เล่ม 40 ตอนที่ 9:
คืนชีพลูกน้องที่เกลียดชัง (Resurrection of a Hateful
Subordinate) แปลโดย RastyMay
วีดมาถึงพระราชวังโลกา
ปาร์ตี้ล่าถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ
และแต่ละคนจะแยกย้าย แต่พระราชวังโลกาเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากจนไม่สามารถจินตนาการได้เลย
“ขยับออกไปหน่อยครับ”
“ขอใครซักคนมาทำงานในร้านขายอาวุธฉันหน่อย!”
“แถลงการณ์จากสมาคมการค้า ไอเทมทั้งหมดที่ร้านขายของชำหมดสต๊อกแล้ว
ในอนาคตโปรดใช้บริการพ่อค้าที่อยู่นอกวัง”
สิ่งก่อสร้างทั้งหมดบนเส้นทางที่ไปยังพระราชวังโลกาเนืองแน่นไปด้วยผู้เล่น
“นี่มันอะไร?”
ไพธอนสับสน
บริเวณของพระราชวังนั้นเต็มไปด้วยผู้คน
มันเป็นเหมือนฝูงมดที่ปกคลุมที่ราบ
เกาะลาเวียสลอยอยู่บนท้องฟ้าสีคราม ซึ่งสามารถเห็นเหล่าชาววิหคนับร้อยได้
นกกระจอกกำลังเดินเตาะแตะไปตามกำแพงหินและต้นไม้
ผู้คนรวมตัวกันจำนวนมากเป็นประวัติการณ์
เกาะลาเวียส ในอาณาจักรอาร์เพนเคลื่อนย้ายมา และผู้เล่นทางเหนือก็มาที่พระราชวังโลกาเพื่อต่อสู้อย่างไม่ลังเล
วีดก็ประทับใจอย่างสุดซึ้งเช่นกัน
“โลกนี้มันช่างโหดร้าย
ฝูงชนรวมตัวกันได้แสดงให้ฉันเห็น เพื่อต่อสู้กับการหลอกลวงและเสแสร้ง!
มันเป็นทัศนคติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเผชิญกับความจริง
“อาณาจักรฮาเว่นอยู่ที่ไหนแล้ว?”
“ห่างจากที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมง มันสำคัญนักเหรอ?”
“ใช่?”
“โจ๊กหญ้า, โจ๊กหญ้า,
โจ๊กหญ้า!”
“วู้ววว ลัทธิโจ๊กหญ้า!”
ผู้เล่นจำนวนมากรวมตัวกันที่พระราชวังโลกา
พวกเขาไม่กลัวตายในสงครามที่กำลังจะมาถึง มันเป็นบรรยากาศเดียวกันกับเทศกาลที่บ้าคลั่ง
วีดพยักหน้าอย่างใจเย็น
คนสมัยใหม่ได้รับความเครียดอย่างรุนแรง
ดังนั้นนี่จึงเป็นซีนรวมพลคนฮิสทีเรีย (ความผิดปกติทางจิตในกลุ่มความผิดปกติทางบุคลิกภาพคือมีอารมณ์รุนแรง
แปรปรวนบ่อย)
เขาไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ มันเป็นหลักฐานว่าหัวใจของผู้คนอยู่กับอาณาจักรอาร์เพน
“ขายโจ๊กถั่ว โจ๊กถั่วต้มน้ำตาล!
ถ้าคุณดื่มแล้วคุณจะรู้สึกอุ่นใจเมื่อคุณตาย”
“คบไฟนี้มีประโยชน์เมื่อล่าในดันเจี้ยน
มันจะมีประโยชน์เมื่อเสิร์ฟเนื้อย่าง คบไฟเผาไหม้ได้นานแค่ 4 เหรียญทองแดง”
“ผมต้องการเดินทางหลังจากสงคราม ผมจะเสี่ยงชีวิตเพื่อไปแถบชายแดน
ผมขอซื้อวัว 3 ตัว”
ในสถานการณ์นี้ ผู้เล่นทางเหนือกำลังมองหาเพื่อนร่วมทีม
มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พวกเขาก็สนุกกับบรรยากาศนี้
“กว๊ากกกกก!”
บางครั้งในขณะที่ดูทิวทัศน์ ผู้เล่นจะถูกดันตกจากหน้าผาโดยฝูงชน
พวกเขาไม่ได้ใส่ใจ เพราะคนที่ตกจากหน้าผานั้นจะได้รับการช่วยเหลือจากชาววิหค หรือนักเวทย์ด้วยเวทย์บิน
“บินไปกันเถอะ อ๊าคคค!”
ผู้เล่นบางคนตั้งใจสร้างหายนะโดยการกระโดดลงจากหน้าผาด้วยกัน
วีดเป็นกังวลมากเกี่ยวกับอนาคตของอาณาจักรอาร์เพน
“บอบบางและกล้าหาญ อาณาจักรอาร์เพนไม่ได้มีประวัติอันยาวนาน”
อาณาจักรฮาเว่นรุกรานอาณาจักรอาร์เพนที่ค่อนข้างอ่อนแอ
ที่แผ่ขยายไปทั่วดินแดน
แม้ว่าอาณาจักรฮาเว่นจะครอบครองดินแดนบางแห่ง
แต่อาณาจักรอาร์เพนยังคงขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ, จิตวิญญาณการผจญภัย และวัฒนธรรมสู่พื้นที่
การขยายตัวภายในประเทศใกล้จะเสร็จสิ้น และศักยภาพของพื้นที่ทะเลก็มีมากมาย
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดินิฟเฟลเฮล์ม
ผู้คนมากมายได้หลีกหนีความหนาวเย็นและมอนสเตอร์ โดยหนีออกไปในทะเล ทุกครั้งในขณะผจญภัยจะพบเกาะขนาดใหญ่
และสิ่งนี้เพิ่มอิทธิพลของอาณาจักรอาร์เพน
สถาปนิกในภาคเหนือได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานในระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งมันได้เชื่อมโยงพวกเขากับเครือข่ายการขนส่ง หากไม่มีการรุกรานของอาณาจักรฮาเว่นแล้ว
ทางตอนเหนือจะดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงภายใน 1 ~ 2 ปี
ผู้เล่นหลายคนชื่นชอบอาณาจักรอาร์เพนที่วีดสร้างขึ้นมา
เพลมองไปทางทิศใต้ด้วยสีหน้าหนักใจ
“คุณวีด ผมมองเห็นอาณาจักรฮาเว่น”
สายตาที่ยอดเยี่ยมของนักธนู ทำให้เขาสามารถมองเห็นกองทัพของอาณาจักรฮาเว่นที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างชัดเจน
อาณาจักรฮาเว่นกำลังจะมาถึงในไม่ช้า
ในขณะที่ลากอาวุธปิดล้อม อัศวินถือธงนำและจำนวนทหารราบสวมเกราะที่ไม่สิ้นสุดนั้นช่างงดงาม
การมองเห็นกองกำลังชั้นยอดที่เข้ามานั้นเพียงพอที่จะทำให้เขาเสียสติได้
วีดก็สามารถเห็นพวกเขารางๆเช่นกัน
“พวกมันทั้งหมดมาทางนี้เพื่อกิน
แต่พวกเขากำลังจะกลายเป็นสุนัขที่น่าสงสาร”
ผู้เล่นพูดกันเสียงดังขณะที่มองไปในทิศทางกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
มีหลักฐานว่ามีผู้เล่นระดับสูงจำนวนมากปนอยู่ในสถานที่นี้
ขอบเขตที่พวกเขาจะร่วมมือนั้นขึ้นอยู่กับวีด
พวกเขามาที่บริเวณพระราชวังโลกาเพื่อสู้ แต่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะแพ้การต่อสู้
หากวีดเป็นผู้นำพวกเขาแล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดปาฏิหาริย์
แต่ผู้เล่นทางเหนือที่โหมกระหน่ำสู้อย่างกล้าหาญกับอาณาจักรฮาเว่นก็แตกกระเจิงและหนีไป
“คุณวีด คุณกำลังจะทำอะไร?”
เพลถาม แต่วีดไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
“อืม ก็นะ”
“คุณได้เตรียมกลวิธีที่ยอดเยี่ยมไว้บ้างแล้วใช่มั้ย?”
“อ่า ก็แค่สู้อย่างกล้าหาญ”
“เอาจริงๆ?”
“ผมเดิมพันด้วย 1 เหรียญทองเลยเอ้า”
“...... .”
วีดเต็มใจเอา 1 เหรียญทองออกมา นั่นหมายความว่าเขากำลังพูดความจริง สงครามกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
แต่เขาก็ไม่ได้เผยตัวเองเพื่อควบคุมฝูงชน มีผู้เล่นมากเกินไปในพระราชวังโลกา
การเคลื่อนอาวุธปิดล้อมทำให้อาณาจักรฮาเว่นช้าลง
ดังนั้นเขาจึงมีเวลาพักผ่อนและจัดระบบสายบัญชาการ
หากองค์ราชาวีดปรากฏตัวขึ้น
จากนั้นทุกอย่างก็จะยุ่งเหยิง นอกจากนี้เขาไม่สามารถใช้คำสั่งที่ซับซ้อนในสงครามได้
วีดพึมพำกับตัวเอง
“การบัญชาการสนามรบในสเกลนี้…อัศวินในยุคปัจจุบัน มีชายเพียงคนเดียวที่เหมาะสม… แต่ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขาอีก
ฉันจะต้องเข้าไปในพระราชวัง”
ไพธอนออกไปก่อน
“เข้าใจแล้ว ผมจะไม่ตายที่นี่ ผมต้องวอร์มร่างกายก่อนเผชิญหน้ากับกองทัพ”
“ผมไปด้วย ผมรู้สึกว่ามีเหยื่ออยู่แถวนี้”
ชายนิรนามหายตัวไปอย่างเงียบๆในความมืด
เพลดึงธนูออกมาแล้วพูด
“ผมจะไปหาจุดที่ดีสำหรับการต่อสู้หลังจากเยี่ยมชมร้านค้า
จากนั้นผมจะพบเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆของเรา”
“เข้าใจแล้ว แล้วเจอกันที่สนามรบ”
หลังจากที่ทุกคนออกไปวีดเมินอาณาจักรฮาเว่น
และเข้าไปด้านในของพระราชวังวังเพื่อสร้างประติมากรรม
=========================================
-คุณอยู่ที่ไหน? ทีมค้นหาเปลี่ยน
- นี่ทีมค้นหา 1 ยังไม่พบ
- นี่ทีมค้นหา 2 ไม่มีวี่แววเขาเลย
- นี่ทีมค้นหา 3 เขายังไม่โผล่มา
กิลด์เฮอร์มีสได้ส่งนักฆ่าบางคนไปยังพระราชวังโลกา
พวกเขาเป็นนักฆ่าชั้นยอด 700 คน
คำสั่งสุดท้ายจากผู้นำของกิลด์เฮอร์มีสยังไม่ได้สั่งการลงมา
เหล่าผู้นำมีความกังวลในหลายๆ ด้าน
‘เราสามารถสังหารวีดในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้ได้จริงๆเหรอ?’
‘ไม่ได้ มันมีผลต่อชัยชนะ การระดมกองทัพเพื่อต่อสู้อย่างที่ควร
และให้มันประสบกับความพ่ายแพ้ที่น่ารังเกียจจะดีกว่า’
‘ถ้าเราฆ่าวีดแล้วเราก็จะสามารถชนะการต่อสู้ครั้งใหญ่ได้อย่างง่ายดาย……เมื่อพระราชวังถูกทำลายไปแล้ว ทั่วทั้งอาณาจักรจะเห็นเราเป็นคนชั่วช้า’
‘หลายๆหนทาง การวิ่งหนีเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ
เพื่อที่จะเผด็จศึกทางเหนือเราต้องฆ่าวีดและนี่คือโอกาสที่ดีที่สุด’
เหล่าผู้นำมีความคิดเห็นเช่นนี้
เทพสงครามวีดเป็นบุคคลสำคัญ
หากเขาถูกลอบสังหารแล้ว พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพ่ายแพ้ในสงครามทั้งหมดทั้งมวลนี้
-รอเดี๋ยว ก่อนอื่นเราต้องตรวจสอบว่าวีดอยู่ที่พระราชวังโลกา
- มีโอกาสสูงนะ เพราะเขาเพิ่งจะประสบความสำเร็จในการผจญภัยที่บ้าบิ่นมา
ทีมลอบสังหารตัดสินใจที่จะดูสถานการณ์หลังจากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวีด
มือสังหารถูกวางไว้ในพื้นที่ต่างๆของพระราชวังโลกา
ในขณะที่แต่งตัวเป็นผู้เริ่มต้น หรือพ่อค้า
พวกเขาปลอมตัวเป็นคนธรรมดาทั่วไป
เมื่อสงครามเริ่มขึ้นพวกเขาจะฆ่าวีด
และบุคคลสำคัญอื่นๆ มันจะง่ายกว่ามากในการลอบโจมตีของทีมลอบสังหาร
“เอือก!”
“อ๊าซ์!”
“อ้า ผม...…”
ผู้คนทรุดตัวลงบนถนนและเปลี่ยนเป็นแสงสีเทา
พระราชวังโลกาคึกคักไปด้วยผู้เล่น ดังนั้นพวกเขาจึงถูกพบอย่างรวดเร็ว
“มีคนตาย!”
“เกิดอะไรขึ้น?"
“ดูเหมือนว่ามีนักฆ่านะ!”
เหล่าสมาชิกตื่นตระหนกในช่องกิลด์
-เกิดอะไรขึ้น? การต่อสู้ยังไม่เริ่มแต่มีคนเริ่มไปแล้ว
- มีคนถูกฆ่าตายในเขตแดน ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนว่าจะเป็นพ่อค้าที่ถูกฆ่าตายนะ……
หน่วยสอดแนมข้อมูลตำหนิพวกเขา เมื่อหนึ่งในมือสังหารพูดอย่างรีบร้อน
- เราไม่ได้ทำอะไรเลย เราเป็นตังหากที่ตกเป็นเป้า…อ๊ะ!
- อะไร?
มือสังหารของกิลด์เฮอร์มีส พวกเขาทั้งหมดเลเวลอย่างน้อยก็
380 และผ่านการฝึกต่างๆ เพื่อเรียนรู้ทักษะ
โดยลักษณะของนักฆ่าเลเวล 380 นั้นจะปลอมตัวเพื่อเข้าหาพร้อมมีดสั้นหรือหน้าไม้อาบยาพิษ พวกเขาย่องด้วยฝีเท้าที่เบา
และทำให้เป้าหมายตกใจด้วยการซุ่มโจมตี
นักฆ่าฉาวโฉ่ในทวีปเวอร์เซลล์กำลังทรุดตัวลง
- เกิดอะไรขึ้น? ที่ตั้งและเอกลักษณ์ของศัตรู?
- ผมไม่รู้ เพื่อนของผมถูกฆ่าตาย มีคนแทงพวกเขา แล้วหายไปในเงามืดทันที……
- ไร้สาระน่า!
- เราภูมิใจที่เป็นนักลอบสังหารที่ยอดเยี่ยม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้รับความพ่ายแพ้จากการโจมตีที่รุนแรงและร้ายกาจ
การโจมตีที่รุนแรงของบุคคลนั้นทำให้ตายทันที
- ศัตรูดูเหมือนจะพุ่งเป้ามาที่เรา
ลูกมือทีมลอบสังหารปลอมตัวเป็นผู้เริ่มต้นธรรมดา
พวกเขาแต่งตัวเป็นผู้เล่นเริ่มต้นที่เลเวลต่ำกว่า 50 หรืออาชีพที่ไม่ใช่สายการต่อสู้ เช่นจิตรกร, ประติมากร หรือพ่อค้า
พวกเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองได้
‘หืมมม ง่ายไปมั้ย?’
นักฆ่าที่โจมตีกิลด์เฮอร์มีส คือชายที่ออกไปล่ากับวีด
เขามีสกิล ‘ดวงตาแห่งความจริง’ มันทำให้ตาของเขามองเห็นการพรางตัวหรือสกิลพรางตา
มือสังหารของกิลด์เฮอร์มีสมีชื่อเสียงอย่างมาก
ดังนั้นชื่อพวกเขาจึงขึ้นเป็นสีแดง แต่พวกเขาปกปิดมันด้วยสกิลพรางตาและปะปนในฐานะคนธรรมดา
ชายคนนั้นออกมาจากเงามืดและแทงด้วยมีดสั้นของเขา
นักฆ่ามีการประมวลความเร็วที่รวดเร็วมากหลังจากการล่ากับวีด
‘หุ หุ หุ มันสนุกจังที่นักฆ่าได้ล่านักฆ่าคนอื่น’
เขาได้รับค่าประสบการณ์และเลเวลทักษะค่อนข้างน้อย
นักฆ่าฉาวโฉ่ให้ค่าประสบการณ์ที่ต่างจากมอนสเตอร์ทั่วไป
- เรายังโดนโจมตีอยู่
- เพื่อนร่วมงานของเราที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้าดอกไม้ขายดอกไม้กำลังถูกโจมตี
- รุมมันเลย เราต้องจัดการมันอย่างรวดเร็ว
- เงาหายไประหว่างเสา
- ค้นหาบริเวณนั้นอย่างละเอียด… อึก!
- คุณบูรานอสตายแล้ว
นักฆ่าของกิลด์เฮอร์มีสเปลี่ยนชุดของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
พวกเขาจับมีดอาบยาพิษไว้แน่นเพื่อต่อสู้กับศัตรู บางคนก็นำหน้าไม้แบบพกพาออกมา
มันเป็นภาพที่แปลกสำหรับผู้เล่นในบริเวณพระราชวังโลกา
“อะไรวะ เกิดอะไรขึ้น? เฉพาะคนที่มีเลเวลสูงมากเท่านั้นที่จะใส่อุปกรณ์นั้นได้หน่ะ”
“คนกำลังจะตาย”
“พวกเขาต่อสู้กันเองในพระราชวังโลกาใช่มั้ย?
ดูการต่อสู้ข้างนอกนั่นซิ”
“นั่นเป็นอุปกรณ์มือสังหารใช่หรือเปล่า?”
สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และมือสังหารของกิลด์เฮอร์มีสได้ตัดสินใจผิดพลาด
นักฆ่าซ่อนตัวและชำนาญในความมืด พวกเขาพรางตัวตนและทำหน้าที่อย่างอิสระในค่ายศัตรู
แต่ความได้เปรียบนั้นจะหายไปก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ถูกศัตรูพบ
นักฆ่าจะซ่อนตัวเหมือนผีก่อนที่จะโจมตีทันที
การพรางตาที่หายไปนั้น หมายถึงตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผย!
ผู้เล่นทางเหนืออยู่ในความโกลาหล
“พวกเขาเป็นใครกัน?”
“เอ่อ พวกเขาจะต้องเป็นนักฆ่าเลเวลสูงที่สวมชุดทางเหนือ”
“แล้วยังไง กิลด์เฮอร์มีสเหรอ?”
“ต้องเป็นพวกมันแน่ ไอ้พวกลับๆล่อๆ
พวกมันจะต้องมาแทรกซึมเพื่อสร้างความเสียหายแน่ๆ”
ผู้เล่นทางภาคเหนือดึงอาวุธออกมา และเตรียมร่ายคาถา
ตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับนักฆ่าของกิลด์เฮอร์มีส
- ผมไม่รู้ มองไปรอบๆ และโจมตีศัตรูทั้งหมด!
- ฆ่าพวกมันให้หมด!
นักฆ่าทำให้เกิดความเสียหายวุ่นวายในพระราชวังโลกา
อย่างไรก็ตามมือสังหารของกิลด์เฮอร์มีสต้องจัดการกับผู้เล่นทั้งหมดที่รวมตัวกันที่พระราชวัง
แต่การจู่โจมทุกประเภทถูกเทลงไปยังมือสังหาร
ในที่สุดไม่ถึง 5 นาทีพวกเขาก็ถูกกำจัดออกไป
- มือสังหารถูกกำจัดออกไปแล้ว
- เป็นไปได้ไง ...
เหล่าผู้นำของกิลด์เฮอร์มีสตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัวหลังจากได้รับรายงาน
การลอบสังหารที่มีอัตราความสำเร็จสูงเนื่องจากความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
มันถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ความฉาวโฉ่ของพวกเขาสูงเนื่องจากการฆาตกรรม, การทำลาย และกราฟฟิตี้
ดังนั้นความเสียหายจึงมีขนาดใหญ่มาก
- ตอนนี้เราจะทำอย่างไรเกี่ยวกับพระราชวังโลกาดีล่ะ?
- ยุติการสอดส่อง
จดบันทึกข้อมูลและถอนตัว สั่งนักฆ่านำข้อมูลมา
เราไม่สามารถสูญเสียข้อมูลที่มีค่าเช่นนั้นได้
หลังจากนั้นไม่นาน ชาวเมืองเริ่มเล่าเรื่องราว
“พวกคุณเคยได้ยินเรื่องราวนี้หรือไม่?
เทพแห่งความตายได้ปรากฏตัวที่พระราชวังโลกา”
“อ้า เงาแห่งความตายคนนั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าเขาชื่อ ปูดอง”
{ผู้แปล: 간장게장 Ganjang
Gejang อ่านว่า กันจังเกจาง
Ganjang แปลว่าซีอิ๊ว ge
แปลว่า ‘ปู’ และjang แปลว่า‘เครื่องปรุง’ อีกชื่อก็คือ
ปูดองเกาหลีนั่นเอง ส่วนeng ใช้ Seasoned
Crab-ซีซั่นแครป-แปลว่าปูปรุงรส ผู้แปลไม่รู้จะให้ชื่อไหนดี
ตามคาแรคเตอร์ตัวละครแล้ว เจ้าตัวอายที่จะบอกชื่อตัวเอง มันก็น่าจะใช้ชื่อ ปูดอง
อ่ะนะ}
==============================
“มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้เลยจริงๆ”
วีดพึมพำในขณะที่ขยับมีดแกะสลักอย่างขะมักเขม้น
“คนพวกนี้!”
“กองทัพอาณาจักรฮาเว่นกำลังจะมา!”
เขาสามารถได้ยินเสียงของผู้เล่นตะโกนนอกวัง
“เอาละ มันช่วยไม่ได้ละนะ แม้ว่าเขาจะเป็นไอ้อัปลักษณ์ก็ตามที
ชีวิตมันเน่าเฟระและไม่ได้เป็นไปตามต้องการเสมอไป
ฉันต้องทำมันอยู่ดี”
วีดรู้สึกสะเทือนใจในขณะทำประติมากรรม
ก้อนหินเอี่ยมอ่องสิบสองก้อนวางอยู่ตรงหน้าเขา
พวกมันเป็นก้อนหินที่ตั้งไว้เป็นพิเศษสำหรับราชาเพื่อแกะสลักคนคนนึง
คิ้วตรง, จมูกสูง, ดวงตาสีฟ้าใส และปากนุ่ม
ไม่จำเป็นต้องพูดเลยว่ามันเป็นใบหน้าที่หล่อมาก ด้วยร่างกายและขาที่สมส่วน
คนที่สูงจะไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก แต่พวกเขาโดดเด่นบนถนน
บางทีการใส่เสื้อผ้าอาจทำให้นักออกแบบรู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพของพวกเขา เฉดสีสดใสและพื้นผิวตามธรรมชาติของหินทำให้รู้สึกคล้ายอัญมณี
“หืมมม มนุษย์แบบนี้ไม่มีอยู่จริง
มันตลกร้ายและแหกตา”
วีดบ่นไม่หยุดขณะที่เขาย้ายไปยังส่วนถัดไป
เมื่อเปรียบเทียบกับสัดส่วนร่างกายปกติของคนเกาหลี ประติมากรรมมีขายาว, ไหล่กว้าง และสภาพร่างกายดีกว่ามาก
รู้สึกเหมือนนายแบบชั้นนำของโลกยืนอยู่ต่อหน้าวีด
ร่างกายที่สมบูรณ์และใบหน้าที่หล่อเหลา
มันเป็นเพียงความรำคาญต่อมวลมนุษยชาติ
เขาจำไม่ได้
แต่ใจของเขาจำรายละเอียดได้แม่นยำ
“ฉันคิดว่าฉันจะได้พบเขาในอีกซักวัน
แต่ไม่คิดว่าจะได้พบเขาเร็วแบบนี้”
วีดสร้างงานประติกรรมของเฮสไทเกอร์ ผู้ที่สร้างผลงานโดดเด่นในช่วงสงคราม
โชคดีที่เขาเป็นลูกน้องแต่เฮสไทเกอร์ก็เกือบจะผลักบทเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับเขา {ผู้แปล: น่าจะหมายถึง เฮสไทเกอร์หล่อและเด่นเกินจนเกือบผลักวีดให้ไปรับบทรอง}
“ถ้าไม่ใช่เพราะคนพวกนั้นมาคุกคามชามข้าวของฉันละก็
ฉันก็คงไม่ต้องมาทำแบบนี้ หืมมม ฉันจะต้องโขกสับเขาอย่างสาสม”
เขาได้รับข่าวเกี่ยวกับนักฆ่าของกิลด์เฮอร์มีสด้านนอก
แต่วีดไม่สนใจ หากเขาไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงวีดก็ไม่แยแส
เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ที่ซับซ้อน
คุณธรรมเช่นนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพจิต
“กุ กุ กุ กุ!”
“จิ๊บ จิ๊บ!”
วิหคเงินและวิหคทองพูดจ้อใกล้ๆวีดในพระราชวังโลกา
ขนาดวิหคเงินและวิหคทองก็ยังอิจฉา
รูปปั้นของเฮสไทเกอร์เสร็จสมบูรณ์
“อ่า มันสมบูรณ์แบบมาก ฉันทำมันออกมาได้ดีจริงๆ
หุ หุ หุ มันเป็นเพราะทักษะการแกะสลักที่ยอดเยี่ยมของฉัน มันยังไม่ดีพออีกเหรอ?”
เขาสแกนประติมากรรม
แต่ไม่พบข้อบกพร่องใดๆ หากมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย ทักษะ 200% จะไม่สามารถแสดงผลออกมาให้เห็นได้
วีดมองดูเฮสไทเกอร์ด้วยความอิจฉาริษยา
แต่นั่นทำให้เขาเจ็บปวดใจอย่างมากที่ให้กำเนิดประติมากรรมที่สมบูรณ์แบบ
“ลูกน้องของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
- กรุณาตั้งชื่อของประติมากรรมใหม่
|
“งั้นก็เฮสไทเกอร์ ไม่ๆ ชื่อของประติมากรรมมันไม่มีความหมายหลังจากที่ฉันให้ชีวิตแก่เขา
ถ้าเป็นอย่างนั้น…ลูกน้องหน้าไม่อาย”
- ลูกน้องหน้าไม่อายถูกต้องไหม?
|
“ถูกต้อง”
วีดแสดงความโกรธของเขาที่มีต่อเฮสไทเกอร์
ตริ้ง!
-
ผลงานระดับมาสเตอร์พีช! ลูกน้องหน้าไม่อาย เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของทวีปเวอร์เซลล์
บุคคลมากมายได้หายตัวไป
อย่างไรก็ตามวีรบุรุษเฮสไทเกอร์ในช่วงสงครามนั้นเป็นดาวส่องแสง
ผู้ซึ่งที่ไม่เคยโลภหรือทรยศใคร
เขาเป็นอัศวิน แต่ได้รับการเคารพและความสนใจหลังจากที่เขาอ่อนแอลง
พรสวรรค์อัจฉริยะผู้ซึ่งเอาชนะขีดจำกัดใดๆ พร้อมกับดาบของเขา เทพเจ้าแห่งสายลมและพระอาทิตย์ได้อวยพรให้แก่เขา
ในขณะที่ลัทธิของเทพเจ้าสงครามบูชาเขา
นักรบผู้ต่อสู้กับการกดขี่ที่โหดร้ายของผู้ปกครองในทวีปที่ไร้ศีลธรรมและไม่เป็นระเบียบ
บุคคลที่มีผลงานโดดเด่นเกินขีดจำกัดของอัศวิน
ตอนนี้มีรูปปั้นมนุษย์ที่มีรูปลักษณ์อันสมบูรณ์แบบที่สุดได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว
คุณค่าทางศิลปะ: 7,985
คุณสมบัติพิเศษ: ลูกน้องหน้าไม่อาย
จะเพิ่มการฟื้นฟูพลังชีวิตและมานา 42% ต่อวัน
เหล่าอัศวินและนักรบที่มีความคิดอันชอบธรรมสามารถเรียนรู้ทักษะได้
ทักษะจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเป็นผู้นำของอัศวิน
เกียรติยศ +120
ความสามารถในการเรียนรู้ทักษะดาบและทักษะเวทย์มนตร์จะเพิ่มขึ้น
7% เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น
41
การล่ากับผู้ใต้บังคับบัญชาจะเพิ่มความสามารถทั้งหมด
4%
ขวัญกำลังใจของทหารทุกคนในบริเวณใกล้เคียงของลูกน้องหน้าไม่อาย
จะคงไว้ในระดับสูงสุด
เอฟเฟคไม่ทับซ้อนกับรูปปั้นอื่น
ๆ
จำนวนชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีชที่สร้างขึ้นในปัจจุบัน:
26
|
- ทักษะความชำนาญการแกะสลักเพิ่มขึ้น
- ทักษะความชำนาญงานฝีมือเพิ่มขึ้น
- ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
1,320
- ค่าศิลปะเพิ่มขึ้น
12
- จิตวิญญาณนักสู้เพิ่มขึ้น
3
- ค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้น 7
- ค่าสถานะทั้งหมดจะได้รับเพิ่มเติม
3 แต้ม จากการสร้างประติมากรรมระดับมาสเตอร์พีช
|
“โลกใบนี้ที่ใส่ใจแต่เพียงรูปลักษณ์!
วัสดุก็ดีแต่ไม่คุ้มค่าที่จะเป็นผลงานมาสเตอร์พีช! อ่า ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่มันก็เสร็จแล้ว”
เขารู้สึกถึงอารมณ์ใหม่หลังจากสร้างประติมากรรมของเฮสไทเกอร์
เขารู้สึกอิจฉาในช่วงสงครามแต่นั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
‘ฉันอยู่ในที่อันตรายมาก’
ภารกิจเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
มันเสียเปรียบเพราะต้องเติบโตภายในระยะเวลาที่จำกัดในทะเลทราย
เขาได้พบกับสถานการณ์ที่อันตรายในขณะสำรวจดันเจี้ยน
วีดและประติมากรรมสลักชีพของเขาตกอยู่ในอันตรายจนกระทั่งเฮสไทเกอร์ใช้ความสามารถของเขา
เพราะความภักดีของเขา ทำให้เขาจัดการมอนสเตอร์และมอนสเตอร์บอสได้
เฮสไทเกอร์อาจมาเพิ่มในส่วนแบ่งของวีด
แต่เขาก็ช่วยในการสร้างตำนานของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เฮสไทเกอร์เป็นวีรบุรุษที่ทำให้แม้แต่วีดยังอิจฉา!
“มา เจ้าลูกน้องอัปลักษณ์
ประติมากรรมคืนชีพ!”
-
ประติมากรรมคืนชีได้ถูกใช้งาน
นักรบทะเลทรายเฮสไทเกอร์ถูกเรียกให้หวนคืนสู่ดินแดนแห่งนี้ผ่านงานศิลปะ
ค่าสถานะศิลปะได้หายไปอย่างถาวร
45
ค่าสถานะความศรัทธาลดลงอย่างถาวร
100
เลเวลลดลง 3
พลังชีวิตและมานาถูกใช้ไป 18,000
บุคคลที่ฟื้นขึ้นมาจากประติมากรรมคืนชีพจะคงความรู้และความสามารถของพวกเขาไว้
มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ
แต่พวกเขาจะรู้สึกขอบคุณที่สามารถเคลื่อนไหวในใบโลกนี้ได้อีกครั้ง
|
- ทักษะความชำนาญของประติมากรรมคืนชีพเพิ่มขึ้น
|
ประติมากรรมหินธรรมชาติเริ่มเปลี่ยนไป
ผมของรูปปั้นกลายเป็นสีบลอนด์ประกาย และดวงตาเป็นสีน้ำเงินมากขึ้น
กล้ามเนื้อที่แข็งแรงของร่างกายส่วนบนเริ่มเคลื่อนไหวจากการหายใจที่นุ่มนวลและขาที่ติดแน่นกับพื้นก็เริ่มขยับ
เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างมาก
จมูกตรงและแนวกรามแข็งแรง รูปลักษณ์หล่อเหลาด้วยเสน่ห์ล้นเหลือ
รูปร่างหน้าตาของเขาดูเหมือนราชามากกว่าวีด และเขามองไปรอบๆ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
‘เฮสไทเกอร์รอดมาจนได้’
วีดมองเขาอย่างจริงจัง
กล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าของเฮสไทเกอร์
เป็นเหมือนงานศิลปะที่สวยงาม พลังลึกลับนั้นถูกนำมาใช้โดยกล้ามเนื้อเหล่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าเพียงพอที่จะทำลายวีด
ปัจจุบัน!
‘ฉันจะไม่ประมาทเด็ดขาด’
เฮสไทเกอร์ตัดสินใจแน่วแน่
เขาถูกนำกลับมาด้วยประติมากรรมคืนชีพ
แต่ไม่ได้รับประกันว่าเขาจะร่วมมือกับวีด ทั้งที่ปาฏิหาริย์แห่งการฟื้นคืนชีพ บุคคลนั้นก็จะเคลื่อนไหวตามความตั้งใจของตนเอง
‘เขาอาจใช้โอกาสนี้เพื่อแก้แค้น
เขามีข้ออ้างทุกประเภท เช่นการกลั่นแกล้ง……! เขาอาจเป็นศัตรูที่อันตรายกว่าอาณาจักรฮาเว่น’
วีดรู้สึกถึงความผิดพลาดของเขาและรู้สึกเสียใจ
เฮสไทเกอร์มองไปรอบๆ และพูดกับวีดอย่างสุภาพ
“นายท่านอยู่ที่นี่……! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ท่านเป็นเขาจริงๆเหรอ?”
“ชะ-ใช่แล้ว”
เฮสไทเกอร์แสดงความประหลาดใจสั้นๆ
จนกระทั่งเขายิ้มอย่างอ่อนโยน มันพอที่จะทำให้ใจของผู้หญิงละลาย
“ท่านยังมีชีวิตอยู่ และดูอ่อนวัยกว่าในอดีต”
เสียงทุ้มๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของสาวๆล่องลอยไปสู่กาแลคซีที่ห่างไกล
ดูเหมือนว่าเฮสไทเกอร์จะเห็นสิ่งเลวร้ายของวีด ขณะที่เขารู้สึกใจหาย...
อย่างไรก็ตามเฮสไทเกอร์ก็คุกเข่าอย่างสุภาพและยืดคอขึ้น
“ข้ากังวลว่าจะไม่ได้พบนายท่านอีก
หลังจากที่ท่านเอาชนะลัทธิเอ็มินยูแล้ว ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ออกเดินทางไปทั่วทวีปเพื่อค้นหาข่าวของนายท่าน
แต่ข้าก็หาท่านไม่พบ ดังนั้นได้โปรดลงโทษข้า”
“อ๊ะ ไม่ ลุกขึ้น”
วีดถามอย่างระมัดระวัง
“ในตอนนี้ข้าอ่อนแอกว่าเจ้า เจ้ารู้ใช่มั้ย?”
“ใช่ ข้ารู้สึกได้”
ตามกฎของพวกเขานักรบทะเลทรายมีนิสัยเชื่อฟังผู้แข็งแกร่ง
วีดกลืนน้ำลายของเขา
“ความจงรักภักดีของเจ้าต่อข้ายังคงเหมือนเดิมหรือไม่?”
“ชีวิตของข้าเป็นของท่าน แม้ว่าข้าจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากสูญเสียชีวิตไปแล้ว
หัวใจของข้ายังคงเต้นและเลือดของข้าก็ยังคงไหลไม่เปลี่ยนแปลง” {เหมือนสารภาพรักยังไงไม่รู้ ทำไมคนแปลเขิน}
แม้จะเป็นคำตอบที่ยอดเยี่ยม แต่ความสงสัยของวีดก็ไม่ได้หายไป
เขาไม่สามารถคิดในสิ่งไม่ดีได้เลยหลังจากที่เขาทำสิ่งเลวร้ายทั้งหมด
“ข้าต้องระวังเกี่ยวกับการแทงข้างหลัง
ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้จริงๆใช่มั้ย?”
“ข้าสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อท่านในทะเลทราย
และแม้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คำมั่นสัญญาของข้าที่เกิดขึ้นในทะเลทรายนั้นจะคงอยู่จนถึงวันที่ข้าจากไป”
“ลูกน้องของข้า อย่างที่คาดไว้เลย”
น้ำเสียงที่หนักแน่นของเฮสไทเกอร์ ทำให้เขาดูเหมือนเป็นฮีโร่ในละครดราม่าสุดสัปดาห์
แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถเทียบได้กับเขา
“ท่านเชื่อถือได้ในอดีต ดังนั้นตอนนี้ข้าจะเชื่อท่าน”
“ท่านเชื่อในตัวข้า และมอบหมายงานสำคัญให้ข้า
ข้าขอบคุณท่าน ที่ให้โอกาสแก่ข้าได้เข้าร่วมในภารกิจอันสูงส่งเพื่อกอบกู้โลก”
“แต่ทำไมเจ้าถึงตายล่ะ?”
วีดอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หลังจากเอาชนะลัทธิเอ็มบินยูแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีใครในทวีปที่สามารถท้าทายเขาได้
“ข้าได้พาพวกเอลฟ์กลับบ้าน และเที่ยวไปรอบโลกเพื่อค้นหานายท่าน
และได้เห็นสถานที่ทุกประเภท ผ่านทางใต้และตะวันตก ทะลุทะเลทรายอันเงียบสงบและผ่านดินแดนที่มีหนองน้ำ
ก่อนขึ้นเรือที่ทำด้วยตะปู”
“เรือที่ทำจากตะปูเหรอ? เจ้าขี่สิ่งนั้นจริงเหรอ พูดต่อไป”
“หลังจากพบร่องรอยของเทพเจ้าแล้ว
ข้าก็ลงเอยด้วยการต่อสู้ในดินแดนของยักษ์……”
“หยุดๆ ข้าไม่อยากรู้เรื่องต่อจากนี้แล้ว”
วีดคิดว่ามันเพียงพอแล้ว
เรื่องราวของการข้ามทะเลทรายแห่งอันเงียบสงบนั้นน่าสนใจ
แต่แล้วเขาก็รู้สึกหนาวขึ้นมา เขามีความรู้สึกสังหรใจไม่ดีที่เขาอาจพบการผจญภัยของเฮสไทเกอร์ในซักวันหนึ่ง
“พวกนักเวทย์กำลังร่ายมนต์!”
“ฆ่าไอ้พวกอาณาจักรฮาเว่น!”
“ออกไปต่อสู้ เหล่านักรบโจ๊กหญ้า!”
เสียงดังจากข้างนอกยังคงดำเนินต่อไปเนื่องจากสงคราม
กองทัพของอาณาจักรฮาเว่นยังคงเรียงรายอยู่บนที่ราบ มันก็แค่ก่อนที่สงครามจะเริ่ม
เฮสไทเกอร์กระพริบตา
“เสียงเหล่านี้คืออะไร? ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้”
“นี่……”
วีดคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาควรจะพูด
นักรบ-1,
นักรบ-2 และ นักรบ-3
ประติมากรรมสลักชีพนั้นง่ายๆ และไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลในการต่อสู้
ในทางกลับกันเฮสไทเกอร์จะจับดาบซิมิทาร์ของเขาเพื่อปกป้องคนยากไร้
วีดจำเป็นต้องพูดบางสิ่งที่จะทำให้เฮสไทเกอร์เต็มใจที่จะกระโดดเข้าไปในกองไฟ วีดต้องการให้เขาแกว่งดาบเพื่อความยุติธรรม
เพื่อไม่ให้มีโอกาสถูกหักหลัง
‘คนดียากที่จะจัดการ
แต่ฉันต้องสรรเสริญจิตวิญญาณที่ซื่อสัตย์ของเขา’
การคำนวณสิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตามวีดจำเป็นต้องโน้มน้าวให้เขาต่อสู้กับอาณาจักรฮาเว่น
เฮสไทเกอร์ต้องการเหตุผลในการต่อสู้อย่างจริงจัง
“พวกเขามาเพื่อทำลายอาณาจักรของข้า
เจ้ารู้ไหมว่าข้าไม่ได้มีความเมตตาปราณีใดๆ เมื่อครั้งที่สร้างจักรวรรดิพอลลอสในอดีต
ข้าได้ทำลายลัทธิเอ็มบินยู ในขณะที่ได้ครองดินแดนและเมืองมากมาย เพื่อเห็นแก่เผ่าทะเลทราย
เหล่าผู้คนได้รับความทุกข์ทรมาน แต่มันก็ช่วยไม่ได้”
วีดวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง
ในช่วงสงครามเขาไม่มีต้องรับผิดชอบใดๆเป็นพิเศษในฐานะผู้ปกครองแห่งทะเลทราย
ดังนั้นเขาจึงทำลายสิ่งต่างๆตามที่ที่เขาไปผ่านไป
“สิ่งเลวร้ายที่ข้าได้ทำไว้ยังคงติดอยู่ในใจ
ในยามเช้าเมื่อข้าตื่นขึ้น ข้าก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วนในช่วงสงคราม
ข้าพิชิตพวกเขาโดยไม่วางดาบและไม่พูด แต่ข้าก็บอกตัวเองว่า มันเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อเอาชนะลัทธิเอ็มบินยู
ข้าต้องอยู่กับความผิดนั้น”
“นายท่านในเวลานั้น อาณาจักรอื่นทั้งหมดเลวร้ายยิ่งกว่าจักรวรรดิพอลลอสซะอีก
เราพยายามแล้วแต่สิ่งต่างๆไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการโน้มน้าวใจและประนีประนอมดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ดาบ
และต้องขอบคุณนายท่าน ที่เผ่าทะเลทรายสามารถพบชีวิตใหม่ คุณไม่ต้องตำหนิตัวเองสำหรับชีวิตที่น่าอึดอัดภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ”
เฮสไทเกอร์ไร้เดียงสาพอที่จะฉวยต๊อกบกกีมา
มันเป็นเหมือนนักเรียนประถมที่กำลังแย่งโทรศัพท์เพื่อเล่นเกม
{rice cake-คือ떡볶이- tteok หรือ tteokbokki ต๊อกบกกี}
วีดก้มหัวลงและใช้เศษพริกไทยแดงทำให้ดวงตาของเขาชุ่มด้วยน้ำตา
แท้จริงแล้วดวงตาของเขาไม่จำเป็นต้องใช้เศษพริกไทยแดงด้วยซ้ำ
“เวลาปัจจุบันแตกต่างจากช่วงสงคราม
ทุกคนมีความสุขเมื่อข้าเป็นผู้บุกเบิกชายแดนทางเหนือเพื่อก่อตั้งอาณาจักรอาร์เพน ซึ่งเป็นที่ที่เหล่าผู้คนได้รับประโยชน์ในการยังชีพ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ข้าทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุความฝันของข้า”
“ข้าเข้าใจ”
“อาณาจักรอาร์เพนเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ข้าปลูกไว้ในดินแดนทุรกันดารอย่างทะนุถนอม”
วีดนึกถึงอดีต การที่อาณาเขตของโมราต้าค่อยๆขยายออกไปก็เหมือนกับการค้นพบโสมป่าบนภูเขา
คนอื่นๆจะไม่รู้ว่าความโกรธและความยุ่งยากนั้นอาจเกิดขึ้นได้
“อาณาจักรนี้ได้เติมเต็มความภาคภูมิใจและความปีติยินดีของข้าจริงๆ
ทั้งหมดนี้เป็นผลของหยาดเหงื่อและความพยายามของข้า แต่อาณาจักรฮาเว่นกำลังรุกรานเข้ามา
ในอดีตข้าพยายามที่จะแก้ไขปัญหา
แต่หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและพวกเขาก็เหยียบย่ำผู้อ่อนแอ”
“อืมม”
“ไม่เป็นไรหากข้าสูญเสียอาณาจักรอาร์เพน
แต่ข้าจะอุทิศชีวิตของข้าเพื่อจะรักษาอาณาจักรเอาไว้ มันเป็นเกียรติที่จะทำ
อย่างไรก็ตามชาวเมืองเชื่อในตัวข้าและนี่เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่”
น้ำตาคลอในดวงตาของเฮสไทเกอร์
พวกเขาน้ำตาไหลที่เห็นใจคนทั่วไป
“ข้าจะหยุดพวกเขา”
“ไม่ ข้าจะใช้กำลังทั้งหมดที่ข้ามีจนหยดสุดท้าย
มีสองเหตุผลที่ข้าเรียกเจ้ามา สิ่งแรกคือการรวมตัวของนักรบผู้ภักดีที่ต้องการพบเจ้าอีกครั้ง
และสิ่งที่สองก็คือการปกป้องผู้หญิงและเด็กเล็กๆในอาณาจักร”
“นายท่าน!”
‘ฉันได้เขามาแล้ว’
เฮสไทเกอร์จะช่วย หากมันเกี่ยวกับผู้หญิงและเด็กเล็ก
เขาไม่อยากเสียใจกับการใช้ประติมากรรมคืนชีพ
“นายท่าน ข้าเรียนรู้ความภาคภูมิใจของนักรบทะเลทรายมาจากท่าน
จะไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้และกำจัดพวกมันให้หมด”
“เฮสไทเกอร์!”
ในขณะนั้นวีดรู้สึกสำนึกผิดเล็กน้อย
องค์ราชาแห่งอาณาจักรอาร์เพน และผู้ปกครองแห่งท้องทะเลทราย
‘มันเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิต
ฉันจะอยู่ต่อไปในขณะที่ฝันอยากเป็นรองประธานบริษัท’
จบ เล่ม 40 ตอนที่ 9 (ปิดเล่ม)
ผู้แปล :
Rastymay
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล