เล่ม 54 บทที่
2
: การจู่โจมของมังกร แปลโดย
PATWIT
FARM
ที่ป้อมปราการมิเลียม
เหล่าผู้เล่นที่ยืนอยู่ด้านบนกำแพงป้อมปราการ
สามารถมองเห็นฝูงมอนสเตอร์สีดำ
ที่ดูมืดมนและชั่วร้าย
ขณะที่พวกมันก้าวเท้าเข้ามาเรื่อยๆ
พื้นดินสั่นสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของพวกมัน
"อึ่ก
พวกมันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว"
"พวกมันไม่สามารถหยุดได้"
ผู้เล่นจำนวนมากยังคงไม่ได้กลับเข้ามา
นับตั้งแต่พวกเขาเดินทัพไปยังที่ราบการ์นาฟ
จำนวนผู้เล่นปัจจุบันที่ป้อมปราการมิเลียมอยู่ที่ประมาณ
5,000
คน
จากปกติ 30,000
กว่าคน
จำนวนได้ลดลงไปอย่างมาก
– หุหุ!
– ฉีกมนุษย์ให้เป็นชิ้นๆ
แล้วกินมันซะ!
ที่แนวหน้าของฝูงมอนสเตอร์มีสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าบุชเชอร์
มันเป็นบอสแห่งดันเจี้ยนสุดสยองในเลเวล
700
มันมีรูปร่างที่แปลกประหลาดและมีผิวสีดำ
*โครมมม !*
บุชเชอร์ ฟันไปที่กำแพงป้อมปราการด้วยขวานสองคมของเขา
ในแต่ละครั้ง เสียงดังสนั่นหวั่นไหวกัมปนาท
และในที่สุด
ส่วนหนึ่งของกำแพงก็พังทลายลงมา
"เราไม่ควรอยู่ที่นี่
เราต้องหนี"
“ฉันเห็นด้วย”
บรรดาผู้เล่นในป้อมปราการมิเลียมพากันดิ้นรน
หนีออกไปทางประตูหลัง
– ฆ่าพวกมนุษย์ให้หมด!
เหล่ามอนสเตอร์รีบกรูเข้ามา
ใกล้กำแพงที่บุชเชอร์ได้ทำลายไป
พวกมันปีนกำแพงอย่างไม่หยุดยั้ง
แต่ละตัวมี8ขา
มีขนและขาที่ยาวมากอีกด้วย
พสกมันบางตัวขุด มุดอยู่ใต้ดิน
และพุ่งออกมาจากภายในป้อมปราการ
ผู้เล่นที่ไม่สามารถหนีออกไปได้ทันก็ถูกสังหารทันที
< ป้อมปราการมิเลียมถูกยึดครองแล้ว
ชื่อเสียงของจักรวรรดิอาร์เพนลดลง
2
หน่วย
ระดับความภักดีและความปลอดภัยของพลเมืองใกล้ป้อมปราการมิเลียมลดลงอย่างมาก
อัตราการเกิดของมอนสเตอร์ใกล้บริเวณนี้จะเกิดบ่อยมากขึ้น >
จักรวรรดิอาร์เพนได้ยึดครองป้อมปราการมิเลียมในทวีปกลางและสูญเสียให้กับมอนสเตอร์ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์
หมู่บ้านซาวานท์
ป้อมปราการอันตัน
เมืองโซเวน
สถานที่เหล่านี้ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของเหล่ามอนสเตอร์ภายในเวลาเพียงวันเดียว
ผลกระทบจากมังกรเคย์เบิร์น
ทำให้ทวีปเวอร์เซลล์เต็มไปด้วย
มอนเตอร์จำนวนมากล้นหลาม
***
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ
คุณวีด!”
“อืม…คงจะดีไม่น้อยถ้าฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นอัศวินแห่งจักรวรรดิอาร์เพน”
“ดีใจที่ได้พบคุณในสถานที่แห่งนี้
ฉันประทับใจเกี่ยวกับภารกิจของราชาแห่งทะเลทรายเป็นอย่างมาก
หากคุณวีดไม่ได้มาที่ทะเลทราย
ฉันก็คงไม่ได้อยู่ที่นั่นเหมือนกัน”
บารัง
มันเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทะเลทราย
วีดเริ่มการเจรจาในสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม
เป้าหมายคือการยอมรับพวกเขาภายใต้จักรวรรดิอาร์เพนและยอมรับชนเผ่าแต่ละเผ่า
เขากังวลว่าชนเผ่าบางเผ่าอาจมีความทะเยอทะยานที่แตกต่างกันออกไป
แต่บรรดาผู้เล่นในภูมิภาคทะเลทรายไม่ได้ต่อต้านมัน
“ฮ่าๆ คุณวีดใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาเพื่ออัพเกรดภูมิภาค
ได้โปรดพัฒนาทะเลทรายให้เหมือนกับที่คุณทำเพื่อทวีปกลาง!”
“ค-เอ่อ”
“คุณจะลงทุนเม็ดเงินในทะเลทรายเป็นจำนวนเท่าไร? คงจะดีถ้ามีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่านทะเลทราย”
“ม..แม่น้ำ…”
“สวนสนุก! สร้างสวนสนุกให้คนมาเล่นเยอะๆ
สิ!”
ความนิยมของวีดมาถึงจุดสูงสุดไม่เว้นแม้กระทั่งในทะเลทราย!
อาจารย์นักดาบ และลูกศิษย์ตัดสินใจที่จะรวมเข้ากับจักรวรรดิอาเพ่น
โดยสมบูรณ์โดยไม่มีข้อสงสัยแม้แต่น้อย
และพวกเขายังต้องการมอบอำนาจการควบคุม
นักรบและสมาชิกเผ่าของพวกเขาด้วย
“บุรุษต้องอาศัยความไว้วางใจและความภักดี”
“แน่นอน เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะต้องตายเมื่อไหร่
เราต้องใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า”
วีดถอนหายใจอย่างเงียบๆ
ขณะที่เขาสังเกตสมาชิกเผ่าที่ถูกนำมาโดยลูกศิษย์
“คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะยุ่งวุ่นวายขนาดนี้”
อาจารย์นักดาบและลูกศิษย์คนอื่นๆ
ไม่ได้สนใจเรื่องกิจการภายในเลย
พวกเขาเพียงแค่นำอาหารมาให้ทุกครั้งที่คิดว่าสมาชิกกำลังจะอดตาย
ระดับความปลอดภัยของพื้นที่ทะเลทรายนั้นค่อนข้างต่ำและมีเทคโนโลยีในระดับต่ำ
วีดกำลังเผชิญหน้ากับชนเผ่าที่ยากจนซึ่งไม่มีแนวคิดเรื่องทรัพย์สิน
วีดส่งเสียงกระซิบถึงเมแพน
“โปรดส่งอาหารและสิ่งจำเป็นไปที่ทะเลทรายโดยเร็วที่สุด”
– เมปัน : ต้นทุนอาหารสูงขึ้นเนื่องจากเคย์เบิร์น
ต้องใช้ปริมาณเท่าไร?
วีดได้มองสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว
เขาเห็นผู้คนจำนวนมากมายนั่งอยู่บนผืนทราย
สมาชิกเผ่าทะเลทรายพร้อมอูฐและแกะเดินข้ามเนินทรายไป
“ผมต้องการอาหารที่เพียงพอเพื่อเลี้ยงคนประมาณ
100,000
คน
คุณช่วยจัดส่งให้ได้ไหม”
– เมแพน : ผมทำได้ครับ
แต่!!
คุณวีด
ผมเชื่อว่าตอนนี้คุณมีเงินไม่พอ...
“ลงบัญชีไว้ก่อนได้ไหม”
– เมแพน : ได้
แต่คิดดอกเบี้ย
3%
ต่อสัปดาห์
“อย่าให้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นระหว่างเราเลย…เพื่อนยาก”
– เมแพน : คุณวีดเคยกล่าวไว้ว่า
จงให้ในสิ่งที่คุณต้องการ
และจงรับในสิ่งที่คุณมี
นั่นคือความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
“คุณมีความจำที่ดีมาก”
– เมแพน : แล้วคุณก็บอกว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวเมื่อพูดถึงเรื่องเงินด้วย
“…”
วีดไม่สามารถจ่ายเป็นเครดิตได้และตกลงที่จะมอบอุปกรณ์ที่ดรอปได้จากสมาชิกกิลเฮอร์มิสในการต่อสู้ที่ทุ่งราบการ์นาฟแทน
< ดินแดนอันกว้างใหญ่ที่มีชนเผ่ามากมายคอยสนับสนุนคุณ
คุณมีอิทธิพลสูงสุดเป็นอันดับ
7
นับตั้งแต่จักรวรรดิพัลลอสถือกำเนิด >
ตำแหน่งที่มีอิทธิพลอันดับ
1
และ
2
คือ
อาจารย์นักดาบ
และ
นักดาบ2 พวกเขากำลังออกล่าทางเหนือพร้อมกับแฟนสาวของพวกเขา
การรวมตัวของภูมิภาคทะเลทรายทางตอนใต้ได้รับการตัดสินใจแล้ว
อาจารย์นักดาบ ยิ้มขณะที่เขาพูด
"เจ้าน้องเล็ก
เจ้ากำลังจะไปที่ไหน"
“ผมต้องเดินทางไปทางเหนือ”
มีสัญญาณว่าดวงตาแห่งดวงอาทิตย์กำลังขึ้นในทะเลทรายแห่งความเงียบงัน
เมื่อคืนในทะเลทรายเปลี่ยนเป็นสีแดงและผ่านไปหนึ่งหรือสองวัน
ดวงตาแห่งดวงอาทิตย์ก็ก่อตัวขึ้นและก่อให้เกิดพายุ
วีดไม่สามารถรออยู่เฉยๆ
ในทะเลทรายแห่งความเงียบงันได้
“เจ้าจะออกจากทะเลทรายแล้วหรอ?”
“หากดวงตาแห่งดวงอาทิตย์ก่อตัวขึ้น
ผมจะกลับมาทำลายพายุ
และผมก็จะได้พบกับชนเผ่าแห่งดวงอาทิตย์”
“เผ่าพระอาทิตย์…
ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขา
พวกเขาเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลทราย”
"แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง
แต่พวกเขาก็คงไม่ทัดเทียมกับเราได้"
“แน่นอน เราเก่งที่สุด”
***
บาร์ดเรย์สามารถหนีออกมาได้หลังจากเซ็นลายเซ็นให้กับผู้เล่นในโมราต้าอย่างน่าเบื่อหน่าย
“ฉันต้องรีบหน่อยแล้ว
ฉันจะไม่กลับมาใกล้โมราต้าอีกแล้ว”
ทวีปเหนืออันกว้างใหญ่
เคย์เบิร์น ทำให้มีมอนสเตอร์เพิ่มมากขึ้น
ทำให้การเจอหน้าผู้เล่นคนอื่นภายนอกเมืองเป็นเรื่องที่หายาก
“เฮ้ ไปกันเถอะ”
เขาขี่กระทิงที่ซื้อมาจากโมราต้าและเดินทางตรงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ
มอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในดันเจี้ยนแปลกประหลาดมักจะมาขวางทางเขาเป็นครั้งคราว
แต่พวกมันก็ไม่ค่อยเป็นภัยคุกคาม
“ดาบมานา”
ทักษะลับของวิชาดาบ สามารถเรียกดาบที่บินได้ออกมา
ในขณะที่มันบินอยู่
บาร์ดเรย์ก็พุ่งเข้ามาอย่างเฉียดฉิวที่หางของมัน
เจ้าวัวขี้ขลาดตกใจทุกครั้งที่มีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้น
แต่ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเจ้าของที่ขี่มันมีพลังอย่างมาก
หลังจากนั้น
มันก็ขยับขาทั้งสี่ข้างด้วยความเร็วที่บ้าคลั่ง
บาร์ดเรย์ไม่อยากจะเชื่อสมรรถภาพการขี่วัวของเขา
“วัวแทนที่จะเป็นม้า…
คิดไม่ถึงว่าจะได้ขี่มันด้วยซ้ำ
ถึงความเร็วเฉลี่ยจะช้ากว่า
แต่ผ่านโคลนได้ดีกว่ามากและมีกำลังมาก”
วัวของทางเหนือนั้นสามารถขี่ได้สบายมาก
เขามีเงินมากมายจึงซื้อวัวกระทิงราคาแพงมาตัวหนึ่ง
พ่อค้าหัวหน้าโมราต้าแห่งสมาคมเมแพนพูด
“คุณรู้จักเจ้าเหลืองที่คุณวีดขี่ไหม? เจ้าตัวนี้เป็นรุ่นที่
3
แล้ว
มันเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุด!
ข้อเสียคือมันกินเยอะมาก
แต่ความทนทานและความแข็งแกร่งของมันนั้นยอดเยี่ยมมาก”
เขาแสร้งทำเป็นฟัง แต่ยิ่งเขาเดินทางมากขึ้น
เขาก็ยิ่งตระหนักถึงความจริงในคำพูดของหัวหน้าพ่อค้ามากขึ้น
หากเขาปล่อยวัวออกไปสักพัก
มันจะกินหญ้าในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดและเดินเข้าไปหาของกินในป่า
*ปัง! ปัง!*
มันเตะต้นไม้แล้วคาบผลไม้ที่ร่วงหล่นจากพื้นดิน
*แคร๊ก!*
บางครั้งมันจะเตะด้วยแรงที่มากเกินไปจนกระทั่งต้นไม้ใหญ่และหนาทึบก็สามารถหักได้
มันขี้กลัวง่ายเกินไป
แต่มันน่าทึ่งมากในการต่อสู้
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้พึ่งพาพาหนะมากนักเมื่อคุณมีเลเวลสูงขึ้น'
บาร์ดเรย์ได้ยินข่าวเกี่ยวกับม้าที่เขาขี่มาจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้
“สจ๊วตสบายดี"
“สจ๊วต?”
มันเป็นม้าในตำนานที่เกิดมาจากความหากยาก
จากความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นจากหนึ่งในหลายล้าน
พวกเขาเดินเตร่ไปทุกที่
ล่าสัตว์มานับไม่ถ้วนด้วยกัน
และเขาก็สูญเสียม้าไปหลังจากที่พ่ายแพ้ต่อวีด
“อ้าา บางทีฉันไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้เลย
ฉันคิดว่าคุณคงอยากรู้
มันเติบโตได้ดีในฟาร์ม
มันได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย
และมันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับม้าตัวเมีย
มีที่ราบที่ม้าสามารถวิ่งเล่นได้อย่างอิสระถึงแม้อยู่ในภาคเหนือ
ดังนั้น
ฉันจึงกำลังวางแผนที่จะเริ่มผสมพันธุ์”
นอกจากนี้ เขายังได้ยินมาว่าในโมราต้ามีคนเลี้ยงแกะและคนงานในฟาร์มจำนวนมาก
จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิอาร์เพนเป็นช่างแกะสลัก
ดังนั้นงานสักงานเดียวจึงจะไม่ถูกมองข้าม
บาร์ด เรย์คิดกับตัวเองในขณะที่เขาขี่กระทิงไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ฉันจะชนะการต่อสู้ครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
อะไรอีกล่ะ...
วีดกลายเป็นนักรบแล้วหรอ? ฉันก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วย'
จุดที่ไกลที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือภายในทวีปเหนือ
อากาศค่อยๆ
เย็นลงเมื่อเขาผ่านหุบเขาแห่งความตายและป้อมปราการพูร์โกล
“มูวววว”
"เอ้าคลุมสิ่งนี้ไว้"
บาร์ดเรย์วางเสื้อคลุมเวทมนตร์ที่มีฟังก์ชั่นความร้อนไว้บนตัวเจ้าวัว
ถ้าเป็นวีด เขาคงพูดว่าวัวนั้นจะชินกับความหนาวเย็น
แต่บาร์ดเรย์กลับมีด้านที่อ่อนโยน
ในทางกลับกัน
เขากลับไร้เมตตาต่อศัตรูที่ต้องการพิชิต
ในที่สุดเขาก็มาถึงหมู่บ้านบาบาเรี่ยนของคนเถื่อนตัวใหญ่
“หยุดนะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับคนทั่วไป”
เขาได้รับข้อมูลขั้นแรก
นี้มาจากกิลด์เฮอร์มีส
หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านบาร์บาเรียนที่เขาสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักรบเลือดเหล็กได้
***
ภายใต้การบังคับบัญชาของทหารมังกร
ฝูงมอนสเตอร์ที่เดินทางผ่านช่องเขาวาร์ก
เพื่อโจมตีดินแดนของมนุษย์ก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“อ๊าก ครืนๆ!”
มีสัตว์ประหลาดเดินเตรเตร่ไปทั่ว
ฝูงสัตว์ประหลาดเหล่านี้มีขนาดใหญ่พอที่จะทำลายป้อมปราการและเมืองได้จำนวน
11
แห่ง
กองทัพสัตว์ประหลาด 4 ฝูงกำลังรวมตัวกันอยู่รอบ
ๆ
ธอร์
และกำลังรวบรวมอีกหนึ่งฝูงเพื่อกินพื้นที่บริตเทน
ฮาเวน
และทูลเลน
สำหรับเมืองฮาเว่น กิลด์เฮอร์มีสอันทรงพลังสามารถปกป้องตัวได้
แต่ส่วนที่เหลือจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากจักรวรรดิอาร์เพน
*ซู๋ ซ่า*
ฝนตกลงมาปกคลุมศีรษะของเหล่าสัตว์ประหลาดที่กำลังเดินเข้ามา
– ระดับความเป็นกรดต่ำแต่เป็นน้ำเน่าเสีย
ฝนที่ปนเปื้อนกำลังโปรยปรายลงมา
พืชในทวีปกำลังได้รับความเสียหายหรือตายไป
– เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกะทันหัน?
– สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่เราสามารถสันนิษฐานได้อย่างสมเหตุสมผล
ดูเหมือนว่าจะเกิดจากเคย์เบิร์น
น่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของมังกรดำ…
เราคาดเดาได้ว่าเขากำลังแพร่กระจายพิษ
เหล่าขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองแต่ละภูมิภาคต่างประกาศว่ามีข้อความในภารกิจเกี่ยวกับฝนคำสาปของเคย์เบิร์น
ซึ่งยืนยันว่าการคาดเดาต่างๆ
นั้นเป็นความจริง
– อันตรายจากทวีปสามารถหยุดยั้งได้ด้วยการเอาชนะเคย์เบิร์น
หรือเหล่าสัตว์ประหลาดเท่านั้น
-ต้นไม้ทุกต้นกำลังจะตาย...
นี่มันแย่มาก
เข้าขั้นวิกฤต
-แต่ยังโชคดีที่ฉันได้รับรายงานว่าต้นไม้ในป่าเอลฟ์ไม่ได้รับผลกระทบ
– มนุษย์ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่!
มังกรดำเคย์เบิร์นปรากฏตัวที่รัฐอิสระโซมุเรนหลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์
ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงของอาณาจักร
แต่เป็นเมืองขนาดใหญ่และมีอุตสาหกรรม
เป็นที่หลบภัยของผู้เล่นมากมายหลายคน
“อ้าา มังกรตัวจริงๆ
สินะ”
“มันยิ่งใหญ่มาก”
มีคำสั่งอพยพอยู่ในโซมุเรนแล้ว
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชื่อจักรวรรดิอาร์เพน
เพื่อดำเนินการละทิ้งเมือง
พลเมืองได้รับอนุญาตให้นำสมบัติหรือสินค้าราคาแพงไปได้มากเท่าที่พวกเขาสามารถขนไปได้
เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำในปราสาทอีวาลุก
“เราไม่สามารถปกป้องพวกคุณได้ทั้งหมด
อพยพออกจากเมืองนี้ทันที!”
ซอยูนเข้ามาด้วยตนเองและรับผิดชอบแผนการอพยพ
อย่างไรก็ตาม
มันส่งผลข้างเคียงที่ร้ายแรงเช่นกัน
“เธอสวยมาก”
“สวยจังเลยนะ หน้าตาดีจนเกินจริงเลยนะเนี่ย”
“ฉันมองเธออยู่แต่ฉันไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย
ผู้เล่นต่างฟุ้งซ่านและลังเลที่จะออกไป!
หลังจากที่ซอยุนได้ออกจากพื้นที่ไปแล้ว
การอพยพจึงยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ถึงกระนั้นก็ตาม ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะย้ายทุกสิ่งทุกอย่างและทุกคนที่อยู่ในเมืองออกไปภายในสัปดาห์เดียว
ผู้เล่นประมาณ
20%
ตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ
พวกเขาเลือกที่จะแบ่งปันชะตากรรมเดียวกันกับเมืองโซมุเรน
มีผู้เล่นจำนวนมากในเโซมุเรนที่อาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังเป็นผู้เริ่มต้น
“ไปโจมตีกันเถอะ!”
“ใช่แล้ว อย่ายอมแพ้”
ผู้เล่นยืนอยู่บนยอดอาคาร
ยิงลูกศรและร่ายคาถาใส่มังกร
ส่วนใหญ่ไม่สามารถไปถึงได้
และส่วนน้อยที่ไปถึงได้ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆ
ได้
– ไอ้พวกปัญญานิ่ม!
มังกรดำเคย์เบิร์นปล่อยทักษะอันทรงพลัง
"มังกรคำราม"
ผู้เล่นระดับต่ำเสียชีวิตทันที
ผู้เล่นระดับสูงจะเกิดอาการกลัวและอัมพาต
เคย์เบิร์นค่อยๆบินอยู่เหนือโซมุเรน
และบินวนรอบเมืองอย่างช้าๆ
จากนั้นก็ใช้เวทมนตร์
-มหาอุกกาบาตเพลิง
เมฆดำปกคลุมและฝนไฟตกลงมา
เป็นภาพที่น่าตกตะลึงเมื่อลูกไฟที่ลุกโชนตกลงมาจากเมฆสู่พื้นโลก
“เป็นไปไม่ได้”
“ไม่มีที่ไหนให้ซ่อนอีกแล้ว”
ฝนเพลิงกำลังเผาไหม้เมือง
การได้สัมผัสด้วยตัวเองนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับการดูมันออกอากาศ
สถาปัตยกรรมอันงดงามของเมืองถูกปกคลุมด้วยควันดำจนลุกเป็นไฟ
อาคารต่างๆ ที่ถูกไฟไหม้ในไม่ช้าก็สูญเสียโครงสร้างและพังทลายลงมา
– ข้าจะลบล้างร่องรอยอารยธรรมของมนุษย์ทั้งหมด!
จัตุรัสกลางเมืองซึ่งมีประติมากรรมและน้ำพุตั้งอยู่ก็ถูกเหยียบย่ำและทำลายโดยเคย์เบิร์นเช่นกัน
เพื่อปกป้องโซมุเรนและเพื่อดูช่วงเวลาสุดท้ายของบ้านอันเป็นที่รักของพวกเขา
ผู้เล่นที่เหลือจึงเสียชีวิตไปพร้อมกับมัน
ควันดำที่ลอยขึ้นจากโซมุเรนสามารถมองเห็นได้จากระยะทางหลายสิบกิโลเมตร
<การแก้แค้นของมังกร
มังกรดำเคย์เบิร์นกำลังเคลื่อนไหวอีกครั้งเพื่อทำลายอารยธรรมมนุษย์
เหล่าวิญญาณและนางฟ้ากำลังแจ้งเตือนอีกครั้ง
“หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เคย์เบิร์นจะมุ่งหน้าไปที่เมืองฮิลล์เชด”
ฮิลล์เชด เมืองหลวงของอาณาจักรอีเดิร์น
เมืองนี้มีระดับการพัฒนาสูงและมีผู้เล่นจำนวนมากเป็นเจ้าของบ้านเรือนอยู่ที่นั่น
***
วีดไม่สามารถปกป้องโซมุเรนได้
เขาไม่อาจตายไปเปล่าๆ
ได้
ดังนั้นเขาจึงไม่มุ่งหน้าไปที่นั่น
แต่ถึงกระนั้น
เขาก็ยังคงเสียใจอยู่ดี
มันเหมือนกับจิ้งจกเหม็น
ๆ
ที่กำลังเอาเล็บจิ้มชามข้าวสวยร้อนๆ
“ฆ่าทุกคนที่บุกรุกดินแดนของข้า
ปลุกชีพอันเดท!”
"น้อมรับบัญชา
นายท่าน"
วีดเคลื่อนตัวไปยังป้อมปราการวาร์โกทางเหนือและปลุกเหล่าอันเดดขึ้นมา
กองทัพสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ทั้ง
11
ฝูงกำลังคุกคามทวีปเวอร์เซลล์
กองทัพสัตว์ประหลาดสี่ฝูงที่นำโดยนักรบมังกรถูกสร้างขึ้นในภาคเหนือ
และต้องถูกกำจัดเสียก่อนจึงจะเข้ายึดครองเมืองได้
“ทุกคนยิงธนูของคุณต่อไป!”
“อย่าออกไปนอกกำแพงและยึดตำแหน่งไว้!
เราต้องสู้กันทั้งคืน”
ผู้เล่นรวบรวมและเตรียมป้อมปราการวาร์โกสำหรับการปิดล้อม
ทวีปทางเหนือไม่มีป้อมปราการที่เหมาะสม
หากบางภูมิภาคถูกยึดครอง
มอนสเตอร์จะกระจายตัวและบุกโจมตีหมู่บ้านขนาดกลางที่เจริญรุ่งเรือง
ที่ราบนั้นค่อนข้างกว้างใหญ่
ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นในทุ่งเพาะปลูกนั้นไม่สามารถฟื้นฟูได้
“ฉันจะยิงพวกที่สามารถโจมตีระยะไกลได้”
“น่าเสียดายมากที่ฉันไม่สามารถใช้เวทมนตร์ไฟในเขตพื้นที่ภูเขาได้
อย่างไรก็ตาม
ฉันสามารถใช้เวทมนตร์ลมได้!”
เพล และ
โรมูนะ
ก็เข้าร่วมด้วย
หลังจากกองทัพจักรวรรดิฮาเว่นพ่ายแพ้
ผู้เล่นระดับสูงจำนวนมากจากทวีปกลางก็ออกเดินทางท่องไปทั่วทางเหนือ
ไวเวอร์นบินผ่านข้ามท้องฟ้า
วีดโคลนนิ่ง
1,
2 และ 3 มาถึงแล้วและเปิดประเด็นการหารือเชิงกลยุทธ์
“การต่อสู้ก็คล้ายกับการค้าขาย
คุณจะได้รับเงินจากการโจมตีด้านหลังของสัตว์ประหลาด”
“อืม ปล้นพวกมันตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย”
“สัตว์ประหลาดพวกนี้น่าจะอร่อยมากถ้านำมาทำเป็นน้ำซุป”
ตัวโคลนนิ่งพวกนี้เป็นพวกที่โลภมากและชอบผัดวันประกันพรุ่ง
แต่พวกมันก็ฆ่าสัตว์ประหลาดอย่างขยันขันแข็งในขณะที่อยู่บนกำแพงป้อมปราการ
พวกมันสามารถใช้อาวุธได้ทุกประเภท
เช่น
ดาบ
หอก
และขวาน
พวกมันยังได้เรียนรู้ทักษะการผลิตที่หลากหลายอีกด้วย
เมื่อพวกเขาถึงเลเวล
580
ความสามารถทางกายภาพของพวกเขาก็ทรงพลังมาก
แต่ที่น่าเศร้าก็คือ
พวกเขาไม่สามารถใช้เทคนิคดาบลับหรือเทคนิคการแกะสลักได้
“ฉันควรฝึกคนพวกนี้ให้ดี
พวกมันจะเก่งกาจในการรับใช้”
วีดประเมินค่าสถานะของเหล่าประติมากรรมสลักชีพและนำพวกมันไปต่อสู้ที่ป้อมปราการวาร์โก
เพียงแค่เรียกอันเดดออกมา
เขาก็สามารถเติมเต็มตำแหน่งทั้งรุกและรับในการต่อสู้ดังกล่าวได้
“พวกคนแคระสามารถตีลูกธนูด้วยกองโลหะพวกนั้นได้เลย!
และพวกคุณจะไม่ถูกส่งออกไปสู้รบจนกว่ากำแพงป้อมปราการจะถูกทำลาย!”
“มันน่ารำคาญมากที่มีมนุษย์มาออกคำสั่งกับเรา”
คนแคระที่อาศัยอยู่ใกล้ป้อมปราการวาร์โกต่างก็อยู่ที่นั่นและรวมตัวกันเพื่อรับฟังข่าวสารของสงคราม
แม้ว่าคนแคระจะไม่ชอบการต่อสู้
แต่พวกเขาก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ยืนหยัดต่อสู้กับการรุกราน
พวกคนแคระที่เพิ่งมาถึงพูดคุยกัน
“เจ้าหนุ่มร่างสูงผอมโซตรงนั้นคือจักรพรรดิของเราใช่ไหม”
“เขาแค่สูงกว่าพวกเรานิดเดียว
เขาอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับมนุษย์คนอื่นๆ”
“มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง…”
“จากการที่เขาเดินไปมาอยู่กับพวกอันเดด
ดูเหมือนว่าจักรวรรดิจะถึงจุดจบในไม่ช้านี้”
“พวกมนุษนย์ก็ได้แค่นี้แหละ”
พวกเขามีทัศนคติเชิงลบต่อจักรพรรดิ!
แม้จะมีสถานะที่น่าเคารพนับถือและมีค่าสถานะที่สูงในด้านเสน่ห์
เกียรติยศ
ชื่อเสียง
และความเป็นผู้นำ
แต่การควบคุมคนแคระที่ดื้อรั้นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
พวกคนแคระเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้ชีวิตตามที่พวกเขาต้องการ
ไม่ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับโทษทัณฑ์ใดๆ
ก็ตาม
วีดไม่เคยได้รับความเคารพอย่างเหมาะสมในฐานะจักรพรรดิ
แต่เขาไม่อยากจบลงด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพวกคนแคระเพียงเพราะเรื่องผิวเผินอย่างความเย่อหยิ่ง
“ฉันจะจัดงานปาร์ตี้เบียร์เย็นๆ
พร้อมบาร์บีคิวครั้งใหญ่ไม่อั้นหลังสงคราม
ดังนั้นเตรียมลูกศรของคุณมาได้เลยให้ไว”
“อืม ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้”
“ฉันกำลังจะขึ้นไปบนก้อนโลหะพวกนั้นพอดีเล้ย”
“เบียร์เย็นๆ ช่วยคลายเหงื่อจากการเป่าลมได้ดีที่สุด”
“คุณเหมาะสมที่จะเป็นจักรพรรดิที่สุด”
ทันใดนั้น พวกคนแคระก็เริ่มตีลูกศรเหล็กที่สามารถเจาะทะลุสัตว์ประหลาดได้
วีดต้องพึ่งกำแพงป้อมปราการวาร์โกในการป้องกันพวกมอนสเตอร์
การต่อสู้ตรงหน้าดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยการสนับสนุนจากผู้เล่น
แต่เขาไม่ต้องการทำให้เกิดการสูญเสียใดๆ
โดยไม่มีเหตุผล
“นี่ต้องเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอย่างแน่นอน
การที่ใครสักคนต้องเสียชีวิตถือเป็นความสูญเสีย”
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องลดการขาดทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพื่อจะเก็บภาษีให้กับจักรวรรดิอาร์เพนได้มากขึ้น
วีดตะโกนประกาศ
– คนบาดเจ็บจงมารวมกันที่นี่!
คุณจะได้รับการรักษาโดยผ้าพันแผล
ดังนั้นมาที่นี่!
เขาสั่งให้พวกอันเดดสู้
และให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เขามีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำกองกำลังขนาดเล็กของอาณาจักรโรเซนไฮม์และต่อสู้กับพวกออร์ค
เอลฟ์ดำ
และกองทัพอมตะในอดีต
“ผ้าพันแผล? เขาพูดอะไร? คาถาฟื้นฟูก็ช่วยได้ดีหนิ”
“เงียบๆ นะ
คุณวีดรู้แค่ว่าจะร่ายคาถาสาปแช่งอย่างไรเท่านั้น
เขาไม่รู้หรอกว่าวิธีรักษาต้องทำยังไง”
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ก็ได้รับการรักษาโดยนักบวช
กองกำลังจากวิหารเฟรย่า
ลูห์
และมินเน่จำนวนเพียงพออยู่ที่นั่นเพื่อสนับสนุนจักรวรรดิอาร์เพน
***
ชาววิหคผู้ใฝ่ฝันถึงอิสรภาพ
ผู้ที่เกิดมาในเมืองลอยฟ้าแห่งลาเวียสได้ท่องไปทั่วทุกมุมของทวีปทางเหนือ
– อาร์ม : นี่คืออีเกิล
17
ระดับพื้นดิน
ตอบด้วย
– นกกระจิ๊บ : นี่คือพื้นดิน
ทราบแล้วเปลี่ยน.
– อาร์ม : พบฝูงมอนสเตอร์
คาดว่ามีมากกว่า
500
ตัว
จัดอยู่ในกลุ่มอันตรายระดับ
2
พวกชาววิหคสำรวจการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดในทวีปเหนือ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นพวกมันบนภูเขาหรือป่าไม้
แต่พวกมันก็อยู่ในสายตาของหน่วยลาดตระเวนเสมอเมื่อพวกมันออกมาที่พื้นที่ราบ
– อาร์ม :ตำแหน่งปัจจุบันอยู่ห่างจากหมู่บ้านลูกพลับ
ไปทางทิศตะวันออกประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยการบิน
สามารถมองเห็นช่องเขาพิริเน่ได้…
ทุ่งราบนาลรุนแบ่งเป็นสามส่วน
ฉันเห็นหมู่บ้านเล็กๆ
อยู่ทางทิศที่มอนสเตอร์กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา
– นกกระจิ๊บ : สถานที่นั้น…
บินโฉบไปดูกัน
มันคือหมู่บ้านผู้บุกเบิกซาเปีย
อาร์ม : ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ในอันตรายร้ายแรง
- รีคอน : เราไม่มีกองกำลังที่จะส่งไปเนื่องจากมีมอนสเตอร์อยู่ในภูมิภาคอื่น
คุณอาจต้องเบี่ยงเบนความสนใจมอนสเตอร์ไปทางอื่นนานกว่าหนึ่งชั่วโมง
คูณอาร์ม
นี่เป็นภารกิจที่อันตราย
คุณทำได้ไหม?
– อาร์ม : ผมเป็นอดีตนักบินกองทัพเรือสหรัฐ
ผมจะถ่วงเวลาให้
ผมจะรอการเสริมกำลัง
นกอินทรีตัวอ้วนบินลงมาใกล้พื้นดิน
*วู้ววว!*
สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสังเกตเห็นนกอินทรีและขว้างขวานออกไป
แต่ว่านกอินทรีก็กระพือปีกเบาๆ
และหลบมันได้
“ลองตามหางฉันมาสิ
ไอ้พวกโง่!”
“กราราห์!”
เหล่าสัตว์ประหลาดโกรธจัดและไล่ตามนกอินทรีไป
***
พวกชาววิหคมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นพลเมืองของอาณาจักรอาร์เพนมาตั้งแต่แรกเริ่ม
เมื่อใดก็ตามที่เกิดสงครามขึ้น
พวกเขาจะคอยควบคุมท้องฟ้าเสมอ
และพวกเขาก็ไว้วางใจวีด
– ปัลลาวู : พี่น้อง
ฉลองกันเถอะ
คุณวีดสร้างบ่อน้ำพุร้อนให้พวกเราในครั้งนี้
– โดติน : น้ำพุร้อน?
– ปัลลาวู : ลาเวียสหนาวมากเพราะละติจูด
โดยเฉพาะเมื่อลมหนาว
ไม่ใช่เรื่องตลกเลย
เมื่อกลับมาที่โมราต้า
ฉันบอกเขาว่าเราต้องการบ่อน้ำพุร้อนจริงๆ
– คิน : แล้วไง?
– ปัลลาวู : คุณวีดสัญญาว่าจะสร้างอันหนึ่งให้กับเรา
ฉันคิดว่าเขาแค่พูดปัดเพื่อเลื่อนเวลาไปเท่านั้น...
แต่เขาก็จำเรื่องนั้นได้และทำอันหนึ่งให้กับเราในครั้งนี้
– ซินธ์ : น่าทึ่งมาก
ผมเป็นมือใหม่ที่เพิ่งออกจากไข่
และผมหมดตัวแล้ว
ผมเลยไปต่อไม่ได้…
ผมจะใช้ในอนาคตอย่างแน่นอน
– ปัลลาวู : ไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการบ่อน้ำพุร้อน
บ่อน้ำพุร้อนนี้สร้างขึ้นเพื่อชาววิหคโดยเฉพาะ
ดังนั้นเราจึงไม่ต้องหนาวสั่น
– เบนจามิน : หึๆ
ข้าขอสาบานว่าจะจงรักภักดีตลอดไป!
เป็นไปตามคาดของคุณวีด
จริงๆแล้ว วีดลืมคำสัญญานี้ไปนานแล้ว
หากเขาสร้างมันขึ้นมาเอง
เขาคงได้เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม
และอาจจะถอนขนพวกมันด้วยซ้ำหากพวกมันไม่มีเงินเพียงพอ!
ซอยูนจดจำคำสัญญานั้นได้และรักษามันไว้เมื่อเธอเริ่มลงทุนครั้งใหญ่ในจักรวรรดิอาร์เพน
ในลาเวียส แลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่
"รังนกวายุ" กำลังถูกสร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน
ภายใต้ท้องฟ้าสีครามเหนือป้อมปราการวาร์โก
ปิงหลงกำลังโบยบินโดยกางปีกออกกว้าง
ผิวน้ำแข็งของมันสะท้อนแสงแดดและเผยให้เห็นคลื่นสีสันที่สดใส
“ปิงหลงมาแล้ว!”
“กำลังเสริมมาแล้ว!”
พวกเอลฟ์และพวกคนป่าบาบาเรี่ยน
ที่กำลังปกป้องกำแพงป้อมปราการวาร์โกและนักล่าในบริเวณใกล้เคียงต่างส่งเสียงเชียร์
*บึ้ม!*
แรงกระแทกอันมหาศาลจากการลงจอดทำให้กำแพงป้อมที่อยู่ห่างออกไปสั่นสะเทือน
“ฮึ่มม สิ่งมีชีวิตที่เลียนแบบมาจาก
ท่านเคย์เบิร์น
ผู้ยิ่งใหญ่…
ฆ่ามันซะ!”
นักรบมังกรที่นำเหล่ามอนสเตอร์ออกคำสั่ง
จากนั้น
มอนสเตอร์ที่กำลังโจมตีป้อมปราการวาร์โกก็เปลี่ยนเป้าหมายและบุกโจมตีปิงหลง
<วินเทอร์รูท
รากแห่งฤดูหนาว >
ปิงหลงเปิดใช้งานคาถาเวทย์มนตร์
มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้เคียงค่อย
ๆ
หยุดนิ่งโดยเริ่มจากเท้าของมัน
< ใบมีดน้ำแข็ง >
ปิงหลงเหวี่ยงขาหน้าออกไปและใบมีดน้ำแข็งยาวราว
20
เมตรก็พุ่งไปโจมตีพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดในคราวเดียว
“คุก!”
“มันทรงพลังมาก”
เมื่อปิงหลงเกิดมาครั้งแรก
มันมีพละกำลังและความอดทนต่ำมากจนแทบจะขยับตัวไม่ได้
และเวทมนตร์ของมันก็ไม่มีความสำคัญ
มันเป็นข้อบกพร่องโดยธรรมชาติของการให้ชีวิต
มันน่าผิดหวังมาก
จนวีดจำกัดตัวเองจากการปลุกสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเติบโตที่มั่นคง
มันได้แสดงให้เห็นถึงระดับการต่อสู้ที่เหมาะสมสำหรับประติมากรรมสลักชีพ
ด้วยคุณสมบัติของน้ำแข็งและเวทมนตร์
“แยกกันไปและโจมตี!”
เหล่ามอนสเตอร์รวมตัวกันอีกครั้งรอบ
ๆ
ปิงหลง
พวกมันมีอยู่หลายร้อยตัว
แต่พวกมันก็ต้องดิ้นรนกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเมื่อเข้าใกล้ปิงหลง
ลมหนาวที่รู้สึกได้เฉพาะในภูเขาฤดูหนาวเท่านั้น
ทำให้อุณหภูมิลดลง
และเท้าของพวกเขาแทบจะแข็งติดพื้นทุกครั้งที่ก้าวเดิน
< หมอกน้ำแข็ง >
ปิงหลงเปิดใช้เวทย์มนตร์อีกอันและหมอกหนาทึบก็ปกคลุมไปทั่วในหมู่สัตว์ประหลาด
คาถาเวทมนตร์น้ำแข็งที่ปิดกั้นการมองเห็นและลดอุณหภูมิ
< พายุหิมะ >
ปิงหลงไม่ได้ปรารถนาการต่อสู้ระยะประชิดตัวต่างจากมังกรดำเคย์เบิร์น
ตั้งแต่ถือกำเนิด
ปิงหลงยึดมั่นกับรูปแบบการล่าที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด
หากเป็นเหมือนกับสถานการณ์อื่น
ๆ
มันคงไม่ได้ลงไปถึงระดับพื้นดินที่มอนสเตอร์อยู่เลย
การต่อสู้แบบพอประมาณจากด้านบนเหมาะกับบุคลิกที่ระมัดระวังและเฉื่อยชาของมัน
“เจ้าจงลงไปที่พื้นแล้วต่อสู้”
กระบวนการคิดของวีดสำหรับคำสั่งนี้น่าสงสัย
เมื่อปิงหลงถาม
เขาก็ตอบในลักษณะเดียวกัน
“ตุ๊กตาที่เลียนแบบแกขายดีมากในตอนนี้
สเก็ตบอร์ดและจักรยานสามล้อสำหรับเด็ก
ก็พร้อมออกสู่ตลาดเช่นกัน
แกควรปรากฏตัวในรายการออกอากาศให้บ่อยขึ้นในช่วงนี้”
ปิงหลง เป็นหนึ่งใน
5
ประติมากรรมสลักชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเสมอมา!
ปิงหลงเร่งเปิดใช้คาถาขั้นสูงที่สุดในคลังอาวุธของมัน
พายุหิมะพัดพามอนสเตอร์ออกมาจากภายในหมอกหนาทึบ
และฆ่าพวกที่มีความต้านทานเวทมนตร์ต่ำทันที
แล้ว…
ปิงหลงสูดหายใจเข้าลึกๆ
และ…
ปิงหลงพ่นลมหายใจเข้าท่วมฝูงศัตรูทั้งหมด
เริ่มจากมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
ศัตรูทั้งหมดก็แข็งตัวเป็นลูกโซ่!
“พอแค่นี้ก่อน!”
ปิงหลงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่เสียใจหลังจากได้ยินเสียงของเจ้านายของมัน
เหล่ามอนสเตอร์ที่ตายไปแล้วก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในรูปแบบอันเดดโดยยังคงมีก้อนน้ำแข็งติดอยู่ตามร่างกาย
< คุณได้รับประสบการณ์ >
< คุณได้รับประสบการณ์ >
< คุณได้รับประสบการณ์ >
…
< ความสำเร็จการต่อสู้ที่กล้าหาญ!
ความภักดีของพลเมืองป้อมปราการวาร์โกกำลังเพิ่มขึ้น >
วีดเข้ารับหน้าที่ในการทำสงครามปิดล้อมกับเหล่ามอนสเตอร์และกวาดเอาค่าประสบการณ์
ประสิทธิภาพนั้นสูงกว่าการล่าในดันเจี้ยนถึง
3
หรือ
4
เท่า
และยังยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จในการต่อสู้อีกด้วย
นอกจากการเรียกอันเดดแล้ว
ลูกศรที่ยิงออกมาจากที่สูงของกำแพงป้อมปราการยังเจาะตรงไปที่คอของมอนสเตอร์อีกด้วย
“อืม ฉันคิดว่าด้านนี้คงเรียบร้อยดีแล้ว”
วีดรับรองชัยชนะขณะที่เขาสำรวจไปทั่วสนาม
เหล่ามอนสเตอร์ที่เลเวล
500
และ
600
ได้ผลักพวกอันเดดออกไปและโจมตีกำแพงป้อมปราการ
*บึ้ม. โครม!*
มอนเตอร์ที่มีพละกำลังมากพอที่จะทำลายกำแพงจะถูกมุ่งเป้าและพิชิตลงทีละตัว
โดยนักเวทมนตร์และนักธนู
“เย้!”
“ฉันฆ่าพวกมัน ฉันเป็นคนทำ!”
ขวัญกำลังใจของผู้เล่นที่ป้องกันอยู่ในระดับสูงที่สุด
โดยพื้นฐานแล้ว ป้อมปราการวาร์โกเป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่มั่นคงระหว่างช่องเขา
นอกจากนี้
ยังมีผู้เล่นจากภาคเหนือเข้าร่วมการต่อสู้เป็นจำนวนมาก
เมื่อใดก็ตามที่ข่าวคราวของวีดในการต่อสู้แพร่กระจายออกไป
ผู้เล่นก็จะมารวมตัวกันเหมือนฝูงผึ้ง!
พวกเขาผลักดันกองทัพมอนสเตอร์กลับไปในการต่อสู้อันเข้มข้นที่ป้อมปราการวาร์โก
และยังมีการต่อสู้ครั้งอื่นที่กำลังดำเนินอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาค
“ทุกคนตั้งสติไว้!”
ซอยูนเข้าร่วมการต่อสู้พร้อมกับเหล่าประติมากรรมสลักชีพขนาดยักษ์อย่างราชาไฮดรา
ฟีนิกซ์
หนอนมรณะ
และงูชนบท
พวกเขาร่วมกับผู้เล่นเลเวลสูงทางเหนือที่เอาชนะกองกำลังเวทมนตร์
โจมตีเหล่าสัตว์ประหลาดบนที่ราบอันหนาวเหน็บ
มันไม่ใช่การต่อสู้ที่ง่ายเลย
และพวกประติมากรรมสลักชีพขนาดยักษ์ทั้งหมดยกเว้นปิงหลงก็ถูกระดมพล
– กำจัดพวกมันทั้งหมด
พวกบารากส์มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์สองสายที่มุ่งหน้าสู่ปราสาทเวนท์
พวกมันเป็นกองทัพอากาศที่ยอดเยี่ยม
และลดจำนวนมอนสเตอร์ลงอย่างต่อเนื่องด้วยการพ่นไฟ
ผู้เล่นที่ปกป้องปราสาทเวนท์
สามารถเห็นได้ว่าเมื่อมอนสเตอร์เข้ามาใกล้กำแพง
พวกมันก็ถูกกำจัดไปแล้วถึงหนึ่งในสาม
เมื่อถอยห่างจากการต่อสู้
จะพบว่ามีมอนสเตอร์จำนวนมากเดินเพ่นพ่านอยู่ในทวีปทางเหนือ
หากไม่นับเมืองใหญ่ๆ
แล้ว
ก็ไม่มีแนวป้องกันที่เหมาะสมอย่างป้อมปราการและกำแพงป้อมปราการ
ดังนั้น
ชาววิหคและสถาปนิกจึงใช้ความสามารถของตนร่วมกัน
“หากพวกสัตว์ประหลาดเข้ามาใกล้
เรามาเริ่มหิมะถล่มกันเถอะ”
“นั่นน่าจะเป็นวิธีที่จะทำได้ใช่ไหม?”
“นี่เป็นภูเขาหิน
ดังนั้นมันจึงน่าจะมีประสิทธิภาพมาก
หากแผนนี้ได้ผล
เราก็สามารถซื้อเวลาได้”
สถาปนิกและผู้เล่นมือใหม่ที่เข้าร่วมเพื่อรับเงิน
2
ทอง
ได้เปลี่ยนภูมิประเทศ
พวกเขาใช้ประโยชน์จากนิสัยของมอนสเตอร์ที่ไม่ยอมสอดแนมแม้แต่ในภูเขา
และพังหน้าผาลงมา
มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งนั้นมีโอกาสตายจากหิมะถล่มน้อยลง
แต่ก็จะทำให้พวกมันได้รับความเสียหายและลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง
“ที่นี่มันสนุกนะ”
“เป็นกลิ่นหอมที่สดชื่นมากทีเดียว
แต่ก็ทำให้เวียนหัวด้วยเหมิอนกัน”
ผู้เล่นทวีปกลางได้เดินทางมายังทวีปเหนือด้วยความคาดหวัง
บางคนได้เข้าร่วมกองทัพและกลายเป็นอัศวินของจักรวรรดิอาร์เพน
เมื่อได้รับการเลื่อนยศเป็นอัศวินแล้ว
พวกเขาก็จะได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆ
อีกหลายประการ
เช่น
สามารถสะสมเกียรติยศและชื่อเสียง
รวมถึงคะแนนการมีส่วนร่วมด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเงิน
พวกเขาก็สามารถกลายเป็นขุนนางได้โดยการสะสมคะแนนผลงาน
ผู้ล่นเหล่านี้มีความศรัทธาในอนาคตของจักรวรรดิอาร์เพนและกลายมาเป็นอัศวินในฐานะการลงทุนระยะยาว
ผู้เล่นทวีปกลางเข้าร่วมการต่อสู้อย่างกระตือรือร้นและมีส่วนร่วมในการปกป้องทวีปเหนือ
“เรามาใช้แม่น้ำตรงนี้ให้เป็นประโยชน์กันเถอะ”
สถาปนิก มิบูลโล
ได้คิดแผนการอันกล้าหาญ
พวกมอนสเตอร์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่ข้ามแม่น้ำบ่อยนัก
พวกมันสามารถเดินในน้ำตื้นได้
แต่เกลียดการว่ายน้ำ
พวกเขาใช้ข้อเท็จจริงนั้นและสร้างสะพานขึ้นมาเพื่อล่อให้มอนสเตอร์มาเหยียบบนสะพาน
“คุก!”
“เคิร์ก!”
เหล่ามอนสเตอร์เดินขบวนข้ามสะพานที่ติดตั้งไว้
พวกมันผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์
และในขณะนั้นเอง
มิบูลโลก็ใช้ทักษะของเขา
“เทคนิคการรื้อถอนอาคาร!”
สะพานพังทลายลงทันที
และมอนสเตอร์ก็ถูกกระแสน้ำพัดหายไป
ชาววิหคไปมาบนท้องฟ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และคอยสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของพวกมอนสเตอร์
เพื่อล่อพวกมันไปยังตำแหน่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เล่น
ผู้เล่นทุกคนในทวีปเหนือต่างก็ดำเนินการตามภารกิจของตนเอง
“เอามันไปซะ!”
“เคย์เบิร์นปัญญานิ้ม!”
มอนสเตอร์บางตัวที่ยากต่อการควบคุม
ก็ถูกล่อกลับมาโดยผู้เล่นบนหลังม้า
“พวกมันกล้าดีอย่างไรที่จะดูหมิ่นท่านเคย์เบิร์น
ไล่ตามพวกมันไป!”
นักรบมังกรที่เป็นผู้นำเหล่ามอนสเตอร์นั้นมีความภักดี
แต่ไม่มีสมอง
ป้อมปราการวาร์โก้ ปราสาทเวนท์
โมราต้า
วาร์น่า
และพระราชวังแห่งโลกา!
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปทุกวันในจุดที่คับขันเหล่านี้เพื่อป้องกันคลื่นมอนสเตอร์
***
รีเวิร์สได้โอกาสสังเกตวีดจากระยะใกล้โดยไม่คาดคิด
การจะพบกับวีดหลังจากบาร์ดเรย์ที่โมราต้า
มีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน? ฉันหมายถึงว่า
การพบบาร์ดเรย์ทางตอนเหนือนั้นน่าประหลาดใจกว่ามาก
แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปมากก็ตาม'
วีดกำลังลาดตระเวนในสถานที่สำคัญเพื่อป้องกันมอนสเตอร์เวฟทางเหนือ
แม้แต่ในโมราต้า เขาก็ยืนอยู่บนยอดกำแพงป้อมปราการและกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชน
เนื้อหาของสุนทรพจน์นั้นช่างไร้สาระ
– ทุกคน ฉันมีข่าวดีมาบอก
เหล่ามอนสเตอร์กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองนี้
เพื่อมอบคะแนนประสบการณ์และของสะสมต่างๆ
ให้กับเรา
หนัง
เขา
เนื้อ!
“หนัง, เขา, เนื้อ!”
– กิน. เก็บของ.
ร่ำรวย!
“กิน. เก็บของ.
ร่ำรวย!”
ต้นกำเนิดของลัทธิโจ๊กหญ้า
ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของอาณาจักรอาร์เพน
อยู่ที่โมราต้า
และสมาชิกเหล่านั้นล้วนเป็นพวกคลั่งไคล้ทุกสิ่งที่วีดพูด
พวกเขาก็จะทำตามอย่างกระตือรือร้น
ราวกับว่าพวกเขาถูกสะกดจิต
พฤติกรรมของพวกเขา คือสิ่งที่บรรดาผู้นำลัทธิชั่วร้ายหลอกลวงทั่วโลกปรารถนา
“ความสามารถของเขาในการปราศรัยนั้นไม่ธรรมดา”
รีเวอร์สยืนอยู่ห่างออกไปและสังเกตต่อไป
เขาเบื่อหน่ายกับการตีหุ่นไล่กา
และเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นภาพที่ดูน่าสนใจ
หุ่นโง่ๆพวกนั้น มันต้องใช้ความพยายามมากเกินไป
และฉันก็เบื่อหน่ายกับสิ่งนี้แล้ว'
*เสียงดังกึกก้อง!*
เขารู้สึกหิวเช่นกัน
ทันใดนั้น
ชายคนหนึ่งที่มีพุงหนาอย่างเหลือเชื่อก็เดินเข้ามาหาเขา
"ท่าน."
“…..!”
รีเวอร์สคิดว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาหาเขา
แม้แต่ภายในบริษัทยูนิคอร์นก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักเขา
แต่ถึงอย่างนั้นก็หมายความว่าเขาจะต้องถูกเปิดเผยในที่สุด
“ฮ่าๆ ดูเหมือนคุณเพิ่งเริ่มเล่นรอยัลโรด
นะเนี่ย
ถ้าคุณหิว
คุณอยากกินอันนี้ไหม”
สิ่งของที่ชายคนนั้นเอามาคือองุ่น
มันสุกกำลังดี องุ่นสีเข้มละเป็นมันเงา
‘นี่คือองุ่นโมราต้าที่ฉันสามารถหาซื้อได้พียงรอบๆ
ตลาดเท่านั้น!’
รีเวิร์สไม่อาจหยุดน้ำลายไหลได้
แม้ว่าเขาจะมีความภูมิใจก็ตาม
“ทำไมคุณถึงเสนอสิ่งนี้ให้ฉัน”
“ขออภัย? มันก็แค่การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
นี่เป็นวัฒนธรรมทั่วไปในโมราต้า”
ในเมืองโมราต้า หากใครต้องการความช่วยเหลือ
ผู้คนต่างเสนอความช่วยเหลืออย่างเต็มใจไม่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นมือใหม่ก็ตาม
มีทฤษฎีที่แพร่หลายว่าเหตุผลที่ลัทธิโจ๊กหญ้าเติบโตอย่างกะทันหันนั้นเกิดจากวัฒนธรรมที่ผู้เล่นมือใหม่สร้างขึ้นในเมืองโมราต้า
เมื่อเทียบกับทวีปกลางที่ผู้เล่นสามารถแบ่งแยกตามระดับและการเชื่อมต่อ
ผู้เล่นจะสัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่และความอบอุ่นจากผู้คนในโมราต้า
“หากเป็นกรณีเช่นนั้น
ข้าพเจ้าก็ยินดีรับไว้”
เขาได้องุ่นกลับมาและเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำร้ายความภาคภูมิใจของเขา
เพราะนี่คือวัฒนธรรมของโมราต้า
เขาสามารถลิ้มรสรสหวานและเปรี้ยวได้เมื่อหยิบองุ่นเข้าปาก
และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาเคยลิ้มรสในชีวิต
< คุณกำลังรับประทานองุ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
ความเร็วในการฟื้นคืนความแข็งแกร่งกำลังเพิ่มขึ้น
ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นชั่วคราว
1
>
ในช่วงเริ่มต้นก็รู้สึกขอบคุณแม้การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ
น้อยๆ
ขณะรับประทานอาหาร
“ใช่ ฉันไม่ได้กินองุ่นมากี่ปีแล้ว
ฉันต้องซื้อสักสองสามกล่องแล้วล่ะ”
ฉันไม่มีเงินใน รอยัลโรด
ดังนั้นในชีวิตจริงฉันจึงควรจะ…'
เขาได้รวบรวมโกโก้ได้จากทั่วทุกมุมโลกไว้
และกำลังเก็บมันมาเรื่อยๆ
จากนี้ไป
เขาจะเก็บองุ่นมากินด้วยเช่นกัน
จากนั้นเขาได้ยินเสียงอันนุ่มนวลของชายคนนั้น
“ท่านครับ หากท่านคิดจะสร้างกระท่อมในอนาคต
โปรดโทรหาผมด้วย”
"ฮะ…?"
“ผู้ชายควรมีบ้านในโมราต้าไม่ใช่หรือ? ที่
บริษัทเมแพนรับเหมาสร้างบ้าน
เราจะรับผิดชอบในการแนะนำคุณตลอดขั้นตอนการก่อสร้าง”
วีดคอยสั่งการสงครามที่กำแพงป้อมปราการท่าเรือวาร์นา
หลังจากที่เขาลาดตระเวนที่โมราต้า
เขาปลุกอันเดดขึ้นมาและเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับผู้เล่นด้วยเสียงตะโกนของเขา
– สู้มัน ประชาชนของข้าพเจ้าทุกคน…
ปกป้องดินแดนของพวกเรา!
“ยิงอย่างบ้าคลั่ง”
“ใช้ลูกศรให้หมด”
นักรบ นักเวทย์
ชาวประมง
และพ่อค้า
ต่างก็ยิงธนูใส่สัตว์ประหลาดจากด้านบนของกำแพงป้อมปราการ
การยิงธนูใส่ฝูงสัตว์ประหลาดถือเป็นโอกาสดีในการได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก
เหล่าสัตว์ประหลาดถูกรุมเร้าอยู่ติดกับกำแพงหินและประตูที่สร้างขึ้นอย่างเร่งรีบ
สัตว์ประหลาดนับหมื่นร้องคำราม
และปีนป่ายเพื่อที่จะรุกรานท่าเรือวาร์นา
“ค-อาร์ก!”
“คยาาาาคยาค”
“พิชิตพวกมัน นำความรุ่งโรจน์มาสู่ท่านเคย์เบิร์น!”
เหล่ามอนสเตอร์ภายใต้การบังคับบัญชาของนักรบมังกรพยายามที่จะฝ่าประตูเข้ามา
ทุกครั้งที่มอนสเตอร์ตัวใหญ่สูงกว่า
5
ถึง
10
เมตรพุ่งเข้าชนประตูเหล็ก
แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก
อย่างไรก็ตาม ประตูที่สร้างโดยสถาปนิก
มิบูลโล
เองไม่ได้พังง่ายนัก
ไม่นานนักกำแพงป้อมปราการก็เริ่มถูกถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว
แต่ผู้เล่นก็ยืนเรียงแถวกันแน่นและยิงลูกศรของพวกเขา
วีดใช้คาถาคำสาปใส่เหล่ามอนสเตอร์ที่พยายามทำลายประตู
“อ่อนแรง! หนองน้ำไร้ก้นบึ้ง!"
ผลของคาถาเวทย์มนตร์มีนัยสำคัญในการป้องกันการโจมตีของศัตรู
มีมอนเตอร์หลายประเภทที่ย้ายออกจากถิ่นที่อยู่ตามปกติของพวกมัน
หลังจากถูกนักรบมังกรยุยง
เป็นการรวมพลเหล่ามอนสเตอร์อย่างแท้จริง!
พวกมอนสเตอร์ไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของมังกรที่มีอำนาจและการควบคุมเหนือพวกมันได้
คาถาประเภทพิษนั้นมีความพิเศษเฉพาะกับมอนสเตอร์ที่มีค่าพลังชีวิตจำนวนมากหรือมอนสเตอร์ที่มีผิวหนังหนาคล้ายเกราะ
มีดินแดนและดันเจี้ยน
ที่ยังไม่ได้รับบุกเบิกจำนวนมากในบริเวณใกล้เคียงของท่าเรือรวาร์นา
ส่งผลให้มีสัตว์ประหลาดจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง
พวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป!
พวกนักเวทย์และชาร์แมน
ทางเหนือเดินทางมาจากการบินด้วยความช่วยเหลือของชาววิหค
“กำลังเสริมมาแล้ว!”
“พวกเราต้องทำได้!”
“โจ๊กหญ้า!”
“โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!”
กำแพงป้อมปราการเป็นแนวป้องกันสุดท้ายของท่าเรือวาร์นา
สถาปนิกได้แสดงความสามารถของตนโดยรีบติดตั้งกับดักป้องกัน
เช่น
ร่องลึก
หลุมที่เต็มไปด้วยหนามเหล็ก
และหนองน้ำพิษ
ที่บริเวณริมน้ำของท่าเรือวาร์นา
เรือขนาดใหญ่ที่มีใบเรือกว้างแล่นเข้ามาด้วยความเร็วสูง
จากนั้นก็หยุดลง
“พวกเราเป็นโจรสลัด
แต่เราชอบการต่อสู้”
“ใช่ เราไม่ได้มาเพราะกลัวภัยคุกคามจากคุณวีด
เราแค่มาเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเท่านั้น
ฉันไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว”
เฮ แฟรคทัล
และบอร์ดเมียร์
3 ฉลามคลั่งแห่งเบ็คกี้นินเข้าร่วมกับกองเรือโจรสลัด
“สู่กำแพงป้อมปราการ!”
“ว้าก!”
“อย่าละสายตาจากร้านค้า
ฉันจะไล่คนที่แอบเข้ามาปล้นสะดมออกไป!”
ผู้เล่นที่ต้องการปกป้องท่าเรือวาร์นายังคงรวมตัวกัน
พวกเขาเป็นผู้เล่นที่กลับมาเพื่อปกป้องบ้านเกิดของตน
และเมื่อมอนสเตอร์เข้ามา
พวกเขาก็กระตือรือร้นที่จะสร้างความสำเร็จในการต่อสู้
“ถ้าเกิดอันตรายเกินไปก็ถอยกลับมาได้
เราจะส่งกองกำลังสำรองเข้าไป!”
“เราจะสู้ต่อไป ถึงแม้จะมีกองหนุนอยู่ก็ตาม
พวกเขาเป็นเพียงมือใหม่เท่านั้น”
“ใช้น้ำมันเดือด
และเน้นคาถาไฟ
จุดอ่อนที่สุดของพวกมันคือไฟ!”
การต่อสู้ดำเนินไปตลอดทั้งวันทั้งคืน
“จงคืนชีพและกลับมายังดินแดนแห่งนี้
กลับมายังดินแดนอันมืดมิดและเสื่อมทรามนี้
อย่าได้หายไป
ในกฎแห่งความมืดที่ได้จารึกไว้
เหล่าอันเดดจงฟื้นคืนชีพ!”
วีดสั่งการกองทัพอัศวินแห่งความตายผ่านการอัญเชิญอันเดด
“แวน ฮอว์ค
เจ้าต้องต่อสู้ที่ใจกลางแนวข้าศึก”
“น้อมรับบัญชานายท่าน!”
เหล่าอันเดดต่อสู้อย่างดุเดือดกับเหล่าสัตว์ประหลาดนอกกำแพงและแยกตัวหายไป
ผลที่ตามมาคือสงครามปิดล้อมทำให้มีศพเพิ่มมากขึ้น
และเหล่าอันเดดอาจถูกเรียกกลับมาเมื่อไรก็ได้
< คุณเลเวลอัพ>
หลังจากการเคลื่อนไหวของ
เคย์เบิร์น
ดินแดนก็เปี่ยมล้นไปด้วยมอนสเตอร์และเลเวลของวีด
ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นี่มัน…น่าทึ่งจริงๆ”
“เนโครแมนเซอร์นั้นแข็งแกร่งที่สุด
ลองนึกถึงสงครามกับจักรวรรดิฮาเว่นเมื่อไม่นานนี้ดูสิ”
“จริงจังนะ เมื่อเขาปลุกอันเดดขึ้นมา
เขาก็ชนะคนนับพัน”
วีดได้รับความสนใจจากผู้เล่นที่อิจฉาเขาทั้งหมด
“ในฐานะนักรบ… ฉันอยากต่อสู้เพียงลำพังท่ามกลางฝูงมอนสเตอร์
แต่ว่ามันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไรเลย
แต่ก็ช่วยไม่ได้”
เขาสามารถอดทนต่อการต่อสู้ท่ามกลางแนวข้าศึกได้เนื่องจากเขาได้กลายเป็นนักรบ
ยืนหยัดอยู่ใจกลางศัตรูนับแสน
ด้วยค่าพละกำลังเพียงอย่างเดียว!
อย่างไรก็ตาม การเรียกอันเดดนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่ามากในการทำสงครามปิดล้อมที่ฝ่ายเราอยู่ภายในกำแพงป้อมปราการ
วีดปลอบใจความผิดหวังของเขาโดยการยิงธนูอย่างไม่หยุดหย่อน
ศัตรูไม่กี่ตัวที่ปีนกำแพงขึ้นไป
เขาก็ฟันทิ้งด้วยดาบโลอา
*ชิ้ง!*
คมดาบอันคมกริบฟันทะลุจุดที่อ่อนแอที่สุดของสัตว์ประหลาด
จากการต่อสู้นับไม่ถ้วน
เขาสามารถระบุจุดอ่อนที่สุดของสัตว์ประหลาดที่เขาเผชิญเป็นครั้งแรกได้โดยสัญชาตญาณ
โจรสลัด พ่อค้า
ชาวประมง
นักผจญภัย
นักดำน้ำ
ลูกเรือและช่างต่อเรือ
ผู้เล่นอาชีพต่างๆ ต่อสู้เพื่อปกป้องท่าเรือวาร์นา
สำหรับผู้เล่นเหล่านี้
ท่าเรือคือบ้านและฐานทัพเหนือเมืองอื่นๆ
พวกเขาตอบโต้มอนสเตอร์ในวงกว้าง
"ฮู้เร้"
“เราป้องกันสำเร็จอีกครั้งแล้ว!”
การป้องกันท่าเรือวาร์นาประสบความสำเร็จ!
ฝูงมอนสเตอร์ที่โจมตีโมราต้าและปราสาทเวนท์ยังได้รับการปกป้องด้วยการสนับสนุนที่แข็งขันจากผู้เล่นในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย
แม้จะมีความสูญเสีย แต่เหล่าคนแคระ
เอลฟ์
และออร์คที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเขาในการต่อสู้กับศัตรู
“การต่อสู้ครั้งนี้สนุกดีนะ
ชวิค!”
“ชวิค ออร์คที่ดุร้ายในละแวกนี้คือฉันเอง!”
กองทัพออร์คพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของพวกมันจากจำนวนอาหารทั้งหมดที่พวกมันกินเข้าไป
ภูมิภาคทางตะวันออกและเหนือจากปราสาทเวนท์ถูกครอบงำและปกป้องโดยพวกออร์ค
ป้อมปราการวาร์เดนที่ซอยูนสร้างไว้ล่วงหน้า
เพื่อเตรียมการไว้ต่อต้านสัตว์ประหลาดที่รุกคืบมาจากช่องเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือ
เหล่ามอนสเตอร์กำลังเคลื่อนตัวลงมาตามทางลาดชันระหว่างเทือกเขา
วีดเข้าร่วมกับซอยูน
,เหล่าประติมากรรมสลักชีพ
และทหารธรรมดาจำนวนมากที่ต่อสู้ในสงคราม
ผู้เล่นที่ติดตามพวกเขาจากโมราต้า
ป้อมปราการวาร์โก
และท่าเรือวาร์นา
ทั้งหมดเข้าร่วมเพื่อการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
“ฉันกำลังต่อสู้อย่างไร้สติ, ฉันตามคุณวีดมา”
“แต่นี่ก็น่าสนุกนะ”
“มันก็ปลอดภัยนะ
แทบไม่มีใครตายหรอก”
“เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? ตอนที่เราสู้กันมันอันตรายมาก
ฉันเป็นห่วงว่าเมืองจะถูกยึดครอง”
ผู้เล่นทวีปกลางสอบถามคนอื่นๆ
ที่ต่อสู้ร่วมกันและพวกเขาก็ประหลาดใจมาก
“คุณพูดถูก การต่อสู้นั้นดุเดือดมาก
แต่แทบทุกคนรอดชีวิต!”
“พวกเขาพูดเสมอว่าหากคุณติดตามวีดไปทุกที่
คุณจะไม่มีวันตาย
ไม่ว่าจะเป็นการออกล่าหรือการต่อสู้ใดๆ
ก็แทบไม่มีใครตาย
แม้ว่าจะมีความยากลำบากมากมายเกิดขึ้นก็ตาม”
“แน่นอน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถเคลียร์ภารกิจทั้งหมดเหล่านั้นได้ด้วยความยากที่เป็นไปไม่ได้”
“เขาได้รับเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นราชาแมลงสาบ”
แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมหาศาล
แต่เขาก็ลดความสูญเสียให้กับผู้เล่นด้วยระยะการมองเห็นที่กว้างและควบคุมอันเดดที่เหมาะสม
บางครั้งเขาอาจยอมแพ้ในการป้องกันกำแพงและล่อสัตว์ประหลาดเข้ามาทำลายพวกมัน
แต่หลังจากนั้นสถาปนิกและผู้เล่นก็ได้ซ่อมแซมกำแพงดังกล่าว
วีดคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่ของเขาที่จะป้องกันการตายของผู้เล่นที่ติดตามและต่อสู้เคียงข้างเขา
“พวกเขาคือทรัพยากรทางการเงินของฉัน…
ถ้าพวกเขาตาย
พวกเขาก็จะอ่อนแอและไม่สามารถออกล่ามอนสเตอร์ได้
ฉันจะปกป้องผู้คนเหล่านี้ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเหมือนเจ้าเหลือง”
:)
เพื่อที่จะกลายเป็นเจ้านายที่เอารัดเอาเปรียบ
วีดจะดูแลพวกเขาในการต่อสู้และยังเสนอโอกาสในการเติบโตอีกด้วย
วีดตะโกนเรียกพลเมืองทุกคนแห่งจักรวรรดิอาร์เพน
ทุกคนจงฟัง พวกเราจะได้รับชัยชนะอีกครั้ง
"ใช่!"
ขวัญกำลังใจของผู้เล่นหล่านี้ที่ได้รับชัยชนะพุ่งสูงขึ้น
แม้ว่าจะมีฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากรุกรานจากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการบุกเบิกเลยแถวป้อมปราการวาร์เดน
แต่พวกเขาก็ยังคงมั่นใจ
ฟีนิกซ์ ปิงหลง
เหล่าบารากส์
ราชาไฮดรา
และเหล่าประติมากรรมสลักชีพอันน่าสะพรึงกลัวอื่นๆ
ต่างก็ปรากฏตัวอยู่
อำนาจสงครามของจักรวรรดิอาร์เพนได้รวมตัวกันที่ป้อมปราการวาร์เดน
ชาวเหนือและผู้เล่นที่เหลือมีความศรัทธาในชัยชนะหลังจากที่ได้เห็นวีดในการต่อสู้
วีดตะโกนอีกครั้ง
– อย่างไรก็ตามการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อความสงบสุขของทวีปนี้!
รวมถึงบาร์ดเรย์และผู้เล่นที่มีชื่อเสียงทุกคนก็มาร่วมที่นี่ด้วย
“ห้ะ ไม่ใช่เพื่อความสงบของทวีป?”
“แล้วเรามาที่นี่ทำไม?”
“เราต้องหยุดยั้งมอนสเตอร์เหล่านี้
เราอยู่ที่นี่เพื่อทำสิ่งนั้นโดยเฉพาะ
แล้วทำไมมันถึงไม่ใช่เพื่อสันติภาพของทวีปล่ะ?”
เกิดความสับสนในหมู่ผู้เล่น
แต่ก็ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ด้วยการตะโกนครั้งต่อไป
– ความสงบสุขของทวีปนี้? คุณอาจแลกมันกับขนมปังโฮลวีตก็ได้
เลิกใช้ชีวิตอย่างชอบธรรม!
ฆ่ามอนสเตอร์เหล่านั้นและเก็บกวาดไอเทมดรอป!
ถลกหนังพวกมันแล้วรับสมบัติเหล่านั้นไป
มาเสี่ยงชีวิตกันเถอะ!
ผู้เล่นที่มารวมตัวกันที่ป้อมปราการวาร์เดนและช่องเขาต่างยกมือขึ้นสูงหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของวีด
"ฮู้เร้"
“ความเรียบง่ายคือสิ่งที่ดีที่สุด”
“คยาฮา. กำไรงาม”
ปฏิกิริยาตอบโต้นั้นรุนแรงมาก
แต่บางคนก็ส่ายหัว
พวกเขาจ้องมองวีดด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตา
“ทุกครั้ง คุณวีดมักโกหกเรา”
“ยังไง?”
“เขาบอกให้เราเอาผลกำไรทั้งหมดเท่าที่จะทำได้
แต่ตัวเขาเองกลับเน้นย้ำถึงความสงบสุขของทวีปอยู่เสมอ”
“ใช่แล้ว เขารับหน้าที่ทำภารกิจยากๆ
ทั้งหมดด้วยตัวเอง”
ผู้เล่นต่างมองดูด้วยดวงตาสีชมพู
เมแพนยืนอยู่ในหมู่ผู้เล่นพยักหน้า
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมการฉ้อโกงจึงไม่สามารถกำจัดออกไปจากโลกนี้ได้
พรสวรรค์ที่แท้จริงสามารถทำให้เหยื่อรู้สึกมีความสุขในขณะที่ถูกหลอกลวง
พวกเขาตกเป็นเหยื่อโดยรู้ตัว
และรู้สึกดีกว่าเมื่อไม่รู้เรื่องนี้”
สิ่งที่น่าสนใจคือการฉ้อโกงของวีด
ยังคงไม่มีเหยื่อเลย
เขาเป็นคนก้าวขึ้นมาเป็นคนแรกเสมอ
เสียสละตนเอง
และสร้างอนาคตที่ดีกว่า
“เขาไม่ใช่ฮีโร่โดยไม่มีเหตุผล
เขาอาจได้ชีวประวัติทางประวัติศาสตร์จากความฉ้อฉลของเขาก็ได้”
การต่อสู้ที่ป้อมวาร์เดนเริ่มต้นขึ้น
– กรรรร! – การสังหารได้รับอนุมัติจากท่านมังกรเคย์เบิร์นแล้ว
– ดื่มด่ำไปกับงานรื่นเริงนองเลือดนี้!
เมื่อมีชนเผ่ากินเนื้ออยู่ด้านหน้า
สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์
เช่น
แมงมุมพิษและตะขาบก็บุกเข้ามาหาพวกเขา
ทางฝ่ายเหนือจึงระดมพลเพื่อตอบโต้
เกษตรกร สถาปนิก
นักดำน้ำ
คนตัดไม้
คนเลี้ยงแกะ
และพ่อครัวก็เข้าร่วมและปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วย
– ฆ่ามันน!! พวกเราเอาชนะได้!!
ภายใต้กำลังใจของวีด
ผู้เล่นที่รวมตัวกันในป้อมวาร์เดน
ได้ต่อสู้ฝ่ากองทัพมอนสเตอร์ติดต่อกันหลายวัน
ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการปกป้องป้อมได้!
ขณะเดียวกัน เมืองใหญ่
17
แห่งในทวีปกลางรวมทั้งป้อมปราการมิเลียมก็ถูกทำลาย
สัตว์ประหลาดเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและมีฝนสีดำสนิทตกลงมาจากท้องฟ้า
*ฝนตกปรอยๆ*
ละอองฝนไม่ได้อบอุ่นเหมือนฝนฤดูใบไม้ผลิหรือฝนฤดูร้อนที่ทำให้ร้อนอบอ้าวลง
ด้วยการเคลื่อนไหวเต็มรูปแบบของมังกรดำเคย์เบิร์น
รัศมีแห่งพิษและความมืดมิดก็แผ่กระจายไปทั่วโลก
อิทธิพลดังกล่าวก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติดังกล่าว
< ฝนสีดำอันขุ่นมัวกำลังตกลงมา
หมอกหนาทึบปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ต้นไม้กำลังเหี่ยวเฉาและแห้งเหือด
หญ้าและต้นไม้เหี่ยวเฉาลงช้าๆ
สาเหตุเนื่องมาจากฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวัน
เหล่าผึ้งและผีเสื้อหลีกเลี่ยงดอกไม้
และพืชผลที่กำลังสุกก็กลายเป็นสีดำ
“มังกรดำเคย์เบิร์น…
มันทำให้ฉันหงุดหงิด”
วีดสังเกตเห็นทิวทัศน์ที่ค่อยๆ
จางหายไปภายใต้สายฝนอันมืดมิดจากกำแพงป้อมปราการ
จบเล่ม 54 บทที่
2
ผู้แปล : PATWIT FARM
Editor : แอดชิน