติของข้าในฐานะอัศวิน…
ข้าคงจากไปเพื่อแสวงหาอิสระ
“มันจะยากมากไหมที่จะสร้างมงกุฎให้ข้าสำหรับการทำงานหนักทั้งหมดที่ข้าทำมา? การโจมตีด้วยลมหายใจน้ำแข็งของข้าก็ดีขึ้นเช่นกัน…”
สำหรับการต่อสู้ที่ทุ่งการ์นาฟ
เหล่าประติมากรรมสลักชีพทั้งหมดที่เคยเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งของวีดได้มารวมกัน
พวกเขาแต่ละคนเป็นพลังที่น่าจับตามองในสนามรบ
รวมถึงบาฮามอร์ก นักรบแห่งเลือดและเหล็ก
-กว๊ากกกกก!!
– ฮูวววว
ฮ่า
ราชันย์ไฮดร้าสงเสียงคำรามด้วยหัวทั้งสามของมันและฟีนิกซ์ปลดปล่อยขนเพลิงไปทั่วทุกที่เหมือนหิมะตก
ปิงหลง หนอนมรณะ อีมูกิ และยักษ์เพลิง
ต่างทำให้เกิดภาพที่น่าเหลือเชื่อเพราะด้วยขนาดของพวกมัน
อย่างไรก็ตาม
แม้กระทั่งเมื่อเขาเห็นพลังของกองทัพประติมากรรมสลักชีพจำนวนมาก
วีดก็ยังค่อนข้างสงสัยในพลังของพวกมัน
“แน่นอนว่าเจ้าพวกนี้แข็งแกร่ง แต่พวกมันไม่สามารถต่อกรกับกองทัพกิลด์เฮอร์มีสได้ด้วยตัวพวกมันเอง”
ไม่ใช่ว่าประติมากรรมของเขาไร้ความสามารถ
แต่พลังของกิลด์เฮอร์มีสนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ในขณะที่มันเป็นความจริงที่วีดและประติมากรรมสลักชีพของเขาได้ใช้เวลามากมายในการพัฒนาทักษะและความแข็งแกร่งของพวกเขาด้วยความพยายามอย่างมาก
แต่กิลด์เฮอร์มีสก็มีเวลามากพอที่จะเพิ่มพลังและอิทธิพลของพวกเขาในขณะที่พวกเขาครอบครองพื้นที่หลักของทวีป
ในช่วงเวลาที่วีดเริ่มเกมในอาณาจักรโรเซนไฮม์ เขาไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าวันหนึ่งเขาต้องมาต่อสู้กับกิลด์เฮอร์มีส
“สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สมารถรถจัดการได้แม้กระทั่ง
บัลข่าน ฉันไม่สามารถยุติสงครามครั้งนี้ด้วยเหล่าประติมากรรมสลักชีพเพียงลำพัง”
อย่างไรก็ตาม
กลอุบายที่ออกแบบมาอย่างดีนั้นมีพลังที่จะพลิกสถานการณ์ที่เสียเปรียบได้อย่างน่าทึ่ง
ในบรรดาสงครามที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายในประวัติศาสตร์
มันง่ายที่จะพบกรณีที่กลอุบายบางอย่างเปลี่ยนผลลัพธ์ของการต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง
วีดรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับนักยุทธศาสตร์อัจฉริยะเหล่านั้น
‘นั่นเป็นความฉลาดที่น่าทึ่งอย่างมาก’
ว่ากันตรงๆ
วีดรู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้เป็นพวกนักวางแผนที่เก่งกาจ
และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องการกลอุบายที่เหมาะสมเพื่อเอาชนะอุปสรรคมากมาย
‘เมื่อมีคนที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม
ฉันแค่ต้องใช้พรสวรรค์ของพวกเขาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เหมือนกับที่ฉันทำกับเฮสไทเกอร์’
เขาได้วาดภาพใหญ่ในใจซึ่งเกิดขึ้นจากทักษะการแกะสลักฟื้นคืนชีพของเขา
นั่นหมายความว่าจะมีบุคคลในประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่งฟื้นขึ้นมาด้วยมือของเขา
วีดพูดอยู่ในใจด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
“เหล่าลูกๆของฉัน
พวกแกเคยได้ยินเกี่ยวกับยุคที่ประติมากรรมสลักชีพทุกตนมีความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองภายใต้การปกครองของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่นำศิลปะการแกะสลักไปสู่เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์หรือไม่”
วิหคทองคำที่กำลังหลับเงยหัวขึ้นมา
ขนของมันเปล่งประกายระยิบระยับ
“ไกอา
วอน อาเพน!”
“ใช่แล้ว วิหคทองคำสามารถจำได้ ครั้งหนึ่งเคยมียุครุ่งเรืองเมื่อเหล่าประติมากรรมมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ได้รวมดินแดนทั้งหมดเข้าด้วยกันและได้รับความเคารพจากทุกเผ่าพันธุ์ในโลก”
จักรพรรดิผู้รวมทวีปเวอร์เซลล์ไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ไกอา วอน อาเพน น่าแปลกที่เขาเป็นประติมากรและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการรวมทั้งทวีปนี้เป็นไปได้ด้วยพลังรวมของประติมากรรมประมีชีวิตที่เขาสร้างขึ้น
'เพียงแค่จินตนาการฉันก็เห็นได้ว่ามันต้องเป็นงานที่ยากมากๆ
เขาต้องทำให้ทาสรับใช้ประติมากรรมของเขาเหนื่อยขนาดไหน!
แม้กระทั่งการแสวงประโยชน์ที่เกี่ยวข้องจะต้องยากมากๆ’
นักหาประโยชน์ในตำนานที่ไม่อาจหาความเท่าเทียมกันได้ในหนังสือประวัติศาสตร์
ในแง่หนึ่ง จักรพรรดิองค์นี้ฟังดูเหมือนพ่อค้าทาสที่ประสบความสำเร็จซะมากกว่า
วีดประกาศต่อหน้าเหล่าประติมากรรมสลักชีพที่ล้อมรอบเขาอยู่
“ฉันจะสร้างโลกที่เหล่าประติมากรรมของฉันสามารถอยู่อย่าง
ทา…….(ส) ฉันหมายถึง อยู่อย่างมีความสุขและมีศักดิ์ศรี งานของพวกแกคือออกไปค้นหาเหล่าประติมากรรมที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทวีป
หลักจากสงครามนี้ฉันจะเปลี่ยนโลกนี้ให้เป็นสถานที่ของพวกเขา!”
ไวเวิร์นและตัวอื่นๆที่สามารถบินได้บินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายไป
หนอนมรณะ ยักษ์เพลิง เซเบอรัส เซวิล เอลตินและเจอร์นีก้า ต่างกลับหลังหันและเดินออกไป
แต่ละคนแสดงลักษณะที่น่าเกรงขามของมอนเตอร์ระดับบอสที่สามารถครอบครองได้ทั้งทวีป
“ไปก่อนนะครับเจ้านาย มอออออ…”
“ขอให้โชคดีผมสัญญาว่าจะพาประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆที่เจอกลับมา
โกล..โกล..”
ขณะที่ เจ้าเหลือง
โกลมินิ พยักฆ์ขาว จระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำไนล์ และ งูชนบท
กำลังจะออกไปเหมือนกับตนอื่นๆ วีดก็บอกให้พวกมันหยุด
“เฮ้ย… ฉันต้องการให้พวกแกอยู่ที่นี่กับฉัน”
“ฟ่อออออออออ!”
เจ้างูชนบทกลอกตาไปมาอย่างวิตกกังวล
ส่วนประติมากรรมตนอื่นๆถูกทิ้งไว้ข้างหลังรู้สึกเสียใจที่หนีไปไม่เร็วพอก่อนที่พวกเขาจะถูกจับได้
วีดก็ได้ใช้สกิล “อัญเชิญประติมากรรม”
“แกะสลัการเดินทาง!”
<สกิลการเดินทางข้ามมิติและเวลาได้ถูกใช้งาน>
ประตูมิติที่ประกอบด้วยแสงนับพันถูกเปิดออก
มันเป็นเทคนิคการแกละสลักเวลาขั้นสูงที่ผู้ใช้สามารถเดินทางเข้าสู่ห้วงเวลาในประวัติศาสตร์ได้
“พวกแกจะต้องมากับฉัน”
“พวกเราจำเป็นต้องไปด้วยหรอเจ้านาย”
เจ้าเหลืองถามวีดด้วยสายตาใสซื่อบริสุทธิ์ (เหมือน Puss in Boots)
“แกไม่อยากไปกับฉันหรอ? ฉันจะเคารพในการตัดสินใจของแก งั้นฉันจะให้แกสองทางเลือก”
“ขอบคุณเจ้านาย”
“อย่างแรก
แกจะโดนฉันซ้อมก่อนแล้วค่อยไป หรือ จะไปโดยไม่ปริปากบ่น”
“...”
มันเป็นความผิดของพวกเขาเองที่ได้เจ้านายที่ชั่วร้าย
วีดผลักโกลมินิและเจ้าเหลืองผ่านประตูมิติทีละคน วินาทีถัดมา เพล ไอรีน โรมูนะ
เซอร์กะ และเซเฟอร์ก็มาถึงผ่านทักษะ จินตภาพเคลื่อนย้ายของยูริน
เหล่าสมาชิกชั้นยอดสำหรับการผจญภัย
แต่เมลอนไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้เนื่องจากเธอกำลังยุ่งอยู่กับงานออกอากาศของสถานี
เรื่องสงครามระหว่างวีดและกิลเฮอร์มีส
“ไปกันเถอะ”
วีดสั่งให้เพื่อนๆของเขาไปที่ประตูมิติก่อนที่เขาจะเข้าเป็นคนสุดท้าย
เขาต้องระวังไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งฉวยโอกาสและหนีไป
ยิ่งคุณอยู่ใกล้คนๆหนึ่งมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องระวังมากเท่านั้นโดยจะต้องไม่ละสายตาไปจากพวกเขาเลย
***
เพลได้ตั้งปณิธานอันแรงกล้าก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ประตูมิติ
‘ฉันมันเป็นทาสต่อสู้
และไม่มีแนวคิดเรื่องอีโก้!’
เขามุ่งมั่นที่จะออกล่าอย่างต่อเนื่อง
15 วันโดยไม่ทำอย่างอื่น
‘นี่มันเรื่องปกติ
ฉันต้องทำมันให้ได้ หลังจากออกล่า 15 วัน
ฉันจะเป็นอิสระอีกครั้ง อย่างน้อยฉันก็หวังอย่างนั้น’
เซเฟอร์พบว่าสถานการณ์มันค่อนข้างแปลก
‘นี่ใช่สมาชิกออกล่าตามปกติหรอ
แม้กระทั่งน้องสาวคุณวีดก็เข้าร่วมการล่ากับเรา?’
เซเฟอร์ตั้งใจที่จะหนีทันทีที่ยูรินไม่อยู่ที่นี่
เพื่อหลีกเลี่ยงการจับผิดของวีด
เขาถึงขนาดเรียนรู้เทคนิคการดำน้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาชีพของเขาในฐานะนักตกปลา
วีดไม่สามารถเรียกเขามาเข้าร่วมการออกล่าได้เมื่อเขาอยู่ใต้น้ำ
‘เมื่อพิจารณาจากการที่ยูรินอยู่ที่นี่ด้วย
นี่อาจไม่ใช่การล่าปกติ แต่เป็นเควาของเขามากกว่า นั่นคงจะไม่ยากเกินไปสำหรับฉัน
ใช่ไหม?’
ในทางกลับกัน ถึงแม้จะมีประสบการณ์การถูกเอารัดเอาเปรียบจากวีด
เซอร์กะก็ยังเป็นตัวของตัวเอง เป็นธรรมชาติและไร้เดียงสาเหมือนเดิม
‘เขาบอกว่าเรากำลังจะมีการเดินทางที่น่าทึ่ง
เราจะได้เห็นและสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์มากมาย…’
ในทางหนึ่ง เซอร์กะเป็นคนมองโลกในแง่ดีและไม่เคยมีอคติกับวีดเหมือนคนอื่นๆ
‘ปากของเขาแห้งขณะที่เขาพูดอย่างนั้น
มันไม่ใช่การโกหก!’
*เพิ่มเติม…ในเกาหลีคนที่จะโกหกมักจะเลียริมฝีปากก่อนเสมอ
เธอเชื่อสนิทใจว่าวีดไม่ได้โกหก…
อย่างน้อยก็ในครั้งนี้
ไอรีนเชื่อใจวีดโดยไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย
เขาขอให้เธอเข้าร่วมการผจญภัยในครั้งนี้
เธอจึงตอบตกลงด้วยความเต็มใจ
ทักษะของเธอจำเป็นอย่างมากหากเกิดการต่อสู้ขึ้น
สิ่งแรกที่สหายของเขาเห็นเป็นอย่างแรกหลังจากที่ออกจากประตูมิติคือทิวทัศน์ที่งดงามถึงขนาดว่าพวกเขาต้องอ้าปากค้าง…
“ว้าวววววว…..”
“อ้าาาาาาา…..”
“นี่มันสุดยอดจริงๆ!”
“…”
มีนกหลากสีมากมายนับร้อยบินอยู่บนท้องฟ้าที่ปรอดโปร่ง
มวลดอกไม้มากมายบานสะพรั่งอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียวที่ทอดยาว
แม้กระทั่งผีเสื้อและผึ้งมากมายที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆคล้ายควาย
ม้า และช้างเดินเตร็ดเตร่ไปมาอย่างเกียจคร้าน
“มอออออ…”
เจ้าเหลืองและเหล่าประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆมาถึงก่อนปาร์ตี้ของวีดต่างก็ชื่นชมทัศนียภาพเช่นกัน
ช่างเป็นที่ที่สงบจริงๆ
สัตว์กินพืชต่างกำลังเล็มหญ้าอยู่ในทุ่งอย่างสบายๆ และดูแลลูกๆของพวกมัน
แค่ได้ดูพวกมันก็สามารถรู้สึกผ่อนคลายได้แล้ว
เพลถามวีดอย่างลังเล
“คุณวีดครับ…
นี่พวกเราต้องฆ่าสัตว์เหล่านี้จริงๆหรอ?”
สหายของวีดแต่ละคนต่างเป็นนักล่าที่ช่ำชอง
แต่พวกเขาทั้งหมดดูไม่เต็มใจที่จะกำจัดสิ่งมีชีวิตในสถานที่แห่งนี้
วีดมองเหล่าสัตว์ด้วยสายตาที่เฉียบคมของเขา
“พวกมันมีหนังที่ดี กระดูกก็ดูแข็งเช่นกัน…
ฉันว่าพวกมันจะเป็นวัสดุอย่างดีสำหรับการตีเหล็ก ไม่ต้องพูดถึงการแกะสลักเลย”
*อึก*(เสียงกลืนน้ำลาย)
“ฉันล้อเล่นน่า
สำหรับตอนนี้พวกเรามาชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามกันก่อนเดี๋ยวฉันจะไปทำอาหารให้”
“เดี๋ยวนะ
นายไม่แม้แต่กระทั่งเลียริมฝีปากก่อนที่จะโกหกหรอกเหรอ”
“ก็ฉันไม่ได้โกหกหนิ”
วีดหยิบอุปกรณ์การทำอาหารต่างๆมาและเริ่มตั้งเตาและใช้กระทะเหล็กของเขา
เขาทำแซนวิช
และคิมบับ
เซอร์กะก็เข้าไปเก็บผลไม้ต่างๆและเอามาทำน้ำผลไม้
“โอ้ววว… น่าอร่อยจัง!”
ขณะไอรีนเริ่มปรบมืออย่างสนุกสนาน
สัตว์ต่างๆก็เริ่มเข้ามารวมตัวรอบๆพวกเขา
สัตว์น่ารักๆคล้ายกระต่าย
กวาง และจิงโจ้ พวกมันไม่กลัวแม้กระทั่งเจ้างูชนบทและจระเข้แม่น้ำไนล์
เจ้าเหลืองก็กำลังเหล่ควายสาวสวยและเข้าไปนั่งข้างๆมัน
เพลและเชเฟอร์ต่างรู้สึกหวาดกลัว
“วีดทำอาหารให้เรากินอย่างดีก่อนการออกล่า…
เขาจะใช้งานพวกเราหนักขนาดไหนกันนะ?”
“ฉันว่าพวกเราแต่ละคนคงต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตายสักรอบสองรอบล่ะมั้ง”
พวกเขาไม่เคยเห็นวีดทำอะไรให้พวกเขาโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทน
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะนั่งชื่นชมทิวทัศน์โดยรอบ
“บรรยากาศที่นี่ช่างดีจริงๆ”
“ฉันรู้สึกเหมือนกับได้มายังสรวงสวรรค์
ความเหนื่อยล้าก่อนหน้านี้ก็หายไปเช่นกัน”
ที่ที่แสนสบายสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
ในความเป็นจริง
ทวีปเวอร์เซลล์เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตตามที่พวกเขาเลือก
วีดใช้เวลาทั้งหมดไปกับการผจญภัยและการออกล่า เขาออกจากดันเจียนในวันหนึ่งไปยังพื้นที่ออกล่าในอีกที่หนึ่ง
แต่นั่นไม่ใช่วิถีชีวิตที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียว
แม้ว่าใครจะตัดสินใจในขณะที่ออกไปสร้างกระท่อมและมองดูทะเลสีฟ้า
“เอ้านี่…ใช้เวลาดื่มด่ำไปกับอาหาร”
“โอเค”
“ฉันจะทำ”
เมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะยอมรับความตายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เพลและเซเฟอร์ก็สงบลงอีกครั้ง
วีดมักจะทานอาหารเสร็จเร็วจนคนอื่นลำบากในการรักษาความเร็วในการกินของเขา
แต่ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมากราวกับว่าเขาเพิ่งกินรามยอนกับข้าวสวยร้อนๆ
‘ดูเหมือนพวกเราจะตายในภารกิจนี้จริงๆสินะ บางทีเขาอาจจะเอาฉันไปเป็นเครื่องสังเวยก็ได้’
‘ใช่…มอนสเตอร์ระดับบอสแบบไหนกันที่เขาต้องการสู้ด้วยใจคราวนี้?
ฉันว่ามันคงนับเก็บเกรียติที่ได้เข้าร่วมกับเขาในคราวนี้’
หลักจากกินอาหารกันเสร็จ
พวกเขาก็เดินตามวีดข้ามทุ่งหญ้าไป
หลังจากถึงบนเนิน พวกเขาก็รู้สึกถึงลมเย็นเข้าปะทะ
ห่างออกไปพวกเขาก็เห็นทะเลสีเขียวมรกต
และแนวปะการังกว้างใหญ่
“ว้าวววววววว”
“นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
***คุณได้มาถึงดินแดนที่ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อนในโลกนี้!***
การค้นพบใหม่ แนวปะการังวูลฮอฟ
นี่เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดของทวีป
โดยแผ่ขยายไปทั่วระยะทาง 876
กิโลเมตรจากช่องแคบรูดินถึงทะเลอัลการ์ด ความลึกของน้ำอยู่ในช่วง 3
เมตรถึงสูงสุด 80 เมตร
และเป็นที่อยู่อาศัยของปะการัง 600 สายพันธุ์และสัตว์ทะเลต่างๆ
1,890 สายพันธุ์ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเก้าดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจของทวีปเวอร์เซลล์
นักผจญภัยจำนวนมากหวังว่าจะพบสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่วันแรก
—————————————————————————————
·
คุณได้รับค่าชื่อเสียงจำนวน
6,940 แต้ม
·
เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
·
คุณได้ค้นพบดินแดนแห่งประวิติศาสตร์ ค่าความรู้และภูมิปัญญาเพิ่มขึ้น
10 แต้ม หลังจากที่ได้พบกับประสบการณ์พิเศษนี้
·
ทิวทัศน์ที่สวยงามได้เพิ่มค่าศิลปะของคุณ
จำนวน 8 แต้ม
·
คุณจะได้รับรางวัลเพิ่มเติมสำหรับการรายงานการค้นพบที่หายาก
—————————————————————————————
“หืม…”
“พวกเราได้แม้กระทั่งเลเวลเพิ่มขึ้น
โอ้วพระเจ้า…”
ทั้งหมดที่พวกเขาทำคือเดินไปตามคำแนะนำของวีดเพียงเล็กน้อย
แต่จำนวนชื่อเสียงและค่าประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับนั้นมหาศาลมาก
ทุ่งแนวปะการังที่มองเห็นผ่านทะเลที่ใสสะอาดนั้นสวยงามเกินจะเชื่อ
สีสันของท้องทะเลทำให้พวกเขาจ้องมองไปอย่างเฉยเมยต่อไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจแม้แต่จะใช้เวลาในการตรวจสอบหน้าต่างข้อความที่โผล่ขึ้นมาทั้งหมด
ทันใดนั้นก็มีบางอย่างโผล่ขึ้นมากจากทะเล
ฟู่…..!
ปลาโลมาสีน้ำเงินโผล่มาบนผิวน้ำและหายไปอีกครั้ง
(พบกันตอนถัดไป)
ผู้แปล
:
Teerawat
Editor
: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณครับ
ตอบลบ