เล่ม 19 ตอนที่
4 วีดนักประดาน้ำ แปลโดย Cole’s Myth
“อืมมม
แนวโขดหินโสโครกแผ่ออกมามากกว่าที่ฉันคิดอีกนะ ฉันควรระวังไม่ให้เข้าไปติดในกระแสน้ำวนซะแล้ว”
วีดยังคงระมัดระวังในทะเลเปิด
มันดูเหมือนกับแผ่เส้นทางออกไปจนถึงเส้นขอบฟ้า แต่ว่าเมื่อแล่นเรือเร็วเท่าไหร่
มันยิ่งใกล้พื้นดินที่ทอดตัวมาให้เห็น แล้วก็จะมีสิ่งที่ทำให้แปลกใจปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เรือผีสิงมักจะได้รับความเสียหายง่ายๆเพียงเพราะแผงสาหร่ายทะเลหรือพวกโขดปะการัง
“คุณไม่ควรประมาทในขณะที่กำลังแล่นเรืออยู่”
วีด แม้ว่าจะยังกังวลสิ่งรอบข้าง
เขายังคงตกปลากกับเซเฟอร์
พวกเขาโยนปลาที่ไม่เอา
ให้พวกนก จากนั้นพวกมันก็จิกกัดออกจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ฝูงนกจำนวนมากที่กำลังกัดกินปลาได้เพิ่มความเร็วให้เรือ
วันเวลาของการทำงานอย่างขะมักเขม้นผ่านพ้นไป การสูญเสียที่โยนปลามากมายให้พวกนกนั่นง่ายซะยิ่งกว่าแต่ก่อน
เมื่อเทียบกับที่ต้องตกปลาตลอดเวลามาเพียงเพื่อเลี้ยงพวกนักดาบนั่น
จากนั้นวีดก็เอาแผนที่เดินเรือออกมา
“ดูท่าว่าคงไม่ต้องหยุดที่ท่าเรือระหว่างทางแล้วละ
นายคิดว่างั้นไหม”
เพราะพวกลูกเรือผีสิงไม่จำเป็นต้องกิน
ก็แค่ดื่มเหล้านิดๆหน่อยๆ มันก็ทำให้มีน้ำดื่มกับอาหารเหลือเฟือสมบูรณ์แล้วละ
พวกเขาตุนน้ำที่เพียงพอสำหรับห้าวันและอาหารสำหรับสองวันในห้องเก็บเสบียงตอนที่เทียบท่าที่เกาะไอเปีย
พวกเขาจะสามารถรอดอยู่ได้เป็นสัปดาห์ถ้ากินอย่างประหยัดถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดก็ตาม
ต้องขอบคุณจริงๆที่ได้กักตุนเสบียงไว้เพราะการอดตายอย่างช้าๆไม่น่าอภิรมย์เลยจริงๆ
“พวกเราตรงดิ่งไปยังจุดหมายปลายทางได้เลย!”
เขาไม่ต้องเตรียมอาหารมากมายขึ้นบนเรือเพราะความขี้เหนียวอย่างเคยเป็น
พวกเขาแค่ต้องตกปลาต่อไป ก็ถ้าปลามันเค็มอยู่แล้ว แค่เอาไปตากแห้งก็พอ จากนั้นมันก็จะอยู่ได้เป็นเดือน
ตอนที่ฝนตกลงมา ก็แค่กรองน้ำจากใบเรือ นั่นก็เพียงพอที่จะเติมน้ำดื่มไว้ในถังน้ำได้แล้ว
( หมายเหตุ: ก่อนจะมีคลอรีนหรืออะไรก็แล้วแต่ กะลาสีเรือจะกักน้ำฝนเอาไว้ในใบเรือแล้วเอาใส่ไว้ในถังไม้
อย่าดื่มน้ำทะเลละ คุณจะเสียน้ำเสียมากกว่าได้รับน้ำซะอีก)
“ถ้าพายุกำลังพัดโหมกระหน่ำมาฉันจะขับเรือเอง
เราก็จะสามารถไปถึงโกโทบาภายในหกวัน สถานที่ที่เป็นเกาะแรกในทะเลเหนือของพวกเรา”
ระหว่างการเดินทางที่แสนไกล
ทักษะความเชี่ยวชาญการเดินเรือของเขาไปขั้นกลางแล้ว การเดินทางไกลตรงดิ่งไปอย่างต่อเนื่องดีขึ้นกว่าแต่ก่อน
ดีซะยิ่งกว่าเดินเรือกลับหน้ากลับหลังไปมาแม้นเพียงแค่ล่องเรือไปในระยะใกล้ๆเท่านั้น
“คงเพราะเรือลำใหญ่
การท่องทะเลทางไกลจำต้องใช้ทักษะการเดินเรือค่อนข้างมากเลย”
กาลเวลาผ่านไป
การท่องทะเลผ่านมาถึงวันที่แปด วีดกับเซเฟอร์เอาแต่ตกปลากัน ขณะที่มีเงาดำทะมึนปรากฏขึ้นใต้ท้องทะเล
ฝูงมอนสเตอร์ทะเลกำลังไล่ตามคุณ
ฝูงมอนสเตอร์ทะเลดูท่าว่าจะตั้งเป้าโจมตีไปยังเรือของผู้ที่เดินทางไกล
|
“เร่งความเร็วเต็มสูบไปเลย!”
วีดเร่งความเร็วเรือสูงสุด
เขาอยากแล่นไปให้เร็วกว่าพวกมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเรืออยู่ แต่การตอบสนองของพวกกะลาสีเรือผีสิงช่างประหลาดซะจริง
“เขาพูดอะไรบางอย่างรัวๆเรื่องการแล่นเรือล่ะ”
“หรือว่าจะหมายถึงให้ทอดสมอรึปล่าว?”
“ถอนใบเรือขึ้น!”
ไอ้พวกลูกเรือผีงี่เง่า! ดูท่าว่าความเป็นศัตรูที่มีต่อวีดจะเพิ่มขึ้นในตอนที่ความจงรักภักดีกลับลดลง
แต่ถ้าหากความเร็วเรือผีสิงไม่เพิ่มขึ้น
พวกมอนสเตอร์มีหวังเป็นพวกที่เข้ามาแส่หาเรื่องเร็วๆนี้แน่เลย
“คงจะยาก ถ้าจะให้สลัดพวกมันออกไป”
วีดจึงเริ่มจับพวกกะลาสีผีสิงโยนลงทะเล
“ถ้าพวกแกยังจะเล่นไปเรื่อย
ก็ออกไปสู้ซะไป๊!”
“นายท่าน ได้โปรด ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
เหล่าลูกเรือผีสิงที่ถูกโยนลงทะเลกวัดแกว่งดาบของพวกมันอย่างบ้าคลั่ง
แต่ก็กลายเป็นของว่างให้มอนสเตอร์ทะเลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเสียงร้องหลงมาจากบนดาดฟ้าเรือ
“ฮือออ
กัปตันได้โปรดอย่าโยนข้าให้พวกมอนสเตอร์ทะเลเลย พวกมันต้องฉีกข้าออกเป็นชิ้นๆแน่เลย!”
เหล่าลูกเรือผีสิงยังคงถูกโยนไปให้พวกมอนสเตอร์ทะเลเรื่อยๆ
วีดหวังจะให้พวกมอนสเตอร์ทะเลไล่ตามเขาไม่ทัน แต่กลับเป็นว่าพวกทหารเรือผีสิงเป็นฝ่ายที่ต้องวิ่งหนีสลัดออกจากมือที่คว้ามาของวีดซะงั้น
แต่ยังไงซะทั้งสองพวกนั้นก็ยังเอาแต่ขัดขวางเขาไว้อยู่ดี
“ถ้าเป็นยังงี้ละ
แล้วใครจะโทษฉันได้ละ?”
เขาจะเอาตัวเองไปสู้ในทะเลได้ยังไงละ
ในเมื่อเขาไม่เคยทำยังงั้นมาก่อน
มีข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบมากมายบนทวีปเวอร์เซลทั้งนั้นแหละ
ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละอาชีพ แต่การเดินทางท่องทะเลเป็นสิ่งที่ต้องใช้การพึ่งพาอาศัยอย่างยิ่งในการจะดำรงตัวอยู่บนเรือ
แต่ยังไงก็ตามอาชีพนักตกปลาก็ได้ถูกยอมรับว่าเป็นสายอาชีพทางน้ำที่แข็งแกร่งมากที่สุด
กลับไม่ใช่ชาวทะเลหรือพวกโจรสลัดเลย
ขณะที่ถือฉมวกเพื่อที่จะได้จบเกมส์ครั้งสำคัญนี้
พวกมอนสเตอร์ทะเลจำนวนมากและฉลามกินคนยังคงวนเวียนอยู่รอบๆเรือที่กำลังเจาะรูจากใต้ท้องของเรือ
เพื่อที่จะเบิกอรุณใหม่ให้กับการสำรวจดันเจี้ยนใต้น้ำที่มีแค่เหล่าผู้เล่นนักผจญภัยเท่านั้นที่จะทำ! คงต้องใช้ความกล้าหาญกับทักษะการว่ายน้ำอย่างมาก
วีดเตรียมออกตัวไปกับสามสาวนักประดาน้ำเพื่อที่จะไปคุ้มกันเขา
เขาได้อ่านโพสท์แสดงความคิดเห็นมาก่อนหน้าว่าการใช้คน
3
ถึง 4 คนจำเป็นมากตอนจะไปดำน้ำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ไม่มีใครบนเรือที่เคยดำน้ำมาก่อนแล้วยังไม่ชินกับการต้องต่อสู้ทางทะเลอีกด้วย
วีดจึงเลือกเอาคำคมเสริมกำลังใจให้พวกเขาว่า
“ไม่มีของที่เรียกว่าเป็นเครื่องหนังไร้ค่า เจ้าจะได้ลิ้มรสชาติของเนื้อแม้นมันเกือบจะหมดอายุ
โอ้ ข้าจะให้อะไรได้หนอเพื่อแจปเทม! ข้อความคิดเห็นแห่งสมาคมดาร์คเกมเมอร์ล้วนมีรายการดร็อปไอเท็มที่จะได้มาจากมอนสเตอร์ทะเลที่ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านไปทั้งตัว”
“เตรียมเข้าสู่การรบ ! ทุกคนเตรียมโจมตีทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น!”
วีดเฝ้ารอโอกาสตัดสินชี้ขาดเพื่อให้เพื่อนๆเขาโจมตีได้ในทันที
“ศรอัสนีบาต! (Lightning
shot) เพลสาดฝนธนูสายฟ้าลงไปในทะเลอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเองที่ใต้ผืนน้ำก็ฟาดซัดไปด้วยแรงช็อตพลังไฟฟ้าอานุภาพรุนแรง”
เมลอนปีนขึ้นไปบนเสากระโดงเรือแล้วยิงธนูลงไปที่ทะเล
บนบอร์ดกระทู้บอกว่าคงไม่มีโอกาสเลยที่จะแสดงให้เห็นความคล่องตัวว่องไวของอาชีพเรนเจอร์
แต่โอกาสในตอนนี้ มันจะเป็นโอกาสที่จำเป็นมากในการโจมตีต่อเนื่อง
“ฟิ้วววว อ๊า โว้วว!”
ลูกธนูที่ชุบด้วยสายฟ้าปักอยู่บนร่างกายของพวกมอนสเตอร์ทะเล
เมื่อใดที่คลื่นทะเลลูกใหญ่ซัดผ่านมอนสเตอร์ทะเล
พวกมันก็จะชักกระตุกไปด้วยความเจ็บปวดทุกครั้ง
คงเป็นเพราะค่าพลังชีวิตจำนวนมากมหาศาล
พวกมันจึงไม่ได้รับความเสียหายมากมายเลย แม้ว่าพวกมันจะโดนโจมตีด้วยลูกธนูจำนวนมาก
พวกมอนสเตอร์ทะเลก็ยังไล่ตามพวกเขามาอย่างไม่ลดละ
“เร่งความเร็วเรือไปเรื่อยๆ!”
เหล่าลูกเรือผีสิงนั้นรับผิดชอบควบคุมใบเรือเพื่อรักษาความเร็วแล้วหลีกเลี่ยงไม่ให้ลดน้อยลงแม้แต่นิดเดียว
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะระบุจำนวนที่แน่นอนของฝูงมอนสเตอร์ทะเล
แต่ว่าตามการคาดคะเนของวีดก็คงมีราวๆ10 หรือนับได้จากพวกที่โดนการโจมตีของพวกเขา
ขณะนั้นเองโรมุนะก็ร่ายเวทย์มนต์ของเธอเสร็จสิ้น
“พายุสายฟ้า!”
มอนสเตอร์ทะเลจะเผ่นหนีในทันทีถ้าพวกมันเห็นคุณร่ายเวทย์นานๆ
เพราะเมื่อคุณรวบรวมมานาได้อย่างมากเพื่อสร้างเวทย์สายฟ้า! แต่ครั้งนี้สายฟ้านั้นผ่าฟาดลงทะเลรอบๆเรือผีสิง
ร่างของมอนสเตอร์ทะเลชักกระตุกที่เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าพวกมันได้รับค่าความเสียหายจากฟ้าผ่าลงบนผืนน้ำในแต่ละครั้ง
(หมายเหตุ: ในบางกรณี แม้ว่าสายฟ้าจะผ่าลงแบบสุ่มๆ แต่เป็นเพราะผู้ควบคุม
พวกมันก็จะยังได้รับดาเมจอยู่แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้รับตรงๆ)
“ครึกกกก”
มอนสเตอร์ทะเลที่ไล่กวดตามมาเริ่มประเดิมการโจมตีมาที่เรือด้วยการกระแทกอย่างแรง
เหล่าลูกเรือล้มกลิ้งแล้วไถลลื่นระเนระนาดจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ เหล่าลูกเรือผีสิงหลายตนหล่นร่วงพรูลงไปในทะเล
ส่วนทุกคนที่ยึดตัวเองให้อยู่บนเรือที่โดนโจมตีมาไว้ได้นั้น
เริ่มแหกปากส่งเสียงเอะอะโวยวายดังลั่น
ตัวเรือได้รับความเสียหาย
ค่าความคงทนลดลง 36
|
เรือผีสิงเชื่องช้าเกินไปที่จะรอปะทะกับฝูงมอนสเตอร์ที่ไล่กวดตามมา
แถมตอนนี้ยังโจมตีมาจากด้านล่างอีก
เรือผีสิงเริ่มแล่นช้าลงแม้ว่าจะมีหนวดของฝูงมอนสเตอร์เริ่มละเลงยึดเกี่ยวมารอบตัวเรือยั้วเยี้ยเต็มไปหมด!
(ส่วนหน้าของเรือมักเรียกว่า
หัวเรือ ส่วนหลังเรียกว่าท้ายเรือ ตัวเรือ คือทุกส่วนที่ต่ำลงมาจากเสากระโดงเรือและใบเรือ
โดยเฉพาะส่วนที่ทำจากไม้)
ความเร็วของเรือถูกทำให้ช้าลงมากกว่าเดิม
เพราะมีฝูงมอนสเตอร์เกาะหนึบทั่วลำเรือเลย
ถ้าหากค่าความคงทนของเรือยังค่อยๆลดลงๆอยู่แบบนี้พวกเขาได้จมดิ่งลงไปตายแน่ๆ
“ทุกคนเตรียมตั้งรับอยู่ที่ดาดฟ้าเรือ!”
หนวดมอนสเตอร์ขนาดยักษ์เริ่มคลายออกหลังจากกินหมัดอันหนักหน่วงของเซอร์กะไป! หนวดที่ยื่นออกมาของมอนสเตอร์ติดไฟไปด้วยเพราะคุณสมบัติจากถุงมือของเซอร์กะ
หนวดหมึกที่ชักกระตุกอยู่เริ่มส่งกลิ่นหอมฉุยออกมา
(หมายเหตุ: ใน DnD อาชีพพระสามารถใช้ไอเทมถุงมือ สร้อยคอได้
เพื่อเสริมค่าดาเมจ หรือค่าคุณสมบัติพิเศษให้กับการโจมตีพื้นฐานให้พวกเขาได้)
ไอรีนร่ายเวทย์คำอวยพรเพื่อบัฟเพิ่มค่าการป้องกันให้กับกลุ่มปาร์ตี้
“ศรอัคคีความเร็วสูง!”
เพลกับเมล่อนใช้ทักษะของเรนเจอร์และนักธนูออกมาโดยตั้งสมาธิเพื่อโจมตีไปที่พวกมอนสเตอร์ทะเล
หัวของมอนสเตอร์ทะเลเริ่มออกมาให้เห็นในตอนที่หนวดมันไต่ขึ้นมาบนเรือผีสิง
เหล่าลูกเรือผีสิงก็เริ่มตอบโต้ไปที่หนวดของปลาหมึกยักษ์ด้วยดาบและขวาน
เซเฟอร์ก็โจมตีมอนสเตอร์ทะเลไปหลายๆตัวไปพร้อมๆกัน
“บางทีนะ
พวกมอนสเตอร์ทะเลคงถูกดึงดูดมาด้วยเนื้อสดๆที่เรารับเอามาจากฝั่งก็ได้นะ”
มอนสเตอร์จากทะเลคงไม่อยากกินปลาอีกแล้วมั้ง
เพราะงั้นเซเฟอร์ผู้รอบรู้เกี่ยวกับเหยื่อราวกับเป็นสารานุกรม
เขาเอาเนื้อหมูสามชั้น (sangyupsal)มาเกี่ยวกับเบ็ดแล้วเหวี่ยงออกไปในทะเล
มอนสเตอร์ยาวขนาดร้อยเมตรกรูกันเข้าไปที่เส้นเอ็นของเขาที่ทำให้มอนสเตอร์หลายตัวพันกันยุ่งเหยิงรอบๆตัวเรือผีสิงจนเหลือเพียงแค่สองตัวที่ยังโจมตีอยู่
(หมายเหตุ:
San-gyupsal ซันคยอบซัน
คืออาหารเกาหลีประเภทเนื้อที่ถูกย่าง)
“ครูททท กร๊ากกกก”
ตัวเรือโดนหนวดยักษ์ทำลายเสียหายหนักมาก
ค่าความคงทนของเรือกำลังลดลงอย่างฮวบฮาบ
มันจะเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่พวกมอนสเตอร์จะมาเขมือบกินหลังจากที่เรือล่มแล้ว
วีดจึงเริ่มร่ายเวทย์
“ความมืดมนร่วงโรยสู่หอกทวน
หอกศาสตราก่อกำเนิดจากความอันธการที่จักเจาะทะลวงไปยังหัวใจของเหล่าศัตรู ‘หอกทมิฬ!(dark spear)’”
หอกหนักพอๆกับต้นขาออร์คที่อยู่บนหลังม้าได้โดนขว้างไปที่หัวของมอนสเตอร์ทะเล
นั่นเป็นเวทย์ที่รุนแรงที่เคยใช้สู้กับมังกรโครงกระดูก
คงเป็นเพราะตอนนี้เขาใช้เวทย์ได้อย่างเหมาะสมในฐานะของจอมเวทย์อมตะลิช พลังเวทย์จึงดูรุนแรงกว่ามากเลย
มอนสเตอร์ตัวที่ไต่มาบนดาดฟ้าเรือผีสิงจึงโดนผลักออกไป
มอนสเตอร์หงายหลังตกลงไปในทะเลในตอนที่หอกทมิฬระเบิดตัว
ตัวเรือที่เอียงตามน้ำหนักตัวมันเริ่มกลับเข้าที่แล้ว
“ผลักมันไปจนถึงขอบเรือแล้ว
อย่างงั้นล่ะ!”
เสียงกรีดร้องที่แปลไม่ออกดังมาจากมอนสเตอร์ทะเลตัวนั้น
“โอ้โห! เวทย์มนต์นั่น!”
“วีดใช้เวทย์มนต์ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!”
สมาชิกในปาร์ตี้เห็นด้วยที่จะบอกว่าเวทย์มนต์นั่นน่าทึ่งมาก
นักสู้แนวหน้าส่วนใหญ่มักจะใช้อาวุธต่อสู้ระยะประชิด
เพราะงั้นมันไม่ธรรมดาเลยที่วีดสามารถใช้เวทย์มนต์ที่รุนแรงขนาดนั้น แต่ยังไงซะแม้ว่าเขาจะสามารถร่ายเวทย์ระดับสูงง่ายๆในฐานะของลิช
มันก็ยังบั่นทอนความสามารถทางกายภาพของเขาด้วยเช่นกัน
*แควกกกก พรึ่บ พรึ่บ*
The hull has been damaged,
durability decreased by 21.
ลำตัวเรือได้รับความเสียหาย
ค่าความคงทนลดลง 21
|
ใบเรือเสริมฉีกขาดออกไป
แม้ว่าเขาจะโยนมอนสเตอร์ตัวเดียวนั้นลงทะเลไป
แต่ก็ยังมีตัวอื่นที่ยังเกาะหนึบอยู่ที่เรือ
ลูกเรือผีสิงโจมตีหนวดพวกมันด้วยมีดสั้นกับดาบ
เพลกับเมล่อนก็ยิงธนู แต่กลับเป็นว่ามอนสเตอร์ซ่อนหัวเอาไว้ใต้ท้องเรือ แถมปกติค่าพลังงานชีวิตของมอนสเตอร์ทะเลธรรมดาจะมีมากว่ามอนสเตอร์ที่อยู่บนพื้นดินซะอีก
แล้วจู่ๆ เซเฟอร์ส่งเสียงร้องออกมา
“พี่ครับ
ผมอยากได้ความช่วยเหลือ มาทางฝั่งนี้หน่อย!”
เหยื่อล่อที่แตกต่างก็ดึงดูดพวกปลาได้ต่างพันธุ์
ผลลัพธ์นั้นออกมาอย่างที่เห็นว่ามอนสเตอร์ทะเลที่เหมือนปลาฉลามกระโจนออกมาเหนือผิวน้ำเพื่อกินเหยื่อล่อ
ปกติแล้วมอนสเตอร์ทะเลมักจะมีระดับสติปัญญาต่ำหรืออาจถึงขั้นฝั่งโง่ไปหน่อยเลยละ
แม้ว่าคุณจะใช้การเคลื่อนที่ซ้ำๆซากๆพวกมันก็ไม่แม้แต่จะหยุดโง่ซักครู่ได้เลยล่ะ
“ไม่สงสัยเลยว่าเขาเจอปัญหาแล้วละ
เรียกขาน เดทไนท์!”
แวนฮอว์คได้ถูกอัญเชิญออกมา
“ท่านเรียกข้าหรือ นายท่าน”
“ไปสู้กับพวกมอนสเตอร์ทะเลซะ”
“รับทราบขอรับ”
เดทไนท์พุ่งไปที่ดาดฟ้าเรือพร้อมกับขวานขนาดเล็กและดาบในมือ
แวนฮอร์คตัดขาของมอนสเตอร์ออกมาได้เพียงแค่ใช้เคล็ดลับทักษะเงา
มอนสเตอร์ทะเลที่ดูเหมือนมีพลังชีวิตไม่จำกัดก็หนีและตกลงไปในที่สุดแล้วดิ้นรนอย่างเจ็บปวด
ความเสียหายของเรือผีสิงเหลือไว้เพียงแค่ภาระเล็กน้อยลงไปมาก
แต่ว่าวิกฤตก็คืบคลานเข้ามาอีกครั้งในทันที
มอนสเตอร์ทะเลตัวที่ซ่อนอยู่ในทะเลน้ำลึกกระโจนขึ้นมาที่ดาดฟ้าเรือในทันทีทันใด
แล้วเริ่มสะบัดหนวดมันกระแทกเหล่าลูกเรือผีสิงล้มลงไปเป็นแถว
ไอรีนกับเรมุนะขยายขอบเขตเวทย์ป้องกันเพื่อปกป้องเพลและเมล่อนซึ่งอยู่บนปลายของเสาใบเรือที่สู้กับหนวดปลาหมึกอยู่
“หอกทมิฬ!”
วีดโจมตีด้วยเวทย์มนต์อีกครั้งซึ่งเป็นเวทย์มนต์ที่เขาใช้บ่อยซะเขาสามารถใช้ได้แม้จะหลับอยู่
การโจมตีที่อยู่ใต้ทะเลนั้นก็คงเหมือนการเล่นเกมทายปัญหาที่โคตรยากเลยละ
จะง่ายขึ้นมากเลยถ้าเขายืนรอบนดาดฟ้าเรือให้หมึกยักษ์สิบหนวดโผล่หัวออกมาซะดีกว่ายิงลงไปในน้ำแบบมั่วซั่ว
*อาคคคค
ชคว๊าคคค*
หมึกยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วพันรวบกองกระดูกของผีดิบลิชที่แสนเปราะบาง
ร่างของวีดถูกยกตัวสูงขึ้นจากดาดฟ้าเรือผีสิง
“วีดดด!”
“วีดโดนเจ้ามอนสเตอร์นั่นลากตัวไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น
ฮวาบองก็กรีดร้อง เมล่อนง้างลูกธนูร่ายเวทย์ใส่คันแล้วก็เตรียมเล็ง
แต่กลับเป็นว่าสายไปแล้ว วีดจมไปใต้น้ำแล้ว
ร่างกายที่แข็งแรงของมอนสเตอร์ทะเลรัดร่างเขาไว้พร้อมกับแรงดูดไว้อีก
ความแข็งแกร่งนั้นดูเหมือนจะเหนือว่าออร์คคาริชวิ ซะอีก
ความแข็งแกร่งระดับยอดมนุษย์พันธุ์แท้เชียวน่ะแก!
ท่านโดนการโจมตีพิษอัมพาท
การทำงานของพิษไม่เป็นผลเพราะคุณสมบัติของอันเดด
(หมายเหตุ: หมีกและหมึกยักษ์ทั้งหมดจะมีปุ่มพิษ ธรรมดาจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
แต่ว่าที่ขนาดตัวใหญ่กว่าพวกเราหล่ะ?)
ความแข็งแรงระดับยอดมนุษย์ที่เจ้ามอนสเตอร์สำแดงฤทธิ์ออกมาอย่างล้นหลาม
แล้วยิ่งจะแกร่งขึ้นอีกอย่างมากเมื่ออยู่ใต้น้ำ
วีดสามารถมองไปรอบๆได้กว้างขึ้นเมื่ออยู่ใต้น้ำ
หลังจากใช้เวลาซักพักเขาก็สามารถสังเกตเห็นฝูงมอนสเตอร์ทะเลที่รายล้อมเหยื่อล่ออยู่
มีมอนสเตอร์ขนาดธรรมดาอยู่บ้าง
แต่ก็ยังมีบางตัวที่ขนาดใหญ่กว่าเรือผีสิงซะอีก พวกมอนสเตอร์ทะเลอ่อนๆก็รุมตอมเรืออย่างกับฝูงผึ้ง
ช่างเป็นภาพที่น่าขนลุกขนพองซะจริง!
จากนั้นเขาก็เจอกับมอนสเตอร์ที่เขาโจมตีด้วยหอกทมิฬ
ลอยอยู่ข้างเขา
มอนสเตอร์ทะเลที่จับตัววีดมาเปลี่ยนสีหน้าต่างออกไปขณะที่มองเขาอย่างกับของเลิศรส
ในความคิดของมอนสเตอร์คือ
:
‘ จะกินจนกว่าจะกินต่อไม่ได้เลยละ’ (น่าจะหมายถึงกินให้เหลือแต่กระดูก)
น่าเป็นห่วงที่ว่ากระเพาะมันคงผิดหวังแล้วละถ้าจะกินวีดที่ไม่มีเนื้อหนังเอาซะเลย
ช่างเป็นข้อได้เปรียบของอันเดทจริงๆ
“ไม่ต้องกังวลหรอก
แกไม่จำเป็นต้องคิดให้เรื่องมากอีกต่อไปแล้วละ”
วีดพยายามตัดหนวดที่รัดเขาอยู่ด้วยหอกทมิฬ
แม้ว่าหนวดมันจะแข็งหยั่งกับเหล็กแถมการโจมตียังแทบจะไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน
ส่วนที่เหนียวที่สุดของมอนสเตอร์ทะเลที่เป็นเครื่องหนังเกรดA ไม่มีทางเลยที่จะตัดออกง่ายๆโดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับมัน
ถึงแม้ว่าเขาจะชำแหละมันออกมาก็คงเป็นแค่หนึ่งของส่วนหนวดมันแถมคงทำให้หงุดหงิดซะเปล่าๆ
โจมตีมันวิธีนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร
เขาเลยเล็งไปที่หัวใจของมอนสเตอร์ที่น่าจะอยู่ตรงบริเวณหัว
จากนั้นวีดจึงรอให้มันปรากฏตัวออกมาเอง
ถ้าวีดเป็นมนุษย์ธรรมดาเขาคงหมดอากาศหายใจแล้วก็ตายด้วยอาการน้ำเต็มปอดแต่เพราะเขาเป็นอันเดทเลยไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้นเลย
ค่าพลังชีวิตของเขาลดต่ำลงขณะที่หนวดของมอนสเตอร์โอบรัดเขาอย่างช้าๆแต่เขาก็ยังอดทนรอไว้
ในที่สุดเขายกแขนซ้ายขึ้นแล้วพูดว่า
“ทักษะวิชาสูบชีพ
ทักษะวิชาสูบมานา!”
คุณได้ใช้พลังทักษะของเจ้าแห่งความตาย
ลิช
|
ท่านได้สูบค่าพลังชีวิตและมานาจากมอนสเตอร์ทะเล
|
ฟื้นคืนระดับค่าพลังชีวิต
369
หน่วย
|
ฟื้นคืนระดับค่าพลังชีวิต
112
หน่วย
|
ฟื้นคืนระดับค่าพลังชีวิต
291
หน่วย…
|
เป็นไปได้จริงๆที่จะใช้การโจมตีของทักษะสูบพลังหลายๆครั้งรวด
แม้ว่าการเคลื่อนที่ของเขาจะแย่เพราะน้ำแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมสิ้นท่า
ตอนที่มันจะตายมอนสเตอร์ทะเลไม่รู้ว่าจะทำไงได้แต่เพียงอ้าปากกว้าง
วีดที่ไม่ตายจากการจมน้ำแถมยังไม่สามารถเป็นอัมพาทได้อีก
แล้วยังอาจจะทำให้ท้องเสียอีกถ้ากินเข้าไป เขาจึงรอเวลาที่เหมาะเพื่อโจมตี
เพียงแค่ที่พวกมันจะทำท่าสวาปามเหยื่อ
เขาก็โยนหอกทมิฬเข้าไปในช่องปากที่เปิดอ้าของมอนสเตอร์
ท่านโจมตีโดนจุดอ่อนของมอนสเตอร์ทะเล
ออร์เตส สำเร็จ
|
ท่านได้โจมตีจุดตายสำเร็จ!
|
หนวดที่รัดวีดอยู่เริ่มคลายตัวออกขณะที่มันพยายามถอยร่นหนีออกไป
“ปล่อยให้มันอยู่นิ่งๆก่อนละกัน”
(น่าจะประมาณปล่อยไปก่อนค่อยล่าทีหลังมั้ง)
(หมายเหตุ: มันดูไม่สมเหตุสมผลกับเราเช่นกัน)
ที่แล้วมา หอกทมิฬต้องใช้มานาไปเกือบครึ่งแต่ตอนนี้ทักษะหอกทมิฬนี้จะใช้ได้หลายครั้งด้วยมานาที่เหลือเฟือพอที่จะใช้คาถาอื่นอีกด้วย
เวทย์ที่เขากำลังจะใช้ตอนนี้นั้นต่างออกไปจากคาถาที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้
“แรงโน้มถ่วงพลิกกลับ!”
(Reverse Gravity)
มอนสเตอร์ทะเลที่กลับหัวกลับหางค่อยๆลอยมากขึ้นๆและเริ่มลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
เวทย์แรงโน้มถ่วงพลิกกลับก็คือมนต์ที่จะทำให้สิ่งของลอยขึ้นไปนั่นเอง (แอดมิน: โบกนิด สะบัดหน่อย วิง-กาเดี้ยม เลวิโอซ่า 555)
ตอนนั้นเองที่เหล่ามอนสเตอร์ทะเลทั้งหลายถูกดึงขึ้นเหนือผืนน้ำ! พวกมันกระแทกเข้ากับบาร์เรียของโรมุนะแถมยังโดนย่างสดด้วยลูกธนูของเมล่อนอีก
ช่างเป็นเป้าหมายง่ายๆซะจริงเพราะว่ามีแต่มอนสเตอร์ทะเลขนาดใหญ่ๆทั้งนั้น
มอนสเตอร์ทะเลออร์เตสถูกกำจัดแล้ว
|
ท่านได้รับค่าประสบการณ์แล้ว
|
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะการว่ายน้ำเพิ่มขึ้น
|
มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากไม่น้อยเลย
แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาเฝ้ารอมานาน
เปลวเพลิงสีแดงเข้มดั่งเลือดลุกเหิม
เล็ดลอดจากภายในโครงกระดูกของวีด คงถึงเวลาแล้วสินะที่จะสาธิตพลังที่แท้จริงของจอมเวทย์อมตะ
โดยถือคัมภีร์เวทย์ของบัลข่าน (Balkans tome)ด้วยมือหนึ่งและอีกมือก็ถือไม้เท้าของนักบุญผู้ดับสูญ
(Staff of fallen Saint) จากนั้นวีดก็เริ่มร่ายเวทย์
“จงตื่นขึ้นมา เหล่าดวงวิญญาณผู้มิอาจพานพบกับความสงบสุข
จงฟื้นคืนชีพแล้วมาเผชิญหน้ากับผู้พรากชีวิตของพวกเจ้า
เดดไรส์(Dead Rise)!”
ผืนน้ำบริเวณใกล้ๆวีดเริ่มลดลงฮวบฮาบแล้วก็มีปลาคาร์พอันเดทขนาดใหญ่ยักษ์ถูกอัญเชิญออกมา
(ฮ่าๆๆ จากการแปลของ BT
เรียกมันว่า “ปลาหางนกยูงยักษ์”)
มานาจำนวนมากไหลออกจากร่างของวีดอย่างกับกระแสน้ำลด
คงเพราะมอนสเตอร์ทะเลอันเดทที่มีขนาดใหญ่ เขาจึงต้องใช้จำนวนมานามากขนาดนี้
คงเพราะเขาเป็นจอมเวทย์อมตะ
ลิช พลังของทักษะเนโครแมนเซอร์จึงได้เพิ่มขึ้น
มอนสเตอร์ทะเลอันเดดเข้าโจมตีเหล่ามอนสเตอร์ทะเลในทันที
พวกมอนสเตอร์ทะเลรับการโจมตีจากทั้งหอกทมิฬกับมอนสเตอร์ทะเลอันเดดรวมกันกลายเป็นการโจมตีผสานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
พวกมอนสเตอร์พยายามดิ้นรนเพื่อชี้ตัวว่าการโจมตีมาจากทางฝั่งไหนแล้วไม่นานนักก็เพียงพอที่ให้พวกมันเริ่มโจมตีไปมากันเองแบบมั่วซั่ว
พวกคนที่อยู่บนเรือผีสิงก็เหมือนกันที่โจมตีอย่างสะเปะสปะใส่พวกสัตว์ตัวไหนที่เข้ามาในระยะโจมตีพวกเขา
“ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้ทดสอบเวทย์เนโครแมนเซอร์ขั้นที่สอง… ขั้นตอนแรก
เมื่อใดที่ชีวิตที่ใกล้กับการโจมตีดิ่งสู่กายที่อ่อนแอด้วยมนต์บทนี้ หรือว่าเมื่อใดที่ท่านอ่อนแอลงก็เริ่มสู่ขั้นตอนที่สองได้เลย”
(ฉันละชอบวิธีอ่านของมนต์จากคัมภีร์เนโครแมนเซอร์ที่อ่านเหมือนกับตำราอาหารจริงๆ
อย่างใส่กระดูกคนตายสองชิ้น ดวงวิญญาณที่โกรธเกรี้ยวหนึ่งดวง แล้วอัดเอาไว้ 10
นาที เมื่อเสร็จแล้วก็จะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่น่าสะพรึง
สนุกละทีนี้!)
“ท่านผู้ผ่านชีวิตมาแล้ว แล้วเพียงแต่ต้องติดอยู่ในดินแดนแห่งความโศกศัลย์
ความโศกเศร้าแม้นบรรเทาได้ แต่มิอาจจางหายไป จงสลักบัญญัติแห่งความมืดที่มีให้ผู้อื่นอีกเถิด
เหล่าอันเดดจงลุกขึ้น(Undead rise)! ”
เศษเนื้อทั้งหมดที่มาจากร่างของมอนสเตอร์ทะเลเริ่มหลุดรุ่ยออกจากกระดูกของพวกมันเอง
พวกมันเริ่มไม่รู้แล้วว่าจะจัดการกับมนุษย์พวกนี้ยังไงดี
เขาวิ่งรุดหน้าไปยังมอนสเตอร์ตัวหนึ่งแล้วก็ใช้โล่ตอนที่คนอื่นๆโจมตีอยู่
มันพยายามจะสลัดวีดออกไปแต่เขาเกาะติดมันหนึบอย่างกับปลิงเลย
“ทักษะสูบชีพ
ทักษะสูบมานา”
การสูบชีพและมานาเป็นการกระทำที่แสนต่ำช้าและขี้ขลาดมากจนไม่รู้ว่าจะแสดงออกทางคำพูดมายังไง
(!%$**$&$!)
(สรุปไม่รู้จะด่าว่าไงงั้นเถอะ)
ลอร์ดแห่งความมืดอันเดดที่แสนจะน่าเกรงขามคงจะไม่มีให้เห็นเลยที่แม้สิ้นหวังจนยอมใช้ชั้นเชิงแบบนี้
เขาจำต้องยอมตามน้ำไป เพียงเพราะ“ข้อตกลงการรักษาคอของท่านให้อยู่รอดของวีด”
เหล่ามอนสเตอร์อันเดดเกิดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆโดยการสูบค่ามานาและค่าพลังชีวิตที่ไม่สิ้นสุดจากพวกมอนสเตอร์ทะเล
ต่อมาก็มีการแปรเปลี่ยนอย่างมากมาย
ท่านได้รับค่าประสบการณ์แล้ว
|
มอนสเตอร์ทะเลออร์เตสได้รับค่าความเสียหาย
|
เหล่าเด็กทั้งเจ็ดของมอนสเตอร์ทะเลได้ถูกทำลายแล้ว
หากทักษะการปลุกชีพอันเดดถูกใช้ ค่ามานาครึ่งหนึ่งจะถูกใช้
ท่านได้รับครีบมอนสเตอร์ทะเลจำนวน
10
ครีบ
|
สิ่งมีชีวิตทางทะเลมักจะกำจัดได้ยากแถมยังหลบหลีกได้ดีอีกแต่เพราะเวทย์มนต์เนโครแมนเซอร์ทำให้เขาล่าพวกมันได้อย่างง่ายดายไปพร้อมกับกอบโกยค่าประสบการณ์กับลูทเอาของได้มากอย่างมหัศจรรย์
ยิ่งเหล่าอันเดดฟื้นขึ้นมามากขึ้นๆ พวกมอนสเตอร์ทะเลก็เริ่มถอยหนีไป
“ว้าววว!”
สมาชิกปาร์ตี้ที่อยู่บนเรือทรุดนั่งลงอย่างอ่อนล้า
“ยากมากจริงๆเลย”
“พวกมันมีค่าพลังชีวิตมหาศาลนะแต่ไม่ฉลาดเลยซะงั้น”
การล่าในดันเจี้ยนก็ถือว่ายากนะแต่เทียบไม่ได้เลยกับการสู้บนเรือที่สะบัดโยกเหยกโคลงเคลงเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้
คุณจะกลับไปเอาไอเท็มที่ตกอยู่ในดันเจี้ยนได้แต่ถ้าอยู่กลางท้องทะเลแบบนี้ละ? จะเป็นไปได้ยังไงเล่า
ค่าความคงทนของตัวเรือตกลงอย่างมาก
ถ้าหากเรืออื่นโดนโจมตีโดยฝูงสัตว์ทะเลคงไม่มีทางหลบหนีได้แน่นอน
ท่านประสบความสำเร็จการเดินเรือผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยของบรรดามอนสเตอร์ทะเล
เมลวินัส เมล่า(Malvinas
Mela)
|
ค่าทักษะความเชี่ยวชาญการเดินเรือเพิ่มขึ้น
|
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
160
|
จากตอนที่พวกเขาล่ามอนสเตอร์ทะเลก็ได้รับค่าประสบการณ์มากมาย
บางคนได้มากถึง 3
ถึง 6 หรือแม้แต่ถึง 8 เลเวล
แถมพวกมันยังดร็อปของดีเยี่ยมมาก
อย่างกับออกมาจากท้องของมอนสเตอร์ที่เป็นอัญมณีไข่มุก กระดองเต่าที่ไม่ได้โดนย่อย
หอยสดๆกับสาหร่ายที่กินได้อีก!
“ฉันจะจับมอนสเตอร์ทะเลซักหมื่นตัวถ้าหากตัวเรือไม่เสียหายซะก่อน”
ดวงตาของวีดอัดอั้นไปด้วยความเศร้าเสียใจในตอนที่พวกเขากำลังเดินทางต่อ
เป็นเวลานานมากเลยตั้งแต่ที่เขาไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการล่ามอนสเตอร์
มอนสเตอร์ทะเลนี่ช่างน่าท้าท้ายซะจริง
มานาได้ถูกใช้ไปอย่างคงที่เพราะใต้เรือผีสิงยังคงมีมอนสเตอร์ทะเลอันเดดอยู่ ทุกครั้งที่มันฆ่าปลา
ค่าประสบการณ์นิดๆหน่อยๆก็กลับมาหาวีด(แอดมิน:มีอันเดดแบบนี้
ยิ่งกว่าปล่อยบอทอีก)
ความเชี่ยวชาญทักษะเนโครแมนเซอร์เพิ่มขึ้น
|
แม้เป็นช่วงเวลานานที่เขาใช้ประติมากรรมจำแลง
แต่ว่าทักษะแห่งความมืดอย่างที่วีดต้องการก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
คลาสเนโครแมนเซอร์เป็นอาชีพที่แข็งแกร่งมากจริงๆ
ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลมีวัตถุจากเพียงสิบในพันเท่านั้นที่จะเพิ่มค่าความสามารถของจอมเวทย์อันเดด
ความสามารถทางคำสาปและค่าพละกำลังนั้นดีกว่าจอมเวทย์ธรรมดามากแต่ในทางกลับกันก็มีจุดอ่อนอีกมากมายอีกด้วยเช่นกัน
ระดับของทักษะยากมากจริงๆที่จะทำเลเวลได้
ยิ่งคุณสร้างพวกอันเดดมากเท่าไร คุณก็ยิ่งจำเป็นต้องใช้ซากศพมากขึ้นเช่นกัน
เพื่อที่จะได้อันเดดที่แข็งแกร่งบางครั้งก็จำเป็นต้องฆ่าผู้เล่นอื่นมาเป็นเหยื่อ
ถ้าคุณสามารถเข้าร่วมสงครามขนาดใหญ่ได้
แล้วทำดาเมจมากๆ ก็ได้ลูทของได้มาก แล้วยังเพิ่มเลเวลได้มากอีกด้วย
แต่ผลลัพธ์กลับเป็นว่าท่านอาจจะกลายเป็นเป้าหมายของพวกพวกฆาตกรและนักฆ่าได้
เหล่าเนโครแมนเซอร์จำเป็นต้องจัดการกับความตายและความมืด
แต่เพราะพลังของพวกเขานั้นอยู่เหนือความตายจึงได้รับดาเมจได้มากกว่า
ถ้าหากคุณตายก็จะนำไปสู่การลดลงของเลเวลกับความเชี่ยวชาญของทักษะ
เพราะถ้าหากว่าคุณไม่อาจฮีลได้โดยพวกนักบวช ก็มักจะตายระหว่างการต่อสู้
แถมยังเป็นอาชีพที่ใช้มานาเป็นอย่างมากแล้วยังต้องนั่งทำสมาธิบ่อยๆอีก
ผู้เล่นอาชีพนี้ที่อยู่ในการต่อสู้ขนาดใหญ่จะโดนปลีกตัวออกห่างเป็นพิเศษจากเหล่านักรบพวกเดียวกันเพราะสายอาชีพเนโครแมนเซอร์จะใช้ศัตรูและสหายศึกบางส่วนเพื่อสร้างเหล่าอันเดดขึ้นมา
อาชีพเนโครแมนเซอร์ช่างเป็นคลาสที่อันตรายและโดดเดี่ยวซะจริง
ผู้แปล:
Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
อาชีพในฝันตาวีดเลย
ตอบลบมีมหาเวทดูดดาวด้วย
ตอบลบมีข้อดีย่อมต้องมีข้อเสียบ้างล่ะนะ ธรรมดาของโลก
มอนสเตอร์ทะเลนี่แหล่งปั๊มเวลดีๆนี่เอง ขนาดปาร์ตี้กลุ่มวีดเลเวลไม่ใช่น้อยๆ แค่สู้ครั้งเดียว (กับมอนสเตอร์ทั้งฝูง) ยังเวลขึ้นกันคนล่ะ 3-8 เวลกันเลย : 3
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบวิง-กาเดี้ยม เลวิโอซ่า 555
ตอบลบที่แท้'ฮ็อกวอตส์'ก็โรงเรียนอนุบาลหรอกรึ!??
หนุกหนาน
ตอบลบไม่ต้องทำไรเเล้ว ปั้มเวลที่ทะเลไปเลย
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ